ส่องทำเลรถไฟฟ้าเปิดใหม่สายสีเขียว (สำโรง-เคหะสมุทรปราการ)

สวัสดีครับเพื่อนๆ และสวัสดีปีใหม่ย้อนหลังกันด้วยนะ เมื่อไม่นานมานี้ชาวสมุทรปราการมีข่าวดีเพราะในที่สุดรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วง (สำโรง – เคหะสมุทรปราการ) ก็ได้ใช้งานกันแล้วตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. 2561 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ชาวสมุทรปราการสามารถใช้รถไฟฟ้าเข้าเมืองได้สะดวก ซึ่งบทความนี้จะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับรถไฟฟ้าสายนี้กันมากขึ้น ว่าทำเลที่รถไฟฟ้าสายนี้วิ่งผ่านนั้นเป็นอย่างไร มีสถานีไหนที่สำคัญ ใครเป็นคนได้ประโยชน์ในการใช้รถไฟฟ้า และจะอัพเดทที่อยู่อาศัยใกล้คอนโดนี้ไปพร้อมๆกัน

ซึ่งก่อนจะเริ่มเข้าสู่เนื้อหา ผมอยากให้ทำความเข้าใจเรื่องทำเล และจะแบ่งโซนของรถไฟฟ้าสายนี้ออกเป็นหลักๆได้ 4 โซน ประกอบด้วย

• โซนที่ 1 สถานีสำโรง เป็นสถานี Interchange ที่มีคนใช้งานค่อนข้างเยอะ และมี Skywalk เชื่อมต่อเข้าสู่ห้างโดยตรง ความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่สูง
• โซนที่ 2 สถานีปู่เจ้า + ช้างเอราวัณ + โรงเรียนนายเรือ เป็นช่วงสถานีโซนพักอาศัย แหล่งงาน และห้าง Big C ยังคงเป็นโซนที่มีการพัฒนาคอนโดมิเนียมอยู่เป็นจำนวนมาก
• โซนที่ 3 สถานีปากน้ำ + ศรีนครินทร์ + แพรกษา เป็นช่วงที่ค่อนข้างคึกคักและอุดมสมบูรณ์ที่สุด และจะมีคนทั้งในพื้นที่และคนจากในตัวเมืองมาใช้งานกันบ่อยสุด เพราะเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยขนาดใหญ่ และมีชุมชนที่พักอาศัยดั่งเดิมอยู่เป็นจำนวนมาก มีทั้งโครงการแนวราบและโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นในช่วงนี้
• โซนที่ 4 สถานีสายลวด + เคหะ โซนนี้เป็นสถานีปลายทางที่จะรองรับการสัญจรจากคนที่ต้องการมาเที่ยวบางปู เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารเยอะแยะมากมาย หรือเป็นคนจากบางปูที่ต้องการเดินทางเข้าเมืองก็ได้

โซนที่ 1

มาเริ่มกันที่สถานีแรกคือสถานีสำโรง เป็นสถานนี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) บริเวณแยกเทพารักษ์ เป็นสถานีที่ค่อนข้างมีความสำคัญมาก เพราะตลาดสำโรงถือได้ว่าเป็นอีกแหล่งความอุดมสมบูรณ์ของสมุทรปราการ มีทั้งห้างสรรพสินค้าเก่าแก่อย่างอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง มี Skywalk เชื่อมต่อจากสถานีเข้าสู่ตัวห้างได้โดยตรง แต่ระยะทางประมาณ 300 – 400 m. ก็แอบเหนื่อยอยู่เหมือนกันนะ ยังดีที่มีหลังคาคลุมให้ตลอดเส้นทาง ส่วนด้านหลังห้างก็มีตลาดสดขนาดใหญ่และตลาดค้าส่งให้ได้จับจ่ายใช้สอยสินค้าราคาถูกเยอะแยะกันอีกด้วย  และนอกจากนี้ยังเป็นจุดต่อรถสาธารณะที่สำคัญอย่างรถเมล์หรือวินรถตู้เพื่อเข้า-ออกเมืองก็สามารถทำได้สะดวกที่นี่เช่นกัน ดังนั้นคนที่จะมาใช้งานสถานีนี้จึงเป็นคนที่ต้องการเดินทางเข้าเมือง หรือมาจับจ่ายใช้สอยที่ตลาดสำโรงแห่งนี้นั่นเอง

และทันทีที่มีข่าวโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ก็มีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เกิดขึ้นชื่อ The Metropolis Samrong Interchange จากบริษัท ว่องไววิทย์อุตสาหกรรมจักรกล จำกัด ทำเลดีติดสถานีรถไฟฟ้าสำโรง และใกล้ห้างใกล้ตลาด ซึ่งที่ตั้งของคอนโดนี้เป็นโรงงานเก่าของบริษัทนี้เอง ซึ่งได้รื้อทิ้งและแจ้งเกิดในฐานะ Developer ด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว ด้วยโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Luxury แต่ขายในราคาระดับ Main Class ที่สามารถหยิบจับได้ไม่ยากมากนัก ซึ่งราคาขายปัจจุบันอยู่ที่ 2.8 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise ราคาหยิบจับง่ายภายในซอยวัดด่านสำโรงอยู่อีกนะ ซึ่งซอยนี้เป็นชุมชนพักอาศัยดั้งเดิมที่มีความอุดมสมบูรณ์และคึกคักมาก สามารถทะลุไปออกถนนศรีนครินทร์ได้อีกด้วย ประกอบด้วยโครงการ Lesto Condo Sukhumvit 113 – Interchange Station กับโครงการ The Kith Plus สุขุมวิท 113 ที่จูงมือกันมาเปิดตัวโครงการในปีเดียวกันเมื่อ 2 ปีก่อน ในราคาเบาๆเริ่มต้นเพียง 1 ล้านบาททั้งคู่ครับ

โซนที่ 2

เริ่มโซนนี้ด้วยสถานีปู่เจ้า อยู่ตรงใกล้ๆกับห้าง Big C Jumbo และแยกปู่เจ้าที่ขึ้นชื่อว่ารถติดมากกกก โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วน ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนที่สถานีสำโรงยังคงเป็นสถานีปลายทาง สำหรับคนสมุทรปราการที่ต้องการเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟฟ้าแล้วมาจากทางปากน้ำนั้น ก็จะต้องฟันฝ่ากับรถติดบริเวณนี้ไปให้ได้อย่างน้อยๆก็ครึ่ง ชม. กว่าจะไปถึงสถานี อีกอย่างถนนแถวนี้ก็น้ำท่วมบ่อยเวลาฝนตกหนักๆอีกด้วย แต่ตอนนี้เปิดใช้งานรถไฟฟ้าทั้งสายแล้วสบายขึ้นเยอะเลย

และหากพูดถึงปู่เจ้า หลายคนก็อาจนึกถึงโรงงานต่างๆมากมายที่ตั้งอยู่บนถนนปู่เจ้าสมิงพรายหรือถนนรางรถไฟเก่า มีโรงงานใหญ่ๆอาทิ บริษัท Toyota Motor Thailand, บริษัท A.P. Honda และบริษัทสี TOA เป็นต้น ทำให้เป็นทำเลที่เต็มไปด้วยมนุษย์เงินเดือนและพนักงานโรงงานจำนวนมาก แต่พนักงานเหล่านี้ก็เป็นส่วนน้อยมากๆนะครับที่จะเดินทางด้วยรถไฟฟ้า เพราะโรงงานส่วนใหญ่จะมีสวัสดิการรถบัสคอยรับ-ส่งฟรีอยู่แล้ว รวมถึงถนนเส้นนี้ยังสามารถเชื่อมไปยังท่าน้ำปู่เจ้าสมิงพรายซึ่งติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อข้ามไปยังบริเวณฝั่งธนบุรีได้อีกด้วย

ส่วนคอนโดของสถานีนี้ที่เด่นๆเลยคือ Ideo S 115 เป็นคอนโดตึกสูงจาก อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ทำเลติดสถานีรถไฟฟ้าและห้าง Big C ราคาตอนนี้อยู่ที่ 4 ล้านกว่าบาทครับ ถ้าอยากได้ถูกกว่านี้ก็จะมีโครงการ Low Rise อยู่ในซอยสุขุมวิท 115 อย่าง B Loft 115  และ Pause 115 และ จาก Origin ที่พึ่งปิดโครงการไปเมื่อปีที่ผ่านมานี้เอง โดยราคาคอนโดกลุ่มนี้ไม่แพงมากครับ ไม่ถึง 2 ล้าน เป็นราคาที่สามารถหยิบจับได้ง่าย กลุ่มลูกค้าที่ซื้อส่วนใหญ่ก็เป็นพนักงานออฟฟิศที่ต้องเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเข้าไปทำงานในเมือง แต่สู้ราคาคอนโดในเมืองไม่ไหวจึงออกมาหาโครงการทำเลชานเมืองแบบนี้นั่นเอง

ต่อมาคือสถานีช้างเอราวัณ บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของชุมชนดั่งเดิมอย่างซอยอุดมเดช ฝั่งตรงข้ามก็เป็นที่ตั้งของ กศน. หมายความว่านอกจากชาวบ้านในพื้นที่แล้วก็จะมีนักศึกษาที่จะเดินทางมาเรียนก็สามารถใช้รถไฟฟ้าเพื่อเดินทางได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงยังมีโครงการคอนโดมิเนียม High Rise ตึกคู่ 2 ตึก ที่อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า เริ่มก่อสร้างและเปิดขายในเวลาไล่เลี่ยกันเหมือนนัดกันมาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน ประกอบด้วย Aspire Erawan จาก AP และ The Trust Condo @BTS Erawan จาก QHouse

สองโครงการนี้มีจุดเด่นที่ต่างกันคือ Aspire จะมี Roof top facilities อยู่ด้านบน และบันไดเลื่อน BTS กับ Plaza ของตัวเองอยู่ด้านหน้าโครงการเลยครับ และยังมีแพลนที่จะสร้างอีกตึกหนึ่งในแปลงด้านหน้าในอนาคตอีกด้วย ส่วน The Trust จะได้เปรียบเรื่องวิว เพราะจะมีด้านที่มองเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาและอ่าวไทยจากทางทิศใต้ได้เต็มๆครับ ความน่าสนใจของทำเลนี้ยังมีอีกจุดหนึ่ง คืออยู่ใกล้กับวงแหวนกาญจนาภิเษกที่ใช้เข้า-ออกเมืองได้ง่าย สามารถหนีรถติดขึ้นทางด่วนได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาที่แยกปู่เจ้า จึงเป็นทำเลที่เหมาะกับคนใช้ทั้งรถยนต์และรถไฟฟ้า ขาดแต่ก็เรื่องความอุดมสมบูรณ์เท่านั้นที่ไม่ค่อยคึกคักเหมือนสถานีอื่นครับ

อีกหนึ่งจุดที่น่าลุ้นคือที่ดินขนาดใหญ่ฝั่งตรงข้าม เป็นที่ดินของกระทิงแดงซึ่งในอนาคตยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะเป็นอะไร แต่จากคอนโด 2 โครงการนี้ก็มีห้องพักปาเข้าไป 3,000 ยูนิตแล้ว จึงไม่น่าจะทำเป็นที่อยู่อาศัยเพิ่มมาอีก แต่อาจทำเป็น Community mall ก็เป็นได้ และถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะเพิ่ม Value ให้กับทำเลนี้ได้อีกมากเลยครับ

สถานีโรงเรียนนายเรือ เป็นสถานีที่เหล่าข้าราชการทหารจะได้ใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางกันได้สะดวกมากยิ่งขึ้น หรือจะใช้เดินทางมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ทหารเรือโดยเฉพาะในวันเด็กหรือวันสำคัญต่างๆที่แต่ก่อนหาที่จอดรถยากมาก แต่ถ้าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถและรถติดอีกต่อไป นอกจากนี้ที่สถานีนี้ยังมีคอนโดมิเนียมชื่อ Knightsbridge Sky River Ocean จาก Origin ตั้งอยู่อีกด้วย ซึ่งก็เป็นโครงการที่พึ่ง Sold out ไปในปีที่แล้วนี้เอง จุดเด่นของโครงการนี้อยู่ที่จุดชมวิวบนชั้นดาดฟ้า ที่จะสามารถมองเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบเต็มๆในระยะใกล้ เพราะจุดที่ตั้งอยู่นั้นอยู่ตรงโค้งแม่น้ำพอดีครับ ตอนเย็นสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกดินได้สวยงามมากๆ

โซนที่ 3

สถานีปากน้ำ เป็นหนึ่งในสถานีที่สำคัญของรถไฟฟ้าสายนี้แต่กลับไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมหรือที่อยู่อาศัยใหม่ๆเกิดขึ้นในย่าน เนื่องจากที่ดินทั้งหมดถูกจับจองเป็นเจ้าของไปหมดแล้วและเป็นชุมชนหนาแน่น ตลาดปากน้ำนอกจากจะเป็นสถานที่จับจ่ายใช้สอยที่ใหญ่ที่สุด และยังสามารถหาซื้อของถูกๆได้มากมาย ทั้งของสดๆจากทะเลที่พึ่งลงเรือมาจากอ่าวไทยหมาดๆ และของแห้งข้าวของเครื่องใช้ต่างๆก็มีครบ แต่ข้อเสียของที่นี้คือหาที่จอดรถยาก

แต่ก็มีรถสาธารณะทั้งรถเมล์และรถตู้ให้ต่อเป็นจำนวนมาก มีวิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการ แล้วยังมีสถานที่ราชการสำคัญมากมาย ทั้งที่ว่าการอำเภอ ศาลจังหวัด ด่านตรวจคนเข้าเมือง และกรมที่ดิน เป็นต้น ซึ่งสถานที่เหล่านี้ในแต่ละวันจะคนมาติดต่องานราชการเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้จุดพีคที่สำคัญที่สุดสำหรับปากน้ำคือวันที่มีงานเจดีย์ครับ เพราะจะมีการปิดถนนทั้งหมดในตลาด รถไม่สามารถเข้ามาได้ ที่จอดรถก็ไม่มี ทำให้การมาเดินตลาดเป็นไปได้ยาก แต่ก็ยังมีประชาชนจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาทุกปี ดังนั้นหากมีรถไฟฟ้าเข้ามาในพื้นที่ก็จะทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น

สถานีศรีนครินทร์ จะอยู่บริเวณแยกการไฟฟ้าที่ถนนศรีนครินทร์จะมาบรรจบกับถนนสุขุมวิท เป็นอีกหนึ่งสถานีที่สำคัญในปัจจุบันที่จะรองรับการสัญจรของคนที่มาจากทางถนนศรีนครินทร์ก่อนที่รถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะเปิดใช้งานแล้วค่อยไป Interchange ที่สถานีสำโรงได้ สำหรับการใช้งานอื่นๆของสถานีนี้ก็คงเป็นคนที่จะมาติดต่อที่การไฟฟ้าตรงสามแยก หรืออาจเป็นผู้ปกครอง เด็กนักเรียน และคุณหมอคุณพยาบาลที่จะมาโรงพยาบาลเปาโลที่อยู่ใกล้กับสถานีก็ได้

รวมถึงทำเลนี้ยังเป็นแหล่งแฮงค์เอ้าท์ของคนในย่านอีกด้วย จะทำให้การเดินทางสะดวกและปลอดภัย เมาไม่ขับนะครับ สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆของย่านนี้จะไม่มีนะ ส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนดั่งเดิม และชุมชนที่รู้จักกันของย่านนี้คือ หมู่บ้านพนาสนธิ์ซิตี้ นั่นเอง หากใครกำลังมองหาบ้านแนวราบแถวนี้อยู่ก็สามารถหาซื้อบ้านแบบ Resale กันได้อยู่ครับ

สถานีแพรกษา อีกหนึ่งสถานีที่ Hot Hit ที่สุดของรถไฟฟ้าสายนี้ เพราะถูกขนาบข้างด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง Big C และ Robison ที่คนแถบมานี้จะมาพึ่งพิงและเดินช้อปปิ้ง ทานอาหาร และมาดูหนังกันอยู่ประจำ ติดกันยังมีโรงเรียนสมุทรปราการที่เป็นสถานศึกษาชื่อดังของจังหวัดตั้งอยู่อีกด้วย ดังนั้นคนที่มาใช้งานรถไฟฟ้าสถานีนี้จึงค่อนข้างหลากหลายนะ ทั้งคนทั่วไปที่ต้องการมาเดินห้าง ช้อปปิ้ง หรือนักเรียนนักศึกษาและคณาจารย์ก็ได้ใช้เดินทางสะดวกมากขึ้น นี่ยังไม่รวมต้องรองรับการสัญจรจากคนในถนนแพรกษาที่มาบรรจบกับถนนสุขุมวิท ที่ภายในเต็มไปด้วยโครงการแนวราบและหมู่บ้านจัดสรรราคาประหยัดมากมาย

และโครงการคอนโดมิเนียมในย่านนี้ก็มีนะครับ อย่าง Notting Hill สุขุมวิท-แพรกษา ที่เป็นโครงการตึกสูงตึกแรกและตึกเดียวในตอนนี้บนถนนแพรกษา และโครงการ The President สุขุมวิท – สมุทรปราการ เป็นโครงการตึกสูงเหมือนกัน ทำเลดีอยู่ติดห้าง Robinson และสถานีรถไฟฟ้า กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและพึ่งผ่าน EIA เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งทั้งสองโครงการยังมีห้องมือ 1 เหลือขายทั้งคู่ มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนในพื้นที่ที่อยากลองเปลี่ยนมาใช้ชีวิตแนวสูง ทำเลดีใกล้รถไฟฟ้าและเดินทางสะดวก มีส่วนกลางให้ใช้ รวมถึงพวกกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการปล่อยเช่าให้กับพนักงานโรงงานในนิคมหรือพ่อค้าแม่ค้าในย่านแถวนี้ เพราะราคาเริ่มต้นโครงการเหล่านี้ไม่สูงมากประมาณ 1 – 2 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นราคาที่คนในพื้นที่สามารถหยิบจับเป็นเจ้าของหรือเช่าอยู่อาศัยได้ไม่ยากนัก

โซนที่ 4

สถานีสายลวด ตั้งอยู่บริเวณแยกสายลวดซึ่งเป็นถนนที่ตรงเข้าสู่ปากน้ำได้ ดังนั้นจึงเป็นสถานีที่นอกจากสร้างมาเพื่อชุมชนที่อยู่อาศัยหนาแน่นเดิมของย่านแล้ว ยังจะรองรับการสัญจรจากคนปากน้ำ-สายลวดได้อีก 1 เส้นทาง ภายในถนนสายลวดจะมีร้านค้าร้านอาหารอยู่บ้าง และมีโรงพยาบาลสมุทรปราการซึ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ตั้งอยู่ โดยรอบเป็นชุมชนที่พักอาศัยแนวราบทั้งหมด เป็นชุมชนดั่งเดิมและค่อนข้างหนาแน่น จึงไม่มีโครงการใหม่ๆเกิดขึ้นในพื้นที่เลยแต่ก็ยังพอหาบ้านแนวราบราคา Resale ได้อยู่ครับ

แล้วก็มาถึงสถานีสุดท้ายคือสถานีเคหะ ซึ่งจะมีศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดเชื่อมต่ออยู่ในบริเวณใกล้เคียง และมีที่จอดรถอีก 1,200 คัน ซึ่งจะสามารถรองรับการสัญจรของคนบางปูหรือคนสมุทรปราการทั้งหมดในแถบนี้ ให้มาจอดรถที่สถานีนี้ก่อนที่จะต่อรถไฟฟ้าเพื่อเข้าเมืองได้ สมัยก่อนการจะมาบางปูนี้หลายคนจะคิดว่าไกลและเดินทางมาลำบากมาก แต่การมาของรถไฟฟ้าจึงทำให้คนจากในตัวเมืองสามารถเดินทางมาได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

บางปูเป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารอร่อยๆเป็นจำนวนมาก ได้แก่ ฟาร์มจระเข้ เมืองโบราณ วัดอโศการาม และสถานตากอากาศบางปู เป็นต้น รวมถึงมีแหล่ง Community ขนาดใหญ่แห่งใหม่อย่าง Miami Bangpu อีกด้วย ซึ่งโครงการนี้เป็น Mix use ที่มีคอนโดมิเนียมแห่งแรกและแห่งเดียวของบางปู เป็นคอนโด Low Rise ราคาเริ่มต้นต่ำกว่าล้านซึ่งก็สามารถขายได้แบบเนือยๆเรื่อยๆ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะไม่ใช่คนในพื้นที่ที่อยากอยู่คอนโดมากนัก เพราะหลายคนยังติดการอยู่อาศัยแบบบ้านแนวราบมากกว่า แต่จะเป็นคนจากในเมืองที่ซื้อไว้เป็นบ้านพักตากอากาศมากกว่า เพราะพื้นที่ด้านหลังจะติดทะเลด้วย ชุมชนพักอาศัยของย่านนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งซ้ายซึ่งต้องข้ามคลองไปหน่อย จะมีหลายชุมชนและหลายหมู่บ้านให้เลือกซื้อ แต่จะเป็นพวก Local Brand และไม่ค่อยมีโครงการใหม่ๆหรอกนะครับ ต้องหาซื้อเป็น Resale แทนครับ

สรุป

เอาล่ะเรามาสรุปกันดีกว่าครับ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สำโรง-เคหะสมุทรปราการ) ถูกสร้างมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องชาวสมุทรปราการ เพราะมีคนจากชานเมืองสมุทรปราการจำนวนไม่น้อยที่ทำงานในเมืองและต้องเดินทางเข้าเมืองบ่อยๆ บางคนอาจไม่ได้ต้องการไปถึงอโศกหรือสยาม แต่อาจต้องการความสะดวกและรวดเร็วที่ควบคุมได้ในการข้ามผ่านรถติดที่หนักหน่วงบนถนนสุขุมวิทเพื่อไปทำงานแค่แถวบางนา-อุดมสุข หรือพระโขนง-อ่อนนุช ก็ได้ครับ นอกจากนี้ยังทำให้คนจากในเมืองที่อยากเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่บางปูซึ่งสมัยก่อนถูกมองว่าไกลและลำบากก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันรถไฟฟ้าสายนี้ก็ได้เปิดใช้งานแล้วเป็นที่เรียบร้อย และยังอยู่ในช่วงทดลองการให้บริการฟรีจนถึงช่วงเดือนเมษายนปีนี้อีกด้วยครับ

สำหรับที่อยู่อาศัยในย่านส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนดั่งเดิมที่หนาแน่น และเป็นบ้านแนวราบซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็เริ่มมี Developer หลายเจ้ามาลองบุกเบิกคอนโดมิเนียมในพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงสำโรง – ช้างเอราวัณ ที่ยังถือว่าเป็นส่วนต่อขยายตอนต้น ที่จะมีความต้องการของคนที่กำลังมองหาที่อยู่ชานเมืองราคาถูกและหยิบจับได้ง่ายกว่าในเมืองที่มีราคาสูง แต่ยังสามารถเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวกเช่นกัน

และมีบางโครงการที่หลุดมาอยู่แถวๆสถานีปลายทางที่ยังไม่ได้รับการตอบรับของคนในพื้นที่มากนัก แต่ก็ยังพอขายได้เรื่อยๆ เหตุเพราะคนในพื้นที่ยังติดนิสัยชอบอยู่บ้านแนวราบที่มีที่ดินเป็นของตัวเองมากกว่า หรือมักอยู่อาศัยรวมกันเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ คอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่จำกัดจึงอาจยังไม่ใช่คำตอบของคนในพื้นที่ แต่ก็อาจเหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่อยากได้ที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ทำเลดี มีส่วนกลาง และราคาหยิบจับได้ง่ายกว่าพวกบ้านแนวราบ ซึ่งอาจต้องให้เวลาคนในพื้นที่ได้ปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงนี้สักหน่อย ในอีก 3 – 4 ปีข้างหน้า เราอาจได้เห็นโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆเกิดขึ้นใกล้ทำเลรถไฟฟ้าสายนี้ก็เป็นไปได้ครับ เพราะยังเหลือที่ว่างให้พัฒนาได้อยู่อีกเยอะ แถมวิวตึกสูงๆของแถวนี้ก็สวยไม่เหมือนใคร มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาและอ่าวไทยได้ด้วย