รีวิวโครงการ

รีวิวตึกเสร็จ The Politan Aqua คอนโด High Rise 61 ชั้น โครงการขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ส่วนกลางเยอะ จาก Everland [Walk-in รีวิว]

6 เมษายน 2021

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 1290 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ The Politan Aqua คอนโด High Rise สูง 61 ชั้น ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมพื้นที่สวนกว่า 5 ไร่ ตัวใหม่จาก Everland โดยโครงการนี้ถือเป็นเฟสที่ 4 บนที่ดินผืนใหญ่ ทำเลตั้งอยู่ในซอยนนทบุรี 15  บนถนนสนามบินน้ำ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีพระนั่งเกล้า ราคาเริ่มต้น 1.29ล้านบาท ( 1 ห้องนอน 24 ตร.ม.) ตามไปชมพร้อมๆ กันเลยค่ะ

Fact @ 16 February 2017

  • The Politan Aqua (เดอะ โพลิแทน อควา)
  • บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน)
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ซอย นนทบุรี 15  ถนน สนามบินน้ำ  อำเภอ เมือง ตำบล บางกระสอ จังหวัด นนทบุรี
  • คอนโด High Rise 61 ชั้น 2 อาคาร 2,741 ยูนิต 4 ร้านค้า
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 52 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 1,564 คัน  รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 57%
  • ที่ดินประมาณ 10-2-34.8 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : ไตรมาส 1 ปี 2560
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ไตรมาส 2 ปี 2563
  • 1 Bedroom 24-30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 60 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.60เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น (ห้อง 24 ตร.ม.) 1.29 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการประมาณ 70,000 – 85,000 บาท/ตร.ม. 
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านการอนุมัติแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : www.thepolitancondo.com/aqua  
  • โทร  : 02-002-2222
  • Pre-sale 18 -19 มีนาคม 2560 นี้

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.874993 , 100.480591

จากแผนที่โครงการ   The Politan Aqua ตั้งอยู่ในซอยนนทบุรี 15 บนถนนสนามบินน้ำ ใกล้สถานีพระนั่งเกล้า รถไฟฟ้าสายสีม่วง

ทำเลของโครงการ The Politan Aqua ตั้งอยู่ในจ.นนทบุรี บนถนนสนามบินน้ำ อยู่ระหว่างย่านบางใหญ่และย่านแคราย -งามวงศ์วาน จุดเด่นของโครงการนี้คือเป็นคอนโดริมแม่น้ำที่สามารถเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ ถ้ามองภาพรวมในย่านนี้ถือเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มมีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าขึ้นมา จะเห็นว่ามีโครงการคอนโด High Rise มาขึ้นบริเวณริมถนนรัตนาธิเบศร์ตลอดทั้ง 2 ฝั่งยาวไปจนถึงย่านบางใหญ่ ส่วนในซอยจะเป็นที่พักอาศัยแนวราบ  ถ้ามาดูบนถนนสนามบินน้ำ สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเรือน ชุมชนเก่าแก่ที่อยู่อาศัยกันมานาน ถนนเส้นนี้มีความสำคัญก็คือเป็นที่ตั้งของกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ทำให้บริเวณใกล้ๆกับถนนติวานนท์นั้นค่อนข้างคึกคัก มีร้านค้า ร้านอาหาร รวมไปถึงตลาดสำหรับพนักงาน ข้าราชการ และคนในแถบนั้นด้วย

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวถ้าใครใช้ชีวิตหรือทำงานในละแวกนี้ถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ เนื่องจากถนนสนามบินน้ำเป็นถนนที่เชื่อมถนนหลักอย่างระหว่างถนนรัตนาธิเบศร์และถนนติวานนท์ สำหรับถนนติวานนท์ ที่ตัดผ่านถนนรัตนาธิเบศร์ที่แยกแคราย ในแนวเหนือ-ใต้ เชื่อมไปยังถนนนครอินทร์ ไปสะพานพระราม 5 ได้ในทิศใต้ และเชื่อมไปถนนแจ้งวัฒนะ มุ่งหน้าห้าแยกปากเกร็ดในทิศเหนือ เป็นอีกหนึ่งเส้นทางคมนาคมที่สำคัญของโซนนนทบุรีนี้ค่ะ สำหรับถนนรัตนาธิเบศร์นั้นสามารถวิ่งข้ามสะพานไปถนนราชพฤกษ์ได้ หรือจะวิ่งเข้าเมืองโดยผ่านแยกแครายก็จะเข้าสู่ถนนงามวงศ์วาน ที่จะเป็นถนนเส้นเดียวกัน มีทางขึ้น-ลงทางด่วนงามวงศ์วานให้ใช้ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะเหมือนกันค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องจากถนนรัตนาธิเบศร์นี้เป็นถนนหลักที่ใช้ในการเดินทางเข้าออกเมืองของคนในย่านนี้จึงอาจจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางมากๆหน่อยนะคะโดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน

การเข้าถึงโครงการหลักๆแล้วสามารถเข้าถึงได้ 3 เส้นทางดังนี้

  • เส้นทางที่ 1 – เดินทางมาจากเส้นแคราย หรือทางพิเศษศรีรัช ทางด่วนขั้นที่ 2 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนงามวงศ์วาน วิ่งตรงตามถนนรัตนาธิเบศร์ ก่อนถึงสะพานพระนั่งเกล้าให้เบี่ยงซ้ายเข้าทางคู่ขนานเพื่อที่จะกลับรถแล้ว แล้วมาเลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัตนาธิเบศร์ 42 (ซอยวัดน้อยนอก) หรือเลี้ยวเข้าถนน สนามบินน้ำเพื่อเข้าซอย นนทบุรี 15 ตรงเข้าซอยมาซักระยะก็จะถึงทางเข้าโครงการ โดยโครงการจะอยู่ทางฝั่งซ้าย
  • เส้นทางที่ 2 – เดินทางมาจากถนนแจ้งวัฒนะ วิ่งจากถนนติวานนท์เลี้ยวขวาเข้าถนนสนามบินน้ำ ผ่านสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ ตรงมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยนนทบุรี 15
  • เส้นทางที่ 3 – เดินทางมาจากบางใหญ่ ตรงมาตามถนนรัตนาธิเบศร์ข้ามสะพานพระนั่งเกล้า (สะพานเดิม) มาแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัตนาธิเบศร์ 42 หรือเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสนามบินน้ำและเลี้ยวซ้ายเข้าซอยนนทบุรี 15 ค่ะ

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ เราก็สามารถเรียกรถสาธารณะทั้งแท็กซี่ และ มอเตอร์ไซค์ได้สะดวก จากโครงการเดินออกมาหน่อยก็จะถึงถนนสนามบินน้ำซึ่งเป็นถนนที่ใช้ลัดออกไปติวานนท์ได้เพราะฉะนั้นจะมีรถวิ่งอยู่ตลอดเวลา หรือจะใช้ซอยรัตนาธิเบศร์ 42 เดินออกมาเรียกรถที่ถนน รัตนาธิเบศร์ก็ได้ สำหรับการเดินทางโดยระบบรางจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วง  สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีพระนั่งเกล้า ตัวสถานีจะอยู่บริเวณจุดตัดของถนนรัตนาธิเบศร์และถนนสนามบินน้ำ แต่ตอนนี้ทางขึ้น – ลงสถานีจะมีอยู่แค่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งในอนาคตคาดว่าน่าจะมีการทำทางเชื่อมมาลงบริเวณหน้าปากซอยรัตนาธิเบศร์ 42 แต่ยังไม่ทราบตำแหน่งอย่างเป็นทางการนะคะ เราต้องรอดูกันต่อไป โดยจากโครงการมาถึงหน้าปากซอยรัตนาธิเบศร์ 42 จะมีระยะประมาณ 500 เมตร ดังนั้นตอนนี้เราต้องเดินข้ามสะพานลอยที่อยู่บริเวณหน้าปากซอย นนทบุรี 15 เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าฝั่งตรงข้ามไปก่อน สถานีสะพานพระนั่งเกล้ามีทางขึ้นสู่สถานีทั้งหมด 3 ทางด้วยกันคือ (ข้อมูลจาก http://www.mrta-purpleline.com/)

  • ทางขึ้น-ลง A – ตั้งอยู่บริเวณด้านทิศตะวันตกของสถานีบนถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออกใต้สะพานพระนั่งเกล้า
  • ทางขึ้น-ลง B – ตั้งอยู่บริเวณด้านทิศตะวันออกของสถานีบนถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออก ใกล้แยกสนามบินน้ำ
  • ทางขึ้น-ลง C – อยู่บริเวณด้านทิศตะวันออกของของสถานีบนถนนรัตนาธิเบศร์ จะอยู่ฝั่งขาออกเช่นเดียวกับทางขึ้น-ลง  A และ B ใกล้แยกสนามบินน้ำ

อีกหนึ่งการเดินทางในอนาคตที่มีอยู่ในแผนคือการสร้างจุดเชื่อมต่อเรือด่วนเจ้าพระยา เพื่อรองรับผู้คนที่ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงและผู้คนในพื้นที่นี้ให้มีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จพื้นที่บริเวณนี้จะเป็นอีกจุดที่มีการเชื่อมต่อในการเดินทางเปรียบเสมือนสถานีรถไฟฟ้าตากสิน ที่มีจุดเด่นในด้านการเชื่อมเส้นทางการคมนาคมระบบรางและการคมนาคมทางน้ำ โดยท่าเรือนี้สามารถเดินทางไปถึงสาทรได้เลยค่ะ

ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์บนถนนสนามบินน้ำก็มีทั้งร้านอาหาร ร้านรถเข็นอยู่เป็นระยะๆ รวมไปถึงตลาดสนามบินน้ำที่อยู่ตรงข้ามสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลสามารถหาของกินได้ง่ายไม่ไกลมากนักสำหรับระยะการขับรถนะคะ แต่หากเป็นระยะเดินนั้นก็อาจจะเดินไกลหน่อย หรือจะออกไปทานร้านอาหารที่อยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ก็ได้ค่ะ สำหรับห้างที่อยู่ใกล้ที่สุดก็คือ Central รัตนาธิเบศร์ ห้างดังห้างใหญ่ประจำถนนสายนี้ สามารถวิ่งลัดเข้าถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีเข้าสู่ตัวห้างได้ไม่ต้องเผชิญรถติดบนถนนรัตนาธิเบศร์ ส่วนห้างที่ไกลออกไปหน่อยก็จะมี Central West Gate แถบบางใหญ่กับอีกฝั่งบนถนนงามวงศ์วานอย่าง Esplanade แครายและ The Mall งามวงศ์วานให้เลือกไปช้อปปิ้งกัน โดยรวมแล้วสิ่งอำนวยความสะดวกและความอุดมสมบูรณ์ในรัศมีไม่เกิน 10 กม. ก็ถือว่าค่อนข้างครบครันค่ะ จุดเด่นของโครงการที่อยู่ทางฝั่งนี้คือ ติดแม่น้ำเจ้าพระยาโดยตัวโครงการถึงแม้ว่าจะต้องเดินเข้าซอยไปหน่อย แต่ด้านหลังของโครงการจะติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาเลย ทำให้เราได้สัมผัสวิวแม่น้ำแบบเต็มๆ

สำหรับการเดินทางของเราในวันนี้ จะเริ่มต้นจากบริเวณสี่แยกแคราย ตรงมาตามถนนรัตนาธิเบศร์ ตรงมาเรื่อยๆจนผ่าน Central รัตนาธิเบศร์ ก่อนขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าให้เบี่ยงซ้ายออกทางขนานเพื่อไปกลับรถที่ใต้สะพาน จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสนามบินน้ำ เข้าซอยนนทบุรี 15 ไปหน่อยก็ถึงหน้าปากทางเข้าโครงการ ส่วนสำนักงานขายจะตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำค่ะ

The Politan Breeze_L (1)

การเดินทางในวันนี้เริ่มจากบริเวณสี่แยกแคราย ตรงไปตามถนน รัตนาธิเบศร์  พอเริ่มเข้าถนนเส้นนี้มาทางด้านซ้ายจะผ่านโครงการ U delight รัตนาธิเบศร์ และ เอเวอรี่มอลล์ มอลล์ (Hobby Lobby เก่า) ส่วนทางฝั่งขวาจะเป็นเอสพลานาด งามวงศ์วาน – แคราย และ Tesco Lotus รัตนาธิเบศร์

The Politan Breeze_L (2)

ขับตรงมาซักระยะจะเจอกับ สถานีแรกบนถนนรัตนาธิเบศร์ คือ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ทางฝั่งซ้ายเป็นบริษัท ไทยคม จำกัด มหาชน ส่วนทางด้านขวาเป็น อุทยานมกุฏรมยสราญ และ ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี

ตรงมาอีก ทางฝั่งซ้ายจะเป็น Big C รัตนาธิเบศร์ ซึ่งมีทางขึ้นลงสถานี บางกระสออยู่ด้านหน้าเลย ใครจะมาจับจ่ายใช้สอยก็สามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงได้

ถัดมาจะเจอเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ห้างใหญ่ของคนย่านนี้ อยู่ทางฝั่งขวาซึ่งจะตรงกับสถานี นนทบุรี 1

The Politan Breeze_L (5)

ขับตรงมาอีกหน่อยจะเห็นป้ายบอกทางไปยังถนนสนามบินน้ำ (กระทรวงพาณิชย์) โดยให้เริ่มเบี่ยงซ้ายออกทางขนาน

The Politan Breeze_L (6)

เราจะเบี่ยงซ้ายออกทางขนานค่ะ ตรงจุดนี้ต้องระวังนิดนึงเพราะถ้าเลยตรงนี้ไปจะถูกบังคับให้ขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าเลยค่ะ

The Politan Breeze_L (7)

จากนั้นจะต้องขับตรงไปกลับรถใต้สะพาน ส่วนสะพานลอยนี้จะเป็นสะพานที่เราเดินออกมาจากถนนสนามบินน้ำ แล้วใช้ข้ามมาขึ้นรถไฟฟ้าสถานีพระนั่งเกล้าค่ะ

พอขับเลยสะพานลอยมาจะเห็น ทางขึ้นรถไฟฟ้าสถานีพระนั่งเกล้า โดยถนนสนามบินน้ำจะอยู่ฝั่งตรงข้าม ช่วงกลางถนนจะมี barrier กั้นทางอยู่

พอข้ามแยกมาจะมีทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าอยู่อีกจุดหนึ่ง เราจะตรงต่อไปเพื่อกลับรถค่ะ

จุดกลับรถจะอยู่บริเวณใต้สะพานพระนั่งเกล้า ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ในอนาคตจะมีการสร้างจุดเชื่อมต่อเรือด่วนเจ้าพระยาค่ะ

พอกลับรถมาเราจะเจอกับซอย รัตนาธิเบศร์ 42 ซึ่งใช้เป็นซอยลัดเข้าโครงการได้ และในอนาคตคาดว่าจะมีการ Sky walk มาลงบริเวณนี้แต่ยังไม่รู้ตำแหน่งที่แน่ชัด เราจะตรงต่อไปเข้าทางถนนสนามบินน้ำค่ะ

จากซอย รัตนาธิเบศร์ 42 ขับตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอกับถนนสนามบินน้ำ เราจะเลี้ยวเข้าซอยนี้ไปค่ะ

ภายในถนนสนามบินน้ำเป็นถนนสี่เลน มีเกาะกลางที่มีโคมไฟประดับตรงช่วงกลางถนน บริเวณต้นถนนสนามบินน้ำสังเกตว่าจะมีคอนโด High Rise ขึ้นมาให้เห็นบ้างทั้ง 2 ฝั่งถนน โดยฝั่งซ้ายเป็นคอนโด ธารารินทร์ เจ้าพระยา ทางฝั่งขวาเป็นศุภาลัย ซิตี้รีสอร์ท

พอตรงมาจนถึงซอย นนทบุรี 15 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปค่ะ ภายในซอยนี้เป็นซอยภาระจำยอมที่ใช้ร่วมกับเพื่อนบ้านร่วมซอยด้านข้าง

เข้าซอยมาจะเห็นพื้นที่ล้อมรั้วสำหรับก่อสร้างโครงการในเฟสแรกๆ ทางด้านซ้ายเป็นทางไปออกซอยรัตนาธิเบศร์42 ส่วนทางด้านขวาจะเป็นทางไปโครงการ The Politan Aqua

ตรงมาจนสุดท้ายจะเจอป้ายบอกทางไปสำนักงานขาย

เราตรงเข้ามาตามทาง ฝั่งขวาคือเขตพื้นที่ของโครงการ The Politan Aqua แล้วนะคะ ส่วนทางซ้ายเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการในอนาคต

สำนักงานขายตั้งอยู่ริมแม่น้ำซึ่งในอนาคตจะใช้เป็น Clubhouse ของโครงการด้วยค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

โครงการ The Politan Aqua ตั้งอยู่บนพื้นที่ 10-2-34.8 ไร่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตัวโครงการเป็นเฟสที่ 4 ตั้งอยู่บนที่ดินผืนใหญ่ที่มีหลายโครงการอยู่ด้วยกัน สภาพแวดล้อมรอบๆส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเรือนแนวราบ ชุมชนริมแม่น้ำ มีตึกสูงอยู่บ้างบริเวณริมถนนสนามบินน้ำ เรามาดูกันว่าแต่ละด้านอยู่ติดกับอะไรบ้าง

  • ทิศเหนือ – ติดกับที่ดินเปล่า และ บ้านเรือนริมแม่น้ำ
  • ทิศตะวันออก – ติดกับถนนสาธารณะของโครงการ และชุมชนบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น
  • ทิศใต้ – ติดกับโครงการ Low Rise ในอนาคต
  • ทิศตะวันตก – เป็นทิศที่วิวค่อนข้างดี อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยแบบแนวราบ

ทิศเหนือ ติดกับที่ดินเปล่า และ ชุมชนที่อยู่อาศัยริมแม่น้ำ เป็นวิวเปิดโล่งไม่มีตึกสูงมาบดบังค่ะ

ทิศใต้ ติดกับพื้นที่พัฒนาโครงการ Low Rise ในอนาคต ถัดไปเป็นโครงการ The Politan Breeze และ The Politan Rive

ทิศตะวันตก เป็นทิศที่วิวค่อนข้างดี อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยแบบแนวราบและคอนโด Low Rise

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • วัดน้อยนอก ~ 350 ม.
  • โรงเรียนธัมมสิริศึกษา ~370 ม.
  • กระทรวงพาณิชย์ ~1.27 กม.
  • โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า  ~2.2 กม.
  • เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ~2.6 กม.
  • ตลาดสนามบินน้ำ Market Park ~2.76 กม.
  • สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ~3.7 กม.
  • สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ~3.8 กม.
  • บิ๊กซี รัตนาธิเบศร์ 2 ~ 4.37 กม.
  • Esplanade แคราย ~4.8 กม.
  • Tesco Lotus แคราย ~4.9 กม.
  • โรงพยาบาลทรวงอก ~5.5 กม.
  • โรงพยาบาลศรีธัญญา ~8.6 กม.
  • โรงพยาบาลนนทเวช ~7.6 กม.
  • เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ~7.7 กม.
  • Central West Gate ~12.6 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

The Politan Aqua เป็นคอนโด High Rise 61 ชั้น 2 Tower 2,741 ยูนิต 4 ร้านค้า ตั้งอยู่บนที่ดิน  10-2-34.8 ไร่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการตึกสูงที่อยู่ริมน้ำมีข้อดีตรงที่สามารถเปิดรับวิวแม่น้ำและสามารถลงมาเดินเล่นบริเวณพื้นที่สวนริมแม่น้ำได้ โครงการนี้อัด Facilities มาให้เยอะพอสมควร ทั้งในอาคารและClubhouseที่อยู่ริมน้ำ ในชั้นบนสุดก็จัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่เปิดรับวิวด้วย

ตัวโครงการจะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีพระนั่งเกล้าในระยะที่เดินถึงค่ะ

มาดูโมเดลกันต่อนะคะ ตัวอาคารเป็น High Rise 2 Tower มีพื้นที่สวนหย่อมรวมๆแล้วประมาณ 5 ไร่ ด้านหลังฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นอาคาร Clubhouse ที่จอดรถยนต์มีที่ชั้นล่างและบนชั้น 2-8 เข้ามาในอาคารชั้นล่างจะมี Waiting Lounge , Lobby , Mailbox , ห้องนิติบุคคล และโถงลิฟต์ สระว่ายน้ำมีมาให้ถึง 3 จุด (บริเวณ Clubhouse , ชั้น 8 และ ชั้น 60) ฟิตเนสเป็นแบบ Duplex อยู่ที่ชั้น 60-61 และมี Sky Lounge อยู่ที่ชั้น 61

ทางเข้าออกโครงการ จะมีป้อมรปภ.อยู่ตรงกลางคอยดูแลความปลอดภัยให้ 24 ชั่วโมงค่ะ พื้นที่โดยรอบโครงการจัดเป็นสวนหย่อม

โครงการนี้จัด Facilities มาให้หลายจุดเพื่อให้เพียงพอต่อลูกบ้านในโครงการ ทั้งบริเวณ Clubhouse ริมแม่น้ำ , นอกอาคารและในอาคาร

ที่ชั้น8 มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ มีทั้งสระผู้ใหญ่และสระเด็ก รวมๆแล้วขนาดประมาณ 12 x 60 เมตร ลึก 1.4 เมตร สระเด็กลึก 0.6 เมตร มีที่พักนั่งผ่อนและจัดสวนมาให้บริเวณริมสระ

ที่ชั้น 9 จะมีสวนหย่อมอีกจุดหนึ่ง จัดมุมพักผ่อนและเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆมาให้ด้วย

อีกฝั่งหนึ่งของอาคารที่ชั้น 9 ก็มีสวนหย่อมเหมือนกัน จัดเป็นสวนเล่นระดับที่แทรกพื้นที่นั่งพักผ่อนให้เรามานั่งเล่นได้

ที่ชั้น 60 และ 61 ทางโครงการก็จัด Facilities มาให้อีก และมีทางเชื่อมระหว่าง 2 อาคารให้เดินไปใช้ส่วนกลางร่วมกันได้

ที่ชั้น 60 มีสระว่ายน้ำแบบ Infinity edge pools ที่มี Jacuzzi มาให้ 3 จุด ขนาดสระประมาณ 25 x 12 เมตร ลึก 1.4 เมตร สระว่ายน้ำจะหันหน้าไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา ราวกันตกโดยรอบเป็นกระจกทำให้เวลามองออกไปแล้วจะรู้สึกว่าน้ำในสระเสมือนเป็นหนึ่งเดียวกันกับผืนแม่น้ำ ส่วนชั้นบนของสระจะเป็น Sky Lounge ที่ผนังเป็นกระจกรอบด้าน

ฟิตเนสเป็นแบบ Duplex อยู่ที่ชั้น 60 และ 61 เป็นพื้นที่ออกกำลังกายขณะที่สามารถชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้

มาดูต่อที่ภาพจำลองบรรยากาศนะคะ บริเวณสวนหย่อมชั้นล่างจะมี  Politan Pavilion สำหรับนั่งพักผ่อน

เข้ามาในอาคารบริเวณชั้น 1 ก็จะมี Waiting Lounge สำหรับนั่งพักคอย ตกแต่งเน้นโทนสีขาว พื้นผนังปูด้วยหินอ่อน

ถัดเข้ามาจะเป็น Lobby มีอยู่ 2 จุดใต้อาคารทั้ง 2  แบ่งออกเป็น Main Lobby และ Outdoor Lobby

Sky Lounge อยู่ที่ชั้น 61  มีชุดโซฟามาให้ลูกบ้านได้มานั่งเล่นพักผ่อนชมวิวและบรรยากาศสวยๆ ในชั้นบนสุดค่ะ

ฟิตเนสเป็นแบบ Duplex อยู่ที่ชั้น 60 และ 61 ผนังเป็นกระจกบานใหญ่ ออกกำลังกายไปชมวิวไปด้วยได้ วางเครื่องออกกำลังกายได้เยอะอยู่

Facilities อีกจุดหนึ่งที่แยกออกมาจากตัวอาคารคือ River view Clubhouse ที่อยู่ริมแม่น้ำ ภายในมีสระว่ายน้ำ , Library , Co – working space , Game room , Golf Simulator room และ Social Club ข้อดีของการมี Clubhouse แยกออกมาคือเราสามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับนัดพบปะกับเพื่อนๆได้โดยไม่ต้องขึ้นไปรบกวนความเป็นส่วนตัวในอาคารพักอาศัย พื้นที่ด้านหลังจัดเป็นสวนริมแม่น้ำสามารถออกมาเดินเล่นชิลๆรับลมชมวิวได้  ปัจจุบันอาคาร Clubhouse สร้างเสร็จแล้วและใช้เป็นสำนักงานขายอยู่ เดี๋ยวเราจะพาไปชมกันค่ะ

เข้ามาด้านใน Clubhouse ก็จะเจอกับพื้นที่ที่ทางโครงการจัดชุดที่นั่งมาให้สำหรับนัดพบหรือนั่งเล่นอ่านหนังสือ การตกแต่งภายในทำออกมาได้ดี น่าใช้ มีการใช้หินอ่อนและซ่อนไฟ บรรยากาศคล้ายๆกันกับพื้นที่ส่วนกลางในอาคาร

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็น Social club สำหรับใช้มานั่งเล่น อ่านหนังสือหรือนัดพบปะสังสรรค์ มีมุมที่นั่งที่มองออกไปด้านนอกก็จะเห็นวิวแม่น้ำด้วย

มี  Co-working space สำหรับนั่งทำงานหรือนัดประชุม

นอกจากนั้นยังมี Game Room ภายในห้องนี้จัดให้มีมุมนั่งเล่นและโต๊ะสนุกเกอร์

ถัดมาอีกห้องหนึ่งคือห้อง Golf Simulator จำลองบรรยากาศของสนามกอล์ฟไว้ให้ผู้เล่นได้เล่นในพื้นที่ที่จำกัดและเป็นแบบ Indoor ด้านข้างจัดเป็นชุดที่นั่งพักผ่อนเอาไว้ให้

เรามาชมของจริงกันค่ะ อาคาร Clubhouse ริมแม่น้ำ ตอนนี้สร้างเสร็จแล้วและใช้เป็นสำนักงานขายของโครงการอยู่ ภายนอกดูโมเดิร์นใช้โทนสีขาวในการตกแต่ง ผนังรอบด้านส่วนใหญ่เป็นกระจกบานใหญ่เปิดรับวิวได้เต็มที่

ด้านหน้า Clubhouse จัดเป็นสวนหย่อม ตอนกลางคืนก็จะมี Lighting ด้วย

และมีที่นั่งพักผ่อนที่มีน้ำล้อมรอบ ปลูกต้นไม้ไว้ตรงกลางดูเด่นดีค่ะ

อ้อมมาด้านหลัง Clubhouse จะเป็นพื้นที่สวนริมแม่น้ำ (Riverfront garden) เราสามารถออกมาเดินเล่นพักผ่อนบริเวณนี้ได้ ถือเป็นข้อดีของโครงการที่อยู่ริมแม่น้ำค่ะ

ด้านหลัง Clubhouse มีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดประมาณ 27.5 x 33 เมตร ลึก 1.4 เมตร หันรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

ช่วงเย็นๆและกลางคืนจะมี Lighting จากสวนและภายในอาคารได้บรรยากาศไปอีกแบบหนึ่งค่ะ

มุมมองออกไปที่แม่น้ำตอนช่วงเย็นๆเป็นประมาณนี้ค่ะ

ริมสระจะมีที่นั่งในร่มมาให้เรานั่งเล่นพักผ่อน ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

ถ้าเรามองจากด้านใน Clubhouse ออกมา จะได้บรรยากาศประมาณนี้ค่ะ สระว่ายน้ำจะดูเป็นผืนเดียวกันกับแม่น้ำเจ้าพระยาเลย

บริเวณริมสระจะมีมุมอาบน้ำล้างตัวมาให้ด้วย

เดินถัดจากสระว่ายน้ำมาจะเจอกับสวนเล่นระดับที่มีทางขึ้นไปจุดชมวิวค่ะ

มุมมองถ่ายจากชั้นบนของ Clubhouse เป็นประมาณนี้ค่ะ

เราสามารถเดินไปชมวิวแม่น้ำและสวนริมน้ำบนทางที่ยกระดับขึ้นมาได้ค่ะ

ด้านล่างมีทำเป็นที่นั่งชมวิวมาให้อีกจุดหนึ่ง

มุมมองถ่ายย้อนกลับไปที่ Clubhouse ค่ะ เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูด้านในกัน

เข้ามาภายใน Clubhouse ตกแต่งออกมาได้อารมณ์เดียวกับภาพจำลองบรรยากาศเลยค่ะ มีชุดโซฟาและที่นั่งมาให้หลายชุดเพื่อรองรับลูกบ้านในโครงการ

ด้านหลังผนังหินอ่อนสีขาวจะเป็นทางไปห้องน้ำ

ห้องน้ำมีแยกมาให้ทั้งชายและหญิง

ภายในห้องน้ำทั้งมีอ่างล้างหน้าและห้องน้ำค่ะ

เราจะขึ้นไปดูกันต่อที่ชั้น 2 ทางขึ้นจะมีทั้งบันไดและลิฟต์ค่ะ

ในClubhouseจะมีลิฟต์มาให้ด้วย สำหรับใครที่ไม่อยากเดินขึ้นบันได ผนังด้านหน้ากรุด้วยหินอ่อนสีเทา

อีกฝั่งเป็นบันไดทางขึ้น  เดี๋ยวเราจะพาขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กัน

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงก่อน

เดินถัดเข้ามาจะเจอกับส่วนที่ในอนาคตเป็น Social club และพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ ซึ่งในปัจจุบันใช้เป็นที่นั่งพักคอย โชว์โมเดลและห้องตัวอย่าง

บรรยากาศอีกมุมหนึ่งค่ะ

ที่นั่งจัดให้มีชุดโซฟาขนาดใหญ่หลายชุด ด้านหลังเป็นกระจกสูงถึงฝ้าเพดานเพื่อเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา เราถ่ายบรรยากาศตอนเย็นมาให้ชมกัน

เราขึ้นไปดูกันต่อที่ชั้น 3

ขึ้นมาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นก่อน

พอเปิดประตูออกมาจะเจอกับสวนที่มีพื้นที่นั่งชมวิวแม่น้ำมาให้

บรรยากาศอีกมุมหนึ่งค่ะ

สำหรับวิว ทางทิศเหนือ เป็นทิศที่เปิดโล่งรับวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่เป็นชุมชนแนวราบริมแม่น้ำ

ทิศตะวันออก เป็นวิวชุมชนที่อยู่อาศัยแนวราบฝั่งถนนสนามบินน้ำ และ ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี

ทิศใต้ เป็นฝั่งที่หันออกถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ ที่มีแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ของจริงจะมองเห็นตึกสูงของโครงการในเฟสแรกๆด้วยค่ะ

ทิศตะวันตก เป็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยแนวราบ

ดูส่วนกลางครบแล้วคงจะพอเห็นภาพคร่าวๆใช่มั้ยค่ะ เรามาสรุปปิดท้ายกันด้วยแปลนโครงการกันนะ เริ่มจาก Master Plan  เข้ามาจะเจอกับวงเวียนซึ่งตรงกลางจะมีป้อมรปภ.คอยดูแลรักษาความปลอดภัยให้ ด้านหน้าอาคารและรอบๆโครงการจะเป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ ถัดไปด้านหลังฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะมี Clubhouse ภายในประกอบด้วย สระว่ายน้ำ , Library , Co – working space , Game room , Golf Simulator room และ Social Club  พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจัดเป็นสวนหย่อมให้ออกมาเดินเล่นได้ ที่จอดรถชั้น 1 จะมีอยู่ด้านหลังอาคาร เข้ามาในตัวอาคารตรงกลางจะเป็น Waiting Lounge ส่วน Lobby และโถงลิฟต์จะมีแยกให้ในแต่ละอาคารนะ  ลิฟต์โดยสารมีอาคารละ 6 ตัว + ลิฟต์บริการอีก 1 รวมทั้ง 2 อาคารมี 12 ลิฟต์โดยสาร + 2 ลิฟต์บริการ เพื่อรองรับจำนวนยูนิตที่ค่อนข้างเยอะค่ะ ส่วนพักอาศัยจะมีอยู่ที่ชั้นหนึ่งเลยเฉพาะอาคารฝั่งที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 เป็นพื้นที่จอดรถเกือบจะทั้งหมด มีส่วนห้องพักอาศัยอยู่ในอาคารฝั่งริมแม่น้ำ จำนวนยูนิตต่อชั้นไม่เยอะมาก การวางผังห้องพักจัดให้ห้อง 2 ห้องนอนอยู่ฝั่งริมน้ำ ซึ่งจะสามารถ Take view แม่น้ำได้ ตัว Product เค้าจะทำระเบียงยาวเป็นตัวแอลให้เห็นวิวทั้ง 2 ฝั่ง นอกนั้นเป็นห้อง 1 ห้องนอนขนาด 30 ตารางเมตร ระหว่างพื้นที่จอดรถและส่วนพักอาศัยจะมีการกั้นประตูที่ต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไปเพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 3 – 6 ผังจะคล้ายๆกับชั้น 2 เลย ต่างกันตรงที่ส่วนจอดรถจะมีพื้นที่มากกว่าหน่อย เพราะในชั้น 2 นั้นบางส่วนถูกใช้เป็นพื้นที่ของ Lobby และ ร้านค้า

ชั้น 7 ผังคล้ายๆกัน

ขึ้นมาที่ชั้น 8 พื้นที่จอดรถเหลืออยู่ครึ่งเดียว อาคารฝั่งริมแม่น้ำจะมีส่วนกลางคือสระว่ายน้ำระบบเกลือแบ่งออกเป็นสระผู้ใหญ่และสระเด็ก ส่วนห้องพักอาศัยของอาคารนี้จะมีจำนวนห้องมากขึ้นเป็นประมาณ 27 ห้องต่อชั้น คนที่อยู่ชั้นนี้จะสามารถเดินไปใช้สระและสวนได้สะดวกค่ะ

จากสระว่ายน้ำชั้น 8 สามารถเดินขึ้นมาที่สวนหย่อมชั้น 9 ได้ หรือคนที่อยู่อีกอาคารหนึ่งจะขึ้นลิฟต์ขึ้นไปยังชั้น 9 เลยก็ได้ ที่ชั้นนี้อาคารฝั่งที่ไม่ได้อยู่ริมน้ำจะมีห้องพักเพิ่มเข้ามา ทิศเหนือเป็นห้อง 1 ห้องนอน 29 ตารางเมตร ฝั่งนี้จะได้วิวที่ค่อนข้างเปิดโล่ง ส่วนทางทิศใต้เป็นห้อง 1 ห้องนอน 24 ตารางเมตร สำหรับอาคารริมน้ำทางทิศเหนือเป็นห้อง 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตร ส่วนทิศใต้เป็นห้อง 1 ห้องนอนขนาด 29-30 ตารางเมตร ห้องมุมฝั่งริมแม่น้ำเป็นแบบ 2 ห้องนอน 60 ตารางเมตร

ชั้น 10 ผังคล้ายๆกับชั้น 9 แต่มีห้องพักอาศัยมากขึ้น

ผังชั้น 11 – 56 ก็คล้ายๆกัน ในชั้นสูงๆมุมมองที่จะเห็นวิวเปิดโล่งก็ดีขึ้นด้วย

ผังชั้น 57 – 59 คล้ายๆกันเช่นกัน มีห้องพักหายไปบางส่วน

ชั้น 60 เป็นส่วนของ Facilities ทั้งชั้น มีสระว่ายน้ำ Infinity edge pools with Jacuzzi , Sky garden , Duplex fitness (ชั้น60-61) และ Skylounge ที่ชั้น 61  การจัดส่วนกลางไว้บนชั้นสูงสุดของอาคารมีข้อดีคือสามารถเปิดรับวิวได้เต็มที่ค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Waiting Lounge
  • Lobby
  • River view Clubhouse

  • Library
  • Co – working space
  • Game room
  • Golf Simulator room
  • Social Club

  • 3 Infinity edge swimming pools with Jacuzzi
  • Kid pool
  • Politan Pond
  • Riverfront garden
  • Playground
  • Jogging track
  • Politan Pavilion
  • Duplex fitness
  • Sky lounge
  • Sky garden
  • 12 ลิฟต์โดยสาร + 2 ลิฟต์บริการ
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 229 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 1,564 คัน  รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 57%
  • CCTV / KEY CARD ACCESS / เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

  • Product Walkthrough

    สำหรับห้องพักอาศัยในโครงการนี้มีให้เลือก 4 แบบ 1 ห้องนอนมีขนาด 24 , 29 , 30 ตารางเมตร ส่วน 2 ห้องนอนขนาด 60 ตารางเมตร เฟอร์นิเจอร์และวัสดุที่ให้ในห้อง 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอนจะมีความแตกต่างกันนะคะ เดี๋ยวจะสรุปให้ฟังก่อนพาไปชมห้อง

    แบบ 1 ห้องนอน 

    • Fully Fitted
    • ชุดครัว + sink
    • ครัวห้องขนาด 24 ตร.ม.ได้ Top เป็น Laminated high pressure ส่วนห้อง 29-30 ตร.ม. Top เป็นหินควอทซ์
    • วัสดุปิดผิวครัวเป็นลามิเนตลายหนังเหมือนกันทุกห้อง (จะไม่เหมือนกับห้องตัวอย่าง)
    • สุขภัณฑ์  Cristina +  Rain shower
    • แอร์ Toshiba หรือ เทียบเท่า ( ห้อง 24 ตร.ม. ได้แอร์ 2 ตัว 9000 BTU ,  ห้อง 29 ตร.ม. ได้แอร์ 2 ตัว 9,000 , 12,000 BTU , ห้อง 30 ตร.ม. ได้แอร์ 2 ตัว 9000 , 12000 BTU)
    • Wallpaper ตามแบบมาตรฐานโครงการ
    • ฉากกั้นอาบน้ำ

    เราจะพาไปชมห้อง 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตร กันก่อน  เข้าห้องมาจะเจอกับห้องนั่งเล่น วางโซฟาได้ประมาณ 2 ที่นั่งและมีพื้นที่สำหรับวางชุดโต๊ะทานข้าวเล็กๆหรือจะใช้เป็นโต๊ะนั่งทำงานก็ได้ ถัดเข้าไปเป็นห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ห้องนี้จะมีระเบียงด้วย มีการแยกระเบียงของห้องนอนเอาไว้สำหรับชมวิวกับระเบียงซักล้างที่อยู่ติดกับครัวใช้สำหรับเป็นที่วางเครื่องซักผ้าหรือใช้ในการซักล้างต่างๆ รวมทั้งไม่ได้ยื่นระเบียงซักล้างออกมาเท่ากับระเบียงชมวิว ดังนั้นระเบียงซักล้างจึงไม่บังวิวจากระเบียงชมวิวที่ติดกับห้องนอนค่ะ  ห้องครัวเป็นแบบครัวปิดสามารถทำอาหารหนักๆได้โดยไม่ค้องกังวลเรื่องกลิ่นและควัน ถัดไปเป็นห้องน้ำที่แยกพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียกเป็นสัดส่วนดีค่ะ

    เข้ามาด้านในจะเจอกับห้องนั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหาร ถัดเข้าไปเป็นส่วนของห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ฝั่งซ้ายจะเป็นห้องครัวและห้องน้ำค่ะ ภายในห้องนี้มีความสูงฝ้า 2.60 ม.ได้ฝ้าเพดานแบบฉาบเรียบ ดวงโคมแบบ Down Light พื้นเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 mm.ค่ะ

    มีระยะดูทีวีที่พอเหมาะ และ มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะกลางได้

    ข้างๆชุดโซฟาวางโต๊ะทานข้าวได้ประมาณ 2 ที่นั่ง  ห้องนี้ไม่ได้มีแถมเฟอร์นิเจอร์ให้นะคะ ซึ่งเราก็สามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขาที่ไม่ใหญ่มากและสามารถวางซ้อนเก็บเข้าไปด้านในได้แบบห้องตัวอย่าง จะสามารถช่วยประหยัดพื้นที่ได้ค่ะ

    ถัดมาในส่วนของห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนสูงถึงฝ้าเพดาน การกั้นห้องแบบนี้ช่วยให้บริเวณห้องนั่งเล่นที่ไม่ได้ติดกับภายนอกนั้นได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาถึง ดูโปร่งไม่ทึบตัน แต่หากใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในห้องนอนมากขึ้นนั้นก็สามารถติดฟิล์มฝ้าหรือผ้าม่านได้ค่ะ

    ถ้าเราเลื่อนเปิดประตูจนสุดก็จะได้ความเชื่อมต่อของห้องประมาณนี้ค่ะ ช่วยให้ห้องรู้สึกกว้างขึ้นด้วย

    ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต ห้องนี้เราจะได้ระเบียงด้วย

    ทั้ง 2 ฝั่งของเตียงมีระยะเหลือพอสมควร ทางฝั่งขวาสามารถวางโคมไฟตั้งพื้นเพิ่มเติมได้ค่ะ

    ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า ถ้าใครชอบตู้เสื้อผ้าใหญ่ๆก็อาจจะทำเป็นตู้เต็มพื้นที่เลยก็ได้ แต่ต้องเช็คความสูงตู้ด้วยนะคะ เพราะจะติดกับส่วนของแอร์ในห้องนอน ด้านข้างเตียงเป็นทางออกไประเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน

    พอวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแล้วก็ยังมีระยะปลายเตียงให้เดินผ่านได้สบายๆ

    ระเบียงมีความกว้างประมาณ 60 ซม. ยาวตามขนาดของห้องนอนค่ะ สามารถออกมายืนสูดอากาศได้ วัสดุเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm.

    มือจับประตูตามมาตรฐานค่ะ

    อีกฝั่งของห้องคือห้องครัวและห้องน้ำ

    แอร์ห้องนี้ได้ 2 ตัวนะคะ เป็นของ Toshiba หรือ เทียบเท่า ขนาด 9,000 และ 12,000 BTU

    ห้องครัวเป็นแบบครัวปิด มีข้อดีคือสามารถทำอาหารหนักๆได้และยังเชื่อมต่อกับระเบียงซึ่งสามารถเปิดระบายอากาศ หรือ ใช้ซักล้างได้สะดวก พื้นตรงส่วนนี้เป็นกระเบื้อง porcelain  เช็ดถูทำความสะอาดง่าย

    ห้องนี้เคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นของ  Modernform , Starmark หรือเทียบเท่าค่ะ วัสดุ Top เป็นหินควอทซ์ ส่วนตัวเคาน์เตอร์ปิดผิวด้วยลามิเนตลายหนัง (จะไม่เหมือนกับห้องตัวอย่างนี้นะคะ) โดยห้องแบบ 1 ห้องนอนจะมีให้ Sink แต่ไม่ได้ให้ Hob&Hood ค่ะ

    ด้านบนมีพื้นที่เอาไว้เก็บของ ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าแถมให้นะ

    อ่างล้างจานเป็นของ Teka , Mex หรือเทียบเท่า แต่ Top จะเป็นหินควอทซ์

    ระเบียงนี้เป็นระเบียงซักล้างค่ะ มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ด้านบนเป็นที่แขวน condensing unit ของแอร์

    พื้นที่ระเบียงเพียงพอสำหรับการใช้งาน มีติดตั้งก๊อกน้ำมาให้สำหรับซักล้างด้วย พื้นวัสดุเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm. ค่ะ

    อีกฝั่งเป็นทางไปห้องน้ำ

    ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้ง กั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำ สุขภัณฑ์เป็นของ Cristina ด้านหลังสุขภัณฑ์ทำผนังก่อ (Low Wall) เอาไว้ให้สามารถวางของเล็กๆน้อยๆได้ ผนังด้านหลังเป็นกระจกขนาดใหญ่ พื้นและผนังเป็นกระเบื้อง porcelain ขนาด 60 x 60 cm.

    อ่างล้างหน้าเป็นของ Cristina ด้านล่างมีตู้เก็บของ วัสดุเป็นแบบกันน้ำได้

    โถสุขภัณฑ์ก็เป็นของ Cristina ค่ะ

    ผนังด้านหลังอ่างล้างหน้ามีผนังก้อขึ้นมา สามารถใช้วางของเล็กๆน้อยๆได้

    พื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยฉากกั้นบานกระจกนิรภัย

    ชุดฝักบัวมีทั้งแบบมือจับและ Rain Shower เป็นของ Cristina ค่ะ ด้านหลังเราจะได้ผนังโมเสคหินอ่อนแบบในห้องตัวอย่างด้วยค่ะ

    ฝักบัวก็เป็นของ Cristina จับได้พอดีมือ

    พื้นที่อาบน้ำมีขนาดเหมาะกับการใช้งานค่ะ ลดระดับจากส่วนแห้งไปเล็กน้อย กั้นแยกด้วยฉากกั้นอาบน้ำ

    ระหว่างพื้นห้องมียกธรณีสูงขึ้นมาเพื่อกันน้ำ ส่วนพื้นที่อาบน้ำก็มีการลดระดับเพื่อกันไม่ให้น้ำไหลไปยังส่วนแห้งค่ะ

    ปลั๊กและสวิทซ์รูปแบบมาตรฐานของ Siemens ค่ะ


    แบบ 2 ห้องนอน

    • Fully Fitted ที่พิเศษหน่อยตรงที่มีแถมเฟอร์นิเจอร์ Built-in

    • เฟอร์นิเจอร์ Built-in ของ Euro Creations

    • ชั้นวางทีวี
    • โต๊ะเครื่องแป้ง
    • ตู้เสื้อผ้า
    • Headboard

  • ชุดครัว + sink + เตาไฟฟ้า + ดูดควัน
  • Top เป็นหิน
  • วัสดุปิดผิวครัวเป็นแบบ Hi-Gloss (เหมือนในห้องตัวอย่าง)
  • สุขภัณฑ์ Cristina + Rain shower
  • แอร์ Toshiba หรือเทียบเท่า ได้ 3 ตัว ขนาด 9000,18,000 , 18,000 BTU
  • Wallpaper ตามแบบมาตรฐานโครงการ
  • มาดูต่อกันที่แบบ 2 ห้องนอน 60 ตารางเมตร จะอยู่บริเวณมุมอาคารที่ใกล้กับแม่น้ำ โดยจะสามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทั้ง 2 ด้าน ลักษณะผังห้องเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาว ไม่ลึก เน้นให้ทุกห้องสามารถมองเห็นวิวได้และมีแสงธรรมชาติส่องเข้าถึง ในส่วนจุดเด่นของห้องนี้นั้นคือระเบียงที่ยาวล้อมรอบตัวห้อง แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ครัว , ห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่สำหรับพื้นที่ส่วนรวมหรือบริเวณห้องนั่งเล่นที่เชื่อมกับพื้นที่ครัวนี้จะอยู่บริเวณกลางห้องซึ่งเมื่อเข้ามาภายในห้องแล้วจะเจอกับพื้นที่ครัวก่อนค่ะ เป็นแบบครัวเปิดมี Pantry ที่เชื่อมกับโต๊ะรับประทานอาหารสามารถจัดที่นั่งได้ประมาณ 2-4 ที่นั่ง ครัวเปิดนี้จะมีปัญหาเรื่องกลิ่นเวลาประกอบอาหาร เหมาะกับคนที่ชอบซื้อเข้ามารับประทานมากกว่า แต่ในขณะเดียวกันข้อดีของการจัดวางครัวเปิดแบบนี้หากเป็นคนที่ไม่เน้นเรื่องการเข้าครัวทำอาหารมากนัก ก็สามารถใช้พื้นที่ได้เต็มที่โดยอาจจะใช้โต๊ะทานข้าวเอามาทำเป็นบาร์เล็กๆ หรือ ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นสำหรับจัดปาร์ตี้ภายในห้องได้ ในส่วนของห้องนอนเล็กนั้นสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าด้วย ส่วนห้องน้ำนั้นจะต้องออกมาใช้ร่วมกันกับห้องนั่งเล่นค่ะ ใครที่ต้องการจะปรับทำห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์ก็ทำได้เช่นกัน สามารถปรับเป็นห้องทำงานก็ได้ ถัดมาคือห้องนอนใหญ่ วางเตียงได้แบบ King Size มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีห้องน้ำในตัว ห้องนี้นั้นสามารถมองดูวิวได้ถึง 2 ด้านเลยค่ะ

    เข้ามาภายในห้องจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ครัว ห้องฝั่งขวามือเป็นห้องน้ำ ถัดมาเป็นห้องนอนเล็ก ส่วนห้องทางฝั่งซ้ายมือคือห้องนอนใหญ่ ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบสูง 2.6 เมตร พื้นเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 mm.ค่ะ

    ในห้องน้ำบรรยากาศและวัสดุเหมือนกับห้องแบบ 1 ห้องนอนค่ะ สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ Cristina

    พื้นที่อาบน้ำมีกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำมาให้ และมีติดโมเสคหินอ่อนมาให้ตามภาพ

    พื้นที่อาบน้ำขนาดใกล้เคียงกับห้องแบบ 1 ห้องนอนค่ะ พื้นมีลดระดับลงไปเล็กน้อยเพื่อช่วยกันน้ำไม่ให้ไหลไปที่ส่วนแห้ง

    สุขภัณฑ์ต่างๆเหมือนกับห้อง 1 ห้องนอนค่ะ

    ห้องต่อมาคือห้องนอนเล็กสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต มีทางออกไปที่ระเบียงด้วย

    ประตูทางออกระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ข้อดีของห้องโครงการนี้คือเค้าให้ช่องแสงเยอะดี เปิดรับลมชมวิวได้เต็มที่

    จุดเด่นของห้องแบบ 60 ตร.ม.นี้ คือระเบียงจะได้ยาวตั้งแต่ห้องนอนเล็กไปจนถึงห้องนอนใหญ่ สามารถยืนชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ถึง 2 ด้าน ส่วน condensing unit (CDU) ของแอร์จะแขวนไว้ด้านบน เวลาเรามองออกมาจะไม่เห็นทำให้ไม่บดบังวิว และ CDU แอร์หันหน้าออกไปด้านนอก เวลาเราออกมาใช้พื้นที่ที่ระเบียงก็จะไม่โดนลมร้อนเป่าค่ะ

    เตียงวางได้ประมาณ 5 ฟุต ทั้ง 2 ฝั่งของเตียงมีระยะเหลือประมาณนี้ค่ะ

    ปลายเตียงมีชั้นวางทีวีแบบ Built-in มาให้ด้วย

    อีกฝั่งเราจะได้ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแบบนี้

    ตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการให้ หน้าบานเป็นกระจกใสช่วยให้ไม่ดูทึบจนเกินไป แต่ก็ต้องจัดระเบียบภายในตู้ให้ดีอย่าให้รกนะ ^^

    พอเปิดบานตู้ออกมามีระยะการใช้งานเหลือสบายๆค่ะ

    ถัดมาเป็นพื้นที่ครัวเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น ครัวแบบนี้จะเหมาะกับการเตรียมอาหารเบาๆหรือซื้อมาทานเองที่ห้อง พอเตรียมอาหารเสร็จก็ยกมาทานได้ที่โต๊ะทานข้าวที่เชื่อมต่ออยู่กับครัวเลย หรือสามารถจัดพื้นที่บริเวณนี้เป็นโซนปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนๆได้

    ชุดครัวของห้อง 2 ห้องนอนนี้เราจะได้วัสดุต่างๆตามแบบห้องตัวอย่างเลยคือ Top เป็นหินสีขาว วัสดุปิดผิวเคาน์เตอร์เป็น Hi-Gloss มีแถม sink + เตาไฟฟ้า + ดูดควัน มาให้

    การจัดพื้นที่ใช้งานค่อนข้างลงตัว มีตู้แขวนด้านบนเอาไว้เก็บของ

    อ่างล้างจานเป็นแบบ 2 หลุมของ Teka , Mex หรือเทียบเท่า ถ้าอีกหลุมอาไว้แช่ผัก อีกหลุมก็สามารถใช้ล้างจานหรือใช้งานอื่นๆได้

    เตาไฟฟ้าได้แบบ 4 หัวของ Teka

    ระหว่างเคาน์เตอร์และโต๊ะทานข้าวมีระยะการใช้งานห่างพอสมควร โต๊ะทานข้าวจะมีระดับความสูงต่ำกว่าเคาน์เตอร์ ซึ่งถ้าเราไม่ใช้นั่งกินข้าวก็สามารถปรับเป็นพื้นที่เตรียมอาหารเพิ่มเติมได้

    พื้นที่รับประทานอาหารจัดที่นั่งได้ประมาณ 2 – 4 คนค่ะ (เอาเก้าอี้มาเสริมฝั่งตรงข้ามได้อีก  2 ตัว)

    พื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าอยู่บริเวณนี้ค่ะ (แต่ไม่มีแถมเครื่องซักผ้าให้นะ)

    ฝั่งตรงข้ามครัวเป็นพื้นที่นั่งเล่น ดูทีวี เชื่อมต่อกับระเบียง สามารถเปิดประตูบานเลื่อนออกไปยืนสูดอากาศได้

    ชุด Built-in วางของและทีวีจะได้ตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ ส่วนผนังด้านหลังเราสามารถตกแต่งเพิ่มเติมได้ตามความชื่นชอบ

    มาที่ประตูบานเลื่อนไประเบียงกันค่ะ บานประตูค่อนข้างหนาและแข็งแรง ตัวกระจกเป็นสีชาสามารถกรองแดดได้ระดับหนึ่ง

    แอร์ของ Toshiba หรือเทียบเท่า ห้องนี้ได้ 3 ตัว ขนาด 9000,18,000 , 18,000 BTU

    ภายในห้องนอนใหญ่แบ่งออกเป็น ส่วนนอนพักผ่อน และ พื้นที่แต่งตัวกับห้องน้ำ สำหรับห้องนอนใหญ่นี้สามารถวางเตียงได้ 6 ฟุต ได้ Bay Window ขนาดใหญ่มองวิวได้กว้าง

    พื้นที่ข้างๆเตียงทั้ง 2 ฝั่ง

    ปลายเตียงทางโครงการมีแถมชั้นวางทีวีให้ด้วย มีระยะเดินผ่านได้สบายๆ

    หน้าต่างในห้องนอนใหญ่ได้ Bay Window ค่ะ สามารถมองวิวได้ค่อนข้างกว้างทั้ง 2 มุม และทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นด้วย

    ระเบียงจะยาวอ้อมมาจากทางห้องนอนเล็กและอ้อมมาอีกฝั่งของห้องนอนในลักษณะตัวแอล

    อีกด้านเป็นพื้นที่แต่งตัว ซึ่งจะได้ทั้งตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built-in นี้เลยค่ะ

    โต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built-in ที่ได้พร้อมกระจกเงาบานใหญ่นี้จะคล้ายๆ กับห้องนอนเล็กค่ะ แต่มีความกว้างโต๊ะมากกว่าหน่อย

    ตู้เสื้อผ้าที่ได้เป็นแบบ Built-in สูงถึงฝ้าเพดาน บานเปิดเป็นบานกระจกสีชาสวย มีชั้นเก็บของด้านบน ราวแขวนเสื้อและลิ้นชักให้เรียบร้อย

    บรรยากาศและวัสดุในห้องน้ำคล้ายๆกับห้องก่อนหน้า ชุดสุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก Cristina เหมือนกันค่ะ

    บริเวณทางเข้าห้องน้ำมีการยกธรณีสูงด้านบนปูด้วยหิน

    ฝั่งซ้ายของอ่างล้างมือเป็นส่วนโถสุขภัณฑ์

    อีกฝั่งเป็นพื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยฉากกั้นแบบกระจกนิรภัยซึ่งทางโครงการแถมมาให้ด้วยค่ะ  ฝักบัวแบบ Rain Shower และฝักบัวสายอ่อน จาก Cristina รวมทั้งที่วางสบู่ และผนังกระเบื้องโมเสคหินอ่อนนำเข้าด้านหลังฝักบัวเหมือนกันกับห้องน้ำก่อนหน้าทั้งหมดค่ะ

    ห้องนี้จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งเอาไว้เปิดระบายอากาศด้วยค่ะ

    ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอน 24 ตารางเมตร นั้น การจัดผังคล้ายๆกับห้อง 30 ตารางเมตร คือเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ที่เชื่อมต่อกันของห้องนั่งเล่นและห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน อีกฝั่งเป็นครัวปิด ห้องน้ำ และระเบียง แต่ห้องนี้จะมีระเบียงเดียวคือระเบียงบริเวณห้องครัวค่ะ

    ห้องสุดท้ายคือ 1 ห้องนอน 29 ตารางเมตร จะต่างกับห้อง 30 ตารางเมตรตรงที่กั้นห้องต่างๆเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวมากกว่า บริเวณห้องนั่งเล่นจะได้ความโปร่งน้อยกว่าห้องแบบ 30 ตารางเมตรหน่อยเพราะกั้นเป็นผนังทึบ ต้องแล้วแต่ความชอบและการใช้งานของเราค่ะว่าตัวเองเหมาะกับห้องแบบไหน ครัวได้เป็นครัวปิดสามารถทำอาหารหนักๆได้เต็มที่เช่นกัน มีพื้นที่ระเบียง 2 จุดคือในห้องนอนเป็นระเบียงสำหรับชมวิว และ ในห้องนอนเป็นระเบียงสำหรับซักล้างค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 16 February 2017

    • 1 Bedroom เนื้อที่ 24 ตร.ม. ราคา 1.29 ล้านบาท หรือ n/a บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom เนื้อที่ 29-30 ตร.ม. ราคา n/a ล้านบาท หรือ n/a บาท/ตร.ม.
    • 2 Bedroom เนื้อที่ 60 ตร.ม. ราคา n/a ล้านบาท หรือ n/a บาท/ตร.ม.

    • Fully Fitted 
    • ฝ้าเพดานสูง 2.60 เมตร
    • Kitchen & Sink
    • Hob & Hood (เฉพาะห้อง 2 ห้องนอน 60 ตารางเมตร)
    • จอง+ทำสัญญา 35,000 – 80,000 บาท
    • ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 38 งวด
    • ค่ากองทุน 520 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 47 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    โครงการ The Politan Aqua เป็นโครงการหนึ่งที่ตั้งอยู่บนที่ดินผืนใหญ่ของ Everland จุดเด่นเรื่อง ทำเล ที่ตั้งของโครงการคือเป็นโครงการติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่สามารถเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ และได้ในเรื่องของวิว ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนสนามบินน้ำบริเวณต้นๆ ถนนที่เชื่อมกับถนนรัตนาธิเบศร์ ส่วนโครงการอื่นๆบนถนนสนามบินน้ำถ้าอยู่ฝั่งตรงข้ามก็จะไม่ได้วิวแม่น้ำในระยะประชิด หรือ ถ้าอยู่ลึกเข้าไปในซอยก็จะอิงกับสถานที่ราชการอย่าง กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำหรับสภาพแวดล้อมบริเวณถนนสนามบินน้ำถือเป็นชุมชนเก่า ซึ่งมีความเจริญและความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร มีร้านค้า ร้านอาคารสามารถพึ่งพิงได้ แต่จะกระจุกกันอยู่ใกล้ๆกับกระทรวงพาณิชย์ บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นแนวราบ หลังจากที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงเริ่มมาหา ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยเริ่มมีคอนโด High Rise เกิดขึ้นตามแนวรถไฟฟ้า มีการลงทุนสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ มีการสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง Central รัตนาธิเบศร์ และ Central West Gate แถบบางใหญ่

    ในเรื่องของการเดินทางโดยใช้รถ ก็ถือว่าค่อนข้างจะสะดวกเนื่องจากถนนสนามบินน้ำเป็นถนนที่เชื่อมถนนหลักอย่างระหว่างถนนรัตนาธิเบศร์และถนนติวานนท์ และสามารถใช้เส้นทางเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ใกล้เคียงได้สะดวกเหมาะกับคนที่ทำงานหรือใช้ชีวิตอยู่ในละแวกนี้ การเข้าถึงโครงการสามารถมาได้จากหลายทาง และเข้าได้จากซอย นนทบุรี 15 หรือ ซอยรัตนาธิเบศร์ 42 ก็ได้ ติดอยู่ตรงที่การจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจจะติดขัดหน่อยเพราะทำเลเป็นพื้นที่ที่มีคนอยู่ค่อนข้างเยอะ สำหรับที่จอดรถในโครงการมีมาให้ 57% แบบรวมจอดซ้อนคัน

    ส่วนถ้าไม่ใช้รถ เนื่องจากโครงการอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่จึงเดินออกไปเรียกแท็กซี่ หรือ มอเตอร์ไซค์ได้ มีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีพระนั่งเกล้าแต่ตอนนี้ทางขึ้น – ลงสถานีจะมีอยู่แค่ฝั่งตรงข้ามต้องเดินข้ามสะพานลอยบริเวณหน้าปากซอย นนทบุรี 15 เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า แต่ในอนาคตมีการทำทางเชื่อมมาลงบริเวณหน้าปากซอยรัตนาธิเบศร์ 42  และบริเวณใต้สะพานพระนั่งเกล้า จะมีการสร้างจุดเชื่อมต่อเรือด่วนเจ้าพระยาสามารถเดินทางไปถึงสาทรได้

    การออกแบบโครงการขนาดใหญ่ทำออกมาได้ดี มีการกระจายพื้นที่ส่วนกลาง ทำแบบได้สวยน่าใช้ วางตัวอาคารในทิศเหนือใต้ซึ่งทำให้ไม่มีทิศที่โดนแดดร้อน ทำห้องพักออกมาได้ดี ห้อง 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. จัดออกมาได้ลงตัวเป็นสัดส่วนดีเหมาะกับการใช้อยู่อาศัยได้จริง ทั้งเรื่องของครัวที่ทำเป็นแบบปิดให้ และการแยกระเบียงชมวิวและระเบียงซักล้างออกจากกัน ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่เหมาะกับโครงการที่ต้องการชมวิวจริงๆ ส่วนห้อง 2 Bedroom ขนาด 60 ตร.ม.นั้นเด่นที่ระเบียงที่มีความยาวล้อมรอบห้องสามารถมองวิวแม่น้ำได้ถึง 2 ด้าน แต่เป็นระเบียงที่ได้เพียงยืนเกาะรั้วชมเท่านั้น เพราะมีความกว้างไม่พอสำหรับวางชุดเก้าอี้สนาม หรือโต๊ะน้ำชาจิบๆชมวิวได้ ถือว่าค่อนข้างหน้าเสียดาย ส่วนภายในห้อง 2 Bedroom นี้จัดผังเป็นแนวยาวเพื่อเน้นให้ห้องทุกห้องมองเห็นวิวทั้งหมดซึ่งนี่เป็นจุดเด่นอีกจุดค่ะ

    วัสดุที่ได้นั้นระหว่างห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom ได้แตกต่างกันนะคะ อย่างห้อง 1 Bedroom จะได้แบบ Fully Fitted มี Pantry ครัวจาก Modernform , Starmark หรือ เทียบเท่า Top เป็นหินควอทซ์ หรือ Laminated high pressure วัสดุปิดผิวเป็นลามิเนตลายหนัง มีเฉพาะอ่างล้างจานมาให้ ส่วนห้อง 2 Bedroom จะพิเศษกว่าแบบ 1 ห้องนอนหน่อยตรงที่ได้ของตามห้องตัวอย่างคือได้ Furniture แบบ Built-in ทั้งหมดจาก Euro Creations เพิ่มเข้ามา ได้ชุดครัววัสดุเหมือนในห้องตัวอย่าง Top เป็นหิน บานเปิด Hi Gloss พร้อม Soft Close ทั้งหมด ได้ Sink+ Hob&Hood  ส่วนที่ได้เหมือนกันทุกห้องคือสุขภัณฑ์จาก Cristina , พื้นลามิเนตนำเข้าจากเยอรมัน หนา 8 มม., Wallpaper , ฉากกั้นอาบน้ำ และเครื่องปรับอากาศจาก Toshina หรือเทียบเท่า

    ส่วนสาธารณูปโภคนั้นให้ค่อนข้างเยอะ ทั้งในส่วนของ Club House ที่มี Library , Co – working space , Game room , Golf Simulator room , Social Club มีสระว่ายน้ำมาให้ 3 สระ และยังมี Facilities ชั้น 8-9 ภายในอาคาร รวมไปถึงชั้นดาดฟ้าที่มีสระว่ายน้ำและชั้น Sky lounge โดยรวมน่าใช้งานและทำมาเพื่อให้ลูกบ้านจำนวนมากได้สามารถใช้งานได้เพียงพอ  หากเทียบกับ Segment นี้ก็ถือว่าในระดับมาตรฐาน แต่ในความเป็นจริงอาจจะไม่เพียงพอกับจำนวนรถของลูกบ้านที่อยู่อาศัยในโครงการจำนวนมาก

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับราคา 70,000 – 85,000 บาท/ตร.ม., 16 February 2017

    • ทำเล 8/10 – ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้รถไฟฟ้าสถานีพระนั่งเกล้าในระยะที่เดินถึง
    • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ทะลุออกถนนใหญ่สายหลักได้ มีทางเลี่ยงรถติด ใกล้สะพานข้ามไปขึ้นถนนวงแหวนได้ ข้อเสียคือรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วน
    • ไม่ใช้รถ 8/10 – ใกล้รถไฟฟ้าสถานีพระนั่งเกล้า เรียกแท็กซี่และมอเตอร์ไซค์ได้ง่าย
    • วัสดุ 7.5/10 – วัสดุอยู่ในระดับมาตรฐานค่อนข้างไปทางดี
    • แบบ 7.5/10 – ออกแบบและวางผังได้ดี ค่อนข้างลงตัว ให้ระเบียงค่อนข้างกว้างเปิดรับวิวแม่น้ำ
    • สาธารณูปโภค 8/10 – จัดมาให้เยอะพอสมควร น่าจะเพียงพอต่อการใช้งาน

    • MAIN CLASS
    • 7.80 / 10.00

    เนื่องจากยังไม่ทราบราคาในส่วนของ 2 ห้องนอน คะแนนจึงคิดตามราคาของห้อง 1 ห้องนอนไปก่อนนะคะหากได้ข้อมูลครบถ้วนแล้วจะมา Update อีกครั้งค่ะ

    BOTTOM LINE

    The Politan Aqua เหมาะกับคนอยู่ฝั่งนนทบุรี ชอบคอนโดตึกสูง วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ใช้รถไฟฟ้าในการเข้า-ออกเมือง ชอบโครงการใหญ่ เน้น Facilities เยอะ มีช่วงราคาหลายช่วงให้เลือก มีงบประมาณบางส่วนเผื่อไว้สำหรับการตกแต่งห้องแบบ 1 Bedroom หรือพร้อมแพคกระเป๋าเข้าอยู่ไม่เน้นตกแต่งมากนักสำหรับห้อง 2 Bedroom มีงบประมาณตั้งแต่ 1.3 – 8.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 9,000 – 68,000 บาท

    ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ

    สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )