รีวิวโครงการ
รีวิวตึกเสร็จ The Estelle พร้อมพงษ์ คอนโดหรู เลี้ยงสัตว์ได้ ใกล้ BTS พร้อมพงษ์เพียง 250 เมตร จาก Raimon Land [รีวิวฉบับที่ 2440]
20 ตุลาคม 2022
รีวิวฉบับที่ 1946 … The Estelle พร้อมพงษ์ คอนโด High Rise ระดับ ULTIMATE ที่เกิดจากการร่วมทุนกันของ Raimon Land x Tokyo Tatemono ตั้งอยู่ต้นซอย สุขุมวิท 26 หรือสุขุมวิทฝั่งขาเข้า โครงการห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ประมาณ 250 เมตร มีความเป็นส่วนตัวเพียง 8 ยูนิตต่อชั้น มีแบบห้องให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 1-4 ห้องนอน พร้อมมีห้องพิเศษที่มีลิฟต์ส่วนตัว ในราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท เราไปชมกันค่ะ
Fact @ 17 September 2019
- The Estelle Phrom Phong (ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์)
- บริษัท ไรมอน แลนด์ ทเวนตี้ ซิก จำกัด
- ULTIMATE CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : ซอย สุขุมวิท 26 , ถนน สุขุมวิท , เขต คลองเตย
- ที่ดินประมาณ 1-3-97 ไร่
- คอนโด High Rise 37 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 157 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 8 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 196 คัน คิดเป็น 125% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
- เริ่มก่อสร้าง : Q2 2562
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q1 2565
- ห้องชุดขนาด 1-4 ห้องนอน รวมห้องชุดพิเศษ 74 ห้อง พร้อมลิฟต์โดยสารส่วนตัว
- ห้องชุดที่เปิดขายในปัจจุบัน
- 1 Bedroom ขนาด 55-62 ตร.ม.
- 2 Bedroom ขนาด 89.5 – 143.5 ตร.ม.
- 3 Bedrooms 160 ตร.ม.
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด Google Maps : 13.728761, 100.570952
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
ที่ตั้งของโครงการ The Estelle พร้อมพงษ์ ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 26 ฝั่งเลขคู่เป็นฝั่งที่เข้าเมืองไปยังอโศก-ชิดลม-สยาม ใกล้รถไฟฟ้าสถานีพร้อมพงษ์ บริเวณพร้อมพงษ์จะมีความเเตกต่างจากอโศกที่กลายเป็นโซนอาคารสำนักงานเต็มขั้นกับโซนทองหล่อที่มันจะเน้น Lifestyle กินดื่ม เที่ยวกลางคืน คือพร้อมพงษ์จะเป็นโซนที่มี Expat หรือชาวต่างชาติที่มาทำงานในไทยอาศัยอยู่เยอะมาก มีความสงบกว่าทั้ง 2 โซนที่เราพูดไปเมื่อสักครู่เเต่ก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายในซอยสุขุมวิท 26 จะเป็นซอยที่รถสามารถวิ่งสวนกันได้ 2 เลน สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนพระราม 4 ได้ ทำให้ทำเลนี้ถือว่าเดินทางด้วยรถยนต์เพื่อไปยังพระราม 4 เเละวิ่งเข้าเส้นสาทรสะดวก ส่วนสภาพการจราจรทั่วไปบนถนนสุขุมวิทหลักนั้นจะเป็นถนนที่รถติดเเทบทั้งวัน แต่ก็ยังมีรถไฟฟ้าที่สามารถใช้บริการได้ในช่วงเวลาเร่งด่วน
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเข้าโครงการสามารถทำได้ทั้งจากถนนสุขุมวิทเเละถนนพระราม 4 ซึ่งเดี๋ยวเราจะมีเส้นทางการเดินทางแบบละเอียดมาให้ดูกันอีกครั้งนะคะ สำหรับทำเลนี้ถนนหลักๆที่เราจะใช้งานกันก็จะเป็นถนนสุขุมวิท ที่ใช้เดินทางเข้าไปยังตัวเมืองอย่างสยาม หรือจะเดินทางออกนอกเมืองไปยังอ่อนนุช บางนา สมุทรปราการก็ได้ ส่วนถนนพระราม 4 นั้นเป็นถนนที่ขนานกับสุขุมวิทเช่นกัน แต่จะสามารถเดินทางไปยังสีลมหรือเลี้ยวเข้าไปยังโซนธุรกิจอย่างสาทรได้สะดวกหน่อย หรือถ้าเป็นฝั่งออกเมืองก็จะไปบรรจบยังเส้นสุขุมวิทใกล้กับ BTS สถานีพระโขนงนั่นเองค่ะ
ส่วนการเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ สถานที่ใกล้ที่สุดคือสถานี BTS พร้อมพงษ์ ที่ตั้งอยู่ห่างจากโครงการเราไปประมาณ 250 เมตร ถัดจากสถานีนี้ไป 1 สถานีก็จะเป็นสถานี Interchange อย่าง BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ทำให้สามารถเปลี่ยนเส้นทางได้ง่าย สามารถเลือกใช้งานได้ตามความสะดวก เข้าเมืองหรือออกเมืองได้เลย สร้างเสร็จพร้อมใช้งานค่ะ
สำหรับคนที่ต้องการใช้ทางด่วนนั้น อาจจะต้องบอกว่าทำเลนี้อาจจะไม่ใช้ทำเลที่เหมาะกับการใช้ทางด่วนเท่าไรนัก เพราะทางขึ้นทางด่วนรอบๆโครงการก็จะอยู่เเถว พระราม 4 , เพลินจิต ,อโศก-ดินแดง หรือว่าสุขุมวิท 50 นู่นเลย คือกว่าจะไปถึงทางด่วนนั้นก็ต้องฝ่าฟันรถติดหนักหนาสาหัสเหมือนกัน ซึ่งถ้าไปถึงเราอาจไม่ต้องการใช้ทางด่วนเเล้วก็เป็นได้ค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการถือว่าอยู่ในขั้นดีมากเลยนะคะ ถ้านับเป็นระยะเดินหลักๆก็จะเป็น Emporium , EmQuartier เเละ Rain Hill แต่ว่าตามซอยต่างๆเช่นซอย 26 เอง ซอย 24 หรือซอย 39 ก็เรียกได้ว่ามีร้านอาหาร ร้านกาแฟต่างๆแอบซ่อนอยู่เยอะพอสมควรเลย อีกทั้งยังมีสวนสาธารณะอยู่ใกล้ๆสามารถเดินไปใช้งานหรือพักผ่อนหย่อนใจได้ นอกจากนี้ยังมีพวก Studio ออกกำลังกายหรือ สถานที่ทำกิจกรรมต่างๆอย่างเช่น Spa , Onsen แทรกตัวอยู่ตามซอยค่อนข้างเยอะเลยค่ะ
โครงการ The Estelle พร้อมพงษ์ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 ซึ่งเป็นซอยสุขุมวิทฝั่งเลขคู่ที่เดินทางไปยังถนนพระราม 4 ได้สะดวก ภายในซอยรถสามารถวิ่งสวนกันได้ และเป็นซอยที่มีความสงบกว่าซอยข้างๆอย่างซอยสุขุมวิท 24 มีทางเท้าให้เดินทั้ง 2 ข้างทางเเละมีต้นไม้ให้ร่มเงาเกือบทั้งซอยเลยค่ะ ในส่วนของสิ่งก่อสร้าง ส่วนมากจะเป็นตึกแถวสลับกับบ้านพักอาศัยที่เป็นบ้านเดี่ยว เเละเริ่มที่จะมีอาคารพักอาศัยเช่นคอนโดมิเนียมขึ้นมาบ้างประปราย
- ทิศเหนือ – ติดกับตึกแถวสูง 4-5 ชั้น (สูง ~ 17 m.) , V-Residence 12 ชั้น (สูง ~ 45 m.) และ TBI Building 18 ชั้น (สูง ~ 48 m.)
- ทิศใต้ – ติดทางเข้าโครงการ Noble Refine และตัวอาคารของ Noble Refine 25 ชั้น (สูง ~ 92 m.)
- ทิศตะวันออก – บ้านพักอาศัย
- ทิศตะวันตก – ซอยสุขุมวิท 26 , ตึกแถวสูง 4-5 ชั้น และบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น
ตอนนี้สำนักงานขายโครงการสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ใครสนใจสามารถเข้าไปชมกันได้เลยค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- BTS พร้อมพงษ์ – 260 m.
- The Emquartier – 300 m. (Walk)
- The Emporium – 350 m.
- อุทยานเบญจสิริ – 400 m.
- Rain Hill – 550 m.
- K-Village – 1.0 Km.
- Piman 49 – 1.3 Km.
- Terrace 49 – 1.3 Km.
- Big-C พระราม 4 – 1.4 Km.
- รพ.สมิติเวช – 1.6 Km.
- Major Cineplex Sukhumvit – 1.7 Km.
- The Racquet Club – 1.9 Km.
- Eight Thonglor – 2.2 Km.
- รพ.สุขุมวิท – 2.2 Km.
- Seenspace – 2.3 Km.
- สวนเพลิน มาร์เก็ต – 2.3 Km.
- J Avenue – 2.4 Km.
- The Commons – 2.5 Km.
- Big-C เอกมัย – 2.7 Km.
- Tesco Lotus พระราม 4 – 2.7 Km.
- Gateway เอกมัย – 2.8 Km.
- 72 Courtyard – 3.0 Km.
- รพ.กรุงเทพ – 4.3 Km.
The Estelle พร้อมพงษ์ เป็นคอนโด High Rise 37 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 157 ยูนิต ตัวอาคารออกแบบในสไตล์โมเดิร์น มีการเพิ่มลูกเล่นให้กับอาคารโดยการใช้เส้นแนวตั้ง โทนสีเลือกมาให้ดูเรียบหรู พร้อมมีพื้นที่สีเขียวเกือบ 2 ไร่ โครงการนี้ออกแบบให้ผู้พักอาศัยมีความเป็นส่วนตัว จำนวนห้องพักสูงสุด 8 ยูนิตต่อชั้น ห้องพักมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 1 Bedroom ไปจนถึง 4 Bedrooms มีทั้งแบบ Simplex , Duplex และ Double Volume และจะมียูนิตพิเศษที่มีลิฟต์ส่วนตัวด้วยค่ะ
ภาพรวมของโครงการจะขอแบ่งเล่าออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือพื้นที่ส่วนกลางซึ่งจะมีอยู่ที่ชั้น 1 ประกอบด้วย Lobby Lounge , Lift Lobby , สำนักงานนิติบุคคล ชั้น 8 ประกอบด้วย สระว่ายน้ำแบ่งออกเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่+Jacuzzi , Japanese Garden , Spa & Onsen , Multi purpose Area และพื้นที่ส่วนกลางบนชั้น 27 ที่ประกอบด้วยห้องออกกำลังกายและพื้นที่โยคะ ซึ่งสามารถชมวิวมุมสูงได้ สำหรับห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 9-36 ค่ะ
ด้านหน้าโครงการจะมีสวนหย่อม เวลาขับรถเข้ามาก็จะเจอกับความร่มรื่นของพื้นที่สีเขียว ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและต้นไม้ยังช่วยกรองฝุ่นและมลภาวะจากถนนใหญ่ได้อีก ตัวอาคารจะอยู่ถัดเข้ามาด้านใน ดังนั้นคนที่เดินอยู่ภายนอกมองเข้ามาจะไม่ค่อยเห็นด้านในตัวอาคารเพราะมีพื้นที่สีเขียวบังอยู่ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น อีกฝั่งจะเป็นพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงค่ะ สามารถพาน้องๆมาเดินเล่นได้
เรามาดูผังชั้นล่างกันก่อน โดยทางเข้าหลักจะอยู่ติดกับซอยสุขุมวิท 26 ซึ่งพอเข้ามาก็จะเจอกับสวนหย่อมและพื้นที่สำหรับเลี้ยงสัตว์ ถัดเข้ามาจะเป็น Drop Off สำหรับวนรถรับส่งซึ่งจะอยู่ใกล้กับส่วนของ Lobby Lounge พอดี โดยจะมีที่จอดชั่วคราวสำหรับผู้มาติดต่อบริเวณนี้ด้วย ถ้าจะจอดรถให้วนขึ้นไปในอาคารโดยรวมๆแล้วจะจอดได้ประมาณ 196 คันหรือคิดเป็น 125% แบบไม่รวมซ้อนคัน ซึ่งจะมีพื้นที่จอดรถ Super Car และ EV Charging station มาให้ด้วย Lift Lobby นั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนของห้องพิเศษที่มีลิฟต์โดยสารส่วนตัวและห้อง Lift Lobby สำหรับห้องที่เหลือประกอบด้วยลิฟต์โดยสาร 4 ตัวและ Service Lift อีก 1 ตัวค่ะ
รูปนี้คือ Drop Off ซึ่งจะอยู่ใกล้กับทางเข้า Lobby บริเวณนี้มีหลังคาคลุม ไม่ต้องกังวลว่าตอนลงจากรถจะโดนแดดหรือฝนค่ะ
Lobby ออกแบบโดยใช้สไตล์โมเดิร์นผสมความเป็นญี่ปุ่นนิดๆค่ะ บรรยากาศโดยเรียบจะเน้นให้ดูเรียบหรู
ขึ้นมาที่ชั้น 8 จะเป็นชั้นของพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดหนึ่งซึ่งจะมี สระว่ายน้ำที่แบ่งออกเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่ พร้อม Jacuzzi ส่วนด้านข้างจะมีสวนสไตล์ญี่ปุ่นและอ่างน้ำร้อนแบบญี่ปุ่น (Onsen) แบบแยกชายหญิงมาให้ ซึ่งด้านในจะมีทั้ง อ่างเย็น สระลอยตัวระบบน้ำเกลือและ Sauna อีกฝั่งจะมีพื้นที่อเนกประสงค์เอาไว้สำหรับทานอาหารและทำกิจกรรมส่วนตัวค่ะ
ชั้น 8 จะมีอ่างน้ำร้อนแบบญี่ปุ่น (Onsen) แบบแยกชายหญิง ที่มีทั้ง อ่างเย็น สปาเกลือบำบัดด้วยการลอยตัวบนผิวน้ำที่ไม่มีคลอรีน และห้อง Sauna
ชั้น 9 เริ่มเป็นห้องพักอาศัยแล้วค่ะ ชั้นนี้จะมีจำนวน 7 ยูนิตต่อชั้นโดยจะมีบางห้องถูกแบ่งเป็นห้องพักส่วนกลางสำหรับผู้มาเยือนจำนวน 2 ห้อง ในแต่ละชั้นจะมีห้องที่มีลิฟต์ส่วนตัวที่ขึ้นลิฟต์มาก็สามารถเข้าห้องตัวเองได้เลย ส่วนห้องอื่นๆการวางผังจะออกแบบให้โถงลิฟต์อยู่ตรงกลางล้อมรอบด้วยโถงทางเดิน ทำให้บางห้องจะได้โถงทางเดินแบบ single corridor ช่วยให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยจะมีมุมที่เปิดเป็นช่องแสงเข้ามายังโถงทางเดิน ทำให้โถงมีความสว่าง ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าเวลากลางวันได้ สำหรับวิวรอบๆอาคารจะได้ตามนี้ค่ะ
- ทิศเหนือ – เป็นวิวทางฝั่งสุขุมวิท มองออกไปเป็นถนนสุขุมวิทและซอยสุขุมวิทฝั่งเลขคี่
- ทิศตะวันออก – เป็นวิวทองหล่อ และ เอกมัยซึ่งพอจะมีตึกสูงขึ้นอยู่บ้าง
- ทิศใต้ – เป็นวิวมุ่งหน้าไปทางถนนพระราม 4
- ทิศตะวันตก – หรือวิวฝั่งหน้าโครงการซึ่งจะเห็นซอยสุขุมวิท26 และEmporiumอยู่ไกลๆ
ชั้น 10 การวางผังเหมือนชั้น 9 เลยเพียงแต่ห้องที่เคยเป็น ห้องพักส่วนกลางสำหรับผู้มาเยือนจำนวน 2 ห้อง จะเป็นเปี่ยนห้องพักอาศัยแทน ทำให้ชั้นนี้มีจำนวนห้องพัก 8 ยูนิต
พอถึงชั้นบนๆจะมีการเล่นระดับ ตัวอาคารจะมีการร่นระยะลงเรื่อยๆ จำนวนยูนิตต่อชั้นก็จะน้อยลงและมีความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีชั้น 27 เป็นพื้นที่ส่วนกลางอยู่อีกจุดหนึ่ง ซึ่งชั้นนี้จะสามารถมองเห็นวิวเมืองมุมสูงได้เต็มๆค่ะ
ตัวอย่างชั้น 21 จะเป็นชั้นที่เริ่มมีการร่นระยะ โดยจำนวนยูนิตจะลดลงเหลือ 6 ยูนิต สังเกตว่าจะไม่มีห้องที่มีลิฟต์ส่วนตัวแล้วค่ะ
พอขึ้นมาถึงชั้น 27 จะมีพื้นที่ส่วนกลางคือห้องฟิตเนสและพื้นที่โยคะรวมอยู่ด้วย ลูกบ้านต้องใช้คีย์การ์ดถึงจะเข้าไปใช้งานได้ค่ะ จำนวนห้องพักชั้นนี้จะมีเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น
ชั้น 28 เป็นห้องพักอาศัยล้วนๆจำนวน 4 ยูนิต ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวมากๆ
ตั้งแต่ชั้น 33-36 จะมีเพียงยูนิตเดียวเป็นห้องใหญ่เลยค่ะ โดยผังจะแตกต่างกันเล็กๆน้อยๆในแต่ละชั้น
ห้องฟิตเนส หรือ Sky Gym ที่ออกกำลังกายไปพร้อมกับชมวิวมุมสูงได้ ออกแบบโดยใช้โทนสีที่อบอุ่นและไม้ ผนังทั้ง 2 ฝั่งเป็นกระจกเปิดให้เห็นวิวได้เต็มๆเลย
ภาพจำลองบรรยากาศห้องพักที่เน้นห้องที่เปิดช่องแสงกว้างรับวิวมุมสูง
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้น 1
- สวนธรรมชาติจนถึงจุดรับ-ส่งในร่ม
- Lobby สไตล์ Zen แบบญี่ปุ่น
- พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet-friendly area)
- สวนสไตล์ญี่ปุ่น
- สระว่ายน้ำ (ระบบกรองน้ำปราศจากคลอรีน) พร้อมว่ายน้ำสระเด็ก
- อ่างน้ำร้อนแบบญี่ปุ่นแยกชาย-หญิง อ่างน้ำเย็น สระลอยตัวระบบน้ำเกลือ และซาวน่า
- พื้นที่อเนกประสงค์ (อาทิเช่น ทานอาหารและกิจกรรมส่วนตัวและอื่นๆ)
- ห้องพักส่วนกลางสำหรับผู้มาเยือนจำนวน 2 ห้อง
- ห้องออกกำลังกายลอยฟ้า (Sky Gym)
- พื้นที่ส่วนโยคะ (Yoga Platform)
ห้องพักอาศัยของโครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์ Built-in บางชิ้น โดยทางโครงการได้มี Theme ของ Material มาให้ลูกค้าเลือกได้ 2 แบบดังนี้ค่ะ
ลูกค้าจะสามารถเลือก Theme ของ Material ได้ ว่าจะชอบโทนสว่างเน้นสีขาวเหมือนด้านบน หรือ โทนหรูดูสุขุมแบบด้านล่างค่ะ ซึ่งเราสามารถเข้าไปชมวัสดุทั้ง 2 แบบนี้ได้ที่สำนักงานขายค่ะ
สำหรับห้องตัวอย่างวันนี้เราจะพาไปชม 2 ห้องด้วยกัน โดยผังทาง Thinkofliving ได้ทำการวาดให้เห็นเป็น Zoning คร่าวๆประกอบการอธิบายนะคะ เริ่มจาก 1 Bedroom 57.5 ตารางเมตร เข้ามาด้านในเราจะเจอกับโถงซึ่งสามารถ Built-in ตู้เก็บของหรือตู้วางรองเท้าเพิ่มเติมได้ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ดีมากสำหรับคนอยู่คอนโดเพราะทำให้เราสามารถเก็บของได้อย่างเป็นระเบียบ ไม่มีรองเท้ามาวางเกะกะหน้าห้อง ถัดเข้ามาเป็นครัวซึ่งถ้าดูจากพื้นที่ เราสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้นะ แล้วแต่ความชื่นชอบและ Lifestyle ของเราเลยค่ะ บริเวณนี้จะสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารชุดเล็กๆประมาณ 2 ที่นั่งได้ ถัดเข้ามาจึงเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอน ที่กั้นกลางด้วยประตูบานเลื่อนแบบบานทึบ เวลาเลื่อนมาปิดจะทำให้มีความเป็นส่วนตัว สามารถแยกฟังก์ชันการใช้งานได้ สำหรับระเบียงจะสามารถออกไปใช้ได้ทั้งจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน เป็นระเบียงที่ใช้งานได้เต็มที่เพราะ Condensing Unit ของแอร์ถูกเอาไปเก็บรวมกันไว้ที่อื่น อีกฝั่งหนึ่งเป็นตู้ Walk-in Closet และห้องน้ำแบบที่มีผนังเป็นกระจกคล้ายๆในโรงแรม โดยจะมีอ่างอาบน้ำวางอยู่ติดผนังนี้ และมีพื้นที่ยืนอาบน้ำอยู่ด้านในค่ะ
ประตูหน้าห้องเป็นไม้ Solid Timber ดีไซน์แบบนี้เลยค่ะ พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock มาให้
Digital Door Lock ได้ของ Yale สามารถใช้งานได้ทั้งคีย์การ์ด การตั้งรหัส และกุญแจ
ห้องนี้เข้ามาจะเจอโถงก่อน ซึ่งถ้ามองจากมุมนี้เราจะไม่เห็นพื้นที่นอนพักผ่อนด้านในเลย ทำให้นอนพักผ่อนได้อย่างเป็นส่วนตัว บริเวณนี้ทางฝั่งจะมีพื้นที่ให้ Built-in เป็นตู้เก็บของหรือตู้รองเท้า เข้ามาก็วางของให้เรียบร้อยก่อนค่อยเข้าห้องค่ะ
ถัดเข้ามาอีกจะเจอกับครัว พื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างเป็นสัดส่วน ดูจากพื้นที่สามารถกั้นเป็นครัวปิดได้นะคะ ซึ่งจะทำให้การใช้งานเป็นสัดส่วนกันกลิ่นและควันได้ดียิ่งขึ้น แต่ก็จะเสียความต่อเนื่องของ Space ไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบและ Lifestyle ของเจ้าของห้องค่ะ
มองย้อนกลับมาฝั่งหน้าห้องจะเห็นว่า ฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวจะวางโต๊ะอาหารได้ประมาณ 2 ที่นั่ง แนะนำให้เลือกโต๊ะที่ขนาดไม่ใหญ่มาก วางเข้ามุมได้ มีขาโปร่งๆ จะช่วยประหยัดพื้นที่และทำให้ห้องดูกว้างได้
ตู้นี้ทางโครงการให้มาครบ Set แบบนี้เลย ซึ่งถ้ามองจากด้านนอกแทบไม่รู้เลยว่ามีตู้เย็นอยู่ เนื่องจากมีการออกแบบหน้าบานให้เข้ากับตู้อื่นๆและครัวค่ะ
ด้านล่างมีพื้นที่ให้วางเครื่องซักผ้าได้
เคาน์เตอร์ครัวได้มาตามแบบนี้ วัสดุปิดผิวตู้ด้านล่างเป็นลามเนต ส่วนตู้ด้านบนเป็นกระจก Top เป็นหิน Compressed Quartz ผนังปิดผิวด้านหลังเราจะได้เป็น Compressed Quartz / Back Painted Glass ค่ะ
ตู้ด้านล่างเปิดออกมาเก็บของได้แบบนี้ ที่บริเวณอ่างล้างจานจะมีถังขยะซ่อนในตู้มาให้ด้วย เวลาจะทิ้งอะไรจะได้ดูเป็นระเบียบ
อ่างล้างจานมีดีไซน์ที่เหมาะกับการใช้ชีวิตในคอนโด เพราะรวมฟังก์ชัน 3 อย่างไว้ด้วยกันทั้งตะแกรงพักจาน และTop ไม้ที่เอามาวางเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับเคาน์เตอร์ครัวได้
เตาไฟฟ้าเป็นของ GAGGANAU แบบ 2 หัวค่ะ
เครื่องดูดควันของ GAGGANAU เช่นเดียวกัน
ถัดเข้ามาด้านในเป็นห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่สูงจากพื้นจรดฝ้าเพดานเลย ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติค่อนข้างเยอะ แนวผนังจะเอียงเล็กน้อยช่วยให้เปิดรับวิวได้มากขึ้น สำหรับใครที่อยากจะดูทีวี แนะนำให้หาตู้วางทีวีมาวางเพิ่มและเดินปลั๊กไฟที่พื้น เพราะถ้าแขวนทีวีกับประตูบานเลื่อนอาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ค่ะ
ประตูบานเลื่อนระหว่าห้องนอนและห้องนั่งเล่น เป็นกระจกที่ด้านในมีผ้าที่มีผิวสัมผัสแบบผ้าไหม (Silk) ผังอยู่ทำให้ได้บรรยากาศกึ่งทึบกึ่งโปร่งแบบนี้ค่ะ
ฝั่งที่ติดกับหน้าต่างในห้องนั่งเล่นจะเป็นประตูทางออกไปที่ระเบียง ซึ่งถูกออกแบบมาให้เป็นกระจกเต็มบาน ดีไซน์เข้ากันกับหน้าต่าง
ถ้ามองย้อนกลับไปหน้าห้องจะเห็นว่าในห้องนี้ได้แอร์แบบฝังในฝ้าเพดาน ความสูงของฝ้าในห้องนี้อยู่ที่ 3.15 เมตร
พอเปิดประตูบานเลื่อนก็จะเจอเตียงนอนแบบนี้ค่ะ
ภายในห้องนอนวางเตียงแบบ King Size ได้สบายๆ สังเกตว่าห้องนี้ก็จะได้ประตูทางออกไปที่ระเบียงเป็นกระจกเต็มบานเช่นเดียวกัน ทำให้บรรยากาศดูโปร่ง โล่งมาก ชมวิวได้เต็มที่เลย
ประตูทางออกไปที่ระเบียงดีไซน์ออกมาเป็นบานเลื่อน 2 บาน กรอบบานอลูมิเนียม กระจกเป็น Double Glazed (Air Gap) หรือ กระจกที่มีช่องตรงกลาง หรือที่นิยมเรียกกันว่ากระจก Low E ที่มีคุณสมบัติช่วยสะท้อนความร้อน ช่วยประหยัดพลังงาน และเก็บเสียงได้ดีค่ะ
เนื่องจากระเบียงมีขนาดใหญ่พอสมควร เอาเก้าอี้ออกไปวางได้และราวกันตกถูกออกแบบมาให้เป็นกระจก จึงทำให้เวลาเรามานั่งที่ระเบียงจะไม่รู้สึดอึดอัด สามารถชมวิวได้เต็มที่
มองกลับมาภายในห้องจะเห็นว่า อีกฝั่งหนึ่งเป็นห้องน้ำที่มี Walk-in Closet อยู่หน้าห้องเลย
Walk-in Closet อยู่หน้าห้องน้ำเลย พออาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้สะดวก ตู้นี้ทางโครงการให้แบบนี้เลยค่ะ
ห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วน ทางฝั่งขวาเป็นกระจกแบบ Sexy Bath ซึ่งถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวแนะนำว่าให้หาฟิล์มหรือม่านมาติดเพิ่มเติมค่ะ
อ่างล้างหน้าเป็นแบบหลุมเดียวยาวๆเลย ซึ่งสามารถใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ รอบๆมีพื้นที่ให้วางของใช้ พวกแปรงสีฟัน ยาสีฟัน แก้วน้ำ
ก๊อกน้ำทรงโค้ง ของ KOHLER สวยดีค่ะ
ด้านหลังกระจกเงามีตู้เก็บของซ่อนอยู่ ตรงนี้เป็นการเพิ่มฟังก์ชันให้เราใช้พื้นที่ได้เต็มที่มากขึ้น ส่วนด้านล่างมีชั้นไม้ที่สามารถใช้วางผ้าเช็ดตัวได้
ผนังบริเวณอ่างอาบน้ำเป็นกระจกทั้งแผง เป็นมุมที่ดูเหมือนห้องน้ำในโรงแรม มองทะลุไปเห็นในห้องนอนได้เลยค่ะ
อ่างอาบน้ำเป็นแบบลอยพร้อมเดินก๊อกน้ำเอาไว้ด้านข้าง
ก๊อกสามารถดึงออกมาใช้งานได้แบบนี้ ของ KOHLER เช่นเดียวกัน
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบอัตโนมัติของ KOHLER
พื้นที่ยืนอาบน้ำกั้นด้วยกระจกนิรภัยเป็นสัดส่วนนะคะ ซึ่งสามารถกันน้ำกระเด็นไปโดนส่วนอื่นๆได้
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานยืนอาบได้สบายๆ
ฝักบัวที่โครงการให้มาจะเห็นว่าท่อและตัวปรับความแรงของน้ำสีออกทองเหลืองดูสวยดี
ถัดมาคือ 2 Bedroom 132.5 ตารางเมตร ห้องนี้จะเป็น Type ที่มีลิฟต์ส่วนตัวซึ่งพอขึ้นลิฟต์มาก็จะเจอกับโถงเล็กๆก่อน บริเวณนี้สามารถ Built-in เป็นตู้เก็บของได้เล็กน้อย ก่อนจะเข้าไปยังส่วนของห้องพักอาศัยโดยจะเจอกับห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหารก่อน มุมนี้จะได้ระเบียงยาวเต็มแผงเลย ถัดจากโต๊ะจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ซึ่งบริเวณนี้ทางโครงการให้เราเลือกได้ว่าอยากได้ฟังก์ชันอะไร โดยถ้าเปลี่ยนเป็นครัวก็จะมีเคาน์เตอร์ครัวเพิ่มมาให้ค่ะ ส่วนครัวมีการกั้นผนังปิดเป็นสัดส่วน สามารถทำอาหารได้เต็มที่อยู่บริเวณด้านหลังห้อง ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นห้องน้ำและห้องนอนใหญ่ โดยห้องนอนใหญ่ก็จะมี Walk-in Closet และ ห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำในตัวค่ะ
พอขึ้นลิฟต์มาก็จะเจอกับโถงแบบนี้ค่ะ ซึ่งถ้าเรามากับแขกก็สามารถให้แขกรอบริเวณนี้ก่อนได้
ตู้รองเท้าบริเวณโถงก่อนเข้าห้องค่ะ สาวๆน่าจะชอบ ^^
เข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร Space บริเวณนี้ค่อนข้างโปร่ง โล่งด้วยความที่ห้องมีขนาดใหญ่ และได้รับแสงธรรมชาติจากประตูทางออกไปที่ระเบียงที่เป็นกระจกทั้งหมด
ระยะดูทีวีห้องนี้ประมาณ 3 เมตร สามารถวางทีวีขนาดใหญ่ 60″ ได้เลย
ห้องตัวอย่างเป็น Option ที่เลือกให้พื้นที่อเนกประสงค์เป็นครัว ดังนั้นทางโครงการจะมีครัวมาให้ (ถ้าเลือกแบบไหนให้สอบถามทางโครงการอีกทีนะคะ) ฟังก์ชันบริเวณนี้ต่อเนื่องกันพอดี พอเตรียมอาหารเสร็จก็ยกมาเสิร์ฟได้เลย
มุมโต๊ะรับประทานอาหารจัดได้ประมาณ 6 ที่นั่ง เป็นโซนที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น สามารถดูทีวีด้วยกันได้เลย เป็นมุมสำหรับทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวค่ะ
โดยประตูทางออกไปที่ระเบียงจะเป็นบานเลื่อนกระจกยาวเต็มแผง สามารถเห็นวิวได้กว้าง
พื้นทีระเบียงที่เราออกมายืนสูดอากาศหรือใช้พื้นที่ได้เต็มที่เพราะ Condensing Unit ของแอร์ถูกนำไปรวมกันไว้ที่อื่นค่ะ
ห้องตัวอย่างจัดเป็นมุมนั่งพักผ่อน ตกแต่งด้วยไม้กระถาง
มองไปที่ครัวจะเห็นว่าจะมีทั้งส่วนเตรียมอาหารและครัวปิด
เคาน์เตอร์นี้โครงการมีให้ในกรณีที่เลือกทำพื้นที่อเนกประสงค์ให้เป็นครัว โดยจะเหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบทำอาหารหรือจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์
ส่วนด้านหลังเคาน์เตอร์ส่วนเตรียมอาหาร จะเป็นตู้เย็นและตู้เก็บของที่ฝังอยู่ในผนัง
ห้องนี้ได้ครัวขนาดใหญ่ที่มีฟังก์ชันครบครัน วัสดุเราได้ประเภทเดียวกับห้องก่อนหน้าเลยแต่เป็นโทนสีเข้ม
ตู้ด้านล่างสามารถเปิดออกมาเก็บของได้ตามในภาพ
อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียวแต่มีขนาดใหญ่ มาพร้อมกับตะแกรงพักจานและ Top ไม้เพิ่มพื้นที่ใช้สอยเช่นเดียวกับห้องแบบ 1 ห้องนอน
เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันของ GAGGANAU
ในห้อง 2 ห้องนอนเราจะได้เครื่องล้างจานด้วยค่ะ
ส่วนตู้ด้านบนเวลาเปิดจะเป็นแบบยกขึ้น ผู้หญิงตัวเล็กก็เปิดได้สะดวก
ซูมให้ดูว่าเวลาเปิดหน้าบานจะยกขึ้นแบบนี้ค่ะ
ส่วนด้านหลังเป็นตู้เย็นที่ Built-in หน้าบานให้กลมกลืนกันทั้งแผงเลย
ต่อไปเราจะพาไปชมส่วนพักผ่อนของห้อง ได้แก่ ห้องนอน 2 ห้อง และ ห้องน้ำค่ะ
เริ่มจากห้องน้ำที่ใช้รวมกัน แบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆเหมือนห้องก่อนหน้า
พื้นที่ใช้สอยตรงนี้กว้างดี ใช้งานได้สะดวก พื้นทางโครงการกรุกระเบื้องมาให้แบบนี้เลยค่ะ
ถัดมาเป็นห้องนอนเล็กที่พอเปิดประตูห้องจะมีโถงเล็กๆ ซึ่งจะช่วยบังตาไม่ให้เห็นเตียงนอนเต็มๆ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ถึงแม้ว่าจะเป็นห้องนอนเล็กแต่ก็สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆได้อย่างเป็นสัดส่วน ไม่อึดอัด และยังได้ช่องแสงจากหน้าต่างที่สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอีกด้วย
อีกฝั่งเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าค่ะ ในห้องนี้ก้ได้แอร์แบบผังฝ้าเช่นเดียวกัน
ต่อมาคือห้องนอนใหญ่ พอเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับโถงก่อนเช่นเดียวกัน ทางฝั่งขวาคือห้องน้ำ ถัดเข้าไปจะเป็น Walk-in Closet ก่อนถึงจะเป็นพื้นที่นอนพักผ่อนค่ะ
เดินเข้าห้องมาทางฝั่งซ้ายจะเจอกับ Walk-in Closet ถัดไปจึงจะเป็นพื้นที่นอนพักผ่อน
สำหรับห้องนอนใหญ่ เราชอบบรรยากาศห้องนี้มากทีเดียวเพราะได้ผนังเป็นหน้าต่างแบบเข้ามุมทั้ง 2 ฝั่ง เห็นวิวได้กว้าง ถ้าเวลากลางวันกลัวว่าจะร้อนแนะนำให้หาม่านมาปิดเพิ่มเติมค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งสามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้
ส่วนปลายเตียงมีระยะให้เดินผ่านสบายๆ และผนังมีส่วนที่เป็นผนังทึบทำให้เราสามารถแขวนทีวีได้ค่ะ
หน้าต่างแบบบาน Fix สูงเต็มแนวผนัง โดยจะมีบานกระทุ้งเอาไว้สำหรับเปิดระบายอากาศอยู่ 1 จุด
มองย้อนกลับไปที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะเห็นว่าผนังกระจกยาวมาถึงมุมนี้เลย ด้วยขนาดห้องที่กว้าง เราสามารถจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนนั่งอ่านหนังสือเพิ่มเติมได้
เรามาดูห้องน้ำในห้องนอนใหญ่กัน ซึ่งมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ พื้นที่ยืนอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ที่กั้นเป็นสัดส่วนออกจากกันด้วยกระจกนิรภัยสีชา
กระจกเงาส่องหน้าที่เปิดออกมาเป็นตู้เก็บของด้านหลัง ด้านล่างเป็นอ่างล้างหน้าแบบยาวสามารถใช้งานพร้อมกันได้ 2 คน
อ่างล้างหน้าออกแบบมาให้ใช้งานได้ 2 คน ก๊อกน้ำก็มีมาให้ 2 หัวด้วยค่ะ
พื้นที่ยืนอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ที่กั้นเป็นสัดส่วนออกจากกันด้วยกระจกนิรภัยสีชา เป็นฟังก์ชันที่ทำให้ใช้งานพร้อมกันหลายคนได้ในช่วงเวลาเร่งด่วน
บรรยากาศภายในพื้นที่อาบน้ำและพื้นที่วางโถสุขภัณฑ์ค่ะ
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบอัตโนมัติของ KOHLER
อ่างอาบน้ำเป็นแบบวางลอยวางอยู่ด้านข้างผนังกระจก สามารถแช่น้ำไปชมวิวไปด้วยได้ หรือจะหาไวน์มาจิบก็ได้ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 17 September 2019
- 1 Bedroom ขนาด 55-62 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 17.95 ล้านบาท
- 2 Bedroom ขนาด 89.5 – 143.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 27.75 ล้านบาท
- 3 Bedrooms 160 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 55.06 ล้านบาท
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 3.15 เมตร
- จอง 200,000 บาท
- ทำสัญญา n/a บาท
- ดาวน์ 10% ของสัญญาซื้อขาย
- ค่ากองทุน 1,000 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 140 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเล : The Estelle พร้อมพงษ์ ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 26 ฝั่งเลขคู่เป็นฝั่งที่เข้าเมืองไปยังอโศก-ชิดลม-สยาม ใกล้รถไฟฟ้าสถานีพร้อมพงษ์ บริเวณพร้อมพงษ์จะมีความเเตกต่างจากอโศกที่กลายเป็นโซนอาคารสำนักงานกับโซนทองหล่อที่จะเน้น Lifestyle กินดื่ม เที่ยวกลางคืน ตรงที่มีชาวต่างชาติเยอะมากและมีความสงบกว่า 2 โซนที่กล่าวมา ความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการถือว่าดีมากเลย ในระยะเดินหลักๆก็จะเป็น Emporium , EmQuartier เเละ Rain Hill และมีร้านอาหาร ร้านกาแฟต่างๆแอบซ่อนอยู่เยอะพอสมควรเลย มีสวนสาธารณะอยู่ใกล้ๆสามารถเดินไปใช้งานหรือพักผ่อนหย่อนใจได้ค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ : การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเข้าโครงการสามารถทำได้ทั้งจากถนนสุขุมวิทเเละถนนพระราม 4 สำหรับทำเลนี้ถนนหลักๆที่เราจะใช้งานกันก็จะเป็นถนนสุขุมวิท ที่ใช้เดินทางเข้าไปยังตัวเมืองอย่างสยาม หรือจะเดินทางออกนอกเมืองไปยังอ่อนนุช บางนา สมุทรปราการก็ได้ ส่วนถนนพระราม 4 นั้นเป็นถนนที่ขนานกับสุขุมวิทเช่นกัน แต่จะสามารถเดินทางไปยังสีลมหรือเลี้ยวเข้าไปยังโซนธุรกิจอย่างสาทรได้สะดวกหน่อย หรือถ้าเป็นฝั่งออกเมืองก็จะไปบรรจบกับเส้นสุขุมวิทใกล้กับ BTS สถานีพระโขนงนั่นเองค่ะ ภายในซอยสุขุมวิท 26 เองก็จะเป็นซอยที่รถสามารถวิ่งสวนกันได้ 2 เลน สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนพระราม 4 ได้ ทำให้ทำเลนี้ถือว่าเดินทางด้วยรถยนต์เพื่อไปยังพระราม 4 เเละวิ่งเข้าเส้นสาทรสะดวก ที่จอดรถมีประมาณ 196 คัน คิดเป็น 125% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : เนื่องจากอยู่ใกล้ถนนใหญ่จึงมีรถสาธารณะให้ใช้ครบครัน ส่วนรถไฟฟ้าสถานที่ใกล้ที่สุดคือสถานี BTS พร้อมพงษ์ ที่ตั้งอยู่ห่างจากโครงการเราไปประมาณ 250 เมตร ถัดจากสถานีนี้ไป 1 สถานีก็จะเป็นสถานี Interchange อย่าง BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ทำให้สามารถเปลี่ยนเส้นทางได้ง่าย สามารถเลือกใช้งานได้ตามความสะดวก เข้าเมืองหรือออกเมืองได้เลย สร้างเสร็จพร้อมใช้งานค่ะ
วัสดุ : ให้มาตามมาตรฐาน ขายแบบ Fully Fitted ที่มีเฟอร์นิเจอร์ Built-in มาให้บางชิ้น สุขภัณฑ์เป็นของ KOHLER แอร์แบบฝังฝ้าเพดาน หน้าตากรอบบานอลูมิเนียม กระจก Low E เคาน์เตอร์ครัววัสดุปิดผิวตู้ด้านล่างเป็นลามเนต ส่วนตู้ด้านบนเป็นกระจก Top เป็นหิน Compressed Quartz ผนังปิดผิวด้านหลังเราจะได้เป็น Compressed Quartz / Back Painted Glass ค่ะ
การออกแบบ : โครงการนี้ออกแบบมาในสไตล์ Modern Japanese ดูเรียบหรู ชอบการออกแบบที่เน้นความเป็นส่วนตัวเช่นการแยกลิฟต์ส่วนตัวในยูนิตพิเศษ การวางผังให้มีจำนวนห้องพักสูงสุดแค่ 8 ยูนิต และแยกชั้น Facilities ออกมาจากชั้นพักอาศัย ห้องพักวางผังให้เปิดประตูเข้ามาไม่เจอส่วนนอนพักผ่อนก่อนแทบจะทุกห้องเลย ทำให้เรามีความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น
สาธารณูปโภค : มีมาให้ครบครันและมีพื้นที่ส่วนกลางที่มีความเป็นญี่ปุ่น เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนญี่ปุ่น ชั้น 1 มีสวนธรรมชาติ Lobby สไตล์ Zen พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง ชั้น 8 มีสวนสไตล์ญี่ปุ่น สระว่ายน้ำ (ระบบกรองน้ำปราศจากคลอรีน) พร้อมว่ายน้ำสระเด็ก อ่างน้ำร้อนแบบญี่ปุ่นแยกชาย-หญิง อ่างน้ำเย็น สระลอยตัวระบบน้ำเกลือ และซาวน่า รวมถึงพื้นที่อเนกประสงค์ ชั้น 27 มีห้องออกกำลังกายลอยฟ้าและพื้นที่ส่วนโยคะค่ะ
Judgement
ราคาของคอนโดระดับ ULTIMATE CLASS ความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ ซึ่งผู้ที่ต้องการซื้อคอนโดในระดับนี้คงต้องมีความพึงพอใจและความชอบจนมองข้ามราคาไปอย่างแน่นอน ดังนั้นความคุ้มค่าด้านอารมณ์คือปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งตราบเท่าที่ทางเรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ จึงมิอาจให้คะแนนได้ค่ะ
BOTTOM LINE
The Estelle พร้อมพงษ์ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดระดับหรูในย่านพร้อมพงษ์ ชอบทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ครบ ใกล้รถไฟฟ้า ไม่จำเป็นต้องอยู่ติดถนนใหญ่ ชอบความเป็นส่วนตัว และสามารถเลือกโทนสีในห้องได้บ้าง ชอบการออกแบบสไตล์ Modern Japanese มีงบประมาณ 18-55 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving