มองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้า ตอนที่ 3 “สะพานควาย-จตุจักร” (เปิดใหม่-ใกล้เสร็จ)

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน เข้าสู่ช่วงปลายปี 2016 กันแล้วนะคะ ช่วงปีที่ผ่านมาจะเห็นคอนโดในย่านนี้ทยอยเปิดกันอยู่เรื่อยๆเลย วันนี้จึงอยากจะพาทุกท่านไปส่อง คอนโดเปิดใหม่ -ใกล้เสร็จ ใกล้สถานีสะพานควาย-จตุจักร กัน ในบทความนี้เราจะพาไปดูว่ามีโครงการไหนกันบ้างที่เปิดใหม่หรือกำลังสร้างที่ใกล้จะเสร็จแล้วในทำเลนี้ แต่ละโครงการจะมีความแตกต่างกันอย่างไร และจะเหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่มีความต้องการแบบไหนกันบ้าง มาค้นหาคอนโดที่เหมาะกับความต้องการของคุณด้วยกันค่ะ

update 2021 >> คอนโดใกล้สถานีหมอชิต-จตุจักร

หัวข้อที่จะพูดถึงในบทความ เพื่อนๆ สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ

• ภาพรวมของย่านสะพานควาย-จตุจักร
• เจาะลึกข้อมูลแต่ละโครงการ
• การเดินทางเข้า-ออกด้วยรถยนต์และรถไฟฟ้าแต่ละโครงการ
• เจาะลึกความอุดมสมบูรณ์
• เปรียบเทียบข้อมูลแต่ละโครงการ
• สรุป

ภาพรวมของย่านสะพานควาย-จตุจักร

ภาพรวมของย่านสะพานควาย-จตุจักรก็จะมีถนนหลักอย่างถนนพหลโยธินซึ่งเป็นเส้นทางของ BTS สายสีเขียว เมื่อเกิดเส้นทางของรถไฟฟ้าเข้ามาบนถนนเส้นนี้ก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอาคารโดยรอบจากอาคารพาณิชย์และบ้านพักอาศัยเป็นโครงการสูงหลายโครงการ สำหรับการพัฒนาที่ดินผืนใหญ่ในย่านนี้ต้องอาศัยการรวบรวมที่ดินแปลงเล็กๆเพื่อพัฒนาเป็นโครงการตามแนวใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งเริ่มจะรวมยากและหาที่ได้น้อยลงไปทุกที เพราะที่ดินในย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแปลงเล็กๆ และเป็นชุมชนเก่าแก่เดิมที่อยู่ก่อนมานานแล้ว เช่นพวกแนวตึกแถวร้านค้า การจะซื้อที่รวมเป็นแปลงใหญ่จึงทำได้ยากอยู่นิดนึง 

ทำเลย่านนี้ จะเต็มไปด้วยอาคารพาณิชย์ติดถนน ซึ่งเป็นทำเลค้าขายดั้งเดิม จะมีซอยย่อยมากมายกระจายอยู่ เต็มไปด้วยบ้านพัก อพาร์ทเมนท์ โรงแรม และคอนโดมิเนียม เป็นชุมชุนพักอาศัยเก่าแก่ที่ค่อนข้างจะหนาแน่นอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ในย่านนี้มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างมาก เนื่องจากมีคนอยู่เยอะ จึงจะเห็นร้านค้า ร้านอาหาร และมินิมาร์ท กระจายอยู่แทบจะทุกปากซอยเลยล่ะ

สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์จะสะดวกมากในย่านนี้ถ้าไม่นับช่วงเวลาเร่งด่วนที่รถติด เพราะโครงการคอนโดในย่านนี้ส่วนใหญ่จะติดกับถนนใหญ่อย่างพหลโยธินเลย ซึ่งจากถนนพหลฯจะมีทางลัดเลาะออกไปถนนวิภาวดีรังสิตได้หลายทาง / ส่วนถนนพหลโยธินลงทางทิศใต้ สามารถตรงไปอนุสาวรีย์ชัย หรือถ้าขึ้นไปทางเหนือนิดเดียวก็จะผ่านสวนจตุจักรและห้าแยกลาดพร้าวซึ่งเป็นฮับแยกใหญ่ได้เช่นกัน แต่ในช่วงเวลาชั่วโมงเร่งด่วนจะมีรถเยอะและค่อนข้างติดเนื่องจากเป็นจุดที่คนมา Transit รถไฟฟ้า BTS, MRT และคนมาใช้ที่จอดรถฟรีที่จตุจักรนี่ละ แต่ก็ยังมีตัวช่วยในการเดินทางอย่างทางด่วนศรีรัช ที่แค่วิ่งออกไปทางถนนกำแพงเพชรก็มีจุดขึ้นทางด่วน(เข้าเมือง)ให้ใช้แล้ว ซึ่งในบทความนี้เราจะพาไปเจาะลึกการเดินทางของคอนโดแต่ละแห่งกันด้วยนะคะ

ความอุดมสมบูรณ์ ในย่านนี้อย่างที่บอกไว้ตอนต้น สภาพแวดล้อมโดยทั่วไปจะเป็นตึกแถว ร้านค้าพาณิชย์ตามริมทางทั้งเก่าและใหม่ปนกันไป ห้างและคอมมูนิตี้มอลล์ในละแวกนี้มีไม่มากเท่าไร ได้แก่ Big C สะพานควาย, La Villa อารีย์ จากนั้นต้องไปแถวห้าแยกลาดพร้าวเลยอย่างเซ็นทรัลลาดพร้าว, ยูเนียนมอลล์ จริงๆแล้วของกินร้านอาหารๆเด็ดๆในแหล่งนี้ไม่ได้อยู่ที่ห้างหรอก แต่อยู่ตามท้องถนนทั่วไปอย่างซอยอารีย์ ซึ่งเป็นแหล่งกิน เที่ยว ร้านสวยๆเก๋ๆเต็มไปหมด หรือจะเป็นร้านอาหารดั้งเดิมที่อิงอยู่ตามถนนสุทธิสารวินิจฉัยแต่จะจอดรถยากหน่อย และก็ที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้กับแหล่งช้อปที่หลากหลายอย่างตลาดนัดสวนจตุจักร และที่ตลาดอตก.ซึ่งเป็นแหล่งของสดคุณภาพ และมีอาหารให้เลือกซื้อกลับหรือทานที่นั่นได้เช่นกัน โดยที่มีระยะเดินไปจากโครงการได้สบายๆเลย

แหล่งทำงาน ในย่านนี้มีแหล่งทำงานที่เป็นศูนย์รวมออฟฟิศได้แก่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว มีอาคารสำนักงานใหญ่ๆหลายตึก ได้แก่ Sun Tower, TMB สำนักงานใหญ่, อาคารเล้าเป้งง้วน, ตึกการบินไทย, ตึกบางกอกแอร์เวย์, SJ Infinity, สำนักงานใหญ่ปตท., อาคารชินวัตร 3 และ I Tower  เป็นต้น ซึ่งระยะทางจากโครงการเราไปยังห้าแยกลาดพร้าวอยู่ที่ประมาณ 2-3 กิโลเมตรเท่านั้น

โรงพยาบาลและสถานศึกษา ในละแวกใกล้เคียงถ้าบนเส้นพหลโยธินจะมีรพ.เปาโล เมมโมเรียล, รพ.ประสานมิตร และรพ.พญาไท 2 ส่วนบนเส้นพระราม 6 ก็จะมีรพ.วิชัยยุทธ ซึ่งบนเส้นนี้ก็มีโรงเรียนดังอย่างสามเสนวิทยาลัย หรือไม่ก็ต้องไปย่านเส้นวิภาวดีเลยที่มีร.ร.นานาชาติเซนต์จอห์น หรือม.หอการค้า

โครงการในอนาคต นอกจากแหล่งความอุดมสมบูรณ์ แหล่งงานและสถานศึกษาแล้ว ในอนาคตพื้นที่บริเวณบางซื่อ-จตุจักร นั้นจะกลายเป็น Hub (ศูนย์รวม)ของการเปลี่ยนถ่ายเส้นทางการเดินทาง โดยมีแผนของโครงการรถไฟฟ้าและโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายบริเวณรอบบางซื่อ-จตุจักร ซึ่งจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดง สายสีแดงอ่อน และสายสีน้ำเงิน มา Interchange (เชื่อมต่อกับสายอื่นๆ) ที่บริเวณสถานีกลางบางซื่อ และบริเวณที่สายสีเขียวและสายน้ำเงิน Interchange กันที่สถานีหมอชิตและจตุจักรในปัจจุบัน จะมีการต่อขยายสายสีเขียวออกไปยาวถึงคูคตค่ะ 

นอกจากนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ยังมีแผนที่จะพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีกลางบางซื่อ รวม 305.5 ไร่ ให้เป็นเชิงพาณิชย์หรือคอมเพล็กซ์ซิตี้ อาทิ สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ที่พักอาศัย และพื้นที่นันทนาการ วงเงินประมาณ 68,000 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่

• โซน A สมาร์ท บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ เนื้อที่ 35 ไร่ วงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท
• โซน B เอเชี่ยน คอมเมอร์เชียล แอนด์ บิสซิเนส ฮับ เนื้อที่ 78 ไร่ วงเงินประมาณ 24,000 ล้านบาท
• โซน C สมาร์ท เฮลตี้ แอนด์ ไวเบรนท์ (Vibrant) ทาวน์ เนื้อที่ 105 ไร่
• โซน D เนื้อที่ 87.5 ไร่ เป็นพื้นที่ที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) อยู่ระหว่างการศึกษาและออกแบบถึงศักยภาพในการพัฒนาเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายและศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทาง ภายใต้แนวคิด เวิลด์ รีเนาด์ (Renowned) การ์เด้น อินเตอร์เชนจ์ พลาซ่า

ถ้าแผนพัฒนานี้สำเร็จเมื่อไหร่ ผู้เขียนก็คาดการณ์ว่าพื้นที่ในย่านนี้จะกลายเป็นแหล่งงานที่สำคัญแห่งหนึ่งในอนาคต เป็น Hub สำหรับติดต่อธุรกิจ เพราะพื้นที่นี้ในอนาคตจะมีความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายต่างๆ หลายเส้นทางที่มาบรรจบกันได้ที่นี่ จึงน่าจะกลายเป็นพื้นที่นัดพบของนักธุรกิจจากหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ และจะทำให้ความต้องการของที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆค่ะ

สำหรับรายละเอียดของทำเลในย่านนี้ทางทีมงานได้เก็บข้อมูลไว้เรียบร้อยในบทความ “มองหาทำเลน่าอยู่” สามารถคลิกอ่านได้ที่นี่ค่ะ

• ทำเลน่าอยู่ BTS สะพานควาย
• ทำเลน่าอยู่ BTS หมอชิตและ MRT จตุจักร

เจาะลึกข้อมูลแต่ละโครงการ

สำหรับคอนโดใหม่ที่เราจะตามไปส่องกันนั้นจะเป็นคอนโดที่เกาะกับเส้นทาง BTS สายสีเขียวช่วงสะพานควาย-หมอชิต ซึ่งเปิดโครงการที่เพิ่งเปิดใหม่และก่อสร้างใกล้เสร็จไปในช่วงนี้ค่ะ

บทความนี้เราจะมองหาคอนโดที่ “เปิดใหม่ – ใกล้เสร็จ” ในบริเวณที่ใกล้รถไฟฟ้าสะพานควาย-จตุจักร ซึ่งเลือกเฉพาะคอนโดที่ติดถนนใหญ่

โครงการกำลังก่อสร้าง-ใกล้เสร็จ-เพิ่งสร้างเสร็จ 3 โครงการ 

• Signature By Urbano สะพานควาย 
• M จตุจักร
• The Line จตุจักร-หมอชิต

โครงการเปิดใหม่ 3 โครงการ ได้แก่

• The line พหลฯ-ประดิพัทธ์ 
• Ideo พหลฯ-จตุจักร
• Nottinghill Jatujak-Interchange

The Signature By URBANO จาก พฤกษา คอนโด High Rise 31 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวน 253 ยูนิต ซึ่งเปิดตัวโครงการตั้งแต่ปี 2557 โดยทางโครงการเพิ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื้อที่โครงการประมาณ  2-1-34 ไร่ มีห้องพักหลายแบบให้เลือกตั้งแต่ 1-3 Bedroom พื้นที่ใช้สอยแบบ 1 Bedroom เริ่มที่ขนาด 34 ตร.ม. ไปจนถึง 3 Bedroom ที่มีขนาด 85 ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted สำหรับราคาห้องพักเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 158,000 บาท/ตร.ม. หรือราคาเริ่มต้นประมาณ 4.9 ล้านบาท

Facilities ของโครงการจะประกอบด้วย Lobby, Fitness, Swimming Pool, Sauna, Cubic Hub และ Skylounge ที่จอดรถไม่รวมซ้อนคันคิดเป็น 70% ค่อนข้างพอเพียงสำหรับคอนโดมิเนียมที่เน้นใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก ลิฟต์มีให้ 3 ตัวคิดเป็นอัตราส่วน 84 : 1 จัดว่าพอเพียงกับจำนวนห้องพักอาศัย และเป็นโครงการที่มีความหนาแน่นน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับโครงการข้างเคียงนะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 22 November 2016 

• 2 Bedroom ชั้น 21 ห้อง 07 เนื้อที่ 72.5 ตร.ม. ราคา 12 ล้านบาท หรือ 165,517 บาท/ตร.ม.
• 2 Bedroom ชั้น 27 ห้อง 06 เนื้อที่ 76.91 ตร.ม. ราคา 12.5 ล้านบาท หรือ 162,528 บาท/ตร.ม.
• 3 Bedroom ชั้น 17-25 ห้อง 02 เนื้อที่ 85 ตร.ม. ราคา 15.5 ล้านบาท หรือ 182,353 บาท/ตร.ม.
• Fully Fitted
• Kitchen & Sink
• Hob & Hood
• เพดานสูง 2.7 เมตร
• ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม./เดือน
• โปรโมชั่น 3 Bedroom Fully Fitted เริ่มต้น 15 ล้านบาท

*ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูล ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

โดยทาง Think Of Living ได้เคยรีวิวเกี่ยวกับ The Signature By URBANO ไว้แล้ว สามารถ คลิกอ่านรีวิวพาชมทำเล และ พาชมห้องตัวอย่าง และ รีวิวคอนโดฉบับเต็มได้เลยค่ะ

M Jatujak จาก Major Development คอนโด High Rise 2 อาคาร สูง 32 และ 34 ชั้น มีจำนวน 864 ยูนิต ที่เปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2557 เริ่มก่อสร้างเมื่อปีที่แล้ว และทางโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จภายเดือนสิงหาคม ปี 2561 เนื้อที่โครงการประมาณ 4 ไร่ มีห้องหลายแบบให้เลือก ได้แก่

• 1 Bedroom  ขนาด 28 – 35.5 ตร.ม.
• 1 Bedroom Duplex ขนาด 46 – 56.5 ตร.ม.
• 2 Bedroom ขนาด 48 – 64.5 ตร.ม.
• 2 Bedrooms Duplex ขนด 79.5 – 81.5 ตร.ม.
• 3 Bedrooms ขนาด 118 ตร.ม.

 ขายแบบ Fully Furnished สำหรับราคาห้องพักต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 140,000-190,000 บาท/ตร.ม. หรือราคาเริ่มต้นประมาณ 3.95 ล้านบาท (ราคาเมื่อ Dec 2016)

โครงการ M Jatujak เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise เมกะโปรเจ็กต์รายแรกที่พร้อมรับกับการขยายตัวของเศรษฐกิจในย่านนี้ โดยเป็นอาคารชุด 2 อาคาร ได้แก่ อาคาร A สูง 32 ชั้น และอาคาร B สูง 34 ชั้น รวมทั้งสิ้นกว่า 800 ยูนิต สำหรับการออกแบบโครงการแตกต่างจากทุกโครงการที่เคยมีมาของ MJD ด้วยแนวคิดชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติสไตล์ Urban Forest (ป่าในเมือง)  เสมือนพักอาศัยอยู่ในป่าขนาดใหญ่ บนพื้นที่เขียวขจีกว่า 4 ไร่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการมากที่สุดทุบทุกสถิติ รวมกว่า 60 ชนิด และครั้งแรกกับสปอร์ต อารีน่า (สนามกีฬาในร่ม) ขนาดใหญ่ภายในโครงการ พร้อมสระว่ายน้ำที่มีมาให้ทั้ง 2 อาคาร ที่จอดรถรวมซ้อนคันคิดเป็น 50% ลิฟต์มีให้อาคารละ 3 ตัวคิดเป็นอัตราส่วน 144 : 1 ถือว่าหนาแน่นพอสมควรในชั่วโมงเร่งด่วนที่ทุกคนต้องขึ้นลงลิฟต์พร้อมกัน

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 21 December 2016

• 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3,950,000 บาท หรือประมาณ 138,000 บาท/ตารางเมตร
• 2 Bedroom ขนาด 55 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7,600,000 บาท หรือประมาณ 195,000 บาท/ตารางเมตร
• Fully Furnished
• เพดานสูง 2.8 เมตร
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 5o บาท/ตร.ม./เดือน

*ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูล ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

โดยทาง Think Of Living ได้เคยรีวิวเกี่ยวกับ M Jatujak ไว้แล้ว สามารถ คลิกอ่านรีวิว ได้เลยค่ะ

The Line จตุจักร – หมอชิต จาก แสนสิริ ความพิเศษคือการร่วมมือกับ BTS Group ที่ทำให้ทางโครงการมีแผนที่จะมี Sky Walk เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้ามายังโครงการเลยทีเดียว โครงการเป็นคอนโด High Rise 43 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวน 841 ยูนิต โครงการเปิดตัวต้นปีที่แล้ว ซึ่งตอนนี้โครงการกำลังก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018 เนื้อที่โครงการประมาณ 4-2-95 ไร่ มีห้องพักหลายแบบให้เลือกตั้งแต่ 1-3 Bedroom และแบบ Duplex มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 25.25 – 105.75 ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted สำหรับราคาห้องพักเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 173,000-189,000 บาท/ตร.ม. หรือราคาเริ่มต้นประมาณ 4.6 ล้านบาท

Facilities ของโครงการจะประกอบด้วย Lobby, Fitness, Swimming Pool, Jacuzzi, Kids Room, Library, Meeting Room, Bussiness Lounge, Game Room และ Sky Pavillion ที่จอดรถไม่รวมซ้อนคันคิดเป็น 50% ลิฟต์มีให้ 5 ตัวคิดเป็นอัตราส่วน 168 : 1 ถือว่าหนาแน่นพอสมควรในชั่วโมงเร่งด่วนที่ทุกคนต้องขึ้นลงลิฟต์พร้อมกัน โครงการนี้ปิดการขายได้ภายในวันเดียวเลยนะคะ สำหรับผู้ที่สนใจคงต้องหาซื้อใบจองหรือรอดูมือ 2 กันค่ะ

โดยทาง Think Of Living ได้เคยรีวิวเกี่ยวกับ The Line จตุจักร – หมอชิตไว้แล้ว สามารถ คลิกอ่านรีวิวพาชมทำเล และ รีวิวโครงการ ได้เลยค่ะ

The line พหลฯ-ประดิพัทธ์ จาก แสนสิริ คอนโด High Rise อีก 1 โครงการที่ทางแสนสิริร่วมมือกับ BTS เป็นคอนโด High Rise 46 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวน 981 ยูนิต+คลับเฮ้าส์ 2 ชั้น 1 อาคารและร้านค้า 1 ยูนิต โครงการเปิดตัวต้นไปไม่นานนี้ เนื้อที่โครงการประมาณ 5 ไร่ มีห้องพักหลายแบบให้เลือกตั้งแต่ 1-3 Bedroom มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 26.25 – 111.50 ตร.ม. โดยมีกำหนดเริ่มสร้างต้นปี 2561 และคาดว่าแล้วเสร็จช่วงต้นปี 2563 สำหรับราคาห้องของโครงการประมาณ 163,000-188,000 บาท/ตร.ม.

Facilities ของโครงการ ได้แก่ Lobby, Fitness, Swimming Pool, Jacuzzi, Library, สนามเด็กเล่น ชั้น 35, ห้องพักผ่อนเอนกประสงค์ ชั้น 46 และ จุดบริการชาร์ตแบตเตอรี่ สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 27 October 2016

• 1 Bedroom ชั้น 7 เนื้อที่ 33.75 ตร.ม. ราคา 4.605 ล้านบาท หรือประมาณ 136,457 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom ชั้น 14 เนื้อที่ 33.50 ตร.ม. ราคา 5.338 ล้านบาท หรือประมาณ 159,368 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom ชั้น 36 เนื้อที่ 33.50 ตร.ม. ราคา 5.754 ล้านบาท หรือประมาณ 171,768 บาท/ตร.ม.
• Fully Furnished
• เพดานสูง 2.7 เมตร
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 52 บาท/ตร.ม./เดือน

โดยทาง Think Of Living ได้เคยรีวิวเกี่ยวกับ The line พหลฯ-ประดิพัทธ์ ไว้แล้ว สามารถ คลิกอ่านรีวิวพาชมทำเล และ รีวิวโครงการ ได้เลยค่ะ

Ideo พหลฯ–จตุจักร จาก อนันดา คอนโด High Rise 35 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวน 390 ยูนิต เป็นเพียงโครงการเดียวในกลุ่มโครงการเปิดใหม่ที่มีห้องแบบ Studio ทำให้มีราคาเริ่มต้นที่หยิบจ่าย นอกจากนี้ยังมีห้องพักหลายแบบให้เลือกทั้ง 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 24.5 – 72 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท สำหรับผู้ที่สนใจโครงการนี้ทางโครงการยังไม่ได้ตั้งสำนักงานขายบนที่ดินจริงนะคะ สามารถไปชมห้องตัวอย่างได้ที่โครงการ Ideo สุขุมวิท 93

Facilities ของโครงการตาม concept ” Live Energetic” สำหรับคนรักสุขภาพและทำกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ Energetic Pool, Energetic Panoramic Deck มาในรูปแบบของ Panoramic Fitness ได้วิวเมืองมุมสูง, Energetic Social Club มีให้ครบทั้ง Co-working space และ Library, Energetic box เป็นห้องเล่น Yoga fly และ Zumba สุดท้ายคือ Sky Jogging Trail โครงการมีที่จอดรถ 70% โดย เป็นที่จอดระบบ Auto Parking ถือว่าค่อนข้างมากทีเดียวสำหรับคอนโดใกล้รถไฟฟ้า ลิฟต์มี 2 ตัวคิดเป็นอัตราส่วน 167: 1 หนาแน่นพอๆกับ The Line พหลฯ-ประดิพัทธ์ ที่เปิดตัวในช่วงเดียวกันเลยค่ะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 21 December 2016

• Studio เนื้อที่ 24.5 ตร.ม. ราคา 4.45 ล้านบาท หรือประมาณ 122,000 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom เนื้อที่ 34 ตร.ม. ราคา 5.5 ล้านบาท หรือประมาณ 161,700 บาท/ตร.ม.
• 2 Bedroom เนื้อที่ 57.5 ตร.ม. ราคา 7 ล้านบาท หรือประมาณ 178,000 บาท/ตร.ม.
• Fully Furnished
• เพดานสูง 2.65 เมตร
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 68 บาท/ตร.ม./เดือน

โดยทาง Think Of Living ได้เคยรีวิวเกี่ยวกับ Ideo พหลฯ–จตุจักร ไว้แล้ว สามารถ คลิกอ่านรีวิวพาชมทำเล ได้เลยค่ะ

Notting Hill Jatujak-Interchange จาก Origin จัดเป็นโครงการที่มีราคาต่อตารางเมตรและราคา Package ต่อยูนิตต่ำสุดในกลุ่มคอนโดเปิดใหม่-ใกล้เสร็จในย่านนี้ โดยโครงการเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวน 156 ยูนิต คงถูกใจสำหรับผู้ที่ชอบโครงการที่มีเพื่อนบ้านน้อยๆนะคะ โครงการเน้นขายห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus ที่สามารถจัดห้องอเนกประสงค์ที่เพิ่มขึ้นมาเป็นห้องนอนได้อีกห้องหนึ่ง มีราคาเริ่มต้นที่ 2.7 ล้านบาท

Facilities ส่วนกลางของโครงการ Low Rise จะไม่ได้มีเยอะเท่าโครงการข้างเคียงที่เป็นคอนโด High Rise แต่ก็มีให้ครบตามมาตรฐานปกติคือมีสระว่ายน้ำ Fitness ห้อง Co-Working Space และสวนที่อยู่บน Roof Top

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 28 November 2016

• แบบ Deluxe (s) 1 Bedroom 24.5-26 ตร.ม. ราคา 2.7-3.2 ล้านบาท หรือ 110,204 – 123,077 บาท/ตร.ม.
• แบบ Deluxe (M) 1 Bedroom 30-33 ตร.ม. ราคา 3.5-4.3 ล้านบาท หรือ 116,667 – 130,303 บาท/ตร.ม.
• แบบ Suite 1 Bedroom Plus 34-34.9 ตร.ม. ราคา 3.7-4.4 ล้านบาท หรือ 108,824 – 126,074 บาท/ตร.ม.
• แบบ Penthouse 2 Bedrooms 45.5-52.4 ตร.ม. ราคา 5.1-6.4 ล้านบาท หรือ 112,088 – 122,137 บาท/ตร.ม.

• Fully Furnished ยกเว้น โซฟาและโต๊ะทานข้าว
• ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

โดยทาง Think Of Living ได้เคยรีวิวเกี่ยวกับ Notting Hill Jatujak-Interchange ไว้แล้ว สามารถ คลิกอ่านรีวิวโครงการฉบับเต็ม ได้เลยค่ะ

การเดินทางเข้า-ออกด้วยรถยนต์และรถไฟฟ้าแต่ละโครงการ

มาถึงตรงนี้ก็ได้ทราบรายละเอียดเบื้องต้นของโครงการ “เปิดใหม่-ใกล้เสร็จ” ในย่านสะพานควาย-จตุจักรกันไปแล้วนะคะ ซึ่งการเลือกคอนโดที่เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัยแต่ละคนนั้นจะต้องพิจารณาหลายอย่างมาก  ยิ่งในบริเวณที่มีโครงการเปิดตัวกันหลายแห่ง คงยากต่อการพิจารณาใช่ไหมคะ วันนี้ทางทีมงานจะนำข้อมูลเบื้องต้นอย่าง ตำแหน่งที่ตั้ง เส้นทางการเดินทาง ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ มาเรียบเรียงให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น เพื่อจะมาดูกันว่าโครงการไหนในทำเลนี้จะเหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่มีเดินทางในเส้นทางไหนกันบ้าง

การเดินทางเข้า-ออกโครงการนับเป็นปัจจัยแรกๆที่เราต้องคำนึงถึง เพื่อเลือกให้เหมาะกับเส้นทางที่เราจะต้องเดินทางกันเป็นประจำ อย่างเช่นเส้นทางที่เราต้องเดินทางไปทำงาน ต่อไปเราจะมาเจาะลึกการเดินทางเข้าถึงโครงการกันค่ะ

การใช้ “ถนนพหลโยธินฝั่งออกเมือง” ไปยังโครงการ หลายๆคนที่ทำงานในเมืองฝั่งพญาไท อารีย์ เวลากลับโครงการคงจะใช้เส้นทางผ่านถนนพหลโยธินขาฝั่งออกเมือง ซึ่งฝั่งออกเมืองมักจะมีปริมาณรถน้อยกว่าฝั่งขาเข้าเป็นปกติอยู่แล้ว ทำให้การไปโครงการไม่ลำบากนัก

• โครงการ Signature Urbano และ Ideo พหลฯ-จตุจักร ค่อนข้างสะดวกมากเพราะตัวโครงการติดถนนพหลโยธินเลย
• โครงการ The Line พหลฯ-ประดิพัทธ์ จะต้องเลี้ยวซ้ายตรงแยกสะพานควายเพื่อเข้าถนนประดิพัทธ์
• โครงการ M จตุจักรและ Nottinghill Jatujak-Interchange สามารถเลี้ยวขวาเข้าซอยพหลโยธิน 18 ได้เลย
• โครงการ The Line จตุจักร-หมอชิต จะต้องไปกลับรถที่ห้าแยกลาดพร้าว เพราะโครงการอยู่ถนนพหลฯฝั่งขาเข้าเมือง

การใช้ “ถนนพหลโยธินฝั่งเข้าเมือง” ไปยังโครงการ สำหรับคนที่ทำงานอยู่ทางย่านลาดพร้าว เกษตรนวมินทร์ ก็คงจะใช้เส้นทางพหลฯฝั่งเข้าเมืองในการเข้าโครงการเป็นส่วนใหญ่

• โครงการ The Line จตุจักร-หมอชิต จะอยู่ติดกับถนนพหลฯ ฝั่งขาออกจึงค่อนข้างสะดวกในการเดินทางจากทางลาดพร้าว
• โครงการ M จตุจักรและ Nottinghill Jatujak-Interchange สามารถเลี้ยวซ้ายเข้าซอยพหลฯ 18 ได้เลย
• โครงการ The Line พหลฯ-ประดิพัทธ์ จะต้องมาเลี้ยวขวาตรงแยกสะพานควายเพื่อเข้าถนนประดิพัทธ์ ซึ่งช่วงแยกตรงนี้จะมีปริมาณรถค่อนข้างมากทีเดียว
• โครงการ Signature Urbano และ Ideo พหลฯ-จตุจักร หากมาจากทางพหลฯฝั่งขาเข้าจะต้องมากลับรถที่แยกสะพานควายก่อน

การใช้ “ถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งออกเมือง” ไปยังโครงการ สำหรับใครที่เดินทางมาจากทางดินแดงแล้วจะเข้าโครงการจากทางถนนวิภาวดีรังสิตขาออกค่อนข้างสะดวก

• โครงการ The Line พหลฯ-ประดิพัทธ์ สามารถเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุทธิสารวินิจฉัย ผ่านแยกสะพานควายเพื่อเข้าถนนประดิพัทธ์ได้ โดยถนนสุทธิสารนี้เป็นถนน 3 เลน ที่การจราจรจะคับคั่งเป็นช่วงๆ มีการเปลี่ยนเลนให้วิ่งสวนกัน ไป 2 กลับ 1 ในช่วงเวลาเช้าเย็นที่ต่างกัน (ต้องศึกษาเวลาวันเวย์ดีๆค่ะ) ส่วนโครงการ Signature Urbano และ Ideo พหลฯ-จตุจักร ต้องเลี้ยวขวาจากแยกสะพานควายเพื่อเข้าโครงการอีกทีค่ะ
• โครงการ M จตุจักรและ Nottinghill Jatujak-Interchangeให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิภาวดีฯซอย 3 จะสามารถไปทะลุพหลฯ 18 ที่เป็นซอยที่ตั้งของโครงการได้
• โครงการ The Line จตุจักร-หมอชิต จะต้องวิ่งตรงไปจนถึงห้าแยกลาดพร้าวแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลฯ จึงจะสามารถเข้าโครงการได้นะคะ
• โครงการ Signature Urbano และ Ideo พหลฯ-จตุจักร หากมาจากทางพหลฯฝั่งขาเข้าจะต้องมากลับรถที่แยกสะพานควายก่อน

การใช้ “ถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งเข้าเมือง” ไปยังโครงการ ถ้าใครที่เดินทางจากทางเกษตรศาสตร์เป็นประจำ สำหรับโครงการส่วนใหญ่ให้ใช้เส้นทางวิภาวดีรังสิตผ่านห้าแยกลาดพร้าวแล้วไปกลับรถก่อนถึงแยกสะพานสุทธิสารเพื่อเข้าซอยวิภาวดีฯ 3 จะสามารถไปทะลุซอยพหลฯ 18 และเชื่อมไปยังถนนพหลโยธินได้

• โครงการ M จตุจักรและ Nottinghill Jatujak-Interchange ใช้ซอยวิภาวดีฯ 3 ทะลุไปซอยพหลฯ 18 ได้
• โครงการ The Line พหลฯ-ประดิพัทธ์ ออกจากซอยพหลฯ 18 ทะลุมายังถนนใหญ่พหลโยธิน แล้วไปเลี้ยวขวาเข้าถนนประดิพัทธ์ที่แยกสะพานควาย
• โครงการ Signature Urbano และ Ideo พหลฯ-จตุจักร หากมาจากทางพหลฯฝั่งขาเข้าจะต้องมากลับรถที่แยกสะพานควายก่อน
• โครงการ The Line จตุจักร-หมอชิต จะอยู่ใกล้ห้าแยกลาดพร้าวมากที่สุด เมื่อผ่านห้าแยกลาดพร้าวแล้วให้เลี้ยวไปทางถนนพหลฯ ก็สามารถเข้าโครงการได้เลย

การใช้ทางด่วนเพื่อ “เข้าเมือง” ทางด่วนในย่านนี้ที่ใกล้สุดจะเป็นทางด่วนศรีรัช ซึ่งเจ้าทางด่วนเนี่ยพอขึ้นมาแล้ว เราสามารถเลือกได้ว่าจะไปทางดินแดง, พระราม 9 หรือ จะไปทางพระราม 4, สีลม บางโคล่ ดาวคะนองก็ได้

• โครงการ The Line พหลฯ-ประดิพัทธ์ ค่อนข้างสะดวกเพราะมีทางเลือกได้ 2 เส้นทาง คือวิ่งออกทางถนนประดิพัทธ์เลยหรือวิ่งผ่านถนนพหลฯไปเลี้ยวซ้ายเข้าถนนกำแพงเพชรก็ได้
• โครงการ Signature Urbano และ Ideo พหลฯ-จตุจักร ก็สะดวกเช่นกันเพราะจากโครงการสามารถเลี้ยวซ้ายเข้าถนนกำแพงเพชรได้สะดวกทีเดียว
• โครงการ The Line จตุจักร-หมอชิต สามารถวิ่งตามถนนพหลฯ แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนกำแพงเพชรได้
• โครงการ M จตุจักรและ Nottinghill Jatujak-Interchange จะไม่สามารถตรงผ่านแยกกำแพงเพชรไปได้ จะต้องวิ่งไปออกซอยพหลฯ 18/1 แล้วจึงเข้าถนนพหลฯ แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนกำแพงเพชรได้ 
  

การใช้โทลเวย์เพื่อ “ออกเมือง” สำหรับใครที่ต้องการเดินทางขึ้นเหนือไปทางสนามบินดอนเมือง หรือเลยไปถึงรังสิต-ปทุมธานี ก็มีตัวช่วยอย่างโทลเวย์ที่คู่ขนานลอยฟ้าไปกับเส้นวิภาวดีรังสิตเลย สะดวกมากไม่ต้องฝ่ารถติดบนถนนวิภาวดีแต่ค่าผ่านทางก็แพงกว่าทางด่วนเส้นอื่นๆเช่นกัน

• โครงการ M จตุจักรและ Nottinghill Jatujak-Interchange ค่อนข้างสะดวกทีเดียวเพราะสามารถทะลุไปออกซอยวิภาวดีฯ 3 แล้วชิดขวาขึ้นโทลเวย์ได้เลย
• โครงการ Signature Urbano และ Ideo พหลฯ-จตุจักร ก็สะดวกเช่นกันเพราะวิ่งบนถนนพหลฯขาออกไปยาวๆ ก็ถึงทางขึ้นโทลเวย์ที่ห้าแยกลาดพร้าวได้เลย
• โครงการ The Line พหลฯ-ประดิพัทธ์ จะต้องเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลฯ แล้วจึงค่อยตรงไปขึ้นโทลเวย์ที่ห้าแยกลาดพร้าว
• โครงการ The Line จตุจักร-หมอชิต จะต้องไปกลับรถที่แยกกำแพงเพชรก่อน เพราะโครงการอยู่ถนนพหลฯฝั่งขาเข้าเมือง แล้วจึงวิ่งตามถนนพหลฯ ไปขึ้นโทลเวย์ที่ห้าแยกลาดพร้าว

การใช้ทางด่วน “ศรีรัช-วงแหวนรอบนอก” สุดท้ายของใหม่สดๆร้อนๆที่พึ่งเปิดให้ใช้วันที่ 22 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา กับทางด่วน “ศรีรัช-วงแหวนรอบนอก” เป็นทางด่วนสายสำคัญที่ช่วยระบายการจราจร เชื่อมโยงระหว่างกรุงเทพและฝั่งธนบุรี ให้ประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวกมากขึ้น ดูรูปประกอบจุดทางขึ้นลงต่างๆได้ที่ “บทความนี้” 

การเดินทางมาขึ้นทางด่วนของแต่ละโครงการใช้เส้นทางเหมือนกับที่มาขึ้นทางด่วนศรีรัชเข้าเมือง แต่พอเข้าถนนกำแพงเพชรแล้วจะต้องเลี้ยวเข้าถนนกำแพงเพชร 2 อีกครั้งหนึ่ง ค่อยตรงยาวๆไปขึ้นทางด่วนได้เลย

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS และ MRT ในปัจจุบันพื้นที่ทำเลนี้จะมีทั้งหมด 4 สถานี เป็นสถานี BTS และ MRT อย่างละ 2 สถานี ความพิเศษของสถานีรถไฟฟ้าในย่านนี้คือจะมีสถานี Interchange อยู่ด้วย (สถานีจตุจักร-หมอชิต) ทำให้ผู้อยู่อาศัยในคอนโดที่อยู่ใกล้สถานี Interchange จะมีทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเดินทางตามเส้นทางของ BTS สายสีเขียว หรือจะใช้เส้นทางของ MRT สายสีน้ำเงินก็เลือกได้สะดวก

สำหรับโครงการที่มีระยะห่างจากรถไฟฟ้าน้อยที่สุดต้องยกให้ Signature By Urbano ที่มีระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสะพานควายเพียง 20 ม. เท่านั้น แถมยังติดฝั่งบันไดเลื่อนอีกด้วย ส่วนโครงการอื่นๆก็จะห่างจากสถานีออกไปหน่อย ซึ่งเราก็ต้องพิจารณาว่าปกติเราใช้รถไฟฟ้าเส้นไหน แล้วเราจะสามารถเดินไหวไหมหรือโอเคไหมกับการต่อรถมอเตอร์ไซค์อีกต่อหนึ่ง

เจาะลึกความอุดมสมบูรณ์

จากข้อมูลเบื้องต้นที่เราได้ทราบกันไปแล้วว่า ภาพรวมของพื้นที่ในย่านนี้จัดได้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีความแตกต่างกันออกไป เราจะพาไปดูหน่อยว่าบรรยากาศของแต่ละที่ว่ามีหน้าตา และบรรยากาศอย่างไรกันบ้าง ไปดูกันเลย

เริ่มจากในซอยประดิพัทธ์กันก่อน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ The Line พหลฯ-ประดิพัทธ์ ทำให้โครงการนี้ถูกรายล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ที่มีราคาย่อมเยาว์ แบบว่าสามารถอิ่ม อร่อยในราคาจ่ายง่าย นอกจากร้านอาหารก็จะมีร้านค้าแผงลอยขายของใช้ต่างๆอีกด้วย

สภาพแวดล้อมริมถนนประดิพัทธ์ ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์เก่าแก่สองฝั่งถนน มีร้านอาหารและร้านค้าอื่นๆเรียงราย คือตอนช่วงเช้าและกลางวันจะเดินค่อนข้างง่ายนะคะ เพราะยังไม่มีรถเข็นร้านค้ามาตั้งริมฟุตบาท แต่พอตกเย็นหน่อยเท่านั้นแหละ ฟุตบาทนั้นจะตกเป็นของเหล่าร้านค้าริมทางทั้งหลายแบบยาวมากๆทั้งสองฝั่งไปเลย การเดินเท้าอาจจะจะยากหน่อย แต่ว่ามันคึกคักมากๆไม่มีความเปลี่ยวเลย และมีของกินมากมายหลากหลายสุดๆไปเลยล่ะ

ลองซูมให้ดูพวกร้านค้าริมทางที่มาตั้ง แต่ว่าร้านหลักจริงๆจะอยู่ตามตึกแถวนะคะ จะเป็นพวกร้านทั่วไปอาทิเช่น ร้านทอง ร้านอาหาร มินิมาร์ท ร้านยา ร้านขายอุปกรณ์ทั่วไป ร้านซ่อมจิปาถะเป็นต้น

ต่อไปเป็นพื้นที่ริมถนนพหลฯ ที่เลี้ยวออกมาจากถนนประดิพัทธ์แล้ว บริเวณนี้จะเป็นแถวๆหน้าโครงการ Signature By Urbano ซึ่งมีความคึกคักไม่ต่างในซอยประดิพัทธ์เลย

บรรยากาศทางเดินริมถนนพหลโยธิน คือแบบ ร้านข้าว ร้านอาหารรถเข็นตั้งบนฟุตบาทจริงจังมาก ยาวเป็นทางไปชนกับซอยประดิพัทธ์เลย การมีร้านแบบนี้ทำให้เดินลำบากหน่อยก็จริง แต่ว่ามันก็ทำให้ไม่เปลี่ยวเวลากลางคืนนะ

นอกจากร้านอาหารริมทางก็จะมี Tesco Lotus Express ที่ตั้งอยู่ในตึกแถวด้วย เอาไว้พึ่งพิงซื้อของกินของใช้เข้าบ้านได้สบายๆเลย

ข้ามถนนมาต่อกันที่อีกฝั่งหนึ่งของถนนพหลฯ แถวบริเวณ Big C ซึ่งตรงนี้จะมีทั้ง Hypermarket โรงพยาบาลเปาโล ร้านอาหาร ร้านขายยา ร้านขายอุปกรณ์เครื่องเขียน ธนาคาร และอื่นๆจิปาถะไปหมด

บรรยากาศบริเวณหน้า Big C สะพานควาย ซึ่งแถวนี้นี่มีของขายเพียบทั้งของกินของใช้ราคาเบาๆ หรือใครอยากทานร้านอาหารตามห้างฯก็เข้าไปทานใน Big C ได้

นอกจากริมถนนใหญ่จะมีแผงลอยตั้งกันตลอดทางเดินแล้ว ในซอยย่อยๆก็ยังมีร้านอาหารที่เปิดอีกเช่นกัน ทั้งที่เป็นรถเข็นขายอาหาร และร้านอาหารในตึกแถว ยาวเข้าไปด้านในซอยเลย

ถัดจากโซนด้านหน้า Big C ก็กระเถิบมาหน่อยที่ใต้คอนโด Ideo Mix

ภายในโครงการคอนโดรุ่นพี่ที่บุกเบิกในย่านนี้อย่าง IDEO Mix พหลโยธิน ของ อนันดา จะมีทั้งร้านสะดวกซื้ออย่าง Max Valu ทันใจ และมี True Coffee ให้ใช้บริการอยู่ นอกจากนั้นยังมีสถาบันสอนพิเศษ, คลินิกทันตกรรมอีกด้วย

ออกมาจากคอนโด Ideo Mix เรียบร้อย ก็จะพาข้ามถนนมายังแถวๆโครงการรุ่นน้องในค่ายเดียวกันอย่าง Ideo พหลฯ-จตุจักร ซึ่งใกล้ๆกับคอนโดก็จะมีซอยพหลฯ 15 เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์อีกซอยหนึ่งเช่นกัน

บรรยากาศภายในซอยพหลโยธิน 15 คือร้านอาจจะไม่ได้สวยหรู แต่ถ้าเป็นของกินเรียกว่ามีเกือบทุกชนิดเลย ร้านอาหารตามสั่ง, ส้มตำไก่ย่าง, ผัดไท, ข้าวมันไก่, ก๋วยเตี๋ยว, ร้านกาแฟ, ร้านน้ำเต้าหู้ ขนมของหวาน โอ๊ยยยย เยอะแยะหาง่ายมากๆ และก็มีพวกร้านขายยา ร้าตัดผม ของใช้จิปาถะ 7-11 ด้วย

เดินมาจาก Ideo พหลฯ-จตุจกัร ไปทางถนนกำแพงเพชรอีกหน่อยก็จะเจอกับตลาด อตก. พอรู้ว่าโครงการในย่านนี้อยู่ใกล้กับตลาด อตก. ก็เตรียมตัวน้ำหนักขึ้นกันได้เลย เพราะตลาดนี้ขายของคุณภาพจริงๆ อร่อย สด แต่ราคาก็จะสูงขึ้นมาหน่อยตามคุณภาพอาหารนะ

บรรยากาศภายในสำนักงานขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร หรือ อตก. เป็นศูนย์รวมสินค้า อาหารสด อาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูป ร้านจำหน่ายผักโครงการหลวง ปลอดสารพิษต่างๆ ของคุณภาพดีต่างๆ  ซึ่งเป็นแหล่งค้าขายแห่งใหญ่ของกรุงเทพมหานคร มีสินค้าหลากหลายและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่เรื่องราคาคงไม่ได้ถูกเหมือนตลาดสดทั่วๆไป จะเดินทางมาด้วยรถยนต์หรือรถไฟฟ้าก็สะดวกทั้งนั้น เพราะภายในมีที่จอดรถให้บริการ ส่วนด้านหน้าตลาดก็มีสถานี MRT กำแพงเพชรด้วยค่ะ

ต่อไปจะพาข้ามจากตลาด อตก. มาที่ตลาดนัดขนาดใหญ่ของกรุงเทพ ที่ไม่ได้เป็นแค่ตลาดยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย นั่นคือ ตลาดจตุจักร นั่นเองงงง

ตลาดจตุจักรมีขนาดใหญ่มากๆ อันนี้เป็นทางเข้า “ประตู 2” ของตลาดนัดจตุจักร ซึ่งเป็นทางเข้าหลักที่รถยนต์สามารถเข้าได้ แต่มันมีทางเข้าเล็กๆสำหรับคนเดิน อีกหลายประตูมากค่ะ

ตลาดนัดจตุจักรนี่เป็นตลาดที่ใหญ่มากเคยถูกบันทึกใน Guinness Book ปี 2525 ด้วย ว่าเป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก (แต่ตอนนี้โดนของต่างประเทศแซงไปเรียบร้อยแล้ว) ในแต่ละวันจะมีคนเดินตลาดนัดแห่งนี้มากกว่า 200,000 คนเลยทีเดียว (ข้อมูลจาก Wikipedia นะคะ) ปกติแล้วตลาดจะเปิดวันพุธ-อาทิตย์, วันพุธ-พฤหัสเช้าถึงเที่ยงจะเป็นตลาดนัดต้นไม้, วันศุกร์กลางคืน เป็นตลาดนัดขายส่ง, และวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะเปิดตลาดนัดเต็มพื้นที่อย่างที่เราคุ้นเคยกันนี่แหละค่ะ

ไม่ไกลจากตลาดนัดจตุจักรก็จะมีซอยพหลฯ 18 ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซอยนี้เป็นซอยลัดที่ไปออกซอยวิภาวดีฯ 3 ซึ่งบรรยากาศในซอยนี้พลุกพล่านไปด้วยรถยนต์ เพราะนอกจากจะเป็นซอยลัดแล้วซอยนี้ยังเป็นที่ตั้งของกรมขนส่งอีกด้วย รถจึงหนาแน่นเป็นพิเศษ แต่ด้วยความพลุกพล่านก็ทำให้ในซอยนี้มีร้านอาหารอยู่หลายร้าน แต่จะไม่ใช่ร้านชื่อดังอะไรนะคะ จะเป็นร้านริมทางทั่วไป

บรรยากาศร้านอาหารในซอยก็จะเป็นร้านริมทาง ตามสั่งง่ายๆแบบนี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงต้นซอยทั้งทางฝั่งที่ใกล้ถนนหลฯ และฝั่งที่ใกล้ออกถนนวิภาวดีฯ

ต่อไปแหล่งความอุดมสมบูรณ์จะกระเถิบมาไกลหน่อยที่ซอยเฉยพ่วง จัดเป็นซอยที่เป็นแหล่งที่ตั้งของอาคารสำนักงานหลายอาคารทำให้ซอยนี้กลายเป็นแหล่งขายอาหารเพื่อตอบโจทย์พนักงานออฟฟิศจำนวนมาก ร้านส่วนใหญ่จะเปิดในช่วงเช้า-บ่ายๆ ส่วนในตอนเย็นก็จะมีร้านเปิดอยู่บ้างแต่จะไม่ได้คึกคักเท่าตอนกลางวัน

บรรยากาศในซอยจะมีร้านขายอาหาร ขายน้ำ ขายขนมต่างๆยาวไปตลอดทางในซอย มีทั้งที่เป็นแผงลอย รถเข็น และร้านที่อยู่ในอาคาร อาหารก็มีความหลากหลายทั้งข้าว ก๋วยเตี๋ยว แบบว่าครบจริงๆ

ภายในซอยจะมีศูนย์อาหารอยู่ 2 ที่ใหญ่ๆ ภายในจะเป็นร้านค้าเล็กๆที่ขายของอร่อยๆเต็มไปหมด แต่ศูนย์อาหารจะไม่ได้ขายยาวถึงเย็นเหมือนพวกร้านริมทางในซอย โดยจะเปิดช่วงเช้าถึงบ่ายโมงก็เริ่มเก็บหมดแล้ว

เปรียบเทียบข้อมูลแต่ละโครงการ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

สรุป สุดท้ายนี้แต่ละโครงการจะมีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกัน ซึ่งจะมีความเหมาะสมกับแต่ละกลุ่มผู้อยู่อาศัยนะคะ จะขอสรุปแยกเป็นโครงการ ดังนี้

โครงการกำลังก่อสร้าง-ใกล้เสร็จ-เพิ่งสร้างเสร็จ 3 โครงการ 

• Signature By Urbano สะพานควาย เป็นคอนโดที่เพิ่งจะก่อสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ เหมาะกับคนที่ต้องการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมระดับ High-Luxury ติดถนนใหญ่ ติด BTS ต้องการที่จอดรถเยอะ มองหาห้องขนาด 2 Bedroom อยู่กัน 2 คนหรือเป็นครอบครัวขนาดเล็ก ชอบ Facilities ส่วนกลางที่กว้างขวาง หรูหรา และอยากได้โครงการที่มีความหนาแน่นน้อย มีเพื่อนบ้านไม่มาก มีงบประมาณตั้งแต่ 10 – 16 ล้านบาท

• จุดเด่น

• การเดินทางสะดวกทั้งการเดินด้วยรถไฟฟ้าและรถยนต์ คืออยู่ใกล้สถานี BTS สะพานควาย เพียง 20 ม. และได้ติดฝั่งบันไดเลื่อนด้วย ส่วนรถยนต์ก็มีตัวเลือกมากกว่าโครงการอื่นที่อยู่ติดถนนพหลโยธินเพราะมีทางออก 2 ทาง คือทางถนนพหลโยธินและด้านหลังโครงการทางซอยประดิพัทธ์ 25
• โครงการมีความหนาแน่นน้อย ด้วยจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดที่ 14 ยูนิตและอัตราส่วนลิฟต์ที่ 84.3 : 1 ทำให้โครงการนี้ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูง ไม่หนาแน่น ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าระดับบนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

• ในอนาคตห้องพักบางส่วนที่ได้วิวสวนจตุจักร จะถูกบังสายตาด้วยคอนโดขึ้นใหม่
• โครงการขายห้องในรูปแบบ Fully Fitted ด้วยวัสดุคุณภาพดี แต่เมื่อเทียบกับโครงการข้างเคียง ในราคาที่พอๆกันจะได้เป็นแบบ Fully Furnished แล้ว

• จุดเด่น

• ขนาดห้องของคอนโด Brand M ที่เล็กลงทำให้ราคาห้องเริ่มต้นหยิบจับง่ายขึ้น และให้เป็นแบบ Fully Furnished พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าเหมาะกับคนที่ต้องการหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย
• Facilities ส่วนกลางที่ให้มาเยอะมากๆ กว่าโครงการอื่นๆในละแวกเดียวกัน

• ทำเลโครงการอยู่ระหว่างรถไฟฟ้าหลายสาย ทำให้มีระยะห่างแต่ละสถานีประมาณ 400-500 ม.
• ทำเลรอบๆโครงการจะค่อนข้างแห้งแล้งหน่อย มีความอุดมสมบูรณ์น้อยกว่าเพื่อนๆ โดยจะหาของกินในระยะเดินติดโครงการได้ยาก

• จุดเด่น

• ใกล้สวนรถไฟ ทำให้ได้วิวสวนสาธารณะขนาดใหญ่ สวยและใกล้ที่สุดคนอื่นจะติดตลาด jj แต่นี่ได้วิวสวนเลย สามารถไปเดินหรือปั่นจักรยานได้ โดยไม่ต้องขับรถไป
• โครงการจับมือกับ BTS Group ทำ Sky Walk จาก BTS มาเชื่อมต่อกับ Shop Mall เล็กๆที่หน้าโครงการทำให้สามารถเดินไปสถานี BTS ซึ่งเป็นสถานี Interchange ได้ง่าย แม้ตอนนี้รายละเอียดยังไม่ออกแต่ถ้าทำจริงนี่ลูกบ้านเดินจากสถานีรถไฟฟ้าได้สบายๆเลย

• โครงการขายห้องแบบ Fully Fitted มากับวัสดุที่ไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่เมื่อเทียบกับราคา ถือว่าให้มาน้อยไปหน่อย
• ความหนาแน่นของโครงการที่ค่อนข้างสูง โดยมีอัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 168 :  1 ส่วนที่จอดรถไม่รวมซ้อนคันอยู่ที่ 50% ซึ่งคนอยู่อาศัยระดับนี้ส่วนใหญ่ก็น่าจะมีรถอย่างน้อยห้องละคันแล้วนะคะ

โครงการเปิดใหม่ 3 โครงการ 

• The line พหลฯ-ประดิพัทธ์ เป็นคอนโดเปิดตัวใหม่ที่มีระยะห่างจากสถานี BTS มากกว่าโครงการเพื่อนๆที่เปิดใหม่-ใกล้สร็จในช่วงนี้ แลกมากับการตั้งอยู่ในแหล่งความอุดมสมบูรณ์บนถนนประดิพัทธ์ จึงเหมาะกับคนที่ชอบความคึกคัก ความอุดสมบูรณ์สูงในย่านประดิพัทธ์ และกำลังมองหาคอนโดที่ไม่ได้ติดรถไฟฟ้าซะทีเดียวก็ยังสามารถเดินได้ในระยะ 600 ม. อยากอยู่ตึกสูงที่มี Facilities เยอะ ชอบห้องแบบ Fully Furnished ไม่ต้องตบแต่งเยอะ ให้ Facility ส่วนกลางเยอะ มีงบประมาณตั้งแต่ 3.55 – 20 ล้านบาท 

•  จุดเด่น

• อยู่ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ในย่านประดิพัทธ์ หาของกินง่าย ราคาไม่สูง
• โครงการให้ Facilities ส่วนกลางมาครบ น่าใช้งาน ให้วัสดุดีกับเฟอร์แบบมีลูกเล่นเยอะ

• ทำเลโครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเกินระยะเดินไปหน่อย ประมาณ 600 ม. จึงต้องเดินไกลหน่อยหรืออาจจะต้องต่อรถมอเตอร์ไซค์อีกต่อหนึ่ง
• ที่จอดรถในโครงการมีอัตราส่วนที่น้อยไปสำหรับโครงการระดับนี้

• จุดเด่น

• ใกล้รถไฟฟ้าทั้ง BTS MRT และตลาด อตก. สวนจตุจักรแบบเดินไปได้
• Facilities ส่วนกลางให้มาเยอะและครบทั้ง สระว่ายน้ำ, Sky Lounge ส่วนอัตราส่วนที่จอดรถค่อนข้างมากถึง 70%

• แม้โครงการจะมีจำนวนยูนิตที่น้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งและมีจำนวนยูนิตต่อชั้นที่พอๆกับโครงการข้างเคียง แต่ก็มีอัตราส่วนความหนาแน่นของลิฟท์ที่สูงถึง 195 : 1 เลยทีเดียว
• โครงการมีค่าส่วนกลางที่สูงกว่าโครงการอื่นๆ ในละแวกนี้ที่มี Facilities ส่วนกลางพอๆกัน

• จุดเด่น

• เป็นเพียงไม่กี่ตัวเลือกของคอนโดระดับ Upper Class ในย่านนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ราคาระดับนี้จะได้เป็น 1  Bedroom แต่ที่นี่จะได้เป็น 1 Bedroom Plus ที่สามารถปรับเป็น 2 Bedroom ได้
• มีทางเลือกในการเดินทางที่หลายหลายทั้งรถไฟฟ้าและรถยนต์ โดยการเดินทางโดยรถไฟฟ้ามีให้เลือกทั้ง BTS และ MRT แต่ต้องเดินหรือต่อรถไปอีกหน่อย ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์จะมีเส้นทางลัดให้เลือกเดินทางได้หลายเส้นทาง

• ทำเลโครงการจะอยู่ในซอยย่อยลึกกว่าโครงการอื่นที่เปิดตัวใหม่ และอยู่ระหว่างรถไฟฟ้าหลายสาย ทำให้มีระยะห่างแต่ละสถานีประมาณ 500-600 ม.
• จะไม่ได้วิวเหมือนตึกสูงเพราะเป็นอาคาร 8 ชั้น

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับโครงการเปิดใหม่และใกล้เสร็จพร้อมอยู่ในย่านจตุจักร-สะพานควาย แต่ละโครงการก็งัดจุดเด่นมาแข่งกันแบบไม่มีใครน้อยหน้าใครเลย ซึ่งก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่าใครมีไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตแบบไหน สำหรับคำถามว่าโครงการไหนเป็นโครงการที่ดีที่สุด? อันนี้ก็ต้องอยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละบุคคลนะ ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าโครงการใดเป็นโครงการที่เหมาะสมกับคุณที่สุดเท่าตัวคุณเอง แต่เราสามารถมาดูเปรียบเทียบในเรื่องของข้อมูลได้ว่าสิ่งที่เราต้องการจะตรงกับโครงการไหนมากที่สุด แนะนำให้เพื่อนๆ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติม และลงไปเดินดูทำเลโครงการที่เราสนใจ ทำการบ้านเยอะหน่อย เชื่อว่าเพื่อนๆจะตอบกับตัวเองได้ว่าโครงการไหนที่เหมาะกับตัวเองที่สุดค่ะ 😀