รีวิวโครงการ

รีวิวตึกเสร็จ Metris พัฒนาการ-เอกมัย คอนโด High Rise 29 ชั้น เลี้ยงสัตว์ได้ บนถนนพัฒนาการ ใกล้ทางด่วน จาก Major Development [รีวิวฉบับที่ 2275]

3 กันยายน 2021

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 1959 … ในที่สุดก็เปิดครบทั้ง 3 ตัวแล้วนะคะ กับคอนโดแบรนด์ Metris จาก Major Development ที่วันนี้พามารู้จักกับ Metris พัฒนาการ – เอกมัย เป็นคอนโด High Rise สูง 29 ชั้น ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เป็นรูปแบบคอนโด Pet-Friendly ภายใต้คอนเซปต์ “Mid-Century Modern”  โดยเลือกใช้โทนสีเหลืองมัสตาร์ด ที่ดูสะดุดตาส่วนห้องพักเริ่มต้น 30 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท ไปชมกันเลยค่ะ

Fact @ 8 October 2019

  • Metris Pattanakarn – Ekkamai (เมทริส พัฒนาการ – เอกมัย)
  • บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตท จำกัด
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ติดถนนพัฒนาการ  เขตสวนหลวง
  • ที่ดินประมาณ 2-1-65 ไร่
  • คอนโด High Rise 29 ชั้น 1 อาคาร 341 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 15 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 155 คัน คิดเป็น 46% รวมจอดซ้อนคัน
  • เริ่มก่อสร้าง : มกราคม 2562
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : กุมภาพันธ์ 2564
  • 1 Bedroom 29.80 – 31.40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.5 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 1 Bath 53.40-54.30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 4.5 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 2 Bath 57.10-61.90 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ n/a ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.50 ล้านบาท / หรือตร.ม.ละ 83,892 บาท (ราคาโปรโมชัน)
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 90,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-116-1111

**หากสนใจโครงการเปิด Online Booking วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ตั้งแต่เที่ยงวัน – 4 โมงเย็น ในราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท *ส่วนรอบ Pre-sale จัดวันที่ 16-17 พฤศจิกายน 2562

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.7383746 , 100.6055276
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

Metris พัฒนาการ – เอกมัย ตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการฝั่งขาเข้า ระหว่างซอยพัฒนาการ 12 และ 14 ที่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เพราะอยู่ห่างไปไม่ถึง 230-350 ม.  เท่านั้น แต่กรณีกลับมาโครงการจะค่อนข้างลำบากหน่อย เพราะต้องไปกลับรถไกลทีเดียว รวมถึงเส้นพัฒนาการมีปริมาณรถค่อนข้างหนาแน่นทีเดียว ยังไงจะเดินทางก็ต้องเผื่อเวลากันด้วย > <

ส่วนรูปแบบโครงการเอง เหมาะกับคนที่มีงบประมาณไม่มากนัก แต่ต้องการทำเลที่เดินทางเข้าเมืองได้ง่าย เช่น ถ้าจะเข้าเมืองไปทองหล่อ-เอกมัย ก็ขับขึ้นสะพานข้ามแยกคลองตันไปได้เลย โดยห่างไปประมาณ 1.6 – 2.2 กม. ซึ่งถ้ารถไม่ติดก็แค่ 5 นาทีเอง หรือใครอยากออกไปเส้นสุขุมวิท ก็เลี้ยวซ้ายตรงแยกคลองตัน เข้าถนนสุขุมวิท 71 ที่ไปออกแถว BTS พระโขนงได้เลย รวมถึงยังวิ่งไปเข้ารามคำแหง พระราม 9 ศรีนครินทร์ได้ ต้องบอกเลยว่าสำหรับการเดินทางโดยรถยนต์นับว่าสะดวกอยู่นะ

ต่อมาขอพูดถึงความอุดมสมบูรณ์กันหน่อย ต้องบอกก่อนเลยว่าทำเลนี้ส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยกันมานาน ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวๆ สูง 1-2 ชั้น ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินต้องเดินย้อนไปประมาณ 350 ม. บริเวณปากซอยพัฒนาการ 18 จะมี Family Mart + ตลาด ที่มีร้านอาหารทั้งก๋วยเตี๋ยว, ข้าวราดแกง และอาหารตามสั่งให้บริการอยู่ แต่ต้องบอกก่อนว่าทางเดินเท้าแถวนี้ค่อนข้างเล็กทีเดียว อาจจะเดินได้ไม่สะดวกเท่าไร หรือถ้าขยับออกมานิดต้องข้ามถนนไปในซอยสุขุมวิท 71 ก็จะมีตลาดนัด​ + Tops Daliy ให้เลือกซื้อของเข้าบ้านได้อีกนึงทาง

ส่วนห้างใกล้ๆคงอาศัยเส้นรามฯ ที่ไม่ไกลมาก มีทั้ง The Mall รามคำแหง, Big C หัวหมาก, Foodland รามคำแหง แต่ช่วงนี้มีการปิดถนนทำรถไฟฟ้า ทำให้รถติดสุดๆไปเลย แนะนำให้เลี่ยงออกไปใช้ห้าง The nine บริเวณถนนพระราม 9 หรือขับออกไปทางถนนศรีนครินทร์ ก็จะมีทั้ง Secon, Paradise Park และตลาดรถไฟ ที่มีปริมาณรถน้อยกว่า ส่วนถ้ากลับรถเข้าถนนเพชรบุรี ก็สามารถเลี้ยวไป เอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก RCA ได้ ซึ่งจะมีทั้งร้านค้าร้านอาหารหลากหลายรูปแบบ ให้เลือกใช้งาน รวมไปถึงแถวนี้จะมีมหาวิทยาลัยชื่อดัง อย่าง ม.รามคำแหง และ ABAC อีกด้วย

โครงการห่างจาก Airport Link รามคำแหง ประมาณ 800 ม. ที่เวลาใช้งานต้องเดินข้ามถนนไปพัฒนาการฝั่งขาออก แล้วเดินเลี้ยวขวาเข้าถนนรามคำแหง ซึ่งจะมีทางเชื่อมเข้าตัวสถานีอยู่ที่ Nasa Vegas Hotel นอกจากนี้บริเวณ APL ยังเชื่อมต่อกับท่าเรือคลองแสนแสบ ที่สามารถนั่งเข้าเมืองได้ด้วย สำหรับระยะที่ห่างพอสมควร แนะนำให้เรียกพี่วินไปสะดวกกว่าค่ะ ส่วนรถสาธารณะอื่นๆก็เรียกง่าย เพราะโครงการติดถนนใหญ่ แถมมีป้ายรถเมล์และพี่วินมอเตอร์ไซค์รอให้บริการอยู่ด้านหน้าเลย

สำหรับตัวโครงการได้เปรียบเรื่องขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่ห่างไปประมาณ 230-350 ม. โดยถ้าเลี้ยวซ้ายเข้าด่านพัฒนาการ 1 จะสามารถวิ่งไปทางอ่อนนุช บางนาได้ ส่วนถ้าเลี้ยวขวาเข้าด่านพัฒนาการ 2 จะวิ่งไปทางเลียบทางด่วน เกษตรนวมินทร์ จตุโชติ เชื่อมเข้าทางด่วนวงแหวนกาญจนาได้เลย โดยมีค่าผ่านทางเริ่มต้น 40 บาท ซึ่งถ้าเชื่อมเข้าเมืองต้องเสียเงินเพิ่มด้วยนะคะ > <

โดยเส้นทางในวันนี้ เราขอเริ่มต้นที่ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (มาจากบางนา) > ลงทางด่วนป้ายพัฒนาการ > ลงมาแล้วเป็นทางบังคับเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพัฒนาการ > ขับตามทางไปกลับรถใต้สะพาน > หลังจากนั้นให้วิ่งลอดใต้ทางด่วนไป > ขับตามทางไปเรื่อยๆ > หาที่กลับรถไปฝั่งเดียวกับโครงการ > วิ่งยาวไปจะเห็นโครงการอยู่ซ้ายมือ โดยมีระยะทางประมาณ 3.7 กม. ค่ะ

เริ่มจากบนทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่มาจากโซนบางนา ให้เราลงป้ายพัฒนาการ บริเวณแยกคลองตันไปค่ะ

ลงจากทางด่วนมาแล้ว เป็นทางบังคับเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพัฒนาการ

ขับตามทางมาเรื่อย ให้เราชิดเลนขวาไว้เลย เตรียมตัวกลับรถค่ะ

ขับตรงไปอีกนิดมีจุดกลับรถใต้สะพาน ขับตามคันอื่นๆไปได้เลย

กลับมาอีกฝั่งให้ขับตามทางไป แล้วลอดใต้ทางด่วนไปค่ะ

ขับเลยทางด่วนมา ฝั่งซ้ายมือมีร้านโรงเหล้าตะวันแดง อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโครงการเลย

ขับตามทางมาให้เราวิ่งเลนกลางไว้นะ อย่าเหมือนผู้เขียนที่ไม่รู้ขับชิดขวามา ซึ่งถ้าเราชิดขวาจะเป็นทางลอดข้ามแยก

ขับตรงมาจะมีจุดกลับรถก่อนถึงแยก

ขับตรงมาเรื่อย เจอซอยพัฒนาการ 20 ที่สามารถขับทะลุออกไปสุขุมวิท 77 ได้ ซึ่งภายในมีหมู่บ้านเป็นจำนวนมากค่ะ

ขับตามทางมาผ่านปากซอยพัฒนาการ 18 มี Family Mart + ตลาด ให้บริการอยู่นะ

ขับตรงไปเกือบถึงทางด่วน ฝั่งซ้ายมือจะเห็น Sales Gallery ของโครงการ

สำหรับวันนี้เราจะพาเดินเท้าไปยังบริเวณรอบๆโครงการด้วย เพื่อให้เห็นบรรยากาศโดยรอบของโครงการว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ไปดูกันเลยยย > <

ขอเริ่มจาก Route 1 เดินไปบริเวณแยกใต้ทางด่วนกันค่ะ โดยหน้าโครงการจะเป็นถนนพัฒนาการ ที่มีสะพานข้ามอยู่ด้านหน้าเลย โดยถนนช่วงนี้กว้างประมาณ 6 เลนเลยนะ แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วน ก็ยังมีปริมาณหนาแน่นอยู่ดี

ส่วนบริเวณหน้าโครงการเลย จะมีป้ายรถเมล์ให้บริการด้วย โดยรถที่ขับผ่านจะมีหมายเลข 11, 29, 133, 206 และ 517 ซึ่งคนที่ใช้บริการบ่อยๆน่าจะรู้จักกันดี โดยป้ายรถเมล์ตรงนี้จะมีที่นั่ง+หลังคาคลุมมาให้ ไม่ต้องกลัวร้อนค่ะ

นอกจากนี้ยังมีพี่วินมอเตอร์ไซค์มาให้บริการหน้าโครงการเลย โดยถ้านั่งไป Airport Link รามคำแหง น่าจะจ่ายไม่เกิน 20-30 บาทนะ

เยื้องๆไปหน่อยจะมีจุดกลับรถใต้สะพาน แต่ด้วยความกระชั้นชิด แนะนำให้ไปกลับรถที่แยกคลองตันแทนดีกว่าค่ะ

ติดกับพื้นที่โครงการเลย เป็นร้านอาหารสูง 1 ชั้น ซึ่งเป็นลักษณะร้านแบบปิด ที่จะไม่มีเสียงรบกวนเราในยามค่ำคืน

เดินตรงไปมีจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ถ้าเลี้ยวซ้ายไปบางนา-ตราด, ดินแดง, ดาวคะนอง ส่วนฝั่งขวาไปพระราม 9, รามอินทรา ห่างไปประมาณ 250-350 เมตร โดยเก็บค่าผ่านทางเริ่มต้น 40 บาทค่ะ

ส่วนถ้าใครจะเดินไป Airport Link รามคำแหง ต้องเดินผ่านบริเวณนี้ ซึ่งมีทางม้าลายข้ามมาให้เรียบร้อยค่ะ

มาดูบรรยากาศบริเวณแยกกัน โดยตรงนี้เป็นสี่แยกที่ไม่มีไฟเขียว-ไฟแดงมาให้ เวลาขับรถต้องระวังด้วยนะ

เดินกลับมาอีกฝั่งติดกับที่ขายรถยนต์หรู หรือ Super Car โดยเป็นอาคารสูง 1 ชั้น ซึ่งไม่มีผลกระทบกับวิวของโครงการ

ถัดมามีโรงเรียนอนุบาลบ้านริมคลอง ด้านข้างเป็นซอยพัฒนาการ 14 ที่ด้านในมีสะพานข้ามคลองตัน แต่บริเวณนี้จะเป็นซอยส่วนบุคคลนะคะ

สำหรับทางเดินบริเวณค่อนข้างเล็ก เวลาเดินจะค่อนข้างลำบากนิดหน่อย เดินมองทางกันด้วยนะ เป็นห่วงงง ^^

วิวบนสะพานฝั่งที่หันไปทางโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นตึกเดี่ยวๆ ที่บรรยากาศไม่คึกคักมากส่วนอีกฝั่งเป็นลักษณะตึกแถวเรียงยาว ซึ่งชั้นล่างทำเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ดูแล้วคึกคักกว่า รวมถึงมีตลาด+ร้านสะดวกซื้อ แต่มีระยะห่างกับโครงการพอควรเลย

สำนักงานขายของโครงการจะอยู่ที่ริมถนนพัฒนาการฝั่งขาเข้า จะเห็น Sales Gallery อยู่ทางซ้าย ให้ชะลอความเร็ว เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการค่ะ

ภายในมีพื้นที่จอดรถมาให้สำหรับผู้มาชมโครงการ แต่จะมีจำนวนไม่เยอะมากนะคะ ส่วนด้านหลังเป็นตำแหน่งจริงของโครงการ ที่ปัจจุบันเริ่มก่อสร้างไปแล้วนะคะ

ภายในจัดที่นั่งสำหรับลูกค้าและผู้มาเยี่ยมชมโครงการ มีโมเดลภาพรวมของโครงการ และมีห้องตัวอย่างให้ดู 1 แบบ คือ 1 Bedroom ที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการ

การตกแต่งภายในตามคอนเซ็ปต์ Mid-Century Modern ที่เลือกเฟอร์นิเจอร์เส้นสายรูปทรงเลขาคณิตพื้นฐาน ให้ดูเรียบง่าย โดยนิยมใช้ในยุค Twentieth Century ซึ่งเป็นเอกลักษณ์น่าสนใจดี รวมถึงมีเคาน์เตอร์ไม้ ที่ดูคลาสสิกดีนะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

โครงการ Metris พัฒนาการ – เอกมัย ติดถนนพัฒนาการ ทางเข้า-ออกอยู่ทางทิศเหนือ สภาพแวดล้อมโดยรอบเป็นพื้นที่แนวราบและอาคารสูงประมาณ 1-2 ชั้น โดยห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 7 ขึ้นไป จึงไม่มีปัญหาในเรื่องของการถูกบังวิว ส่วนทางทิศตะวันออกที่มีทางด่วน + ตึก High Rise ก็มีระยะห่างกันพอสมควร ไม่ได้บังวิวกันโดยตรงค่ะ

  • ทิศเหนือ : ติดกับ ถนนพัฒนาการ
  • ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ Showroom ขายรถยนต์ เป็นอาคารสูง 1 ชั้น
  • ทิศใต้ : ติดกับ คลองตัน ถัดไปเป็นที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบสูง 2-3 ชั้น
  • ทิศตะวันตก : ติดกับ ที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบสง 2-3 ชั้น

ภาพ Drone จากประมาณชั้นที่ 13 ของโครงการค่ะ

ทิศเหนือ – ติดกับถนนพัฒนาการ ที่มีสะพานด้านหน้าสูงเท่ากับอาคาร 2 ชั้น ซึ่งไม่มีผลกระทบกับโครงการ เนื่องจากชั้นพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 7 ค่ะ

ภาพ Drone จากประมาณชั้นที่ 13 ของโครงการค่ะ

ทิศตะวันออก – ติดกับ Showroom ขายรถยนต์สูง 1 ชั้น ถัดไปเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ ส่วนอาคารสูงก็อยู่ห่างไกลพอสมควรเลย

ภาพ Drone จากประมาณชั้นที่ 13 ของโครงการค่ะ

ทิศใต้ – ติดกับคลองตัน ถัดไปเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ เนื่องจากย่านนี้เป็นชุมชนเก่า ที่มีคนอาศัยค่อนข้างหนาแน่น ทำให้ไม่มีตึกสูงขึ้นได้วิวโล่งเลยทีเดียว

ภาพ Drone จากประมาณชั้นที่ 13 ของโครงการค่ะ

ทิศตะวันตก – ติดกับที่อยู่อาศัยแนวราบสูง 2-3 ชั้น ถัดไปมองเห็นคอนโด ที่ไกลพอสมควรทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเลย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • A-Link รามคำแหง ~800 ม.
  • ย่านเอกมัย ~1.6 กม.
  • ย่านทองหล่อ ~2.2 กม.
  • เดอะมอลล์ รามคำแหง ~2.2 กม.
  • Big C หัวหมาก ~2.7 กม.
  • Donki Mall Thonglor ~ 3.1 กม.
  • มหาวิทยาลัยรามคำแหง ~ 3.4 กม.
  • โรงเรียนสาธิตรามคำแหง ~ 3.5 กม.
  • สนามราชมังคลากีฬาสถาน ~ 3.6 กม.
  • The Nine พระราม 9 ~3.9 กม.

เจาะลึกตัวโครงการ

ก่อนจะเข้าไปชมรายละเอียดของโครงการ เราจะขอเกริ่นเกี่ยวกับแบรนด์ Metris กันสักเล็กน้อย ซึ่งเป็นแบรนด์ของทาง Major Development ที่เปิดตัวตั้งแต่ปลายปี 2017 ที่มีด้วยกันทั้งหมด 3 โครงการ โดยคำว่า Metris เกิดจากการผสมผสานของคำว่า Retro + Modernist  นิยามถึงกลุ่มคนที่หลงใหลการออกแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ Mid-Century Modern (MCM) ที่ผสานความคลาสสิค+ร่วมสมัยเข้ากันได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์ lifestyle คนเมืองรุ่นใหม่ ที่รักอิสระ ชอบความเรียบง่าย โดดเด่นด้วยสีสัน บนสามทำเลใจกลางเมืองและย่านธุรกิจใหม่

ถ้าสนใจรีวิวตัวอื่นๆคลิกตามชื่อได้เลยค่ะ

ภาพจำลองโครงการ Metris พัฒนาการ – เอกมัย ออกแบบในสไตล์ Mid-Century Modern (MCM) เน้นการลดทอนให้เรียบง่าย และโดดเด่นมากที่สุด พร้อมใช้รูปทรงเลขาคณิตพื้นฐาน ดูสวยงามดี รวมถึงสะดุดตาด้วยสีตึก.. สีเหลืองมัสตาร์ด > < เป็นโทนสีที่เราไม่ค่อยได้เห็นว่าใช้กับอาคารสักเท่าไร ทำให้ดูเท่ไปอีกแบบ เมื่อสร้างเสร็จแล้วน่าจะเป็นอาคารที่เด่นทีเดียว เราอยากเห็นตึกจริงแล้วสิ ว่าจะหน้าตาออกมาเป็นแบบไหน ^^

มาดูภาพรวมของโครงการกันก่อนนะคะ Metris พัฒนาการ – เอกมัย เป็นคอนโดใหม่ในย่านพัฒนาการ ที่อยู่ระหว่างซอยพัฒนาการ 12 และ 14 ลักษณะตัวอาคารสูง 29 ชั้น บนที่ดิน 2 ไร่กว่า ด้วยจำนวน 341 ยูนิต ที่ได้ความเป็นส่วนตัว ถ้าเทียบกับโครงการในละแวกนี้ รวมถึงเป็นคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ มีการจัด Pet Zone เพื่อมารองรับการใช้งานให้เป็นสัดส่วนชัดเจน Facilities ได้เป็นมาตรฐานโครงการทั่วไป ที่ชั้น 1 และ 7 ส่วนชั้นพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 7 ที่พ้นระยะรอบข้างแล้ว ทำให้รับวิวโล่งได้เต็มที่ โดยเริ่มต้นขนาดใหญ่ 30 ตร.ม.

  • ชั้น 1 : Lobby + Co-working Space + BBQ Garden + พื้นที่อเนกประสงค์ + Pet Zone + Jogging Track
  • ชั้น 2-6 : เป็นพื้นที่จอดรถ ประมาณ 46% รวมจอดซ้อนคัน
  • ชั้น 7 : Facilities + ห้องพักอาศัยเพียง 11 ยูนิต/ชั้น
  • ชั้น 7-29 เป็นห้องพักอาศัยเต็มพื้นที่สูงสุด 15 ยูนิต/ชั้น

ในส่วน Master Plan ลักษณะการวางอาคารกับที่ดินคือ วางอาคารตรงกลางและล้อมรอบด้วยถนนภายในโครงการ ที่เดินรถทางเดียวตามลูกศรสีแดง โดยพื้นที่จอดรถสำหรับ Visitor จะอยู่ใต้อาคาร นอกจากด้านหน้าโครงการมีพื้นที่สวนหย่อม ที่เป็นลานกว้างๆสามารถจัดกิจกรรมได้ รวมถึงมีโซน BBQ Garden ที่มีอ่างล้างจานและเตาไฟฟ้าบริการอีกด้วย ส่วนด้านหลังเป็นโซนสัตว์เลี้ยง ที่โครงการมีข้อกำหนดให้เลี้ยงมาขนาดไม่เกิน 15 kg. ที่โตเต็มวัยแล้ว โดยจะได้ห้องละ 1 ตัวเท่านั้น เพื่อป้องกันความวุ่นวายและดูแลจัดการง่าย พร้อมทั้งมี Jogging Track ยาว 80 ม. ให้วิ่งรอบๆได้พอเหงื่อออกได้กำลังดี

กลับมาที่จุด Drop off มีโซน Co-working Space ที่มีทางเดินรถยนต์ล้อมรอบ ซึ่งเวลาใช้งานต้องเดินข้ามถนน ยังไงต้องเดินระวังๆกันด้วยนะ ส่วนภายในอาคารมี Lobby Lounge พร้อมชุดที่นั่งมาให้ และมีห้อง Private Multi-purpose เพื่อคนที่อยากได้ความเป็นส่วนตัว ก่อนเข้าโถงลิฟต์ มีพื้นที่ Mailbox ของลูกบ้าน ส่วนลิฟต์มีทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนประมาณ 171:1 ที่ถือว่าหนาแน่นทีเดียว ในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจจะรอลิฟต์นานหน่อยนะ ซึ่งจะมีลิฟต์ 1 ตัวเท่านั้น ที่พาสัตว์เลี้ยงขึ้น-ลงได้ เพื่อลูกบ้านบ้างคนที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ค่ะ

เส้นทางการเดินรถจะเป็นแบบ One Way เพื่อให้การสัญจรง่ายขึ้น ทางเข้า-ออกมีไม้กั้นกระดกแยกจากกัน และกั้นกลางด้วยป้อมรปภ. ที่ให้บริการตลอด 24 ชม. + CCTV เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของลูกบ้าน รอบๆโครงการเดินรั้วต้นไม้สูง ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นมากขึ้น โซนด้านหน้ามีพื้นที่อเนกประสงค์ + BBQ Garden ให้ใช้งาน ส่วนจุด Drop Off มีพื้นที่ Co-working Space แยกใช้งานกับตัวอาคารค่ะ

ทัศนียภาพจำลองบริเวณซุ้มประตูทางเข้า-ออก ที่ออกแบบเส้นสายเริ่มตั้งแต่พื้นจนขึ้นมาถึงตัวอาคาร ที่ทำให้รู้สึกต่อเนื่องดี

ทัศนียภาพจำลองบริเวณพื้นที่ส่วนหย่อมด้านหน้า ที่เป็นลานกว้างๆ สามารถจัดกิจกรรมได้ รวมถึงเตรียมพื้นที่ BBQ Garden มาให้ยืมสถานที่ใช้งานได้อีกด้วย

บริเวณโซนด้านหลัง เป็นพื้นที่ Pet Zone ที่สามารถพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นได้

ทัศนียภาพจำลองบริเวณ Pet Zone ที่พาน้องหมา น้องแมวมาวิ่งเล่นได้ พร้อมรั้วล้อมรอบ 2 ชั้น ที่กั้นเป็นสัดส่วนจากถนนทำให้สัตว์เลี้ยงสามารถวิ่งเล่นได้อย่างปลอดภัย รวมถึงมีพื้นที่ Jogging Track ยาว 80 ม. ที่พอวิ่งเหงื่อออกได้อยู่นะ

ทัศนียภาพจำลองบริเวณ Drop off ที่ด้านข้างมีพื้นที่ Co-working Space ซึ่งเวลาใช้งานต้องข้ามถนนตลอด เดินระวังๆกันด้วยนะ

ทัศนียภาพจำลองบริเวณ Co-working Space ที่จัดชุดที่นั่งมาให้หลากหลายแบบ เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน พร้อม Free WIFI ให้บริการด้วยนะคะ

ทัศนียภาพจำลองบริเวณ Lobby Lounge ที่มีฝ้าแบบ Double Volume ทำให้ภายในดูโปร่งโล่ง พร้อมกระจกสูงมองเห็นสวนหย่อมได้ ภายในจัดวางโซฟามาให้หลายจุด

ขึ้นมาที่ชั้น 7 เป็น Main Facilities ของโครงการที่มีสระว่ายน้ำแบบ Outdoor อยู่ทางทิศเหนือ พร้อมเก้าอี้ Day Bed ไว้นอนอาบแดด ถัดเข้าไปในอาคารมีส่วน Fitness ที่รายล้อมด้วยกระจก ทำให้ได้รับแสงและมองวิวได้เต็มที่ มีห้องน้ำแยกชาย-หญิงและตู้ Locker ให้บริการด้วยนะ ส่วนทางทิศตะวันตกก็มีเก้าอี้มาให้นั่งดูพระอาทิตย์ตกดิน โดยจะมีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ซึ่งตรงนี้จะไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามานะ

สำหรับห้องพักอาศัยชั้นจะมีเพียง 11 ยูนิต/ชั้น โดยมีประตูกั้นแยกการใช้งานชัดเจน โดยชั้นนี้จะมียูนิตพิเศษคือห้องพักที่มี Private Garden อยู่ 4 ห้องฝั่งทิศเหนือและใต้ ที่ไม่นับพื้นที่ลงในโฉนด เหมือนได้พื้นที่เพิ่มไปฟรีๆเลย แต่ของจริงได้เป็นพื้นปูนขัดมันเฉยๆนะ ถือว่าเป็นห้องที่มี Value สูงของโครงการเลย ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมถามโครงการอีกทีนะ ^^

ส่วนตัวชอบห้องในโซนเส้นปะสีแดงที่ได้ทางเดินแบบ Single Corridor ที่ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม ทำให้คนเดินผ่านน้อย ได้ความเป็นส่วนตัว ส่วนโซน Double Corridor แม้จะมีห้องฝั่งตรงข้าม แต่โครงการก็แก้จุดนี้ด้วยการวางประตูทางเข้าอยู่เยื้องกัน ทำให้มองไม่เห็นพื้นที่ภายในห้องพัก / ทางเดินมีช่องแสง 1 จุด ที่ต้องเปิดไฟส่วนกลางเพิ่มตลอดทั้งวัน อาจจะส่งผลกับค่าส่วนกลางเราในอนาคตได้ นอกจากนี้ยังซ่อนห้องขยะเข้าไปด้านในเรียบร้อยค่ะ

สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 15.8 x 5.75 ม. เป็นระยะที่ว่ายน้ำได้กำลังดี แต่โครงการนี้ไม่มีสระเด็กแยกมาให้นะ ด้านข้างมี Day Bed ให้นอนอาบแดดได้ด้วย ส่วนฝั่งทิศตะวันตกมีที่นั่งมาให้ดูพระอาทิตย์ตกดินอีกด้วย

ทัศนียภาพจำลองบริเวณ Swimming Pool แบบ Infinity Edge Pool ที่ทำให้มองวิวได้เต็มที่ โดยเป็นสระแบบ Outdoor เวลาฝนตกอาจจะไม่เหมาะใช้งานค่ะ

ส่วนฝั่งทิศตะวันตกจัดที่นั่งมาให้นั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกอีกด้วย โดยมีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ให้เลือกใช้งาน

ทัศนียภาพจำลองบริเวณ Fitness พร้อมกระจกบานใหญ่สูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้า ที่หันออกชมวิวนอกอาคาร ภายในมีทั้งเครื่องเล่นแบบ Cardio และ Weight Training ครบครัน

กลับมาดูห้อง Typical Floor Plan กัน โดยเป็นห้องพักเต็มพื้นที่ชั้น 8-29 ที่ตำแหน่งเหมือนกัน มีจำนวนสูงสุดที่ 15 ยูนิต/ชั้น ที่ถือว่าไม่มาก โดยส่วนใหญ่เน้นเป็นห้อง 1 Bedroom หันออกทิศตะวันตกและตะวันออก ที่โดนแดดโดยตรง ซึ่งอาจจะร้อนอยู่บ้างในช่วงบ่ายๆ

สำหรับห้องที่เราสนใจคือตำแหน่งห้องเบอร์ 01,03 ที่ผนังห้องไม่ติดกับเพื่อนบ้าน ได้ความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ตำแหน่งห้องเบอร์ 05 เป็นห้องมุมและห้องหน้ากว้าง ทำให้มองเห็นวิวได้ 2 ทิศทาง และรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ส่วนตำแหน่งห้องเบอร์ 02 เป็นฝั่งที่โดนบังคับวิว เนื่องจากมีห้องยื่นบังวิวทางทิศใต้อยู่ แต่ก็แลกกับความเป็นส่วนตัวที่ผนังห้อง 1 ฝั่งไม่ติดกับเพื่อนบ้าน สุดท้ายตำแหน่งห้องเบอร์ 04 เป็นห้องมุมที่มองวิวได้ฝั่งเดียว แอบเสียดายนิดหน่อยนะ > <

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1

  • Lobby Lounge
  • Co-working Space
  • Multi-purpose Room
  • Pet Zone
  • Jogging Track
  • สวนหย่อม + BBQ Garden

  • ชั้นที่ 7
    • สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 15.8 x 5.75 เมตร ลึก 1.20 เมตร
    • ฟิตเนส
    • Seating Area

  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 171 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 155 คันคิดเป็น 46% รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card Access

  • Product Walkthrough

    ห้องพักอาศัยของโครงการ มีให้เลือกตั้งแต่แบบ 1 Bedroom ขนาด 29.80 – 31.40 ตร.ม. และ 2 Bedrooms ขนาด 53.40 – 61.90 ตร.ม. รูปแบบการขายของที่นี่จะเป็นแบบ Fully Fitted คือ ให้ให้เฟอร์ฯ มาบางส่วน เช่น เคาน์เตอร์ครัว Hob&Hood, วัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำ และ Digital Door Lock ของ Hafele ซึ่งก็เป็นรูปแบบการขายส่วนใหญ่ของโครงการระดับเดียวกันในทำเลนี้นะคะ

    ห้องตัวอย่างห้องแรกที่จะพาไปดูคือ ห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.5 ตร.ม. เปิดเข้ามาเป็นพื้นที่ Common ยาวจนถึงระเบียง โดยมีทั้งส่วนครัวเปิด โต๊ะทานข้าว และพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งไม่ได้มีประตูกั้นแยก ทำให้แสงส่องเข้ามาถึงบริเวณครัวเลยนะ แต่ติดนิดนึงที่ได้เป็นครัวเปิด  เน้นทำอาหารเบาๆ ไม่เหมาะทำอาหารที่มีกลิ่นแรงๆ แต่ก็สามารถติดบานเลื่อนเพิ่มทำเป็นครัวปิดได้นะ ถัดเข้าไปด้านในสามารถวางโซฟา 2 ที่นั่ง + โต๊ะทานข้าว 2 ที่นั่งกำลังดี ส่วนระเบียงก็เตรียมพื้นที่วางเครื่องซักผ้า + แขวน Condensing Unit มาให้เรียบร้อย ถัดมาที่ห้องนอนอยู่ริมอาคาร ทำให้รับแสง+นอนชมวิวไปด้วยได้ ขนาดห้องเหมาะวางเตียง 5 ฟุตกำลังดี ส่วนตำแหน่งห้องน้ำจะเข้าทาง Living ถ้ามีแขกมาห้อง ก็ไม่ต้องเข้าห้องน้ำผ่านห้องนอนก่อน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเรานะคะ

    ประตูหน้าห้องได้บานไม้ปิดผิวด้วยลามิเนต มือจับของจริงเป็น Digital Door Lock ยี่ห้อ Hafele ส่วนธรณีประตูระดับเท่ากับทางเดินด้านนอกเลย ซึ่งฝุ่นจากภายนอกอาจจะลอดเข้ามาในห้องได้ แนะนำให้ติดผ้าดันฝุ่นตรงช่องว่างด้านล่างประตู ก็สามารถกันฝุ่นเข้าห้องได้ดีพอสมควรแล้วค่ะ

    เปิดประตูเข้ามาในห้องเจอกับพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ ที่ยาวจนถึงระเบียง ทำให้แสงส่องเข้ามาจนถึงด้านในเลยนะ ความสูงของฝ้าเพดาน 2.65 ม. ส่วนผนังของจริงเป็นฉาบเรียบทาสีขาวค่ะ

    บริเวณประตูมี Stopper ป้องกันเปิดประตูกระแทกกับผนังค่ะ

    พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ที่ทนทานต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดี แต่จะไม่ทนความชื้น เวลาใช้งานต้องระวังน้ำหกลงไป แล้วอาจจะทำให้พื้นบวมได้ โดยหลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้วมีระยะใช้งานกว้างถึง 1.83 ม. ที่ใช้งานหลายๆคนพร้อมกันได้เลย

    ชุดครัวได้หน้าตาแบบนี้เลย รวมถึง Backsplash ด้านหลังเคาน์เตอร์ด้วย ด้านข้างมีพื้นที่เหลือวางตู้เย็นได้อีก โดยมีพื้นที่กว้างประมาณ 88 ซม. วางเตียง 10-14 คิวบิกได้สบายๆ

    ชั้นบนเป็นตู้เก็บของที่สูงจนถึงฝ้าเพดานเลย หน้าบานเป็นลามิเนตลายไม้สวยงามดี ภายในแบ่งเป็นชั้นๆมาให้เรียบร้อย

    ตู้มาพร้อม Soft Close เพื่อป้องกันไม่ให้ตู้เกิดเสียง และลดแรงกระแทกก่อนที่หน้าบานจะปิดสนิท รวมถึงมือจับเอียงเล็กน้อยให้ใช้งานได้ถนัดมือค่ะ

    Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ มันวาวสวยงามทีเดียว ข้อดีคือทนต่อน้ำและความร้อนได้ดี ส่วน Backsplash เป็นกระเบื้องสีขาวจัตุรัสที่ดู Modern เช็ดทำความสะอาดง่าย

    อ่างล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว ขนาด 39 x 34 ซม. มาพร้อมก๊อกน้ำล้างจานโครเมียมทรงสูง ใช้งานง่าย ส่วนชุดเตาไฟฟ้าได้เป็นแบบ 2 หัว พร้อม Hood ยี่ห้อ Hafele แบบหมุนเวียนออกภายนอกอาคาร

    ชุดครัวด้านล่างฝั่งซ้ายมือจะเป็นตู้ใต้อ่างล้างจาน ที่เก็บของขนาดใหญ่ได้ ส่วนฝั่งขวามีลิ้นชักให้เก็บช้อน-ส้อมได้ เป็นตำแหน่งใช้งานง่าย พร้อมช่องว่างวางไมโครเวฟค่ะ

    ฝั่งตรงข้ามเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ ที่ขวามือมีพื้นที่เหลือวางตู้เก็บรองเท้าได้ ซึ่งค่อนข้างสำคัญสำหรับคนอยู่คอนโดเลย เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นเลอะภายในห้อง รวมถึงช่วยเก็บกลิ่นได้อีกด้วย

    ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้งเป็นสัดส่วนชัดเจน โดยบริเวณพื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นมาให้ป้องกันน้ำไหลออกมาด้านนอก

    พื้นและผนังเป็นกระเบื้องเซรามิค เช็ดทำความสะอาดง่าย โดยพื้นที่หน้าโถสุขภัณฑ์กว้างประมาณ 95 ซม. มีระยะการใช้งานกว้างเลย

    ส่วนกระจกเป็นทรงกลมแบบนี้เลย ที่ดู Modern ดีนะ

    ชุดอ่างล้างหน้ายี่ห้อ Lavenz ขนาดประมาณ 50 x 20 ซม. พร้อมช่องวางของใต้อ่าง ขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะวางผ้าเช็ดตัวได้กำลังดีค่ะ

    โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Hafele มาพร้อมสายชำระที่ผนังด้านหลัง ส่วนที่ใส่กระดาษทิชชู่อยู่ผนังด้านข้าง เป็นตำแหน่งที่เหมาะใช้งานค่ะ

    สายชำระสแตนเลสจับถนัดมือ มาพร้อมที่ใส่กระดาษชำระแบบแกนเสียบ ไม่มีที่กันน้ำมาให้ ต้องระวังเปียกกันด้วยนะ

    พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นมาให้ โดยเป็นลักษณะบานเลื่อน 3 ตอนสีดำ ที่ดู Modern ดี พร้อมกระจก Tempered Glass ที่แข็งแรงกว่ากระจกทั่วไปค่ะ

    พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.35 x 0.90 ซม. + ขอบสูง 9 ซม. ป้องกันน้ำไหลออก ภายในมีจุดระบายน้ำอยู่ที่มุม ส่วนฝักบัวแบบ Hand Shower ที่ปรับการใช้งานได้หลากหลาย พร้อมจุด Junction ไว้ใส่เครื่องทำน้ำอุ่นเรียบร้อย รวมถึงมีพื้นที่ให้ติดชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำได้

    ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 2 ดวง และพัดลมดูดอากาศ

    ถัดมาเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ติดกับระเบียง โดยห้องนี้ได้แอร์ 2 ตัวยี่ห้อ TRANE

    โดยมีระยะทีวีกว้างประมาณ 1.77 ม. ซึ่งขนาดทีวีที่เหมาะกับระยะสายตาอยู่ที่ประมาณ 40″- 46″ กำลังดี และพอมีพื้นที่เหลือพอวางโต๊ะกลางเล็กๆได้อีกด้วย

    ส่วนความกว้างของมุมนี้วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งหรือ Love Seat และมีพื้นที่เหลือวางโต๊ะทานข้าว 2 ที่นั่งได้อีกด้วยนะ แยกใช้งานเป็นสัดส่วนดี

    บริเวณเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight มาให้ นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เซาะร่องสูงขึ้นไปมากกว่า 2.65 ม. แต่จะไม่มีไฟซ่อนมาให้นะ

    ระเบียงกั้นด้วยประตูอลูมิเนียมสีดำ 2 ตอน + กระจกเขียวตัดแสง ที่ช่วยป้องกันแสง UV ได้ระดับ รวมถึงเลื่อนเปิดใช้งานได้ 2 ฝั่ง ที่เลือกใช้งานได้ตามใจชอบ

    พื้นที่ระเบียงขนาด 2.30 x 0.80 ม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 ซม. ที่สามารถนำเสื้อผ้ามาตากบริเวณนี้ได้สบายๆเลย

    ราวระเบียงเป็นระแนงเหล็กสีดำสูงจากพื้น 1 ม. ฝั่งขวามีระแนงเหล็กสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้า เพื่อซ่อนคอมเพรสเซอร์แอร์จากรูปด้านอาคารภายนอก

    มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า+ ปลั๊กไฟแบบกั้นน้ำให้ใช้งาน ของจริงแขวน Condensing Unit มาให้ ซึ่งจะหันลมร้อนออกด้านนอกอาคาร ส่วนไฟเป็นแบบติดด้านข้างค่ะ

    ต่อไปมาดูห้องนอนกันค่ะ ทางเข้าอยู่ด้านข้างชุดวางทีวี ที่ได้เป็นประตูบานทึบ ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่ากระจกบานเลื่อนค่ะ

    ห้องนอนเหมาะวางเตียงขนาด 5 ฟุต กำลังดีเลย มีพื้นที่เหลือเดินรอบเตียงได้กำลังดี พร้อมหน้าต่างที่รับแสงธรรมชาติ และวิวภายนอกได้

    หลังจากวางเตียงแล้วมีพื้นที่เหลือไม่มากนัก ถ้าใครชอบดูทีวีในห้องแนะนำให้ติดเป็นทีวีแบบแขวน เพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานค่ะ

    เมื่อวางเตียงขนาด 5 ฟุตไปแล้ว จะเหลือพื้นที่ปลายเตียงประมาณ 53 ซม. ซึ่งสามารถเดินได้กำลังดี ส่วนฝั่งที่ติดหน้าต่างเหลือประมาณ 87 ซม. ที่ค่อนข้างกว้าง สามารถวางโต๊ะวางเตียงได้สบายๆ เหมาะกับคนที่ชอบเล่นมือถือก่อนนอน เพราะพอวางบนเตียงเราชอบทำตกพื้นบ่อยๆ อิอิ

    กระจกเป็นบาน Fixed พร้อมบานกระทุ้ง 1 บาน ที่ระบายอากาศภายในห้องได้ดี โดยจะได้เป็นขอบอลูมิเนียมสีดำ + กระจกตัดสีเขียวตัดแสง ที่ป้องกัน UV ได้ระดับนึง

    ส่วนอีกฝั่งมีพื้นที่เหลือประมาณ 2.64 x 0.55 ม. ที่โครงการทำเป็นตู้เสื้อผ้า + ชั้นวางของมาให้ดูระยะการใช้งาน ซึ่งเราสามารถดูเป็นไอเดียได้นะ

    สำหรับพื้นที่ด้านข้างฝั่งด้านใน เหลือพื้นที่ประมาณ 1.03 ม. ที่สามารถวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้

    บริเวณฝ้าเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight มาให้ และยังมีเซาะร่องสูงขึ้นไปเหมือนห้องนั่งเล่น แต่ไม่มีไฟซ่อนมาให้นะ

    สำหรับ 1 Bedroom มีการจัด Layout 2 แบบ โดยเป็นเป็นลักษณะแปลนห้องที่ Living Area ไม่ได้วิว แต่ก็ไม่ได้มืดทึบ เพราะยังได้แสงสว่างที่มาจากพื้นที่ห้องนอนอยู่ โดยห้องนอนอีกฝั่งสามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าได้ แต่อย่าลืมพื้นที่วางทีวีด้วยนะ พื้นที่ครัวเปิดติดกับระเบียง ที่สามารถระบายกลิ่นออกด้านนอกได้ระดับนึง รวมถึงมีพื้นที่เหลือวางโต๊ะทานข้าวแบบ 2 ที่นั่งได้ด้วย ส่วนตำแหน่งห้องน้ำจะเข้าทาง Living ถ้ามีแขกมาห้อง ก็ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนก่อน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเราค่ะ

    ถัดมาเป็นห้องแบบ 2 Bedrooms 1 Bath 53.40-54.30 ตร.ม. เป็นลักษณะห้องหน้ากว้าง ที่เห็นวิวได้ 2 ทิศทาง เข้ามาเป็นห้อง Common Area ขนาดใหญ่ ยาวจนถึงระเบียง วางโซฟาขนาดใหญ่ได้ + โต๊ะรับประทานอาหาร 4 ที่นั่งได้สบายๆ ถัดเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่ครัวเปิด ที่เราสามารถกั้นเพิ่มเป็นห้องครัวปิดได้ ส่วนห้องน้ำมี 1 ห้อง ที่ต้องใช้รวมกันทั้งหมด ซึ่งเวลาเร่งด่วน อาจจะใช้งานไม่ทันกันนะ / ห้องนอนเล็กวางเตียง 3.5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้า + โต๊ะทำงานได้ แต่สังเกตจะมีพื้นที่เหลือปลายเตียงไม่มากนักนะ ส่วนห้องนอนใหญ่วางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ พร้อมมีพื้นที่เหลือทำ Walk in Closet ที่ดูเป็นสัดส่วนชัดเจนดี

    นอกจากนี้ภายในห้องพักอาศัยได้เตรียมสายรองรับ Home Automation มาให้ โดยสามารถรองรับได้ทั้ง

    • Smart Switch : เป็นแบบระบบสัมผัส ที่ควบคุมสวิตซ์เปิด-ปิดได้ผ่าน App มือถือ
    • IR : เป็นเครื่องกระจายสัญญานไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ( Home Automation)
    • Door Sensor : มีเสียงร้องเวลามีคนเปิด-ปิดประตู
    • Smart Plug : เปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าธรรมดา ให้สั่งงานเปิด-ปิดได้
    • IP Smart Camera : ตรวจความเคลื่อนไหวภายในห้อง + พูดคุยกับคนในห้องผ่านโทรศัพท์ได้

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 8 October 2019

    • เนื่องจากทางโครงการยังไม่ได้เปิดขายอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่มีรายละเอียดราคาทั้งหมด มีเฉพาะราคาเบื้องต้น

    • 1 Bedroom 29.80 – 31.40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.5 ล้านบาท
    • 2 Bedrooms 1 Bath 53.40-54.30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 4.5 ล้านบาท

    • Fully Fitted
    • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.65 เมตร
    • Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
    • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Hafele
    • จอง n/a บาท
    • ทำสัญญา n/a บาท
    • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
    • ค่ากองทุน n/a บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเล : โครงการตั้งอยู่ในทำเลเป็นฝั่งขาเข้าเมืองที่เข้าเมืองง่าย ใกล้จุดขึ้นทางด่วน + ใกล้แยกคลองคัน ที่เป็นจุดตัดของถนนใหญ่ 3 สายด้วยกัน คือ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่, ถนนพัฒนาการ และ ถนนรามคำแหง หรือถ้าขึ้นสะพานข้ามแยกคลองตันไปก็ถึงเอกมัย-ทองหล่อ เพียงไม่กี่นาทีแต่อาจจะเสียเปรียบเวลากลับบ้าน ที่ต้องไปกลับรถไกลทีเดียวค่ะ / ความอุดมสมบูรณ์ไม่คึกคักมาก ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวๆ 2-3 ชั้น แต่ถ้าขยับออกไปหน่อยแถวซอยพัฒนาการ 18 ก็จะมีตลาดและร้านสะดวกซื้อ หรือถ้าขับรถไปก็ใกล้ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆอย่าง The Mall รามคำแหง, The nine และ Hyper Market ต่างๆ ที่ถือว่าสะดวกอยู่นะ

    การเดินทางโดยใช้รถ : ใครที่ใช้รถยนต์เป็นหลักก็สะดวกดี เพราะอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่ทำให้เดินทางเข้าเมืองได้ง่าย ส่วนถ้าใครทำงานแถวอยู่แถวเพชรบุรีก็สะดวก ขับขึ้นสะพานข้ามแยกคลองตัน ไปโผล่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ได้เลย ในส่วนของที่จอดรถให้มา 46% รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มากลางๆไม่มาก

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ห่าง Airport Link รามคำแหง ประมาณ 800 ม. เป็นระยะที่เดินใช้งานไม่สบายเลย แนะนำเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ไปดีกว่า ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอื่นๆก็ทำได้ง่ายมาก เพราะอยู่ติดถนนใหญ่ในเมือง เรียกพี่วิน แท็กซี่ รถประจำทาง ได้ง่ายเลย

    การออกแบบตัวอาคาร : ตกแต่งในสไตล์ Mid-Century Modern (MCM) ที่เน้นรูปทรงเลขาคณิตพื้นฐาน พร้อมสีสันที่โดนเด่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งโครงการนี้ใช้เป็นสีเหลืองมัสตาร์ด.. ที่อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล ในการตัดสินใจซื้อนะ แต่ขอพูดถึงส่วนของการจัดผังอาคาร ที่ทำออกมาได้ดี มีส่วน Single Corridor ที่ได้ความเป็นส่วนตัว และส่วนที่เป็น Double Corridor ก็พยายามวางประตูให้อยู่เยื้องกันๆ หรือถ้าห้องไหนวางประตูตรงกัน ก็จะวางด้านข้าง เพื่อให้เห็นภายในห้องไม่มาก เพื่อความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้บางห้องที่ชั้น 7 ยังได้ Private Garden ไปแบบฟรีๆ เพราะไม่รวมพื้นที่ในโฉนด คาดว่าเป็นห้องที่น่าจะ Sold Out ก่อนห้องอื่นๆเลย ส่วน Facilities อยู่ชั้นล่างแยกสัดส่วนใช้งานชัดเจนดี

    การออกแบบตัวห้อง : ตัวห้องเริ่มต้นขนาดใหญ่ พร้อมฝ้าเพดานสูงถึง 2.65 ม. ที่ช่วยทำให้บรรยากาศภายในดูโล่งมากยิ่งขึ้น ในส่วนของห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาด 30.5 ตร.ม. จัดดูแล้วมีพื้นที่ใช้งานแต่ละฟังก์ชันกว้างดี แต่ห้องครัวได้เป็นครัวเปิดที่ไม่เหมาะทำอาหารจริงจัง ซึ่งถ้าใครกลัวกลิ่นกระจายไปติดเฟอร์นิเจอร์ แนะนำให้ติดประตูบานเลื่อนเพิ่มเปลี่ยนเป็นครัวปิด ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นที่ติดกับระเบียง ทำให้รับแสงและมองวิวได้เต็มที่ หรือจะเดินออกไปสูดอากาศก็ได้นะ ส่วนห้องน้ำเข้าจากด้านนอก ถ้ามีแขกมาไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนก่อน ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วย ถัดไปที่ห้องนอนมีขนาดใหญ่ หลังจากวางเตียง 5 ฟุตไปแล้ว ก็มีพื้นที่เหลือด้านข้างกว้างทีเดียว วางโต๊ะหัวเตียงหรือโต๊ะทำงานเพิ่มได้ ส่วนปลายเตียงเป็นระยะที่เดินใช้งานได้พอดีค่ะ

    วัสดุ :ให้ของเหมาะสมตามมาตราฐานการใช้งาน ประตู + Digital Door Lock ยี่ห้อ Hafele, ชุดครัว Hob&Hood ของ Hafele, Top หินสังเคราะห์, สุขภัณฑ์ Lavenz และ Hafele, พื้นไม้ลามิเนต 8 มม., กระเบื้องเซรามิคที่ระเบียง และเครื่องปรับอากาศยี่ห้อ TRANE แต่เสียดายที่หน้าต่างในห้องให้มาบานเล็กไปหน่อยนะ นอกจากนี้ยังรอบรับ Home Automation ที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง IP Smart Camera, Smart Plug, Door Sensor และ Smart Switch โดยขายแบบ Fully Fitted ทำให้ต้องเตรียมงบในการตกแต่งด้วยนะ

    สาธารณูปโภค : ให้มาครบตามมาตรฐาน โดยหลักๆ จะมีส่วนกลางที่ชั้น 1 อย่าง พื้นที่สวนอเนกประสงค์ + BBQ Garden , Pet Zone + Jogging Track, Co-Working Space และ Multi Purpose Room ถัดมาที่ชั้น 7 เป็น Main Facility ก็จะมี สระว่ายน้ำ, และมีสวนพักผ่อน อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 171 : 1 ค่อนจะหนาแน่นอีกเช่นกัน แต่ก็มีลิฟต์ Service แยกใช้งานอีก 1 ตัว เพื่อไม่ให้รบกวนการใช้งานของลูกบ้าน โครงการนี้เหมาะกับคนรุ่นใหม่ ที่ชอบเลี้ยงสัตว์บนคอนโด โดยแบ่งโซนใช้งานแยกกันชัดเจน 


    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 90,000 บาท/ตร.ม., 8 October 2019

    • ทำเล 7.25/10 – ทำเลใกล้ทางด่วน แหล่งความอุดมสมบูรณ์ไม่มาก
    • เดินทางด้วยรถ 7.25/10 – ติดถนนใหญ่ เข้าเมืองจากถนนเพชรบุรีตัดใหม่ได้สะดวก ให้ที่จอดรถไม่มากนัก 46% รวมจอดซ้อนคัน
    • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – มีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลาย Airport link 800 ม. มีท่าเรือด่วนคลองแสนแสบให้บริการอีกด้วย
    • วัสดุ 8/10 – วัสดุเป็นมาตรฐานเหมาะกับการใช้งาน Fully Fitted
    • แบบ 8.25/10 – จำนวนยูนิตน้อย ได้ Privacy มาก แบบห้องดูดี ไม่อึดอัด จัดฟังก์ชันลงตัว
    • สาธารณูปโภค 7.75/10 – มี Facilities เป็นมาตรฐานทั่วไป สามารถเลี้ยงสัตว์ได้

    • UPPER CLASS
    • 7.62 / 10.00

    BOTTOM LINE

    Metris พัฒนาการ – เอกมัย เหมาะกับคนที่มองหาคอนโด High Rise ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เน้นการเดินทางเข้าเมืองสะดวก รวมถึงรูปแบบโครงการที่มีจำนวนยูนิตไม่มาก มี Facilities ครบครันเป็นมาตรฐาน ห้องเริ่มต้นขนาดใหญ่ พร้อมฝ้าเพดานสูง 2.65 ม. มีงบเริ่มต้นตั้งแต่  2.50 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนเร่ิมประมาณ 16,000 บาท เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คน หรือครอบครัวขนาดเล็ก สำหรับ 2 ห้องนอนค่ะ


    ติดตามพวกเราได้ที่
    Website : www.thinkofliving.com
    Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
    YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
    Facebook : ThinkofLiving