สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีบทความพิเศษมาฝาก “งบ 5.xx ล้าน ซื้อคอนโดย่าน อโศก ที่ไหนได้บ้าง?” อย่างที่รู้กันว่าย่านอโศกนี้จัดเป็นย่าน CBD ของกรุงเทพมหานคร ที่เป็นศูนย์กลางของเมือง เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ มีสำนักงานใหญ่รองรับมากมาย โรงแรมระดับ 5 ดาว ความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารชื่อดัง รวมไปถึงระบบการเดินทางสาธารณะเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้คนที่ไหลเข้ามาในเมือง จึงไม่แปลกที่ทำเลย่านอโศกนี้ มักเป็นที่ต้องการอันดับแรกๆ ในการหาที่อยู่อาศัยของใครหลายๆ คน

ด้วยพื้นที่ที่มีอยู่จำกัดแต่ความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้คนในทำเลนี้มีอย่างไม่จำกัด ทำให้รูปแบบการอยู่อาศัยในย่านอโศกนี้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นที่อยู่อาศัยแนวสูงทั้งหมดแล้วในปัจจุบัน และแน่นอนว่าเมื่ออยู่ในย่านใจกลางเมืองแบบนี้ ราคาของที่อยู่อาศัยก็สูงเสียดฟ้าเสียจนไม่อาจจับต้องได้ ต้องขยับออกไปอยู่แถบรอบนอกแทนแล้วเลือกที่จะใช้เวลาในการเดินทางมากขึ้นเพื่อเข้ามาทำงานในใจกลางเมือง ซึ่งราคาต่อตารางเมตรของคอนโดมิเนียมในย่านอโศกในปัจจุบันก็มาถึงยุคที่เหยียบไปถึง 290,000-300,000 บาท/ตร.ม. แล้ว (เรทราคาเริ่มต้นต่อตารางเมตรของ SHAA คอนโดในย่านอโศกที่มีราคาสูงที่สุดในย่าน) หากลองเทียบราคารวมคร่าวๆ กับขนาดห้องพักอาศัยขนาดกะทัดรัดอยู่คนเดียวได้ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 25 ตร.ม. มาคูณกับราคาต่อตร.ม. 290,000 บาท จะได้ราคาแพ็กเกจรวมอยู่ที่ 7.25 ล้านบาทเข้าไปแล้วนะคะ ทำให้ใครหลายคนค่อนข้างถอดใจว่าคงไม่มีโอกาสหาห้องพักอาศัยอยู่ในย่านนี้ได้แล้ว

แต่เดี๋ยวก่อน…จริงๆ แล้วในย่านอโศกเองเลย เรายังสามารถหาห้องพักอาศัยในงบ 5.xx ล้านบาท ได้ค่ะ! บทความนี้เราจะพาไปตามหาคอนโดในย่านอโศกที่ยังสามารถซื้อได้ในราคาอยู่ในงบ 5.xx ล้านบาทกัน ว่าจะเป็นโครงการไหน ได้ห้องขนาดกี่ตร.ม. เผื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่มีงบจำกัดไม่เกิน 6 ล้าน แต่ต้องการอาศัยอยู่ในทำเลอโศกกันค่ะ

ภาพรวมของโซนอโศกที่เรา Scope ไว้จะอิงที่ถนนอโศกมนตรีเป็นหลัก ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิท และถนนเพชรบุรี บริเวณแยกอโศกและแยกอโศก-เพชรบุรี ตามลำดับ เลยไปถึงช่วงรัศมีระยะทางการเดินไม่เกิน 400 ม. ถึงรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย อย่าง BTS สถานีอโศก, MRT สุขุมวิท และ MRT สถานีเพชรบุรี พูดถึงความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ที่เรียกว่าเป็นย่าน CBD ของกรุงเทพมหานครนั้นก็เป็นเพราะว่ามีความครบครันของสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งห้างสรรพสินค้าอย่าง Terminal 21 ที่อยู่บริเวณแยกอโศกมนตรีตัดกับถนนสุขุมวิท โรงแรมห้าดาวต่างๆ อาคารสำนักงานชื่อดัง สถาบันการศึกษา ตลาด ร้านอาหาร รองรับความต้องการของผู้คนในพื้นที่ได้ครบถ้วน ส่วนในอนาคตบริเวณนี้ก็จะมีความคึกคักมากขึ้นไปอีกเพราะจะมี Sigha Complex เกิดขึ้น โดยในโครงการจะมี Urban Lifestyle 4 ชั้น ที่เป็นลักษณะของ Retails เกรดดีอีกด้วยค่ะ สำหรับใครที่มองหาที่อยู่อาศัยในย่านอโศกนี้เรียกครบครันเลยทีเดียว ค่าครองชีพในย่านนี้จัดว่ามีหลากหลายนะคะ ไม่ใช่ว่าจะแพงตามที่ดินในย่านนี้เสมอไป เนื่องจากย่านอโศกนี้เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ มีพนักงานจำนวนมาก ดังนั้นในย่านนี้ช่วงกลางวันก็จะมีเต็นท์อาหารและตลาดช่วงกลางวันเปิดกันอย่างคึกคักเลยทีเดียวค่ะ สามารถหาข้าวกินได้ในราคาไม่เกินร้อยได้เหมือนกัน

นอกจากการเดินทางและความอุดมสมบูรณ์ที่มีครบถ้วนแล้ว ทำเลของโครงการที่อยู่ติดย่าน อโศก ยังมีบทบาทในการเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญที่สุดของประเทศไทยอย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น จากภาพด้านบนจะเห็นว่าบนถนนอโศกมนตรีนั้น ประกอบด้วยอาคารสำนักงานจำนวนมาก เช่น อาคาร GMM Grammy, ชิโนไทย ทาวน์เวอร์, 253 Asoke เสริมมิตรทาวเวอร์ และอื่นๆอีกมากมาย รวมไปถึงในย่านนี้ยังมีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒที่เป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ และมีโรงแรม 4-5 ดาวใหญ่ๆ อีกเพียบที่รองรับชาวต่างชาติทั้งที่มาทำงานและท่องเที่ยว

กลับมาดูคอนโดมิเนียมในย่านอโศกที่อยู่ในเกณฑ์ที่เรา Scope ไว้นั้นจะเห็นว่าในปัจจุบันย่านอโศกนี้จัดว่ามีคอนโดมิเนียมขึ้นหลายโครงการทีเดียวค่ะทั้งอยู่ติดถนนใหญ่และในซอยย่อย ทั้งเป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ และกำลังดำเนินการก่อสร้าง แต่ไม่ใช่ทุกโครงการแน่นอนที่เราสามารถหยิบจับได้ในงบประมาณ 5.xx ล้านบาทนะคะ

ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมโครงการที่เมื่อนำข้อจำกัดทางงบประมาณไม่เกิน 5.xx ล้านบาท ไว้ให้แล้วโดยเราขอรวบทั้งโครงการมือ 1 และมือ 2 ที่ตั้งราคาขายในปัจจุบันรวมไปด้วยนะคะ จากภาพจะเห็นว่าโครงการที่เราสามารถกำเงิน 5.xx ล้านบาทเข้าไปซื้อห้องพักอาศัยได้จะมีทั้งหมด 11 โครงการด้วยกัน เราไปดูกันค่ะว่าแต่ละโครงการนั้น เราจะได้ห้องขนาดพื้นที่ใช้สอยเท่าไหร่ ในงบที่เท่ากัน

**แผนที่และโครงการเองทางผู้เขียนเป็นผู้หาข้อมูล อาจจะมีตกหล่นบ้าง สำหรับโครงการที่เก่ามากแล้วและไม่สามารถหาข้อมูลได้นะคะ


Villa Asoke

Villa Asoke คอนโด High Rise 42 ชั้น จาก TCC Land Capital ค่ะ ตัวโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในช่วงปี 2013 หรือประมาณ 4 ปีแล้วนะคะ ทำเลโครงการแม้จะตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรี แต่ก็จัดว่าอยู่ในโซนอโศกอยู่เพราะอยู่ห่างจาก MRT เพชรบุรีไปเพียง 150 ม. และห่างจาก Airport Rail Link มักกะสัน ไปประมาณ 350 ม. เรียกว่าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวกทีเดียว

ราคาขาย Resale ปัจจุบัน (2018) : ~120,000 – 140,000 บาท/ตร.ม.

แบบห้องที่อยู่ในงบ 5.xx ล้านบาท ในโครงการ Villa Asoke

ห้องที่สามารถซื้อได้ภายใต้งบ 5.xx ล้านบาทนั้นคือห้องขนาดเล็กที่สุดของโครงการ คือ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 40 ตร.ม. จัดว่าเป็นขนาดห้องที่ไม่ได้เล็กมากสำหรับห้อง 1 Bedroom ที่เน้นอาศัยอยู่ 1-2 คนนะคะ ตัวแปลนแบ่งโซน Common Area ที่ประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่นและครัวไว้ด้านนอก ออกจากส่วนห้องนอนชัดเจนเป็นสัดส่วนดีค่ะ แปลนนี้จะเน้นให้ความสำคัญกับตัวห้องนอนมากที่สุด ด้วยการจัดห้องนอนเป็น Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว พร้อม Walk in Closet และขนาดห้องนอนที่ใหญ่ ส่วนข้อด้อยของแปลนนี้ก็คือพื้นที่นั่งเล่นไม่ได้วิวภายนอกนะคะ เพราะเค้าดันพื้นที่ครัวไปด้านนอกอาคาร เพื่อให้สามารถต่อท่อดูดควันและกลิ่นอาหารออกไปได้ง่ายมากขึ้น แม้เป็นครัวเปิดแต่ก็ยังสามารถทำอาหารหนักได้ดีกว่าวางส่วนครัวไว้ด้านในบ้านค่ะ

ราคาขายปัจจุบัน (2018) : ~4,800,000 – 5,600,000 บาท

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการสามารถอ่านรีวิวและดูรายการคิด.เรื่อง.อยู่ ได้โดย


Supalai Premier Asoke

Supalai Premier Asoke คอนโด High Rise สูง 38 ชั้น บนถนนเพชรบุรีติดกับ Sigha Complex ในอนาคต มีระยะห่างจาก MRT เพชรบุรี (ปัจจุบัน) อยู่ที่ประมาณ 300 ม. และห่างจาก Airport Rail Link มักกะสัน อยู่ที่ 450 ม. แต่ในอนาคตเมื่อ Sigha Complex เปิดจะมีการเจาะช่องทางขึ้น-ลง MRT เพชรบุรีให้สามารถขึ้น-ลงภายในโครงการ Sigha Complex ได้เลยทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น ตัวโครงการแม้จะไม่ได้หวือหวามากนักหากเทียบกับโครงการข้างเคียง แต่จุดเด่นคือราคาหยิบจับง่ายกว่าโครงการข้างเคียงนะ อย่าง The Esse ที่มีราคาเริ่มต้นสูงไปที่ 8-9 ล้านบาทแล้ว งบจำกัดที่ 5.xx ล้านบาทอย่างเราก็ยังมีโครงการนี้เป็นตัวเลือกนะ เรียกว่าทำเลเดียวกันเลยก็ว่าได้ เพราะเค้าอยู่ติดกันเลยค่ะ

ราคาขาย Resale ปัจจุบัน (2018) : ~110,000 – 155,000 บาท/ตร.ม.

แบบห้องที่อยู่ในงบ 5.xx ล้านบาท ในโครงการ Supalai Premier Asoke

ห้องพักอาศัยที่หยิบจับได้ของโครงการนี้เริ่มที่ห้อง Studio ขนาด 33.5 ตร.ม. ลักษณะห้องเป็นสไตล์เดิมของศุภาลัยคือหน้าแคบลึก แต่แตกต่างไปตรงที่การวางฟังก์ชันภายในห้องไม่เหมือนเดิม คือเอาพื้นที่ครัวและห้องน้ำอยู่ด้านในอาคารแทน เพื่อให้พื้นที่ส่วนเตียงนอนและพื้นที่นั่งเล่นได้วิวและแสงจากภายนอกได้ดี ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งขึ้นมามากกว่าการวางฟังก์ชันครัวและห้องน้ำอยู่ด้านนอก แลกมาประสิทธิภาพใช้งานครัวและห้องน้ำที่ลดลง เพราะครัวและห้องน้ำถ้าวางภายนอกก็จะช่วยระบายความชื้นและกลิ่นได้ดี อย่างห้องน้ำก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งระบบดูดควัน เป็นต้น แต่ถ้าให้เลือกเราก็เลือกการวางแปลนแบบนี้นะ เพราะอยากได้ห้องที่มีแสงเข้าได้ดีไม่อึดอัด

ราคาขายปัจจุบัน (2018) : ~3,685,000 – 5,192,500 บาท

อีก Type ห้องนึงที่มีขนาดเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย คือห้อง Studio ขนาด 39 ตร.ม. ลักษณะการวางแปลนคล้ายคลึงกับห้องด้านบนนะคะ แต่ได้พื้นที่ห้องครัวเป็นสัดส่วนชัดเจน ใครชอบทำอาหารเลือกห้อง Type นี้ก็จะสามารถทำอาหารหนักได้ตามที่ชอบเลยค่ะ

**ราคาขายปัจจุบันมีเพียงบางห้องที่สามารถซื้อได้ในราคาอยู่ในงบ 5.xx ล้านบาทได้ ตามราคาตั้งขายของเจ้าของห้องปัจจุบัน (ซึ่งยังมีพอให้เห็นบ้างในเว็บไซต์ลงประกาศขายห้อง)

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 50 ตร.ม. เป็นห้องที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการ ส่วนการจัดวาง Layout ค่อนข้างลงตัวอยู่ได้จริงสำหรับ 2 คน ภายในแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วนชัดเจน จากทางเข้าห้องจะเจอกับพื้นที่ครัวเปิด ถัดมาเป็นส่วนรับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะแบบ 4 ที่นั่งได้ และในสุดจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นติดระเบียง ได้วิวภายนอก ส่วนระเบียงก็ได้ขนาดใหญ่ใช้งานได้จริงค่ะ ถัดมาในห้องนอนนี้จะได้ห้องแบบ Master Bedroom คือเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ครึ่งนึงของแปลนทั้งหมด มี Walk in Closet เล็กๆ และห้องน้ำในตัว จัดเป็น Layout Plan ที่ให้ความสำคัญกับห้องนอนมากทีเดียวนะ ใครชอบห้องนอนใหญ่ วางเตียงใหญ่ได้ มีพื้นที่ใช้สอยพอสมควร และมีห้องน้ำในตัวใช้งานสะดวก (ไม่ได้รับแขกบ่อยๆ) แปลนนี้โอเคเลย

**ราคาขายปัจจุบันมีเพียงบางห้องที่สามารถซื้อได้ในราคาอยู่ในงบ 5.xx ล้านบาทได้ ตามราคาตั้งขายของเจ้าของห้องปัจจุบัน (ซึ่งยังมีพอให้เห็นบ้างในเว็บไซต์ลงประกาศขายห้อง)

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการสามารถอ่านรีวิว ได้โดย

  • รีวิวโครงการ ช่วงสร้างเสร็จพร้อมอยู่ Re-Sale ปี 2017 : (คลิกที่นี่)


Ideo Mobi Asoke

Ideo Mobi Asoke คอนโด High Rise สูง 36 ชั้น จาก Ananda จัดเป็นโครงการน้องใหม่บนถนนเพชรบุรีในโซนอโศกนี้ ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างอยู่นะคะ โดยโครงการนี้เริ่มเปิดราคาขายอยู่ที่ 170,000 บาท/ตร.ม. เมื่อปี 2016 และปัจจุบันปี 2018 ดันราคาเริ่มต้นต่อตร.ม.ขึ้นมาที่ 200,000 บาท/ตร.ม. แล้วจัดว่าสูงกว่าโครงการ Supalai Premier Asoke พอสมควร แต่การจัดวางห้องนี้จะเริ่มที่ขนาดกะทัดรัดมากขึ้นประมาณ 24 ตร.ม. ทำให้ราคาแพ็กเกจรวมสามารถหยิบจับได้ในราคาไม่หลุดไป 6 ล้านบาท ตัวโครงการถือเป็นคอนโดใหม่ มือ 1 ที่มีการออกแบบน่าสนใจ เน้นสไตล์หวือหวา สมัยใหม่ ด้วยกระจกทรงโค้ง รวมไปถึง Facilities ที่จัดอยู่บนชั้นดาดฟ้า ให้ว่ายน้ำชมวิวกันเพลินๆ ตอบโจทย์กลุ่มวัยรุ่น วัยทำงานในย่านศูนย์กลางความเจริญในกรุงเทพ อย่างโซนอโศก

ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรเริ่มต้น : ~200,000  บาท/ตร.ม.

ราคาห้องเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท  (2018 ในเว็บไซต์โครงการ)

**ราคาอ้างอิงจากเว็บไซต์โครงการ

ราคาขายปัจจุบัน ในเว็บไซต์ลงประกาศขายห้อง (2018) : ~180,000-200,000 บาท

แบบห้องที่อยู่ในงบ 5.xx ล้านบาท ในโครงการ Ideo Mobi Asoke

ห้อง 1 Bedroom แบบ Type ที่มีขนาดตั้งแต่ 24-28 ตารางเมตร ด้วยพื้นที่ขนาดจำกัดจึงเหมาะกับการพักอาศัย 1-2 คน โดยผังห้องทั้ง 4 แบบ มีการจัดวางฟังก์ชั่นหลักๆเหมือนกันทั้งหมด เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน โดยโครงการไม่ได้กั้นฉากกั้นกระจกมาให้ หากใครต้องการแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นก็สามารถหาฉากกระจกบานเลื่อนมาติดตั้งเองได้ โดยที่อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นครัวปิดที่ติดตั้งฉากกั้นมาให้เรียบร้อย  ช่วยให้เวลาประกอบอาหารกลิ่นจะไม่เข้าไปรบกวนส่วนพักผ่อน โดยห้องครัวนี้จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำและระเบียง

ข้อดีของการวางผังแบบนี้การแยกส่วนพักผ่อนและส่วน Service เป็นพื้นที่เปิด-ปิด แบ่งแยกกันชัดเจน เหมาะกับคนที่มีงบจำกัด ต้องการพื้นที่เล็กถึงปานกลางที่ใช้งานได้จริง แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ห้องน้ำที่อยู่ด้านในสุดติดทางเดิน ไม่สามารถรับแสงธรรมชาติและถ่ายเทอากาศผ่านทางหน้าต่างได้ ต้องใช้พัดลมดูดอากาศช่วยอย่างเดียว  โดยผังทั้ง 4 แบบนี้มีความต่างกันตรงพื้นที่เพิ่ม-ลดตามตำแหน่งของห้องนั่นเอง

  • ผัง  A1-1 (ซ้ายบน) ห้องขนาด 24 ตารางเมตร เป็นผังมาตรฐานที่ตำแหน่งห้องจะอยู่แปลงกลาง ทางทิศใต้ ที่จะได้วิว มศว
  • ผัง A1-2 (ซ้ายล่าง) ห้องขนาด 26 ตารางเมตร ห้องนี้จะมีพื้นที่เพิ่มตรงโถงทางเดินเข้าห้อง ซึ่งตรงนี้เราสามารถ Built-in ตู้รองเท้า หรือชั้นวางของอเนกประสงค์ รวมทั้งติดตั้งกระจกเต็มตัวที่ผนัง เพื่อใช้โถงเล็กๆนี้เป็นที่เตรียมตัวก่อนเข้า-ออกจากห้องได้ โดนตำแหน่งของห้อง  Type นี้จะอยู่ฝั่งตะวันออกแต่หันหน้าไปทางทิศเหนือ ได้วิวรัชดา-พระราม 9
  • ผัง  A1-3 (ขวาบน) ห้องขนาด 26 ตารางเมตร เนื่องจากห้องนี้อยู่บริเวณหัวมุมช่วงโค้งของตึก ทำให้ระเบียงของห้องเป็นรูปสามเหลี่ยม
  • ผัง A1-4 (ขวาล่าง) ห้องขนาด 28 ตารางเมตร ตำแหน่งของห้องนี้อยู่ตรงหัวมุมช่วงโค้งของตึกเช่นกัน แต่มีข้อได้เปรียบห้องอื่นๆตรงที่ตัวระเบียงมีการยื่นออกไป ทำให้มาเพิ่มขนาดของห้องครัวให้ใหญ่กว่าห้องอื่นๆไปด้วย เหมาะกับคนที่ชอบทำครัวบ่อยๆหรือมีความต้องการใช้พื้นที่ครัวและระเบียงเป็นพิเศษ

ราคาขายเริ่มต้นปัจจุบัน (2018 ในเว็บไซต์โครงการ) : 5,500,000 บาท 

ราคาขายปัจจุบัน ในเว็บไซต์ลงประกาศขายห้อง (2018) : ~4,320,000 – 5,600,000 บาท

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการสามารถอ่านรีวิว ได้โดย


My Resort Bangkok

My Resort Bangkok เป็นคอนโด High Rise รุ่นเก่าแก่บนถนนเพชรบุรีในย่านอโศกนี้ก็ว่าได้ โดยสร้างเสร็จเมื่อปี 2009 หรือมีอายุประมาณ 9 ปีที่ผ่านมาแล้วค่ะ แม้จะอายุเก่าแก่ไปเสียหน่อยแต่ด้วยราคาที่ยังคงหยิบจับง่ายก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครหลายคนที่มองหาห้องพักอาศัยที่มีขนาดมากขึ้นมาหน่อยในงบประมาณเท่ากัน หรือราคาต่ำกว่า 5 ล้านไปเลยก็ยังหาได้อยู่เยอะทีเดียว สิ่งที่น่าสนใจของโครงการนี้คือการจัดวาง Floor Plan ที่ทำให้ทุกยูนิตนั้นเป็นห้องมุมทั้งหมด รวมไปถึงจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นอยู่ที่ 10 ยูนิตเท่านั้น ได้ความเป็นส่วนตัวดี

ราคาขาย Resale ปัจจุบัน (2018) : ~95,000 – 110,000 บาท/ตร.ม.

แบบห้องที่อยู่ในงบ 5.xx ล้านบาท ในโครงการ My Resort Bangkok

เริ่มต้นที่ห้องขนาดเล็กสุดของโครงการ คือห้อง Studio ขนาดพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 34 – 36 ตร.ม. ออกแบบให้เป็นลักษณะห้องหน้าแคบลึก การจัดวางฟังก์ชันโดยรวมจัดออกมามาตรฐาน คือเข้ามาเป็นส่วนครัว และห้องน้ำ ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่นั่งเล่นและในส่วนเป็นส่วนเตียงนอน ด้านนอกทำเป็นระเบียงแต่แยกส่วนซักล้าง วางคอมเพรสเซอร์แอร์ ออกจากระเบียงชมวิว ข้อด้อยของแปลนนี้น่าจะเป็นเรื่องของความกว้างของห้องที่ไม่มากนักทำให้เสียพื้นที่ใช้สอยไปกับทางเดินภายในห้องพอสมควร ใช้พื้นที่ภายในได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้รู้สึกว่าตัวห้องไม่กว้างมากนักเมื่อเทียบกับขนาดพื้นที่ใช้สอยห้อง 34 – 36 ตร.ม. ที่นับว่าไม่ได้เล็กมากสำหรับอยู่ 1-2 คน

ราคาขายปัจจุบัน (2018) : ~3,230,000 – 3,960,000 บาท

ห้อง 1 Bedroom Type นี้ค่อนข้างเสียพื้นที่ทางเดินภายในพอสมควรเลยนะคะ ด้วยรูปร่างของแปลนที่มีเหลี่ยมมุมค่อนข้างมากนะคะ ส่วนฟังก์ชันภายในห้องจัดมาให้เป็นสัดส่วนชัดเจนอยู่เหมือนกัน เข้ามาจะเป็นส่วนครัวก่อน แต่ได้เป็นครัวเปิดนะ ถัดมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่สามารถรองรับที่นั่งได้ทั้งหมด 4 ที่นั่ง และด้านนอกสุดเป็นพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งสามารถมองวิวภายนอกได้ค่ะ แต่ไม่ได้มีระเบียงภายนอกนะ ระเบียงจะไปอยู่ใกล้กับส่วนครัว ซึ่งจัดเป็นโซน Service เช่นเดียวกับส่วนครัว และด้านในสุดคือห้อง Master Bedroom ที่มีห้องน้ำขนาดใหญ่พอสมควรเลยอยู่ด้านใน แอบเสียดายตรงที่ภายในห้องนอนได้ช่องแสงเพียงด้านเดียวเอง ทั้งๆ ที่เป็นห้องมุม

ห้อง 1 Bedroom อีก Type ของอาคาร A นั้นดูลงตัวกว่า Type แรก ด้วยรูปร่างของแปลยที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทำให้จัดวางฟังก์ชันได้ง่าย ลงตัว และสามารถใช้พื้นที่ใช้สอยภายในได้เต็มที่ โดยจะแบ่งเป็น 2 โซนใหญ่ๆ คือโซน Common Area ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางเชื่อมระหว่างพื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหาร และครัว โดยบริเวณครัวแม้จะเป็นครัวเปิดแต่ก็มีช่องเปิดเล็กๆ บริเวณมุมห้องให้สามารถระบายอากาศและความชื้นส่วนครัวได้ระดับนึงค่ะ ส่วนภายในห้องนอนจะเป็นห้อง Master Bedroom เช่นเดิมแต่ได้ช่องเปิดทั้ง 2 ฝั่งเลย ทำให้ห้องนอนมีความโปร่งโล่งมากขึ้น แต่แอบเสียดายตรงที่พื้นที่ตู้เสื้อผ้านอนไปหน่อย เพราะติดกับเสาด้านข้าง

ห้อง 1 Bedroom ของอาคาร B นั้นมีการจัดวางค่อนข้างลงตัวนะคะ โดยแบ่งโซนเป็น โซน Common Area และ Master Bedroom เช่นเดียวกับแปลนด้านบน แต่มีความแตกต่างกันคือขนาดของ Pantry ครัวและการจัดวางตำแหน่งของฟังก์ชันภายในโซน ซึ่งหากเปรียบเทียบกันในโซน Common Area ของแปลนด้านบนจะดูกว้างขวาง โปร่งโล่งมากกว่า แต่ภายใน Master Bedroom ของแปลนนี้จะได้พื้นที่ Walk-in Closet เป็นสัดส่วนมากกว่าค่ะ

ราคาขายปัจจุบัน (2018) สำหรับห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 38 – 50 ตร.ม. : ~3,610,000 – 5,500,000 บาท


Rende Sukhumvit 23

**ขอบคุณรูปจาก Google

Rende Sukhumvit 23 คอนโด Low Rise ในซอยประสานมิตร ที่มีเพียง 50 ยูนิตเท่านั้น เหมาะกับใครที่กำลังมองหาคอนโดยูนิตน้อย มีความเป็นส่วนตัวสูง แต่ต้องยอมแลกกับการเข้ามาในซอยย่อยหน่อย ซึ่งซอยประสานมิตรนี้ใช่ว่าจะเป็นซอยที่ไม่มีอะไรนะ เพราะซอยนี้เป็นซอยเข้า-ออกของโรงเรียนสาธิตประสานมิตร โรงเรียนชื่อดังในย่านนี้นี่เองค่ะ ทำให้บรรยากาศในซอยค่อนข้างคึกคักทีเดียว และใครที่มีลูกหรือมองหาบ้านหลังที่ 2 ใกล้โรงเรียนลูกในอนาคต โครงการนี้ก็น่าสนใจเหมือนกัน

ราคาขาย Resale ปัจจุบัน (2018) : ~140,000 – 155,000 บาท/ตร.ม.

แบบห้องที่อยู่ในงบ 5.xx ล้านบาท ในโครงการ Rende Sukhumvit 23

ห้อง 1 Bedroom ขนาดประมาณ 35 ตร.ม. เป็นขนาดเริ่มต้นของโครงการนี้ สามารถอาศัยอยู่ได้ 1-2 คนกำลังดีค่ะ การจัดวางแปลนเป็นสัดส่วน เน้นพื้นที่ Master Bedroom ซึ่งสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ และห้องน้ำแบบ Sexy Bathroom พร้อมอ่างอาบน้ำ ส่วนครัวนั้นได้เป็นครัวปิดเป็นสัดว่วนอยู่ติดกับระเบียง ทำให้สามารถทำอาหารหนักได้เพราะมีประตูบานเลื่อนกั้นเป็นสัดส่วนกลิ่นอาหารไม่ฟุ้งเข้ามาภายในพื้นที่นั่งเล่น รวมทั้งการอยู่ติดบริเวณระเบียงนั้นก็จะได้เรื่องของแสงสว่างที่ช่วยลดกลิ่นอับ ความชื้นภายในครัวได้ดีค่ะ ส่วนข้อแลกเปลี่ยนก็คือบริเวณพื้นที่นั่งเล่นที่ไม่ได้วิวภายนอก

ราคาขายปัจจุบัน (2018) : ~4,900,000 – 5,431,200 บาท

สำหรับห้อง 1 Bedroom 36.62 ตร.ม. ขนาดจะใหญ่ขึ้นมาจากห้องที่แล้วเล็กน้อย แต่ฟังก์ชันภายในมีการสลับไม่เหมือนแปลนด้านบนเลยนะคะ คือ เข้ามาจะเป็นส่วนครัวก่อน ซึ่งทำเป็นครัวเปิด การใช้งานในชีวิตจริงก็จะแตกต่างจากครัวปิดเลย คือเน้นไปที่การทำอาหารเบาๆ ง่ายๆ เสียมากกว่า แลกมากับการได้พื้นที่นั่งเล่นติดภายนอก ได้รับแสงธรรมชาติและวิวภายนอกได้ดี ส่วนห้อง Master Bedroom นี้จะได้ฟังก์ชันเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อยด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้นก็คือส่วน Walk in Closet ขนาดกะทัดรัดค่ะ สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้และเป็นสัดส่วนไม่ขวางทางเดิน

ราคาขายปัจจุบัน (2018) : ~5,126,800 – 5,676,000 บาท

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 40.14 ตร.ม. มีลักษณะการจัดวางเหมือนแปลนห้องขนาด 35 ตร.ม. เลยค่ะ เพียงแต่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้นทำให้ได้ Walk in Closet และพื้นที่บริเวณเตียงนอนใหญ่ขึ้นมาหน่อย ส่วนข้อด้อยของการจัดวางนี้อยู่ที่บริเวณห้องน้ำ เพราะอ่างอาบน้ำอยู่ในบริเวณโซนแห้ง ไม่เหมือนกับแปลนห้อง 35 ตร.ม. ที่วางตำแหน่งอ่างอาบน้ำอยู่ในโซนเปียกติดกับพื้นที่อาบน้ำเลย

**ราคาขายปัจจุบันมีเพียงบางห้องที่สามารถซื้อได้ในราคาอยู่ในงบ 5.xx ล้านบาทได้ ตามราคาตั้งขายของเจ้าของห้องปัจจุบัน (ซึ่งยังมีพอให้เห็นบ้างในเว็บไซต์ลงประกาศขายห้อง)

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 40.5 ตร.ม. มีการจัดวางเหมือนกับห้องขนาด 36 ตร.ม. เลยค่ะ เพียงแต่ได้พื้นที่กว้างกว่า และตำแหน่งประตูห้องอยู่คนละตำแหน่งกัน จึงทำให้ห้องสามารถกั้นประตูบานเลื่อนกระจกบริเวณครัวกับพื้นที่นั่งเล่นได้ เพื่อทำเป็นครัวปิด สำหรับใครที่ต้องการทำอาหารหนัก กลิ่นอาหารก็จะไม่ฟุ้งออกไปบริเวณอื่นๆ

**ราคาขายปัจจุบันมีเพียงบางห้องที่สามารถซื้อได้ในราคาอยู่ในงบ 5.xx ล้านบาทได้ ตามราคาตั้งขายของเจ้าของห้องปัจจุบัน (ซึ่งยังมีพอให้เห็นบ้างในเว็บไซต์ลงประกาศขายห้อง)


Edge Sukhumvit 23

Edge Sukhumvit 23 เป็นคอนโด High Rise จากแสนสิริ ที่ตั้งอยู่ช่วงต้นซอยสุขุมวิท 23 ใกล้ BTS อโศก และ MRT สุขุมวิทประมาณ 280 ม. ตัวโครงการจัดอยู่ในระดับ Super Luxury ด้วยราคาเฉลี่ยช่วงปี 2013 ที่ 180,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งถือว่าสูงทีเดียวในยุคนั้น แต่ก็แลกมากับทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองของจริงแม้จะอยู่ในซอยหน่อยแต่ก็ไม่ได้ลึกมากค่ะ ใครที่ทำงานอยู่ในอาคารสำนักงานติดแยกอโศก อย่าง Exchange Tower, Interchange Tower, Ocean Tower นี่เรียกว่าเดินไปทำงานได้เลยไม่ต้องมาเสียเวลารถติดค่ะ

ราคาขาย Resale ปัจจุบัน (2018) : ~200,000 – 260,000 บาท/ตร.ม.

แบบห้องที่อยู่ในงบ 5.xx ล้านบาท ในโครงการ Edge Sukhumvit 23

ห้องพักอาศัยที่ยังอยู่ในงบ 5.xx ล้านบาทนั้นจะมีเพียงห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 29.5 – 33 ตร.ม. ซึ่งไม่ใช่ทุกห้องนะคะ ที่จะสามารถซื้อได้ในงบนี้ แต่ยังพอหาได้อยู่ค่ะทั้งในเว็บไซต์ประกาศขายห้องและเว็บไซต์เอนเจนซี่โดยตรง การจัดฟังก์ชันห้องทำออกมากะทัดรัด เน้นพื้นที่ใช้สอยในห้องนอนเป็นหลัก ได้ห้องน้ำในตัว ส่วนด้านนอกเข้ามาจากหน้าห้องนั้นจะเจอกับครัวเปิดก่อน โดยเชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่นด้านในที่ได้วิวภายนอก โดยรวมแล้วเป็นแปลนที่ค่อนข้างลงตัวกับขนาดพื้นที่ใช้สอยที่จำกัดค่ะ

**ราคาขายปัจจุบันมีเพียงบางห้องที่สามารถซื้อได้ในราคาอยู่ในงบ 5.xx ล้านบาทได้ ตามราคาตั้งขายของเจ้าของห้องปัจจุบัน (ซึ่งยังมีพอให้เห็นบ้างในเว็บไซต์ลงประกาศขายห้อง)

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการสามารถอ่านรีวิว ได้โดย


Le Cote Sukhumvit 14

**ขอบคุณรูปจาก Google

Le Cote เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 14 ฝั่งตรงข้ามกับ Terminal 21 โครงการนี้เป็นคอนโดขนาดเล็กที่มียูนิตเพียง 60 ยูนิต ค่อนข้างเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวสูง ตัวโครงการสร้างเสร็จเมื่อปี 2012 หรือประมาณ 4 ปีที่แล้วในราคาเริ่มต้นที่ 2.xx ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีไม่มากนักในย่านใจกลางเมืองแบบนี้ แต่เมื่อราคาพอหยิบจับไหว ในทำเลนี้ก็ต้องแลกมากับขนาดของ Facilities ที่ไม่ใหญ่มากและมีไม่มาก ด้วยพื้นที่ที่จำกัดแทน

ราคาขาย Resale ปัจจุบัน (2018) : ~140,000 – 160,000 บาท/ตร.ม.

แบบห้องที่อยู่ในงบ 5.xx ล้านบาท ในโครงการ Le Cote Sukhumvit 14

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. จัดฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วนดีในพื้นที่ที่จำกัด โดยใช้วิธีการเลื่อนฉากกั้นระหว่างพื้นที่ห้องนอนและพื้นที่นั่งเล่นแทน เช่น หากวันไหนต้องการความเป็นส่วนตัวก็ค่อนกั้นประตูบานเลื่อนได้ แต่หากใครไม่ได้ต้อนรับแขกบ่อยๆ ก็สามารถเลื่อนฉากกั้นเก็บแล้วทำเป็นห้อง Studio เลยก็ได้เพื่อให้ห้องดูโปร่งโล่งไม่คับแคบ

ราคาขายปัจจุบัน (2018) : ~3,920,000 – 4,480,000 บาท

ขยับขึ้นมาอีกหน่อยเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม. จะได้พื้นที่ห้องเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น โดยพื้นที่ครัวนี้สามารถทำเคาน์เตอร์บาร์ได้ด้วย รวมทั้งขนาดความกว้างของห้องที่มากขึ้นจึงทำให้พื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่ภายในห้องนอนดูกว้างขวางมีขึ้น โดยพื้นที่นั่งเล่นสามารถวาง Sofa Bed ได้ และบริเวณปลายเตียงของห้องนอนสามารถวางชั้นวางทีวีได้เช่นกันค่ะ

ราคาขายปัจจุบัน (2018) : ~4,760,000 – 5,440,000 บาท

หากใครที่งบขึ้นมาหน่อย หรือมีอยู่กัน 2 คน แนะนำให้เลือกห้อง Type นี้เพราะได้เป็นห้องหน้ากว้าง  สามารถจัดวางฟังก์ชันต่างๆ ได้ดีและตัวห้องดูโปร่งโล่งขึ้นมาชัดเจน ส่วนภายในห้องนอนสามารถจัดพื้นที่ Walk in Closet ขนาดกะทัดรัดเพิ่มเติมได้ด้วยนะคะ

ราคาขายปัจจุบัน (2018) : ~5,460,000 – 6,240,000 บาท

และสุดท้ายเป็นอีก 3 Types ที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 36 – 39 ตร.ม. มีการจัดวางแปลนใกล้เคียงกัน โดยแบ่งโซนเป็น 2 โซนเท่าๆ กัน คือโซน Common Area ที่ประกอบไปด้วยพื้นที่ครัว และพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งพื้นที่ครัวนี้จะได้เป็นครัวเปิดพร้อมกับเคาน์เตอร์บาร์สำหรับเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร รองรับได้ประมาณ 2 ที่นั่ง ข้อดีของการทำเป็นเคาน์เตอร์บาร์คือการได้ใช้งานพื้นที่โต๊ะกินข้าวในการเตรียมอาหารด้วย ประหยัดพื้นที่ และทำให้โซนครัวเป็นสัดส่วนมากขึ้น ส่วนข้อเสียคือไม่ถนัดในการรับประทานอาหารมากนัก และไม่ได้นั่งกินข้าวแบบหันหน้าเข้ากัน ส่วนอีกโซนคือภายในห้องนอน มีลักษณะเป็นห้องแบบแคบลึก ทำให้ตัวห้องดูไม่โปร่งโล่งเท่าไหร่นัก รวมไปถึงแปลนด้านซ้ายที่วาง Walk in Closet ไว้ฝั่งด้านนอกยิ่งทำให้ภายในห้องมืดมากกว่าเดิมนะ

ราคาขายปัจจุบัน (2018) : ~5,040,000 – 6,240,000 บาท


โครงการที่อยู่ในงบประมาณ 5.xx ล้านบาท แต่ขาดผังห้องพักอาศัย 

(เนื่องจากเป็นโครงการที่ปิดการขายนานแล้ว จึงไม่สามารถหาข้อมูลโครงการได้ครบถ้วน)

Asoke Place

**ขอบคุณรูปจาก Google

Asoke Place เป็นคอนโด High Rise โครงการเก่าแก่ติดถนนอโศกมนตรี โดยสร้างเสร็จเมื่อปี 1996 หรือประมาณ 21 ปีที่ผ่านมาแล้ว ตัวโครงการสูง 24 ชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 344 ยูนิต มีขนาดห้องพักอาศัย 1 Bedroom และ 2 Bedroom โดยขนาดเริ่มต้นอยู่ที่ 60 ตร.ม. ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ค่อนข้างมากสำหรับห้องแบบ 1 Bedroom ถ้าเทียบกับปัจจุบันขนาด 60 ตร.ม. นี้สามารถทำเป็นห้อง 2 Bedroom ได้สบายๆ สำหรับใครที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะ อยู่ในงบประมาณ ติดถนนอโศกมนตรีไม่อยู่ในซอย แลกมากับอายุโครงการที่ค่อนข้างมากได้ โครงการนี้ก็น่าสนใจนะคะ เพราะขนาดห้อง 60 ตร.ม. นี่สามารถกั้นพื้นที่ได้เพื่อการขยับขยายครอบครัวในอนาคตได้นะ

ราคาขาย Resale ปัจจุบัน (2018) : ~85,000 – 110,000 บาท/ตร.ม.

ขนาดห้องที่อยู่ในงบ 5.xx ล้านบาท ในโครงการ Asoke Place

  • 1 Bedroom ขนาด 60 ตร.ม.
  • 2 Bedroom ขนาด 75 – 80 ตร.ม. (เฉพาะบางห้องเท่านั้น)


Supalai Premier Place Asoke

Supalai Premier Place Asoke เป็นอีกโครงการหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะอยู่ในทำเลดี และแวดล้อมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ทั้งฝั่งด้านหลังที่อยู่ติดกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ และด้านหน้าที่แวดล้อมไปด้วยอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ตัวโครงการเน้นทำห้องขนาดใหญ่สไตล์ศุภาลัยดั้งเดิม โดยเริ่มขนาดห้องที่ประมาณ 53 ตร.ม. ไปจนถึงห้อง 3 Bedroom 1xx ตร.ม. ขึ้นไป

ราคาขาย Resale ปัจจุบัน (2018) : ~100,000 – 120,000 บาท/ตร.ม.

ขนาดห้องที่อยู่ในงบ 5.xx ล้านบาท ในโครงการ Supalai Premier Place Asoke

  • 1 Bedroom ขนาด 53 – 60 ตร.ม. (เฉพาะบางห้องเท่านั้น)


Grand Park View Asoke

**ขอบคุณรูปจาก Google

Grand Park View Asoke เป็นอีกโครงการที่เก่าแก่ในย่านนี้ โดยสร้างเสร็จเมื่อปี 2005 หรือประมาณ 11 ปีแล้ว ด้านล่างของโครงการนี้ทำเป็น Retails ทำให้บริเวณด้านล่างโครงการค่อนข้างคึกคัก และสามารถฝากท้องได้ในตึกเลย แลกมากับคนภายนอกที่สามารถเข้า-ออกภายในอาคารได้ โครงการนี้ออกแบบมาให้มีแบบห้องพักอาศัยค่อนข้างหลากหลายขนาดทีเดียวนะคะ เริ่มต้นห้อง Studio ขนาด 28 ตร.ม. ไปจนถึงห้องขนาด 3 Bedroom 149 ตร.ม.

ราคาขาย Resale ปัจจุบัน (2018) : ~85,000 – 100,000 บาท/ตร.ม.

ขนาดห้องที่อยู่ในงบ 5.xx ล้านบาท ในโครงการ Grand Park View Asoke

  • Studio ขนาด 28 – 32 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 32 – 45 ตร.ม.


Sukhumvit Living Town

Sukhumvit Living Town เป็นคอนโดอีกโครงการที่อยู่ติดถนนอโศกมนตรี อยู่ค่อนไปทางถนนเพชรบุรี โดยห่างจาก MRT เพชรบุรีไปประมาณ 300 ม. จัดว่าเป็นระยะที่เดินได้ง่าย ไม่ไกลมาก ตัวโครงการนี้อยู่ใกล้กับ The Lofts อโศก ที่พึ่งสร้างเสร็จไปเมื่อช่วงปีที่แล้ว (2016) แต่เรื่องราคาต่างกันลิบลับแลกมากับความเก่าของโครงการที่สร้างเสร็จมาแล้วประมาณ 6-7 ปี เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้กับคนที่มีงบจำกัด แต่ได้อยู่คอนโดย่านอโศกแท้จริง

ราคาขาย Resale ปัจจุบัน (2018) : ~100,000 – 120,000 บาท/ตร.ม.

ขนาดห้องที่อยู่ในงบ 5.xx ล้านบาท ในโครงการ Sukhumvit Living Town

  • 1 Bedroom ขนาด 53 – 60 ตร.ม. (เฉพาะบางห้องเท่านั้น)


สรุปโครงการ ขนาดห้องและราคา

โครงการ
สถานะโครงการ ห้องพักอาศัย ราคา (2018)
อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง สร้างเสร็จพร้อมอยู่ แบบห้อง ขนาดพื้นที่ใช้สอย (ตร.ม.) ราคาต่อตร.ม. ราคารวม (ล้านบาท)
Villa Asoke / 1 Bedroom 40 120k – 140k 4.8 – 5.6
Supalai Premier Asoke
/
Studio 33.5 – 39
110k – 155k
~3.7 – 4.29 (เริ่มต้น)
1 Bedroom 50 เริ่ม 5.5 (เฉพาะบางห้องเท่านั้น)
Ideo Mobi Asoke / 1 Bedroom 24 – 28 180k – 200k 4.32 – 5.6
My Resort Bangkok
/
Studio 34 – 36
95k – 110k
3.23 – 3.96
1 Bedroom 38 – 50 3.61 – 5.5
Rende Sukhumvit 23 / 1 Bedroom 35 – 40.5 140k – 155k เริ่มต้น 4.9 (เฉพาะบางห้องเท่านั้น)
Edge Sukhumvit 23 / 1 Bedroom 29.5 – 33 200k – 260k เริ่มต้น 5.9 (เฉพาะบางห้องเท่านั้น)
Le Cote Sukhumvit 14 / 1 Bedroom 28 – 39 140k – 160k เริ่มต้น 3.92 – 5.46
Asoke Place
/
1 Bedroom 60
85k – 110k
เริ่มต้น 5.1
2 Bedrooms 75 – 80 (เฉพาะบางห้องเท่านั้น)
Supalai Premier Place Asoke / 1 Bedroom 53 – 60 100k – 120k เริ่มต้น 5.3
Grand Park View Asoke
/
Studio 28 – 32
85k – 100k
2.38 – 3.2
1 Bedroom 32 – 45 2.72 – 4.5
Sukhumvit Living Town / 1 Bedroom 53 – 60 100k – 120k เริ่มต้น 5.3

 

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ที่มองหาคอนโดในย่านอโศก แต่ติดที่งบไม่เกิน 5.xx ล้านบาท สามารถหาคอนโดที่ดีต่อใจและดีต่อกระเป๋าตังค์ได้นะคะ แต่อย่าลืมว่าทั้งนี้ทั้งนั้นผู้อ่านควรจะต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเองด้วยนะคะ เช่น ไปสำรวจโครงการเอง ติดต่อเจ้าของห้อง (สำหรับโครงการ Re-Sale) เพราะราคาและข้อมูลต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดนะคะ และทั้งนี้หากมีโครงการไหนที่ผู้อ่านอยากเพิ่มเติม หรือทางผู้เขียนตกหล่นไป สามารถ Comment คุยกันได้ด้านล่างเลยนะคะ ทางผู้เขียนจะอัพเดตข้อมูลให้เรื่อยๆ เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกคนค่ะ ^^


มาถึงตอนนี้เราก็พอรู้แล้วว่า ถ้าอยากจะมีคอนโดซักหลังจะซื้อคอนโดราคาเท่าไหร่ถึงจะกู้ได้ไม่เหนื่อยและเหมาะกับความสามารถในการผ่อนชำระของเรา ต่อมาก็จะเป็นคำถามต่อว่า แล้วทำเลไหน โครงการไหนที่เงินเดือนอย่างเราเหมาะสมในการกู้ซื้อ…

ทางทีมนักวิเคราะห์อสังหาริมทรัพย์จาก Think of Living เราได้รวบรวมข้อมูลโครงการครบทุกฐานเงินเดือนและ Segment โครงการในแต่ทำเล ให้คุณผู้อ่านของเราได้รู้กันแล้วค่ะ กับหนังสือ “ซื้อคอนโด ตามเงินเดือน”

“พร้อมรับหนังสือฟรีกันในงาน Think of Living Expo 2018 ในวันท่ี 16-19 สิงหาคม 2018 ชั้น 1 สยามพารากอน”