ATMOZ Palacio ลาดพร้าว-วังหิน คอนโดแต่งครบ พร้อมส่วนกลางจัดเต็ม บนถนนลาดพร้าว-วังหิน จาก Asset Wise [รีวิวฉบับที่ 2545]

ATMOZ Palacio Ladprao-Wanghin (แอทโมซ พาลาซิโอ ลาดพร้าว-วังหิน) ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2566

พิกัด Google Maps : 13.817566, 100.591208
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

ATMOZ Palacio ลาดพร้าว-วังหิน ตั้งอยู่ติดถนนลาดพร้าววังหินช่วงกลางๆ ซอย ก่อนซอยลาดพร้าววังหิน 61 ที่สามารถใช้วิ่งทะลุไปซอยรัชดาฯ 32 ได้ โดยเราขอสรุป Highlight ให้เห็นภาพรวมก่อน ดังนี้

• ลัดเลาะเชื่อมต่อถนนหลักได้หลากหลายเส้นทาง สะดวกในช่วงเวลารถติด มีทางเลือกให้ใช้เยอะ
• ความอุดมสมบูรณ์สูง มีร้านอาหาร คาเฟ่เยอะ ใกล้ห้างใหญ่หลายแห่งในระยะ 5-6 กม.
• มี Shuttle Service รับ-ส่ง ที่ MRT ลาดพร้าว (โปรดสอบถามข้อมูลจากทางโครงการอีกครั้ง*)
• ในอนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองให้ใช้งานใกล้ขึ้น ในระยะ 2.6 กม. ที่ BTS สถานีภาวนา

สำหรับภาพรวมโครงการในทำเลนี้ ต้องบอกว่ามีโครงการอยู่ค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่เป็น คอนโด Low Rise ที่สร้างมานานแล้ว หรือสร้างเสร็จมาสักพัก ซึ่งปัจจุบันที่ยังมีขายมือหนึ่ง ส่วนใหญ่จะอิงอยู่ในซอยรัชดาฯ 32 เนื่องจากใกล้ถนนใหญ่ และเดินทางไป MRT ลาดพร้าวไม่ยาก ในอนาคต มีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง BTS ลาดพร้าว ให้ใช้งานได้ไม่ไกล โดยจะเป็นคอนโดที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่มาสักพัก ทำให้มีห้องให้เลือกไม่เยอะ บางโครงการเหลือเฉพาะห้องไซส์ใหญ่แล้ว ส่วนช่วงราคาคอนโดในโซนนี้เริ่มต้น 2-3 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยในช่วง 85,000-110,000 บาท/ตร.ม.

ส่วนโครงการที่อยู่บนถนนลาดพร้าว-วังหิน ก็มีอยู่บ้าง แต่จะอยู่ลึกขึ้นไปใกล้แยกวังหินมากกว่า และเป็นโครงการที่สร้างเสร็จนานแล้ว จะเหลือเฉพาะห้องไซส์ใหญ่ ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาทขึ้นไป หรือถ้ามองหาคอนโดที่ใกล้ถนนลาดพร้าว และใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองขึ้นมาหน่อย ก็จะมีโครงการบนถนนสังคมสงเคราะห์ ช่วงใกล้ๆถนนโชคชัย 4 อยู่เหมือนกัน เป็นโครงการขนาดใหญ่ยูนิตเยอะ ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาทขึ้นไป ราคาเฉลี่ยประมาณ 80,000 บาท/ตร.ม.

ในขณะที่ ATMOZ Palacio ลาดพร้าว-วังหิน เป็นคอนโดแต่งครบ เปิดตัวมาในราคา 1.79 ล้านบาท* ถือเป็นคอนโดที่มีราคาเริ่มต้นจับต้องได้ง่ายสุดในย่านนี้เลย ส่วนราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 86,500 บาท/ตร.ม. ถือว่าพอๆ กับหลายโครงการในโซนนี้เช่นกัน แต่สิ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นเลยคือ ส่วนกลางที่จัดเต็มกว่า 33 ฟังก์ชัน พร้อมพื้นที่สีเขียวกว่า 3,000 ตร.ม. ถือว่าให้มาเยอะกว่าโครงการรอบข้างเลย แต่ก็แลกมาด้วยการที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ ยูนิตค่อนข้างเยอะ และมีค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายสูงกว่าโครงการรอบข้างสักหน่อยค่ะ

ATMOZ Palacio ลาดพร้าว-วังหิน ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าว-วังหิน ซึ่งเป็นย่านชุมชนที่มีคนอยู่อาศัยกันค่อนข้างหนาแน่น ทั้งบ้านพักอาศัยเดิมในพื้นที่ และคอนโดแนวราบอยู่ค่อนข้างเยอะเลย โดยตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนลาดพร้าว-วังหิน ช่วงกลางซอย ซึ่งมีจุดเด่น คือสามารถลัดเลาะไปตามถนนย่อย หรือซอยต่างๆ ไปเชื่อมต่อถนนหลักได้หลากหลาย สะดวกดีในช่วงเวลาที่รถติด ก็มีทางเลือกให้ลัดเลาะไปได้หลายเส้นทางเลย

ที่ตั้งโครงการเข้าออกจากถนนหลักได้หลายเส้นทาง ซึ่งเส้นที่ใกล้สุดคือ ถนนรัชดาภิเษก ในระยะประมาณ 2 กม. โดยใช้ซอยลาดพร้าววังหิน 61 ลัดเลาะไปออกซอยรัชดาฯ 32 ในระยะประมาณ 2 กม. ส่วนระยะห่างจากโครงการถึงถนนหลักเส้นต่างๆ สรุปได้ดังนี้

• ถนนรัชดาภิเษก – 2 กม.
• ถนนลาดพร้าว – 2.6 กม.
• ถนนประเสริฐมนูกิจ – 2.9 กม.
• ถนนเลียบด่วน-รามอินทรา – 4.6 กม.

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ถือว่าค่อนข้างสะดวกเลยเพราะถนนลาดพร้าว-วังหิน ก็มีรถโดยสารให้บริการอยู่หลากหลาย ทั้งวินมอเตอร์ไซค์ รถกะป๊อสองแถวเล็ก หรือรถแท็กซี่ก็มีรถวิ่งผ่านไปมาตลอด โบกเรียกใช้บริการได้ที่ถนนหน้าโครงการเลยค่ะ

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า ในปัจจุบันรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ MRT ลาดพร้าว ที่ห่างออกไปประมาณ 3.1 กม. ใช้เดินทางเข้าเมืองไปพระราม 9, อโศก, สีลม ,สามย่าน, ได้สะดวก ซึ่งตรงนี้ทางโครงการมีบริการ Shuttle Service รับ-ส่งให้ด้วยถือว่าค่อนข้างสะดวกเลย (โปรดสอบถามข้อมูลจากทางโครงการอีกครั้ง) แต่อาจจะต้องเผื่อเวลาสักหน่อยสำหรับการเดินในช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะตามตรอกซอกซอยในโซนนี้ รถค่อนข้างเยอะทีเดียวค่ะ นอกจากนั้นในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองให้ใช้งานได้ใกล้ขึ้นอีกด้วยค่ะ โดยสถานีที่ใกล้สุดคือ BTS ภาวนาในระยะ 2.6 กม. ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว – สำโรงคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 นี้แล้วค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์สูง แหล่งอาหารการกินที่ใกล้ๆ โครงการเลยก็จะมีคอมมูนิตี้มอลล์ Plaza Lagoon ที่มี Hyper Market และร้านอาหาร ร้านค้าอยู่เยอะ ห่างจากโครงการเพียง 350 เมตร เดินได้สบายค่ะ หรือขยับไปอีกหน่อยก็มี The Jas วังหิน ซึ่งมีร้านอาหาร ร้านค้าอยู่เยอะเลยเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีร้านอาหาร และคาเฟ่กระจายตัวอยู่ทั้งบนถนนลาดพร้าว-วังหิน, ถนนโชคชัย 4, และถนนนาคนิวาส อยู่เยอะตลอด 2 ข้างทาง สามารถเดินทางลัดเลาะหาของกินได้ง่าย ไม่ต้องออกถนนใหญ่เลยค่ะ ส่วนใครชอบเดินตลาดหาของสดตุนไว้ทำอาหารก็มีตลาดวังหินยิ่งเจริญ ตลาดนัดเสือใหญ่อุทิศ และตลาดโชคชัย 4 อยู่ไม่ไกล

สำหรับใครที่ชอบเดินห้าง ในทำเลโซนนี้ก็ถือว่าสะดวกเลย เพราะใกล้ห้างใหญ่หลายแห่งในระยะ 5-6 กม. ที่อิงอยู่บนถนนเลียบด่วน-รามอินทรา ก็จะมี Central Festival East Ville, Crystal Park และที่อิงอยู่บนถนนพหลโยธินก็มีห้างใหญ่เก่าแก่อย่าง Central  ลาดพร้าว, Union Mall, Major รัชโยธิน

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ATMOZ Palacio ลาดพร้าว-วังหิน ด้านหน้าโครงการติดกับถนนลาดพร้าววังหินซึ่งเป็นถนน 4 เลน แต่จะมีทิศเหนือที่มีอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น อยู่ในลักษณะเยื้องกัน ไม่ได้บดบังกันตรงๆ ส่วนทิศอื่นๆ จะเป็นบ้านแนวราบ และอาคารพาณิชย์ 3-4 ชั้น ทำให้ชั้น 6-8 ก็จะได้วิวค่อนข้างโล่ง ซึ่งในคอนโด Low Rise ส่วนใหญ่คนที่ซื้อจะเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวมากกว่า ไม่ได้คาดหวังเรื่องวิวรอบๆโครงการเท่าไหร่นะคะ

สำนักงานขาย

สำนักงานขายตั้งอยู่บริเวณที่ตั้งโครงการเลย ติดถนนลาดพร้าววังหิน สังเกตเห็นได้ง่าย ภายในมีที่จอดรถให้บริการ พร้อมกับโมเดล และห้องตัวอย่างให้ได้ชมกันถึง 3 แบบเลยค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Plaza Lagoon ~ 350 m.
• The Jas วังหิน ~ 800 m.
• Lotus’s go fresh วังหิน ~ 1.7 km.
• The Shelter ~ 2.9 km.
• Central Festival EastVille ~ 4.6 km.
• Home Pro เลียบด่วน ~ 5.2 km.
• Crystal Park ~ 5.3 km.
• Tesco Lotus เลียบด่วน ~ 5.6 km.
• CDC ~ 7.4  km.
• ตลาดวังหินยิ่งเจริญ ~ 900 m.
• ตลาดนัดเสือใหญ่อุทิศ ~ 1.6 km.
• ตลาดโชคชัย 4 ~ 3.2 km.

โรงพยาบาล

• รพ.เปาโล โชคชัย 4 ~ 2.3 km.
• รพ.เปาโล เกษตร ~ 4.0 km.

โรงเรียน

• ม.ราชภัฎจันทรเกษม ~ 2.9 km.
• รร.สตรีวิทยา 2 ~ 3.7 km.
• ม.เกษตรศาสตร์ ~ 8.4 km.

สถานที่อื่นๆ

• สน.โชคชัย 4 ~ 3.8 km.
• ศาลอาญา ~ 4 km.
• ตึกช้าง ~ 5 km.
• SCB Park ~ 5.6 km.

ATMOZ Palacio ลาดพร้าว-วังหิน เป็นโครงการ ภายใต้แบรนด์ ATMOZ จาก Asset Wise โดยแบรนด์นี้จะพัฒนาโครงการออกมาเป็นกลุ่มคอนโดมิเนียม Low Rise ที่มีจุดเด่นคือ พื้นที่ส่วนกลางจัดเต็ม ในบรรยากาศที่ร่มรื่น ผ่อนคลายเหมาะต่อการอยู่อาศัย

ซึ่งครั้งนี้ โครงการ ATMOZ Palacio ลาดพร้าว-วังหิน มาในรูปแบบคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร รวม 755 ยูนิต แบ่งเป็น อาคาร A 212 ยูนิต, อาคาร B 164 ยูนิต อาคาร C 167 และอาคาร D 212 ยูนิต บนพื้นที่ดินเกือบ 6 ไร่ โดยอาคาร A และ B จะอยู่ใกล้กับทางเข้า-ออก ส่วนอาคาร C และ D จะอยู่ถัดเข้ามาด้านใน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า นอกจากนั้นพื้นที่ด้านหน้าสุดที่ติดกับถนนลาดพร้าว-วังหิน จะเป็นอาคารร้านค้า 2 ชั้น จำนวน 4 ยูนิต ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านในโครงการ สามารถเดินออกมาซื้อของกินของใช้กันได้ง่ายๆ (สำหรับร้านค้าที่จะมาลงนั้นจะมีร้านอะไรบ้าง โปรดสอบถามข้อมูลจากทางโครงการอีกครั้งค่ะ*)

สำหรับโครงการนี้ออกแบบมาภายใต้แนวคิด “YOUR PLACE IS YOUR PALACE” โดยคำว่า PALACIO ในชื่อโครงการนั้นมาจากภาษาสเปน ซึ่งแปลว่า PALACE โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก “วัง” ที่อยู่ในชื่อของทำเล “ลาดพร้าว-วังหิน” นั่นเองค่ะ โดยการออกแบบ FACADE และงานสถาปัตยกรรม มาในสไตล์ MODERN CLASSIC ภายนอกใช้โทนสีเรียบๆ MONOTONE พร้อมทั้งมีการใส่ดีเทลบัวปูนปั้นต่างๆไว้ในหลายจุด  เพื่อให้ได้กลิ่นอาย ของรูปทรงอาคารในพระราชวัง ตัดกับการออกแบบภายใน ที่เน้นใช้สีสันสดใส เพิ่มความ Modern สนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ ถือว่าออกแบบมาได้น่าสนใจ  และเป็นสไตล์ที่แตกต่างจากโครงการรอบข้างทีเดียวค่ะ

นอกจากนั้นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการนี้ก็คือ พื้นที่ส่วนกลาง ที่จัดเต็มถึง 33 ฟังก์ชัน กระจายไปในทุกอาคาร มีสระว่ายน้ำมาให้ถึง 2 สระ และมีพื้นที่สีเขียวขนาดมากกว่า 3,000 ตร.ม. ถือว่ามากกว่าโครงการอื่นๆ ในทำเลใกล้เคียงเลยค่ะ

Master Plan : พื้นที่ใต้อาคารชั้น 1 เป็นที่จอดรถทั้งหมดเลยค่ะโดยทางเดินรถเป็นแบบทางเดียว วนรอบทุกตึก หาที่จอดได้ง่าย เมื่อขับรถเข้ามาแล้วจะเจอกับที่จอดรถส่วนแรกก่อน ซึ่งใช้ร่วมกันกับอาคารร้านค้า ถัดเข้าไปด้านในจึงจะเจอกับ ประตูทางเข้าที่จอดรถใต้อาคาร ซึ่งเป็นแบบไม้กั้นกระดก โดยทางเข้าจะเป็นฝั่งใต้อาคาร B ส่วนทางออกจะอยู่ใต้อาคาร A สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยในการเข้า- ออกโครงการ ของรถยนต์ ใช้ระบบ Bluetooth Access Control

สำหรับที่จอดรถ เป็นแบบ Conventional ในซองปกติ จำนวน 254 คัน และที่จอด EV Charger 2 คัน คิดรวมเป็น 34% ซึ่งก็ถือว่าให้มาพอใช้ได้เลยค่ะ เนื่องจากเป็นโครงการที่ติดกับถนนลาดพร้าววังหิน ที่มีรถสาธารณะให้ เรียกใช้งานได้ง่าย อีกทั้งมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า โดยทางโครงการมี shuttle service คอยรับ-ส่ง ที่ MRT ลาดพร้าว ให้ด้วยสะดวกดีทีเดียว (โปรดสอบถามข้อมูลจากทางโครงการอีกครั้ง*)

ส่วนฟังก์ชันที่อยู่ในอาคารชั้นนี้ จะมี Lobby และ Mail Box แยกอาคาร ส่วนระบบรักษาความปลอดภัย ในการเข้าออก อาคาร ใช้ Key Card แบบล็อกชั้น ซึ่งสามารถเข้าได้เฉพาะชั้นที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางของทุกอาคาร และชั้นพักอาศัยเฉพาะตำแหน่งชั้นของห้องที่เราอยู่เท่านั้นค่ะ

สำหรับการวางผังอาคาร ออกแบบให้ตัวอาคารวางล้อมกันไปตามแนวที่ดิน เกิดพื้นที่คอร์ทตรงกลาง ซึ่งจัดไว้เป็นสวนสีเขียวขนาดใหญ่ ซึ่งข้อดีคือ ห้องพักอาศัยฝั่งที่อยู่ด้านในจะสามารถมองเห็นวิวพื้นที่สวนส่วนกลางได้  นอกจากนี้ในแต่ละอาคารก็มีการจัดฟังก์ชันที่แตกต่างกันไป สามารถเลือกได้ตามความชอบ หรือรสนิยมของ ผู้อยู่อาศัยเลยค่ะ

สวนกลางคอร์ท ออกแบบไว้ 2 ระดับ ที่อยู่ระดับเดียวกับชั้น 1 ระหว่างอาคาร A และ B ออกแบบไว้เป็น The Front Yard Avenue เสมือนทางเข้าของพระราชวัง และที่อยู่ระดับเดียวกับชั้น 2 จะเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำ 2 สระ ที่มีสวนรอบๆ โดย Royal Palace Pool (อาคาร C) เป็นสระว่ายน้ำเพื่อผ่อนคลาย และ Grand Royal Palace Pool (อาคาร D) เป็นสระว่ายน้ำ เพื่อการว่ายออกกำลังกาย

สวนกลางคอร์ท ระหว่างอาคาร A และ B ออกแบบไว้เป็นเหมือนทางเข้า ของพระราชวัง ที่มีประตูเหล็กดัดขนาดใหญ่ เมื่อเดินเข้ามาพบกับ สนามหญ้ายาวไปถึงด้านใน พร้อมมี การออกแบบสวนและที่นั่งพักผ่อน ไว้ให้รอบๆ ดูเหมือน approach ของพระราชวังเลยค่ะ

ชั้น 2  : Facilities หลักอื่นๆ ก็กระจายตัวอยู่ตามชั้น 2 ของอาคาร ในตำแหน่งติดสวนกลางคอร์ทเลย โดยทุกฟังก์ชัน สามารถเดินเชื่อมต่อกันด้วยสวนกลางคอร์ทได้เลย ใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี อีกทั้งทุกจุดยังได้บรรยากาศที่ร่มรื่น เห็นต้นไม้เขียวๆ ตลอด ดูผ่อนคลายดีทีเดียวค่ะ ซึ่งส่วนกลางของแต่ละอาคารก็มีการจัดฟังก์ชันแตกต่างกันไป มีความน่าสนใจคนละแบบ ดังนี้

• อาคาร A : PALACE GATE เน้นเป็นฟังก์ชันเพื่อการพักผ่อน และ entertainment อย่าง Game room และ Play room นอกจากนั้นที่ชั้นดาดฟ้า ยังมีพื้นที่สีเขียวให้ผ่อนคลายได้อีกด้วย
• อาคาร B : ACTIVITY FUNNY เน้นเป็นพื้นที่พักผ่อนต่างๆ สำหรับครอบครัว พร้อมทั้งมีสระว่ายน้ำที่ภายในมีฟังก์ชัน เพื่อการผ่อนคลาย อย่าง Jacuzzi และ Hydrotherapy Pool Seat
• อาคาร C : PRIVATE FAMILY เป็นส่วนกลางสำหรับการออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพ
• อาคาร D : ACTIVITY HEALTHY มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ รองรับการ เพื่อออกกำลังกายได้จริงจัง เชื่อมต่อกับ Fitness ภายใน ที่ออกแบบมาเป็นห้องขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน รวมถึงมี Sauna และ Private Jacuzzi

ภาพจำลองบริเวณสระว่ายน้ำภายในโครงการ ซึ่งมีถึง 2 สระ ตั้งอยู่กลางคอร์ท ระดับเดียวกับชั้น 2 ที่อาคาร C และ D เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ซึ่งการแยกโซนเป็นสระเพื่อการพักผ่อน และการว่ายเพื่อออกกำลังกายชัดเจนแบบนี้ มีข้อดีคือใช้งานได้สะดวก เวลาว่ายน้ำออกกำลังกายก็จะไม่ชนกับผู้คนที่มาแช่น้ำพักผ่อนด้วยนะ โดยสระทั้ง 2 โซน มีทางเดินเชื่อมถึงกันได้ ใครว่ายน้ำออกกำลังกายแล้วอยากแช่ Jacuzzi ต่อก็เดินข้ามมาได้ง่ายๆ ค่ะ

• Royal Palace Pool (อาคารC) ขนาด 4.50 x 10.50 เมตร ลึก 1.20 เมตร เป็นสระเพื่อการพักผ่อน ภายในมี Hydrotherapy Pool Seat, Outdoor Jacuzzi และสระเด็กครบ รอบๆสระมีการจัดเป็นพื้นที่พักผ่อน และสวนเอาไว้หลายจุดเลยค่ะ
• Grand Royal Palace Pool (อาคารD) ขนาด 4.50 x 20.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร เป็นสระเพื่อการว่ายน้ำออกกำลังกาย เชื่อมต่อกับ Fitness ด้านในใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี

ชั้นดาดฟ้า : นอกจากจะมีส่วนกลางที่ชั้น 2 ของทุกอาคารแล้ว ที่พิเศษคือ จะมีเฉพาะ ดาดฟ้าของอาคาร B เท่านั้น ที่มีพื้นที่สีเขียวแบบ Roof Garden ด้านบนมีฟังก์ชัน Yoga area สามารถขึ้นมาปูเสื่อโยคะเทควิวมุมสูงได้ พร้อมทั้งมีสวนผักกินได้อย่าง Edible’s garden รองรับอยู่ด้วยค่ะ

อาคาร A : PALACE GATE

ที่ออกแบบเป็นพื้นที่ส่วนต้อนรับ มี Lobby ขนาดใหญ่ สามารถเข้าถึงได้จากด้านหน้าโครงการเลย นอกจากนั้นที่ชั้น 2 ฝั่งด้านใน ติดกับสวนกลางคอร์ท ออกแบบเป็น พื้นที่สำหรับรองรับการทำงานต่างๆ ไว้หลายฟังก์ชันเลย

• The Emperor’s Lobby ชั้น 1
• Panoramic Co-working ชั้น 2
• Premier Private Pod ชั้น 2
• The Royal Meeting Room ชั้น 2

The Emperor’s Lobby เป็นพื้นที่ต้อนรับขนาดใหญ่ ฝ้าเพดานสูง Double Volume พร้อมมี chandelier ขนาดใหญ่ดูหรูหรา อีกทั้งภายในตกแต่งด้วยโทนสีพาสเทลเพิ่มความสดใสมากยิ่งขึ้น ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 เข้าออกได้จากทางด้านหน้าโครงการเลย ใครที่มีแขกมานัดพบก็สามารถให้นั่งรอที่นี่ได้

Panoramic Co-working เป็นพื้นที่รองรับการทำงาน ภายในจัดเป็นชุดโต๊ะทำงาน ชุดโซฟา และ โต๊ะประชุมมาให้ครบ ภายในห้องออกแบบ ให้ผนังฝั่งติดสวน เป็นกระจกตลอดแนว เทควิวสวนได้กว้าง สบายตา

ส่วนการตกแต่ง ภายในห้อง ใช้สีโทนเย็น และสีดำ-เทา ตัดกับดีเทลสีโทนร้อนเล็กน้อย ดูสบายตา แต่ก็ยังคงรู้สึก Active เหมาะต่อการมานั่งทำงานยาวๆ เลยค่ะ

อาคาร B : ACTIVITY FUNNY

พื้นที่ส่วนกลางที่อาคารนี้ออกแบบ เป็นฟังก์ชันสำหรับการพักผ่อน และ Entertainment ภายใต้แนวคิด ACTIVITY FUNNY โดยส่วนกลางชั้น 2 เป็น Play Room และ Game Room ขนาดใหญ่ นอกจากนั้นที่ชั้นดาดฟ้ายังเป็น Roof Garden พื้นที่สีเขียว ที่มีสวนผัก Edible Garden และพื้นที่สำหรับ Yoga area กลางสวนได้อีกด้วยค่ะ

• Play Room ชั้น 2
• Game Room ชั้น 2
• Edible Garden ชั้นดาดฟ้า

Game Room เป็นห้องพักผ่อนในโทนสีแดงเข้ม ตัดกับสีขาวดำลายทาง ดูสนุกสนาน ภายในวางโต๊ะพูลไว้ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยโต๊ะเก้าอี้เล็กๆหลายจุด พาเพื่อนๆ มาปาร์ตี้บอร์ดเกมกันได้ค่ะ

Play room จัดเป็นชุดโซฟาเอาไว้หลายจุด พร้อมมีหน้าจอขนาดใหญ่ สามารถดูหนัง หรือดู Game Caster ด้วยกันกับเพื่อนๆ ได้ที่นี่เลยค่ะ

อาคาร C : PRIVATE FAMILY

ส่วนกลางทั้งหมดอยู่ที่ชั้น 2 เช่นกัน โดยส่วนกลาง indoor เน้น เป็นฟังก์ชันต่างๆ สำหรับครอบครัว ซึ่งเชื่อมต่อกับ พื้นที่สระว่ายน้ำด้านนอกได้เลย ไฮไลต์คือ Royal Palace Pool ออกแบบไว้เป็นสระว่ายน้ำสำหรับผ่อนคลาย ขนาด 4.50 x 10.50 เมตร ลึก 1.20 เมตร ภายในมี Outdoor Jacuzzi, Hydrotherapy Pool Seat พร้อมมีทางเชื่อมสามารถเดินไปที่ส่วนกลางของอาคาร D หรือสวนกลางคอร์ทชั้น 1 ได้เลยด้วยค่ะ

• Kid’s Club
• The Culinary
• The Royal Dining Area
• The Royal Hall
• Royal Palace Pool
• The Palace Veranda
• Water Courtyard Lounge
• Kid Pool
• Outdoor Jacuzzi
• Sunken Seating
• Pool Deck
• Hydrotherapy Pool Seat

The Royal Hall เป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ภายในจัดวางเป็นชุดโซฟาไว้ให้ค่อนข้างเยอะ เป็นห้องฝ้าเพดานสูง ดูโอ่อ่ากว้างขวาง เน้นตกแต่งด้วยสีกรม ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ และผนังสีส้ม ดู Formal ขึ้นมาอีกหน่อย แต่ก็ยังดูสดใส สนุกสนาน ตาม Concept การตกแต่งภายในของที่นี่เลย

The Royal Dining Area เป็นห้องรับประทานอาหาร ที่รองรับครอบครัวใหญ่ได้สบาย พร้อมทั้งเชื่อมต่อกับ The Culinary ที่เป็นครัวสำหรับทำอาหาร สามารถใช้งานร่วมกันได้สะดวกเลย

Kid’s Club เป็นห้องสำหรับเด็กๆ ตกแต่งด้วยโทนสีพาสเทล ตัดกับสีแดงสด ดูสดใส ภายในมีของเล่น เครื่องเล่น จัดเตรียมไว้ให้ ถูกใจเด็กๆ แน่นอนค่ะ

อาคาร D : ACTIVITY HEALTHY

ส่วนกลางทั้งหมดอยู่ที่ชั้น 2 เช่นกัน ภายในมีฟังก์ชันต่างๆ เพื่อสุขภาพ ทั้งห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่, Health Station, Sauna, Private Jacuzzi ส่วนด้านนอก มีสระว่ายน้ำ Grand Royal Palace Pool ขนาด 4.50 x 20.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร เป็นสระสำหรับว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริงจังเลยค่ะ

• Health Station
• Fitness
• Sauna
• The Lord Private Jacuzzi
• Blue Lagoon Seating
• Grand Royal Palace Pool
• Sun Lounger

Fitness เป็นห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ที่ออกแบบให้ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกตลอดแนวเทควิวสระว่ายน้ำได้กว้าง ภายในออกแบบด้วยสีส้มสดใสดู Active เหมาะต่อการออกกำลังกายค่ะ

The Lord Private Jacuzzi เป็นห้องที่ภายในมีอ่าง jacuzzi ขนาดใหญ่ สามารถมาแช่น้ำพักผ่อน แบบเป็นส่วนตัวได้ทั้งวัน ไม่ต้องกลัวแดดเลยค่ะ

The Lord Private Jacuzzi ภายในเน้นตกแต่งด้วยสีฟ้าพาสเทล ตัดกับสีส้มอ่อนๆ เพิ่มความน่าสนใจด้วยการออกแบบซุ้มโค้ง ดูสวยงาม น่าใช้งานดีเลยนะ

ค่าส่วนกลางของที่นี่จะอยู่ที่ 57 บาท/ตร.ม./เดือน หรือประมาณ 1,368-1,990 บาท/เดือน ถือว่ามีราคาสูงกว่าโครงการรอบข้างพอสมควร แต่ก็แลกกับการมีฟังก์ชันส่วนกลางให้ใช้งานหลากหลาย มีพื้นที่ให้พักผ่อน ออกกำลังกาย นั่งทำงาน หรือปาร์ตี้สังสรรค์ได้ ซึ่งส่วนตัวเรามองว่าทดแทนการไป Fitness ข้างนอก หรือไปนั่งทำงาน อ่านหนังสือตามคาเฟ่ต่างๆได้ค่ะ

ชั้นพักอาศัย

สำหรับ ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2-8 โดยชั้น 2 จะมีทั้งยูนิตพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางเลย สำหรับใครที่ชอบใช้ส่วนกลาง ห้องพักอาศัยชั้นนี้ถือว่าตอบโจทย์ทีเดียว เรียกได้ว่าออกจากห้องมาก็เดินเข้าใช้ส่วนกลางได้เลย ส่วน ชั้นอื่นๆจะมีเฉพาะห้องพักอาศัยเท่านั้น ซึ่งก็จะได้ ความสงบ เป็นส่วนตัวมากกว่า

การจัดผังห้องพักอาศัย อาคาร A และ B ผังอาคารเป็นแนวยาว เทควิวทางด้านทิศเหนือ และทิศใต้ อาคาร C และ D ผังอาคารเป็น L-Shape ทำให้มีห้องพักอาศัยเทควิวอยู่ทุกทิศเลย ส่วนผังห้องพักอาศัยของที่นี่เป็นแบบ Double Corridors มีโถงทางเดินตรงกลางแจกไปยังห้องพักทั้งสองฝั่ง พร้อมมีลิฟต์ 2 ตัวต่ออาคาร โดยอัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 94.4 : 1 ถือว่าโอเคเลยค่ะ ไม่ต้องรอลิฟต์นาน ส่วนตำแหน่งลิฟต์มักจะอยู่ช่วงกลางอาคารทำให้แจกไปยังห้องพักอาศัยได้ง่าย จะมีเฉพาะอาคาร A เท่านั้นที่ลิฟต์อยู่ริมอาคาร ทำให้ห้องพักอาศัยที่อยู่ปลายสุด corridor อาจจะต้องเดินสักหน่อย แต่ก็ จะได้ความสงบมากยิ่งขึ้น ไม่ค่อยมีใครเดินผ่านหน้าห้อง

สำหรับปัจจุบันทางโครงการได้เปิดขายแล้วทุกอาคาร เฉพาะชั้น 3, 5, 7 โดยห้องแต่ละ Type จะมีอยู่ในทุกอาคารเลย ในจำนวนที่แตกต่างกันไป ส่วนตำแหน่งห้องแต่ละแบบจะมีความน่าสนใจอะไรบ้างเราสรุปมาชมก่อนเลย ดังนี้

• 1 Bedroom ขนาด 24.00 – 24.80 ตร.ม. (สีครีม) :  เป็นห้องขนาดเริ่มต้นที่มีจำนวนยูนิตเยอะทีเดียว ส่วนใหญ่อยู่ในตำแหน่งเทควิวด้านนอก จะมีเพียง 2 ยูนิต ที่อาคาร D ในวงเส้นประสีแดง เท่านั้นที่เทควิวคอร์ท เหมาะสำหรับคนที่มีงบจำกัดแต่ก็อยากได้วิวสวน ส่วนตัวคาดเดาว่าห้องตำแหน่งนี้น่าจะ Hot มากทีเดียวค่ะ
• 1 Bedroom Exclusive ขนาด 25.80 – 26.80 ตร.ม. (สีน้ำตาลอ่อน และน้ำตาลเข้ม) : เป็นห้องที่ใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อยจากห้องขนาดเริ่มต้น เป็นห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดภายในโครงการ มีให้เลือกทั้งตำแหน่งเทควิวด้านนอก และเทควิวคอร์ทกลาง หลากหลายตำแหน่ง
• 1 Bedroom Extra ขนาด 28.40 – 29.10 ตร.ม. (สีฟ้า) : เป็นห้องที่มีจำนวนไม่เยอะมาก กระจายตัวอยู่ทุกอาคาร ในตำแหน่งเทควิวกลางคอร์ททั้งหมด เหมาะกับคนที่อยากได้ห้องใหญ่ อยู่สบายเห็นวิวสวนกลางคอร์ท โดยจะมีห้องมุมให้เลือกเยอะทีเดียว ใครที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวหน่อย ห้องมุมก็เหมาะเลยค่ะ
• 1 Bedroom Plus ขนาด 34.00 – 34.90 ตร.ม. (สีเทา) : ห้องไซส์ใหญ่สุด มีจำนวนไม่เยอะมาก ส่วนใหญ่อยู่ในตำแหน่ง เทควิวสวนกลางคอร์ท จะมีที่เทควิวด้านนอกอยู่บ้างไม่กี่ยูนิต ที่อาคาร C และ D ซึ่งเราคาดว่า 2 ห้องนี้จะมีราคาจับต้องได้ง่ายกว่าห้องอื่นๆนะ เหมาะสำหรับคนที่ อยากได้ห้องพื้นที่เยอะอยู่สบาย ไม่เน้นได้วิวสวนกลางคอร์ทค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

อาคาร A : PALACE GATE

• The Emperor’s Lobby ชั้น 1
• Panoramic Co-working ชั้น 2
• Premier Private Pod ชั้น 2
• The Royal Meeting Room ชั้น 2

อาคาร B : ACTIVITY FUNNY

• Play Room  ชั้น 2
• Game Room ชั้น 2
• Edible Garden ชั้นดาดฟ้า

อาคาร C : PRIVATE FAMILY

• Kid’s Club ชั้น 2
• The Culinary ชั้น 2
• The Royal Dining Area ชั้น 2
• The Royal Hall ชั้น 2
• Royal Palace Pool ชั้น 2
• The Palace Veranda ชั้น 2
• Water Courtyard Lounge ชั้น 2
• Kid Pool ชั้น 2
• Outdoor Jacuzzi ชั้น 2
• Sunken Seating ชั้น 2
• Pool Deck ชั้น 2
• Hydrotherapy Pool Seat ชั้น 2

อาคาร D : ACTIVITY HEALTHY

• Health Station ชั้น 2
• Fitness ชั้น 2
• Sauna ชั้น 2
• The Lord Private Jacuzzi ชั้น 2
• Blue Lagoon Seating ชั้น 2
• Grand Royal Palace Pool ชั้น 2
• Sun Lounger ชั้น 2

• สวนหย่อมที่ชั้น 1, 2 และ ดาดฟ้า ขนาด 3,169.63 ตร.ม.
• The Emerald Terrace
• The Front Yard Avenue
• Tea Pavilion
• Fontage Garden Terrace
• สระว่ายน้ำระบบ เกลือ 2 สระ
  – Royal Palace Pool (อาคารC) ขนาด 4.50 x 10.50 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  – Grand Royal Palace Pool (อาคารD) ขนาด 4.50 x 20.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• มีการแบ่งสระเด็ก ลึก 0.55 เมตร ขนาดประมาณ 2.50 x 6.55 เมตร
• ห้องออกกำลังกาย
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 94.4 :  1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 106 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 82 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 83.5 : 1
  อัตราส่วนลิฟต์ตึก D 106 : 1
• ที่จอดรถ 254 คัน และที่จอดรถ EV 2 คัน หรือคิดเป็น 34% (แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน)
• EV Charger 2 คัน
• ระบบในการเข้า-ออก (รถยนต์) Bluetooth Access Control
• ระบบในการเข้า-ออก (เดินเข้าออก ขึ้นลงอาคาร)  Key Card Access พร้อมระบบลิฟต์ล็อกชั้น
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV 24 ชั่วโมง

ATMOZ Palacio ลาดพร้าว-วังหิน โปรดักส์ในโครงการส่วนใหญ่เน้นเป็นห้อง 1 Bedroom ที่เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1-2 คน สบายๆ แต่ก็มีห้อง 1 Bedroom Plus ที่เหมาะสำหรับอยู่อาศัยเป็นครอบครัวเริ่มต้นให้เลือกด้วย ส่วนราคาเริ่มต้นอยู่ในช่วง 2.09-3.06 ล้านบาท ดังนั้นถ้ามีงบประมาณไม่เกิน 3.5 ล้าน ก็จะสามารถซื้อได้ทุก Type ของที่นี่แล้วค่ะ

โดยปัจจุบัน ราคาโปรโมชันเปิดตัวมาที่ 1.79 ล้านบาท* สำหรับห้องเริ่มต้น 1 Bedroom ขนาด 24 – 24.8 ตร.ม. ซึ่งถือว่าเป็นราคาเริ่มต้นที่จับต้องได้ง่ายสุดในย่านนี้แล้วค่ะ อีกทั้งยังขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์หลักๆ ในห้องครบเลยด้วย ส่วนแบบห้องมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้

• 1 Bedroom ขนาด 24 – 24.8 ตร.ม.
• 1 Bedroom Exclusive ขนาด 25.8 – 26.8 ตร.ม.
• 1 Bedroom Extra ขนาด 28.4 – 29.2 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus ขนาด 34 – 34.9 ตร.ม.

วัสดุภายในห้อง

• พื้นห้อง ปู Stone Plastic Composite ( SPC )
• พื้นระเบียง ปูกระเบื้องเซรามิก 30×30 ซม.
• พื้น และผนัง ห้องน้ำ ปูกระเบื้องเซรามิก 30×30 ซม.
• ผนังทั่วไปเป็น ฉาบเรียบทาสีขาว ตามมาตรฐาน
• Built-in ครัว ท็อปหินสังเคราะห์, ที่ดูดควันแบบหมุนเวียน และชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยม 1 ช่อง จาก TEKA, Backsplash กระเบื้องสีขาว หรือเทียบเท่า
• สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ จาก American standard / ฉากกั้นอาบน้ำกระจก Shower King / รองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น หรือเทียบเท่า
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.4 ม. ฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว
• ปลั๊กและสวิตช์ ยี่ห้อ SIMON หรือเทียบเท่า
• เครื่องปรับอากาศ Wall Type จำนวน 1-2 เครื่อง (แล้วแต่ขนาดห้อง)
• Digital door lock ยี่ห้อ Home Shield ใช้งานได้ 5 ระบบ Passcode, Fingerprint, Mobile app. , Key , Key Card(RF Card) หรือเทียบเท่า
• Bluetooth Sound System เปิดเพลงฟังผ่านลำโพงที่อยู่บนฝ้าเพดานได้ พร้อมหน้าจอ Control

อย่างที่บอกไปนะคะว่าห้องที่นี่ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ในห้องมาครบ พร้อมเครื่องปรับอากาศ และ ระบบ Bluetooth Sound System สิ่งที่ต้องหาเพิ่มเติมก็จะมีพวก ชุดเครื่องนอน หมอนฟูก ผ้าม่าน เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็สามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ หรือปล่อยเช่าได้ทันที

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

1 BEDROOM EXCLUSIVE 

1 Bedroom Exclusive ขนาด 25.9 ตร.ม. เป็นห้องที่ใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อยจากห้องขนาดเริ่มต้น จัดฟังก์ชันมาได้อยู่สบายมากยิ่งขึ้น อยู่อาศัยเป็นคู่รัก 2 คนได้สบาย เป็นห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดภายในโครงการ มีให้เลือกทั้งตำแหน่งเทควิวด้านนอก และเทควิวสวนกลางคอร์ทเลยด้วย สำหรับราคาเริ่มต้นห้อง Type นี้อยู่ที่ 2.44 ล้านบาท ส่วนจุดที่น่าสนใจของห้องนี้จะมีอะไรบ้าง เราขอสรุปดังนี้

• Common Area ใหญ่ จัดวางโซฟา 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะทานอาหาร 2 ที่นั่งได้ โดยที่เหลือทางเดินหน้าโซฟาสบายๆ อีกทั้งเชื่อมต่อกับห้องครัว และระเบียง ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ได้แสงธรรมชาติ ดูไม่อึดอัด
• ห้องนอนกั้นแยกเป็นส่วนตัว โดยห้องนอนจะกั้นด้วยผนังพร้อมประตูบานทึบ แยกจากส่วน Common area ชัดเจน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังเชื่อมต่อกับห้องน้ำได้โดยตรง ไม่ต้องเดินออกจากห้องนอนเพื่อไปเข้าห้องน้ำ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี
• ห้องน้ำเข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องนอน และจาก Common area เข้าถึงได้ง่าย ใช้งานได้สะดวก
• ห้องครัวปิด ติดระเบียง สามารถทำอาหารได้จริงจัง โดยไม่มีกลิ่นไปรบกวนในส่วนพื้นที่ห้องนอน อีกทั้งอยู่ติดระเบียง ทำให้เปิดประตูระบายกลิ่นได้สะดวก ใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี
• Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ และ Built-in หลักๆ ครบ พร้อมติดตั้งแอร์มาให้เรียบร้อย สรุปได้ดังนี้

1. ชุดครัว
2. ตู้รองเท้า
3. ตู้วางทีวี
4. ฐานเตียง 5 ฟุต
5. ตู้เสื้อผ้า
6. เก้าอี้ทานอาหาร 2 ตัว
7. โต๊ะทานอาหาร
8. โซฟา 2 ที่นั่ง (ปรับนอนได้)

มาเริ่มกันที่ประตูหลักทางเข้าห้อง จะติดตั้ง Digital door lock ยี่ห้อ Home Shield ที่สามารถใช้ได้ทั้งหมด 5 ระบบได้แก่ Bluetooth app, Fingerprint, Passcode, RF Card, Key หน้าตาแบบนี้เลยค่ะ

เมื่อเปิดเข้ามาเป็นส่วน Common Area ขนาด 2.5×2.8 เมตร เป็นห้องที่รวมพื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่ทานอาหารเข้าไว้ด้วยกัน อยู่ในตำแหน่งเชื่อมต่อกับห้องครัว และระเบียง ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ได้แสงธรรมชาติ ดูไม่อึดอัด สำหรับวัสดุ พื้นห้อง ปู SPC ลายไม้ ซึ่งมีความทนทานต่อความชื้น น้ำ และทนไฟได้  รับแรงกระแทกได้ดี ไม่ลื่น ไม่ยืดหดตามสภาพแวดล้อมมากเท่าไวนิล ส่วนผนังฉาบเรียบทาสีขาว ระยะฝ้าเพดาน 2.4 เมตร ตามมาตรฐานคอนโด Low Rise ทั่วไปเลยค่ะ

เมื่อเข้ามาแล้ว ที่ผนังด้านข้าง ทางซ้ายมือ ติดตั้งสวิตช์เปิด-ปิดไฟ เข้ามาก็ใช้งานได้เลย สะดวกดี ซึ่งปลั๊ก และสวิตช์ ที่ใช้ภายในห้อง เป็นแบบสีดำดูเท่ๆ ยี่ห้อ SIMON พร้อมมีหน้าจอ Control ของ Bluetooth Sound System ที่สามารถเปิดเพลงฟังผ่านลำโพงที่อยู่บนฝ้าเพดานได้ ซึ่งจะติดอยู่ 2 จุด ภายในห้องนั่งเล่น และห้องนอน หน้าตาแบบนี้เลย

สำหรับพื้นที่ Common Area ฝั่งนี้กว้าง 2.8 เมตร สามารถวาง โซฟา และโต๊ะทานอาหาร 2 ที่นั่งวางชิดกันได้แบบนี้ได้พอดีๆ ส่วนระยะทางเดิน จากโซฟาถึงโต๊ะวางทีวีจะเหลือกว้างประมาณ 1.35 เมตร เดินผ่านไปมาได้สบาย จะหาโต๊ะน้ำชาเล็กๆ มาวางเพิ่มเติมก็ยังได้ค่ะ แต่สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ภายในห้องมาตรฐานจะไม่ได้เป็นแบบนี้นะคะ จะได้เป็นโซฟา 2 ที่นั่ง ที่ปรับเป็นเตียงนอนได้ พร้อมชุดโต๊ะทานอาหาร ตามรูปรายการเฟอร์นิเจอร์ก่อนหน้าเลย

มาดูที่ผนังอีกฝั่งหนึ่ง จะได้โต๊ะวางทีวี พร้อมตู้เก็บรองเท้าด้านข้าง แต่หน้าตาจะเป็นแบบรายการเฟอร์นิเจอร์ก่อนหน้าค่ะ สำหรับระยะดูทีวีภายในห้องนี้จะติดตั้งทีวีขนาด 52-55 นิ้วได้ค่ะ

มาต่อกันที่โซนด้านใน โดยห้องซ้ายมือสุดเป็นห้องครัว ถัดมาเป็นห้องนอน ส่วนห้องขวามือสุดเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำค่ะ

สำหรับห้องครัวเป็นแบบปิด กั้นแยกจากส่วนห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เป็นสัดส่วน สามารถทำอาหารได้โดยไม่มีกลิ่นไปรบกวนในส่วนพื้นที่ห้องนอน และยังทำให้แสงธรรมชาติจากระเบียงสามารถส่องเข้ามายังบริเวณครัวได้ ทำให้ห้องดูโปร่งมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ภายในห้องครัวนี้มีขนาด 2.3×1.4 เมตร ระยะหน้าเคาน์เตอร์อยู่ที่ 0.80 เมตร พอดีๆ เป็นห้องครัวที่อยู่ติดระเบียง สามารถเปิดระบายกลิ่นได้สะดวก ใช้งานได้จริงจัง อีกทั้งในแง่ของการใช้งานก็เป็นสัดส่วนดี สำหรับพื้นห้องครัวเป็นพื้น SPC ลายไม้เช่นกันค่ะ

ชุดครัวได้ทั้งเคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง และตู้เก็บของด้านบน หน้าตาแบบนี้เลย พร้อมเหลือที่ว่างด้านข้างกว้าง 1 เมตร สำหรับวางตู้เย็น ซึ่งเป็นขนาดที่วางไซส์มาตรฐานได้สบาย

ชุดครัวจะได้เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว I กว้าง 1.2 เมตร  มีพื้นที่สำหรับล้างจานทำอาหารเตรียมอาหารได้พอดีๆ สำหรับท็อปครัวเป็นหินสังเคราะห์ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ครัวจาก TEKA มีเตาไฟฟ้า 2 หัว, ชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยม 1 ช่อง และที่ดูดควันเป็นแบบหมุนเวียน หากทำอาหารกลิ่นแรงๆ ก็อาจต้องเปิดประตูระเบียงช่วยหน่อยค่ะ อีกทั้งติดตั้ง Backsplash ด้วยกระเบื้องสีขาว ทำความสะอาดได้ง่ายดีค่ะ

สำหรับตู้เก็บของด้านล่าง ส่วนที่เราชอบคือพื้นที่ใต้อ่างล้างจานจะเป็นช่องเก็บขนาดใหญ่ ที่ใช้เป็นบานเปิดคู่ ใช้พื้นที่ไม่เยอะ เวลาเปิดใช้งาน เหลือพื้นที่หน้าเคาน์เตอร์เยอะ ใช้งานได้สะดวกดี พร้อมมีลิ้นชักช้อน ส้อม และมีพื้นที่วางไมโครเวฟมาให้ด้วย ช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ ส่วนชั้นวางของด้านบนจะมีทั้งแบบมีหน้าบาน และแบบโปร่งที่จะเหมาะกับวางของที่หยิบใช้บ่อยๆ มาให้ด้วย

ระเบียงขนาด 1.4×0.90 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าได้  โดยในห้องมาตรฐานจะมีการวางระบบรองรับการติดตั้งเครื่องซักผ้า และมีปลั๊กไฟพร้อมหน้ากากกันน้ำมาให้ครบ  แนะนำให้ใช้ราวตากผ้าแบบยึดผนัง 2 ด้าน จะช่วยให้ประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้น สำหรับวัสดุต่างๆ พื้นระเบียงจะใช้เป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 ซม. สีเทา ทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนด้านบนแขวน Condensing units พร้อมมีระแนงบังสายตามาให้ ดูเรียบร้อยดี และมีไฟที่ผนังมาให้ 1 จุด

มาต่อกันที่ส่วนห้องน้ำกันบ้างค่ะ เป็นห้องน้ำที่เข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องนอน และจาก Common area เข้าถึงได้ง่าย ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจน ฟังก์ชันเรียงลำดับการใช้งาน สะดวกดีทีเดียว พื้นและผนังปูกระเบื้องเซรามิก โดยมีธรณีประตูห้องน้ำยกสูงจากพื้นเล็กน้อยกันน้ำไหลไปยังส่วนอื่นๆ  พร้อมติดตั้งพัดลมระบายอากาศมาให้เรียบร้อย

ตัวอ่างล้างหน้าเป็นแบบลอยตัว พร้อมมีช่องเก็บของ มาให้เรียบร้อย ส่วน Fitting และสุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำ เป็นของ American standard ค่ะ

ห้องอาบน้ำขนาด 0.95×1.0 ม. พร้อมติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำเป็นแบบ 3 ตอน เปิดได้กว้าง ยี่ห้อ Shower King ภายในได้ที่อาบน้ำแบบ Hand shower จาก  American standard เช่นกัน พร้อมมีการออกแบบเป็นที่วาง สบู่ แชมพู ในผนังมาให้เรียบร้อยเลยค่ะ

มาต่อกันที่ส่วนห้องนอนกันบ้าง ห้องนอนกั้นแยกจากส่วนห้องนั่งเล่นด้วยผนัง และประตูทึบได้ความเป็นส่วนตัว หากอยู่กัน 2 คน ก็สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 ฟังก์ชันโดยไม่รบกวนกันดี อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับห้องน้ำได้ในตัว ใช้งานได้สะดวกเลย

โดยห้องนอนมีขนาด 2.5×3.3 เมตร สามารถวางเตียง 5 ฟุต ชิดกับตู้เสื้อผ้าได้ โดยเหลือพื้นที่หน้าตู้เสื้อผ้ากว้าง ยืนแต่งตัวได้สบายๆ สำหรับใครที่ชอบนอนดูหนัง ที่ผนังปลายเตียงมีปลั๊ก และงานระบบ ที่สามารถติดตั้งทีวีแขวนผนังได้ค่ะ ส่วนระยะดูทีวีนี้ติดตั้งขนาด 52-55 นิ้ว ได้นะ

ด้านในจัดวางเตียงแบบมีทางเดินโดยรอบ โดยฝั่งติดหน้าต่าง และปลายเตียงเหลือประมาณ 50 ซม. เดินได้พอดีๆ สามารถวางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้สบาย สำหรับเตียงจะได้เฉพาะฐานขนาด 5 ฟุต พร้อมมีการออกแบบเป็นช่องเก็บของที่ฐานมาให้ด้วย เป็นการใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าดีเลยค่ะ

ส่วนตู้เสื้อผ้าที่ได้ภายในห้องนี้ มีขนาดกว้าง 1.2  เมตร หน้าบานเป็นแบบกระจกเลื่อนสลับ ดูโปร่ง และช่วยประหยัดพื้นที่ในการเปิด-ปิดได้ ภายในตู้จะมีช่องเก็บกระเป๋าด้านบน ราวแขวนในตู้ พร้อมชั้นเก็บของเล็กๆ สำหรับเก็บชุดชั้นใน และถุงเท้าต่างๆ ให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้นค่ะ

1 BEDROOM

1 Bedroom ขนาด 24 .1 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเริ่มต้นที่มีจำนวนยูนิตเยอะเป็นอันดับรองลงมา มีให้เลือกอยู่ทุกอาคาร ส่วนใหญ่อยู่ในตำแหน่งเทควิวด้านนอก จะมีที่เทควิวคอร์ทกลางอยู่บ้างไม่กี่ยูนิต ส่วนการจัดฟังก์ชันภายในห้องเรามองว่าเหมาะสำหรับ คนที่ชอบใช้ชีวิตนอกบ้าน ทำงานอยู่ออฟฟิศหรือนอกบ้านเป็นประจำ ไม่ได้อยู่คอนโด หรือต้องนั่งทำงานที่คอนโดมากนัก สามารถอยู่อาศัยได้ 1-2 คน

สำหรับราคา ถ้าหากคำนวณจากราคาเฉลี่ยทั้งโครงการแล้ว ห้อง Type นี้ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 2.085 ล้านบาท แต่สำหรับราคาโปรโมชันตอนนี้ เปิดตัวมาในราคา 1.79 ล้านบาท* ซึ่งถือเป็นราคาที่น่าสนใจทีเดียว ส่วนจุดเด่นของห้องนี้จะมีอะไรบ้างเรารวบรวมมาให้ ดังนี้

• ห้องครัวปิด กั้นแยกเป็นสัดส่วน โดยห้องครัวอยู่บริเวณหน้าห้อง โดยมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กั้นแยกจากส่วนห้องนอน เป็นสัดส่วน สามารถทำอาหารได้โดยไม่มีกลิ่นไปรบกวนในส่วนพื้นที่ห้องนอน
• ห้องนอน รวมกับ Living area เป็นห้องหน้ากว้าง 3.75 เมตร ลึกประมาณ 4.3 เมตร ภายในจัดวางเตียงนอน + โซฟานั่งเล่น + ตู้เสื้อผ้า + โต๊ะทำงาน ได้เลย แต่สำหรับพื้นที่ทานอาหาร จะต้องมานั่งกินตรงโต๊ะหน้าโซฟาแทน ซึ่งอาจจะหาเป็นโต๊ะกลางที่ปรับความสูงได้ เพื่อให้สะดวกเวลาใช้งานมากยิ่งขึ้นค่ะ
• Bay Window บริเวณห้องนอน เป็นพื้นที่ติดกับหน้าต่าง ได้แสงธรรมชาติเต็มที่ สามารถจัดเป็นโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ พร้อมมีการติดตั้งปลั๊กและไฟดาวน์ไลท์สามารถใช้งานได้สะดวกเลยค่ะ
• ห้องน้ำอยู่ติดกับห้องนอน ใช้งานได้สะดวก เนื่องจากพื้นที่พักผ่อนที่เราใช้เวลาด้วยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ห้องนอน ทำให้เวลาจะใช้งานห้องน้ำก็ตรงเข้าได้เลย อีกทั้งจัดให้อยู่ในตำแหน่งติดโถงทางเดิน ช่วยเป็น Buffer ลดเสียงเข้าสู่พื้นที่ห้องนอน ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
• Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ และ Built-in หลักๆ ครบ พร้อมติดตั้งแอร์มาให้เรียบร้อย สรุปได้ดังนี้

1. ชุดครัว
2. ตู้รองเท้า
3. ตู้วางทีวี
4. ฐานเตียง 5 ฟุต
5. โซฟา 2 ที่นั่ง (ปรับนอนได้)
6. ตู้เสื้อผ้า

สำหรับห้องนี้เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับ ส่วนของห้องครัวเป็นอันดับแรก ซึ่งมีข้อดีคือเมื่อซื้อของเข้าบ้านก็สามารถเก็บล้างเอาเข้าตู้ได้ก่อนเลย สำหรับห้องครัวเป็นแบบปิด กั้นจากส่วนห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนเช่นกัน สามารถทำอาหารได้จริงจัง กลิ่นไม่ฟุ้งกระจาย โดยห้องครัวมีขนาด 1.75×1.9 เมตร ส่วนระยะหน้าเคาน์เตอร์ครัวกว้าง 1.15 เมตรเดินผ่านไป-มาได้สบาย

ชุดครัวจะได้เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว I กว้าง 1.2 เมตร ส่วนวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ ได้เหมือนห้องก่อนหน้าเลยค่ะ พร้อมมีพื้นที่ว่างด้านข้าง 0.70 เมตร สำหรับวางตู้เย็นขนาดมาตรฐานได้พอดีๆ

ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัว มีตู้รองเท้า Built-in มาให้ในผนัง อยู่ในตำแหน่งด้านข้างประตูทางเข้า ใช้งานได้สะดวก กลับมาถึงห้องก็เก็บรองเท้าได้เลย เป็นสัดส่วน โดยตู้ที่ได้จะเป็นแบบนี้เลย สามารถวางรองเท้าได้เยอะ และยังมีช่องสำหรับวางไม้กวาด หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดขนาดยาวๆ ได้เป็นสัดส่วนดีด้วย พร้อมมีหน้าบานเปิดกระจกมาให้ฝั่งหนึ่ง ใช้ส่องดูความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านได้ สะดวกดีค่ะ

หน้ากว้าง 3.75 เมตร ค่อนข้างกว้าง จะเห็นได้ว่าระยะปลายเตียงถึงหน้าตู้เสื้อผ้าเหลือค่อนข้างกว้าง เดินผ่านได้สบาย ภายในห้องได้หน้าต่างกระจกบานใหญ่ 1 บาน พร้อมช่องเปิดระบายอากาศได้ บรรยากาศภายในห้องดูโปร่ง กว้าง ไม่อึดอัด สำหรับวัสดุ พื้นห้องปู SPC ลายไม้ ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ระยะฝ้าเพดาน 2.4 เมตร เช่นเดียวกันกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ

ห้องนี้ลึกประมาณ 4.3 เมตร สามารถจัดวางเป็นโซฟา 2 ที่นั่งวางชิดกับเตียง 5 ฟุตแล้ว ยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงบริเวณติดริมหน้าต่าง สามารถวางโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ เพิ่มเติมได้ สำหรับโซฟาที่ได้ภายในห้องมาตรฐานจะเป็นโซฟา 2 ที่นั่ง ที่ปรับเป็นเตียงนอนได้ พร้อมชุดโต๊ะทานอาหาร ตามรูปรายการเฟอร์นิเจอร์ก่อนหน้านะคะ

พื้นที่ริมหน้าต่างด้านข้างเตียงนอน เป็นพื้นที่แบบ Bay Window ได้แสงธรรมชาติค่อนข้างดี อีกทั้งด้านข้างยังติดกับระเบียงอีกด้วย ยิ่งทำให้มุมนี้ดูโปร่งโล่งดีเลย สามารถจัดเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ได้ ซึ่งตรงนี้จะเหลือพื้นที่ประมาณ 1 เมตรกว่าๆ กว้าง 2.7 เมตร วางได้พอดีๆ แนะนำให้ใช้เป็นโต๊ะโปร่งๆ เล็กๆ พร้อมเก้าอี้สตูล จะช่วยให้ ดูโปร่ง ไม่อึดอัดค่ะ

มาดูอีกฝั่งหนึ่ง ด้านปลายเตียงกันบ้าง จัดวางเป็นโต๊ะวางทีวี และตู้เสื้อผ้า โดยตู้เสื้อผ้าที่ได้ในห้องนี้มีขนาดกว้าง 1.4 เมตร วัสดุอุปกรณ์ เหมือนกันกับห้องก่อนหน้าเลย ส่วนโต๊ะวางทีวีที่ได้ภายในห้องมาตรฐานจะไม่ได้เป็นแบบนี้นะคะ โดยหน้าตาจะเหมือนในรายการเฟอร์นิเจอร์เลยค่ะ  โดยพื้นที่สำหรับติดตั้งทีวีจะเหลือกว้าง 1.15 เมตร วางทีวีขนาด 50 นิ้วได้ค่ะ

ส่วนด้านซ้ายจะเป็นประตูเชื่อมต่อกับห้องน้ำได้ในตัว เข้าถึงได้ง่าย ใช้งานได้สะดวก ส่วนขวามือสุดจะเป็นระเบียง ซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกเช่นกัน ทำให้ดูโปร่ง ได้แสงธรรมชาติดีเลยค่ะ

มาดูในห้องน้ำกันก่อน ภายในห้องแยกส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจน ใช้งานได้ง่าย เมื่อเข้ามาด้านซ้ายมือจะเป็นอ่างล้างหน้า ด้านขวามือเป็นส่วนโถสุขภัณฑ์ ซึ่งมีระยะกว้างประมาณ 95 ซม. หมุนตัวสบายๆ ส่วนตรงกลางด้านในจะเป็นพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกมาให้เช่นกันค่ะ

ห้องอาบน้ำขนาด 90×115 ซม. ภายในได้ที่อาบน้ำแบบ Hand shower และมีการออกแบบที่วางของในผนังมาให้เรียบร้อย สำหรับพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิกเช่นกัน ส่วนสุขภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ติดตั้งมาให้สเปคเดียวกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ

มาดูส่วนระเบียงกันค่ะ มีขนาด 1.5×1.0 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ โดยในห้องมาตรฐานจะมีการวางระบบรองรับการติดตั้งเครื่องซักผ้า และมีปลั๊กไฟพร้อมหน้ากากกันน้ำมาให้ครบ สำหรับวัสดุต่างๆ พื้นระเบียงจะใช้เป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 ซม. สีเทา ด้านบนแขวน Condensing units พร้อมมีระแนงบังสายตา และมีไฟที่ผนังมาให้ 1 จุด เช่นกันค่ะ

1 BEDROOM PLUS

1 Bedroom Plus ขนาด 34.2 ตร.ม. เป็นห้องขนาดใหญ่สุดที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะมาก มีอยู่ในทุกอาคาร  ส่วนใหญ่อยู่ในตำแหน่งเทควิวกลางคอร์ท ที่เทควิวด้านนอกก็มีอยู่บ้าง จัดฟังก์ชันมาได้ลงตัวเป็นสัดส่วน เหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดเป็นประจำ หรือทำงานอยู่คอนโดเป็นหลัก สามารถอยู่กันเป็นคู่รัก หรือครอบครัวเริ่มต้นได้สบายๆ สำหรับห้อง Type นี้มีราคาเริ่มต้นที่ 3.06 ล้านบาท สำหรับจุดที่น่าสนใจมีดังนี้

• Common Area ใหญ่ จัดวางโซฟา 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะทานอาหาร 2 ที่นั่งได้ โดยที่เหลือทางเดินหน้าโซฟาสบายๆ อีกทั้งเชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ได้แสงธรรมชาติ ดูไม่อึดอัด
• ห้องครัวปิด ขนาดใหญ่ ได้เคาน์เตอร์ครัว L-shape ขนาดกว้าง ทำอาหารได้จริงจัง อีกทั้งมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กั้นแยกจาก Common area เป็นสัดส่วน ทำอาหารได้โดยไม่มีกลิ่นไปรบกวนในส่วนอื่นๆ เลย
• ห้องน้ำอยู่ติดกับส่วนครัว จัดเป็นพื้นที่ Service อยู่ด้วยกันเป็นสัดส่วนดี
• ห้องอเนกประสงค์ เข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องนั่งเล่น และห้องนอน สามารถจัดเป็นห้องทำงาน ก็เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นได้ดี หรือจัดเป็นห้องแต่งตัว ก็เชื่อมต่อกับห้องนอนได้สะดวกเช่นกัน อีกทั้งยังอยู่ติดระเบียงทำให้ได้แสงธรรมชาติค่อนข้างดีเลย
• ห้องนอนใหญ่ กั้นแยกเป็นส่วนตัว พื้นที่ห้องนอนค่อนข้างกว้าง วางเตียง 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าด้านข้าง และปลายเตียงวางโต๊ะวาง TV หรือโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ เพิ่มเติมได้สบาย ภายในกั้นด้วยผนังพร้อมประตูบานทึบกั้นแยกชัดเจน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
• Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ และ Built-in หลักๆ ครบ พร้อมติดตั้งแอร์มาให้เรียบร้อย สรุปได้ดังนี้

1. ชุดครัว L-shape
2. ตู้รองเท้า
3. ตู้วางทีวี
4. ฐานเตียง 5 ฟุต
5. ตู้เสื้อผ้า
6. เก้าอี้ทานอาหาร 2 ตัว
7. โต๊ะทานอาหาร
8. โซฟา 2 ที่นั่ง (ปรับนอนได้)

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ATMOZ Palacio Ladprao-Wanghin ราคา ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2566

• 1 Bedroom ขนาด 24.00 – 24.80 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท*
• 1 Bedroom Exclusive ขนาด 25.80 – 26.80 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.44 ล้านบาท
• 1 Bedroom Extra ขนาด 28.40 – 29.10 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
• 1 Bedroom Plus ขนาด 34.00 – 34.90 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.06 ล้านบาท
• รูปแบบการขาย Fully Furnished
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
• Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
• Hob & Hood
• มีรถ Shuttle Service
• จอง 5,000 บาท
• ทำสัญญา 10,000 บาท
• ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 57 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล : อยู่ติดถนนลาดพร้าว-วังหินช่วงกลางซอย  ทำเลเป็นทำเลที่เป็นแหล่งชุมชน มีคนอยู่เยอะ สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง และขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ เพราะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหารน้อยใหญ่ ตั้งแต่รถเข็น ร้านตึกแถว ยันร้านอาหารติดแอร์ ซึ่งเป็นร้านที่อร่อยและขึ้นชื่อหลายร้าน นอกจากนั้นยังมีแหล่งอาหารการกินที่เดินไปได้ง่ายๆ อย่าง Plaza Lagoon และ The Jas วังหิน นอกจากนั้นยัง ใกล้ห้างใหญ่หลายแห่ง  Central Festival East Ville, Crystal Park, Central ลาดพร้าว, Union Mall, Major รัชโยธิน ในระยะ 5-6 กม. เท่านั้น

การเดินทางโดยใช้รถ : ถือว่าค่อนข้างสะดวกด้วยความที่บนถนนลาดพร้าววังหินมีจุดเด่น คือ ลัดเลาะเชื่อมต่อถนนหลักได้หลากหลายเส้นทาง สะดวกในช่วงเวลารถติด มีทางเลือกให้ใช้เยอะ ลัดเลาะไปออก รัชดาภิเษก ลาดพร้าว ประเสริฐมนูกิจ หรือถนนเลียบด่วน-รามอินทรา ได้หลากหลายเส้นทาง

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ค่อนข้างสะดวก บนถนนลาดพร้าว-วังหิน ก็มีรถโดยสารให้บริการอยู่หลากหลาย ทั้งวินมอเตอร์ไซค์ รถกะป๊อสองแถวเล็ก หรือรถแท็กซี่ก็มีรถวิ่งผ่านไปมาตลอด โบกเรียกได้ง่าย อีกทั้งเป็นทำเลที่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า โดยปัจจุบันที่ใกล้สุด คือ MRT ลาดพร้าว ซึ่งทางโครงการมี Shuttle Service รับ-ส่ง ให้ด้วยนอกจากนั้น ในอนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองให้ใช้งานใกล้ขึ้น ในระยะ 2.6 กม. ที่ BTS สถานีภาวนา

วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นในห้องมาครบ พร้อมติดตั้งแอร์มาให้ด้วย นอกจากนั้นยังได้ Bluetooth Sound System และ Digital Door Lock มาให้ด้วย สิ่งที่ต้องหาเพิ่มเติมก็จะมีพวก ชุดเครื่องนอน หมอนฟูก ผ้าม่าน เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็สามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ หรือปล่อยเช่าได้ทันที

ส่วนวัสดุต่างๆ ในห้องก็ตามมาตรฐาน พื้นเป็น SPC ทนความชื้นได้ดี / Top เคาน์เตอร์ครัวหินสังเคราะห์ , ที่ดูดควันแบบหมุนเวียน และชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยม 1 ช่อง จาก TEKA, Backsplash กระเบื้องสีขาว หรือเทียบเท่า / สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ จาก American standard, ฉากกั้นอาบน้ำกระจก Shower King หรือเทียบเท่า / ระยะฝ้าเพดาน 2.4 เมตร ตามมาตรฐานคอนโด Low Rise ทั่วไปเลยค่ะ

การออกแบบโครงการ : การออกแบบโครงการถือว่าทำออกมาได้ดีเลย มาในสไตล์ Modern Classic ดูหรูหรา ในโทนสีสุภาพ ตัดกับการออกแบบภายในที่เน้นใช้สีสันสดใส ดู Modern สนุกสนาน โดยแต่ละฟังก์ชันออกแบบมาได้มีความน่าสนใจ แตกต่างกันไป ไม่น่าเบื่อ ส่วนการวางผังอาคารของแต่ละโซนจะออกแบบให้ตัวอาคารโอบล้อมพื้นที่สวนเอาไว้ พร้อมทั้งดีไซน์ให้ส่วนกลางต่างๆ กระจายตัวอยู่รอบๆ ซึ่งทุกฟังก์ชันสามารถเชื่อมกันได้ด้วยพื้นที่สีเขียวกลางคอร์ท ใช้งานได้สะดวก ต่อเนื่องกันดี อีกทั้งการวางผังแบบนี้ ช่วยให้ห้องพักอาศัยด้านใน ได้วิวสวนสีเขียว และสระว่ายน้ำสวยๆ อีกด้วยค่ะ

การออกแบบห้อง : มีให้เลือกถึง 4 แบบ โดยจะเน้นเป็นห้องที่เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1 – 2 คนเป็นหลัก แต่ก็มีห้อง 1 Bedroom Plus ที่เหมาะสำหรับอยู่อาศัยเป็นครอบครัวเริ่มต้นให้เลือกด้วย ส่วนการจัดฟังก์ชันภายในห้อง ก็ทำได้ดี ลงตัวเป็นสัดส่วน ได้ครัวแบบปิดทุกแบบ มีให้เลือกที่เป็นครัวแบบปิดติดระเบียง หรือใครที่อยู่กันเป็นครอบครัว ทำอาหารจริงจัง ก็มีแบบห้องที่ได้เคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่มาด้วย

โดยห้องขนาดเริ่มต้นจะเน้นในส่วนพื้นที่พักผ่อน มีการกั้นแยกห้องนอนได้เป็นสัดส่วนดี เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ห้องมากนัก ทำงานอยู่ออฟฟิศ ทานอาหารนอกบ้านเป็นหลัก เพราะไม่มีการจัดส่วน ทานอาหารไว้ให้ แต่สำหรับใครที่ชอบทำงานอยู่ห้องบ่อยๆ ก็สามารถเลือกห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาเพื่อให้สะดวกยิ่งขึ้นได้ ภายในห้องมีส่วนทานอาหารมาให้ครบ

สาธารณูปโภค : มีส่วนกลางให้ใช้งานเยอะ หลากหลายจัดเต็มกว่า 33 ฟังก์ชัน กระจายไปในทุกอาคาร ทำให้ลูกบ้านสามารถเข้าถึงได้ง่าย พร้อมทั้งมีสระว่ายน้ำมาให้ถึง 2 สระ และมีพื้นที่สีเขียวขนาดมากกว่า 3,000 ตร.ม. ถือว่ามากกว่าโครงการอื่นๆ ในทำเลใกล้เคียงเลยค่ะ โดยส่วนกลางเน้นเป็นฟังก์ชันที่รองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ มีพื้นที่รองรับการทำงาน การสังสรรค์ พื้นที่สำหรับครอบครัว พื้นที่เพื่อนสุขภาพ และการออกกำลังกาย ครบครัน อีกทั้งยังออกแบบมาหลากหลายสไตล์ สวยงามน่าใช้งานดี แต่ก็แลกมาด้วยภาระค่าส่วนกลางที่ถือว่าสูงกว่าโครงการรอบข้างสักหน่อย อยู่ที่ 57 บาท/ตร.ม./เดือน หรือประมาณ 1,368-1,990 บาท/เดือน ซึ่งส่วนตัวเรามองว่าทดแทนการไป Fitness ข้างนอก หรือไปนั่งทำงาน/อ่านหนังสือตามคาเฟ่ต่างได้ค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 86,500 บาท/ตร.ม., 10 พฤษภาคม 2566

• ทำเล 7.75/10 – มีความอุดมสมบูรณ์สูง หาของกินง่าย เดินไปคอมมูนิตี้มอลล์ได้ใกล้ๆ
• เดินทางด้วยรถ 7.5/10 -เข้าออกได้หลายช่องทาง ที่จอด 34% ไม่รวมซ้อนคัน พร้อม EV Charger
• ไม่ใช้รถ 7.25/10 –  เรียกรถสาธารณะได้สะดวก มีรถรับ-ส่ง MRT ลาดพร้าว
• วัสดุ 8/10 – ขายห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ครบ ติดตั้งแอร์ และ Bluetooth Sound System มาให้ด้วย
• แบบ 8/10 – วางผังโอบล้อมส่วนกลาง ห้องพักจัดฟังก์ชันลงตัวเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิดทุกแบบ
• สาธารณูปโภค 8/10 – หลากหลาย จัดเต็มกว่า 33 ฟังก์ชัน เยอะสุดในย่านนี้

• MAIN CLASS
• 7.725 / 10.00

ATMOZ Palacio ลาดพร้าว-วังหิน เหมาะกับใคร

โครงการ ATMOZ Palacio ลาดพร้าว-วังหิน เหมาะกับคนที่กำลังมองหาที่ใช้ชีวิต หรือทำงานใน ย่านลาดพร้าว, ลาดพร้าว-วังหิน,โชคชัย 4 แต่ก็เดินทางเข้าเมืองใช้รถไฟฟ้าได้ไม่ยาก มี Shuttle Service รับ-ส่ง ชอบทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง หาของกินของใช้ง่ายในระยะที่เดินถึง มีส่วนกลางให้ใช้งานหลากหลาย ได้ห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ อยู่อาศัย 1-2 คนได้สบายๆ มีงบประมาณเริ่มต้น 1.79-3.06 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 12,530-21,420 บาทต่อเดือนขึ้นไปค่ะ

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc