Kensington Rayong คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ภายใน Mixed-use Project “Origin Smart City Rayong” จาก Origin ค่ะ โดยโครงการนี้จะเน้นรูปแบบห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus เป็นหลัก ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ช่วงประมาณ 1.69 – 2.4x ล้านบาท โดยจุดที่น่าสนใจของโครงการมีดังนี้ค่ะ

  • หนึ่งในโครงการภายใต้ Mixed-use project “Origin Smart City Rayong” : โดยทาง Origin ได้พัฒนาที่ดินตรงแยกเนินลำสาลีนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ มีทั้งโรงแรม คอนโด และ Community mall ด้วย ทำให้คนที่เลือกโครงการนี้ไม่ได้จะได้เฉพาะห้องที่เราซื้ออยู่เท่านั้น แต่จะได้ความสะดวกสบายจากโครงการรอบๆ อีกด้วยค่ะ
  • ทำเลระหว่างนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และ ตัวเมืองระยอง : จุดนี้จึงเหมาะกับคนทำงานย่านนิคมที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่เดินทางไปทำงานง่าย แต่ก็ยังสามารถเข้าเมืองได้สะดวก
  • บรรยากาศโครงการสไตล์รีสอร์ท : ที่นี่แม้จะเป็นคอนโด Low Rise ที่เน้นห้องขนาดเล็ก แต่ก็ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางมาหลากหลาย และตกแต่งสวยงามค่ะ ไฮไลท์จะเป็นคอร์ทตรงกลางที่มีสวนและสระว่ายน้ำขนาดยาวเล่นระดับกันอยู่ คนที่อยู่ที่นี่ก็จะได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่ดูดี และมีกิจกรรมหลากหลายให้ทำด้วยนะคะ

โครงการสร้างเสร็จจริงแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปอ่านรีวิวกันเต็มๆ ได้เลย

ข้อมูลโครงการ

Kensington Rayong ณ วันที่ 1 May 2022

 ชื่อโครงการ  Kensington Rayong (เคนซิงตัน ระยอง)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท ออริจิ้น อีอีซี จำกัด
 SEGMENT CLASS  ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนสุขุมวิท อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
 ที่ดิน  Kensington 1 : ขนาด 3 – 0 – 92.5 ไร่
Kensington 2 : ขนาด  2 – 3 – 49.5 ไร่
 ประเภทคอนโด  Kensington 1 : Low rise 8 ชั้น 2 อาคาร
Kensington 2 : Low rise 8 ชั้น 2 อาคาร
 จำนวนยูนิต  Kensington 1 : 352 ยูนิต
Kensington 2 : 345 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   25 ยูนิต
 ที่จอดรถ  ประมาณ 30% รวมจอดซ้อนคัน
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2562
 สร้างเสร็จ  ปี 2563
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 23.2 – 32.9 ตร.ม.
    ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 35.7 – 36.9 ตร.ม.
    ราคาเริ่มต้น 2.149 ล้านบาท

 ฝ้าเพดานสูง  2.4 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  1.69 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 70,000 บาท/ตร.ม.
 เว็บไซต์โครงการ https://www.origin.co.th/condominium/kensington-rayong/
 Call Center  020-300-000

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 12.7035397 , 101.1849118
หรือสามารถคลิกที่นี่ 

แผนที่จากทางโครงการค่ะ Kensington Rayong เป็นหนึ่งในโครงการคอนโดมิเนียมภายใน Project  Origin Smart City Rayong จาก Origin ที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ตรงแยกเนินสำลี ใกล้นิคมมาบตาพุดใน จ.ระยอง

Origin Smart City Rayong ถือเป็นโครงการ Mixed-use ขนาดใหญ่ที่รวมหลาย Project ทั้งคอนโดมิเนียม Low Rise, High Rise, โรงแรม และ Community mall ไว้ที่เดียวกัน จุดที่เรามองว่าน่าสนใจคือ การพัฒนาพื้นที่จากเดิมที่เป็นที่ดินเปล่าที่อยู่ระหว่างตัวเมืองกับนิคมอุตสาหกรรม มาเป็นโครงการขนาดใหญ่หรือว่าโครงการ Mixed-use แบบนี้เป็นการพัฒนาที่ช่วยทำให้เกิด node ใหม่ของเมือง ทำให้พื้นที่รอบๆตัวโครงการเองน่าจะมีการพัฒนาที่เพิ่มขึ้นตามมาค่ะ

นอกจากนี้สำหรับคนที่เลือกอยู่ที่นี่เองก็จะได้ความสะดวกสบายของโครงการ Mixed-use อีกด้วย เช่น สิ่งอำนวยความสะดวกภายใน Community Mall ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อที่มาเปิด และได้สภาพแวดล้อม หรือ บรรยากาศรอบๆโครงการที่ดูเรียบร้อยสวยงามอีกด้วย

ในส่วนของทำเลในรีวิวห้องตัวอย่างเดินทาง เราได้วิเคราะห์ไว้ค่อนข้างละเอียดเลยค่ะ ใครอยากอ่านเพิ่ม คลิก >> ทำเล Kensington Rayong
ส่วนใครที่อยากอ่านข้อมูลของ Origin Smart City Rayong เพิ่มเติม คลิก >> Origin Smart City Rayong

**แผนที่แสดงตำแหน่งโครงการต่างๆ คร่าวๆ ภายใน Origin Smart City Rayong จากความเข้าใจของผู้เขียน ไม่สามารถใช้อ้างอิงขอบเขตที่ดินหรือว่าระยะทางได้นะคะ

บรรยากาศภายใน Origin Smart City Rayong

ปัจจุบันภายใน Origin Smart City Rayong จะมีโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ 2 แบรนด์คือ Kensington Rayong1, 2 (ที่เรามารีวิวกันในบทความนี้) และ Notting Hill Rayong เรามาดูบรรยากาศภายในโครงการกันดีกว่าค่ะ

Image 1/4
เข้าโครงการมาจากฝั่งถ.สุขุมวิท จะเจอโครงการ Notting Hill Rayong ทางซ้ายมือเป็นคอนโด High Rise

เข้าโครงการมาจากฝั่งถ.สุขุมวิท จะเจอโครงการ Notting Hill Rayong ทางซ้ายมือเป็นคอนโด High Rise

ตำแหน่ง Sale Gallery ของ Origin Smart City Rayong ปัจจุบันจะมีร้านสะดวกซื้อ Lawson108 มาเปิด และมีร้านกาแฟ Dripper by art ตั้งอยู่ค่ะ กาแฟรสชาติใช้ได้เลย จุดนี้ถือเป็น Benefit ให้กับคนที่อยู่ที่นี่ได้นะคะ อยู่ห้องเบื่อๆ หรืออยากนัดเพื่อนคุยก็มานั่งที่ร้านกาแฟตรงนี้ได้ หรือเวลาหิวอยากหาน้ำ-ขนมกินก็มาซื้อที่ Lawson108 ได้ค่ะ เราชอบขนมหลายอย่างใน Lawson108 มาก อร่อยและราคาไม่สูงมากนะ

Image 1/4
บรรยากาศสำนักงานขาย Origin Smart City Rayong

บรรยากาศสำนักงานขาย Origin Smart City Rayong

นอกจากความสะดวกสบายที่ได้จากโครงการ Origin Smart City Rayong ที่เป็นโครงการ Mixed-use แล้ว ใกล้ๆกับตัวโครงการจะมีปั๊มปตท.ขนาดใหญ่อยู่ เป็นปั๊มที่มีร้านค้า ร้านอาหารเพียบเลยค่ะ ระยะห่างก็ประมาณ​ 300 เมตรเดินได้นะ แต่ถ้าไม่อยากเดินเราลองกด Application delivery อย่าง Line Man ดูก็มีหลายร้าน Delivery ไปที่โครงการ ราคาค่าส่งก็ไม่แพงเลยค่ะ ไม่กี่สิบบาทหลายร้านเลยนะ

Image 1/5
ปั๊ม ปตท.ใกล้ๆโครงการ

ปั๊ม ปตท.ใกล้ๆโครงการ

โดยรวมแล้วถือเป็นทำเลที่มีความสะดวกทั้งการเดินทางเข้า-ออกเมืองระยอง เหมาะสำหรับคนที่ทำงานในย่านนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เป็นทำเลที่เจริญเติบโตขึ้นจากเมื่อ 2-3 ปีก่อนมาก และก็มีความอุดมสมบูรณ์สูง หาของกินได้ง่ายค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Tesco Lotus มาบตาพุด ~ 2.7 km.
  • The Ozone Lifestyle Mall ~ 5 km.
  • Passione ~ 7.3 km.
  • ตลาด Star Night Bazaar ~ 9.8 km.
  • Makro ~ 10.2 km.
  • Central Plaza ระยอง ~ 11.9 km.
  • Big C Supercenter ~ 12.2 km.

โรงพยาบาล

  • รพ.กรุงเทพระยอง ~ 6.4 km.

โรงเรียน

  • รร.อัสสัมชัญ ระยอง ~ 7 km.

สถานที่ราชการและอื่นๆ

  • ศูนย์ราชการระยอง ~ 1 km.
  • บขส.ใหม่ระยอง ~ 4.4 km.
  • หาดแสงจันทร์ ~ 5.5 km.
  • นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ~ 9 km.
  • เทศบาลนครระยอง ~ 11 km.
  • สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ~ 36.1 km.

รายละเอียดโครงการ

Kensington Rayong จะแบ่งเป็น 2 โครงการฝาแฝดกันค่ะ โดย Kensington Rayong 1 จะอยู่ใกล้กับถนนสุขุมวิท ส่วน Kensington Rayong 2 จะอยู่ใกล้กับทางเข้า-ออกถนนทางหลวงหมายเลข 363 โดยปัจจุบันทั้ง 2 โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่เรียบร้อยแล้วค่ะ

ทั้ง 2 โครงการนี้ถือว่าเป็นคนละโครงการกันค่ะ แปลว่าจะมีนิติบุคคลแยกจากกัน การใช้งาน Facility ต่างๆ ก็จะแยกจากกันด้วย อยู่โครงการไหน ใช้งานได้เฉพาะโครงการนั้น แต่การออกแบบโครงการตั้งแต่ Concept หน้าตาโครงการ การจัดฟังก์ชันและการตกแต่งภายในจะเหมือนกันหมดเลยค่ะ

  • Kensington 1 ที่ดินขนาด 3 – 0 – 92.5 ไร่ มี 352 ยูนิต
  • Kensington 2 ที่ดินขนาด 2 – 3 – 49.5 ไร่ มี 345 ยูนิต

ในรีวิวนี้เราจะพาไปดูตึกเสร็จกันที่โครงการ Kensington Rayong 1 กันนะคะ บรรยากาศโครงการจะเป็นอย่างไรไปดูกัน

Kensington Rayong 1 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ออกแบบมาให้เป็นคอนโดสไตล์ Resort เพื่อให้คนที่อยู่อาศัยรู้สึกเหมือนได้พักผ่อนตลอด 365 วัน

ตัวอาคารจะมีผังเป็นรูปตัว L ทั้งคู่ วางรอบนอกที่ดินเกิดพื้นที่ว่างตรงกลางเราจะเรียกพื้นที่ว่างตรงกลางนี้ว่าเป็นคอร์ทกลางโครงการนะคะ คอร์ทแบบนี้จะค่อนข้างสำคัญสำหรับคอนโดประเภท Low Rise ที่โดยทั่วไปไม่ค่อยได้วิวเท่าไรมักจะตั้งติดกับอาคารรอบๆ ที่สูงใกล้เคียงกัน ทำให้ห้องที่หันหน้าเข้าคอร์ทก็มักจะได้วิวที่สวยงามกว่าห้องที่หันออกนอกโครงการที่เป็นถนน หรือว่าอาคารข้างเคียง (คนภายนอกก็มองเข้ามาภายในห้องเราได้นะถ้าเป็นห้องหันออกด้านนอก) โดยส่วนใหญ่คอร์ทแบบนี้มักจะออกแบบให้เป็นสวน หรือเป็นพื้นที่ส่วนกลางสวยงาม นอกจากจะใช้งานได้แล้วยังจะกลายเป็นวิวให้กับคนที่อยู่ภายในโครงการด้วยค่ะ

แต่สำหรับเรื่องความเป็นส่วนตัวหรือเรื่องวิวต่างๆ ของ Kensington ทั้ง 2 โครงการเรามองว่าค่อนข้างโอเคดีเลย เนื่องจากเป็น Project ที่อยู่ในโครงการ Mixed-use อย่าง Origin Smart City ทำให้แม้จะเป็นห้องที่หันออกนอกโครงการก็จะเห็นสภาพที่เรียบร้อย หรือเป็นที่ดินโล่งเป็นส่วนใหญ่นะ ได้ความสงบและได้ความเป็นส่วนตัวทั้งคู่ค่ะ

กลับมาที่ผังโครงการกันต่อ พื้นที่ชั้น 1 จะออกแบบให้มีทั้งพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักอาศัยนะ โดยทางเข้าโครงการจะเจอกับจุด Drop-off หน้า Lobby อาคาร A คนที่ไม่ใช้รถก็เดินเข้าอาคารได้เลย ส่วนคนที่ใช้รถจะต้องเลี้ยวซ้าย ทางเดินรถจะเป็น One Way ค่ะ เลี้ยวซ้ายมาจะเป็นใต้อาคาร B ซึ่ง Lobby ของอาคาร B ก็จะอยู่บริเวณหัวมุมใต้อาคารเลย สำหรับสัดส่วนที่จอดรถนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 30% ถือว่าไม่เยอะมากเนื่องจากทำเลโครงการต่างจังหวัดแบบนี้คนส่วนใหญ่มักจะขับรถส่วนตัวกัน แปลว่าในกรณีที่ที่จอดรถไม่พอเราก็อาจจะเห็นรถจอดที่ถนนด้านหน้าโครงการค่ะ โดยพื้นที่ต่างจังหวัดการจอดรถข้างถนนถือว่าเป็นเรื่องปกตินะคะ

ส่วนฟังก์ชันในอาคาร ที่อาคาร A จะมี Lobby , Co-working Space และห้องพักอาศัย ส่วนอาคาร B จะมี Lobby และ Fitness ค่ะ โดยพื้นที่คอร์ทตรงกลางจะจัดเป็นสระว่ายน้ำและสวน มีการเล่นระดับพื้นที่ จัด Landscape ต่างๆ ดูสวย ร่มรื่นดีเลยค่ะ

ทางเข้าของ Kensington 1 จะอยู่ระหว่างอาคาร A (ขวามือ) และอาคาร B (ซ้ายมือขนานไปกับแนวถนน) โดยระบบรักษาความปลอดภัยจะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักคือ

1) ที่จอดรถ :  มีไม้กั้นกระดก ใช้ Keycard scan ทั้งเข้าและออกค่ะ
2) Lobby : ทั้งอาคาร A,B จะเป็นระบบ Face Scan เลย
3) ลิฟต์ :  จะเป็นระบบล็อกชั้น ขึ้นลงได้เฉพาะชั้นของห้องพักตัวเองและพื้นที่ส่วนกลางเท่านั้นค่ะ ใช้ระบบ Keycard นะ

เดินดูบรรยากาศรอบๆ อาคารกันค่ะ

Image 1/12
ทางเข้าโครงการตรงนี้จะไม่ได้มีไม้กั้นกระดกนะคะ ด้านหน้าตรงนี้จะเป็นส่วนที่ Visitor สามารถขับรถมาจอดได้

ทางเข้าโครงการตรงนี้จะไม่ได้มีไม้กั้นกระดกนะคะ ด้านหน้าตรงนี้จะเป็นส่วนที่ Visitor สามารถขับรถมาจอดได้

ลองเดินเข้าไปดูภายในอาคารกันค่ะ เริ่มจาก Lobby อาคาร A เลย ใช้ Face Scan เข้าตึกได้

Lobby อาคาร A

Image 1/2
เข้ามาจะเป็น Lobby ที่ได้ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume มีพื้นที่โซฟารับแขกหลายชุด

เข้ามาจะเป็น Lobby ที่ได้ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume มีพื้นที่โซฟารับแขกหลายชุด

Image 1/2
เดินเข้ามาบริเวณหน้า Co-Working Space จะมีตู้ Locker เรียงรายอยู่

เดินเข้ามาบริเวณหน้า Co-Working Space จะมีตู้ Locker เรียงรายอยู่

Nasket

Image 1/2
NASKET เป็นแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนทำให้เราซื้อสินค้าง่ายขึ้น รวมแบรนด์ค้าปลีกและโปรโมชันไว้ในที่เดียว ซึ่งผู้บริโภคสามารถเลือกสินค้าและโปรโมชันจากทุกแบรนด์ที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรได้อย่างง่ายดาย ตอบโจทย์คนที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม เหมือนกับยกทุกห้างมาไว้ที่ห้อง

NASKET เป็นแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนทำให้เราซื้อสินค้าง่ายขึ้น รวมแบรนด์ค้าปลีกและโปรโมชันไว้ในที่เดียว ซึ่งผู้บริโภคสามารถเลือกสินค้าและโปรโมชันจากทุกแบรนด์ที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรได้อย่างง่ายดาย ตอบโจทย์คนที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม เหมือนกับยกทุกห้างมาไว้ที่ห้อง

Co-Working Space

ใต้อาคาร A จะเป็นที่ตั้งของ Co-Working Space เป็นห้องยาวที่แบ่งพื้นที่นั่งไว้หลายรูปแบบ มีทั้งชุดโซฟา ไว้นั่งเล่น นั่งทำงาน คุยงาน และมีห้องแยกสำหรับคนที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวหรือนัดประชุมก็มาใช้งานพื้นที่ส่วนนี้ได้ค่ะ โดยห้องนี้จะมองออกไปเห็นคอร์ทที่อยู่ตรงกลางด้วย ดังนั้นบรรยากาศระหว่างนั่งเล่นหรือทำงานก็จะเห็นพื้นที่สีเขียวและสระว่ายน้ำด้วย

Image 1/5
บรรยากาศภายใน Co-Working Space

บรรยากาศภายใน Co-Working Space

คอร์ทกลางโครงการ

พื้นที่คอร์ทที่อยู่ตรงกลางจะเป็นแนวยาวเลยค่ะ แบ่งเป็นสระว่ายน้ำและสวน จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ outdoor โดยมีแนวอาคาร A และ อาคาร B โอบล้อม ทำให้เกิดร่มเงาระหว่างวันด้วยนะ

Image 1/3
มุมที่ติดกับอาคาร A หรือห้อง Co-working Space จะเป็นสนามหญ้าที่มีที่นั่งเล่นอยู่ตรงกลางค่ะ

มุมที่ติดกับอาคาร A หรือห้อง Co-working Space จะเป็นสนามหญ้าที่มีที่นั่งเล่นอยู่ตรงกลางค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศที่นั่งกลางสวนและที่นั่งบนขั้นบันได

บรรยากาศที่นั่งกลางสวนและที่นั่งบนขั้นบันได

สระว่ายน้ำ

Image 1/2
สระว่ายน้ำของที่นี่จะยาวถึง 26 เมตร และกว้าง 5 เมตร เป็นขนาดที่สามารถมาว่ายน้ำออกกำลังกายได้นะคะ

สระว่ายน้ำของที่นี่จะยาวถึง 26 เมตร และกว้าง 5 เมตร เป็นขนาดที่สามารถมาว่ายน้ำออกกำลังกายได้นะคะ

ด้านข้างสระว่ายน้ำทั้งสองฝั่งจะเป็นแนวทางเดินค่ะ แต่จะมีการเล่นระดับให้ต่างกัน ฝั่งหนึ่งจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ ส่วนอีกฝั่งจะลดระดับลงมา มีที่นั่งข้างๆ และมีการจัดต้นไม้รอบๆ ทำให้บรรยากาศภายในคอร์ทดูร่มรื่นขึ้น

Image 1/2
เดินมาอีกฝั่งหน้าอาคาร B จะมีมุมนั่งเล่นอีกจุดค่ะ

เดินมาอีกฝั่งหน้าอาคาร B จะมีมุมนั่งเล่นอีกจุดค่ะ

Image 1/3
ก่อนที่จะเข้าไปยังอาคาร B ระหว่างอาคารจะมีพื้นที่โล่งอยู่ ตรงนี้จะเชื่อมไปยังที่จอดรถด้านหลังอาคารได้นะ

ก่อนที่จะเข้าไปยังอาคาร B ระหว่างอาคารจะมีพื้นที่โล่งอยู่ ตรงนี้จะเชื่อมไปยังที่จอดรถด้านหลังอาคารได้นะ

Fitness

สำหรับห้อง Fitness จะอยู่ใต้อาคาร B นะ จะต้องใช้ Keycard scan เพื่อเข้าใช้งานค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศภายในก็มีเครื่องเล่นให้หลากหลายชนิดเลยค่ะ มีทั้งส่วนที่ได้ฝ้าเพดานสูง และฝ้าแบบปกตินะ

บรรยากาศภายในก็มีเครื่องเล่นให้หลากหลายชนิดเลยค่ะ มีทั้งส่วนที่ได้ฝ้าเพดานสูง และฝ้าแบบปกตินะ

Lobby อาคาร B

เดินออกมาจากฟิตเนสอีกฝั่งจะเชื่อมกับ Lobby ของอาคาร B ค่ะ ตรงนี้จะติดกับที่จอดรถที่เราเดินผ่านไปก่อนหน้านะ แม้ส่วนหนึ่งจะติดกับที่จอดรถแต่ก็เป็นเพียงด้านแคบค่ะ ส่วนด้านยาวจะติดกับถนนที่เห็นแนวรั้วโครงการที่มีผนังรั้วเป็นต้นไม้ ทำให้บรรยากาศของ Lobby อาคาร B ก็ยังเห็นพื้นที่สีเขียวดูร่มรื่นอยู่

Image 1/2
ด้านหลังของ Lobby อาคาร B จะมี Mail area อยู่นะ

ด้านหลังของ Lobby อาคาร B จะมี Mail area อยู่นะ

Image 1/2
ในส่วนของลิฟต์โดยสารจะอยู่ที่มุมอาคาร โดยอาคาร B นี้ก็จะอยู่ติดกับ Lobby ค่ะ เดินจากที่จอดรถมายัง Lobby ก็จะเชื่อมกับโถงลิฟต์เลย

ในส่วนของลิฟต์โดยสารจะอยู่ที่มุมอาคาร โดยอาคาร B นี้ก็จะอยู่ติดกับ Lobby ค่ะ เดินจากที่จอดรถมายัง Lobby ก็จะเชื่อมกับโถงลิฟต์เลย

มาดูส่วนกลางที่อยู่ชั้นบนกันต่อนะคะ โดยจะมี Rooftop อีกชั้น แต่ว่า Rooftop เนี่ยจะไม่มีลิฟต์ขึ้นไปค่ะ ดังนั้นเราจะต้องขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 8 ก่อนแล้วค่อยเดินขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้าเอานะ สำหรับคนที่อยู่ชั้นนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวไปค่ะเพราะว่าจากโถงลิฟต์ไปยังทางเดินหน้าห้องพักจะต้องใช้ Keycard scan อีกจุด แปลว่าคนที่อยู่ชั้นอื่นไม่สามารถเดินเตร่ที่โถงทางเดินหน้าห้องของชั้นนี้ได้ค่ะ

บรรยากาศโถงลิฟต์ชั้น 8 จะเห็นว่ามีประตูกั้นระหว่างโถงลิฟต์กับแนวทางเดินหน้าห้องพักอาศัยอยู่นะ

Image 1/3
บรรยากาศโถงบันไดทางขึ้นดาดฟ้า ตรงนี้ออกแบบมาฝ้าเพดานสูงและมีชุดโซฟานั่งเล่นอยู่ด้วย

บรรยากาศโถงบันไดทางขึ้นดาดฟ้า ตรงนี้ออกแบบมาฝ้าเพดานสูงและมีชุดโซฟานั่งเล่นอยู่ด้วย

ที่ชั้นดาดฟ้า ฟังก์ชันของทั้ง 2 อาคารจะเหมือนกันเลยค่ะ มีสวน มีพื้นที่นั่งเล่น และมีมุมสำหรับจัด Rooftop party ได้

ออกมาจากอาคารจะมีการจัด Landscape ดูร่มรื่นและมีพื้นที่นั่งพักผ่อนหลายมุมเลย

Image 1/4
ช่วงเย็นๆ สามารถขึ้นมานั่งเล่น ชมวิว รับลมกันได้นะคะ พื้นที่รอบๆจะเป็นที่โล่งกกว้างเป็นส่วนใหญ่ ลมดีเลยทีเดียว

ช่วงเย็นๆ สามารถขึ้นมานั่งเล่น ชมวิว รับลมกันได้นะคะ พื้นที่รอบๆจะเป็นที่โล่งกกว้างเป็นส่วนใหญ่ ลมดีเลยทีเดียว

วิวจากชั้นดาดฟ้ามองลงมาจะเห็นพื้นที่คอร์ทกลางโครงการดูร่มรื่นสวยงามดีนะคะ

ผังชั้นพักอาศัย

สำหรับห้องพักอาศัยถ้าดูจากผังจะมีอยู่ 3 สีหลักค่ะ

  • สีเทาอ่อน : ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 23.2 – 27 ตร.ม.
  • สีเทาเข้ม : ห้อง 1 Bedroom หน้ากว้าง ขนาดพื้นที่ 30.5 – 32.9 ตร.ม.
  • สีฟ้า : ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 35.7 – 36.9 ตร.ม.

โดยห้อง 1 Bedroom ที่เป็นหน้ากว้างและ 1 Bedroom Plus จะเป็นห้องที่อยู่ตำแหน่งมุมอาคารหรือห้องที่หันหน้าเข้าสู่คอร์ทตรงกลางเป็นหลักค่ะ แต่สำหรับห้องตำแหน่งที่เรามองว่าน่าสนใจจะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาดเล็กตามเส้นประที่เราวงไว้ ตรงนี้จะเป็นห้องที่ได้วิวคอร์ทแนวยาวเช่นเดียวกับห้องขนาดใหญ่ องศาห้องจะสวย และระยะห่างกับห้องที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามก็จะมากกว่าห้องอีกฝั่งที่อยู่แนวด้านแคบแปลว่าได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศโถงทางเดินหน้าห้อง ที่สุดทางเดินจะมีหน้าต่างอยู่ เป็นช่องแสงและช่วยระบายอากาศบริเวณทางเดินได้นะ

บรรยากาศโถงทางเดินหน้าห้อง ที่สุดทางเดินจะมีหน้าต่างอยู่ เป็นช่องแสงและช่วยระบายอากาศบริเวณทางเดินได้นะ

Plan โครงการ Kensington Rayong 2

สำหรับ Kensington Rayong 2 เรียกว่าเป็นฝาแฝดของโครงการ 1 ที่เราไปดูกันก็ว่าได้ค่ะ ทั้งลักษณะการจัดวาง Layout อาคาร ตำแหน่งฟังก์ชันการใช้งาน และห้องพักอาศัย เพียงแต่จะมีขนาดที่ดินเล็กกว่านิดหน่อยทำให้จำนวนยูนิตพักอาศัยน้อยกว่า (ไม่มีห้องพักที่ชั้น 1 ค่ะ) ส่วนบรรยากาศ สไตล์การออกแบบจะเหมือนกันเลยนะคะ รวมไปถึงราคาขายด้วย ใครที่อยากได้ห้องวิวไหนโครงการ 1 หมดก็ลองไปดูโครงการ 2 ได้ค่ะ

Image 1/4
Kensington Rayong 2 ผังพื้นชั้น 1

Kensington Rayong 2 ผังพื้นชั้น 1

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • Co-working space
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 26×5 เมตร
  • Fitness
  • Rooftop Garden
  • Nasket
  • Scooter ไฟฟ้าใช้ภายใน Origin Smart City

ระบบรักษาความปลอดภัย

  • ไม้กั้นกระดกที่ทางเข้าที่จอดรถใต้อาคาร เข้า-ออกด้วย Keycard Access
  • เข้า-ออกอาคารด้วยระบบ Face Scan
  • CCTV รอบโครงการที่บริเวณส่วนกลาง
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
  • ประตูห้องพักอาศัยติดตั้ง Digital Door Lock

แบบห้อง

สำหรับแบบห้องพักอาศัยของ Kensington Rayong จะเน้นไปที่ห้องขนาดเล็ก 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ทั้งหมดค่ะ แต่จะแบ่ง Layout ห้องออกเป็น 3 แบบย่อย ดังนี้

  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 23.2 – 27 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 30.5 – 32.9 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 35.7 – 36.9 ตร.ม.

ซึ่งในโครงการสร้างเสร็จจริงก็ได้ทำห้องตัวอย่างเอาไว้ให้ดูทั้ง 3 แบบเลยค่ะ และแน่นอนว่าเราได้ถ่ายรูปห้องทั้ง 3 แบบมาฝากทุกคนกันครบด้วย โดยราคาของห้องทุกแบบไม่ว่าจะเล็กใหญ่ในโครงการ จะเริ่มต้นที่ 1.69 -2.4x ล้านบาท ส่วนรูปแบบห้องก็จะขายเป็น Fully Fitted ที่ได้ Built-in มาค่อนข้างเยอะ เหลือซื้อเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชิ้นก็ครบแล้วค่ะ (งบตกแต่งไม่ถึงแสนก็น่าจะเอาอยู่นะ) ดังนั้นโครงการนี้น่าจะเหมาะกับคนที่มีงบประมาณอยู่ที่ 2-3 ล้านบาทนะ

รายการวัสดุที่ได้ในห้องพักอาศัย

  • Fully Fitted พร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in บางชิ้น เช่น ชั้นวางรองเท้า, ชั้นวางทีวี, ฐานเตียง, ตู้เสื้อผ้า
  • ประตูติด Digital Door Lock
  • พื้นห้องไวนิล
  • ไฟดาวน์ไลท์
  • สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ Cotto
  • เตาไฟฟ้าและอ่างล้างจานของ MEX

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

1 Bedroom ขนาด 23.2 – 27 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างแรกที่จะพาไปดูเป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการนี้ค่ะ และเป็นห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดภายในโครงการก็ว่าได้เลย ถึงแม้จะเป็นห้องขนาดเล็ก แต่ก็ได้เป็นห้องหน้ากว้าง ที่แยกพื้นที่ห้องนอนออกจากพื้นที่นั่งเล่น-กินข้าว เป็นห้องที่สามารถอยู่กัน 1-2 คนได้ โดยที่แต่ละคนยังมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตนเองค่ะ

เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ภายในห้องจะมี Built-in ชั้นวางรองเท้า ชั้นวางทีวี ฐานเตียง ตู้เสื้อผ้า และครัวมาให้ แปลว่าสิ่งที่จะต้องซื้อเพิ่มแน่ๆน่าจะเป็นโซฟา ชุดโต๊ะ-เก้าอี้กินข้าว ฟูกที่นอน และเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชิ้น เท่านี้ก็พร้อมอยู่จริงแล้วค่ะ

มาดูที่ห้องตัวอย่างกันค่ะ ห้องนี้จะมีขนาด 24.5 ตร.ม.นะคะ ประตูเข้าห้องเป็นลายไม้ มีตาแมวและ Digital Door Lock ให้มา

เข้ามาภายในห้องตัวห้องจะเป็นพื้นที่ครัว กินข้าว และพื้นที่นั่งเล่นต่อเนื่องกัน ทำให้ภายในห้องดูกว้างกว่าการกั้นแยกเป็นส่วนๆนะคะ โดยพื้นจะได้เป็นวัสดุพื้นไวนิลที่ทนต่อสารเคมี น้ำ รอยขีดข่วนดีกว่าพื้นลามิเนต ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีมาให้ และได้ไฟดาวน์ไลท์ภายในห้องค่ะ ส่วนความสูงห้องจะอยู่ในระดับมาตรฐานคือ 2.4 เมตร ราคาห้องนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1.69 – 1.7 ล้านต้นๆ นะ

ส่วนแรกที่ติดกับประตูทางเข้าห้องจะเป็นครัวค่ะ หน้ากว้างห้องตรงนี้อยู่ที่ประมาณ 2.65 เมตร ถือว่ากว้างอยู่นะ เพราะเมื่อมีเคาน์เตอร์ครัวและวางตู้เย็นฝั่งตรงข้ามแล้วยังเหลือทางเดินถึง 1.4 เมตรเลยค่ะ เดินเข้า-ออกสบาย ขนของง่ายนะ

Image 1/3
มาดูทางฝั่งตู้เย็นก่อน ตรงนี้จะมี Built-in ชั้นวางรองเท้ามาให้และเป็นตำแหน่งวางตู้เย็น

มาดูทางฝั่งตู้เย็นก่อน ตรงนี้จะมี Built-in ชั้นวางรองเท้ามาให้และเป็นตำแหน่งวางตู้เย็น

มาดูทางฝั่งครัวกันค่ะ โดยจะมีเคาน์เตอร์ครัวมาให้ทั้งชั้นเก็บของด้านบนและเคาน์เตอร์ด้านล่างแบบนี้เลย ตัวเคาน์เตอร์จะยาวประมาณ 1.55 เมตร ลึก 60 ซม.เป็นขนาดมาตรฐาน ตัววัสดุครัวจะปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ เข้ากับพื้นห้องเลย แต่การใช้งานจริงก็อาจจะต้องระวังเรื่องความชื้นเล็กน้อย เพราะมีสิทธิ์บวมน้ำได้นะคะ

Image 1/4
ชั้นวางของด้านบนจะแบ่งช่องวางของเล็กๆไว้ด้วยค่ะ วางไมโครเวฟได้ หรือจะหากล่องมาใส่อุปกรณ์ครัว เครื่องปรุงก็ได้นะ

ชั้นวางของด้านบนจะแบ่งช่องวางของเล็กๆไว้ด้วยค่ะ วางไมโครเวฟได้ หรือจะหากล่องมาใส่อุปกรณ์ครัว เครื่องปรุงก็ได้นะ

ความลึกของห้องนี้อยู่ที่ประมาณ 4.15 เมตรค่ะ ดังนั้นพื้นที่ระหว่างตู้เย็นและโซฟาจะเป็นมุมสำหรับกินข้าว ซึ่งเราต้องเลือกซื้อโซฟาและโต๊ะกินข้าวเองให้พอดีกับพื้นที่นะคะ

อย่างในห้องตัวอย่างจะจัดโต๊ะกินข้าวแบบ 2 ที่นั่งให้ดูเป็นไอเดีย พอจัดวางก็ดูพอดีกับพื้นที่ แต่เวลาใช้งานจริงเก้าอี้ที่ติดกับตู้เย็นจะไม่มีระยะในการเลื่อนเท่าไรถ้าให้แนะนำเรามองว่าหาโต๊ะพับหรือโต๊ะที่เลื่อนเก็บง่ายมาใช้ก็จะช่วยเรื่องการประหยัดพื้นที่และใช้งานได้สะดวกขึ้นค่ะ

มุมต่อมาด้านในห้องจะเป็นโซนนั่งเล่นพักผ่อน เข้ามุมเป็นสัดส่วนและอยู่ชิดติดกับระเบียงนะ

มุมนี้จะมีชั้นวางทีวีให้มาค่ะ ส่วนโซฟาและ coffee table หน้าโซฟาต้องหามาเอง ซึ่งถ้าใครชอบกินข้าวไปดูทีวีไปลองหาโต๊ะหน้าโซฟาแบบที่ปรับระดับได้มาใช้ก็สะดวกดีนะคะ

ชั้นวางทีวีที่ได้จะมีขนาด 0.45×1.20 เมตร มีช่องเก็บของนิดหน่อยและยกลอยสูงจากพื้น ด้านล่างเราอาจจะหากล่องเก็บของมาวางเพิ่มได้นะ สำหรับคนที่ต้องการพื้นที่เก็บของที่เยอะขึ้น

ก่อนที่จะไปดูระเบียงเราอยากชวนมาดูการออกแบบผนังที่ติดกับระเบียงกันสักหน่อยค่ะ เราจะเห็นว่าจะไม่ได้ออกแบบให้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกเต็มความกว้างของห้อง แต่จะมีผนังทึบเล็กๆอยู่ข้างตำแหน่งวางโซฟา ทั้งนี้เพื่อให้เป็นส่วนที่เอาไว้บัง CDU ของแอร์ที่เราจะต้องวางไว้ที่ระเบียงนั่นเองค่ะ เวลาเรานั่งเล่นหรือพักผ่อนภายในห้อง มองออกไปก็จะไม่เห็น CDU นี้ ดูเรียบร้อยสวยงาม

ตัวระเบียงจะกว้างประมาณ 60 ซม. เอาไว้วาง CDU ได้ ตากผ้าได้ หรือเราจะหาไม้กระถางเล็กๆ มาปลูกเพิ่มความร่มรื่นให้ภายในห้องก็ได้ค่ะ

อันนี้เป็นวิวจากห้องตัวอย่าง มองไปเห็นโครงการ Notting Hill ระยอง ที่อยู่ข้างๆ พอดี

จบพื้นที่ส่วนแรกกันไปแล้ว เดี๋ยวเราไปดูห้องน้ำและห้องนอนที่อยู่อีกฝั่งของห้องกันค่ะ ซึ่งรูปแบบห้องนี้แม้จะมีขนาดเล็ก 24.5 ตร.ม. แต่ก็เป็นห้องหน้ากว้าง ทำให้พื้นที่ห้องนอนแยกออกเป็นสัดส่วนนะคะ ถ้าอยู่สองคน คนหนึ่งนอนพักผ่อน อีกคนนั่งดูทีวีก็ไม่รบกวนกันด้วย

เข้ามาภายในห้องจะเป็นห้องนอนที่กว้าง 2.5 เมตร และลึก 3.145 เมตร ในห้องนี้จะมีฐานเตียงขนาด Queen size และ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ค่ะ

จุดที่น่าสนใจคือห้องนี้จะได้ชุดกระจกบานใหญ่เลยนะคะ ชมวิวและรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

Image 1/4
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับหน้าต่างอาจจะเว้นระยะเล็กน้อยเพื่อเป็นรางม่าน

พื้นที่ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับหน้าต่างอาจจะเว้นระยะเล็กน้อยเพื่อเป็นรางม่าน

ตู้เสื้อผ้าจะวางยาวไปกับเตียงเลย ทำให้มีพื้นที่หน้าตู้ยื่นส่องได้เต็มตัวนะคะ

หน้าบานฝั่งหนึ่งจะเป็นกระจกเงา ส่วนบานประตูจะเป็นแบบเปิดสวิงคู่ทำให้เปิดได้สุดทั้งสองฝั่ง เลือกเสื้อผ้าได้ง่าย

ส่วนห้องน้ำก็จะแยกส่วนแห้งส่วนเปียกเอาไว้ให้ค่ะ

มีธรณีประตูยกขอบสูงขึ้นมาเล็กน้อย กันน้ำ ฝุ่น ผมที่อยู่ในห้องน้ำไม่ให้ปลิวไหลออกมายังห้องนอนนะ

ข้างให้ห้องน้ำให้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆมาครบครัน ห้องน้ำนี้จะมีพัดลมดูดอากาศช่วยระบายอากาศและความชื้นได้ด้วย

สุขภัณฑ์ต่างๆจะใช้ของ Cotto ค่ะ มีปลั๊กไฟและที่ครอบกันน้ำให้มาด้วย จุดที่เราชอบคือช่องชาร์จ USB เหมาะกับคนที่อยากเอามือถือเข้ามาฟังเพลงในห้องน้ำมาก ฟังไปชาร์จไฟไปได้

ส่วนห้องอาบน้ำจะมีฉากกั้นกระจกให้ และมีช่องสำหรับใส่อุปกรณ์อาบน้ำอยู่ พื้นที่อาบน้ำจะมีระยะประมาณ 0.85×1.0 เมตร ถือว่าเป็นระยะที่ใช้งานหมุนตัวสะดวกนะคะ


1 Bedroom 30.5 – 32.9 sq.m.

ห้องแบบต่อมาจะเป็น 1 Bedroom ที่เป็นห้องหน้ากว้าง ตำแหน่งมุมอาคาร จะมีแค่ 2 ยูนิต/ชั้นเท่านั้นค่ะโดยขนาดห้องจะใหญ่กว่าห้องแบบมาตรฐานอยู่ที่ประมาณ 30.5 ตร.ม. ทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องกว้างขึ้น จุดที่เราชอบคือ

  • ห้องหน้ากว้าง ตำแหน่งมุม ส่วนพักผ่อนและพื้นที่นั่งเล่น+กินข้าวแยกออกจากกันเป็นสัดส่วน
  • ห้องน้ำเข้าได้ 2 ทาง ใช้งานสะดวกและห้องนอนได้ความเป็นส่วนตัว
  • ห้องนอนอยู่ที่มุมอาคาร ระยะข้างเตียงกว้าง ช่องแสงเยอะ อยู่สบายไม่อึดอัด

มาดูในห้องตัวอย่างกันค่ะ เข้าห้องมาจะอยู่ตรงกลางห้องเลย เป็นส่วน Common area ก่อน ทางขวามือจะเป็นครัว ซ้ายมือเป็นพื้นที่นั่งเล่น+กินข้าว ลึกเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอนและห้องน้ำค่ะ วัสดุต่างๆภายในห้องจะเหมือนกับห้องที่แล้วนะ ประตูติด Digital Door Lock ให้มา พื้นเป็นไวนิล มีเฟอร์นิเจอร์ Built-in ให้มาบางชิ้น

ผนังฝั่งประตูด้านที่ติดกับครัวจะเอาไว้วางตู้เย็น ส่วนอีกฝั่งจะเป็นชั้นวางรองเท้าค่ะ ใกล้กับทางเข้า-ออกห้องเลย

ชั้นวางรองเท้าจะกว้าง 50 ซม. มีช่องเก็บของดีไซน์เหมือนกันกับห้องที่แล้ว สามารถวางรองเท้าได้ แขวนกุญแจ เก็บข้าวของเล็กๆได้ค่ะ

มาดูห้องนั่งเล่น+กินข้าวกันก่อน พื้นที่ตรงนี้จะมีขนาดประมาณ 2.55×2.6 เมตร อยู่ติดกับระเบียงห้อง

พื้นที่สำหรับวางโต๊ะกินข้าวข้างโซฟาสามารถจัดวางโต๊ะกินข้าวแบบ 2 ที่นั่งได้ เราอาจจะเลือกโต๊ะที่ยาวกว่านี้ได้นะ และเลือกเก้าอีกที่ยกเก็บง่ายมาใช้งานเพื่อที่เวลาเราไม่ใช้จะได้พับเก็บหรือเอาไปวางไว้ที่อื่นไม่ขวางทางเดินเข้า-ออกห้องนอนค่ะ

มุมนั่งเล่นนี้จะแยกเป็นสัดส่วนดีค่ะ ใกล้กับระเบียง เป็นตำแหน่งที่ไม่ใช่แนวทางเดินจึงลดโอกาสที่จะมีคนเดินตัดผ่านหน้าโซฟาและทีวีได้

ในห้องตัวอย่างเราจะเห็นว่าเมื่อจัดโซฟาไว้ ระยะห่างระหว่างชั้นวางทีวีและโซฟาจะกว้างประมาณ 1.35 เมตร สามารถวาง coffee table หน้าโซฟาได้ และมีทางเดินที่สามารถเดินเข้า-ออกได้ไม่เกะกะค่ะ

ส่วนชั้นวางทีวีที่ได้มาจะยาว 1.80 เมตร มีช่องเก็บของด้านล่างแบบที่เห็นเลย

ส่วนโซฟาเรามองว่าเลือกขนาดที่ยาว 1.4-1.6 เมตรกำลังดีนะ

สำหรับผนังส่วนที่ติดกับระเบียงเราจะเห็นว่ายังมีผนังทึบเล็กๆติดกับประตูกระจกบานเลื่อน ตัวผนังทึบนี้ก็จะช่วยบัง CDU ที่วางไว้ที่ระเบียงนั่นเองค่ะ ส่วนประตูบานเลื่อนกระจกก็สามารถเปิดรับลม ระบายอากาศ รับแสงธรรมชาติให้กับภายในห้องด้วย

ย้อนกลับมาภายในห้อง มาดูที่ครัวกันต่อ โครงการนี้ส่วนใหญ่จะได้ครัวในห้องเป็นแบบครัวเปิด เชื่อมต่อพื้นที่ภายในห้องให้ต่อเนื่องกัน โดยครัวของห้องนี้เรามองว่าเป็นครัวห้อง 1 Bedroom ที่ถือว่าใหญ่เลยนะคะ มีพื้นที่เตรียมอาหารบนเคาน์เตอร์กว้างเลย

หน้าตาของครัวที่ได้จะเป็นแบบที่เห็น มีทั้ง Built-in ตู้เก็บของชั้นบน และเคาน์เตอร์ชั้นล่าง ปิดผัวด้วยลามิเนตลายไม้ ไม่ได้มี Backsplash ให้ (แนะนำให้ติดกระเบื้องที่ผนังด้านหลังเพิ่ม จะได้เช็ดทำความสะอาดพวกคราบ เขม่าควันที่เกิดจากการทำงานหารได้ง่ายนะคะ

พื้นที่เก็บของต่างๆให้มาค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ด้านบนมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ ส่วนใต้เคาน์เตอร์ก็วางเครื่องซักผ้าได้ ถังขยะเราก็อาจจะวางไว้ใต้อ่างล้างจานเพื่อเก็บกลิ่นและซ่อนความสกปรกได้นะ

ชุดครัวจะได้อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนของ MEX มีพื้นที่บนเคาน์เตอร์กว้างพอสมควร วางเครื่องชงกาแฟ หม้อหุงข้าวเล็กๆได้

ใต้เคาน์เตอร์มีแท่นสำหรับวางเขียงด้วยค่ะ เป็นดีเทลน่ารักเหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารนะ

มาดูที่ห้องนอนกันต่อค่ะ ตัวห้องนอนจะอยู่ที่ตำแหน่งมุมอาคารพอดี ทำให้ได้หน้าต่างและช่องแสงสองฝั่งผนัง บรรยากาศจะโปร่งโล่งกว่าห้องนอนทั่วไปในคอนโดค่ะ

ภายในห้องมีขนาดประมาณ 2.5 x 4.0 เมตร ไม่กว้างมาก และยาวนะ ทำให้พื้นที่ปลายเตียงอาจจะไม่เหมาะสำหรับวางเฟอร์นิเจอร์อื่น แต่ถ้าอยากติดทีวีในห้องนอนก็คงต้องแขวนที่ผนังแทนค่ะ

ภายในห้องตัวอย่าปลายเตียงเหลือทางเดินประมาณ 40 ซม. พอเดินเข้า-ออกนะ

จุดที่น่าสนใจคือชุดกระจกตรงนี้จะได้ดีไซน์ที่เข้ามุม ทำให้ตัวห้องดูกว้างมากขึ้นค่ะ มองออกไปนอกห้องได้กว้างขึ้นด้วย อาจจะหาโซฟาเล็กๆ มานั่งผ่อนคลายตรงนี้ได้นะ

อีกฝั่งของเตียงจะเป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าค่ะ ฝั่งนี้จะมีหน้าต่างอยู่อีก 1 จุด ช่วยให้กลางห้องสว่างขึ้นด้วย

ระหว่างฐานเตียงกับตู้เสื้อผ้าจะกว้างประมาณ 1.2 เมตร สามารถยืนเปิดตู้ แต่งตัว ส่องกระจกเงาได้เต็มที่เลยค่ะ

ภายในตู้จะมีราวแขวน ชั้นเก็บของให้แบบที่เห็นเลย ขนาดของตู้เสื้อผ้าจะกว้าง 1.2 เมตร

มาดูที่ภายในห้องน้ำกันต่อค่ะ ห้องน้ำนี้จะมีจุดเด่นที่มีประตูทางเข้า 2 ฝั่ง จะเข้าจากห้องนอนก็ได้ หรือจะเข้าจากครัวก็ได้ค่ะ / พื้นที่ภายในจะแบ่งส่วนแห้ง-เปียกออกจากกันเพื่อให้ใช้งานได้สะดวก มีฉากกั้นอาบน้ำให้มา

สุขภัณฑ์ต่างๆจะได้ของ Cotto อ่างล้างหน้ามีขอบอ่างเล็กๆ สามารถวางอุปกรณ์แปรงฟัน สบู่ล้างมือได้ และมีปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำให้มา เผื่อคุณผู้หญิงต้องการไดร์ผม ทำผมก็จะได้สะดวก ผมร่วงหล่นในห้องน้ำก็ทำความสะอาดง่ายค่ะ

พื้นที่อาบน้ำเป็นสัดส่วนมีขนาด 0.85 x 1.30 ถือว่ากว้างใช้งานสะดวกเลยค่ะ ระบบน้ำที่เตรียมไว้ให้จะเป็นระบบน้ำอุ่นนะ (หาเครื่องทำน้ำอุ่นมาติดเอง) ส่วนฝักบัวจะเป็นแบบมือจับ Hand shower ขนาดใหญ่เลย


1 Bedroom Plus ขนาด 35.7 – 36.9 sq.m.

ห้องตัวอย่างสุดท้ายที่จะพาไปดูเป็นแบบที่ใหญ่สุดในโครงการเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ที่นอกเหนือจากห้องนอนแล้วก็จะมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาอีก 1 ห้อง สามารถปรับใช้เป็นห้องนอนได้ค่ะ จุดที่น่าสนใจของห้องนี้เรามองว่าเป็นการออกแบบแปลนที่ลงตัวเลยนะคะ ทุกพื้นที่แยกเป็นสัดส่วน มีพื้นที่กินข้าวแบบจริงจังกว่าห้องแบบอื่นที่ไปดูกัน และได้ห้องครัวปิด เหมาะกับคนที่ทำอาหารกินเองเป็นประจำด้วย ห้องนี้จึงเหมาะกับครอบครัวเริ่มต้น อยู่กันได้ 2-3 คน เป็นห้องหน้ากว้างที่อยู่สบายค่ะ ห้องนี้ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 2.4x ล้านบาทนะ

Image 1/4
บรรยากาศภายในห้อง เมื่อเข้ามาจะเจอกับ Common area มีพื้นที่นั่งเล่นอยู่ชิดระเบียงด้านใน

บรรยากาศภายในห้อง เมื่อเข้ามาจะเจอกับ Common area มีพื้นที่นั่งเล่นอยู่ชิดระเบียงด้านใน

Image 1/3
ย้อนมาที่ฝั่งประตูทางเข้ากันนะ ฝั่งหนึ่งของประตูจะเป็นชั้นวางรองเท้า อีกฝั่งเป็นโต๊ะกินข้าวค่ะ

ย้อนมาที่ฝั่งประตูทางเข้ากันนะ ฝั่งหนึ่งของประตูจะเป็นชั้นวางรองเท้า อีกฝั่งเป็นโต๊ะกินข้าวค่ะ

Image 1/2
ติดกับห้องครัวจะเป็นห้องอเนกประสงค์ค่ะ จัดเป็นห้องทำงานก็ได้ หรือจะวางเตียงขนาด 3 - 3.5 ฟุตจัดเป็นห้องนอนก็ได้นะคะ

ติดกับห้องครัวจะเป็นห้องอเนกประสงค์ค่ะ จัดเป็นห้องทำงานก็ได้ หรือจะวางเตียงขนาด 3 - 3.5 ฟุตจัดเป็นห้องนอนก็ได้นะคะ

ส่วนห้องนอนและห้องน้ำจะอยู่ที่ฝั่งเดียวกันค่ะ ห้องน้ำจะเป็นแบบที่เข้า-ออกได้ 2 ทางด้วย

Image 1/4
ห้องนอนดูโปร่งโล่ง ได้ชุดหน้าต่างกระจกบานใหญ่

ห้องนอนดูโปร่งโล่ง ได้ชุดหน้าต่างกระจกบานใหญ่

Image 1/2
ส่วนห้องน้ำจะเข้า-ออกได้ 2 ทาง แยกพื้นที่ส่วนแห้ง-เปียกให้เรียบร้อย

ส่วนห้องน้ำจะเข้า-ออกได้ 2 ทาง แยกพื้นที่ส่วนแห้ง-เปียกให้เรียบร้อย

ราคา

Kensington Rayong ราคา ณ วันที่ 1 May 2022

  • 1 Bedroom ขนาด 23.2 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท หรือ 72,8xx บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 30.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.9x ล้านบาท หรือ 62,2xx บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 35.7 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.4x ล้านบาท หรือ 67,2xx บาท/ตร.ม.

  • จอง 2,500 บาท
  • ทำสัญญา 2,500 บาท
  • ค่ากองทุน 450 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :
ที่ตั้งของ Kensington Rayong อยู่ติดกับแยกเนินลำสาลี ซึ่งอยู่ระหว่างนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และ ตัวเมืองระยอง โดยทำเลนี้เป็นทำเลที่ทาง Origin พัฒนามาเป็นโครงการ Origin Smart City Rayong Project Mixed-use ที่รวมโครงการหลายประเภททั้งคอนโดมิเนียม โรงแรม Community mall เอาไว้ด้วยกัน ทำให้ถ้ามองในแง่การเจริญเติบโต ก็ถือว่ามีการเจริญเติบโตที่สูง ทั้งตัวถนนหนทาง และความอุดมสมบูรณ์อย่างร้านค้า ร้านอาหารก็มีตัวเลือกเยอะเลยค่ะ

การเดินทาง :
ตัวโครงการ Origin Smart City Rayong สามารถเข้า-ออกได้จากถนนหลัก 2 เส้นทางคือ ถนนสุขุมวิท และ ถนนทางหลวงหมายเลข 363 ซึ่งเป็นถนนใหญ่เชื่อมต่อเข้า-ออกเมืองได้สะดวก

ถ้ามาดูอัตราส่วนที่จอดรถจะอยู่ที่ราวๆ 30% ถือเป็นตัวเลขที่ไม่มากนักสำหรับทำเลที่ทุกคนน่าจะใช้รถส่วนตัวแบบนี้ค่ะ แปลว่าภายในโครงการอาจจะมีที่จอดรถไม่พอ แต่ก็สามารถจอดรถที่ถนนด้านหน้าโครงการหรือว่าบริเวณของ Origin Smart City แทนได้

ในส่วนของรถสาธารณะส่วนใหญ่นั้นจะวิ่งตามแนวเส้นถนนสุขุมวิท ซึ่งอยู่ด้านหน้าโครงการเราเป็นหลัก โดยจะเป็นเส้นทางที่มีรถบัสรับ-ส่งพนักงานที่ทำงานในนิคมฯ กับตัวเมืองด้วย หรือหากเข้าไปภายในตัวเมืองระยองเองก็มีแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการด้วยค่ะ

วัสดุ :
สำหรับการเลือกใช้วัสดุและการจัดเฟอร์นิเจอร์ Built-in ที่ให้มาภายในห้องถือว่าน่าสนใจค่ะ โครงการนี้มีเฟอร์นิเจอร์มาให้หลายชิ้น ทั้งชั้นวางรองเท้า ชั้นวางทีวี ฐานเตียง ตู้เสื้อผ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่มากกว่าโครงการที่ขาย Fully-fitted ที่เราเคยเจอมานะ ส่วนวัสดุภายในห้องหลายๆ ชนิดก็ถือว่าดีเลย เช่น ได้พื้นไวนิล, ได้ digital door lock, ชุดครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำให้มาครบค่ะ สิ่งที่ยังขาดก็จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้น เผื่องบไว้ไม่ถึงแสนก็เอาอยู่นะ

การออกแบบ :
ถ้าเทียบกับราคาห้องที่อยู่ในช่วง หนึ่งล้านปลายๆ ถึง สองล้านต้นๆ เรามองว่าการออกแบบที่นี่ถือว่าดีเลยนะคะ ราคาห้องที่นี่อาจจะไม่ได้ถูกสุดในระยอง แต่สิ่งที่คนซื้อได้จะไม่ได้แค่ตัวห้อง แต่จะได้เรื่องบรรยากาศและฟังก์ชันส่วนกลางอื่นๆที่อยู่ภายในโครงการอีกด้วย โดย Kensington Rayong ออกแบบมาให้เป็นคอนโดสไตล์รีสอร์ท มีคอร์ทตรงกลางที่มีทั้งสระว่ายน้ำขนาดยาว มีการจัด Landscape ของสวนที่เล่นระดับกัน ดูแล้วร่มรื่น อีกทั้งฟังก์ชันส่วนกลางที่อยู่ภายในอาคารก็หลากหลาย ตกแต่งออกมาน่าใช้งานค่ะ

ในส่วนของรูปแบบห้อง จะมีเฉพาะห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus เหมาะสำหรับคนโสด หรืออยู่กันเป็นคู่ 1-2 คนเท่านั้น ตัวห้องก็จะเป็นห้องหน้ากว้างทุกแบบ ห้องนอนปิด แยกเป็นสัดส่วนได้ความเป็นส่วนตัว แต่จะมีครัวที่แบบห้องส่วนใหญ่จะเป็นห้องครัวเปิด เชื่อมต่อกับพื้นที่กินข้าวและนั่งเล่น ซึ่งครัวแบบนี้อาจจะต้องระวังเรื่องการทำอาหารที่มีกลิ่นหรือควันแรงๆ หน่อยค่ะ

สาธารณูปโภค :
ส่วนกลางที่นี่ออกแบบมาดีทั้งความหลากหลายของฟังก์ชันและบรรยากาศนะ (เทียบกับราคาโปรดักส์ห้อง หนึ่งล้านปลายๆ ถึง สองล้านต้นๆ) ฟังก์ชันหลักๆ อย่างสระว่ายน้ำ ฟิตเนสก็มีให้ครบ มี Lobby ขนาดใหญ่แยกอาคาร มีห้อง Co-working space และมีพื้นที่สวนบนดาดฟ้า มีหลากหลายมุมนั่งเล่น พักผ่อน ที่ออกแบบมาให้ได้บรรยากาศที่ร่มรื่น และได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ โดยค่าส่วนกลางจะอยู่ที่ประมาณ 1,000-1,600 บาทต่อเดือนค่ะ

Judgement

เนื่องจาก Kensington Rayong ตั้งอยู่บนทำเลที่ทางผู้เขียนเองไม่คุ้นชินเท่าไรนัก ดังนั้นการตัดสินว่าโครงการนี้คุ้มค่าราคาหรือไม่นั้น ถ้ามองจากมุมของผู้เขียนเองอาจจะไม่แม่นยำเท่าไร ดังนั้นในรีวิวนี้เราจึงขอไม่ให้คะแนนในส่วนนี้นะคะ

KENSINGTON RAYONG เหมาะกับใคร?

โครงการ Kensington Rayong เหมาะกับคนมองหาที่อยู่อาศัย ที่เดินทางสะดวกระหว่างตัวเมืองระยองและนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อาจจะมองหาคอนโดเอาไว้เพื่ออยู่เอง หรือว่าเพื่อลงทุนปล่อยเช่าก็ได้ โดยเห็นคุณค่าของตัวโครงการที่เป็น Project Mixed-use มีความอุดมสมบูรณ์รายล้อม และตัวที่ดินมีการพัฒนาเพิ่มขึ้น ได้โปรดักส์ที่เป็นคอนโดบรรยากาศชวนพักผ่อน พื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย ดีไซน์สวยงาม เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คน โดยมีงบประมาณ 1.7 – 2.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,000 – 18,000 บาทต่อเดือน


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc