..วันนี้เราบินลัดฟ้าจากกรุงเทพ เพื่อพามาชมโครงการใหม่ บ้านนิรติ นครศรี (BAAN NIRATI NAKHON SI) จาก CPN ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชกันครับ เป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่เป็นส่วนตัวเพียง 79 ยูนิต โดดเด่นเรื่องความปลอดภัยด้วยประตูแบบรั้ว 2 ชั้น และมีฟังก์ชันบ้านตอบโจทย์สำหรับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ โดยมีราคาเริ่มต้น 6.8 – 11.29 ล้านบาท ซึ่งความน่าสนใจของโครงการจะมีดังต่อไปนี้เลยครับ
- Double Gate Security 2 ชั้น จำกัดให้คนภายนอกที่ไม่ได้ลงทะเบียน จะสามารถเข้ามาได้แค่ในส่วนของ Clubhouse โซนด้านหน้าเท่านั้น จึงมีความเป็นส่วนตัวสูงไม่เหมือนใครในย่าน
- เป็นโครงการขนาดเล็กเพียง 79 ยูนิต จึงทำให้ความหนาแน่นในการแชร์ Facilities มีค่อนข้างน้อย สามารถใช้งานได้เป็นส่วนตัวสบายๆ
- บ้านเดี่ยวหน้ากว้างพื้นที่ใช้สอยเยอะ บรรยากาศภายในกว้างขวางโปร่งโล่ง มีห้องนอนชั้นล่างทุกแบบ พร้อมพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นบน ทำให้มีความยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้
- ทำเลติดถนนใหญ่พัฒนาการคูขวาง มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ห้างสรรพสินค้าและตลาดหลายแห่ง
ข้อมูลโครงการ
BAAN NIRATI NAKHON SI (บ้านนิรติ นครศรี) ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2566
ชื่อโครงการ | BAAN NIRATI NAKHON SI (บ้านนิรติ นครศรี) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ จำกัด บริหารงานโดย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | UPPER – HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนน พัฒนาการคูขวาง อำเภอ เมือง จังหวัด นครศรีธรรมราช |
ที่ดิน | 24-0-90.4 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 79 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.7 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | N/A บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2566 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี N/A |
เว็บไซต์โครงการ | https://bit.ly/47jglqh |
โทร | 098-262-0456 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlight :
- ติดถนนใหญ่พัฒนาการคูขวาง เดินทางสะดวก
- ทำเลอุดมสมบูรณ์ ใกล้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลายแห่ง และอยู่ไม่ไกลจากเซ็นทรัล
พิกัด Google Maps : 8.388492, 99.978262
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
..โครงการ บ้านนิรติ นครศรี (BAAN NIRATI NAKHON SI) ตั้งอยู่ติดถนพัฒนาการคูขวาง ซึ่งเป็นหนึ่งในถนนเส้นหลักของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่วิ่งคู่ขนานไปกับถนนราชดำเนิน โดยความน่าสนใจของถนนอ้อมค่ายวชิราวุธก็คือ ถึงแม้จะเป็นถนนเส้นเล็กกว่าก็จริง แต่ก็มีความอุดมสมบูรณ์และคึกคักสูงกว่าถนนข้างเคียงเยอะมากครับ
สังเกตได้จากทุกๆ 500 m. เราจะเจอทั้งตลาด ร้านอาหารใหญ่ๆ ซูเปอร์มาเก็ต และโรงแรมอยู่บนถนนเส้นนี้เป็นระยะๆ จึงเป็นหนึ่งในโซนที่คึกคักและมีความอุดมสมบูรณ์สูง ไม่แปลกใจเลยที่ Developer เจ้าใหญ่ๆมักจะทำโครงการหมู่บ้านจัดสรรกันในบริเวณนี้มากกว่าทำเลข้างเคียง ซึ่งถ้าเป็นแบรนด์ชื่อดังจากกรุงเทพก็มีมาแล้ว 2 – 3 เจ้าด้วยกันครับ
แน่นอนว่า ‘บ้านนิรติ’ เป็นแบรนด์ในเครือ CPN ดังนั้นทำเลของเค้าจึงเน้นไปทางโซนใกล้ห้างเซ็นทรัลที่อยู่บริเวณด้านล่าง ซึ่งถือเป็นห้างขนาดใหญ่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันมากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังตอบโจทย์สำหรับกลุ่มลูกบ้าน CPN ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในการเข้าไปใช้งานที่ห้างเซ็นทรัลอีกมากมายด้วย (สอบถามกับโครงการอีกครั้ง)
ห้างเซ็นทรัล นครศรีธรรมราช
..เป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ไม่ได้รองรับแค่คนในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนที่อยู่ในจังหวัดข้างเคียงอย่างสุราษฎร์ธานี / กระบี่ / ตรัง และพัทลุงด้วย จึงมีการเดินทางหลั่งไหลเข้ามาจับจ่ายใช้สอยมากมาย เพราะถ้าพูดถึงห้างเซ็นทรัลในโซนภาคใต้นี้ก็จะมีที่นี่แหละครับ ที่เป็นหนึ่งในห้างที่ประสบความสำเร็จค่อนข้างสูงในเครือของเค้าเอง
โดยในช่วงเย็นผมก็ได้ลองมาเดินช้อปปิ้งหาของกิน ก็เห็นว่ามีคนค่อนข้างเยอะและคึกคักมาก ซึ่งรอบๆห้างจะมีตลาดขายของกันเยอะแยะเลย โดยเฉพาะของกินท้องถิ่นที่รอบนี้ผมก็ไม่พลาดที่จะลองชิมดูบ้าง อย่างพวกโรตี กะหรี่ปั๊ป ข้าวแกงปักใต้ และขนมจีนน้ำยาปู เป็นต้น
บอกเลยว่าอร่อยมากๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแป้งแบบนุ่มๆและไส้เยอะสุดๆ ชาวบ้านก็เป็นกันเองยิ้มแย้มดีทีเดียวครับ ไว้มีโอกาสไปอีกครั้งก็อยากจะลองชิมของเด็ดของดีอื่นๆอีกนะ หรือถ้าใครมีอะไรอยากแนะนำก็ Comment ฝากบอกนักรีวิว Thinkofliving ของเรากันได้น้า
ท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช
..เพิ่งจะมีการเปิดใช้งานอาคารใหม่กันไปเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 หรือเมื่อเดือนที่แล้วนี้เองครับ (ครั้งก่อนที่ผมมารีวิวเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ยังเป็นด้วยอาคารเก่าอยู่เลย) ทั้งนี้ก็เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในทุกๆปี
ทำให้เราสามารถคาดการณ์แบบง่ายๆกันได้ว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชอาจเป็นหนึ่งในจังหวัดใหญ่ของทางภาคใต้ ที่จะมีการเติบโตและกลายเป็น Hub ในการเดินทางในอนาคตได้ไม่ยากเย็นนัก ซึ่งก็คงจะมีความเจริญและคึกคักมากกว่านี้อีกแน่นอนครับ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่ว่างและบ้านพักอาศัย รวมถึงจะมีโกดังเก็บสินค้าขนาดใหญ่ของบริษัทใกล้เคียงด้วยครับ โดยลักษณะที่ดินจะมีระยะร่นจากถนนใหญ่เข้าไปด้านในพอสมควร จึงทำให้โซนบ้านพักอาศัยด้านในมีความเงียบสงบเป็นส่วนตัวดี ส่วนด้านอื่นๆก็จะอยู่ติดกับสถานที่ต่างๆดังนี้
- ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ว่าง บ้านแนวราบ และโชว์รูมรถยนต์
- ทิศใต้ : ติดกับ ที่ว่าง บ้านแนวราบ และโกดังเก็บสินค้า
- ทิศตะวันออก : เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับ ถนนอ้อมค่ายวชิราวุธ
- ทิศตะวันตก : ติดกับ บ้านแนวราบ
เรามาดูบรรยากาศตรงถนนด้านหน้าโครงการกันสักหน่อยครับ โดยทางด้านขวามือจะอยู่ติดกับทาวน์โฮม 3 ชั้น และถ้าตรงไปทางทิศนี้จะสามารถไปยัง Lotus / Big C / ตลาด และสนามบินได้ครับ
ส่วนทางด้านซ้ายของโครงการจะอยู่ติดกับบริษัท ไฮเทคกลาส จำกัด ฝั่งตรงข้ามเป็นปั๊มน้ำมัน และถ้าตรงไปอีกหน่อยก็จะเจอกับ HomePro รวมถึงยังเชื่อมต่อกับถนนราชดำเนิน และเดินทางไปยังห้างเซ็นทรัลได้อีกด้วย
โดยถนนอ้อมค่ายวชิราวุธเส้นนี้จะเป็นถนน 2 เลนที่วิ่งสวนทางกันได้ และไม่มีเกาะกลาง จึงทำให้สามารถกลับรถได้สะดวกดีทีเดียว
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- โฮมโปร ~ 290 m.
- โลตัส ~ 1.2 km.
- เซ็นทรัล นครศรี ~ 2 km.
- ไทวัสดุ นครศรี ~ 2.3 km.
- โรบินสัน โอเชี่ยน ~ 5.6 km.
- สหไทยพลาซ่า ~ 6.9 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลนครพัฒน์ ~ 600 m.
- โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ~ 1.4 km.
- โรงพยาบาลนครคริสเตียน ~ 6.4 km.
- โรงพยาบาลนครินทร์ ~ 11.2 km.
- โรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ ~ 13.3 km.
โรงเรียน
- วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ~ 300 m.
- โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช ~ 5.8 km.
- โรงเรียนนานาชาติเทศบาลนครศรีธรรมราช ~ 6 km.
- โรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา ~ 8.3 km.
- โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ~ 11.4 km.
สถานที่ราชการและอื่นๆ
- สนามบินนานาชาตินครศรีธรรมราช ~ 22.9 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- ยูนิตน้อย เป็นส่วนตัว
- Double Security Gate ประตูทางเข้าโครงการ 2 ชั้น มีความปลอดภัยสูง
- จัดสวนสาธารณะเป็นแนวยาวลึกเข้าไปเกือบครึ่งหนึ่งของโครงการ ทำให้เวลาเข้า-ออกจะสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวสดชื่นได้เกือบตลอดเวลา
..โครงการ บ้านนิรติ นครศรี (BAAN NIRATI NAKHON SI) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 24-0-90.4 ไร่ และมีเพื่อนบ้าน 79 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่มาก และมีความเป็นส่วนตัวเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในย่านเดียวกัน
แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นและแตกต่างจากโครงการอื่นๆก็คือ ‘Double Gate Security’ ที่เป็นประตูทางเข้าแบบ 2 ชั้น โดยบุคคลภายนอกหรือ Visitor จะถูกจำกัดให้เข้ามารอได้เฉพาะบริเวณอาคาร Clubhouse ในโซนด้านหน้าเท่านั้น จะมีเฉพาะลูกบ้านหรือคนที่ได้รับอนุญาตในการลงทะเบียนแล้วถึงจะสามารถผ่าน Gate 2 เข้าไปได้ จึงทำให้กลายเป็นโครงการที่มีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยดีทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีการจัด Facilities อย่างสวนสาธารณะให้อยู่ริมถนน Main บริเวณด้านหน้าอีกด้วย ซึ่งก็จะเป็นสวนแนวยาวลึกเข้าไปจนเกือบครึ่งหนึ่งของโครงการเลย ทำให้เวลาเราขับรถเข้า-ออกก็ได้สัมผัสบรรยากาศที่สดชื่นของต้นไม้ และทำหน้าที่เป็นส่วนต้อนรับของโครงการได้ดีทีเดียว
ในเรื่องของผังโครงการผมมองว่าบ้านในโซนแรก ที่กำลังเปิดขายปัจจุบันมีความน่าสนใจดีนะครับ เพราะจะเป็นซอยแยกย่อยที่ไม่ได้ยาวมากเหมือนเฟสด้านใน จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย รวมถึงยังอยู่ในระยะที่สามารถมาใช้งาน Facilities ได้สะดวกอีกด้วยนั่นเอง
เริ่มกันที่บริเวณ Main Gate ด้านหน้าสุดของโครงการ ซึ่งจะมีการแบ่งทางเข้า-ออกแยกจากกันชัดเจน และใช้เป็นประตูเหล็กรางเลื่อนที่มีความแข็งแรงปลอดภัย
เปิด-ปิดด้วยระบบ License Plate Recognition System (ระบบจดจำทะเบียนรถสำหรับผู้พักอาศัย) ส่วนถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องแลกบัตรกับพี่ยามก่อนตามปกติ
นอกจากนี้ยังคำนึงถึงเรื่องการจอดรถรอประตูเปิด-ปิด หรืออาจต้องต่อคิวเพื่อแลกบัตรกับพี่ยามก่อน จึงได้มีการ Set Back ระยะประตูทางเข้าให้ร่นเข้ามาจากถนนใหญ่พอสมควร เพื่อให้มีความปลอดภัยในการเข้า-ออกมาขึ้นนั่นเองครับ
เมื่อผ่าน Main Gate ชั้นแรกเข้ามาเราจะเจอกับพื้นที่โซน Clubhouse ที่เป็นทั้งส่วนต้อนรับ เอาไว้รับรองแขกภายนอก และลูกบ้านก็สามารถมาใช้งาน Facilities ได้ด้วย โดยที่จะมีประตู Gate 2 กั้นโซนพักอาศัยด้านในเอาไว้อีกที เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยครับ
ซ้ายมือจะเป็นอาคารจอดรถในร่มได้ 4 คัน หรือถ้ามีคนมาใช้งานกันเป็นจำนวนมาก ก็ยังสามารถจอดริมถนนเพิ่มได้สบายๆครับ
เพราะถนนบริเวณนี้กว้างมากถึง 14 – 16 m. กันเลยทีเดียว รวมถึงบริเวณด้านข้างยังมีทางลาดสำหรับรถเข็นให้ใช้งานได้สะดวกอีกด้วย
Clubhouse เป็นอาคารสูง 2 ชั้น ดีไซน์เป็นสไตล์ Modern Tropical และมีการใช้เส้นหลังคาทรงโค้งที่ค่อนข้างแตกต่างกับตัวบ้านพอสมควร จึงทำให้ดูสบายๆ เหมาะแก่การมาใช้งานพักผ่อนครับ
บริเวณโถงชั้น 1 จะมีทางแยกออกไปยังฟังก์ชันต่างๆเป็นสัดส่วน
เริ่มจากห้องกระจกที่อยู่ชั้น 1 จะเป็น Lobby ซึ่งปัจจุบันใช้งานเป็นสำนักงานขายของโครงการครับ และภายในก็จะมีพื้นที่โซฟาและโต๊ะเก้าอี้ ให้เราได้นั่งเล่นพักผ่อนกันหลายจุดเลย รวมถึงยังสามารถใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกที่มาจากภายนอกได้ดีอีกด้วย
อีกด้านหนึ่งจะมีห้องเล็กๆที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนอยู่ ภายในคือ Private Lounge ที่เราสามารถเข้ามาใช้งานนัดพูดคุยกันแบบส่วนตัวได้ครับ
ต่อมาเราจะไปดูฝั่งของสระว่ายน้ำที่อยู่อีกด้านของอาคารกันบ้าง
พื้นที่โซนแรกจะเป็น Kids Pool เป็นสระน้ำตื้นที่มีการกั้นด้วยราวเหล็กแยกจากสระใหญ่เป็นสัดส่วน ทำให้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานของเด็กๆได้ดี
ส่วนสระหลักจะเป็นแบบกลางแจ้ง มีขนาดประมาณ 5 x 20 m. สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริงจังเลย แต่ก็แนะนำให้มาใช้งานตอนแดดร่มๆหน่อยจะดีกว่าครับ
ด้านขวามือจะเป็น Day Bed สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนริมสระแบบในร่ม จึงสามารถมานั่งเล่นได้ตลอดทั้งวันเลยทีเดียว
แต่ที่สำคัญคือ สระนี้จะมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก เพราะรายล้อมด้วยรั้วต้นไม้รอบด้าน ไม่มีใครมองเห็นได้ (ยกเว้นคนที่อาจกำลังใช้ Fitness ที่อยู่ชั้นบน)
นอกจากนี้บริเวณริมสระยังมีห้องกระจกเล็กๆ ให้เราได้เข้ามาใช้งานนั่งเล่นอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่จะมานั่งคอยคนที่กำลังว่ายน้ำเล่นอยู่ หรืออยากนั่งเล่นชมวิวสระสวยๆ โดยอยู่ในห้องแอร์เย็นสบายและเป็นส่วนตัวแบบนี้ครับ
อีกด้านหนึ่งของสระจะมีจุดให้ล้างตัวก่อนลงสระได้ และมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำแยกชาย-หญิงที่อยู่ด้านหลังครับ
ภายในมีทั้งโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำให้ใช้งานครบ รวมถึงยังมีตู้ Smart Locker ที่สามารถใส่รหัสผ่านเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานได้อีกด้วย
ขึ้นมาบนชั้น 2 เราจะเจอกับโถงทางเดินที่แยกไปอีก 2 ฟังก์ชันด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ AED (เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ) ติดตั้งเอาไว้ให้ใช้งานเผื่อกรณีฉุกเฉินอีกด้วย
ห้องทางขวามือจะเป็น Co-Working Space ซึ่งก็ได้จัดออกมาเป็นพื้นที่ใช้งานสบายๆ มีทั้งโซนโต๊ะเก้าอี้ โซฟา และโต๊ะประชุมตัวใหญ่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน
ทำให้สามารถใช้งานพร้อมกันได้ทีละ 2 – 3 กลุ่ม แต่ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวก็อาจต้องติดต่อกับนิติบุคคล (ในอนาคต) เพื่อขอจองแบบทั้งห้องไปเลยแทนนะครับ
ถัดมาจะเป็น Fitness ที่ภายในมีขนาดค่อนข้างใหญ่ดีครับ สามารถรองรับการใช้งานทีละ 5 – 6 คนได้สบายๆ และมีอุปกรณ์ต่างๆให้ใช้งานครบ
สำหรับลู่วิ่งของสาย Cardio จะมีทั้งหมด 3 เครื่อง และได้วิวที่หันไปมองสระว่ายน้ำชั้น 1 และสวนที่อยู่ด้านในโครงการได้แบบนี้
นอกจากนี้ยังมีเครื่องปั่นจักรยาน และเครื่องยกน้ำหนักต่างๆให้ได้ใช้งานอยู่อีกด้านหนึ่งด้วยครับ
ก่อนจะเข้าสู่โซนพักอาศัยจะมีประตู Gate ที่ 2 กั้นอยู่แบบนี้ ซึ่งจะผ่านเข้า-ออกได้เฉพาะลูกบ้านด้วยระบบ License Plate Recognition System เช่นเดิม
หรือถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องเป็นคนที่ลงทะเบียนล่วงหน้าผ่าน Application ของโครงการมาก่อนแล้วเท่านั้น (ระบบ VMS Visitor) โดยลูกบ้านจะส่งเป็น QR Coad เพื่อใช้ยืนยันกับ รปภ. ให้อนุญาตเปิดประตูผ่านเข้าไปได้นั่นเอง
ถือได้ว่าเป็นโครงการที่มีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยทีเดียวครับ เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านโครงการอื่นๆในจังหวัดนครศรีธรรมราชในปัจจุบันนี้
เมื่อผ่านประตู Gate 2 เข้ามาเราก็จะเจอกับถนน Main และบ้านโซนแรก ที่มีความพิเศษคือ บริเวณด้านซ้ายมือจะเป็นสวนสาธารณะแบบแนวยาว
จึงทำให้เวลาที่ขับรถผ่านก็จะได้ชมวิวต้นไม้สวยๆแบบนี้ได้ตลอด ทำให้รู้สึกสดชื่นและช่วยปรับอารมณ์จากความวุ่นภายภายนอกได้เป็นอย่างดี
สวนสาธารณะมีขนาดประมาณ 1 ไร่ มีการปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาพอสมควร และทำทางเดินในสวนที่ใช้เป็น Jogging Track ให้สามารถวิ่งออกกำลังกายได้อีกด้วย
บริเวณตรงกลางสวนจะเป็น Playground มีเครื่องเล่นเด็กรูปทรงเรือสำเภา ให้น้องๆได้มาเล่นกันแบบนี้ครับ อีกทั้งยังมีการปูพื้นด้วยยางกันกระแทก ที่จะช่วยลดอาการบาดเจ็บของน้องๆได้พอสมควรด้วย
สำหรับ Jogging Track จะมีลักษณะเป็นทางโค้ง เพื่อให้เราได้สัมผัสกับบรรยากาศของต้นไม้และธรรมชาติได้เต็มที่ โดยจะยาวไปจนสุดทางของสวนด้านในเลยครับ
แต่จุดเด่นที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ บ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจะสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวนี้ได้ตลอดเวลา จึงทำให้มีบรรยากาศสดชื่นดี แถมยังเดินข้ามฝั่งมาใช้งานได้สะดวกอีกด้วย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Tropical Clubhouse ประกอบไปด้วย
- Lobby
- Private Lounge
- Co-Working Space
- Fitness
- Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 20 x 5 m.
- Kids Pool
- Main Park ขนาดประมาณ 1 ไร่
- Playground
- Jogging Track
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.
- ระบบ License Plate Recognition System (ระบบจดจำทะเบียนรถผู้พักอาศัย)
- ระบบ VMS บริเวณทางเข้า-ออกโครงการ
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และรั้วเหล็กเลื่อนไฟฟ้า เป็นแบบ Double Gate Security
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
- ติดตั้ง Digital Door Lock ที่ประตูทางเข้าบ้านหลักทุกหลัง
- รองรับการติดตั้งระบบ EV Charger ทุกหลัง
- Smart Airflow ระบบเติมอากาศภายบริสุทธิ์ในบ้าน (บริเวณช่องหน้าต่าง)
- PM 2.5 Purify ในตัวบ้าน
- Privilege : สิทธิพิเศษจากแบรนด์ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป (สอบถามรายละเอียดอีกครั้ง)
แบบบ้าน
Highlights :
- บ้านหน้ากว้างที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ
- ออกแบบฟังก์ชันได้เป็นส่วนตัว เน้นพื้นที่พักผ่อนอยู่โซนหลังบ้าน และมี Foyer ก่อนเข้าบ้าน
- ฟังก์ชันรองรับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ได้สบายๆ มีห้องนอนชั้นล่างเพื่อรองรับผู้สูงอายุทุกแบบ
- มีพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ชั้นบนให้ใช้งาน และช่วยทำให้บรรยากาศสว่างโปร่งโล่ง
- มีการนำเทคโนโลยีต่างๆของ CPN มาใช้ในตัวบ้าน ช่วยทำให้การอยู่อาศัยมีความยั่งยืนและปลอดภัยมากขึ้น
..โครงการ บ้านนิรติ นครศรี (BAAN NIRATI NAKHON SI) มีแบบบ้านทั้งหมด 3 Type มาในสไตล์ Modern Tropical ที่ผสมผสานความเป็นธรรมชาติเข้าไปด้วย โดยจุดเด่นก็คือ ‘เป็นบ้านหน้ากว้าง’ ที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ และมีฟังก์ชันที่สามารถรองรับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ได้เลยทีเดียว ประกอบด้วย
- RATIPAT(รติภัทร) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 55 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 213 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง - RATIROM (รติรมย์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 67 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ - RATICHA (รติชา) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 82 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 349 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
โครงสร้างบ้านเป็นแบบ Conventional หรือการก่ออิฐมวลเบา ที่มีความแข็งแรงและสามารถทุบ/เจาะ หรือต่อเติมได้ง่าย อีกทั้งยังมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาปรับใช้ภายในบ้านอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นระบบรักษาความปลอดภัย / การป้องกันความร้อน / การระบายน้ำ / หลอดไฟประหยัดพลังงาน และระบบป้องกันปลวก เป็นต้น
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็แสดงถึงความใส่ใจในเรื่องคุณภาพการก่อสร้าง และการอยู่อาศัยแบบยั่งยืนในระยะยาวของ Developer ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวครับ
- RATIROM (รติรมย์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 67 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
บ้านตัวอย่างที่เราจะพามาดูกันวันนี้จะเป็นบ้านไซส์กลาง ที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการ จุดเด่นคือ ‘เป็นบ้านหน้ากว้าง’ ที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันที่ยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ และรองรับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ได้สบายๆอีกด้วย
แปลนชั้น 1 พื้นที่ใช้สอยของบ้านจะเน้นเป็น Common Area ที่อยู่บริเวณโซนด้านหลังบ้าน ซึ่งจะทำให้มีความเป็นส่วนตัวจากเพื่อนบ้านที่ผ่านไป-มาบริเวณด้านหน้า และสามารถเปิดรับวิวเชื่อมต่อกับสวนข้างบ้านได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีห้องนอนชั้นล่างให้ใช้งาน สามารถทำเป็นห้องอเนกประสงค์หรือห้องผู้สูงอายุก็ได้
แปลนชั้น 2 นอกจากจะมีห้องนอนที่มีห้องน้ำส่วนตัวถึง 3 ห้องแล้ว ยังมีพื้นที่อเนกประสงค์บริเวณหน้าโถงบันไดให้ใช้งานอีกด้วยครับ ซึ่งความน่าสนใจของพื้นที่ส่วนนี้ก็คือ จะมีส่วนช่วยทำให้บรรยากาศพื้นที่ชั้นบนดูสว่าง กว้างขวาง และโปร่งโล่งอย่างมาก เพราะเค้าจะมีช่องแสงขนาดใหญ่และระเบียงส่วนตัว รวมถึงเรายังสามารถกั้นผนังห้องเป็นสัดส่วนเพิ่มเติมได้อีกด้วย
ประตูรั้วหน้าบ้านจะเป็นเหล็กรางเลื่อนแบบตอนเดียว จึงทำให้มีน้ำหนักค่อนข้างมาก แนะนำให้ติดตั้งเป็นประตูเลื่อนไฟฟ้าอัตโนมัติเพิ่มเติม จะทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้นครับ
ด้านซ้ายมือจะมีตู้จดหมายและถังขยะติดตั้งมาให้แบบนี้ด้วย ซึ่งจะเป็นแบบที่สามารถเปิดได้สะดวกทั้งจากด้านนอกและด้านในเลย
ส่วนพื้นที่สวนรอบบ้านจะมีการปูหญ้าและปลูกต้นไม้มาให้เป็นมาตรฐาน (จำนวนต้นไม้ขึ้นอยู่กับแบบบ้านและขนาดแปลงที่ดิน ต้องสอบถามกับโครงการอีกครั้ง)
ที่จอดรถในร่มกว้าง 7.5 m. สามารถจอดได้ 3 คันสบายๆ โดยพื้นของจริงจะเป็นการเทปูนธรรมดา และเป็นโครงสร้าง Slab on Bream ตัด Joint ตรงแนวเสาของตัวบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลักตอนที่เกิดการทรุดตัวในอนาคต
นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งกล้อง CCTV และ Junction EV Charger มาให้เป็นมาตรฐานแบบนี้เลยด้วยครับ ส่วนถ้าบ้านแปลงไหนได้ที่ดินใหญ่มากๆ ก็อาจมีระยะให้สามารถจอดรถซ้อนกันกลายเป็น 6 คัน (แบบบ้านเปล่าก่อนหน้านี้) ได้เลยทีเดียว
ทางเข้าบ้านจะอยู่ทางด้านขวามือ ซึ่งจะมีการแบ่งเป็น 2 ทางหลักๆด้วยกัน โดยประตูไม้สีขาวจะเป็นทางเข้าของเจ้าของบ้าน ที่สามารถตรงเข้าจากที่จอดรถได้เลย
ส่วนทางเข้าสำหรับแขกจะเป็นประตูบานไม้สักที่อยู่ด้านหน้าสุดอีกที ซึ่งจะมีการทำเฉลียงขนาดใหญ่หน้าบ้านเชื่อมต่อกับห้องข้างๆแบบนี้ด้วย
โดยเราสามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนใต้ชายคาแบบนี้ได้สบายๆ จึงกลายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่หน้าบ้านที่น่าใช้งานมากๆครับ
ประตูทางเข้าหลักจะเป็นไม้สักบานทึบ ซึ่งช่วยทำให้ภายในบ้านไม่เสียความเป็นส่วนตัว สามารถเปิดได้กว้าง 1 m. พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock มาให้เป็นมาตรฐาน มีกระจกช่องแสงขนาดใหญ่ และติด Stopper กันกระแทกมาให้แบบนี้ด้วย
เมื่อเข้ามาภายในเราจะเจอกับพื้นที่ Foyer หรือส่วนต้อนรับก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งช่วยพรางสายตาไม่ให้มองเห็นพื้นที่ส่วนอื่นๆภายในบ้าน จึงทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
โดยพื้นที่นี้มีความกว้างประมาณ 2 m. สามารถทำเป็นตู้เก็บรองเท้า หรือมุมนั่งใส่รองเท้าแบบบ้านตัวอย่างได้สบายๆ ซึ่งช่วยทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้นเยอะเลยครับ
พอผ่านเข้ามาเราจะเจอกับ Common Area ที่มีขนาดใหญ่ และถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของบ้านหลังนี้เลยก็ว่าได้ครับ
โดยจะเน้นฟังก์ชันให้อยู่ทางโซนหลังบ้าน เพื่อให้มีความเป็นส่วนตัวจากคนที่ผ่านไป-มาหน้าบ้านนั่นเอง และยังทำให้สามารถเปิดช่องแสงรับวิวสวนข้างบ้านได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
ซึ่งของจริงเราจะได้เป็นฝ้าฉาบเรียบสีขาว มีความสูง 2.7 m. และปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีเรียบเป็นมาตรฐาน
สำหรับพื้นที่ Living Area จะอยู่ทางด้านขวามือสุดแบบนี้ครับ ซึ่งจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ 2 ด้าน ทำให้สามารถมองเห็นและเชื่อมต่อกับสวนข้างบ้านได้แบบนี้เลย
โดยระยะดูทีวีจะกว้างประมาณ 3.4 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 50 – 60 นิ้วได้สบายๆ รวมถึงยังใช้โซฟาตัวใหญ่ๆแบบนี้ได้อีกด้วย
ประตูกระจกบานเลื่อนจะเป็นกรอบอลูมิเนียม และกระจกเขียวตัดแสง รวมถึงยังมีการติดตั้ง Magnetic & Shock Sensor ที่ประตูหน้าต่างของบ้านทุกจุดเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย
ติดกันจะมีห้องน้ำและห้องนอนชั้นล่าง ที่ถูกกั้นไว้เป็นสัดส่วนแยกออกมาทางหน้าบ้านแบบนี้ครับ
สำหรับห้องน้ำจะมีฟังก์ชันอาบน้ำไว้รองรับการทำห้องนอนชั้นล่างแบบนี้ด้วย โดยเราอาจต้องติดตั้งฉากกั้นกระจกเพิ่มเติมเอง เพื่อทำให้มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น
สุขภัณฑ์ที่ได้จะเป็นของ Cotto พื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.4 x 1.65 m. และพื้นที่อาบน้ำกว้าง 1.4 x 0.8 m. มาพร้อมกับที่นั่งอาบน้ำสำหรับผู้สูงอายุให้ใช้งานสะดวก
ห้องนอนชั้นล่างกว้าง 3.5 x 3.6 m. สามารถวางเตียง 5 ฟุต และมีพื้นที่เหลือรอบๆให้ใช้งานได้สะดวก ซึ่งจุดเด่นก็คือ มีช่องแสงขนาดใหญ่ถึง 2 ด้าน ทำให้บรรยากาศสว่างโปร่งโล่งดีทีเดียว
โดยเราสามารถทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ ที่อาจเดินขึ้น-ลงชั้นบนไม่สะดวก หรือจะทำเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้ตามต้องการ เช่น ห้องทำงาน ห้องรับแขก หรือห้องดูหนังเล่นเกมส์ก็ได้ครับ
นอกจากนี้ยังมีประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ทางด้านหน้า ที่สามารถเปิดเชื่อมต่อกับเฉลียงหน้าบ้านก่อนหน้านี้ได้อีกด้วย
จึงทำให้เราสามารถออกมาใช้งานพื้นที่ต่อเนื่องกันได้ดีทีเดียว เช่น ทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น หรือเป็นทางเดินเข้าห้องนี้ไปโดยตรงเลยก็ได้
อีกด้านหนึ่งของ Common Area นอกจากเราจะสามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่ตรงกลางได้แล้ว บริเวณหน้าห้องครัวยังมีพื้นที่เหลือให้เราทำเป็นมุม Pantry หรือโซนเตรียมอาหารแบบนี้ได้สบายๆเลยครับ (ของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆให้มา Built-in เพิ่มเอง)
ห้องครัวจะกั้นด้วยผนังทึบแยกเป็นสัดส่วน และกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเพื่อความโปร่งโล่ง โดยจะเป็นแบบแขวนรางที่ด้านบน และทำให้พื้นเรียบไม่มีรางให้เดินสะดุด
ภายในห้องครัวจะมีขนาด 3 x 3 m. ซึ่งของจริงก็จะเป็นพื้นที่โล่งๆ พร้อมท่องานระบบต่างๆให้เราได้ Built-in เพิ่มเติมเองครับ
ส่วนประตูหลังบ้านจะสามารถเปิดออกมาเชื่อมต่อกับลานซักล้างที่อยู่หลังบ้านได้ โดยพื้นบริเวณนี้จะเป็นแบบ Slab on Ground แยกโครงสร้างออกมาจากตัวบ้าน เหมาะจะใช้เป็นจุดซักและตากผ้าหลังบ้านครับ
สำหรับบันไดจะอยู่ทางด้านซ้ายมือของตัวบ้าน ซึ่งถ้าใครเป็นเจ้าของบ้านก็สามารถเปิดประตูเข้าจากพื้นที่จอดรถ เพื่อตรงขึ้นไปพักผ่อนชั้นบนได้เลย โดยไม่ต้องอ้อมไปเข้าประตูหน้าบ้านครับ
โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความแข็งแรงทนทาน เดินขึ้นลงจะไม่มีเสียงดังรบกวนเลย พร้อมปิดผิวด้วยไม้ยางพารา และมีราวจับตลอดทางให้ใช้งานตลอดทาง ส่วนใต้บันไดจะมีห้องเก็บของขนาดใหญ่ที่เดินเข้าไปแบบไม่ต้องก้มได้เลยครับ
เมื่อขึ้นมาชั้นบนจะเห็นว่ามีบรรยากาศที่กว้างขวาง และสว่างโปร่งโล่งมากๆ ซึ่งก็เป็นเพราะพื้นที่อเนกประสงค์ที่อยู่ด้านข้างบันไดแบบนี้นั่นเอง
โดยของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ ซึ่งบ้านตัวอย่างก็ได้กั้นห้องด้วยผนังกระจกมาให้ดูเป็นไอเดีย ทำให้มีความเป็นสัดส่วน แต่ก็ยังคงสว่างและโปร่งโล่งจากช่องแสงขนาดใหญ่ด้านในอยู่ด้วยครับ
ภายในมีขนาด 3 x 4 m. สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น ห้องทำงาน หรือห้องพระก็ได้ แต่จุดเด่นจริงๆก็คือ ช่องแสงขนาดใหญ่ 2 ด้าน ที่ทำให้สว่างโปร่งโล่ง
ส่วนพื้นจะเปลี่ยนเป็นกระเบื้องยางไวนิลลายไม้ สามารถทนความชื้นได้ดี รวมถึงมีความสูงฝ้า 2.7 m. เท่ากับชั้นล่างเป็นมาตรฐาน
ระเบียงภายนอกมีขนาด 3 x 0.7 m. สามารถออกมาใช้งานยืนสูดอากาศหรือชมวิวได้นิดๆหน่อยๆ หรือจะปลูกต้นไม้กระถางเพิ่มความสดชื่นก็ได้
นอกจากนี้บริเวณโถงทางเดินหน้าบันไดยังมีขนาดใหญ่มากพอ ที่จะสามารถทำตู้ Built-in เพิ่มพื้นที่เก็บของแบบนี้ได้สบายๆเลยครับ
โดยบ้านตัวอย่างก็ทำเป็นมุมเครื่องดื่มมาให้ดูเป็นไอเดีย ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาลงไปถึงห้องครัวชั้นล่างเลยนั่นเอง
ถัดมาจะเป็น Master Bedroom ที่อยู่ทางโซนด้านหน้าบ้าน ซึ่งจะเป็นห้องหน้ากว้างที่กินพื้นที่ทั้งหมดของตัวบ้านเลยครับ (ขนาดประมาณ 8.4 x 2.9 m.)
จึงสามารถแบ่งฟังก์ชันการใช้งานให้เป็นสัดส่วนเพิ่มเติมได้ อย่างบริเวณตรงกลางห้องก็สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวีได้แบบนี้
และด้านหลังยังมีประตูกระจกให้เปิดออกไปใช้งานระเบียงด้านนอกได้ด้วย ขนาดประมาณ 1 x 6.4 m. กว้างพอที่จะวางโต๊ะเก้าอี้เพื่อทำเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนเล็กๆได้ด้วย
ที่สำคัญคือ จะเป็นพื้นที่ในร่มที่เราสามารถออกมาใช้งานได้ตลอดทั้งวันเลยครับ ส่วนราวกันตกจะเป็นราวเหล็กและราวกระจกผสมกันไปแบบนี้เลย
พื้นที่เหมาะวางเตียงนอนจะอยู่ด้านในสุดติดกับหน้าต่าง จึงทำให้มีช่องแสงถึง 2 ด้าน อีกทั้งยังมีพื้นที่ปลายเตียงให้ใช้งานทำเป็นโต๊ะอเนกประสงค์ หรือชั้นวางทีวีเพิ่มได้สบายๆอีกด้วย
ตรงหน้าต่างจะสังเกตว่ามีการทำระบบ Smart Airflow ที่เราสามารถเปิด-ปิดช่องระบายอากาศ เพื่อให้มีอากาศหมุนเวียนถ่ายเทในตัวบ้านได้ดี
และด้านในก็จะมีมุ้งลวดกันแมลงติดตั้งเอาไว้ด้วย โดยฟังก์ชันนี้จะติดอยู่ตามห้องต่างๆอย่างน้อย 1 จุดครับ จึงช่วยทำให้สามารถระบายอากาศในบ้านได้ดีครับ
อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นพื้นที่ Walk-in Closet บริเวณหน้าห้องน้ำ ซึ่งของจริงก็จะเป็นพื้นที่โล่งๆให้เราได้ Built-in และกั้นฟังก์ชันเพิ่มเติมเองนะ
ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นๆ ภายในแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนและมีอุปกรณ์ให้ใช้งานครบ
โดยพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้าง 1.8 x 1.7 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ และที่เพิ่มเติมมาก็คือ กระจกเงาที่มีขนาดใหญ่เต็มห้องน้ำมากขึ้น
ส่วนอีกด้านจะเป็นพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.7 x 0.9 m. โดยเราจะต้องติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเองนะครับ
มาพร้อมกับระบบ Smart Drain ที่ช่วยป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ไหลย้อนกลับมาได้ดี ซึ่งเรามักจะเห็น CPN ใช้ตามโครงการต่างๆโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมนั่นเอง
ถัดมาจะเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่ทางโซนหลังบ้าน โดยจะมีขนาดประมาณ 3.5 x 3.5 m. มีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานได้สบายๆ อีกทั้งยังมีช่องแสงถึง 2 ด้านด้วย
ส่วนห้องน้ำจะอยู่บริเวณด้านหน้าห้องแบบนี้ครับ ซึ่งมีพื้นที่ให้เราทำเป็นมุมแต่งตัวเล็กๆได้ด้วย
ภายในมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน พื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.25 x 1.45 m. และพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.35 x 0.8 m. สามารถใช้งานได้แบบพอดีๆ ซึ่งเราจะต้องติดฉากกั้นเพิ่มเติมเอง
สุดท้ายคือห้องนอนเล็กที่อยู่โซนหลังบ้านตรงกลางๆ ภายในมีขนาด 3.5 x 3.5 m. เท่าๆกับห้องเมื่อครู่นี้เลยครับ รวมถึงยังมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานด้วย
และภายในมีขนาด+ฟังก์ชันที่เหมือนกับห้องน้ำก่อนหน้านี้เลยครับ สามารถใช้งานได้แบบพอดีๆ
- RATICHA (รติชา) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 82 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 349 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
บ้านหลังใหญ่สุดของโครงการ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ และต้องการฟังก์ชันเยอะๆ เพื่อรองรับการใช้งานของสมาชิกในครอบครัว รวมถึงยังมีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่ใหญ่และกว้างขวางอีกด้วย
แปลนชั้น 1 จะมีการแยกพื้นที่ Living Area ออกเป็น 2 จุด เพื่อใช้รับรองแขกทางด้านหน้า และใช้งานสำหรับครอบครัวทางด้านใน ซึ่งจะทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น อีกทั้งห้องนอนชั้นล่างก็จะมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานด้วย โดยจะมีขนาดใหญ่และถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุโดยเฉพาะเลย
นอกจากนี้ยังมีโซนของแม่บ้านเพิ่มขึ้นมาบริเวณด้านหลังครัว จึงเหมาะกับครอบครัวที่อาจต้องมีแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงอยู่ดูแล 24 ชม. แต่ก็จะแยกออกไปเป็นสัดส่วนอยู่ทางด้านนอก ไม่รบกวนพื้นที่พักผ่อนภายในบ้าน หรือถ้าใครไม่มีแม่บ้านก็สามารถใช้เป็นห้องเก็บของได้ตามปกติครับ
แปลนชั้น 2 นอกจากจะมีห้องนอนขนาดใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัวแล้ว ยังมีห้องพระเล็กๆที่กั้นประตูกระจกมาให้แล้วเรียบร้อยด้วย จึงทำให้เราสามารถจัดพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ตรงโถงบันได ให้กลายเป็นฟังก์ชันอื่นๆได้เต็มที่ตามต้องการ หรือใครจะทุบผนังห้องพระเพื่อเชื่อมต่อขยายพื้นที่ห้องนอนข้างๆให้ใหญ่ขึ้นก็ได้ อีกทั้งห้องน้ำของ Master Bedroom ก็จะมีการเพิ่มฟังก์ชันอ่างอาบน้ำ ให้เราได้มีตัวเลือกในการใช้งานอีกด้วยครับ
สำหรับพื้นที่จอดรถจะกว้าง 7.5 m. จอดรถได้ 3 คัน และเป็นโครงสร้าง Slab on Beam เช่นเดิมนะครับ รวมถึงยังติดตั้งกล้อง CCTV และ Junction EV Charger มาให้ด้วย
แต่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากหลังอื่นๆก็คือ จะมีการ Built-in ตู้เก็บของเล็กๆมาให้ ซึ่งเราสามารถเก็บพวกอุปกรณ์ล้างรถ หรืออุปกรณ์ทำสวนต่างๆ แล้วนำมาใช้งานใกล้ๆได้สะดวกมากขึ้น
ทางเข้าบ้านจะมี 2 ทางเหมือนเดิมครับ คือจากประตูพื้นที่จอดรถสีขาวของเจ้าของบ้าน และประตูบานไม้สักที่เอาไว้ใช้รับแขกด้านหน้า
แน่นอนว่าเรายังคงได้เฉลียงหน้าบ้านขนาดใหญ่ให้ใช้งานด้วย เหมาะจะทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นชมสวนชิลๆหน้าบ้านได้นะครับ
เข้ามาภายในบ้านเราจะเจอกับโถงกลางบ้านที่เป็นเหมือน Foyer โดยบริเวณด้านข้างบันไดเรายังสามารถทำเป็นตู้เก็บรองเท้า เพื่อให้สามารถหยิบใช้งานสะดวก และเก็บเข้าที่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยแบบนี้ได้ด้วย
ซ้ายมือของประตูทางเข้าจะมีพื้นที่ Living ส่วนแรกแยกออกไป ซึ่งเหมาะใช้เป็นพื้นที่รับแขกที่ได้ดีครับ เพราะจะได้ไม่ต้องเดินเข้าไปในบ้านให้เสียความเป็นส่วนตัวเลยนั่นเอง
โดยพื้นที่ส่วนนี้จะมีขนาดกว้าง 3.1 x 3.85 m. สามารถใช้โซฟาตัวใหญ่ๆ และจะติดทีวี 50 – 60 นิ้วเพิ่มได้สบายๆ อีกทั้งยังมีช่องแสงถึง 2 ด้านอีกด้วย
ซึ่งเราสามารถพูดคุยธุระต่างๆกับแขกตรงนี้ได้อย่างจริงจัง ส่วนสมาชิกอื่นๆในบ้านก็สามารถใช้ชีวิตอยู่โซนด้านพักผ่อนในได้ตามปกติโดยไม่เสียความเป็นส่วนตัว
ถัดเข้ามาด้านในบ้านเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ที่สามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Living Area / Dinning Table และ Pantry
แต่จุดที่พิเศษกว่าแบบบ้านอื่นๆก็คือ ประตูกระจกบานเลื่อนตรงกลางสามารถเปิดออกไป เชื่อมต่อกับเฉลียงหลังบ้านได้ด้วย เป็นการเชื่อมพื้นที่ภายในกับภายนอก ให้เราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นได้นั่นเอง
และทางซ้ายมือตรงด้านหลังทีวีจะมีห้องนอนชั้นล่างให้ใช้งานด้วยครับ
ภายในมีขนาดกว้าง 3 x 3.5 m. ซึ่งบ้านตัวอย่างลองวางเตียง 3.5 ฟุต 2 เตียงมาให้ดู ก็ยังเห็นว่ามีพื้นที่เหลือให้ใช้งานได้สะดวกเลยครับ
โดยห้องนี้ก็เหมาะจะทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ ที่อยู่ด้วยกัน 2 คนได้สบายๆ หรือจะเป็นห้องนอนไว้รับรองแขกก็ได้
อีกด้านหนึ่งจะเป็นมุมสำหรับตู้เสื้อผ้าไว้แต่งตัวหน้าห้องน้ำ ซึ่งจะอยู่บริเวณทางเข้าห้องแบบนี้ครับ
ภายในห้องน้ำจะเห็นว่ามีความกว้างเป็นพิเศษ เนื่องจากเค้าได้ออกแบบโดยคำนึงถึงหลัก Universal Design ให้สามารถใช้รถเข็นเข้ามาภายในได้ด้วยนั่นเอง
ขนาดพื้นที่ใช้สอยส่วนแห้งกว้าง 1.85 x 2 m. และพื้นที่ส่วนอาบน้ำกว้าง 1.2 x 2 m. ซึ่งบริเวณ Shower ก็จะมีที่นั่งอาบน้ำให้ใช้งานด้วยนะครับ
โดยพื้นจะเรียบเสมอกันและใช้เป็นรางน้ำแบบไม่มีพื้นต่างระดับ จึงทำให้เป็นห้องน้ำที่ผู้สูงอายุสามารถเดินหรือใช้รถเข็นเข้ามาได้สะดวกแบบไม่มีสะดุดเลยนั่นเอง
แนะนำเพิ่มเติมคือ เราสามารถติดตั้งพวกราวจับตามจุดต่างๆ และปุ่มสัญญาณฉุกเฉินภายในห้องน้ำเพิ่มได้นะครับ เพื่อที่ผู้สูงอายุจะได้ใช้งานได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น
อีกด้านหนึ่งของบ้านจะเป็นมุมสำหรับ Pantry / ห้องครัว และห้องน้ำครับ แน่นอนว่าบริเวณนี้ก็จะเป็นพื้นที่โล่งๆให้เราได้ Built-in เพิ่มเติมเองได้ถ้าต้องการ
แต่ที่พิเศษขึ้นก็คือ ห้องครัวจะมีช่องแสงที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนที่มีขนาดใหญ่เป็น 2 บาน รวมถึงมีช่องหน้าต่างเล็กๆด้านข้างด้วย ซึ่งช่วยทำให้บรรยากาศมีความโปร่งโล่งและดูกว้างขวางมากขึ้นครับ
ภายในห้องครัวมีขนาดกว้าง 2.6 x 3.3 m. ให้ใช้งานได้พอดีๆ แน่นอนว่าเราจะได้เป็นพื้นที่โล่งๆ ให้เราได้มา Built-in เพิ่มเติมเอง ซึ่งดูจากบ้านตัวอย่างก็เหมาะที่จะทำเป็นเคาน์เตอร์ 2 ฝั่งแบบนี้กำลังดีครับ
และเมื่อเราเปิดประตูหลังบ้านมาก็จะเจอกับโซนของแม่บ้าน ซึ่งนอกจากบริเวณตรงกลางจะเป็นส่วนใช้งานซักล้างได้ตามปกติแล้ว ยังมีห้องนอนและห้องน้ำแยกออกไปเป็นสัดส่วนด้วย
โดยห้องนอนแม่บ้านจะกว้าง 2 x 2 m. สามารถวางเตียงและตู้เสื้อผ้าได้แบบพอดีๆ แถมยังมีช่องแสงขนาดใหญ่ให้ใช้งานด้วย แต่ถ้าใครไม่มีแม่บ้านก็สามารถทำเป็นห้องเก็บของได้นะครับ ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำให้ใช้งานส่วนตัวเลย
นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับโซนจอดรถหน้าบ้านแบบนี้ได้ด้วยครับ ซึ่งทำให้เราสามารถขนของต่างๆเข้ามาเก็บในครัวผ่านทางนี้ได้สะดวก
รวมถึงแม่บ้านเค้าก็จะมีพื้นที่ทำงานเป็นของตัวเองด้านนอกได้เต็มที่ โดยไม่ต้องเข้าไปรบกวนพื้นที่พักผ่อนของเจ้าของในบ้านเลยนั่นเองครับ
ติดกับห้องครัวจะเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room ที่ใช้งานร่วมกันบริเวณชั้น 1 ภายในกว้าง 2 x 1.55 m. สามารถใช้งานสะดวก มาพร้อมกับสุขภัณฑ์จาก Cotto เช่นเดิม
ตัวบันไดจะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก จึงทำให้มีความแข็งแรงและไม่มีเสียงดังรบกวนเวลาใช้งาน ส่วนใต้บันไดก็จะมีห้องเก็บของขนาดใหญ่ให้ใช้งานเหมือนเดิมครับ
ขึ้นมาด้านบนเราจะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ตรงโถงบันได ซึ่งช่วยทำให้บรรยากาศชั้น 2 ดูกว้างขวางและสว่างโปร่งโล่งดีทีเดียว
ซึ่งของจริงก็จะเป็นพื้นที่โล่งๆเช่นเดิม แต่เราสามารถกั้นผนังกระจกให้มีความเป็นสัดส่วนแบบนี้ได้ครับ
ภายในมีขนาด 3.2 x 2.9 m. กว้างขวางมากพอจะทำเป็น Family Area / ห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆได้ตามต้องการ
ติดกันจะเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่โซนหน้าบ้าน ภายในมีขนาด 3.65 x 2.85 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ อีกทั้งยังมีช่องแสงถึง 2 ด้าน ทำให้มีความสว่างโปร่งโล่งดีทีเดียว
ส่วนห้องน้ำจะอยู่ทางโซนด้านหน้าห้องแบบนี้ครับ ซึ่งเวลาที่เปิดประตูเข้ามาก็จะยังมองไม่เห็นภายในห้องแบบทั้งหมด จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวที่ดีระดับหนึ่งเลย
ภายในมีการแบ่งฟังก์ชันการใช้งานเป็นสัดส่วน พื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.35 x 1.55 m. และพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.35 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้สะดวก แต่อาจต้องติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเองนะครับ
ถัดมาจะเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่โซนหลังบ้าน ภายในกว้าง 3 x 3.9 m. มีขนาดใหญ่กว้างขวางดีพอสมควร สามารถใช้งานได้สบายๆ แถมยังมีห้องน้ำส่วนตัวอีกด้วย
ซึ่งภายในจะมีฟังก์ชันเป็นสัดส่วนเหมือนห้องน้ำก่อนหน้านี้เลยครับ เพียงแต่อาจจะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย จึงสามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
ตรงกลางบ้านจะมีห้องเล็กๆอยู่ห้องหนึ่ง ที่ถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเป็นสัดส่วน ภายในกว้าง 2 x 3.1 m. เหมาะที่จะทำเป็นห้องพระจริงจังได้สบายๆเลยครับ
ติดกันจะเป็นห้องนอนเล็กสุดของบ้านขนาด 3 x 2.5 m. สามารถวางเตียง 3.5 ฟุต แล้วยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานได้พอดีๆ
อีกหนึ่งไอเดียสำหรับคนที่อยากขยายห้องนี้ให้มีพื้นที่ใหญ่ขึ้นได้ก็คือ เราสามารถทุบผนังเชื่อมต่อกับห้องพระก่อนหน้านี้ได้นะครับ ซึ่งจะทำให้ห้องนี้มีขนาดใหญ่มากพอที่จะใช้เตียง 5 – 6 ฟุตได้สบายๆเลยนั่นเอง
ส่วนห้องน้ำก็จะมีขนาดและฟังก์ชันเท่ากับห้องนอนก่อนหน้านี้เลยครับ
ก่อนจะไปดูห้องสุดท้าย เราจะเห็นว่าบริเวณโถงทางเดินหน้าห้องมีพื้นที่เหลืออยู่ ซึ่งเราสามารถใช้สอยให้เป็นประโยชน์เพิ่มได้นะครับ
อย่างบ้านตัวอย่างนี้เค้าก็ทำเป็นมุมเครื่องดื่มเอาไว้ให้เดินมาจิบน้ำได้สะดวก หรือเราอาจ Built-in เป็นตู้เก็บของ /ตู้โชว์ หรือมุมหิ้งพระเล็กๆเพิ่มก็ได้
สุดท้ายคือห้อง Master Bedroom ภายในมีขนาดใหญ่และกว้างขวาง 6.7 x 2.8 m. สามารถแบ่งโซนพื้นที่ใช้สอยออกเป็นสัดส่วนได้สบายๆ
โดยบริเวณโซนแรกตรงหน้าห้องก็จะสามารถทำเป็น Living Area ให้มานั่งเล่นพักผ่อนและดูทีวีได้ รวมถึงยังมีระเบียงขนาดใหญ่ที่กว้างถึง 7.2 x 0.9 m. ให้ออกมาใช้สอยได้อีกด้วย
ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่วางเตียงนอนขนาด 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ และทางด้านข้างก็จะเป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่ ที่สามารถแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง และยังสามารถทำเป็นโต๊ะแต่งหน้าตรงกลางเพิ่มได้อีกด้วย
สำหรับห้องน้ำของ Master Bedroom จะมีขนาดใหญ่พิเศษ รวมถึงยังมีอ่างอาบน้ำเพิ่มเข้ามาให้ใช้งานด้วย ซึ่งจะมีอยู่ในเฉพาะบ้านหลังใหญ่สุดนี้เท่านั้นครับ
ส่วนอีกด้านหนึ่งก็จะเป็นพื้นที่ยืนอาบน้ำขนาด 2 x 1 m. ให้เราได้มาใช้งานและกั้นกระจกเพิ่มเติมเองได้
- RATIPAT(รติภัทร) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 55 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 213 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง
เป็นบ้านหลังเล็กสุดของโครงการ ลักษณะจะเป็นแปลนรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ที่มีฟังก์ชันคล้ายๆกับบ้านไซส์กลางหลังแรกที่เราได้ไปรีวิวกัน โดยที่จะมีจำนวนที่จอดรถลดลงเป็น 2 คัน และมีพื้นที่ใช้สอยภายในที่กระทัดรัดมากขึ้น แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้ดี และมีฟังก์ชันรองรับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ได้สบายๆ เหมาะกับคนที่อาจมีงบประมาณจำกัดสักหน่อย ซึ่งก็จะประหยัดเงินลงมาได้ประมาณ 1 – 2 ล้านเลยทีเดียวครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะ
ราคา
บ้านนิรติ นครศรี ราคา ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2566
- RATIPAT(รติภัทร) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 55 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 213 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง
– ราคาเริ่มต้น 6.8 ล้านบาท - RATIROM (รติรมย์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 67 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 8.38 ล้านบาท - RATICHA (รติชา) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 82 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 349 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 11.29 ล้านบาท - ค่าจอง N/A บาท
- ค่าทำสัญญา N/A บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ N/A บาท
- ค่าส่วนกลาง 42 บาท/ตร.วา/เดือน
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการตั้งอยู่ติดถนนพัฒนาการคูขวาง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในถนนเส้นหลักของนครศรีธรรมราช ที่มีความคึกคักและอุดมสมบูรณ์สูง โดยรอบจะแวดล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นโฮมโปร โลตัส เซ็นทรัล และบิ๊กซี อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลอยู่ใกล้ๆด้วยครับ เรียกได้ว่าสามารถใช้ชีวิตได้ไม่ลำบาก การเดินทางก็ค่อนข้างสะดวกเพราะรถไม่ติดมากนัก สามารถเข้า-ออกเมืองได้ง่าย
มาพูดถึงตัวโปรดักส์กันสักหน่อยครับ โดยโครงการจัดสรรที่เป็นเจ้าใหญ่จากกรุงเทพ ตอนนี้เท่าที่ผมเห็นก็จะมีอยู่ 2 – 3 เจ้าเท่านั้น จุดเด่นคือรูปแบบของพื้นที่ส่วนกลาง และระบบรักษาความปลอดภัยที่มีความได้เปรียบกว่าเจ้า Local ทั่วไปพอสมควร ซึ่งก็ได้รับการยอมรับจากคนที่อยู่ต่างจังหวัดดีทีเดียว แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้บ้านนิรติโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่นๆก็อาจจะเป็นเรื่อง สิทธิพิเศษจากเครือเซ็นทรัลต่างๆ ที่ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลนะครับ ดังนั้นอาจลองพิจารณาหลายๆอย่างประกอบกันได้นะ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : Double Security Gate 2 ชั้น เข้า-ออกด้วยระบบ License Plate Recognition System (ระบบจดจำทะเบียนรถสำหรับผู้พักอาศัย) และระบบ VMS สำหรับ Visitor ที่จะต้องลงทะเบียนมาก่อนล่วงหน้า โดยประตูจะเป็นเหล็กรางเลื่อนทั้ง 2 จุด พร้อมกล้อง CCTV ที่ติดอยู่ตรงซุ้มประตูและในตัวบ้าน นอกจากนี้ยังมี Digital Door Lock และระบบ Magnetic & Shock Sensor ติดอยู่ที่ประตูหน้าต่างทุกจุดในบ้านด้วยครับ ถือได้ว่าเป็นโครงการที่มีความปลอดภัย ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของย่านในตอนนี้เลยทีเดียว
การออกแบบโครงการ : ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัวเพียง 79 ยูนิต และยังมีการทำซุ้มประตู Double Security Gate 2 ชั้น ถือเป็นจุดเด่นที่สุดของโครงการ ที่มีเพียงแห่งเดียวและต่างจากเพื่อนบ้าน ซึ่งแสดงถึงความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการอยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี โดยจะเป็นการจำกัดการเข้าถึงของบุคคลภายนอกหรือ Visitor ให้เข้ามาคอยได้แค่โซนอาคาร Clubhouse เท่านั้น แต่จะไม่สามารถเข้ามาในโครงการได้หากไม่ได้ลงทะเบียนนัดไว้ก่อน
นอกจากนี้ผมยังชอบที่มีการจัดสวนสาธารณะให้เป็นแนวยาว ซึ่งทำให้เวลาที่เราขับรถเข้า-ออกโครงการ ก็จะได้มองเห็นพื้นที่สีเขียวสดชื่นตลอดเวลา รวมถึงบ้านในเฟสแรกก็มีความน่าสนใจครับ เพราะเป็นโซนที่อยู่ใกล้สวนสามารถมาใช้งานส่วนกลางต่างๆได้ง่าย อีกทั้งยังมีเพื่อนบ้านร่วมซอยไม่เยอะเท่าเฟสใหม่ด้านในด้วย ดังนั้นหากใครที่สนใจโครงการนี้ก็แนะนำให้ลองเข้าไปชมบรรยากาศของจริงและรีบจับจองกันได้นะ เพื่อที่จะได้ไม่พลาดตำแหน่งบ้านดีๆน่าสนใจครับ
การออกแบบตัวบ้านและพื้นที่ใช้สอย : มีบ้านให้เลือก 3 แบบ 3 ขนาด ภาพรวมจะเป็นบ้านหน้ากว้างพื้นที่ใช้สอยเยอะ ทำให้บรรยากาศภายในกว้างขวางและโปร่งโล่งเป็นอย่างดี โดยเฉพาะบริเวณ Common Area ชั้น 1 และพื้นที่อเนกประสงค์ชั้น 2 ที่จะมีช่องแสงเยอะเป็นพิเศษ อีกทั้งยังคำนึงถึงเรื่องความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยได้ดี ด้วยการเน้นให้พื้นที่พักผ่อนอยู่ทางโซนหลังบ้าน ทำให้สามารถเปิดหน้าต่างรับวิวสวนข้างบ้านได้อย่างเต็มที่ แบบไม่ต้องกลัวว่าคนที่ผ่านไป-มาหน้าบ้านจะมองเห็นได้นั่นเอง
นอกจากนี้ในเรื่องของฟังก์ชันก็ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ได้ดีครับ โดยบ้านทุกแบบจะมีห้องนอนชั้นล่างให้รองรับผู้สูงอายุได้ทุกหลัง หรือเราจะปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้ อีกทั้งบ้านหลังใหญ่สุดก็จะมีการคำนึงถึง Univasal Design ในห้องน้ำแบบจริงจังมากขึ้น ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกและปลอดภัย รวมถึงห้องชั้นบนก็จะมีความยืดหยุ่นสูงขึ้นด้วย โดยเฉพาะห้องพระเล็กๆที่เราไม่ต้องเสียเวลาทำเพิ่มเอง หรือจะปรับเปลี่ยนทุบผนังเพื่อขยายพื้นที่ห้องนอนเล็กข้างๆให้มีขนาดใหญ่ขึ้นก็ได้ครับ
วัสดุ : โครงสร้างบ้านเป็นแบบ Conventional หรือการก่ออิฐมวลเบา ซึ่งมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น สามารถทุบ/เจาะ หรือต่อเติมได้ง่ายตามต้องการ พื้นที่จอดรถเป็นแบบ Slab on Beam แข็งแรงทั้งผืน และบันไดก็เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กด้วยครับ
แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาต่างจากบ้านโครงการอื่นๆก็คือ พวกเทคโนโลยีต่างๆของ CPN ที่เรามักจะเห็นใช้กันในทุกๆโครงการ ไม่ว่าจะเป็นระบบรักษาความปลอดภัย / การป้องกันความร้อน / การระบายน้ำ / หลอดไฟประหยัดพลังงาน / ระบบป้องกันปลวก อีกทั้งยังมี Smart Airflow ที่ช่วยระบายอากาศตามช่องหน้าต่าง และระบบ Smart Drain ของท่อในห้องน้ำ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยทำให้เราสามารถอยู่อาศัยในบ้านได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืนมากขึ้น
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : สวนสาธารณะของโครงการมีขนาดประมาณ 1 ไร่ โดยจะเน้นเป็นต้นไม้ขนาดกลาง และยังปลูกต้นไม้จัดสวนภายในบ้านมาให้เป็นมาตรฐาน ทำให้โดยภาพรวมก็ดูเรียบร้อยและสดชื่นดีครับ ซึ่งปัจจุบันโครงการได้จัดพื้นที่สีเขียวโซนแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว หากใครสนใจก็สามารถเข้าไปชมบรรยากาศของจริงกันได้เลย
สาธารณูปโภค : มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ ไม่ว่าจะเป็น Lobby / Co-Working Space / Fitness / Playgroung และสวนสาธารณะ แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นจริงๆก็คือ ขนาดและฟังก์ชันโดยรวมของพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ซึ่งหากเทียบกับจำนวนยูนิต 79 ครอบครัวแล้ว ก็ถือว่ามีการแชร์การใช้งานกันที่ไม่ได้เยอะมากนัก ทำให้เราสามารถมาใช้งานได้แบบส่วนตัวไม่ต้องแย่งกัน รวมถึงผมยังชอบโซนของสระว่ายน้ำที่หลบอยู่ในมุมลับตาคน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการใช้งานที่ดีทีเดียวครับ
Judgement
เนื่องจากเป็นทำเลต่างจังหวัดที่ Think of Living ไม่คุ้นเคย จึงไม่สามารถให้คะแนนเปรียบเทียบความคุ้มค่าได้ครับ
บ้านนิรติ นครศรี เหมาะกับใคร
โครงการ บ้านนิรติ นครศรี (BAAN NIRATI NAKHON SI) เหมาะกับคนที่มองหาบ้านติดถนนใหญ่ ในทำเลตัวเมืองนครศรีธรรมราช และไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า โดยเน้นเป็นบ้านหน้ากว้างพื้นที่ใช้สอยเยอะ พร้อมห้องนอนชั้นล่างทุกแบบ มีความเป็นส่วนตัวเพียง 79 ยูนิต และมีความปลอดภัยในการเข้า-ออกโครงการสูงด้วย Double Security Gate 2 ชั้น อีกทั้งยังมีฟังก์ชันส่วนกลางให้ใช้งานครบ และมีความหนาแน่นในการใช้งานที่น้อย จึงสามารถมาใช้งานได้แบบเป็นส่วนตัว มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 6.8 – 11.29 ล้านบาท
ส่งท้ายปีด้วยโปรโมชันคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าและสินเชื่อพิเศษกับงาน Living Expo 2023 อย่าลังเลจนพลาดเป็นเจ้าของคอนโดราคาดีๆ
ลงทะเบียนรับฟรี หนังสือและโพย ที่จะพลิกทุกวิธีการหาบ้านเดิมๆให้ตรงใจและประหยัดเวลามากขึ้น
Living Expo 2023 วันที่ 23 – 26 พฤศจิกายน 2566 ชั้น 1 สยามพารากอน
ลงทะเบียนเลย คลิกที่นี่