สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้ากันอยู่ เราอยากถามหน่อยว่าเพื่อนๆมีภาพคอนโดในฝันกันบ้างมั้ยคะ? หากเราถามถึงคอนโดในฝันว่าอยากได้ทำเลแบบไหน เพื่อนๆจะเลือกตอบข้อไหนกันบ้าง

  1. เดินทางง่าย ไปไหนมาไหนได้สะดวก อยู่ใกล้รถไฟฟ้าก็ยิ่งดี
  2. ใกล้ที่ทำงาน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาและเหนื่อยกับการเดินทางไป-กลับเป็นชั่วโมง
  3. ใกล้ห้าง ซื้อของกินของใช้ได้ง่าย เวลาเบื่อๆก็มาเดินเล่นได้
  4. ใกล้สวนสาธารณะ เวลาว่างๆก็เดินไปออกกำลังกายได้เลย ถ้าได้วิวสวนจากในห้องคือที่สุด
  5. ราคาไม่แรง เอื้อมถึงและจับต้องได้ เอาที่ผ่อนได้ไม่ลำบาก
  6. ถูกทุกข้อ

สำหรับคำตอบของเราก็ต้องเป็นข้อ 6 แน่นอนอยู่แล้ว เราคงอยู่อาศัยและใช้ชีวิตแบบสะดวกสบายสุดๆเลยล่ะ แต่ความเป็นจริงมันมีจริงๆหรอ คอนโดที่ทำเลดีขนาดนี้ทั้งเดินทางง่าย ใกล้ที่ทำงาน ใช้งานรถไฟฟ้าก็ง่าย เดินไปห้างและสวนสาธารณะได้สะดวก ที่สำคัญคือราคาไม่แรงด้วย!!

วันนี้เราจึงพามาแนะนำคอนโดห้าแยกลาดพร้าวกันค่ะ เพราะเป็นทั้งย่าน Office Building ใกล้รถไฟฟ้า 3 สายทั้ง BTS สายสีเขียวอ่อน, MRT สายสีน้ำเงินและสีเหลือง เดินไปห้างใหญ่อย่าง Central ลาดพร้าว, Union Mall และห้างใหม่ Central พหลโยธินได้ง่าย นอกจากนั้นยังไปออกกำลังกาย รับอากาศบริสุทธิ์ที่สวนรถไฟ สวนจตุจักร และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พื้นที่กว่า 700 ไร่ได้ด้วยค่ะ รวมถึงคนที่มีงบเริ่มต้นประมาณ 3 ล้านบาทก็ซื้อได้นั่นเอง ทำให้คอนโดห้าแยกลาดพร้าวถือเป็นทำเลคอนโดยอดฮิตที่คนหาซื้อหรือเช่าอยู่เสมอเลยนะคะ

ดังนั้นในบทความนี้เราได้รวบรวมคอนโดห้าแยกลาดพร้าวที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ มีอายุไม่เกิน 5 ปี และระยะห่างจากเส้นลาดพร้าวไม่เกิน 1 กิโลเมตรมาฝากกันค่ะ แล้วจะมีโครงการอะไรบ้าง ตามมาชมกันได้เลย

เราขอเกริ่นถึงทำเลลาดพร้าวกันสักหน่อยว่าก่อนจะเป็นทำเลฮิตทั้งตลาดอยู่อาศัยเองและปล่อยเช่า ก่อนหน้านี้ทำเลนี้เป็นมายังไงบ้าง

“ถนนลาดพร้าว” มีจุดเริ่มต้นที่ห้าแยกลาดพร้าว ที่เป็นจุดตัดกับถนนพหลโยธินและวิภาวดีรังสิต ไปสิ้นสุดที่แยกลำสาลี(บางกะปิ) ตรงจุดตัดถนนนวมินทร์และถนนพ่วงศิริค่ะ ซึ่งทุกคนน่าจะมีประสบการณ์หรือได้ยินกันมาบ้างว่าถนนเส้นนี้รถติดมากกกก เพราะเป็นโซนแหล่งชุมชนที่มีคนอยู่อาศัยกันอย่างหนาแน่น ทำเลนี้จึงเป็นที่รู้กันดีว่าอุดมสมบูรณ์และครบครันมากแค่ไหน รอบๆห้าแยกลาดพร้าวจะเต็มไปด้วยศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าไม่ว่าจะเป็น Union Mall, Central ลาดพร้าว, Central พหลโยธิน (เปิดในปี 2571) และ Hypermarket อย่าง Lotus’s รวมถึงมีสถานศึกษาอย่างโรงเรียนหอวังและมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์นด้วย อีกทั้งเป็นทำเลที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถสาธารณะก็ง่าย เรียกว่าอยู่อาศัยและใช้ชีวิตได้สะดวกสุดๆ

แน่นอนว่าความคึกคักของทำเลก็ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนแล้ว ยังเป็นย่าน CBD ของกรุงเทพตอนเหนือ มีอาคารสำนักงานหลายแห่ง แต่หลังจากมีแนวรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินตัดผ่านในปี 2547 ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการเดินทางบนทำเล ก็เริ่มมีโครงการคอนโดตามแนวรถไฟฟ้า ทำให้มีผู้คนอยู่อาศัยบนทำเลที่มากขึ้น สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆก็เริ่มตามมาอีก

แต่ช่วงที่ Peak สุดของทำเลลาดพร้าว คือ แผนโครงการรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยาย ตั้งแต่สถานีห้าแยกลาดพร้าว-คูคต และเปิดบริการใช้งานในปี 2562 นั่นเอง</span> ทำให้สถานีห้าแยกลาดพร้าวเป็น Interchange Station ของสายสีเขียวและสายสีน้ำเงิน เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ง่าย มีเส้นทางตัดผ่านย่านสำคัญหลายโซน ทาง Developer ที่มองเห็นศักยภาพของทำเลก็แย่งกันจับจองที่ดินทั้งใกล้รถไฟฟ้า ติดถนนลาดพร้าว หรือแม้แต่เข้าไปในซอย เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดรองรับกับ Demand การอยู่อาศัยที่สูงบนทำเลนี้ <span style="text-decoration: underline">ตอนนั้นจะเห็นโครงการคอนโดเปิดใหม่เต็มไปหมดเลยค่ะ

แต่ศักยภาพของทำเลลาดพร้าวยังไม่หมดอยู่แค่นี้!! ด้วยการเปิดบริการของรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลืองที่เชื่อมจากสถานีลาดพร้าวไปถึงโซนบางนานั่นเอง แต่สำหรับเรามองว่ารถไฟฟ้าสายนี้ตอบโจทย์การเดินทางของชาวบางนามากกว่า แต่ยังไงก็ทำให้ชาวลาดพร้าวมีตัวเลือกในการเดินทางที่เพิ่มขึ้นและยังมีคอนโดเปิดใหม่มาให้เห็นเรื่อยๆจนปัจจุบันเลย

แต่ว่าถนนลาดพร้าวในแต่ละช่วงก็มีความอุดมสมบูรณ์และการเดินทางที่สะดวกแตกต่างกันนะคะ ดังนั้นเราจึงแบ่งถนนลาดพร้าวออกเป็นตอนต้น ตอนกลางและตอนปลายค่ะ

  • ลาดพร้าวตอนต้น : เริ่มตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าว-ประดิษฐ์มนูธรรม เน้นอยู่อาศัยและใช้ชีวิตโดยอิงมาทางห้าแยกลาดพร้าว เพราะมีห้างใหญ่อย่างเซ็นทรัล ลาดพร้าว และ Union Mall รวมถึงในอนาคตจะมี Central พหลโยธิน ที่จะเปิดในปี 2571 สร้างความคึกคักบนทำเลมากขึ้น ส่วนเรื่องการเดินทางก็ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว, MRT สายสีน้ำเงินและสายสีเหลือง
  • ลาดพร้าวตอนกลาง : เป็นบริเวณที่ตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งถนนเส้นนี้จะวิ่งจากเอกมัยไปยังรามอินทราได้ คนที่อยู่โซนนี้จึงมักมาใช้งานตรงโซน Central Festival Eastville หรือวิ่งเข้าเมืองไปเอกมัย-ทองหล่อแทนมากกว่ามาโซนห้าแยกลาดพร้าวหรือบางกะปิค่ะ จึงใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางกัน ส่วนรถสาธารณะอาจไม่ได้มีหลากหลายเท่าลาดพร้าวตอนต้น แต่ก็มี MRT สายสีเหลืองให้ใช้งานได้ค่ะ
  • ลาดพร้าวตอนปลาย : โซนนี้จะใกล้กับแยกลำสาลีเป็นหลัก โดยมีความอุดมสมบูรณ์หลักอยู่ที่ The Mall Lifestore บางกะปิ, Makro และ Lotus’s ส่วนเรื่องการเดินทางจะมีรถสาธารณะหลากหลายประเภทเลยทั้งรถเมล์, Taxi, วินมอเตอร์ไซค์และมีท่าเรือคลองแสนแสบที่ใช้เดินทางเข้าเมืองได้ด้วย นอกจากนั้นตรง The Mall Lifestore บางกะปิ จะเป็นท่ารถตู้และรถสองแถวที่ใช้เดินทางไปได้หลายเส้นทาง นอกจากนั้น MRT สายสีเหลืองจะมาสิ้นสุดที่สถานีแยกลำสาลีเป็น Interchage Station กับสายสีส้ม ที่ถึงแม้จะก่อสร้างเสร็จมาสักพักแล้ว แต่ยังติดปัญหาเรื่องข้อพิพาทปรับหลักเกณฑ์ประมูล ทำให้คาดเปิดบริการในปี 2571


ภาพรวมคอนโดลาดพร้าวตอนต้น สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่

หลังจากทุกคนได้เห็นภาพรวมของทำเลลาดพร้าวกันแล้ว ดังนั้นเราจะขอ Focus คอนโดลาดพร้าวตอนต้นว่าจะมีที่ไหนกันบ้าง เพราะเป็นโซน Office Building ที่ใกล้รถไฟฟ้าและห้างแล้ว ยังมีสวนสาธารณะให้มาใช้งานได้ด้วย จึงเป็นโซนที่มีคนมองหาคอนโดทั้งอยู่อาศัยเองหรือหาเช่าอยู่เสมอ โดยในบทความนี้จะเลือกเป็นคอนโดที่สร้างเสร็จ พร้อมเข้าอยู่ มีอายุไม่เกิน 5 ปี และระยะห่างจากเส้นลาดพร้าวไม่เกิน 1 กิโลเมตรนะคะ

จากที่เราได้สำรวจก็พบคอนโดส่วนใหญ่ยังกระจุกอยู่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว-ถนนรัชดาภิเษกนั่นเอง โดยคอนโดที่ติดถนนใหญ่ทั้งพหลโยธินหรือลาดพร้าวจะเป็นคอนโด High Rise ส่วนคอนโด Low Rise จะอยู่เข้าไปในซอย แต่ก็ยังอยู่ในระยะที่เดินมาถนนลาดพร้าวหรือไปห้างและสวนได้ง่ายค่ะ สำหรับคอนโดที่อยู่ในช่วงถนนรัชดาภิเษก-ประดิษฐ์มนูธรรมจะเป็นคอนโดที่เปิดขายมานานแล้ว แต่คอนโดเปิดใหม่ก็มีให้เห็นเหมือนกันนะ เพียงแค่ยังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง จึงไม่เข้าเกณฑ์การเลือกคอนโดลาดพร้าว พร้อมเข้าอยู่ในบทความนี้ค่ะ

*ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลช่วงเดือนสิงหาคม 2567 ดังนั้นราคาต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

  1. LIFE Ladprao Valley (ไลฟ์ ลาดพร้าว แวลลีย์)
    – ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม High Rise
    – ราคาเริ่มต้น : 5.19-10.19 ล้านบาท*
    – Developer : AP Thailand
    – รีวิวโครงการ >> https://wp.me/p1YZB1-33n6
  2. LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว)
    – ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม High Rise
    – ราคาเริ่มต้น : 5.39 ล้านบาท*
    – Developer : AP Thailand
    – รีวิวโครงการ >> https://wp.me/p1YZB1-3XtW
  3. The Line Vibe (เดอะ ไลน์ ไวบ์)
    – ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม High Rise
    – ราคาเริ่มต้น : 4.09 ล้านบาท*
    – Developer : Sansiri
    – รีวิวโครงการ >> https://wp.me/p1YZB1-3gOm
  4. The Crest Park Residences (เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส)
    – ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม High Rise
    – ราคาเริ่มต้น : 6.49 ล้านบาท*
    – Developer : SC Asset
    – รีวิวโครงการ >> https://wp.me/p1YZB1-3Lna
  5. The Privacy Jatujak (เดอะ ไพรเวซี่ จตุจักร)
    – ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม High Rise
    – ราคาเริ่มต้น : 3.39 ล้านบาท*
    – Developer : Pruksa
    – รีวิวโครงการ >> https://wp.me/p1YZB1-3yuM
  6. NUE NOBLE Ratchada-Lat Phrao (นิว โนเบิล รัชดา-ลาดพร้าว)
    – ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม High Rise
    – ราคาเริ่มต้น : 3.2 ล้านบาท*
    – Developer : Noble Development
  7. Groove Kepler Ladprao 1 (กรูฟ เคปเลอร์ ลาดพร้าว 1)
    – ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม Low Rise
    – ราคาเริ่มต้น : 2.9 ล้านบาท*
    – Developer : Divine Development
  8. The Origin Ladprao 15 (ดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว 15)
    – ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม Low Rise
    – ราคาเริ่มต้น : 2.99 ล้านบาท*
    – Developer : Origin Property
    – รีวิวโครงการ >> https://wp.me/p1YZB1-2q44

 


LIFE Ladprao Valley (ไลฟ์ ลาดพร้าว แวลลีย์) / เริ่ม 5.19-10.19 ล้านบาท*

Image 1/9
ภาพบรรยากาศ LIFE ลาดพร้าว แวลลีย์

ภาพบรรยากาศ LIFE ลาดพร้าว แวลลีย์

โครงการคอนโด High Rise จำนวนยูนิต 1,140 ยูนิต ใกล้ Central ลาดพร้าวจาก AP โดยตั้งอยู่ข้างๆ LIFE Ladprao โครงการรุ่นพี่ที่ Sold Out ไปแล้วนั่นเอง แต่ตัวโครงการจะมีระยะร่นจากถนนใหญ่เข้ามาด้านในประมาณ 350 เมตรนะคะ แต่ก็ทำให้ได้บรรยากาศโครงการที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยนั่นเอง รวมถึงยังสามารถเข้า-ออกได้ 2 เส้นทาง ทั้งถนนพหลโยธินที่เป็นทางเข้า-ออกหลักแล้ว จะมีประตูเล็กๆสำหรับคนเดินเชื่อมมาออกตรงซอยพหลโยธิน 22 เพื่อไป Union Mall และ MRT สถานีพหลโยธินได้ง่ายดีค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยค่ะ เพราะนอกจากจะจัดเต็มส่วนกลางมาให้ 4 ชั้น และมีสระว่ายน้ำถึง 3 สระแล้ว ยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบตามแนวคิด Valley + Adventure จึงมีพื้นที่ส่วนกลางที่ให้ความรู้สึกสนุก ตื่นเต้นเหมือนเราได้ผจญภัยในทุกๆวันนั่นเอง เช่น พื้นที่สีเขียว ทางเดินลาดเอียง บันไดลาดชันเหมือนขึ้นเขา ทางเดินในถ้ำ กิจกรรมปีนเขา เป็นต้น

ห้องพักอาศัย

รูปแบบห้องพักอาศัยแบ่งเป็น 3 แบบหลักๆ ได้แก่ Studio ขนาด 28.8 ตร.ม., 1 Bedroom ขนาด 35 – 37 ตร.ม. และ 2 Bedrooms ขนาด 48.6 – 66.5 ตร.ม. โดยมีห้องที่ออกแบบมีพื้นที่ยื่นจากตัวอาคารไปด้านนอก ทำให้ได้ช่องหน้าต่างแบบ Bay Window เปิดรับวิวกว้างไม่แพ้ห้องมุมเลยนั่นเอง รวมถึงห้องพักส่วนใหญ่จะได้วิวที่ค่อนข้างเปิดโล่ง ไม่มีตึกสูงบังในระยะประชิด และมองเห็นพื้นที่สวนสีเขียวกว่า 700 ไร่ ของสวนรถไฟ สวนจตุจักร และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯได้ด้วยค่ะ

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-33n6

 

LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว) / เริ่ม 5.39 ล้านบาท*

Image 1/9
ภาพบรรยากาศ LIFE พหลฯ-ลาดพร้าว

ภาพบรรยากาศ LIFE พหลฯ-ลาดพร้าว

เป็นอีกโครงการนึงจากทาง AP ที่เป็นคอนโดใกล้ห้าแยกลาดพร้าว โดยจะตั้งถัดจากโครงการรุ่นพี่ทั้ง 2 ตัว ( LIFE Ladprao และ LIFE Ladprao Valley) ผ่าน Lotus’s ลาดพร้าวไปอีกหน่อย จึงทำให้มีระยะเดินมาใช้งานรถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้สะดวกสบายอยู่ดี รวมถึงได้ออกแบบแตกต่างจาก 2 โครงการรุ่นพี่ โดยเน้นความเป็นส่วนตัวสูง เพราะมีจำนวนเพื่อนบ้านเพียง 598 ยูนิตเท่านั้น

พื้นที่ส่วนกลาง

ส่วนกลางของโครงการนี้ก็ออกแบบมาโอ่อ่า หรูหราตามสไตล์แบรนด์ LIFE เลย ถึงแม้จะจัดส่วนกลางมาถึง 6 ชั้น มากกว่าโครงการเมื่อกี้ แต่จะออกแบบกระจายตัวอยู่หลายจุดนั่นเอง มีข้อดีในเรื่องลูกบ้านสามารถมาใช้งานได้ง่าย อีกทั้งเวลาใช้ส่วนกลางก็เปิดรับทั้งวิวสวนและวิวเมืองด้วย ซึ่งเรามองว่าโครงการนี้ได้ส่วนกลางมาไม่แพ้คอนโด 1,000 ยูนิตเลยนะคะ ลูกบ้านจึงมาใช้งานส่วนกลางกันได้สบายๆเลย

ห้องพักอาศัย

มีแบบห้องให้เลือกเยอะตั้งแต่ 28.5-65 ตร.ม. เน้นเป็นห้อง 1 Bedroom ที่อยู่ 1-2 คนได้ ไปจนถึงห้องที่รองรับครอบครัวขนาดเล็ก แต่โครงการนี้มีห้อง Vertiplex ที่ได้ฝ้าสูงถึง 4.4 เมตรให้เลือก (Simplex ฝ้าสูง 2.55 เมตร) ซึ่งถือเป็นโปรดักส์ที่ไม่ค่อยมีในโซนนี้ อีกทั้งยังมีห้อง Vertiplex หลายแปลนให้เลือกได้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยและจัดอยู่ตั้งแต่ชั้น 35-39 จึงได้วิวมุมสูงทุกห้องเลยนั่นเอง

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3XtW

 

The Line Vibe (เดอะ ไลน์ ไวบ์) / เริ่ม 4.09 ล้านบาท

Image 1/8
ภาพบรรยากาศ The Line Vibe

ภาพบรรยากาศ The Line Vibe

คอนโด High Rise จำนวน 940 ยูนิต จากแสนสิริ โดยตั้งอยู่ติดกับ The Line พหลโยธิน พาร์ค ที่ขายหมดไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งโครงการนี้มีจุดเด่นที่ทำราคามาได้ดีกว่าโครงการ High Rise ใกล้ๆกัน จึงเหมาะกับคนที่มองหาคอนโดห้าแยกลาดพร้าวในงบไม่เกิน 5 ล้านบาท ก็ได้ห้อง 1 Bedroom ขนาดแบบอยู่ได้สบายๆค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ทางโครงการได้จัดฟังก์ชันพื้นฐานมาให้ใช้งานครบครันอยู่ที่ชั้น 1 เน้นเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนและชั้น 33 สามารถชมวิวมุมสูงได้ โดยเน้นเป็น Active Facilities ทั้งสระว่ายน้ำและฟิตเนส ทำให้โซนห้องพักอาศัยได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะหากจัดส่วนกลางอยู่ร่วมกับชั้นพักอาศัยที่ถึงแม้จะใช้งานส่วนกลางได้ง่าย แต่ก็อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้างเหมือนกัน

แต่ที่เรามองว่าพิเศษกว่าโครงการอื่นๆเลยคือสวนสีเขียวขนาด 8 ไร่ที่อยู่ด้านข้างโครงการค่ะ ให้มาใช้งานและเป็นวิวสีเขียวได้ ถึงแม้สวนนี้ถือเป็นทรัพย์ส่วนกลางใช้ร่วมกันระหว่าง Abstract และ The Line พหลโยธิน พาร์ค แต่ยังไงเราก็มองว่าไม่มีโครงการคอนโดไหนที่ได้สวนใหญ่ 8 ไร่แบบนี้แน่ๆ ทำให้เราสามารถอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติได้มากขึ้นด้วย

ห้องพักอาศัย

รูปแบบห้องพักหลักๆจะมี 1 Bedroom ขนาด 31.75 – 36.75 ตร.ม. และ 2 Bedroom ขนาด 56.5 – 73.5 ตร.ม. ซึ่งถือว่ามีขนาดห้องเริ่มต้นที่ใหญ่กว่าโครงการเพื่อนบ้านเลยนะคะ อีกทั้งราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่าเพื่อนบ้านด้วย ดังนั้นใครที่กำลังมองหาคอนโดลาดพร้าวอยู่ โครงการนี้ก็เป็นอีกโครงการที่น่าสนใจเพราะโดดเด่นในเรื่องความคุ้มค่าค่ะ

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3gOm

 

The Crest Park Residences (เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส ) / เริ่ม 6.49 ล้านบาท

Image 1/11
ภาพบรรยากาศ The Crest Park Residences

ภาพบรรยากาศ The Crest Park Residences

คอนโด High Rise ที่เป็นแบรนด์ระดับสูงสุดของ SC Asset และเป็นคอนโดใกล้รถไฟฟ้าห้าแยกลาดพร้าวแบบ 0 เมตร เพราะตัวโครงการอยู่ติดบันได Skywalk ของ BTS ห้าแยกลาดพร้าวเลย และด้วยตัวโครงการที่ใกล้ห้าแยกลาดพร้าวที่สุดจึงเป็นคอนโดที่เปิดรับสวนสีเขียวกว่า 700 ไร่ ของสวนรถไฟ สวนจตุจักร และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯได้กว้าง แถมยังได้ความเป็นส่วนตัวสูงด้วยการออกแบบโถงทางเดินแบบ Single load Corridor ที่ไม่มีห้องอยู่ฝั่งตรงข้ามและจำนวนยูนิตเพียง 418 ยูนิต ซึ่งมีจำนวนยูนิตน้อยสุดเมื่อเทียบกับคอนโด High Rise บนทำเลส่วนใหญ่ที่มียูนิตเกือบ 1,000 ยูนิตนั่นเอง เรียกว่าออกแบบโครงการมาเหมาะสมกับระดับราคา 6.49 ล้านบาท*เลย

พื้นที่ส่วนกลาง

ถือว่ามีมาให้หลายโซนเลยทั้ง Lobby ที่มีถึง 2 จุด, โซน Business Lounge มานั่งทำงานได้ ส่วน Sky Lounge และ Co-kitchen ก็สามารถจัดงานเลี้ยงสังสรรค์หรือปาร์ตี้ รวมถึงมี Dressing Room และ Spa room ที่เราสามารถมาแต่งหน้า แต่งตัว ทำ Treatment ต่างๆ ได้ภายในคอนโดค่ะ ส่วนชั้น 36 เป็น Main Facility แบบ Sky Facility ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบยกชั้น ประกอบด้วย Fitness ที่แบ่งเป็นห้อง Weight Training และ Class exercise room ส่วนอีกฝั่งจะเป็นสระว่ายน้ำในร่มยาว 35 เมตร ให้มาออกกำลังกายได้จริงจัง แต่ที่พิเศษกว่าโครงการอื่น คือ Concierge Service คอยดูแลอำนวยความสะดวกสบายภายในโครงการ ซึ่งเป็นโครงการเดียวในย่านที่มีบริการนี้ให้นั่นเอง

ห้องพักอาศัย

ด้วยการออกแบบแปลนอาคารเป็นรูปตัว V ทำให้ห้องพักอาศัยทุกห้องได้โถงทางเดินเป็น Single load Corridor หรือไม่มีห้องฝั่งตรงข้ามนั่นเอง จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ส่วนแบบห้องมีให้เลือกมากกว่า 15 แบบ แต่หลักๆจะมี 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus, 2 Bedrooms และ High Ceiling (1-2 Bedrooms) โดยจะเน้นห้อง 1 Bedroom เป็นหลัก ส่วนฟังก์ชันภายในห้องก็มีหลากหลายทั้งครัวปิด ครัวเปิด แบบที่ห้องนอนเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นได้ หรือแบบที่ห้องนอนแยกปิดจากห้องนั่งเล่น ทำให้เลือกได้ตรงตามความต้องการดีค่ะ นอกจากนั้นยังได้ฝ้าเพดานห้องสูง 2.75 เมตร และมีแบบห้องฝ้าเพดานสูงที่เป็นโปรดักส์หายากในโซนนี้ โดยมีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 5.9 เมตร ถือว่าได้มาสูงที่สุดบนทำเลเลย

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3wXs

 

The Privacy Jatujak (เดอะ ไพรเวซี่ จตุจักร) / เริ่ม 3.39 ล้านบาท*

Image 1/9
ภาพบรรยากาศ The Privacy จตุจักร

ภาพบรรยากาศ The Privacy จตุจักร

คอนโด High Rise จำนวน 835 ยูนิต ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว ที่ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต ทำให้บรรยากาศโดยรอบอาจจะไม่คึกคักเท่าโครงการเพื่อนบ้านที่อยู่บนเส้นพหลโยธิน แต่ก็ยังสามารถเดินไปรถไฟฟ้าและห้างได้สะดวกอยู่ นอกจากนั้นตัวโครงการที่อยู่บนเส้นวิภาวดีรังสิตฝั่งเลขคู่ จึงมีซอยลัดต่างๆไปถนนลาดพร้าวได้โดยไม่ต้องไปรถติดตรงห้าแยกลาดพร้าวด้วยนั่นเอง

โครงการนี้ยังเหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดราคาประมาณ 3 ล้านต้นๆ เพราะมีราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท* จับต้องได้ง่ายสุดเมื่อเทียบกับโครงการเพื่อนบ้าน โซนใกล้ห้าแยกลาดพร้าวนี้ แต่ก็จะได้ขนาดห้องที่น้อยกว่าเพื่อนบ้านด้วย โดย 1 Bedroom มีขนาด 26-27 ตร.ม.

พื้นที่ส่วนกลาง

สำหรับส่วนกลางของโครงการก็ถือว่าจัดมาให้เยอะเหมือนกัน โดยชั้น 1-3 เน้นเป็น Passive Facilities มีส่วนกลางที่น่าสนใจอย่าง E-Library และ Meeting Room ที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง ทำให้มาใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ส่วน Main Facilities ออกแบบเป็น Sky Facilities อยู่ชั้น 34 โดยสระว่ายน้ำออกแบบมีผนังเป็นกระจกเปิดรับวิวได้กว้างยิ่งขึ้น ได้วิวเมืองและสวน 700 ไร่ด้วยค่ะ

ห้องพักอาศัย

มีแบบห้องให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้ง 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus, 2 Bedroom 1 Bathroom และ 2 Bedroom 2 Bathroom โดยจะออกแบบเน้นเป็น 1 Bedroom เป็นหลัก  ซึ่งโครงการนี้ออกแบบได้บรรยากาศโปร่งสบาย ด้วยฝ้าเพดานสูงถึง 2.75 เมตร รวมถึงมีห้อง Loft ให้เลือกด้วย มีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 5.8 เมตรค่ะ จึงเหมาะกับคนที่ชอบบรรยากาศภายในห้องที่โปร่งสบาย

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3yuM

 

NUE NOBLE Ratchada-Lat Phrao (นิว โนเบิล รัชดา-ลาดพร้าว) / เริ่ม 3.2 ล้านบาท*

Image 1/9
ภาพบรรยากาศ NUE NOBLE รัชดา-ลาดพร้าว

ภาพบรรยากาศ NUE NOBLE รัชดา-ลาดพร้าว

เป็นอีกโครงการที่เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดลาดพร้าวราคาประมาณ 3 ล้านต้นๆ เพราะมีราคาเริ่มต้นจับต้องง่ายสุดเพียง 3.2 ล้านบาท* แต่ก็แลกมากับตัวโครงการที่จะขยับจากห้าแยกลาดพร้าวออกมาหน่อย จะอยู่ตรงสี่แยกถนนลาดพร้าวและรัชดาภิเษก อิงการใช้งานของ MRT สายสีน้ำเงินและสีเหลือง ทำให้โครงการนี้นอกจากจะตอบโจทย์คนที่ทำงานตรงโซนนี้แล้ว ยังเน้นเป็นกลุ่มคนที่เดินทางไปทำงานตรงพระราม 9, อโศกและสีลมได้ง่าย นอกจากนั้นยังมีแบบห้องหน้ากว้างให้เลือกด้วย แต่ปัจจุบันก็ใกล้จะปิดโครงการแล้วนะคะ ดังนั้นใครที่กำลังหาคอนโดลาดพร้าวอยู่ ก็ลองเยี่ยมชมโครงการได้เลย เผื่อได้โปรดีๆก่อนปิดตึกค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการมีขนาด 3,000 ตร.ม. ซึ่งเราว่าให้มาเยอะเมื่อเทียบกับจำนวนลูกบ้าน 565 ยูนิตนะคะ โดยส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1 เป็นพื้นที่ต้อนรับ-พักผ่อนและชั้นดาดฟ้าเป็นสวนสีเขียว มีมุม BBQ ส่วนชั้น 6 ที่เป็น Main Facilities มีทั้งสระว่ายน้ำ, Fitness, Library & Co-Working, Co-Kitchen, Bar & Bistro, Co-Salon และ Entertainment Room ซึ่งออกแบบมาแตกต่างกับโครงการ High Rise ส่วนใหญ่ที่มักจะยกชั้น Main Facilities อยู่บนชั้นดาดฟ้า แต่ก็มีข้อดีที่ทำให้ห้องพักฝั่งนึงของโครงการได้วิวส่วนกลางนี้นั่นเอง

ห้องพักอาศัย

มีรูปแบบห้องพักอาศัยทั้ง 1-2 Bedroom โดยจะเน้นเป็นห้อง 1 Bedroom มีขนาดเริ่มต้น 22.5 ตร.ม. นอกจากนั้นโครงการนี้ยังมีจุดเด่นคือมีแบบห้องหน้ากว้างให้เลือกด้วยค่ะ ทำให้ได้ช่องหน้าต่างใหญ่ตรงห้องนอนและมีระเบียงกว้าง ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้าภายในห้อง จึงได้บรรยากาศที่โปร่งโล่งมากขึ้นนั่นเอง

 

Groove Kepler Ladprao 1 (กรูฟ เคปเลอร์ ลาดพร้าว 1) / เริ่ม 2.9 ล้านบาท*

Image 1/4
ภาพบรรยากาศ Groove Kepler ลาดพร้าว 1

ภาพบรรยากาศ Groove Kepler ลาดพร้าว 1

คอนโด Low Rise ในซอยลาดพร้าว 1 ที่ถึงแม้จะอยู่ในซอย แต่ก็เป็นทำเลที่ดีเหมือนกันนะ เพราะสามารถเดินหรือนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปห้าง รถไฟฟ้าและสวนสาธารณะได้ง่าย มีของกินของซื้อในซอยเยอะ ให้เรามาจับจ่ายใช้สอยกันได้สะดวก ในราคาเริ่ม 2.9 ล้านบาท* ถูกกว่าคอนโด High Rise ติดถนนใหญ่ประมาณ 1-2 ล้านบาทเลย แต่ก็แลกมากับการมีระยะเดินไปใช้งานต่างๆ รวมถึงส่วนกลางที่ไม่หลากหลายเท่าคอนโด High Rise นั่นเอง

พื้นที่ส่วนกลาง

Main Facilities ของโครงการอยู่ที่ชั้น 1 ทำให้ลูกบ้านมาใช้งานง่ายและไม่ต้องไปใช้งานในชั้นอื่น ส่งเสียงดังรบกวนในชั้นพักอาศัยอื่นๆ ส่วนชั้น 8 เป็น Sky Rooftop Garden ให้มานั่ง-เดินเล่นได้ ซึ่งโครงการออกแบบตัวอาคารเป็นตัว C ล้อม Court สวนสีเขียวตรงชั้น 1 ที่ทางนิติบุคคลจะดูแลให้สวยงามตลอดเวลา ทำให้เป็นการการันตีวิวของห้องฝั่งนึงของโครงการว่าจะได้วิวสวยๆของส่วนกลางแบบนี้ไปอีกนาน ซึ่งการออกแบบนี้เป็นที่นิยมในโครงการ Low Rise หลายๆโครงการเลยค่ะ

ห้องพักอาศัย

รูปแบบห้องพักในโครงการนี้ ได้แก่ 1 Bedroom ขนาด 24.05-24.96 ตร.ม., 1 Bedroom Plus ขนาด 30.46-32.95 ตร.ม และ 1 Bedroom Plus Exclusive ขนาด 30.46-32.95 ตร.ม. ที่ได้ครัวแบบปิดในทุกยูนิต เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คน ทำอาหารได้จริงจัง

 

The Origin Ladprao 15 (ดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว 15) / เริ่ม 2.99 ล้านบาท*

Image 1/8
ภาพบรรยากาศ The Origin ลาดพร้าว 15

ภาพบรรยากาศ The Origin ลาดพร้าว 15

โครงการคอนโด Low Rise ในซอย ลาดพร้าว 15 จาก Origin Property ที่มีโครงการรุ่นพี่อยู่ไม่ไกลอย่าง The Origin รัชดา-ลาดพร้าว ที่อยู่ในซอยลาดพร้าว 23 และได้ Sold Out ไปแล้ว โดยตัวโครงการสามารถลัดเลาะถึงไปได้ทั้งลาดพร้าว ซอย 1 และพหลโยธิน 24 จึงใช้เชื่อมไปถนนลาดพร้าว, รัชดาภิเษกและพหลโยธินได้ไม่ยาก นอกจากนั้นเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดบนทำเล มีเพียง 159 ยูนิต ซึ่งหากใครชอบบรรยากาศในโครงการที่สงบ ไม่พลุกพล่าน โครงการนี้ก็ถือว่าน่าสนใจเลยเพราะเป็นคอนโด Low Rise จำนวนยูนิตน้อยสุดนั่นเองค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ส่วนกลางของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 2, 3, 8 และดาดฟ้า โดยเลือกฟังก์ชันส่วนกลางที่เหมาะกับคนทำงานและกลุ่ม Freelance ด้วย ซึ่ง Main Facilities จะถูกยกมาอยู่ที่ชั้น 2 ได้ข้อดีในเรื่องความเป็นส่วนตัว เวลามาใช้งานก็ไม่ต้องกังวลสายตาจากรถยนต์หรือคนที่เดินผ่านไปมาด้านหน้าอาคารนั่นเอง ถึงแม้จะมีส่วนกลางบางฟังก์ชันอยู่ชั้นเดียวกับห้องพักอาศัย แต่ก็มีการกั้นส่วนชัดเจน ทำให้ห้องพักยังได้ความเป็นส่วนตัวดี

ห้องพักอาศัย

มีให้เลือกทั้ง 1 Bedroom 24-29 ตร.ม., 1 Bedroom Plus 35-36 ตร.ม. และ 2 Bedrooms 45.50 ตร.ม. จึงอยู่อาศัย 1-2 คน หรือครอบครัวขนาดเล็กได้เลย รวมถึงจัดฟังก์ชันห้องมาหลากหลายแบบจึงเลือกได้ตรงตามการใช้งาน เช่น ห้องครัวแบบปิดหรือห้องที่มีพื้นที่ Walk-in Closet เป็นต้น

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-2q44


สรุปภาพรวมคอนโดห้าแยกลาดพร้าว แบบพร้อมเข้าอยู่

เราได้สรุปภาพรวมของคอนโดห้าแยกลาดพร้าว แบบพร้อมเข้าอยู่ โดยมีอายุคอนโดไม่เกิน 5 ปีและมีระยะห่างจากถนนลาดพร้าวไม่เกิน 1 กิโลเมตรมาให้ตามภาพด้านบนเลย ก็จะเห็นว่าแต่ละโครงการก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ทุกคนจึงใช้เป็นตัวเลือกในการช่วยตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดลาดพร้าวได้เลยค่ะ โดยเราได้สรุปมาให้ดังนี้

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เก็บข้อมูลช่วงเดือนสิงหาคม 2567 ดังนั้นราคาต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

  • งบไม่เกิน 3 ล้านบาท : เป็นคอนโด Low Rise ทั้งหมดเลย ได้แก่ Groove Kepler Ladprao 1 (กรูฟ เคปเลอร์ ลาดพร้าว 1) เริ่ม 2.9 ล้านบาท* และ The Origin Ladprao 15 (ดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว 15) เริ่ม 2.99 ล้านบาท*
  • เน้นความเป็นส่วนตัวสูง : The Origin Ladprao 15 (ดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว 15) ที่มีจำนวนยูนิตน้อยสุดในย่านเพียง 159 ยูนิต รวมถึง The Crest Park Residences (เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนซ์) ที่ถึงจะเป็นคอนโด High Rise 418 ยูนิต แต่ออกแบบยูนิตต่อชั้นน้อยเพียง 16 ยูนิตและโถงทางเดินแบบ Single load Corridor ที่ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม
  • ส่วนกลางจัดเต็ม : LIFE Ladprao Valley (ไลฟ์ ลาดพร้าว แวลลีย์) ที่นอกจากจะมีส่วนกลาง 4 ชั้น + 3 สระแล้ว ยังมีส่วนกลางที่แปลกตาและสนุกๆเยอะ
  • ส่วนกลางรองรับ 24 ชั่วโมง : มีเพียงโครงการเดียว ได้แก่  The Privacy Jatujak (เดอะ ไพรเวซี่ จตุจักร) ที่มี E-Library และ Meeting Room เปิดให้ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
  • พื้นที่จอดรถเยอะสุด : The Crest Park Residences (เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนซ์) มีที่จอดรถมากถึง 56.22% รองลงมาเป็น The Line Vibe (เดอะ ไลน์ ไวบ์) ได้พื้นที่จอดรถ 55%
  • แบบห้องเริ่มต้นขนาดใหญ่ : The Line Vibe (เดอะ ไลน์ ไวบ์) มีแบบห้องเริ่มต้นเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 31.75 ตร.ม. อยู่อาศัยได้สบายๆ ไม่อึดอัด
  • ห้องฝ้าเพดานสูง : The Privacy Jatujak (เดอะ ไพรเวซี่ จตุจักร) และ The Crest Park Residences (เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนซ์)  ได้ห้องฝ้าเพดานสูง 2.75 เมตร ทำให้ได้บรรยากาศภายในห้องที่โปร่งสบาย
  • มีแบบห้อง Loft ให้เลือก : มีอยู่ 3 โครงการ ได้แก่ LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว) ห้อง Vertiplex ฝ้าสูง 4.4 เมตร, The Privacy Jatujak (เดอะ ไพรเวซี่ จตุจักร) มีห้องฝ้าเพดานสูง 5.8 เมตร และ The Crest Park Residences (เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนซ์) ได้ห้องฝ้าเพดานสูงถึง 5.9 เมตร ซึ่งสูงสุดในย่าน


เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับบทความนี้ มีโครงการไหนที่เล็งๆกันไว้อยู่หรือน่าสนใจก็สามารถอ่านบทความที่ทาง Thinkofliving เขียนรีวิวไว้ได้เลยค่ะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นช่วยประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดลาดพร้าวได้ง่ายมากขึ้นนะคะ

แต่วันนี้เราเขียนรวมคอนโดลาดพร้าวพร้อมเข้าอยู่ เฉพาะลาดพร้าวตอนต้นเท่านั้น ไว้ถ้ามีโอกาสเราจะพาไปดูคอนโดลาดพร้าวตอนกลางและปลายกันบ้างว่ามีโครงการไหนน่าสนใจ รวมถึงคอนโดลาดพร้าวที่เปิดใหม่ก็มีให้เห็นเหมือนกันนะ ดังนั้นฝากติดตามกันต่อด้วยนะคะ 😊