วันนี้มาชมโครงการในทำเลหายากใจกลางห้าแยกลาดพร้าวอย่าง Life ลาดพร้าว กันครับ เป็นโครงการที่มีจุดเด่นที่น่าสนใจหลายจุดเลย ภายในมีอาคาร High Rise 2 อาคาร 45 และ 46 ชั้น ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ 7 ไร่กว่า ๆ ซึ่งทำให้จำนวน 1,615 ยูนิต ไม่ได้ดูเยอะอย่างที่คิดนะครับ และมีจุดเด่นอื่นๆที่ผมคัดมาให้ ดังนี้ครับ
- ทำเล ติดถนนพหลโยธิน และใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว แบบมีระยะเดินประมาณ 10 ม. ตรงข้ามกับห้าง Central ลาดพร้าว และอยู่ติดกับ Tesco Lotus ลาดพร้าวด้วย แถมยังใกล้สวนรถไฟและโรงเรียนหอวัง และอาคารสำนักงานชั้นนำต่าง ๆ ในย่านห้าแยกลาดพร้าวอีกต่างหาก เรียกว่าเป็นทำเลที่มีครบครันเลยครับ
- Facilities ส่วนกลาง ให้มาเยอะแบบเต็มทั้งชั้นบนสุดของแต่ละอาคาร บรรยากาศน่าใช้งาน อีกทั้งยังอยู่ชั้นสูงกว่าอาคารโดยรอบ ทำให้สามารถรับวิวรอบ ๆ ได้อย่างเต็มที่
- รูปแบบห้อง มีรูปแบบห้องให้เลือกหลายแบบหลายขนาด ภายในห้องมีครัวปิดมาให้ และแยกพื้นที่ต่างๆเป็นสัดส่วนชัดเจน
ข้อมูลโครงการ
Fact @ 13 May 2021
- ไลฟ์ ลาดพร้าว (Life Ladprao)
- บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน)
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร
- ที่ดินประมาณ 7-0-71.4 ไร่
- คอนโด High Rise 2 อาคาร รวม 1,615 ยูนิต
- อาคาร A สูง 45 ชั้น 706 ยูนิต
- อาคาร B สูง 46 ชั้น 909 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 44% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- แล้วเสร็จ : 2563
- Studio 27 – 29 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท
- 1 Bedroom 35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.19 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 48.5- 77 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 142,000 บาท/ตร.ม.
- Website โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 1623
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.817097635442323, 100.56362924223693
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
ทำเลของโครงการ Life ลาดพร้าว เรียกว่าเป็นจุดเด่นที่สุดเลยก็ว่าได้ครับ เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมค่อนข้างครบครัน เริ่มที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว (ฝั่งตรงข้ามโครงการ) ห้างยูเนี่ยน มอลล์ และ Tesco Lotus ลาดพร้าว ล้วนแต่อยู่ในระยะเดินได้ทั้งนั้นครับ หรือหากจะเดินทางก็มีจุดขึ้นลงรถไฟฟ้า BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าวอยู่หน้าโครงการเลย ในระยะประมาณ 10 เมตร ซึ่งจัดว่าสะดวกมาก ๆ หรือถ้าจะใช้งานรถไฟฟ้า MRT ก็มีสถานีพหลโยธินอยู่ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร ซึ่งก็สามารถเดินได้อยู่ดีนะครับ นอกจากห้างและการเดินทางแล้วยังมีอาคารสำนักงานชั้นนำต่างๆ ในโซน 5 แยกลาดพร้าว ทั้งที่สามารถเดินไปทำงานได้เลย เช่น ปตท.สำนักงานใหญ่, Rasa Tower, I Tower หรือโซนวิภาวดีและรัชโยธินก็ขับรถออกไปได้ ไม่ไกลอยู่อีกหลายแห่ง ฝั่งตรงข้ามอาคารยังมีสวนรถไฟและสวนจตุจักรให้ไปใช้งานได้ง่ายอีกด้วยครับ จะไปออกกำลังกาย ซื้อของ เดินเล่น ก็สามารถเดินทางไปได้สะดวก และอีกกลุ่มเป้าหมายที่ขาดไม่ได้คือกลุ่มผู้ปกครองนักเรียน และบุคลากรของโรงเรียนหอวังครับ เพราะอยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการเลย เรียกว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกเรียงรายให้ครบในระยะเดินเลยครับ หรือถ้าจะห่างออกไปสักหน่อยก็ยังเดินทางได้สะดวก เพราะตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ฯ ทำให้เข้าเมืองชั้นในได้สะดวกอีกเช่นกัน
เจาะลึกภาพรวมที่อยู่อาศัยของย่านห้าแยกลาดพร้าว
ก่อนอื่นลองมาดูโครงการใกล้เคียงในย่านนี้กันก่อนครับ จะมีทั้งที่อยู่ติดถนนพหลโยธินเหมือนกัน และถนนลาดพร้าวเลย ซึ่งจะสังเกตได้ว่าราคาเริ่มต้นจะค่อนข้างเกาะกลุ่ม 3-5 ล้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นห้องโปรโมชัน ต้องลองเข้าไปถามรายละเอียดแต่ละโครงการอีกทีนะครับ จุดเด่นที่เห็นได้ชัดๆจากแผนที่นี้เลยก็คือทำเลของโครงการ Life ลาดพร้าว ที่ติดถนนพหลโยธินเลย และจัดเป็นโครงการที่ใกล้รถไฟฟ้ามากที่สุด ในระยะเพียงประมาณ 10 เมตร เท่านั้น นอกจากนั้นยังตรงข้ามกับห้าง Central Plaza ลาดพร้าว และติดกับ Tesco Lotus ลาดพร้าว ทำให้ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์จึงจัดว่าไม่น่าแพ้ใครในย่านนี้แล้วล่ะ แต่ก็แลกมากับการเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตสูงที่สุดในย่านนี้ที่ 1,615 ยูนิต แต่ภายในโครงการเองก็แยกเป็น 2 อาคาร (706 ยูนิต และ 909 ยูนิต) จึงทำให้กระจายจำนวนผู้อยู่อาศัยไปในแต่ละอาคาร และพื้นที่โครงการของ Life ลาดพร้าว ก็ใหญ่กว่าโครงการใกล้เคียงอื่นๆในย่านนี้ จึงทำให้ไม่ได้หนาแน่นจนเกินไปนะครับ นอกจากนั้นแล้ว ที่นี่เขาก็แยกส่วนกลางของแต่ละอาคารกันอย่างชัดเจน แล้วจัดให้แบบเต็มพื้นที่ชั้นบนสุดของแต่ละอาคารเลย ซึ่งก็บอกได้เลยครับว่า Facilities ก็จัดเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการนี้เหมือนกัน
แถมให้อีกหน่อยนะครับ สำหรับใครที่อยากยกไปเทียบกับโครงการติดรถไฟฟ้าในสถานีใกล้เคียง คงต้องมองไปที่ BTS สถานีพหลโยธิน 24 ที่ห่างออกไปอีก 1 สถานี ก่อนอื่นเลยคือสถานีนี้ไม่ได้มีห้างสรรพสินค้าติดตัวสถานีรถไฟฟ้า อย่าง Central Plaza ลาดพร้าว, Tesco Lotus ลาดพร้าว, Union Mall หรืออาคารสำนักงานและโรงเรียนหอวังรายล้อมอยู่ แต่ก็มี Major รัชโยธิน และ SCB สำนักงานใหญ่ใกล้ ๆ ดังนั้นในแง่ความอุดมสมบูรณ์โดยรวมรอบสถานีรถไฟฟ้าแล้ว คงต้องดร็อปลงกว่าสถานีห้าแยกลาดพร้าวอย่างแน่นอน ส่วนตัวโครงการที่อยู่บนถนนพหลโยธินเลยนะครับจะมีให้เลือก 2 โครงการ ซึ่งเรียกว่าอยู่ในระดับราคาใกล้เคียงกันเลย แต่จะมีลักษณะของรูปแบบห้องที่แตกต่างกันไปครับ
ส่วนตัวมองว่าถ้าเรื่องทำเลยังเป็นรอง Life ลาดพร้าว อยู่ แต่จะแตกต่างในเรื่องจำนวนยูนิตและรูปแบบประเภทห้องภายในโครงการครับ
รายละเอียดโครงการ
ประเด็นที่น่าสนใจ
- พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ Life ลาดพร้าว จะแยกอาคารกันระหว่างอาคาร A และ B อย่างชัดเจน ทำให้แบ่งความเป็นส่วนตัวและกระจายจำนวนผู้ใช้งานได้ดี ง่ายแก่การดูแลจัดการ
- ให้มาหลากหลาย มีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายประเภทให้ใช้งาน ทั้งแนวราบ สนามหญ้าภายนอก ชั้น 11 ของแต่ละอาคาร และชั้นด้านบนสุดของแต่ละอาคาร โดยจะแบ่งแยกตามลักษณะการใช้งานในแต่ละพื้นที่
- พื้นที่ส่วนกลางอยู่ชั้นสูง เป็น Sky Facilities เต็มชั้นอยู่ที่ชั้น 45, 46 ของอาคาร ซึ่งจัดว่าเป็นพื้นที่สูงในย่านนี้ ทำให้พื้นที่ส่วนกลางเหล่านั้นสามารถรับวิวโดยรอบได้อย่างเต็มที่ ได้วิวสวนรถไฟด้วย
Project Overview
Life ลาดพร้าว เป็นคอนโด High Rise 2 อาคาร รวมทั้งหมด 1,615 ยูนิต แบ่งออกเป็น
อาคาร A สูง 45 ชั้น 706 ยูนิต
ชั้น 1 : Iconic Lobby, Mail Room, Intelligent Co-Thinking Space, The Share Space, Techno Booth, The Evergreen Path (ภายนอกอาคาร), Green & Breeze Pavilion (ภายนอกอาคาร), Play House (ภายนอกอาคาร), Car Park
ชั้น 2-10 : Car Park
ชั้น 11 : ห้องพักอาศัย และ Urban Oasis
ชั้น 12-44 : ห้องพักอาศัย
ชั้น 45 : Cityscape Infinity Pool, Panoramic Health Club, Changing Room, Sky Social Club, Sky Garden
ชั้น Mezzanine : Theatre House
อาคาร B สูง 46 ชั้น 909 ยูนิต
ชั้น 1 : Iconic Lobby, Mail Room, Intelligent Co-Thinking Space, The Share Space, Techno Booth, Car Park
ชั้น 2-10 : Car Park
ชั้น 11 : ห้องพักอาศัย และ Urban Oasis
ชั้น 12-45 : ห้องพักอาศัย
ชั้น 46 : Cityscape Infinity Pool, Panoramic Health Club, Changing Room, Sky Social Club, Sky Garden,
ชั้น Mezzanine : Theatre House
สรุประบบรักษาความปลอดภัยและการบริการในโครงการ (Security + Service + Technology)
- นิติบุคคลเดียวกันแต่แยกออกเป็น 2 ทีม เพื่อดูแลทั้งอาคาร A, B
- RFID easy pass
- รปภ. และ CCTV ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
- Home Automation (App Smart World)
Master Plan
ผังของโครงการ Life ลาดพร้าวนะครับ จะสังเกตได้ว่าพื้นที่โครงการนั้นจะมีรูปร่างค่อนข้างแปลกตา คดเคี้ยวไปมาในมุมต่างๆ แต่ทางโครงการก็ได้ออกแบบให้แยกออกเป็น 2 อาคาร ที่มีระยะห่างกันประมาณ 40 เมตร และบิดแกนของแนวอาคารให้ไม่หันเจอกันโดยตรง ช่วยทำให้แยกความเป็นส่วนตัวได้ดียิ่งขึ้น ตัวอาคาร A จะอยู่ด้านหน้าทางเข้าโครงการ มีระยะเดินจากด้านหน้าเข้ามาถึง Lobby ประมาณ 110 เมตร จุดเด่นของอาคารนี้คือจะได้เข้าออกได้ง่าย เหมาะกับคนที่ชอบเดินไปใช้งานรถไฟฟ้า หรือห้าง Central ลาดพร้าว ส่วนอาคาร B ด้านในจะมีระยะเดินจากด้านหน้าเข้ามาถึง Lobby ประมาณ 160 เมตร และทางเดินก็เป็นสวนที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงามเลยทีเดียว จุดเด่นของอาคารนี้คือจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า แลกกับระยะเดินที่สูงขึ้นเล็กน้อย แต่จะมีจำนวนยูนิตภายในอาคารสูงกว่าอาคาร A นะครับ
บรรยากาศด้านหน้าทางเข้าโครงการ มีป้อมพี่ๆ รปภ. คอยดูแลตลอด ยืนกัน 2 คน มีคนช่วยโบกรถด้วยครับ เข้าออกสะดวกและไม่อันตราย
ที่ชั้น 1 ของอาคาร A
เราเริ่มกันที่อาคาร A ด้านหน้าเลยนะครับ ตัว Lobby เองประกอบไปด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่ค่อนข้างหลากหลายเลย หลักๆจะมีลักษณะเป็นพื้นที่พักคอย นัดพบปะ หรือใช้มานั่งเล่นทำงานอ่านหนังสือได้ ส่วนภายใน Iconic Lobby, Mail Room, Intelligent Co-Thinking Space, The Share Space, Techno Booth ครับ ภายในมีลิฟต์โดยสาร 4 ตัว ทำให้มีอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 176.5 : 1 ยูนิต ซึ่งจัดว่าสูงอยู่เหมือนกันครับ ต้องเผื่อเวลาใช้งานในช่วงเวลาเร่งด่วนด้วย ลองไปชมภาพบรรยากาศกันครับ
เข้ามาจะเจอกับ Lobby ที่ยกฝ้าเพดานขึ้นสูง เน้นสไตล์การตกแต่งที่เน้นเส้นสาย เพื่อความต่อเนื่องจากภายนอกครับ ขนาดค่อนข้างกว้างเลย มีลักษณะเป็นแนวทางเดินยาวเข้าไปด้านใน แยกการใช้งานออกตามมุมต่างๆ
ชั้น 45 ของอาคาร A
กระโดดขึ้นไปดูพื้นที่ส่วนกลางหลักของอาคารนี้กัน จะยกขึ้นไปที่ชั้น 45 กันหมดเลยครับ เป็นชั้นที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งชั้น หลักๆเลยคือสระว่ายน้ำแบบไร้ขอบรับวิวสวนรถไฟที่เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ตรงข้ามโครงการ พร้อมพื้นที่พักผ่อนริมสระ โดยจะมีขนาด 20 x 4.7 เมตร ครับ มีลักษณะเป็น 4 เหลี่ยมผืนผ้า ส่วนภายในอาคารจะมีห้องน้ำแยกชายหญิง ห้อง Social Club ไว้นั่งพักผ่อนและมีบันไดวนเพื่อเชื่อมต่อขึ้นไปยังชั้น Mezzanine ซึ่งจะมีห้อง Theatre House ไว้ดูหนังฟังเพลงรับวิวมุมสูงของโครงการครับ ไปชมบรรยากาศกัน
บรรยากาศของห้อง Social Club ที่ยกฝ้าเพดานสูง ติดโคมไฟ LED สร้างบรรยากาศสวยงามเลย ที่ชอบคือจะได้แนวกระจกล้อมรอบห้อง ทำให้รับแสงและวิวได้อย่างทั่วถึง
อาคาร B
ที่ชั้น 1 ของอาคาร B
มาดูอาคาร B กันต่อบ้างครับ จะเป็นอาคารที่อยู่ด้านในมีจำนวนทั้งหมด 909 ยูนิต จึงทำให้จะมีขนาดใหญ่กว่าอาคาร A เล็กน้อย สูงกว่าอาคาร A 1 ชั้น และมีโถงลิฟต์โดยสารให้ 5 ตัว และลิฟต์ Service 1 ตัว ทำให้มีอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 181 : 1 ยูนิต ซึ่งจัดว่าสูงอยู่นะครับ เผื่อเวลาในช่วงเวลาเร่งด่วนด้วย
แต่ลักษณะโดยรวมของพื้นที่ส่วนกลางจะคล้ายๆกันกับอาคาร A ครับ เช่น ที่ชั้น 1 จะมีส่วนกลางให้เหมือนกันเลย ตกแต่งก็คล้ายกัน ที่ชั้น 11 จะมีสวนให้อีกจุด และส่วนกลางอื่น ๆ จะขึ้นไปอยู่ด้านบนที่ชั้นบนสุดเช่นกันกับอาคาร A ลองไปชมบรรยากาศกันครับ
ส่วน Lobby ของอาคาร B ครับ เข้ามาจะเจอกับ Reception ก่อนเช่นกัน
ที่ชั้น 46 ของอาคาร B
เป็นชั้นบนสุดของอาคารจะมีพื้นที่ส่วนกลางหลักเช่นเดียวกันกับอาคาร A เลยครับ ลักษณะการวางก็คล้ายๆกัน แต่ของอาคาร B จะมีพื้นที่เยอะกว่าเล็กน้อย ตามจำนวนยูนิตที่สูงขึ้นมา ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำแบบไร้ขอบขนาด 25 x 5.5 เมตร พื้นที่สวนพักผ่อน และพื้นที่พักคอย ภายในจะมี ห้องน้ำแยกชายหญิง ห้องออกกำลังกาย และ Social Club ให้ รวมถึงบันไดเชื่อมต่อไปยังห้องดูหนังฟังเพลงบนชั้นลอยด้วยครับ ลองไปชมบรรยากาศกัน
พื้นที่ส่วนกลางจะกินพื้นที่ด้านบนทั้งหมดเลย รวมถึงภายในอาคารด้วย
วิเคราะห์ห้องพักอาศัย
ชั้น 11 จะเป็นชั้นแรกของห้องพักอาศัยในอาคารนี้ครับ ซึ่งจะประกอบไปด้วย 20 ยูนิต ประกอบไปด้วยห้อง Studio 10 ห้อง มีทุกทิศเลย ส่วนห้อง 1 Bedroom จะมี 7 ห้อง ทางฝั่งทิศตะวันออกและทิศเหนือ ห้องมุมจะเป็น 2 Bedroom ที่อยู่ทางฝั่งทิศใต้ 2 ห้อง และทิศเหนือ 1 ห้อง โดยความพิเศษคือจะเป็นห้อง Garden view ติดสวนของชั้นนี้ด้วย
อาคาร A
มาดูผังห้องพักอาศัยของอาคาร A กันก่อนนะครับ แต่ละชั้นจะไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก เพราะมีพื้นที่พักอาศัยตั้งแต่ชั้น 11 ไปจนถึงชั้น 44 ซึ่งจะแตกต่างกันเล็กน้อยตรงที่ชั้น 43-44 จะมีห้องขนาดใหญ่ที่มุมครับ
ชั้น 11 ของอาคารนี้จะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 25 ยูนิต/ชั้น โดยจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom ซึ่งจะมีทั้งหมด 16 ยูนิต/ชั้น มีให้เลือกทุกฝั่งยกเว้นทิศใต้ ส่วนห้อง Studio จะมี 4 ยูนิต ทางฝั่งทิศใต้ และห้องมุมอีก 5 ยูนิต จะเป็นห้อง 2 Bedroom ครับ ชั้นนี้จะมีพื้นที่สวนให้ออกมาใช้งานด้วย และจะมีห้องที่อยู่ติดสวน 2 ยูนิต
อาคาร B
ถัดมาที่อาคาร B จะมีลักษณะฟอร์มอาคารเป็นตัว L แต่หันคนละฝั่งนะครับ ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 11 และมีสวนให้เช่นกัน แต่ชั้นถัดๆมา 12-45 จะมีลักษณะคล้ายกันเลย ไม่มีห้อง Duplex แล้วนะ ไปชมกัน
แบบห้อง
ประเด็นที่น่าสนใจ
- Life ลาดพร้าว มีแบบห้องให้เลือกหลากหลายแบบหลายขนาด ตั้งแต่ Studio ขนาด 27 ตร.ม. ไปจนถึง 2 Bedroom 77 ตร.ม. เลยครับ ซึ่งแต่ละแบบเองก็จะมี Lay Out ห้องให้เลือกหลายแบบด้วย
- จัดสัดส่วนพื้นที่ภายในห้องได้ดี แบ่งแยกแต่ละพื้นที่ด้วยฉากกั้นกระจก และได้ฉากกั้นกระจกแบบสูงถึงฝ้าเลย ทำให้สามารถรับแสงและเชื่อมถึงกันได้ดี ช่วยให้ห้องดูโปร่งและโล่งมากยิ่งขึ้น
- ห้อง Studio และ 1 Bedroom จะได้ครัวปิดกันทุกแบบเลย ทำให้สามารถประกอบอาหารได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควันจะไปรบกวนพื้นที่อื่นๆภายในห้อง
Product Overview
Life ลาดพร้าว มีรายละเอียดรูปแบบห้องขายทั้งหมดดังนี้
- Studio 27 – 29 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท
- 1 Bedroom 35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.19 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 48.5- 77 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท
วัสดุและของแถมภายในห้อง
- รูปแบบการขาย : Fully Fitted
- พื้น : ลามิเนต และ กระเบื้องแกรนิตโต้
- ครัว : Built-in ได้ Top หินสังเคราะห์, อ่างล้างจาน + เตาและเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอกจาก Franke, Backsplash กระเบื้อง
- ผนัง : Wallpaper และ กระเบื้อง
- ห้องน้ำ : สำเร็จรูป สุขภัณฑ์ของ Kohler, ฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย
- ฝ้าเพดาน : สูง 2.5 เมตร ฉาบเรียบ ติดไฟดาวน์ไลท์
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
สำหรับห้อง Studio ของที่นี่ จะมีขนาดตั้งแต่ 28.5-29 ตร.ม. นะครับ เป็นห้อง Studio ที่มีการกั้นสัดส่วนพื้นที่ภายในห้อง แยกส่วนพื้นที่หน้าห้องที่เป็นครัวด้วยฉากกั้นกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ทำให้สามารถเปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน ครับ ทำให้ได้ครัวปิด สามารถทำอาหารได้เต็มที่ ไม่ต้องกลัวกลิ่นและควันจะไปรบกวนส่วนอื่นๆภายในห้อง นอกจากนั้นยังช่วยประหยัดแอร์ของพื้นที่ภายในห้องด้วยครับ ด้านในจะแยกพื้นที่ออกเป็นหลายมุม โดยเตียงเหมาะกับการวางที่กลางห้อง จากนั้นจะมีมุมริมหน้าต่าง ที่ทำเป็นพื้นที่ทำงาน หรือวางโซฟาก็ได้ ส่วนด้านในก็มีมุมที่ทำให้โต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำงานได้ด้วย ส่วนแนวผนังจะมีพื้นที่ให้ทำตู้เสื้อผ้าและติดทีวีได้ครับ
บรรยากาศหน้าห้องสำหรับส่วนของห้อง Studio จะมีแนวกระจกกั้นทำครัวปิดไว้ให้ด้วย เหมาะกับการประกอบอาหาร เพื่อไม่ให้กลิ่นไปรบกวนส่วนอื่นๆภายในห้อง
ราคา
สำหรับเรื่องการเงินนั้น ผมมองว่าคนที่อยากได้คอนโดนี้น่าจะมีงบประมาณ 5 – 8 ล้านบาทโดยประมาณ (เผื่อค่าตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ไว้ให้แล้ว) หรือว่ามีกำลังผ่อนอยู่ที่ 35,000-56,000 บาทต่อเดือนครับ
ตัวอย่างราคาห้องพักอาศัยในโครงการ Life ลาดพร้าว ณ วันที่ 20 พ.ค. 2021
- ห้อง Studio 27 – 29 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท
- ห้อง 1 Bedroom 35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.19 ล้านบาท
- ห้อง 2 Bedrooms 48.5- 77 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท
เนื่องจากเป็นโครงการที่ขายเกือบจะหมดแล้ว และมีทำเลที่น่าสนใจมากๆ แถมยังมีจำนวนยูนิตค่อนข้างเยอะ ผมเลยลองสำรวจอัตราค่าเช่าโดยประมาณในแต่ละรูปแบบห้องมาให้ชมกันครับ (ผมอิงจากเฉลี่ยราคาของห้องแต่ละขนาดนะครับ เพราะราคาค่าเช่าไม่สามารถกำหนดตายตัวได้ แล้วแต่การตกแต่งและตำแหน่งห้อง ดังนั้นจึงดูหลาย ๆ ที่แล้วจึงได้มาเป็นช่วงราคา)
- ห้อง Studio 27 – 29 ตร.ม. ราคาค่าเช่าจะอยู่ที่ประมาณ 13,000 – 17,000 บาท/เดือน
- 1 Bedroom 35 ตร.ม.ราคาค่าเช่าจะอยู่ที่ประมาณ 17,000 – 23,000 บาท/เดือน
- 2 Bedrooms 48.5- 66 ตร.ม.ราคาค่าเช่าจะอยู่ที่ประมาณ 28,000 – 35,000 บาท/เดือน
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
- จอง 20,000 บาท
- ทำสัญญา 30,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 50. บาท/ตร.ม./เดือน
– โปรโมชันเพิ่มเติมในช่วงนี้
- HOT DEAL-ONE PRICE คัดพิเศษยูนิตชั้นสูง (ชั้น 40ขึ้นไป)
- 1 ห้องนอน 35 ตร.ม. ตำแหน่งดี ราคาเดียว 5.19 ล้าน*
- 2 ห้องนอน UPSPACE กว้างขึ้นอีก ราคาเดียว 6.99 ล้าน*
- พิเศษ!Add Line ทักแชท รับเพิ่ม
- The 1 Point x2 สูงสุด 60,000 แต้ม*
- Cashback x2 สูงสุด 60,000 บาท*
- ฟรี! ค่าใช้จ่ายวันโอน
- รับค่าแนะนำเฉพาะลูกค้า LINE สูงสุด 100,000 บาท (แจ้งสิทธิ์ ก่อนการจองซื้อ*)
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
บทสรุป
โครงการ Life ลาดพร้าว เป็นโครงการที่มีจุดเด่นในเรื่องของทำเลเป็นหลักเลยครับ เพราะเรียกว่าครบครันจริงๆ เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดติดรถไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำในย่านลาดพร้าว มีอาคารสำนักงานและโรงเรียนชื่อดัง รวมถึงสวนสาธารณะในระยะเดินได้ ขนาดพื้นที่โครงการใหญ่ มีรูปแบบห้องให้เลือกตั้งแต่ Studio ไปจนถึง 2 Bedroom ชื่นชอบการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางรับวิวจากมุมสูงรอบด้านเป็นหลัก และถ้าไม่ซีเรียสกับการอยู่โครงการที่มีจำนวนยูนิตเยอะหน่อย ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ