รีวิวโครงการ

รีวิว คณาสิริ พระราม 2 – วงแหวน แบบบ้านใหม่ทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด พร้อมสวนส่วนกลาง 2 ไร่ จาก แสนสิริ [รีวิวฉบับที่ 2246]

27 มิถุนายน 2021

อ่านรีวิวล่าสุด

 

รีวิวฉบับที่ 1487 … คณาสิริ พระราม 2 – วงแหวน บ้านเดี่ยวสไตล์ยุค 70 (Mid Century 70’s) เน้นความเรียบง่าย โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร พร้อมเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะช่วยให้บ้านเย็นขึ้นด้วยระบบถ่ายเทอากาศ มีโครงการมีอาคารคลับเฮาส์แยกครบทั้งสระว่ายน้ำ พื้นที่ออกกำลังกาย และ Co-working Space

Fact @ 2 December 2017

  • Kanasiri Rama 2 – Wongwean (คณาสิริ พระราม 2 – วงแหวน)
  • บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • ที่ตั้งโครงการ : ถ. พระราม 2 จ.สมุทรสาคร
  • เนื้อที่โครงการ 57.3.62 ไร่ จำนวน 293 ยูนิต
  • บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้น สไตล์  Mid Century 70’s
  • แบบบ้าน Ray (เรย์) ที่ดิน 38.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร ห้องครัวไทย ที่จอดรถ 2 คัน
  • แบบบ้าน Beam (บีม) ที่ดิน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 128 ตร.ม  3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร ห้องครัวไทย ที่จอดรถ 2 คัน
  • แบบบ้าน Breeze (บรีส) ที่ดิน 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร ห้องครัวไทย ที่จอดรถ 2 คัน
  • ที่ดิน 38.5 – 55 ตารางวา
  • ราคาเริ่มต้น 3.99 -6 ล้านบาท
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1685

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.584845, 100.351819

 

สำหรับทำเลฝั่งพระราม 2 ถือว่าเป็นทำเลที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นทั้งแหล่งงานและที่อยู่อาศัย ซึ่งมีความหลากหลายให้เลือกไม่ว่าจะเป็นทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด และ บ้านเดี่ยว โดยโครงการที่ติดถนนใหญ่จะมักเป็นบ้านเดี่ยวราคาสูง แต่ถ้าเขยิบมาอยู่ในถนนรอง หรือ ซอยย่อยราคาบ้านเดี่ยวก็จะลดหลั่นลงมา และจะมีบ้านบ้านแฝดกับทาวน์เฮาส์ให้เลือกอีกด้วย

ที่ตั้งโครงการจะอยู่ฝั่งสมุทรสาครและอยู่ในบริเวณช่วงรอยต่อกับกรุงเทพฯ ทำให้มีแหล่งความเจริญเกิดขึ้นมากมายมีทั้งห้างใหญ่ตลาดสด และร้านสะดวกซื้อ อย่าง Tesco Lotus Express , Big C Market , Mini Big C , 7-11 มีร้านค้าร้านอาหาร และยังใกล้กับตลาดมหาชัยเมืองใหม่ ตลาดลีลา ตลาดกลางบางกระดี่ สามารถหาของกินได้สะดวก

ส่วนโรงพยาบาลมีหลากหลายที่ขนาดใหญ่คือโรงพยาบาลบางปะกอก9 โรงพยาบาลนครธน และ โรงพยาบาล สมุทรสาคร ส่วนที่ขนาดเล็กลงมาหน่อยคือโรงพยาบาลพระราม 2

ถ้าจะเดินห้างใหญ่หรือร้านอาหารที่ระดับราคาสูงขึ้นมาอีกจะมี Porto Chino Community mall มีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย หรือไม่ก็ไปเดิน เซ็นทรัล พลาซ่า มหาชัย ที่เพิ่งเปิดใหม่และอยู่ไม่ไกลจากโครงการด้วย ซึ่งวันแรกที่ห้างเปิดผมก็ได้ไปเดินมาด้วย ร้านค้าเยอะนะเปิดเต็มครบหมด ขนาดห้างก็ใหญ่พอสมควร การตกแต่งตามจะใช้แนวคิดตามจุดเด่นของย่านนี้คือแหล่งค้าขายอาหารทะเลครับ การจัดโซนจะคล้ายๆกับ เซ็นทรัล ศาลายาครับ การเปิดห้างใหญ่อย่างเซ็นทรัล ตรงนี้จะช่วยให้ทำเลนี้มีการพัฒนาไปได้อีกเยอะเลยครับ

การเดินทางในวันนี้เรามาเริ่มต้นกันที่เซ็นทรัลพระราม 2 นะครับ ซึ่งบริเวณนี้จะค่อนข้างคึกคักมีทั้ง เซ็นทรัลพระราม 2 ศูนย์การค้าใหญ่ในย่านนี้, Home pro , McDonald’s , Big C และร้านค้าร้านอาหารเล็กๆน้อยๆ

เราตรงมาเรื่อยๆจนผ่านถนน บางขุนเทียน-ชายทะเล ในนี้มีร้านอาหารซีฟู้ดเยอะมาก ว่างๆเสาร์-อาทิตย์ก็มานั่งกินข้าวรับลมสบายๆได้ครับ

ตรงมาอีกจะผ่าน Tesco Lotus พระราม2 สามารถมาแวะซื้อของก่อนกลับบ้านได้

วิ่งมาจนตัดกับวงแหวนกาญจนาภิเษกให้เราวิ่งตรงข้ามไปได้เลยครับ

ตรงต่อมาก็จะเจอตลาดดีแสมดำ อยู่ก่อนซอยแสมดำซอยหนึ่ง เป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่รองรับชุมชนในละแวกนี้

ขับตรงต่อมาทางฝั่งซ้ายจะเห็นบุญถาวร สาขาพระราม 2 ศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอซอยวัดพันท้ายนรสิงห์ให้ขับเลยไปอีกหน่อยก็จะถึงโครงการแล้วครับ

ถ้าเห็นสะพานกลับรถแล้วก็ไม่ต้องตกใจว่าลูกบ้านโครงการนี้จะกลับรถลำบากนะครับ เพราะจากปากซอยโครงการจะมีจุดกลับรถใต้สะพานอีกจุด

ก่อนถึงโครงการเราจะเห็นป้ายนี้ ก็ให้เตรียมชิดซ้ายไว้

ซอยของโครงการ คณาสิริ จะอยู่ซอยเดียวกับหมู่บ้านอีก 2 โครงการที่ชื่อ ไอลีฟ ทาวน์ กับสยามเนอเชอรัล โฮม

ผมขออธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมอีกหน่อยว่า ซอยที่เข้าออกของโครงการจะเป็นถนนภาระจำยอมร่วมกับหมู่บ้านเดิมด้านใน (ส่วนที่เป็นสีชมพู) ส่วนถนนที่เป็นสีฟ้าจะเป็นถนนภาระจำยอมเช่นกันแต่เป็นถนนที่ทางแสนสิริดูแลเอง การจ่ายค่าส่วนกลางที่ 37 บาทนั้นจะมี 2 บาทที่นำไปจ่ายให้กับการดูแลถนนภาระจำยอมที่เป็นสีชมพูครับ การเก็บค่าส่วนกลางแบบนี้จะเหมือนกับโครงการของพฤกษาตรงพัฒนาการ 38 ที่เป็นหลายๆ โครงการสร้างอยู่ติดกัน

สำหรับพื้นที่รอบๆ โครงการคณาสิริจะเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด ไม่ได้เป็นพื้นที่โรงงาน บรรยากาศเลยจะสงบหน่อย และที่ดินที่ติดกันด้านซ้ายจะเป็นพื้นที่โครงการในอนาคตของแสนสิริ ซึ่งเป็นการทำโครงการแยกไปอีกโครงการนะ ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน

สภาพถนนหลักที่เป็นภาระจำยอมร่วมกับหมู่บ้านด้านใน ถือว่าทำออกมาดีนะครับ เป็นถนนใหญ่ที่มีเกาะกลางและต้นไม้ใหญ่อยู่ตามแนวถนน

ขับตามทางมาเรื่อยๆ จะเจอถนนทางเข้าโครงการอยู่ตรงช่วงเลี้ยวซ้ายพอดี ให้เราตรงเข้าไปนะครับ

ส่วนสภาพถนนที่แสนสิริดูแลเองก็ใหญ่ไม่แพ้กันครับ ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างนะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • สถานศึกษา

  • โรงเรียนอัสสัมชัญ พระราม 2 campus 6 กม.
  • โรงเรียนนานาชาตินอร์ริช 4 กม.
  • โรงเรียนเลิศหล้าถนนกาญจนาภิเษก 9 กม.
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 21กม.

  • ห้างสรรพสินค้า, Super Market, Community Mall,
    • เซ็นทรัล มหาชัย 9 กม.
    • พอร์โตชิโน 7 กม.
    • แลนด์มาร์คมหาชัย 9 กม.
    • Gourmet District 3 กม.

  • โรงพยาบาล
    • โรงพยาบาลมหาชัย 10 กม.
    • โรงพยาบาลสมุทรสาคร 12 กม.
    • โรงพยาบาลนครธน 12 กม.
    • โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล 16 กม.

  • สถานที่สำคัญอื่นๆ
    • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร 19 กม.
    • วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตก 9 กม.
    • ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร 12 กม.
    • ตลาดมหาชัยเมืองใหม่ 3 กม.

     

     

     


    เจาะลึกตัวโครงการ

    พื้นที่โครงการจะเริ่มจากสะพานข้ามคลองเล็กๆไปแล้ว โดยมีวงเวียนแยกทางเข้าสำหรับโครงการ คณาสิริ และโครงการในอนาคต พื้นที่พักอาศัยจะเป็นสีส้มตามในผัง ตัวถนนเลาะไปตามแนวคลอง มีคลับเฮาส์อยู่ตรงกลางช่วยให้ลูกบ้านใช้งานได้ไม่ยาก และด้านในมีส่วนหย่อมมาให้อีกหน่อย แบบบ้านของที่นี่จะคละๆ กันไปนะจะไม่ได้แบ่งโซนตามแบบบ้าน มีทั้งบ้านแฝด และ บ้านเดี่ยวซึ่งตอนนี้เปิดขายเฉพาะบ้านเดี่ยวอย่างเดียวครับ บ้านหลังสุดท้ายของโครงการอยู่ห่างจากทางเข้าประมาณ 850 เมตรเป็นระยะปกติครับ

    โครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวโครงการที่สองที่แสนสิริมาเปิดโครงการในย่านมหาชัย ซึ่งก่อนหน้านี้มีแค่ นาราสิริ ที่เป็นกลุ่ม Segment ระดับบน 20 ล้านขึ้นไป การมาทำโครงการในย่านถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้กับคนที่หาบ้านเดี่ยว และอยากได้การบริหารจัดการจากแบรนด์ใหญ่ๆนะ

    สำหรับ Main gate โครงการนี้ออกแบบดูใหญ่และสวยดี ตัวซุ้มประตูทำด้วยวัสดุอะลูมิเนียมตัดกับพื้นผิวสีขาว โดยรูปทรงที่เราเห็นกันนี้ ได้แรงบันดาลใจจากทรงจั่วของโรงเกลือ ซึ่งสอดคล้องกับเอกลักษณ์เด่นของบ้าน Mid Century 70’s และยังมีกังหันลมเพื่อสะท้อนถึงการเคลื่อนไหวของกระแสลม เพราะแถวนี้ลมค่อนข้างดีมากๆเลย

    ประตูทางเข้าจะแบ่งทางเข้าออกเป็น 2 ช่องทาง แยกระหว่างลูกบ้านและแขก ตัวประตูเป็นแบบอัตโนมัติด้วยระบบ RFID (เหมือน Easy pass) พร้อมกล้อง CCTV 7 จุดบริเวณทางเข้า

    สำหรับอาคาร Clubhouse จะเป็นอาคารแยกที่ทำเป็นสไตล์ Mid Century 70’s เช่นเดียวกับคัวบ้าน การออกแบบยังคงเน้นความเรียบง่าย ทำให้มีความรู้สึกผ่อนคลายเป็นกันเองเหมือนอยู่บ้านหลังใหญ่อีกหลัง สำหรับสวนหย่อมขนาดใหญ่จะมีอยู่ 2 จุดในโครงการรวมกันประมาณ 2 ไร่ และยังออกแบบให้มีทางเดินลาด (Ramp) ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้พื้นที่ให้ผู้สูงอายุ และผู้พิการ พร้อมติดตั้ง Sola Street light โคมไฟแบบประหยัดพลังงานรอบ ๆ ทางเดินในสวน ช่วยประหยัดค่าไฟให้กับลูกบ้านด้วย

    ตัว Clubhouse ตอนนี้ยังสร้างไม่เสร็จนะ จะสร้างเสร็จประมาณ Q2 ปีหน้าภายในจะมีห้อง Fitness, Co-working Space, สระว่ายน้ำขนาด 25 x 6 เมตร ระบบเกลือ

    ก่อนจะพาไปดูของจริงต้องบอกก่อนว่า ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว พื้นที่ส่วนกลางยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างนะ ซึ่งผมก็เก็บภาพมาให้ดูกันแบบคร่าวๆ ไปก่อนถ้าใครอยากดูของจริงก็แวะเข้าไปดูที่โครงการได้เลย

    ทางเข้าโครงการจะมีพื้นที่เป็นวงเวียนขนาดใหญ่ เป็นการออกแบบ Landscape ให้กับพื้นที่ทางเข้าระหว่าง 2 โครงการ ตรงกลางวงเวียนมีลงต้นไม้ไว้หลายต้น ผ่านไปสัก 2 -3 ปีตรงนี้จะร่มรื่นแน่นอนครับ

    จากการเดินถ่ายรูปทำรีวิวรอบๆโครงการนี้ ต้องบอกว่าลมแถวนี้ดีจริงๆครับ ระหว่างถ่ายก็มีลมพัดมาเป็นระยะๆ ซึ่งลมจะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วยนะ แต่ลมดีขนาดนี้ก็ไม่แปลกที่ตรงทางเข้าโครงการจะมีการตกแต่งด้วยกังหันลมซึ่งกังหันนี้หมุนได้ด้วยนะ เออ

    เรื่องระบบความปลอดภัยของโครงการนี้จะพิเศษกว่าโครงการอื่นๆ ตรงที่มีการต่อรั้วโปร่งแบบ Digital Fence เพิ่มไปอีกประมาณ 80 ซม. (รั้วปกติสูง 3 เมตร) ซึ่งเป็นการต่อรั้วที่มีระบบเตือนภัยติดมาด้วย หลักการทำงานก็คือตลอดแนวรั้วจะมีตัวจับการเคลื่อนไหวเป็นระยะๆ ถ้าเกิดจุดไหนมีการสั่นไหวของรั้วมากเกินไป สัญญาณเตือนภัยแจ้งไปที่รปภ.ว่าอยู่ตรงจุดไหน ผมชอบแนวคิดนี้นะ เพราะเมื่อก่อนเราจะเห็นแต่รั้วไฟฟ้าซึ่งดูรุนแรงและอันตรายเกินไป แต่พอใช้เป็นระบบนี้ก็ช่วยให้ลูกบ้านอุ่นใจขึ้นและดูปลอดภัยกว่าเยอะเลยครับ

     

    สิ่งอำนวยความสะดวก

    • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 25 x 6 ม.
    • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ขนาด n/a ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ n/a เครื่อง
    • สวนสาธารณะรวม 2 จุดประมาณ 2 ไร่
    • ระบบ CCTV ที่ Main Gate 7 จุด
    • รั้วรอบโครงการสูง 3 ม.และรั้วโปร่งแบบ Digital ต่อเพิ่ม 80 ซม.
    • Key Card Access ระยะใกล้
    • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
    • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก (Easy Pass)
    • สัญญาณกันขโมย ระบบ Shock Sensor ที่ชั้น 1
    • ถนนหลักกว้าง 12 – 16 ม. และถนนภายในกว้าง 8 – 10 ม.

     


    Product Walkthrough

    แบบบ้านของที่นี่ถือเป็นจุดเด่นของโครงการเลยก็ว่าได้ เพราะมีหน้าตาและแนวคิด (Concept) ในการออกแบบที่แตกต่างจากเพื่อนบ้านทั้งหมดเลย เป็นการนำลักษณะเด่นของบ้านในยุค 70 มาประยุกต์ให้เข้ากับฟังก์ชันในยุคนี้ สิ่งที่นำมาใช้หลักๆเลยคือการมี Fin ในแนวตั้งคอยบังแดดให้ และ หลังคาทรงจั่วที่ยื่นออกมากกว่าบ้านในยุคนี้เพื่อลดแสงและความร้อนจากแสงแดด

    Beam (บีม) ที่ดิน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 128 ตร.ม  3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร ห้องครัวไทย ที่จอดรถ 2 คัน

    ผังแบบบ้านชั้น 1 ตัวบ้านจะมีเนื้อที่ประมาณ 128 ตร.ม.เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก ฟังก์ชันยังคงได้ครบตามแบบมาตรฐานสำหรับบ้านในยุคนี้ ได้ที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ห้องนั่งเล่นในส่วนหน้าบ้าน พร้อมเฉลียงไว้เดินจากที่จอดรถแบบไม่เปียกฝนหรือโดนแดด ส่วนทานอาหารกับครัวอยู่ติดใช้งานได้สะดวก ครัวก็ได้เป็นครัวปิดแยกสัดส่วนชัดเจน สำหรับห้องน้ำชั้นล่างสามารถใช้อาบน้ำได้ ครอบครัวไหนมีลูกหลายคนตอนเช้าๆ จะได้ไม่ต้องแย่งกันใช้ห้องน้ำ

    ชั้น 2 จะได้เป็น 3 ห้อง 2 ห้องน้ำ ห้องนอนใหญ่ได้พื้นที่เกือบครึ่งนึงของตัวบ้านมีห้องน้ำในตัว และได้ระเบียงขนาดใหญ่ ในขณะที่ห้องนอนเล็กอีกสองห้องไม่มีให้นะครับ ซึ่งในยุคนี้การใช้ระเบียงของห้องนอนไม่ค่อยจะมีความสำคัญสักเท่าไหร่แล้ว ถ้าไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่พอให้จัดสวนหรือทำกิจกรรมได้ ในส่วนของห้องน้ำหลังนี้จะมีห้องน้ำกลางอีกห้องเอาไว้ให้ห้องนอนเล็กทั้งสองห้องใช้งาน

    โครงการ คณาสิริ พระราม 2- วงแหวน จะมีการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อการอยู่อาศัยมาให้หลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่นการใช้หลอดไฟ LED ทั้งหมด Photo Switch ที่โรงจอดรถ ไฟจะเปิดให้อัตโนมัติเมื่อท้องฟ้าเริ่มมืด Emergency Light ไฟส่องสว่างภายในบ้านเวลาไฟดับ และ Breeze Panel ที่ช่วยถ่ายเทอากาศภายในตัวบ้าน สิ่งต่างๆเหล่านี้เดี๋ยวผมจะพาไปดูตอนรีวิวตัวบ้านนะครับ

    หน้าตาบ้านจะเห็นว่ามีความ Retro และดูอบอุ่นสไตล์ Homey สิ่งที่เด่นออกมาเลยก็คือ Fin ในแนวตั้งช่วยให้ตัวบ้านดูมีเสน่ห์และเพิ่มมิติความลึกให้กับตัวบ้าน  ส่วนหลังคาที่ยื่นออกมามากกว่าบ้านทั่วๆไปในสมัยนี้จะช่วยได้มากได้เรื่องของการลดแสงแดดและความร้อนที่เข้ามายังตัวบ้าน แถมยังสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้ดีขึ้นด้วย เดี๋ยวตอนขึ้นไปดูพื้นที่ระเบียงชั้น 2 จะเข้าใจมากขึ้นครับ สำหรับคนที่ไม่เคยซื้อบ้านบอกก่อนว่า ตัวบ้านเค้าขายแบบบ้านเปล่าเหมือนโครงการอื่นๆนะครับ ไม่ได้ตกแต่งภายในมาให้ แต่ก็ดูไว้เป็นไอเดียแต่งบ้านได้ เค้าทำมาสวยอยู่นะ

    โรงจอดรถจะจอดได้ 2 คันสบายๆ และมีไฟ LED แบบเปิด/ปิดให้อัตโนมัติตามความเข้มของแสง และที่จอดรถเป็นแบบ Slab on beam แบบไม่เชื่อมต่อกับตัวบ้าน ทำให้ที่จอดรถจะทรุดน้อยกว่าที่ดินรอบๆ การจอดรถก็จอดได้ 2 คันสบายๆ มีระยะเปิดประตูได้พอดีๆ และยังมีที่เหลือระหว่างตัวบ้านกับรั้วอีกพอสมควร

    ด้านข้างของบ้านจะสามารถเดินทะลุไปหลังบ้านได้จากพื้นที่จอดรถ แต่ด้านข้างบ้านก็ยังพอเหลือให้เดินได้อยู่

    ประตูเข้าห้องเก็บของที่อยู่ใต้บันไดจะอยู่ด้านนอกบ้านนะเอาไว้เก็บอุปกรณ์และเครื่องมือทำสวนได้

    ถังน้ำที่ได้จะเป็นแบบที่รวมเอาถังน้ำและปั๊มน้ำเข้ามาอยู่ด้วยกัน ซึ่งเป็นข้อดีมากสำหรับบ้านพักอาศัยเพราะช่วยประหยัดพื้นที่ดูเรียบร้อย และช่วยลดเสียงจากเครื่องปั๊มน้ำได้อีกด้วย เป็นของ DOS นะ

    พื้นที่ด้านหลังบ้านจะมีลานซักล้างมาให้ ถ้าใครซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารแล้วไม่อยากถือผ่านห้องนั่งเล่น ก็สามารถเดินมาเข้าหลังบ้านตรงส่วนครัวได้เลย

    รูปนี้ถ่ายหันกลับไปทางหน้าบ้านเพื่อให้เห็นว่าชายคาที่ยื่นออกมาเยอะจะช่วยบังแสงแดดตรงระเบียงได้เป็นอย่างดี

    เดินต่อมาที่ด้านข้างอีกด้าน ตรงนี้จะมีประตูเข้าไปโซนโต๊ะกินข้าว ประตูนี้ตรงนี้จะช่วยในเรื่องของกระเพิ่มแสงธรรมชาติให้กับภายในบ้านทำให้บ้านดูโปร่งและสว่างมากขึ้น หรือถ้าใครจัดสวนข้างบ้านสวยๆ เวลานั่งกินข้าวจะได้ดูต้นไม้ไปด้วยสบายตาดีครับ

    ย้อนกลับมาที่หน้าบ้านจะเห็นว่าตรงประตูทางเข้ามีเฉลียงมาให้ใหญ่อยู่นะ แนะนำว่าทำตู้ใส่รองเท้าและที่นั่งเพิ่มเติมได้เลย จะได้นั่งใส่รองเท้าหน้าบ้านได้สบายๆ แถมมีชายคาบังแดดและฝนให้ด้วย

    ตัวกรอบประตูและหน้าต่างเป็นอลูมิเนียม Powder Coat สีขาว กระจกได้สีเขียวตัดแสง

    เปิดเข้ามาในตัวบ้านจะเจอพื้นที่นั่งเล่นก่อนซึ่งสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่แบบ 4 ที่นั่งได้เลยเพราะมีหน้ากว้างถึง 3.5 เมตร

    หน้าต่างด้านหลังพื้นที่วางโซฟาจะเป็นหน้าต่างที่มีลูกเล่นเพิ่มมาให้

    หน้าต่างตรงนี้จะไม่ได้เป็นหน้าต่างเหมือนบานปกติทั่วๆไปนะ แต่พี่แสนเค้าเรียกว่า Breeze Panel ซึ่งมีข้อดีตรงที่ช่วยถ่ายเทอากาศภายในบ้านได้ โดยหน้าต่างแบบนี้จะมีมาให้ 2 จุดคือพื้นที่ห้องนั่งเล่นกับพื้นที่ทานอาหาร เมื่อเปิดพร้อมกันแล้วจะช่วยถ่ายเทอากาศภายในบ้านได้บางส่วน แต่อย่าเข้าใจผิดว่าเปิดแล้วลมเข้ามาแรงๆนะครับ เค้าไม่ได้ออกแบบมาให้ดักลมเข้าบ้านแต่เน้นไปที่การถ่ายเทอากาศมากกว่า

    สำหรับใครที่กลัวเรื่องแมลงหรือฝุ่นก็ไม่ต้องห่วงครับ เค้ามีคิดเผื่อไว้แล้วโดยระหว่างรูระบายอากาศจะมีแผ่นกันฝุ่นแมลงติดตั้งมาให้ในตัวเลย มีสวิทช์เปิด/ปิดมาให้ด้วย

    สำหรับพื้นที่วางทีวีสามารถทำ Built-in วางทีวีใหญ่ๆ ได้เต็มที่เพราะความกว้างของผนังเพียงพอ ที่ตัวบ้านดูสว่างและโปร่งเป็นเพราะเค้าพยายามเพิ่มช่องแสงให้กับตัวบ้าน ลองดูจากผนังทีวีด้านขวามือที่ติดกับประตูเข้าบ้านก็ได้ครับ ใส่หน้าต่างบาน Fix มาให้บานใหญ่เลย

    มาดูพื้นที่วางโต๊ะกินข้าวกันต่อ พื้นที่ตรงส่วนนี้จะดูสว่างและโปร่งมากเพราะได้ช่องแสงทั้ง 2 ด้านเลย ซึ่งสำหรับคนที่ชอบปลูกต้นไม้มากกก เพราะถ้าจัดสวนทำน้ำตกเล็กๆตรงมุมนี้ดีๆ หละก็นั่งกินข้าวแบบชิลๆได้เลยครับ

    ห้องครัวจะอยู่ติดกับโซนทานอาหารเลย เวลาทำกับข้าวเสร็จก็ยกมาเสิร์ฟได้ง่ายๆ แถมครัวที่ได้เป็นครัวปิดแบบมีประตูกั้นมาให้ด้วย ส่วนห้องน้ำจะอยู่ติดกับบันไดทางขึ้นชั้น 2 ประตูหันไปยังทางเดินทำให้บรรยากาศในบ้านดูเรียบร้อยมากขึ้น

    พื้นที่ครัวก็มีขนาดกำลังดีนะ วางเคาน์เตอร์เป็นตัว L ได้พื้นที่ทำครัวเยอะดี แต่ตู้เย็นต้องวางอีกฝั่งที่ติดกับประตูออกไปหลังบ้านนะ

    ถ้าใครที่รักความสะอาดจะชอบพื้นที่ลดระดับมาแบบนี้ เพราะเวลาทำครัวหนักพื้นมันๆ จะล้างพื้นก็ไม่ต้องกลัวน้ำไหลออกไปเปียกด้านนอก

    ภายในห้องน้ำชั้นล่างจะได้ฟังก์ชันหลักๆมาครบ สามารถอาบน้ำได้มีการทำธรณีแบ่งโซนแห้ง โซนเปียกมาให้ แต่ไม่มีฉากกั้นต้องติดตั้งเพิ่มเอง

    ชุดสุขภัณฑ์และก๊อกได้ของ American Standard ทั้งหมด ตัวอ่างล้างหน้าไม่ได้มีเคาน์เตอร์มาให้แต่มี Low Wall มาให้แทน ตัวกระเบื้องที่ตกแต่งก็จะได้ตามที่เห็นเลย เค้าเลือกลายและสีมาสวยดี

    ตรงพื้นที่อาบน้ำจะมีหน้าต่างเอาไว้เพิ่มแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ด้วย ส่วนพื้นที่วางของมีเจาะช่องตรงกำแพงมาให้ซึ่งไม่พอแน่ๆ ลูกบ้านก็ไปหาชั้นวางมาติดเพิ่มเองได้ไม่ยากครับ

    ฝักบัวที่ได้ขนาดมาตรฐานกำลังดี

    พื้นที่อาบน้ำใช้งานได้สะดวกนะครับยืดแขนขาได้สะดวกไม่ติดอะไร

    ต่อมาในส่วนของบันไดจะเป็นบันได้ที่ได้ชานพักแบบสามเหลี่ยมทั้งหมด การเดินไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่แต่ถือว่าเป็นการแลกกับได้พื้นที่ใช้งานในบ้านเยอะขึ้นนะครับ สำหรับช่องแสงถึงแม้จะไม่ได้บานหน้าต่างขนาดใหญ่ แต่ก็ยังสว่างเป็นปกติเพราะเค้าแบ่งตัวบานออกเป็น 2 ชุด

    พอขึ้นมาชั้น 2 จะมีพื้นที่เอาไว้เก็บของได้อีกนิดหน่อยตรงหน้าห้องนอนเล็ก

    จากโถงบันไดขึ้นมาแล้วด้านขวามือจะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ด้านซ้ายมือเป็นห้องนอนใหญ่ ห้องน้ำที่อยู่ตรงกลางจะเอาไว้ให้ห้องนอนเล็กใช้ เพราะห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัวแล้ว

    สัญญาณกันขโมยที่ให้มาจะเป็นแบบ Shock Sensor โดยแผงควบคุมจะอยู่ที่ชั้น 2 ตรงหน้าห้องน้ำ

    ห้องนอนเล็กห้องแรก ทางโครงการจัดเป็นห้องทำงานมาให้ดูแทนห้องนอน เพราะมีกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้ต้องการห้องนอนเยอะ แต่อยู่กันแค่ 2 คนมีลูกคนเดียว อยากได้ห้องทำงานเพิ่ม หรืออีกหน่อยเอาไว้ทำเป็นห้องสมุดให้ลูกก็ได้ แต่ถ้าใครทำเป็นห้องนอน ห้องนี้จะเหมาะกับเตียงขนาด 3.5 มากกว่านะ(เพราะต้องมีระยะทำตู้เสื้อผ้าด้วย)

    สำหรับห้องนอนเล็กห้องที่ 2 จะวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดีๆ ถ้าดันเตียงไปชนกับผนังจะได้พื้นที่รอบเตียงเพิ่ม

    พอมีระยะเดินรอบเตียงเหลือเยอะ จะติดทีวีแบบแขวนผนังเพิ่มก็ได้นะครับ

    พื้นที่ทำตู้เสื้อผ้าในห้องนอนเล็กจะมีระยะเหลือพอให้ทำตู้ได้สักสี่หน้าบาน ถ้าไม่เอาโต๊ะเครื่องแป้งนะ แต่ถ้าใครมีลูกสาวจะยกอีกห้องให้เป็น Walk-in Closet ไปก็ได้นะ ลูกสาวโตมารักตายเลย ฮ่าๆๆ

    สำหรับห้องน้ำกลางจะได้ชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์เหมือนชั้นล่าง และได้กระจกเงาบานใหญ่แบบนี้

    เดี๋ยวเราเข้าไปดูในห้องนอนใหญ่กันต่อ ห้องนอนใหญ่จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ด้านขวามือจะเป็นห้องน้ำและ Walk-in Closet ส่วนด้านซ้ายมือเป็นเตียงนอนและระเบียง

    เรามาดูด้านซ้ายมือกันก่อน พื้นที่ห้องนี้สามารถวางเตียงแบบ 6 ฟุตได้สบายๆเลยนะ มีระยะเหลือเฟือ ช่องแสงเค้าจักมาให้แบบเว้นเผื่อตำแหน่งวางเตียงนอนอยู่แล้ว ดังนั้นเตียงนอนก็วางตามนี้แหละครับ ดีสุดแหละ

    พื้นที่ระเบียงของห้องนอนใหญ่เค้าทำออกมาดีนะ เพราะสามารถใช้งานได้จริงมีระยะให้พอวางชุดที่นั่งและต้นไม้ได้ โดยยังได้ร่มเงาจากหลังคาอยู่ ที่บอกว่าใช้ได้จริงเพราะบ้านหลายๆ โครงการออกแบบมาให้มีระเบียงแต่แดดบ้านเรามันแรง พอไม่มีชายคามาบังแดดคนก็ไม่ใช้ ปล่อยเป็นพื้นที่ว่างๆไป สำหรับการบังแดดจะบังได้แค่ไหนลองดูรูปถัดไปได้ครับ

    รูปนี้ถ่ายบ้านตัวอย่างข้างๆมาให้ดู จะเห็นว่าแนวแดดบังพอดีกับระเบียงบ้าน แล้วมันบังได้แบบนี้ตลอดหรอ? ต้องตอบว่าอาจจะไม่ได้ทั้งหมดนะครับ ขึ้นอยู่กับทิศทางและตำแหน่งของบ้านด้วย ซึ่งใครจะซื้อที่แนะนำให้ดูทิศทางของแดดและตำแหน่งบ้านดีๆว่า มันบังแดดได้ตรงทิศไหม

    อีกจุดหนึ่งที่ทำให้บ้านแบบนี้ใช้งานระเบียงได้ดี เพราะเค้าเอา CDU ของแอร์ไปแขวนไว้ด้านข้างระเบียงแทน ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งานให้กับระเบียงได้เยอะเลย

    กลับเข้ามาดูภายในบ้านกันต่อ พื้นที่ Walk-in Closet จะอยู่ด้านในสุดของห้อง

    ใส่ตู้เสื้อผ้าได้พอประมาณ ถ้าใครคิดว่าไม่พอทำ Built-in ปิดหน้าต่างไปเลยก็ได้ครับ ห้องน้ำจะอยู่ด้านขวามือ

    ห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนใหญ่จะมีขนาดเท่าๆ กับห้องน้ำกลาง และยังคงได้ชุดสุขภัณฑ์กับอุปกรณ์แบบเดียวกันนะ

    แบบบ้าน Breeze (บรีส) ที่ดิน 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร ห้องครัวไทย ที่จอดรถ 2 คัน

    แบบบ้านนี้โดยรวมแล้วจะคล้ายๆกับแบบแรก แต่สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมาก็คือ ห้องนอที่ชั้นล่างเหมาะสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ และชั้น 2 จะเปรียบเสมือนได้ห้องนอนใหญ่ 2 ห้อง แค่อีกห้องไม่มีห้องน้ำในตัว ซึ่งเป็นการออกแบบให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าดีครับ เพราะการขยายห้องเล็กให้มีพื้นที่เท่ากับห้องนอนใหญ่ เหมาะกับครอบครัวที่ลูกกำลังโตเข้าสู่วัยรุ่นเริ่มต้องการพื้นที่ส่วนตัว หรือครอบครัวที่ผู้ใหญ่อยู่กัน 2 คนและยังเดินขึ้นชั้น 2 ได้สะดวกอยู่ เค้าจะได้มีพื้นส่วนตัวที่เยอะขึ้น

    หน้าตาและรูปแบบบ้านยังคงอยู่ใน Concept เดียวกัน แต่หลังนี้จะทำสีที่เข้มขึ้นมาหน่อยเล่นโทนสีฟ้า-น้ำเงินแทนสีเขียว

    บ้านแบบนี้ส่วนใหญ่จะอยู่แปลงมุมทำให้ได้พื้นที่สวนด้านข้างมาด้วย สำหรับห้องนอนชั้นล่างจะได้วิวสวนตรงนี้ด้วย

    พื้นที่ห้องนั่งเล่นของหลังนี้จะมีหน้ากว้างที่ใกล้ๆกัน

    แต่สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมาคือห้องนอนทางด้านขวามือ สังเกตว่าพื้นที่ทานอาหารหลังนี้จะไม่ได้มีช่องแสงให้ดูวิวสวนหลังบ้านเหมือนหลังที่แล้วนะ

    ห้องนอนที่เพิ่มขึ้นมาถ้ามีผู้ใหญ่อยู่แค่คนเดียวก็เหมาะกับการวางเตียง 3.5 ฟุตนะ จะได้มีพื้นที่วางเก้าอี้ข้างๆแบบนี้ได้ แต่ถ้าอยู่ 2 คนและอยากวางเตียง 5 ฟุตก็ยังพอทำได้แต่ระยะรอบๆ เตียงจะเหลือน้อยหน่อย ต้องดันเตียงไปชนกับผนังด้านนึง

    พื้นที่ปลายเตียงที่เหลือจะวางตู้เสื้อผ้าได้แต่ตำแหน่งต้องวางตรงกลางนะ เพราะด้านซ้ายจะติดระยะประตู และด้านขวาติดหน้าต่าง ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องช่องแสงทำตู้เสื้อผ้าปิดหน้าต่างด้านนี้ไปก็ได้ครับ ยังมีช่องแสงจากหน้าบ้านอยู่

    ฝั่งตรงข้ามห้องนอนจะเป็นห้องครัวแบบปิด ห้องน้ำและโถงบันได

    ขนาดห้องครัวไม่ต่างจากบ้านหลังแรกเลยครับ ตำแหน่งการทำเคาน์เตอร์ครัวก็จะไม่หนีกันมาก โดยตำแหน่งอ่างล้างจากควรอยู่ติดกับหน้าต่างเพื่อให้แสงแดดส่องถึง เอาไว้ระบายความชื้นได้

    ห้องน้ำที่อยู่ใต้บันไดเป็นขนาดเดียวกัน อ่อ ลืมบอกไปว่าฝ้าเพดานจะติดท้องบันเฉียงๆมาหน่อยนะ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับการใช้งาน

    โถงบันไดมีรูปแบบเดียวกันช่องแสงแบ่งเป็น 2 บาน

    ด้านซ้ายจะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องโดยห้องที่ติดกับห้องน้ำจะมีขนาดห้องใกล้ๆกับห้องนอนใหญ่เลย ส่วนด้านขวาเป็นห้องนอนใหญ่

    ห้องนอนเล็กยังคงวางเตียง 5 ฟุตแบบวางชิดผนังได้อยู่

    ส่วนอีกห้องนอนเล็กอีกห้องที่มีขนาดใหญ่เท่าห้องนอนใหญ่ จะจัดพื้นที่นั่งเล่นเพิ่มมาให้ห้องนอนได้เลย เห็นแบบนี้ระยะดูทีวีนี้ 2.6 เมตรเลยนะวางทีวีขนาด 55″ ได้เลยนะ

    สำหรับพื้นที่เตียงนอนในบ้านตัวอย่างเค้าวางชิดผนังไว้ด้านนึงนะ ซึ่งนอนคนเดียวก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร วางชิดผนังได้เลยจะได้มีเนื้อที่รอบๆ เตียงเพิ่มขึ้นด้วย

    พื้นที่ปลายเตียงยังมีระยะเพิ่มจากแนวกำแพงมาให้อีกนะ สามารถทำโต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทำงานได้อีก เรียกว่าได้เป็นห้องนอนเล็กที่ได้ฟังก์ชันครบเลย

    ข้ามมาดูห้องนอนใหญ่กันบ้าง ห้องนอนใหญ่ตัวจริงต้องมีระยะแบบนี้ครับ วางเตียง 6 ฟุตแล้วมีที่ให้เตะตะกร้อได้อีก 555 ล้อเล่นๆ มีพื้นที่เหลือพอให้วางเก้าอี้นั่งเล่นได้อีก

    ระเบียงยังคงได้เนื้อที่เยอะเหมือนเดิมครับ รูปนี้ฟ้าเปิดพอดีเลยจัดมุมสวยๆมาให้ซักหน่อย ตอนถ่ายรูปนี้เป็นช่วงเที่ยงๆ ชายคาช่วงบังแดดได้พอดีเลย

    มุมจากระเบียงหันมาในห้อง เดี๋ยวเราไปดู Walk-in Closet กันต่อ

    ดูๆไปแล้วพื้นที่ตรงนี้ทำตู้เสื้อผ้าได้เยอะไม่เท่าห้องนอนเล็กอีกห้องนะ เอาจริง คุณแม่อาจต้องไปฝากเสื้อผ้าไว้ห้องลูกบ้าง 555

    ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ถึงแม้จะได้วัสดุเหมือนกันแต่ลายกระเบื้องได้ลายที่สวยกว่า และกระจกเงาก็ได้บานใหญ่กว่านะ

    เป็นยังไงกันบ้างครับกับบ้านของโครงการนี้ถูกใจหลังไหนกัน? ใครชอบแบบไหนก็มา Comment คุยกันได้นะครับ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

     

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 2 December 2017

    • Beam 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 128 ตารางเมตร 50 ตารางวา ราคา 4.69 ล้านบาท (ราคาพิเศษ 4.39 ล้านบาท)
    • Beam 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 128 ตารางเมตร 57.5 ตารางวา ราคา 5.25 ล้านบาท (ราคาพิเศษ 5.05 ล้านบาท)
    • Breeze 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 159 ตารางเมตร 75.7 ตารางวา ราคา 6.75 ล้านบาท (แปลงมุม) (ราคาพิเศษ 6.45 ล้านบาท)

    • จองและทำสัญญา 50,000 บาท
    • ค่าส่วนกลาง 37 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 1.5 ปี
    • ค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้ ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
    • ค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์ 2% ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
    • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเลโครงการ คณาสิริ พระราม 2 – วงแหวน เป็นทำเลในย่านชานเมืองใกล้วัดพันท้ายนรสิงห์ ใกล้ถนนพระราม 2 อยู่ฝั่งขาออกไปมหาชัย ทำเลแถวนี้เป็นทำเลในช่วงรอยต่อของกรุงเทพกับสมุทรสาคร พอเลยวงแหวนมาแล้วความคึกคักหรือแหล่งที่อยู่อาศัยจะน้อยลง และจะมาคึกคักอีกทีตรงวัดพันท้ายนรสิงห์นี่แหละครับ เป็นจุดที่คึกคักจุดแรกถ้านับจากวงแหวนกาญจนาออกมา โครงการที่อยู่อาศัยจะเกาะกลุ่มกันอยู่ในโซนนี้ ทำให้แหล่งความอุดมสมบูรณ์โดยรอบมีเยอะ โดยทำเลโครงการนี้จะได้เปรียบกว่าโครงการในซอยวัดพันท้ายนรสิงห์ตรงที่ได้ความสงบมากกว่าไม่มีรถวิ่งผ่านเยอะ ฝุ่นและเสียงก็น้อยลงไปด้วย

    การเดินทางถือว่าทำได้สะดวกเพราะอยู่ห่างจากถนนใหญ่ไม่ไกล ประมาณ 900 ม. และจากปากซอยสามารถกลับรถใต้สะพานได้เลย ทำให้การเดินทางไปถนนกาญจนาภิเษกทำได้สะดวกไม่ต้องไปกลับรถไกล หรือจะวิ่งออกนอกเมืองไปทางเอกชัยและมหาชัยก็ไม่ลำบากเพราะออกจากปากซอยสามารถชิดขวาขึ้นสะพานได้ทันสบายๆ

    สำหรับความอุดมสมบูรณ์รอบๆ ถ้าเอาใกล้แหล่งชุมชนอย่างวัดพันท้ายนรสิงห์จะมีตลาด ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้ออย่าง Mini Big C, Tesco Lotus Express,  7-11 ถ้าจะเดินห้างหรือ Community Mall จะมี Porto Chino และเซ็นทรัล พลาซ่า มหาชัย ที่เพิ่งจะเปิดไปเมื่อวันที่ 23 พ.ย. นี้เอง เรียกว่าสร้างความคึกคักและทำให้ทำเลนี้พัฒนาไปอีกระดับ

    ความปลอดภัยของโครงการให้มาค่อนข้างครบตัวบ้านได้สัญญาณกันขโมยติดมาให้ที่ชั้น 1 แบบ Shock Sensor และรั้วของโครงการนี้มีความพิเศษตรงที่ ติดตั้งรั้วโปร่งแบบมีสัญญาณเตือนภัยเพิ่มมาให้ รูปแบบการทำงานถือว่าคิดมาดีนะครับ เพราะเวลามีแรงที่มากระทำกับรั้ว จะมีสัญญาณเตือนภัยแจ้งไปรปภ.ว่าตรงจุดไหนที่มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น คือไม่รุนแรงและน่ากลัวเท่ารั้วไฟฟ้าแต่เพิ่มความปลอดภัยให้ลูกบ้านได้อุ่นใจอีกเยอะเลยครับ

    การออกแบบและพื้นที่ใช้สอยของโครงการนี้ ถือว่าจะมีรูปแบบที่แตกต่างจากเพื่อนบ้าน เพราะหยิบเอารูปร่างหน้าตาบ้านในยุค 70 มาประยุกต์ใช้ทำให้บรรยากาศของโครงการดูอบอุ่นมีความ Retro นิดๆ และในส่วนของการใช้งานถือว่าจัดมาได้ลงตัวดี โดยเฉพาะบ้านแบบ Breeze ที่ออกแบบให้เหมือนได้ห้องนอนใหญ่ 2 ห้องเลย และมีห้องนอนที่ชั้นล่างเพิ่มมาด้วย ส่วนบ้านแบบ Beam จะเป็นบ้านที่สร้างแล้วเหลือที่ไว้ทำสวน เหมาะสำหรับใครที่ชอบบ้านมีเนื้อที่เอาไว้ปลูกต้นไม้ มีสนามหญ้าให้น้องหมาวิ่งเล่น ไม่ได้ต้องการพื้นที่ใช้งานของตัวบ้านเยอะจนไม่มีสวนรอบบ้าน การออกแบบอีกจุดที่ทำให้แบบบ้านที่นี่น่าใช้งานก็คือหลังคาบ้านที่ทำชายคายื่นออกมาไกลกว่าบ้านทั่วๆ ไปในยุคนี้ ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี

    วัสดุของโครงการนี้โดยรวมแล้วถือว่าให้มาตามมาตรฐานนะครับ และมีลูกเล่นใหม่ๆ เพิ่มมาให้กับลูกบ้าน แสนสิริพยายามนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้กับบ้านเพื่อช่วยให้ลูกบ้านใช้ชีวิตได้สะดวกขึ้น อย่างบานหน้าต่างที่เพิ่มระบบถ่ายเทอากาศแบบในตัวมาให้ ซึ่งสามารถเปิด-ปิดเอาไว้ระบายอากาศได้ และยังมีแผงป้องกันแมลงอยู่ภายในตัวกรอบหน้าต่างด้วย

    พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ เนื่องจากโครงการนี้สร้างเสร็จแค่ส่วนที่เป็นบ้านตัวอย่าง สภาพแวดล้อมของจริงจึงยังเห็นได้ไม่ชัดเท่าไหร่ แต่เท่าที่ดูจากส่วนที่กำลังสร้างอย่างหน้าประตูทางเข้าถือว่าทำออกมาได้ดูดีพอสมควร ส่วนความร่มรื่นของต้นไม้ก็เห็นมีลงไว้ประมาณนึง จะมีต้นไม้ใหญ่อยู่ตามแนวถนนหลักและมีสวนหย่อมอยู่ระหว่างทาง

    สาธารณูปโภคให้มาครบตามสมัยนิยม ได้อาคารคลับเฮาส์แยกสไตล์เดียวกับตัวบ้านแนว Mid Century ยุค 70 ฟังก์ชันภายในมี ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, Co-working Space และสวนหย่อมรอบโครงการ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ต้องรอให้โครงการสร้างเสร็จก่อนจะเห็นภาพชัดกว่านี้ ตอนนี้ให้คะแนนตามภาพจำลองไปก่อนนะครับ

    Judgement

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 3.99 – 6 ล้านบาท, 2 December 2017

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.25/10 – ใกล้ถนนใหญ่พระราม 2 เดินทางสะดวกลับรถง่าย
    • ความปลอดภัย 8.25/10 – สัญญาณกันขโมยชั้น 1 รั้วรอบโครงการแบบ Digital
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – ออกแบบบ้านมาสวย
    • วัสดุ 7.75/10 – ได้ของมาตรฐานและมีนวัตกรรมเพิ่มมาให้
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีสวนมาให้ 2 จุด ซุ้มประตูใหญ่ (ที่เหลือต้องรอดูของจริงครับ)
    • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ให้มาครบแต่ยังสร้างไม่เสร็จต้องรอดูของจริง ถึงจะให้คะแนนเพิ่มได้นะ
    • 7.69 / 10.00

    BOTTOM LINE

    คณาสิริ พระราม 2 – วงแหวน เป็นโครงการที่เหมาะกับคนอยากได้แบบในโซนที่สงบมีความเป็นส่วนตัว ชอบของมีแบรนด์ ซื้อโครงการนี้ไม่ได้ซื้อแค่ตัวบ้านแต่ซื้อความเป็นแสนสิริด้วย ชอบการบริหารและการจัดการของแสนสิริ ชอบบ้านแนว Retro หน่อยๆ ดูอบอุ่นสไตล์ Homey อยากได้พื้นที่ทำสวนรอบบ้าน มีงบประมาณ 4 – 6.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 28,000 – 52,000 บาท/เดือน

    ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

    สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )