สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน กลับมาพบกับบทความที่จะพาทุกท่านไปมองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์อีกครั้ง หลังจากที่ได้ลงบทความภาคแรกที่พาไปเจาะลึกคอนโดที่กำลังเปิดขายอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ในช่วงแยกแครายถึงแยกเชิงสะพานพระนั่งเกล้า ที่เปิดตัวมาไม่เกิน 5 ปี (ปี 2555-2559) หากใครยังไม่ได้อ่านสามารถคลิกอ่านได้ที่นี่ค่ะ ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าโครงการไหนในทำเลนี้จะเหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่มีความต้องการแบบไหนกันบ้าง มาค้นหาคอนโดที่เหมาะกับความต้องการของคุณด้วยกันค่ะ
เบื้องต้นขอให้เข้าใจตรงกันก่อนว่าในการเลือคอนโดนั้นแต่ละคนมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน ให้น้ำหนักในแต่ละเรื่องที่ไม่เท่ากัน บางคนให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางของคอนโดมิเนียม เพราะชอบนั่งเล่น พักผ่อนในพื้นที่สีเขียวของโครงการในขณะที่บางคนเน้นเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางเป็นหลัก เพราะทำงานกลับดึกไม่ต้องการเดินกลับโครงการไกลๆ จึงต้องการโครงการที่ใกล้รถไฟฟ้ามากที่สุด สำหรับคำถามว่าโครงการไหนจะเป็นโครงการที่ดีที่สุด? อันนี้ก็ต้องอยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละบุคคลค่ะ ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าโครงการใดเป็นโครงการที่เหมาะสมกับคุณที่สุดเท่าตัวคุณเองค่ะ แต่เราสามารถมาดูเปรียบเทียบในเรื่องของข้อมูลได้นะคะ ว่าสิ่งที่เราต้องการจะตรงกับโครงการไหนมากที่สุด โดยเราจะมาเปรียบเทียบข้อมูลทีละประเด็นตามข้อมูลพื้นฐานสำหรับผู้อยู่อาศัยกันค่ะ
*ราคา..เป็นราคาที่อ้างอิงจากการสำรวจข้อมูลเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2559 นะคะ
เริ่มที่หัวข้อแรกระยะห่างจากรถไฟฟ้า…ระยะห่างจากรถไฟฟ้าเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับหลายๆคนที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำนะคะ เพราะมันหมายถึงเวลาที่เราต้องเสียไปในการเดินทางแต่ละครั้ง หากใกล้รถไฟฟ้ามากๆก็สามารถเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าได้เลย ถ้าโครงการไหนไม่ได้ติดรถไฟฟ้าก็อาจต้องนั่งรถสองแถวหรือพี่วินไปแทนก็จะเพิ่มค่าเดินทางขึ้นมาอีก ซึ่งแต่ละคนให้ความสำคัญกับระยะห่างที่ต่างกัน ทีมงานได้ทำกราฟฟิคด้านล่างมาให้ดูระยะห่างของแต่โครงการกันได้ง่ายขึ้น ลองเลือกกันดูนะคะ
หากคุณกำลังมองหาคอนโดที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า หัวข้อนี้ได้จัดเรียงข้อมูลระยะห่างจากคอนโดถึงรถไฟฟ้ามาให้แล้วค่ะ คอนโดติดถนนรัตนาธิเบศร์ที่มีระยะห่างจากรถไฟฟ้าน้อยที่สุดจัดได้ 3 ลำดับ ดังนี้
- คอนโด ลุมพินีพาร์ค รัตนาธิเบศร์ – งามวงศ์วาน มีระยะห่าง 100 ม.จากสถานีรถไฟฟ้าบางกระสอ ซึ่งเป็นคอนโดที่มีระยะห่างจากรถไฟฟ้าน้อยที่สุดบนถนนรัตนาธิเบศร์ช่วงแยกแครายถึงแยกเชิงสะพานพระนั่งเกล้า โครงการนี้สร้างเสร็จพร้อมโอนแล้วค่ะ
- คอนโดที่ใกล้รถไฟฟ้าเป็นลำดับที่ 2 คือ คอนโด Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 และ คอนโด Skyline รัตนาธิเบศร์ มีระยะห่างจากรถไฟฟ้าเท่ากันที่ 250 ม.
- คอนโด Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 มีระยะห่าง 250 ม.จากสถานีรถไฟฟ้าบางกระสอ โครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนแล้วค่ะ
- คอนโด Skyline รัตนาธิเบศร์ มีระยะห่าง 250 ม. จากสถานีแยกนนทบุรี โครงการอยู่ในช่วงกำลังก่อสร้าง มีกำหนดเสร็จในเดือนกันยายน ปี 2560 ค่ะ
หัวข้อที่ 2 คือ อัตราส่วนที่จอดรถ…คงจะปฏิเสธกันไม่ได้เลยนะคะว่าทุกวันนี้คนกรุงเทพฯขับรถกันเยอะขึ้น เวลาขับรถไปเที่ยวตามศูนย์การค้าหรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆก็คงจะเคยวนหาที่จอดรถกันใช่ไหมคะ คอนโดก็เช่นเดียวกันค่ะ หากคอนโดไหนมีที่จอดรถไม่พอก็จะหาที่จอดรถได้ยาก การเลือกซื้อคอนโดก็อย่าได้มองข้ามอัตราส่วนที่จอดรถนะคะ
จากการสำรวจอัตราส่วนที่จอดรถส่วนใหญ่ของคอนโดใกล้รถไฟฟ้าติดถนนรัตนาธิเบศร์มีอัตราส่วนแบบรวมจอดซ้อนคันประมาณ 40-50% หากคนส่วนใหญ่ในคอนโดใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักก็เป็นอัตราส่วนถือว่าที่ไม่น้อยจนเกินไปค่ะ แต่หากคนส่วนใหญ่ในคอนโดใช้รถยนต์เป็นหลักตัวเลขนี้ก็ถือเป็นอัตราส่วนที่น้อยเกินไป ดังนั้นคอนโดที่มีระยะห่างจากรถไฟฟ้ามากขึ้นควรจะมีอัตราส่วนที่จอดรถมากตามมาด้วยเช่นกัน เนื่องจากผู้อยู่อาศัยมีโอกาสที่จะใช้รถยนต์ส่วนตัวมากกว่าใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก
หากคุณเป็นคนที่ใช้รถยนต์ในการเดินทางเป็นหลัก ต้องการมองหาคอนโดโดยคำนึงถึงอัตราส่วนของที่จอดรถ หัวข้อนี้ได้จัดเรียงข้อมูลอัตราส่วนที่จอดรถมาให้แล้วค่ะ คอนโดใกล้รถไฟฟ้าติดถนนรัตาธิเบศร์ที่มีอัตราส่วนที่จอดรถสูงสุดจัดได้ 3 ลำดับ ดังนี้
- คอนโด ศุภาลัย เวอเรนด้า รัตนาธิเบศร์ เป็นคอนโดที่มีอัตราส่วนที่จอดรถสูงที่สุด คือ 60% มีระยะห่างจากรถไฟฟ้าที่ใกล้สุดคือสถานีบางกระสอ 450 ม.
- คอนโด Skyline รัตนาธิเบศร์ เป็นคอนโดที่มีอัตราส่วนที่จอดรถรองลงมา คือ 52 % มีระยะห่างจากรถไฟฟ้าที่ใกล้สุดคือสถานีบางกระสอ 250 ม.
- คอนโด Zelle รัตนาธิเบศร์ เป็นคอนโดที่มีอัตราส่วนที่จอดรถอันดับ 3 คือ 48 % มีระยะห่างจากรถไฟฟ้าที่ใกล้สุดคือสถานีสะพานพระนั่งเกล้า 450 ม.
หัวข้อที่ 3 คือ อัตราส่วนลิฟท์…สำหรับปัจจัยนี้ เราจะดูที่ความหนาแน่นของโครงการเป็นเกณฑ์สำคัญค่ะ เพราะมีผลในชั่วโมงเร่งด่วนที่ทุกคนต้องขึ้นลงลิฟท์พร้อมกัน เช่น ช่วงเช้าที่คนออกไปทำงานหรือช่วงเย็นที่คนกลับจากทำงานค่ะ ลองคิดดูว่าถ้าความหนาแน่นมากแบบ 200 – 300 ห้อง ใช้ลิฟท์ 1 ตัว นี่ต้องรอคิวกันนานแน่ค่ะ ซึ่งเราสามารถดูหนาแน่นของโครงการจากอัตราส่วนลิฟท์ก็ได้นะคะ โดยนำจำนวนยูนิตหารจำนวนลิฟท์ในตึก เช่น ตึกนี้มี 400 ยูนิต มีลิฟท์ 4 ตัว อัตราส่วนการใช้ลิฟท์อยู่ที่ 100 : 1 ค่ะ
ปัจจัยของราคาห้องก็ส่งผลต่ออัตราส่วนลิฟท์ด้วยเช่นกันนะคะ ส่วนใหญ่โครงการที่ตั้งราคาห้องไว้สูงมักจะมีจำนวนลิฟท์ให้เยอะหน่อย เพื่อให้เพียงพอกับลูกบ้านทำให้ความหนาแน่นไม่มากนัก แต่สำหรับโครงการที่มีอัตราส่วนลิฟท์น้อยหากโครงการเลือกใช้ลิฟท์คุณภาพดีก็จะทำให้ลิฟท์ทำงานเร็วขึ้นได้ทำให้ช่วยลดความหนาแน่นจากอัตราส่วนลิฟท์ได้เช่นกันค่ะ
ส่วนลิฟท์แบบล็อกชั้นและไม่ล็อกชั้นนั้นมีความสำคัญกับความปลอดภัยนะคะ เพราะลิฟท์แบบล็อกชั้นจะทำให้ลูกบ้านแต่ละห้องขึ้นได้เฉพาะชั้นที่ตัวเองอยู่อาศัยเท่านั้น ไม่สามารถไปชั้นอื่นๆได้ จึงเป็นการลดความอันตรายและเพิ่มความสงบในการอยู่อาศัยด้วยค่ะ ในหัวข้ออัตราส่วนลิฟท์นี้คุณควรจะดูเปรียบเทียบกับจำนวนยูนิตต่อชั้นด้วยนะคะ เพราะนั่นคือจำนวนเพื่อนบ้านในชั้นนั้นว่ามีจำนวนเท่าไหร่หากคุณอยู่ห้องที่ติดกับลิฟท์แสดงว่าคนในชั้นนั้นทั้งหมดจะต้องเดินผ่านห้องของคุณนะคะ
หัวข้อนี้ได้จัดเรียงคอนโดที่มีอัตราส่วนลิฟท์น้อยที่สุด 3 ลำดับมาให้ ดังนี้ค่ะ
- คอนโด Zelle รัตนาธิเบศร์ เป็นคอนโดที่มีอัตราส่วนที่ลิฟท์น้อยที่สุด คือ 36:1 มียูนิตต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 11 ยูนิต เป็นลิฟท์แบบไม่ล็อกชั้นค่ะ
- คอนโด A Space Me รัตนาธิเบศร์ เป็นคอนโดที่มีอัตราส่วนลิฟท์มากขึ้นมานิดหนึ่งคือ 100.25:1 มียูนิตต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 26 ยูนิต เป็นลิฟท์แบบล็อกชั้นค่ะ
- คอนโด Estes รัตนาธิเบศร์ เป็นคอนโดที่มีอัตราส่วนลิฟท์มากขึ้นอีกนิดหนึ่งคือ 158:1 มียูนิตต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 17 ยูนิต
หัวข้อที่ 4 คือ จำนวนยูนิตของโครงการ…ปัจจุบันตลาดคอนโดมีการแข่งขันสูงมากทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายๆ เจ้าเริ่มที่จะพัฒนาคอนโดต้นทุนต่ำมีจำนวนยูนิตเยอะๆและเน้นราคาไม่แพงมาก ดังนั้นในปัจจุบันจึงได้เห็นโครงการขนาดใหญ่ออกมามากมาย สำหรับโครงการที่มียูนิตเยอะจะมีข้อดีในเรื่องของค่าส่วนกลางค่ะ เพราะยิ่งมีจำนวนยูนิตเยอะเท่าไหร่แปลว่าจะมีคนแชร์ค่าส่วนกลางเยอะเท่านั้นส่งผลให้ค่าส่วนกลางถูกลง แต่ในทางกลับกันโครงการที่มียูนิตเยอะก็มีข้อเสียที่ผู้อยู่อาศัยจะต้องยอมรับคือความหนาแน่นของการใช้พื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งบางคนอาจไม่ได้ชอบใจนักเพราะมองว่ามีคนมาร่วมใช้พื้นที่ส่วนกลางเยอะความเป็นส่วนตัวจะลดลง ดังนั้นหัวข้อนี้จะพูดถึงจำนวนยูนิตของโครงการ โดยจัดเรียงลำดับของโครงการที่มียูนิตมากที่สุด 3 ลำดับ ดังนี้
- คอนโด ลุมพินี พาร์ค รัตนาธิเบศร์ เป็นคอนโดที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุด คือ 2,824 ยูนิต คิดค่าส่วนกลางอยู่ที่ 30 บาท/ตร.ม.
- คอนโด Aspire รัตนาธิเบศร์ มีจำนวนยูนิตรองลงมาคือ 1,428 ยูนิต คิดค่าส่วนกลางอยู่ที่ 40 บาท/ตร.ม.
- คอนโด ศุภาลัย เวอเรนด้า มีจำนวนยูนิตมากเป็นลำดับ 3 คือ 1,054 ยูนิต คิดค่าส่วนกลางอยู่ที่ 35 บาท/ตร.ม.
หัวข้อที่ 5 คือ ขนาดของสระว่ายน้ำ…ใครชอบใช้สระว่ายน้ำในโครงการบ้างเอ่ย? ปัจจุบันเทรนด์รักสุขภาพกำลังมานะคะ มีผู้สนใจออกกำลังกายกันมากขึ้น สำหรับวัยทำงานเวลาหลังเลิกงานจะเป็นเวลาที่นิยมจะออกกำลังกายมากที่สุด ลองคิดภาพตาม…ในเวลาหลังเลิกงานเราเตรียมตัวมาว่ายน้ำมาเป็นอย่างดี แต่เมื่อลงมาถึงสระว่ายน้ำกลับพบว่าคนเต็มสระเลยคงจะว่ายน้ำหรือแช่น้ำไม่สนุกใช่ไหมคะ หัวข้อนี้เราจะมาดูถึงขนาดของสระว่ายน้ำพร้อมเปรียบเทียบกับจำนวนยูนิตห้องค่ะ ไม่ใช่ว่าเราจะพิจารณาแค่ขนาดสระอย่างเดียว ต้องดูด้วยว่ามีจำนวนยูนิตที่จะแชร์พื้นที่และเวลาในการใช้งานร่วมกับเราเยอะไหม หัวข้อนี้จะจัดเรียงลำดับของขนาดสระว่ายน้ำเปรียบเทียบกับจำนวนยูนิตมาให้ ดังนี้ค่ะ
- คอนโด ศุภาลัย เวอเรนด้า เป็นคอนโดที่มีสระว่ายขนาดใหญ่ที่สุด คือ 324 ตร.ม. มีจำนวนยูนิตที่มาร่วมแชร์สระว่ายน้ำ 1,054 ยูนิต สระกว้างยาว 9 x 36 ม. เป็นระบบเกลือ อยู่ที่ชั้น 5
- คอนโด ลุมพินี พาร์ค รัตนาธิเบศร์ เป็นคอนโดที่มีสระว่ายขนาดใหญ่รองลงมา คือ 300 ตร.ม. มีจำนวนยูนิตที่มาร่วมแชร์สระว่ายน้ำ 2,824 ยูนิต สระกว้างยาว 12 x 25 ม. เป็นระบบคลอรีน อยู่ที่ชั้น 1
- คอนโด Aspire รัตนาธิเบศร์ เป็นคอนโดที่มีสระว่ายขนาดใหญ่เป็นลำดับ 3 คือ 250 ตร.ม. มีจำนวนยูนิตที่มาร่วมแชร์สระว่ายน้ำ 1,428 ยูนิต สระกว้างยาว 10 x 25 เป็นระบบเกลือ อยู่ที่ชั้น 1
หัวข้อที่ 6 คือ ที่ตั้งของโครงการแบ่งตามระยะที่กลับรถ…สำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์เป็นหลัก นอกจากจะต้องคำนึงถึงอัตราส่วนที่จอดรถแล้ว ยังต้องคำนึงถึงตำแหน่งของที่ตั้งโครงการที่จะมีผลต่อการกลับรถ เพราะถนนรัตนาธิเบศร์เป็นถนนขนาดใหญ่มีข้างละ 5 – 6 เลนที่ไม่ได้มีที่กลับรถใกล้ๆ แต่จะต้องกลับรถที่สะพานกลับรถมีระยะห่างกันของสะพานกลับรถที่ 2.5 กม. ซึ่งเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่สภาพการจราจรหนาแน่นมาก การกลับรถที่ระยะสะพานกลับรถที่ต่างกันอาจทำให้ต้องใช้เวลาบนถนนเพิ่มอีก 20 นาทีทีเดียว จึงจะจัดกลุ่มของที่ตั้งโครงการ ตามช่วงของที่กลับรถ ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 ช่วง ดังนี้ เราจะแบ่งช่วงการกลับรถไล่จากแยกแครายมาถึงแยกเชิงสะพานพระนั่งเกล้านะคะ
- ช่วงแรกคือคอนโดที่สามารถกลับรถที่สะพานกลับรถอันแรกบริเวณศูนย์ราชการนนทบุรีได้ ได้แก่ คอนโด U Delight รัตนาธิเบศร์
- ถัดมาคือกลุ่มคอนโดที่ไม่สามารถกลับรถสะพานแรกได้ทันต้องไปกลับรถสะพานกลับรถที่ 2 หน้า Grand Homemart ใกล้ๆ Central รัตนาธิเบศร์ ได้แก่ คอนโด Aspire รัตนาธิเบศร์ 2, ศุภาลัย เวอเรนด้า, A Space Me, Estes, ลุมพินี พาร์ค รัตนาธิเบศร์ ซึ่งเป็นช่วงที่มี ราคาต่ำกว่าในทำเลช่วงแรกเพราะมีทำเลที่ห่างจากถนนงามวงศ์มากกว่าค่ะ
- ส่วนกลุ่มสุดท้ายจะเป็นกลุ่มที่เลยสะพานกลับรถอันที่ 2 ไปทางสะพานพระนั่งเกล้า กลุ่มนี้หากจะเข้าเมืองไปทางถนนงามวงศ์วานหรือ ถนนติวานนท์ต้องไปกลับรถที่สะพานพระนั่งเกล้าและวิ่งเข้าเมืองตามเส้นรัตนาธิเบศร์ ได้แก่ คอนโด Skyline และ Zelle รัตนาธิเบศร์
สำหรับถนนรัตนาธิเบศร์นั้น ระยะห่างจากสะพานที่กลับรถเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งนะคะ เพราะการกลับรถที่สะพานกลับรถที่ต่างกัน นั่นหมายถึงเวลาที่เสียไปในการเดินทาง จึงต้องเผื่อเวลาในการเดินทางด้วยนะคะ
*ราคา..เป็นราคาที่อ้างอิงจากการสำรวจข้อมูลเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2559 นะคะ
หัวข้อที่ 7 คือ ขนาดห้องพักเริ่มต้น…สำหรับทำเลในย่านรัตนาธิเบศร์นี้โครงการส่วนใหญ่มักจะทำห้องขนาดเล็กออกมาเพื่อตอบรับกับความต้องการที่อยู่อาศัยซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพนักงานออฟฟิตที่ไม่ได้ใช้คอนโดนี้เป็นบ้านหลังแรก เนื่องจากทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้าทำให้สามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวก และราคาคอนโดในย่านนี้ไม่ได้สูงจึงไม่ได้เป็นภาระในการจ่ายมากนักค่ะ ผู้คนที่มีบ้านหลังแรกอยู่ไกลๆจึงมักมาซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่ 2 ใช้อยู่อาศัยในช่วงวันทำงานจันทร์ – ศุกร์ เพื่อให้การเดินทางไปทำงานสะดวกขึ้น
สำหรับผู้ที่มองหาคอนโดที่มีขนาดเล็กที่มีราคาต่ำสุด หัวข้อนี้ได้จัดเรียงลำดับของโครงการที่มีราคาถูกที่สุด 3 ลำดับ จากการสำรวจข้อมูล วันที่ 3 เมษายน 2559 ดังนี้
- คอนโด ลุมพินี พาร์ค รัตนาธิเบศร์ มีราคาเริ่มต้นที่ 1.39 ล้านบาท ขนาดห้องพักเล็กที่สุด คือ ขนาด 22.5 ตร.ม. เป็นห้องแบบ Fully Fitted
- คอนโด Aspire รัตนาธิเบศร์ มีราคาเริ่มต้นที่ 1.45 ล้านบาท ขนาดห้องพักใหญ่ขึ้นมานิดหนึ่ง คือ ขนาด 24.5 ตร.ม. เป็นห้องแบบ Fully Fitted
- คอนโด ศุภาลัย เวอเรนด้า มีราคาเริ่มต้นที่ 1.55 ล้านบาท ขนาดห้องพักใหญ่ขึ้นมานิดหนึ่ง คือ ขนาด 30 ตร.ม. เป็นห้องแบบ Fully Fitted หรือสามารถเลือกแบบ Fully Furnished ได้ที่ราคา 1.63 ล้านบาท
สุดท้ายนี้..การเลือกคอนโดพักอาศัยนั้นมีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงเลยใช่ไหมคะ ทั้งจากราคาห้องพักที่ต้องไม่เกินกำลังซื้อของเรา, ขนาดห้องพักอาศัยที่เหมาะสมกำจำนวนผู้อยู่อาศัย, ทำเลที่ตั้ง, ระยะห่างจากรถไฟฟ้า, จำนวนยูนิตในโครงการ, ขนาดสระว่ายน้ำ, อัตราส่วนลิฟท์, ปริมาณช่องจอดรถ และปัจจัยอื่นๆซึ่งทั้งหมดเป็นปัจจัยที่มีมาจากความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันทั้งสิ้น ซึ่งแต่ละปัจจัยต้องค่อยๆเลือก ค่อยๆเปรียบเทียบกันไปแต่ละโครงการ ผู้ที่อยู่อาศัยเท่านั้นจึงจะเป็นผู้บอกได้ว่าโครงการไหนที่เหมาะสมกับคุณค่ะ บทความนี้ทางทีมงานตั้งใจนำเสนอข้อมูลของคอนโดใกล้รถไฟฟ้าติดถนนรัตนาธิเบศร์ให้อ่านง่ายขึ้น หวังว่าจะช่วยให้ผู้อ่านที่กำลังหาคอนโดในย่านนี้เลือกคอนโดได้ถูกใจนะคะ 🙂