สร้างเสร็จพร้อมอยู่ตามพี่ ๆ กันมาแล้วนะครับ สำหรับ Metris พัฒนาการ-เอกมัย ที่เป็นโครงการน้องเล็กสุดท้องในแบรนด์ Metris จาก Major Development ซึ่งจะยังคงสไตล์ Mid-Century Modern (MCM) เหมือนพี่ ๆ 2 โครงการก่อนหน้านี้ และยังสามารถเลี้ยงสัตว์ได้เช่นเคย โดยโครงการจะมีจุดเด่นที่สำคัญ ๆ ต่าง ๆ ดังนี้เลยครับ

  • ทำเล – ใกล้ทางด่วนชนิดที่ว่าติดกับทางขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่ห่างไปประมาณ 230-350 ม. เลย โดยมีให้เลือก 2 ทางเข้าและออกเมือง ถ้าเลี้ยวซ้ายเข้าด่านพัฒนาการ 1 จะสามารถวิ่งไปทางอ่อนนุช บางนาได้ ส่วนถ้าเลี้ยวขวาเข้าด่านพัฒนาการ 2 จะวิ่งไปทางเลียบทางด่วน เกษตรนวมินทร์ จตุโชติ เชื่อมเข้าทางด่วนวงแหวนกาญจนาได้เลย และยังใกล้ Airport Rail Link รามคำแหง ที่ห่างออกไปประมาณ 800 เมตร โดยทางโครงการจะมีรถ Shuttle Service รับส่งให้ด้วยครับ
  • สามารถเลี้ยงสัตว์ภายในโครงการได้ – มีการจัดการที่ดีต่อทั้งลูกบ้านที่เลี้ยงและลูกบ้านท่านอื่นๆ โดยจะมีพื้นที่ Out Door สำหรับสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในแบรนด์ Metris เลยครับ
  • รูปแบบห้อง – มีให้เลือกเยอะกว่าโครงการใกล้เคียงส่วนใหญ่ในย่านนี้ เริ่มต้นขนาดตั้งแต่ 29.80 ไปจนถึง 61.90 ซึ่งจะมีตั้งแต่ห้อง 1 Bedroom, 2 Bedroom 1 Bathroom และ 2 Bedroom 2 Bathroom เลย

ข้อมูลโครงการ

Metris Pattanakarn – Ekkamai (เมทริส พัฒนาการ – เอกมัย) ณ วันที่ 27 สิงหาคม 2564

 ชื่อโครงการ  Metris Pattanakarn – Ekkamai (เมทริส พัฒนาการ – เอกมัย)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตท จำกัด
 SEGMENT CLASS  UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนพัฒนาการ เขตสวนหลวง
 ที่ดิน  2-1-65 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 29 ชั้น 1 อาคาร
 จำนวนยูนิต  341 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   15 ยูนิต
 ที่จอดรถ  155 คัน คิดเป็น 46% รวมจอดซ้อนคัน
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2562
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ปี 2564
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom 29.80 – 31.40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.59 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 53.40-61.90 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 4.59 ล้านบาท

 ฝ้าเพดานสูง  2.7 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  2.59 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 100,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  สร้างเสร็จพร้อมอยู่
 เว็บไซต์โครงการ  https://bit.ly/2Ylg33p
 Call Center 02-116-1111

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.7383746 , 100.6055276
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่ 

แผนที่จากทางโครงการ Metris พัฒนาการ – เอกมัย ครับ

โครงการ Metris พัฒนาการ – เอกมัย ตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการฝั่งขาเข้า ระหว่างซอยพัฒนาการ 12 และ 14 ที่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เพราะอยู่ห่างไปไม่ถึง 230-350 ม. เท่านั้น ถ้าจะเข้าเมืองไปทองหล่อ-เอกมัย ก็ขับขึ้นสะพานข้ามแยกคลองตันไปได้เลย โดยห่างไปประมาณ 1.6 – 2.2 กม. ซึ่งถ้ารถไม่ติดก็แค่ 5 นาทีเอง หรือใครอยากออกไปเส้นสุขุมวิท ก็เลี้ยวซ้ายตรงแยกคลองตัน เข้าถนนสุขุมวิท 71 ที่ไปออกแถว BTS พระโขนงได้เลย รวมถึงยังวิ่งไปเข้ารามคำแหง พระราม 9 ศรีนครินทร์ได้ ต้องบอกเลยว่าสำหรับการเดินทางโดยรถยนต์นับว่าสะดวกอยู่นะ นอกจากนั้นยังใกล้ Airport Rail Link รามคำแหง ที่ห่างออกไปประมาณ 800 เมตร โดยทางโครงการจะมีรถ Shuttle Service รับส่งให้ด้วยครับ

ส่วนความอุดมสมบูรณ์ ถ้าพูดถึงในระยะเดินจะมีบริเวณปากซอยพัฒนาการ 18 มี Family Mart + ตลาด ที่มีร้านอาหารทั้งก๋วยเตี๋ยว, ข้าวราดแกง และอาหารตามสั่งให้บริการอยู่ (ประมาณ 350 ม.) หรือถ้าขยับออกมานิดต้องข้ามถนนไปในซอยสุขุมวิท 71 ก็จะมีตลาดนัด​ + Tops Daliy ให้เลือกซื้อของเข้าบ้านได้อีกนึงทาง ส่วนห้างใกล้ ๆ คงอาศัยเส้นรามฯ ครับ มีทั้ง The Mall รามคำแหง, Big C หัวหมาก, Foodland รามคำแหง หรือจะฝั่ง The Nine พระราม 9 ก็ไม่ไกล อีกฝั่งคือขับออกไปทางถนนศรีนครินทร์ ก็จะมีทั้ง Seacon Square, Paradise Park และตลาดรถไฟ ที่มีปริมาณรถน้อยกว่า ส่วนถ้ากลับรถเข้าถนนเพชรบุรี ก็สามารถเลี้ยวไป เอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก RCA ได้ ซึ่งจะมีทั้งร้านค้าร้านอาหารหลากหลายรูปแบบ ให้เลือกใช้งาน รวมไปถึงแถวนี้จะมีมหาวิทยาลัยชื่อดัง อย่าง ม.รามคำแหง และ ABAC อีกด้วย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

โครงการ Metris พัฒนาการ – เอกมัย ตั้งอยู่ติดถนนพัฒนาการ โดยจะมีทางเข้า-ออกอยู่ทางทิศเหนือ ด้วยความที่ตัวอาคารเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าตั้งรับแนวทิศตะวันออกและทิศตะวันตกเป็นหลัก จึงทำให้วิวส่วนใหญ่จะอยู่สองฝั่งนี้ครับ แต่อย่างไรก็ตามสภาพแวดล้อมโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่แนวราบและอาคารสูงประมาณ 1-2 ชั้น โดยห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 7 ขึ้นไป จึงไม่มีปัญหาในเรื่องของการถูกบังวิว

  • ทิศเหนือ : เป็นทางเข้าออกโครงการ ติดกับถนนพัฒนาการ ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงงานครับ สูงประมาณ 1-3 ชั้น
  • ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ Showroom ขายรถยนต์ เป็นอาคารสูง 1 ชั้นเท่านั้น ส่วนด้านข้างถัดไปอีกจะเป็นพื้นที่โล่งครับ
  • ทิศใต้ : ติดกับ คลองตัน ถัดไปเป็นที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบสูง 2-3 ชั้น
  • ทิศตะวันตก : ติดกับ ที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบสง 2-3 ชั้น

Image 1/4
วิวทิศตะวันออกจากชั้น 18 : เป็นวิวหลักของโครงการครับ จะได้วิวที่ค่อนข้างโล่งเลย แถมยังมีพื้นที่สีเขียวให้ดูร่มรื่นยิ่งขึ้นด้วย

วิวทิศตะวันออกจากชั้น 18 : เป็นวิวหลักของโครงการครับ จะได้วิวที่ค่อนข้างโล่งเลย แถมยังมีพื้นที่สีเขียวให้ดูร่มรื่นยิ่งขึ้นด้วย

ลองขึ้นไปชมวิวจริงจากบนอาคารชั้น 18 ในแต่ละทิศกันดีกว่าครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • เดอะมอลล์ รามคำแหง ~2.2 กม.
  • Big C หัวหมาก ~2.7 กม.
  • Donki Mall Thonglor ~ 3.1 กม.
  • The Nine พระราม 9 ~3.9 กม.

โรงพยาบาล

  • รพ.คลองตัน ~ 2.4 กม.
  • รพ.เพชรเวท ~ 2.6 กม.
  • รพ.แพทย์ปัญญา ~ 2.6 กม.
  • รพ.พระราม 9 ~ 5.4 กม.

โรงเรียน

  • มหาวิทยาลัยรามคำแหง ~ 3.4 กม.
  • โรงเรียนสาธิตรามคำแหง ~ 3.5 กม.

สถานที่สำคัญ

  • Airport Rail Link รามคำแหง ~800 ม.
  • ย่านเอกมัย ~1.6 กม.
  • ย่านทองหล่อ ~2.2 กม.
  • สนามราชมังคลากีฬาสถาน ~ 3.6 กม.

รายละเอียดโครงการ

ก่อนจะเข้าไปภายในโครงการขอผมพูดถึงตระกูลแบรนด์ Metris จากทาง Major Development กันสักเล็กน้อยนะครับ เป็นแบรนด์ที่เปิดตัวตั้งแต่ปลายปี 2017 ที่มีด้วยกันทั้งหมด 3 โครงการ โดยคำว่า Metris เกิดจากการผสมผสานของคำว่า Retro + Modernist นิยามถึงกลุ่มคนที่หลงใหลการออกแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ Mid-Century Modern (MCM) ที่ผสานความคลาสสิค+ร่วมสมัยเข้ากันได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์ lifestyle คนเมืองรุ่นใหม่ ที่รักอิสระ ชอบความเรียบง่าย โดดเด่นด้วยสีสัน บนสามทำเลใจกลางเมืองและย่านธุรกิจใหม่ และยังคงแนวคิด Pet Friendly ของทาง Major ให้สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ทุกโครงการเลย โดยทั้ง 3 โครงการก็มีทั้ง Review และ Walk-in Review ตึกเสร็จให้เข้าไปชมกันได้แล้วนะครับ คลิกได้เลย

Metris พัฒนาการ – เอกมัย เป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในย่านพัฒนาการ ที่อยู่ระหว่างซอยพัฒนาการ 12 และ 14 ลักษณะตัวอาคารสูง 29 ชั้น บนที่ดิน 2 ไร่กว่า ด้วยจำนวน 341 ยูนิต ที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูง รวมถึงเป็นคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ซึ่งไม่มีให้เห็นในย่านนี้นะครับ โดยจะมีการจัด Pet Zone สำหรับรองรับการใช้งานให้เป็นสัดส่วนที่ชัดเจน ไม่ไปรบกวนลูกบ้านที่ไม่มีสัตว์เลี้ยง และส่วน Facilities อื่น ๆ ก็ได้มาครบตามมาตรฐานโครงการทั่วไป ที่ชั้น 1 และ 7 ส่วนชั้นพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 7 ขึ้นไป ซึ่งจะพ้นระยะพื้นที่ข้างเคียง ทำให้รับวิวโล่งได้เต็มที่ทุกฝั่ง โดยห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ขนาด 30 ตร.ม. ครับผม รายละเอียดในแต่ละชั้นดังนี้ครับ

  • ชั้น 1 : Lobby + Co-working Space + สวนและพื้นที่อเนกประสงค์ + Pet Zone + Jogging Track
  • ชั้น 2-6 : เป็นพื้นที่จอดรถ ประมาณ 46% รวมจอดซ้อนคัน
  • ชั้น 7 : Facilities + ห้องพักอาศัยเพียง 11 ยูนิต/ชั้น
  • ชั้น 7-29 เป็นห้องพักอาศัยเต็มพื้นที่สูงสุด 15 ยูนิต/ชั้น

มาดูส่วน Master Plan ชั้น 1 กันก่อนเลยครับ ลักษณะการวางอาคารกับที่ดินคือ วางอาคารตรงกลางและล้อมรอบด้วยถนนภายในโครงการ ที่จะเดินรถทางเดียวอ้อมตัวอาคารตามลูกศรสีแดง เข้าใจได้ไม่ยากครับ โดยพื้นที่จอดรถสำหรับ Visitor จะอยู่ใต้อาคาร และจะมีทางขึ้นลงพื้นที่จอดรถภายในอาคารที่ด้านหลังตัวอาคาร นอกจากนั้นด้านหน้าโครงการมีพื้นที่สวนหย่อม ที่เป็นลานกว้าง ๆ สามารถจัดกิจกรรมได้ค่อนข้างหลากหลาย ส่วนด้านหลังเป็นโซนสัตว์เลี้ยง ที่โครงการมีข้อกำหนดให้เลี้ยงได้ในขนาดที่เมื่อโตเต็มวัยแล้วมีน้ำหนักไม่เกิน 15 kg. โดยจะได้ห้องละ 1 ตัวเท่านั้น เพื่อป้องกันความวุ่นวายและดูแลจัดการง่าย พร้อมทั้งมี Jogging Track ยาว 80 ม. ให้วิ่งรอบๆได้พอเหงื่อออกได้กำลังดี

กลับมาที่จุด Drop off ส่วนภายในอาคารมี Lobby Lounge พร้อมชุดที่นั่งมาให้ และ Private Multi-purpose เพื่อคนที่อยากได้ความเป็นส่วนตัว ก่อนเข้าโถงลิฟต์ มีพื้นที่ Mailbox ของลูกบ้าน ส่วนลิฟต์มีทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนประมาณ 171:1 ที่ถือว่าหนาแน่นทีเดียว ในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจจะรอลิฟต์นานหน่อยนะ ซึ่งจะมีลิฟต์ 1 ตัวเท่านั้น ที่พาสัตว์เลี้ยงขึ้น-ลงได้ เพื่อลูกบ้านบ้างคนที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์

ส่วนแรกเมื่อขับรถเข้ามาจะเป็นทางเข้าออกโครงการครับ พื้นตรงนี้จะเป็นคอนกรีตพิมพ์ลาย แยกทางเข้าออกชัดเจน โดยจะมีป้อมพี่รปภ.คอยดูแลอยู่ตรงกลาง ด้านข้างมีทางสำหรับเดินเท้าเข้าออกโครงการได้อย่างปลอดภัย

เข้ามาด้านข้างจะเจอกับพื้นที่สวนขนาดใหญ่ ที่ออกมานั่งเล่นหรือสูดอากาศได้เลย ที่สำคัญคือทำหน้าที่เป็นจุดรับสายตาสำหรับรถที่เข้าออก ก็ได้ความร่มรื่นและสวยงามไปอีกจุด

มีลานสำหรับทำกิจกรรมกลุ่มได้ หรือจะมาเล่นออกกำลังกายก็ได้ครับ

สำหรับทางเดินรถจะเป็น One Way อ้อมตัวอาคาร ยาวเข้าไปเลยครับ

เข้ามาจะเจอกับ Drop Off ของโครงการ ตรงนี้จะพิเศษตรงที่ได้พื้นที่ยกเพดานสูง ช่วยกันแดดกันฝน และดูไม่ทึบตัน ได้พื้นที่ที่ใช้งานได้จริงครับ

ด้านในจะมี EV Charger ให้ 2 จุดครับ

ยาวเข้ามาด้านในจะเจอกับพื้นที่ Pet Zone ที่เขาจัดไว้ให้สำหรับนำสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นหรือออกกำลังกายได้โดยเฉพาะ ที่ผมชอบคือการแยกพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน ทำให้ไม่รบกวนลูกบ้านที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ด้วย และพื้นที่ภายในนี้ก็จัดเป็นพื้นที่โล่งสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในตระกูลแบรนด์ Metris เลยครับ

โดยจะเป็นจุดโดดเด่นของทุกโครงการที่อยู่อาศัยของเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ คือ Pet-Friendly Residences หรือคอนโดมิเนียมที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งปัจจุบันได้ยกระดับไปสู่การเป็น Major Petscape หรือการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เข้าใจทุกความต้องการของคนรักสัตว์ ทำให้ “เมทริส พัฒนาการ-เอกมัย” มีฟังก์ชันและดีไซน์ที่ตอบโจทย์และครอบคลุมการอยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะ Pet zone หรือ พื้นที่ส่วนกลางเฉพาะของสัตว์เลี้ยง สำหรับวิ่งออกกำลังกายและเปลี่ยนบรรยากาศเพื่อลดความเครียดจากการอยู่ในพื้นที่จำกัด มีอุปกรณ์เสริมการออกกำลังกายของสัตว์เลี้ยง พร้อม Double gate ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับสัตว์เลี้ยง และแบ่งพื้นที่ขับถ่ายอย่างเป็นสัดส่วน รายละเอียดการออกแบบต่างๆ อยู่ภายใต้การรับรองจากผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ มีการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง ทั้งยังมีคุณสมบัติเก็บกลิ่นและทนน้ำ ง่ายต่อการล้างทำความสะอาด และมีระบบคัดแยกประเภทขยะจากสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะเพื่อเข้าสู่กระบวนการจัดการที่ถูกต้องและไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมภายในโครงการ

นอกจากนี้ โครงการได้กำหนดพื้นที่ส่วนกลางให้มีทั้งส่วนที่อนุญาตและไม่อนุญาตให้สัตว์เลี้ยงใช้งาน ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานจริงเพื่อสร้างความสมดุลในการอยู่อาศัยระหว่างลูกบ้านที่เลี้ยงสัตว์และไม่เลี้ยงสัตว์อย่างลงตัว เช่น จุดสัญจรหลักโซนล็อบบี้ สัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ในรถเข็นหรืออุปกรณ์เคลื่อนย้ายเท่านั้น ช่วยสร้างความอุ่นใจในด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยภายในโครงการ ขณะที่ภายในห้องพักอาศัยยังมีการออกแบบฟังก์ชันให้เอื้อต่อพฤติกรรมและความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยง เช่น ราวกันตกบริเวณระเบียงห้องชุดที่มีระยะห่างระหว่างซี่ไม่เกิน 7.5 เซนติเมตร ป้องกันสัตว์เลี้ยงที่มีขนาดเล็กมุดลอดจนเกิดอันตราย และกำหนดขนาดสัตว์เลี้ยงไม่เกิน 15 กิโลกรัม เพื่อให้สัตว์เลี้ยงสามารถใช้ชีวิตอยู่ภายในห้องพักได้อย่างไม่อึดอัดครับ

มีพื้นที่สำหรับชำระล้างขนาดค่อนข้างใหญ่ ล้อมรั้วไว้สำหรับขนาดตัวที่กำหนดไว้ครับ

พื้นที่ตรงกลางเป็นลานวิ่งเล่นขนาดใหญ่ แยกออกเป็นมุมนั่งเล่นที่สามารถใช้งานร่วมกันได้หลายครอบครัว

ส่วนด้านหลังจะเป็นสนามหญ้าโล่ง ใช้งานในลักษณะอื่น ๆ ได้ จะมาวิ่งเล่น หรือนั่งเล่นก็ได้

โดยรอบ ๆ จะมีพื้นลู่สำหรับ Jocking Track ให้ โดยรวมระยะทางรอบละประมาณ 80 เมตร ซึ่งถ้ายังไม่พอก็บวกกับวิ่งรอบตัวอาคารไปด้วยก็ได้ครับ

ด้านหลังอาคารนี้จะมีส่วนขึ้นลงพื้นที่จอดรถครับ โดยจะมีทั้งหมด 155 คัน คิดเป็น 46% รวมจอดซ้อนคัน

ทางฝั่งอีกด้านของตัวอาคารก็จะเป็นทางยาวลงไป มีพื้นที่จอดรถสำหรับ Visitor ใต้อาคารครับ

กลับมาที่ด้านหน้าก็จะได้วิวสนามหญ้าฝั่งหน้าโครงการอีกรอบครับ เล่นระดับทำให้ดูไม่น่าเบื่อ และสามารถใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น เป็นทั้งที่นั่งและที่เดินออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุได้ด้วย

นอกจากนั้นพื้นที่ตรงนี้จะเป็นส่วน BBQ Garden มีเตาย่างมาให้เรียบร้อย แต่ถ่าน หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ต้องนำมาเองนะครับ และตรงนี้ไม่อนุญาตให้สัตว์เลี้ยงเข้ามานะ

วนเข้ามาที่พื้นที่ Drop Off สำหรับเข้าโครงการ ตรงนี้จะมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ได้เพดานสูงทำให้ดูโล่ง และ Lobby ด้านในจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่เลย พื้นที่นี้จะกันแดดกันฝน ใช้งานได้ทุกช่วงเวลา

เข้ามาจะเจอกับ Lobby ขนาดใหญ่ ยกเพดานสูงทำให้ดูโปร่งและโล่งเอามาก ๆ แยกพื้นที่นั่งออกเป็นหลาย ๆ จุด

ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่บันไดขึ้นไปยังพื้นที่ห้องนิติบุคคลด้านบนครับ มีพื้นที่นั่งคอยด้านล่างใกล้ ๆ ให้ใช้งานได้สะดวกด้วย

อีกฝั่งจะได้แสงและวิวจากภายนอกอย่างเต็มที่จากแนวกระจกขนาดใหญ่ที่ยกฝ้าเพดานขึ้นสูง โดยส่วนนี้จะไม่ได้รับความร้อนนะครับ เพราะแสงจะส่องมาไม่ถึง แยกเป็นที่นั่งหลายกลุ่มที่ค่อนข้างหลากหลายเลย ใช้ได้ทั้งนั่งพักคอย หรือมานั่งเล่นคุยงานกันก็ได้

ด้านในตรงกลางห้องจะมีเคาน์เตอร์สำหรับ Reception โครงการ ให้ติดต่อได้สะดวกครับ ส่วนพื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ด้านใน ไล่ความเป็นส่วนตัวได้ดีทีเดียว

ตรงนี้จะมีพื้นที่ส่วนกลาง 2 ห้องซ้ายขวา และเป็นแนวทางเดินยาวเข้าไปด้านในเพื่อเข้าสู่โถงลิฟต์ขึ้นสู่ตัวอาคารครับ

ห้องแรกฝั่งซ้ายมือคือห้อง Co-Working Space สำหรับเข้ามานั่งเล่น ทำงาน อ่านหนังสือได้ มีความเป็นส่วนตัวและแยกสัดส่วนได้ชัดเจน ภายในมีพื้นที่ให้เลือกนั่งหลายแบบทั้งแนวผนังและโต๊ะแยกครับ

ส่วนอีกห้องฝั่งขวามือจะเป็น Multi-Purpose Room ที่จะมีบรรยากาศที่สบายยิ่งขึ้น ไม่ได้จริงจังมาก แต่เหมาะกับการนั่งเล่น คุยกันเป็นกลุ่มได้ โดยจะมีแนวกระจกเชื่อมกับทางเดินด้านข้างครับ ใช้เป็นส่วนพักคอยที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นกว่า Lobby ก็ได้

ด้านในเข้ามาตามทางเดินจะเจอกับประตูเชื่อมไปยังโถงลิฟต์ และด้านข้างเป็นทางไปยังส่วนสนับสนุนต่าง ๆ อีกครับ ประกอบไปด้วย

ส่วนของ Mail Box ซึ้งทางโครงการนี้ไม่ได้มียูนิตเยอะนัก จึงทำให้จัดสรรไว้ในที่เดียวได้เลย ดูแลและใช้งานได้ง่าย

มีส่วนของ Smart Locker บริการให้ด้วย ในกรณีที่รับของในช่วงที่นิติปิดทำการ

ด้านในมีห้องน้ำให้ใช้งานด้วย ตกแต่งในสไตล์ที่โดดเด่นของโครงการครับ

ส่วนของโถงลิฟต์จะมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 171 : 1 ซึ่งก็จัดว่าเยอะพอสมควร ถ้าในเวลาเร่งด่วนก็ต้องเผื่อเวลากันด้วยนะครับ และสำหรับห้องไหนที่มีสัตว์เลี้ยงก็ต้องนำเข้ากรงเพื่อใช้งานลิฟต์โดยสารครับ

ขึ้นมาที่ชั้น 7 จะเป็นชั้น Main Facilities ของโครงการ ที่มีสระว่ายน้ำแบบ Outdoor อยู่ทางทิศเหนือ พร้อมเก้าอี้ Day Bed ไว้นอนอาบแดดริมสระได้ด้วย ถัดเข้าไปในอาคารมีส่วน Fitness ที่รายล้อมด้วยกระจก ทำให้ได้รับแสงและมองวิวได้เต็มที่ มีห้องน้ำแยกชาย-หญิงและตู้ Locker ให้บริการภายในด้วยนะครับ ส่วนทางทิศตะวันตกก็มีเก้าอี้มาให้นั่งดูพระอาทิตย์ตกดิน โดยจะมีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ซึ่งตรงนี้จะไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามานะครับ

สำหรับห้องพักอาศัยชั้นจะมีเพียง 11 ยูนิต/ชั้น โดยมีประตูกั้นแยกการใช้งานชัดเจน โดยชั้นนี้จะมียูนิตพิเศษคือห้องทางฝั่งทิศเหนือและใต้จำนวน 4 ยูนิตที่จะได้พื้นที่หลังห้องเป็นพื้นขัดมันที่ไม่นับพื้นที่ลงในโฉนด เหมือนได้พื้นที่เพิ่มไปฟรี ๆ เลย

สำหรับจุดเด่นในชั้นนี้จะอยู่ที่โซนเส้นปะสีแดงที่ได้ทางเดินแบบ Single Corridor ที่ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม ทำให้คนเดินผ่านน้อย ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนโซนที่เป็นโถงทางเดินแบบ Double Corridor ก็ไม่ได้แย่นะครับ เพราะถึงแม้จะมีห้องฝั่งตรงข้าม แต่โครงการก็แก้จุดนี้ด้วยการวางประตูทางเข้าอยู่เยื้องกัน ทำให้มองไม่เห็นพื้นที่ภายในห้องพักฝั่งตรงข้าม ส่วนสุดแนวทางเดินจะมีช่องแสงให้ 1 จุด ที่ต้องเปิดไฟส่วนกลางเพิ่มตลอดทั้งวัน อาจจะส่งผลกับค่าส่วนกลางเราในอนาคตได้บ้าง แต่ที่ชอบคือเขาซ่อนห้องขยะเข้าไปด้านค่อนข้างลึก ปิดด้วยประตู 2 ชั้น ทำให้ไม่ส่งผลเสียกับห้องที่อยู่ใกล้เคียงครับ

ขึ้นมาพื้นที่ส่วนนี้จะเจอกับพื้นที่ลดระดับลงมา แยกเป็นส่วนนั่งเล่นภายในและสวนด้านข้างครับ ตรงนี้จะมานั่งเล่นรับวิวก็ไม่ยากเลย

แนวทางเดินจะมีพื้นที่เตียงนอนรับวิวให้ ซึ่งจะได้วิวโล่งฝั่งทิศตะวันตก เป็นพื้นที่โล่งแนวราบ ซึ่งจะสามารถมานอนดูวิวพระอาทิตย์ตกดินได้เลยครับ

ส่วนด้านในจะมีสระว่ายน้ำรูปตัว L ขนาด 15.8 x 5.75 ม. รับวิวหลายฝั่ง เป็นระยะที่ว่ายน้ำออกกำลังกายได้กำลังดี แต่โครงการนี้ไม่มีสระเด็กแยกมาให้นะครับ ด้านข้างมี Day Bed ให้นอนอาบแดดได้ด้วย

มี Day Bed ด้านข้างที่ออกแบบมาให้นั่งเห็นวิวสระและรับวิวโล่งได้ สำหรับผู้ติดตามก็มานั่งเล่นได้อย่างใช้ชิดเลย

ด้านในจะมีพื้นที่ล้างตัวและแยกเข้าไปยังห้องนั่งแยกชายหญิงด้านใน

เป็นห้องน้ำที่ให้มาครบ ใช้งานได้ทีละประมาณ 3-4 คนพร้อม ๆ กัน ส่วนของห้องน้ำหญิงจะได้ห้อง Steam ส่วนห้องผู้ชายจะได้ห้อง Sauna มาในตัวครับ

ถัดมาด้านในจะเจอกับห้อง Fitness ที่รับวิวทั้งสระว่ายน้ำและภายใน ภายในให้อุปกรณ์มาค่อนข้างครบ ทั้งส่วนของ Body Weight และ Cardio Training โดยส่วนแรกจะเป็นส่วนของ Body Weight ที่มีแนวผนังเป็นกระจกให้ด้วยตามมาตรฐาน Fitness ทั่วไป

ส่วนด้านในจะมีแนวทีวี และส่วนออกกำลังกายแบบ Cardio Training ที่รับวิวทั่งฝั่งด้านนอกโครงการทางฝั่งลู่วิ่ง

และพื้นที่เครื่องปั่นจักรยานที่รับวิวสระว่ายน้ำ ไม่ต้องเบื่อเลย

มาดูชั้น Typical Floor Plan กันต่อเลยครับ โดยเป็นห้องพักเต็มพื้นที่ตั้งแต่ชั้น 8-29 ที่ตำแหน่งเหมือนกัน มีจำนวนสูงสุดที่ 15 ยูนิต/ชั้น ที่ถือว่าไม่มากนัก และมีโถงลิฟต์เป็นตัวแบ่งฝั่งพื้นที่ห้องพักอาศัยออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนใหญ่จะเน้นเป็นห้อง 1 Bedroom หันออกทิศตะวันตกและตะวันออก ที่รับแดดโดยตรง ทำให้ห้องสว่างตลอดทั้งวัน

สำหรับห้องที่น่าสนใจคือตำแหน่งห้องเบอร์ 01,03 ที่ผนังห้องไม่ติดกับเพื่อนบ้าน ได้ความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ตำแหน่งห้องเบอร์ 05 เป็นห้องมุมและห้องหน้ากว้าง ทำให้มองเห็นวิวได้ 2 ทิศทาง และรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ส่วนตำแหน่งห้องเบอร์ 02 เป็นห้องที่อาจจะเห็นแนวอาคารทางฝั่งนี้บ้าง (แต่ไม่เสียความเป็นส่วนตัวนะครับ เพราะห้องที่อยู่ตรงนั้นไม่ได้มีช่องเปิดทางฝั่งนี้) แลกมากับความเป็นส่วนตัวที่ผนังห้อง 1 ฝั่งไม่ติดกับเพื่อนบ้านเลย และแอบเสียดายนิดหน่อยกับตำแหน่งห้องเบอร์ 04 ซึ่งเป็นห้องมุมแต่ได้วิวเพียงฝั่งเดียว

บรรยากาศของโถงลิฟต์ในแต่ละชั้นพักอาศัยครับ ค่อนข้างโล่งและมีช่องแสงขนาดใหญ่ให้เลย

ที่นี่จะใช้ลิฟต์แบบ Touchless Lift Botton นะครับ คือลิฟต์ที่ไม่ต้องสัมผัสนั่นเอง เหมาะกับช่วงโควิดแบบนี้มาก ๆ

บรรยากาศภายในลิฟต์จะค่อนข้างสวนงามเลย ซึ่งเขาจะ Built-in ลบเหลี่ยมมุมภายในลิฟต์มาให้เรียบร้อย ดูให้ความรู้สึกที่แตกต่างจริง ๆ

ส่วนโถงทางเดินหลัก ๆ ที่เป็นแบบ Single Corridor ก็จะมีหน้าตาประมาณนี้นะครับ ค่อนข้างโล่งและกว้าง ประตูห้องแต่ละห้องไม่ตรงกัน ได้ความเป็นส่วนตัว ส่วนโถงแบบ Single Corridor ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่านี้ด้วยการที่ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม ก็คงพอจะนึกภาพกันออกนะครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น 1

  • Lobby Lounge
  • Co-working Space
  • Multi-purpose Room
  • Pet Zone
  • Jogging Track
  • สวนหย่อมชั้นที่ 7
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 15.8 x 5.75 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  • ฟิตเนส
  • ห้องน้ำแยกชายหญิง
  • Steam ในห้องน้ำหญิง / Sauna ในห้องน้ำชาย
  • Seating Area
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 171 : 1
  • Service Lift 1 ตัว
  • Shuttle Service
  • สามารถเลี้ยงสัตว์ภายในโครงการได้
  • Home Automation
  • ที่จอดรถประมาณ 155 คันคิดเป็น 46% รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card Access

 

แบบห้อง

ที่นี่จะมีห้องให้เลือกหลายแบบหลายขนาดครับ ดังนี้

  • 1 Bedroom 29.80 – 31.40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.59 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 53.40-61.90 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 4.59 ล้านบาท

ห้องพักอาศัยที่นี่จะขายในรูปแบบ Fully Fitted ครับ โดยของที่จะได้ก็จะมี ประตู + Digital Door Lock ยี่ห้อ Hafele, ชุดครัว Hob&Hood แบบต่อท่อออกภายนอก ของ Hafele, Top  ครัว หินสังเคราะห์, สุขภัณฑ์ Lavenz และ Hafele, พื้นไม้ลามิเนต 8 มม., กระเบื้องเซรามิคที่ห้องน้ำ ครัว และระเบียง ได้เครื่องปรับอากาศยี่ห้อ TRANE และนอกจากนี้ภายในห้องพักอาศัยได้เตรียมสายรองรับ Home Automation มาให้ โดยสามารถรองรับได้ทั้ง

  • Smart Switch : เป็นแบบระบบสัมผัส ที่ควบคุมสวิตซ์เปิด-ปิดได้ผ่าน App มือถือ
  • IR : เป็นเครื่องกระจายสัญญานไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ( Home Automation)
  • Door Sensor : มีเสียงร้องเวลามีคนเปิด-ปิดประตู
  • Smart Plug : เปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าธรรมดา ให้สั่งงานเปิด-ปิดได้
  • IP Smart Camera : ตรวจความเคลื่อนไหวภายในห้อง + พูดคุยกับคนในห้องผ่านโทรศัพท์ได้

มาดูห้องตัวอย่างห้องแรกกันครั้บกับ 1 Bedroom 31.56 ตร.ฒ. ห้องมีลักษณะเป็น 4 เหลี่ยมเกือบจะจัตุรัส จุดเด่นของห้องนี้คือแบ่งสัดส่วนภายในห้องได้ดี ได้ครัวติดระเบียง ที่แยกโซนออกไปชัดเจน ทำให้สามารถระบายกลิ่นและควันได้ดี ไม่มารบกวนพื้นที่อื่น

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ซึ่งจะเป็นพื้นที่แจกไปยังส่วนต่าง ๆ ของห้อง โดยพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะได้แสงจากห้องนอนด้านใน ซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้ห้องดูโล่งและโปร่ง แต่ในกรณีมีแขกมาที่ห้องก็อาจจะทำให้ห้องนอนเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านในครับ เข้าถึงได้ง่ายจากทุกพื้นที่ และจะมีครัวเปิดติดระเบียงที่อยู่ด้านใน การเป็นครัวเปิดทำให้ใช้พื้นที่ได้เยอะมากยิ่งขึ้น แม้จะควบคุมกลิ่นยากหน่อย แต่ตำแหน่งก็ถูกแยกออกมาค่อนข้างชัดเจน หรือใครที่อยากทำเป็นครัวปิดก็สามารถต่อเติมส่วนนี้ได้ครับ ไปชมกัน

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น ที่สามารถจัดได้หลากหลายเลยนะครับ ตรงนี้จะได้ระยะดูทีวีประมาณ 2.5 เมตร สามารถวางโต๊ะกลางได้แล้วยังเหลือพื้นที่เดินผ่านไปมาได้สะดวก และจะเหมาะกับการใช้ทีวีขนาดประมาณ 52-55 นิ้ว

แนวผนังด้านวางโซฟาก็ค่อนข้างกว้างครับ สามารถทำชั้นรองเท้า หรือวางโคมไฟได้สบาย ๆ หรือจะทำเป็นโซฟาขนาดใหญ่ก็ได้ ตรงนี้สามารถออกแบบและจัดได้หลากหลายเลย ภายในห้องนี้จะได้แอร์มาให้ด้วย

ส่วนฝั่งวางทีวีก็มีแนวผนังขนาดใหญ่ ที่สามารถเลือกแขวนทีวีได้หลายขนาดเลยครับ หรือจะ Built-in ทำชั้นวางของและชั้นวางทีวีก็ได้ครับ

ส่วนพื้นที่ด้านในจะเป็นแนวทางเดินไปยังส่วนอื่น ๆ ของห้อง ช่องแสงหลักของห้องนี้จะได้จากภายในห้องนอนด้านในครับ ไปดูกัน

ส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 2 บาน ที่สูงจากพื้นถึงฝ้าเลย ทำให้แสงเข้ามาได้ถึงภายในห้องอย่างเต็มที่ หรือถ้าเลือกจะติดม่านเพื่อนแบ่งความเป็นส่วนตัวก็แนะนำให้ใช้เป็นแบบติดกระจกนะครับ จะเป็นมู่ลี่หรือฟิล์มก็ได้

ด้านในห้องค่อนข้างกว้างครับ สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่ให้เดินได้รอบ สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ ส่วนปลายเตียงจะมีมุมที่ทางโครงการทำพื้นที่ไว้ให้สำหรับวางตู้เสื้อผ้า ผมแนะนำให้ใช้เป็นแบบบานเลื่อนนะครับ จะได้ประหยัดพื้นที่หน้าตู้ ไม่ขวางแนวทางเดิน

ด้านในจะมีช่องแสงมาให้พร้อมบานกระทุ้งเปิดรับลมระบายอากาศได้ แต่แอบเสียดายที่ขนาดเล็กไปหน่อย ภายในห้องนี้จะติดแอร์มาให้อีกตัวนะครับ

กลับออกมาที่ห้องนั่งเล่น จะมีแนวทางเดินเข้าไปยังพื้นที่ภายในห้องนะครับ ซึ่งจะเป็นส่วนของห้องน้ำและห้องครัวนั่นเอง แนวทางเดินนี้ขนาดประมาณ 1 เมตร ค่อนข้างกว้าง เดินสะดวก ไม่รู้สึกอึดอัด

ห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องและสุขภัณฑ์สีขาว เน้นโทนสว่าง จะทำให้ดูสะอาดและเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น ใช้อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ของ Hafele ครับ

ได้อ่างล้างหน้าเซรามิคแบบมีเคาน์เตอร์เก็บของด้านล้าง และโถสุขภัณฑ์แบบ 2 ชิ้นมาให้

ด้านในส่วนอาบน้ำจะได้ฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อน 3 ตอน ข้อดีคือทำให้เปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอนนี้นะครับ ช่วยแยกส่วนเปียกส่วนแห้งของห้องนี้ได้เป็นอย่างดี

ส่วนอาบน้ำของห้องนี้ใหญ่มากครับ ประมาณ 1 x 1.35 เมตร ซึ่งเป็นข้อดีมาก ๆ เพราะสามารถวางชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำได้สบาย ๆ ไม่อึดอัด หรือใครที่ชอบอาบน้ำร้องเพลงและเต้นไปด้วยก็เรียกว่าตอบโจทย์เลยครับ ส่วนอุปกรณ์อาบน้ำจะได้ Hand Shower จาก Hafele พร้อมพื้นที่วางอุปกรณ์​อาบน้ำเล็ก ๆ เข้ามุมมาให้ด้วย

ห้องครัวของห้องนี้จะอยู่ด้านใน เป็นครัวเปิดที่ใช้พื้นที่ได้เยอะ ส่วนตัวผมชอบที่เขาแบ่งส่วนพื้นที่ออกจากกันชัดเจน ด้วยขนาดที่ใหญ่และได้ช่องแสงของตัวเอง ทำให้พื้นที่ส่วนนี้จะได้ความเป็นส่วนตัวสูง ในกรณีที่อยากมานั่งอ่านหนังสือหรือทำงานเงียบ ๆ ก็สามารถใช้มุมนี้ได้เช่นกันครับ

พื้นภายในครัวจะเปลี่ยนเป็นกระเบื้องเซรามิค ทำให้ง่ายแก่การทำความสะอาด ขนาดพื้นที่ตรงนี้ประมาณ 1.5 x 2.2 เมตร ซึ่งวางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2-3 ที่นั่งได้แบบในห้องตัวอย่าง แล้วยังเหลือพื้นที่เดินและทำครัวแบบสะดวก ใครอยากจะกั้นเป็นครัวปิดก็สามารถทำได้ครับ

ชุดครัวได้หน้าตาแบบนี้เลย รวมถึง Backsplash ด้านหลังเคาน์เตอร์ด้วย ด้านข้างมีพื้นที่เหลือวางตู้เย็นได้อีก

Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ มันวาวสวยงามทีเดียว ข้อดีคือทนต่อน้ำและความร้อนได้ดี ส่วน Backsplash เป็นกระเบื้องสีขาวจัตุรัสที่ดู Modern เช็ดทำความสะอาดง่ายอ่างล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว มาพร้อมก๊อกน้ำล้างจานโครเมียมทรงสูง ใช้งานง่าย ส่วนชุดเตาไฟฟ้าได้เป็นแบบ 2 หัว พร้อม Hood ยี่ห้อ Hafele แบบต่อท่อออกภายนอกอาคาร

ชั้นบนเป็นตู้เก็บของที่สูงจนถึงฝ้าเพดานเลย หน้าบานเป็นลามิเนตลายไม้สวยงามดี ภายในแบ่งเป็นชั้นๆมาให้เรียบร้อย ตู้มาพร้อม Soft Close เพื่อป้องกันไม่ให้ตู้เกิดเสียงดัง และลดแรงกระแทกก่อนที่หน้าบานจะปิดสนิท รวมถึงมือจับเอียงเล็กน้อยให้ใช้งานได้ถนัดมือ

ด้านในจะมีประตูบานเลื่อน 2 ตอนสำหรับเชื่อมต่อไปยังระเบียง ที่ทำหน้าที่เป็นช่องแสงหลักของโซนนี้ แถมยังช่วยให้ระบายกลิ่นอาหารภายในครัวได้ง่ายด้วย

เป็นระเบียงขนาดประมาณ 2.6 x 1.8 เมตร ที่วางเครื่องซักผ้าและออกไปใช้งานได้สะดวก แต่แนะนำให้ใช้เป็นแบบฝาหน้านะครับ ส่วนด้านบนด้านในจะแขวน Condensing Unit ที่ทางโครงการก็ทำระแนงปิดมาให้เรียบร้อย ดูสวยงาม

สำหรับห้องถัดมาจะเป็น 2 Bedroom ขนาด 53.60 ที่จัดสรรพื้นที่ภายในมาค่อนข้างดีเลย เน้นที่พื้นที่ Common Area ที่โปร่งโล่ง ทำหน้าที่เป็นห้องโถงของบ้าน จากนั้นแยกตามแนวทางเดินออกไปเป็นห้องนอน 2 ห้อง และมีห้องน้ำตรงกลางที่ใช้ร่วมกันทั้งห้อง ข้อดีคือแยกพื้นที่ออกมาได้ค่อนข้างชัดเจน ไม่รบกวนกัน แต่แอบเสียดายที่เป็นห้องมุม แต่เปิดช่องแสงเพียงฝั่งเดียว

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ Foyer หน้าห้อง ทำหน้าที่สำหรับเตรียมตัวออกและเข้าจากห้อง เช่นใส่หรือถอดรองเท้า วางของหรือหยิบของที่ใช้เข้าออกเป็นประจำ เข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นที่ค่อนข้างกว้าง จัดเป็นมุมพื้นที่รับประทานอาหาร ครัวเปิดที่ทำให้ห้องดูกว้าง และพื้นที่นั่งเล่นติดระเบียงด้านใน จากนั้นจึงแยกเข้าไปเป็นแนวทางเดินที่เชื่อมไปยังส่วนพักผ่อนของห้อง โดยจะมีห้องน้ำอยู่ตรงกลาง สามารถใช้งานได้ง่ายจากทุกตำแหน่งภายในห้อง มีห้องนอนเล็กที่จริงๆ แล้วสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้นะครับ และห้องนอนด้านในที่จัดพื้นที่ Walk-in Closet มาให้พร้อมเลย ลองไปชมบรรยากาศกันครับ

พื้นที่แรกจะเป็น Foyer หน้าห้องครับ เป็นมุม ที่ได้ความเป็นส่วนตัวในการเข้าออก ช่วยให้พื้นที่ด้านในได้ความเป็นส่วนตัวไปด้วย (เวลาเปิดเข้ามาแล้วไม่เจอพื้นที่ภายในเลย) ตรงนี้ด้านข้างสามารถวางชั้นวางรองเท้าได้ขนาดใหญ่เลย หรือจะ Built-in เป็นชั้นสูงถึงฝ้าก็วางของได้เยอะเลย เพราะแนวทางเดินมีขนาดกว้างถึงประมาณ 1.8 เมตร

เข้ามาด้านในจะมีวัสดุและลักษณะโดยรวมเหมือนห้องก่อนหน้านี้ครับ จะเจอกับส่วนของ Common Area ก่อน เป็นพื้นที่โถงขนาดใหญ่ที่รวมหลายฟังก์ชันไว้ด้วยกัน ทั้งพื้นที่รับประทานอาหาร ครัวเปิด และพื้นที่นั่งเล่น

ลักษณะเคาน์เตอร์ครัวจะให้มาเหมือนกับห้องที่แล้วเลยครับ เป็นครัวเปิดติดหน้าต่าง ช่วยให้ระบายอากาศได้ง่ายขึ้น แต่จะประกอบอาหารจริงจังก็ต้องระวังกลิ่นและควันจะเข้าไปรบกวนพื้นที่ส่วนใหญ่ในห้องด้วยนะครับ ที่ผมชอบคือได้ช่องแสงด้านข้างที่ยาวไปจนถึงหน้าประตูเลย ทำให้ห้องดูไม่ทึบ และช่วงเวลากลางวันก็แทบจะไม่ต้องเปิดไฟเลยครับ

ด้านข้างจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งจริง ๆ แล้วสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ถึง 6 ที่นั่งเลยครับ หรือครอบครัวไหนอยู่กันไม่เยอะ อาจจะทำเป็นมุมอเนกประสงค์ จัดได้ค่อนข้างหลากหลายเลย

ด้านในอีกส่วนจะเป็นห้องนั่งเล่นริมระเบียง ได้เป็นช่องแสงหลักของพื้นที่โซนนี้อีกจุด

เป็นห้องนั่งเล่นริมระเบียงที่มีขนาดระยะดูทีวีที่ 2 เมตร ทำให้เหมาะกับทีวีขนาดประมาณ 46-50 นิ้วครับ ตรงนี้จะวางโซฟาได้แบบ 3 ที่นั่งเลย ทำให้นั่งได้มากยิ่งขึ้น หรือจะวางเก้าอี้โซฟาแยกอีกตัวก็นั่งได้ 4 คนสบาย ๆ แต่อย่าลืมเผื่อพื้นที่สำหรับเดินเข้าออกระเบียงไว้ด้วยนะครับ

พื้นที่ระเบียงค่อนข้างกว้างเลยครับ มีขนาดประมาณ 2.1 x 1.2 เมตร ซึ่งไม่ต้องวางเครื่องซักผ้าด้วย (วางไว้ใต้ชุดเคาน์เตอร์ครัวแล้ว) ทำให้ออกมาใช้งานตรงนี้ได้เต็มที่ จะจัดเป็นสวน หรือวางชุดโต๊ะกาแฟก็ได้

เดินเข้าไปยังส่วนด้านในของห้อง จะเป็นพื้นที่พักอาศัยครับ โดยส่วนแรกที่เจอจะเป็นห้องน้ำหนึ่งเดียวของห้องนี้

เป็นห้องน้ำเหมือนห้องก่อนหน้านี้เลยครับ ตกแต่งด้วยกระเบื้องและสุขภัณฑ์สีขาว เน้นโทนสว่าง จะทำให้ดูสะอาดและเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น ใช้อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ของ Hafele ได้ฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อน 3 ตอน ส่วนอาบน้ำของห้องนี้ใหญ่เช่นเคย ประมาณ 1 x 1.4 เมตร

ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องนอนเล็ก ที่ได้แนวกระจกใหญ่มาให้ ข้อดีคือเป็นประตูบานทึบ ได้ความเป็นส่วนตัวจากภายนอก ขนาดภายในประมาณ 2.2 x 3.3 สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ (แต่ต้องดันชิดผนัง) แต่จะค่อนข้างแน่น ถ้าวางเตียง 3.5 ฟุต จะได้พื้นที่ด้านข้างสำหรับทำตู้เสื้อผ้าได้ด้วย

ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ ซึ่งเพียงพอกับห้องขนาดนี้ พร้อมบานกระทุ้งเปิดรับลมระบายอากาศได้สบาย ๆ เลย

ส่วนของห้องนอนใหญ่ด้านในจะได้พื้นที่ค่อนข้างกว้าง เลยครับ สามารถวางเตียง 5-6 ฟุต ได้สบาย ๆ โดยที่เหลือพื้นที่รอบเตียงให้เดินได้ ด้านในได้ช่องแสงของห้อง ปลายเตียงติดทีวีแขวนผนังแล้วยังเดินได้ครับ

ส่วนด้านในจะให้พื้นที่ว่างมาสำหรับทำ Walk-in Closet ได้อย่างเต็มที่ ตรงนี้ออกแบบได้หลากหลายครับ สามารถทำเป็นชุดตู้เสื้อผ้าตัว L ตามแนวผนังแล้วยังได้โต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานด้วย

ผนังส่วนนี้ค่อนข้างกว้างครับ จริง ๆ แล้วสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ใหญ่กว่าในห้องตัวอย่างแบบ 2 เท่าเลย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคา

Metris พัฒนาการ-เอกมัย ราคา ณ วันที่ 27 สิงหาคม 2564

  • 1 Bedroom 29.80 – 31.40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.59 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 53.40-61.90 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 4.59 ล้านบาท
  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
  • Hob & Hood แบบต่อท่อออกภายนอก / ของยี่ห้อ Hafele
  • จอง 20,000 บาท
  • ทำสัญญา 30,000 บาท
  • ค่ากองทุน 650 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเล : โครงการ Metris พัฒนาการ-เอกมัย ตั้งอยู่ในทำเลเป็นฝั่งขาเข้าเมืองที่เข้าเมืองง่าย ใกล้จุดขึ้นทางด่วน + ใกล้แยกคลองตัน ที่เป็นจุดตัดของถนนใหญ่ 3 สายสำคัญด้วยกัน คือ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่, ถนนพัฒนาการ และ ถนนรามคำแหง หรือถ้าขึ้นสะพานข้ามแยกคลองตันไปก็ถึงเอกมัย-ทองหล่อ เพียงไม่กี่นาที แต่ถ้าเป็นขากลับบ้านจะต้องไปกลับรถไกลหน่อย ส่วนความอุดมสมบูรณ์ก็ไม่ได้คึกคักมาก พื้นที่รอบ ๆ ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวสูง 2-3 ชั้น แต่ถ้าขยับออกไปหน่อยแถวซอยพัฒนาการ 18 ก็จะมีตลาดและร้านสะดวกซื้อ หรือถ้าขับรถไปก็ใกล้ห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ อย่าง The Mall รามคำแหง, The nine และ Hyper Market ต่าง ๆ ก็ที่ถือว่าสะดวกอยู่นะครับ

การเดินทางโดยใช้รถ : เป็นทำเลที่เหมาะกับการใช้รถยนต์เป็นหลัก เพราะอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่ทำให้เดินทางเข้าเมืองได้ง่าย ส่วนถ้าใครทำงานแถวอยู่แถวเพชรบุรีก็สะดวกเลย ขับขึ้นสะพานข้ามแยกคลองตัน ไปโผล่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ได้เลย ในส่วนของที่จอดรถให้มา 46% รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มากลางๆไม่มากไม่น้อยครับ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ห่าง Airport Link รามคำแหง ประมาณ 800 ม. ซึ่งเป็นระยะที่เดินไปใช้งานได้ยาก แต่ทางโครงการมี Shuttle Service ให้บริการนะครับ แนะนำให้เรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ไปดีกว่าครับ ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ ก็ทำได้ง่ายมาก เพราะอยู่ติดถนนใหญ่ในเมือง เรียกพี่วิน แท็กซี่ รถประจำทาง ได้ง่ายเลย

วัสดุ : ให้มาตามมาตรฐานราคาครับ โดยห้องพักอาศัยที่นี่จะขายในรูปแบบ Fully Fitted ทุกยูนิต ของที่จะได้ก็จะมี ประตู + Digital Door Lock ยี่ห้อ Hafele, ชุดครัว Hob&Hood แบบต่อท่อออกภายนอก ของ Hafele, Top  ครัว หินสังเคราะห์, สุขภัณฑ์ Lavenz และ Hafele, พื้นไม้ลามิเนต 8 มม., กระเบื้องเซรามิคที่ห้องน้ำ ครัว และระเบียง ได้เครื่องปรับอากาศยี่ห้อ TRANE และรอบรับ Home Automation ที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง IP Smart Camera, Smart Plug, Door Sensor และ Smart Switch ยังไงก็เผื่องบในการซื้อเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวสำหรับตกแต่งด้วยนะครับ

การออกแบบ : ตัวอาคารตกแต่งในสไตล์ Mid-Century Modern (MCM) ที่เน้นรูปทรงเลขาคณิตพื้นฐาน พร้อมสีสันที่โดนเด่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งโครงการนี้ใช้เป็นสีเหลืองมัสตาร์ด.. ที่อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลนะครับ แต่ขอพูดถึงส่วนของการจัดผังอาคาร ที่ทำออกมาได้ดี มีทั้งส่วนโถงทางเดิน Single Corridor ที่ได้ความเป็นส่วนตัว และส่วนที่เป็น Double Corridor มาให้เลือก ที่จะพยายามวางประตูให้อยู่เยื้องกัน หรือถ้าห้องไหนวางประตูตรงกัน ก็จะวางผังด้านข้าง เพื่อให้เห็นภายในห้องไม่มาก ได้ความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้บางห้องที่ชั้น 7 ยังได้ Private Garden เพิ่มด้วย ส่วน Facilities อยู่ชั้นล่างแยกสัดส่วนใช้งานชัดเจนดี และตัวโครงการก็มีแนวคิดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ โดยจะแยกพื้นที่ใช้งานอย่างเป็นสัดส่วน มีการจัดการที่ออกแบบมาดี ช่วยให้ไม่รบกวนลูกบ้านท่านอื่นที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ด้วย

ส่วนการออกแบบตัวห้องจะมีผังให้เลือกหลายแบบหลายขนาดเลยครับ เป็นตัวเลือกที่หลากหลาย โดยห้องเริ่มต้นจะมีขนาดใหญ่ (29.80 ตร.ม.) และฝ้าเพดานสูงถึง 2.65 ม. ที่ช่วยทำให้บรรยากาศภายในดูโล่งมากยิ่งขึ้น ภายในห้องมีพื้นที่ใช้งานแต่ละฟังก์ชันกว้างและเป็นสัดส่วน เช่นครัวที่เป็นครัวเปิดแต่ก็แยกพื้นที่ออกไปชัดเจน และรวมพื้นที่รับประทานอาหารไว้ภายในด้วย สามารถจัดการได้ง่าย หรือจะกั้นเป็นครัวปิดก็ได้ หรือส่วนห้องนอนที่ได้แนวกระจกบานใหญ่ เพื่อเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นได้ง่าย แสงเข้าสู่ภายในห้องได้เยอะ ส่วนห้องน้ำที่เน้นเข้าจากห้องนั่งเล่น ทำให้ในช่วงที่มีแขกมาที่ห้อง ก็ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

สาธารณูปโภค : ให้มาครบตามมาตรฐานและจัดสรรออกมาได้ค่อนข้างดี แยกสัดส่วนการใช้งานของลูกบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง และไม่มีได้ดี โดยหลัก ๆ จะมีส่วนกลางที่ชั้น 1 อย่าง พื้นที่สวนอเนกประสงค์, Pet Zone + Jogging Track, Co-Working Space และ Multi Purpose Room ถัดมาที่ชั้น 7 เป็น Main Facility ก็จะมี สระว่ายน้ำ, Fitness, ห้องน้ำแยกชายหญิงพร้อม Steam & Sauna ภายใน และมีสวนพักผ่อนรับวิวมาให้ด้วย โดยจะมีอัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 171 : 1 ค่อนจะหนาแน่น แต่ก็มีลิฟต์ Service แยกให้ใช้งานอีก 1 ตัว เพื่อไม่ให้รบกวนการใช้งานของลูกบ้าน


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 100,000 บาท/ตร.ม., 27 สิงหาคม 2564

  • ทำเล 7.5/10 – ทำเลใกล้ทางด่วน และ Airport Rail Link รามคำแหง แต่มีแหล่งความอุดมสมบูรณ์ไม่มาก
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน เข้าเมืองจากถนนเพชรบุรีตัดใหม่ได้สะดวก ให้ที่จอดรถไม่มากนัก 46% รวมจอดซ้อนคัน
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลาย Airport link 800 ม. และติดถนนใหญ่ทำให้เรียกรถได้ง่าย
  • วัสดุ 8/10 – วัสดุเป็นมาตรฐานเหมาะกับการใช้งาน Fully Fitted
  • แบบ 8/10 – จำนวนยูนิตน้อย ได้ความเป็นส่วนตัว คุมโทนการออกแบบได้ดี แบบห้องเยอะ ฟังก์ชันค่อนข้างดี
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 – มี Facilities เป็นมาตรฐานทั่วไป สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ แต่ลิฟต์น้อยไปหน่อย

  • UPPER CLASS
  • 7.65 / 10.00

Metris พัฒนาการ-เอกมัย เหมาะกับใคร

Metris พัฒนาการ – เอกมัย เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลางที่กำลังมองหาคอนโด High Rise บนถนนใหญ่ใกล้เมืองโซนทองหล่อ-เพชรบุรี ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เน้นการเดินทางเข้าด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักแต่ก็มีรถไฟฟ้า Airport Rail Link เป็นตัวเลือกเสริมในการเดินทาง ต้องการโครงการที่มีจำนวนยูนิตไม่มาก มี Facilities ครบครัน ห้องเริ่มต้นขนาดใหญ่ พร้อมฝ้าเพดานสูง โดยมีงบเริ่มต้นตั้งแต่ 2.59-6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนเริ่มประมาณ 18,000-42,000 บาท ยังไงก็อย่าลืมเผื่องบสำหรับตกแต่งห้องเพิ่มด้วยนะครับ


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะครับ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc