ฺBranded Residence

ตลาดคอนโดมิเนียมปัจจุบันนี้มีการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ มี Supply ใหม่ๆผุดขึ้นมาแข่งกันไม่ขาดสาย แต่ละโครงการต่างก็มีการงัดเอาจุดเด่นต่างๆมาเป็นจุดขาย หนึ่งในนั้นก็คือ คอนโด Branded Residence ที่มีเซอร์วิสแบบโรงแรม  โครงการประเภทนี้จะเป็นอย่างไรและมีที่ไหนบ้าง เรารวบรวมมาให้แล้วลองมาอ่านกันดูค่ะ 

คอนโด Branded Residence คืออะไร?

“คอนโด Branded Residence คือคอนโดที่มีการจับมือกันระหว่าง Developer กับแบรนด์อื่นๆ เพื่อสร้างความแตกต่างด้วยจุดเด่นของ Partner ที่มาร่วม”

ดังนั้นจึงไม่จำเป็นว่า Branded Residence จะต้อง Co-branding กับโรงแรมและมี Hotel Service อย่างที่เรารู้จักกันเท่านั้น แต่สามารถจับคู่กับแบรนด์อะไรก็ได้เพื่อสร้าง Value ให้กับโครงการ เช่นร่วมมือกับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ แบรนด์แฟชั่น หรือสถาปนิก-ดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียง

Branded Residence มีกี่แบบ?

ถึงแม้ว่าบ้านเราจะคุ้นเคยกับ Branded Residence ที่จับคู่กับแบรนด์โรงแรมชั้นนำ แต่จริงๆแล้วโครงการที่อยู่อาศัยประเภทนี้ สามารถแบ่งออกมาได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ

  • Hotel Branded Residence เป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่มี แบรนด์โรงแรมมาบริหารอาคารและดูแลพื้นที่ส่วนกลางให้ได้ตามมาตรฐานของแบรนด์นั้นๆ โดยบางโครงการอาจจะมีบริการทางด้านการลงทุนเพิ่มเติม ส่วนใหญ่โครงการในลักษณะนี้จะมีการใช้ชื่อโครงการตามแบรนด์ที่มาจับมือด้วย เช่น Banyan Tree Residences , Four Seasons Private Residence Bangkok เป็นต้น
  • Non –  Hotel  Branded Residence เป็น Branded Residence ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้แบรนด์โรงแรมอย่างกลุ่มก่อนหน้า แต่อาจจะจับมือกับแบรนด์ประเภทอื่นๆ เพื่อเพิ่ม Value ให้กับโครงการ เช่นโครงการ KHUN by YOO ที่จับมือกับดีไซเนอร์ YOO Studio หรือคอนโดบางแห่งจะมีเซอร์วิสแบบโรงแรมคล้ายกับ Hotel  Branded Residence แต่ไม่ได้จับมือกับแบรนด์โรงแรมเหมือนอย่างกลุ่มแรก แต่เป็นการจัดหาบริการผ่านทางบริษัทตัวกลาง จึงทำให้หลายๆคนเข้าใจว่ากลุ่มนี้เป็น Hotel Branded Residence เช่น โครงการ Walden (Walden อโศก , Walden สุขุมวิท39 , Walden ทองหล่อ8 ) จาก Habitat Group ที่มีการดูแลด้วยบริการมาตรฐานญี่ปุ่นจาก L’axe JALUX โดย JALUX เป็นบริษัทที่รับบริหารจัดการเท่านั้นไม่ได้เป็นแบรนด์โรงแรมค่ะ

จุดเด่นของโครงการ Branded Residence

  • สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการได้ เนื่องจากได้รับการดูแลและบริหารอาคารภายใต้มาตรฐานของแบรนด์นั้นๆ ทำให้ตัวอาคารและพื้นที่ส่วนกลางมีสภาพที่ดีอยู่เสมอ รวมถึงการออกแบบและวัสดุที่ใช้ในโครงการก็ต้องได้มาตรฐานตามแบรนด์ที่มาร่วมด้วย
  • ในกรณีที่โครงการมีบริการต่างๆเพิ่มเข้ามา เราก็จะได้ความสะดวกสบายเหมือนเข้าพักในโรงแรมของแบรนด์นั้น ๆด้วยค่ะ
  • จาก 2 ข้อที่กล่าวมาทำให้โครงการ Branded Residence ส่วนใหญ่สามารถปล่อยเช่าได้ในราคาที่ดี (Rental Yield) และทำให้โครงการมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต (Capital Gain)
  • ลูกบ้านมักจะได้รับสิทธิพิเศษ หรือบริการพิเศษจาก Branded Residence เช่น การแลกคะแนนสะสมเพื่อเข้าพักโรงแรมในเครือ ส่วนลดพิเศษสำหรับการเข้าพัก สิทธิพิเศษสำหรับการใช้ส่วนกลางของโรงแรมในเครือเป็นต้น

ข้อควรระวังในการเลือกซื้อ Branded Residence

  • ในกรณีที่โครงการอยู่บนอาคารเดียวกับโรงแรม อาจจะมีการแบ่งโซน แบ่งชั้น แบ่งการใช้ Facilities  ดังนั้นเราจะต้องพิจารณาถึงความเป็นส่วนตัวด้วย
  • คอนโดที่มีบริการต่างๆเพิ่มเข้ามา เราต้องสอบถามด้วยว่าค่าส่วนกลางครอบคลุมบริการนั้นๆหรือไม่ ถ้าไม่รวมเราอาจจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้เพิ่มเติมด้วยค่ะ บางแห่งก็จะมีทั้งบริการที่รวมในค่าส่วนกลางเรียบร้อยแล้วและส่วนที่ไม่รวม ต้องเช็คดูให้ดีค่ะ
  • แบรนด์ที่มาเป็น Partner จะมีการทำสัญญาว่าจะมาร่วมกันกี่ปี หมายความว่าถ้าหมดสัญญาทางลูกบ้านและนิติบุคคลมีสิทธิ์ที่จะเลือกหรือไม่เลือก Partner นั้นต่อก็ได้ ในกรณีที่ไม่เลือกโครงการนั้นก็จะมีแบรนด์โรงแรมมาดูแลเท่ากับปีที่ตกลงกันไว้เท่านั้น

Hotel Branded Residence

สำหรับ Hotel Branded Residence ถ้าย้อนกลับไปราว 30 ปีที่แล้ว โครงการประเภทนี้เริ่มเป็นที่รู้จักในไทยในรูปแบบของคอนโดมิเนียมระดับหรูที่ตั้งอยู่ในทำเล Prime Area ใจกลางเมืองเช่น ย่านลุมพินี ราชดำริ สาทร โดยกลุ่มลูกค้าจะเป็นคนที่อยากได้ความสะดวกสบายและบริการจากเครือโรงแรมที่มาบริหาร ส่วนใหญ่มักจะซื้อเพื่ออยู่เอง ส่วน Hotel  Branded Residence อีกแบบจะอยู่ในเมืองตากอากาศอย่าง ภูเก็ต พัทยา หัวหิน โดยกลุ่มที่ซื้อคอนโดประเภทนี้จะเป็นกลุ่มที่ซื้อเพื่อการลงทุนและยังสามารถเข้าพักในคอนโดของตัวเองได้ตามจำนวนวันที่โครงการกำหนด

จุดเด่นของโครงการประเภทนี้คือบริการต่างๆที่เราจะได้เสมือนอยู่โรงแรม โดย Service ที่มักจะเพิ่มเข้ามาในโครงการมีดังนี้

  • Concierge Service & Reception – พนักงานอำนวยความสะดวกส่วนบุคคล บริการรับ-ส่งจดหมาย , บริการจองเวลาสำหรับสิ่งอำนวยความสะดวก , บริการรถยนต์ , บริการรถลีมูซีน , บริการขนย้ายกระเป๋าเดินทาง , บริการทำความสะอาดรถยนต์ , บริการข้อมูลสำหรับกิจกรรมสำคัญต่างๆ
  • Doorman & Security – พนักงานเปิด-ปิดประตู  และพนักงานรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  •  Housekeeping & Maid Services – บริการดูแลห้องพัก ทำความสะอาด บริการซักรีด บริการอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงบริการดูแลความเรียบร้อยของที่พักอาศัย
  • Shuttle Service – บริการรถรับส่งส่วนตัว ด้วยรถ Shuttle Service
  • Personal Fitness Trainers – เทรนเนอร์ฟิตเนส
  • Maintenance – บริการซ่อมบำรุงห้องพักและดูแลส่วนกลาง
  • Investment Management – บริหารการเช่าด้วยทีมงานมืออาชีพ

โดยบทความนี้เราจะโฟกัสไปที่คอนโดที่มีเซอร์วิสแบบโรงแรม ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการบริการที่สะดวกสบายนะคะ  ตัวอย่างโครงการ Hotel Branded Residence ที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯได้แก่

The Ritz-Carlton Residences, Bangkok

ฺBranded Residence

The Ritz-Carlton Residences, Bangkok เป็นคอนโดระดับ Ultimate Class ที่ตั้งอยู่ในโครงการ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ตึกที่สูงที่สุดและถือเป็น Landmark ของประเทศไทยในตอนนี้ ตึกนี้ไม่ได้มีแต่คอนโดนะคะ แต่เป็นโครงการใหญ่ที่รวมโครงการเล็กๆหลายโครงการไว้ด้วยกัน เช่น Edition Hotel, The Ritz-Carlton Residences และ MahaNakhon Retail and Terrace Bar โดยส่วนที่เป็นคอนโดจะจับมือกับแบรนด์ของโรงแรมที่สูงที่สุดในเครือ Marriott อย่าง The Ritz-Carlton Residences โครงการนี้มีการออกแบบภายในอย่างสุดหรูด้วยฝีมือของ David Collins สตูดิโอของมัณฑนากรระดับกูรู

โครงการนี้จะมีการจัดแบ่งของตัวอาคารเป็นหลายโซนไล่ตั้งแต่ชั้น 1-20 เป็นโซนโรงแรม ชั้น 6 เป็น Facility ของโรงแรมและชั้น 7 เป็น Facility ของลูกบ้านโดยมีสระว่ายน้ำ, สวน, ลานอาบแดด, ศูนย์โยคะ, ห้องฟิตเนส, ห้องPilates , ห้องฉายภาพยนตร์และเกมส์รูม โดยลูกบ้านสามารถลงไปใช้ในส่วนของ Edition Hotels ได้ ซึ่งเป็นเครือ Mariott เหมือนกันกับ Ritz-Carlton อยู่แล้ว และถ้าต้องการจะซื้อของเข้าบ้านหรือหาร้านอาหารรับประทานก็สามารถแวะไปใช้บริการที่ MahaNakhon Retail ได้เช่นกัน

สำหรับห้องพักอาศัยจะมียูนิตพักอาศัยไม่มากนักเพียง 209 ห้อง จัดเป็นห้องขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านลอยฟ้าด้วยขนาดตั้งแต่ 125 -884 ตร.ม. แบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนเรสซิเดนซ์ ตั้งแต่ชั้น 23 – 53 และ โซนสกาย เรสซิเดนซ์ ตั้งแต่ชั้น 57 – 73 ค่ะ

ส่วนใครอยากอ่านรีวิวย้อนหลังและชมวีดีโอของตึกนี้สามารถ คลิกอ่านได้ที่ Link ด้านล่างเลยค่ะ

The Residences at Mandarin Oriental, Bangkok

Image 1/8
The Residences At Mandarin Oriental Bangkok

The Residences At Mandarin Oriental Bangkok

The Residences At Mandarin Oriental Bangkok เป็นอีกหนึ่งโครงการที่พักอาศัยโดย ICONSIAM ที่ตามโครงการ Magnolias Waterfront Residences ที่อยู่ข้างกันมาติดๆ ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise 52 ชั้น สุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยากับจำนวนห้องเพียง 146 ยูนิต ตั้งอยู่บนถนนเจริญนครใกล้กับแยกคลองสาน ติดกับ ICONSIAM โครงการนี้มีการบริการและจัดการโดยแบรนด์โรงแรมระดับตำนานอย่าง Mandarin Oriental โดยผู้อยู่อาศัยจะได้รับการบริการตามมาตรฐานเครือแมนดารินและสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น Early Check-In และ Late Check-Out รวมถึง Discount ในแต่ละที่ทั่วโลก

สำหรับการออกแบบจะเน้นการเปิดมุมมองอาคารให้ห้องพักอาศัยทุกห้องได้รับวิวแม่น้ำ และลดความร้อนจากภายนอกด้วยการคำนวณรูปทรงอาคารและระบบภายในอาคารที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงมากมาย ห้องพักอาศัยของที่นี่จะมีให้เลือกทั้งแบบ Fully Fitted ที่จะได้เฉพาะ Built-in บางส่วน กับแบบ Fully Furnished ที่ได้เฟอร์นิเจอร์เหมือนกับห้องตัวอย่าง ที่ออกแบบทั้งหมดโดย Joyce Wang นักออกแบบหญิงชาวฮ่องกง โดยจะมีราคาเฉลี่ย 550,000 – 750,000 บาท/ตร.ม. (Fully Furnished)

Four Seasons Private Residence Bangkok

โครงการนี้เป็นคอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา จาก Country Group Development ที่จับมือกับแบรนด์โรงแรม Four Seasons ตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 36 ไร่ ย่านเจริญกรุง 64 (ทำสัญญาเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 75 ปี) ในโครงการ Chao Phraya Estate ซึ่งประกอบด้วยโรงแรมห้าดาว 2 แห่งและที่พักอาศัย 1 แห่ง ได้แก่

  • คอนโด Four Seasons Private Residences Bangkok at Chao Phraya River เป็น High Rise สูง 73 ชั้น 366 ยูนิต ทุกห้องเห็นวิวแม่น้ำแบบห้องหัวมุม ราคาขายเฉลี่ยปัจจุบันอยู่ที่ 380,000 บาทต่อตารางเมตร มีรูปแบบห้องที่หลากหลาย ตั้งแต่ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่เริ่มต้น 106 ตร.ม. ไปจนถึง Penthouse (Sky Mansion) ขนาด 1,054 ตร.ม.
  • โรงแรม Four Seasons Hotel Bangkok at Chao Phraya River โรงแรมสไตล์เออเบิร์นรีสอร์ท สูง 12 ชั้น ตั้งอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา  มีพื้นที่โรงแรมประมาณ 22 ไร่ จำนวน 299 ห้อง 
  • โรงแรม Capella Bangkok สูง 10 ชั้น เป็นโรงแรมบูติกรีสอร์ทริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกของกรุงเทพฯที่ให้บริการห้องพักแบบสวีททั้งหมดและวิลล่ารวมทั้งสิ้น 101 ห้อง

Banyan Tree Residences Riverside Bangkok

Image 1/3
Banyan Tree Residences Riverside Bangkok

Banyan Tree Residences Riverside Bangkok

Banyan Tree Residences Riverside Bangkok  เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ และ ไดอิ กรุ๊ป กับ Banyan Tree Group ที่เป็น Hotel Chain ระดับโลกให้เข้ามาบริหารงาน ให้เป็นคอนโดหรูที่ได้รับบริการเสมือนโรงแรม ตัวอาคารเป็นคอนโดมิเนียมสูง 45 ชั้น จำนวน 133 ยูนิต พร้อมมีห้องพักอาศัยสูงสุดเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น รวมถึงยังมีลิฟต์โดยสารถึง 6 ตัว ซึ่งอัตราส่วนการใช้งานลิฟต์เพียง 22 : 1 ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยทีเดียว

โดยตัวโครงการอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านคลองสาน  มาพร้อมระยะห่างแม่น้ำเพียง 16 เมตร และมี le Boat ให้บริการสำหรับลูกบ้าน ตอบโจทย์คนที่ต้องการอยู่โครงการระดับ ULTIMATE CLASS ที่เน้นความเป็นส่วนตัว บรรยากาศร่มรื่น และเงียบสงบ หน้าต่างอาคารจะเป็นครึ่งวงกลม ที่ด้านริมแม่น้ำจะเป็นกระจกทั้งหมด ส่วนด้านหลังบริเวณส่วน Service จะเป็นแผ่นเหล็กแบบเจาะรู ทำให้สามารถระบายความร้อนได้ดี ทำให้เป็นเอกลักษณ์ของโครงการนี้

โครงการนี้มีห้องทั้งหมด 5 แบบ เริ่มตั้งแต่ 1 Bedroom Room ขนาด 69.40-85.45 ตร.ม. จนถึงห้อง Penthouse Duplex ขนาด 838.70 ตร.ม. รวมถึงยังมีที่จอดแบบ Fix ถึง 200% จำนวนตามขนาดห้อง โดยมีราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 300,000 บาท/ตร.ม.

Dusit Residences & Dusit Parkside

Image 1/8
Dusit Residences

Dusit Residences

คอนโด Dusit Residences และ Dusit Parkside ตั้งอยู่ในโครงการ Dusit Central Park โครงการขนาดใหญ่ที่ทางดุสิตธานีรื้อถอนโรงแรมดุสิตธานีเดิมแล้วสร้างกลุ่มอาคารขึ้นมาใหม่ โดยจับมือกับเซ็นทรัลพัฒนาเพื่อพัฒนาโครงการออกมาในรูปแบบ Mixed – Use มี โรงแรม คอนโดมิเนียม ศูนย์การค้า ออฟฟิศ และยังออกแบบให้มีพื้นที่สาธารณะเป็นพื้นที่สีเขียวมากถึง 7 ไร่ ที่จะกลายเป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วยค่ะ

ในส่วนของคอนโดมิเนียมเป็น High Rise 1 อาคาร สูง 69 ชั้น ขายแบบ Leasehold ซึ่งใน 1 อาคารจะประกอบด้วย 2 แบรนด์นั่นก็คือ

  • ดุสิต เรสซิเดนเซส (Dusit Residences) ที่ชั้น 9 – 29 มีจำนวนห้องพัก 160 ยูนิตห้องพักจะมีขนาดใหญ่เริ่มตั้งแต่ 2-4 ห้องนอน และ Penthouse พื้นที่ตั้งแต่ 120 – 750 ตารางเมตร ทำออกมาในรูปแบบที่เน้นความหรูหรา คลาสสิค มีความเป็นส่วนตัว (Elegant Style)
  • ดุสิต พาร์คไซด์ (Dusit Parkside) ที่ชั้น 30 – 69 จำนวนห้องพัก 246 ยูนิต เป็นห้องชุดขนาด 1- 2 ห้องนอน พื้นที่ตั้งแต่ 55 – 115 ตารางเมตร ที่ทำออกมาโดยเน้นความทันสมัยและร่วมสมัย (Contemporary Style)

โครงการนี้ออกแบบโดยบริษัทสถาปนิกอันดับหนึ่งของไทยที่มีความเชี่ยวชาญระดับโลกอย่าง A49 ซึ่งทางผู้ออกแบบอธิบายไว้ว่าทุกยูนิตจะต้องมองเห็นวิวสวนลุมพินี ซึ่งเค้าตั้งใจออกแบบให้ Layout ทุกยูนิตหันหน้าเข้าสวนลุมพินีได้ทั้งหมด และมุมมองในแต่ละห้องในทุกยูนิตไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน ก็สามารถเทควิวธรรมชาติของสวนลุมพินีได้ด้วย ส่วนรูปแบบอาคารจะเน้นความอยู่สบาย โปร่งโล่ง ไม่มีจุดอับ สัมผัสธรรมชาติค่ะ ส่วน Service ต่างๆที่มีให้ลูกบ้านจะบริหารงานโดยดุสิตธานีค่ะ

The Residences at Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok

Image 1/7
The Residences at Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok

The Residences at Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok

The Residences at Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok เป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 33 ชั้นในโครงการ Sindhorn Village  ที่ประกอบไปด้วยที่อยู่อาศัยทั้งหมด 5 โครงการ , โรงแรมระดับ 5 ดาว 2 โครงการ และ ส่วนของ Retails (Community Mall )

โดยโครงการนี้จะเป็น Branded Residence ที่มีบริการจากโรงแรม Kempinski เพิ่มขึ้นมาไม่ว่าจะเป็น Concierge Service, การบริการสั่งอาหารจากโรงแรม, บริการสปา, บริการทำความสะอาด และซัก – รีดเพิ่มเติมด้วย ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยที่นี่จะสามารถเพิ่มความสะดวกสบายเหมือนกับอยู่โรงแรมได้เลย แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในแต่ละบริการนะคะ

จุดเด่นของโครงการนอกจากบริการต่างๆแล้วผู้อยู่อาศัยจะได้ความเป็นส่วนตัวจากจำนวนยูนิตต่อชั้นที่ไม่เกิน 10 ยูนิต และเป็นคอนโดมิเนียม High Rise ใจกลางเมืองที่มองเห็นวิวสวนลุมพินี ห้องพักอาศัยภายในโครงการนี้จะมีให้เลือกหลากหลายเริ่มต้นที่ห้อง Studio ขนาด 52 ตารางเมตร มีห้อง 1 – 4 Bedrooms ตอบโจทย์ของคนทำงานที่ต้องการอยู่คนเดียว ไปจนถึงครอบครัวขนาดใหญ่อยู่กัน 3 Generation เลยก็ได้ค่ะ

Wyndham Residence

ฺBranded Residence

ไม่ใช่ว่า Branded Residence จะมีแต่โครงการที่อยู่ใน Ultimate Class เท่านั้นแต่ก็มีโครงการที่ราคาไม่แรงมาก คนส่วนใหญ่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้เช่นกัน อย่างเช่นโครงการของ Siamese Asset ที่ตอนนี้จะมีการนำเอา 4 โครงการมาปรับเป็น Branded Residence และมีการเปลี่ยนชื่อตามแบรนด์ที่มาร่วมพ่วงท้ายด้วย Residence โดยแบรนด์ที่มาร่วมด้วยทาง Siamese Asset จะพิจารณาเลือกให้เหมาะสมกับแบรนด์และทำเลของโครงการนั้นๆค่ะ

เริ่มกันที่ Wyndham Residence หรือแต่เดิมคือ Siamese Exclusive Queens ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise ตั้งอยู่ ในซอยไผ่สิงห์โต ที่ห่าง MRT ศูนย์ประชุมฯเพียง 50 เมตร ใกล้สวนเบญจกิติและจุดขึ้น-ลง ทางด่วนพระราม 4 มาพร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางบนชั้นดาดฟ้าทั้ง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Sky Club Business Center นอกจากนั้นยังได้บริการต่างๆของ Branded Residence จาก Wyndham Hotel Group เครือโรงแรมจากสหรัฐอเมริกา เพิ่มเข้ามาด้วย

ส่วนห้องพักอาศัยจะมีให้เลือกทั้ง 1-3 Bedrooms และ Penthouse 154.04 ตร.ม. เริ่มต้นด้วย 1 Bedroom ขนาดใหญ่ 34 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นประมาณ 5.59 ล้านบาท (April 2021) โดยการออกแบบแปลนห้องจะเน้นการเปิดรับวิวซึ่งเราจะได้กระจกบานใหญ่ รับแสงได้เต็มที่ค่ะ

Wyndham Garden Residence

ฺBranded Residence

Wyndham Garden Residence (Siamese Exclusive 42) เป็นคอนโด High Rise สูง 31 ชั้น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองทั้งเอกมัย ทองหล่อ โดยอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าเอกมัยในระยะเดินได้สบายๆประมาณ 300 เมตร

โครงการนี้ตัวอาคารแยกออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนที่เป็นอาคารสูง จะเป็นพื้นที่ Lobby และห้องพักอาศัย อีกส่วนหนึ่งคืออาคารเล็กๆ สูง 7 ชั้น ที่ทางโครงการได้ออกแบบแยกพื้นที่ส่วนกลางเพื่อให้มีความสะดวกกับการใช้งานของทั้งผู้เช่าและผู้อยู่อาศัยหลักอาคารนี้จะเป็นส่วนของที่จอดรถอัตโนมัติ Facilities ส่วนกลางของโครงการนี้จะจัดเต็มมาพิเศษคือจะมีสระว่ายน้ำ 2 สระ ห้อง Fitness 2 ห้อง ที่ชั้น 7 และชั้น 31 ส่วนห้องพักมีการออกแบบให้ดูโปร่งด้วยความสูงฝ้าเพดาน 2.9 เมตร เริ่มต้นที่ 1 Bedroom 33.67-42.99 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท (April 2021)

Ramada Plaza Residence

ฺBranded Residence

Ramada Plaza Residence  หรือชื่อเดิมคือ Siamese Sukhumvit 48 โครงการนี้เป็นคอนโด High Rise 39 ชั้น ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ห่างจากรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุชประมาณ 350 เมตร

จุดเด่นคือโครงการนี้เป็นอาคารที่สูงในสุดย่านสุขุมวิท สามารถเห็นวิวใจกลางกรุงเทพฯและแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ห้องพักมีให้เลือกทั้ง 1-2 Bedrooms ขายแบบ Fully Furnished ในราคาเริ่มต้น 4.4 ล้านบาท (April 2021)

Ramada Residence

ฺBranded Residence

Ramada Residence (Siamese Sukhumvit 87) เป็นคอนโด High Rise 25 ชั้น ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่สุขุมวิท บนทำเลอ่อนนุช ห่าง BTS อ่อนนุช 500 เมตร สามารถเดินทางเข้าสู่ทองหล่อ-เอกมัยได้สะดวก

โครงการนี้มี Facilities ให้ใช้ครบครัน มีห้องให้เลือกทั้งแบบ 1 Bedroom , 1 Bedroom Plus , 2 Bedrooms ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 29.45 – 63.16 ตร.ม. โดยจะมีห้องฝ้าเพดานสูง 4.6 เมตรให้เลือกด้วยค่ะ ส่วนราคาเริ่มต้นของโครงการจะอยู่ที่ 4.4 ล้านบาท (April 2021)

Landmark @Grand Station by Siamese Asset

Image 1/5
Landmark @Grand Station

Landmark @Grand Station

Landmark @Grand Station เป็นโครงการใหม่ล่าสุดจาก  Siamese Asset  ที่พัฒนาออกมาเป็น Mixed – Use ที่มีทั้งที่พักอาศัย โรงแรม ออฟฟิศ ร้านค้า ร้านอาหาร ดังนั้นจึงได้เปรียบในเรื่องของความสะดวกสบาย ในส่วนของคอนโดมิเนียมเองจะแบ่งออกเป็นอีก 2 Towers ได้แก่ Tower ที่เป็น Branded Residences คอนโดที่มีบริการแบบโรงแรม และอีก Tower เป็น Siamese Residence คอนโดมิเนียมทั่วไป ทั้งสองส่วนนี้จะแยกพื้นที่ส่วนกลางออกจากกันอย่างชัดเจน ไม่สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง และบนชั้น Roof Top ของฝั่ง Branded Residence จะมีส่วนของ Restaurant ที่ด้านบนนี้ด้วย

โครงการนี้จะจับมือกับแบรนด์ Cassia Residences โดย Banyan Tree Group ห้องพักอาศัยของโครงการ Landmark @Grand Station จะเป็นแบบห้องเพดานสูงทั้งหมด ซึ่งภายในจะถูกออกแบบมารองรับหลายกลุ่ม เช่น ห้องที่ออกแบบมาสำหรับผู้สูงอายุ ,ห้องที่ถูกออกแบบสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง และห้องที่แยกความเป็นส่วนตัวภายในห้องเพดานสูงอย่างชัดเจน ซึ่งจะได้ Feeling เหมือนบ้าน 2 ชั้น

นอกจากนั้นยังได้ Siamese Technology มาหลายอย่างเลย ประกอบไปด้วยระบบหมุนเวียนอากาศภายในห้องพักอาศัย, กระจกประหยัดพลังงาน,  ระบบท่อน้ำที่แยกท่อระบายอากาศของท่อน้ำเสียออกจากกัน,  ระบบกันเสียงรบกวนจากภายนอก, ระบบเดินท่อในคอนกรีตที่ง่ายแก่การซ่อมบำรุงภายในห้อง โดยโครงการนี้จะมีราคาเริ่มต้น 1.98 ล้านบาท โดยมีราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 65,000 บาท/ตร.ม.

Branded Residence เป็นคอนโดประเภทหนึ่งที่เหมาะกับกลุ่มคนที่อยากได้ความสะดวกสบายจากบริการต่างๆของโรงแรม และถ้ามองในมุมของผู้ประกอบการณ์ปัจจุบันตลาดคอนโดมิเนียมมีการแข่งขันที่สูง จุดเด่นที่แต่เดิม Developer นำมาใช้เป็นจุดขายเช่น คอนโดใกล้รถไฟฟ้า คอนโดที่มีพื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็ม อาจจะไม่เพียงพอให้คนตัดสินใจซื้อ ดังนั้นพักหลังๆเราจึงเริ่มเห็นโครงการที่ราคามาก เปลี่ยนทิศทางมาพัฒนาโครงการในรูปแบบ Branded Residence มากขึ้น ซึ่งบริการต่างๆนี้จะช่วยให้คอนโดมิเนียมสามารถเพิ่มมูลค่า (Value Added) ได้ ทำให้กลุ่มลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่ามากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามก่อนซื้อควรพิจารณาถึงเงื่อนไขต่างๆเช่น บริการนี้จะมีอยู่ถึงกี่ปี มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือไม่ และแบรนด์ที่เข้ามาบริหารเป็นใคร มีจุดเด่นอะไร เหมาะกับเรามั้ย เพื่อที่เราจะได้คอนโดที่ตรงใจเรามากที่สุดค่ะ


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc