FYNN ASOKE คอนโดสไตล์โมเดิร์นดีไซน์ Free Form สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ในซอยสุขุมวิท 10 ใกล้รถไฟฟ้า BTS อโศก และสวนเบญจกิติแบบเดินไปได้สบาย ในราคาเริ่มต้น 5.49 ล้านบาท ซึ่งโครงการจะเปิดตึกให้ชมครั้งแรก 23-25 มิ.ย. นี้แล้ว ส่วน Highlights ของโครงการ จะมีอะไรบ้างเรารวบรวมมาให้ชมดังนี้

  • ทำเลอโศก : ความอุดมสมบูรณ์สูง เต็มไปด้วยอาคารสำนักงาน และห้างสรรพสินค้า ใกล้ BTS อโศก ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับ MRT เพียง 400 ม. (จากทางขึ้น Sky walk) พร้อมมีรถรับส่งมายังปากซอยโครงการ
  • ใกล้สวนเบญจกิติ : เพียง 200 ม. เดินได้สบาย ถือเป็นคอนโดที่ใกล้สวนเบญจกิติที่สุดในย่านนี้เลยค่ะ
  • แบบห้อง : เน้นสำหรับอยู่อาศัย 2-3 คนเป็นหลัก พื้นที่ภายในจัดฟังก์ชันลงตัว ดูโปร่งโล่ง ได้ห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อม Bathtub ในตัว โดยจุดที่น่าสนใจคือ มีห้องที่ได้สวนส่วนตัว และห้องพักแบบ Pool access ให้เลือกด้วยนะ
  • การออกแบบโครงการ : มาในสไตล์ Modern รูปทรง Free form ลื่นไหลเป็นธรรมชาติ มีเอกลักษณ์แตกต่างจากโครงการรอบข้าง พร้อมได้รางวัล Winner-Best High End Condo Landscape Architectural Design มาด้วยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

FYNN ASOKE (ฟินน์ อโศก) ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2566

 ชื่อโครงการ  FYNN ASOKE(ฟินน์ อโศก)
 ชื่อผู้ประกอบการ  FYNN Development
 SEGMENT CLASS  HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนสุขุมวิท ขตคลองเตย
 ที่ดิน 1-3-70 ไร่
 ประเภทคอนโด  คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร และที่จอดรถใต้ดิน 2 ชั้น
 จำนวนยูนิต   263 ยูนิต (อาคาร A 144 ยูนิต / อาคาร B จำนวน 119 ยูนิต)
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   20 ยูนิต อาคาร A
 ที่จอดรถ  125 คัน คิดเป็น 48% แบ่งเป็นที่จอดแบบ Automatic Parking 64 คัน และที่จอดแบบปกติ 61
 เริ่มก่อสร้าง  –
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  Q2 / ปี 2566
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom 24 – 49 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 40 – 62 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 46 – 68 ตร.ม.
  • 3 Bedrooms 104 ตร.ม.
  • Duplex 120 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  2.6 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  5.49 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 190,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่
 Call Center 092-201-9999

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.735617, 100.556795
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

มาดูภาพรวมของคอนโดมือหนึ่งที่ยังมีขายในย่านนี้สักหน่อยค่ะ โดยคอนโดรอบๆ BTS อโศก มีอยู่เยอะเลย ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ในช่วงประมาณ 190,000-285,000 บาท/ตร.ม. ส่วนคอนโดที่อยู่ใกล้ๆ สวนเบญจกิติ แบบเดินไปได้ก็มีอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็จะขยับมาอิงกับรถไฟฟ้า MRT มากกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นคอนโด High Rise เน้นเทควิวสวน ในช่วงราคาเฉลี่ยประมาณ 150,000-300,000 บาท/ตร.ม.

ขณะที่  FYNN ASOKE ปัจจุบมีราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 190,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเปิดตัวเมื่อ 4 ปีที่แล้วเลยด้วย ถือเป็นคอนโดที่มีราคาอยู่ในช่วงต้นๆ ของราคาคอนโดในโซนนี้ แต่จุดเด่นที่แตกต่างของโครงการนี้ไม่ใช่วิวสวน หรือทะเลสาบสวนเบญจกิติเหมือนโครงการตึกสูงในย่านเดียวกัน แต่เป็นระยะทางที่ไปใช้งานได้ใกล้เพียง 200 ม. เรียกว่าเป็นคอนโดที่ใกล้สวนเบญจกิติที่สุดในย่านนี้แล้วค่ะ 

FYNN Asoke เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 10 เป็นสุขุมวิทฝั่งเลขคู่ขาเข้าเมือง ฝั่งตรงกันข้ามกับ Terminal 21 โดยซอยนี้จะอยู่ระหว่าง BTS นานา และ BTS อโศก เป็นโซนที่มีชาวต่างชาติค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่มักจะเป็นชาวตะวันออกกลาง ทำให้บริเวณข้างทางมีร้านค้าของชาวตะวันออกกลางอยู่พอสมควร

ส่วนบรรยากาศภายในซอยสุขุมวิท 10 ไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวพอสมควร โดยส่วนมากเป็นพื้นที่สำหรับพักอาศัย คอนโด โรงแรม ท้ายซอยเป็นพื้นที่ของโรงงานยาสูบ และสวนเบญจกิติ ส่วนในซอยสุขุมวิท 12 ข้างๆโครงการจะมีชุมชนของชาวเกาหลี และจะมี Korean Town ที่มีร้านค้าร้านอาหารเกาหลีอยู่ภายในเยอะเลย

ความอุดมสมบูรณ์สูง ที่ใกล้ๆ โครงการ จะมี Korean Town อยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 12 หรืออาคาร ไทม์สแควร์ ที่ภายในมีร้านอาหารร้านค้าอยู่เยอะ นอกจากนั้นในอนาคต บริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 10 เองก็จะมี 10th Avenue โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ว่าที่แลนด์มาร์คใหม่ใจกลางเมือง เป็นอาคาร 51 ชั้น ด้านในมีสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก และโรงแรม 5 ดาว ให้ไปใช้บริการต่างๆ กันได้ใกล้ๆ เลยด้วยค่ะ

อีกทั้งบนถนนสุขุมวิทเองก็มีห้างน้อยใหญ่อย่าง โรบินสัน หรือจะเป็น Terminal 21 ศูนย์การค้าใหญ่ใจกลางอโศกที่รู้จักกันดีว่ามี Food Court ที่ถูกและดีอยู่ชั้นบน และร้านค้าแบรนด์ใหญ่น้อยให้เลือกซื้ออีกมากมาย หรือถ้าจะนั่งรถไฟฟ้าออกไปอีกสถานีอย่างพร้อมพงษ์ ก็จะเจอ Em District มี The Emporium, The Emquartier หรือถัดมาอีกหน่อยทางชิดลม-เพลินจิต ก็จะมี Central Embassy และ Central ชิดลม หรือจะนั่งรถไฟฟ้าตรงไปสยามเลยก็ใช้เวลาไม่นาน

และเนื่องจากแยกอโศกเป็น จุดตัดของถนนรัชดาภิเษก กับถนนสุขุมวิทซึ่งเป็น Node ที่สำคัญของคนกรุงเทพฯ ที่มีความเจริญเติบโตค่อนข้างสูง และมีความหลากหลายมาก มีทั้งสาธารณูปโภคที่ครบครัน ถนนหนทางหลากหลายเส้น มีรถไฟฟ้า BTS , MRT หรือจะเป็น Aiport rail link จากอโศกก็สามารถไปใช้งานได้โดยสะดวก อีกทั้งยังเป็นแหล่งงานที่สำคัญเต็มไปด้วยบริษัทขนาดเล็กขนาดใหญ่ อีกทั้งโรงแรมชั้นนำหลายแบรนด์ก็มาเปิดบนถนนเส้นนี้ ดังนั้นเราจะเห็นเหล่านักท่องเที่ยวเดินผ่านกันไปมาอยู่ตลอด จึงเกิดงานบริการนักท่องเที่ยวอย่างร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ เปิดอยู่ข้างถนน ตรอก ซอก ซอย กันเยอะเลย นอกจากนั้น บนทำเลนี้ก็มีโรงเรียนชื่อดังอย่างโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย และมศว. อยู่ด้วย เรียกได้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเลยค่ะ

ใกล้สวนเบญจกิติ เพียง 200 เมตร เนื่องจากซอยสุขุมวิท 10 สามารถใช้เดินผ่านไปออกสวนเบญจกิติได้เลย อยู่ในระยะที่เดินได้สบาย อีกทั้งภายในสวนยังมีทางจักรยาน และทางเดินเลียบคลองไผ่สิงห์โตที่เชื่อมไปออกสวนลุมพินีได้อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจไม่น้อย หรือจะเดินสวนทะลุไปยังศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ที่ภายในมีการจัดนิทรรศการต่างๆ อยู่ตลอด พร้อมทั้งมีร้านค้าร้านอาหารให้ไปนั่งชิลๆ กันได้ค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ สะดวกดีทีเดียว เนื่องจากเส้นสุขุมวิทเมื่อออกจากซอยสุขุมวิท 10 จะเป็นถนนฝั่งขาเข้าเมือง ซึ่งใช้เดินทางไปยังสี่แยกปทุมวันหรือสยามสแควร์ได้ง่าย หรือในขาออกเมืองก็ใช้ไป พร้อมพงษ์ ทองหล่อ หรือ เอกมัย ได้ ซึ่งจุดกลับรถบนถนนสุขุมวิทก็อยู่ไม่ไกลจากปากซอยสุขุมวิท 10 เลยค่ะ นอกจากนั้นถนนสุขุมวิทนี้ก็จะเชื่อมต่อไปยังถนนอื่นๆ อีกได้หลายเส้น เช่น ถนนอโศกมนตรี ที่จะพาเราไปยังพระราม9 – รัชดา หรือจะเลยไปยังลาดพร้าวก็ได้ หรือจะเป็นถนนรัชดา มุ่งหน้าไปพระราม 3 ก็จะผ่านแยกพระราม 4 ,คลองเตย ใช้เดินทางไปยังสีลม สาทร ได้ไม่ยาก ถือเป็นทำเลใจกลางเมืองที่การใช้รถใช้ถนนสะดวกมากทีเดียว แต่ต้องเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางสักหน่อยนะคะอย่างที่รู้กันนี้ว่าย่านนี้รถติดเป็นประจำค่ะ

จุดกลับรถ บนถนนสุขุมวิทอยู่ไม่ไกลจากหน้าปากซอยสุขุมวิท 10 ช่วงก่อนถึงสถานี BTS นานาค่ะ หรือถ้าเรามาจากสยามหรือลงทางด่วนเฉลิมมหานคร แล้วต้องการกลับรถมายังโครงการ จุดกลับรถก็จะอยู่ตรงสี่แยกอโศกเลย ใต้สถานีรถไฟฟ้าอโศกเลยค่ะ

ทางด่วน ตัวช่วยในการเดินทางที่ใกล้ที่สุดจะเป็นทางด่วนเฉลิมมหานคร ที่จะอยู่ใกล้ๆกับรถไฟฟ้าสถานีเพลินจิต ห่างจากโครงการออกไปประมาณ 2.3 เมตร ซึ่งการเดินทางไปก็ง่ายมาก คือเดินทางไปตามถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า ให้ชิดขวาเข้าไว้ จุดขึ้นทางด่วนจะอยู่ใต้ทางด่วนพอดี ก่อนถึงรถไฟฟ้าเพลินจิตค่ะ

การเดินทางโดยรถไฟฟ้าถือว่าสะดวกเลยค่ะ เนื่องจากโครงการใกล้ BTS อโศก ในระยะ 400 เมตร จากจุดขึ้น-ลง sky walk ซึ่งอยู่หน้าปากซอยเลยค่ะ โดยสถานีอโศกเป็นจุด interchange ระหว่าง BTS สายสีเขียว ที่ใช้เดินทางไปยังสยาม ชิดลม ทองหล่อ เอกมัย ได้ และ MRT สายสีน้ำเงินใช้เดินทางไปยังหัวลำโพง, ลาดพร้าว, จตุจักรได้ นอกจากนั้นหากใช้ MRT เดินทางไป 1 สถานี ที่ MRT เพชรบุรี ตรงนั้นก็จะมีทางเชื่อมไปยังรถไฟฟ้า Airport Rail Link เป็นตัวเลือกอีกทางสำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้สะดวกค่ะ

Image 1/3
จุดขึ้นลง ​Sky Walk เชื่อมต่อไปยัง BTS อโศก บริเวรหน้าซอยสุขุมวิท 10

จุดขึ้นลง ​Sky Walk เชื่อมต่อไปยัง BTS อโศก บริเวรหน้าซอยสุขุมวิท 10

ปัจจุบันจุดขึ้นลง ​Sky Walk เชื่อมต่อไปยัง BTS อโศกที่ใกล้โครงการที่สุดอยู่หน้าปากซอย สุขุมวิท 10 เลยค่ะ ห่างจากโครงการเพียง 400 เมตร เท่านั้น ซึ่งการเดินไปยัง BTS ด้วย ​Sky Walk นอกจากจะปลอดภัยไม่ต้องกลัวรถเฉี่ยวชนแล้วยังหลบฝนหลบแดดได้ด้วยค่ะ เดินไปไม่รู้สึกเหนื่อยเลย นอกจากนั้นทางโครงการยังมีรถรับส่งมาที่หน้าปากซอยเลยด้วย สะดวกดีทีเดียวค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ส่วนมากภายในซอยสุขุมวิท 10 จะเป็นอาคารพักอาศัย ที่มีทั้งบ้าน 2-3 ชั้น คอนโด และโรงแรม ด้วยความที่เป็นคอนโด Low Rise อาจจะคาดหวังเรื่องวิวภายนอกได้ยาก หากอยากได้วิวดีๆ อาจจะต้องเลือกห้องที่เทควิวกลางคอร์ทแทนค่ะ

  • ทิศเหนือ – ติดกับบ้านพักอาศัย และ อาคาร Sukhumvit CASA
  • ทิศใต้ – ติดกับบ้านพักอาศัยและคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น
  • ทิศตะวันออก – ติดกับซอยสุขุมวิท 10 ฝั่งตรงกันข้ามจะเป็นบ้านพักอาศัยและที่ดินเปล่ารอการพัฒนา
  • ทิศตะวันตก – ติดกับอพาร์ทเมนท์และโรงแรม Citadines

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Korean Town – 450 m.
  • Times Square – 550 m.
  • Robinson Sukhumvit – 700 m.
  • Terminal 21 – 800 m.
  • ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) – 2.2 km.
  • Em District – 2.3 km.
  • The PARQ – 2.7 km.
  • 10th Avenue – 400 m.(ในอนาคต)

โรงพยาบาล

  • รพ.บำรุงราษฎร์ – 1.7 km.
  • รพ.จักษุรัตนิน – 2.6 km.
  • รพ.สมิติเวช – 4.1 km.

โรงเรียน

  • รร.วัฒนาวิทยาลัย – 1.6 km.
  • มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ – 2.2 km.
  • รร.สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร – 2.4 km.
  • รร.เซนต์ดอมินิก – 3 km.

สถานที่อื่นๆ

  • สวนเบญจกิติ , โรงงานยาสูบ – 200 m.(ถึงประตูทางเข้า)
  • BTS อโศก – 400 m.(ทางขึ้น Sky Walk หน้าซอยสุขุมวิท 10)
  • BTS นานา – 600 m.
  • MRT สุขุมวิท – 900 m.
  • อาคาร interchange 21 – 1 km.
  • อาคาร Exchange Tower – 1 km.
  • Lake Ratchada – 1 km.
  • Health Land อโศก – 1.1 km.
  • Sermmit Tower – 1.2 km.
  • ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ – 1.3 km.
  • Sinothai Tower – 1.3 km.
  • G”MM’ Grammy – 1.6 km
  • อุทยานเบญจสิริ – 2.0 km.
  • สวนลุม – 2.6 km.
  • FYI Center – 3 km.

รายละเอียดโครงการ

FYNN ASOKE เป็นคอนโดจาก FYNN Development ซึ่งมี Background ทำธุรกิจ Resort Hotel ชื่อดังอย่าง The Haad Tien Beach Resort Koh Toa ให้เป็นที่รู้จักมาก่อน ซึ่ง FYNN Asoke ถือเป็นคอนโดซีรีส์ที่สามแล้วภายใต้แบรนด์ FYNN หลังจากที่โครงการก่อนหน้าอย่าง Fynn Aree ได้ Sold out เป็นที่เรียบร้อย และ Fynn Sukhumvit 31 ที่เหลือเพียงไม่กี่ยูนิตค่ะ

โดยครั้งนี้ FYNN ASOKE มาในรูปแบบคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 263 ยูนิต แบ่งเป็นอาคาร A จำนวน 144 ยูนิต และอาคาร B จำนวน 119 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ดินเกือบ 2 ไร่ ภายในซอยสุขุมวิท 10 ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมต่อสวนเบญจกิตติได้ อีกทั้งโครงการมาใน Concept “Bringing Asoke with nature” เน้นความเป็นธรรมชาติใจกลางเมือง อาคารสไตล์ Modern รูปทรง Freeform ดูลื่นไหลเป็นธรรมชาติ เน้นบรรยากาศภายใน ที่ร่มรื่นผ่อนคลาย มีสระว่ายน้ำ และต้นไม้ใหญ่ กลางคอร์ทเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังมีสวนชั้นดาดฟ้าขนาดใหญ่ที่เทควิวเมืองไปได้ในตัว จากการออกแบบของสถาปนิก Atom Design & TROP ซึ่งต้องบอกก่อนว่าการดีไซน์ที่นี่ได้รางวัล Winner-Best High End Condo Landscape Architectural Design จาก Thailand Property Awards 2019 มาด้วยค่ะ

Master Plan โครงการ เข้า-ออกได้จากถนนซอยสุขุมวิท 10 ทางเดียว ง่ายต่อการดูแลรักษาความปลอดภัย ขับตรงเข้าไปด้านในก็จะมีวงเวียนให้จอดรับ-ส่งคนที่ Drop-Off ได้ ส่วนด้านขวาก็จะเป็นช่องจอดรถแบบ Auto Parking ซึ่งมี 2 ช่องจอด และถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะลงทางลาดเพื่อไปจอดรถที่ชั้นจอดใต้ดินซึ่งมี 2 ชั้น โดยที่จอดรถมีจำนวน 125 คันคิดเป็น 48% ถือว่าโอเคสำหรับโครงการที่ใกล้ถนนหลัก และรถไฟฟ้า เรียกใช้รถสาธารณะกันได้ง่ายค่ะ

สำหรับส่วนกลางแรก จะมี Lobby แยกเป็นของแต่ละอาคารเลย แต่ Lobby อาคาร A จะมีขนาดใหญ่กว่าหน่อยเพราะมีพื้นที่ Co working space อยู่ด้วย ซึ่งลูกบ้านทั้งจากอาคาร A และ B สามารถเข้าใช้งานได้ค่ะ นอกจากนั้นแต่ละอาคารจะมี Smart Locker ไว้ให้ด้วย คอยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน เวลามีพัสดุมาส่งจะได้มารับเองตรงนี้ได้ตลอด 24 ชม. ส่วน Facilities อื่นๆ จะอยู่บริเวณกลางคอร์ท เป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และ Raintree Pavilion ที่รอบๆ มีบันไดเดินลงไปใช้งานส่วนกลางที่อยู่ชั้นล่างซึ่งมีสระเด็ก, Sun deck และฟิตเนสได้ โดย Facilities กลางแจ้งทั้งหมดจะอยู่ตรงกลางคอร์ท เพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัว และยังทำให้ห้องด้านใน ได้วิวสระว่ายน้ำอีกด้วย ส่วนพักอาศัยของชั้น 1 นี้ จะต้องใช้ Key Card ในการเข้าออกไปยังโถงพักอาศัยก่อน เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านชั้นนี้ค่ะ

มาเริ่มกันที่ประตูทางเข้าออกโครงการ กันค่ะ ซึ่งมีเพียงจุดเดียวจากทางถนนซอยสุขุมวิท 10 ทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษาความปลอดภัย โดยมีป้อม รปภ. ทางด้านซ้ายมือคอยดูแลตลอด 24 ชม. มาพร้อม CCTV ครบครัน

Image 1/2
ภาพบรรยากาศบริเวณ Drop-Off

ภาพบรรยากาศบริเวณ Drop-Off

เมื่อขับเข้ามาด้านในเป็นวงเวียนให้จอดรับ-ส่งคนที่ Drop-Off ได้ เป็นพื้นที่ใต้อาคารกันแดดกันฝนได้ ซ้ายมือเป็นทางลงไปยังชั้นจอดรถใต้ดิน ซึ่งจะมีไม้กันกระดกระบบ Bluetooth ระยะไกล เวลาลูกบ้านขับผ่าน ประตูจะเปิดให้อัตโนมัติ สะดวกดีค่ะ ส่วนด้านขวาก็จะเป็นช่องจอดรถแบบ Auto Parking ซึ่งมี 2 ช่องจอดค่ะ โดยปัจจุบันส่วนนี้ยังไม่เรียบร้อยดี หากได้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้วจะมาอัพเดทให้ดูกันค่ะ

Image 1/3
บรรยากาศภายในชั้นจอดรถใต้ดิน

บรรยากาศภายในชั้นจอดรถใต้ดิน

บรรยากาศภายในชั้นจอดรถใต้ดิน ซึ่งมีทั้งหมด 2 ชั้น จอดได้ประมาณ 61 คัน แบบไม่รวมซ้อน ซึ่งจากชั้นที่จอดรถจะมีโถงลิฟต์ คอยบริการอยู่ด้วยค่ะ ไม่ต้องเดินให้เมื่อยนะ

มาดูภายในอาคาร A ฝั่งซ้ายกันบ้างค่ะ

Image 1/2
ภาพบรรยากาศบริเวณ Lobby อาคาร A

ภาพบรรยากาศบริเวณ Lobby อาคาร A

เมื่อเข้ามาแล้วเป็นส่วน Lobby ซึ่งมีการจัดเป็นชุดโซฟารับแขกไว้ให้ด้านใน หากนัดเพื่อนไว้ก็ให้มานั่งรอได้ก่อนเลยสะดวกดีค่ะ

นอกจากนั้นภายในยังมี co-working space ให้มานั่งอ่านหนังสือทำงานเปลี่ยนบรรยากาศกันได้ค่ะ

Image 1/2
ภาพบรรยากาศโถงลิฟต์ อาคาร A

ภาพบรรยากาศโถงลิฟต์ อาคาร A

ส่วนโถงลิฟต์ชั้นพักอาศัยจะอยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งต้องใช้ Key card แตะก่อน เพื่อรักษาความปลอดภัยค่ะ

Image 1/2
ภาพบรรยากาศ Smart locker อาคาร A

ภาพบรรยากาศ Smart locker อาคาร A

ฝั่งขวามือเป็น Smart locker คอยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน เวลามีพัสดุมาส่งจะได้มารับเองตรงนี้ได้ตลอด 24 ชม. ส่วนประตูด้านในจะเป็นโซนพักอาศัยของห้องชั้น 1 ซึ่งต้องใช้ Key card ในการเข้าออกเช่นกันค่ะ

มาต่อกันที่อาคาร B ฝั่งขวามือกันบ้างค่ะ

Image 1/3
ภาพบรรยากาศบริเวณ Lobby อาคาร B

ภาพบรรยากาศบริเวณ Lobby อาคาร B

ภายในมี Lobby และโซฟารับแขก แยกเป็นของตัวเองด้วยเช่นกัน

Image 1/2
ภาพบรรยากาศโถงลิฟต์ และโถงพักอาศัย อาคาร A

ภาพบรรยากาศโถงลิฟต์ และโถงพักอาศัย อาคาร A

ส่วนด้านในซ้ายมือเป็นโถงแยกไปยังส่วนพักอาศัยชั้น 1 ขวามือเป็นโถงลิฟต์ และ Smart locker ด้วยเช่นกันค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศคอร์ทกลาง โครงการ FYNN ASOKE

บรรยากาศคอร์ทกลาง โครงการ FYNN ASOKE

มาดูพื้นที่ส่วนกลาง outdoor กันบ้าง ซึ่งจะอยู่บริเวณกลางคอร์ททั้งหมด โดยด้านหน้าส่วนแรกตรงนี้มีพื้นโค้งยื่นออกไปชมวิว หรือยืนถ่ายรูปกันได้ นับเป็นมุม Hero shot เท่ๆ ของโครงการเลยค่ะ

ไฮไลต์คือต้นจามจุรีขนาดใหญ่กลางคอร์ท ซึ่งเป็นต้นไม้ที่อยู่ในที่ดินเดิมมาแต่แรก เป็นต้นจามจุรีอายุ 60 ปี ซึ่งทางโครงการก็ต้องการรักษาเอาไว้เพราะเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ฟอร์มสวย โดยทางโครงการมีการตัดแต่งกิ่งใหม่เพื่อไม่ให้กระทบกับตัวอาคารเพิ่มเติมค่ะ

พื้นที่รอบๆ Raintree Pavilion ออกแบบไว้เป็น บันไดเดินลงไปใช้งานส่วนกลางที่อยู่ชั้นล่าง เป็นบันไดโค้ง Free form รับไปกับ รูปทรงอาคารและต้นจามจุรี มีการตกแต่งผนังด้วยอะลูมิเนียม สอดคล้องไปกับราวกันตกที่ออกแบบไว้เป็น Grill ซ้อนกัน พร้อมทั้งปลูกไม้เลื้อยห้อยย้อยลงมารับกัน ดูสบายตามากยิ่งขึ้น

Image 1/3
บรรยากาศบริเวณ Raintree Pavilion

บรรยากาศบริเวณ Raintree Pavilion

Raintree Pavilion เป็นพื้นที่พักผ่อนใต้ต้นจามจุรี ซึ่งทางโครงการวาง Day bed นิ่มๆกลมๆไว้ให้ มานั่งเล่น นอนเล่นใต้ต้นไม้ บรรยากาศชิลดีเลยค่ะ

ด้านข้างมีจุดล้างตัว กลางแจ้งสำหรับคนที่มาว่ายน้ำอยู่ด้วยค่ะ ไม่ไกลจากพลางเดินลงสระเลยนะใช้ได้สะดวกดีค่ะ

Image 1/2
สระว่ายน้ำ โครงการ FYNN ASOKE

สระว่ายน้ำ โครงการ FYNN ASOKE

สระว่ายน้ำ ภายในโครงการมีขนาดใหญ่ทีเดียวเป็นสระรูปทรง Freeform ที่มีช่วงที่ยาวที่สุดประมาณ 25 เมตร ใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริงจัง แต่อาจจะรู้สึกเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง เพราะห้องพักชั้น 1 ฝั่งด้านในทั้งหมดจะเป็นห้อง Pool access มีระเบียงเชื่อมตรงมายังสระว่ายน้ำได้เลยค่ะ

ลงไปยังส่วนกลางชั้น B1 กันบ้าง ซึ่งบริเวณชานพักบันไดออกแบบเป็นพื้นโค้งยื่นออกไป มายืนถ่ายรูปเท่ๆ ลงโซเชียลกันได้ค่ะ

Image 1/3
บรรยากาศบริเวณ Kids Pool

บรรยากาศบริเวณ Kids Pool

เดินลงมาแล้วจะเห็นเป็นน้ำตก ที่ไหลต่อเนื่องมาจากสระใหญ่ด้านบนตกสู่ Kids Pool ด้านล่าง ซึ่งนอกจากจะดูสวยงามแล้ว ยังเป็นการสร้าง Ambience เสียงน้ำตกได้บรรยากาศที่ดูผ่อนคลายดีเลยค่ะ

โดยพื้นที่สระเด็กจะยื่นล้วงเข้าไปในอาคารเลย ซึ่งตรงนี้ออกแบบไว้เป็นสระตื้นๆ พร้อมน้ำตกจากด้านบน ถูกใจเด็กๆเลยทีเดียวค่ะ หรือมานอนแช่น้ำเพื่อผ่อนคลายก็ได้ค่ะ

มาดูแปลน Fitness กันสักหน่อยค่ะ ซึ่งนอกจากเครื่องเล่นต่างๆแล้ว ตรงกลางห้องยังมีเคาน์เตอร์บาร์ และ Co-Theater ให้ได้นั่งพักผ่อน พักจิบเครื่องดื่มระหว่างออกกำลังกายกันได้ พร้อมห้องน้ำแยกชายหญิง และมี Steam สำหรับห้องน้ำหญิง กับ Sauna สำหรับห้องน้ำชาย รวมถึงมีห้อง Laundry ไว้คอยบริการอีกด้วยค่ะ

เมื่อเข้ามาในพื้นที่ฟิตเนสจะเป็นโถงเล็กๆที่ด้านบนออกแบบเป็น Sky light ซึ่งอยู่ในบ่อน้ำชั้น 1 ทำให้พื้นที่ตรงนี้ได้ Effect จากแสงที่ลอดผ่านน้ำมา ดูมี movement ที่น่าสนใจทีเดียวนะ ส่วนด้านขวามือ มีห้องน้ำอยู่ 1 ห้องค่ะ

Image 1/2
ห้องน้ำภายในฟิตเนส

ห้องน้ำภายในฟิตเนส

เป็นห้องน้ำสำหรับคนมาใช้สระว่ายน้ำ ไม่ต้องเดินไปไกลถึงห้องน้ำโซนด้านใน ภายในมีอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และที่อาบน้ำมาครบ

ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ที่มองออกไปเห็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากสระใหญ่ และต้นไม้ ได้บรรยากาศดีทีเดียว อีกทั้งบนฝ้ายังดีไซน์เป็น skylight มาให้ด้วยเช่นกันค่ะ

Image 1/2
ห้องออกกำลังกายโครงการ FYNN ASOKE

ห้องออกกำลังกายโครงการ FYNN ASOKE

สำหรับเครื่องออกกำลังกายเป็นของ Techno gym ดูแข็งแรง จัดไว้ให้ครบทั้งแบบคาร์ดิโอ และเวทเทรนนิ่ง สามารถใช้งานพร้อมกันได้ประมาณ 12-13 คน

Image 1/2
ห้องออกกำลังกายโครงการ FYNN ASOKE

ห้องออกกำลังกายโครงการ FYNN ASOKE

ถัดมาอีกฝั่งเป็นเครื่องออกกำลังกายต่อยเป้า simulator ฟีลออกกำลังกายไปด้วย เล่นเกมไปด้วย ดูไม่น่าเบื่อเลยค่ะ

Image 1/2
ห้องออกกำลังกายโครงการ FYNN ASOKE

ห้องออกกำลังกายโครงการ FYNN ASOKE

Bike simulator room เป็นห้องที่กั้นแยกจากโซนอื่นๆ เพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัว ภายในเครื่องสำหรับการปั่นจักรยานแบบคู่ ชวนกันมาปั่นด้วยกันได้เลย ดูน่าสนุกทีเดียว ซึ่งการใช้งานพื้นที่ตรงนี้ต้อง booking ก่อนนะคะ

ส่วนพื้นที่ด้านใน เชื่อมต่อกับ Yoga room ภายในห้องมีอุปกรณ์ครบครัน ส่วนผนังอีกด้านหนึ่งจะเป็นกระจกเงาตลอดแนว ใช้งานได้สะดวกเลยค่ะ

Image 1/3
Fitness lounge ภายในห้องออกกำลังกาย

Fitness lounge ภายในห้องออกกำลังกาย

Fitness lounge กลางห้องฟิตเนสจัดเป็นบาร์เล็กๆ ให้สามารถพักจิบน้ำระหว่างออกกำลังกาย หรือทำ protein shake ได้สะดวกค่ะ

Image 1/2
Co-theatre ภายในห้องออกกำลังกาย

Co-theatre ภายในห้องออกกำลังกาย

บริเวณข้างกันเป็น Co-theatre จัดไว้เป็นโซฟาขนาดใหญ่ ใช้นั่งดูหนังร่วมกันชิลๆ ได้ โดยทางโครงการติดตั้งเครื่อง projector เอาไว้ให้ครบ

ด้านในสุดฝั่งขวา เป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง ซ้ายมือเป็น Laundry room ให้ลูกบ้านมาใช้บริการ ซักผ้ากันได้ค่ะ

Image 1/4
ห้องน้ำ ชั้นส่วนกลาง

ห้องน้ำ ชั้นส่วนกลาง

ภายในห้องน้ำจะประกอบไปด้วย อ่างล้างหน้า ห้องอาบน้ำ และห้องโถสุขภัณฑ์อย่างละหนึ่งห้อง พร้อมมี lockers มาให้ครบ ใช้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเวลามาออกกำลังกายได้สะดวกเลย นอกจากนั้นภายในห้องน้ำหญิงยังมี Steam room ด้วยในตัวค่ะ

Image 1/2
ห้องน้ำ ชั้นส่วนกลาง

ห้องน้ำ ชั้นส่วนกลาง

ส่วนในห้องน้ำชายก็จัดฟังก์ชันมาเหมือนกันเลย แต่จะได้เป็นห้อง Sauna มาแทนค่ะ

ชั้นดาดฟ้า เป็นพื้นที่สวนทั้งอาคาร A และ B ซึ่งเชื่อมต่อเดินถึงกันได้หมด ภายในออกแบบเป็นทางเดินโค้ง พร้อมมีต้นไม้หลายจุดดูน่าสนใจไม่น้อย

โดยฝั่งอาคาร A ทางด้านซ้าย ด้านหน้าเป็น Urban plantation มุมปลูกผักสวนครัว ถัดมาเป็นจุดนั่งเล่นส่วนตัวPrivate sanctuation หลายมุม ส่วน Relaxing hill จะทำเป็นเนินหญ้าที่มี Slope เล่นระดับ และจะไม่มีการปลูกต้นไม้เพื่อที่จะได้เทควิวฝั่งนี้ได้ ซึ่งค่อนข้างโล่งกว่ามุมอื่นๆ ส่วนด้านในสุดมี Sunset Balcony เป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ตรงกลางมีเครื่องเล่นเด็กมาให้ด้วย

ส่วนฝั่งอาคาร B จะมีพื้นที่นั่งเล่น Forest lounge มาให้หลายมุมเลย และมี Play ground สำหรับเด็กๆด้วยอีกจุด นอกจากนั้นยังมีมุมปาร์ตี้ Outdoor co-kitchen terrace ,BBQ Station และ Family’s courtyard มาด้วยค่ะ

ส่วนกลางชั้นดาดฟ้า เราจะต้องกดลิฟต์ขึ้นมายังชั้น 8 ก่อน จากนั้นจึงขึ้นบันไดหนีไฟขึ้นไปได้ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ทั้งจาก อาคาร A และ B เลยค่ะเพราะพื้นที่ดาดฟ้าเชื่อมต่อเดินถึงกันได้ทั้งหมด

เราขึ้นมายังชั้นดาดฟ้าของอาคาร A กันค่ะ โดยทางเดินในภายในสวน และ Landscape ต่างๆจะออกแบบโดยใช้เส้นสาย Free form ดูน่าสนใจทีเดียว

Image 1/2
Private sanctuaries ภายในสวนชั้นดาดฟ้า

Private sanctuaries ภายในสวนชั้นดาดฟ้า

Private sanctuaries เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน ออกแบบไว้เป็น Sunken seat ที่มีไม้พุ่มไม้ยืนต้นขนาดกลางล้อมรอบไว้ ดูเป็นส่วนตัวดี เวลามานั่งเล่นพักผ่อนคนเดียว จะได้ไม่เคอะเขิน ซึ่งทางโครงการจัดที่นั่งเล่น แบบนี้ไว้ให้หลายจุดเลยค่ะ

Image 1/2
Relaxing hill ภายในสวนชั้นดาดฟ้า

Relaxing hill ภายในสวนชั้นดาดฟ้า

Relaxing hill จัดเป็นเนินหญ้าเขียวๆ ที่มี Slope เล่นระดับ และจะไม่มีการปลูกต้นไม้เพื่อที่จะได้เทควิวฝั่งนี้ได้ ซึ่งค่อนข้างโล่งกว่ามุมอื่นๆ

Image 1/3
พื้นที่นั่งเล่น ภายในสวนชั้นดาดฟ้า

พื้นที่นั่งเล่น ภายในสวนชั้นดาดฟ้า

บริเวณข้างกัน ทางโครงการได้จะเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่น Outdoor ไว้ให้หลายจุดเลยค่ะ ในช่วงเวลาแดดร่มๆ มานั่งเล่นชมวิวกันได้นะคะ

Image 1/2
สนามเด็กเล่น ภายในสวนชั้นดาดฟ้า

สนามเด็กเล่น ภายในสวนชั้นดาดฟ้า

ถัดมาด้านในจัดเป็นสนามเด็กเล่นพื้นยาง ซึ่งมีคุณสมบัติดูดซับแรงกระแทก ช่วยลดความรุนแรงเวลาล้มได้ค่ะ อีกทั้งมีที่นั่งล้อมรอบไว้ด้วย สะดวกเวลาผู้ปกครองพาเด็กๆ มาวิ่งเล่นก็จะได้มีที่ให้นั่งรอคอยดูแลค่ะ

เดินต่อมาอีกหน่อย Star gazing bridge ทางเดินเชื่อมต่อไปยังดาดฟ้าอาคาร B ค่ะ

Image 1/2
มุมมองจาก จาก Star gazing bridge

มุมมองจาก จาก Star gazing bridge

จาก Star gazing bridge มองลงมายังพื้นที่กลางคอร์ท เป็นมุมมองที่สวยงามทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง Hero shot ของโครงการนี้ มาเก็บภาพลง ig กันได้ค่ะ

Forest lounge ออกแบบไว้เป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนใต้ต้นไม้จัดไว้ให้ หลายจุดเลย ดูร่มรื่น น่ามานั่งเล่นพักผ่อนในช่วงเย็นดีเลยค่ะ

Image 1/2
สนามเด็กเล่น ภายในสวนชั้นดาดฟ้า

สนามเด็กเล่น ภายในสวนชั้นดาดฟ้า

สนามเด็กเล่นกลางสวนอีกหนึ่งจุด ใช้เป็นพื้นยางด้วยเช่นกัน ส่วนเครื่องเล่นตรงนี้จัดไว้เป็นม้าโยก และม้ากระดก น่ารักๆ พาเด็กๆ มาเล่นด้วยกันได้เลย

Image 1/4
Outdoor co-kitchen terrace ภายในสวนชั้นดาดฟ้า

Outdoor co-kitchen terrace ภายในสวนชั้นดาดฟ้า

ถัดมาเป็นพื้นที่ Outdoor co-kitchen terrace และ BBQ Station Family’s courtyard รองรับการจัดปาร์ตี้ได้เลยค่ะพาครอบครัว หรือเพื่อนๆ มาสังสรรค์ จัดปาร์ตี้กลางสวนชมวิวเมืองไปพร้อมๆกันได้เลยนะ

ถัดมาอีกหน่อยเป็นมุมนั่งเล่นใต้ต้นไม้ ชมวิวกลางคอร์ทจากมุมสูงได้ค่ะ ซึ่งราวกันตกของชั้นดาดฟ้าใช้เป็นกระจกทั้งหมด ดูโมเดิร์น สวยงาม ไม่บดบังวิวเลยค่ะ

สำหรับค่าส่วนกลางอยู่ที่ 70 บาท/ตร.ม./เดือน หรือตกเดือนละประมาณ 1,680-8,400 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง)

ชั้นพักอาศัย

ชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1-8 เลย โดยโถงชั้นพักอาศัยเป็นแบบ Double corridor โดยโถงอาคาร A จะมีช่องระบายอากาศเพียงจุดเดียวทางด้านหน้าอาคาร และมีจำนวนยูนิตเยอะกว่า ส่วนอาคาร B เนื่องจากมีการออกแบบอาคารเว้าโค้งตามทรงต้นจามจุรี ทำให้โถงทางเดินอาคารนี้ช่วงหนึ่งจะเป็นกระจกได้แสงธรรมชาติเยอะ ได้วิวต้นจามจุรี ก็จะดูโปร่งไม่อึดอัด อึกทั้งห้องพักอาคารนี้ยังมีจำนวนน้อยกว่าได้ความเป็นส่วนตัวดี

ส่วนโถงลิฟต์จะอยู่ช่วงด้านหน้าอาคาร ใกล้กับตำแหน่ง Lobby ชั้น 1 ทำให้ห้องที่อยู่ช่วงหลังๆ จะเดินไกลหน่อย แต่ก็ได้ความเป็นส่วนตัวดี โดยแต่ละอาคารมีลิฟต์ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์ทั้งโครงการ 66 : 1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นเลยสามารถใช้งานได้สะดวกไม่ต้องรอลิฟต์นานเลย

โดยห้องพักอาศัยชั้น 1 จะพิเศษกว่าชั้นอื่นๆ ตรงที่ ห้องรอบนอกจะมีพื้นที่ติดกับสวน จึงได้วิวสวน และสามารถออกมาใช้งานพื้นที่สวนได้ โดยทางโครงการมีการกั้นสวนเอาไว้ให้ใช้งานได้เป็นส่วนตัวแต่ละยูนิตด้วยไม้พุ่มสูงระดับสายตา ส่วนห้องที่หันเข้าด้านในเป็น Pool Access ที่มีระเบียงห้องติดกับสระว่ายน้ำ สามารถเดินลงสระได้เลยเหมือนมีสระว่ายน้ำส่วนตัว

Image 1/6
ผังห้องพักอาศัย โครงการ FYNN ASOKE

ผังห้องพักอาศัย โครงการ FYNN ASOKE

ผังชั้นพักอาศัยแต่ละชั้นจะแตกต่างกันออกไปเล็กน้อย โดยห้องแต่ละแบบก็จะมีจุดที่น่าสนใจ ดังนี้

  • 1 Bedroom (สีเทา) เป็นห้องขนาดเริ่มต้นที่มีจำนวนเยอะสุด ส่วนใหญ่จะเทควิวเฉพาะด้านนอก มีที่เทควิวด้านในอยู่บ้าง จุดที่น่าสนใจคือมีตำแหน่งที่อยู่ใกล้กับต้นจามจุรี (อาคาร B) ซึ่งเป็นห้องมุมได้กระจกโค้งด้วย นับเป็นห้องที่ได้วิวดีทีเดียวค่ะ
  • 1 Bedroom Plus (สีเหลือง) เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มีจำนวนเยอะรองลงมาจากแบบก่อนหน้ามีเฉพาะ อาคาร A เทควิวกลางคอร์ทซึ่งถือว่าเป็นวิวที่ดีกว่ารอบนอก และได้ความเป็นส่วนตัวดีด้วยค่ะ
  • 2 Bedrooms 1 Bathroom (สีส้ม) เป็นห้องสำหรับครอบครัวที่มีจำนวนไม่เยอะมาก อยู่ในตำแหน่งมุม ติดเพื่อนบ้านฝั่งเดียว เทควิวกลางคอร์ททั้งหมด ดูโปร่งและได้ความเป็นส่วนตัวดีค่ะ
  • 2 Bedrooms 2 Bathroom (สีชมพู) เป็นห้องสำหรับครอบครัว ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น อยู่สบาย มีทั้งอาคาร A และ B ส่วนใหญ่อยู่ในตำแหน่งมุมอาคาร ได้กระจกเข้ามุมโค้ง มีให้เลือกทั้งที่เทควิวด้านใน และด้านนอกเลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น 1

Indoor

  • Double-volume lobbies
  • Reception areas
  • Co-working space
  • Lift lobbies
  • Mailbox
  • Smart lockers,

Outdoor

  • Rain tree’s pavilion
  • 25 m. swimming pool
  • Kid’s pool
  • Sun deck
  • Outdoor shower area
  • Bike’s lockers

ชั้น B1

  • Fitness lounge
  • Bike simulator room
  • Yoga room
  • Co-theatre
  • Sauna
  • Steam room
  • Changing rooms and lockers, Laundry room

ชั้นดาดฟ้า

  • Sky garden
  • Tropical walking trail
  • Urban plantation
  • Private sanctuaries
  • Relaxing hill
  • Sunset balcony
  • Star gazing bridge
  • Forest lounge
  • Playground
  • Outdoor co-kitchen terrace
  • BBQ StationFamily’s courtyard

  • สวนหย่อมที่ชั้น B1, 1 และ ดาดฟ้า
  • สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 7.5 x 25 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  • มีการแบ่งสระเด็ก ลึก n/a เมตร ขนาดประมาณ n/a เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 14 เครื่อง
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 66 :  1
  •  125 คัน คิดเป็น 48% แบ่งเป็นที่จอดแบบ Automatic Parking 64 คัน และที่จอดแบบปกติ 61 คัน
  • EV charger 2 ที่จอด
  • มีรถ Shuttle Bus ไปกลับหน้าซอยสุขุมวิท 10
  • ระบบในการเข้า-ออก (รถยนต์) Bluetooth ระยะไกล
  • ระบบในการเข้า-ออก (เดินเข้าออก ขึ้นลงอาคาร) Keycard Access
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / รปภ. ดูแลตลอด 24 ชม.

 

แบบห้อง

FYNN ASOKE มีโปรดักส์ให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย มากถึง 40 แบบ เนื่องจากลักษณะของอาคารที่โค้งเว้าไป-มาแบบ Free from จึงทำให้แต่ละห้องมีรูปร่างแตกต่างกันไป แต่สามารถแบ่งได้ 5 แบบหลักๆ โดยจะเน้นเป็นห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom plus ที่มีจำนวนเยอะที่สุดเหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1-2 คนสบายๆ นอกจากนั้นยังมีห้อง 2 Bedroom 1 Bathroom และ 2 Bedroom 2 Bathroom สำหรับครอบครัว 2-3 คน อยู่กันเป็นพ่อแม่ลูกให้เลือกอีกด้วย

ซึ่งต้องบอกกันก่อนว่าห้องที่นี่ขายไปแล้วกว่า 70% ทำให้บาง Lay-out อาจจะเหลือไม่เยอะ หากใครมีห้องที่สนใจอยู่แล้ว อาจจะต้องรีบกันหน่อยค่ะ

  • 1 Bedroom 24 – 49 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 40 – 62 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 46 – 68 ตร.ม.
  • 3 Bedrooms 104 ตร.ม.
  • Duplex 120 ตร.ม.

วัสดุภายในห้อง

  • พื้นห้องปู Hybrid Engineered
  • พื้น และผนัง ห้องน้ำ ปูกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อน 60×60 ซม.
  • พื้นระเบียง ปูกระเบื้อง ปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม.
  • ผนังทั่วไปเป็น ฉาบเรียบทาสีขาว ตามมาตรฐาน
  • Built-in ครัว ท็อปหินสังเคราะห์ลายหินอ่อน/ ที่ดูดควันแบบดูดออกไปภายนอก, เตาไฟฟ้า จาก Gorenje / ชุดอ่างล้างจานแบบมีฝาปิด จาก Hafele / Backsplash ด้านหลังเป็นกระจก และด้านข้างเป็น Hi Gloss
  • สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ จาก Kohler และ American standard / ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย Tempered Glass / เดินงานระบบท่อน้ำร้อนในผนัง
  • Built-in ตู้เสื้อผ้า และตู้รองเท้า
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.6 ม. ฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว
  • ปลั๊กและสวิตช์ ยี่ห้อ SIMON หรือเทียบเท่า
  • เครื่องปรับอากาศแบบ Concealed Type ของ Daikin
  • Digital door lock ยี่ห้อ Samsung ใช้งานได้ 5 ระบบ Passcode, Fingerprint, Mobile app. , Key , Key Card(RF Card)

สำหรับห้องพักที่นี่ขายแบบ Fully Fitted คือให้ชุดเคาน์เตอร์ครัว ตู้เสื้อผ้า และตู้รองเท้าแบบ Built in ได้เครื่องปรับอากาศแบบ Concealed Type และ Wall Type ให้เป็นพื้นฐาน ซึ่งแบบนี้มีข้อดีคือ เราสามารถตกแต่ง interior ได้ตามสไตล์ที่ชอบเลยค่ะ นอกจากนั้นในบางช่วงจะมีโปรโมชันขายห้องพร้อม Furniture Set แต่งครบอยู่ด้วย หน้าตาแบบนี้เลยค่ะ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรโปรดสอบถามข้อมูลจากทางโครงการอีกครั้งค่ะ*

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม. เป็นห้องขนาดมาตรฐานของโครงการ มีจำนวนค่อนข้างเยอะในตำแหน่งเทควิวด้านนอกทั้งหมด รูปร่างห้องเกือบจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส หน้าค่อนข้างกว้าง เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1 – 2 คน ชอบพื้นที่โปร่งโล่งเชื่อมต่อกันได้ ไม่ค่อยมีแขกมาบ้านหรือไม่ค่อยทำอาหารทานเองเท่าไร ส่วนราคาหากคำนวณจากราคาเฉลี่ยทั้งโครงการแล้ว ห้องนี้ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 6.08 ล้านบาท โดยจุดเด่นที่น่าสนใจมีดังนี้

  • Common area ขนาดใหญ่ รวมเอาพื้นที่ครัว + ทานอาหาร + นั่งเล่น เข้าไว้ด้วยกัน ดูโปร่งโล่ง อีกทั้งติดระเบียงทำให้ได้แสงธรรมชาติดี เปิดระบายอากาศได้สะดวก แต่การที่เป็นครัวแบบเปิดก็จะทำอาหารหนักได้ไม่ค่อยสะดวกเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยได้ทำอาหารเองบ่อยๆ เน้นมีพื้นที่อุ่นอาหาร เก็บล้างได้สะดวก
  • ห้องนอนถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน แยกออกจากห้องนั่งเล่นได้ แต่ถ้าเปิดออกก็จะได้พื้นที่เชื่อมต่อกันขนาดใหญ่ ดูกว้าง โปร่งโล่งดี แต่ถ้าอยากเพิ่มความเป็นส่วนตัวก็สามารถติดม่านเพิ่มเติมได้
  • Bay window เป็นพื้นที่ริมหน้าต่างที่ยื่นเว้าออกไปกลายเป็นมุมอเนกประสงค์ภายในห้องนอน จัดเป็นมุมทำงานริมหน้าต่างได้
  • ห้องน้ำขนาดใหญ่ พร้อมอ่างอาบน้ำในตัว ถึงแม้จะเป็นห้องไซส์เล็กแต่ก็ได้อ่างอาบน้ำด้วย โดยห้องน้ำจะต้องเข้าจากทางห้องนอน ซึ่งก็อาจจะไม่ค่อยสะดวกกรณีมีแขกมาห้องบ่อยๆ อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้างค่ะ
  • ระเบียงห้องมีพื้นที่เก็บ Condensing unit แยกออกไปหลังผนังทึบจึงไม่เกะกะสายตาเวลามองผ่านประตูกระจกออกมาด้านนอกเพื่อจะชมวิว

มาเริ่มกันที่ประตูทางเข้าค่ะ ตัวประตูเป็น HDF ปิดผิวลามิเนต ด้านในมี Stopper ป้องกันประตูกระแทก พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock จาก Samsung หน้าตาแบบนี้เลยค่ะ

เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอครัวเป็นส่วนแรก ซึ่งมีข้อดีคือเวลาเราซื้อของสด หรืออาหารต่างๆ มา ก็สามารถเก็บให้เรียบร้อยได้ก่อนเลย เป็นสัดส่วน ไม่ต้องเดินผ่านส่วนพักผ่อนอื่นๆ ซึ่งอาจจะทำให้เลอะเทอะ หรือมีกลิ่นไปรบกวน

Image 1/3
บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

โดยพื้นที่ด้านข้างประตูจะได้ Built in ตู้เก็บรองเท้าสูงเต็มผนังฝั่งหนึ่ง อีกฝั่งหนึ่งเป็นชั้นวางของ และที่แขวนกุญแจ ร่มพกได้ อยู่ในตำแหน่งที่ดีเลย เข้าห้องมาแล้วแขวนเก็บได้เลย

ชุดครัวได้ทั้งเคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง และตู้เก็บของด้านบน หน้าตาแบบนี้เลย ส่วนพื้นที่หน้าเคาน์เตอร์ถึงผนังกว้าง 1.3 เมตร เดินสวนกันได้สบาย

Image 1/3
เคาน์เตอร์ครัว ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

เคาน์เตอร์ครัว ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

เคาน์เตอร์ครัวกว้าง 1.2 เมตร ท็อปหินสังเคราะห์ลายหินอ่อน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ครัวอย่าง เตาไฟฟ้า 2 หัว และที่ดูดควันเป็นแบบดูออกด้านนอกจาก Gorenje และอ่างล้างจาน 1 หลุมแบบมีฝาปิด เพิ่มพื้นที่เตรียมอาหารได้จาก Hafele ส่วน Backsplash ด้านหลังเป็นกระจก และด้านข้างเป็น Hi Gloss ทำความสะอาดได้ง่าย

Image 1/2
เคาน์เตอร์ครัว ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

เคาน์เตอร์ครัว ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

ตู้เก็บของด้านล่าง พื้นที่ใต้อ่างล้างจานจะเป็นช่องเก็บขนาดใหญ่เหมาะสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด หรือถังขยะได้ ด้านซ้ายมีลิ้นชักช้อน ส้อม และมีพื้นที่วางไมโครเวฟมาให้ด้วย ช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ไปได้เยอะ

Image 1/2
ชั้นเก็บของ ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

ชั้นเก็บของ ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

ส่วนชั้นวางของด้านบนมีหน้าบานปิดมาให้ทุกช่อง เก็บของได้เรียบร้อยดีเลยค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับโต๊ะทานข้าว เป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นขนาด 0.70 เมตร เป็นขนาดที่วางไซส์มาตรฐานได้สบาย ซึ่งการที่ตำแหน่งตู้เย็นอยู่กลางห้องแบบนี้ ก็ใช้งานได้สะดวก จะหยิบของเวลาทำอาหาร หรือเปิดหยิบน้ำหยิบขนมเวลานั่งดูหนังอยู่ก็สะดวกดี

Image 1/2
พื้นที่ทานอาหาร ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

พื้นที่ทานอาหาร ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

ถัดมาติดกับเคาน์เตอร์ครัว จัดเป็นพื้นที่ทานอาหาร 2 ที่นั่ง แบบเข้ามุม ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่จัดภายในห้องนี้ใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์เซทตามโปรโมชันเลย ส่วนรายละเอียดต่างๆของโปรโมชัน จะเป็นอย่างไร ต้องสอบถามจากทางโครงการอีกครั้งค่ะ*

Image 1/4
พื้นที่นั่งเล่น ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

พื้นที่นั่งเล่น ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

ถัดมาเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่น อยู่ติดกับระเบียง และได้กระจกสูงเต็มบาน ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งโล่ง ด้านข้างเชื่อมต่อกับห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เปิดเชื่อมต่อพื้นที่กันได้กว้างเลยค่ะ

Image 1/3
พื้นที่นั่งเล่น ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

พื้นที่นั่งเล่น ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

พื้นที่นั่งเล่น สามารถวางโซฟา 2-3 ที่นั่ง พร้อมมีโต๊ะกลาง และตู้วางทีวีชิดผนังฝั่งหนึ่งได้พอดีๆ เลย ซึ่งระยะหน้ากว้าง 2.6 เมตร ตรงนี้ จะสามารถติดตั้งทีวีขนาด 52-55 นิ้วได้ค่ะ

สำหรับระยะฝ้าเพดาน ส่วนนั่งเล่นและห้องนอนจะสูง 2.6 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบ Concealed Type หรือแอร์แบบฝังฝ้า ของ Daikin ดูเรียบร้อยสบายตา เหมาะสมกับคอนโดในระดับราคานี้ค่ะ แต่ก็ทำให้ต้องมีงานระบบส่วนหนึ่ง ส่งผลให้ความสูงของห้องครัวลดลงไปนิดหน่อยเหลือ 2.35 เมตร

ส่วนวัสดุภายในห้องนี้ พื้นเป็น Hybrid Engineered ซึ่งแตกต่างจากพื้น Engineer Wood คือใช้เทคโนโลยี Hydro-Seal เคลือบผิวกันน้ำที่ขอบพื้นไม้ ทำให้น้ำไม่ซึมผ่านร่องไม้ จึงมีประสิทธิภาพในการทนน้ำนานขึ้น และยังใช้เทคโนโลยี Cross-link ที่ช่วยให้ชั้นบนของพื้นไม้มีความทนทานต่อรอยขีดข่วนได้ดีกว่าพื้นไม้ทั่วไป

Image 1/2
ระเบียงภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

ระเบียงภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

ระเบียงห้องขนาด 2.6×0.85 เมตร สามารถวางราวตากผ้าได้เยอะ พร้อมมีพื้นที่เก็บ Condensing unit ด้านบน และ เครื่องซักผ้าด้านล่าง แยกออกไป โดยมีผนังทึบบังไว้เรียบร้อย เวลามองผ่านประตูกระจกออกมาจะไม่เห็นเลยค่ะ

Image 1/3
ห้องนอน ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

ห้องนอน ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

ห้องนอนขนาด 2.4×3.75 เมตร ภายในห้องตัวอย่างมีว่างเป็นเตียง 5 ฟุต แบบมีทางเดินโดยรอบพร้อมโต๊ะหัวเตียงได้สบายตรงนี้จะเปลี่ยนเป็นเตียง 6 ฟุตก็ยังได้ค่ะ

บริเวณข้างเตียงมีปลั๊กไฟ และช่องเสียบ USB มาให้ครบ ชาร์จโทรศัพท์ได้สะดวกเลย นอกจากนั้นภายในห้องได้ สวิตช์ไฟได้แบบ Touchscreen เรียบๆ อีกด้วย ทั้งหมดใช้ของ Simon หรือเทียบเท่าเป็นมาตรฐานทุกห้องค่ะ

ภายในห้องนอนมีพื้นที่ Bay window ในตัว เป็นพื้นที่ริมหน้าต่างที่ยื่นเว้าออกไปกลายเป็นมุมอเนกประสงค์ขนาด 1.15×0.9 เมตร จัดเป็นมุมทำงานริมหน้าต่างได้พอดีๆ เข้ากับไลฟ์สไตล์คนสมัยนี้ที่ มีเวลาทำงานยืดหยุ่นขึ้น Work form home กันได้มากขึ้นค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องนอน เป็น Walk in Closet และประตูเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ อยู่บริเวณเดียวกันใช้งานได้ต่อเนื่องกันดีเลยค่ะ

Image 1/3
ตู้เสื้อผ้าภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

ตู้เสื้อผ้าภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

ตู้เสื้อผ้าที่ได้มีขนาด 1.6 เมตร หน้าบานกระจกลูกฟูกเปิดได้ 3 ตอน สวยงาม และมองเข้าไปดูเบลอๆไม่เห็นของด้านในชัดเกินไป ก็ช่วยให้ดูเรียบร้อยดีค่ะ อีกทั้งภายในมีราวแขวน พร้อมลิ้นชักเล็กๆเก็บถุงเท้า underwear ต่างๆได้เยอะ เป็นสัดส่วนดีค่ะ

Image 1/3
ห้องน้ำภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

ห้องน้ำภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

ห้องน้ำมี การลดระดับพื้นลงไปเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลมายังส่วนห้องนอน ภายในห้องแยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจนโดยประตูเปิดเข้ามาจะตรงกับอ่างล้างหน้าและกระจกพอดี ฝั่งซ้ายเป็นโถสุขภัณฑ์ ฝั่งขวาเป็นพื้นที่อาบน้ำ และ bathtub ใช้งานได้สะดวกค่ะ

Image 1/3
สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำ

สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าจาก American standard แบบ วางบนเคาน์เตอร์พร้อมมีพื้นที่เก็บของด้านล่าง มาให้เรียบร้อย พร้อมเดินงานระบบท่อน้ำร้อนในผนัง โดยวาล์วเปิด-ปิดจะ ซ่อนอยู่ใต้อ่างดูเป็นระเบียบดีเลย ส่วนกระจกเงาที่ได้จะมี มีพื้นที่เก็บของซ่อนอยู่ด้านข้างมาด้วย เก็บพวกสบู่  ยาสีฟัน ที่เราซื้อตุนไว้ได้เยอะ ดูเรียบร้อยดีเลยค่ะ

โถสุขภัณฑ์ และสายชำระ ใช้ดีไซน์เรียบๆ ดูโมเดิร์น จาก Kohler

Image 1/3
พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำ และ Bathtub จะอยู่บริเวณเดียวกัน แยกเป็นส่วนเปียก ทำให้ดูกว้าง ยืนอาบน้ำ หมุนตัวได้สบาย ส่วนที่อาบน้ำได้ทั้งแบบ Rain showers และ hand shower จาก Kohler สำหรับอ่างมีขนาดกว้างประมาณ 1.5 เมตร นอนยืดขาได้สบาย เป็นของ Kohler เช่นเดียวกัน พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย Tempered Glass มาให้เรียบร้อย


2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม.

2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. เป็นห้องหน้ากว้าง จัดฟังก์ชันได้ลงตัว และดูกว้างขวาง ประกอบกับเป็นห้องมุมจึงทำให้ได้กระจกโค้งเพิ่มมุมมองภายนอกให้กว้างมากยิ่งขึ้น รับแสงธรรมชาติได้ดี เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 2-3 คนหรืออยู่กันเป็นพ่อแม่ลูกได้สบายๆ ส่วนราคา หากคำนวณจากราคาเฉลี่ยทั้งโครงการแล้ว ห้องนี้ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 10.07 ล้านบาท ส่วนจุดเด่นต่างๆ สรุปได้ดังนี้

  • พื้นที่สวนส่วนตัว สามารถเปิดใช้งานร่วมกับพื้นที่ในห้องได้ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะไม่ได้อยู่ในโฉนดห้องของเรา แต่จะเป็น Benefit เพิ่มเติมสำหรับห้องชั้น 1 ฝั่งเทควิวด้านนอกอาคาร ที่ทางโครงการจะจัดเป็นสวน และกั้นด้านข้างด้วยไม้พุ่มสูงระดับสายตา เพื่อให้แต่ละห้องเป็นส่วนตัว
  • ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องแย่งกันในเวลาเร่งด่วน
  • ห้องหน้ากว้าง ตำแหน่งมุม มีช่องเปิดรับแสงรับลมได้เยอะ พร้อมมีกระจกเข้ามุมโค้ง สูงเต็มบาน ยิ่งทำให้ดูโปร่งค่ะ
  • ครัวใหญ่ กั้นเป็นครัวปิดเพิ่มเติมได้ เพื่อให้ทำอาหารได้จริงจัง เป็นสัดส่วนมากขึ้น
  • Common area ขนาดใหญ่ ที่จัดเป็นพื้นที่ทานอาหาร ต่อเนื่องด้วยพื้นที่ห้องนั่งเล่นโดยมีเสากั้นกลาง เป็นเสมือนฉากกั้นแบ่งพื้นที่ อีกทั้งอยู่ติดกระจกเข้ามุมโค้ง ทำให้ห้องดูกว้าง และโปร่งโล่งดีทีเดียว
  • Master Bedroom พร้อม Walk in closet และห้องน้ำในตัว ที่มีทั้ง Shower box และอ่างอาบน้ำ ใช้งานสะดวก ไม่ต้องออกไปใช้ร่วมกับส่วนกลางนอกห้อง
  • ห้องนอนรองได้วิวสวน เป็นห้องที่กั้นด้วยผนังทึบ ได้ความเป็นส่วนตัว แต่ยังมีความโปร่งโล่งจากผนังกระจกอีกด้านหนึ่ง ได้วิวสวนดูร่มรื่น

เมื่อเข้ามาจะเจอครัวเป็นส่วนแรกด้วยเช่นกัน เป็นครัวเปิดขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหารด้านในได้สะดวก สำหรับพื้นที่หน้าเคาน์เตอร์เหลือกว้างเดินผ่านสวนกันได้สบายๆ  ซึ่งใครที่ชอบทำอาหารสามารถกั้นเป็นครัวปิดด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเพิ่มเติมได้ เพื่อให้ทำอาหารได้จริงจัง เป็นสัดส่วนมากขึ้น

ชุดครัวจะได้ทั้งเคาน์เตอร์ด้านล่าง และชั้นเก็บของด้านบน ส่วนพื้นครัวใช้เป็นกระเบื้องแกรนิตโตลายหินอ่อน ทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะกับห้องครัวที่ห้องมีการเช็ดล้างทำความสะอาดกันบ่อยๆ เลยค่ะ

ส่วนด้านข้างเคาน์เตอร์ครัว เป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ขนาด 70 ซม. วางตู้เย็นขนาดมาตรฐานได้พอดีๆ และด้านบนเป็นพื้นที่เก็บของมาให้ด้วยค่ะ

Image 1/2
เคาน์เตอร์ครัว ภายในห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. 

เคาน์เตอร์ครัว ภายในห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. 

เคาน์เตอร์ครัวที่ได้ขนาดกว้าง 1.7 เมตร มีพื้นที่เตรียมอาหารได้เยอะ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์มาให้ด้วยเช่นกัน สเปคเดียวกับห้องก่อนหน้าเลย แต่จะได้เตาไฟฟ้า 4 หัวขนาดใหญ่ขึ้นมาแทน

Image 1/4
เคาน์เตอร์ครัว ภายในห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. 

เคาน์เตอร์ครัว ภายในห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. 

ตู้เก็บของด้านล่าง พื้นที่ใต้อ่างล้างจานจะเป็นช่องเก็บของหลากหลายขนาด และช่องวางไมโครเวฟ ส่วนด้านบนเป็นชั้นเก็บของแบบมีบานปิดทั้งหมดด้วยเช่นกัน เก็บของได้เยอะเป็นระเบียบดีค่ะ

ถัดเข้ามา เป็นพื้นที่ทานอาหาร ส่วนด้านซ้ายมือเป็นประตูทางเข้า Master Bedroom ค่ะ

Image 1/4
Master Bedroom ภายในห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. 

Master Bedroom ภายในห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. 

Master Bedroom เป็นห้องขนาด 2.65×3.5 เมตร ภายในสามารถวางเตียง 5-6 ฟุต แบบมีทางเดินโดยรอบได้สบาย ปลายเตียงมีงานระบบสำหรับติดตั้งทีวีมาให้ครบ ซึ่งระยะตรงนี้จะสามารถติดตั้งทีวีขนาด 52-55 นิ้วได้ค่ะ

ภายในห้องมีพื้นที่ Bay window ด้วยเช่นกัน ขนาด 1.5×0.9 เมตร จัดเป็นโต๊ะทำงานริมหน้าต่าง มองออกไปเห็นต้นไม้เขียวๆ บรรยากาศดีเลยค่ะ

Image 1/2
Master Bedroom ภายในห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. 

Master Bedroom ภายในห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. 

อีกฝั่งหนึ่งของห้องนอนเป็น Walk in Closet สองฝั่งเลย เชื่อมต่อกับห้องได้ด้วยในตัว ใช้งานได้ต่อเนื่องกันดีค่ะ

Image 1/3
Walk in Closet ภายใน Master Bedroom

Walk in Closet ภายใน Master Bedroom

Walk in Closet ฝั่งซ้ายมีชั้นวางของโปร่งๆมาให้ด้วย วางของตั้งโชว์ หรือหนังสือต่างๆได้ค่ะ ส่วนตู้ด้านในเป็นแบบบานเปิดคู่ ฝั่งซ้ายเป็นชั้นวางของกว้าง 0.85 เมตร สำหรับวางพวกกระเป๋า รองเท้าต่างๆได้เยอะ ฝั่งขวาเป็นตู้เสื้อผ้ากว้าง 1.2 เมตร พร้อมชั้นเก็บของและลิ้นชักด้านในครบ

Image 1/2
ห้องน้ำ Master

ห้องน้ำ Master

ห้องน้ำมีการลดระดับพื้นลงไปเล็กน้อย ภายในห้อง แยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน เมื่อประตูเปิดเข้ามา ขวาสุดจะเป็นอ่างล้างหน้า Bathtub โถสุขภัณฑ์ ซึ่งใช้สเปคเดียวกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ

ส่วน Shower box จะอยู่ตรงข้ามกับโถสุขภัณฑ์ เป็นห้องขนาด 1.15×0.90 เมตร ยืนอาบน้ำหมุนตัวได้สบาย ภายในมีช่องกระจกลูกฟูก เพื่อรับแสงธรรมชาติผ่านจากห้องนอนได้บ้าง ส่วนที่อาบน้ำก็ได้ทั้งแบบ Rain showers และ hand shower พร้อมติดตั้ง ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย Tempered Glass มาให้เช่นกันค่ะ

Common area เป็นพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่ 5.55 x 3.5 เมตร ที่จัดเป็นพื้นที่ทานอาหาร ต่อเนื่องด้วยพื้นที่ห้องนั่งเล่นโดยมีเสากั้นกลางเป็นเสมือนฉากกั้นแบ่งพื้นที่ อีกทั้งอยู่ติดกระจกเข้ามุมโค้งสูงเต็มบาน ทำให้ห้องดูกว้าง และโปร่งโล่งดีทีเดียว

Image 1/2
พื้นที่ทานอาหาร ภายในห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. 

พื้นที่ทานอาหาร ภายในห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. 

พื้นที่ทานอาหาร สามารถวางเป็นโต๊ะ 6-7 ที่นั่งได้สบาย อีกทั้งอยู่ติดหน้าต่างกระจก ดูสว่าง โปร่งโล่งดีเลยค่ะ

Image 1/3
พื้นที่นั่งเล่น ภายในห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. 

พื้นที่นั่งเล่น ภายในห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. 

พื้นที่นั่งเล่นวางเป็นโซฟา 3 ที่นั่งพร้อม โต๊ะกลางและ Armchair แบบลอยตัวได้ ตรงนี้จะวางเป็นโซฟา L-shape ก็ยังได้ค่ะ  สำหรับวัสดุพื้นส่วนนี้ใช้ Hybrid Engineered สีแบบนี้เลย ส่วนระยะฝ้าเพดาน 2.6 เมตร เช่นกันค่ะ

โดยผนังอีกฝั่งหนึ่ง จะสามารถวางทีวีได้ ซึ่งระยะตรงนี้ติดตั้งทีวีขนาด 60 นิ้วได้เลยค่ะ นอกจากนั้นข้างๆ จะมีโถงเล็กๆ เชื่อมไปห้องน้ำกลาง และห้องนอนรองเป็นสัดส่วนดีเลยนะ

Image 1/3
พื้นที่สวน ของห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. 

พื้นที่สวน ของห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. 

และอย่างที่บอกไปนะคะว่า ห้องชั้น 1 ฝั่งเทควิวด้านนอกจะได้ Benefit ที่เราสามารถใช้งานพื้นที่สวนด้านนอกได้ ซึ่งห้องนี้ทางโครงการจะทำเป็นพื้นไม้ไว้ให้ด้วย พร้อมจัดสวนและกั้นด้านข้างด้วยไม้พุ่มสูงระดับสายตา เพื่อให้แต่ละห้องเป็นส่วนตัว จัดวางเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ Out door ชิลๆ ได้บรรยากาศเหมือนอยู่สวนหลังบ้าน ดูผ่อนคลายดีเลยค่ะ

กลับมายังโถงบริเวณห้องนั่งเล่นกันบ้าง เป็นโถงแยกไปยังห้องน้ำกลาง โดยฝั่งซ้ายจะเป็นห้องนอนรอง ฝั่งขวาเป็นตู้เก็บของ ซึ่งการมีโถงเล็กๆแยกแบบนี้ก็ดูเป็นสัดส่วนเรียบร้อยดีค่ะ

มาดูชั้นเก็บของกันก่อนค่ะ มีขนาดกว้างประมาณ 0.95 เมตร ภายในครึ่งล่างเป็นชั้นวางรองเท้า วางได้เยอะเลย ด้านบนเป็นชั้นวางของทั่วไป เก็บของได้เยอะ เหมาะสำหรับเก็บพวก อุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆให้ดูเรียบร้อยดี แต่ในแง่ของการใช้งานเก็บรองเท้าอาจจะไม่ค่อยสะดวกสักหน่อย อาจจะเก็บพวกรองเท้าที่ไม่ได้ใช้บ่อยๆ และมีชั้นวางรองเท้าหน้าประตูห้องอีกสักชุดสำหรับวางคู่ที่ใส่เป็นประจำค่ะ จะได้กลับมาแล้วเก็บได้สะดวกเป็นสัดส่วน

Image 1/4
ห้องน้ำกลางสำหรับ Common area และห้องนอนรอง

ห้องน้ำกลางสำหรับ Common area และห้องนอนรอง

ห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน จัดฟังก์ชันเรียงลำดับการใช้งาน ซึ่งห้องน้ำนี้จะใช้ร่วมกันระหว่างห้องนั่งเล่น และห้องนอนรองนะคะ ภายในจึงมี Shower Box มาให้ด้วยครบเลย

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.4×0.85 เมตร ยืนอาบน้ำได้ สบายพร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกมาให้เรียบร้อยค่ะ

Image 1/3
ห้องนอนรอง ภายในห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. 

ห้องนอนรอง ภายในห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53 ตร.ม. 

ห้องนอนรองมีขนาด 3.5×2.4 เมตร ภายในมีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ ทำให้ได้วิวสวน ดูร่มรื่นดีเลย สำหรับห้องนี้สามารถจัดวางเป็นเตียง 3.5 ฟุต แบบมีโต๊ะหัวเตียงได้สบาย ปลายเตียงสามารถวางเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะวางทีวีเพิ่มเติมได้ด้วยค่ะ

Image 1/2
ตู้เสื้อผ้าภายในห้องนอนรอง

ตู้เสื้อผ้าภายในห้องนอนรอง

ด้านข้างเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า Built in หน้าบานกระจกลูกฟูกบานเลื่อนสลับ ภายในมีชั้นเก็บของ ลิ้นชักมาให้ครบค่ะ


1 Bedroom Plus ขนาด 40 ตร.ม.

1 Bedroom Plus ขนาด 40 ตารางเมตร ห้องนี้เป็นมีเฉพาะอาคาร A ฝั่งด้านในเท่านั้น จุดเด่นของห้องนี้คือผนังที่โค้งไปตามรูปร่างอาคาร ทำให้ได้พื้นที่ของห้องอเนกประสงค์เพิ่มมากขึ้น สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต จัดเป็นห้องนอนเพิ่มเติมได้ เมื่อเข้ามาภายในจะเป็นพื้นที่ครัวเปิดเชื่อมต่อกับ Common area ทำให้ดูโปร่งโล่ง โดยครัวนี้จะมีระยะกั้นครัวปิดเพิ่มเติมได้ ส่วนห้องนอน Walk in closet ในตัวทำให้สะดวกต่อการใช้งาน ห้องน้ำมีห้องเดียวเข้าได้ทั้งจากด้านนอกและในห้องนอน ทำให้แขกที่มาไม่ต้องผ่านเข้าห้องเราให้เสียความเป็นส่วนตัว ห้องนี้เหมาะกับการอยู่อาศัย 2-3 คน อยู่กันเป็นพ่อแม่ลูก หรือใครอยากได้ห้องอเนกประสงค์ไว้ทำงานอดิเรกเพิ่มก็เหมาะเลยค่ะ

Image 1/15
บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 40 ตร.ม.

บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 40 ตร.ม.


1 Bedroom ขนาด 37 ตร.ม.

1 Bedroom ขนาด 37 ตารางเมตร เป็นห้องที่อยู่ชั้นล่าง ติดสวนรอบนอกของโครงการ ทำให้สามารถออกมาใช้งานพื้นที่สวนส่วนตัวด้านนอกได้  ส่วนการจัดแปลนก็คล้ายกับห้องตัวอย่างแรกเลย เพียงแต่จะได้ห้องนั่งเล่นที่ใหญ่ขึ้น เพราะไม่มีพื้นที่ระเบียงแล้ว และห้องนอนได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยกันห้องด้วยผนังทึบ เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คนสบายๆ ค่ะ

Image 1/9
บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 37 ตร.ม.

บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 37 ตร.ม.


มาดูบรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom ชั้น 1  แบบ Pool Access ที่เราเก็บภาพบบรรยากาศมาฝากกันบ้างค่ะ โดยระเบียงห้องนี้ติดสระว่ายน้ำ ทำให้เดินออกมาแล้วลงสระได้เลย  ภายในห้องมีพื้นที่ Common area กว้างขวาง ตั้งแต่หน้าประตูห้องไปจนถึงระเบียงริมสระขนาดใหญ่ ห้องน้ำเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นได้เลย รองรับกรณีมีแขกได้สะดวก ส่วนห้องนอนจะกั้นด้วยผนังทึบได้ความเป็นส่วนตัว พร้อมมี Bay window จัดเป็นพื้นที่ทำงานเทควิวสระว่ายน้ำได้ค่ะ

Image 1/12
บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom ชั้น 1  แบบ Pool Access 

บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom ชั้น 1  แบบ Pool Access 

ราคา

FYNN ASOKE ราคา ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2566

  • 1 Bedroom 24 – 49 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท* (โปรโมชัน)
  • 1 Bedroom Plus 40 – 62 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น N/A ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 46 – 68 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น N/A ล้านบาท
  • 3 Bedrooms 104 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น N/A ล้านบาท
  • Duplex 120 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น N/A ล้านบาท
  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.35 – 2.6 เมตร
  • Kitchen & Sink / หินสังเคราะห์ลายหินอ่อน
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Gorenje
  • มีรถ Shuttle Bus ไปกลับหน้าซอยสุขุมวิท 10
  • จอง 20,000 – 50,000 บาท
  • ค่ากองทุน 700 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม./เดือน
  • โปรโมชันเปิดตึกครั้งแรก 23-25 มิ.ย. พร้อมชมห้องตัวอย่างจริง วิวจริง ติดหรือลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม พิเศษภายในงาน รับ Furniture Set แต่งครบพร้อมเข้าอยู่

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล : โครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 10 ย่านอโศก-นานา มีความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่สูง เต็มไปด้วยอาคารสำนักงาน และห้างสรรพสินค้า ส่วนบรรยากาศภายในซอยสุขุมวิท 10 จะเงียบสงบกว่าซอยข้างเคียง เหมาะแก่การอยู่อาศัยส่วนจุดเด่นที่แตกต่างของโครงการนี้ไม่ใช่วิวสวน หรือทะเลสาบสวนเบญจกิติเหมือนโครงการตึกสูงในย่านเดียวกัน แต่เป็นระยะทางที่ไปใช้งานได้ใกล้เพียง 200 ม.

การเดินทางโดยใช้รถ : ถือว่าสะดวก เพราะตั้งอยู่ฝั่งขาเข้าเมือง เดินทางไปสยาม เพลินจิตชิดลมได้ง่าย หรือจะกลับรถไปฝั่ง พร้อมพงษ์ทองหล่อ เอกมัย จุดกลับรถก็ไม่ไกลค่ะ นอกจากนั้นยังมีทางด่วนเฉลิมมหานครให้ใช้ห่างออกไปเพียง 2.3 กม. ส่วนที่จอดรถของโครงการมี 125 คันคิดเป็น 48% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าโอเคสำหรับโครงการ ที่ใกล้ถนนหลักใช้รถสาธารณะได้ง่าย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : สะดวกมากสำหรับทำเลนี้ อยู่ห่างจาก BTS อโศก – 700 m.(แต่ถ้านับจากทางขึ้น Sky walk หน้าซอยสุขุมวิท 10 จะห่าง 400m.) ถือว่ายังอยู่ในระยะที่เดินได้ ซึ่งทางโครงการเองก็มี Shuttle Service บริการรับ-ส่งมายังปากซอยอีกด้วย นอกจากนั้น BTS อโศก ยังเป็นสถานี Interchange กับ MRT สุขุมวิทได้ หรือใช้MRT ถัดไปอีกสถานีก็จะ interchange กับ Airport rail link ใช้เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิได้ง่าย

วัสดุ : ขายแบบ Fully Fitted ที่จะต้องเผื่องบประมาณสำหรับการตกแต่งภายในเพิ่มเติม แต่วัสดุที่ให้มาก็ถือว่าค่อนข้างดีเลย พื้น Hybrid Engineered พื้นครัวกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อน Top เคาน์เตอร์ครัวหินสังเคราะห์ อ่างล้างจานของHafele ที่มีฝาปิดเพิ่มพื้นที่ทำครัวได้ Hob&Hood ของ Gorenje แบบดูดออกไปภายนอก Backsplash เป็นกระจกระยะฝ้า 2.6 ม. พร้อมหน้าต่างกระจกสูงเต็มบาน ห้องมุมได้กระจกเข้ามุมโค้งสวยงาม บานกรอบอะลูมิเนียมสี Rubber Brown กระจกใสธรรมดา สุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นของ Kohler และ American Standard ติดฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย Tempered Glass เดินงานระบบท่อน้ำร้อนในผนัง พร้อมเครื่องปรับอากาศแบบ Concealed Type และ Wall Type ประตูติดตั้ง Digital Door Lock ของ Samsung พร้อมทั้ง Built in ตู้เสื้อผ้าและตู้รองเท้ามาให้ด้วย

การออกแบบห้อง : เน้นพื้นที่ภายในที่ดูโปร่งโล่ง จัดแบบ open plan ส่วนใหญ่ได้ครัวเปิด เหมาะกับคนที่ไม่ได้ทำอาหารจริงจัง เน้นมีพื้นที่สำหรับ ทำอาหารเบาๆ หรืออุ่นอาหารได้ มีพื้นที่เก็บล้างได้เป็นสัดส่วน แต่ก็มีบางแบบที่สามารถกั้นเป็นครัวปิดเพิ่มเติมได้ พร้อมห้องน้ำขนาดใหญ่ มีอ่างอาบน้ำให้ด้วย นอกจากนั้นอีกหนึ่งจุดเด่นคือ มีห้องที่ได้สวนส่วนตัว บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเลย หรือห้องที่อยู่โซนด้านในก็สามารถ pool access ได้เลย เป็น Benefit สำหรับห้องพักชั้น 1 ค่ะ

การออกแบบโครงการ : ทำออกมาได้น่าสนใจทีเดียว มาในสไตล์ Modern รูปทรงอาคาร Freeform โฉบเฉี่ยว เป็นเอกลักษณ์ ดูไม่น่าเบื่อ การออกแบบผังอาคาร โอบล้อมพื้นที่กลางคอร์ทเอาไว้ ซึ่งจัดเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และต้นจามจุรี 60 ปี ที่ทางโครงการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี และยอมที่จะออกแบบอาคารโดยเว้นพื้นที่ให้ต้นไม้ใหญ่ที่จะช่วยสร้าง Value ของบรรยากาศภายในโครงการได้มาก โดยห้องพักภายในจะได้วิวสระน้ำ วิวต้นไม้ใหญ่บรรยากาศดีทีเดียว อีกทั้งภายในห้องยังได้ หน้าต่างกระจกสูงเต็มบาน ห้องมุมได้กระจกเข้ามุมโค้ง เพิ่มมุมมองให้Take View ได้กว้าง

สาธารณูปโภค : ให้มาครบครัน มี Lobby แยกคนละอาคารเพื่อความเป็นส่วนตัว พร้อม Smart Locker และ Bike Locker สำหรับคนมีจักรยานด้วย ภายในอาคารมี Co-Working space และ Fitness ขนาดใหญ่ ที่ภายในยังมีทั้ง Bike simulator room, Yoga room, Co-theatre, Steam & Sauna และห้อง Laundry ไว้คอยบริการอีกด้วย

ส่วน Facilities กลางแจ้งประกอบด้วย Swimming Pool รูปทรง freeform ยาวประมาณ 25 เมตร ใช้ว่ายออกกำลังกายได้ มีการออกแบบเป็นน้ำตกไหลมาสู่ Kid’s Pool ดูสวยงามน่าใช้งาน และอีกจุดเด่นคือ Raintree pavilion เป็นที่นั่งพักผ่อนใต้ต้นจามจุรีอายุ 60 ปี ส่วนบนชั้นดาดฟ้าเน้น เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ลงต้นไม้ไว้เยอะ ดูร่มรื่น พร้อมจัดเป็นมุมพักผ่อนต่างๆ ที่สามารถนั่งเล่นคนเดียวได้เป็นส่วนตัว หรือจะมาปาร์ตี้เป็นกลุ่มกับเพื่อนๆก็ยังได้ และมีมุมสนามเด็กเล่นให้กับครอบครัวที่มีเด็กๆ ไว้ให้ใช้งานด้วยค่ะ


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 190,000 บาท/ตร.ม., 2 มิถุนายน 2566

  • ทำเล 8.25/10 – ความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้สวนเบญจกิติแบบเดินได้
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – อยู่ฝั่งเข้าเมือง จุดกลับรถก็ไม่ไกล ใกล้ทางด่วน
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ใกล้ BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท เรียกรถสาธารณะง่าย มี Shuttle service
  • วัสดุ 8.5/10 – Fully Fitted ให้วัสดุค่อนข้างดี
  • แบบ 8.5/10 – จัดฟังก์ชันห้องลงตัว อาคารมีความเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากโครงการรอบข้าง
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – ครบครัน สวยงามน่าใช้งาน

  • HIGH CLASS
  • 8.15/10.00

FYNN ASOKE เหมาะกับใคร

โครงการ FYNN ASOKE เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดทำเลใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ความอุดมสมบูรณ์สูงใกล้สวนสาธารณะแบบเดินไปใช้งานได้ง่าย ให้ความสำคัญกับการดีไซน์อาคารที่มีเอกลักษณ์ ในบรรยากาศที่ร่มรื่นผ่อนคลาย มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานครบครัน เน้นห้องที่ดูโปร่งโล่ง มีงบประมาณ 5.49 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 38,500 บาท/เดือนขึ้นไป