…ปกติแล้วเวลาที่เราจะสร้างบ้านแบบทั่วไป ก็มักจะมีการเว้นพื้นที่รอบบ้านไว้ทำเป็นสวน หรือพื้นที่ Outdoor ไว้ทำกิจกรรมต่างๆใช่มั้ยครับ ซึ่งบ้านส่วนใหญ่ก็มักจะสร้างเต็มพื้นที่ เป็นทรงสี่เหลี่ยมตามลักษณะของที่ดินไปเลย เพื่อที่จะได้เกิดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้เยอะ และคุ้มค่ามากที่สุด

แต่ก็จะมีแบบบ้านอีกลักษณะหนึ่ง ที่มีการเว้าพื้นที่ส่วนหนึ่งเข้ามา เป็นลักษณะเป็นทรง L Shape หรือ C Shape และทำให้เกิดพื้นที่ Courtyard ตรงกลางบ้าน ซึ่งจะเกิดฟังก์ชันและการใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิมหลายอย่างเลย โดยในบทความนี้เราจะมาพูดถึงทั้งข้อดี-ข้อเสีย พร้อมกับพาไปชมตัวอย่างแบรนด์บ้านในท้องตลาดปัจจุบัน ว่าแต่ละเจ้าเค้ามีจุดเด่นที่น่าสนใจแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ


“ข้อดี” ของแบบบ้านทรง L Shape หรือ C Shape

  1. ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
  2. ดึงความเป็นธรรมชาติ ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตัวบ้าน
  3. มีช่องแสงและความโปร่งโล่งที่เพิ่มขึ้น
  4. การเชื่อมโยงของฟังก์ชันที่ทำได้ดีมากขึ้น

ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

หากเป็นบ้านที่มีสวนรอบๆบ้านแบบปกติ อาจถูกมองเห็นได้จากสายตาเพื่อนบ้านข้างๆ หรือคนที่ผ่านไป-ผ่านมาหน้าบ้าน และทำให้เสียความเป็นส่วนตัวได้ง่ายใช่มั้ยครับ

แต่ด้วยลักษณะของตัวบ้านรูปทรง L Shape หรือ C Shape ที่จะโอบล้อมพื้นสวนตรงกลางเอาไว้ จึงช่วยบดบังสายตาจากคนภายนอก และทำให้สวนหรือ Courtyard บริเวณตรงกลางบ้านมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งเราก็จะสามารถออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือจะเปิดประตู/หน้าต่าง และผ้าม่านได้เต็มที่มากขึ้น

ดึงความเป็นธรรมชาติ ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตัวบ้าน

ปกติแล้วการจัดสวนของบ้านแบบทั่วไป มักจะเป็นสวนเล็กๆกว้างประมาณ 1 – 2 m. ที่อยู่บริเวณโดยรอบของตัวบ้าน ซึ่งหากเราต้องการชมวิวหรือสูดอากาศให้สดชื่น ก็จะต้องเดินไปตรงริมบ้านฝั่งนั้นที่มีประตู-หน้าต่าง หรือเดินออกนอกบ้านเพื่อไปสัมผัสกับธรรมชาติเหล่านั้นด้วยตัวเอง

แต่การจัดบ้านแบบ L Shape หรือ C Shape จะเว้าพื้นที่สวนส่วนหนึ่งเข้ามาตรงกลางบ้าน ซึ่งจะช่วยเปิดมุมมองและการเชื่อมต่อของทุกๆฟังก์ชัน ให้เราสามารถเข้าถึงพื้นที่สีเขียวของตัวบ้านได้ง่ายมากขึ้น ไม่ว่าเราจะมองไปด้านไหน ก็จะเห็นต้นไม้เขียวขจีได้ตลอดเวลาเลยครับ

มีช่องแสงและความโปร่งโล่งที่เพิ่มขึ้น

บ้านทรงสี่เหลี่ยมแบบทั่วไป มักจะมีปัญหาเรื่องแสงสว่างที่อาจส่องเข้ามาไม่ถึงบริเวณกลางบ้านบางส่วนได้ แต่สำหรับแบบบ้านทรง L Shape หรือ C Shape ที่มีการเว้าพื้นที่เข้ามา จะทำให้ความลึก/หรือความหนาของตัวบ้านลดลง แสงจึงสามารถเข้าถึงบริเวณกลางบ้านได้ง่ายมากขึ้น

อีกทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่ช่องเปิดของประตู-หน้าต่าง และทำให้เราสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศ จากบ้านฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่งได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะช่วยทำให้อากาศภายในบ้านมีการถ่ายเทตลอดเวลา และมีอุณหภูมิที่ลดลง สามารถอยู่ได้แบบเย็นสบาย โดยที่อาจไม่จำเป็นต้องพึ่งการเปิดแอร์เลยก็ได้ครับ

การเชื่อมโยงของฟังก์ชันที่ทำได้ดีมากขึ้น

ปกติแล้วถ้าเป็นบ้านทรงสี่เหลี่ยมที่สร้างเต็มพื้นที่ ฟังก์ชันภายในบ้านก็จะถูกแบ่งแยกจากกันชัดเจน และเปิดมุมมองหน้าต่างออกไปยังภายนอกของตัวบ้าน ที่อาจเป็นถนนหรือเพื่อนบ้านหลังข้างๆกันใช่มั้ยครับ

แต่ถ้าเป็นบ้านทรง L Shape หรือ C Shape ที่มี Courtyard ตรงกลางบ้าน เค้าจะทำหน้าที่เชื่อมโยงฟังก์ชันต่างๆภายในบ้านทั้งหมด เช่น เวลาที่มีการจัดงานปาร์ตี้ที่ชั้นล่าง เราสามารถเปิดประตูเพื่อเชื่อมต่อฟังก์ชันภายในกับภายนอกได้ ทำให้กลายเป็นพื้นที่ Semi-Outdoor ที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น

หรือเวลาที่เราแยกกันพักผ่อนอยู่ภายในห้องส่วนตัวของแต่ละคน ก็ยังมองเห็นกันได้โดยผ่าน Courtyard ตรงกลางบ้านลงไป ก็จะสามารถมองเห็นได้ว่า สมาชิกคนอื่นๆในบ้านอยู่ห้องไหน กำลังทำอะไรกันอยู่บ้างนั่นเอง ซึ่งเป็นการเพิ่มปฏิสัมพันธ์ของคนในบ้านได้ดีเลยทีเดียวครับ


“ข้อเสีย” ของแบบบ้านทรง L Shape หรือ C Shape

อย่างที่ทราบกันแล้วว่าการทำบ้านทรง L Shape หรือ C Shape จะเป็นการเว้าพื้นที่ส่วนหนึ่งของบ้าน เพื่อทำเป็น Courtyard ตรงกลางใช่มั้ยครับ ซึ่งนั่นก็จะทำให้ตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอยภายในที่ลดลง ดังนั้นการทำบ้านประเภทนี้ จึงมักต้องมีที่ดินในการสร้างบ้านเยอะกว่าปกติสักหน่อย หรือเราอาจต้องทำจำนวนชั้นที่สูงมากขึ้น เพื่อที่เราจะได้มีพื้นที่ใช้สอยในบ้านที่เพียงพอต่อความต้องการ อีกทั้งหากเรามองหาซื้อบ้านลักษณะแบบนี้ในท้องตลาด ก็มักจะมีราคาเริ่มต้นที่จับต้องได้ยากกว่าบ้านทั่วไปมากอยู่เหมือนกันครับ


ตัวอย่างโครงการที่มีแบบบ้านทรง L Shape หรือ C Shape

หลังจากที่ผมได้ทำการสำรวจตลาดในปัจจุบัน พบว่ามีโครงการที่ออกแบบแปลนบ้านเป็นทรง L Shape หรือ C Shape ทั้งหมด 11 โครงการด้วยกันครับ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ล้วนเป็นแบรนด์ดังที่หลายๆคนรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยแต่ละเจ้าเค้าก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปดังนี้

นันทวัน พระราม 9 – ศรีนครินทร์

ACCOMPLISHMENT บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 102 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ

แบบบ้านโครงการนี้จะมีทั้งหมด 3 Type ซึ่งทุกแบบจะเป็นบ้านลักษณะทรง L Shape ทั้งหมดเลยครับ แต่ในวันนี้ผมจะพามาชมแบบ ACCOMPLISHMENT ที่เป็นไซส์เล็กสุดกันนะ

โดยลักษณะจะเป็นบ้านทรง L Shape ที่โอบล้อมพื้นที่สวนด้านในเอาไว้ ซึ่งข้อดีอย่างหนึ่งของการจัดแปลนบ้านทรงนี้ ที่แตกต่างไปจากแปลนบ้านทรง C Shape ก็คือ เราจะได้ขนาดพื้นที่ Courtyard ค่อนข้างใหญ่ และเปิดโล่งมากขึ้น โดยแลกกับการที่อาจมีพื้นที่ใช้สอยภายในที่ลดลงไปบ้างครับ

แต่ความน่าสนใจของแปลนนี้จริงๆก็คือ “การจัดโซนฟังก์ชันของบ้าน” ที่ทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว โดยเค้าจะให้ความสำคัญกับพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนชั้นล่างเป็นหลัก ซึ่งจะเป็นส่วนที่อยู่ติดกับ Courtyard ขนาดใหญ่ของบ้าน สามารถมองเห็นและใช้งานเดินเชื่อมต่อฟังก์ชันถึงกันได้

ในขณะที่ส่วนใช้งานอื่นๆที่ไม่ได้ต้องการวิวสวยๆอย่าง ที่จอดรถ บันได ห้องน้ำ และห้องแม่บ้าน จะมาอยู่บริเวณด้านหน้าบ้าน และยังช่วยทำหน้าที่เป็น Buffer ป้องกันเสียงและการมองเห็นจากคนที่อาจผ่านไป-มาหน้าบ้านได้อีกด้วย เลยทำให้ฟังก์ชันภายในส่วนอื่นๆ และบริเวณสวนตรงกลางมีความ “เป็นส่วนตัวมากขึ้น” นั่นเองครับ

แปลนชั้น 2 เค้าจะให้ความสำคัญกับ Family Area ที่เป็นพื้นที่ใช้งานร่วมกันของสมาชิกทุกคนในครอบครัว โดยจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ที่เปิดโล่ง 2 ด้าน เลยทำให้แสงสว่างและลมสามารถพัดผ่านได้ดีมากๆ อีกทั้งยังเน้นให้มีพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ 2 จุด ให้เราสามารถออกไปยืนสูดอากาศ หรือชมวิวตรง Courtyard เชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้น 1 ได้ด้วย

แปลนชั้น 3 ถูกออกแบบมาให้เป็น Penthouse ขนาดใหญ่ มีครบทุกฟังก์ชัน และสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ โดยยังคงคอนเซ็ปต์การเชื่อมต่อพื้นที่แนวตั้งกับชั้นอื่นๆเอาไว้เป็นอย่างดี อย่างระเบียงขนาดใหญ่ที่สามารถออกไปทำกิจกรรม และจัดฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย อีกทั้งยังมีช่องแสงที่เชื่อมต่อกับ Family Room ที่เป็นห้องฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume ตรงชั้น 2 ได้อีกด้วยครับ จึงทำให้คนที่อยู่ Master Bedroom บนชั้น 3 สามารถมองเห็นได้ว่า สมาชิกคนอื่นๆกำลังทำอะไรกันอยู่ด้านล่างบ้างนั่นเอง

ส่วนบรรยากาศบ้านตัวอย่างจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/14

ปริญญ์ สาทร – ราชพฤกษ์

PHANALEE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 90 – 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ

เรามาดูแบบบ้านที่มีขนาดและราคาย่อมเยากันบ้างครับ โดยโครงการของปริญสิริเค้าจะมีบ้านทั้งหมด 3 แบบ ซึ่งมีลักษณะการจัดผังที่คล้ายๆกันเลย โดยวันนี้ผมจะขอนำแปลนบ้านขนาดกลางของเค้ามาให้ดูเป็นตัวอย่างกันนะ

สำหรับแปลนชั้น 1 จะเน้นพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ เป็นห้องแบบหน้ากว้างที่จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ Courtyard ที่อยู่ด้านข้างของบ้านได้ ส่วนห้องนอนชั้นล่างก็จะมีหน้าต่างเชื่อมต่อกับสวน และยังทำหน้าที่เป็น Buffer เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ Courtyard กลางบ้านไปในตัวด้วย รวมถึงตำแหน่งของที่จอดรถก็จะอยู่ไม่ไกลจากประตูห้องครัวมากนัก ทำให้เวลาที่เราซื้อของมาทำกับข้าว ก็จะสามารถขนของไปเก็บหลังบ้านได้สะดวกมากขึ้นนั่นเองครับ

ส่วนแปลนชั้น 2 จะมีจุดเด่นอยู่ที่ Master Bedroom ที่มีความกว้างเท่ากับตัวบ้านเลยครับ รวมถึงยังมีระเบียงขนาดใหญ่ให้ออกไปใช้งานได้ด้วย โดยห้องที่สามารถมองเห็น Courtyard ชั้น 1 ได้นั้นจะประกอบด้วย Family Area / ห้องนอนใหญ่ และห้องนอนเล็กด้านหลังอีก 1 ห้อง ซึ่งจะมีช่องหน้าต่างให้มองเชื่อมต่อกันได้ เพียงแต่อาจไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก เพราะยังต้องการให้มีความเป็นส่วนตัวของแต่ละห้องมากที่สุดนั่นเอง

ส่วนบรรยากาศบ้านตัวอย่างจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/9

ปริญญ์ เพชรเกษม 69

ธารา บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 104 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 312 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ

พามาดูอีกสักหนึ่งโครงการของปริญสิริ ซึ่งเป็นน้องใหม่ที่ได้มีการปรับปรุงฟังก์ชันต่างจากรุ่นพี่ในหลายๆจุด โดยเฉพาะในส่วนของห้องนอนชั้น 1 จะเปลี่ยนจากการเชื่อมต่อกับ Courtyard หลักของบ้าน มาเป็นระเบียงและสวนข้างบ้านแทน ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดมุมมองและการใช้งานที่เป็นส่วนตัวจาก Common Area ซึ่งก็เหมาะที่จะทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุหรือห้องนอนแขกแบบจริงจังมากขึ้น ส่วนแบบที่มีช่องแสงเชื่อมต่อกับ Courtyard หลักก่อนหน้านี้ ก็อาจเหมาะจะทำเป็นห้องทำงาน ห้องดูหนัง หรือห้องสันทนาการอื่นๆก็ได้ครับ

แปลนชั้น 2 ห้อง Master Bedroom จะมีการปรับแบบต่างไปจากเดิมเลยครับ โดยจะเป็นส่วนที่ยื่นออกมาด้านข้างของตัวบ้าน จึงทำให้กลายเป็นห้องที่ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ 2 ฝั่ง เชื่อมต่อทั้งด้านหน้าบ้านและ Courtyard ด้านหลังบ้าน แถมยังทำให้พื้นที่ในห้องสว่างและมีอากาศถ่ายเทที่ดีมากขึ้นอีกด้วยนะ

ส่วนบรรยากาศบ้านตัวอย่างจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/10

The Gentry พัฒนาการ

Haven บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 61.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 440 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ

จะไม่พูดถึงแบรนด์นี้ไม่ได้เลยครับ เพราะเค้าเองก็ยืนหนึ่งในเรื่องบ้านแบบ C Shape อยู่แล้ว โดยคอนเซ็ปต์ของการออกแบบบ้านหลังนี้ นอกจากจะมี Courtyard และพื้นที่ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume ตรงกลางบ้าน ให้เราได้มองเห็นวิวสวนด้านนอก และมีพื้นที่เชื่อมต่อกันทุกฟังก์ชันแล้ว เค้ายังเป็นบ้านที่เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในเป็นหลักอีกด้วยนะ

สังเกตจากการสร้างบ้านแบบเต็มพื้นที่ ซึ่งปกติแล้วตามกฎหมายจะกำหนดระยะ Set Back รอบบ้านกว้าง 2 m. แต่สำหรับบ้านหลังนี้จะเว้นแค่เพียง 1 m. เท่านั้น และใช้เป็นผนังทึบเพื่อความเป็นส่วนตัวแทน จากนั้นจึงค่อยร่นระยะในพื้นที่บนชั้น 2 – 3 บางส่วน เพื่อเพิ่มช่องแสงให้สว่างโปร่งโล่งมากขึ้น ซึ่งเป็นการออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในเมือง ที่นับวันค่าที่ดินก็แสนจะแพงขึ้นแบบนี้ได้เป็นอย่างดี และอีกหนึ่งจุดที่ชอบมากๆคือ การออกแบบให้แต่ละชั้นมี Pocket Garden หรือพื้นที่สีเขียวเป็นของตัวเอง ซึ่งนอกจากจะออกมาใช้งานได้แล้ว ยังช่วยพรางสายตาจากห้องฝั่งตรงข้ามได้ดี แต่ขณะเดียวกันก็เป็นจุดเชื่อมต่อพื้นที่ในแต่ละชั้นได้ด้วย

ส่วนบรรยากาศบ้านตัวอย่างจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/8

MOTIQUE แจ้งวัฒนะ 10

บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดิน 58.3 – 76.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 435 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ

หรือดูวิดีโอเพิ่มเติมคลิก >>> พาชมโครงการ Motique แจ้งวัฒนะ 10 : Think’s Update EP.124

แปลนบ้านรูปทรง C Shape ของหลังนี้มีความน่าสนใจไม่น้อยครับ จุดเด่นที่ผมชอบมากๆคือ “Common Area” ที่อยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งนอกจากจะมีขนาดใหญ่เต็มความกว้างของตัวบ้านแล้ว ยังได้ช่องแสงเยอะถึง 3 ด้านอีกด้วย โดยแลกกับการที่เราจะได้เป็นครัวเปิด เพื่อให้ได้ความโปร่งโล่งและกว้างขวางแบบนี้ครับ

ส่วนห้องนอนบริเวณฝั่งด้านหน้าบ้านในชั้นที่ 2 และ 3 จะมีขนาดใหญ่ทั้งคู่ เหมือนเราได้ Master Bedroom มาถึง 2 ห้อง และยังมีช่องแสง 2 ด้าน เชื่อมต่อทั้งพื้นที่หน้าบ้านและ Courtyard ตรงกลางบ้านได้อีกด้วย อีกทั้งชั้น 3 ยังมีจุดเด่นในเรื่อง “พื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ 2 จุด” ให้เราได้ออกมาใช้งานจริงจัง และเชื่อมต่อฟังก์ชันส่วนต่างๆของบ้านได้แบบนี้นั่นเอง

และด้วยความที่เป็นโครงการจัดสรรขนาดเล็กเพียง 12 ยูนิตเท่านั้น จึงได้ในเรื่องความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากๆครับ โดยลักษณะการวางผังบ้านจะเป็นการสลับด้าน (Mirror) กันแบบนี้ ข้อดีอย่างหนึ่งคือ ทำให้ Courtyard ตรงกลางของทั้ง 2 บ้านรวมกัน จึงมีความโปร่งโล่ง และได้ความร่มรื่นเขียวขจีของพุ่มไม้ทั้ง 2 มากขึ้น แต่ก็แลกมากับความเป็นส่วนตัวที่อาจลดลงไปบ้าง เพราะช่องเปิดของบ้านส่วนใหญ่ที่อยู่ฝั่ง Courtyard จะต้องหันหน้ามาเจอกันนั่นเอง สามารถป้องกันได้ด้วยการติดผ้าม่านหรือทำ Green Wall เพิ่มเติมครับ

ส่วนบรรยากาศบ้านตัวอย่างจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/5

The Glamor เอกมัย – ประดิษฐ์มนูธรรม

บ้านเดี่ยว 3.5 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 59.2 – 73.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 450 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 สระว่ายน้ำ

สำหรับโครงการนี้จะเป็นแปลนบ้านทรง C Shape ที่นอกจากจะมี “Terrace และสระว่ายน้ำส่วนตัว” เป็นจุดเด่นแล้ว “โถงบันไดกลางบ้าน” ก็เป็นจุดที่น่าสนใจไม่แพ้กันครับ ซึ่งนอกจากจะมีความสวยงามที่เอาไว้โชว์หรือรับแขกเก๋ๆได้แล้ว ยังทำหน้าที่แบ่งฟังก์ชันของบ้านแยกออกเป็น 2 ส่วน (หน้าบ้าน-หลังบ้าน) ทำให้มีความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวออกจากกันมากขึ้นอีกด้วย แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าบ้านหลังนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคนนะครับ เพราะการออกแบบลักษณะนี้คือว่า Unique มากๆ ถ้าใครที่ชอบดีไซน์แบบนี้อยู่แล้วก็คงจะถูกใจไม่น้อยเลยทีเดียว

อีกหนึ่งอย่างที่ผมคิดว่าเค้าทำได้ดีคือ “การจัดฟังก์ชันในบ้าน” ซึ่งถือว่าทำได้ดีและแตกต่างจากโครงการอื่นมากๆเลยครับ อย่างบริเวณชั้น 1 เค้าจะเป็นฟังก์ชันโต๊ะทานอาหารและ Pantry ที่จะเชื่อมต่อกับ Terrace และสระว่ายน้ำ เห็นแบบนี้แล้วก็นึกถึงการจัดปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนๆขึ้นมาเลยทีเดียว ส่วนห้องนั่งเล่นจะอยู่ถัดขึ้นมาบนชั้น 2 พร้อมกับจัด Master Bedroom ให้อยู่ในส่วนหลังบ้านแทน ทั้งนี้ก็เพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้งานที่มากขึ้นนั่นเองครับ

ส่วนบรรยากาศบ้านตัวอย่างจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/14

VEVA PRIVA เอกมัย-รามอินทรา

บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดิน 111.6 – 128.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 644 – 678 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 สระว่ายน้ำ

โครงการนี้มีอยู่เพียง 7 ยูนิตเท่านั้น จึงไม่ได้เข้าจัดสรรนะครับ จุดเด่นคือ “พื้นที่ใช้สอยเยอะ” รวมถึงยังมี “สระว่ายน้ำส่วนตัว” ด้วย ซึ่งนอกจากจะใช้งานว่ายน้ำเล่นหรือออกกำลังกายได้แล้ว ยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับบ้านหลังนี้อีกด้วยครับ ต่างจากบ้านหลังอื่นๆที่ผ่านมา ที่จะมีเพียงแค่วิวสวนและพื้นที่สีเขียวให้เราได้ชมกันเท่านั้น

โดยจุดที่สามารถมองเห็นสระหรือสวนได้ก็คือ บริเวณชั้น 1 ทั้งหมด รวมถึงห้องนอนที่อยู่ด้านหลังบ้านด้วยครับ ส่วนห้องนอนที่อยู่ด้านหน้าของบ้าน ก็จะชดเชยด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ใหญ่ และเปิดมุมมองออกไปด้านนอกของบ้านแทนนั่นเอง

อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ “การจัดผังโครงการ” ซึ่งบ้านทุกหลังจะหันแปลนไปในทิศทางเดียวกันหมด โดยฝั่งซ้ายของบ้านจะถูกออกแบบให้เป็นผนึงทึบ (ตามระยะ Set Back ของกฎหมาย) และเปิดช่องแสงแบบ Indirect Light แทน ส่วนทางฝั่งขวาของบ้านจะเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ ที่จะเปิดรับวิวสวนและสระว่ายน้ำได้อย่างเต็มที่ แบบไม่ต้องกลัวว่าจะเสียความเป็นส่วนตัวจากเพื่อนบ้านหลังข้างๆเลยครับ

ส่วนบรรยากาศบ้านตัวอย่างจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/19

บุราสิริ วัชรพล

Daintree (เดนทรี) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 284 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ

เป็นแบบบ้านใหม่ของแบรนด์ “บุราสิริ” จากแสนสิริ ที่มีการพัฒนาปรับปรุงมาเป็นบ้านทรง C Shape เพื่อเพิ่มช่องแสงและการระบายอากาศที่ดีมากขึ้น โดยจะแตกต่างจากบ้านโครงการอื่นๆตรงที่เค้าจะเป็น “บ้านหน้ากว้าง” และมี Courtyard อยู่ตรงบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับซอยบ้านพักอาศัย ให้ดูร่มรื่นและสวยงามมากขึ้นได้ด้วยนั่นเองครับ โดยบ้านทรงนี้จะมีทั้งหมด 2 Type คือ Daintree (เดนทรี) ที่เป็นไซส์กลาง และ Valdivian (วาลดิเวียน) ที่เป็นไซส์ใหญ่สุด

โดยจุดเด่นของบ้าน Daintree (เดนทรี) หลังนี้คือ “ทุกฟังก์ชันหลักจะอยู่ติดกับ Courtyard ที่อยู่ตรงกลางบ้านหมด” เอาง่ายๆคือเวลาที่เราใช้ชีวิตหรือเดินไป-มาในบ้าน เราจะสามารถมองเห็นสวนและต้นไม้ที่อยู่ตรงกลางได้ตลอดเวลาเลย อีกทั้งยังเน้นในเรื่อง “Ventilation” ซึ่งทุกฟังก์ชันจะเป็นห้องมุม และมีช่องแสงอย่างน้อย 2 – 3 ด้าน จึงมีความโปร่งโล่งและอากาศก็ถ่ายเทได้ดีมากอีกด้วย

ส่วนบรรยากาศบ้านตัวอย่างจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/10

Nirvana Beyond พระราม 2

Pride บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 89.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 550 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ลิฟต์ส่วนตัว

800 up

เป็นอีกหนึ่งเจ้าที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้ครับ เพราะเค้ามีการดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากๆ ซึ่งแปลนบ้านที่เป็นทรง C Shape แบบนี้ จะมีอยู่ 2 Type คือ Pride และ Reach โดยแบบบ้านที่เราจะมาดูกันในวันนี้คือแบบ Pride ที่เป็นหลังใหญ่สุด และมีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดของเค้ากันครับ

จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครของบ้านหลังนี้คือ “การจัดฟังก์ชัน” ที่นอกจากจะแยกการใช้งานเป็นสัดส่วนแล้ว ยังมีการเปิดช่องแสงเพื่อรับวิวที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วยครับ อย่างบริเวณโต๊ะทานอาหารชั้น 1 จะมองเห็นวิว Courtyard ที่เป็นพื้นที่สีเขียวตรงกลางบ้านได้ ในขณะที่เมื่อเราขึ้นมาบนชั้น 2 จะเจอกับ Living Area ที่ได้วิวสระว่ายน้ำหน้าบ้านแทน ทำให้บรรยากาศการใช้งานฟังก์ชันต่างๆดูหลากหลายไม่น่าเบื่อ

จุดเด่นต่อมาก็คือ “บันได Outdoor” ที่อยู่ด้านหน้าบ้าน จะทำให้เราสามารถ Access ขึ้นสู่ชั้น 2 ของตัวบ้านได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินผ่านชั้น 1 ก่อนให้เสียเวลา และจุดเด่นสุดท้ายที่ผมว่าเค้าคิดมาไม่เหมือนใครดีก็คือ “ความเป็นส่วนตัว” ของมุมมองช่องแสง Courtyard ตรงกลางบ้าน ซึ่งฝั่งตรงข้ามของหน้าต่างห้องนอนชั้นบน เค้าจะทำเป็นผนังทึบทั้งหมด (ในบ้านตัวอย่างจะตกแต่งเป็น Green Wall หรือสวนแนวตั้งไว้เป็นไอเดีย ช่วยเพิ่มความสวยงามและสดชื่นมากขึ้น) ซึ่งจะทำให้เราไม่เสียความเป็นส่วนตัวจากห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ยังคงสามารถมองลงไปชั้นล่าง เพื่อมีปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัวส่วนอื่นๆได้อยู่ครับ

ส่วนบรรยากาศบ้านตัวอย่างจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/11

Nirvana Beyond พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา และ Nirvana Beyond Bangna Att U Park

LUXE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 107.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 470 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน

ปัจจุบันแบบบ้านที่เป็นทรง C Shape จะมีเพียงแค่แบบเดียวเท่านั้นก็คือ Luxe ที่เป็นไซส์ใหญ่สุด และจะมีให้เลือกอยู่ทั้ง 2 โครงการเลยก็คือ Nirvana Beyond พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา และ Nirvana Beyond Bangna Att U Park ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละทำเลนะครับ

นอกจากนี้ผมยังได้ข่าวมาอีกว่า อนาคตจะมีแบบบ้านใหม่คือ Niche และ Live มาลงในเฟสที่ 2 ด้วย โดยจะเป็นบ้านทรง C Shape เหมือนกัน แต่จะมีการจัดฟังก์ชันที่ต่างไปจากเดิม ซึ่งอาจต้องรอข้อมูลอัพเดตในอนาคตเร็วๆนี้กันอีกครั้งนะ (คาดว่าจะเป็นช่วงปลายปี 2565 นี้ครับ)

จุดเด่นของบ้านหลังนี้คือ “การออกแบบแปลนบ้าน” ที่มีการบิดองศาของพื้นที่ใช้สอยภายใน ทำให้เกิดเหลี่ยมมุมต่างๆที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเกิดจากการนำเทคโนโลยีใหม่ๆจากประเทศญี่ปุ่นมาใช้ร่วมด้วย อย่างแนวคิด Deconstruction ที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ว่าง Space และการสร้างฟังก์ชั้นการใช้งานใหม่ๆ ในหลากหลายมิติ

เช่น การเอียงบิดของผนัง และโครงสร้างตัวบ้านใช้การ Cantilever ที่ได้ระยะมากกว่าบ้านทั่วไป มีการเชื่อมระหว่างพื้นที่ Conceptual Space ใหม่ๆ และการสร้าง Private Space ไว้ในมุมต่างๆของตัวบ้าน ไปจนถึงการเปิดช่องเปิดขนาดใหญ่สร้างพื้นที่ Court เพิ่มมุมมองแบบส่วนตัวไว้ในบ้านนั่นเอง แต่จุดที่ผมชอบมากๆคือ เค้ายังคงพื้นที่ใช้สอยที่เป็นลักษณะทรงสี่เหลี่ยมแบบปกติเอาไว้ เลยทำให้เราสามารถจัดฟังก์ชันและ Built-in ได้ง่ายเหมือนเดิมครับ

ส่วนบรรยากาศบ้านตัวอย่างจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/10


…เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับบทความเรื่อง “บ้านทรง L Shape และ C Shape” ที่ผมได้รวมข้อมูลโครงการต่างๆกว่า 11 โครงการ พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสีย มาให้เห็นชัดๆกันไปเลย ซึ่งแต่ละเจ้าเค้าก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เหมาะกับคนที่มีความต้องการหรือ Lifestyle ที่ไม่เหมือนกัน

โดยหากใครสนใจโครงการไหนเป็นพิเศษ ก็สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบทความฉบับเต็มของ Think of Living และติดต่อกับทางโครงการโดยตรง เพื่อขอเข้าไปชมบ้านตัวอย่างของจริงกันได้เลยครับ หรือใครอ่านแล้วมีความชอบ อยากจะนำไอเดียดีๆไปทำบ้านของตัวเองต่อก็ได้เหมือนกัน ซึ่งก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ คราวหน้าเราจะมีบทความน่าสนใจอะไรมาฝากกันอีก ก็อย่าลืมติดตามกันด้วยนะ …สวัสดีครับผม


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc