เจาะลึกแบรนด์บ้านเดี่ยว ระดับราคา 10 – 20 ล้านบาท

สวัสดีช่วงปลายปี 2021 นี้นะคะ ใครที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวพื้นที่ใช้สอยเยอะ เอาไว้อยู่อาศัยกับครอบครัวได้สบายๆ หรือพาคุณตาคุณยายมาอยู่ด้วยกันกับหลานๆได้หลาย Generation  พร้อมมีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายเอาไว้ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ในทำเลกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยบ้านที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ก็คือบ้านในระดับ High Class ในงบประมาณ 10 – 20 ล้านบาท

ซึ่งบ้านในระดับ High Class ก็มีหลายแบรนด์ จากหลายบริษัท อสังหาริมทรัพย์เลยทีเดียวค่ะ ถ้าอยากทราบว่า “เรามีงบประมาณในการซื้อบ้านเดี่ยว 10 – 20 ล้านบาท แล้วอยากจะรู้ว่ามีบ้านของบริษัทไหนบ้าง บ้านแต่ละแบบมีจุดเด่นอะไร” ในบทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาให้แล้วบางส่วน โดยเลือกจากบริษัท อสังหาริมทรัพย์(มหาชน) ชั้นนำทั้งหมด 11 บริษัท กับ 17 แบรนด์บ้าน ใครเป็นแฟนคลับถูกใจ Developer เจ้าไหน หรือยังไม่มีแบรนด์ในใจ เข้ามาชมและตัดสินใจเลือกไปพร้อมๆกันได้เลย

บ้านเดี่ยวช่วงราคาประมาณ 10 – 20 ล้านบาท

งบประมาณ 10 – 20 ล้านบาท (High Class) อาจเป็นช่วงราคาที่มีความกว้างสักหน่อยนะคะ แต่เป็นบ้านที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าระดับผู้บริหารไปจนถึงเจ้าของกิจการ หรือเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ มีความสามารถในการผ่อนอยู่ที่ประมาณ 70,000 – 140,000 บาท/เดือน ที่ต้องการบ้านในราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาท (ไม่รวมตกแต่ง) และเลือกดีไซน์ ฟังก์ชันภายในบ้านให้ตอบโจทย์กับครอบครัวของตัวเอง ส่วนใหญ่เป็นบ้านที่มีที่ดินเริ่มต้นขนาดใหญ่กว่าบ้านเดี่ยวทั่วไป อยู่ที่ 65 ไปจนถึง 100 ตารางวาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 220 – 300 ตารางเมตรขึ้นไป 4 – 5 ห้องนอน 4 – 5 ห้องน้ำ 2 – 3 ที่จอดรถ

โดยแต่ละแบรนด์นั้นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทำเล, พื้นที่ส่วนกลาง, รูปแบบบ้าน, แบรนด์ และเทคโนโลยีภายในบ้าน ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยมากขึ้น ซึ่งจะมีแบรนด์อะไรบ้าง เราไปชมกันค่ะ

1. เศรษฐสิริ และ บุราสิริ จาก บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
2. The City จาก บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน)
3. Bangkok Boulevard จาก บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน)
4. Perfect Residence และ Perfect Masterpiece จาก บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน)
5. The Palm จาก บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
6. มัณฑนา จาก บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน)
7. ศุภาลัย เอสเซนส์ และ ศุภาลัย พรีมา วิลล่า จาก บริษัท ศุภาลัย จํากัด (มหาชน)
8. ปริญญ์ จาก บริษัท ปริญสิริ จํากัด (มหาชน)
9. Casa Legend, Casa Grand, Casa Premium และ ลัดดารมย์ จาก บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน)
10. Grand Britania จาก บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จํากัด (มหาชน)
11. Grandio จาก บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน)

1 เศรษฐสิริ และ บุราสิริ จาก บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

มาเริ่มกันที่บ้านจาก บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กันก่อนค่ะ ใครที่ชื่นชอบบ้านของ Developer เจ้านี้อยู่แล้วเขามีบ้าน 2 แบรนด์ที่อยู่ในระดับ High Class นะคะ จุดเด่นของโครงการจากแสนสิริเลยก็คือนวัตกรรมภายในบ้าน ไม่ว่าจะระดับ Segment ไหนเขาก็ออกแบบให้มีระบบ Cooliving Designed Home ช่วยลดความร้อนและประหยัดพลังงานภายในบ้าน และระบบรักษาความปลอดภัยจาก Sansiri Security inspection (SSI)

เศรษฐสิริ

แบรนด์ เศรษฐสิริ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวในระดับราคา 12 ล้านบาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งโครงการนะคะ ภายในแต่ละโครงการจะมีแนวความคิดในการออกแบบมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไปชัดเจนในแต่ละทำเล

จุดเด่น คือพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มาหลากหลายทั้งภายใน Clubhouse และพื้นที่สวนส่วนกลางแบบ Outdoor เหมาะกับการออกกำลังกาย นอกจากส่วนกลางพื้นฐานอย่างสระว่ายน้ำและ Fitness แล้ว จะมีพื้นที่ Co-working space, Educational Playground ที่ออกแบบร่วมกับโรงพยาบาลพันธมิตร ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเด็กๆ มีพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง เช่น สนามบาส, jogging Track, สนามหญ้าขนาดใหญ่ เป็นต้น

ตัวอย่างบ้านในโครงการเศรษฐสิริในงบประมาณ 10 – 20 ล้านบาทเราเลือกแบบเริ่มต้น ราคา 14 ล้านบาท มาให้ชมกันค่ะ ภายในบ้านจะได้พื้นที่ใช้สอย 223 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องนอน จอดรถได้ 3 คัน หน้าตาบ้านมีความ Modern ใช้เส้นตั้งและเส้นนอนดูมั่นคงและระเบียงกระจกใส Frameless

พร้อมนวัตกรรม “บ้านปลอดฝุ่น” และ “Cooliving Designed Home” ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยคลายความร้อนของตัวบ้านและช่วยเติมอากาศบริสุทธิ์ภายในบ้าน มีห้องนอนชั้นล่างปูด้วยพื้นรับแรงรองรับผู้สูงอายุ ถ้าเป็นบ้านขนาดใหญ่ขึ้นจะมี Elder Care เต็มรูปแบบมากขึ้น เช่น ห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่าง ทางลาด เป็นต้น ห้องนอนชั้นบนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง

บุราสิริ

บุราสิริ เป็นแบรนด์บ้านที่แต่ก่อนเราจะเห็นว่าอยู่ในระดับ Upper Class ( 5 – 10 ล้านบาท) แต่ปัจจุบัน เรามีความเห็นว่าแบรนด์บุราสิริได้ถูกยกขึ้นเทียบกับเท่ากับ เศรษฐสิริ แล้วค่ะ อย่างเช่นโครงการ บุราสิริ พัฒนาการ ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 15 – 23 ล้านบาท และมีสไตล์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ชัดเจน มีพื้นที่ส่วนกลางที่หลากหลายและน่าใช้งานเหมือนกับโครงการเศรษฐสิริเลยค่ะ

ตัวอย่างแบบบ้านในโครงการบุราสิริ ราคา 15 ล้านบาท เป็นบ้านที่มีการออกแบบสไตล์รีสอร์ต เน้นการใช้วัสดุโทนสีธรรมชาติ และมีระเบียงพักผ่อนแบบ Semi-Outdoor ขนาดใหญ่ มี Facade ลวดลายธรรมชาติ ฟังก์ชันภายในสามารถจอดรถได้ 2 คัน มีห้องนอนชั้นล่าง มีห้องแม่บ้าน ลานซักล้างแยกเป็นสัดส่วน ห้องนอนชั้นบนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง พร้อมพื้นที่พักผ่อนส่วนกลาง และนวัตกรรม “Cooliving Designed Home” เช่นกันค่ะ

• เศรษฐสิริ พระราม 5 ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท
• เศรษฐสิริ กรุงเทพ – ปทุมธานี ราคาเริ่มต้น 8.99 ล้านบาท
• บุราสิริ พระราม 2 ราคาเริ่มต้น 7.59 ล้านบาท
• บุราสิริ พัฒนาการ ราคาเริ่มต้น 15 – 22 ล้านบาท
• เศรษฐสิริ จรัญฯ – ปิ่นเกล้า 2 ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท
• เศรษฐสิริ ทวีวัฒนา ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท
• เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2 ราคาเริ่มต้น 14 ล้านบาท
• เศรษฐสิริ พหล – วัชรพล ราคาเริ่มต้น 13.5 ล้านบาท

2 The City จาก บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน)

ต่อมาเป็นโครงการจาก บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน) ในระดับ High Class นั่นก็คือโครงการ The City นั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นโครงการที่มีราคาอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท ไปจนถึง 20 กว่าล้านบาทเลย (ขึ้นอยู่กับทำเล) จุดเด่นของโครงการจาก AP นั่นก็คืออาคาร Clubhouse ที่ส่วนใหญ่จะอยู่ติดกับซุ้มประตูทางเข้าทำให้ดูโดดเด่นสังเกตเห็นง่าย และให้พื้นที่ส่วนกลางมาหลากหลายทีเดียวค่ะ นอกจากนั้นยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานจาก AP (KATSAN)ด้วย

การออกแบบโครงการ The City นั้นมีเอกลักษณ์ค่อนข้างชัดเจนค่ะ โดยจะมีความโฉบเฉี่ยว มีความ Modern แต่จะเลือกใช้ Element บางอย่างให้โดดเด่นในแต่ละทำเล เช่น เลือกใช้สี Cooper ดูแปลกตา, ใช้วัสดุหินอ่อนดูหรูหรา หรือใช้เส้น, รูปทรงเรขาคณิตในการออกแบบ

จุดเด่นของโครงการ The City คือพื้นที่ส่วนกลางที่ให้ฟังก์ชันมาหลากหลาย เหมาะกับคนที่ชื่นชอบ Entertainment นอกจากสระว่ายน้ำและ Fitness แล้วจะมีห้อง Co-Working Space, Game Room, Kid’s Room, Theater สำหรับดูหนังร่วมกันในครอบครัวในบรรยากาศโรงหนัง เป็นต้น

ตัวอย่างแบบบ้านในโครงการ The City ราคาประมาณ 16 ล้านบาท ฟังก์ชันครบ มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องอเนกประสงค์ ที่จอดรถ 3 คัน และห้องแม่บ้าน มีห้องนอนชั้นล่าง และพื้นที่ทำครัวไทย + ครัวฝรั่ง (Pantry) ห้องนอนชั้น 2 มีห้องน้ำในตัวทุกห้องพร้อมพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัว (Family Area) และแบบบ้านส่วนใหญ่จะมี Double Volume เพิ่มความโปร่งภายในบ้านและดูโอ่อ่ามากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

• THE CITY ปิ่นเกล้า – บรมฯ 2 ราคาเริ่มต้น 18.9 – 29 ล้านบาท
• THE CITY รามอินทรา – วงแหวน ราคาเริ่มต้น 15.99 – 21 ล้านบาท
• THE CITY สุขุมวิท – อ่อนนุช ราคาเริ่มต้น 15.29 – 22.79 ล้านบาท
• THE CITY บรมราชชนนี – ทวีวัฒนา ราคาเริ่มต้น 10.9 ล้านบาท
• THE CITY พระราม 9 – รามคำแหง ราคาเริ่มต้น 11 – 25 ล้านบาท
• THE CITY พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา ราคาเริ่มต้น 12 – 25 ล้านบาท
• THE CITY สาทร – กัลปพฤกษ์ ราคาเริ่มต้น 12.99 – 20 ล้านบาท

3 Bangkok Boulevard จาก บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน)

มาถึงแบรนด์บ้านจาก บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ซึ่งก็คือแบรนด์ Bangkok Boulevard นั่นเองค่ะ สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโครงการ SC Asset ในช่วงปีที่ผ่านมานั่นก็คือบรรยากาศภายในโครงการ และพื้นที่ส่วนกลางที่มีความเนี้ยบ ดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใคร เหมือนอยู่ต่างประเทศ หรืออยู่รีสอร์ตเลยค่ะ

จุดเด่นของโครงการ Bangkok Boulevard อาจไม่ใช่ความหลากหลายของพื้นที่ส่วนกลาง แต่เลือกเฉพาะฟังก์ชันส่วนกลางที่นิยมใช้งานกันได้จริงอย่างเช่น สระว่ายน้ำ, Fitness, Living Space ออกแบบให้มีความน่าสนใจ และมีเอกลักษณ์ชัดเจน อย่างเช่นภาพตัวอย่างจากโครงการ  Bangkok Boulevard สาทร-ปิ่นเกล้า 2 ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Oslo Opera House ประเทศนอร์เวย์ซึ่งตอบโจทย์คนที่ไม่ได้ต้องการพื้นที่ส่วนกลางที่หลากหลายอยู่แล้ว แต่ชื่นชอบในดีไซน์ และสุนทรียภาพในการใช้งานมากกว่า

แบบบ้านส่วนใหญ่ของโครงการจาก SC Asset นิยมออกแบบด้วยสไตล์ Nordic/ Scandinavia เห็นได้ชัดเจนจากรูปทรงหลังคาจั่ว ซึ่งเรานำภาพตัวอย่างแบบบ้านมาจากโครงการ Bangkok Boulevard ราคา 14 ล้านบาท มาให้ชมกันค่ะ

จุดเด่นของบ้านคือ ฟังก์ชันที่ครบครัน สามารถทำห้องนอนได้ถึง 5 ห้องนอนพร้อมห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน ห้องนอนชั้น 2 มีห้องน้ำในตัวทุกห้องพร้อมพื้นที่ Family Area ส่วนกลาง และภายในห้อง Master Bedroom ได้ฝ้าเพดานสูงทรงจั่ว ด้วยค่ะ

นอกจากนั้นยังมีแบบบ้านซีรีส์ใหม่ LANAI บ้านที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ เปิดตัวครั้งแรกในโครงการ Bangkok Boulevard ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ สามารถอ่านแนวคิดเพิ่มเติมได้ที่ >> เจาะลึกการออกแบบ LANAI SERIES

• Bangkok Boulevard เวสต์เกต ราคาเริ่มต้น 8.99 – 20 ล้านบาท
• Bangkok Boulevard พระราม 5 ราคาเริ่มต้น 11.99 – 18 ล้านบาท
• Bangkok Boulevard วิภาวดี ราคาเริ่มต้น 14.99 – 30 ล้านบาท
• Bangkok Boulevard สาทร – ปิ่นเกล้า 2 ราคาเริ่มต้น 14.9 – 25 ล้านบาท
• Bangkok Boulevard รามอินทรา – เสรีไทย 2 ราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท

4 Perfect Residence และ Perfect Masterpiece จาก บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน)

ถัดมาถึงแบรนด์บ้านเดี่ยวที่หลายคนเป็นแฟนคลับมาอย่างยาวนานกับ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) โดยปกติแล้ว Property Perfect มักจะมีที่ดินในมือขนาดใหญ่พื้นที่หลักร้อยไปจนถึงพันไร่เลยค่ะ ทำให้สามารถพัฒนาที่ดินออกเป็นหลายโครงการ หลาย Segment ในทำเลเดียวกันได้หลายแบรนด์ จนถึงบางทีก็ขายที่ดินให้กับ Developer เจ้าอื่นๆ ด้วยทำให้กลายเป็นกลุ่มโครงการบ้านพักอาศัยขนาดใหญ่กันเลยทีเดียวค่ะ

อีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของโครงการจาก Property Perfect นั่นก็คือทะเลสาบขนาดใหญ่ภายในโครงการ เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่ชอบบรรยากาศธรรมชาติ โปร่งโล่ง ไม่หนาแน่นเหมือนโครงการพักอาศัยทั่วไป มีบ้านวิวทะเลสาบให้เลือก ซึ่งบ้านเดี่ยวของ Property Perfect ที่อยู่ในระดับ High Class นั้นมี 2 แบรนด์ด้วยกันค่ะ

Perfect Residence

โครงการ Perfect Residence ถือเป็นโครงการจาก Property Perfect ที่อยู่ใน Segment High Class โดยตรง มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 10 – 15 ล้านบาท การออกแบบสไตล์ร่วมสมัย มีความ Modern Classic หน่อยๆ ภายในโครงการจะแบ่งพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่พักอาศัยออกจากกันชัดเจน มีระบบรักษาความปลอดภัยมาให้ตามมาตรฐานจาก SECOM

จุดเด่นของพื้นที่ส่วนกลางที่ขาดไม่ได้ก็คือ Water Park สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ บรรยากาศริมน้ำ พร้อม Clubhouse ที่ให้ฟังก์ชันพื้นฐานมาครบ เช่น สระว่ายน้ำ, Fitness, Sauna เป็นต้น เหมาะกับคนที่ชอบส่วนกลางกว้าง บรรยากาศริมทะเลสาบ

อย่างที่บอกไปว่าบ้านในโครงการ Perfect Residence นั้นจะมีกลิ่นอายของสไตล์ Classic อยู่พอสมควรนะคะ อย่างบ้านที่เรานำมาให้ชมเป็นตัวอย่าง คือ บ้านจากโครงการ Perfect Residence พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา ราคาประมาณ 15 ล้านบาท มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถพร้อมห้องแม่บ้าน ออกแบบมาในสไตล์ Classic Revival Collection พร้อมระบบ Active Airflow System และ Home Solution ที่ช่วยให้บ้านเย็นสบายและสะดวกสบายมากขึ้นผ่านการควบคุมทาง Application ค่ะ

ภายในบ้านมีฟังก์ชันครบ จอดรถได้ 3 คัน มีการแบ่งพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารออกจากกันชัดเจน มีห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว และห้องแม่บ้าน ชั้น 2 ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้องพร้อมห้องนั่งเล่น (Family Area) และโถง Double Volume ดูโปร่งสบาย

Perfect Masterpiece

Perfect Masterpiece เป็นโครงการระดับ Luxury – Super Luxury Class ที่มีแบบบ้านเริ่มต้นอยู่ในช่วง 10 – 20 ล้านบาทให้สามารถเลือกเป็นเจ้าของได้ค่ะ ซึ่งภายในโครงการจะมีความหรูหรา และ Modern มากขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมคือ ทะเลสาบ และพื้นที่ส่วนกลางที่แยกส่วนกับพื้นที่พักอาศัย พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย SECOM Security มีพื้นที่ส่วนกลางครบทั้ง สระว่ายน้ำ, Fitness, Luxury Lounge Mood & Tone จะเหมาะกับคนที่ชอบความหรูหรา เคร่งขรึม

สำหรับบ้านในโครงการ Perfect Masterpiece ที่เริ่มต้นในราคาประมาณ 16 ล้านบาทจะเป็น Type เล็กสุดภายในโครงการนะคะ มีพื้นที่ 246 ตารางเมตร แต่ฟังก์ชันก็ครบครันตั้งแต่ Type เริ่มต้นเลย คือ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พร้อมห้องแม่บ้าน

ภายในเพิ่มเติมด้วยระบบ บ้านปลอดฝุ่น PM 2.5 และเชื้อโรค มีห้องนอนชั้นล่างและห้องแม่บ้าน ชั้น 2 มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง พร้อมพื้นที่นั่งเล่น (Family Area) ซึ่งแบรนด์ Perfect Masterpiece จะเหมาะกับคนที่ต้องการสังคมเพื่อนบ้านระดับหรูมากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าในระดับราคาที่ใกล้กันจะสามารถเลือกบ้าน Type ใหญ่ที่สุดในโครงการ Perfect Residence ที่มี Double Volume และที่จอดรถมากกว่าได้ค่ะ

• Perfect Residence พระราม9 – กรุงเทพกรีฑา ราคาเริ่มต้น 11 – 15 ล้านบาท
• Perfect Residence สุขุมวิท 77 – สุวรรณภูมิ ราคาเริ่มต้น 10 – 15 ล้านบาท
• Perfect Masterpiece แจ้งวัฒนะ ราคาเริ่มต้น 16 – 30 ล้านบาท
• Perfect Masterpiece รามคำแหง ราคาเริ่มต้น 18 – 50 ล้านบาท

5 The Palm จาก บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)

มาดูโครงการจาก บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กันบ้างค่ะ ถ้าพูดถึงเอกลักษณ์ของ Developer เจ้านี้ที่ไม่แพ้ใครเลยก็คือ บ้านที่มีราคาจับต้องเข้าถึงได้ง่ายกว่าบ้านใน Segment เดียวกันทั่วไปเลยค่ะ ใครที่ต้องการโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางครบ ฟังก์ชันบ้านตอบโจทย์ ทาง พฤกษาก็จะมีให้เลือกในราคาที่เป็นมิตรมากขึ้น เหลือ Budget ไปตกแต่งภายในได้เต็มที่

แบรนด์บ้านเดี่ยวในระดับ High Class ของทางพฤกษา นั่นก็คือแบรนด์ The Palm นั่นเองค่ะ โดยแบรนด์นี้จะทำราคาออกมาอยู่ที่เกือบๆ 10 ล้านบาท ไปจนถึง 10 ล้านต้นๆ และเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของโครงการ The Palm นั่นก็คือบรรยากาศภายในโครงการที่มีต้นปาล์มนานาชนิด ให้ความรู้สึกเหมือนกับอยู่ต่างประเทศ พร้อมกับ Clubhouse ที่มีความโอ่อ่า หรูหรา ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้า และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่จัดเต็มมาให้เช่นกันค่ะ

บ้านที่นำมาให้ชมเป็นตัวอย่างจากโครงการ The Palm แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์ ในราคา 10.19 ล้านบาท ซึ่งจะได้บ้านหน้ากว้างฟังก์ชันครบ เทียบกับบ้านราคา 10 ล้านกลางๆ ไม่ว่าจะเป็นที่จอดรถ 3 คัน ห้องนอนชั้นล่าง มีห้องแม่บ้าน พร้อมห้องครัว 2 จุด ชั้น 2 ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง พร้อมกับพื้นที่นั่งเล่น (Family Area)

เหมาะกับครอบครัวขยับขยายที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะ ฟังก์ชันครบ มีพื้นที่ส่วนกลางบรรยากาศดี พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยครบครัน ในราคาที่เข้าถึงง่ายค่ะ

• The Palm บางนา – วงแหวน ราคาเริ่มต้น 12 – 25 ล้านบาท
• The Palm กรุงเทพกรีฑา – วงแหวน ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท
• The Palm แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์  ราคาเริ่มต้น 8.29 ล้านบาท

6 มัณฑนา จาก บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน)

มาถึง บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน) กันบ้างค่ะ หลายๆ คนมีความมั่นใจในคุณภาพของบ้านจาก Developer เจ้านี้เป็นอย่างดีนะคะ เนื่องจากจุดเด่นของโครงการบ้านจาก Land & Houses เลยก็คือคุณภาพการก่อสร้าง ตัวบ้านไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิกภายหลัง ซึ่งแบรนด์บ้านเดี่ยวที่อยู่ในระดับราคา 10  – 20 ล้านบาทนั่นก็คือแบรนด์ “มัณฑนา” นั่นเองค่ะ

มัณฑนา เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน ส่วนใหญ่แล้วโครงการมัณฑนาจะมีพื้นที่ส่วนกลางบรรยากาศทะเลสาบ และสามารถมองเห็นวิวได้จาก Clubhouse มีความร่มรื่น บรรยากาศแบบรีสอร์ต ฟังก์ชันครบ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ, Fitness, Sauna และ Outdoor อย่างสนามเด็กเล่น ลานอเนกประสงค์ พื้นที่นั่งพักผ่อนริมน้ำ เป็นต้น เน้นการออกแบบ Lobby ให้มีความหรูหราสามารถเป็นหน้าเป็นตา พาแขกมานั่งพูดคุยธุระได้ค่ะ นอกจากนั้นยังมีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Triple Security System ตรวจสอบ ติดตาม และตรวจตรา ตามมาตรฐานของ Land & Houses เลย

ภายในบ้านของโครงการจาก Land & Houses จะมีจุดเด่นคือระบบ AirPlus หรือเรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมบ้านหายใจได้ ช่วยให้อากาศในบ้านหมุนเวียนได้ตลอดเวลา และ AirPlus Square ระบบกรองอากาศสะอาดที่เข้ามาหมุนเวียนภายในบ้าน

บ้านที่เรานำมาให้ชมเป็นตัวอย่าง จากโครงการ มัณฑนา อ่อนนุช – วงแหวน 5 พื้นที่ใช้สอย 286 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน  5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน  3 ที่จอดรถ ราคาประมาณ 18.70 ล้านบาท เป็นบ้านหน้ากว้าง จอดรถได้ 3 คัน มีห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว และห้องแม่บ้าน สามารถจัด Pantry และห้องอเนกประสงค์ในชั้นล่างเพิ่มเติมได้ ส่วนชั้น 2 มีห้องน้ำในห้องนอนทุกห้องพร้อม Family Area และระเบียงหน้าบ้านขนาดใหญ่

เหมาะกับคนที่ชอบบรรยากาศส่วนกลางที่มีความโปร่งสบาย ไม่หนาแน่น มีบึงน้ำขนาดใหญ่ ชอบความร่มรื่น มีความน่าเชื่อถือเรื่องคุณภาพแต่ก็แลกกับราคาที่ถือว่าค่อนข้างสูงกว่าโครงการอื่นๆ ใน Segment เดียวกันค่ะ

• มัณฑนา อ่อนนุช – วงแหวน 5 ราคาเริ่มต้น 11 – 25 ล้านบาท
• มัณฑนา มอเตอร์เวย์ – กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ราคาเริ่มต้น 7.99 – 15 ล้านบาท
• มัณฑนา ราชพฤกษ์ – นครอินทร์ ราคาเริ่มต้น 9 – 20 ล้านบาท
• มัณฑนา พรานนก สาย 2 – บางแวก ราคาเริ่มต้น 15 – 20 ล้านบาท
• มัณฑนา บางนา – วงแหวน ราคาเริ่มต้น 12 – 25 ล้านบาท
• มัณฑนา อ่อนนุช – เวสต์เกต ราคาเริ่มต้น 10 – 20 ล้านบาท

7 ศุภาลัย เอสเซนส์ และ ศุภาลัย พรีมา วิลล่า จาก บริษัท ศุภาลัย จํากัด (มหาชน)

ศุภาลัย แปลว่า “บ้านที่ดี” นะคะ เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ทาง บริษัท ศุภาลัย จํากัด (มหาชน) ตั้งชื่อโครงการต่างๆ ด้วยคำว่า ศุภาลัย มาตลอด ซึ่งศุภาลัยจะมีแบรนด์บ้านในระดับ Economy – Main Class อยู่หลายแบรนด์ทีเดียวค่ะ มีทั้งทำเลในกรุงเทพฯ ทำเลตากอากาศ และต่างจังหวัดทั่วประเทศไทย ส่วนบ้านเดี่ยวในราคา 10 – 20 ล้านบาทนั้น มีถึง 2 แบรนด์ด้วยกันค่ะ

Supalai Essence

มาเริ่มกันที่แรนด์ Supalai Essence เราไม่ค่อยได้เห็นแบรนด์นี้เปิดใหม่กันสักเท่าไรนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการบ้านใน Segment ที่น้อยกว่านี้ ซึ่ง Supalai Essence เป็นโครงการที่รวมบ้านแฝด หรือทาวน์โฮมเข้ากับบ้านเดี่ยว มีจุดเด่นคือในทำเลดีใกล้เมืองอย่าง สวนหลวง, ลาดพร้าว เน้นการเดินทางสะดวกสบาย ภายในโครงการไม่ได้เน้นพื้นที่ส่วนกลางที่หลากหลายมากนัก แต่ก็ถือว่าให้มาครบครันตามมาตรฐานค่ะ

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ เป็นบ้านเดี่ยวสูง 3 ชั้นเลยค่ะ ด้วยความที่เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้นทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยเยอะถึง 321 ตารางเมตร ในราคาประมาณ 15 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในราคาที่เท่ากันแล้วถือว่าได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่าเกือบๆ 100 ตารางเมตรเลยค่ะ

ภายในบ้านยังมีฟังก์ชันให้ถือ 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถถึง 4 คัน มีห้องนอนชั้นล่าง (แต่ไม่มีห้องแม่บ้านนะคะ) ชั้น 2 เป็นห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่ และห้องพักผ่อนซึ่งสามารถจัดเป็นห้องนอนห้องที่ 6 ได้เลย พร้อม Double Volume ทำให้ห้องนั่งเล่นได้ฝ้าสูงถึง 6 เมตร บ้านดูโปร่งสบายมากขึ้น ส่วนชั้น 3 มีห้องนอนใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัว 1 ห้องและห้องนอนรอง 2 ห้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน พร้อมโถงบันไดขนาดใหญ่

เหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่ใช้สอยเยอะ เน้นฟังก์ชันการใช้งานอาจอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ หลาย Generation เผื่อลูกๆ แต่งงานมีครอบครัวแล้วก็ยังมีห้องรับรองหลานๆได้อีกค่ะ

Supalai Prima Villa

อีกแบรนด์ คือ Supalai Prima Villa เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดใหญ่จาก ศุภาลัย แบรนด์นี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ เน้นพื้นที่ใช้สอย มีความหรูหรามากขึ้น ภายในมีพื้นที่ส่วนกลางครับทั้ง สระว่ายน้ำ, Fitness, Co- working Space, สนามเด็กเล่น และสวนสาธารณะ บรรยากาศน่าใช้งาน

จุดเด่นของบ้านในโครงการ Supalai Prima Villa คือภายในเน้นความกว้าง โอ่โถง มีโถงบันไดขนาดใหญ่ เอกลักษณ์คือบันไดโค้งให้ความรู้สึกเหมือนบ้านผู้ดีเก่า มีความหรูหรา มีพื้นที่ Drop off ตอบโจทย์ผู้ที่มีคนขับรถ หรือรับ – ส่งผู้สูงอายุได้สะดวก และเน้นพื้นที่ Common Area ส่วนกลาง สำหรับใช้งานร่วมกันในครอบครัวมากกว่าภายในห้องส่วนตัวค่ะ

บ้านที่เรานำมาให้ดูเป็นตัวอย่างเป็นบ้าน ศุภราช เป็นบ้านหน้ากว้าง พื้นที่ใช้สอย 318 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาประมาณ 20 ล้านบาท*(สอบถามโครงการ) แต่สามารถจอดรถเพิ่มบริเวณ Drop off ได้ค่ะ ภายในมี Common Area กว้าง สามารถจัดฟังก์ชันการใช้งานได้ตามความชอบ มีห้องแม่บ้านให้ ส่วนชั้น 2 มีห้องน้ำภายในห้องนอนทุกห้อง และมีพื้นที่ส่วนกลางเป็น Family Area ขนาดใหญ่ สามารถกั้นห้องนอนที่ 5 ได้เลยค่ะ

• ศุภาลัย พรีมา วิลล่า ปิ่นเกล้า – พุทธมณฑลสาย 2 ราคาเริ่มต้น 17.9 ล้านบาท
• ศุภาลัย เอสเซ้นส์ ลาดพร้าว ราคาเริ่มต้น 15.5 ล้านบาท
• ศุภาลัย พรีมา วิลล่า พระราม 2 – บางขุนเทียน ราคาเริ่มต้น 11.5 ล้านบาท
• ศุภาลัย เอสเซ้นส์ สวนหลวง ราคาเริ่มต้น 10.9 ล้านบาท

8 ปริญญ์ จาก บริษัท ปริญสิริ จํากัด (มหาชน)

โครงการบ้านพักอาศัยจาก บริษัท ปริญสิริ จํากัด (มหาชน) นั้นขึ้นชื่อเรื่องความร่มรื่นของบรรยากาศภายในโครงการทีเดียวค่ะ เนื่องจากทุกๆ โครงการจะมีต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่ส่วนกลาง และภายในบ้านพักอาศัยให้กับลูกบ้าน ซึ่งแบรนด์ที่ตรงกับกลุ่ม High Class นั่นก็คือ โครงการ “ปริญญ์” ค่ะ

ปริญญ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ เน้นความร่มรื่นสังเกตได้จาก Logo โครงการก็มีรูปต้นไม้ใหญ่เป็นเอกลักษณ์ ภายในมีพื้นที่ส่วนกลางมาให้ครบทั้ง พื้นที่พักผ่อน, สระว่ายน้ำ, Fitness , Co-Working Space และห้องประชุม และคำนึงถึง Universal Design พร้อมระบบรักษาความปลอดครบครันตามมาตรฐานของ Segment นี้ค่ะ

แบบบ้านที่เรานำมาให้ชมเป็นตัวอย่างจากโครงการ ปริญญ์ เพชรเกษม 69 จุดเด่นของโครงการนี้คือเป็นบ้านหน้ากว้างทั้งหมด บนที่ดินขนาดใหญ่ และภายในบ้านมี Private Garden เพิ่มความธรรมชาติภายในบ้านตัวเอง ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถทำสวน ลานสังสรรค์ภายในบ้านได้

ซึ่งแบบบ้านธารา มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 13 – 18 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับขนาดของที่ดิน) ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ภายในมีห้องนอนชั้นล่างเชื่อมต่อกับสวนด้านหน้าบ้าน และห้องรับประทานอาหารที่เชื่อมต่อกับสวนด้านหลังบ้าน แต่จะไม่มีห้องแม่บ้านนะคะ ส่วนชั้น 2 ได้ห้องนอนขนาดใหญ่ทุกห้องเลย มีห้องน้ำในตัว และมีพื้นที่ Family Area ตรงกลางมองเห็นวิวสวนได้ชัดเจน

เหมาะกับคนที่ชอบบรรยากาศภายในโครงการร่มรื่น ชอบความเป็นธรรมชาติ มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานครบ ชอบบ้านหน้ากว้าง มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ เป็นต้น

• ปริญญ์ เพชรเกษม 69 ราคาเริ่มต้น 9.99 – 20 ล้านบาท
• ปริญญ์ สาทร-ราชพฤกษ์  ราคาเริ่มต้น 16.9 ล้านบาท

9 Casa Legend, Casa Grand, Casa Premium และ ลัดดารมย์ จาก บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน)

ถัดมาถึง บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน) กันบ้างค่ะ ซึ่งเขาได้ทำแบรนด์บ้านในระดับราคา 10 – 20 ล้านบาท ออกมาหลายแบรนด์เลยทีเดียวค่ะ โดยสามารถแบ่งได้ชัดเจนออกเป็นแบรนด์ Casa 3 แบรนด์ และแบรนด์ ลัดดารมย์ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันที่แนวความคิดในการออกแบบจะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ

CASA LEGEND

แบรนด์ Casa ไม่ว่าจะเป็น Casa Legend/Casa Grand/Casa Premium เป็นโครงการบ้านเดี่ยวจาก Q House ที่มีความคล้ายคลึงกันค่ะ โดยจะมีการออกแบบในสไตล์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละทำเลเลย

Casa Legend เป็นแบรนด์บ้านระดับราคาสูงกว่าเพื่อนๆ เล็กน้อยอยู่ 15 – 20 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับทำเล) มีจำนวนยูนิตไม่เยอะมากนัก เน้นทำเลใกล้ทางด่วนและถนนหลัก ภายในมีการออกแบบสไตล์โมเดิร์น มีพื้นที่ส่วนกลางมาให้พอใช้เหมาะสมกับระดับราคาค่ะ

ตัวอย่างบ้านเรานำมาจากโครงการ Casa Legend เกษตร – นวมินทร์ ที่เหลือแปลงสุดท้ายเป็นบ้านพร้อมตกแต่ง แปลงมุมทำเลใกล้สวน ราคา 17 ล้านบาท บนที่ดิน 67.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 197 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ แม้ฟังก์ชันต่างๆ อาจน้อยกว่าเพื่อนๆ แบรนด์ใกล้เคียงกัน แต่เป็นแปลงที่พร้อมตกแต่ง สำหรับคนที่ต้องการบ้านพร้อมอยู่ได้เลยจริงๆ ค่ะ ภายในบ้านจะได้ห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง แต่จะไม่มีห้องแม่บ้าน ห้องนอนชั้นล่าง และ Family Area ชั้น 2 นะคะ

CASA GRAND

แบรนด์ Casa Grand กับ Casa Premium นั้นจริงๆ แล้วอยู่ในระดับราคาที่เท่าๆ กันเลยค่ะ จะมีราคาของแบบบ้านเริ่มต้นต่ำกว่า 10 ล้านบาท ไปจนถึง 10 ล้านกลางๆ มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ดูหรูหรา ตามแนวคิดการออกแบบแต่ละโครงการ

บ้านตัวอย่างโครงการนี้เรานำมาจากโครงการ Casa Grand อ่อนนุช – วงแหวน เป็นแบบบ้าน Type รองใหญ่สุดบนที่ดินประมาณ 75.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 253 ตารางเมตร ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ในราคา 12.5 ล้านบาท ภายในบ้านมีพื้นที่มุมทำงานหลังคา Skylight สามารถจัดเป็นห้องนอนชั้นล่าง (ห้องนอนที่ 4) สำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุได้ พร้อมห้องแม่บ้าน และห้องเก็บของแยกเป็นสัดส่วน ส่วนชั้น 2 มีห้องน้ำภายในห้องนอนทุกห้องพร้อมพื้นที่ Family Area ค่ะ

CASA PREMIUM

Casa Premium เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่เกือบๆ 10 ล้านบาทไปจนถึงเกือบๆ 20 ล้านบาทค่ะ บรรยากาศภายในโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ฟังก์ชันครบไม่ว่าจะเป็น Fitness, สระว่ายน้ำ, ห้องพักผ่อน, สนามเด็กเล่น และสนามหญ้า

ตัวอย่างบ้านเรานำมาจากโครงการ Casa Premium ราชพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ ค่ะ ซึ่งโครงการนี้มีบ้านเริ่มต้นตั้งแต่ 6 ล้านบาท จึงทำให้สามารถเลือกแบบบ้าน Type ที่ใหญ่ที่สุดในราคา 14.5 ล้านบาทได้เลยค่ะ โดยบ้าน Belinda Plus มีที่ดินประมาณ 89.70 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 267 ตารางเมตร ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

เนื่องจากเป็นบ้าน Type ที่ใหญ่ที่สุด จึงทำให้ได้ฟังก์ชันภายในบ้านแบบจัดเต็มทีเดียวค่ะ มีห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัวรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุได้เลย พร้อมโถงทางเข้า และห้องแม่บ้านแยกเป็นสัดส่วน ชั้น 2 มีพื้นที่นั่งเล่น Family Area มีห้องน้ำในห้องนอนทุกห้อง พร้อมพื้นที่อาบน้ำแบบ Semi-Outdoor ในห้อง Master Bedroom ด้วยค่ะ

ลัดดารมย์

ลัดดารมย์ เป็นแบรนด์บ้านที่มีความไฮเอนด์มากขึ้น การออกแบบแต่ละที่จะมีความ Modern ผสมผสานเอกลักษณ์แตกต่างกัน ได้ที่ดินขนาดใหญ่ เน้นทำเลที่เข้าเมืองได้สะดวก จำนวนยูนิตไม่เยอะมาก ซึ่งจะมีบ้านให้เลือกตั้งแต่ระดับราคา 10 ล้านต้นๆ ไปจนถึง Super Luxury ระดับ 30 ล้านบาทขึ้นไปเลย จึงเหมาะกับคนที่ต้องการสังคมเพื่อนบ้านระดับหรู มีพื้นที่ส่วนกลางออกแบบหรูหรา ฟังก์ชันครบครัน

บ้านตัวอย่างที่นำมาให้ชมคือ Boston ที่ดินประมาณ 91 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 332 ตารางเมตร จากโครงการ ลัดดารมย์ วงแหวน – รามอินทรา ราคา 12.90 ล้านบาท ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ และบ้าน New Orleans พื้นที่ประมาณ 106 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 419 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ที่จอดรถถึง 4 คัน ในราคา 15.70 ล้านบาท ซึ่ง จุดเด่น ที่สังเกตได้ชัดเจนคือ มีพื้นที่ใช้สอยเยอะมากๆ เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆค่ะ โดยราคา 10 ล้านกลางๆ ก็สามารถมีพื้นที่ใช้สอยได้ถึง 400 ตารางเมตรเลยทีเดียว

ภายในบ้านยังได้ฟังก์ชันครบ จอดรถได้ 3 – 4 คัน มีห้องแม่บ้าน มีห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง ได้พื้นที่ Common Area กว้างจัดฟังก์ชันได้หลากหลาย พร้อมพื้นที่ Family Area ชั้น 2 และระเบียงขนาดใหญ่

• ลัดดารมย์ พุทธมณฑลสาย 1 – บางแค ราคาเริ่มต้น 16 – 30 ล้านบาท
• ลัดดารมย์ วงแหวน – รามอินทรา ราคาเริ่มต้น 9 – 17 ล้านบาท
• คาซ่า เลเจ้นด์ พระราม 5 – ราชพฤกษ์ ราคาเริ่มต้น 10 – 15 ล้านบาท
• คาซ่า แกรนด์ อ่อนนุช – วงแหวน  ราคาเริ่มต้น 8 – 18 ล้านบาท

10 GRAND BRITANIA จาก บริษัท บริทาเนีย จํากัด (มหาชน)

บริษัท บริทาเนีย จํากัด (มหาชน) แยกตัวออกมาจาก บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จํากัด (มหาชน) เมื่อไม่นานมานี้ค่ะ Developer เจ้านี้จะเน้นไปทำโครงการบ้านแนวราบโดยเฉพาะเลย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮม โดยแบรนด์บ้านที่อยู่ในระดับ High Class ของเขาก็คือ Grand Britania ค่ะ

แบรนด์ Britania เป็นโครงการที่มีสไตล์ชัดเจนเลยค่ะ โดยคำว่า “Britania” นั้นมาจากคำว่า British จึงเน้นการออกแบบให้มีกลิ่นไปของประเทศอังกฤษ และสถาปัตยกรรมฝั่งยุโรป โดยแบรนด์ Grand Britania อัปเกรดขึ้นมา มีความโดดเด่นที่พื้นที่ส่วนกลางให้มาแบบจัดเต็ม หลากหลายเหมือนกับอยู่ในคอนโดมิเนียมเลย สำหรับบางคนชอบคอนโดมิเนียมที่มีส่วนกลางให้ใช้เยอะ โครงการนี้เป็นแบรนด์แนวราบที่ตอบโจทย์คนชอบพื้นที่ส่วนกลางแบบคอนโดฯ เลยค่ะ

แบบบ้านภายในโครงการเน้นบ้านหน้ากว้างสไตล์ Modern มีการออกแบบวัสดุกรุผนัง และ Facade ลวดลายสวยงาม และให้ฟังก์ชันมาครบครันอยู่ที่ 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พร้อมห้องแม่บ้าน ในราคา 15 ล้านบาท

ภายในบ้านชั้น 1 มีการออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุได้เต็มที่ มีทางลาดขึ้นไปยังโถงทางเข้าบ้าน และมีห้องนอนแยกออกมาเป็นสัดส่วน ทำให้คุณตา คุณยาย หรือแขกมองเห็นวิวสวนส่วนตัวได้ ส่วนชั้น 2 ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง พร้อมพื้นที่ Family Area ด้านหน้าบ้าน มีระเบียงส่วนตัวค่ะ

• แกรนด์ บริทาเนีย วงแหวน – รามอินทรา ราคาเริ่มต้น 8.59 – 12 ล้านบาท
• แกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.12 ราคาเริ่มต้น 9.9 – 16 ล้านบาท
• Grand Britania ราชพฤกษ์ พระราม 5 ราคาเริ่มต้น 7.9 – 15 ล้านบาท

11 GRANDIO จาก บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน)

Developer เจ้าสุดท้ายที่เราคัดมาเป็นตัวเลือกมาให้กับทุกคนก็คือ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) ค่ะ เจ้านี้เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทเลยนะคะ ซึ่งเขาก็มีโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮมให้เลือกเลย โดยบ้านเดี่ยวอยู่ในระดับ High Class นั่นก็คือแบรนด์ “Grandio” 

แบรนด์ Grandio เป็นโครงการบ้านเดี่ยวอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีสไตล์การออกแบบแนวยุโรปนะคะ โดยจะเห็นได้จากพื้นที่ส่วนกลาง ซุ้มประตูที่มีความโออ่า Oversize มีรูปปั้นเทพีต่างๆภายในโครงการ พร้อมสวนแบบอังกฤษ และบางโครงการก็จะมีบึงสระน้ำขนาดใหญ่ให้บรรยากาศผ่อนคลายเพิ่มขึ้นอีกด้วย ส่วนฟังก์ชันพื้นที่ส่วนกลางนั้นหลักๆ จะมีห้องนั่งเล่น สระว่ายน้ำ และ Fitness ไม่เน้นความหลากหลายมากนัก แต่ถ้าใครชอบถ่ายภาพ หรือชอบส่วนกลางบรรยากาศเหมือนต่างประเทศ โครงการนี้ก็ตอบโจทย์ค่ะ

จุดเด่นภายในบ้านของโครงการแบรนด์นี้คือ FRASERS Clean and Cool Air กรองสิ่งแปลกปลอม และฝุ่นละอองขนาดเล็ก เช่น PM2.5 ช่วยลดความร้อน และยังมีการออกแบบโถงต้อนรับที่มีฝ้าเพดานสูง Double Volume 

แบบบ้านที่เรานำมาให้ชมเป็นบ้าน Type กลาง พื้นที่ใช้สอย 235 ตารางเมตร บนที่ดิน 57 ตารางวา ในราคา 15 ล้านบาท ภายในมี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ เป็นบ้านหน้ากว้างที่เน้น Common Area อยู่ตรงกลาง พื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำรองรับผู้สูงอายุได้ และมีห้องอเนกประสงค์ให้สามารถทำเป็นห้องนอนที่ 5 ได้อีกด้วยค่ะ แต่จะไม่มีห้องแม่บ้านนะคะ ใครที่มีแม่บ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันภายในบ้านเองได้ ส่วนชั้น 2 มีห้องน้ำในห้องนอนทุกห้อง พร้อมพื้นที่หิ้งพระ และ Family Area

• แกรนดิโอ สุขสวัสดิ์ – พระราม 3 ราคาเริ่มต้น 12 – 20 ล้านบาท
• แกรนดิโอ สาทร ราคาเริ่มต้น 14 – 25 ล้านบาท
• แกรนดิโอ บางแค ราคาเริ่มต้น 9 – 12 ล้านบาท
• แกรนดิโอ เพชรเกษม 81  ราคาเริ่มต้น 7 – 9 ล้านบาท

ตารางสรุปภาพรวมโครงการบ้านเดี่ยว ราคา 10 – 20 ล้านบาท

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หวังว่าเพื่อนๆจะสามารถเลือกแบรนด์บ้านเดี่ยวในราคา 10 – 20 ล้านบาท กันได้ถูกใจและตอบโจทย์กับความต้องการของเพื่อนได้ จากที่เราคัดเลือกมาให้ถึง 17 แบรนด์ จาก 11 Developer ชื่อดังในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเราได้เคยพาเพื่อนๆ ชมกันบ้างแล้วกับบทความ

• เจาะลึกแบรนด์ทาวน์โฮม ราคาไม่เกิน 3 ล้าน
• เจาะลึกแบรนด์บ้านเดี่ยว ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท

ใครที่อยากให้เราเจาะลึกแบรนด์บ้านใน Segment ไหนอีก สามารถ Comment บอกเราทางด้านล่างบทความนี้ได้เลยค่ะ 🙂