ข่าวดีสำหรับคนที่วางแผนจะซื้อบ้านในปี 2567 มีการต่ออายุมาตรการ “ลดค่าโอน และ ค่าจดจำนอง” ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 สำหรับบ้านและคอนโดราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท จะประหยัดได้แค่ไหนและมีตัวอย่างโครงการอะไรแนะนำบ้างตามมาชมกันได้เลยค่ะ

มาตรการลดค่าโอน-จดจำนองปี 2567

มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567
มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ส่งเสริมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างความมั่นคงในทางเศรษฐกิจ รวมถึงช่วยรักษาระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยมาตรการดังกล่าวจะให้

  • ลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 2% เหลือ 1%
  • ค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 1% เหลือ 0.01% (เฉพาะการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน) สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ และห้องชุด (ทั้งบ้านมือ 1 และมือ 2) เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อสัญญา โดยไม่รวมถึงกรณีการขายเฉพาะส่วน ตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567

มาตรการลดค่าโอน-จดจำนองประหยัดค่าใช้จ่ายได้แค่ไหน?

จากตัวอย่างถ้าต้องการซื้อบ้านในราคา 3 ล้านบาท

  • ค่าโอนปกติ 2% = 60,000 บาท
  • ค่าโอนได้รับมาตรการ 1 % = 30,000 บาท

ถ้าใครจะกู้ธนาคารก็จะมีการคิดค่าจดจำนองซึ่ง

  • ค่าจดจำนองปกติ 1 % = 30,000 บาท
  • ค่าจดจำนองได้รับมาตรการ 0.01% = 300 บาท

สรุปคร่าวๆคือถ้าเราซื้อบ้านในราคา 3 ล้านบาท จะสามารถประหยัดภาษีรวมไป 59,700 บาทเลยทีเดียวค่ะ


ตัวอย่างโครงการโครงการราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท

ในส่วนของตัวอย่างโครงการเราขอแบ่งออกเป็น 2 ส่วนนะคะ วันนี้เราจะพาไปดูส่วนของโครงการแนวราบก่อน โดยตัวอย่างจะเลือกตัวอย่างโครงการในกรุงเทพฯและปริมณฑล ปี 2023-ปัจจุบัน ที่ยังเปิดขายอยู่ มีพรีวิวและรีวิวใน Website Thinkofliving โดยแบ่งตาม Developer และยกตัวอย่างแบรนด์มาให้พอเห็นภาพกัน ส่วนโครงการที่เป็นคอนโดมิเนียมนั้นจะมา Update ให้ภายหลังค่ะ

*โครงการที่เลือกมาเป็นเพียง “ตัวอย่างเท่านั้น” นะคะ สามารถเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://thinkofliving.com/

โครงการบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท

สำหรับโครงการแนวราบที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทในกรุงเทพฯและปริมณฑลนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นทาวน์โฮม  ส่วนบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวราคาจะขยับไปไม่ต่ำกว่า 5 – 7 ล้านบาท ถ้าจะหาโครงการราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทจะเป็น Local Brand ที่อยู่ในทำเลที่ขยับออกมาหน่อยอย่างโซนปทุมธานี รังสิตนครนายก หนองจอกเป็นต้นค่ะ

เรามาดูกันว่าบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทมีแบรนด์และตัวอย่างโครงการไหนบ้างค่ะ

AP

สำหรับทาวน์โฮมที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านของ AP ก็คือ PLENO และ PLENO TOWN โครงการทาวน์โฮมหรือบางที่ก็มีบ้านแฝดมาให้เลือกด้วย เน้นฟังก์ชันครบในราคาย่อมเยาในระดับราคาประมาณ 2-3 ล้านบาท บนทำเลใกล้เมือง มีความสะดวกเดินทางเชื่อมต่อทางด่วนหรือรถไฟฟ้าได้

Frasers Property

ทาวน์โฮมสไตล์อังกฤษตามแบบฉบับของ Frasers Property ที่มาในราคาหยิบจับง่าย พร้อมสโมสรส่วนกลางครบครัน บนทำเลใกล้เมืองและแนวรถไฟฟ้า

Lalin

โครงการทาวน์โฮมราคาประมาณ 2-3 ล้านบาท ของลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จะมีแบรนด์ไลโอ และ ลลิล ทาวน์ ไลโอ ซึ่งออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมยุโรป ฟังก์ชัน 3-4 ห้องนอน 1-2 ที่จอดรถ มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และสวนส่วนกลาง

Land and Houses

Villaggio คือโครงการทาวน์โฮมหรือบ้านที่ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจมาจากต่างประเทศ แต่ตัวบ้านที่ไม่เกิน 3 ล้านบาทจะเป็นทาวน์โฮมนะคะ โดยจะมีการเอากลิ่นอายการออกแบบของประเทศต่างๆมาใช้เช่น สไตล์ Urban Cottage  จากเมืองโพรวองซ์ของฝรั่งเศส / สไตล์ SCANDINAVIAN / สไต์ European เป็นต้น

LPN

Property Perfect 

สำหรับทาวน์โฮมของ Property Perfect ที่ไม่เกิน 3 ล้านจะมีอยู่ 2 แบรนด์ด้วยกันคือ Modi Villa ทาวน์โฮม 2-3 ล้านที่เน้นทำเลใกล้รถไฟฟ้าและทางด่วน กับ The Metro ที่การออกแบบโครงการมีความทันสมัยขึ้นมาหน่อย โดยราคาก็จะปรับสูงขึ้นมาอีกนิดค่ะ

ตัวอย่างโครงการแบรนด์ Modi Villa ค่ะ ส่วน The Metro จะมีโครงการ The Metro ราชพฤกษ์ – 346 ราคา 2.29 – 4.5 ล้านบาทค่ะ

พฤกษา 

บ้านสำหรับพฤกษาจะเป็นแบรนด์บ้านพฤกษา ทาวน์โฮมเน้นใกล้แหล่งชุมชน ตลาด มีบริการรถขนส่งสาธารณะ สามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวก และมีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอต่อการใช้งานค่ะ

Sansiri

บ้านของแสนสิริจะมีแบรนด์ สิริ เพลส แบรนด์ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้นที่โครงการมี Concept ในการออกแบบเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเมืองต่างๆ และมีการจัดฟังก์ชันให้สามารถสร้างพื้นที่สำหรับทำในสิ่งที่ชอบ ได้พื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า ได้แก่ ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง ห้องนอน Master Bedroom  เพดานสูงกว่า 3.7 เมตร และอีกแบรนด์ที่มี Product ต่ำกว่า 3 ล้านคืออณาสิริ บางโครงการในส่วนที่เป็นทาวน์โฮมค่ะ

SC ASSET

Supalai

The Urban Property

แบรนด์ CURATOR จะมีการออกแบบให้เป็นบูทีคทาวน์โฮม มีการจัด Space ภายในที่เป็นเอกลักษณ์ ออกแบบได้น่าสนใจ เน้นพื้นที่ใช้สอยภายใน จัดฟังก์ชันปรับการใช้งานได้

Peace and Living

Prinsini

Q House

โครงการคอนโดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท

AP

แบรนด์คอนโดของ AP ที่พอมีห้องราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทคือ Aspire แบรนด์คอนโดน้องเล็กที่ต้องการจับกลุ่มคนเพิ่งเริ่มต้นทำงาน ซึ่งจะมีช่วงราคาต่อตารางเมตรอยู่ที่ 70,000 – 80,000 บาท โดยเป็นคอนโดที่อยู่ในทำเลที่เดินทางมารถไฟฟ้าได้สะดวก มีทั้งอาคาร Low Rise และ High Rise แบบห้องจะมีให้เลือกหลากหลายขนาด ตั้งแต่ Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedrooms โดยส่วนใหญ่จะเน้นเป็นห้องขนาดเล็ก เริ่มต้นที่ Studio 22 – 27 ตร.ม. และ 1 Bedroom 27 – 30 ตร.ม. ซึ่งเมื่อคิดเป็นราคาต่อห้องแล้ว ยังอยู่ในช่วงที่กลุ่มเป้าหมายที่เพิ่งเริ่มทำงาน หรือมีงบประมาณจำกัดสามารถจับต้องได้ค่ะ

AssetWise

โครงการคอนโดมิเนียมของ AssetWise จะเน้นหนักไปที่นักศึกษาและคนวัยทำงาน มีหลายแบรนด์ที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านให้เลือกเช่น  KAVE เป็นแบรนด์คอนโดใกล้มหาลัยที่เน้นจับกลุ่มนักศึกษา ที่มีจุดเด่นคือพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ห้องพักจะออกแบบมาเพื่อนักศึกษาและนักลงทุนที่ซื้อไว้เปล่าเช่า , ATMOZ คอนโดสไตล์รีสอร์ต ที่เน้นจับกลุ่ม First Jobber โครงการเน้นความเรียบง่าย บรรยากาศร่มรื่น พร้อมฟังก์ชันหลากหลายมากๆในทุกอาคาร ส่วนอีกแบรนด์คือ Modiz คอนโดที่จับกลุ่มคนทำงาน เน้นทำเลใจกลางเมืองใกล้รถไฟฟ้าโดยราคาจะปรับสูงขึ้นมากว่า 2 แบรนด์แรกหน่อย

KAVE

ATMOZ

Modiz

Chewathai

ชีวาทัย จะมีแบรนด์คอนโด 3 แบรนด์ด้วยกัน แบรนด์ที่มีห้องราคาไม่เกิน 3 ล้านให้เลือกคือคือ Hallmark เป็นคอนโด Low Rise ราคาเริ่มต้นล้านปลายๆ หรือ 2 ล้านบาท ทำเลไม่ถึงกับติดถนนใหญ่แต่การเดินทางสะดวก เจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็น First Jobber , Chewathai มีทั้ง Low Rise และ High Rise โดยทำเลจะอยู่ติดถนนใหญ่ ใกล้แนวรถไฟฟ้า ระดับราคาเริ่มต้น 2-3 ล้านบาท ส่วนอีกแบรนด์ Chewathai Residence จะเน้นทำเลใกล้รถไฟฟ้า ใจกลางเมือง ราคาจะเกิน 3 ล้านบาทขึ้นไปค่ะ

Land and Houses

สำหรับคอนโดราคาไม่เกิน 3 ล้านของ Land and Houses เราแนะนำให้มองหาแบรนด์ EASE แบรนด์นี้หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นกัน เพราะยังไม่ค่อยมีโครงการมากนัก นานๆมาที โดยจะเป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมระดับเริ่มต้น อยู่ในช่วงประมาณ 1-2 ล้านบาทขึ้นไป ถัดมาคือแบรนด์ The Key จะเริ่มเขยิบเข้ามาเป็นทำเลใกล้เมืองขึ้นมา ระดับราคายังไม่ได้สูงมากนัก

LPN

คอนโดของ LPN มีอยู่หลายแบรนด์ด้วยกัน ส่วนใหญ่มีราคาที่จับต้องได้ง่าย เช่น  Lumpini Selected, Lumpini Place, Lumpini Park, Lumpini Ville, Lumpini Township ส่วนในปี 2566 ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ที่เป็นคอนโดสไตลิสต์ รีเฟรชภาพจำให้ทันสมัยมากขึ้นอย่างโครงการ PARK 168 NOPPARAT RAMINDRA และ Place 168 Wutthakat เป็นต้น

Noble Development 

ถึงแม้ว่าคอนโดของ Noble จะมีมากมายหลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น Noble Around, Noble Recole, Noble Revolve แต่แท้จริงแล้ว Noble Development นั้น มีแบรนด์หลักเพียง 2 แบรนด์เท่านั้นเอง นั่นก็คือแบรนด์ Noble ที่ทำคอนโด Segment ระดับ Main Class – Luxury เน้นดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และ แบรนด์ Nue ซึ่งแบรนด์คอนโดระดับ Main Class ไปจนถึงระดับ Economy ราคาจับต้องได้ ทำเลจะขยายออกไปตามชานเมือง หรือจุดตัดรถไฟฟ้าต่างๆ

Origin

ถึงแม้ว่าปีนี้ทาง Origin จะบุกตลาดคอนโดตากอากาศเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับคอนโดไม่เกิน 3 ล้านในกรุงเทพฯและปริมณฑลจะมีแบรนด์ The Origin  แบรนด์คอนโดน้องใหม่ที่ทำออกมาจับตลาดกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน เน้นทำเลที่ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า โครงการพัฒนาให้เป็นแบบ Pet Friendly คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งตั้งช่วงราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ 70,000 – 100,000 บาท หรือประมาณ 1.29 – 2 ล้านบาท

Pruksa

แบรนด์คอนโดมิเนียมราคาจับต้องได้ง่ายของพฤกษาจะมีแบรนด์ PLUM ที่เน้นจำนวนยูนิตเยอะและราคาที่ถูกมากๆ  ,The Privacy , The Tree และ CHAPTER ONE แบรนด์คอนโด Segment 90,000 – 140,000 บาทต่อตร.ม. ที่เน้นความเป็น Stylish Residences หรือมีการออกแบบ Concept โดยเฉพาะ แบรนด์นี้มีทำเลที่หลากหลาย อาจจะไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองจ๋า แต่เน้นทำเลที่มีความสะดวกสบายครบครัน ใกล้ห้าง รถไฟฟ้า มหาวิทยาลัย หรือสถานที่สำคัญอื่นๆ

SANSIRI

สำหรับแสนสิริแบรนด์คอนโดที่เราจะแนะนำคือ dcondo แบรนด์คอนโดน้องเล็กสุดจากแสนสิริ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 10 โครงการ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด โดยจุดกำเนิดของคอนโดแบรนด์นี้คือ ต้องการจับกลุ่มตลาดระดับล่าง ทั้งคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน พนักงานโรงงาน และกลุ่มนักศึกษา เนื่องจากทำเลของ dcondo มักจะตั้งอยู่แถบชานเมือง ใกล้นิคมอุตสาหกรรม และมหาวิทยาลัยต่างๆเป็นหลัก นอกจากนั้นยังมี The Base ที่เห็นทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และ The Line คอนโดมิเนียมตามแนวเส้นรถไฟฟ้า จับกลุ่มคนทำงานในเมือง ที่ต้องการความสะดวกในใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก โดยราคาจะขึ้นอยู่กับทำเลด้วยค่ะ

Sena Development

แบรนด์คอนโดใหม่ระดับ Economy ของเสนามีอยู่หลายแบรนด์ทั้ง “Sena Kith” ที่เป็นคอนโดราคาต่ำล้าน-ล้านนิดๆ “Flexi” แบรนด์รุ่นพี่ที่เป็นคอนโดราคาต่ำล้าน-ล้านนิดๆ เริ่มต้นที่ประมาณล้านกลางๆ และตั้งอยู่ในทำเลที่เข้ามาในเมืองมากกว่า สามารถเดินทางได้สะดวกขึ้น เหมาะกับ First Jobber หรือคนที่เพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆ โดยมีราคาจับต้องได้ไม่ยากนัก นอกจากนั้นยังมีแบรนด์ Niched Mono คอนโดเกาะแนวรถไฟฟ้าที่ราคาจะปรับสูงขึ้นมาเกิน 3 ล้านบาทค่ะ

และนอกจากนั้นยังมีโครงการ บ้านร่วมทางฝัน 6 ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี ซึ่งเป็นคอนโด High Rise ราคาล้านกลางๆ ในย่านปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี ที่เป็น 1 ในโครงการ CSR ของเสนาฯ ที่มอบบริจาคกำไรทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายให้แก่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อยกระดับคุณภาพการรักษาและพยาบาล ราคา 1.xx ล้านบาท*

SC Asset

แบรนด์คอนโดไม่เกิน 3 ล้านของ SC Asset จะเป็น COBE คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ใหม่ล่าสุดจาก SC Asset เน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นคนทำงานที่ใช้รถไฟฟ้าในการเดินทาง และนักศึกษา โดยห้องชุดมีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ สตูดิโอ ไปจนถึง 3 ห้องนอนโดยมีราคาเริ่มต้น 2 ล้านกลางๆค่ะ

Supalai

Supalai จะมีแบรนด์คอนโดที่หลากหลายมาก ส่วนใหญ่จะทำราคาออกมาให้จับต้องง่ายมีบางแบรนด์ที่เน้นตลาดบนอย่าง Supalai Icon, Supalai Oriental, Supalai Riva Grande สำหรับแบรนด์ที่เข้าเกณฑ์ของเราจะมีดังนี้ค่ะ

  • Supalai Wellington กลุ่มคอนโดมิเนียมกว่าพันยูนิตระดับตำนานของทางศุภาลัยเลยค่ะ
  • Supalai Vista จุดเด่นก็คือเรื่องของราคา ที่ทำออกมาได้น่าจับต้อง และทำยูนิตออกมากลางๆ ไม่แออัด รวมทั้งให้ฟังก์ชันห้อง ที่เหมาะกับการอยู่อาศัย ห้องใหญ่ 
  • Supalai Lite แบรนด์ใกล้รถไฟฟ้า สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวก
  • Supalai Loft เน้นทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้า เดินทางสะดวกสบาย
  • Supalai Veranda เป็นแบรนด์ที่ทำขนาดของโครงการออกมาใหญ่ ส่วนกลางเยอะ บรรยากาศดีใกล้ชิดธรรมชาติ และเดินทางสบายใกล้รถไฟฟ้า
  • Supalai Parc เป็นการปรับแบรนด์จาก Supalai Park เดิมเพิ่มสไตล์ Modern European เข้ามา แต่ก็ยังคง Concept ใกล้ชิดธรรมชาติเหมือนเดิม
  • Supalai City Resort คอนโดที่บรรยากาศดี ในสไตล์ รีสอร์ต ทั้งพื้นที่สีเขียว และการจัดบรรยากาศแบบร่มรื่น

โดยตัวอย่างที่ยกมาจะเลือกเฉพาะโครงการในกรุงเทพฯและปริมณฑล ปี 2023-2024 ที่ยังเปิดขาย มีพรีวิวและรีวิวใน Website Thinkofliving นะคะ

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับบทความ รวมบ้าน-คอนโดไม่เกิน 3 ล้าน ที่เข้ามาตรการลดค่าโอน จดจำนอง หวังว่าจะช่วยคุณผู้อ่านหาบ้านที่ตรงใจได้นะคะ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปหาได้ที่ https://thinkofliving.com/ 


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่