รีวิวโครงการ
Noble BE 33 Sukhumvit คอนโด High Rise 31 ชั้นในซอยสุขุมวิท 33ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ จาก Noble Development [รีวิวฉบับที่ 849]
3 มิถุนายน 2015
พาชมทำเล 5 โครงการใหม่ใกล้รถไฟฟ้าก็มาถึงโครงการสุดท้ายกันแล้วนะคะ ซึ่งหากใครจำกันได้ เราพาไปดูทำเลมา 4 โครงการแล้วกับ Ashton จุฬา-สีลม คอนโดใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินสามย่าน , The Reserve พญาไท คอนโดใกล้ BTS พญาไท และ Airport Rail Link, Q สุขุมวิท คอนโดใกล้ BTS นานา และ The Diplomat 39 คอนโดใกล้ BTS พร้อมพงษ์ ซึ่งปัจจุบันได้เปิดตัวโครงการไปแล้ว จึงทำเป็นรีวิวเจาะลึกมาให้อ่านกัน 😀
และโครงการสุดท้ายที่เราจะพาไป อยู่ใกล้ๆ BTS พร้อมพงษ์เลยค่ะ กับโครงการ Noble BE 33 Sukhumvit จาก Noble Development โดยโครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 33 จาก BTS พร้อมพงษ์สามารถเดินมาโครงการได้ไม่ไกลมากเกินระยะเดิน ทำเลจะเป็นอย่างไรบ้าง น่าอยู่แค่ไหนเราไปดูกันเลยดีกว่าค่าา ^^
ลงทะเบียนรับโปรโมชั่นพิเศษ : Noble BE 33 Sukhumvit
พิกัด : 13.735357, 100.567708
โครงการ Noble BE 33 Sukhumvit อยู่ในซอยสุขุมวิท 33 ห่างจาก BTS พร้อมพงษ์ 700 เมตร หรือในระยะเดินประมาณ 9 นาที เอาเข้าจริงหากจะเดินก็เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกันนะคะ ซึ่งตัว BTS พร้อมพงษ์เองจะอยู่ติดกับ The District Em ซึ่งประกอบด้วยห้าง ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และ ดิ เอ็มสเฟียร์ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 3 โครงการศูนย์การค้าระดับเวิร์ลคลาสใจกลางสุขุมวิท จากเดอะมอลล์ กรุ๊ป เพื่อยกระดับสุขุมวิทให้เป็นย่านการค้า แหล่งธุรกิจ โรงแรม ออฟฟิศที่พักอาศัย และศูนย์ความบันเทิงต้อนรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ซึ่งตอนนี้ ดิ เอ็มควอเทียร์เพิ่งสร้างเสร็จและเปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่ สร้างความคึกคักให้กับย่านนี้ได้มากทีเดียว หากใครยังไม่เคยไปเดินสามารถอ่านรีวิว ดิ เอ็มควอเทียร์ ของ Mr.Boom ได้ ที่นี่
ส่วนห้างสรรพสินค้าที่เรารู้จักกันดีและอยู่มานานคู่ย่านพร้อมพงษ์คือ ดิ เอ็มโพเรียม ที่หลายๆคนก็คงมาเดินเล่นช็อปปิ้งกันบ้างแล้ว ในดิ เอ็มโพเรียมนี้ก็มี TCDC ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการออกแบบอยู่ข้างในด้วย หากใครที่ทำงานเกี่ยวกับด้านงานออกแบบน่าจะชอบนอกจากนี้ยังมีวิลล่า มาร์เก็ต และสวนเบญจสิริ ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ
บริเวณย่านพร้อมพงษ์นี้จะอุดมไปด้วยชาวต่างชาติมากมายเลยค่ะ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น จุดเด่นอีกอย่างของโครงการนี้จึงเป็นโครงการที่อยู่ในทำเลที่เป็นย่านของคนญี่ปุ่น ร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านขายของญี่ปุ่นน่ารักๆจึงมีให้เลือกหลากหลาย ใครที่ทำงานหรือพักอาศัยในย่านนี้ มีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนญี่ปุ่น หรือต้องติดต่อทำธุรกิจกับคนญี่ปุ่นน่าจะตอบโจทย์ ในเรื่องของทำเลหากพิจารณาจากการเดินทางกว้างๆแล้ว ถือว่าเป็นทำเลใจกลางเมือง เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้สะดวกและแน่นอนว่าใกล้รถไฟฟ้า มีรถโดยสารสาธารณะบริการ และทำเลแถวนี้มีข้อดีตรงที่มีทางลัดที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนใหญ่หลายเส้นค่ะ เช่น
ตัวถนนสุขุมวิทเอง หากขับเข้าเมืองตรงไปเรื่อยๆ(เลียบเส้นรถไฟฟ้า BTS)จะผ่านแยกอโศก ซึ่งระหว่างทางจะเจอ Terminal 21, เซ็นทรัลชิดลม ผ่านแยกราชประสงค์ ไปจะเป็น เซ็นทรัลเวิร์ล, สยาม, มาบุญครอง
ถนนเพชรบุรี(ผ่านแยกเอกมัยเหนือ-เพชรบุรี)เป็นถนนเส้นคู่ขนานกับถนนสุขุมวิท ซึ่งตัวถนนเพชรบุรีเป็นถนนที่ไม่มีห้างหรือสถานที่สำคัญอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ นอกจากจะตรงไปแถวๆประตูน้ำ โดยถนนที่ตัดผ่านจะมีสุขุมวิทซอยย่อยต่างๆ และถนนอโศกมนตรี ซึ่งสามารถไปทะลุถนนพระราม 9 ได้ซึ่งถ้าใครไม่อยากไปไกลถึงสยามแถวนี้ก็มี ห้างเซ็นทรัลพระราม 9, Fortune หรือ Esplanade ให้ไปเดินได้ไม่ไกลมากนัก
นอกจากนี้ถนนสุขุมวิทยังมี ถนนพระรามที่ 4 เป็นถนนคู่ขนานอีกด้าน โดยมีถนนรัชดาภิเษกเป็นตัวตัดผ่านแยกพระราม 4 ผ่านแยกวิทยุ ซึ่งสามารถไปยังสวนลุมพินี, ไปราชเทวีได้ค่ะ
ซึ่งจากแผนที่ จะเห็นว่าทำเลโดยรอบของถนนสุขุมวิทจะแวดล้อมไปด้วยถนนใหญ่ ซึ่งสามารถไปยังสถานที่สำคัญๆได้หลายที่จึงเป็นทำเลใจกลางเมืองที่ดีที่หนึ่ง เดินทางด้วยรถยนต์ไปได้หลายเส้นทาง แต่มีข้อเสียตรงที่ไม่ได้อยู่ใกล้ทางด่วนและเป็นบริเวณที่ #รถที่ติดหนักมากกกกก ค่ะ
จุดเด่นสำคัญของโครงการ คือเป็นคอนโดติดรถไฟฟ้า ตัวโครงการเองอยู่ห่างจาก BTS พร้อมพงษ์ 700 เมตร ซึ่ง BTS สถานีที่เชื่อมต่อ 2 สถานีคือ
BTS อโศก เป็นสถานีที่ติดกับ Terminal 21 ที่รู้จักกันว่ามี Food Court ที่ถูกและดี ^^และยังเป็นสถานีที่ Interchange กับ MRT สุขุมวิท ดังนั้นโครงการจึงได้อานิสงค์ความใกล้เคียง MRT มาด้วย อย่าง MRT สถานีที่ติดกับ MRT สุขุมวิท คือ MRT เพชรบุรี ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับ Airport Rail Link มักกะสัน ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้ และส่วนอีกสถานีที่ติดกันคือ MRT ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งสถานีนี้จะติดกับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน Expo, งานประกวดต่างๆเช่น การประกวดนางงามจักรวาล และงานระดับชาติหลายๆงาน ซึ่งพอมีงานคนก็จะหลั่งไหลไปศูนย์ประชุมนี้มากมาย
ส่วนอีกสถานีคือ BTS ทองหล่อ ซึ่งหากลงสถานีนี้จะสามารถไปยังซอยทองหล่อ ซึ่งเป็นย่านที่มี lifestyle mall อยู่หลายที่เช่น J Avenue และคึกคักไปด้วยชาวต่างชาติและคนไทย มีร้านอาหารนานาชาติหลากหลาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวและศูนย์รวมธุรกิจบันเทิงแห่งหนึ่งของชาวต่างชาติในกรุงเทพ
การเดินทางด้วยรถยนต์ : เนื่องจากโครงการ Noble BE 33 Sukhumvit เป็นโครงการที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 33 ซึ่งเป็นซอยที่มีทางลัดเลาะเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง หากเข้าทางเส้นสุขุมวิทฝั่งเลขคี่เลี้ยวเข้า ซอยสุขุมวิท33 ได้เลย โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ
จากซอยทองหล่อ สามารถเข้ามาที่โครงการได้โดยทะลุเข้าซอยสุขุมวิท 49/11 จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าซอยสุขุมวิท 39 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยพร้อมจิตร เลี้ยวซ้ายอีกทีก็จะถึงซอยสุขุมวิท 33
จากทางถนนเพชรบุรี ก็สามารถเข้าโครงการได้โดยเลี้ยวเข้าซอยเพชรบุรี 38/1 หรือแยกพร้อมพงษ์ จะทะลุเข้าซอยสุขุมวิท 39 ตรงมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขวาเขาซอยพร้อมจิตร แล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีก็จะถึงซอยสุขุมวิท 33
และหากมาจากถนนอโศกมนตรี ก็สามารถเข้าทางซอยสุขุมวิท 21/3 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสวัสดี(เป็นทาง one way) วนเข้าซอยพร้อมจิตร ก็จะสามารถทะลุเข้าซอยสุขุมวิท 33 ได้ ทางจะวนกันเป็น one way สี่เหลี่ยมค่ะ ในทางกลับกันถ้าเป็นขาออกก็จะวนน้อยกว่าขาเข้าโครงการค่ะ
และหากใครที่มาจากนอกเมืองขับมาเส้นขาเข้าสุขุมวิท สามารถเข้าโครงการได้โดยจะต้องหาทางยูเทิร์นนิดนึงค่ะ เพราะที่หน้าซอยสุขุมวิท 33 ไม่มีทางแยกยูเทิร์น โดยเส้นทางแรก จะมีแยกตรงหน้าซอยสุขุมวิท 49 ให้เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 49 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพร้อมมิตร จะทะลุเข้าซอยสุขุมวิท 39 แล้วให้เลี้ยวเข้าซอยพร้อมจิตร ก็จะมาทะลุที่ซอยสุขุมวิท 33 ได้เวลารถติดหนักๆทางลัดตรงนี้ช่วยประหยัดเวลาได้เหมือนกันนะคะ และเส้นทางที่ 2 คือขับตรงมาเรื่อยๆ แล้วมายูเทิร์นที่ทางเข้าซอยสวัสดีแล้วเข้าทางซอยสุขุมวิท 33 ได้เลย ซึ่งใครที่ต้องการเข้าเมือง ก็สามารถขับจากโครงการออกซอยพร้อมจิตร เลี้ยวซ้ายไปถนนสวัสดีจะสามารถไปทะลุเส้นสุขุมวิทที่แยกสวัสดีได้เช่นกัน
การเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ : BTS พร้อมพงษ์ ที่อยู่ห่างจากโครงการ 700 เมตร, วินมอเตอร์ไซค์หน้าซอยสุขุมวิท 33, รถประจำทางปรับอากาศสาย ปอ.1, 8, 11, 13, 16 และรถประจำทางสาย 2, 23, 25, 38, 40, 48, 98
เดี๋ยวเราจะพาเดินดูสาธารณูปโภครอบๆโครงการ โดยเริ่มจาก BTS พร้อมพงษ์ ย้อนขึ้นไปทางขาเข้าสุขุมวิทแล้วออกประตู 6 เพื่อไปดูสวนเบญจสิริ แล้วกลับมาออกทางออกที่ 5 เพื่อเดินไปยังโครงการที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 33 แล้วเดินต่อไปจนถึงสุดซอยสุขุมวิท 33 กันค่ะ
เรามาเริ่มกันที่ BTS พร้อมพงษ์ซึ่งเป็นสถานี E5 นะคะ
บรรยากาศของสถานีพร้อมพงษ์ ออกจากรถไฟฟ้าแล้วเราจะพาเดินลงบันไดไปออกจากสถานีกัน ซึ่งตรงทางลงบันไดเราก็เห็นป้าย “EM”ขนาดใหญ่ เดี๋ยวเราจะลงไปดูกันค่ะ
เดินลงจากบันไดจะเห็นกันชัดๆ ศูนย์การค้าน้องใหม่ “ดิ เอ็มควอเทียร์” ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน ภายในจะมี Shop สินค้าแบรนด์เนมมารวมกันไว้ที่นี่
เดี๋ยวเราจะพาเดินออกทางออกที่ 1, 2, 5, 6 กันนะคะ
แผนผังพื้นที่โดยรอบสถานีพร้อมพงษ์ โดยเราจะพาเดินไปลงบันไดที่ทางออกที่ 6 เพื่อพาไปดูสวนเบญจสิริ และกลับมายังทางออกที่ 5 เพื่อพาเดินไปยังซอยสุขุมวิท 33 ซึ่งต้นซอยเป็น UBC II Building อาคารสมัชชาวาณิช 2 ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานให้เช่าค่ะ
ออกจากสถานีให้เดินชิดขวาตรงทางออกที่ 1 แล้วเดินตรงไป
มองไปทางขวามือจะเห็นประตูทางเข้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ทางเข้าที่ 1 ( ดิ เอ็มควอเทียร์มีทางเข้าใหญ่ให้เลือกใช้ 2 ทางจากบนสถานี BTS) พื้นปูพรมแดงสะดุดตาทีเดียว บ่ายๆวันธรรมดาคนก็เยอะดีค่ะทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนและญี่ปุ่น
ซึ่งทางดิ เอ็มควอเทียร์ได้ทำบันไดเลื่อนขึ้น-ลงเพิ่มเติม ตรงนี้สามารถลงไปยังฟุตบาทด้านล่าง ซึ่งลงไปจะเจอป้ายรถเมล์ หรือเผื่อใครที่ต้องการไปใช้บริการรถส่งธารณะอื่นๆเช่นรถแท๊กซี่ วินมอร์เตอร์ไซด์ ก็สะดวกดี
ส่วนตรงนี้เป็นทางเดินใต้สถานี BTS ส่วนข้างหน้าจะเป็น Sky walk เดี๋ยวเราจะพาเดินไปดูว่าข้างหน้ามีอะไร และลงทางไหนได้บ้างค่ะ
เราออกมาที่ Sky Walk ด้านนอกสถานี ข้างหน้ามีพรมแดงอีกจุดที่คนเดินพลุกพล่านทีเดียว โดยพรมนี้จะปูไว้เป็นทางเชื่อมต่อระหว่างทางเข้าดิ เอ็มโพเรียม กับ ดิ เอ็มควอเทียร์ค่ะ
โดยถ้าไปทางด้านขวามือจะเป็นทางเดินไปสู่ทางเข้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ทางเข้าที่ 2
ส่วนถ้าออกไปด้านซ้ายมือจะเป็นทางเดินไปสู่ ดิ เอ็มโพเรียม มีการปลูกไม้พุ่มริมสองข้างทางด้วย
มองย้อนกลับไปก็จะเห็นว่าดิ เอ็มโพเรียมกับ ดิ เอ็มควอเทียร์เค้าอยู่ตรงข้ามกันพอดี
เดินบน Sky Walk ต่อไปเราจะเจอแยกทางลงข้างหน้าโดยถ้าออกทางขวามือ ทางออกที่ 5 จะเป็นทางไปโครงการ แต่เราจะพาไปยังทางออกที่ 6 ไปดูสวนเบญจสิริกันก่อนค่ะ
ก่อนลงทางออกที่ 6 ขอแวะดูถนนด้านล่างแป๊บนึง จะเห็นว่าถนนฝั่งขาออกสุขุมวิทในวันธรรมดาเวลาบ่ายแก่ๆแบบนี้ #รถติดหนักมากกก จริงๆค่ะ ส่วนทางขาเข้าสุขุมวิทรถแล่นฉิวเลยทีเดียว ซึ่งในแต่ละวันเค้าก็จะสลับกันติดมากติดน้อย ติดเสมอกันไปเรื่อยๆ และแถวนี้ไม่ได้มีทางด่วนใกล้ๆด้วย คงต้องฟังเพลงรอรถติดกันไปก่อน เดี๋ยวเราจะเดินเลี้ยวขวาลงบันไดแล้วไปสวนเบญจสิริกันต่อค่ะ
เดินลงบันไดของสถานี BTS พร้อมพงษ์มาก็ถึงบริเวณหน้าสวนเบญจสิริ ซึ่งมีศาลานิทรรศการพระราชกรณียกิจทรงไทย 2 หลังตั้งอยู่หน้าสวนที่มีคลองเล็กๆอยู่ตรงกลาง มีต้นไม้ใหญ่อยู่ทางด้านหน้าและมีทางเดินเท้าค่อนข้างกว้าง ซึ่งสวนเบญจสิรินี้อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 650 เมตร หรือใช้การเดินเพียง 8 นาที
ทางเข้าสวนเบญจสิริ ตอนนี้ซุ้มประตูตกแต่งในธีมวันสงกรานต์ เพราะช่วงที่เรามาเก็บภาพเป็นช่วงก่อนวันสงกรานต์พอดีค่ะ ซึ่งสวนสาธารณะแห่งนี้ก็จะมีลานกิจกรรมให้จัดกิจกรรมต่างๆผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเรื่อยๆ
โดยอุทยานเบญจสิริ หรือ สวนเบญจสิริ เป็นสวนสาธารณะที่มีเนื้อที่ 29 ไร่ เดิมเป็นของกรมอุตุนิยมวิทยาซึ่งปัจจุบันได้ย้ายออกไปอยู่ที่บางนาแทน โดยด้านข้างของสวนสาธารณะแห่งนี้ติดกับโรงแรมอิมพีเรียลควีนส์พาร์คห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรี่ยม กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง จัดสร้างขึ้นสมัยรัฐบาล ฯพณฯ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษาในปีพ.ศ. 2535
โดยเราเดินเข้ามาภายในสวนจะเจอลานที่มีรูปปั้นประติมากรรมตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่ ซึ่งสวนสาธารณะแห่งนี้มีประติมากรรมที่งดงาม และเป็นชิ้นงานสำคัญของศิลปินระดับชาติที่ร่วมใจกันถวายเป็นการเทิดพระเกียรติฯ ตั้งประดับอยู่เป็นการถาวรถึง 18 ชิ้นงานเลยทีเดียวค่ะ
สวนนี้จะเปิด-ปิด เวลา 05.00 – 21.00 น. ซึ่งหน้าสวนจะมีระเบียบการใช้สวนและแผนผังของสวนให้ดูกันค่ะ
เนื่องจากผังจากป้ายในสวนค่อนข้างเล็ก จึงนำภาพผังของสวนเบญจสิริมาให้ดูกัน โดย ภายในสวนจะจุดที่น่าสนใจ หลายอย่างเช่น ประติมากรรมประดับสวน มีให้เลือกชมถึง 16 ชิ้น ได้แก่ “เกิด” “วันเด็ก” “รำมะนา” “ชีวิตและศรัทธา” รอยศรัทธา” “เด็ก” “เติบโต” “งอกงาม” “พื้นพิภพและจักรวาล” “วัว” “ยอดสูงส่งฐานมั่นคง” “สัญญาลักษณ์แห่งเสรีภาพ” “สัญลักษณ์แห่งชีวิต” “มนุษย์” “สัมพันธภาพในโครงสร้าง” “ลีลาแห่งสัมพันธภาพ” “หรรษา”รูปปั้นที่ใช้ในการจัดแสดงน้ำพุดนตรี และประติมากรรมเหรียญที่ระลึกฯ รวมเป็น 18 ชิ้น
มีพื้นที่ลานกีฬา, ลานสเกต, สระว่ายน้ำ ขนาด 12.5 x 25 เมตร มีที่มาจากผลสำรวจความต้องการของผู้ใช้สวนเบญจสิริ พบว่าสระว่ายน้ำเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ประชาชนในย่านนี้ยังขาดแคลน, มีสนามเด็กเล่น รวมทั้งพื้นที่จัดกิจกรรมดนตรีในสวน
นอกจากนี้ยังมีป้ายห้ามขี่จักรยานเข้าสวน ห้ามพาสุนัขเข้า ห้ามตกปลา ห้ามทิ้งขยะ และห้ามสูบบุหรี่นะคะ
ในส่วนพื้นที่รอบนอกจัดให้ประชาชนที่ชื่นชอบกีฬากลางแจ้ง ได้ใช้เป็นลานกีฬา เช่น สนามตระกร้อ สนามวอลเล่ย์บอล สนามบาสเก็ตบอล ลานสเก็ต สวนสุขภาพ หรือจะใช้วิ่งจ๊อกกิ้งก็ได้
รวมทั้งบริการกิจกรรมดนตรีในสวน หนึ่งในกิจกรรมหลากหลายในสวนเพื่อพักผ่อนคลายความเครียด โดยชวนกันมาฟังเพลงตามโปรแกรมการแสดงดนตรีวันเสาร์-อาทิตย์ ในช่วงเย็นที่จัดหมุนเวียนไปตามสวนสาธารณะหลายแห่งทั่วกรุงเทพ ซึ่งสถานที่จัดดนตรีในสวนจะเป็นเต้นท์หลังคาใหญ่ๆข้างศาลานิทรรศการพระราชกรณียกิจทรงไทย
ส่วนพื้นที่ในสวนก็จะมีทางเดินเอาไว้ให้วิ่งกัน สองข้างทางจะมีทั้งเครื่องเล่น ที่นั่งที่วางอยู่เป็นระยะๆ สนามหญ้าขนาดใหญ่ที่ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาเต็มพื้นที่ ซึ่งสวนสาธารณะนี้ถือว่าเป็นปอดขนาดใหญ่ของสุขุมวิทเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะการมีพื้นที่สีเขียวขนาด 29 ไร่อยู่กลางใจเมืองแบบนี้ นอกจากต้นไม้เขียวๆจะช่วยกรองมลพิษแล้ว ยังจะเป็นพื้นที่ออกกำลังกาย พบปะพูดคุย สร้างกิจกรรมต่างๆร่วมกันให้เกิดปฏิสัมพันธ์ต่อกันด้วย
ส่วนของสนามเด็กเล่น มีชุดเครื่องเล่นไว้เรียกความสนใจจากเด็ก โดยการเสนอรูปแบบการผจญภัย ค้นหา ปีนป่าย เป็นสถานที่ยอดนิยมในวันหยุดของเด็กไทยและต่างชาติ ซึ่งนอกจากเด็กแล้วก็จะเห็นพ่อแม่ผู้ปกครองมานั่งเล่นด้วย
เพราะสนามเด็กเล่นนี้จะเป็นเครื่องเล่นรองรับเด็กอายุ 1-4 ขวบ ซึ่งเป็นเด็กเล็ก พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องมานั่งดูแลอย่างใกล้ชิด
สวนเบญจสิริจะมีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่กลางสวน ซึ่งสภาพภูมิทัศน์ที่ประกอบด้วยสวนน้ำร้อยละ 20 ของพื้นที่ ทำให้สถานที่แห่งนี้สามารถเพิ่มบทบาทต่อสาธารณะในการเป็นที่รองรับน้ำฝนก่อนระบายสู่ระบบระบายน้ำปกติ ให้ประโยชน์ในการป้องกันน้ำท่วมบริเวณนี้อีกด้วย
ต่อไปเราจะพาเดินต่อไปยังบันไดทางลง ทางออกที่ 5 เพื่อไปที่โครงการกันนะคะ อาคารฝั่งนี้จะเป็นอาคารพาณิชย์ซะส่วนใหญ่ ส่วนตึกกระจกสีฟ้าๆนั้นคือ UBC II Building อาคารสมัชชาวาณิช 2 หน้าซอยสุขุมวิท 33 ที่เราจะเดินไปกันค่ะ
ลงมาจากบันไดปุ๊บสิ่งแรกที่เราจะเจอเลยคือ Cha by the park ข้างหน้าจะเห็นพี่วินมอร์เตอร์ไซค์ แก๊งค์ใหญ่ทีเดียว
เดินต่อไปอีกหน่อยจะเจอร้านนั่งดื่ม และเห็นป้ายซอยสุขุมวิท 33/1 ซึ่งซอยนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “Japanese Town”
บรรยากาศหน้าซอยสุขุมวิท 33/1 (Japanese Town) จะเป็นแบบนี้ค่ะ เดี๋ยวเราจะพาไปเดินดูในซอยแบบเจาะลึกช่วงท้ายนะคะ
หน้าซอยสุขุมวิท 33 อีกฝั่งจะมีร้านแว่นตาบุญเท่ง และร้านขายดอกไม้
ถัดไปเจอร้นหนังสือ Sun Books
มี SUBWAY และร้าน SUNRISE TACOS สองร้านอาหารเฟรนด์ไชส์จากต่างชาติ
เดินต่อไปเจอ LITTLE ไล-บรา-ลี่ ร้านกาแฟเล็กๆน่ารัก
มองเข้าไปซอยที่อยู่ข้างร้าน LITTLE ไล-บรา-ลี่ จะเจอซอยที่สามารถทะลุไปยังซอยสุขุมวิท 33/1 ได้
ถัดไปเป็น VILLA MARKET ที่เป็นร้านขายสินค้าอุปโภคบริโภค มีทั้งสินค้าไทยและสินค้า import จากต่างประเทศ
เดินต่อมาจะเห็นร้าน Gute Express ร้านขายเบเกอรี่และขนมปังโฮมเมด
ในร้านมีทั้งขนมปังและขนมเค้ก สไตล์ญี่ปุ่น ขนมแนะนำคือขนมปังใส้ถั่วแดงและขนมปังทูน่า
หน้าตาขนมแบบชัดๆพร้อมราคาค่ะ
ถ้าจะเดินเข้า-ออก ต้องกดปุ่มนี้ซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยค่ะ
ติดกันเป็น UBC II Building อาคารสมัชชาวาณิช 2 ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า มีธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทยด้วย
เดินมาอีกนิดจะเห็นข้างหน้ามีป้ายบอกซอยสุขุมวิท 33
มองไปฝั่งตรงข้ามเราจะเห็นสถานที่กำลังก่อสร้างดิ เอ็มสเฟียร์ ซึ่งเมื่อรวมกับดิ เอ็มโพเรียม และดิ เอ็มควอเทียร์แล้ว จะทำให้ย่านสุขุมวิทเป็นย่านแห่งการช้อปปิ้งขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ ซึ่งดิ เอ็มสเฟียร์ นี้อยู่ห่างจากโครงการเพียง 400 เมตร
ถนนสุขุมวิทด้านที่ติดกับซอยสุขุมวิท 33 จะเป็นรถที่มาจากในเมืองเพื่อออกจากสุขุมวิทซึ่งถนนฝั่งนี้รถค่อนข้างจะติดมาก ดังนั้นการจราจรหน้าซอยสุขุมวิท 33 จะค่อนข้างช้า และหากมาจากนอกเมืองต้องการเข้าซอยสุขุมวิท 33 จะต้องไปยูเทิร์นข้างหน้าตรงหน้าซอยสวัสดี แล้วมาเลี้ยวเข้าโครงการ หรือเข้าโครงการจากทางหน้าซอยสุขุมวิท 49 ค่ะ
บรรยากาศบริเวณหน้าซอยสุขุมวิท 33 ตรงต้นซอยจะมี Family mart และมีร้านแผงลอยขายอาหาร ขายขนมอยู่ริมฟุตบาททั้งสองข้างทาง
เดินเข้ามาจะเจอพี่วินมอเตอร์ไซค์วินใหญ่เลยทีเดียว
มีร้านไก่ทอด ไส้กรอก ลูกชิ้นรถเข็นให้เลือกหลายร้านทั้งสองข้างทาง
ไก่ทอดดดด……………………
ฟุตบาทไม่กว้างมากนะคะ ทางเดินประมาณ 1 เมตร ในซอยมีรถวิ่งเข้าออกตลอดเวลา
เดินต่อไปอีกนิดจะเจอ LOTUS HOTEL
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นซอย ซึ่งในซอยจะเป็นอาคารพาณิชย์ที่เป็นร้านอาหาร ผับ และบาร์อยู่หลายร้าน
ถัดจาก LOTUS HOTEL จะมีทั้งร้านนวด ร้านอาหาร บาร์ ร้านซักรีด ไว้บริการผู้อยู่อาศัยละแวกนี้ซึ่งสวนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ
ถัดไปอีกนิดก็ยังเป็นผับ บาร์ และมองไปฝั่งตรงข้ามมี Family Mart ซึ่งมีซอยข้างๆแยกไปเป็นอพาร์ทเม้นค่ะ
เดินต่อไป ทัศนียภาพในซอยเราก็จะเห็น ร้านอาหาร ร้านนวด ผับ บาร์ เรื่อยๆทั้งสองข้างทางค่ะ
มี SCB Exchange ไว้แลกเปลี่ยนเงิน และมี 7 Eleven ด้วย เดี๋ยวเราจะข้ามไปเดินทางฝั่งตรงข้ามกันบ้างค่ะ
เรามายินดูจากฝั่งตรงข้ามมองไป จะเห็นเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ซึ่งตอนนี้ไม่ได้เปิดให้บริการแล้ว
ข้างๆกันเป็นตึกเก่าที่กำลังรีโนเวท จะเห็นว่าข้างหน้าเรามีป้ายอพาร์ทเม้น คลับ บาร์เป็นภาษาญี่ปุ่นแทบทั้งนั้น
ข้างๆตึกที่รีโนเวทเป็น S33 Compact Hotel โรงแรม 6 ชั้น
ถัดจาก Beverly 33 จะเป็นที่ตั้งของโครงการ Noble BE 33 Sukhumvit แล้วค่ะ
ซึ่งฝั่งตรงข้ามกับโครงการจะเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น ที่มีร้านนวด และร้านขายของชำ
เราไปดูที่โครงการกัน บรรยากาศจากหน้าโครงการ เนื่องจากตอนนี้ Sale Office กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง หน้าโครงการจึงมีการกันบุคคลภายนอกเข้า-ออก และกั้นตาข่ายไว้
ทางเดินฟุตบาทหน้าโครงการกว้างประมาณ 1 เมตร หน้า Sale Office มีการปลูกไม้พุ่มสูงและทำทางเดินด้วยค่ะ
หน้าตา Sale office ให้เห็นกันชัดๆ โดยมีลักษณะเป็นห้องกระจกใส ตกแต่ง Facade ด้วยลวดลายทรงโค้งสีเทา ออกแนวสมัยใหม่และจัดไฟสีส้มให้ความรู้สึกอบอุ่น
จากหน้าโครงการมองเข้าไปจะเห็นว่าโครงการปลูกต้นไม้ค่อนข้างร่มรื่น ข้างหลังโครงการนี้จะติดกับ มาเป็งเส็งอพาร์ทเม้นท์ 6 ชั้นราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 70,000-90,000 บาท โดยให้เช่ารายสัปดาห์ถึงรายเดือน จะเห็นว่าราคาเช่าค่อนข้างสูง
และถัดจากมาเป็งเส็งอพาร์ทเม้นท์จะเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ยาวไปจนสุดโครงการอีกด้าน ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องวิวค่ะ
มองจากอีกด้านของ Sale Office หลังโครงการก็เป็นบ้านพักอาศัยอาศัย 2 ชั้นเช่นกัน
จาก Sale Office มองกลับไป จะเห็นตึกอาคารของ Beverly 33 อพาร์ทเม้นท์ 8 ชั้น ซึ่งเมื่อโครงการสร้างเสร็จอาคารด้านที่อยู่ติดกับ Beverly 33 ชั้น 1-8 ก็จะโดนจ๊ะเอ๋กับห้องในตึกนี้อย่างแน่นอน ส่วนชั้นสูงขึ้นไปก็ไม่มีปัญหาเรื่องวิวค่ะ
จากโครงการเราเดินต่อกันไปตามฟุตบาท จะเห็นป้ายโครงการ Noble BE 33 Sukhumvit ล้อมรั้วไว้แล้ว มองไปข้างหน้ายังฝั่งตรงข้ามจะเห็นตึกสูง 2 ตึก ซึ่งตึกด้านหน้าคือ AP Suites ซึ่งเป็นอพาร์ทเม้นท์และคอนโดสูง 8 ชั้น ส่วนตึกด้านหลังนั้นคือ D.S.Tower 1 ซึ่งเป็นคอนโดสูง 38 ชั้น
เดินต่อไปจะเห็นว่ารั้วของโครงการติดกับ TOP UP 33
ซึ่ง TOP UP 33 เป็น Lounge and Restaurant ต้องรอลุ้นว่าโครงการจะสร้างส่วนที่ติดกับด้านนี้เป็นอะไร ถ้าเป็นส่วนพักอาศัยด้านนี้ อาจจะมีเสียงรบกวนจากเสียงเพลงของ TOP UP 33 บ้างนะคะ
ติดกับรั้วของ TOP UP 33 จะเป็นซอย ซึ่งด้านในเป็น Tsubaki Club และ Tomoe Club
ถัดจากซอยจะเจอร้าน The Fat Beagle Cafe & Bake Shoppe ซึ่งเป็นร้านเบเกอรี่น่ารักทีเดียว
มองไปข้างหน้าเยื้องๆกันจะมี Tops Daily ที่อยู่ใต้ตึก AP Suites
ถัดไปอีกนิดเป็นร้าน INDUSTIQUE ขายเฟอร์นิเจอร์แอนทีค
เดินต่อไปเรื่อยๆ เราจะเดินไปดูตรงสุดทางแยก ที่มีรถแท๊กซี่สีชมพูกำลังเลี้ยวเข้ามาค่ะ
สุดซอยเราจะเจอทางแยกตัดกับถนนพร้อมจิตร ซึ่งเป็นทาง One Way รถที่มาจากทางนี้จะสามารถไปยังซอยสวัสดีที่มีทางเดินรถ One way วนเป็นทางสี่เหลี่ยม ซึ่งสามารถไปวนออกทางแยกสวัสดีเพื่อไปเข้าเมืองได้ ไปออกถนนอโศกมนตรีโดยไปออกทางซอยสุขุมวิท 21/3 ก็ได้ และสามารถไปถนนเพชรบุรีโดยออกทางซอยสุขุมวิท 38/1 ก็ได้ค่ะ
มองไปทางขวามือรถจะมาจากซอยสุขุมวิท 39
ส่วนมองไปทางซ้ายมือ รถทางนี้จะมุ่งหน้าไปยังซอยสวัสดี จะเห็นว่ารถหนาแน่นและติดมากเพราะซอยสวัสดีเป็นทาง One Way ที่สามารถไปทะลุถนนใหญ่ได้หลายทาง
ทางเดินที่ 2 จะพาเดินไปดูในซอยสุขุมวิท 33/1 หรือ “Japanese Town” กันค่ะ
เท้าความนิดนึง ตั้งแต่สมัยสุโขทัยชาวญี่ปุ่นเริ่มเข้ามาติดต่อซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับคนไทยตามที่มีประวัติศาสตร์จารึกไว้ แต่ที่เห็นได้เด่นชัดที่สุดก็จะเป็นสมัยอยุธยาที่คนญี่ปุ่นเข้ามาซื้อขายสินค้าและเริ่มเข้ามาตั้งรกรากอยู่ในประเทศไทย จนค่อยๆเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆเกิดเป็นหมู่บ้านญี่ปุ่นขึ้นมา จนถึงปัจจุบันทั้งการคมนาคม การสื่อสารและเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้น มีชาวต่างชาติที่เข้ามาทำการค้าและลงทุนในประเทศไทยมากขึ้นตามไปด้วย ชาวญี่ปุ่นก็เช่นกัน มีทั้งคนที่มาแต่งงานกับคนไทย คนที่เข้ามาลงทุนทำธุรกิจ และคนญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานตามบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยที่มีเยอะมากในย่านสุขุมวิท จึงเป็นที่มาของการที่ย่านนี้มีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่เยอะ
ซึ่งซอยสุขุมวิท 33/1 นี้เป็นซอยที่มีร้านขายสินค้าอุปโภค บริโภคของคนญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก สะท้อนไลฟ์สไตล์อาทิตย์อุทัย จึงได้ชื่อว่าเป็น “Japanese Town” ในย่านสุขุมวิท
พอเราเข้ามาในซอยสุขุมวิท 33/1 จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นของร้านต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ในซอยนี้จะเป็นอาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นร้านอาหาร ผับ บาร์ ร้านนวดสไตล์ญี่ปุ่น
เข้ามาก็จะเจอร้าน TAN TAN MEN Japanese Restuarant ลองถ่ายหน้าตาเมนูอาหารมาให้ดู ซึ่งเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดเลยค่ะ
บรรยากาศในซอยก็จะเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น ซึ่งยังคงเป็นร้านอาหาร ร้านนวด ร้านขนมสไตล์ญี่ปุ่นอยู่เช่นกัน
มีสถาบันสอนภาษา Thai English Japan และยังขายเค้กอีกด้วย 2 in 1
มีร้านขายขนมญี่ปุ่นและศูนย์ข้อมูลแนะนำนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น
เดินต่อไปเจอร้าส้มตำอัมรินทร์จงเจริญ ติดต่อได้ที่ เจ๊โอ๋ ด้านหลังร้านเป็น 7 Eleven
ซ้ายมือไปจะมีแยก ซึ่งแยกนี้จะสามารถทะลุไปถนนสุขุมวิทได้ค่ะ
ตรงไปอีกหน่อยเป็นร้านเสริมสวยซึมาโกะ เห็นฟร้อนต์กับสีร้านแล้วนึกถึงโกโบริกับอังศุมาลิน
เดินตรงไปเรื่อยๆ ซ้ายมือป็นร้าน Neo ซึ่งเป็นสินค้าที่ import มาจากญี่ปุ่น มีหลายระดับราคา เดี๋ยวเราจะพาเข้าไปดูข้างในกันนะคะว่ามีอะไรขายบ้าง
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็มี
ถั่วแระญี่ปุ่นก็มา และของเบ็ดเตล็ดอื่นๆก็มีให้เลือกมากมายค่ะ(เน้นของญี่ปุ่น)
ตรงไปอีกหน่อย ซ้ายมือเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น Tomato Noodle
ส่วนทางขวามือ ใต้ตึกจะมีร้านหนังสือ “โตเกียวโด”ซึ่งเป็นร้านหนังสือนำเข้าจากญี่ปุ่นเพื่อให้คนญี่ปุ่นในประเทศไทยได้อัพเดตข่าวสารและแวดวงสิ่งพิมพ์อย่างใกล้ชิด
สุดทางจะเจอตึกของ บริษัท UFM Food Center และเลี้ยวไปทางขวามือจะสามารถลัดไปซอยสุขุมวิท 35 ได้
บริบทโดยรอบของโครงการ Noble BE 33 Sukhumvit ส่วนใหญ่จะเป็นอพาร์ทเม้นท์ โรงแรม และอาคารพาณิชย์ ซึ่งอาคารพาณิชย์ในซอยสุขุมวิท 33 จะเห็นว่าส่วนใหญ่จะเปิดเป็นร้านอาหาร ร้านนวด ร้านซักรีด ร้านสะดวกซื้อ หรือสถานบันเทิงต่างๆ ที่ล้วนมาตอบโจทย์นักท่องเที่ยวและผู้อยู่อาศัยในย่านนี้
โดยด้านทิศเหนือ จะอยู่ติดกับ Top Up 33 ซึ่งเป็นสถานบันเทิงที่อยู่ติดกับโครงการ อาคารที่อยู่ด้านนี้อาจจะมีเสียงดนตรีรบกวนบ้างในเวลาค่ำคืน
ทิศตะวันตก, ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะอยู่ติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ซึ่งตรงนี้ไม่มีปัญหาในเรื่องของการถูกบังวิว
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะอยู่ติดกับมาเป็งเส็งอพาร์ทเม้นท์ 6 ชั้น ซึ่งตึกที่อยู่ชั้น 7 ขึ้นไปอาจจะไม่เสียวิวมาก แต่ก็จะมาติดตึกของ Bangkok View Tower อพาร์ทเม้นท์ 19 ชั้น ซึ่งจะมาบังวิวของคนที่อยู่อาศัยในทิศนี้
ทิศใต้ จะติดกับ Beverly 33 อพาร์ทเม้นท์ 8 ชั้น ซึ่งคนที่อยู่ห้องทางทิศนี้ในชั้น 1-8 จะจ๊ะเอ๋กับคนที่พักอยู่ที่ Beverly 33 แน่ๆแต่คนที่อยู่ชั้น 9 ขึ้นไปก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องของวิวค่ะ
ทิศตะวันออก จะติดกับถนนสุขุมวิท 33 ซึ่งเป็นทางเข้าออกของโครงการ และฝั่งตรงข้ามของถนนเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น ซึ่งมีร้านนวด และร้านขายของชำเล็กๆให้ไปซื้อของกันได้ค่ะ
ขอปิดท้ายด้วย Presentation ของทางโครงการนะคะ
สรุป : ทำเลของโครงการ Noble BE 33 Sukhumvit เป็นทำเลที่อยู่ห่างจาก BTS พร้อมพงษ์ ประมาณ 700 เมตร หรือในระยะเดินประมาณ 9 นาที ถ้าเดินจริงๆก็เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน ซึ่งสามารถทุ่นแรงได้โดยเรียกบริการพี่วินหน้าซอยได้ ความพิเศษของโครงการอย่างหนึ่งคืออยู่ใกล้กับสถานีอโศก ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับ MRT สุขุมวิท และ MRT สายสุขุมวิท ก็อยู่ติดกับสถานี MRT เพชรบุรี ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับ Airport Rail Link มักกะสัน ดังนั้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจากโครงการ จึงสามารถเดินทางได้ง่ายทั้งการใช้ BTS, MRT และ Airport Rail Link เลยทีเดียว
ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์สามารถลัดเลาะได้หลายเส้นทางโดยไปทางซอยสวัสดีที่มีทางเดินรถ One way วนเป็นทางสี่เหลี่ยม ซึ่งสามารถไปวนออกทางแยกสวัสดีเพื่อไปเข้าเมืองได้ ไปออกถนนอโศกมนตรีโดยไปออกทางซอยสุขุมวิท 21/3 ก็ได้ และสามารถไปถนนเพชรบุรีโดยออกทางซอยสุขุมวิท 38/1 ก็ได้ค่ะ
แน่นอนว่าภาพทีชัดมากคือบริเวณโดยรอบมีแต่ป้ายภาษาญี่ปุ่น ร้านอาหารญี่ปุ่น สถานบันเทิง ร้านนวด เป็นภาษาญี่ปุ่นซึ่งบ่งบอกได้ว่าย่านนี้เป็นถิ่นของคนญี่ปุ่น เหมือนกับที่เยาวราชเป็นถิ่นของคนจีน ดังนั้นเรื่องของอาหาร หากใครที่ชอบอาหารญี่ปุ่นก็คงจะชอบย่านนี้เป็นพิเศษ สนนราคาก็สูงขึ้นไปตามคุณภาพของอาหาร แต่สำหรับใครที่ชอบแบบเรียบๆพื้นๆไม่ติดอาหารหรู ร้านส้มตำ ไก่ทอด ไส้กรอกลูกชิ้นรถเข็นก็มีให้เลือก มีตั้งขายตลอดทั้งซอย แน่นอนว่าอยู่แถวนี้สบายๆไม่ขาดแคลนอาหารแน่นอน ส่วนสาธารณูปโภคอื่นๆก็สะดวก โดยโครงการอยู่ไม่ไกลจาก The District Em ซึ่งประกอบด้วยห้าง ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และ ดิ เอ็มสเฟียร์ (กำลังจะก่อสร้าง) ให้สามารถไปจับจ่ายใช้สอยกันได้ มี Villa Market, Japanese Town(ซอยสุขุมวิท 33/1)ซึ่งมีทั้งอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ของญี่ปุ่นให้เลือกมากมาย และมีสวนเบญจสิริ ปอดขนาดใหญ่ของสุขุมวิท ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการเพียง 650 เมตร ให้มาสูดอากาศสดชื่นและออกกำลังกายกันได้
โดยรวมแล้ว Noble BE 33 Sukhumvit เป็นโครงการที่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า หาของกินสะดวก และเป็นย่านของชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนญี่ปุ่น อาจจะไม่ถูกใจสำหรับคนที่ชอบความสงบ เพราะในซอยสุขุมวิท 33 นี้จะมีสถานบันเทิงและร้านนวดค่อนข้างเยอะ ซึ่งตอนกลางคืนจะพลุกพล่านและไม่ค่อยเงียบสงบนัก แต่ถ้าสำหรับใครที่จะใช้ชีวิตหรือทำงานในย่านสุขุมวิท พร้อมพงษ์ โดยรวมแล้วถ้าไม่ติดใจเรื่องความสงบและนักท่องเที่ยวที่วุ่นวายก็ถือว่าเป็นทำเลที่ดีที่หนึ่งค่ะ