รีวิวโครงการ

รีวิวตึกเสร็จ The Estelle พร้อมพงษ์ คอนโดหรู เลี้ยงสัตว์ได้ ใกล้ BTS พร้อมพงษ์เพียง 250 เมตร จาก Raimon Land [รีวิวฉบับที่ 2440]

20 ตุลาคม 2022

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 1703 … ช่วงปีที่ผ่านมา โครงการคอนโดมิเนียม ใจกลางเมืองอย่าง พร้อมพงษ์-ทองหล่อ-เอกมัยเปิดตัวกันอย่างคึกคัก ในวันนี้เรามีโครงการใหม่ ทำเลตั้งอยู่ต้นซอยสุขุมวิท 26 ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์มาแนะนำกันกับ The Estelle Phrom Phong โครงการร่วมทุนกันระหว่าง Raimon Land และ Tokyo Tatemono  เป็นคอนโดมิเนียม High Rise ตั้งอยู่ต้นซอย สุขุมวิท 26 อยู่สุขุมวิทฝั่งขาเข้า โครงการห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ประมาณ 250 เมตร โครงการนี้กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่ช้า ดังนั้นวันนี้เรามีรีวิวทำเลมาให้อ่านกันก่อนค่ะ

ขึ้นชื่อว่าย่านพร้อมพงษ์เเล้ว ถือว่าเป็นอีกย่านนึงที่เต็มไปด้วยความหรูหรา กินดี ดื่มได้ อยู่อาศัยสบายเลยนะคะ ในรีวิวนี้เราจะพาไปดูกันค่ะ ว่าโครงการนี้อยู่ตรงไหน การใช้ชีวิต อาหารการกิน การเดินทางไปยังที่ต่างๆจากโครงการนี้จะเป็นอย่างไรกันบ้าง ไปรับชมกันได้เลย 🙂

พิกัดโครงการ : 13.728761, 100.570952

ที่ตั้งของโครงการ The Estelle Phrom Phong ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 26 ฝั่งเลขคู่เป็นฝั่งที่เข้าเมืองไปยังอโศก-ชิดลม-สยาม ใกล้รถไฟฟ้าสถานีพร้อมพงษ์ บริเวณพร้อมพงษ์จะมีความเเตกต่างจากอโศกที่กลายเป็นโซนอาคารสำนักงานเต็มขั้นกับโซนทองหล่อที่มันจะเน้น Lifestyle กินดื่ม เที่ยวกลางคืน คือพร้อมพงษ์เนี่ยจะเป็นโซนที่มี Expat หรือชาวต่างชาติที่มาทำงานในไทยอาศัยอยู่เยอะมาก มีความสงบกว่าทั้ง 2 โซนที่เราพูดไปเมื่อสักครู่เเต่ก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายในซอยสุขุมวิท 26 จะเป็นซอยที่รถสามารถวิ่งสวนกันได้ 2 เลน สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนพระราม 4 ได้ ทำให้ทำเลนี้ถือว่าเดินทางด้วยรถยนต์เพื่อไปยังพระราม 4 เเละวิ่งเข้าเส้นสาทรสะดวก ส่วนสภาพการจราจรทั่วไปบนถนนสุขุมวิทหลักนั้นจะเป็นถนนที่รถติดเเทบทั้งวัน แต่ก็ยังมีรถไฟฟ้าที่สามารถใช้บริการได้ในช่วงเวลาเร่งด่วน

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเข้าโครงการสามารถทำได้ทั้งจากถนนสุขุมวิทเเละถนนพระราม 4 ซึ่งเดี๋ยวเราจะมีเส้นทางการเดินทางแบบละเอียดมาให้ดูกันอีกครั้งนะคะ สำหรับทำเลนี้ถนนหลักๆที่เราจะใช้งานกันก็จะเป็นถนนสุขุมวิท ที่ใช้เดินทางเข้าไปยังตัวเมืองอย่างสยาม หรือจะเดินทางออกนอกเมืองไปยังอ่อนนุช บางนา สมุทรปราการก็ได้ ส่วนถนนพระราม 4 นั้นเป็นถนนที่ขนานกับสุขุมวิทเช่นกัน แต่จะสามารถเดินทางไปยังสีลมหรือเลี้ยวเข้าไปยังโซนธุรกิจอย่างสาทรได้สะดวกหน่อย หรือถ้าเป็นฝั่งออกเมืองก็จะไปบรรจบยังเส้นสุขุมวิทใกล้กับ BTS สถานีพระโขนงนั่นเองค่ะ

ส่วนการเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ สถานที่ใกล้ที่สุดคือสถานี BTS พร้อมพงษ์ ที่ตั้งอยู่ห่างจากโครงการเราไปประมาณ 250 เมตร ถัดจากสถานีนี้ไป 1 สถานีก็จะเป็นสถานี Interchange อย่าง BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ทำให้สามารถเปลี่ยนเส้นทางได้ง่าย สามารถเลือกใช้งานได้ตามความสะดวก เข้าเมืองหรือออกเมืองได้เลย สร้างเสร็จพร้อมใช้งานค่ะ

สำหรับคนที่ต้องการใช้ทางด่วนนั้น อาจจะต้องบอกว่าทำเลนี้อาจจะไม่ใช้ทำเลที่เหมาะกับการใช้ทางด่วนเท่าไหร่นัก เพราะทางขึ้นทางด่วนรอบๆโครงการก็จะอยู่เเถว พระราม 4 , เพลินจิต ,อโศก-ดินแดง หรือว่าสุขุมวิท 50 นู่นเลย คือกว่าจะไปถึงทางด่วนนั้นก็ต้องฝ่าฟันรถติดหนักหนาสาหัสเหมือนกัน ซึ่งถ้าไปถึงเราอาจไม่ต้องการใช้ทางด่วนเเล้วก็เป็นได้ค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการถือว่าอยู่ในขั้นดีมากเลยนะคะ ถ้านับเป็นระยะเดินหลักๆก็จะเป็น Emporium , EmQuartier เเละ Rain Hill แต่ว่าตามซอยต่างๆเช่นซอย 26 เอง ซอย 24 หรือซอย 39 ก็เรียกได้ว่ามีร้านอาหาร ร้านกาแฟต่างๆแอบซ่อนอยู่เยอะพอสมควรเลย อีกทั้งยังมีสวนสาธารณะอยู่ใกล้ๆสามารถเดินไปใช้งานหรือพักผ่อนหย่อนใจได้ นอกจากนี้ยังมีพวก Studio ออกกำลังกายหรือ สถานที่ทำกิจกรรมต่างๆอย่างเช่น Spa , Onsen แทรกตัวอยู่ตามซอยค่อนข้างเยอะเลยค่ะ

พาชมทำเล

ในรีวิวนี้ เรามีเส้นทางการเดินทางมาแนะนำกันถึง 4 เส้นทางนะคะ  เส้นทางเเรก เราจะพาเดินมาจากรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ มายังที่ตั้งโครงการ ส่วนเส้นทางที่ 2 เราจะเริ่มต้นจากถนนพระราม 4 ที่สวนเพลิน Market กลับรถมายังท้ายซอยสุขุมวิท 26 เข้าจากท้ายซอย ขับตามทางภายในซอยมาเรื่อยๆยังโครงการที่อยู่ต้นซอยค่ะ ส่วนอีก 2 เส้นทางหลัง เราจะพาคุณผู้อ่านไปเที่ยว Em District กับทองหล่อกัน เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า แต่ละเส้นทางการเดินทางจะมีความสะดวกมากน้อยอย่างไรค่ะ

เส้นทางที่ 1

เส้นทางเเรกเป็นเส้นทางการเดินค่ะ เราจะเริ่มต้นจากรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ออกมายังฝั่งที่เป็นถนนสุขุมวิทขาเข้า หรือหน้า Emporium ค่ะ เดินย้อนมายังทางไปสถานีทองหล่อนะคะ เราจะผ่านซอยสุขุมวิท 24 ก่อน ต่อจากนั้นเราก็จะเจอกับซอยสุขุมวิท 26 ทางขวามือ เดินเข้าไปในซอยเลย ไม่ไกลเลย จาก BTS ถึงโครงการประมาณ 250 เมตรค่ะ

เริ่มต้นจากสถานี BTS พร้อมพงษ์นะคะ

ให้เราหาทางออก 4 ค่ะ จะเป็นทางที่ลงเเล้วเจอซอยสุขุมวิท 24 พอดี จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับทางออกที่ไปยังตัวห้างอย่าง Emporium และ EmQuartier ค่ะ

ทางออก 4 นี้จะมีทางลงอยู่อันเดียวนะคะ ตามทางไปเลยค่ะ

ลงมาเราจะเจอกับซอยสุขุมวิท 24 พอดี ซอยนี้เป็นอีกซอยที่สามารถเชื่อมต่อไปยังพระราม 4 ได้ มีร้านอาหารค่อนข้างเยอะ มีทางเข้าห้าง Emporium อีกทาง แต่เราจะเดินย้อนกลับไปอีกฝั่งแทนค่ะ เพื่อไปยังซอยสุขุมวิท 26

ตรงไปตามทางค่ะ ย่านสุขุมวิท พร้อมพงษ์ ทองหล่อนี้จะเป็นย่านที่มี Expat หรือคนต่างชาติที่มาทำงานที่ประเทศไทยจะมาอยู่อาศัยกันเยอะนะคะ โดยเฉพาะย่านนี้จะเป็นย่านที่มีคนญี่ปุ่นเยอะเป็นพิเศษ เดินๆไปถามถนนเเถบนี้ก็จะสวนกับชาวต่างชาติกันเป็นปกติเลย

บริเวณใต้บันไดขึ้น-ลงรถไฟฟ้าที่เราลงมาเมื่อสักครู่นั้นจะมีป้ายรถเมล์ให้บริการอยู่ มีนักท่องเที่ยวกำลังชิม Thai Street Food แลดูอร่อยเชียวค่ะ ไม่รู้ว่าซื้อมาจากร้านไหนกัน 🙂

ใกล้ๆกันก็มี 7-eleven ด้วยนะคะ

เดิมสิ่งก่อสร้างบริเวณนี้จะเป็นตึกแถวเป็นส่วนใหญ่ เราจะเห็นการพัฒนาทำเป็นอาคารที่ Commercial กันมากขึ้น อย่างดัดเเปลงเป็นโรงเเรมเอย Hostel เอย แต่ก็ยังมีที่อยู่อาศัยหลงเหลืออยู่บ้าง มีร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยวเอาไว้ฝากท้องสำหรับพนักงานที่ทำงานเเถวนี้อยู่นะคะ

ถ้าเรามองไปฝั่งตรงข้ามจะเป็นซอยสุขุมวิท 39 ค่ะ ซอยนี้มีความสำคัญอยู่ที่เป็นซอยที่สามารถเชื่อมต่อไปยังอโศก เพชรบุรี ทองหล่อได้ด้วย มีความอุดมสมบูรณ์ ร้านอาหาร Fine Cuisine คาเฟ่เก๋ๆเยอะเลยค่ะ

ทางเดินก็มีฟุตบาทกว้างขวางอยู่นะคะ แต่ไม่ค่อยมีหลังคาอะไรให้หลบฝนเท่าไหร่ ฝนตกก็จะแอบลำบากหน่อยๆ

ก่อนถึงซอย 26 จะมีซอยนึงเป็นซอยสั้นๆที่สามารถเชื่อมไปซอย 26 ได้เช่นกันเป็นซอยสุขุมวิท 24/1 ค่ะ สำหรับคนที่ต้องการใช้บริการพี่วิน ก็มาเรียกตรงนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารบ้านๆตั้งอยู่เยอะเลยค่ะ

เลยสุขุมวิท 24/1 มาอีกนิดเราก็จะเจอกับซอยสุขุมวิท 26 แล้วค่ะ ซอยนี้จะเรื่องอีกชื่อนึงได้ว่าซอยอารี (คนละอารีย์กับตรงรถไฟฟ้าอารีย์นะคะ อย่าสับสนกัน)

มองจากปากซอยเข้ามาก็จะเห็นโครงการเราเเล้วค่ะ ตั้งอยู่ทางซ้ายมือของเราเลย

ณ วันที่ไปยังที่ตั้งโครงการก็เริ่มมีการล้อมรั้วเตรียมการก่อสร้างเรียบร้อยเเล้ว เดิมที่ที่ดินนี้จะเป็นที่จอดรถเเบบเสียค่าบริการนะคะ

โดยทั่วไปสภาพเเวดล้อมของซอยสุขุมวิท 26 นี้จะมีความแตกต่างจากซอยข้างเคียงอยู่ เช่นบรรยากาศที่ถึงเเม้จะเป็นซอยที่เชื่อมต่อกับถนนพระราม 4 หรือเป็นซอยที่ไปยัง K-Village ได้เหมือนกัน แต่ก็จะมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาทั้ง 2 ข้างทางและมีทางเท้าให้เดินอีกด้วย บรรยากาศภายในซอยจึงดูร่มรื่น ไม่ค่อยมีร้านอาหารแบบรถเข็นให้เห็น จึงดูเป็นซอยที่มีความสงบและร่มรื่นกว่าซอยข้างเคียงอย่างซอยสุขุมวิท 24 อยู่พอสมควร

มองเข้าไปในโครงการ ณ ปัจจุบันยังมีให้บริการที่จอดรถอยู่

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

โครงการ The Estelle Phrom Phong ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 ซึ่งเป็นซอยสุขุมวิทฝั่งเลขคู่ที่เดินทางไปยังถนนพระราม 4 ได้สะดวก ภายในซอยรถสามารถวิ่งสวนกันได้ และเป็นซอยที่มีความสงบกว่าซอยข้างๆอย่างซอยสุขุมวิท 24 มีทางเท้าให้เดินทั้ง 2 ข้างทางเเละมีต้นไม้ให้ร่มเงาเกือบทั้งซอยเลยค่ะ ในส่วนของสิ่งก่อสร้าง ส่วนมากจะเป็นตึกแถวสลับกับบ้านพักอาศัยที่เป็นบ้านเดี่ยว เเละเริ่มที่จะมีอาคารพักอาศัยเช่นคอนโดมิเนียมขึ้นมาบ้างประปราย

  • ทิศเหนือ – ติดกับตึกแถวสูง 4-5 ชั้น  (สูง ~ 17 m.) , V-Residence 12 ชั้น (สูง ~ 45 m.) และ TBI Building 18 ชั้น (สูง ~ 48 m.)
  • ทิศใต้ – ติดทางเข้าโครงการ Noble Refine และตัวอาคารของ Noble Refine 25 ชั้น (สูง ~ 92 m.)
  • ทิศตะวันออก – บ้านพักอาศัย
  • ทิศตะวันตก – ซอยสุขุมวิท 26 , ตึกแถวสูง 4-5 ชั้น และบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น

ทิศเหนือ จะติดกับอาคารประเภทตึกแถวสูง 4-5 ชั้น เป็นร้านอาหารเเละร้านนวดนะคะ

ทิศเหนือ ติดกับ V-Residence 12 ชั้น (สูง ~ 45 m.) และ TBI Building 18 ชั้น (สูง ~ 48 m.)

ทิศใต้จะติดกับทางเข้าโครงการ Noble Refine เลย

ทิศใต้ ถัดเข้าไปจากถนนสุขุมวิท 26 0tเป็นตัวอาคาร Noble Refine ซึ่งสูง 25 ชั้นค่ะ

ทิศใต้ เลยทางเข้า Noble มานิดหน่อย จะมีตึกแถวสูง 4-5 ชั้นตั้งอยู่มีร้าน 7-eleven มาเปิดให้บริการตรงนี้อีกหนึ่งสาขา เรียกได้ว่าสะดวกเเละใกล้โครงการมากที่สุดเลยค่ะสาขานี้

ทิศตะวันออก ติดกับโครงการเป็นที่พักอาศัยเเนวราบ แต่ก็จะมีโครงการ The Address สุขุมวิท 28 ซึ่งสูง 31 ชั้นอยู่ใกล้กับโครงการเราอยู่ค่ะ ระยะการมองไม่ถึงกับประจันหน้ากันตรงๆ แต่ห้องที่หันหน้าทิศนี้ก็จะโดนบังวิวประมาณนึงนะคะ

ทิศตะวันออก มาดูอีกฝั่งถนนภายในซอย 26 กันบ้างค่ะ ช่วงต้นๆซอยจะเป็นตึกแถว ร้านอาหาร ร้านนวดเป็นส่วนมากนะคะ จากภายในซอยขับออกไปสามารถเลี้ยวได้ทั้งซ้ายเพื่อเข้าเมืองหรือเลี้ยวขวาเพื่อออกเมืองได้ด้วยค่ะ

ทิศตะวันออก ฝั่งตรงข้ามกับทางเข้าโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้นค่ะ

ทิศตะวันออก ติดกับบ้านพักอาศัยนั้นก็จะมีโรงเเรม Arizehotel มีคาเฟ่เท่ห์อยู่ด้านหน้าโรงแรมด้วย

เลย Arizehotel มาจะเป็นตึกแถว 3 ชั้น ขายอาหารเช่นก๋วยเตี๋ยวรสเด็ด เคยไปกินมา แซ่บอยู่เหมือนกันค่ะ ส่วนซอยข้างๆนี้ก็จะเชื่อมไปยังสุขุมวิท 24/1 ที่เราเดินผ่านมาตอนต้นได้

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • BTS พร้อมพงษ์ – 260 m.
  • The Emquartier – 300 m. (Walk)
  • The Emporium – 350 m.
  • อุทยานเบญจสิริ – 400 m.
  • Rain Hill – 550 m.
  • K-Village – 1.0 Km.
  • Piman 49 – 1.3 Km.
  • Terrace 49 – 1.3 Km.
  • Big-C พระราม 4 – 1.4 Km.
  • รพ.สมิติเวช – 1.6 Km.
  • Major Cineplex Sukhumvit – 1.7 Km.
  • The Racquet Club – 1.9 Km.
  • Eight Thonglor – 2.2 Km.
  • รพ.สุขุมวิท – 2.2 Km.
  • Seenspace – 2.3 Km.
  • สวนเพลิน มาร์เก็ต – 2.3 Km.
  • J Avenue – 2.4 Km.
  • The Commons – 2.5 Km.
  • Big-C เอกมัย – 2.7 Km.
  • Tesco Lotus พระราม 4 – 2.7 Km.
  • Gateway เอกมัย – 2.8 Km.
  • 72 Courtyard – 3.0 Km.
  • รพ.กรุงเทพ – 4.3 Km.

เส้นทางที่ 2

และสำหรับอีกเส้นทางนึง เราจะเริ่มจากถนนพระราม 4 ฝั่งขาเข้า บริเวณหน้าสวนเพลิน มาร์เก็ต(ฝั่งตรงข้ามกับช่อง 3 มาลีนนท์) กันก่อน เลี้ยวซ้ายไปกลับรถตรงถนนเกษมราษฏ์และวนกลับเข้ามายังถนนพระราม 4 ฝั่งขาออก เลี้ยวซ้ายเข้าท้ายซอยสุขุมวิท 26 ซึ่งเป็นซอยเดียวกับ K-Village ตรงตามทางไปเรื่อยๆจะเจอกับที่ตั้งโครงการ The Estelle Phrom Phong ทางขวามือเกือบๆจะต้นซอยค่ะ

เริ่มต้นจากถนนพระราม 4 นะคะ เนื่องจากที่ตั้งของโครงการนี้จะตั้งอยู่ฝั่งสุขุมวิทเลขคู่ ซึ่งทำให้สามารถเชื่อมต่อกับถนนพระราม 4 ได้ง่าย(ผิดกับสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ ที่จะอิงกับเส้นทางการใช้ถนนเพชรบุรีมากกว่า) ถนนพระราม 4 นี้เป็นถนนฝั่งละ 3 เลน ใช้เชื่อมต่อ ในเมือง-นอกเมืองหลักๆจากบริเวณรถไฟฟ้าพระโขนง เข้าไปยังสีลม สาทรได้เลย เป็นเส้นทางที่คนที่อาศัยอยู่ฝั่งกรุงเทพตะวันออก อย่างอ่อนนุช บางนา สำโรง ใช้เดินทางเป็นหลักในการเข้าเมือมายังเเถวสาทรค่ะ(ในกรณีที่ไม่ใช้ทางด่วนนะคะ) ถนนนี้จะมีอาคารสำนักงานตั้งอยู่ริมสองฝั่งถนน กระจายตัวมาจากในเมืองที่เป็นแหล่งงานหลักของกรุงเทพ เเละยังเป็นถนนที่มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของกรุงเทพอย่างสวนลุมตั้งอยู่ข้างๆอีกด้วย ดังนั้นสภาพการจราจรโดยทั่วไปจึงจะค่อนข้างหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วนและไม่เร่งด่วนเช่นกันค่ะ

เราจะเริ่มเดินทางจากถนนพระราม 4 ฝั่งขาเข้าเมือง หน้าสวนเพลิน มาร์เก็ตนะคะ

สวนเพลิน มาร์เก็ตเป็น Community Mall ย่านพระราม 4 ตั้งตรงข้ามกับช่อง 3 เลยค่ะ ภายในจะมีศูนย์อาหาร ร้านกาแฟ ร้านอาหารต่างๆ ฟิตเนส รวมไปถึง Hyper Market อย่าง Makro Food Service อีกด้วย

ถ้าใครที่มาในวันธรรมดาช่วงกลางวันก็จะมีพนักงานออฟฟิศเดินมากินข้าวที่ศูนย์อาหารของที่นี่กันอย่างคับคั่งเลยค่ะ เป็นศูนย์อาหารติดแอร์ที่มีตัวเลือกค่อนข้างหลากหลายเลย กินข้าวเสร็จก็มีร้านกาแฟอย่าง Starbucks , Alto (เราชอบร้านนี้) หรือจะกินชานมราคาถูกลงมาหน่อยอย่าง Ochaya ก็มีให้เลือกดื่มเช่นกันนะคะ ภายในสวนเพลินมาร์เก็ตนี้ นอกจากเน้นเรื่องอาหารการกินเเล้ว ก็ยังมีส่วนที่เป็น Retail ค้าขาย เเละฟิตเนสให้สมัครสมาชิกออกกำลังกายได้ด้วย ส่วนเรื่องที่จอดรถก็มีคิดเงินบ้าง แต่ก็สามารถประทับตราจอดรถได้ไม่ยาก เช่นมาทานข้าวที่Food Court ก็ประทับตราได้เเล้วค่ะ

ขับเลยสวนเพลิน มาร์เก็ตมาจะเจอกับ Big C อยู่ทางขวามืออีกฝั่งนึงของถนน สาขานี้ค่อนข้างจะมีพื้นที่กว้างขวางเลยนะคะ

ภายในก็จะมีส่วนที่เป็นเหมือน Big-C ทั่วๆไป คือมี Food Park ขายอาหาร มี Retail ต่างๆ มีส่วนที่เป็น Hyper Market ขายของถูกของ Big-C เอง เเละยังมีส่วน Plaza ที่เป็นอีกอาคารเเยกออกไปอีกฝั่งถนน แต่ก่อนก็จะเป็นตลาดนัดนะคะ แต่พอไปมาล่าสุดนี่มี Uniqlo มาเปิดใหม่ด้วยใหญ่โตพอสมควรเลยค่ะ

ตรงข้ามกับ Big-C อีกฝั่งนึงของถนนพระราม 4 ก็จะมี Tesco Lotus เปิดให้บริการอยู่เลย เรียกได้ว่าไม่ยอมกัน ซึ่งภายในก็จะมีพวกร้านอาหารที่แตกต่างกันไปบ้าง ช่วงนึงผู้เขียนมาทำงานกับเพื่อนที่บ้านอยู่ใกล้ๆนี้ ก็จะเดินมาโลตัสบ้าง บิ๊กซีบ้าง สวนเพลินบ้าง เพื่อทานข้าวกลางวัน เรียกได้ว่าเป็นปกติของคนทำงานย่านนี้เลยที่จะเดินมาทานข้าวสลับๆกันไป จะเดินข้ามถนนด้วยทางม้าลายก็ได้ และก็ยังมีสะพานลอยให้ใช้งานได้ค่อนข้างสะดวกค่ะ

ใกล้ๆจะถึงสามแยกที่จะไปยังท่าเรือก็จะมีปั๊ม Shell เปิดให้บริการอยู่นะคะ เราชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวได้เลย

ถึงเเยกปุ๊ปเราก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเกษมราษฏ์เลยค่ะ

พอเลี้ยวมาให้เราชิดขวาเตรียมกลับรถนะคะ

กลับรถมาก็ชิดขวาเพื่อเลี้ยวขวากลับเข้าไปยังถนนพระราม 4 อีกที เเต่เป็นฝั่งขาออกค่ะ

พออยู่ที่ถนนพระราม 4 แล้ว ก็ชิดซ้ายเลยค่ะ เพื่อเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 26 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการเรา

ซอยนี้จะเป็นซอยข้างๆ Big-C นะคะ มีป้ายบอกทางชัดเจน เป็นซอยที่มีรถเข้า-ออกตลอด เพราะเป็นซอยที่สามารถไปออกยังถนนสุขุมวิทได้ และไปยังซอยสุขุมวิทต่างๆได้หลายซอยอย่างซอยสุขุมวิท 24 ที่สามารถเข้าห้างเอ็มโพเรียมได้เลย หรือซอย 26 ที่เป็นที่ตั้งโครงการเราค่ะ

เข้าซอยมาจะเจอกับ Community Mall หลายโครงการเลยที่ตั้งอยู่ท้ายๆซอยสุขุมวิท 26 นะคะ อย่างทางซ้ายมือจะเป็นโครงการ A Square ทางขวามือเป็น K-Village

ด้านหน้าของโครงการ A Square ค่ะ ทางเข้าจะเป็นด้านข้างนะคะ

โครงการนี้จะมีร้านอาหาร สำนักงาน เเละร้านขายของเปิดให้ใช้บริการ มีที่เราคิดว่าดังคือ Flow House ที่เป็นกิจกรรม Surf Board ให้โต้คลื่นเทียมเล่น ไม่ค่อยเห็นที่ให้มีให้บริการนี้นะคะ เคยไปลองเล่นมาหลายครั้งอยู่ ถ้าเป็นมือใหม่ไปครั้งแรกก็จะปวดๆตัวหน่อย เพราะตอนเริ่มต้นเค้ายังไม่ให้เราลองยืนเล่น และคลื่นเทียมนี่ก็เเรงเเบบพัดตัวเราขึ้นไปยังด้านบนชนผนังได้เลยค่ะ เราเล่นเเบบยืนเเล้วปล่อยเชือกได้อย่างมาก 10 วินาทีเท่านั้น อายเด็กตัวเล็กๆที่มาเล่นด้วยเเล้วพริ้วไหวโต้คลื่นอยู่ข้างๆเหลือเกินค่ะ เป็นกิจกรรมที่สนุกดีนะคะ เจ็บปวดอยู่แต่ก็สนุกค่ะ

เลยมาจะเจอกับ Warehouse 26 ค่ะ ตรงนี้ถ้าเราเลี้ยวซ้ายไป ระหว่าง A Square กับ Warehouse26 ก็จะเป็นเส้นทางที่ไปออกยังซอยสุขุมวิท24 ได้เหมือนกันค่ะ

Warehouse 26 ก็จะเป็น Community Mall ที่เล็กลงมาหน่อย มี Fitness 7 ที่มีจุดขายอยู่ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชม. มีร้านกาแฟ สำนักงาน และมีร้านขายของสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วย มีเพื่อนคนนึงอยู่แถวบางนา แต่ก็ต้องมาซื้ออาหารให้น้องหมาถึงที่นี่เลยนะคะ นับว่าดังจริงนะเนี่ย

ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็น K-Village ค่ะ

K-Village เราถือว่าเป็น Comminity Mall ใจกลางเมืองยุคเเรกๆก็ว่าได้ที่ประสบความสำเร็จนะคะ ด้วย Scale พื้นที่ขนาดใหญ่ และมีการจัดกิจกรรมเสาร์-อาทิตย์ที่ค่อนข้างดึงดูดลูกค้า Middle to High ได้ดี อย่างเช่นสามารถเอาน้องหมามาเดินเล่นได้ มีตลาดนัด Organic และร้านอาหารหลายๆร้านที่ไม่สามารถหาทานได้ตามห้างทั่วไป ก็จะมีอยู่ที่ K-Village นี้ ในกรณีที่อยู่ในโครงการเราและอยากเดินห้อง นัดเพื่อนทานข้าวใกล้ๆ เเต่ก็เบื่อห้างใหญ่แบบห้างตระกูล EM เเล้ว มาเดินเล่นสูดอากาศ ตากไอร้อนเบาๆที่ K-Village ก็นับว่าสะดวกและไม่ไกลจากตัวโครงการเลยค่ะ

ด้านหลังของ K-Village จะมีเวิ้งเล็กๆอยู่เวิ้งนึงมีชื่อว่า Nihonmachi หรือถ้าเเปลเป็นภาษาไทยก็จะเเปลว่าเมืองญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ ภายในเวิ้งนี้ก็จะมีร้านอาหารญี่ปุ่นหลายร้านเลย ส่วนมากจะเป็นร้านอาหารเปิดกลางคืนเป็นส่วนใหญ่ มีพวก Izakaya ร้านกินดื่ม หรือจะเป็นร้านขนมปังอย่าง Toraya ก็ขึ้นชื่ออยู่นะคะ (ใครที่ผ่านทองหล่อก็จะเจอร้านนี้อยู่ในซอยทองหล่อ 13 เช่นกันค่ะ)

เลย K-Village มาหน่อยจะมีร้าน S&P ตั้งอยู่

สาขานี้จะเป็นสาขาแบบ Stand Alone มีสองชั้น บรรยากาศดีมีที่จอดรถ สามารถนัดเพื่อนมาทานข้าว ทานขนมหรือพูดคุยกันได้ บรรยากาศสบายๆ อาหารไทยรสคุ้นเคยค่ะ

ตรงมาตามทางจะเป็นสำนักงานบ้าง ที่พักอาศัยบ้างนะคะ มีร้านสะดวกซื้ออยู่ในซอยนี้เช่นกัน

เลี้ยวซ้ายตามทางไปค่ะ

ตรงมาไม่นานก็เลี้ยวขวาไปตามทางเช่นกัน ภายในซอยก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการเช่นกันนะคะ มีรถขับผ่านตลอดเวลา การเดินทางเรียกได้ว่ามีตัวเลือกให้เลือกใช้ช่วงเวลารถติดค่ะ

ขับมาก็จะเจอเวิ้ง Community Mall เล็กๆ ชื่อว่า The 26 ทางซ้ายมือ มีร้านกาแฟ ร้านตัดผมอยู่

หรือขับมาอีกนิดก็จะมี Casa Lapin X 26 และร้านดอกไม้ One Day Wall Flower อยู่ภายในซอยเช่นกันค่ะ บรรยากาศดีนะคะ สามารถเเวะมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือนัดคุยงานได้สะดวก ไม่ไกลจากโครงการเท่าไหร่

ใกล้ๆกับต้นซอยจะเจอร้าน 7-eleven ทางขวามือ ติดกับทางเข้าคอนโดของ Noble ส่วนโครงการ The Estelle จะตั้งอยู่ใกล้ๆกันค่ะ ทางขวามือ

ถึงโครงการเเล้วค่ะ 🙂

เส้นทางที่ 3

สำหรับเส้นทางอื่นๆเราจะพาผู้อ่านเดินออกจากโครงการไปดูย่าน Em District กันนะคะ

Em District

Em District เป็นชื่อเรียกโครงการใหญ่ของเครือ The Mall Group ที่พัฒนาพื้นที่บริเวณพร้อมพงษ์ ให้กลายเป็นอีกหนึ่งย่าน Shopping Lifestyle แห่งใหม่ จากเดิมทีที่ตรงนี้จะมีห้างอย่าง The Emporium อยู่ ด้วยทำเลนี้เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่า Expat และภายในซอยพร้อมพงษ์ ทองหล่อมักจะเป็นย่านที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวขนาดตัวบ้านใหญ่ พื้นที่สวนกว้างๆเป็นส่วนมาก (หลายๆคนจะเรียกว่าโซนบ้านผู้ดีเก่า) ทำให้โครงการ Em District นี้ตั้ง Positioning ของตัวเอง ให้กลายเป็นห้างสรรพสินค้าที่เน้นความ Luxury Lifestyle โดยการสร้างห้างใหม่อย่าง Emquatier ตรงข้ามกับ The emporium ที่มีการ Renovate ใหม่ กลายเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางการค้าที่เน้นหรูหราแบบที่เข้าถึงได้  (ถ้าเทียบกับห้างหรูของอีกแบรนด์ใกล้เพลินจิต ถ้าใครลองไปเดินทั้งสองห้างเเล้ว ฝั่ง Em นี้ถือว่ามีความเป็นมิตรและมีหลายระดับราคาของสินค้าให้จับจ่ายมากกว่าอีกอันที่เรียกได้ว่าแพงหูฉี่เเทบทุกร้านเลยค่ะ) ดังนั้นในรีวิวนี้เราจะพาผู้อ่านไปเดินเล่นห้างเก๋ๆ ดูว่ามีอะไรที่น่าสนใจ Lifestyle ของคนที่อาศัยอยู่โครงการแถวนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ตามอ่านกันเลยค่ะ

เรามาเริ่มกันที่ Emporium กันก่อน ฝั่งนี้โดยส่วนมากจะเป็นส่วนที่เป็นตัวห้างหลักๆค่ะ โดยได้มีการ Renovate ภายในใหม่ให้ดูทันสมัยเเละโก้หรูมากขึ้น ฝั่งนี้ก็จะมีโรงเเรมและอาคารสำนักงานอยู่ด้วย ซึ่งก็จะมีทางเชื่อมทั้งส่วนโรงเเรมเเละส่วนห้างอยู่ค่ะ

ภายใน Emporium ก็จะมีส่วนที่เป็น Retail มีส่วนตัวห้างที่มีแบรด์ต่างๆมาขาย โดย Retail ส่วนใหญ่ที่มาลงก็จะเน้นไปที่ระดับ High Street ถึง High End ไปเลย และก็มีโซนที่เป็นของ Thai Designer ตั้งอยู่ด้วย ใกล้กับทางเชื่อมรถไฟฟ้า (ส่วนนี้คาดว่าย้ายมาจากฝั่ง EmQuatier นะคะ) Thai Designer ก็จะเป็นแบรนด์ของคนไทยเองที่มีชื่อเสียง และพยายามที่จะจับกลุ่มกันเพื่อส่งเสริมให้แฟชั่นไทยไปไกลถึงระดับโลกด้วย เเบรนด์อยู่ Thai Designer ถ้าพูดชื่อขึ้นมารับรองว่าคุ้นเคยกันเเน่ๆ เช่น ASAVA ของพี่หมู ASAVA แห่ง The Face , Vickteerut หรือที่จะมาแรงสุดๆของช่วงนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น Vatanika

บรรยากาศหลัง Renovate ใหม่ก็จะเน้นการใช้ Interior วัสดุสีทองเงามาเล่นมากขึ้น Space ภายในก็จะดูหรูหราขึ้นมาหน่อย สำหรับห้างนี้มักจะมีคนญี่ปุ่นมาเดินบ่อยมาก เนื่องจากภายในซอยสุขุมวิท 39 นี่เรียกได้ว่าเป็น japanese village อยู่เหมือนกัน บางทีเราไปเดินอาจจะนึกว่าเราเดินอยู่ห้างญี่ปุ่นก็ได้นะคะ รอบๆข้างมีแต่คนญี่ปุ่นเเละเสียงประกาศยังมีประกาศเป็นภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเข้ามาอีกด้วย

ชั้นที่คึกคักเป็นพิเศษก็คงจะหนีไม่พ้นชั้น 4 เพราะนอกจากจะเป็นชั้นที่มีร้านอาหาร Supermarket แล้ว ยังมีส่วนที่เป็น Emporium Foodhall ที่เป็นเสมือน Foodcourt หรูๆอยู่ที่ชั้นนี้อีกด้วย

ตัวอย่างภายใน Emporium Foodhall ค่ะ ข้างในก็จะมีอาหารที่ค่อนข้างหลากหลายเชื้อชาติ อยากจะทานอาหารอินเดียขึ้นมา บริเวณนี้ก็มีให้บริการ ถึงเเม้ราคาจะสูงกว่าฟู้ดคอร์ทตามห้างทั่วไปอยู่ แต่ก็เเลกมาด้วยบรรยากาศ การตกแต่ง เก้าอี้และโต๊ะนั่ง ที่แบ่งโซนต่างๆ ดีไซน์ออกมาได้ไม่เเพ้ร้านอาหารหรูๆเลยค่ะ อย่างภาพขวาล่างก็จะเป็นส่วนที่นั่งรับประทานอาหารที่อยู่ริมกระจก สามารถมองออกไปเห็นอุทยานเบญจสิริได้ด้วย

และฝั่งนี้ก็จะมี Gourmet Market ที่เป็น Premium Supermarket คือจะมีของที่ Import เข้ามาพิเศษกว่าซูเปอร์มาร์เก็ตอื่นๆ และมีของบางชนิดที่พิเศษขึ้นมาขึ้นอยู่กับแต่ละสาขาด้วย (เช่นสาขา The Mall บางกะปิ Gourmet สาขานั้นก็จะมีโซนฮาลาลขึ้นมาพิเศษ เนื่องจากมีชาวอิสลามอยู่อาศัยเเถวนั้นเยอะ)

ขึ้นมายังชั้น 5 จะเป็นชั้นโรงหนังของเครือ SF ชื่อว่า Emprive Cineclub โรงฝั่งนี้นับเป็นอีกหนึ่งโรงที่ขายตั๋วหนังได้แพงและไม่มีโปรพิเศษวันพุธมาให้เราเลือกดูหนังลดราคาด้วยค่ะ ซึ่งก่อนที่จะรีโนเวทตรงนี้ก็จะเป็นโรงหนังของ SF ทั่วๆไป มีจัดฉายหนัง Art หรือหนังเทศกาลต่างๆค่อนข้างบ่อยครั้ง เราก็จะมานั่งดูหนังอินดี้ฝรั่งเศสบ้างตอนเรียน แต่หลังจากที่รีโนเวทไปแล้ว กดเข้าไปดู ไม่เคยเจอราคาตั๋วหนังถูกกว่า 300 บาทต่อที่นั่งเลยค่ะ เลยยังไม่ได้ลองเข้าไปสัมผัสว่าข้างในจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่สำหรับคนที่ชอบความ Exclusive หรือจะพาเเฟนมาเดท ที่นี่ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยนะคะ ข้างในโรงเป็นยังไง Comment มาบอกกันได้ค่า

อีกส่วนหนึ่งที่เป็น TCDC เก่า (ซึ่งตอนนี้ TCDC ได้อัพเกรดขนาดตัวเองเเละย้ายสถานที่ไปอยู่แถวเจริญกรุงเรียบร้อยเเล้ว) ปัจจุบันกลายเป็น AIS D.C หรือ AIS Design Center แทนค่ะ ซึ่งถ้าใครยังเป็นสมาชิกของ TCDC ก็ยังสามารถมาเข้าใช้บริการที่นี่ได้เช่นกันนะคะ โดย AIS D.C. นี้ จะเน้นการให้บริการที่เกี่ยวกับเรื่อง Technology และ Start-Up กันมากขึ้น

ข้างในศูนย์ก็ยังคงเป็นดีไซน์เดิมของ TCDC นั่นเองค่ะ สมัครสมาชิกทีเดียว ก็มีที่นั่งทำงาน มีแอร์และไฟฟ้าให้ใช้ บรรยากาศดีตลอดทั้งปีเลย (แอบสารภาพว่าสมัยที่ยังเป็น TCDC จะมีห้องดูหนังค่ะ เราก็จะมาดูหนังไปเเอบหลับไปที่นี่เป็นประจำเลย บรรยากาศชิลล์มากๆ)

ด้านหน้าทางเข้าก็จะมีร้านกาแฟ ไล-บรา-รี่ ให้บริการด้วย มักจะเห็นชาวต่างชาติมานั่งคุยงานทำงานกันเยอะ

จบจาก Emporium กันเเล้ว เดี๋ยวเราจะเดินข้ามไปฝั่ง EmQuatier กันบ้าง ซึ่งเป็นห้างใหม่ของย่านนี้ค่ะ ทางเชื่อมจะมีอยู่ 2 ทาง คือทางหนึ่งใกล้กับรถไฟฟ้า อีกทางใกล้กับสวน จากภาพก็จะเป็นทางเชื่อมที่ใกล้กับสวนค่ะ โดยจะมีซุ้มต้นไม้เป็นทางเชื่อมด้วย ในช่วงเทศกาลต่างๆก็จะมีการประดับประดาที่เปลี่ยนแปลงไปตามตีมต่างๆ เหมาะกับการเดินดูงานอาร์ทเเละถ่ายรูปเล่นมากๆ

จากตัวสถานีพร้อมพงษ์ ก็มีการทำ Skywalk มาใหม่ ไปลงยังหน้าสวนเบญจสิริได้เลย พื้นที่ตรงนี้ก็จะมีจัดกิจกรรมของห้างบ้าง Exhibition บ้างค่ะ

ตัวอาคารของ EmQuartier ก็จะถูกเเบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ โดยจะมีพื้นที่ตรงกลางที่เป็น Outdoor Court มีสะพานเชื่อมระหว่างตึกและมีพื้นที่ชั้นล่างที่เชื่อมกันได้ เวลานัดเพื่อนเเรกๆก็จะงงหน่อย ว่าจะเรียกอะไรยังไงดี เพราะบอกชื่อตึกก็คงจะไม่เข้าใจ ส่วนตัวเราจะจำเป็นว่า ตึกที่มี Zara,Uniqlo, Kinokuniya จะเป็นตึกที่ใกล้กับตัวสถานีรถไฟฟ้ามากที่สุด ส่วนตึกที่อยู่ข้างๆกันชั้นล่างๆจะเป็นแบรนด์เนม ส่วนชั้นบนๆจะเป็นโซนร้านอาหารเดินวนๆได้ (เดี๋ยวเราจะอธิบายให้ฟังอีกทีนะคะว่าทำไมถึงเรียกเเบบนี้) และตึดสุดท้ายด้านหลังจะเป็นตึกจอดรถและมีโรงหนังอยู่ด้านบนค่ะ

สำหรับร้านค้าทางฝั่งนี้ก็จะมีหลายระดับราคาตั้งแต่ทั่วๆไป ไปยังสินค้า Luxury Brand เลยนะคะ และเป็นอีกหนึ่งสวรรค์ของนักช็อปเลย เพราะว่าเเทบจะมีทุกอย่างที่ตามหารวมอยู่ที่นี่ที่เดียว

มาดูเรื่องของกินกันซักหน่อย ที่นี่เรียกได้ว่ามีร้านอาหารให้เลือกเยอะมาก อย่างชั้นB ของที่นี่ก็จะมีส่วนที่เป็น Quartier Foodhall ให้บริการ บรรยากาศการตกแต่งดีเช่นกันค่ะ มีร้านอาหารราคากลางๆเปิดเยอะมากเลือกทานกันได้

หรือจะเป็นอีกโซนที่มีชื่อว่า Helix Dining ส่วนนี้จะเป็นร้านที่เรียกได้ว่าเป็น Fine Dining หน่อยๆ ตัวร้านดูดีราคาสูงขึ้นมาอีกนิดนึง

แต่ส่วนนี้จะมีความเก๋ตรงที่ทางเดินจะค่อยเป็น ทางลาดขึ้นไปเรื่อยๆตั้งแต่ชั้น 6-9 ทริกคือให้ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 9 ก่อน แล้วค่อยๆเดินวนลงมาดูร้านต่างๆค่อยเลือกนะคะ ไม่งั้นจะเมื่อยพอสมควรเลย ไอเดียทางลาดแบบนี้ ก็จะมีที่มาจากงานของสถาปนิกชื่อดังระดับโลกอย่าง Guggenheim museum ของ Frank Lloyd Wright หรือ Omotesando Hills ของ Tadao Ando ที่จะเลือกเล่นกับความเอียงของพื้นเช่นกัน นอกจากความต่อเนื่องของพื้นที่ที่จะสามารถทำให้คนเดินดูได้ทั่วๆเเล้ว ยังเป็นผลดีต่อคนที่ใช้ Wheelchair อีกด้วยค่ะ

ส่วนคนที่ต้องการซื้อของสดหรือของใช้ภายในบ้าน ฝั่งนี้ก็มี Gourmet Market ให้บริการเช่นกันอยู่ที่ชั้น G หรือ Ground Floor นั่นเอง

คือนอกจากห้างให้เดินซื้อของ และร้านอาหารต่างๆเเล้ว ที่ EmQuartier ยังมีอีกหนึ่งจุดที่อยากให้ไปเดินชมกันคือ Garden ด้านบนที่ชั้น 5 จะมีพื้นที่ Semi-Outdoor อยู่ที่จะมีพื้นที่สวนให้เรามาเดินเล่น เปลี่ยนบรรยากาศ สามารถมองออกไปเห็นวิวเมืองอย่างรถไฟฟ้า หรือสวนเบญจสิริฝั่งตรงข้ามได้ด้วย และพื้นที่บริเวณนี้ยังมีการจัดกิจกรรมเรื่อยๆเช่น ตลาดนัดหรือ Event ต่างๆด้วยค่ะ

อีกโซนที่เปิดใหม่ล่าสุดเรียกว่า Escape Bangkok เป็นที่เที่ยวบรรยากาศ Tropical Bar สามารถนัดเพื่อนมาสังสรรค์ตอนกลางคืนได้

นอกจากนั้นยังมีลานด้านล่างที่จัดกิจกรรมสม่ำเสมอ มี Activity Place อย่าง Bounce ให้เล่น และมีโรงหนังในเครือของ Major ที่มีชื่อว่า Quartier CineArt เปิดให้บริการค่ะ (ราคาโรงฝั่งนี้จะมีความมาตรฐานเท่ากับโรงอย่าง Paragon และสามารถใช้โปรโมชั่นต่างๆได้เหมือนทั่วๆไปค่ะ)

เมื่อสักครู่เราเกริ่นๆกันไปบ้างถึงสวนเบญจสิริเเล้ว เรามีภาพบรรยากาศของสวยสาธารณะเเห่งนี้มาให้ชมกัน ซึ่งสวนนี้จะเป็นสวนที่อยู่ติดกันกับ Emporium เลย จากโครงการก็สามารถเดินมาที่นี่เพื่อออกกำลังกายได้ง่ายมาก ถึงเเม้จะเป็นสวนที่มีขนาดกะทัดรัด เปิดตี 5 ถึงประมาณ 4 ทุ่ม ถ้าเราจะมาวิ่ง 1 รอบก็ได้ระยะทางประมาณ 700 เมตรค่ะ มีช่วงนึงเราจะมาวิ่งที่นี่เป็นประจำ เราชอบความไม่ใหญ่มากของที่นี่ คือวิ่ง 1 รอบก็ยังไม่ค่อยเหนื่อยมาก กำลังใจดี คือถ้าวิ่งสวนลุมกว่าจะครบรอบหรือวนมาที่เก่าทีนี่คือท้อเลยค่ะ เเต่ถ้าวิ่งที่นี่ก็จะชิวๆหน่อย นอกจากนี้คือ บรรยากาศคนที่มาใช้สวนสาธารณะนี้จะค่อนข้างโอเค คือรู้สึกได้ของความปลอดภัย เพราะมีรั้วกั้นมิดชิด และมีรปภ.คอยดูแลอยู่ด้วย

เส้นทางที่ 4

นอกจาก Em Distict ที่เรียกได้ว่าเป็นความอุดมสมบูรณ์หลักของโครงการเราเเล้ว เส้นทางสุดท้ายที่เเนะนำกันจะเป็นการเดินทางไปยังย่าน Lifestyle ต่างๆอย่างพร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัยจากโครงการซึ่งก็ถือว่าเดินทางได้ง่ายมากด้วย

มาดูเส้นทางการเดินทางจากโครงการไปยังซอยสุขุมวิท 39 กันก่อน จากโครงการมี 2 เส้นทางให้เลือกค่ะ คือเส้นทางเเรก จากปากซอย 26 ก็รอสัญญาณไฟเลี้ยวขวาเข้าเส้นสุขุมวิท พอถึงซอยสุขุมวิท 49 ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย ซอยนี้สามารถไปยังโรงพยาบาลสมิติเวชได้ด้วยนะคะ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการไปคอมมูเเถวๆซอย 49 อย่าง Piman 49 หรือ Terrace 49 มาก จะมีร้านชา Peace ที่ไอศครีมอร่อยมากอยู่ ซึ่งถ้ากลับไปยังซอย 39 พอเจอร้านชา Peace แล้วก็เลี้ยวซ้ายไปยังซอยพร้อมมิตร ก็จะมายังเส้นสุขุมวิท 39 ได้เเล้วค่ะ

ส่วนอีกเส้นทางคือพอออกจากซอยสุขุมวิท 26 ก็เลี้ยวซ้ายเข้าเมืองไปก่อน พอถึงเเยกยูเทิร์นรถใกล้ๆปากซอย 31 ก็กลับรถมาค่ะ เลยEmQuartier เล็กน้อยก็จะเป็นปากซอยสุขุมวิท 39 แล้ว

เเล้วสุขุมวิท 39 นี้ไปไหนได้บ้าง? สุขุมวิท 39 นี้เป็นซอยที่สามารถใช้เชื่อมต่อไปทั้งซอย 31 ซอยสวัสดี ไปอโศก ทองหล่อ หรือไปยังถนนเพชรบุรีได้ด้วย ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่สำหรับคนชินพื้นที่เเถวนี้น่าจะใช้เป็นประจำค่ะ

ในรีวิวนี้ เราจะลองพาไปแนะนำบริเวณทองหล่อใกล้ๆ J-Avenue เริ่มจากซอย 11,13,15,17 นะคะมาดูกันค่ะว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง

เริ่มจากซอย 11 ก่อนค่ะ ภายในซอยนี้ก็เป็นซอยที่สามารถเชื่อมต่อไปยังซอยอื่นๆของทองหล่อได้หลายๆซอยนะคะ บรรยากาศก็จะเป็นร้านอาหารบ้าง บ้านพักอาศัยบ้าง ไม่มีทางเท้าค่ะ แต่มีคนเดินตลอดเวลา ทางเดินสัญจรของรถสามารถวิ่งสวนกันได้ และจะมีฝั่งนึงสามารถจอดรถได้นะคะ ต้องลองมาวนๆดูเพราะส่วนมากมักจะเต็มตลอดเวลาเลย

บริเวณปากซอยจะมี Community Mall ชื่อ Taste อยู่ เดิมทีจะเป็นแค่ร้าน Starbuck สาขาทองหล่อตั้งอยู่เดี่ยวๆ เเต่เพิ่งจะมาปรับปรุงเพิ่มกลายเป็นว่ามีร้านอาหาร สามารถเช่าที่ทำเป็น Studio หรือสำนักงานได้ค่ะ

ซอยทองหล่อ 13 จะเป็นซอยหลักที่ใช้ไปยังโรงพยาบาลสมิติเวช ดังนั้นภายในซอยนี้ก็จะคึกคักหน่อย มีร้านอาหาร Community เยอะมาก เช่น Nihonmachi ที่เราเคยเห็นเเถวๆ K-Village ตรงนี้ก็มีอีกหนึ่งจุดค่ะ ปากซอยเลยจะมี Home Place Building อยู่ เป็นอาคารให้เช่าพื้นที่ เป็นสำนักงานบ้าง ร้านค้าบ้าง หรือ Studio ออกกำลังกายก็มีค่ะ

เข้ามาในซอยก็จะเจอกับ Community mall ที่ชื่อว่า Seenspace อยู่ทางซ้ายมือ

บรรยากาศภายในเนื่องจากไปตอนเช้าอาจจะดูร้างๆไปบ้าง เพราะส่วนมากจะเป็นร้านกินดื่มที่เปิดตอนดึกๆ มี Gym มวยไทยของ RSM ตั้งอยู่ และสำหรับสาวๆที่ชอบออกกำลังกายก็มี Studio ปั่นจักรยานที่ชื่อ RYDE เปิดอยู่ที่นี่ค่ะ

ตรงข้ามกับ Seenspace ก็จะมีร้าน After You สาขาเเรกๆเปิดอยู่ สาขานี้เรียกได้ว่ากลางวันอาจไม่ต้องรอคิว แต่ยิ่งดึกยิ่งคนเยอะเลยค่ะ เข้าไปข้างในก็จะมีร้านราเม็ง ร้านชาบู และที่จอดรถของ J-Avenue นะคะ พื้นที่ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ J-Avenue ค่ะ

เรากลับมาดูยังซอยทองหล่อกันบ้าง ฝั่งตรงข้ามกับซอย 13 มีตึกเเถวที่ปรับเปลี่ยนเป็นร้านกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่นกันอยู่ Izakaya ก็จะมีร้านอย่าง Shakariki 432 หรือ Nagiya ข้างในมาก็จะเจอเหล่าพนักงานออฟฟิศมานั่งดื่มเบียร์หลังเลิกงานกันเป็นประจำค่ะ แต่บางส่วนภายในร้านจะเปิดเป็นโซนที่สามารถสูบบุหรี่ได้นะคะ ต้องลองถามพนักงานดูอีกทีสำหรับใครที่ไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ค่ะ

ทองหล่อซอย 15 จะเป็นที่ตั้งของ J-Avenue เป็น Community Mall ที่เรียกได้ว่าอยู่คู่ซอยทองหล่อมาอย่างยาวนาน

บางร้านภายในนี้ก็เปิดให้บริการ 24 ชม.ค่ะ เรียกได้ว่า All day all night กันจริงๆ

ข้างในก็จะมีทั้ง Supermarket ,Drug Store ,ร้านอาหารให้เลือกมากมาย

ไม่นานมานี้บางส่วนก็เพิ่งจะ Renovate ใหม่ มีร้านมาใหม่มากขึ้นค่ะ

เดินต่อไปเรื่อยๆไปทางซอย 17 ก็จะเจอโรงเเรมสุดเก๋ BADMOTEL อยู่คู่กับร้านกาแฟ CASA Lapin ค่ะ โรงเเรมนี้จะตกแต่งด้วยสไตล์ดิบๆหน่อย วินเทจนิดๆ คือสามารถมาจัดงานปาร์ตี้ตีมเก๋ไก๋ที่นี่ได้ด้วย อย่างงาน Event ของ Netflix ที่เปิดตัวซีรีย์อย่าง Stranger Things ก็ใช้ที่นี่เป็นที่จัดงานค่ะ ลองเสิรช์ดูได้ งานเก๋มากค่ะ

ตรงข้ามกันจะมีอีก Community นึงเรียกว่า Courtyard 72

กลางวันก็จะร้างๆหน่อย ส่วนกลางคืนจะมีร้านกินดื่ม บาร์และ EDM Club อยู่

มาดูที่ซอย 17 กันต่อนะคะ ซอยนี้ขับไปตามทางเรื่อยๆก็จะไปเชื่อมต่อกับซอยทองหล่อ 13 ค่ะ บริเวณปากซอยเเละเลยไปอีกนิดตามถนนใหญ่ก็จะมีร้านอาหารบ้านๆให้บริการอยู่ด้วย พวกร้านข้างแกง ร้านอาหารตามสั่ง สำหรับคนทำงานเเถวนี้ที่อยากกินอะไรที่ไม่เเพงมากค่ะ

เข้าซอยมาไม่ไกลทางซ้ายมือเป็น Community Mall ที่มีชื่อว่า TheCommons

ที่นี่นับเป็นอีกที่ที่เก๋ไก๋เดินเล่นถ่ายรูปสวยเลย

ชั้นล่างจะมีโซนอาหารเเละเครื่องดื่มที่เรียกว่า The Commons Market มีร้านกาแฟรสชาติดีชื่อดังและร้านอาหารหลายร้านมาก ภายในก็ตกแต่งสวยงามเลยค่ะ

โครงการนี้จะมีจุดเด่นที่การเล่นระดับของพื้นที่ เเละมีพื้นที่ส่วนกลางที่มาใช้รวมกันเยอะๆ เชื่อมต่อถึงกัน Common Area นั่นเองค่ะ

เลย TheCommons มา จะมีร้านอาหารใต้อยู่ร้านนึงที่เราอยากเเนะนำกันชื่อว่าร้านข้าวจ้าว เป็นร้านอาหารราคาไม่แพง(เมื่อเทียบกับย่านนี้)และรสชาติเผ็ดสะใจมาก ใครผ่านมาอยากให้มาลองดูนะคะ

สรุป โครงการ  The Estelle Phrom Phong เป็นโครงการที่อยู่ใกล้ถนนสุขุมวิท สามารถเลือกเส้นทางการใช้รถเดินทางได้หลายเส้นทาง และมีตัวเลือกสาธารณะใกล้โครงการอย่างรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ในระยะเดินสบาย อยู่ใกล้ความอุดมสมบูรณ์อย่างห้าง Emporium EmQuartierในระยะเดินถึง และไม่ไกลจากย่าน Lifestyle กินดื่มอย่างพร้อมพงษ์ทองหล่อ อีกทั้งยังเดินทางเข้าใจกลางเมืองที่เป็นเเหล่งงานได้ง่ายทั้งโซนอโศก สยาม หรือจะสีลม สาทร 

ส่วนข้อมูลโครงการอื่นๆคาดว่าจะตามมาอีกไม่นานเกินรอนะคะ เเล้วเรามาติดตามต่อกันอีกทีดีกว่าค่ะว่าโครงการจะออกมาเป็นอย่างไร ทั้งด้านหน้าตาอาคาร รูปแบบห้อง และที่สำคัญคือเรื่องราคา เเละถ้าทาง Thinkofliving ของเรามีข้อมูลเพิ่มเติม สัญญาได้ว่าจะคอยอัพเดทให้ผู้อ่านทุกท่านอ่านกันแน่นอนค่ะ