น่าจะเป็นข่าวดีของใครหลายๆคนนะครับสำหรับรถไฟฟ้าที่พึ่งจะเปิดให้ใช้งานกันไปเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ห้าแยกลาดพร้าว – มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งต่อเพิ่มขึ้นมาอีก 5 สถานี แน่นอนว่าจะช่วยให้การใช้ชีวิตบนถนนพหลโยธินช่วงนี้สะดวกขึ้นอีกหลายเท่าเลย ไหนจะลดจำนวนการใช้รถยนต์บนท้องถนน ช่วยบรรเทาปัญหารถติดไปได้บ้างบางส่วน ไหนจะความเจริญที่มาเกาะตามแนวรถไฟฟ้า รวมถึงการเข้าถึงห้างสรรพสินค้าในโซนนั้นได้ง่ายขึ้นอีกเยอะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นผมเชื่อเหลือเกินครับว่าคงจะมีหนึ่งคำถามที่ตามมาอย่างแน่นอน.. นั่นก็คือการพูดถึงที่พักอาศัยที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายนี้ เพราะคงปฎิเสธไม่ได้ว่า Demand ของความต้องการก็สูงขึ้นหลังจากที่รถไฟฟ้าเปิดใช้งานอีกไม่น้อย ทั้งจะอยู่เอง เช่า หรือลงทุนก็คงจะเป็นที่หมายปองของคนที่อยากจะเข้ามามีบทบาทในระแวกนี้ แต่ถ้าจะให้สรุปทั้งหมดมาในบทความนี้ ก็เกรงว่าจะยาวจนเกินไป ดังนั้นวันนี้ผมจึงขอเน้นไปที่การมองหาคอนโดใหม่ในช่วง 5 ปีมานี้ที่สร้างเสร็จแล้วพร้อมเข้าอยู่ได้เลยในช่วงแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สถานีห้าแยกลาดพร้าว-ม.เกษตรฯ นี้ ในงบประมาณไม่เกิน 4 ล้านบาท สำหรับชี้เป้าให้กับคนที่อยากเก็บกระเป๋าเข้าอยู่ได้ในคอนโดที่ไม่เก่าจนเกินไปโดยที่ส่วนกลางยังมีสภาพสวยงามใช้งานได้ดี

ซึ่งราคาต่างๆที่อยู่ในบทความนี้ ผม Update เมื่อวันที่ 27/12/19 นะครับ

รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยาย สถานีห้าแยกลาดพร้าว – สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นี้ เป็นช่วงต้นของส่วนต่อขยายสายหมอชิต-คูคต ซึ่งมีการเปิดให้ใช้งานกันไปเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมานี้ ซึ่งส่วนนี้จะเป็นช่วงที่ใกล้เมืองและมีความหนาแน่นของประชากรสูงที่สุด จึงมีความเจริญสูงที่สุดของส่วนต่อขยายด้วยเช่นกัน ซึ่งในแต่ละสถานีจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เราลองมาดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละสถานีจะมีลักษณะอย่างไร และมีคอนโดโครงการไหนที่สร้างเสร็จในระยะเวลา 5 ปี ในงบประมาณไม่เกิน 4 ล้านบาท ที่อยู่ในระยะใช้งานได้สะดวกกันบ้าง

สถานีห้าแยกลาดพร้าว

เริ่มที่สถานีแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นของส่วนต่อขยายนี้กันเลย ห้าแยกลาดพร้าวมีบทบาทหลักๆเลยคือเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญ 3 สาย ทั้งพหลโยธิน วิภาวดีรังสิต และลาดพร้าว แต่มีตำแหน่งเขยิบขึ้นมาทางถนนพหลโยธินสักหน่อยติดกับห้างสรรพสินค้าชื่อดังขวัญใจชาวลาดพร้าวอย่าง Central ลาดพร้าว แถมยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธินได้อีกด้วย ดังนั้นจึงปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นสถานีที่หลายๆคนรอคอย คอนโดที่อยู่รอบๆสถานีจึงมีราคาค่อนข้างสูง

จึงทำให้คอนโดส่วนใหญ่รอบๆสถานีอาจจะไม่ได้อยู่ในรูปแบบของบทความเราเท่าไรนัก เพราะจะเกินงบ 4 ล้านบาทที่เราตั้งเอาไว้ เช่น M ลาดพร้าว, The Line พหลโยธิน Park หรือแม้กระทั่ง Life Ladpraw Valley ทำให้ถ้าหากพูดถึงคอนโดรอบๆสถานีนี้ที่สร้างเสร็จมาไม่เกิน 5 ปีและอยู่ในงบ 4 ล้านบาท คงจะหาได้ยากในปัจจุบัน จะมีตัวที่เกินมาหน่อยที่ออกมายังถนนรอบข้างอย่างวิภาวดีรังสิต ก็คือ The Saint Residence (มีระยะห่างจาก BTS ประมาณ 750 เมตร) สร้างเสร็จมาประมาณ 2018 ปี ซึ่งปัจจุบันราคาเริ่มต้นจะเขยิบไปอยู่ที่ประมาณ 4.5 ล้านบาทแล้ว หรือถ้าเป็นตัวเก่าก็จะมี Abstract พหลโยธิน Park ที่สร้างเสร็จในปี 2012 แต่มีตำแหน่งติดรถไฟฟ้าเลย และราคา Resale ก็ยังมี 3-4 ล้านให้เห็นนะ

ดังนั้นสำหรับสถานีนี้ผมจึงขอยกคอนโดที่กำลังจะสร้างเสร็จในช่วงต้นปี 2563 นี้มาให้ดูกันนะครับ กับ Life ลาดพร้าว ที่จะสร้างเสร็จประมาณช่วงกุมภาพันธ์ของปี 2563 ปัจจุบันเหลือห้อง Studio ขนาด 26.5 ตร.ม. ในราคา 3.99 ล้านบาท (Update 27/12/19) ให้เลือกกันอยู่นะ ส่วนถ้าจะมีอีกอาจจะต้องเขยิบเข้าไปในซอยลาดพร้าว 1 จะมีคอนโด Low Rise อย่าง The Elegant ลาดพร้าว 1 ที่คาดว่าจะสร้างเสร็จประมาณเดือนมิถุนายนของปี 2563 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.99 ล้านบาท ได้ห้องขนาดใหญ่กว่าแถมยังถูกลงมา 1 ล้านเลยทีเดียว แต่ก็จะใช้งานรถไฟฟ้าได้ไม่สะดวกเท่า Life ลาดพร้าวนะ ลองชมรายละเอียดแล้วพิจารณากันดูครับ

Life ลาดพร้าว

สำหรับคอนโดตัวนี้คงไม่ต้องอธิบายกันเยอะเลยว่ามีจุดเด่นอะไรมาก ตั้งแต่การตอบรับที่ล้นหลามตั้งแต่ไปนั่งต่อคิวกันจองข้ามคืน ด้วยทำเลที่โดดเด่น และรูปแบบโครงการที่ฉีกกรอบจาก Life ทั่วไปพอสมควร เช่นการใช้เทคโนโลยี Digital Community ต่างๆ เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก ภายในแยกออกเป็น 2 อาคาร 45 และ 46 ชั้น รวมแล้ว 1,615 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต มีที่จอดรถให้ 723 คันคิดเป็น 44.76% ซึ่งก็จัดเป็นจำนวนไม่น้อยนะสำหรับโครงการที่ติดรถไฟฟ้าชนิดที่อยู่หน้าโครงการแบบนี้ แถมยังยกพื้นที่ส่วนกลางหลักๆไปไว้ที่ชั้นบนสุด ทั้งสองอาคาร และเน้นห้องพักอาศัยที่มีขนาดไม่ได้ใหญ่มาก โดยจะเริ่มต้นที่ Studio 26 ตร.ม. เท่านั้น

ส่วนกลางของที่นี่ก็เรียกว่าจัดมาให้ครบ แถมยังยกขึ้นไปอยู่ด้านบนทั้งสองอาคาร แต่ละอาคารจะมีพื้นที่ส่วนกลางของตนเองครบทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นทั้งสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้องทำงาน ห้อง Social Club และอื่นๆอีกมากมาย ทำให้ถึงจำนวนยูนิตเยอะ แต่ก็แบ่งออกให้ใช้งานกันได้ง่าย และลดจำนวนผู้ใช้ในแต่ละพื้นที่ลงดีทีเดียว นอกจากนั้นพื้นที่ด้านล่างที่เป็น ส่วนภายนอกอาคารก็มีทั้งส่วนที่เป็นบ่อน้ำ ต้นไม้ ลานอเนกประสงค์ และ Pavilion นั่งเล่นในสวนให้ด้วย สุดท้ายโครงการยังนำระบบ Alexa System หรือระบบสั่งงานด้วยเสียงมาใช้ในส่วนต่างๆ ของโครงการ รวมทั้ง สามารถใช้ Application เชื่อมต่อเข้ากับระบบในอาคาร ทั้งควบคุมสั่งเปิดปิดประตูได้ตั้งแต่ประตูทางเข้าโครงการ, ประตูห้องพัก, การจองห้องประชุม, ติดต่อกับผู้ดูแลคอนโด, จ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ, การติดตามผลการแจ้งซ่อมกับทางนิติบุคคล และการติดตามข่าวสารต่างๆ ของคอนโดได้อีกด้วย

ส่วนห้องพักอาศัยที่อยู่ในงบของเราจะเป็นห้อง Studio ขนาด 26.5 ตร.ม. เป็นขนาดที่เล็กที่สุดของโครงการ ซึ่งจะมีราคาอยู่ที่ 3.99 ล้านบาท อยู่ในงบของเราแบบพอดิบพอดีเลย ภายในจะมีฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร ขายในรูปแบบ Fully Fitted ได้เป็นห้องเปล่าที่มาพร้อมเคาน์เตอร์ครัว และเครื่องปรับอากาศให้ ซึ่งเราต้องเผื่องบไว้สำหรับตกแต่งห้องด้วยนะ นอกจากนี้ในโครงการจะมีห้องอื่นๆให้เลือกประกอบไปด้วย

  • Studio 26 – 29 ตร.ม. จำนวน 509 ยูนิต
  • 1 Bedroom 35 ตร.ม. จำนวน 832 ยูนิต
  • 2 Bedrooms 48 – 74 ตร.ม. จำนวน 273 ยูนิต
  • Duplex 342 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิต

 

 

The Elegant ลาดพร้าว 1

มาดูอีกโครงการของสถานีนี้กันบ้าง เป็นโครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จเหมือนกัน แต่ใกล้เสร็จมากๆแล้ว ผมเลยนำมาแนะนำกันนะครับ กับ The Elegant Ladprao1 จาก Triple Land Development คอนโด Low Rise จำนวน 147 ยูนิต ในซอยลาดพร้าว 1 กัน จากหน้าปากซอยลาดพร้าว 1 หรือ Union Mall เข้าไปสู่โครงการมีระยะประมาณ 400 เมตร และมีระยะห่างจากตัวสถานี ห้าแยกลาดพร้าวประมาณ 750 เมตร ตัวโครงการมีห้องให้เลือก 3 แบบคือ 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ขนาดประมาณ 30-40 ตร.ม. มีที่จอดรถให้ประมาณ 71 คันคิดเป็น 48% คาดว่าจะสร้างเสร็จประมาณเดือนมิถุนายนของปี 2563

พื้นที่ส่วนกลางมีให้ค่อนข้างครบ ทั้งสระว่ายน้ำที่อยู่บนชั้นดาดฟ้า ฟิตเนส สวน ลู่วิ่ง พื้นที่ทำงานตามจุดต่างๆ ชั้น 2 จะมี Meeting Room อยู่บริเวณหน้าลิฟต์และในชั้น 2-7 จะมีพื้นที่ Working Space ส่วนชั้น 8 ที่พื้นที่ Working Space นี้จะถูกเปลี่ยนไปเป็นห้องน้ำและห้องแต่งตัวสำหรับคนใช้สระน้ำบนชั้นดาดฟ้าเเทน Working Space นั้นถือว่าเป็น Function ห้องทำงานที่เพิ่มมาให้ในแต่ละชั้น จะได้ความเป็นส่วนตัวและมีพื้นที่ให้ใช้ทำงานนอกห้องได้ คงจะถูกใจสายนั่งอ่านหนังสือทำงานกันไม่น้อยเลย

ถ้ายอมเขยิบเข้ามาในซอยลาดพร้าว 1 กันสักหน่อย เราก็จะได้ห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แถมยังอัพเกรดมาเป็น 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. แบบนี้ที่เห็นนี้กันล่ะครับ โดยของที่นี่จะเป็นห้องที่กั้นสัดส่วนมาให้ชัดเจน ในราคา 2.99 ล้านบาท (Update 27/12/19) ขายแบบ Fully Fitted เช่นเดียวกัน โดยภายในห้องจะมีขนาดความสูงอยู่ที่ 2.5 เมตร วัสดุที่ให้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีเอกลักษณ์เช่นการใช้ Stainless สี Rose Gold มาประกอบ ทำให้การตกแต่งภายในห้องดูสวยแปลกตามากยิ่งขึ้น ตัวสุขภัณฑ์ก็ให้มาในเกณฑ์ดีสมราคาของ Cristina พื้นเป็นกระเบื้องยางลายไม้ เคาน์เตอร์ครัวปิดผิวด้วยเมลามีนลายไม้ ส่วน Top และผนังส่วนเคาน์เตอร์ให้เป็นหินสังเคราะห์สีขาว

ตัวโครงการมีแบบห้องให้เลือกทั้งหมด 3 แบบคือ

  • 1 Bedroom 30 ตร.ม. จำนวน 63 units
  • 1 Bedroom Plus 37 ตร.ม. จำนวน 77 units
  • 2 Bedroom 39.4 ตารางเมตร จำนวน 7 units

 

สถานีพหลโยธิน 24

สถานีนี้มีจุดเด่นเป็นแหล่งของมนุษย์เงินเดือนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นตึกช้าง SCB Park ศาลอาญา รวมไปถึงอาคารสำนักงานต่างๆบนถนนวิภาวดี ดังนั้นการมาของรถไฟฟ้าก็ช่วยตอบโจทย์การเดินทางของเหล่าพนักงานในย่านนี้ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้มีความคึกคักในช่วงเวลาเข้า-ออกงานสูงไม่แพ้สถานีห้าแยกลาดพร้าวเลยครับ

สำหรับคอนโดรอบๆสถานีนี้จะมีทั้งตัวเก่าและตัวใหม่ ซึ่งจะเรียงรายตามแนวถนนพหลโยธิน นำขบวนมาโดย Origin ที่ยกเอาแบรนด์ Knightsbridge ทั้ง 2 ตัวมาวางใกล้สถานีนี้ทั้ง Knightsbridge Prime รัชโยธิน และ Knightsbridge Space รัชโยธิน แต่ดูแล้วจะเกินงบของเราไปหน่อย นอกจากนั้นก็มีตัวเก่าอย่างศุภาลัย ปาร์ค พหลโยธิน คอนโด High Rise 3 อาคาร, Charteau in Town วิภาวดี 30 ที่สร้างเสร็จมาตั้งแต่ปี 2012 และ Bangkok Feliz วิภาวดี ที่สร้างเสร็จไปเมื่อปี 2013 ดังนั้นจะเหลือก็ต้องขยับเข้าไปในซอยกันหน่อย อย่าง Lyss Condominium รัชโยธิน คอนโด Low Rise ในซ.พหลโยธิน 27 พึ่งสร้างเสร็จมาไม่นาน และราคาก็อยู่ในงบของเราด้วย

Lyss Condominium รัชโยธิน

LYSS รัชโยธิน จาก Able Asset เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 171 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต ในซอยพหลโยธิน 27 ใกล้สี่แยกรัชโยธิน และมีรถสถานีรถไฟฟ้าพหลโยธิน 24 อยู่บริเวณหน้าปากซอย มีระยะประมาณ 250 เมตร ภายในมีที่จอดรถประมาณ 68 คันคิดเป็น 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) เป็นโครงการที่สร้างเสร็จมาเมื่อเดือนมีนาคมของปี 2562 ที่ผ่านมานี้ อายุยังไม่ถึงปีเลยด้วยซ้ำ แถมคนก็พึ่งทยอยเข้าอยู่กัน สภาพเรียกว่าใหม่แกะกล่องพร้อมเข้าอยู่ได้เลยทีเดียว ที่สำคัญคืออยู่ในงบไม่เกิน 4 ล้าน และแถมยังมีเงินเหลือให้แต่งห้องด้วยนะครับ

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้จะอยู่ที่ชั้น 2 นะครับ จัดเป็นแบบ Internal Court สร้างพื้นที่สวนภายในให้เป็นวิวให้กับพื้นที่พักอาศัยภายในโครงการด้วย แต่ส่วนวิวของสระว่ายน้ำไม่เป็นส่วนตัวเท่าไหร่ Facilities ส่วนกลางที่มีให้หลักๆก็ครบ ได้แก่ Lobby, Co-Working Space, ห้องออกกำลังกาย และสระว่ายน้ำ ในส่วนพื้นที่สีเขียวมีการจัด Landscape อยู่บริเวณรอบๆตัวอาคารที่ชั้นล่าง และที่ชั้น 2 ของโครงการเป็นหลัก จากที่จอดรถสามารถขึ้นลิฟต์ขึ้นไปส่วนพักอาศัยได้เลย เป็นลิฟต์ดยสารแบบล็อคชั้น 2 ตัว ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 85.5 : 1 ถือว่ายังสบายๆ ไม่มากไม่น้อยเกินไปสำหรับโครงการ Low Rise

 

สำหรับห้องที่นี่ถ้าหากงบไม่เกิน 4 ล้านบาท จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 รูปแบบเลย โดยจะขายเป็นแบบ Fully Fitted ทั้งหมด แต่จะมีบางห้องที่เป็นห้องหลุดดาวน์ อาจจะได้ส่วนลดพิเศษและมีเฟอร์นิเจอร์มาให้ด้วยนะ (เพราะเมื่อก่อนเขาขายแบบ Fully Furnished) โดยราคาแต่ละห้องจะอยู่ที่

  • 1 Bedroom Type A ขนาด 28.20 ตร.ม. ราคาประมาณ 2.99 ล้านบาท (ห้องหลุดดาวน์ จึงได้ส่วนลดพิเศษ ราคาปกติจะอยู่ที่ประมาณ 3.2 ล้านบาท)  (Update 27/12/19)
  • 1 Bedroom Type B ขนาด 29.70 ตร.ม. ราคาประมาณ 3.65 ล้านบาท (Update 27/12/19)
  • 1 Bedroom Type C ขนาด 32 ตร.ม. ราคาประมาณ 3.56 ล้านบาท (ห้องหลุดดาวน์ จึงได้ส่วนลดพิเศษ ราคาปกติจะอยู่ที่ประมาณ 3.86 ล้านบาท) (Update 27/12/19)

โดยแต่ละห้องจะมีรูปแบบและจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เช่นห้อง A จะได้เป็นบานสไลด์ตรงกลางห้อง ทำให้จะดูโล่งกว่าแบบอื่นๆ และแสงสามารถเข้าถึงพื้นที่ภายในห้องได้มากกว่า ส่วนห้อง B, C จะมีพื้นที่ภายในคล้ายกัน แตกต่างกันที่ขนาดเล็กน้อย จะได้เป็นประตูบานทึบ ซึ่งจะแบ่งความเป็นส่วนตัวได้ดีกว่าห้องแบบ A ทุกห้องจะได้เป็นครัวปิดจึงไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควันจากการประกอบอาหารมากนัก

 

สถานีรัชโยธิน

ถัดมาต่อกันที่สถานีรัชโยธิน เป็นอีกหนึ่งสถานีที่ติดกับห้างสรรพสินค้าชื่อดังในย่านนี้อย่าง Major รัชโยธิน เป็นทั้งห้างที่มีพื้นที่เดินเล่น Shopping ดูหนัง ฟังเพลง หาของกิน ด้านหลังมี Avenue ให้เดินเล่นใช้งาน แถมยังมี Villa Market ในการจับจ่ายใช้สอยข้าวของเครื่องใช้กันเข้าบ้านได้ง่าย จึงทำให้สถานีนี้เป็นอีกจุดที่มีความคึกคักสูงเช่นกัน

และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของสถานีนี้ จึงทำให้มีคอนโดรอบข้างค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นทั้งตัวเก่าหรือไม่ Low Rise ภายในซอย และ High Rise แต่ส่วนใหญ่จะเก่าเกินไป หรือไม่ก็เกินงบ 4 ล้านของเรา จะตัวที่พอจะใกล้เคียงกับเงื่อนไขของเราจะมี Centric รัชโยธิน ที่พึ่งสร้างเสร็จไปเมื่อเดือนพฤษจิกายนปี 2562 ที่ผ่านมาเท่านั้น นอกเหนือจากนี้จะมีคอนโด Low Rise ที่ราคาไม่เกิน 4 ล้านก็จริง แต่จะเก่าเกิน 5 ปีไปหน่อย อย่าง Chateau in Town Major, Bangkok Feliz Major, The Seed Terre, The Wind รัชโยธิน ส่วน High Rise จะมีตัวเก่าอย่าง Lumpini Place รัชโยธิน และคอนโด Luxury น้องใหม่อย่าง The Mazarine ที่ปัจจุบันราคาเริ่มต้นจะอยู่ประมาณ 4.5 ล้านบาท

สำหรับตัว Centric รัชโยธิน… ที่ผมต้องใช้คำว่าใกล้เคียงกับเงื่อนไขก็เพราะว่าปัจจุบันราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 4.2 ล้านบาทแล้ว เป็นห้อง Studio ขนาด 24 ตร.ม. แต่ขายในรูปแบบ Full Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ พร้อมอยู่เลย ดังนั้นงบรวมๆก็ไม่ได้เกิน 4 ล้านไปมากเท่าไรนัก และเนื่องจากสถานีนี้หาคอนโดที่เข้ากับเงื่อนไขของเราได้ยาก ดังนั้นจึงขออนุญาตยกตัวนี้ขึ้นมาพูดแล้วกันนะครับ

 

Centric รัชโยธิน

Centric รัชโยธิน จาก SC Asset เป็นคอนโด High Rise 21 ชั้น 261 ยูนิต ห่างจาก BTS สถานีรัชโยธินประมาณ 150 ม. กับแนวคิด A place for your hybrid lifestyle จัดพื้นที่ส่วนกลางมาให้ครบแบบ Triple Facilities รองรับฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย ห้องมีหลายแบบ จุดเด่นคือมีฝ้าเพดานสูง 3 เมตร เหมาะสำหรับคนที่ชอบความโปร่ง โล่ง ภายในมีพื้นที่จอดรถประมาณ 121 คัน หรือคิดเป็นประมาณ 46% แบบไม่รวมซ้อนคัน ราคาเริ่มต้นที่ 4.2 ล้านบาท ให้วัสดุแบบ Fully Furnished ดีไซน์สวย กระจกบานใหญ่ พร้อมเทคโนโลยี Rue Jai Living Solutions

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ เน้นพื้นที่ส่วนกลางใช้งานได้หลากหลายตามรูปแบบความต้องการที่แตกต่างกันมากถึง 3 ส่วนรองรับฟังก์ชันการใช้งานทั้ง Co-living Space, Co-Working Space และ Co-Relaxing Space ที่ชั้น Ground มี Grand Lobby ที่มีความโปร่งโล่งด้วยเพดานสูง 5.5 เมตร และผนังกระจกโดยรอบ มีพื้นที่เชื่อมต่อไปยัง Semi Outdoor Lobby เข้ามาด้านในมี Residence Lobby Lounge, Business Lounge & Private Meeting Room, ชั้น 4 (Triple Facilities) Co-living Space, Co-working Space, Reading Lounge เชื่อมต่อกับ Sensational Garden, Outdoor Dining Space และ ชั้น 21 (Rooftop) ที่มี Infinity edge pool, Sky Fitness, Virtual Class Exercise Room และมี Smart Mail Room + Smart Locker (ตู้รับฝากของอัจฉริยะที่ช่วยให้ลูกบ้านรับของได้ตลอด 24 ชม.) อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 130.5 : 1 ถือว่าแน่นไปหน่อย ดีที่มีมีลิฟต์ Service ให้แยกส่วนการใช้งานไม่รบกวนลูกบ้าน

สำหรับห้องที่เราซื้อได้ในงบที่ตั้งไว้จะเป็นห้อง Studio 24 ตร.ม. ซึ่งจริงๆแล้วก็เกินงบเรามาหน่อย ที่ 4.2 ล้านบาท แต่ด้วยรูปแบบการขาย Fully Furnished ที่มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องแบบพร้อมอยู่ได้เลย ทำให้ผมเลือกหยิบตัวนี้มาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ภายในห้องเป็นห้อง Studio ตอนลึกที่กั้นสัดส่วนไว้ให้ มีฉากกั้นสำหรับครัวปิด และด้านในก็มีมุม Bay Window ที่นั่งริมระเบียงด้วย เหมาะสำหรับคนที่อยากมีพื้นที่นั่งทำงานที่เป็นสัดส่วน เคาน์เตอร์ครัวโครงไม้ปิดผิวด้วยลามิเนต Top หินสังเคราะห์ เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล้างจานของ Mex พื้นเป็นไม้ลามิเนต ห้องน้ำปูกระเบื้องแกรนิตโต้ให้ สุขภัณฑ์เป็นของ American Standard พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศพร้อมใช้งาน และมีอุปกรณ์สำหรับบริการ Baan RueJai (บ้านรู้ใจ) แอพพลิเคชั่น ให้ทุกห้อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้พักอาศัย เช่น ควบคุมการเปิด/ปิดระบบแสงสว่าง แอร์ ภายในห้องพัก ระบบ Motion Sensor, Smart Security & Access Control

รูปแบบห้องอื่นๆในโครงการ

  • Studio 24-26 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 30 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 34-35 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 55 ตร.ม.

สถานีเสนานิคม

บอกได้เลยครับว่าสถานีนี้เป็นหลายๆคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้อาจจะกำลังมองหาอยู่ เพราะมีคอนโดที่อยู่ในเงื่อนไขของเราค่อนข้างเยอะ ด้วยความที่มีตำแหน่งห่างออกมาจากตัวเมืองอีกหน่อย และไม่ได้มีห้างสรรพสินค้าติดกับตัวสถานี จึงทำให้ราคาคอนโดโดยรอบเริ่มจะเป็นตัวเลขที่เข้ามาอยู่ในงบของเรากันบ้างแล้ว แถมยังมีซอยใหญ่อย่างเสนานิคม 1 (พหลโยธิน 32) และ เสนานิคม 2 (พหลโยธิน 34) ลัดเลาะไปออกถนนลาดปลาเค้า ไปเลียบด่วนได้ง่ายจึงทำให้มีคอนโด Low Rise ในซอยค่อนข้างเยอะ

รอบๆสถานีจะมี Knightsbridge Kaset Society หมู่คอนโด High Rise 3 อาคาร ที่จะสร้างเสร็จประมาณปลายปี 2563 นอกนั้นจะเข้าข่ายตึกเสร็จภายใน 5 ปีมานี้ และอยู่ในงบ 4 ล้านบาท ที่ยังมีมือหนึ่งขายอยู่หมดเลย ประกอบไปด้วย Lumpini Park พหลโยธิน 32Premio Quintro, PHYLL พหลโยธิน,  Maxxi Condo,  และตัวที่กำลังจะเสร็จต้นปีหน้าอย่าง The Ville Express ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาท สุดท้ายนี้มีอีก 2 คอนโดที่อยู่ในเงื่อนไขของเรา แต่ปัจจุบันขายหมดไปแล้วอย่าง Chapter One Kaset Campus ที่ปิดการขายไปได้ปีกว่าๆ แล้ว และ Supalai Cute รัชโยธิน-พหลโยธิน 34 ถ้าใครสนใจก็ลองไปสอบถาม Re-Sale กันได้นะครับ

Lumpini Park พหลโยธิน 32

เป็นคอนโด High Rise 30 ชั้น 1 อาคาร 546 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต ห่างจาก BTS เสนานิคม ประมาณ 300 เมตร พื้นที่ส่วนกลางเน้นพื้นที่สีเขียว และ Facility มาแบบจัดเต็มยกเอาสระว่ายน้ำไปไว้ที่ชั้น 24 ซึ่งตัวนี้เป็นโครงการของ LPN ไม่กี่โครงการที่วางสระว่ายน้ำอยู่ชั้นบนๆ ของตัวอาคาร ออกแบบส่วนกลางที่หลากหลายให้ผู้อยู่อาศัยในทุกกลุ่มอายุสามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม ภายในโครงการมีที่จอดรถประมาณ 203 คันคิดเป็น 37% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ห้องพักอาศัยก็มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลายนะครับ ส่วนที่อยู่ในเงื่อนไขของเราก็มีให้เลือกทั้ง Studio และ 1 Bedroom เลย สร้างเสร็จพร้อมอยู่ในเดือนพฤษจิกายนของปี 2562 ที่ผ่านมา

ที่ชั้น 1 ประกอบด้วย Lobby, ห้องเรียนรู้ (Learning zone), ห้องเฮาส์เวิร์ค (Housework Zone) และ ห้องกิจกรรม (Co-Living Zone) บริเวณภายนอกและรอบอาคารมีลานพักผ่อน (Co-Living Area), ลานฟิตแอนด์เฟิร์ม (Fit & Firm area), สนามเด็กเล่น (Playground) และที่ชั้น 24 มี สระว่ายน้ำ (Infinity Edge Pool), ห้องเอนกประสงค์ ( Co-Living Zone), ห้องคุณหนู (Kid’s Fun Zone), ห้องน้ำ-อาบน้ำ แยกชาย-หญิง ภายในมี ห้องสตีมและซาวน่า, ฟิตเนสโซน ที่สามารถออกกำลังกายมองเห็นวิวมุมสูง และห้องเปี่ยมสุข (Happiness Zone) ออกแบบสำหรับผู้สูงอายุมาใช้ได้ มีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 182 : 1 ค่อนข้างแน่นไปหน่อย แต่มีลิฟต์ Sevice ให้ 1 ตัว/อาคาร แยกส่วนไว้ให้ใช้งานขนของต่างๆได้สะดวกไม่รบกวนลิฟต์โดยสารลูกบ้าน

สำหรับห้องที่ซื้อได้ของที่นี่จะมีให้เลือกทั้ง Studio และ 1 Bedroom เลยนะครับ โดยราคาเริ่มต้นของห้อง Studio ขนาด 24 ตร.ม. จะอยู่ที่ 2.59 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่น Update 27/12/19) เป็นห้อง Studio ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ทำให้มีพื้นที่รับช่องแสงได้เยอะหน่อย ส่วนถ้าใครอยากขยับขึ้นเป็นห้อง 1 Bedroom 28 ตร.ม. จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3.89 ล้านบาท ห้องทุกแบบจะสูง 2.6 เมตร โครงการจัดมาแบบ Fully Fitted ต้องตกแต่งห้องเอง จึงต้องพิจารณาเผื่อค่าตกแต่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ไว้ส่วนนึงด้วย วัสดุภายในพื้นฐานก็ให้ครบตามมาตรฐาน เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละส่วน  ที่มีให้ชุดครัวแต่ต้องมาเพิ่ม Hob & Hood เองถ้าอยากทำอาหารจริงจัง Top ครัวเป็น Particle Board และส่วนผนังครัวติดกระเบื้องให้ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Charmer และ American Standard มีฉากกั้นอาบน้ำให้พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น พื้นภายในห้องทั้งส่วนนั่งเล่น ห้องนอน เป็นลามิเนตทั้งหมด ที่ห้องนอนและครัว สามารถรับแสง เปิดระบายอากาศได้ดี ให้กระจกบานใหญ่ช่วยห้องไม่มืดทึบ มีประตูกั้นแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน และได้ไฟแบบดาวน์ไลท์ทั้งห้อง Studio 24 – 28.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.02 ล้านบาท

รูปแบบห้องในโครงการ

  • Studio 24 – 28.5 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 28-32.5 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 36 – 46.5 ตร.ม.

 

Premio Quintro

Premio Quinto เป็นคอนโด Low Rise 4 อาคาร 439 ยูนิต บนถนนพหลโยธิน ติด BTS สถานีเสนานิคมแบบเดินประมาณ 20-30 เมตร ออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลางระหว่าง 4 อาคาร ที่จอดรถ 160 คัน (คิดเป็น 37%) รวมซ้อนคันเป็น 190 คัน (คิดเป็น 45%) เป็นโครงการที่สร้างเสร็จกันมาในเดือนกันยายนของปี 2562 ที่ผ่านมา เริ่มมีการย้ายเข้าอยู่กันบ้างแล้ว

 

เนื่องจากเป็นคอนโด Low Rise การให้พื้นที่ส่วนกลางอาจจะไม่มากเท่าตัวอาคารสูงอยู่แล้ว แต่สิ่งที่โครงการให้มาเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตลูกบ้านแค่ 439 ยูนิตก็ถือว่าให้มาโอเคเลยเริ่มจากที่อาคาร A ที่อยู่ด้านหน้าใกล้ถนนใหญ่ ซึ่งจะมี Exclusive Lounge Club, Book Cafe และ Studio Workshop และไปจัดวางส่วนกลางอีกที่ด้านในอาคาร C เลยได้แก่ Fitness และ Co-Working Space นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ส่วนกลางกลางแจ้งอย่าสวนหย่อมสไตล์ Modern English มีศาลานั่งพักผ่อนและก็สระว่ายน้ำที่อยู่ติดกันด้วย

สำหรับห้องพักอาศัยของที่นี่ จะอยู่ในงบเราตั้งแต่ Studio จนถึง 1 Bedroom 28 ตร.ม.เลย แต่ปัจจุบัน ห้องStudio ขายหมดไปแล้ว จึงเหลือแต่ห้อง 1 Bedroom 26 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท (Update 27/12/19) และ 1 Bedroom 28 ตร.ม. ในราคา 3.9 ล้านบาท (Update 27/12/19) แต่มีส่วนลดให้อีก 2 แสน จึงจะเหลือประมาณ 3.7 ล้านบาท (Update 27/12/19) ที่สำคัญคือขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่เลย ทั้ง Built-In และลอยตัวเป็นของ SB รวมไปถึงชุดครัวด้วยเช่นกัน Hob&Hood และอ่างล้างจานได้ของ MEX, ได้แอร์ 2 ตัว, พื้นส่วนนั่งเล่นได้ลามิเนต 8 mm. แต่ห้องน้ำ ครัว ระเบียงเป็นกระเบื้องไซส์ 30 cm., ในห้องน้ำวัสดุได้ของ American Standard ที่หน้าตาดูโอเค และสุดท้ายได้ Digital Door Lock ของ Hafele เรียกว่าให้มาเยอะคุ้มค่าเลย

รูปแบบห้องภายในโครงการ

  • Studio 22 – 23 ตร.ม. (มี 28 ยูนิต)
  • 1 Bedroom 25 – 33 ตร.ม. (มี 405 ยูนิต)
  • 2 Bedrooms 42 ตร.ม. (มี 6 ยูนิต)

PHYLL พหลโยธิน

PHYLL พหล 34 จาก ซีพีเอ็น เรสซิเด้นซ์ คอนโด Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร 358 ยูนิต พร้อมอาคารคลับเฮ้าส์ ติดถนนพหลโยธิน ตำแหน่งปากซอยพหลโยธิน 34 ติดกับ BTS เสนานิคมเลย ภายในโครงการจะเน้นห้อง 1 Bedroom หลากหลายขนาด ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวครบน่าใช้งาน ที่จอดรถประมาณ 145 คัน เป็นโครงการที่สร้างเสร็จมาไม่กี่เดือน ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันก็กำลังเริ่มมีลูกบ้านทยอยกันย้ายเข้าอยู่แล้วนะครับ

พื้นที่ส่วนกลางจะเป็นอาคารคลับเฮ้าส์ สูง 3 ชั้นอยู่ตรงกลางของกลุ่มอาคารพักอาศัย ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ ขนาด 20 x 6.50 เมตร พื้นที่พักคอย ห้องออกกำลังกาย ห้องสมุดและนั่งเล่น นอกนั้นก็มีส่วนซักรีดแยก Smart Locker ระบบ Card Reader ที่ประตูเข้า-ออกโครงการ ,ทางเข้าโถงลิฟต์โดยสาร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
ติดตั้งระบบ IP CCTV ภายในลิฟต์ทุกตัว, Main Lobby ชั้น 1 ลานจอดรถ, ทางเดินชั้นห้องพัก, บริเวณทางเข้า-ออกโครงการ

สำหรับห้องพักอาศัยที่เราจะสามารถซื้อได้ในโครงการนี้จะอยู่ที่ (Update 27/12/19)

  • 1 Bedroom Type A ขนาด 25 ตร.ม. ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 3.5 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Type B ขนาด 28 ตร.ม. ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 3.9 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Type C ขนาด 35 ตร.ม. ราคาจะกระโดดไปอยู่ที่ประมาณ 4.7 ล้านบาท

ซึ่งทุกห้องจะขายในรูปแบบ Fully Furnished ให้มาครบ ยกเว้นเครื่องใช้ไฟ้า ฟูก ฝ้าม่าน และ Wallpaper เท่านั้นเอง ภายในห้องจะมีความสูงอยู่ที่ 2.5 เมตร พื้นเป็นลามิเนตและแกรนิตโต้ในห้องไซส์ใหญ่ ห้องน้ำให้ฉากกั้นอาบน้ำมาพร้อม และได้แอร์ Daikin ห้องละ 2 ตัวครับ

Maxxi Condo

MAXXI Condominium จากบริษัท แม็กซิมัส เอสเตท จำกัด ร่วมกับ บจก.อาร์เคพลัส เอสเตท จำกัด เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 249 ยูนิต พร้อมอาคารคลับเฮ้าส์ ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน34 ห่างจาก BTS เสนานิคม ประมาณ 900 เมตร ห้องพักอาศัยก็มีให้เลือกหลายขนาดเลย ตั้งแต่ Studio ไปจนถึง 2 Bedroom ที่จอดรถประมาณ 79 คัน ประมาณ 32% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ปัจจุบันสร้างเสร็จมาได้ตั้งแต่ต้นปี 2562 แล้ว สภาพยังใหม่แกะกล่อง

แยกส่วนพื้นที่พักอาศัยกับพื้นที่ส่วนกลางชัดเจน ไม่รบกวนกัน มีส่วนกลางให้ใช้ตามมาตรฐานค่อนข้างครบ ออกแบบได้สวยน่าใช้ มีคลับเฮ้าส์ หรือ ที่โครงการเรียกว่า Co-Happy Space เป็นอาคาร 2 ชั้นแยกออกมา ภายในประกอบด้วย Co- Kitchen Space พื้นที่สำหรับให้ลูกบ้านมาทำอาหารร่วมกัน, Fitness , Yoga Area , Boxing Corner, Pool Table, Library Corner, Swimming Jet Pool, Roof Garden และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมงด้วยระบบ RFID Car Access (Easy pass ไม่ต้องเปิดกระจกรถ) และ CCTV

สำหรับห้องพักอาศัยของที่นี่ที่จะอยู่ในงบที่เราสามารถซื้อได้จะมี 3 รูปแบบ โดยเราเก็บของมูลราคาไว้ ณ  วันที่ Update 27/12/19 คือ

  • Studio 22 ตร.ม. ในราคา 1.75 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 26 ตร.ม.ในราคา 2.1 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 30 ตร.ม. ในราคา 2.3 ล้านบาท
  • จริงๆสามารถซื้อ 2 Bedroom ได้ด้วย แต่ขายหมดไปแล้ว

ทุกรูปแบบขายในแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ครบชุด, Digital Door Lock, เครื่องปรับอากาศของ Daikin, Built-In ครัว, สุขภัณฑ์ของ American Standard ห้องน้ำที่แบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง พื้นภายในห้องเป็นลามิเนตหนา 12 มม. คุณภาพของวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ถือว่ามีคุณภาพดีเมื่อเทียบกับราคา ให้มาเยอะและมีทางเลือกในการตกแต่ง เหลือเพียงซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่ม ก็ลากกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลยครับ

สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เป็นสถานีสุดท้ายของเราในวันนี้นะครับ ซึ่งก็คงไม่ต้องบอกเลยว่าจุดเด่นของสถานีนี้คืออะไร เพราะอยู่ในชื่อสถานีอยู่แล้ว ตัวสถานีนี้มีตำแหน่งตั้งอยู่หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เลย  แถมรอบๆก็มีสถานที่ราชการหลายๆจุด เอาใจกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับม.ไปเต็มๆ ทั้งเหล่านศ. อาจารย์ และบุคลากรต่างๆ แอบไปเช็คมาเมื่อปี 62 เฉพาะนิสิตก็มีประมาณ 37,000 กว่าคนแล้วนะครับ (ที่มา : https://regis.ku.ac.th/cpcmns/rpt_std_ku3.php) นอกจากนั้นก็ยังเป็นที่หมายปองสำหรับเหล่านักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่าอีกด้วย ที่สำคัญคือใกล้กับแยกม.เกษตรด้วย ที่เป็นจุดตัดของถนนพหลโยธิน ประเสริฐมนูกิจ และงามวงศ์วาน ซึ่งเป็นถนนสายใหญ่และมีการจราจรหนาแน่นทั้งสามสาย จึงไม่แปลกที่มีคอนโดเรียงรายอยู่โดยรอบแยก ม.เกษตร นี้

เริ่มบุกเบิกพื้นที่ด้วย ศุภาลัยปาร์ค แยกเกษตร คอนโดเก่าที่สร้างเสร็จมาตั้งแต่ปี 2010 มีอายุมากไปหน่อย เลยหลุดจากเงื่อนไขของเรานะครับ รวมถึง Premio Vetro และ Kensington พหล-เกษตร ที่ปิดการขายไปแล้ว นอกนั้นจะมีคอนโดสร้างเสร็จที่อยู่ในช่วง 5 ปีนี้ และไม่เกิน 4 ล้านบาท คือ Miti Chiva Kaset Station ที่สร้างเสร็จเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2562 นี้เอง และอีกตัวห่างออกไปหน่อยจะมี Elio Del Moss กลุ่มคอนโด Low Rise 8 อาคาร

Miti Chiva Kaset Station

Miti Chiva เกษตร สเตชั่น ห่างจาก BTS สถานีม.เกษตรฯ ประมาณ 150 เมตร แถมยังมีทางเข้าออกถึง 2 ทางทั้งประเสริฐมนูกิจและพหลโยธิน เป็นคอนโด High Rise 23 ชั้น ที่มีเพียง 200 ยูนิต จัดพื้นที่ส่งนกลางมาให้ที่ 3 ชั้นบนสุดรับวิวมุมสูงรอบด้าน พร้อมที่จอดรถ 60%
ห้องพักอาศัยของที่นี่มีให้เลือกหลายแบบ จุดเด่นคือฝ้าเพดานที่ยกสูงมาให้ถึง 3 เมตร จัดเป็นสัดส่วนและได้แสงเยอะเลยทีเดียว โดยมีราคาเฉลี่ยทั้งโครงการจะอยู่ที่ประมาณ 160,000 บาท/ตร.ม. หรือราคาเริ่มต้นที่ 3.59 ล้านบาท (Update 27/12/19) แต่ตอนนี้เหลือแค่ห้องหลุดโอนไม่กี่ห้องเท่านั้น หากสนใจก็ต้องรีบกันหน่อยนะครับ

ส่วนกลางของที่นี่เรียกว่าจัดเต็มเหมือนกันนะครับ เพราะจะอยู่ที่ 3 ชั้นบนสุด 21, 22, 23 รับวิวโล่งรอบด้าน ภายในก็มีพื้นที่มีให้เลือกใข้งานค่อนข้างเยอะ นำโดย สระว่ายน้ำระบบเกลือรูปทรงตัว L ขนาด 4.5 x 34.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร  Steam, Sunken Seat, Fitness, Co-Thinking Space, Panoramic Sky Lounge มีอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 1 : 100 ยูนิต

ห้องพักอาศัยที่สามารถซื้อได้ของที่นี่จะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาดเล็กที่สุดที่ 23 ตร.ม. เป็นห้องหลุดโอนที่เหลือจำนวนไม่เยอะแล้วเหมือนกัน ราคา 3.59 ล้านบาท (Update 27/12/19) ลักษณะของห้องที่นี่จะเรียกว่า Studio แบบมีฉากกั้นครัวมาให้ก็ว่าได้ ฝ้าเพดานภายในห้องจะสูง 3 เมตร ขายในรูปแบบ Partly Furnished เพราะจะให้ Furniture Built-in ทั้งหมด ฉากกั้นห้องต่างๆ รวมถึง โซฟา ชั้นวางทีวี และฐานเตียงมาให้ด้วย วัสดุอื่นๆจะได้ Digital Door Lock พื้นลามิเนตหนา 12 มม. ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ได้ชุดครัว Top หินสังเคราะห์ เคาน์เตอร์ต่างๆปิดผิวด้วยลามิเนต จะได้ผนัง Backsplash ด้านหลังจะเป็นกระจก พร้อมที่วางและแขวนอุปกรณ์ต่างๆ เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันแบบ Exhausted และอ่างล้างจานจาก TEKA

รูปแบบห้องของโครงการ

  • 1 Bedroom 23 – 27 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 33.5 – 34.5 ตร.ม.

 

Elio Del Moss

โครงการ Elio Del Moss จาก Ananda ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มคอนโด Low Rise 8 อาคาร  1,522 ยูนิต และ ร้านค้า 2 ยูนิต ที่ห่างจาก BTS ม.เกษตรฯ ประมาณ 950 เมตร ด้วยการเดินนะ หรือ BTS สถานีเสนานิคมประมาณ 1.2 กิโลเมตร ด้วยรถยนต์ ภายในโครงการมีแนวคิดหลักในเรื่องของธรรมชาติ Back to Nature จัดส่วนกลางกว่า 3 ไร่ ไว้ในโครงการให้ใช้งาน มีห้องหลากหลายแบบให้เลือก สร้างเสร็จมาในเดือนเมษายนปี 2562 ที่ผ่านมานี้ ภายในมีที่จอดรถประมาณ 574 คันคิดเป็นประมาณ 38% มี Shuttle Service รับส่ง BTS สถานี ม.เกษตรฯ รอบเช้า-เย็น (ไม่ได้มีทั้งวันนะครับ)

ตัวอาคารของที่นี่จะถูกแบ่งออกเป็น 8 อาคาร วาง 2 ฝั่ง ฝั่งละ 4 โดยจะมีอาคาร E ตั้งอยู่ตรงกลางเป็นพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่จอดรถ นอกจากนั้นยังแยกสระว่ายน้ำแบบ Free Form ไว้ 2 จุดให้ใช้งาน และพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคาร E เช่น ห้องออกกำลังกาย, ห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมล็อคเกอร์, ห้องซาวน่า (ช) และห้องอบไอน้ำ (ญ), พื้นที่ห้องทำงานอเนกประสงค์ co-working space, ห้องซักรีด ส่วนทุกๆอาคารจะมีลิฟต์ให้ 2 ตัว และ Lobby ของตัวเอง พิเศษหน่อยคืออาคาร A ด้านหน้าที่จะมีร้านค้าให้ด้วย

สำหรับโครงการนี้จะอยู่ในงบเราทุกห้องเลยตั้งแต่ Studio จนถึง 2 Bedroom ทุกห้องจะมีฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร แถมยังขายแบบ Fully Furnished อีกด้วย (ยกเว้นอาคาร H ห้อง Studio จะเป็น Fully Fitted ตั้งแต่ชั้น 4-8 โดยจะได้ราคาพิเศษที่ 1.65 ล้านบาท)

ราคาห้องต่างๆจะมีให้เลือกตามนี้ครับ (Update 27/12/19)

  • Studio พื้นที่ใช้สอย 24.5 ตร.ม.ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 30.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.19-2.49 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.5 – 43.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.7 ล้านบาท
  • 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 43.5 – 46.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.3-3.8 ล้านบาท

(Update 27/12/19)

Life ลาดพร้าว

โครงการนี้เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้าสถานีห้าแยกลาดพร้าว ชนิดที่เดินลงมาก็เจอเลย และก็พอมีพื้นที่จอดรถภายในโครงการให้ใช้บริการได้อยู่ ไม่ติดกับห้องรูปแบบ Studio ขนาดเล็กหน่อย ต้องตกแต่งห้องเอง มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้เยอะและไม่ซีเรียสกับจำนวนเพื่อนบ้านที่สูง มีเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

The Elegant ลาดพร้าว 1

โครงการนี้เหมาะกับคนที่มองหาคอนโด Low Rise อาจจะห่างจากรถไฟฟ้าสถานีห้าแยกลาดพร้าวสักหน่อย และไม่ติดในการใช้งานตัวเลือกในการเดินทางอื่นๆประกอบด้วย จะเน้นความเป็นส่วนตัวมากกว่าคอนโดที่ติดถนนใหญ่ เพราะอยู่ในซอยและจำนวนยูนิตทั้งโครงการไม่เยอะ ห้องจะเน้นขนาดพื้นที่ที่ใหญ่และแบ่งเป็นสัดส่วน พื้นที่ส่วนกลางมีให้ใช้ครบที่ด้านบนอาคาร

LYSS Condominium รัชโยธิน

โครงการนี้เหมาะกับคนที่อยากได้คอนโดในซอย มีความเป็นส่วนตัวและสงบมากกว่า มีระยะใช้งานรถไฟฟ้าสถานีพหลโยธิน 24 ได้สะดวกเดินได้สบาย อยากได้ความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนยูนิตทั้งโครงการไม่เยอะ ภายในห้องต้องการความเป็นสัดส่วน แบ่งกั้นห้องมาให้เลย (1 Bedroom) แต่งห้องเอง มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ครบตามมาตรฐาน

Centric รัชโยธิน

โครงการนี้เหมาะกับคนที่อยากได้คอนโดติดถนนใหญ่ ใช้งานรถไฟฟ้าสถานีเสนานิคมได้ง่ายในระยะเดิน หรือจะมีรถส่วนตัวก็มีที่จอดให้ใช้งาน ไม่ติดกับห้องขนาดเล็ก พร้อมเข้าอยู่ได้เลยด้วยเฟอร์นิเจอร์ครบ พร้อมส่วนกลางชั้นบนอาคารให้ใช้งาน

Lumpini Park พหลโยธิน 32

โครงการนี้เหมาะกับคนที่อยากได้คอนโดติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้าสถานีเสนานิคมในระยะที่พอเดินได้ มีห้องให้เลือกได้งบทั้ง Studio และ 1 Bedroom อยากตกแต่งห้องเอง มีพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้นบนให้เลือกใช้งานได้เยอะและหลากหลาย สามารถรับวิวรอบข้างได้

Premio Quinto

โครงการเหมาะกับคนที่ต้องการโครงการติดถนนใหญ่ ใกล้ BTS สถานีเสนานิคมเลย ชอบห้องแบบ 1 Bedroom ที่กั้นห้องเป็นสัดส่วน แถมพร้อมเข้าอยู่ได้เลยด้วยรูปแบบการขายแบบ Fully Furnished มีส่วนกลางหลักๆให้ใช้ครบตามมาตรฐาน ไม่ซีเรียสเรื่องการที่ต้องอยู่กับเพื่อนบ้านเยอะ

PHYLL พหล 34

โครงการนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคอนโดติดถนนใหญ่และรถไฟฟ้าเลย เน้นแบบ 1 ห้องนอนเป็นหลัก ไม่ซีเรียสเรื่องวิวและจำนวนยูนิตเยอะนัก มีพื้นที่ส่วนกลางแยกส่วนให้ใช้ครบตามมาตรฐาน พร้อมย้ายของเข้าอยู่ได้เลยไม่ต้องตกแต่งห้องเอง

Maxxi Condominium

โครงการนี้เหมาะกับคนที่อยากได้คอนโดในซอยที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ อาจจะไกลกับ BTS หน่อย จึงทำให้ต้องเดินทางด้วยวิธีอื่นประกอบด้วย เช่นรถประจำทาง ใช้วินมอเตอร์ไซค์หรือแท็กซี่ได้ ที่จอดในโครงการก็ให้มาไม่เยอะ จึงอาจจะไม่เหมาะกับการใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก  เหมาะกับคนที่ต้องการเข้าอยู่ได้เลยเพราะได้แบบ Fully Furnished มีห้องให้เลือกหลายขนาด และแน่นอนว่าได้ราคาถูกกว่าบนถนนใหญ่ เหลือเงินจากงบที่ตั้งไว้สำหรับแต่งห้องได้เยอะ

Miti Chiva Kaset Station

โครงการนี้จะเหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดติดถนนใหญ่ใกล้ม.เกษตรฯ ใช้งานรถไฟฟ้า BTS สถานี ม.เกษตรฯได้ง่ายในระยะเดิน อาจจะมีรถยนต์ส่วนตัวเป็นการเดินทางหลัก และมีรถไฟฟ้าให้เลือกใช้เป็นทางเลือกรองก็ได้ ชอบห้องที่มีเพดานสูงโล่ง และอยากตกแต่งห้องเอง มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้หลากหลาย รับวิวมุมสูง

Elio Del Moss

โครงการนี้จะเหมาะกับคนที่ต้องการคอนโด Low Rise ในซอย มีพื้นที่ภายในห้องที่กว้าง เพราะในงบไม่เกิน 4 ล้านบาท เราสามารถซื้อห้องขนาดใหญ่แบบ 2 Bedroom ได้เลย ที่สำคัญคือพร้อมเข้าอยู่เพราะขายแบบ Fully Furnished ไม่ติดกับต้องอยู่กับเพื่อนบ้านเยอะ มีส่วนกลางให้ใช้ครบถ้วนใช้แนวรถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกรองในการเดินทาง เพราะมีระยะห่างที่ค่อนข้างไกลกว่าเพื่อนๆรอบๆสถานี

สุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้จะช่วยเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย และหากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมานะที่นี้ด้วยนะครับ หรือมีข้อเสนอแนะอะไรสามารถคอมเม้นมาคุยกันได้ครับผม ขอบคุณครับ 🙂