เพิ่งจะโอนกันไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วนะครับ สำหรับโครงการ Niche MONO เจริญนคร คอนโดสูงวิวแม่น้ำที่จัดส่วนกลางมาให้หลากหลาย มีแนวคิดในการออกแบบที่หลากหลายและดูใส่ใจรายละเอียดไม่น้อยเลย ลองมาดูกันดีกว่าว่าโครงการนี้เขามีจุดเด่นอย่างไรบ้าง
- ทำเล : เป็นคอนโดติดถนนใหญ่อย่างเจริญนคร ที่ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงโค้งแม่น้ำทางฝั่งทิศตะวันออก
- ที่จอดรถ : เป็นโครงการที่มีที่จอดรถให้เยอะที่สุดในย่านนี้ก็ว่าได้ เพราะตัวโครงการเองมีให้ถึง 60% รวมซ้อนคัน และยังสามารถจอดที่ SENA Fest ได้อีก 30%
- รูปแบบการขาย : ที่นี่จะขายในรูปแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบเลย ซื้อแค่ฟูกและเครื่องใช้ไฟฟ้าก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย
- Facilities : จัดมาให้ค่อนข้างเยอะและหลากหลายมีทั้งที่ชั้น 6 และ 3 ชั้นด้านบนสุดของอาคาร รองรับ 3 Generations มีร้านค้าอีก 2 ยูนิต แถมยังมี Application และ Shuttle Service คอยอำนวยความสะดวกให้อีกด้วย
ข้อมูลโครงการ
Fact @ 9 February 2021
- NICHE MONO CHAROEN NAKORN (นิช โมโน เจริญนคร)
- บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน)
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ถนนเจริญนคร เขตธนบุรี
- คอนโด High Rise 36 ชั้น 1 อาคาร 537 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต
- อาคารจอดรถ 5 ชั้น (จอดภายในอาคาร)
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 25 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 339 คันคิดเป็น 60% รวมซ้อนคัน และที่เสนาเฟส อีก 30%
- ที่ดินประมาณ 3-1-86.7 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : ตุลาคม 2561
- แล้วเสร็จ : พฤศจิกายน 2563
- 1 Bedroom 29.61 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.1 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus 34.43 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.75 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus 34.57 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 49.37 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.2 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 60.32 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.2 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.70 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 2.75 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 110,000 บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1775 กด 76
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.696717, 100.486115
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
สำหรับโครงการนี้จะตั้งอยู่บนถนนเจริญนคร ใกล้กับสะพานพระราม 3 หรือสะพานกรุงเทพ และวัดดาวคะนอง ซึ่งปัจจุบันก็สร้างเสร็จและเป็นที่สังเกตได้ง่ายเลยครับ และในรีวิวก่อนหน้านี้เราก็ได้เขียนเกี่ยวกับทำเลโครงการนี้ไว้ค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียว ใครสนใจอ่านเพิ่มคลิก > ทำเล Niche Mono เจริญนคร
สำหรับคู่แข่งในย่านนี้ผมเลือกโครงการวิวแม่น้ำมาในโซนนี้มาดูกันนะครับ ซึ่งก็จะมีไม่กี่ตัวเท่านั้นถ้าเป็นโครงการใหม่ๆ อย่างแรกเลยคือ Chapter เจริญนคร-ริเวอร์ไซด์ เป็นโครงการที่เหลือแค่ห้อง 2 Bedroom ขนาดใหญ่ 68.6 ตร.ม. เท่านั้น ส่วน The Key พระราม 3 ก็ขายหมดไปแล้ว จะเหลือชนจริงๆก็แค่ ณ รีวา เจริญนคร ครับ ซึ่งก็มีกำหนดสร้างเสร็จปี 2566 นู่นเลย ดังนั้นถ้าพูดถึงโครงการวิวแม่น้ำที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ และมีห้องให้เลือกทุกรูปแบบตอนนี้ โครงการนี้ก็จัดว่าได้เปรียบไม่น้อยเลยครับ
ส่วนในเรื่องของราคาก็จัดว่าอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆของย่านนี้ ไม่ได้ดูแพงหรือถูกจนเกินไป เพราะราคาเริ่มต้น 2.75 ล้านบาท ก็คือส่วนของห้องที่อยู่ชั้นล่างหน่อย และไม่ได้วิวแม่น้ำ ต้องดูที่ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการที่เกาะๆกันอยู่ประมาณแสนนิดๆ ไม่ได้หลุดจากกลุ่มของย่านนี้ครับ ยังไงก็ลองพิจารณาดูนะครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- AVANI Riverside – 1.2 km
- โรงแรม AVANI Reverside – 1.2 km
- โรงเรียนบางประกอกวิทยาคม – 2.1 km
- โรงพยาบาลสมิติเวชธนบุรี – 2.4 km
- The Mall ท่าพระ – 2.5 km
- Asiatiqe Riverside – 2.9 km
- SENA Fest – 3.6 km
- ตลาดพลู – 3.6 km
- โรงเรียนนานาชาติ Shrewsburry – 4.1 km
- โรงพยาบาลตากสิน – 5.0 km
- โรงพยาบาลบางประกอก9 – 5.6 km
- ตลาดคลองสาน – 5.7 km
- โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน – 6.2 km
- ICONSIAM – 6.3 km
- โรงเรียนอัสสัมชันบางรัก – 6.4 km
รายละเอียดโครงการ
ประเด็นที่น่าสนใจ
- ที่จอดรถ : เป็นโครงการที่มีที่จอดรถให้เยอะที่สุดในย่านนี้ก็ว่าได้ เพราะตัวโครงการเองมีให้ถึง 60% รวมซ้อนคัน และยังสามารถจอดที่ SENA Fest ได้อีก 30%
- Facilities ส่วนกลาง : จัดมาให้ค่อนข้างเยอะและหลากหลายมีทั้งที่ชั้น 6 และ 3 ชั้นด้านบนสุดของอาคาร มีร้านค้าอีก 2 ยูนิต แถมยังมี Application และ Shuttle Service คอยอำนวยความสะดวกให้อีกด้วย
- รองรับ 3 Generations : พื้นที่ส่วนกลางออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ทุกเพศทุกวัย มีพื้นที่ในแต่ละส่วน รวมถึงห้องน้ำ สำหรับรถเข็นและเด็ก แถมยังจัดพื้นที่สำหรับผู้ติดตามให้ดูแลได้ง่ายด้วยเช่นกัน
Project Overview
โครงการ Niche MONO เจริญนคร เป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น จำนวน 537 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต มีชั้นจอดรถ 5 ชั้น จอดได้ประมาณ 339 คันคิดเป็น 63% รวมซ้อนคัน และที่เสนาเฟสอีก 150 คัน คิดเป็น 28% โดยสามารถไปจอดแล้วนั่งรถ Shuttle Car และ ตุ๊กๆไฟฟ้า กลับมาโครงการได้ ในช่วงเวลา 21.00-5.00 น. ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม แต่จากที่ผมเข้าไปสำรวจมาก็แทบจะไม่ได้ใช้งานที่เสนาเฟสกันเลยนะครับ เพราะที่โครงการเองก็ไม่เต็มอยู่แล้ว แต่มีเหลือไว้ก็ดีกว่าขาดนะครับ (แต่บริการนี้ขึ้นอยู่กับนิติบุคคลในอนาคตบริหารต่อไปด้วยนะครับ) โครงการมีแนวคิดในการออกแบบที่รองรับ 3 Generation มีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทุกวัย เช่น พื้นที่ Co-Working, Kid’s playground, Nursing Room เป็นต้น
ภาพรวมของพื้นที่ส่วนกลางของโครงการถือว่าจัดมาให้เยอะพอสมควร โดยจะอยู่กระจายตามชั้นต่างๆ ให้ลูกบ้านได้มาใช้งานได้โดยไม่อึดอัด ส่วนใหญ่จะอยู่ชั้นบนๆเพื่อเน้นให้ได้ชมวิวแม่น้ำ
- ชั้น 1 : Lobby, ห้องนิติบุคคล, Nursing Room, ห้องจดหมาย, ร้านค้า 7-Eleven, ร้านกาแฟ (ยังไม่สรุปว่าเป็นแบรนด์อะไร), EV Charger
- ชั้น 2-5 : พื้นที่จอดรถ
- ชั้น 6 : ห้องพักอาศัย, Co-Kitchen, ห้องสมุด, สนามเด็กเล่น, Game Room, Garden Counter Bar & BBQ
- ชั้น 7 – 32 : ห้องพักอาศัย
- ชั้น 32 : Yoga Relaxing Zone และสวนหย่อม
- ชั้น 34 : สระว่ายน้ำ, Steam Room, ห้องน้ำแยกชายหญิง, พื้นที่พักผ่อนริมสระ
- ชั้น 35 : Fitness, Yoga Area
- ชั้น 36 : Lounge, Co-Working Space, เก้าอี้นวดชมวิว, ห้องน้ำแยกชายหญิง
สรุประบบรักษาความปลอดภัยและการบริการในโครงการ
- ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 179 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 339 คันคิดเป็น 60% รวมซ้อนคัน และที่เสนาเฟส 150 คัน คิดเป็น 30%
- ระบบ CCTV / Access Card
- Shuttle Service ด้วยรถตู้ 2 คัน วิ่งรับส่ง BTS กรุงธนบุรี
- เข้าออกโครงการด้วยรั้วกั้นไม้กระดกระบบ Easy Pass (Bluetooth)
Facility(คอนโด)
ที่ชั้น 1 ทางด้านหน้าทางเข้าโครงการ จะมีส่วนของ 7-Eleven และคาเฟ่ที่ยังไม่สรุปว่าจะเป็นแบรนด์อะไรนะครับ เมื่อเข้ามาจะเจอกับสวนหย่อมทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งจะช่วยกรองมลภาวะและเสียงจากถนนใหญ่ได้ในส่วนหนึ่ง ถัดเข้ามาเป็นทางเดินรถที่เดินทางเดียววนไปเข้าที่จอดรถที่ด้านหลังอาคาร ทางลาดขึ้น-ลง จะอยู่ตรงกลางของตัวอาคารฝั่งด้านหลัง ภายในอาคารชั้น 1 มี Lobby อยู่ด้านหน้าอาคาร การตกแต่งภายในค่อนข้างโล่ง เพราะใช้กระจกล้อมส่วนของ Lobby ไว้ 3 ฝั่ง เชื่อมต่อกับสวนด้านนอกก็ดูสบายตาดี นอกจากนั้นโครงการยังมีห้อง Nursing สำหรับปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากเกิดเหตุฉุกเฉินไว้ด้วย ซึ่งในห้องจะมีกล่องปฐมพยาบาลและเครื่อง AED กระตุ้นหัวใจสำรองไว้ ลองไปชมบรรยากาศกันครับ
ส่วนแรกด้านหน้าเลย ที่เป็น Sale Gallery ในปัจจุบัน ในอนาคตอันใกล้นี้จะเปลี่ยนเป็น 7-Eleven และร้าน Coffee Shop อีกหนึ่งร้านซึ่งยังไม่ได้ระบุว่าเป็นของแบรนด์อะไรนะครับ ในส่วนนี้จะเปิดให้คนนอกสามารถมาใช้งานได้ด้วย
ที่ชั้น 6
ชั้น 6 เป็นชั้นพักอาศัยชั้นแรก และมี Facilities ค่อนข้างเยอะเลยเหมือนกัน เนื่องจากยังไม่สูงนักเลยจะเน้นการสร้างบรรยากาศเองด้วยพื้นที่สีเขียว 2 ฝั่ง ซึ่งจะช่วยเป็นวิวให้กับพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ภายในอาคาร โดยจะมีพื้นที่ นั่งพักผ่อนและ Co-Kitchen ให้สามารถมาทำอาหาร ใช้ครัวตรงส่วนกลางนี้ได้โดยไม่ต้องใช้ครัวในห้องตัวเอง และเชื่อมต่อกับ BBQ ในสวนด้านนอกด้วย ส่วนอีกฝั่งของแนวทางเดินจะมีห้องสมุด, Kids Zone, Waiting Area และห้อง Game Room ในฝั่งนี้ก็จะเชื่อมต่อกับสวนและสนามเด็กเล่นภายนอกคาร ส่วนตัวผมชอบการจัดวางพื้นที่ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานแต่ละส่วนลักษณะนี้นะครับ ทำได้ดีเลยทีเดียว นอกจากนั้นก็มีห้องน้ำแยกชายหญิงให้ เป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ที่รองรับการใช้รถเข็นได้ด้วย
สำหรับการวางผัง ตัวอาคารเป็นรูปตัว U จัดวาง Facilities เอาไว้ตรงกลางแต่ก็มีการกั้นประตูเป็นสัดส่วน ทำให้ห้องพักอาศัยมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ลิฟต์โดยสารมีอยู่ 3 ตัวส่วนลิฟต์บริการ 1 ตัว โดยมีอัตราส่วนลิฟต์เท่ากับ 179 : 1 ถือว่าหนาแน่นพอสมควรอาจจะต้องรอลิฟต์บ้างในช่วงเวลาเร่งด่วน การจัดวางผังห้องจะวางห้องเล็กๆอยู่ตรงกลาง และห้องแบบ 2 ห้องนอนไว้ตรงมุมเพื่อเปิดรับวิวได้หลายฝั่ง
ขึ้นมาที่ชั้น 6 จะเป็นชั้นที่อยู่บนพื้นที่จอดรถ ทำให้สามารถจัดเป็นพื้นที่ Out Door ได้เยอะเลย ตรงนี้ทำให้โครงการนี้นอกจากจะมีห้อง River View แล้ว ยังมีส่วนของห้อง Garden View ให้เลือกด้วย
ที่ชั้น 34
ถัดขึ้นมาที่ชั้น 34 เลย ชั้นนี้มีห้องน้ำแยกชายหญิงให้อีกเช่นเดิม สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า ที่ภายในมีห้อง Steam ให้ ส่วนสระว่ายน้ำมีทั้งสระผู้ใหญ่ปกติยาว 27 เมตร สระเด็กพร้อมเครื่องเล่น และสระบำบัดสำหรับผู้สูงอายุ หรือจะมานอนแช่เล่นก็ได้ (Jacuzzi) นอกจากนั้นยังมีระเบียงนั่งชมวิวแม่น้ำ จากชั้นนี้เราสามารถเดินขึ้นไปยังชั้น 35 ซึ่งเป็นชั้น Fitness ได้จากบันไดทางด้านซ้ายของอาคาร ลองไปชมบรรยากาศกันครับ
เป็นสระว่ายน้ำยาว 27 เมตร ว่ายออกกำลังกายได้จริง ที่ผมชอบคือมีทั้งส่วนภายในและภายนอกอาคาร ใช้งานได้หลากหลายช่วงเวลาเลย แถมยังเป็นสระที่รองรับ 3 Geneations อีกด้วย
ที่ชั้น 35
ชั้น 35 เป็นพื้นที่ Fitness และ Yoga Area สามารถขึ้นมาออกกำลังกายและชมแม่น้ำเจ้าพระยาได้จากมุมสูง โดยส่วนของฟิตเนสนี้จะแบ่งออกเป็นโซน Cadio Training และ Weight Training ให้ด้วย
ขึ้นมาต่อที่ชั้น 35 ชั้นนี้จะเน้นไปที่กิจกรรมออกกำลังกายครับ เป็นห้อง Fitness รับวิวแม่น้ำ ที่มีทั้งโซน Cardio Training และ Weight Training ให้ด้วย ตกแต่งด้วยเส้นสายที่ดู Active เหมาะกับการออกกำลังกาย
ที่ชั้น 36
ขึ้นมาที่ชั้นสูงที่สุด ชั้น 36 เป็นพื้นที่ Sky Lounge & Co-Working Space มีมุมเก้าอี้นวดทางด้านซ้ายสำหรับผู้สูงอายุ เป็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยอันดับต้น ๆ ที่ส่วนตัวผมเคยเห็นเลยครับ
มาถึงชั้นส่วนกลางที่สูงที่สุด จะจัดเป็น Co-Woking Space และ Lounge ครับ บรรยากาศจะค่อนข้างสงบ ด้วยการตกแต่งด้วยไม้ดูอบอุ่น รับวิวแม่น้ำกันไปเต็มๆทุกพื้นที่
วิเคราะห์ห้องพักอาศัย
ชั้น 7-19 เป็นชั้นห้องพักทั้งหมด ซึ่งชั้น 7 จะแตกต่างจะชั้นอื่นๆเล็กน้องตรงที่ห้องตรงกลางจะเห็นหลังคาของสวนชั้น 6 โดยชั้นนี้จะมีจำนวนห้องพักทั้งหมด 25 ยูนิต โถงทางเดินยังเป็นแบบ Double Corridor อยู่
วิวแต่ละทิศรอบๆโครงการ
วิวทิศตะวันออกจากชั้น 24 : เป็นวิวโค้งแม่น้ำรูปตัว C ที่สวยเลยทีเดียว วันที่ผมไปถ่ายฝนตกเล็กน้อยเลยดูหม่นๆ ของจริงจัดว่าชิลเลยครับ เป็นวิวหลักของโครงการ และพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการครับ
แบบห้อง
ประเด็นที่น่าสนใจ
- มีแบบให้เลือกหลายแบบหลายขนาด
- ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
- ได้ครัวปิดทุกแบบ
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
Product Overview
Niche Mono เจริญนคร มีรายละเอียดรูปแบบห้องขายดังนี้
- 1 Bedroom 29.61 ตร.ม. ชั้น 24 ห้อง 15 ราคา 3.1 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus 34.43 ตร.ม. ชั้น 7 ห้อง 12 ราคา 2.75 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus 34.57 ตร.ม. ชั้น 24 ห้อง 16 ราคา 3.69 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 49.37 ตร.ม. ชั้น 7 ห้อง 7 ราคา 4.2 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 60.32 ตร.ม. ชั้น 14 ห้อง 4 ราคา 5.2 ล้านบาท
วัสดุและของแถมภายในห้อง
- รูปแบบการขาย : Fully Furnished
- Digital Door Lock : Molilock
- พื้น : ลามิเนต หนา 8 มม. และ กระเบื้องแกรนิตโต้
- ครัว : Built-in หน้าบานต่างๆเป็นลามิเนต + อ่างล้างจาน เตาและเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน จาก MEX, Top หินสังเคราะห์, Backsplash กระจก
- ผนัง : ฉาบเรียบทาสี และ กระเบื้อง (ในห้องน้ำ)
- ห้องน้ำ : สุขภัณฑ์ Kohler, หัวก็อก Englefield, ฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย
- ฝ้าเพดาน : สูง 2.7 เมตร ฉาบเรียบ ติดไฟดาวน์ไลท์
- ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ Daikin 12,000 และ 15,000 BTU.
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับว่าปัจจุบันห้องตัวอย่างของโครงการนี้หมดไปแล้ว ผมจึงเก็บภาพเป็นห้องจริง และเฟอร์นิเจอร์จริงที่จะได้มาให้ชมกันเลย จะได้เห็นหน้าตาและบรรยากาศของห้องจริง ลองตามผมเข้ามาชมกันเลยครับ
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.
ห้องนี้ไม่ใช่ห้องที่ขนาดเล็กที่สุด แต่เป็นห้องที่มีราคาเริ่มต้นถูกที่สุดในโครงการที่ 2.75 ล้านบาทนะครับ เพราะตำแหน่งห้องและชั้นที่ไม่ได้สูงนัก แต่พื้นที่ใช้สอยภายในที่เยอะและค่อนข้างลงตัวก็น่าสนใจทีเดียวเลยล่ะครับสำหรับราคานี้
ห้องนี้มีจุดเด่นที่การแยกสัดส่วนที่ค่อนข้างชัดเจน แต่ยังเชื่อมต่อถึงกันได้ง่าย และทำให้ห้องไม่ได้ดูทึบตันจนเกินไป เพราะแบ่งส่วนแต่ละห้องด้วยฉากกั้นกระจก จึงทำให้แสงเชื่อมต่อถึงกันได้ทุกส่วนเลย ในกรณีที่มีแขกก็สามารถแยกความเป็นส่วนตัวห้องนอนกับห้องนั่งเล่นได้ง่าย แต่ห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอน ทำให้อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวตรงจุดนี้ไปบ้าง ที่นี่จะได้ครัวปิดทุกรูปแบบห้องครับ ทำให้สามารถประกอบอาหารได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลกลิ่นและควันจะไปรบกวนส่วนอื่นๆ นอกจากนั้นห้องนี้ยังได้ห้อง Plus ริมหน้าต่าง รับวิวภายนอกให้ด้วย จะจัดเป็นห้องทำงาน อ่านหนังสือ ก็มีฉากกั้นแบ่งความเป็นส่วนตัวออกไปได้ ลองเข้าไปชมบรรยากาศกันครับ
ครัว
เข้ามาส่วนแรกจะเจอกับส่วนครัวครับ ซึ่งเขาจะ Built-in ชั้นวางของต่างๆมาให้ทั้งสองฝั่งเลย ที่ชอบคือพื้นเป็นกระเบื้อง ทำให้ทำความสะอาดง่าย และทนต่อรอยขีดข่วนและความชื้น ไม่สะสมคราบสกปรกด้วย เพราะพื้นที่ส่วนนี้นอกจากจะเป็นครัวแล้ว ยังเป็นพื้นที่แรกสำหรับเข้าออกห้องด้วย สิ่งสกปรกจะติดมากับรองเท้าได้ง่ายครับ
ท็อปครัวเป็นหินสังเคราะห์ ผนังครัวได้เป็นกระจก ข้อดีคือทำความสะอาดง่ายครับ ส่วนอุปกรณ์ต่างๆจะได้อ่างล้างจานสเตนเลส เตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนภายในจาก MEX ครับ
Living Room + Extra Area
เข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นที่ทำหน้าที่เป็นตัวแจกไปยังส่วนต่างๆของห้องครับ เฟอร์นิเจอร์ที่จะได้มาก็เยอะเลย ตั้งแต่ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง, โซฟา, ชั้นวางทีวี ไปชมกันครับ
หน้าตาของชุดโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง วางอาหารได้หลากหลายเลย หรือจะเสริมเก้าอี้เพิ่มก็นั่งได้ 3-4 คนนะครับ (ดึงโต๊ะออกมา)
Bedroom + Balcony
ห้องนอนให้มากว้างเลยครับ เริ่มด้วยฐานเตียง 6 ฟุต ที่ได้ลิ้นชักเก็บของมาให้ 2 จุด ยังเหลือพื้นที่ภายในให้จัดเพิ่มได้ เพราะจะมีโซนตู้เสื้อผ้ามาให้อยู่แล้ว ทำให้ด้านข้างทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทำงานอีกจุดได้เลย หรือจะวางโต๊ะหัวเตียง เหลือพื้นที่ให้ห้องดูไม่อึดอัดเกินไปก็ดูดีเหมือนกัน ตรงนี้จะได้หน้าต่างกว้างด้านข้าง เชื่อมไปยังระเบียงได้ด้วยครับ
ด้านนอกเป็นพื้นที่ระเบียงครับ สามารถใช้ได้เต็มที่เลย วางชุดโต๊ะกาแฟเล็กๆได้
ห้องน้ำ
ห้องน้ำของห้องนี้จะอยู่ภายในห้องนอน ถ้าใช้งานกันเองปกติก็จัดว่าสะดวก เพราะเข้าจากห้องนอนได้ง่าย แต่ในกรณีที่มีแขกมาที่ห้อง ก็ต้องเข้ามาในห้องนอนก่อนถึงจะเข้าห้องน้ำได้ ทำให้อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวในส่วนนี้ไปบ้างนะครับ
ห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่โทนสีสว่างดูสบายตาครับ สุขภัณฑ์ต่างๆก็ใช้ของ Kohler แบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกา เข้าไปชมกันครับ
ใช้อ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์แบบ 2 ชิ้น จาก Kohler ครับ ส่วนหัวก็อกจะเป็นของ Englefield นะ
ห้อง 2 Bedroom Plus ขนาด 49 ตร.ม.
มาต่อกันที่ห้องที่ 2 เป็นห้อง 2 Bedroom ครับ ข้อดีคือหน้ากว้าง เน้นรับวิวภายนอก ได้แสงธรรมชาติเยอะ การวางผังเขาจัดพื้นที่ Common Area และ Living Area แยกกันได้ชัดเจนดีนะครับ
เริ่มที่เข้ามาเป็นครัวปิดเหมือนเดิมเลย เปิดออกมาจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่รวมโต๊ะรับประทานอาหารไว้ด้วย และจะได้แสงจากระเบียงขนาดใหญ่ด้านใน ส่วนด้านข้างจะเป็นโถงทางเดินที่แจกไปยังห้องต่างๆ ส่วนแรกเป็นห้องนอนเล็ก ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องเก็บของ ด้านในเป็นห้องนอนหลัก และห้องน้ำครับ ที่ชอบคือห้องน้ำเขาเป็นบานเลื่อนที่รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุด้วย ลองเข้าไปชมกันครับ
ครัว
ส่วนแรกเหมือนเดิมเลยครับ จะเป็นครัวปิดด้านหน้าห้อง พื้นเป็นกระเบื้อง Built-in ชั้นวางต่างๆมาให้ครบ แต่จะมีขนาดพื้นที่ที่กว้างขึ้นมาหน่อย รายละเอียดส่วนใหญ่คล้ายๆเดิมครับ
พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่เช่นเดิม มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างครับ เดินสวนกันได้ในขณะทำครัว
Living Area + Balcony
ส่วนห้องนั่งเล่นของห้องนี้จะขนาดใหญ่ เรียกว่าเป็นพระเอกก็ว่าได้ เพราะรวมพื้นที่กินข้าวไว้ด้วย แถมยังเชื่อมต่อไปยังระเบียงได้อีก
ชุดรับประทานอาหารจะได้มาแบบ 4 ที่นั่งเลย เสริมตัวโต๊ะได้อีกด้วย
Second Bedroom
ภายในเป็นห้องสำหรับวางเตียง 3.5 ฟุต ซึ่งจริงๆ จะวาง 5 ฟุตก็ได้นะครับ แต่อาจจะทำให้ห้องดูแน่นไป
ตรงข้ามห้องเก็บของจะมีห้องนอนรองครับ
Master Bedroom
ห้องนอนหลังจะขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยครับ สำหรับวางเตียง 6 ฟุตได้ แต่จะเหลือพื้นที่ปลายเตียงน้อยเหมือนกัน ด้านข้างยังวางโต๊ะหัวเตียงได้นะครับ
Bathroom
ห้องน้ำของห้องนี้เป็นห้องหน้ากว้างครับ ประตูเข้าจากตรงกลางห้องน้ำ ทำให้เห็น 3 ส่วนของห้องน้ำครบเลย แต่ละส่วนของห้องน้ำจะมีฉากกั้นอาบน้ำแยกไว้หมดเลย ทำให้สามารถใช้ร่วมกันได้หลายคน สำคัญในช่วงเวลาเร่งด่วนครับ ส่วนสุขภัณฑ์และการตกแต่งจะคล้ายๆกับห้องที่ผ่านมาครับ
ห้องน้ำของที่นี่เป็นประตูบานเลื่อนครับ เหมาะกับผู้สูงอายุ เปิดง่าย รองรับรถเข็นได้
ผังห้องอื่นๆภายในโครงการ
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม.
ราคา
สำหรับเรื่องการเงินนั้น เรามองว่าคนที่อยากได้คอนโดนี้น่าจะมีงบประมาณ 3-5 ล้านบาทโดยประมาณ (เผื่อค่าตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ไว้ให้แล้ว) หรือว่ามีกำลังผ่อนอยู่ที่ 21,000-35,000 บาทต่อเดือนครับ
ตัวอย่างราคาห้องพักอาศัยในโครงการ Niche Mono เจริญนคร ณ วันที่ 9 ก.พ. 2564
- 1 Bedroom 29.61 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.1 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus 34.43 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.75 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus 34.57 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 49.37 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.2 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 60.32 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.2 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายต่างๆ
- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 15,000 บาท
- ค่ากองทุน 700 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลางปีแรก 50 บาท/ตร.ม./เดือน ปีที่ 2 แลถัดไป 57 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
บทสรุป
ส่วนตัวผมมองว่าโครงการ Niche Mono เจริญนคร เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดวิวแม่น้ำเจ้าพระยา เน้นความ Private ในราคาไม่สูงนัก และชื่นชอบหรืออยู่อาศัยเดิมในทำเลย่านนี้ เน้นการเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก อาศัยอยู่กันเป็นครบครัวได้ตั้งแต่ขนาดเล็ก-ใหญ่ มีคนหลายวัยในครอบครัว หรือผู้ใหญ่วัยกำลังเกษียณอายุงานที่อยากพักผ่อนวิวแม่น้ำ มีพื้นที่ส่วนกลางให้เลือกใช้ที่หลากหลาย ถ้าสนใจก็ต้องรีบกันหน่อยนะครับ เพราะห้องวิวแม่น้ำเองก็เหลือไม่เยอะแล้ว ลองพิจารณาดูอีกทีนะครับ