หลังจากปิดปรับปรุงมาสักระยะ ในเดือนกันยายนนี้ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ก็ถึงคราวกลับมาเปิดให้บริการ พร้อมอวดโฉมใหม่ที่มีพื้นที่ใหญ่กว่าเดิมถึง 5 เท่า พร้อมขยายพื้นที่รีเทลให้กว้างขวางขึ้นถึง 11,000 ตารางเมตร จัดเต็มทั้ง ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ของหวาน ร้านเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬา และร้านสะดวกซื้อซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์เด็ดเลยทีเดียว ที่สำคัญในส่วนรีเทลนี้ถ้าสร้างเสร็จจะเปิดแต่เช้า เราสามารถมาจอดรถและแวะไปออกกำลังกายที่สวนเบญจกิติ เสร็จมาแล้วกลับมาทานข้าว อาบน้ำ (เค้ามีห้องอาบน้ำมาให้ด้วยนะ) และไปทำงานต่อได้เลย
วันนี้เราจะพาไปชม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โฉมใหม่ที่เปิดให้สื่อมวลชนได้ชมเป็นกลุ่มแรกไปเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2565 ภายในจะเป็นอย่างไรบ้างตามมาดูกันค่ะ
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถือกำเนิดจากการที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของธนาคารโลกและ กองทุนการเงินระหว่างประเทศครั้งที่ 46 รัฐบาลจึงได้มีคำสั่งให้ก่อสร้างศูนย์การประชุมที่จะรองรับงาน ดังกล่าวได้
ในวันที่ 12 เมษายน 2562 ศูนย์ฯ สิริกิติ์ได้ทำการหยุดให้บริการชั่วคราวเพื่อทำการปรับปรุงสภาพ พื้นที่ของศูนย์ในรูปแบบใหม่ เพื่อขยายพื้นที่รวมให้มากขึ้นถึง 5 เท่า เป็น 300,000 ตารางเมตร โดยขุดใต้ดินลงไป แบ่งเป็นพื้นที่จัดงาน Event 78,500 ตารางเมตร พื้นที่สำหรับร้านค้าปลีก 11,000 ตารางเมตร สามารถรองรับการจัดงานได้ทุกรูปแบบอย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยจำนวนฮอลล์จัด นิทรรศการ 8 ห้อง ห้องเพลนารี 4 ห้อง ห้องบอลรูม 4 ห้อง และห้องย่อย 50 ห้อง รองรับผู้เข้าใช้บริการได้ มากถึง 100,000 คน/วัน พร้อมลานจอดรถใต้ดินที่สามารถจอดรถยนต์ได้มากถึง 3,000 คัน
โดยการออกแบบตกแต่งภายในของ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โฉมใหม่ ได้ออกแบบภายใต้แนวคิด ‘สืบ สาน รักษา ต่อยอด’ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากฉลองพระองค์ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง
และอีกหนึ่งไฮไลท์คือ พื้นที่โซนรีเทล ภายใต้ Concept “แอคทีฟไลฟ์สไตล์มอลล์” BALM – Bangkok Active Lifestyle Mall บนเนื้อที่กว่า 11,000 ตารางเมตร BALM ที่ทำออกมาเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยว คนรักสุขภาพ ครอบครัว คนทำงาน และผู้ใช้บริการ MRT ด้วยร้านค้าหลากหลาย ได้แก่
- ร้านอาหาร – Food Street, KFC, Zen, Man Fu Yan, Tim Hortons, On The Table ฯลฯ
- เครื่องดื่มและของหวาน – เช่น Starbucks, TRUE COFFEE, Café Amazon, Seven Suns, Bake A Wish, After You, Krispy Kreme ฯลฯ
- แอคทีฟไลฟ์สไตล์ – ตอบโจทย์สายรักสุขภาพและออกกำลังกาย กับร้านสายแอคทีฟไลฟ์สไตล์ อย่าง Warrix, For U Pharma ฯลฯ
- ร้านสะดวกซื้อและค้าปลีก – Lawson Station, 7-11, Mini Big C, Lemon Telecom, Asia Book X Wawee ฯลฯ
ความน่าสนใจคือในส่วนรีเทลนี้ ถ้าสร้างเสร็จจะเปิดแต่เช้าตรู่ ให้เราสามารถมาจอดรถและแวะไปออกกำลังกายที่สวนเบญจกิติ เสร็จมาแล้วก็กลับมาทานข้าว อาบน้ำ (เค้ามีห้องอาบน้ำมาให้ด้วยนะ ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างเลยไม่ได้นำภาพมาฝากกัน) และไปทำงานต่อได้เลย
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์หลังรีโนเวทแล้วภายใน ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จะเป็นอย่างไรบ้างตามมาชมกันค่ะ
พาชมศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)
ชั้น LG
เริ่มกันที่ ชั้น LG ประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดงสินค้าและนิทรรศการ และเป็นศูนย์รวมร้านค้า บริการ รวมถึงผลงานแสดงศิลปะชั้นครูของไทย อีกทั้งยังเป็นชั้นที่เชื่อมต่อกับทางเข้าจากรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ทำให้การออกแบบในชั้นนี้บรรยากาศจะเน้นการต้อนรับอย่างเป็นกันเองภายใต้แนวคิด “ชุดไทยลำลอง” อย่าง ผ้าขาวม้า ผ้าถุง การจับจีบ การซ้อนเกล็ดมาใช้ในการประดับประดาส่วนต่างๆ
ทางเชื่อมจากรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ที่เดินขุดอุโมงค์ใหม่ ไม่ต้องเดินตากแดดร้อนๆด้านบน
ชั้นนี้จะมีร้านค้าและบริการต่างๆ ซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ
บรรดาร้านค้าต่างๆกำลังเร่งการก่อสร้างให้ทันวันเปิดใช้บริการนะคะ ซึ่งจะมีทั้งร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ร้านของหวานให้มาแวะทานกันได้อย่างจุใจ
งานแกะสลักไม้ที่จัดแสดงอยู่บริเวณโถงทางเดิน
Hall จัดแสดงชั้น LG โดยงานหนังสือจะจัดแสดงที่โซนนี้ค่ะ
โถงนี้ถ้ามองลงไปที่ชั้น LG จะเห็น Atrium Stair ขั้นบันไดและสวนหย่อมให้เราได้นั่งพักผ่อนกันได้
ชั้น G
ชั้น G เป็นชั้นของพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ ศูนย์อาหาร และพื้นที่ Retail การออกแบบในชั้นนี้คือ “ชุดไทยประยุกต์” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโจงกระเบน มีการจับจีบผ้า โดยโถงนิทรรศการหลักจะตกแต่งด้วยวัสดุสีทองแดง รวมถึงยังมีประตูกัลปพฤกษ์ซึ่งเป็นประตูลายรดน้ำที่นำมาจาก Plenary Hall เดิมอีกด้วย
โถงทางเดินทางและทางเข้าฮอล์ที่ตกแต่งดูหรูหรา โทนสีครีม ทอง
ลูกกรงทองบริเวณบันไดเลื่อน (ฝั่งติดกับสวนเบญฯ) ชั้น LG ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก ลายดอกไทย
เข้ามาดูภายใน Hall มีขนาดใหญ่มากๆนะคะ รองรับคอนเสิร์ตใหญ่ๆได้เลย
ประตูลายรดน้ำค่ะ
ชั้น 1
ชั้น 1 จะเป็นที่ตั้งของ Ballroom , Plenary Hall และห้องประชุม บริเวณนี้เป็น Plenary Foyer ฝั่งสวนเบญจกิติ
มุมนี้เป็นกระจกบานใหญ่สามารถมองสวนเบญจกิติได้เต็มตาเลย
ถ้ามองลงไปจะเห็นว่าถ้าประตูที่กั้นนี้เปิดจะสามารถเดินจากศูนย์ประชุมเชื่อมไปที่สวนเบญจกิติได้เลย
ซึ่งสวนเบญจกิตินี้ได้มีการขยายพื้นที่สร้างสวนป่าเบญจกิติ สวนแห่งใหม่ใจกลางเมือง ที่สร้างขึ้นบนที่ดินของโรงงานยาสูบเก่าอยู่ติดกับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทำให้สายรักสุขภาพสามารถมาวิ่งออกกำลังกายกันได้เต็มที่เลยค่ะ
ชั้นนี้มีการออกแบบโถงทางเดินได้หรูหรามากๆด้วยโทนสีเงิน เนื่องจากพื้นที่ของศูนย์การประชุมมีขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันคนมาใช้บริการหลงหรือสับสน ทางผู้ออกแบบจึงดีไซน์โทนสีในแต่ละโซนให้ต่างกัน ทางฝั่งสวนเบญจกิติจะดีไซน์ด้วยสีทอง ส่วนทางฝั่งถนนรัชดาภิเษกจะดีไซน์ด้วยสีเงินค่ะ
ห้อง Ballroom ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการออกแบบชุดชาวเขาไทย ที่เล่าเรื่องราวของธรรมชาติในรูปแบบลายเส้น รูปทรงเราขาคณิตและการใช้วัสดุตกแต่ง สีเงินจากเครื่องเงินซึ่งเป็นเครื่องประดับที่ชาวเขานิยมสวมใส่ ซึ่งการออกแบบ แสง สี เสียงของเค้าเรียกได้ว่าจัดเต็มมาเลยค่ะ
Plenary Hall
Plenary Hall ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดไทยจักรี ซึ่งเป็นหนึ่งในชุดไทยประจำชาติ โดยหยิบเอาบางส่วนของเส้นสายในชุดไทยมาตกแต่งให้บรรยากาศดูร่วมสมัย เราชอบตรงบันไดนะ เหมาะกับการจัดงานเดินทาง เปิดตัวสินค้าได้ดีเลย
การออกแบบบริเวณห้อง Central Lounge ชั้น 1 บริเวณเดียวกับห้อง Ballroom และ Plenary Hall จะเน้นความโปร่ง สบาย บรรยากาศ Relax ให้เราได้มานั่งพักทานขนม อาหารตอนพักเบรกกันได้สบายๆตรงนี้
ห้องประชุมที่มีมากถึง 50 ห้อง
โถงหน้าห้องน้ำที่กว้างขวาง
ชั้น2
ชั้น 2 ประกอบด้วยห้องประชุมย่อย พื้นที่รับรองแขกและร้านอาหาร “แพรวา” ชั้นนี้ใช้การตกแต่งแบบเรียบหรู โปร่งโล่งไปด้วยผนังกระจกใสติดกับสวนเบญจกิติและสามารถเดินออกไปยังระเบียงเพื่อมองวิวทิวทัศน์ของสวนได้ถึง 180 องศา
ทั้งหมดนี้ถือเป็นตัวสร้างสีสันและเติมเต็มให้กับศูนย์ฯสิริกิติ์โฉมใหม่ใจกลางกรุงเทพ ที่ดึงดูดคนทุกกลุ่ม ซึ่งจะทำให้ให้ย่านพระราม 4 – รัชดาฯ มีความสะดวกสบายมากขึ้น
คอนโดมิเนียมย่านพระราม 4 – รัชดาฯ
สุดท้ายนี้สำหรับคนที่อยากรู้ว่ารอบๆศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และสวนเบญจกิตินี้มีคอนโดอะไรที่สามารถเดินมาใช้งานได้บ้าง เราลองรวบรวมมาให้ดูคร่าวๆ ตามภาพทางด้านบนค่ะ โดยคอนโดที่เราเลือกมาจะมีเงื่อนไขอยู่ที่ เป็นคอนโดที่เปิดขายเป็นมือหนึ่งอยู่ในปัจจุบันใน official website ของทาง developer ผู้พัฒนาโครงการ และเป็นคอนโดที่สามารถเดินมายังศูนย์การประชุมและสวนได้ (ถ้าตกหล่นโครงการไหน comment บอกกันมาได้นะคะ)
ใครสนใจคอนโดโครงการไหน กดอ่านข้อมูลเพิ่มเติมกันได้เลยค่ะ
ส่วนใครที่อ่านบทความนี้แล้วยังไม่จุใจหาบทความที่เกี่ยวข้องอ่านเพิ่มเติม
- ชมวีดีโอรายการ : Think’s Update EP.151 : อัปเดตโครงการสวนป่า “เบญจกิติ” ปอดสีเขียว 300 ไร่ ใจกลางกรุง
- อ่านบทความ : รวมคอนโด ใกล้ 3 สวนใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ