
รีวิวฉบับที่ 2809 เปิดตัวโครงการ So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) คอนโด High Rise จาก Origin ทำเลดีตรงข้ามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ใกล้ BTS สถานีม.เกษตรศาสตร์เพียง 150 เมตร ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มนักศึกษาและคนทำงานตามแนวรถไฟฟ้าเลยค่ะ ส่วนตัวห้องจะเป็นแบบเพดานสูง 4.2 เมตรทุกแบบห้อง ราคาเริ่มต้น 5.49 ล้านบาท เมื่อเทียบกับโครงการเพื่อนบ้านที่มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2 ล้านต้นๆไปจนถึง 4 ล้านปลายๆ โครงการนี้ถือว่ามีราคาเป็นอันดับต้นๆในย่านนี้เลยค่ะ แต่ของที่ให้มาก็สมน้ำสมเนื้อกับราคาเช่นกัน จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง เราได้ Highlights ไว้ให้หมดแล้วค่ะ
- ใกล้ BTS สายสีเขียวอ่อนสถานี ม.เกษตรศาสตร์ : ลูกบ้านสามารถเดินไปใช้รถไฟฟ้าได้ในระยะประมาณ 150 เมตร ทำให้เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมากๆเลยค่ะ
- โครงการอยู่ตรงข้าม ม.เกษตรศาสตร์ :นักศึกษาและบุคลากรเดินทางไปเรียนหรือทำงานได้ง่ายมากๆเลยค่ะ
- ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว : โครงการมี 300 ยูนิต เมื่อเทียบกับโครงการรอบข้างที่มียูนิตตั้งแต่ 300 ปลายๆไปจนถึง 700 กว่ายูนิต เราถือว่ามีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดเลยค่ะ โครงการนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว มีเพื่อนบ้านไม่มากนัก
- ห้องแบบเพดานสูง 4.2 เมตร : เหมาะกับคนที่ชอบทำเลแบบคอนโด แต่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น
- ห้องพักอาศัยกั้นเป็นสัดส่วน : ได้ทั้งครัวปิดทำอาหารได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันลอยไปโซนอื่นของห้อง และกั้นห้องนอนชั้นบนให้เรียบร้อย ไม่ต้องเสียเงินทำฉากกั้นเพิ่มเติมค่ะ
ข้อมูลโครงการ
So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) ณ วันที่ 30 มกราคม 2568
ชื่อโครงการ | So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร |
ที่ดิน | 1-3-58.4 ไร่ |
ประเภทคอนโด | High Rise 23 ชั้น |
จำนวนยูนิต | 300 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 150 คัน คิดเป็น 50% แบ่งเป็น Auto Parking 133 คัน และ ที่จอดปกติ ประมาณ 17 คัน |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2566 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2568 |
ประเภทห้องพัก |
|
ราคาเริ่มต้น | 5.49 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 150,000 บาท/ตร.ม. (คิดตามพื้นที่ใช้สอย) |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1498 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlight
- ใกล้ BTS สายสีเขียวอ่อนสถานี ม.เกษตรศาสตร์ : ลูกบ้านสามารถเดินไปใช้รถไฟฟ้าได้ในระยะประมาณ 150 เมตร ทำให้เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมากๆเลยค่ะ
- โครงการอยู่ตรงข้าม ม.เกษตรศาสตร์ : นักศึกษาและบุคลากรเดินทางไปเรียนหรือทำงานได้ง่ายมากๆ หน้าโครงการมีทางม้าลาย ใช้ข้ามถนนได้ปลอดภัยค่ะ
- ใกล้แหล่งของกิน : เยื้องกับโครงการเป็นตลาดอมรพันธ์ ลูกบ้านสามารถเดินไปหาของกินได้ไม่ยากเลย
พิกัด Google Maps : 13.840153734369656, 100.57656172725505
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมสี่แยกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงทำให้ทางเข้า-ออกโครงการติดกับถนนหลัก 2 เส้น คือถนนประเสริฐมนูกิจและถนนพหลโยธิน ทำเลตรงนี้มีความพลุกพล่านพอสมควรค่ะ เพราะใกล้กับรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ประมาณ 100 เมตร นักศึกษาและบุคลากรสามารถเดินข้ามถนนไปเรียนหรือทำงานได้สบายๆ นอกจากนี้โซนนี้ยังตอบโจทย์คนที่ทำงานย่านลาดพร้าวและดอนเมืองอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น เอสซีบี พาร์ค พลาซ่า , การบินไทย , ปตท.สำนักงานใหญ่ รวมถึงโรงพยาบาลเปาโล เกษตรและโรงพยาบาลวิภาวดีที่อยู่ในละแวกนี้
เนื่องจากโครงการนี้อยู่ใกล้กับ BTS ม.เกษตรศาสตร์เพียง 150 เมตร จึงตอบโจทย์กับคนที่ทำงานตามแนวรถไฟฟ้าด้วย ส่วนในเรื่องอาหารการกินก็ไม่ต้องเป็นห่วงเลยค่ะ เพราะเยื้องๆกับโครงการมีตลาดอมรพันธ์อยู่มีร้านค้าร้านอาหารให้เราหาของกินของใช้ได้ง่ายๆ หรือจะเป็นตลาดบางเขนหรือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธินก็อยู่ในระยะไม่เกิน 2 กิโลเมตรเท่านั้น แต่ถ้าหากอยากไปเดินห้างช้อปปิ้งจะมีเซ็นทรัล ลาดพร้าว และยูเนี่ยน มอลล์ที่อยู่ใกล้ที่สุดค่ะ เรียกได้ว่าโซนนี้เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์สูงทีเดียวค่ะ
เส้นทางการเดินทาง
เดินทางด้วยรถไฟฟ้า :
หนึ่งจุดเด่นของโครงการ So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) คือเรื่องของการเดินทางค่ะ เพราะโครงการอยู่ใกล้กับ BTS สายสีเขียวอ่อน สถานีม.เกษตรศาสตร์ประมาณ 150 เมตรเท่านั้น สะดวกในการเดินทางไปไหนมาไหน จึงเหมาะกับคนที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำค่ะ ใช้เดินทางเข้าเมืองไปโซนลาดพร้าว , สยาม และอโศกได้ไม่ยาก หรือใครที่ทำงานย่านพระราม 9 , รัชดาภิเษกก็สามารถขึ้น BTS แล้วไปเปลี่ยนสายมาใช้ MRT เดินทางไปทำงานได้เช่นกัน
นอกจากนี้ในอนาคตประมาณปี 2573 จะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลวิ่งผ่านด้วย ซึ่งรถไฟฟ้าสายนี้จะเริ่มต้นตั้งแต่ศูนย์ราชการนนทบุรีไปจนถึงแยกลำสาลี เดินทางไปงามวงศ์วานหรือบางกะปิได้ไม่ยากเลย
บรรยากาศทางเดินไป BTS ม.เกษตรศาสตร์
ทางเดินระหว่างโครงการไปสถานี BTS ม.เกษตรศาสตร์ เป็นฟุตบาทขนาดกว้างทีเดียว อยู่ติดถนนใหญ่ทำให้มีรถผ่านไปมา และริมทางยังมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่ตลอดแนว จึงทำให้ไม่เปลี่ยว เดินได้อย่างปลอดภัย ส่วนแผ่นปูพื้นก็เรียบร้อย ไม่มีน้ำขัง เดินได้สะดวกเลย สำหรับ BTS สถานีนี้จะแบ่งทางขึ้นลงไว้คนละทาง โดยทางขึ้น BTS จะอยู่ใกล้กับโครงการมากกว่าและใช้เป็นบันไดเลื่อน เรามองว่าสะดวกดีเวลารีบมาขึ้น BTS ในช่วงเร่งด่วนค่ะ แต่ทางลงจะเป็นบันไดธรรมดาที่อยู่ห่างจากทางขึ้นเล็กน้อย
สำหรับใครที่ไม่อยากเดินกลับ หรือวันไหนที่มีสัมภาระเยอะๆจะใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ด้านหน้าทางลง BTS ก็สะดวกเช่นกัน
เดินทางด้วยรถยนต์ :
เส้นทางไปจุดขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุข (ไปพระราม 9)
สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก สามารถไปขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุขฝั่งมุ่งหน้าไปรังสิตในระยะ 3.5 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปโซนรังสิต , ปทุมธานีได้สบายๆ หรือใครต้องการเดินทางไปในเมืองโซนพระราม 9 ก็สามารถไปใช้ทางยกระดับอุตราภิมุขฝั่งมุ่งหน้าไปโซนพระราม 9 ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4.2 กิโลเมตรได้ ส่วนคนที่ต้องการเดินทางไปโซนสีลมแนะนำให้ใช้ทางด่วนศรีรัชที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 6.9 กิโลเมตร
เราจึงมองว่าโครงการนี้รองรับกลุ่มคน 3 กลุ่มเป็นหลักคือ กลุ่มนักศึกษารวมถึงบุคลากรของมหาวิทยาลัย , กลุ่มคนที่ทำงานตามแนวรถไฟฟ้าเป็นหลัก และกลุ่มคนที่ทำงานในละแวกนี้ ที่ทำงานโซนลาดพร้าว , ดอนเมือง
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
ภาพรวมบรรยากาศโดยรอบโครงการ
โครงการ So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) ตั้งอยู่ติดกับถนนประเสริฐมนูกิจและถนนพหลโยธิน รอบๆโครงการมีสถานที่ราชการทั้งกรมทหารบกและมหาวิทยาลัย ทำให้ไม่มีตึกสูงมาบดบังในระยะประชิด ส่วนในระยะใกล้เป็นอาคารที่สูงไม่เกิน 5 ชั้นเท่านั้น
- ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับ อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น , อาคารพักอาศัย 5 ชั้น , คอนโด 23 ชั้น
- ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับ กรมทหารบก , อาคารพาณิชย์ 2-3 ชั้น , คอนโด 26 ชั้น
- ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับ ม.เกษตรศาสตร์
- ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับ อาคารพาณิชย์ 2-3 ชั้น , อาคารพักอาศัย 5 ชั้น
ฝั่งทางเข้าโครงการติดกับถนนประเสริฐมนูกิจ ฝั่งตรงข้ามเป็นกรมทหารบก
ฝั่งทางออกจากโครงการติดกับถนนพหลโยธิน มีทางม้าลายด้านหน้าโครงการด้วย
โครงการแยกทางเข้าและทางออกเป็นคนละฝั่งกัน โดยที่ฝั่งทางเข้าโครงการติดกับถนนประเสริฐมนูกิจ ฝั่งมุ่งหน้าไปทางนวมินทร์ ส่วนฝั่งทางออกจากโครงการติดกับถนนพหลโยธิน ใกล้กับสี่แยกเกษตรศาสตร์
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ท็อปส์ สาขา เกษตร ~ 1.8 กิโลเมตร
- เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ~ 1.8 กิโลเมตร
- จ๊อด แฟร์ แดนเนรมิต ~ 2.6 กิโลเมตร
- โลตัส ลาดพร้าว ~ 3.3 กิโลเมตร
- อเวนิว รัชโยธิน ~ 3.8 กิโลเมตร
- เซ็นทรัล ลาดพร้าว ~ 4.4 กิโลเมตร
- ยูเนี่ยน มอลล์ ~ 4.4 กิโลเมตร
- ตลาดนัดจตุจักร ~ 6.1 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลเปาโล เกษตร ~ 700 เมตร
- โรงพยาบาลวิภาวดี ~ 1.7 กิโลเมตร
สำนักงาน
- เอสซีบี พาร์ค พลาซ่า ~ 2.6 กิโลเมตร
- การบินไทย ~ 4.4 กิโลเมตร
- ปตท.สำนักงานใหญ่ ~ 4.5 กิโลเมตร
- ตรีเพชรอีซูซุ สำนักงานใหญ่ ~ 5.6 กิโลเมตร
- ไทยรัฐ ~ 6.2 กิโลเมตร
โรงเรียน
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 100 เมตร
- โรงเรียนสารวิทยา ~ 1.8 กิโลเมตร
- โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 2.20 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ~ 3.0 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยศรีปทุม ~ 3.8 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น ~ 3.9 กิโลเมตร
- โรงเรียนหอวัง ~ 4.2 กิโลเมตร
การเดินทาง
- BTS (สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ~ 150 เมตร
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว : โครงการมี 300 ยูนิต เมื่อเทียบกับโครงการรอบข้างที่มียูนิตตั้งแต่ 300 ปลายๆไปจนถึง 700 กว่ายูนิต เราถือว่ามีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดเลยค่ะ โครงการนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว มีเพื่อนบ้านไม่มากนัก
- Sky Facility : 3 ชั้นบนสุดของโครงการ ทำให้ได้วิวเมืองโดยรอบ ไม่มีอาคารสูงบังในระยะประชิด
So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) เป็นคอนโดมิเนียม High Rise 23 ชั้น บนเนื้อที่ประมาณ 1-3-58.4 ไร่ รวม 300 ยูนิต เมื่อเทียบกับโครงการเพื่อนบ้านที่มี 300 ปลายๆถึง700 กว่ายูนิตแล้ว โครงการนี้ถือว่ามีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดเลยค่ะ ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว และลูกบ้านแชร์ส่วนกลางกับเพื่อนบ้านในจำนวนไม่เยอะ ใช้งานได้สะดวก ไม่แออัดค่ะ
โครงการเลือกที่จะจัดพื้นที่ส่วนกลางไว้ 4 ชั้นเพื่อกระจายความหนาแน่นในการใช้งานค่ะ โดยแบ่งดังนี้ ชั้น 1 เป็น Lobby รวมถึงพื้นที่ทำงานหลากหลายแบบ และที่จอดรถแบบปกติ ส่วนที่จอดรถแบบ Auto Parking จะใช้พื้นที่ตั้งแต่ชั้น 2-6
สำหรับ Facility อื่นๆจะอยู่ 3 ชั้นบนสุดของอาคาร เริ่มต้นที่ชั้น 22 จะเป็น Social Lounge , Private Dining , Private Style Atelier และ Soul Massage & Spa ส่วนชั้น 23 เป็น Main Facility ของโครงการค่ะ มีทั้ง Fitness , สระว่ายน้ำและ Lounge สุดท้ายคือดาดฟ้าของโครงการเป็นสวนส่วนกลาง ด้วยความที่ห้องพักของโครงการเป็นห้องเพดานสูง ทำให้อาคารของโครงการสูงกว่าคอนโดรอบข้าง สวนบนดาดฟ้าจึงได้วิวแบบเปิดโล่งค่ะ ส่วนห้องพักอาศัยจะอยู่ตั้งแต่ชั้น 7-22 เลยค่ะ
เริ่มจาก Masterplan กันเลยค่ะ โครงการแยกทางเข้า-ทางออกไว้อยู่คนละฝั่งกัน และจัดทางเดินรถภายในโครงการเป็น One Way โดยลูกบ้านสามารถเข้าโครงการได้จากประตูฝั่งถนนประเสริฐมนูกิจ แล้ววนไปออกฝั่งถนนพหลโยธิน ก่อนถึงซุ้มประตูโครงการจะมีที่จอดรถสำหรับ Vistor แขกที่มาเยี่ยมเยียนสามารถจอดรถบริเวณนี้ได้ ส่วนซุ้มประตูโครงการอยู่ถัดเข้ามาในโครงการเล็กน้อย เพื่อให้รถยนต์มีที่รอเวลาแลกบัตรเข้าโครงการ ทำให้การจราจรหน้าโครงการไม่ติดขัด
โครงการใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียน หมายความว่ารถยนต์ที่เข้าออกได้จะเป็นลูกบ้านเท่านั้น สำหรับที่จอดรถภายในโครงการมีมากถึง 50% แบ่งเป็นที่จอดรถแบบปกติ 17 คัน โดยจอดใต้อาคาร ไม่ต้องจอดรถตากแดดลมฝน แต่ถ้าที่จอดรถรอบๆอาคารเต็มเราก็สามารถจอดรถแบบ Auto Parking ได้
ชั้น 1 เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ไม่มีห้องพักอาศัยอยู่เลยค่ะ เรามองว่าเป็นข้อดีเพราะลูกบ้านจะได้ความเป็นส่วนตัวและรู้สึกปลอดภัยด้วยค่ะ
ทางเข้าโครงการ
เมื่อเข้ามาภายในโครงการ จะมีทางแยกสำหรับไปยังที่จอดรถของสำหรับผู้มาติดต่อ จึงไม่ต้องแลกบัตรที่ซุ้มประตู สามารถเดินไปรอเพื่อนที่ Lobby ได้เลย ส่วนลูกบ้านจะต้องผ่านซุ้มประตูโครงการโดยใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียน
บรรยากาศที่จอดรถรอบๆอาคาร
ลูกบ้านที่ใช้รถยนต์สามารถขับไปจอดรอบๆอาคารได้ โดยที่จอดรถเป็นแบบเพดานสูง ใช้จอดรถที่มีความสูงพิเศษ เช่น Alphard ได้ด้วยนะคะ ก่อนจะวนไป Auto Parking โครงการจะมีป้ายโชว์จำนวนที่จอดรถที่เหลืออยู่ให้เราทราบ ส่วนทางออกจากโครงการมีระบบรักษาความปลอดภัยเหมือนซุ้มประตูหน้าโครงการเลย
บรรยากาศทางเข้า Auto Parking
สำหรับที่จอดรถแบบ Auto Parking จะมีทางเข้าอยู่ข้างๆ Lobby แยกช่องสำหรับที่จอดรถธรรมดากับที่จอดรถ SUV เมื่อนำรถจอดแล้ว เราต้องมาสแกนบัตรเพื่อส่งรถขึ้นชั้นบนค่ะ
บรรยากาศสวนส่วนกลาง
ข้างๆทางออกโครงการมีสวนส่วนกลางอยู่ ลูกบ้านสามารถออกมานั่งพักผ่อน สูดอากาศได้ โดยที่ตัวสวนมีการแยกส่วนจากทางเดินรถ ทำให้เราใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ทางเข้า Lobby อาคารฝั่งใกล้ซุ้มประตูโครงการ
การเข้าถึงอาคารจะต้องใช้ระบบสแกนใบหน้าหรือจะสแกนบัตรก่อนถึงผ่านเข้าไปได้ค่ะ ดังนั้นเพื่อนของเราจะเข้ามารอด้านใน Lobby ไม่ได้ ถ้าเรายังไม่ลงมารับจึงต้องนัดแนะกันดีๆนะคะ
บรรยากาศภายใน Lobby อาคาร
บรรยากาศ Lobby ในอาคาร มีพื้นที่ให้ลูกบ้านลงมานั่งเล่น พบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ ในกรณีที่ไม่สะดวกให้แขกขึ้นไปบนห้อง หรือจะมานั่งทำงานได้ ด้านข้างเป็นผนังกระจก มองออกไปเห็นวิวสวนของโครงการ ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ผ่อนคลาย
ภายใน Lobby มีเครื่องสแกนบัตร สำหรับรับรถที่จอด Auto Parking เราสามารถสแกนบัตรแล้วรอรับรถใน Lobby เย็นๆซึ่งเราสอบถามจากโครงการมาแล้วว่าน่าจะรอไม่เกิน 3 นาที
ชั้น 1 ถือว่ามีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทำงานที่หลากหลายทีเดียว เริ่มจากห้อง Live Streaming Room ที่ตอบโจทย์ Lifestyle ของคนยุคใหม่มากเลยค่ะ ลูกบ้านสามารถใช้มาไลฟ์สด ขายของหรือทำ Content ได้สบายๆ
ข้างๆกับห้อง Live Streaming Room เป็นห้อง Conference Room ลูกบ้านสามารถจองห้องเพื่อใช้ประชุมกันกลุ่มเล็กๆ ไม่เกิน 6 คนได้ พร้อมมีจอ Present ให้ครบ
นอกจากนี้ยังมีมุมทำงานส่วนตัวอีกด้วยนะ มีทั้งห้องทำงานสำหรับคนที่ต้องการ โฟกัสกับงานมากๆ และพื้นที่ทำงานที่มองออกไปเห็นสวน ใช้เป็นจุดพักสายตาได้เวลาเหนื่อยล้าจากการทำงาน
ห้องน้ำส่วนกลางแบ่งเป็นห้องน้ำทั่วไปกับห้องน้ำผู้สูงอายุ
ห้องน้ำส่วนกลางของชั้น 1 แบ่งเป็นห้องน้ำผู้สูงอายุที่มีขนาดใหญ่ ผู้สูงอายุสามารถเข็นวีลเเชร์มาใช้งานได้สบายๆ ส่วนห้องน้ำทั่วไปไม่ได้แบ่งชาย-หญิงจึงมีทั้งโถสุขภัณฑ์และโถปัสสาวะให้ใช้งานในห้องเดียวกัน
ภายใน Lobby มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่ออาคารคิดเป็น 150 : 1 ถือเป็นสัดส่วนที่ยังไม่หนาแน่นมาก แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนก็แนะนำให้เผื่อเวลารอลิฟต์สักนิดนะคะ
ภายในลิฟต์ดูกว้างขวางและสว่างดี มีการเสริมความปลอดภัยด้วยการติดตั้งกล้อง CCTV ไว้ให้ และต้องใช้ Key card จึงมีแค่ลูกบ้านเท่านั้นที่จะใช้ได้
ชั้น 7- 21 เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด และมีการวางผังอาคารที่เหมือนกันเลยค่ะ โดยจัดให้ห้อง Type ใหญ่ อย่าง 1 Bedroom Plus อยู่หัวมุมอาคาร โดยเรามองว่ามีตำแหน่งห้องพักที่น่าสนใจ 5 โซนดังนี้
- โซนกรอบสีน้ำเงิน ที่อยู่ใกล้ลิฟต์ ใช้งานขึ้น-ลงได้สะดวก นอกจากนี้ยังไปใช้ส่วนกลางของชั้นอื่นๆได้สะดวก เหมาะกับคนที่ชอบความรวดเร็วในการออกจากอาคาร และชอบใช้ Facility ส่วนกลางบ่อยๆ
- โซนกรอบสีเหลือง ที่ได้ความเป็นส่วนตัว เพราะไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม และไม่ตรงกับหน้าโถงลิฟต์ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีคนเดินผ่านไปมาตลอด
- โซนกรอบสีน้ำแดง ที่ได้วิวฝั่งม.เกษตรศาสตร์แบบเปิดโล่ง ทำให้เจ้าของห้องโซนนี้รู้สึกสดชื่นมากขึ้นค่ะ แต่แดดช่วงบ่ายก็แรงเช่นกัน
- โซนกรอบสีเขียว อยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ ได้แดดดีในช่วงเช้า แต่ไม่ร้อนในช่วงบ่ายด้วยค่ะ ทำให้แอร์ไม่ทำงานหนักมากนัก เวลาเปิดตอนกลับมาถึงห้อง ช่วยประหยัดค่าไฟอีกด้วย
- โซนกรอบสีส้ม คือห้องไซส์ใหญ่อยู่หัวมุมอาคาร ได้แสงธรรมชาติจากทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้ห้องดูสว่างกว่าห้องพักมุมอื่นๆ ทั้งยังช่วยประหยัดไฟฟ้าช่วงกลางวัน
บรรยากาศโถงลิฟต์ของชั้นพักอาศัย
หน้าโถงลิฟต์มีความกว้างทีเดียวค่ะ แล้วยังมีพื้นที่สำหรับพักคอยเวลารอลิฟต์ด้วย เราชอบที่โครงการนี้นำตู้จดหมายมาไว้หน้าโถงลิฟต์แต่ละชั้น เราไม่ต้องเสียเวลาแวะไปเอาจดหมายที่ห้องนิติบุคคลหรือโซน Mail Box เลย เพราะตู้จดหมายอยู่ในโซนที่เราต้องผ่านเข้า-ออกทุกวันอยู่แล้ว แวะเอาจดหมายได้สะดวกเลย
บรรยากาศทางเดินในอาคาร ชั้น 17 ดูสว่างดี
ส่วนชั้นที่ 22 มีทั้ง Facilities ของโครงการคือ Social Lounge , Private Dining , Private Style Atelier และ Soul Massage & Spa นอกจากนี้ยังมีห้องพักอาศัยของลูกบ้านด้วย ชั้นนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบมาใช้พื้นที่ส่วนกลางจัดงานเลี้ยงเล็กๆ หรือชอบนวดเพื่อผ่อนคลายบ่อยๆค่ะ เราชอบที่โครงการจัดผังให้พื้นที่ส่วนกลางหันหน้าไปฝั่งม.เกษตรศาสตร์ทั้งหมด ซึ่งเป็นวิวที่เปิดโล่งเห็น เห็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เพราะมหาวิทยาลัยนี้ขึ้นชื่อเรื่องมีพื้นที่สีเขียวมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศเลยนะ
สำหรับห้องพักอาศัยของชั้นนี้ เรามองว่ามีโซนที่น่าสนใจอยู่ 4 โซนด้วยกันคือ
- โซนกรอบสีน้ำเงิน ที่อยู่ใกล้ลิฟต์ ใช้งานขึ้น-ลงได้สะดวก นอกจากนี้ยังไปใช้ส่วนกลางของภายในชั้นได้สะดวก เหมากับคนที่ชอบมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง
- โซนกรอบสีน้ำแดงเป็นโซนที่ได้ Benefit จากส่วนกลางมากที่สุดสำหรับชั้นนี้ ได้วิวฝั่งม.เกษตรศาสตร์แบบเปิดโล่ง
- โซนกรอบสีเขียว อยู่ฝั่งที่ได้แดดดีในช่วงเช้า และไม่ร้อนในช่วงบ่ายด้วยค่ะ ทำให้แอร์ไม่ทำงานหนักมากนัก เวลาเปิดตอนกลับมาถึงห้อง ช่วยประหยัดค่าไฟอีกด้วย
- โซนกรอบสีส้ม ซึ่งเป็น Rare item ของโครงการ เพราะเป็นห้องที่อยู่ตำแหน่งหัวมุมอาคาร ที่ได้วิวดีทั้ง 2 ฝั่ง และเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ที่เป็นห้องขนาดใหญ่ของโครงการอีกด้วย
บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์
โถงลิฟต์มีขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็นพื้นที่สำหรับส่วนกลางและโซนห้องพัก แต่ลูกบ้านที่พักอาศัยในชั้นนี้ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เพราะโครงการกั้นประตูแบ่งสัดส่วนให้ชัดเจน ใครจะผ่านไปได้ต้องใช้ Key card หมายความว่าคนที่ผ่านเข้าไปได้ต้องเป็นคนที่พักอาศัยในชั้นนี้เท่านั้น จึงไม่เสียความเป็นส่วนตัวค่ะ
บรรยากาศภายใน Social Lounge
เรามาดูบรรยากาศ Main Facilities ของโครงการ เริ่มจาก Social Lounge กันนะคะ เป็นห้องที่ลูกบ้านสามารถมาใช้พักผ่อนได้ตามอัธยาศัย มีมุม Pantry เล็กๆ ให้เราเตรียมอาหารง่ายๆ เพื่อกินระหว่างพักผ่อนด้วยนะคะ แต่ที่เราชอบคือเราสามารถจองห้องและปิดใช้เป็นพื้นที่ส่วนตัวได้ด้วยนะ เช่น เวลานัดเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆมาดูหนัง ก็ได้ใช้พื้นที่ตรงนี้แบบเป็นส่วนตัวเลย
พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดของชั้นบน จะหันไปทางม.เกษตรศาสตร์ เห็นพื้นที่สีเขียว มองเเล้วรู้สึกสดชื่นมากเลยนะ
บรรยากาศห้อง Private Dinning Room
ด้านในห้อง Social Lounge เป็น Private Dinning Room ที่มีการกั้นสัดส่วนที่ชัดเจน เราสามารถจองเฉพาะส่วนนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนครัวที่เราสามารถจ้างเชฟส่วนตัวมาทำอาหารให้กินได้ด้วย เวลามีปาร์ตี้เล็กๆกับเพื่อน เราสามารถทานอาหารพร้อมชมวิวเมืองไปพร้อมๆกันได้เลย
หนึ่งฟังก์ชันที่เราไม่ค่อยได้เห็นคือ Private Style Atelier เป็นพื้นที่สำหรับแต่งหน้าและแต่งตัว เวลาเรามีไปงานต่างๆก็สามารถนัดช่างแต่งหน้ามาใช้ห้องนี้ได้ ทั้งยังรองรับเพื่อนๆที่มารอแต่งหน้าได้อีกด้วย
บรรยากาศห้อง Soul Massage and Spa
ฟังก์ชันสุดท้ายของชั้นนี้คือห้อง Soul Massage & Spa สำหรับคนที่ชอบนวดผ่อนคลาย ลูกบ้านสามารถจ้างพนักงานนวดมาบริการได้เป็นคู่ เพราะโครงการมีเตียงสำหรับนวดไว้ให้ 2 เตียง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำและแต่งตัวด้วย หลังจากนวดเสร็จก็ล้างตัวเปลี่ยนชุดได้เลย
ส่วนชั้น 23 เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งชั้น Facilities เน้นเป็น Active Facilities เอาใจคนที่ชอบออกกำลังกาย มีทั้ง Fitness , สระว่ายน้ำแบบ Outdoor และ Lounge นอกจากนี้ทุกฟังก์ชันยังสามารถมองเห็นวิวเมืองอีกด้วย
โถงหน้าลิฟต์ชั้นนี้มีความกว้างพอๆกับชั้น 22 เลย จากโถงนี้สามารถเข้าถึงฟังก์ชันหลักทั้ง 3 ห้องได้เลย
บรรยากาศภายในห้อง Fitness
ห้องฟิตเนสมีขนาดใหญ่วางเครื่องออกกำลังได้ประมาณ 10 เครื่อง รองรับการออกกำลังกายทั้งแบบ Cardio หรือ Weight training เราสามารถออกกำลังกายไปพร้อมมองวิวเมืองสวยๆ ช่วยให้การออกกำลังกายไม่น่าเบื่อ ใครที่ชอบออกกำลังกายคงถูกใจมุมนี้เป็นพิเศษ นอกจากนี้โครงการยังเตรียมพื้นที่สำหรับนั่งรอเครื่องเล่นด้วย
ภายใน Fitness มีห้องอเนกประสงค์
ห้องอเนกประสงค์ภายใน Fitness มีขนาดใหญ่ เหมาะกับการใช้เล่นโยคะหรือซ้อมเต้น ภายในห้องมีกระจกบานใหญ่ในเราค่อยมองเช็คความถูกต้องของท่าทาง แต่ที่เราชอบคือห้องติดตั้งกระจกที่มองจากภายนอกไม่เห็น ทำให้เราไม่เขินอายเวลามีคนมองเข้ามา ขณะที่เรากำลังเต้นหรือทำกิจกรรม
บรรยากาศห้อง Oxygen Lounge
Lounge จะแบ่งออกเป็น 2 ห้องค่ะ คือ Oxygen Lounge กับ Salt Lounge ทั้งสองห้องเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน แต่มีความแตกต่างกันเล็กน้อย คือห้อง Oxygen Lounge จะมีเก้าอี้นวดเพื่อผ่อนคลาย และติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้ ส่วนห้อง Salt Lounge จะติดตั้งผนังหินเกลือหิมาลายัน ซึ่งช่วยเรื่องการอาการนอนไม่หลับและความเครียดค่ะ
ห้องน้ำส่วนกลาง
เมื่อเดินออกมานอกอาคารจะมีห้องน้ำส่วนกลางที่แบ่งฝั่งชาย-หญิงไว้ ภายในมีทั้ง Locker , ห้องอาบน้ำและห้องน้ำไว้ในครบ เมื่อว่ายน้ำหรือออกกำลังกายเสร็จสามารถมาอาบน้ำล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลย นอกจากนี้ยังมีห้อง Aroma Steam สำหรับคนที่อยากมานั่งผ่อนคลายนั่นเอง
สระว่ายน้ำส่วนกลาง
สระว่ายน้ำกลางแจ้งมีขนาด 5 x 26.5 เมตร ลูกบ้านใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้อย่างจริงจัง และนับว่าเป็นขนาดที่ใช้งานได้โดยไม่อึดอัดเมื่อต้องแชร์กับลูกบ้าน 300 ยูนิตสระว่ายน้ำมีส่วน Aqua Exercise Equipment และ Jacuzzi ให้อย่างเพียบพร้อม เราแนะนำให้มาใช้งานเวลาช่วงเย็นเพราะแดดไม่ร้อนมากนัก
ข้างๆสระว่ายน้ำมีพื้นที่อาบน้ำด้านนอกมาให้ 1 จุด
ชั้นดาดฟ้าของอาคารเป็นสวนส่วนกลางที่มองเห็นวิวเมืองแบบ 360 แต่ชั้นนี้จะไม่มีลิฟต์นะ เราต้องลงลิฟต์ที่ชั้น 23 แล้วเดินขึ้นทางบันไดหนีไฟมาเท่านั้น
บรรยากาศสวนชั้นดาดฟ้า
สวนบนดาดฟ้าเป็นแบบเปิดโล่ง เห็นวิวเมือง 360 องศา เหมาะกับการใช้เป็นมุมพักผ่อนชมพระอาทิตย์ตกตอนเย็นหรือขึ้นมาสูดอากาศเวลาเช้าๆค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
ชั้น 1
- สวนหย่อม
- Lobby
- Private Working
- Conference Room
- Live Streaming Room
ชั้น 22
- Social Lounge
- Private Dining
- Private Style Atelier
- Soul Massage & Spa
ชั้น 23
- สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 5 x 26.5 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- มี Aqua Exercise Equipment และ Jacuzzi
- ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
- Salt Lounge
- Oxygen Lounge
ชั้นดาดฟ้า
- สวนหย่อมบนดาดฟ้า
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 150 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 150 คันคิดเป็น 50%
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / ระบบจดจำป้ายทะเบียน / Key Card / Face Scan
แบบบ้าน
Highlight
- ห้องแบบเพดานสูง 4.2 เมตร : เหมาะกับคนที่ชอบอยู่คอนโด แต่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น
- ห้องพักอาศัยกั้นเป็นสัดส่วน : ได้ทั้งครัวปิดทำอาหารได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันลอยไปโซนอื่นของห้อง และกั้นห้องนอนชั้นบนให้เรียบร้อย ไม่ต้องเสียเงินทำฉากกั้นเพิ่มเติมค่ะ
- ห้อง 1 Bedroom Plus อยู่หัวมุมอาคาร : จึงได้วิวและแสงธรรมชาติ 2 ฝั่ง ห้องพักอาศัยจึงสว่างและดูโปร่งเป็นพิเศษ
- Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้น : ช่วยประหยัดงบในการตกแต่งห้อง
โครงการ So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) ขายแบบ Fully Fitted จะได้เฟอร์นิเจอร์เฉพาะชุดครัว , วัสดุสุขภัณฑ์ในห้องน้ำและเฟอร์นิเจอร์ Built-in บางส่วน ในราคาเริ่มต้น 5.49 ล้านบาท แต่ในช่วงโปรโมชั่นโครงการจะให้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเช่นโซฟา โต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้มาด้วยนะ ส่วนเรื่องห้องพักอาศัยจะเป็นแบบฝ้าสูง 4.2 เมตรทุกแบบ ซึ่งเป็นจุดเด่นของโครงการเลย ตอบโจทย์คนที่ชอบอยู่คอนโดแต่อยากได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น เหมาะกับการอยู่ 1-3 คน โดยที่แต่ละแบบมีให้เลือกดังนี้ค่ะ
- ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 25.1 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 37.1 ตร.ม.
- ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 33.6 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 47 ตร.ม.
สรุปวัสดุภายในห้อง
วัสดุในห้อง
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- วัสดุปูพื้น SPC ความหนา 6 มิลลิเมตร
- Digital Door Lock ระบบ Finger Print / Key Card /Application / Pin และ กุญแจ
- วัสดุพื้นระเบียงแกรนิตโต้
ห้องครัว
- ท็อปเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์
- Hob , Hood จาก TEKA ระบบหมุนเวียน
- วัสดุพื้นแกรนิตโต้
- ตู้บานปิดผิวเมลามีน
ห้องน้ำ
- โถสุขภัณฑ์ จากยี่ห้อ Kasch
- อ่างล้างมือ สุขภัณฑ์จากยี่ห้อ Cotto
- ฝักบัวจากยี่ห้อ Cotto
- ฉากกั้นอาบน้ำของ Riviera
- วัสดุพื้นแกรนิตโต้
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 25.1 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 37.1 ตร.ม.
ห้องตัวอย่างที่โครงการมีให้เราชมจะมี 1 ห้องนะคะ คือห้อง 1 Bedroom ซึ่งเป็น Type ที่มีจำนวนมากที่สุดของโครงการ ฟังก์ชันภายในมีให้ครบตามมาตรฐาน คือ 1ห้องนอน , 1 ห้องน้ำ , 1 ห้องนั่งเล่นและ 1 ห้องครัวแบบปิด เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 1-2 คน
- ห้องครัวปิด : สามารถทำอาหารได้จริงจัง ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันจะลอยไปบริเวณอื่น
- ห้องน้ำอยู่ใกล้ประตูหลักทางเข้าห้อง : ใช้งานได้สะดวกเวลากลับมาถึงห้อง
- ห้องนั่งเล่นอยู่โซนด้านใน : ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
- ทุกฟังก์ชันกั้นเป็นสัดส่วนชัดเจน : ทำให้คนใช้งานพื้นที่ได้ โดยไม่รบกวนกัน
ภายในห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ
เริ่มต้นจากประตูทางเข้าห้องทุกยูนิตติดตั้ง Digital Door Lock ที่รองรับถึง 5 ระบบ ได้แก่ Finger Print / Key Card /Application / Pin และ กุญแจ ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายดี
ทางเข้าห้องมีธรณีประตูเพื่อช่วยกันฝุ่นกันน้ำจากทางเดินส่วนกลางไม่ให้เข้าห้อง
ห้องครัวแบบปิด
ส่วนแรกของห้องพักคือห้องครัวแบบปิด กั้นสัดส่วนแยกกับห้องนั่งเล่นอย่างชัดเจน ทำให้ทำอาหารกลิ่นฉุนๆได้ ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นจะลอยไปห้องอื่นๆ ส่วนตัวพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
โครงการให้ชุด Built-in Pantry มาให้ค่อนข้างครบครัน รวมถึงให้ Built-in ตู้วางรองเท้าและตู้วางของมา พร้อมเว้นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นด้วย จึงเหลือทางเดินกว้างประมาณ 1 เมตร พอให้คนเดินผ่านขณะที่มีคนทำอาหารอยู่
ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง
ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของด้านล่าง ที่มีบานเปิดตู้เก็บของเป็นเมลามีน ทนต่อรอยขีดข่วน และความชื้น ใต้ซิงค์ล้างจานมีพื้นที่สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด พร้อมถังขยะมาให้ โดยที่เวลาเปิดตู้ ตัวถึงขยะจะเด้งออกมาเอง ใช้งานได้สะดวกมากๆเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ใช้งานได้ในห้อง ไม่ต้องส่งเสื้อผ้าไปซักที่อื่น
เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาหาร เตรียมอาหารและซิงค์ล้างจาน
ห้องครัวให้ Built-in Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ แข็งแรงทนความร้อน ทนต่อการขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย บริเวณเคาน์เตอร์แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนทำอาหาร ที่ให้เตาไฟฟ้าชนิด 2 หัวเตาพร้อมที่ดูดควันระบบหมุนเวียนของ Teka จึงเหมาะกับการทำอาหารที่กลิ่นและควันไม่ฟุ้งมากนัก ส่วนที่สองคือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารขนาดค่อนข้างกว้าง ใช้เตรียมอุปกรณ์ทำครัวได้สะดวก ส่วนสุดท้ายคือซิงค์ล้างจานที่มีความลึกเป็นพิเศษ เราลองเอาหม้อลงไปวางดู ก็วางได้สบาย ๆ ตัวซิงค์มีความลึกพอที่จะไม่ให้น้ำกระเด็นออกเมื่อใช้งาน
ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของและช่องใส่ไมโครเวฟ
ตู้ลอยด้านบนจะมีหน้าบานปิดช่วยกันฝุ่น และมีช่องวางไมโครเวฟเตรียมไว้ให้ ดูเรียบร้อยดีค่ะ ในช่วงโปรโมชั่นโครงการจะให้ไมโครเวฟของ Teka มาด้วย เรียกว่าโซนครัวพร้อมใช้งานมากๆเลยค่ะ
โครงการให้ Built-in ตู้วางรองเท้าและตู้วางของมาด้วย
ฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัว โครงการให้ Built-in ตู้วางรองเท้าและตู้วางของมา พร้อมที่นั่งใส่รองเท้า ซึ่งอยู่ใกล้กับประตูห้อง เราจึงสามารถถอดรองเท้าแล้วเก็บเข้าตู้ได้เลยหลังจากกลับมาถึงห้อง
ห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์ของ Cotto และ Kasch มาให้ครบตามมาตรฐาน
บริเวณห้องน้ำมีธรณีประตูมากั้นไว้ เพื่อแยกโซนการใช้งานจากตัวห้อง และช่วยให้เวลาล้างห้องน้ำ ไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะกระเด็นออกมาด้านนอก ภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งที่ชัดเจน ทำให้ใช้งานได้ง่าย ตัวพื้นปูด้วยกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร ส่วนชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำโครงการเลือกใช้แบรนด์ Cotto และ Kasch
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบฝังผนัง ช่วยประหยัดพื้นที่ภายในห้องน้ำและทำให้เราทำความสะอาดพื้นห้องน้ำได้ง่ายขึ้น ส่วนด้านหลังโถสุขภัณฑ์มีขอบกำแพงสำหรับวางของต่างๆได้ แต่ที่เราชอบที่สุดคือโครงการให้ Smart Mirror ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ เอาใจคนที่ชอบดูหนัง ฟังเพลงเวลาใช้ห้องน้ำ
พื้นที่ส่วนอาบน้ำ
ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกของ RIVIERA แบ่งสัดส่วนให้เรียบร้อย ทำให้อาบน้ำได้โดยไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะกระเด็นออกมาภายนอก พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1 × 1 เมตร พร้อมเจาะช่องตรงผนังเพื่อวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ หยิบจับใช้งานได้สะดวก อีกทั้งเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยแล้ว
ฉากกั้นระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่นเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ช่วยกันกลิ่นอาหารลอยไปภายในห้อง และกั้นแอร์จากห้องนั่งเล่นไหลมาห้องครัว ซึ่งประหยัดค่าไฟได้ด้วย
Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่น , พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่ทำงานเข้าด้วยกัน ภายในห้องปูด้วยพื้น SPC หนา 6 มิลลิเมตร กันความชื้นและรองรับการกระแทกได้ดี พื้นที่ตรงนี้จะได้ความสูงฝ้า 4.2 เมตรพร้อมกระจกบานใหญ่ที่สูงเกือบถึงฝ้าเลย ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งและสว่างเป็นพิเศษ ส่วนห้องนอนจะยกไปอยู่ชั้นลอย ทำให้เราใช้พื้นที่ชั้นล่างต้อนรับแขกได้เต็มที่ ไม่รบกวนสมาชิกท่านอื่นที่พักผ่อนอยู่บนห้องนอน จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูงทีเดียว
ส่วนที่ติดกับครัวเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง เราสามารถทำอาหารแล้วนำมาเสิร์ฟได้สะดวก นอกจากนี้เรายังสามารถทานอาหารพร้อมดูทีวีไปเพลินๆได้ด้วย
บรรยากาศพื้นที่นั่งเล่น
พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่ วางโซฟา 2-3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะหน้าทีวีเล็กๆ สำหรับวางของกินเวลาดูทีวี พื้นที่ตรงนี้มีระยะดูทีวี ประมาณ 2.9 เมตร เหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาด 44-46 นิ้ว พอให้รับชมได้อย่างชัดเจน
โครงการให้ชั้นวางทีวีที่มีช่องเก็บของมาให้ด้วย
ชั้นวางทีวีเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ทางโครงการให้มาด้วย มีช่องเก็บและตู้เก็บของที่มีบานปิดมาให้ ดูเรียบร้อยดี สามารถเก็บของเล็กๆน้อยๆได้
ตู้เก็บของอยู่ใต้บันไดห้อง
ด้านหลังชั้นวางทีวีเป็นตู้เก็บของ ใช้เก็บของขนาดใหญ่ๆ เช่นกระเป๋าเดินทางได้
บริเวณริมหน้าต่างมีพื้นที่เล็กๆ ที่สามารถจัดเป็นมุมทำงานหรืออ่านหนังสือได้ เราสามารถนั่งทำงานพร้อมชมวิวเมือง จะได้รู้สึกสดชื่นและถือเป็นการพักสายตาได้ด้วย
ประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน
ประตูของระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน สามารถเปิดประตูได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน ส่วนพื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.60×1.25 เมตร พอให้เราเดินออกมาสูดอากาศได้ โครงการติดตั้ง Condensing Unit ของแอร์ด้านบน ทำให้ประหยัดพื้นที่ด้านล่าง ส่วนพื้นระเบียงมีการลดระดับลงมาเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลย้อนค่ะ
บันไดห้องเป็นแบบพาดตรง 1 ตอน
บันไดขึ้นชั้นลอยอยู่ตรงข้ามระเบียง ตัวบันไดเป็นแบบพาดยาวตอนเดียวไปจนถึงชั้นลอย มีความกว้างประมาณ 0.70 เมตร พอให้ 1 คนเดินขึ้นลงได้ ส่วนขนาดลูกตั้งประมาณ 22 เซนติเมตร และลูกนอนอยู่ที่ 26 เซนติเมตร เราลองเดินแล้วรู้สึกชันเล็กน้อย ต้องระมัดระวังในการเดินขึ้น-ลง แต่โครงการก็มีราวบันไดให้เราจับตลอดแนวเพื่อเสริมความปลอดภัยค่ะ
บรรยากาศภายในห้องนอน
พื้นที่ทั้งหมดของชั้นลอยเป็นห้องนอนที่มีฉากกั้นกระจก เพื่อแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน ช่วยกันไม่ให้แอร์ไหลลงไปสู่ชั้นล่าง ช่วยประหยัดไฟและยังทำให้เราไม่ต้องเสียเงินทำฉากกั้นเพิ่มเติมด้วยนะ
ภายในห้องนอนมีขนาดประมาณ 2.9 x 3.5 เมตรและเพดานสูงประมาณ 2 เมตร โครงการจะให้ฐานเตียง 5 ฟุตมาด้วย เพียงแค่เราซื้อฟูกมาเพิ่มก็ใช้งานได้เลย ส่วนข้างๆเตียงยังมีพื้นที่ให้เราวางโต๊ะเล็กๆ สำหรับวางของ เช่นกระเป๋าตังค์ , มือถือเวลานอนได้
โครงการให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของ
ข้างๆเตียงโครงการมี Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของมาให้ เก็บเสื้อผ้าและ Accessories ได้ในตู้เดียวกันเลย สะดวกในการหยิบจับ แต่งตัวสุดๆ แนะนำให้ติดตั้งกระจกข้างๆตู้เก็บของนะคะ เพื่อให้เราเช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องได้ง่ายๆ
จากห้องนอนมองลงมาจะเห็นพื้นที่ Common Area ที่ชั้นล่าง ดูสบายตาดีค่ะ แต่ถ้าอยู่กัน 2 คน แนะนำให้ติดตั้งผ้าม่านเพิ่มนะคะ เพื่อกันแสงจากทีวีมารบกวนตอนนอน เวลาที่อีกคนดูหนังอยู่
ห้อง 1 Bedroom Plus เพดานสูง ขนาดพื้นที่โฉนด 33.6 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 47 ตร.ม.
สำหรับห้อง 1 Bedroom Plus จะมีเพียงชั้นละ 3 ห้องเท่านั้นนะ และอยู่ในตำแหน่งหัวมุมอาคารทุกห้อง จึงทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามา 2 ฝั่ง ทำให้ห้องดูสว่างมากกว่าห้องโซนอื่นๆ ห้องนี้จึงกลายเป็นที่ต้องการของคนที่เข้ามาชมโครงการค่ะ
จากผังห้อง เราจะเห็นได้ว่าโซนแรกของห้องเป็นครัวปิดแบบห้อง 1 Bedroom เลย ทำอาหารได้จริงจัง ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันจะลอยไปโซนอื่นๆ ภายในห้องพักจะมีห้องอเนกประสงค์ที่สามารถจัดเป็นห้องนอนเล็กได้ ห้องนี้จะมีระเบียงมาให้ด้วย เหมาะกับคนที่ชอบเดินออกมาสูดอากาศริมระเบียง ส่วนห้องน้ำจะแตกต่างจากห้อง Type แรกเล็กน้อย เพราะย้ายมาอยู่ด้านในห้องบริเวณใกล้ๆห้องอเนกประสงค์ ซึ่งถ้าจัดเป็นห้องนอนเล็กเราจะมาใช้งานห้องน้ำได้ง่ายเวลาตื่นกลางดึก ในขณะเดียวกันคนที่อยู่ใน Common Area ก็เข้าถึงห้องน้ำได้สะดวกด้วย
สำหรับชั้นลอยเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยกระจกมาเรียบร้อย สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้เหมือนกัน แต่ด้วยความที่ชั้นลอยเป็นแนวยาว จึงมีพื้นที่ทำเป็น Walk-in Closet แยกออกมาเป็นสัดส่วนจากห้องนอน พร้อมมีพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้งจัดเป็นมุมแต่งหน้า ทำให้เราแต่งตัวได้สะดวกมากขึ้น
ราคา
So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) ราคา ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568
- ห้อง 1 Bedroom เพดานสูง ขนาดพื้นที่โฉนด 25.1 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 37.1 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.49 ล้านบาท
- ห้อง 1 Bedroom Plus เพดานสูง ขนาดพื้นที่โฉนด 33.6 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 47 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.49 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Fitted ได้ชั้นอเนกประสงค์ , ชั้นวาง TV , ตู้เสื้อผ้า Built-in
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 4.20 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 10,000 บาท
- ค่ากองทุน 750 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 75 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :โครงการตั้งอยู่หัวมุมสี่เเยกเกษตร ทำให้ติดถนนหลัก 2 เส้น คือถนนประเสริฐมนูกิจและถนนพหลโยธิน ตัวโครงการอยู่ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และใกล้กับ BTS สถานีม.เกษตรศาสตร์ จึงตอบโจทย์ทั้งกลุ่มนักศึกษา , บุคลากรในมหาวิทยาลัย , กลุ่มคนที่ทำงานตามแนวรถไฟฟ้าและคนที่ทำงานในละแวกนี้ทั้งโซนลาดพร้าว , ดอนเมือง ทั้งนี้โครงการยังสามารถหาของกินได้ง่ายๆเพราะเยื้องๆโครงการมีตลาดอมรพันธ์อยู่ หรือใครที่อยากไปเดินห้าง ช้อปปิ้งดูหนังก็มีทั้งห้างสรรพสินค้า และ Community Mall ที่อยู่ในระยะ 2-5 กิโลเมตร
การเดินทางโดยใช้รถ : ทางเข้า-ออกของโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ ถือว่าสะดวกกว่าโครงการที่อยู่ในซอยมากเลยนะ ส่วนทางออกของโครงการอยู่ติดกับถนนพหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าไปโซนลาดพร้าว ซึ่งถนนเส้นนี้สามารถเชื่อมต่อกับถนนเส้นสำคัญได้อีกมากมาย เช่น ถนนประเสริฐมนูกิจ , ถนนงามวงศ์วานและถนนรัชดาภิเษก นอกจากนี้ยังใกล้กับกับจุดขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุข ทำให้เราเดินทางไปฝั่งรังสิต , ปทุมธานีหรือ โซนพระราม 9 ได้สะดวก ส่วนใครต้องการเดินทางไปโซนสีลม ก็เดินทางไปใช้ทางด่วนศรีรัชที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการมักนักได้เช่นกัน
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีม.เกษตรศาสตร์ประมาณ 150 เมตรเท่านั้น ลูกบ้านเดินไปใช้รถไฟฟ้าได้สบายๆ ใช้เดินทางเข้าเมืองไปโซนลาดพร้าว , สยาม , อโศกได้ง่าย นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนไปรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เดินทางไปโซนพระราม 9 ได้ด้วย และในอนาคตยังมีแพลนสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลเพิ่มด้วยนะ
ส่วนรถสาธารณะอื่นๆก็มีให้ใช้บริการเช่นกัน ใกล้ที่สุดเลยคือหน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ หรือใครที่ชอบความรวดเร็วก็มีพี่วินอยู่ใกล้ๆ ติดกับ BTS เราสามารถเดินไปใช้บริการได้ไม่ยากเลย ด้วยความที่โครงการมีทางเข้าออกไป 2 ทางคือติดถนนพหลโยธิน , ถนนประเสริฐมนูกิจ เราจึงสามารถเรียกรถTaxi ได้จากถนนทั้ง 2 ฝั่ง
วัสดุ : รูปแบบการขายของโครงการนี้เป็น Fully Fitted ที่ให้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้นมาด้วย ทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อของเข้าห้องไปได้เยอะเหมือนกัน เหลือแค่ฟูกที่นอนกับเครื่องใช้ไฟฟ้านิดหน่อยก็เข้าอยู่ได้แล้วค่ะ วัสดุต่างๆได้ตามมาตรฐานสมกับราคา มีบางส่วนที่ให้มาพิเศษกว่าที่อื่นๆคือ Smart Mirror กระจกอัจฉริยะ เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ใช้ดูหนังฟังเพลงในห้องน้ำได้
การออกแบบโครงการ : โครงการ So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดในย่าน ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว โครงการจัดผังโครงการได้ดี มีการแบ่งกั้นเขตระหว่างโซนพักอาศัยและโซนส่วนกลางได้ชัดเจน เราชอบที่อาคารใกล้ๆโครงการมักเป็นตึกสูงไม่เกิน 5 ชั้น โครงการจึงวางผังให้ห้องพักอาศัยอยู่ตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไป ทำให้ลูกบ้านได้วิวแบบเปิดโล่งแทบทุกห้อง ตัวส่วนกลางของโครงการกระจายไว้ 4 ชั้น คือชั้น 1 , 22, 23 และดาดฟ้า ช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้งานส่วนกลางได้ Main Facility จะอยู่ชั้นบนของอาคารทำให้ได้วิวเมืองแบบ 360 องศา
การออกแบบห้องพัก : เน้นเป็นห้อง Type เล็ก คือ 1 Bedroom กับ 1 Bedroom Plus เหมาะอยู่ 1-3 คนได้สบายๆ โดยห้องพักภายในโครงการจะได้ฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตรทุกห้อง ช่วงให้ห้องโปร่งโล่ง นอกจากนี้ยังทำให้การแบ่งแยกพื้นที่ส่วนตัวและ Common Area ได้อย่างชัดเจน เพราะชั้นลอยเป็นห้องนอน ส่วนชั้นล่างของห้องเป็นพื้นที่ต้อนรับแขก ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus อยู่ตำแหน่งหัวมุมอาคาร ได้แสงธรรมชาติ 2 ฝั่ง ทำให้ห้องดูสว่างและโปร่งเป็นพิเศษ
สาธารณูปโภค : Facilities ของโครงการมีมาให้ครบครันน่าใช้งาน โดยแบ่งเป็นโซนทำงานอยู่ชั้น 1 โซน Passive Facilities หรือพื้นที่พักผ่อนอยู่ชั้น 22 ส่วนโซน Active Facilities พวกฟังก์ชันออกกำลังกายอยู่ชั้น 23 และปิดท้ายด้วยสวนดาดฟ้าที่เห็นวิวเมือง 360 องศา แต่ราคาค่าส่วนกลางก็สมน้ำสมเนื้อเช่นกัน 75 บาท/ตร.ม. เพราะเเชร์กับลูกบ้านไม่เยอะด้วยค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 150,000 บาท/ตร.ม., 6 กุมภาพันธ์ 2568
- ทำเล 8.5/10 – ใกล้ BTS อยู่ตรงข้ามม.เกษตรศาสตร์
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน
- ไม่ใช้รถ 8.75/10 – ใกล้ BTS เพียง 150 เมตร
- วัสดุ 7.5/10 – ขายแบบ Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้น ให้ Smart Mirror
- แบบ 8.25/10 – ยูนิตน้อย เป็นส่วนตัว ห้องพักกั้นเป็นสัดส่วนชัดเจนทุกฟังก์ชัน และได้เพดานสูง 4.20 เมตร
- สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาครบครันหลากหลาย พื้นที่ส่วนกลางเห็นวิวเมืองเปิดโล่ง
- UPPER CLASS
- 8.24 / 10.00
So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) เหมาะกับใคร
โครงการ So Origin Kaset Interchange (โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์) เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโด ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในระยะเดินถึง ติดทั้งถนนพหลโยธิน , ถนนประเสริฐมนูกิจและใกล้รถไฟฟ้า BTS เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก เราจึงมองว่าเหมาะกับนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยเดินทางไปเรียนหรือทำงานได้สะดวกมากๆ รวมถึงคนที่ทำงานตามแนวรถไฟฟ้าและคนที่ทำงานโซนดอนเมือง ลาดพร้าวด้วย โครงการอยู่ใกล้แหล่งอุดมความสมบูรณ์ หาของกินของใช้ได้ไม่ยากและความเป็นส่วนตัว ยูนิตน้อย ตัวห้องได้ฝ้าเพดานสูง มีช่องแสงขนาดใหญ่ ตอบโจทย์คนที่อยากได้ส่วนกลางวิวเมืองบนชั้นสูงๆ ใครมีงบประมาณเริ่ม 5.49 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนเริ่มต้นประมาณ 38,430 บาท/เดือนก็สามารถจับจ้องได้ค่ะ
ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่