Metris District Ladprao (เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว) เป็นโครงการแบรนด์ใหม่ล่าสุดจากทางเมเจอร์ ที่ขยายตัวออกมาจากแบรนด์เมทริสเดิม โดยมีการเพิ่มเติมพื้นที่ส่วนกลาง ความทันสมัย และพื้นที่สีเขียวภายในโครงการที่มากขึ้น ตัวอาคารคงคอนเซ็ปต์ Mid-Century Modern ที่ออกแบบให้มีความแตกต่างจากตัวอื่นๆชัดเจน ซึ่งโครงการจะอยู่ติดกับคอนโด Metris ลาดพร้าว ที่เพิ่งสร้างเสร็จก่อนหน้า ในงบประมาณเพียง 2.99 ล้านบาท พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบครัน จุดเด่นของที่นี่มีดังนี้…

  • ทำเล – ติดถนนใหญ่อย่างลาดพร้าว ที่สามารถ “เดิน” ไปรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธินได้ และ เดินไปยัง Lotus’s ลาดพร้าว, Union Mall และ Central Plaza ลาดพร้าวได้
  • ราคา – เริ่มต้นที่ถือว่าต่ำสุดในละแวก อยู่ที่ 2.99 ล้านบาท แม้จะเป็นห้อง Studio 23.7-24.8 ตร.ม. แต่ก็ขายแบบ Fully Furnised (เฟอร์นิเจอร์ครบครัน) + Home Automation
  • วัสดุแบบ Non-Toxic Materials : วัสดุภายในห้องพักอาศัยออกแบบให้สามารถช่วยยับยั้งเชื้อโรคแบคทีเรีย ไวรัสได้
  • โครงสร้าง : คอนโดก่ออิฐฉาบปูนทั้งอาคาร โดยออกแบบให้ผนังเป็นลักษณะ Double Wall with Air Gap 2mm  ที่สามารถกันเสียงรบกวนได้ดี (เนื่องจากมีสัตว์เลี้ยงภายในโครงการ)
  • คอนโด Petfriendly – มีสวนหย่อมสำหรับสัตว์เลี้ยง และพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบมาสำหรับน้องๆโดยเฉพาะ

ข้อมูลโครงการ

Metris District ลาดพร้าว ณ วันที่ 23 มีนาคม 2565

 ชื่อโครงการ  Metris District Ladprao (เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนลาดพร้าว เขตจตุจักร
 ที่ดิน  3-2-14.3 ไร่
 ประเภทคอนโด  คอนโด High Rise 45 ชั้น
 จำนวนยูนิต  741 ยูนิต ร้านค้า 3 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด  25 ยูนิต
 ที่จอดรถ  ที่จอดรถคิดเป็น 42% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2565
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ปี 2568
 Studio Studio 23.7 – 24.8 ตร.ม.
 1 Bedroom 1 Bedroom 28 – 31.8 ตร.ม.
 1 Bedroom 1 Bedroom Plus 34.1 – 34.7 ตร.ม.
 2 Bedroom 2 Bedrooms 1 Bathroom 42.0 – 42.6 ตร.ม.
 2 Bedroom 2 Bedrooms 2 Bathroom 49.6 ตร.ม.
 ฝ้าเพดานสูง  2.5 – 2.6 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  2.99 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 125,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ https://www.major.co.th/th/project/metrisdistrictladprao
 Call Center 02-116-1111

 

ทำเลที่ตั้ง

ประเด็นเกี่ยวกับทำเลที่น่าสนใจ

  • โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าวฝั่งเลขคู่(มุ่งหน้าไปห้าแยกลาดพร้าว) ที่เป็นลักษณะซอยย่อยที่เชื่อมออกถนนวิภาวดี-รังสิตได้ง่าย ไม่ต้องเดินถนนบนถนนหลัก ซึ่งถนนลาดพร้าวได้ชื่อว่าเป็นเส้นที่รถติดมากๆเลยนะคะ
  • มีรถไฟฟ้า MRT & BTS บริเวณห้าแยกลาดพร้าว (จุด Interchange) และใกล้ห้างสรรพสินค้าที่สำคัญของย่านนี้ทั้ง Central ลาดพร้าว และ Union Mall รวมถึงมีร้านค้า ร้านอาหารตลอดถนนลาดพร้าว ที่อยู่ในระยะเดินหาของกินได้

พิกัด Google Maps : 13.811270, 100.564084
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

ทำเลโครงการ Metris District Ladprao (เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว) ติดถนนใหญ่ลาดพร้าว ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว สามารถเดินไป MRT พหลโยธิน ได้ในระยะประมาณ 230 เมตรและลอดอุโมงค์ข้ามฝั่งไป Union Mall และเดินต่อไป Central ลาดพร้าว ได้แบบสบายๆ ไม่ต้องเดินตากแดดนะคะ โดยตัวโครงการจะอยู่ระหว่างซอยลาดพร้าว 6 และ 8 ระหว่างห้าแยกลาดพร้าว กับ แยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว ซึ่งใครเคยผ่านไปมาตรงนี้ช่วงเลิกงานจะรู้เลยว่า “รถติดโคตรๆ” แต่ข้อดีของลาดพร้าวฝั่งเลขคู่ก็คือมีซอยลัดเลาะและสามารถใช้เส้นทางไปออกถนนวิภาวดีรังสิตหรือถนนพหลโยธิน และถนนรัชดาฯ ได้นั่นเอง

เรามาดูเส้นทางลัดกันหน่อยค่ะ ได้แก่ ซอยลาดพร้าว 6 เชื่อมกับซอย 8 ไปออกถนนวิภาวดี-รังสิต 22 หรือจะเชื่อมไปด้านหลังการบินไทย(ตลาดลุงเพิ่ม) เชื่อมไปออกซอยโชคชัยรวมมิตรเป็นเส้นหลักที่เชื่อมระหว่าง”ถนนวิภาวดี-รังสิต” และ “ถนนรัชดาภิเษก” ที่ไม่ต้องขับไปเสียเวลารถติดบนถนนใหญ่ ถือเป็นความสะดวกและจุดเด่นของทำเลนี้เลยทีเดียว

ความอุดมสมบูรณ์หลักในละแวกนี้ โครงการถูกขนาบด้วยห้าง 3 อันหลักได้แก่ 1) ยูเนียนมอลล์ 2) Central Plaza ลาดพร้าว 3) BigC Extra+Hompro ด้วยระยะทางที่เดินเท้าไปได้ และมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ (7-11) ในระยะเพียง 100-200 เมตร ที่ไม่ต้องห่วงเลยหาของกินได้ง่ายค่ะ

ส่วนถ้าเขยิบออกไปหน่อยก็จะมี Tesco Lotus, เมเจอร์ รัชโยธิน อีกทั้งยังมีตลาดเดินช้อปให้เลือกอีกคือสวนจตุจักร, ตลาด อ.ต.ก., บอง มาร์เช่ และสวนลุมไนท์ฯรัชดาที่พึ่งจะเปิดตัวไปไม่นานนี้มีร้านอาหารมาเพิ่มอีก รวมๆถือว่าอุดมสมบูรณ์ใช้ได้ นอกจากนี้ในซอยย่อยๆ ของลาดพร้าวก็ถือเป็นแหล่ง Hang Out ของคนทำงานในย่านนี้ ซึ่งจะมีร้านอาหาร ร้านเหล้า เปิดให้บริการกันอยู่หลายแห่งทีเดียวบรรยากาศ อีกทั้งยังสามารเดินทางไปแหล่งงานในย่านพระราม 9 หรือเดินทางไปถนนวิภาวดีรังสิตตอนต้นที่มีอาคารสำนักงานทั้งขนาดเล็กใหญ่ เรียงรายกันไปตลอดเส้นทาง

เนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ การเรียกรถสาธารณะต่างๆค่อนข้างง่าย ทั้งรถเมล์ รถมอไซค์ รถแท็กซี่ ส่วนการใช้งานรถไฟฟ้าจะใกล้กับห้าแยกลาดพร้าวที่เป็นสถานี interchange ระหว่าง MRT พหลโยธิน และ BTS ห้าแยกลาดพร้าว ที่เดินทางเข้าเมืองได้ง่ายเลย ส่วนถ้าถัดไปอีกสถานีเป็น MRT ลาดพร้าว ที่ในอนาคตจะเป็นจุด interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง “รัชดา-ลาดพร้าว-พัฒนาการ” ที่พาออกไปบางกะปิ-ศรีนครินทร์-สมุทรปราการได้

นอกจากนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ยังมีแผนที่จะพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีกลางบางซื่อ รวม 305.5 ไร่ ให้เป็นเชิงพาณิชย์หรือคอมเพล็กซ์ซิตี้ อาทิ สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ที่พักอาศัย และพื้นที่นันทนาการ วงเงินประมาณ 68,000 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่

  • โซน A : สมาร์ท บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ เนื้อที่ 35 ไร่ วงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท
  • โซน B : เอเชี่ยน คอมเมอร์เชียล แอนด์ บิสซิเนส ฮับ เนื้อที่ 78 ไร่ วงเงินประมาณ 24,000 ล้านบาท
  • โซน C : สมาร์ท เฮลตี้ แอนด์ ไวเบรนท์ (Vibrant) ทาวน์ เนื้อที่ 105 ไร่
  • โซน D : เนื้อที่ 87.5 ไร่ เป็นพื้นที่ที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) อยู่ระหว่างการศึกษาและออกแบบถึงศักยภาพในการพัฒนาเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายและศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทาง ภายใต้แนวคิด เวิลด์ รีเนาด์ (Renowned)

ถ้าแผนพัฒนานี้สำเร็จเมื่อไหร่ ส่วนตัว..ก็คาดการณ์ว่าพื้นที่ในย่านนี้จะกลายเป็นแหล่งงานที่สำคัญแห่งหนึ่งในอนาคต เป็น Hub สำหรับติดต่อธุรกิจ เพราะพื้นที่นี่ในอนาคตจะมีความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายต่างๆ หลายเส้นทางที่มาบรรจบกันได้ที่นี่ จึงน่าจะกลายเป็นพื้นที่นัดพบของนักธุรกิจจากหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ และจะทำให้ความต้องการของที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆค่ะ

การเดินทางมาโครงการ

เริ่มต้นจากรถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน ที่อยู่ใกล้โครงการเพียง 230 เมตร ซึ่งความพิเศษของสถานีนี้จะมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านสะดวก ที่เปิดให้ใช้บริการก่อน-หลังไปทำงาน โดยทางไปโครงการให้เลือกเดินออกประตู 1 ขึ้นไปเป็นลาดพร้าวซอย 4 (ลาดพร้าวฝั่งเลขคู่) ตรงข้ามกับ Union Mall นะคะ

 

 

Image 1/11
ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านสะดวกซื้อเปิดให้บริการ

ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านสะดวกซื้อเปิดให้บริการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บริบทโดยรอบของโครงการถ้าตามริมถนนลาดพร้าวส่วนใหญ่จะเป็นแนวอาคารพาณิชย์ร้านค้า อาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม ประมาณนี้ โดยตำแหน่งคอนโด Metris District ลาดพร้าว จะอยู่ติดกับ Metris ลาดพร้าว ที่ห่างกันประมาณ 60 เมตร แม้จะอยู่ไม่ไกลจากกันมาก แต่ก็ยังมีพื้นที่ส่วนกลางกั้นตรงกลาง ขอสรุปวิวในแต่ละทิศ ดังนี้

  • ทิศเหนือ : เป็นถนนลาดพร้าว และซอยลาดพร้าว 6 โดยเป็นตำแหน่งที่จะไม่มีวิวบังในอนาคตแน่นอน ซึ่งตำแหน่งห้องพักที่หันไปฝั่งนี้จะมีไม่มาก
  • ทิศใต้ : เป็นอีกทิศที่ได้วิวโอเคเพราะหันเข้าด้านในซอยซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ และขยับออกไปหน่อยจะเป็นอาคาร 16 ชั้น ที่ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด
  • ทิศตะวันออก : เป็นตำแหน่งที่อยู่ติดกับคอนโด Metris ลาดพร้าว ห่างประมาณ 60 เมตร ที่แม้ไม่ได้อยู่ไกลกันมาก แต่ก็ไม่ได้บังวิวกันตรงๆค่ะ
  • ทิศตะวันตก : เป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด วิวโล่งๆมองเห็นคอนโดและวิวสวน 700 ไร่ (ระยะไกล) แต่จะมีตำแหน่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีอาคารสูง 20 ชั้น บังวิวในระยะประชิดนะคะ

ถนนลาดพร้าวด้านหน้าโครงการ (หันไปทางห้าแยกลาดพร้าว)

ถนนลาดพร้าวด้านหน้าโครงการ (หันไปทางแยกรัชา-ลาดพร้าว)

Image 1/5
ปัจจุบัน Sales Gallery เปิดให้บริการเรียบร้อยแล้วนะคะ

ปัจจุบัน Sales Gallery เปิดให้บริการเรียบร้อยแล้วนะคะ

ตำแหน่ง Sales Gallery ของโครงการค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ยูเนียน มอลล์ + MRT พหลโยธิน ~ 230 เมตร
  • Big C Super Center ลาดพร้าว 2 ~ 550 เมตร
  • Central Plaza ลาดพร้าว ~ 750 เมตร
  • Tesco Lotus ~ 1.3 กม.
  • สวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดาภิเษก ~ 1.4 กม.
  • สวนรถไฟ + สวนจตุจักร ~ 1.8 กม.
  • Major รัชโยธิน ~ 2.4 กม.
  • SCB Park ~ 2.6 กม.
  • ตลาด อ.ต.ก. + ตลาดนัดจตุจักร ~ 3.4 กม.

โรงพยาบาล

  • รพ.เปาโล เกษตร ~ 5 กม.
  • รพ.วิภาวดี ~ 5.5 กม.

โรงเรียน

  • โรงเรียนเซนต์จอห์น ~ 300 เมตร
  • โรงเรียนหอวัง ~ 1.2 กม.
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 4.6 กม.

อื่นๆ

  • PTT สำนักงานใหญ่ ~ 900 เมตร
  • Sun Tower ~ 1 กม.
  • SC Asset ~ 1.2 กม.
  • Thai Airways ~ 1.2 กม.
  • SCB Park ~ 1.7 กม.

รายละเอียดโครงการ

Metris District Ladprao (เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว) เป็นอาคารที่มีการออกแบบมาด้วยแนวคิด Mid Century Modern (MCM) เป็นการผสมกันระหว่างเหล็ก กระจก ไม้ และคอนกรีต ทำให้ตัวอาคารมีเอกลักษณ์แตกต่างจากอาคาร Modern ทั่วไป มาพร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางแบบ Maximal Facilities ได้พื้นที่ส่วนกลางหลากหลายและรองรับกับไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบัน สำหรับจุดเด่นของตัวอาคารเป็นลักษณะ Stack ผสานกับการวางพื้นที่สีเขียวกลางแจ้ง Outdoor ซึ่งกระจายตัวอยู่ด้านบน ทำให้ลูกบ้านในชั้นนั้นๆสามารถเดินออกไปใช้งานได้ ส่วนลูกบ้านชั้นอื่น ทางโครงการมีสวนหย่อมบริเวณ Main Facilities ที่ชั้น 1, 8 และดาดฟ้า

มาดูภาพรวมของโครงการกันก่อนนะคะ โครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 45 ชั้น แบบคอนโด Petfriendly ที่เน้นพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่  โดยกระจายทั่วโครงการ ซึ่ง Main Facilities หลักจะอยู่ชั้น G, 8 และ 42m-45 ข้อดีคือเราสามารถเห็นวิวมุมสูงของโครงการ ในส่วนที่จอดรถอยู่ชั้นที่ 2-7 ลักษณะแบบ Conventional Parking ที่ใช้งานได้สะดวกค่ะ

1st Floor Plan : ทางเข้าออกหลักของโครงการจากถนนลาดพร้าว โดยทางเดินรถภายในเป็นลักษณะ One Way ใช้งานได้สะดวก โดยพื้นที่ชั้นล่างมีสวนหย่อมภายนอกให้ใช้งานทั้งส่วนของลูกบ้านอย่าง Sensory Garden และ Multi Sport Carpark (มีสนามบาสด้วยนะ)ส่วนอีกด้านเป็นพื้นที่ของสัตว์เลี้ยงหรือ Pet Park ขนาดใหญ่กว่าโครงการอื่นที่เคยให้มา สำหรับข้อกำหนดการเลี้ยงสัตว์ โดยให้ห้องพักอาศัย 1 Bedroom 1 ตัว / 2 Bedrooms 2 ตัว และสัตว์เลี้ยงน้ำหนักไม่เกิน 15 กก. เลี้ยงสัตว์ได้ทุกชนิด ยกเว้นสัตว์มีพิษและสัตว์เลื้อยคลาน

ถัดเข้ามาภายในอาคารด้านหน้าเป็นพื้นที่ร้านค้าทั้งหมด 3 ยูนิต ส่วนถ้าเดินเข้ามาภายใน Double Volume Lobby เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่เอาไว้ต้อนรับแขก โดยโครงการจัดที่นั่งมาให้หลากหลายรูปแบบ ถัดไปด้านในมี Co-working Space ให้ลูกบ้านใช้งาน โดยจะเชื่อมต่อกับลิฟต์โดยสาร + Mailbox ส่วนที่จอดรถเป็นแบบ Conventional Park คิดเป็น 42% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ส่วนลิฟต์โดยสารของโครงการจะมีทั้งหมด 4 ตัว อัตราส่วนจะอยู่ที่ 186:1 ที่ค่อนข้างหนาแน่นทีเดียว ส่วนลิฟต์ Service มีแยกใช้งานอีก 1 ตัวค่ะ

ภาพจำลองบริเวณ Multi Sport Carpark (มีสนามบาสด้วยนะ) รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว บรรยากาศร่มรื่นดี ส่วนพื้นมีสีสันสดใส น่าใช้งานดีค่ะ

ภาพจำลองบริเวณ Sensory Garden ที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว บรรยากาศร่มรื่น ดูเงียบสงบดี เหมาะมานั่งเล่นยามเย็น

8th Floor Plan : แปลนห้องพักอาศัยทั้งหมด 25 ยูนิต โดยบริเวณนี้จะเป็นตำแหน่งของสวนหย่อมชั้น 8 ซึ่งเป็นลักษณะ Yoga Lawn และ Therapy Garden ลักษณะลานกว้างๆให้ลูกบ้านออกมาเดินเล่น ทำกิจกรรมเพิ่มเติมได้

ภายในเพิ่มเติมเทคโนโลยีไปในส่วนต่างๆ เช่น โครงการใช้ระบบ Touchless เช่น Touchless Lift และเข้าออกด้วย Face Scan บริเวณพื้นที่โครงการมีระบบฟอกอากาศที่ป้องกันเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และ PM 2.5 นอกจากนี้ยังมีจุด EV Charger ติดตั้งภายในโครงการ รองรับการใช้งานรถไฟฟ้าที่เริ่มนิยมใช้งาน ส่วนภายในห้องพักอาศัยยังได้ระบบ Home Automation พร้อมกับ Non-Toxic Materials เพื่อความสะดวกสบายและสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัย

42m, 43th Floor Plan : โดยในชั้นที่ 42m โครงการออกแบบห้องสำหรับสัตว์เลี้ยงมาให้ใช้งานเพิ่มเติม ซึ่งเป็นอีกจุดที่พาน้องๆมาพบปะกับเพื่อนได้นะคะ ส่วนถัดขึ้นมาชั้นบนเป็นพื้นที่ Main Facilities เป็นตำแหน่งของสระว่ายน้ำ และฟิตเนส ที่เราสามารถมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา รอบโครงการเลยนะคะ

ภาพจำลองบริเวณ Swimming Pool ที่เป็นลักษณะ Semi-Outdoor ขนาด 26.5×5 เมตร ลึก 1.2 เมตร ที่สามารถว่ายน้ำจริงจังได้เลย โดยบริเวณนี้จะมี Jacuzzi ที่หันไปทางทิศตะวันออก(สวน 700 ไร่) นั่งมองวิวชิวๆ นอกจากนี้พื้นที่บริเวณนี้เป็นลักษณะ Double Volume ที่ทำให้ดูโอ่อ่าดีนะคะ

ภาพจำลองบริเวณ Cat Haus ที่ออกแบบให้พาน้องแมวมาวิ่งเล่นใช้งาน

ภาพจำลองบริเวณ Multi-Pet Playroom ที่ออกแบบให้หนู, กระต่าย, กระรอก หรือสัตว์เล็กให้มาวิ่งเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ

45th Floor Plan : เป็นชั้นดาดฟ้าของโครงการ ที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว มี Sky Urban Farm ที่ทางโครงการเป็นคนดูแลปลูกพืชผักสวนครัว ให้ลูกบ้านมาเก็บไปกินได้นะคะ อีกส่วนเป็น Party Deck ที่พาเพื่อนมานั่งเล่นชมบรรยากาศได้ค่ะ

ภาพจำลองบริเวณ Party Deck ที่ออกแบบให้มานั่งเล่นชมวิว ที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว บรรยากาศร่มรื่น น่าใช้งานดี

ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 8 ขึ้นไป โดยมีห้องพักอาศัยสูงสุดที่ 25 ยูนิต โดยห้องพักอาศัยส่วนใหญ่หันไปทางทิศตะวันตก-ออก ตำแหน่งของห้องพักอาศัย มีดังนี้

  • Studio : มีทั้งหมด 3 ยูนิต โดยตำแหน่งห้อง S-1 จะอยู่ใกล้กับคอนโดสูง 20 ชั้น ที่จะบดบังวิวเล็กน้อย
  • 1 Bedroom Plus : มีทั้งหมด 6 ยูนิต โดยจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดของโครงการ หันออกไปทางทิศตะวันตก ที่มองไปเห็นเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ และมองออกไปเห็นวิวสวน 700 ไร่ (ระยะไกล)
  • 1 Bedroom : มีกระจายอยู่ในทุกทิศรอบโครงการ ที่มีทั้งทิศเหนือ-ใต้ ถือเป็นทิศยอดฮิตที่คนนิยมเลือกกัน และทิศตะวันออกที่มองเห็นพื้นที่สีเขียวของโครงการ บรรยากาศร่มรื่นทีเดียว
  • 2 Bedrooms : ห้องพักอาศัยจะเป็นตำแหน่งมุมทั้งหมด ที่เราสามารถ Take View ได้ 2 ฝั่ง และเป็นลักษณะห้องหน้ากว้าง

ความพิเศษของโครงการนี้เป็นคอนโดที่ออกแบบโครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน ที่ไม่ค่อยได้เห็นคอนโดที่อื่นๆทำกันนะคะ ด้วยความที่เป็นคอนโด Petfriendly โครงการจึงให้ความสำคัญกับการใช้เสียงภายในห้องพักอาศัย โดยออกแบบกำแพงเป็นแบบ Double Wall ที่ป้องกันเสียงได้ดีมากขึ้น ไม่ต้องกลัวเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้านนะคะ

Image 1/17
Typical Floor Plan

Typical Floor Plan

แปลนห้องพักอาศัยทั้งหมดของโครงการ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

G Floor

  • Drop off
  • Parking & Car Wash Area
  • Sensory Garden
  • Multi-Sport Carpark
  • Pet Park
  • Therapy Garden
  • Retail Space
  • Double Volume Lobby
  • Co-Working Lounge
  • Mailroom
  • Smart Locker
  • Provided Laundry System

42m Floor

  • Cat Haus
  • Multi-Pet Playroom

43rd Floor

  • Sky Pool ขนาด 26.5×5 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • Jacuzzi ขนาด 3.6×6.8 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • Kids Pool ขนาด 2.9×2.6 เมตร ลึก 50 ซม.
  • Panoramic Gym
  • Weight Training Studio

43th Floor

  • Sky Lounge
  • Observation Deck

44th Floor

  • Sky Urban Farm
  • Party Deck

อื่นๆ

  • 24-hour CCTV
  • Free WIFI บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง
  • EV Charger
  • ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 186: 1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถคิดเป็น 42% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card / Finger Scan

 

แบบห้อง

มาดูที่ตัวโปรดักส์กันต่อค่ะ โครงการ Metris District Ladprao (เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว) จะมีแบบห้องให้เลือกอยู่หลากหลายรูปแบบ ดังนี้

  • Studio 23.7 – 24.8 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 28 – 31.8 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 34.1 – 34.7 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 1 Bathroom 42.0 – 42.6 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 2 Bathroom 49.6 ตร.ม.

ห้องพักอาศัยมีการจัดวาง Layout ภายในห้องที่แตกต่างกันไป เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน (สามารถเลื่อนลงไปดูแบบห้องเพิ่มเติมที่แบบแปลนทางด้านล่างได้นะคะ) รูปแบบการขายภายในโครงการจะขายเป็น Fully Furnished (เฟอร์นิเจอร์ครบครัน) + Home Automation ที่เพิ่มขึ้นมาคือ WFH Function ที่ต้อนรับยุค New Normal คนหันมาทำงานที่บ้านกันมากขึ้น ซึ่งเราจะได้โต๊ะ+เก้าอี้นั่งทำงาน ทุกแบบห้องค่ะ

สำหรับห้องตัวอย่างมีทั้งหมด 2 ห้อง เป็นลักษณะ 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.1 ตร.ม. แต่ก่อนที่เราจะไปดูภายในห้องตัวอย่าง เรามาดูวัสดุต่างๆ ภายในห้องกันนะคะ

  • พื้นไม้ : SPC (Stone Plastic Composite) ปิดผิวหน้าด้วย LUMINAR OAKหนา 4 มม. ที่สามารถป้องกันความชื้นและน้ำได้ดี ทนต่อรอยขีดข่วน เช็ดทำความสะอาดง่าย รวมถึงปลวกไม่กิน 100%
  • กระเบื้องแกรนิตโต้ : ยี่ห้อ Cotto ประเภท Hygienic Tile ที่ป้องกันเชื้อแบคทีเรียได้ เช็ดทำความสะอาดง่าย ที่สำคัญคือวัสดุปลอดภัยทั้งคนและสัตว์เลี้ยง
  • ผนังทาสี DURACLEAN A+ : ที่ช่วยลดสารพิษก่อมะเร็งและเป็นรายเดียวที่มี Microban ยับยั้งเชื้อโรค แบคทีเรียได้ 99.99%
  • เครื่องฟอกอากาศ : NANO-X Air Purifier ที่ช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น สามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ยับยั้งสารพิษ 5 ชนิด : แบคทีเรียและไวรัส เชื้อรา สารก่อภูมิแพ้ ละอองเกสรดอกไม้ และสารอันตราย
  • เครื่องปรับอากาศ : ยี่ห้อ Haier ป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้
  • Smart Floordrain : ภายในห้องน้ำออกแบบมาเป็นพิเศษ ที่สามารถดักจับขนของทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ป้องกันการอุดตันในอนาคต

ขอเริ่มต้นที่ห้องพักอาศัย 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. จัดมาเป็นห้องหน้ากว้าง ภายในแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้เป็นสัดส่วน โดยเปิดประตูเข้ามาเจอพื้นที่ Common Area กันก่อน (Living+Dining) ที่ได้พื้นที่ขนาดใหญ่ แม้จะไม่ได้เห็นวิวแต่เราก็ได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาอยู่นะคะ นอกจากนี้ยังมีทางเข้า-ออกจากห้องน้ำจากบริเวณนี้ ส่วนห้องครัวและห้องนอนวางอยู่ชิดริมอาคาร ความน่าสนใจคือพื้นที่ครัวปิดขนาดใหญ่ติดระเบียง เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการทำอาหารจริงจัง เปิดระบายกลิ่นอาหารได้ดี ปิดท้ายด้วยห้องนอนวางเตียง 5 ฟุต พร้อมวางโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะหัวเตียงได้ แปลนเหมาะอยู่อาศัย 1-2 คนกำลังดี โดยห้องลักษณะนี้จะมีจำนวนมากที่สุดในโครงการนะคะ

เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องพักอาศัยได้ทั้งหมด 10 ชิ้น (ชั้นวางทีวี,โซฟา,โต๊ะกลาง,โต๊ะทานอาหาร+เก้าอี้,เตียง 5 ฟุต, ชั้นวางของหัวเตียง, โต๊ะทำงาน+เก้าอี้ และตู้เสื้อผ้า)

นอกจากภายในห้องพักอาศัย ยังติดตั้ง Home Automation หรือระบบอัจฉริยะ ที่ช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นต้อนรับยุคสมัยใหม่ โดยอุปกรณ์ที่เราจะได้ภายในห้องพักอาศัย มีดังนี้

  • Smart Switch : ควบคุมสวิตซ์ไฟภายในบ้านผ่านระบบสัมผัส Touch Switch
  • IR : อุปกรณ์ควบคุมคำสั่งจากอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ควบคุมระบบปรับอากาศ และโทรทัศน์
  • IP Smart Camera : ตรวจความเคลื่อนไหวภายในห้อง ที่สามารถพูดคุยกับคนในห้องผ่านกล้อง และควบคุมผ่านมือถือ
  • Door Sensor : ตรวจสอบเวลาการเข้า-ออกที่ประตู และสามารถติดตั้ง Welocome Scene ที่สามารถเปิดไฟ และแอร์ได้
  • Smart Plug : ปลั๊กพ่วงที่เปลี่ยนอุปกรณ์ธรรมดา เป็น Smart item ที่ตั้งเวลาเปิด-ปิดของอุปกรณ์ได้
  • Smart Plug : ปลั๊กขนาดเล็กที่เปลี่ยนอุปกรณ์ธรรมดา เป็น Smart item เช่นกัน

ประตูห้องพักอาศัย มาพร้อม Digital Door Lock ค่ะ

มือจับเป็น Digital Door Lock สีดำทั้งอัน สวยงามดี โดยใช้งานทั้งตั้งพาสเวิร์ด (Password), การ์ด (Keycard), กุญแจ และสแกนนิ้ว (Finger Scan)

เปิดประตูเข้ามาเป็นพื้นที่ Common Area ที่มีฟังก์ชัน Living+Dining Area ที่เชื่อมต่อเป็นพื้นที่เดียวกัน ใช้งานได้สะดวก ส่วนพื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.5-2.6 ม. พื้นไม้ SPC หนา 4 มม. ที่ทนความชื้น รอยขีดข่วนได้ดี

ระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.16 เมตร ไซส์ทีวีที่เหมาะสมคือประมาณ 42″-50″ จอใหญ่ขนาดเต็มสายตาได้กำลังดี / ด้วยความที่เปิดมาแล้วเป็นพื้นที่ใช้งานเลย เราแนะนำวางรองเท้าด้านล่างชุดวางทีวีนะคะ

ห้องที่นี่มีพื้นที่กว้างพอสมควร เราสามารถวางได้ทั้งชุดโซฟาแบบ Love Seat และโต๊ะอาหารแบบ 2 ที่นั่งต่อเนื่องกันแบบนี้ได้เลย

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว บริเวณติดตั้งเครื่องปรับอากาศ และเครื่องฟอกอากาศ ที่ป้องกัน PM 2.5 ได้

ประตูบานเลื่อนสูงเต็มผนัง ทำให้แสงส่องเข้ามาด้านในได้ดี ตัวประตูเป็นลักษณะบานเลื่อน 3 ตอน ที่ทำให้เปิดประตูใช้งานได้กว้างมากยิ่งขึ้น

ภายในห้องครัวปิดโครงการติดตั้งชุด Built-in ครัว สูงเต็มผนังแบบนี้เลย โดยโครงการเลือกใช้วัสดุปิดผิวตู้ไม้ยางพารา 100% ปลอดสารพิษ ไม่มีกลิ่นฉุน ด้วย Air Safety Glue Technology ไม่ปล่อยสารก่อมะเร็ง ซึ่งเป็นวัสดุเดียวที่ใช้ภายในโรงพยาบาล

หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้วมีระยะใช้งานประมาณ 1.35 ม. ที่ใช้ 1-2 คนพร้อมกันได้สบายๆ / พื้นเปลี่ยนจาก SPC เป็นกระเบื้อง ที่เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

สำหรับชุด Built-in ครัว ติดตั้งมาให้ทั้งตู้ชั้นบน และชั้นล่าง ที่สามารถเก็บของได้เยอะเลย โดยภายในติดตั้งชั้นวางของมาให้เรียบร้อย ส่วนตู้ชั้นล่างมีทั้งลิ้นชัก และพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ให้เราสามารถเก็บของชิ้นใหญ่ได้

เคาน์เตอร์หินสังเคราะห์สีขาว + Backsplash เป็นลักษณะกระเบื้อง Hygienic Tiles ที่ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย เช็ดทำความสะอาดง่าย / อุปกรณ์ติดตั้ง อ่างล้างจานยี่ห้อ Hafele ขนาด 40 x 35 ซม. มาพร้อมก๊อกน้ำทรงสูง + Touchless ลักษณะ Sensor ที่ช่วยลดการสัมผัส ส่วนชุดเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว พร้อม Hood ยี่ห้อ Hafele หมุนเวียนออกนอกอาคาร

ด้านข้างมีพื้นที่เหลือวางตู้เสื้อผ้าได้ด้วยนะคะ / ระเบียงกั้นด้วยประตูอลูมิเนียมสีดำ 2 ตอน พร้อมกระจกสีเขียวตัดแสง ป้องกันแสง UV ได้ระดับนึง บานประตูจะไม่สูงเต็มผนัง เนื่องจากด้านบนเป็นตำแหน่งวาง Condensing Unit

พื้นที่ระเบียงขนาด 2.3 x 0.80 ม. ที่สามารถเอาเครื่องซักผ้าออกมาตั้งตามห้องตัวอย่างได้นะคะ / พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 ซม.

บริเวณฝ้าเพดานมีช่องปล่อยกลิ่นจาก Hood ของชุดครัว

กลับมาบริเวณชั้นวางทีวีจะมีประตูทางเข้าห้องน้ำอยู่ด้านข้างนะคะ

ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้งเป็นสัดส่วนชัดเจน โดยบริเวณพื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นมาให้ป้องกันน้ำไหลออกมาด้านนอก / กระจกห้องน้ำด้านหลังมีพื้นที่ให้วางของได้เพิ่มเติม

อ่างล้างยี่ห้อ Cotto หรือเทียบเท่า ขนาด 45 x 30 ซม. ที่เป็นลักษณะตู้ลอย ด้านล่างมีช่องว่างผ้าเช็ดตัวเพิ่มเติมได้ / ส่วนโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Cotto มาพร้อมสายชำระ + แกนใส่กระดาษทิชชู่ที่ผนังด้านหลัง

บริเวณพื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นมาให้ ลักษณะบานเลื่อน 3 ตอน แบบ Frame สีดำ สวยงามดี / โดยพื้นมีการยกระดับเล็กน้อย ป้องกันน้ำไหลออกมาด้านนอก

ส่วนฝักบัวได้เป็นแบบ Hand Shower ขนาดกำลังพอดีมือ ปรับระดับความแรงของน้ำได้ รวมถึงด้านข้างมีช่องว่างให้วางอุปกรณ์อาบน้ำได้ / พื้นที่ยืนอาบน้ำขนาดประมาณ 1 x 0.97 ม. ใช้งาน 1 คนได้กำลังดี

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดตั้งไฟ Downlight + เครื่องดูดอากาศมาให้ 1 จุด

ถัดไปดูพื้นที่ห้องนอนกันต่อ โดยเป็นลักษณะบานเลื่อน 2 ตอน สูงเต็มผนัง ที่สามารถเปิดไปมาได้ 2 ฝั่งเลยนะคะ

โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ โดยมีพื้นที่ด้านข้างเหลือวางโต๊ะหัวเตียง + ตู้เสื้อผ้าได้

ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือวางโต๊ะทำงาน+เก้าอี้ได้เพิ่มเติมนะคะ / สำหรับคอนโดเป็นโครงสร้าง Conventional ที่ทำให้ภายในห้องพักอาศัยมีเสาด้วยนะคะ (ฝั่งขวามือเป็นตำแหน่งเสาของห้องนี้ค่ะ)

ห้องนอนชิดริมหน้าต่างมาพร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งถึง 1 บาน ที่ช่วยระบายอากาศภายในห้องได้ดียิ่งขึ้น

ตู้เสื้อผ้าได้หน้าตาแบบนี้ เป็นมาตรฐานทุกห้อง โดยลักษณะสูงเต็มผนัง + บานเป็นยางพาราสีเทา ที่ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้

ภายในทำราวแขวนผ้ามาให้เรียบร้อย ส่วนด้านล่างมีลิ้นชักสำหรับเก็บชุดชั้นในเพิ่มเติมด้วยนะคะ

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ติดไฟ Downlight มาให้เรียบร้อย

ห้องพักอาศัย 1 Bedroom Plus ขนาด 34.1 ตร.ม. ที่ออกแบบให้มีพื้นที่อเนกประสงค์ขนาด 2.45 x 2.5 เมตร ที่สามารถทำเป็นห้องนอนที่ 2 หรือปรับเป็นห้องทำงาน, Walk in Closet ก็ได้ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน โดยเปิดเข้ามาเจอพื้นที่ Common Area กันก่อน (Living+Dining+Kitchen) ที่ได้พื้นที่ขนาดใหญ่ โดยห้องนี้จะได้เป็นลักษณะครัวเปิด ที่อาจจะไม่เหมาะทำอาหารจริงจังมากนะคะ ส่วนห้องนอนก็มีขนาดใหญ่มากขึ้น และห้องน้ำสามารถเข้าออกได้ 2 ฝั่ง ใช้งานได้สะดวกค่ะ

เข้ามาเป็นพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ รวบฟังก์ชัน (Living+Dining+Kitchen) เชื่อมต่อเป็นพื้นที่เดียวกันเลย แม้พื้นที่บริเวณนี้จะอยู่ด้านใน แต่ก็ได้แสงส่องสว่างเข้ามาจากพื้นที่อเนกประสงค์อยู่นะคะ / ด้วยความที่เปิดมาแล้วเป็นพื้นที่ใช้งานเลย เราแนะนำวางรองเท้าด้านล่างชุดวางทีวีนะคะ

ส่วนพื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.5-2.6 ม. พื้นไม้ SPC(Stone Plastic Composite) หนา 4 มม. ที่ทนความชื้น รอยขีดข่วนได้ดี

ภายในเราสามารถวางได้ทั้งชุดโซฟาแบบ Love Seat และโต๊ะอาหารแบบ 2 ที่นั่งต่อเนื่องกันแบบนี้ได้เลย / ด้านข้างเป็นตำแหน่งวางชุดครัว ซึ่งเป็นลักษณะครัวเปิดที่อาจจะไม่เหมาะทำอาหารจริงจังนะคะ

ชุดครัวขนาดใหญ่กว่าห้องที่แล้ว โดยเพิ่มพื้นที่วางเครื่องซักผ้ามาให้พร้อมใช้งาน ซึ่งรูปแบบจะเป็นลักษณะเดียวกันกับห้องที่แล้วเลยนะคะ ภายในติดตั้งชั้นวางของมาให้ ส่วนชั้นล่างมีลิ้นชักเก็บของเรียบร้อยค่ะ

ระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร ไซส์ทีวีที่เหมาะสมคือประมาณ 42″-50″ จอใหญ่ขนาดเต็มสายตาได้กำลังดี

ภายในติดตั้ง IP Smart Camera : ตรวจความเคลื่อนไหวภายในห้อง ที่สามารถพูดคุยกับคนในห้องผ่านกล้อง และควบคุมผ่านมือถือ

ประตูบานเลื่อนสูงเต็มผนัง ทำให้แสงส่องเข้ามาด้านในได้ดี ตัวประตูเป็นลักษณะบานเลื่อน 3 ตอน ที่ทำให้เปิดประตูใช้งานได้กว้างมากยิ่งขึ้น

ห้องอเนกประสงค์ขนาด 2.45 x 2.5 เมตร ที่สามารถวางเตียงนอน 3.5 ฟุตได้กำลังดี โดยมีส่วนที่เชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอก ภายในจะปรับเป็นห้องทำงานแบบห้องตัวอย่าง หรือปรับตามไลฟ์สไตล์ตัวเองได้เลยค่ะ

ระเบียงกั้นด้วยประตูอลูมิเนียมสีดำ 2 ตอน พร้อมกระจกสีเขียวตัดแสง ป้องกันแสง UV ได้ระดับนึง บานประตูจะไม่สูงเต็มผนัง เนื่องจากด้านบนเป็นตำแหน่งวาง Condensing Unit

พื้นที่ระเบียงขนาด 2.5 x 0.80 ม. ที่สามารถเอาเครื่องซักผ้าออกมาตั้งตามห้องตัวอย่างได้นะคะ / พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 ซม.

กลับมาพื้นที่ Common Area จะมีทางเข้าห้องนอนและห้องน้ำนะคะ ซึ่งห้องนอนเป็นประตูบานปิด ที่ใช้งานได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น

โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ โดยมีพื้นที่ด้านข้างเหลือวางโต๊ะหัวเตียง + ตู้เสื้อผ้าได้

ห้องนอนชิดริมหน้าต่างมาพร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งถึง 1 บาน ที่ช่วยระบายอากาศภายในห้องได้ดียิ่งขึ้น

ด้านข้างบริเวณริมหน้าต่างมีพื้นที่เหลือ 90 ซม. ใช้งานได้สะดวกเลย

หันกลับไปอีกฝั่งมีทางเข้าห้องน้ำจากภายในห้อง โดยบริเวณด้านหน้ามีพื้นที่เหลือวางตู้เสื้อผ้าได้ด้วยนะคะ

ตู้เสื้อผ้าแบบเดียวกับห้องที่แล้ว โดยเป็นลักษณะสูงเต็มผนัง + บานปิดผิวด้วยไม้ยางพาราสีเทา ที่ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้ดี

ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้งเป็นสัดส่วนชัดเจน โดยบริเวณพื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นมาให้ป้องกันน้ำไหลออกมาด้านนอก

ห้องน้ำสามารถเข้าได้ทั้งจากห้องนอนและ Common Area ด้านหน้า

ภายในอุปกรณ์ครบครันเป็นมาตรฐาน ทั้งกระจกเงาบานยาว, อ่างล้างหน้า,โถสุขภัณฑ์ แบบห้องที่แล้ว

พื้นที่ยืนอาบน้ำขนาดประมาณ 1 x 0.97 ม. ใช้งาน 1 คนได้กำลังดี

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดตั้งไฟ Downlight + เครื่องดูดอากาศมาให้ 1 จุด

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

Metris District ลาดพร้าว ณ วันที่ 23 มีนาคม 2565

  • Studio 23.7 – 24.8 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
  • รายละเอียดสัตว์เลี้ยงในคอนโด
    – ข้อกำหนดเราสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ห้อง 1 Bedroom 1 ตัว / 2 Bedrooms 2 ตัว
    – น้ำหนักไม่เกิน 15 กก. เลี้ยงสัตว์ได้ทุกชนิด ยกเว้นสัตว์มีพิษและสัตว์เลื้อยคลาน

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5-2.6 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ HAFELE
  • มีรถ Shuttle Bus รับส่ง
  • จอง 5,000-10,000 บาท
  • ทำสัญญา 15,000-20,000 บาท
  • ผ่อนดาวน์ 36 งวด (ไม่รวมงวด Balloon)
    – Studio = 2,999 บาท
    – 1 Bedroom / 1 Bedroom Plus = 3,999 บาท
    – 2 Bedrooms 1 Bathroom / 2 Bedrooms 2 Bathroom = 5,999 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

สรุปโดยรวมโครงการ Metris District Ladprao (เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว) เป็นโครงการที่ได้ทำเลดีอีกโครงการหนึ่งของ Major จุดเด่นของโครงการคือตัวทำเลทำเลที่อยู่ในช่วงลาดพร้าวตอนต้น ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์แบบเดินไปได้สบายๆ นอกจากนี้ยังเดินทางสะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัว เพราะโครงการตั้งอยู่ลาดพร้าวฝั่งซอยเลขคู่ ที่มีทางลัดไปออกได้หลายเส้นทาง ส่วนรถสาธารณะใกล้ MRT พหลโยธิน เพียง 230 ม. หรือจะโบกรถแท็กซี่ รถเมล์ พี่วินมอเตอร์ไซค์ก็ง่าย นอกจากนี้ตัวโครงการยังมาพร้อมราคาเริ่มต้นเพียง 2.99 ล้านบาท ที่ทำราคาแพ็กเก็จมาถูกกว่าโครงการในละแวก รวมถึงรูปแบบการขายที่มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบครัน (Fully Furnised) ซึ่งยังไม่ให้ย่านนี้มีเลยนะคะ

ทำเล :

พื้นที่โดยรอบโครงการกันบ้าง Metris District ลาดพร้าว เป็นแปลงที่อยู่ติดกับ Metris ลาดพร้าว ที่อยู่ระหว่างซอยลาดพร้าว 6 และ 8 โดยห่าง MRT พหลโยธิน ทางออกที่ 1 ราว 230 เมตร ถือว่าอยู่ในระยะเดินสบายๆ ซึ่งสถานีนี้เป็นที่รู้ๆ กันว่าจะมีความคึกคักเป็นพิเศษเพราะคนส่วนหนึ่งที่ขึ้นสถานีนี้ก็จะมา Union Mall และเซ็นทรัลลาดพร้าว ที่จัดเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์หลักในละแวกนี้ หรือถ้าอยากได้ร้านอาหารก็มีตามตึกแถวตลอดทาง ถ้าเขยิบมาหน่อยบนเส้นลาดพร้าวก็จะมี BigC Extra+Hompro ด้วยระยะทางที่เดินเท้าได้อีกเช่นกัน หรือถ้ามองออกไปไกลอีกหน่อยที่สถานีถัดไปก็จะมี เมเจอร์รัชโยธิน อีกทั้งยังมีตลาดเดินช้อปให้เลือกอีกคือสวนจตุจักร, ตลาด อ.ต.ก., บอง มาร์เช่ และสวนลุมไนท์ฯรัชดา โดยทำเลใกล้ห้าแยกลาดพร้าว ก็จะมีโครงการคอนโดต่างๆ มาจับจองพื้นที่ขึ้นโครงการกันค่อนข้างเยอะ ราคาเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ

การเดินทางโดยใช้รถ :

การเดินทางค่อนข้างสะดวก มีซอยลัดและสามารถใช้เส้นทางไปออกถนนวิภาวดีรังสิต (ซอย 22) และถนนรัชดาภิเษก (ซอย 19) ได้ ดังนั้นการเดินทางโดยรถยนต์จึงมีทางเลือกมาก เพราะหากลาดพร้าวรถติด ก็สามารถเลี่ยงใช้ซอย 6,8 ได้ทั้งขาไปและขากลับ เพราะซอยลัดลาดพร้าว 8 เป็นทางแบบสวนกันได้ไปกลับ อัตราส่วนที่จอดรถให้มา 42% ถือว่าให้มาเยอะพอสมควร สำหรับโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าแบบนี้นะคะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

สามารถเดินไปขึ้น MRT พหลโยธิน ทางออก 1 ระยะทางประมาณ 230 เมตร ก็สามารถเดินได้สบายๆ ซึ่งเป็นจุด Interchange กับ BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยาย “หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต” นอกจากนี้ถัดไปอีก 1 สถานีบริเวณ MRT ลาดพร้าว ในอนาคตจะเป็นจุด Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง “ลาดพร้าว-สำโรง” ที่จะทำให้บรรยากาศในย่านนี้คึกคักมากยิ่งขึ้น ส่วนการเดินทางอื่นๆ เราสามารถพึ่งพาพี่วินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ และรถเมล์บนถนนลาดพร้าวได้เลย เรียกรถง่ายไม่ต้องกังวลเพราะโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่

วัสดุ :

ขายแบบ Fully Furnished โดยโครงการให้เฟอร์นิเจอร์มาครบครัน ซึ่งแต่ต่างจากโครงการอื่นในละเแวกแล้ว ยังเลือกวัสดุที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ไวรัส PM 2.5 ภายในห้องพักอาศัย รวมถึงออกแบบให้รองรับการอยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยงได้อีกด้วย เริ่มต้นที่พื้นไม้ SPC, กระเบื้อง Hygienic Tile. ผนังทาสี DURACLEAN A+ , เครื่องฟอกอากาศ NANO-X Air Purifier และเครื่องปรับอากาศ ต้อนรับยุค New Normal แบบนี้ นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมเทคโนโลยีภายในห้องด้วย Home Automation สั่งเปิดปิดไฟ,แอร์ และ IP Camera ที่สามารถพูดคุยกับสัตว์เลี้ยงภายในห้องได้ ส่วนตัวมองว่าถ้าเทียบกับราคาและของที่ได้ถือว่าให้มาเกินมาตรฐาน คุ้มค่ากับการลงทุน

การออกแบบโครงการ :

อาคารออกแบบมาด้วยแนวคิด Mid Century Modern (MCM) เป็นการผสมกันระหว่างเหล็ก กระจก ไม้ และคอนกรีต ทำให้ตัวอาคารมีเอกลักษณ์แตกต่างจากอาคาร Modern ทั่วไป ตามสไตล์แบรนด์ของ Metris โดยภายในมาพร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางแบบ Maximal Facilities ได้พื้นที่ส่วนกลางหลากหลายและรองรับกับไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบัน สำหรับจุดเด่นของตัวอาคารเป็นลักษณะ Stack ผสานกับการวางพื้นที่สีเขียวกลางแจ้ง Outdoor ซึ่งกระจายตัวอยู่ด้านบน ทำให้ลูกบ้านในชั้นนั้นๆสามารถเดินออกไปใช้งานได้ ส่วนลูกบ้านชั้นอื่น ทางโครงการมีสวนหย่อมบริเวณ Main Facilities ที่ชั้น 1, 8 และดาดฟ้า

การออกแบบห้องพักอาศัย :

ห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 5 แบบ ตั้งแต่ห้อง Studio , 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedrooms 2 แบบ พื้นที่ใช้สอย 23.7-49.6 ตร.ม. รูปแบบห้องหลากหลาย ส่วนความสูงพื้นถึงฝ้า 2.5-2.6 เมตร เป็นมาตรฐาน สำหรับแปลนห้องตัวอย่าง ได้แก่

  • 1 Bedroom : จัดมาเป็นห้องหน้ากว้าง ภายในแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้เป็นสัดส่วน โดยเปิดประตูเข้ามาเจอพื้นที่ Common Area กันก่อน (Living+Dining) ที่ได้พื้นที่ขนาดใหญ่ แม้จะไม่ได้เห็นวิวแต่เราก็ได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามา ส่วนห้องครัวและห้องนอนวางอยู่ชิดริมอาคาร มองวิวได้เต็มที่ ความน่าสนใจคือพื้นที่ครัวปิดขนาดใหญ่ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการทำอาหารจริงจัง ซึ่งอยู่กับพื้นที่ระเบียงที่สามารถระบายกลิ่นอาหารได้ดี
  • 1 Bedroom Plus : ออกแบบให้มีพื้นที่อเนกประสงค์ขนาด 2.45 x 2.5 เมตร ที่สามารถทำเป็นห้องนอนที่ 2 หรือปรับเป็นห้องทำงาน, Walk in Closet ก็ได้ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน โดยเปิดเข้ามาเจอพื้นที่ Common Area โดยห้องนี้จะได้เป็นลักษณะครัวเปิด ที่อาจจะไม่เหมาะทำอาหารจริงจังมากนะคะ สำหรับห้องนอนก็มีขนาดใหญ่มากขึ้น และห้องน้ำสามารถเข้าออกได้ 2 ฝั่ง ใช้งานได้สะดวก

สาธารณูปโภค :

ภาพรวมถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ สิ่งที่ได้มาคือพื้นที่ส่วนกลางที่เยอะน่าใช้งาน นอกจาก Main Facilities ที่ต้องมีสระว่ายน้ำและฟิตเนส เรายังได้ฟังก์ชันพิเศษเพิ่มเติม รองรับการใช้งานของสัตว์เลี้ยงได้ในบ้างฟังก์ชันที่มีความน่าสนใจดี นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เหมาะสมกับคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป สำหรับพื้นที่ส่วนกลางต้องยอมรับว่าทางโครงการทำมาให้ค่อนข้างหลากหลาย เมื่อเทียบกับยูนิต 741 ยูนิต แล้วก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานอยู่ สำหรับค่าส่วนกลางอยู่ที่ 55 บาท/ตร.ม./เดือน


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 125,000 บาท/ตร.ม., 23 มีนาคม 2565

  • ทำเล 8.25/10 – ทำเลดี ใกล้ความอุดมสมบูรณ์แบบเดินไปได้ ใกล้พื้นที่จตุจักร และห้าแยกลาดพร้าวที่มีแนวโน้มการพัฒนาในอนาคต
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – เดินทางได้สะดวก มีทางลัดทำให้เข้าออกได้ทั้งทางถนนวิภาวดีฯและถนนรัชดาฯ
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าได้สะดวก โครงการติดถนนใหญ่เรียกรถสาธารณะง่าย ห่าง MRT พหลโยธิน 230 เมตร
  • วัสดุ 8.75/10 – ขายแบบ Fully Furnished วัสดุที่ให้เลือกมาดีทีเดียว โดยให้วัสดุแบบ Non-Toxic Materials ที่ช่วยยับยั้งเชื้อโรคแบคทีเรีย  + Home Automation
  • แบบ 8/10 – แบบห้องหลากหลายขนาด ฟังก์ชันแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – พื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย น่าใช้งาน เน้นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่

  • UPPER CLASS
  • 8.22 / 10.00

Metris District ลาดพร้าว

เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านลาดพร้าวตอนต้น ใกล้ความอุดมสมบูรณ์ในระยะที่เดินไปได้สะดวก คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ พื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย เน้นพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ มีแบบห้องให้เลือกเยอะ ตัวโครงการขายแบบ Fully furnished ไม่ต้องเผื่องบประมาณในการตกแต่ง โดยมีงบประมาณเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท ที่ถูกที่สุดในละแวกนี้ หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 21,000 บาท/เดือน


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc