สำหรับใครที่กำลังเล็งคอนโดพร้อมอยู่ในย่านพระราม 9 มีงบประมาณ 2 ล้านนิดๆ วันนี้ Walk-in รีวิว ขอพาไปดูคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ใกล้แยกพระราม 9 อย่าง Aspire อโศก – รัชดา จาก AP คอนโด Low Rise ใน ซ.รัชดาภิเษก 3 ที่ทำออกมาสู้ราคากับคอนโด High-Rise ในละแวกนี้ ที่ปัจจุบันกำลังเตรียมเปิดตึกกัน โดยจุดเด่นของโครงการที่เรามองเห็น มีดังนี้นะ
- ราคา : ปัจจุบันตึกเสร็จพร้อมอยู่ ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท หรือ 86,698 บาท/ตร.ม. และราคาเฉลี่ยรวมทั้งโครงการประมาณ 90,000 บาท/ตร.ม. ถือว่าถูกกว่าโครงการอื่นๆในละแวก แต่ก็ตามมาด้วยจำนวนยูนิตที่เยอะกว่า รวมถึงพื้นที่จอดรถเพียง 37% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- จำนวนยูนิต : โครงการมีห้องพักอาศัย 1,025 ยูนิต ที่แม้จะดูเยอะกว่าคอนโด Low Rise ในซอยเดียวกัน แต่บรรยากาศภายในโครงการก็ไม่รู้สึกอึดอัด เพราะโครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 11 ไร่กว่า ที่มากสุดในซอย พร้อมแบ่งออกมาเป็น 6 อาคาร ที่ทำให้ยูนิตต่อชั้นไม่มากจนเกินไป
- พื้นที่ส่วนกลาง : เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการนี้เลย นอกจากราคาถูกแล้ว ส่วนกลางยังจัดเต็มสมกับจำนวนยูนิต โดยมีสระว่ายน้ำทั้งหมด 2 จุด Lap Pool 30 เมตร, Bubble Pool 20 เมตร, สวนหย่อม 2 จุด, ฟิตเนส (Cardio, Weight Training, Yoga, TRX, Boxing), Co-working Space และ Multi-function เป็นต้น
- ทำเลดี : โครงการตั้งอยู่ซ. รัชดาภิเษก 3 หรือซอยสถานทูตจีน ที่ความอุดมสมบูรณ์ครบครัน ใกล้แยกพระราม 9 ที่เป็นแหล่งสำนักงานเกรด A และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ นอกจากนี้ยังเดินทางสะดวก มีทั้งรถไฟฟ้า ซอยลัด และทางด่วน ซึ่งข้อดีคือแม้เราไม่อยู่เอง ก็สามารถปล่อยเช่าคนทำงานได้นะ โดยเฉลี่ยค่าเช่าประมาณ 7,000-10,000 บาท/เดือน
โครงการนี้เรามองว่าเหมาะกับคนที่มองหาคอนโดราคาไม่แรง ในทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้า ความอุดมสมบูรณ์ครบ พิสูจน์ได้จากคอนโดที่เปิดตัวส่วนใหญ่เป็นคอนโดระดับ UPPER-SUPER LUXURY CLASS กันหมด และเปิดสร้างติดๆกันแสดงให้เห็นว่าย่านนี้มีความต้องการอยู่อาศัยพอสมควร แต่สำหรับคนที่มีงบน้อย โครงการยังดึงราคาไว้ที่ระดับ MAIN CLASS เพื่อให้หยิบจับได้ง่าย อาคารมีสไตล์ชัดเจน(Classical + Colonial) พร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ส่วนจะเหมาะกับเราไหมนั้น ไปดูกันต่อในรีวิวนี้กันค่ะ ^^
ข้อมูลโครงการ
Fact @ 7 OCTOBER 2020
- Aspire Asoke-Ratchada (แอสปาย อโศก-รัชดา)
- บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด ( มหาชน )
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : ซอยรัชดาภิเษก3 เขตดินแดง
- ที่ดินประมาณ 11 -0-41.1 ไร่ ทั้งหมด 1,025 ยูนิต + ร้านค้า 3 ร้าน
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 6 อาคาร + Commercial Building 2 ชั้น
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 31 ยูนิต ที่อาคาร A,B
- ที่จอดรถประมาณ 387 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 38%
- Studio 25 ตร.ม.
- 1 Bedroom 30-35 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus 35 ตร.ม.
- 2 Bedrooms 49.5-51 ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
- เริ่มก่อสร้าง : Q2/2562
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q4/2563
- ราคาห้องเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท (25.16 ตร.ม.) / หรือตร.ม.ละ 55,715 บาท
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 90,000 บาท/ตร.ม.
- Website โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 1623
ทำเลที่ตั้ง
ทำเลที่ตั้ง
โครงการ Aspire อโศก – รัชดา ตั้งอยู่บนในซอยรัชดาภิเษก3 ใกล้กับแยกพระราม 9 อยู่ตรงกลางระหว่างรถไฟฟ้า MRTพระราม9 และ MRTศูนย์วัฒนธรรม(จุด Interchange สายสีส้ม) ประมาณ 1.2 กม. ประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับทำเลของโครงการมีดังนี้ค่ะ
- บรรยากาศบริเวณแยกพระราม 9 กำลังมาแรง คึกคัก เพราะมีทั้งสำนักงานเกรด A คอนโดมิเนียม โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้าต่างๆมากมาย ที่นานวันยิ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลายคนก็เรียกย่านนี้เป็น NEW-CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพ
- ซอยรัชดาภิเษก 3 อยู่ฝั่งเดียวกับ Fortune Town ที่ซอยฝั่งนี้จะคล้ายกับรังมด เนื่องจากสามารถทะลุไป-มาได้หมด สามารถลัดเลาะไปออกถนนหลักได้ถึง 4 เส้น ได้แก่ ถนนวิภาวดี-รังสิต, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนสุทธิสารวินิจฉัย และถนนดินแดง ที่เอาไว้หลีกเลี่ยงรถติด
- ต้องบอกก่อนว่าย่านนี้ความเป็นเมืองมาก ทำให้ถนนรอบโครงการในช่วงเวลาเร่งด่วน มักมีปริมาณรถค่อนข้างหนาแน่น ไม่น่าขับรถทั้งช่วงเช้าเข้างาน และเย็นหลังเลิกงานเลย ดังนั้นการเดินด้วยรถไฟฟ้าจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ใช้เดินทางเป็นหลักแทนได้
- โครงการอยู่ในแนวรถไฟฟ้าที่ไม่ได้อยู่ในระยะเดินได้สบาย ห่างไปประมาณ 1.2 ม. ที่ถือว่าค่อนข้างไกล เดินไปเหงื่อท่วมตัวแน่นอน แต่ก็ไม่น่าเป็นปัญหาเพราะด้านหน้าโครงการ มีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการ ราคา 15-20 บาทเท่านั้น
- สำหรับใครเคยมีโอกาสได้เข้ามาภายในซอยรัชดาภิเษก 3 จะทราบดีว่าเป็นซอยที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า และร้านอาหารมากมาย เนื่องจากทำเลนี้เป็นแหล่งชุมชน ทำให้หาของกินง่ายมากๆ
พิกัด Google Maps : 13.764288, 100.561039
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
Aspire อโศก – รัชดา ตั้งอยู่บนในซอยรัชดาภิเษก 3 ฝั่งขาออกเมือง หรือฝั่งเดียวกันกับ Fortune Town นะคะ ซึ่งถ้าเราวิ่งมาจากถนนอโศกให้เลี้ยวซ้าย ซอยแรกหลังจากผ่านตึกฟอร์จูน(ก่อนถึงสถานทูตจีน) ซอยนี้มีความน่าสนใจตรงที่เป็นซอยที่เชื่อมออกถนนหลักได้ถึง 4 เส้น ทำให้ไปไหนมาไหนได้สะดวก โดยไม่ต้องไปเสียเวลารถติดบนถนน
รถไฟฟ้า ตัวโครงการจะอยู่ระหว่าง MRTพระราม 9 และ MRTศูนย์วัฒนธรรม(เป็นจุด Interchange สายสีส้ม) ที่ห่างไปประมาณ 1.2 กม. หรือนั่ง MRTเพชรบุรี ก็จะเชื่อมกับ Airport Link มักกะสัน ที่วิ่งเข้าสนามบินสุวรรณภูมิได้ไม่กี่นาที นอกจากนี้ก็มีทั้งรถเมล์ พี่วินมอเตอร์ไซค์ และแท็กซี่ให้เลือกใช้งาน
ความอุดมสมบูรณ์ อย่างที่เรารู้ดีย่านนี้หลักจะเกาะบริเวณถนนรัชดาภิเษก โดยโครงการเราใกล้กลับ เซ็นทรัลพระราม 9 และฟอร์จูนทาวน์ ที่เปิดมานานมากๆแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีแผนจะเปิดตึก Super Tower ที่ตั้งใจทำเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย นอกนั้นก็ขยับไปตามแนวถนนรัชดาภิเษก ส่วนออฟฟิศที่อยู่ใกล้ก็มีทั้ง G Tower, Unilever, ตึกหลักทรัพย์ SET, ตึกสำนักงาน AIA เป็นต้น ส่วนภายในซอยนี้ มีอาหารการกินเยอะมาก คนคึกคักเดินขวักไขว่ทั้ง 2 ข้างทาง ซึ่งอาจจะเห็นคนจีนเยอะหน่อย เพราะหน้าปากซอยมีสถานทูตจีนนั่นเองค่ะ
โครงการที่อยู่ในซอย
ทีนี้เราลองมาดูโครงการที่อยู่ใกล้แยกพระราม 9 กันดูบ้าง หลักๆที่เราหาข้อมูลมาเป็นคอนโดที่ยังมีห้องมือ 1 ขายอยู่ โดยสังเกตบริเวณใกล้แยกทั้งหมด(สีเขียว) จะเป็นคอนโด High Rise ทั้งหมด ที่เข้าได้จากถนนหลักทั้งถนนรัชดาภิเษก และถนนดินแดง โดยช่วงราคาเริ่มต้นมีตั้งแต่ 3.20-7.59 ล้านบาท หรือช่วงราคาเฉลี่ย 125,000-250,000 บาท/ตร.ม. ระดับ UPPER-LUXURY CLASS ซึ่งตึกสูงเราจะไม่เอามาเทียบกับโครงการโดยตรง แต่ที่ชนกันจริงๆคือคอนโด Low Rise ที่อยู่ในซอยเดียวกัน ที่ทำเลแทบไม่แตกต่างกัน
- Maestro 03 รัชดา-พระราม9 จาก Major เป็นคอนโด Low Rise ใกล้ MRTพระราม9 ที่สุดในซอยประมาณ 750 เมตร หน้าตาออกแบบในสไตล์ European Classic ทั้งหมด 335 ยูนิต โดยห้องเริ่มต้นขนาดใหญ่ 1 Bedroom 29 ตร.ม. ราคา 3.4 ล้านบาท หรือประมาณ 117,241 บาท/ตร.ม. ที่ราคาสูงกว่าตัว Aspire ซึ่งราคา 3 ล้านกว่าบาท เราจะได้ห้องขนาด 35 ตร.ม. แต่ก็เทียบกันตรงๆไม่ได้ เพราะมาเอสโตรขายแบบ Fully Furnished ข้อดีคือไม่ต้องเสียค่าเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติม รวมถึง Layout ห้องที่นี่จัดได้เป็นสัดส่วนดี
- Groove รัชดา-พระราม 9 จาก Divine เป็นคอนโด Low Rise เน้นความเป็นส่วนตัวเพียง 154 ยูนิต แต่บรรยากาศภายในไม่ค่อยโปร่งมานัก เพราะตั้งอยู่บนที่ดิน 357 ตร.วาเท่านั้น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง แล้วเสร็จปลายปี 63 ห้องเริ่มต้นขนาดเล็ก 1 Bedroom 23.94 ตร.ม. ราคา 2.88 ล้านบาท หรือประมาณ 120,300 บาท/ตร.ม. ที่ราคาสูง แต่ก็ขายแบบ Fully Furnished ที่ไม่ต้องแต่งเพิ่มเช่นกัน ส่วน Facilities ยกไปไว้ชั้นดาดฟ้า ที่มองเห็นวิวสูงของโครงการได้ แม้ไม่ได้อยู่ชั้นสูงมากนัก
- Aspire อโศก – รัชดา จาก AP คอนโด Low Rise 6 อาคาร ที่เปิดตัวราคาเพียง 2.19 ล้านบาท Studio ขนาด 25.26 ตร.ม. หรือประมาณ 86,698 บาท/ตร.ม. ที่ราคาถูกสุด แต่ก็เป็นโครงการที่ขายแบบ Fully Fitted ที่ต้องเตรียมเงินค่าตกแต่งเพิ่ม และเป็นโครงการที่มีห้องพักอาศัยเยอะ 1,025 ยูนิต แต่สิ่งที่ให้มาทดแทนคือพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ มีสระว่ายน้ำให้ 2 สระ และสวนหย่อม 2 จุด เป็นต้น ส่วนแบบห้องไม่ได้โดดเด่นมากนัก วัสดุต่างๆได้ตามมาตรฐาน AP ห้องน้ำสำเร็จรูป
ผู้อ่านดูโครงการอื่นแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างคะ? เราว่าถ้ามีงบประมาณ 2 ล้านนิดๆ และต้องการอยู่ย่านพระราม 9 แล้วมีงบประมาณจำกัด ไม่ซีเรียสที่ระยะห่างรถไฟฟ้ามากหน่อย เน้นพื้นที่ส่วนกลาง บรรยากาศโปร่งโล่ง โอบล้อมด้วยอาคารพักอาศัย ที่ช่วยบดบังสายตาจากคนภายนอก ได้ความเป็นส่วนตัวดี แบบห้องและวัสดุตามมาตรฐาน AP ทั้งนี้ถ้าใครสนใจ แนะนำให้แวะเข้าไปชมโครงการก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ
รายละเอียดโครงการ
Project Overview
- โครงการมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 1,025 ยูนิต ที่เยอะกว่าคอนโด Low Rise ด้วยกัน แต่ด้วยตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 11 ไร่กว่า แถมการกระจายอาคารออกเป็น 6 ตึก ทำให้แต่ละอาคารไม่หนาแน่นจนเกินไป ยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่ ยกตัวอย่าง ตึก F มีเพียง 57 ยูนิต
- พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ จัดเต็มสมกับจำนวนยูนิตที่เยอะ โดยมีสระว่ายน้ำทั้งหมด 2 จุด Lap Pool 30 เมตร, Sanctuary Bubble Pool 20 เมตร, สวนหย่อม 2 จุด, ฟิตเนส (Cardio, Weight Training, Yoga, TRX, Boxing), Co-working Space และ Multi-function เป็นต้น
- ที่จอดรถ 37% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ที่ดูไม่เยอะมากเมื่อเทียบกับโครงการในละแวก แต่ด้วยลักษณะที่จอดรถชั้นล่างทั้งหมด ทำให้สามารถจอดซ้อนคันได้เยอะอยู่นะ
สำหรับโครงการนี้มาสไตล์ชัดเจน โดยเลือกให้มีการผสมผสานระหว่าง Classical + Colonial พร้อมจัดพื้นที่สีเขียวมาในสไตล์อังกฤษ ที่ยิ่งทำให้บรรยากาศภายในมีกลิ่นอายสไตล์ยุโรป หรูหรา ดูทันสมัยดี
Aspire อโศก – รัชดา เป็นคอนโด Low rise สูง 8 ชั้น 6 อาคาร บนที่ดิน 11 ไร่กว่า เท่าที่สังเกตจากอาคารรอบๆโครงการแล้ว หนาแน่นทีเดียว ซึ่งการรวบรวมที่ดินขนาดใหญ่แบบนี้ได้ในพื้นที่ชุมชนดั้งเดิมถือว่าหาได้ยากทีเดียว โดยโครงการเลือกวางตัวอาคารล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้แต่ละอาคารมีระยะห่างกันพอสมควร แถมเวลาเดินอยู่ภายในโครงการเรามองแทบไม่เห็นพื้นที่ภายนอกเลยค่ะ ส่วนตัวรู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาอีกที่หนึ่งเลยค่ะ ต้องบอกก่อนว่าสำหรับคอนโด Low Rise คงไม่ได้คาดหวังวิวภายนอก แต่เน้นวิวภายในโครงการมากกว่านะคะ
สำหรับทุกอาคารมี Lobby แยกเข้า-ออกของตัวเอง ตัวอาคารแยกจากกันชัดเจนไม่มีส่วนที่เชื่อมต่อกัน โดยตำแหน่งการวางอาคาร มีดังนี้
- ตึก F – เป็นตึกที่ใกล้ทางเข้าออกมากที่สุด แถมเป็นตึกที่มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้านล่าง ซึ่งเดินไปใช้งานได้ง่ายกว่าตึกอื่นๆ แถมมีห้องพักอาศัยเพียง 57 ยูนิตที่ได้ความเป็นส่วนตัว โดยห้องพักอาศัยเริ่มต้น 1 Bedroom 35 ตร.ม.ขึ้นไป ไม่มีห้อง Studio ให้เลือกสำหรับตึกนี้
- ตึก A,B,D – เป็นตึกรูปตัว L ที่มีจำนวนห้องพักอาศัยมากที่สุด คือตึกละ 216 ยูนิต ซึ่งพอห้องพักอาศัยเยอะ แต่ลิฟต์โดยสารมี 2 ตัว ทำให้อัตราส่วนการใช้งาน 108:1 ค่อนข้างหนาแน่น แต่ก็ยังไม่เยอะจนเกินไปเพราะเกิน 100 ไปนิดเดียว ซึ่งในบรรดาตึกทั้งหมด ตึก F จะอยู่ไกลพื้นที่ส่วนกลางมากที่สุดนะคะ
- ตึก E – เป็นตึกที่มีห้องพักอาศัยน้อยรองมาจากตึก F ทั้งหมด 153 ยูนิต ที่อยู่ใกล้ๆตึก F เดินใช้งานส่วนกลางได้ง่าย แต่ต้องข้ามถนนหน่อยนะ มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ 77: 1 หนาแน่นน้อย
- ตึก C – เป็นตึกที่อยู่ใกล้ตึก F ที่ไม่ต้องเดินข้ามถนน โดยตึกนี้มีความพิเศษคือมีสวนหย่อมกลางอาคาร เอาไว้มานั่งเล่นส่วนตัว โดยมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 167 ยูนิต ลิฟต์โดยสารทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ 84: 1 ที่ถือว่าหนาแน่นน้อยดี
ป้ายชื่อทางเข้าโครงการ ขนาดใหญ่เห็นชัดเจน
Facility
ชั้นที่ 1 เป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด โดยมีทั้งแบบกลางแจ้งและในอาคารเลย พร้อมพื้นที่สวนหย่อมกลางแจ้ง 2 จุดใหญ่ๆ + ต้นไม้ล้อมรอบโครงการ และพื้นบางส่วนปูด้วยบล็อคหญ้า ที่ช่วยให้บรรยากาศภายในดูร่มรื่นมากขึ้น สระว่ายน้ำมีทั้ง Lap Pool ยาว 30 เมตร และ Sanctuary Bubble Pool ยาว 20 เมตร ที่เลือกใช้งานได้หลากหลายนอกนั้นก็มีฟังก์ชันต่างๆที่อยู่บริเวณตึก F มีทั้ง Lobby ส่วนกลาง, Co-working Space ไว้นั่งทำงาน และ Multi-Function ที่มี Pantry ครัวมาให้จองทำอาหารได้ด้วยนะ
แต่ละตึกมีล็อบบี้ส่วนตัว พร้อมที่นั่งรองรับแขกมาให้เรียบร้อย
บรรยากาศ lobby ของแต่ละอาคาร
ระหว่างทางมีชื่อฟังก์ชันให้เดินไปใช้งานได้ถูกต้อง
บริเวณสระว่ายน้ำ Sanctuary Bubble Pool ที่อยู่ใน Courtyard ของตึก F ซึ่งได้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากขึ้น
บรรยากาศรอบๆตึก F ช่วงเช้า
บรรยากาศรอบๆตึก F ที่มีการดีไซน์ซุ้มประตู Overscale เป็นรูปทรงโค้ง(arch) พร้อมติดตั้งบันไดวนสีส้ม ที่ทำให้บรรยากาศดูมีลูกเล่นมากยิ่งขึ้น
สระว่ายน้ำ lap pool ยาว 30 ตร.ม. เหมาะว่ายน้ำจริงจัง
สระน้ำ lap pool ยาว 30 เมตร ขนาดเกิน half olympic เล็กน้อย ที่สามารถว่ายน้ำจริงจังได้เลย
พื้นที่สวนหย่อมด้านข้างตึก F
สวนหย่อมของโครงการที่ออกแบบให้เป็นที่นั่งแบบ Amphitheater
บรรยากาศพื้นที่ Co-working Space บริเวณตึก F
พื้นที่ Co-working Space ของโครงการที่วางที่นั่งมาหลากหลาย ให้เลือกใช้งานได้แล้วแต่ชอบ
บรรยากาศภายในพื้นที่ Multi-purpose
พื้นที่ Multi-function ออกแบบให้มีมุมนั่งทำงาน พร้อมวางเครื่องถ่ายเอกสารมาให้ใช้งาน นอกจากนี้ยังมี pantry ครัวให้ยืมทำอาหาร หรือจัดปาร์ตี้เล็กๆได้
สวนหย่อมของโครงการบริเวณตึก D และ E
สวนหย่อมของโครงการบริเวณตึก D และ E ที่มีมุมนั่งเล่นมาให้ด้วย โดยรายล้อมด้วยอาคาร ที่ทำให้มีร่มเงาสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
ชั้น 2 บริเวณตึก F มีพื้นที่ฟิตเนสมาให้ทั้งเครื่องเล่น Cardio, Weight Training, ห้อง Yoga, TRX, Boxing Room ซึ่งทุกคนสามารถเดินมาใช้งานบริเวณนี้ได้ค่ะ
ห้องฟิตเนสโครงการขนาดใหญ่ มีทั้งเครื่องเล่น Cardio และ Weight Traning
ฟิตเนสของโครงการ ประกอบด้วย เครื่องเล่น Cardio และ Weight Training เป็นมาตรฐาน สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือห้อง Yoga, TRX, Boxing Room ทำให้มีตัวเลือกการออกกำลังกายมากขึ้น
ชั้น 3 บริเวณตึก F ดาดฟ้ามีพื้น Sky Garden ที่ล้อมรอบสระว่ายน้ำ ให้มานั่งเล่นรับลมชิลล์ๆ เปลี่ยนบรรยากาศจากชั้นล่าง ขึ้นมาดูวิวมุมสูงเล็กน้อย
พื้นที่บริเวณ Sky Garden
พื้นที่บริเวณ Sky Garden + Glasshouse ของโครงการ มีการดีไซน์น้ำพุมาให้ บรรยากาศคล้ายสวนยุโรป ดูแล้วเหมือนอยู่ต่างประเทศเลยนะ
วิเคราะห์แปลนแต่ละอาคาร
1st Floor Plan
ตึก A – วางอาคารเป็นรูปตัว L มีจำนวนยูนิตสูงสุด 31 ยูนิต ทั้งหมด 216 ห้อง มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ 108: 1 หนาแน่นปานกลาง
1st Floor Plan
ตึก B – วางตัวอาคารเป็นรูปตัว L มีจำนวนยูนิตสูงสุด 31 ยูนิต ทั้งหมด 216 ห้อง มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ 108: 1 หนาแน่นปานกลาง
1st Floor Plan
ตึก C – วางอาคารเป็นแนวยาว มีจำนวนยูนิตสูงสุด 24 ยูนิต ทั้งหมด 167 ห้อง มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ 84: 1 หนาแน่นน้อย
1st Floor Plan
ตึก D – วางอาคารเป็นรูปตัว L มีจำนวนยูนิตสูงสุด 31 ยูนิต ทั้งหมด 216 ห้อง มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ 108: 1 หนาแน่นปานกลาง
1st Floor Plan
ตึก E – วางอาคารเป็นแนวยาว มีจำนวนยูนิตสูงสุด 22 ยูนิต ทั้งหมด 153 ห้อง มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ 77: 1 หนาแน่นน้อย
1st Floor Plan
ตึก F – วางอาคารเป็นแนวยาว มีจำนวนยูนิตสูงสุด 10 ยูนิต ทั้งหมด 57 ห้อง มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ 29: 1 หนาแน่นน้อยมากที่สุด
สรุป
จากที่เราสังเกตมาหลายๆตึกห้อง 2 bedroom จะเป็นห้องมุมที่รับแสง และมองวิวได้ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนห้อง studio จะหันออกด้านนอกโครงการ ซึ่งถ้าอยู่ชั้นไม่เกิน 3 อาจจะปะทะกับเพื่อนบ้านโดยตรง ที่ทำให้ความเป็นส่วนตัวลดลงนะ สำหรับคอนโด low rise เราก็ยังคงแนะนำให้เลือกห้องที่หันเข้าพื้นที่ส่วนกลาง เพราะเป็นการการันตี ความเป็นส่วนตัว และพื้นที่สวยงามตลอดไปค่ะ
แบบห้อง
Highlight
Aspire อโศก – รัชดา มีแบบห้องให้เลือกหลาย Layout หลายขนาดมาก ตั้งแต่ห้อง Studio 25 ตร.ม. ไปจนถึงห้อง 2 Bedrooms 58 ตร.ม. ที่หลายๆคนน่าจะคุ้นเคยแบบแปลนกันดี วัสดุใช้มาตรฐานแบบเดียวกับคอนโด High Rise โครงการ Life Asoke Rama9 จาก AP ที่น่าสนใจคือห้องน้ำสำเร็จรูป ข้อดีคือไม่รั่วซึม น้ำไม่ขัง ซ่อมแซมง่าย เพราะผ่านการ QC มาจากโรงงานไม่เหมือนห้องน้ำทั่วไป ที่ต้องคอยลุ้นว่าช่างที่ทำให้ห้องเรานั้นทำเก่งรึเปล่า? แต่ก็มีข้อเสียคือขนาดกระทัดรัด พื้นห้องน้ำยกสูง และต้องระวังตำแหน่งการเจาะ
Product Overview
Aspire อโศก – รัชดา มีรายละเอียดรูปแบบห้องขายทั้งหมดดังนี้
- 1 Bedroom 25.26 ตร.ม.
- ราคาเดิม 2.37-2.38 ล้านบาท **ลดราคา One Price เหลือ 2.19 ล้านบาท
- 1 Bedroom 35.16 ตร.ม.
- ราคาเดิม 3.39-3.52 ล้านบาท **ลดราคา One Price เหลือ 3.25 ล้านบาท
- จอง 9,999 บาท ทำสัญญา 0 บาท
1 Bedroom 30 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. < รีวิวห้องที่ 1
ห้อง Studio ขนาด 25 ตร.ม. ราคา One Price 2.19 ล้านบาท เป็นลักษณะห้องหน้าแคบแนวยาว เปิดเข้าไปเจอห้องครัวเปิดที่สามารถกั้นเป็นครัวปิดเองได้ เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารกลิ่นแรงๆ แต่สังเกตพื้นบริเวณนี้ยังเป็นพื้นไม้ลามิเนต ที่ทนความชื้นได้ไม่ดีมากนัก เวลาทำอาหารต้องระวังน้ำเลอะพื้น แล้วพื้นบวมด้วยนะคะ ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำใช้งานง่าย
ถัดเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่พักอาศัย(ห้องนอน+พื้นที่นั่งเล่น) โดยสามารถวางเตียงนอน 5 ฟุตได้กำลังดี ส่วนฝั่งริมหน้าต่างวางโซฟาแบบ Love Seat หรือ 2 ที่นั่งได้พอดี นอกจากนี้ยังมีระเบียงเล็กๆให้ออกไปยืนสูดอากาศชิวๆ สำหรับห้องนี้เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คนพอ เน้นอยู่เองมีแขกมาหาไม่บ่อยมากนัก
เข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่ครัวเป็นส่วนแรก ฝั่งขวาเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป ซึ่งพื้นที่โซนนี้เราสามารถกั้นพื้นที่แยกกันกับพื้นที่อยู่อาศัย / พื้นห้องทั้งหมดเป็นพื้นไม้ลามิเนต และฝ้าเพดานสูง 2.5 ม. ที่สูงกว่าปกติเล็กน้อย บรรยากาศดูโปร่งโล่งดี
ส่วนของเคาน์เตอร์ครัวเป็นส่วนที่โครงการให้มา ได้ซิงค์ล้านจาน และเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควัน ด้านหลังมี Tile Backsplash มาให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น ซึ่งชั้นวางของมีทั้งแบบปิดมิดชิดหรือวางโชว์ด้านนอก นอกจากนี้ยังมีลิ้นชักไว้เก็บช้อนส้อม และช่องวางไมโครเวฟมาให้ด้วย
สำหรับช่องตรงกลางปกติเรามักจะเห็นพื้นที่ตรงกลางเป็นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้า แต่เนื่องจากห้องมีขนาดเล็ก โครงการออกแบบให้เปิดออกมาเป็นโต๊ะเสริม สำหรับนั่งทานข้าว 2 คนกำลังดี เหมาะกับคนที่ไม่ชอบให้กลิ่นกระจายทั่วห้อง หรือดึงออกมาวางของเพิ่มเติมก็ได้นะคะ ส่วนตัวเราว่าโต๊ะแบบนี้ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยภายในห้องได้ดีค่ะ
ห้องน้ำอยู่ฝั่งตรงข้ามพื้นที่ครัวใช้งานง่าย ธรณีประตูยกขึ้นสูงกว่าห้องน้ำทั่วไป(ระวังสะดุดกันด้วยนะ) ด้านหลังอ่างล่างหน้าและสุขภัณฑ์มี Low Wall ยาวสำหรับวางของใช้เพิ่มเติม และเป็นจุดไว้ซ่อมแซมท่อน้ำต่างในอนาคต ส่วนกระจกได้บานยาวที่ช่วยทำให้ห้องน้ำดูกว้างมากยิ่งขึ้น แต่โครงการนี้ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ต้องติดเพิ่มเอง
สำหรับคนที่ยังรู้สึกไม่ชอบห้องน้ำเสร็จรูป ต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้มีการพัฒนารูปแบบมาไกลเหมือนกันนะ ลองอ่านบทความเพิ่มเติมได้ > “ห้องน้ำสำเร็จรูป” แตกต่างจากห้องน้ำทั่วไปอย่างไร ?
เข้ามาโซนพักผ่อนกันบ้าง โดยตำแหน่งอยู่ติดกับหน้าต่าง ที่รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ทำให้รู้สึกไม่อึดอัด โดยแนะนำให้วางเตียง 5 ฟุตชิดกำแพง ทำให้มีพื้นที่ด้านข้างวางโซฟาแบบ Love Seat ได้กำลังดีแบบไม่อึดอัด โดยพื้นที่นั่งเล่นและนอนอยู่โซนเดียวกันแบบนี้ จึงเหมาะอยู่เอง ไม่ได้มีแขกมาหาบ่อยๆ เพราะไม่สามารถกั้นโซนแยกกันได้
ที่ต้องระวังเรื่องการใช้งาน อย่างหนึ่งของแปลนห้องนี้คือตำแหน่งทีวี ถ้าวางปลายเตียงเวลานั่งดูก็จะมองเห็นทีวีไม่ถนัด ส่วนถ้าวางบริเวณพื้นที่นั่งเล่นก็ดูจากบนเตียงไม่ถนัดเช่นกัน แนะนำให้เลือกไปเลยว่าเราใช้งานบริเวณไหนมากกว่ากัน ปกติเรานั่งเล่นโซฟาหรือนอนดูจากบนเตียงมากกว่ากัน
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม.
มาดูห้องตัวอย่างห้องที่ 2 กันค่ะ ห้องนี้จะเป็นห้อง 1 Bedroom 35 ตร.ม. เป็นลักษณะแปลนห้อง Living Area ไม่ได้วิวด้านนอก แต่ก็ไม่ได้มืดทึบเพราะได้แสงสว่างที่มาจากส่วนครัวอยู่ โดยห้องนี้จะได้เป็นครัวปิดแล้ว วางติดกับระเบียงเลยเพื่อให้ระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารแบบจริงจังมีกลิ่นและควันได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะไปรบกวนห้องนั่งเล่นด้านในตัวห้อง
ส่วนห้องนอนเป็นประตูทึบได้ความเป็นส่วนตัว เหมาะวางเตียง 5 ฟุตจะพอดีกับตัวห้องมากที่สุด มีพื้นที่เดินรอบเตียงได้กำลังดี ส่วนตำแหน่งห้องน้ำต้องเข้าจาก Living area แต่ก็ใกล้ห้องนอนที่ใช้งานสะดวกเช่นกัน ข้อดีคือไม่ต้องเดินผ่านฟังก์ชันอื่นก่อน รวมถึงเวลามีเพื่อนมาห้องไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนก่อน
เข้ามาภายในห้องจะเป็น Living area ก่อน โดยพื้นที่นั่งเล่นนี้ถึงอยู่ด้านในของห้อง ไม่ได้ติดหน้าต่างแต่ก็ได้แสงสว่างจากห้องครัว ทำให้บรรยากาศภายในโปร่งโล่งดี โดยพื้นที่บริเวณนี้วางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งได้กำลังดี หรือถ้าอยู่กัน 2 คน จะวางเป็นโซฟา Love Seat + วางโต๊ะทำงานด้านข้างแทนก็ได้นะ
ตำแหน่งของห้องน้ำสำเร็จรูปจะต้องเข้าจาก Living Area และติดกับประตูห้องนอนเลย ส่วนตัวมองว่าไม่ได้อยู่ไกลจากห้องนอนมากเท่าไหร่ และพอวางตำแหน่งให้เข้าถึงง่ายจากส่วนรับแขกหรือพื้นที่นั่งเล่น ก็จะช่วยให้ห้องนอนได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยค่ะ
ห้องนอนเป็นแนวยาวเหมาะวางเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมวางโต๊ะหัวเตียงให้สามารถเดินรอบเตียงได้สบายๆ โดยห้องนี้มีหน้าต่างเอาไว้รับแสงธรรมชาติ และมองวิวจากบนเตียงได้เลย
ชุดครัวได้ขนาดเดียวกันกับห้องที่แล้ว โดยพื้นที่ครัวกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน โดยเป็นกระจกเขียวตัดแสง ที่ช่วยป้องกันแสง UV ได้ดี ข้อดีของห้องครัวติดระเบียง คือระบายกลิ่นอาหารได้ดีมากยิ่งขึ้นนะคะ / นอกจากนี้พื้นยังเปลี่ยนเป็นกระเบื้อง ที่ทนความชื้น และเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายกว่าพื้นไม้ลามิเนต
ฝั่งตรงข้ามครัววางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่งกำลังดี ซึ่งลูกบ้านสามารถเลือกแบบที่ชอบมาวางเพิ่มเองได้ค่ะ
สรุปวัสดุและของแถมภายในห้อง
- รูปแบบการขาย : Fully Fitted
- พื้น : ไม้ลามิเนต และ กระเบื้องเซรามิค(ภายในห้องน้ำ)
- ครัว : Built-in + อ่างล้างจาน + เตาไฟฟ้า + Hob&Hood
- ผนัง : ฉาบเรียบทาสีขาว
- ห้องน้ำ : ห้องน้ำสำเร็จรูปเป็นมาตรฐาน
- ฝ้าเพดาน : สูง 2.5 เมตร + ติดไฟดาวน์ไลท์
- เครื่องปรับอากาศ (ขนาดของ BTU ขึ้นอยู่กับพื้นที่ภายในห้อง)
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
สำหรับเรื่องราคานั้น เรามองว่าคนที่อยากได้คอนโดนี้น่าจะมีงบประมาณ 2-5 ล้านบาท โดยประมาณ(ไม่รวมค่าตกแต่ง) หรือว่ามีกำลังผ่อนที่ประมาณ 14,000-35,000 บาทต่อเดือนค่ะ
ตัวอย่างราคาห้องพักอาศัยในโครงการ Aspire อโศก – รัชดา ราคา ณ วันที่ 7/10/2563
- 1 Bedroom 25.26 ตร.ม.
ราคา One Price เหลือ 2.19 ล้านบาท หรือ 86,698 บาท/ตร.ม. - 1 Bedroom 35.16 ตร.ม.
ราคา One Price เหลือ 3.25 ล้านบาท หรือ 92,434 บาท/ตร.ม.
ค่าใช้จ่ายต่างๆ
- จอง 9,999 บาท
- ฟรีทำสัญญา
- ฟรีเงินดาวน์
- ฟรีค่าส่วนกลาง 12 เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
Aspire อโศก – รัชดา เป็นโครงการที่ทำราคาออกมาถูกที่สุด บริเวณใกล้แยกพระราม9 ที่ใครหลายคนมองว่ากำลังเป็น NEW-CBD แห่งใหม่ บรรยากาศคึกคัก ความอุดมสมบูรณ์ครบครัน เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดแนวรถไฟฟ้า เดินทางสะดวกหลากหลายแต่อยู่ในซอยไม่ได้อยู่ในระยะเดินนะ ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ บรรยากาศภายในดูโปร่งโล่ง ร่มรื่นด้วยพื้นที่สีเขียว แบบห้องเริ่มต้นขนาดเล็ก Studio 25.16 ตร.ม. ราคา 2.19 ล้านบาท ซึ่งอย่าลืมเผื่อเงินสำหรับค่าตกแต่งเพิ่มเติมด้วย โดยตำแหน่งห้อง Studio ส่วนใหญ่จะหันหน้าออกด้านนอกโครงการ ซึ่งบ้างตำแหน่งอาจจะติดกับหลังบ้านคนอื่น ทำให้ความเป็นส่วนตัวลดลงนะคะ