..ในเวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก One Bangkok (วัน แบงค็อก) โปรเจคยักษ์ใหญ่มูลค่ากว่า 120,000 ล้านบาท ที่เพิ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมานี้เองครับ โดยเป็นการร่วมทุนกันระหว่างบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด บนผืนที่ดินขนาดใหญ่กว่า 108 ไร่ อยู่ติดกับถนนพระราม 4 และถนนวิทยุ ซึ่งภายในโครงการจะประกอบด้วยอาคารขนาดใหญ่หลายอาคาร ได้แก่

  • Office Building : อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ระดับพรีเมียม จำนวน 5 อาคาร
  • Hotel : โรงแรมลักซ์ชัวรี่และไลฟ์สไตล์จำนวน 5 แห่ง โดยในปัจจุบันได้เผยรายชื่อแล้ว จำนวน 3 โรงแรม ประกอบด้วย The Ritz-Carlton, Bangkok (เปิดให้บริการเดือน พฤศจิกายน 2567), Andaz One Bangkok (จะเปิดให้บริการปี 2568) และ Fraser Suites Bangkok (จะเปิดให้บริการปี 2569)
  • Residences : เรสซิเดนท์ระดับ Ultra-luxury, Super Luxury และ Luxury จำนวน 3 อาคาร
  • Retail : One Bangkok Retail แยกเป็น 4 โซน ขนาดพื้นที่กว่า 190,000 ตร.ม. ประกอบด้วย PARADE / THE STOREYS / POST 1928 และพื้นที่รีเทลใน ONE BANGKOK FORUM เป็น Retail Loop ที่มีแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์กว่า 900 ร้านค้า และ Food Loop ที่มีร้านอาคารรวมกว่า 250 ร้านดัง
  • Forum : ศูนย์กลางการจัดงานมาตรฐานระดับโลก สำหรับการแสดงคอนเสิร์ต ไลฟ์โชว์ งานนิทรรศการ และงานอื่น ๆ อีกมากมาย (รองรับความจุได้ 6,000 ที่นั่ง / 10,000 สำหรับยืน)

Image 1/17

สิ่งที่น่าสนใจอย่างแรกคือ โซนช้อปปิ้งของที่นี่ ไม่เหมือนกับห้างทั่วไปในเมืองไทย

โครงการ One Bangkok จะมีโซนที่คนภายนอกสามารถเข้ามาใช้บริการได้เหมือน Mixed-use ทั่วไป โดยเฉพาะโซนของ Retail ต่างๆ แต่ที่นี่ไม่ใช่ Department Store เหมือน Central หรือ The Mall แบบที่เราคุ้นเคยกัน แต่จะเน้นไปในทาง Concept Store ที่ให้อิสระร้านค้าได้ตกแต่งร้าน และนำเสนอสินค้าในแบบที่เป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุด

ดังนั้นเราจะเห็นความหลากหลายของร้านแต่ละแบรนด์มากๆ บางร้านก็จัดแสดงเป็นงาน Art หรือ Work Shop ไปเลยก็มี ซึ่งปกติเรามักจะเจอคอนเซ็ปต์แบบนี้ที่เมืองนอกเท่านั้น (คิดว่าน่าจะเป็นที่นิวยอร์กล่ะนะ) สำหรับคนไทยส่วนใหญ่แล้วก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างแปลกใหม่เลยทีเดียวครับ

สำหรับเฟสแรกในปัจจุบัน (25/10/2567) ที่ทุกคนสามารถเดินเข้าไปได้นั้นจะประกอบด้วย

  • Office Building : เปิดเฉพาะ Tower 3 – 4 ตอนนี้ได้ข่าวว่ามีบริษัทใหญ่ๆหลายแห่งได้ย้ายออฟฟิศเข้ามาอยู่ที่นี่กันแล้วด้วย อาทิ บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), เอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์, บริษัท เอ. เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไลน์แมน วงใน, บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย และบริษัท อีวาย ประเทศไทย เป็นต้น
  • Hotel : ที่เตรียมจะเปิดให้บริการในเดือน พฤศจิกายนนี้ คือ The Ritz-Carlton, Bangkok
  • Retail : ครบทุกประสบการณ์การช้อปปิงและไลฟ์สไตล์ ภายใต้แนวคิด The Rhythmic Experience ประกอบด้วย PARADE แหล่งไลฟ์สไตล์ Shop-Play-Work-Eat และ THE STOREYS รวมร้าน Concept Store และแหล่งแฮงค์เอ้าท์กลางคืน รวมถึงมีแบรนด์เฉพาะที่มีแค่ที่นี่ที่เดียวในไทย อาทิ King Power City Boutique / Mitsukoshi / สารพัดไทย / ONE Content Store / ONE Ultra Screen / CHANG CANVAS ฯลฯ
  • Residence : เปิดตัวมาแล้ว 2 อาคาร คือ อาคารเลขที่ 189 ที่อยู่บนโรงแรม The Ritz-Carlton, Bangkok และอาคารเลขที่ 187 ที่อยู่ข้างๆกัน
  • Green Park : พื้นที่สวนสาธารณะสีเขียวเปิดโล่งรอบโครงการ รวมกว่า 50 ไร่ อาทิ One Bangkok Park / Parade Park และ Wireless Park
  • บริการ EV Shuttle Bus รับ-ส่งระหว่าง BTS เพลินจิต (ฟรี) รวมถึง MRT สถานีลุมพินี และทางด่วนลุมพินี ตัดตรงมายังโครงการ One Bangkok

6 เมกะโปรเจคที่ลงทุนบนถนนพระราม 4 มูลค่ารวมกันกว่า 200,000 ล้านบาท

ในช่วง 5 – 6 ปีที่ผ่านมา ย่านพระราม 4 ถือเป็นหนึ่งในทำเลที่มีการลงทุนมากที่สุดย่านหนึ่งของไทย โดยเฉพาะเมกะโปรเจคต่างๆที่มีให้เห็นกันกว่า 6 แห่ง และมีมูลค่ารวมกันกว่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งแค่โครงการ One Bangkok แห่งเดียวก็ปาไปครึ่งหนึ่งของทั้งย่านนี้แล้วครับ แน่นอนว่าการลงทุนทางธุรกิจมากมายขนาดนี้ ย่อมส่งผลต่อความเจริญ ความคึกคัก และมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้ ที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่ต้องสงสัย

เอาง่ายๆแค่จากราคาที่ดินปี พ.ศ. 2559 – 2563 กรมธนารักษ์ได้ประเมินราคาที่ดินบนถนนพระรามที่ 4 อยู่ที่ประมาณ 360,000 – 400,000 บาท/ตร.ว. และปัจจุบันราคารอบใหม่ในปี พ.ศ. 2566 – 2569 ได้เพิ่มขึ้นเป็น 450,000 –  500,000 บาท/ตร.ว. แสดงให้เห็นว่าในช่วงเวลาไม่ถึง 10 ปี ราคาประเมินที่ดินของย่านนี้ได้เพิ่มขึ้นกว่า 20% เลยทีเดียว

และจากที่ผมเพิ่งได้ไปร่วมงานเปิดตัวคอนโด The Crown Residences ทางทีมบริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจออกมาอีกว่า ราคาซื้อขายที่ดินจริงๆของย่านนี้จะสูงไปถึง 1 – 1.4 ล้านบาท/ตร.ว.(นี่ยังไม่รวมที่ SC Accet เคยซื้ออาคารศรีเฟื่องฟุ้งสูงกว่า 3 ล้านบาท/ตร.ว.) และถ้าย้อนกลับไปประมาณ 10 ปีก่อน ผมจำได้ว่าราคาซื้อขายจริงของย่านพระราม 4 น่าจะอยู่ที่ราวๆ 700,000 บาท/ตร.ว. หรือก็คือเพิ่มขึ้นมาประมาณ 30 – 50%

ซึ่งจากเม็ดเงินลงทุนและราคาที่ดิน ที่ทำให้อสังหาริมทรัพย์ในย่านปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงอย่างก้าวกระโดดแบบนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะได้รับความสนใจจากทั้งคนหาบ้านและกลุ่มนักลงทุน ที่ต้องการมองหาที่อยู่อาศัยในทำเลพระราม 4 แห่งนี้กันเป็นจำนวนมากนั่นเองครับ โดยถ้าเป็นคอนโดมิเนียมในย่านนี้ก็มีให้เราเลือกกันอยู่พอสมควรเลย

7 คอนโดมิเนียมโครงการใหม่ ติดถนนพระราม 4 ที่ยังมีขายอยู่ในปัจจุบัน

จากที่ผมได้ลองสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมในย่านนี้ พบว่ายังมีมือ 1 เปิดขายอยู่ 7 โครงการด้วยกันครับ และด้วยปัจจัยเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินที่พื้นที่ถนนพระรามสี่ ตั้งแต่บริเวณสามย่านไปจนถึงแยกคลองเตยบริเวณซอยไผ่สิงโตเกือบ 100% เป็นกรรมสิทธิ์ของหน่วยงานราชการ หรือมหาวิทยาลัย เช่น สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สภากาชาดไทย และกรมธนารักษ์

จึงทำให้คอนโดบางโครงการในย่านนี้ จะเป็นลักษณะของการซื้อขายสิทธิ์แบบเช่าระยะยาว 30 ปี (Leasehold) ซึ่งต่างจากการขายแบบขายขาด (Freehold) ปกติที่เราคุ้นเคยกัน หลักๆ คือเราจะไม่ได้กรรมสิทธิ์ของโฉนดที่ดินมาครอบครอง แต่ได้เป็นเพียงสิทธิ์การเช่าถือครองอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวเท่านั้น ดังนั้นเราลองมาดูข้อมูลเบื้องต้นของแต่ละโครงการกันดีกว่าว่าเป็นอย่างไรบ้าง

รูปคอนโดมิเนียมโครงการ 189

One Bangkok

ในส่วนของ Residential ภายในโครงการ One Bangkok จะมีอยู่ทั้งหมด 3 อาคารด้วยกันครับ ภายใต้ชื่อ The Residences at One Bangkok โดยตอนนี้ได้เปิดตัวมาแล้ว 2 อาคาร แต่ยังไม่เปิดเผยชื่อแบรนด์หรือรายละเอียดใดๆออกมาให้ทราบมากนัก ซึ่งปัจจุบันจะมีการใช้ชื่อเรียกเป็นหมายเลข จากบ้านเลขที่ของอาคารนั้นๆแทนไปก่อนครับ ประกอบด้วย

  • อาคารเลขที่ 189 จะเป็นคอนโดที่อยู่บนชั้น High Zone ร่วมอาคารเดียวกับโรงแรม The Ritz-Carlton ส่วนใหญ่จะเน้นเป็นห้องไซส์ใหญ่ 2 – 4 Bedrooms ขนาด 140 ตร.ม.ขึ้นไป (ปัจจุบันได้ข่าวว่าเกือบๆจะ Sold Out แล้วด้วย)
  • อาคารเลขที่ 187 จะเป็นอาคารที่อยู่ติดๆกันเลย ดีไซน์จะดูทันสมัยและให้อารมณ์ที่แตกต่างจากตัว 189 อีกทั้งยังมีห้องไซส์เล็กกว่าให้เลือกด้วย ดังนั้น 2 โครงการนี้จึงมีกลุ่ม Target ลูกค้าที่แตกต่างกันอย่างแน่นอน
  • อาคารที่ 3 จะยังไม่มีข้อมูลใดๆเปิดเผยออกมาเลย เพราะเป็นการพัฒนาใน phrase ต่อไป ซึ่งก็ต้องรอดูในอนาคตกันอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไรบ้างนะ

Fact @ 30 ตุลาคม 2567

  • บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย)
  • ที่ดินโครงการ 108 ไร่
  • ลักษณะโครงการ Mixed-use Project
  • คอนโด High Rise สูง n/a ชั้น 3 อาคาร n/a ยูนิต
  • Room Type และขนาดห้องพักอาศัย n/a (ยังไม่เปิดเผยข้อมูล)
  • รูปแบบการขาย :  สิทธิการเช่า 30 ปี (Leasehold) + 30 ปี
  • ราคาห้องเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 400,000 – 500,000 บาท/ตร.ม.

Image 1/11
โครงการ 189

โครงการ 189

Dusit Residences and Dusit Parkside

Dusit Central Park เป็นโครงการ Mixed-Use Project ที่ได้พัฒนาบนพื้นที่ดินเดิมของโรงแรมดุสิตธานี ด้วยการรื้อถอนและสร้างเป็นกลุ่มอาคารใหม่ที่มีความครบครันมากขึ้น ประกอบด้วยตัวโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ / อาคารสำนักงาน Central Park Offices / ศูนย์การค้า Central Park / Rooftop Park ขนาดใหญ่กว่า 7 ไร่ และแน่นอนว่ามีตึกคอนโดมิเนียมด้วยครับ

โดยในส่วนของที่พักอาศัยจะเป็นคอนโด High Rise สูง 69 ชั้น 1 อาคาร ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ Dusit Residences และ Dusit Parkside อีกทั้งยังมีการแยกฟังก์ชันส่วนกลางออกจากกันอย่างชัดเจน หรือจะเรียกว่าเป็นคนละโครงการเลยก็ว่าได้ครับ นอกจากนี้ยังเป็นคอนโดแบบ Branded Residence ที่จะได้การบริการของโรงแรมในระดับมาตรฐานการบริการในแบบดุสิตธานีเพิ่มเข้ามาด้วย

  • Dusit Residences : จะอยู่ที่ชั้น 30 – 69 มีจำนวนห้องพัก 160 ยูนิต เน้นที่ห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 2 Bedrooms ขึ้นไปจนถึง Penthouses ทุกยูนิตพักอาศัยมี Private Lift เพื่อความเป็นส่วนตัว และถูกออกแบบให้หันหน้าเข้าหาสวนลุมทั้งหมด
  • Dusit Parkside : จะอยู่ที่ชั้น 9 – 29 มีจำนวนห้องพัก 246 ยูนิต รูปแบบห้องพักจะมีขนาดที่กะทัดรัดขึ้น ห้องส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 – 2 Bedrooms แต่ก็จะมี Special Unit ที่เป็นห้องไซส์ใหญ่ให้เลือกด้วยครับ

และความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของโครงการนี้ก็คือ รูปแบบการขาย Leasehold ที่ให้ระยะเวลาการปล่อยเช่าถึง 29 + 29 ปี รวมเป็น 58 ปี ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่าโครงการทั่วไปที่มีอายุเพียง 30 ปีนั่นเองครับ

Fact @ 30 ตุลาคม 2567

  • บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
  • ที่ดินโครงการ 23-2-2.72 ไร่
  • ลักษณะโครงการ Mixed-use Project
  • คอนโด High Rise สูง 69 ชั้น 1 อาคาร 406 ยูนิต
  • 1 Bedroom ขนาด 55 – 77 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms ขนาด 85 – 173 ตารางเมตร
  • 3 Bedrooms ขนาด 196 – 228 ตารางเมตร
  • 4 Bedrooms ขนาด 291 – 326 ตารางเมตร
  • Spacial Unit ขนาด 245 – 258 ตารางเมตร
  • Penthouse ขนาด 359 – 700 ตารางเมตร
  • รูปแบบการขาย : สิทธิการเช่า 29 + 29 ปี (Leasehold)
  • ราคาห้องเริ่มต้น 19.9 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 350,000 บาท/ตร.ม.

Image 1/7

สนใจโครงการ Dusit Residences and Dusit Parkside ดูรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก >> รีวิวคอนโดดุสิต Dusit Residences and Dusit Parkside คอนโดหรู วิวสวนลุม จากวิมานสุริยา [Walk-in Review]

COCO PARC

เป็นคอนโด Branded Residence แห่งแรกจาก Ananda ซึ่งได้รับบริการ Concierge Service จากโรงแรมดุสิตธานีที่จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้เราได้ เช่น บริการนวด / ทำความสะอาด / รับประทานอาหารแบบ Chef Table ฯลฯ นอกจากนี้มีความน่าสนใจตรง ‘ทำเล’ ที่อยู่ติดรถไฟฟ้า MRT คลองเตย 0 m. เรียกได้ว่าเดินทางได้สะดวกสบายสุดๆ อีกทั้งยังได้วิวสวนป่าเบญจกิติแบบเต็มๆ และบางมุมก็สามารถมองเห็นโค้งแม้น้ำเจ้าพระยาได้อีกด้วย ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ถ้าใครสนใจก็สามารถเข้าไปเลือกห้องจริงวิวจริงกันได้เลยครับ

Fact @ 30 ตุลาคม 2567

  • บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
  • ที่ดินโครงการ 2-3-60.7 ไร่
  • คอนโด High Rise สูง 37 ชั้น 1 อาคาร 444 ยูนิต
  • Studio ขนาด 25.5 – 27 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom ขนาด 34.5 – 48 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 49.5 ตารางเมตร
  • 2 Bedroom ขนาด 64.5 – 66.5 ตารางเมตร
  • 3 Bedroom ขนาด 101.05 – 113.5 ตารางเมตร
  • Penthouse ขนาด 134 – 234 ตารางเมตร
  • รูปแบบการขาย :  ขายขาด (Freehold)
  • ราคาห้องเริ่มต้น 8.99 – 15.99 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 300,000 บาท/ตร.ม.

Image 1/10

สนใจโครงการ COCO PARC ดูรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก >> The Sneak EP.235 : COCO PARC | คอนโดติด MRT 0 เมตร

THE CROWN Residences

เป็นคอนโดที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ล่าสุดของย่านนี้เลยครับ ซึ่งผมเองก็เพิ่งมีโอกาสไปงานข่าวเปิดตึกมาเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้เอง แน่นอนว่าจุดเด่นของโครงการนี้ก็คือ ‘วิวสวนเบญจกิติ’ และ ‘วิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา’ โดยเฉพาะชั้น Sky Facilities ที่อยู่บนชั้น 32 จะสามารถมองเห็นวิวสวนได้แบบ 270 องศาเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และ Sky Lounge นอกจากนี้ยังเป็นโครงการที่มียูนิตน้อย เป็นส่วนตัว และมีบริการ Concierge Services อำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านด้วย

Fact @ 2 ตุลาคม 2567

  • บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด
  • ที่ดินโครงการ 1-0-68.1 ไร่
  • คอนโด High Rise สูง 32 ชั้น 1 อาคาร 183 ยูนิต
  • 1 Bedroom ขนาด 25.30 – 43.10 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms ขนาด 52.30 – 75.30 ตารางเมตร
  • Penthouse ขนาด 107.6 – 118.70 ตารางเมตร
  • รูปแบบการขาย :  ขายขาด (Freehold)
  • ราคาห้องเริ่มต้น 6.9 –  21.9 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 300,000 บาท/ตร.ม.

Image 1/7

Life Rama 4 – Asoke

เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ผมได้มีโอกาสเข้าไปถึง 2 รอบเลยครับ ก็คือเข้าไปตอนงานเปิดตึกจริง และเข้าไปถ่ายรีวิวด้วยตัวเอง ซึ่งจุดเด่นของที่นี่คือ Facilities 4 ชั้นบนสุด ที่สามารถมองเห็นได้ทั้งวิวสวนเบญจกิติและวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีระยะใกล้กว่าโครงการอื่นๆที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ซะอีก รวมถึงมีขนาดใหญ่ตามสัดส่วนโครงการ 1,237 ยูนิต แถมยังมีความสวยงามและน่าใช้งานมากๆอีกด้วยครับ

นอกจากนี้ยังเป็นโครงการที่มีราคาจับต้องได้ไม่ยาก ถ้าเทียบกับเพื่อนบ้านอื่นๆที่ยกมาให้ดูในบทความนี้ (เทียบราคาต่อตารางเมตรก็ถูกกว่าเกือบครึ่งหนึ่งเลย) แต่ทั้งนี้ก็แลกมากับทำเลที่จะอยู่ถัดออกมาจากจุดศูนย์กลางของถนนพระราม 4 สักนิดนึง และเน้นไปขึ้นทางด่วนได้สะดวกมากกว่าแทนครับ

Fact @ 2 กรกฎาคม 2567

  • บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
  • ที่ดินโครงการ 5-2-7.5 ไร่
  • คอนโด High Rise สูง 39 ชั้น 1 อาคาร 1,237 ยูนิต
  • 1 Bedroom ขนาด 26.5 – 32 ตร.ม. (ห้อง Simplex)
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 35 – 38 ตร.ม. (ห้อง Simplex)
  • 2 Bedrooms ขนาด 47 – 75 ตร.ม. (ห้อง Simplex)
  • 1 Bedroom ขนาด 28.5 – 38 ตร.ม. (ห้อง Vertiplex) >> Sold-Out
  • 2 Bedrooms ขนาด 47 – 70 ตร.ม. (ห้อง Vertiplex) >> Sold-Out
  • รูปแบบการขาย :  ขายขาด (Freehold)
  • ราคาห้องเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 150,000 บาท/ตร.ม.

Image 1/14

Whizdom Craftz Samyan

เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจของย่านนี้ โดยการออกแบบภายใต้แนวคิด “Craftz Your Future” ซึ่งเกิดจากการ Workshop ร่วมกันระหว่าง MQDC และกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ตั้งของโครงการ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน / นักศึกษา / บุคลากรในโรงพยาบาล / มหาวิทยาลัย / กลุ่มครอบครัว / นักลงทุน และคนวัยทำงาน

เพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการและ Lifestyle ที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ รวมถึงเป็นพื้นที่ๆสามารถซัพพอร์ตกิจกรรมของผู้อยู่อาศัยได้อย่างหลากหลาย ซึ่งโครงการนี้ก็จะเน้นไปที่ฟังก์ชันส่วนกลางสำหรับการทำงานพวก Co-Working Space ต่างๆ รวมถึงยังมียูนิตพิเศษที่ชื่อ SoHo สำหรับซื้อเพื่อประกอบธุรกิจส่วนตัวได้อีกด้วย ส่วนถ้าเป็นห้องพักอาศัยก็จะมีจุดเด่นเป็นห้อง Loft ฝ้าเพดานสูง 5.45 เมตร (สูงที่สุดในย่าน) ด้านล่างจัดเป็นพื้นที่ทำงานหรือพักผ่อน และด้านบนทำเป็นที่พักอาศัยได้นั่นเองครับ

Fact @ 21 พฤศจิกายน 2566

  • บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC)
  • ที่ดินโครงการ 2-1-90.5 ไร่
  • คอนโด High Rise สูง 55 ชั้น 1 อาคาร 418 ยูนิต / ร้านค้า 1 ยูนิต / SoHo (Small Office Home Office) 4 ยูนิต
  • 1 Bedroom ขนาด 30 – 39 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom Loft ขนาด 46 – 57 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms ขนาด 53 – 66 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms Plus ขนาด 77 – 89 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms Loft ขนาด 70 – 90 ตารางเมตร
  • 3 Bedrooms ขนาด 96 – 105 ตารางเมตร
  • Duplex ขนาด 99 – 100 ตารางเมตร
  • Penthouse ขนาด 188 – 223 ตารางเมตร
  • รูปแบบการขาย :  ขายขาด (Freehold)
  • ราคาห้องเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 240,000 บาท/ตร.ม.

Image 1/11

Park Origin Chula – Samyan

นับว่าเป็นคอนโดรุ่นบุกเบิกของย่านนี้เลยครับ ซึ่งมาก่อนกาลของทุกๆโปรเจคที่กล่าวมาข้างต้นซะอีก และแน่นอนว่าโครงการนี้ผมเองก็เคยได้เขียนรีวิวมาด้วย โดยจุดเด่นของเค้าคือ เป็นห้องพักอาศัยสไตล์ Loft ฝ้าเพดานสูง 4.2 m. แบบทั้งโครงการ ทำให้มีความสูงโปร่ง และให้สุขภัณฑ์ในห้องน้ำที่ให้มาก็ดีด้วยนะครับ

ไม่ว่าจะเป็นกระจก Smart Mirror ที่สามารถดูหนังฟังเพลงในห้องน้ำได้ ติดตั้งโถสุขภัณฑ์แบบฝั่งผนังจาก Kasch (ลอยอยู่เหนือพื้น) นอกจากนี้ยังมีห้องมุมที่ได้ Living Area เป็นมุมกระจกทรงหลายเหลี่ยมไม่เหมือนใคร ทำให้สามารถชมวิวมุมกว้างได้ถึง 2 ด้านอีกด้วย ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว และมียอดขายกว่า 90% ดังนั้นก็จะเหลือยูนิตให้เลือกอีกไม่มากแล้ว ใครสนใจก็จะต้องรีบเข้าไปเลือกชมห้องจริงวิวจริงกันแล้วล่ะครับ

Fact @ 30 ตุลาคม 2567

  • บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จํากัด (มหาชน)
  • ที่ดินโครงการประมาณ 2 ไร่
  • คอนโด High Rise สูง 46 ชั้น 1 อาคาร 478 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต
  • 1 Bedroom ขนาด 23.4 – 27.8 ตารางเมตร (พื้นที่ตามโฉนด)
  • 1 Bedrooms Plus ขนาด 34.7 – 60.2 ตารางเมตร (พื้นที่ตามโฉนด)
  • Penthouse ขนาด 130.9 – 133 ตารางเมตร (พื้นที่ตามโฉนด)
  • ฝ้าเพดานสูง 4.25 เมตร
  • รูปแบบการขาย : ขายขาด (Freehold)
  • ราคาห้องเริ่มต้น 6.29 – 13.9 ล้านบาท* (Promotion)
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 200,000 บาท/ตร.ม.

Image 1/8

สรุปแล้วคอนโดพระราม 4 น่าลงทุนหรือไม่?

จากข้อมูลทั้งหมดที่ได้กล่าวมา โดยเฉพาะโปรเจคการลงทุนจากภาครัฐและเอกชน ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ราคาที่ดินของย่านพระราม 4 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แน่นอนว่าเป็นที่น่าจับตามองสำหรับกลุ่มนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพื่ออยู่เอง เกร็งกำไร และลงทุนปล่อยเช่า ซึ่งปัจจุบันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนของการปล่อยเช่ากำลังมาแรงมากๆครับ

ยิ่งเป็นที่อยู่อาศัยใน Prime Location หรือเป็น Branded Residences ที่มีบริการ Concierge Services พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน จะเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก โดยเฉพาะชาวต่างชาติหรือแม้แต่คนไทยที่มีกำลังทรัพย์ และย้ายมาทำงานออฟฟิศย่านนี้ก็ยังมีปริมาณอีกมหาศาล ซึ่งเราอาจได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน (Yield) อาจได้สูงถึง 7 – 9 % ต่อปีเลยทีเดียว

โดยจากข้อมูลที่ผมได้ลองรวบรวมมา (อ้างอิงจากราคาประกาศปล่อยเช่าจริงบนเว็บไซต์ของ DDProperty) ถ้าเป็นคอนโดปกติจะมีราคาเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 800 – 1,100 บาท/ตารางเมตร (สามารถลองนำไปคูณกับขนาดพื้นที่ใช้สอยของคอนโดนั้นๆดูได้เลย)

แต่ในกรณีของคอนโดที่มี Concierge Services ระดับ Luxury ขึ้นไป หรือจะเป็นคอนโดที่ตั้งอยู่ใน Mixed-Use Project แน่นอนว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภคระดับบน หรือนักลงทุนที่มีกำลังทรัพย์สูง เพราะราคาเริ่มต้นของคอนโดมิเนียม หรือที่อยู่อาศัยในโครงการจะค่อนข้างแพง หรือมีราคาต่อตารางเมตรมากกว่าที่อยู่อาศัยแบบ Single Use บนทำเลเดียวกัน

แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความสะดวกสบายที่ครบครัน และยังสามารถปล่อยเช่าในเรทราคาที่สูงได้มากกว่านี้อีกครับ (คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงราวๆ 1,500 – 2,000 บาท/ตร.ม.) ทั้งนี้ก็ลองพิจารณาตามความเหมาะสมและกลุ่มเป้าหมายของเราได้เองครับ ว่าเราอยากซื้อลงทุนแบบไหน ปล่อยเช่าให้ใคร  หรืออนาคตอยากอยู่เองด้วยหรือไม่ ก็สุดท้ายแต่ Lifestyle ของแต่ละคนเลยครับ


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่