รีวิวฉบับที่ 2809 เปิดตัวโครงการ So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) คอนโด High Rise จาก Origin ทำเลดีตรงข้ามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ใกล้ BTS สถานีม.เกษตรศาสตร์เพียง 150 เมตร ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มนักศึกษาและคนทำงานตามแนวรถไฟฟ้าเลยค่ะ ส่วนตัวห้องจะเป็นแบบเพดานสูง 4.2 เมตรทุกแบบห้อง ราคาเริ่มต้น 5.49 ล้านบาท เมื่อเทียบกับโครงการเพื่อนบ้านที่มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2 ล้านต้นๆไปจนถึง 4 ล้านปลายๆ โครงการนี้ถือว่ามีราคาเป็นอันดับต้นๆในย่านนี้เลยค่ะ แต่ของที่ให้มาก็สมน้ำสมเนื้อกับราคาเช่นกัน จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง เราได้ Highlights ไว้ให้หมดแล้วค่ะ

  • ใกล้ BTS สายสีเขียวอ่อนสถานี ม.เกษตรศาสตร์ : ลูกบ้านสามารถเดินไปใช้รถไฟฟ้าได้ในระยะประมาณ 150 เมตร ทำให้เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมากๆเลยค่ะ
  • โครงการอยู่ตรงข้าม ม.เกษตรศาสตร์ :นักศึกษาและบุคลากรเดินทางไปเรียนหรือทำงานได้ง่ายมากๆเลยค่ะ
  • ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว : โครงการมี 300 ยูนิต เมื่อเทียบกับโครงการรอบข้างที่มียูนิตตั้งแต่ 300 ปลายๆไปจนถึง 700 กว่ายูนิต เราถือว่ามีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดเลยค่ะ โครงการนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว มีเพื่อนบ้านไม่มากนัก
  • ห้องแบบเพดานสูง 4.2 เมตร : เหมาะกับคนที่ชอบทำเลแบบคอนโด แต่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น
  • ห้องพักอาศัยกั้นเป็นสัดส่วน :  ได้ทั้งครัวปิดทำอาหารได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันลอยไปโซนอื่นของห้อง และกั้นห้องนอนชั้นบนให้เรียบร้อย ไม่ต้องเสียเงินทำฉากกั้นเพิ่มเติมค่ะ

ข้อมูลโครงการ

So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์)  ณ วันที่ 30 มกราคม 2568

 ชื่อโครงการ   So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่ ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร
 ที่ดิน   1-3-58.4 ไร่
 ประเภทคอนโด   High Rise 23 ชั้น
 จำนวนยูนิต   300 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
 ที่จอดรถ   150 คัน คิดเป็น 50% แบ่งเป็น Auto Parking 133 คัน และ ที่จอดปกติ ประมาณ 17 คัน
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2566
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2568
 ประเภทห้องพัก
  • ห้อง 1 Bedroom เพดานสูง ขนาดพื้นที่โฉนด 25.1 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 37.1 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.49 ล้านบาท
  • ห้อง 1 Bedroom Plus เพดานสูง ขนาดพื้นที่โฉนด 33.6 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 47 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.49 ล้านบาท

 ราคาเริ่มต้น  5.49 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 150,000 บาท/ตร.ม. (คิดตามพื้นที่ใช้สอย)
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่ 
 Call Center  1498

 

ทำเลที่ตั้ง

Highlight

  • ใกล้ BTS สายสีเขียวอ่อนสถานี ม.เกษตรศาสตร์ : ลูกบ้านสามารถเดินไปใช้รถไฟฟ้าได้ในระยะประมาณ 150 เมตร ทำให้เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมากๆเลยค่ะ
  • โครงการอยู่ตรงข้าม ม.เกษตรศาสตร์ : นักศึกษาและบุคลากรเดินทางไปเรียนหรือทำงานได้ง่ายมากๆ หน้าโครงการมีทางม้าลาย ใช้ข้ามถนนได้ปลอดภัยค่ะ
  • ใกล้แหล่งของกิน : เยื้องกับโครงการเป็นตลาดอมรพันธ์ ลูกบ้านสามารถเดินไปหาของกินได้ไม่ยากเลย

พิกัด Google Maps : 13.840153734369656, 100.57656172725505
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

โครงการ So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมสี่แยกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงทำให้ทางเข้า-ออกโครงการติดกับถนนหลัก 2 เส้น คือถนนประเสริฐมนูกิจและถนนพหลโยธิน ทำเลตรงนี้มีความพลุกพล่านพอสมควรค่ะ เพราะใกล้กับรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ประมาณ 100 เมตร นักศึกษาและบุคลากรสามารถเดินข้ามถนนไปเรียนหรือทำงานได้สบายๆ นอกจากนี้โซนนี้ยังตอบโจทย์คนที่ทำงานย่านลาดพร้าวและดอนเมืองอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น เอสซีบี พาร์ค พลาซ่า , การบินไทย , ปตท.สำนักงานใหญ่ รวมถึงโรงพยาบาลเปาโล เกษตรและโรงพยาบาลวิภาวดีที่อยู่ในละแวกนี้

เนื่องจากโครงการนี้อยู่ใกล้กับ BTS ม.เกษตรศาสตร์เพียง 150 เมตร จึงตอบโจทย์กับคนที่ทำงานตามแนวรถไฟฟ้าด้วย ส่วนในเรื่องอาหารการกินก็ไม่ต้องเป็นห่วงเลยค่ะ เพราะเยื้องๆกับโครงการมีตลาดอมรพันธ์อยู่มีร้านค้าร้านอาหารให้เราหาของกินของใช้ได้ง่ายๆ หรือจะเป็นตลาดบางเขนหรือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธินก็อยู่ในระยะไม่เกิน 2 กิโลเมตรเท่านั้น แต่ถ้าหากอยากไปเดินห้างช้อปปิ้งจะมีเซ็นทรัล ลาดพร้าว และยูเนี่ยน มอลล์ที่อยู่ใกล้ที่สุดค่ะ เรียกได้ว่าโซนนี้เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์สูงทีเดียวค่ะ

เส้นทางการเดินทาง

เดินทางด้วยรถไฟฟ้า :

หนึ่งจุดเด่นของโครงการ So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) คือเรื่องของการเดินทางค่ะ เพราะโครงการอยู่ใกล้กับ BTS  สายสีเขียวอ่อน สถานีม.เกษตรศาสตร์ประมาณ 150 เมตรเท่านั้น สะดวกในการเดินทางไปไหนมาไหน จึงเหมาะกับคนที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำค่ะ ใช้เดินทางเข้าเมืองไปโซนลาดพร้าว , สยาม และอโศกได้ไม่ยาก หรือใครที่ทำงานย่านพระราม 9 , รัชดาภิเษกก็สามารถขึ้น BTS แล้วไปเปลี่ยนสายมาใช้ MRT เดินทางไปทำงานได้เช่นกัน

นอกจากนี้ในอนาคตประมาณปี 2573 จะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลวิ่งผ่านด้วย ซึ่งรถไฟฟ้าสายนี้จะเริ่มต้นตั้งแต่ศูนย์ราชการนนทบุรีไปจนถึงแยกลำสาลี เดินทางไปงามวงศ์วานหรือบางกะปิได้ไม่ยากเลย

Image 1/5
บรรยากาศทางเดินไป BTS ม.เกษตรศาสตร์

บรรยากาศทางเดินไป BTS ม.เกษตรศาสตร์

ทางเดินระหว่างโครงการไปสถานี BTS ม.เกษตรศาสตร์ เป็นฟุตบาทขนาดกว้างทีเดียว อยู่ติดถนนใหญ่ทำให้มีรถผ่านไปมา และริมทางยังมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่ตลอดแนว จึงทำให้ไม่เปลี่ยว เดินได้อย่างปลอดภัย ส่วนแผ่นปูพื้นก็เรียบร้อย ไม่มีน้ำขัง เดินได้สะดวกเลย สำหรับ BTS สถานีนี้จะแบ่งทางขึ้นลงไว้คนละทาง โดยทางขึ้น BTS จะอยู่ใกล้กับโครงการมากกว่าและใช้เป็นบันไดเลื่อน เรามองว่าสะดวกดีเวลารีบมาขึ้น BTS ในช่วงเร่งด่วนค่ะ แต่ทางลงจะเป็นบันไดธรรมดาที่อยู่ห่างจากทางขึ้นเล็กน้อย

สำหรับใครที่ไม่อยากเดินกลับ หรือวันไหนที่มีสัมภาระเยอะๆจะใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ด้านหน้าทางลง BTS ก็สะดวกเช่นกัน

เดินทางด้วยรถยนต์ :

Image 1/3
เส้นทางไปจุดขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุข (ไปพระราม 9)

เส้นทางไปจุดขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุข (ไปพระราม 9)

สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก สามารถไปขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุขฝั่งมุ่งหน้าไปรังสิตในระยะ 3.5 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปโซนรังสิต , ปทุมธานีได้สบายๆ  หรือใครต้องการเดินทางไปในเมืองโซนพระราม 9 ก็สามารถไปใช้ทางยกระดับอุตราภิมุขฝั่งมุ่งหน้าไปโซนพระราม 9 ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4.2 กิโลเมตรได้ ส่วนคนที่ต้องการเดินทางไปโซนสีลมแนะนำให้ใช้ทางด่วนศรีรัชที่อยู่ห่างออกไปประมาณ  6.9 กิโลเมตร

เราจึงมองว่าโครงการนี้รองรับกลุ่มคน 3 กลุ่มเป็นหลักคือ กลุ่มนักศึกษารวมถึงบุคลากรของมหาวิทยาลัย , กลุ่มคนที่ทำงานตามแนวรถไฟฟ้าเป็นหลัก และกลุ่มคนที่ทำงานในละแวกนี้ ที่ทำงานโซนลาดพร้าว , ดอนเมือง

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

Image 1/5
ภาพรวมบรรยากาศโดยรอบโครงการ

ภาพรวมบรรยากาศโดยรอบโครงการ

โครงการ So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) ตั้งอยู่ติดกับถนนประเสริฐมนูกิจและถนนพหลโยธิน รอบๆโครงการมีสถานที่ราชการทั้งกรมทหารบกและมหาวิทยาลัย ทำให้ไม่มีตึกสูงมาบดบังในระยะประชิด ส่วนในระยะใกล้เป็นอาคารที่สูงไม่เกิน 5 ชั้นเท่านั้น

  • ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับ อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น , อาคารพักอาศัย 5 ชั้น , คอนโด 23 ชั้น
  • ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับ กรมทหารบก , อาคารพาณิชย์ 2-3 ชั้น , คอนโด 26 ชั้น
  • ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับ ม.เกษตรศาสตร์
  • ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับ อาคารพาณิชย์ 2-3 ชั้น , อาคารพักอาศัย 5 ชั้น

Image 1/4
ฝั่งทางเข้าโครงการติดกับถนนประเสริฐมนูกิจ ฝั่งตรงข้ามเป็นกรมทหารบก

ฝั่งทางเข้าโครงการติดกับถนนประเสริฐมนูกิจ ฝั่งตรงข้ามเป็นกรมทหารบก

Image 1/3
ฝั่งทางออกจากโครงการติดกับถนนพหลโยธิน มีทางม้าลายด้านหน้าโครงการด้วย

ฝั่งทางออกจากโครงการติดกับถนนพหลโยธิน มีทางม้าลายด้านหน้าโครงการด้วย

โครงการแยกทางเข้าและทางออกเป็นคนละฝั่งกัน โดยที่ฝั่งทางเข้าโครงการติดกับถนนประเสริฐมนูกิจ ฝั่งมุ่งหน้าไปทางนวมินทร์ ส่วนฝั่งทางออกจากโครงการติดกับถนนพหลโยธิน ใกล้กับสี่แยกเกษตรศาสตร์

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ท็อปส์ สาขา เกษตร ~ 1.8 กิโลเมตร
  • เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ~ 1.8 กิโลเมตร
  • จ๊อด แฟร์  แดนเนรมิต ~ 2.6 กิโลเมตร
  • โลตัส ลาดพร้าว ~ 3.3 กิโลเมตร
  • อเวนิว รัชโยธิน ~ 3.8 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัล ลาดพร้าว ~ 4.4 กิโลเมตร
  • ยูเนี่ยน มอลล์ ~ 4.4 กิโลเมตร
  • ตลาดนัดจตุจักร ~ 6.1 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลเปาโล เกษตร ~ 700 เมตร
  • โรงพยาบาลวิภาวดี ~ 1.7 กิโลเมตร

สำนักงาน

  • เอสซีบี พาร์ค พลาซ่า ~ 2.6 กิโลเมตร
  • การบินไทย ~ 4.4 กิโลเมตร
  • ปตท.สำนักงานใหญ่ ~ 4.5 กิโลเมตร
  • ตรีเพชรอีซูซุ สำนักงานใหญ่ ~ 5.6 กิโลเมตร
  • ไทยรัฐ ~ 6.2 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 100 เมตร
  • โรงเรียนสารวิทยา ~ 1.8 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 2.20 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ~ 3.0 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยศรีปทุม ~ 3.8 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น ~ 3.9 กิโลเมตร
  • โรงเรียนหอวัง ~ 4.2 กิโลเมตร

การเดินทาง

  • BTS (สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ~ 150 เมตร

รายละเอียดโครงการ

Highlight

  • ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว : โครงการมี 300 ยูนิต เมื่อเทียบกับโครงการรอบข้างที่มียูนิตตั้งแต่ 300 ปลายๆไปจนถึง 700 กว่ายูนิต เราถือว่ามีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดเลยค่ะ โครงการนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว มีเพื่อนบ้านไม่มากนัก
  • Sky Facility : 3 ชั้นบนสุดของโครงการ ทำให้ได้วิวเมืองโดยรอบ ไม่มีอาคารสูงบังในระยะประชิด

 So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) เป็นคอนโดมิเนียม High Rise 23 ชั้น บนเนื้อที่ประมาณ 1-3-58.4 ไร่ รวม 300 ยูนิต เมื่อเทียบกับโครงการเพื่อนบ้านที่มี 300 ปลายๆถึง700 กว่ายูนิตแล้ว โครงการนี้ถือว่ามีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดเลยค่ะ ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว และลูกบ้านแชร์ส่วนกลางกับเพื่อนบ้านในจำนวนไม่เยอะ ใช้งานได้สะดวก ไม่แออัดค่ะ

โครงการเลือกที่จะจัดพื้นที่ส่วนกลางไว้ 4 ชั้นเพื่อกระจายความหนาแน่นในการใช้งานค่ะ โดยแบ่งดังนี้ ชั้น 1 เป็น Lobby รวมถึงพื้นที่ทำงานหลากหลายแบบ และที่จอดรถแบบปกติ ส่วนที่จอดรถแบบ Auto Parking จะใช้พื้นที่ตั้งแต่ชั้น 2-6

สำหรับ Facility อื่นๆจะอยู่ 3 ชั้นบนสุดของอาคาร เริ่มต้นที่ชั้น 22 จะเป็น Social Lounge , Private Dining , Private Style Atelier และ Soul Massage & Spa ส่วนชั้น 23 เป็น Main Facility ของโครงการค่ะ มีทั้ง Fitness , สระว่ายน้ำและ Lounge สุดท้ายคือดาดฟ้าของโครงการเป็นสวนส่วนกลาง ด้วยความที่ห้องพักของโครงการเป็นห้องเพดานสูง ทำให้อาคารของโครงการสูงกว่าคอนโดรอบข้าง สวนบนดาดฟ้าจึงได้วิวแบบเปิดโล่งค่ะ ส่วนห้องพักอาศัยจะอยู่ตั้งแต่ชั้น 7-22 เลยค่ะ

เริ่มจาก Masterplan กันเลยค่ะ โครงการแยกทางเข้า-ทางออกไว้อยู่คนละฝั่งกัน และจัดทางเดินรถภายในโครงการเป็น One Way โดยลูกบ้านสามารถเข้าโครงการได้จากประตูฝั่งถนนประเสริฐมนูกิจ แล้ววนไปออกฝั่งถนนพหลโยธิน ก่อนถึงซุ้มประตูโครงการจะมีที่จอดรถสำหรับ Vistor แขกที่มาเยี่ยมเยียนสามารถจอดรถบริเวณนี้ได้ ส่วนซุ้มประตูโครงการอยู่ถัดเข้ามาในโครงการเล็กน้อย เพื่อให้รถยนต์มีที่รอเวลาแลกบัตรเข้าโครงการ ทำให้การจราจรหน้าโครงการไม่ติดขัด

โครงการใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียน หมายความว่ารถยนต์ที่เข้าออกได้จะเป็นลูกบ้านเท่านั้น สำหรับที่จอดรถภายในโครงการมีมากถึง 50% แบ่งเป็นที่จอดรถแบบปกติ 17 คัน โดยจอดใต้อาคาร ไม่ต้องจอดรถตากแดดลมฝน แต่ถ้าที่จอดรถรอบๆอาคารเต็มเราก็สามารถจอดรถแบบ Auto Parking ได้

ชั้น 1 เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ไม่มีห้องพักอาศัยอยู่เลยค่ะ เรามองว่าเป็นข้อดีเพราะลูกบ้านจะได้ความเป็นส่วนตัวและรู้สึกปลอดภัยด้วยค่ะ

Image 1/5
ทางเข้าโครงการ

ทางเข้าโครงการ

เมื่อเข้ามาภายในโครงการ จะมีทางแยกสำหรับไปยังที่จอดรถของสำหรับผู้มาติดต่อ จึงไม่ต้องแลกบัตรที่ซุ้มประตู สามารถเดินไปรอเพื่อนที่ Lobby ได้เลย ส่วนลูกบ้านจะต้องผ่านซุ้มประตูโครงการโดยใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียน

Image 1/5
บรรยากาศที่จอดรถรอบๆอาคาร

บรรยากาศที่จอดรถรอบๆอาคาร

ลูกบ้านที่ใช้รถยนต์สามารถขับไปจอดรอบๆอาคารได้ โดยที่จอดรถเป็นแบบเพดานสูง ใช้จอดรถที่มีความสูงพิเศษ เช่น Alphard ได้ด้วยนะคะ ก่อนจะวนไป Auto Parking โครงการจะมีป้ายโชว์จำนวนที่จอดรถที่เหลืออยู่ให้เราทราบ ส่วนทางออกจากโครงการมีระบบรักษาความปลอดภัยเหมือนซุ้มประตูหน้าโครงการเลย

Image 1/2
บรรยากาศทางเข้า Auto Parking

บรรยากาศทางเข้า Auto Parking

สำหรับที่จอดรถแบบ Auto Parking จะมีทางเข้าอยู่ข้างๆ Lobby แยกช่องสำหรับที่จอดรถธรรมดากับที่จอดรถ SUV เมื่อนำรถจอดแล้ว เราต้องมาสแกนบัตรเพื่อส่งรถขึ้นชั้นบนค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศสวนส่วนกลาง

บรรยากาศสวนส่วนกลาง

ข้างๆทางออกโครงการมีสวนส่วนกลางอยู่ ลูกบ้านสามารถออกมานั่งพักผ่อน สูดอากาศได้ โดยที่ตัวสวนมีการแยกส่วนจากทางเดินรถ ทำให้เราใช้งานได้อย่างปลอดภัย

Image 1/3
ทางเข้า Lobby อาคารฝั่งใกล้ซุ้มประตูโครงการ

ทางเข้า Lobby อาคารฝั่งใกล้ซุ้มประตูโครงการ

การเข้าถึงอาคารจะต้องใช้ระบบสแกนใบหน้าหรือจะสแกนบัตรก่อนถึงผ่านเข้าไปได้ค่ะ ดังนั้นเพื่อนของเราจะเข้ามารอด้านใน Lobby ไม่ได้ ถ้าเรายังไม่ลงมารับจึงต้องนัดแนะกันดีๆนะคะ

Image 1/4
บรรยากาศภายใน Lobby อาคาร

บรรยากาศภายใน Lobby อาคาร

บรรยากาศ Lobby ในอาคาร มีพื้นที่ให้ลูกบ้านลงมานั่งเล่น พบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ ในกรณีที่ไม่สะดวกให้แขกขึ้นไปบนห้อง หรือจะมานั่งทำงานได้ ด้านข้างเป็นผนังกระจก มองออกไปเห็นวิวสวนของโครงการ ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ผ่อนคลาย

ภายใน Lobby มีเครื่องสแกนบัตร สำหรับรับรถที่จอด Auto Parking เราสามารถสแกนบัตรแล้วรอรับรถใน Lobby เย็นๆซึ่งเราสอบถามจากโครงการมาแล้วว่าน่าจะรอไม่เกิน 3 นาที

ชั้น 1 ถือว่ามีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทำงานที่หลากหลายทีเดียว เริ่มจากห้อง Live Streaming Room ที่ตอบโจทย์ Lifestyle ของคนยุคใหม่มากเลยค่ะ ลูกบ้านสามารถใช้มาไลฟ์สด ขายของหรือทำ Content ได้สบายๆ

ข้างๆกับห้อง Live Streaming Room เป็นห้อง Conference Room ลูกบ้านสามารถจองห้องเพื่อใช้ประชุมกันกลุ่มเล็กๆ ไม่เกิน 6 คนได้ พร้อมมีจอ Present ให้ครบ

นอกจากนี้ยังมีมุมทำงานส่วนตัวอีกด้วยนะ มีทั้งห้องทำงานสำหรับคนที่ต้องการ โฟกัสกับงานมากๆ และพื้นที่ทำงานที่มองออกไปเห็นสวน ใช้เป็นจุดพักสายตาได้เวลาเหนื่อยล้าจากการทำงาน

Image 1/3
ห้องน้ำส่วนกลางแบ่งเป็นห้องน้ำทั่วไปกับห้องน้ำผู้สูงอายุ

ห้องน้ำส่วนกลางแบ่งเป็นห้องน้ำทั่วไปกับห้องน้ำผู้สูงอายุ

ห้องน้ำส่วนกลางของชั้น 1 แบ่งเป็นห้องน้ำผู้สูงอายุที่มีขนาดใหญ่ ผู้สูงอายุสามารถเข็นวีลเเชร์มาใช้งานได้สบายๆ ส่วนห้องน้ำทั่วไปไม่ได้แบ่งชาย-หญิงจึงมีทั้งโถสุขภัณฑ์และโถปัสสาวะให้ใช้งานในห้องเดียวกัน

ภายใน Lobby มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่ออาคารคิดเป็น 150 : 1 ถือเป็นสัดส่วนที่ยังไม่หนาแน่นมาก แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนก็แนะนำให้เผื่อเวลารอลิฟต์สักนิดนะคะ

ภายในลิฟต์ดูกว้างขวางและสว่างดี มีการเสริมความปลอดภัยด้วยการติดตั้งกล้อง CCTV ไว้ให้  และต้องใช้ Key card จึงมีแค่ลูกบ้านเท่านั้นที่จะใช้ได้

ชั้น 7- 21 เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด และมีการวางผังอาคารที่เหมือนกันเลยค่ะ โดยจัดให้ห้อง Type ใหญ่ อย่าง 1 Bedroom Plus อยู่หัวมุมอาคาร โดยเรามองว่ามีตำแหน่งห้องพักที่น่าสนใจ 5 โซนดังนี้

  • โซนกรอบสีน้ำเงิน ที่อยู่ใกล้ลิฟต์ ใช้งานขึ้น-ลงได้สะดวก นอกจากนี้ยังไปใช้ส่วนกลางของชั้นอื่นๆได้สะดวก เหมาะกับคนที่ชอบความรวดเร็วในการออกจากอาคาร และชอบใช้ Facility ส่วนกลางบ่อยๆ
  • โซนกรอบสีเหลือง ที่ได้ความเป็นส่วนตัว เพราะไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม และไม่ตรงกับหน้าโถงลิฟต์ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีคนเดินผ่านไปมาตลอด
  • โซนกรอบสีน้ำแดง ที่ได้วิวฝั่งม.เกษตรศาสตร์แบบเปิดโล่ง ทำให้เจ้าของห้องโซนนี้รู้สึกสดชื่นมากขึ้นค่ะ แต่แดดช่วงบ่ายก็แรงเช่นกัน
  • โซนกรอบสีเขียว อยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ ได้แดดดีในช่วงเช้า แต่ไม่ร้อนในช่วงบ่ายด้วยค่ะ ทำให้แอร์ไม่ทำงานหนักมากนัก เวลาเปิดตอนกลับมาถึงห้อง ช่วยประหยัดค่าไฟอีกด้วย
  • โซนกรอบสีส้ม คือห้องไซส์ใหญ่อยู่หัวมุมอาคาร ได้แสงธรรมชาติจากทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้ห้องดูสว่างกว่าห้องพักมุมอื่นๆ ทั้งยังช่วยประหยัดไฟฟ้าช่วงกลางวัน

Image 1/2
บรรยากาศโถงลิฟต์ของชั้นพักอาศัย

บรรยากาศโถงลิฟต์ของชั้นพักอาศัย

หน้าโถงลิฟต์มีความกว้างทีเดียวค่ะ แล้วยังมีพื้นที่สำหรับพักคอยเวลารอลิฟต์ด้วย เราชอบที่โครงการนี้นำตู้จดหมายมาไว้หน้าโถงลิฟต์แต่ละชั้น เราไม่ต้องเสียเวลาแวะไปเอาจดหมายที่ห้องนิติบุคคลหรือโซน Mail Box เลย เพราะตู้จดหมายอยู่ในโซนที่เราต้องผ่านเข้า-ออกทุกวันอยู่แล้ว แวะเอาจดหมายได้สะดวกเลย

บรรยากาศทางเดินในอาคาร ชั้น 17 ดูสว่างดี

ส่วนชั้นที่ 22 มีทั้ง Facilities ของโครงการคือ Social Lounge , Private Dining , Private Style Atelier และ Soul Massage & Spa นอกจากนี้ยังมีห้องพักอาศัยของลูกบ้านด้วย ชั้นนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบมาใช้พื้นที่ส่วนกลางจัดงานเลี้ยงเล็กๆ หรือชอบนวดเพื่อผ่อนคลายบ่อยๆค่ะ เราชอบที่โครงการจัดผังให้พื้นที่ส่วนกลางหันหน้าไปฝั่งม.เกษตรศาสตร์ทั้งหมด ซึ่งเป็นวิวที่เปิดโล่งเห็น เห็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เพราะมหาวิทยาลัยนี้ขึ้นชื่อเรื่องมีพื้นที่สีเขียวมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศเลยนะ

สำหรับห้องพักอาศัยของชั้นนี้ เรามองว่ามีโซนที่น่าสนใจอยู่ 4 โซนด้วยกันคือ

  • โซนกรอบสีน้ำเงิน ที่อยู่ใกล้ลิฟต์ ใช้งานขึ้น-ลงได้สะดวก นอกจากนี้ยังไปใช้ส่วนกลางของภายในชั้นได้สะดวก เหมากับคนที่ชอบมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง
  • โซนกรอบสีน้ำแดงเป็นโซนที่ได้ Benefit จากส่วนกลางมากที่สุดสำหรับชั้นนี้ ได้วิวฝั่งม.เกษตรศาสตร์แบบเปิดโล่ง
  • โซนกรอบสีเขียว อยู่ฝั่งที่ได้แดดดีในช่วงเช้า และไม่ร้อนในช่วงบ่ายด้วยค่ะ ทำให้แอร์ไม่ทำงานหนักมากนัก เวลาเปิดตอนกลับมาถึงห้อง ช่วยประหยัดค่าไฟอีกด้วย
  • โซนกรอบสีส้ม ซึ่งเป็น Rare item ของโครงการ เพราะเป็นห้องที่อยู่ตำแหน่งหัวมุมอาคาร ที่ได้วิวดีทั้ง 2 ฝั่ง และเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ที่เป็นห้องขนาดใหญ่ของโครงการอีกด้วย

Image 1/2
บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์

บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์

โถงลิฟต์มีขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็นพื้นที่สำหรับส่วนกลางและโซนห้องพัก แต่ลูกบ้านที่พักอาศัยในชั้นนี้ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เพราะโครงการกั้นประตูแบ่งสัดส่วนให้ชัดเจน ใครจะผ่านไปได้ต้องใช้ Key card  หมายความว่าคนที่ผ่านเข้าไปได้ต้องเป็นคนที่พักอาศัยในชั้นนี้เท่านั้น จึงไม่เสียความเป็นส่วนตัวค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศภายใน Social Lounge

บรรยากาศภายใน Social Lounge

เรามาดูบรรยากาศ Main Facilities ของโครงการ เริ่มจาก Social Lounge กันนะคะ เป็นห้องที่ลูกบ้านสามารถมาใช้พักผ่อนได้ตามอัธยาศัย มีมุม Pantry เล็กๆ ให้เราเตรียมอาหารง่ายๆ เพื่อกินระหว่างพักผ่อนด้วยนะคะ แต่ที่เราชอบคือเราสามารถจองห้องและปิดใช้เป็นพื้นที่ส่วนตัวได้ด้วยนะ เช่น เวลานัดเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆมาดูหนัง ก็ได้ใช้พื้นที่ตรงนี้แบบเป็นส่วนตัวเลย

พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดของชั้นบน จะหันไปทางม.เกษตรศาสตร์ เห็นพื้นที่สีเขียว มองเเล้วรู้สึกสดชื่นมากเลยนะ

Image 1/2
บรรยากาศห้อง Private Dinning Room

บรรยากาศห้อง Private Dinning Room

ด้านในห้อง Social Lounge เป็น Private Dinning Room ที่มีการกั้นสัดส่วนที่ชัดเจน เราสามารถจองเฉพาะส่วนนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนครัวที่เราสามารถจ้างเชฟส่วนตัวมาทำอาหารให้กินได้ด้วย เวลามีปาร์ตี้เล็กๆกับเพื่อน เราสามารถทานอาหารพร้อมชมวิวเมืองไปพร้อมๆกันได้เลย

หนึ่งฟังก์ชันที่เราไม่ค่อยได้เห็นคือ  Private Style Atelier เป็นพื้นที่สำหรับแต่งหน้าและแต่งตัว เวลาเรามีไปงานต่างๆก็สามารถนัดช่างแต่งหน้ามาใช้ห้องนี้ได้ ทั้งยังรองรับเพื่อนๆที่มารอแต่งหน้าได้อีกด้วย

Image 1/3
บรรยากาศห้อง Soul Massage and Spa

บรรยากาศห้อง Soul Massage and Spa

ฟังก์ชันสุดท้ายของชั้นนี้คือห้อง Soul Massage & Spa สำหรับคนที่ชอบนวดผ่อนคลาย ลูกบ้านสามารถจ้างพนักงานนวดมาบริการได้เป็นคู่ เพราะโครงการมีเตียงสำหรับนวดไว้ให้ 2 เตียง  นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำและแต่งตัวด้วย หลังจากนวดเสร็จก็ล้างตัวเปลี่ยนชุดได้เลย

ส่วนชั้น 23 เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งชั้น Facilities เน้นเป็น Active Facilities เอาใจคนที่ชอบออกกำลังกาย มีทั้ง Fitness , สระว่ายน้ำแบบ Outdoor และ Lounge นอกจากนี้ทุกฟังก์ชันยังสามารถมองเห็นวิวเมืองอีกด้วย

โถงหน้าลิฟต์ชั้นนี้มีความกว้างพอๆกับชั้น 22 เลย จากโถงนี้สามารถเข้าถึงฟังก์ชันหลักทั้ง 3 ห้องได้เลย

Image 1/4
บรรยากาศภายในห้อง Fitness

บรรยากาศภายในห้อง Fitness

ห้องฟิตเนสมีขนาดใหญ่วางเครื่องออกกำลังได้ประมาณ 10 เครื่อง รองรับการออกกำลังกายทั้งแบบ Cardio หรือ Weight training เราสามารถออกกำลังกายไปพร้อมมองวิวเมืองสวยๆ ช่วยให้การออกกำลังกายไม่น่าเบื่อ ใครที่ชอบออกกำลังกายคงถูกใจมุมนี้เป็นพิเศษ นอกจากนี้โครงการยังเตรียมพื้นที่สำหรับนั่งรอเครื่องเล่นด้วย

Image 1/2
ภายใน Fitness มีห้องอเนกประสงค์

ภายใน Fitness มีห้องอเนกประสงค์

ห้องอเนกประสงค์ภายใน Fitness มีขนาดใหญ่ เหมาะกับการใช้เล่นโยคะหรือซ้อมเต้น ภายในห้องมีกระจกบานใหญ่ในเราค่อยมองเช็คความถูกต้องของท่าทาง แต่ที่เราชอบคือห้องติดตั้งกระจกที่มองจากภายนอกไม่เห็น ทำให้เราไม่เขินอายเวลามีคนมองเข้ามา ขณะที่เรากำลังเต้นหรือทำกิจกรรม

Image 1/4
บรรยากาศห้อง Oxygen Lounge

บรรยากาศห้อง Oxygen Lounge

Lounge จะแบ่งออกเป็น 2 ห้องค่ะ คือ Oxygen Lounge กับ Salt Lounge ทั้งสองห้องเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน แต่มีความแตกต่างกันเล็กน้อย คือห้อง Oxygen Lounge จะมีเก้าอี้นวดเพื่อผ่อนคลาย และติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้ ส่วนห้อง Salt Lounge จะติดตั้งผนังหินเกลือหิมาลายัน ซึ่งช่วยเรื่องการอาการนอนไม่หลับและความเครียดค่ะ

Image 1/4
ห้องน้ำส่วนกลาง

ห้องน้ำส่วนกลาง

เมื่อเดินออกมานอกอาคารจะมีห้องน้ำส่วนกลางที่แบ่งฝั่งชาย-หญิงไว้ ภายในมีทั้ง Locker , ห้องอาบน้ำและห้องน้ำไว้ในครบ เมื่อว่ายน้ำหรือออกกำลังกายเสร็จสามารถมาอาบน้ำล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลย นอกจากนี้ยังมีห้อง Aroma Steam สำหรับคนที่อยากมานั่งผ่อนคลายนั่นเอง

Image 1/6
สระว่ายน้ำส่วนกลาง

สระว่ายน้ำส่วนกลาง

สระว่ายน้ำกลางแจ้งมีขนาด 5 x 26.5 เมตร ลูกบ้านใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้อย่างจริงจัง และนับว่าเป็นขนาดที่ใช้งานได้โดยไม่อึดอัดเมื่อต้องแชร์กับลูกบ้าน 300 ยูนิตสระว่ายน้ำมีส่วน Aqua Exercise Equipment และ Jacuzzi ให้อย่างเพียบพร้อม เราแนะนำให้มาใช้งานเวลาช่วงเย็นเพราะแดดไม่ร้อนมากนัก

ข้างๆสระว่ายน้ำมีพื้นที่อาบน้ำด้านนอกมาให้ 1 จุด

ชั้นดาดฟ้าของอาคารเป็นสวนส่วนกลางที่มองเห็นวิวเมืองแบบ 360 แต่ชั้นนี้จะไม่มีลิฟต์นะ เราต้องลงลิฟต์ที่ชั้น 23 แล้วเดินขึ้นทางบันไดหนีไฟมาเท่านั้น

Image 1/3
บรรยากาศสวนชั้นดาดฟ้า

บรรยากาศสวนชั้นดาดฟ้า

สวนบนดาดฟ้าเป็นแบบเปิดโล่ง เห็นวิวเมือง 360 องศา เหมาะกับการใช้เป็นมุมพักผ่อนชมพระอาทิตย์ตกตอนเย็นหรือขึ้นมาสูดอากาศเวลาเช้าๆค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น 1

  • สวนหย่อม
  • Lobby
  • Private Working
  • Conference Room
  • Live Streaming Room

ชั้น 22

  • Social Lounge
  • Private Dining
  • Private Style Atelier
  • Soul Massage & Spa

ชั้น 23

  • สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 5 x 26.5 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  • มี Aqua Exercise Equipment และ Jacuzzi
  • ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
  • Salt Lounge
  • Oxygen Lounge

ชั้นดาดฟ้า

  • สวนหย่อมบนดาดฟ้า

 

  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 150 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 150 คันคิดเป็น 50%
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / ระบบจดจำป้ายทะเบียน / Key Card / Face Scan

แบบบ้าน

Highlight

  • ห้องแบบเพดานสูง 4.2 เมตร : เหมาะกับคนที่ชอบอยู่คอนโด แต่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น
  • ห้องพักอาศัยกั้นเป็นสัดส่วน :  ได้ทั้งครัวปิดทำอาหารได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันลอยไปโซนอื่นของห้อง และกั้นห้องนอนชั้นบนให้เรียบร้อย ไม่ต้องเสียเงินทำฉากกั้นเพิ่มเติมค่ะ
  • ห้อง 1 Bedroom Plus อยู่หัวมุมอาคาร : จึงได้วิวและแสงธรรมชาติ 2 ฝั่ง ห้องพักอาศัยจึงสว่างและดูโปร่งเป็นพิเศษ
  • Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้น : ช่วยประหยัดงบในการตกแต่งห้อง

โครงการ So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) ขายแบบ Fully Fitted จะได้เฟอร์นิเจอร์เฉพาะชุดครัว , วัสดุสุขภัณฑ์ในห้องน้ำและเฟอร์นิเจอร์ Built-in บางส่วน ในราคาเริ่มต้น 5.49 ล้านบาท แต่ในช่วงโปรโมชั่นโครงการจะให้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเช่นโซฟา โต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้มาด้วยนะ ส่วนเรื่องห้องพักอาศัยจะเป็นแบบฝ้าสูง 4.2 เมตรทุกแบบ ซึ่งเป็นจุดเด่นของโครงการเลย ตอบโจทย์คนที่ชอบอยู่คอนโดแต่อยากได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น เหมาะกับการอยู่ 1-3 คน โดยที่แต่ละแบบมีให้เลือกดังนี้ค่ะ

  • ห้อง 1 Bedroom  ขนาดพื้นที่โฉนด 25.1 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 37.1 ตร.ม.
  • ห้อง 1 Bedroom Plus  ขนาดพื้นที่โฉนด 33.6 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 47 ตร.ม.

สรุปวัสดุภายในห้อง

วัสดุในห้อง

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • วัสดุปูพื้น SPC ความหนา 6 มิลลิเมตร
  • Digital Door Lock ระบบ Finger Print / Key Card /Application / Pin และ กุญแจ
  • วัสดุพื้นระเบียงแกรนิตโต้

ห้องครัว

  • ท็อปเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์
  • Hob , Hood จาก TEKA ระบบหมุนเวียน
  • วัสดุพื้นแกรนิตโต้
  • ตู้บานปิดผิวเมลามีน

ห้องน้ำ

  • โถสุขภัณฑ์ จากยี่ห้อ Kasch
  • อ่างล้างมือ สุขภัณฑ์จากยี่ห้อ Cotto
  • ฝักบัวจากยี่ห้อ Cotto
  • ฉากกั้นอาบน้ำของ Riviera
  • วัสดุพื้นแกรนิตโต้

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom  ขนาดพื้นที่โฉนด 25.1 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 37.1 ตร.ม. 

ห้องตัวอย่างที่โครงการมีให้เราชมจะมี 1 ห้องนะคะ คือห้อง 1 Bedroom ซึ่งเป็น Type ที่มีจำนวนมากที่สุดของโครงการ ฟังก์ชันภายในมีให้ครบตามมาตรฐาน คือ 1ห้องนอน , 1 ห้องน้ำ , 1 ห้องนั่งเล่นและ 1 ห้องครัวแบบปิด เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 1-2 คน

  • ห้องครัวปิด : สามารถทำอาหารได้จริงจัง ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันจะลอยไปบริเวณอื่น
  • ห้องน้ำอยู่ใกล้ประตูหลักทางเข้าห้อง : ใช้งานได้สะดวกเวลากลับมาถึงห้อง
  • ห้องนั่งเล่นอยู่โซนด้านใน :  ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
  • ทุกฟังก์ชันกั้นเป็นสัดส่วนชัดเจน : ทำให้คนใช้งานพื้นที่ได้ โดยไม่รบกวนกัน

ภายในห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ

เริ่มต้นจากประตูทางเข้าห้องทุกยูนิตติดตั้ง Digital Door Lock  ที่รองรับถึง 5 ระบบ ได้แก่ Finger Print / Key Card /Application / Pin และ กุญแจ ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายดี

ทางเข้าห้องมีธรณีประตูเพื่อช่วยกันฝุ่นกันน้ำจากทางเดินส่วนกลางไม่ให้เข้าห้อง

Image 1/2
ห้องครัวแบบปิด

ห้องครัวแบบปิด

ส่วนแรกของห้องพักคือห้องครัวแบบปิด กั้นสัดส่วนแยกกับห้องนั่งเล่นอย่างชัดเจน ทำให้ทำอาหารกลิ่นฉุนๆได้ ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นจะลอยไปห้องอื่นๆ ส่วนตัวพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

โครงการให้ชุด Built-in Pantry มาให้ค่อนข้างครบครัน รวมถึงให้ Built-in  ตู้วางรองเท้าและตู้วางของมา พร้อมเว้นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นด้วย จึงเหลือทางเดินกว้างประมาณ 1 เมตร พอให้คนเดินผ่านขณะที่มีคนทำอาหารอยู่

Image 1/2
ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง

ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง

ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของด้านล่าง ที่มีบานเปิดตู้เก็บของเป็นเมลามีน ทนต่อรอยขีดข่วน และความชื้น ใต้ซิงค์ล้างจานมีพื้นที่สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด พร้อมถังขยะมาให้ โดยที่เวลาเปิดตู้ ตัวถึงขยะจะเด้งออกมาเอง ใช้งานได้สะดวกมากๆเลยค่ะ  นอกจากนี้ยังมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ใช้งานได้ในห้อง ไม่ต้องส่งเสื้อผ้าไปซักที่อื่น

Image 1/4
เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาหาร เตรียมอาหารและซิงค์ล้างจาน

เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาหาร เตรียมอาหารและซิงค์ล้างจาน

ห้องครัวให้ Built-in Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ แข็งแรงทนความร้อน ทนต่อการขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย บริเวณเคาน์เตอร์แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนทำอาหาร ที่ให้เตาไฟฟ้าชนิด 2 หัวเตาพร้อมที่ดูดควันระบบหมุนเวียนของ Teka จึงเหมาะกับการทำอาหารที่กลิ่นและควันไม่ฟุ้งมากนัก ส่วนที่สองคือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารขนาดค่อนข้างกว้าง ใช้เตรียมอุปกรณ์ทำครัวได้สะดวก ส่วนสุดท้ายคือซิงค์ล้างจานที่มีความลึกเป็นพิเศษ เราลองเอาหม้อลงไปวางดู ก็วางได้สบาย ๆ ตัวซิงค์มีความลึกพอที่จะไม่ให้น้ำกระเด็นออกเมื่อใช้งาน

Image 1/4
ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของและช่องใส่ไมโครเวฟ

ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของและช่องใส่ไมโครเวฟ

ตู้ลอยด้านบนจะมีหน้าบานปิดช่วยกันฝุ่น และมีช่องวางไมโครเวฟเตรียมไว้ให้ ดูเรียบร้อยดีค่ะ ในช่วงโปรโมชั่นโครงการจะให้ไมโครเวฟของ Teka มาด้วย เรียกว่าโซนครัวพร้อมใช้งานมากๆเลยค่ะ

Image 1/2
โครงการให้ Built-in  ตู้วางรองเท้าและตู้วางของมาด้วย

โครงการให้ Built-in  ตู้วางรองเท้าและตู้วางของมาด้วย

ฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัว โครงการให้ Built-in  ตู้วางรองเท้าและตู้วางของมา พร้อมที่นั่งใส่รองเท้า ซึ่งอยู่ใกล้กับประตูห้อง เราจึงสามารถถอดรองเท้าแล้วเก็บเข้าตู้ได้เลยหลังจากกลับมาถึงห้อง

Image 1/4
ห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์ของ Cotto และ Kasch มาให้ครบตามมาตรฐาน

ห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์ของ Cotto และ Kasch มาให้ครบตามมาตรฐาน

บริเวณห้องน้ำมีธรณีประตูมากั้นไว้ เพื่อแยกโซนการใช้งานจากตัวห้อง และช่วยให้เวลาล้างห้องน้ำ ไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะกระเด็นออกมาด้านนอก ภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งที่ชัดเจน ทำให้ใช้งานได้ง่าย ตัวพื้นปูด้วยกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร ส่วนชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำโครงการเลือกใช้แบรนด์ Cotto และ Kasch

โถสุขภัณฑ์เป็นแบบฝังผนัง ช่วยประหยัดพื้นที่ภายในห้องน้ำและทำให้เราทำความสะอาดพื้นห้องน้ำได้ง่ายขึ้น ส่วนด้านหลังโถสุขภัณฑ์มีขอบกำแพงสำหรับวางของต่างๆได้ แต่ที่เราชอบที่สุดคือโครงการให้ Smart Mirror ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้  เอาใจคนที่ชอบดูหนัง ฟังเพลงเวลาใช้ห้องน้ำ

Image 1/2
พื้นที่ส่วนอาบน้ำ

พื้นที่ส่วนอาบน้ำ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกของ RIVIERA แบ่งสัดส่วนให้เรียบร้อย ทำให้อาบน้ำได้โดยไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะกระเด็นออกมาภายนอก พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1 × 1 เมตร พร้อมเจาะช่องตรงผนังเพื่อวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ หยิบจับใช้งานได้สะดวก อีกทั้งเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยแล้ว

ฉากกั้นระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่นเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ช่วยกันกลิ่นอาหารลอยไปภายในห้อง และกั้นแอร์จากห้องนั่งเล่นไหลมาห้องครัว ซึ่งประหยัดค่าไฟได้ด้วย

Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่น , พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่ทำงานเข้าด้วยกัน ภายในห้องปูด้วยพื้น SPC หนา 6 มิลลิเมตร กันความชื้นและรองรับการกระแทกได้ดี พื้นที่ตรงนี้จะได้ความสูงฝ้า 4.2 เมตรพร้อมกระจกบานใหญ่ที่สูงเกือบถึงฝ้าเลย ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งและสว่างเป็นพิเศษ ส่วนห้องนอนจะยกไปอยู่ชั้นลอย ทำให้เราใช้พื้นที่ชั้นล่างต้อนรับแขกได้เต็มที่ ไม่รบกวนสมาชิกท่านอื่นที่พักผ่อนอยู่บนห้องนอน จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูงทีเดียว

ส่วนที่ติดกับครัวเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง เราสามารถทำอาหารแล้วนำมาเสิร์ฟได้สะดวก นอกจากนี้เรายังสามารถทานอาหารพร้อมดูทีวีไปเพลินๆได้ด้วย

Image 1/3
บรรยากาศพื้นที่นั่งเล่น

บรรยากาศพื้นที่นั่งเล่น

พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่ วางโซฟา 2-3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะหน้าทีวีเล็กๆ สำหรับวางของกินเวลาดูทีวี พื้นที่ตรงนี้มีระยะดูทีวี ประมาณ 2.9 เมตร  เหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาด 44-46 นิ้ว พอให้รับชมได้อย่างชัดเจน

Image 1/2
โครงการให้ชั้นวางทีวีที่มีช่องเก็บของมาให้ด้วย

โครงการให้ชั้นวางทีวีที่มีช่องเก็บของมาให้ด้วย

ชั้นวางทีวีเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ทางโครงการให้มาด้วย มีช่องเก็บและตู้เก็บของที่มีบานปิดมาให้ ดูเรียบร้อยดี สามารถเก็บของเล็กๆน้อยๆได้

Image 1/2
ตู้เก็บของอยู่ใต้บันไดห้อง

ตู้เก็บของอยู่ใต้บันไดห้อง

ด้านหลังชั้นวางทีวีเป็นตู้เก็บของ ใช้เก็บของขนาดใหญ่ๆ เช่นกระเป๋าเดินทางได้

บริเวณริมหน้าต่างมีพื้นที่เล็กๆ ที่สามารถจัดเป็นมุมทำงานหรืออ่านหนังสือได้ เราสามารถนั่งทำงานพร้อมชมวิวเมือง จะได้รู้สึกสดชื่นและถือเป็นการพักสายตาได้ด้วย

Image 1/3
ประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน

ประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน

ประตูของระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน สามารถเปิดประตูได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน ส่วนพื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.60×1.25 เมตร พอให้เราเดินออกมาสูดอากาศได้ โครงการติดตั้ง Condensing Unit ของแอร์ด้านบน ทำให้ประหยัดพื้นที่ด้านล่าง ส่วนพื้นระเบียงมีการลดระดับลงมาเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลย้อนค่ะ

Image 1/2
บันไดห้องเป็นแบบพาดตรง 1 ตอน

บันไดห้องเป็นแบบพาดตรง 1 ตอน

บันไดขึ้นชั้นลอยอยู่ตรงข้ามระเบียง ตัวบันไดเป็นแบบพาดยาวตอนเดียวไปจนถึงชั้นลอย มีความกว้างประมาณ 0.70 เมตร พอให้ 1 คนเดินขึ้นลงได้ ส่วนขนาดลูกตั้งประมาณ 22 เซนติเมตร และลูกนอนอยู่ที่ 26 เซนติเมตร เราลองเดินแล้วรู้สึกชันเล็กน้อย ต้องระมัดระวังในการเดินขึ้น-ลง แต่โครงการก็มีราวบันไดให้เราจับตลอดแนวเพื่อเสริมความปลอดภัยค่ะ

Image 1/4
บรรยากาศภายในห้องนอน

บรรยากาศภายในห้องนอน

พื้นที่ทั้งหมดของชั้นลอยเป็นห้องนอนที่มีฉากกั้นกระจก เพื่อแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน ช่วยกันไม่ให้แอร์ไหลลงไปสู่ชั้นล่าง ช่วยประหยัดไฟและยังทำให้เราไม่ต้องเสียเงินทำฉากกั้นเพิ่มเติมด้วยนะ

ภายในห้องนอนมีขนาดประมาณ  2.9 x 3.5 เมตรและเพดานสูงประมาณ 2 เมตร โครงการจะให้ฐานเตียง 5 ฟุตมาด้วย เพียงแค่เราซื้อฟูกมาเพิ่มก็ใช้งานได้เลย ส่วนข้างๆเตียงยังมีพื้นที่ให้เราวางโต๊ะเล็กๆ สำหรับวางของ เช่นกระเป๋าตังค์ , มือถือเวลานอนได้

Image 1/3
โครงการให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของ

โครงการให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของ

ข้างๆเตียงโครงการมี Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของมาให้ เก็บเสื้อผ้าและ Accessories ได้ในตู้เดียวกันเลย สะดวกในการหยิบจับ แต่งตัวสุดๆ แนะนำให้ติดตั้งกระจกข้างๆตู้เก็บของนะคะ เพื่อให้เราเช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องได้ง่ายๆ

จากห้องนอนมองลงมาจะเห็นพื้นที่ Common Area ที่ชั้นล่าง ดูสบายตาดีค่ะ แต่ถ้าอยู่กัน 2 คน แนะนำให้ติดตั้งผ้าม่านเพิ่มนะคะ เพื่อกันแสงจากทีวีมารบกวนตอนนอน เวลาที่อีกคนดูหนังอยู่


ห้อง 1 Bedroom Plus เพดานสูง ขนาดพื้นที่โฉนด 33.6 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 47 ตร.ม.

สำหรับห้อง 1 Bedroom Plus จะมีเพียงชั้นละ 3 ห้องเท่านั้นนะ และอยู่ในตำแหน่งหัวมุมอาคารทุกห้อง จึงทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามา 2 ฝั่ง ทำให้ห้องดูสว่างมากกว่าห้องโซนอื่นๆ ห้องนี้จึงกลายเป็นที่ต้องการของคนที่เข้ามาชมโครงการค่ะ

จากผังห้อง เราจะเห็นได้ว่าโซนแรกของห้องเป็นครัวปิดแบบห้อง 1 Bedroom เลย ทำอาหารได้จริงจัง ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันจะลอยไปโซนอื่นๆ ภายในห้องพักจะมีห้องอเนกประสงค์ที่สามารถจัดเป็นห้องนอนเล็กได้ ห้องนี้จะมีระเบียงมาให้ด้วย เหมาะกับคนที่ชอบเดินออกมาสูดอากาศริมระเบียง ส่วนห้องน้ำจะแตกต่างจากห้อง Type แรกเล็กน้อย เพราะย้ายมาอยู่ด้านในห้องบริเวณใกล้ๆห้องอเนกประสงค์ ซึ่งถ้าจัดเป็นห้องนอนเล็กเราจะมาใช้งานห้องน้ำได้ง่ายเวลาตื่นกลางดึก ในขณะเดียวกันคนที่อยู่ใน Common Area ก็เข้าถึงห้องน้ำได้สะดวกด้วย

สำหรับชั้นลอยเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยกระจกมาเรียบร้อย สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้เหมือนกัน แต่ด้วยความที่ชั้นลอยเป็นแนวยาว จึงมีพื้นที่ทำเป็น Walk-in Closet แยกออกมาเป็นสัดส่วนจากห้องนอน พร้อมมีพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้งจัดเป็นมุมแต่งหน้า ทำให้เราแต่งตัวได้สะดวกมากขึ้น

ราคา

So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์)  ราคา ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568

  • ห้อง 1 Bedroom เพดานสูง ขนาดพื้นที่โฉนด 25.1 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 37.1 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.49 ล้านบาท
  • ห้อง 1 Bedroom Plus เพดานสูง ขนาดพื้นที่โฉนด 33.6 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 47 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.49 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted ได้ชั้นอเนกประสงค์ , ชั้นวาง TV , ตู้เสื้อผ้า Built-in
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 4.20 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
  • จอง 5,000 บาท
  • ทำสัญญา 10,000 บาท
  • ค่ากองทุน 750 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 75 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :โครงการตั้งอยู่หัวมุมสี่เเยกเกษตร ทำให้ติดถนนหลัก 2 เส้น คือถนนประเสริฐมนูกิจและถนนพหลโยธิน ตัวโครงการอยู่ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และใกล้กับ BTS สถานีม.เกษตรศาสตร์ จึงตอบโจทย์ทั้งกลุ่มนักศึกษา , บุคลากรในมหาวิทยาลัย , กลุ่มคนที่ทำงานตามแนวรถไฟฟ้าและคนที่ทำงานในละแวกนี้ทั้งโซนลาดพร้าว , ดอนเมือง ทั้งนี้โครงการยังสามารถหาของกินได้ง่ายๆเพราะเยื้องๆโครงการมีตลาดอมรพันธ์อยู่ หรือใครที่อยากไปเดินห้าง ช้อปปิ้งดูหนังก็มีทั้งห้างสรรพสินค้า และ Community Mall ที่อยู่ในระยะ 2-5 กิโลเมตร

การเดินทางโดยใช้รถ : ทางเข้า-ออกของโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ ถือว่าสะดวกกว่าโครงการที่อยู่ในซอยมากเลยนะ ส่วนทางออกของโครงการอยู่ติดกับถนนพหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าไปโซนลาดพร้าว ซึ่งถนนเส้นนี้สามารถเชื่อมต่อกับถนนเส้นสำคัญได้อีกมากมาย เช่น ถนนประเสริฐมนูกิจ , ถนนงามวงศ์วานและถนนรัชดาภิเษก นอกจากนี้ยังใกล้กับกับจุดขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุข ทำให้เราเดินทางไปฝั่งรังสิต , ปทุมธานีหรือ โซนพระราม 9 ได้สะดวก ส่วนใครต้องการเดินทางไปโซนสีลม ก็เดินทางไปใช้ทางด่วนศรีรัชที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการมักนักได้เช่นกัน

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีม.เกษตรศาสตร์ประมาณ 150 เมตรเท่านั้น ลูกบ้านเดินไปใช้รถไฟฟ้าได้สบายๆ ใช้เดินทางเข้าเมืองไปโซนลาดพร้าว , สยาม , อโศกได้ง่าย นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนไปรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เดินทางไปโซนพระราม 9 ได้ด้วย และในอนาคตยังมีแพลนสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลเพิ่มด้วยนะ

ส่วนรถสาธารณะอื่นๆก็มีให้ใช้บริการเช่นกัน ใกล้ที่สุดเลยคือหน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ หรือใครที่ชอบความรวดเร็วก็มีพี่วินอยู่ใกล้ๆ ติดกับ BTS เราสามารถเดินไปใช้บริการได้ไม่ยากเลย ด้วยความที่โครงการมีทางเข้าออกไป 2 ทางคือติดถนนพหลโยธิน , ถนนประเสริฐมนูกิจ เราจึงสามารถเรียกรถTaxi ได้จากถนนทั้ง 2 ฝั่ง

วัสดุ : รูปแบบการขายของโครงการนี้เป็น Fully Fitted ที่ให้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้นมาด้วย ทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อของเข้าห้องไปได้เยอะเหมือนกัน  เหลือแค่ฟูกที่นอนกับเครื่องใช้ไฟฟ้านิดหน่อยก็เข้าอยู่ได้แล้วค่ะ วัสดุต่างๆได้ตามมาตรฐานสมกับราคา มีบางส่วนที่ให้มาพิเศษกว่าที่อื่นๆคือ Smart Mirror กระจกอัจฉริยะ เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ใช้ดูหนังฟังเพลงในห้องน้ำได้

การออกแบบโครงการ : โครงการ So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดในย่าน ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว โครงการจัดผังโครงการได้ดี มีการแบ่งกั้นเขตระหว่างโซนพักอาศัยและโซนส่วนกลางได้ชัดเจน  เราชอบที่อาคารใกล้ๆโครงการมักเป็นตึกสูงไม่เกิน 5 ชั้น โครงการจึงวางผังให้ห้องพักอาศัยอยู่ตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไป ทำให้ลูกบ้านได้วิวแบบเปิดโล่งแทบทุกห้อง ตัวส่วนกลางของโครงการกระจายไว้ 4 ชั้น คือชั้น 1 , 22, 23 และดาดฟ้า ช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้งานส่วนกลางได้ Main Facility จะอยู่ชั้นบนของอาคารทำให้ได้วิวเมืองแบบ 360 องศา

การออกแบบห้องพัก : เน้นเป็นห้อง Type เล็ก คือ 1 Bedroom กับ 1 Bedroom Plus เหมาะอยู่ 1-3 คนได้สบายๆ โดยห้องพักภายในโครงการจะได้ฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตรทุกห้อง ช่วงให้ห้องโปร่งโล่ง นอกจากนี้ยังทำให้การแบ่งแยกพื้นที่ส่วนตัวและ Common Area ได้อย่างชัดเจน เพราะชั้นลอยเป็นห้องนอน ส่วนชั้นล่างของห้องเป็นพื้นที่ต้อนรับแขก ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus อยู่ตำแหน่งหัวมุมอาคาร ได้แสงธรรมชาติ 2 ฝั่ง ทำให้ห้องดูสว่างและโปร่งเป็นพิเศษ

สาธารณูปโภค : Facilities ของโครงการมีมาให้ครบครันน่าใช้งาน โดยแบ่งเป็นโซนทำงานอยู่ชั้น 1 โซน Passive Facilities หรือพื้นที่พักผ่อนอยู่ชั้น 22 ส่วนโซน Active Facilities พวกฟังก์ชันออกกำลังกายอยู่ชั้น 23 และปิดท้ายด้วยสวนดาดฟ้าที่เห็นวิวเมือง 360 องศา แต่ราคาค่าส่วนกลางก็สมน้ำสมเนื้อเช่นกัน 75 บาท/ตร.ม. เพราะเเชร์กับลูกบ้านไม่เยอะด้วยค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 150,000 บาท/ตร.ม., 6 กุมภาพันธ์ 2568

  • ทำเล 8.5/10 – ใกล้ BTS อยู่ตรงข้ามม.เกษตรศาสตร์
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน
  • ไม่ใช้รถ 8.75/10 – ใกล้ BTS เพียง 150 เมตร
  • วัสดุ 7.5/10 – ขายแบบ Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้น ให้ Smart Mirror
  • แบบ 8.25/10 – ยูนิตน้อย เป็นส่วนตัว ห้องพักกั้นเป็นสัดส่วนชัดเจนทุกฟังก์ชัน และได้เพดานสูง 4.20 เมตร
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาครบครันหลากหลาย พื้นที่ส่วนกลางเห็นวิวเมืองเปิดโล่ง

  • UPPER CLASS
  • 8.24 / 10.00

So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) เหมาะกับใคร

โครงการ So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโด ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในระยะเดินถึง ติดทั้งถนนพหลโยธิน , ถนนประเสริฐมนูกิจและใกล้รถไฟฟ้า BTS เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก เราจึงมองว่าเหมาะกับนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยเดินทางไปเรียนหรือทำงานได้สะดวกมากๆ รวมถึงคนที่ทำงานตามแนวรถไฟฟ้าและคนที่ทำงานโซนดอนเมือง ลาดพร้าวด้วย โครงการอยู่ใกล้แหล่งอุดมความสมบูรณ์ หาของกินของใช้ได้ไม่ยากและความเป็นส่วนตัว ยูนิตน้อย ตัวห้องได้ฝ้าเพดานสูง มีช่องแสงขนาดใหญ่ ตอบโจทย์คนที่อยากได้ส่วนกลางวิวเมืองบนชั้นสูงๆ ใครมีงบประมาณเริ่ม 5.49 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนเริ่มต้นประมาณ 38,430 บาท/เดือนก็สามารถจับจ้องได้ค่ะ

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่