รีวิวโครงการ
The City พระราม 9 – รามคำแหง บ้านเดี่ยวติดถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ใกล้ทางด่วนและถนนรามคำแหง จาก AP [รีวิวฉบับที่ 2503]
20 กุมภาพันธ์ 2023
รีวิวฉบับที่ 2118 … เปิดตัวบ้านเดี่ยวใหม่ใกล้ถนนรามคำแหง กับโครงการ The City พระราม 9 – รามคำแหง จาก AP บนทำเลถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นโครงการที่ 2 ของแบรนด์ The City ที่มาลงในย่านนี้ โดยตัวนี่เน้นใช้งานถนนรามคำแหงเป็นหลัก ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ภายในมีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย ส่วนตัวบ้านก็เริ่มขนาดใหญ่ 4-5 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 233-380 ตร.ม. จุดเด่นคือบริเวณห้องนั่งเล่นมีฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume 6.5 ม. พร้อมช่วงราคา 11-25 ล้านบาท
อ่านรีวิวฉบับ Update ปี 2023 ได้ที่นี่ >> The City พระราม 9 – รามคำแหง [รีวิวฉบับที่ 2503]
ข้อมูลโครงการ
27 August 2020
- The City Rama 9 – Ramkhamhaeng (เดอะ ซิตี้ พระราม 9 – รามคำแหง)
- บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
- HIGH – LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านปี 2020 ได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เขตสะพานสูง
- เนื้อที่โครงการ 36 ไร่ จำนวน 131 ยูนิต
- Serein : ที่ดิน 52.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 233 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ครัวไทย / 2 ที่จอดรถ
- Inscape : ที่ดิน 59.35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน + Double Volume / 1 ครัวไทย / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
- Brivet : ที่ดิน 67.12 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน /1 ห้องแม่บ้าน / 1 ครัวไทย / 3 ที่จอดรถ
- Vespertine : ที่ดิน 105 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน + Double Volume / 1 ห้องแม่บ้าน / 1 ครัวไทย / 3 ที่จอดรถ
- ช่วงราคาเริ่มต้น 11-25 ล้านบาท
- ความสูงพื้นถึงฝ้า : 2.60-2.80 เมตร / Double Volume : 6.5 เมตร
- โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี Q1/2563
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ Q2/2565
- เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center: 1623
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.774930, 100.688111
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
The City พระราม 9 – รามคำแหง ตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ฝั่งมุ่งหน้าถนนรามคำแหง โดยตรงนี้จะเป็นทางเดินรถทางเดียว(Oneway) ซึ่งถ้าใครมาจากฝั่งรามคำแหงต้องเข้าซ.รามคำแหง118 หรือซ.หมู่บ้านพฤกษา ที่มีร้านค้า ร้านอาหารตลอดทาง ซึ่งในช่วงเวลาเร่งด่วนจะมีปริมาณรถค่อนข้างหนาแน่น เพราะเป็นเส้นทางที่คนใช้ลัดหนีรถติดจากเส้นรามคำแหง ไปพระราม9-ศรีนครินทร์ แต่ถ้าใครวิ่งมาจากศรีนครินทร์ แนะนำให้ใช้เส้นถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า หรือกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ถนนกว้าง 6-8 เลน เอาไว้ใช้หลีกเลี่ยงรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วนได้
ส่วนคนที่ใช้รถยนต์เป็นหลัก ตำแหน่งโครงการได้เปรียบ เพราะใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก(บริเวณถนนรามคำแหง) ที่วิ่งขึ้นเหนือไปรังสิต-นครนายก หรือวิ่งลงใต้ไปบางนา-สมุทรปราการ นอกจากนี้ยังเชื่อมเข้ามอเตอร์เวย์(กรุงเทพ-ชลบุรี) และทางด่วนศรีรัช(วิ่งเข้าตัวเมือง) ตัวโครงการนอกจากอิงถนนรามคำแหงเป็นหลักแล้ว ยังเดินทางไปละแวกใกล้เคียงได้ทั้งลาดพร้าว, ศรีนครินทร์, พัฒนาการ, พระราม9 เป็นต้น รวมไปถึงเป็นบ้านที่อยู่เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิได้ง่าย ขึ้นทางด่วนไปไม่ถึง 20 นาทีก็ถึงแล้ว
โครงการตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ที่รอบๆโครงการเป็นที่ดินเปล่ารอการพัฒนา และบ้านแนวราบดั้งเดิม ทำให้ไม่มีของกินในระยะเดินสบาย เน้นขับรถมากกว่า โดยบนถนนคู่ขนานก็มีร้านอาหารบ้างประปราย แต่หลักๆน่าจะอิงภายในซอยรามคำแหง118 ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ครบครัน แล้วอีกจุดที่อยู่ใกล้ๆกันคือหมู่บ้านสัมมากร ที่คนในละแวกน่าจะรู้จักกันดี เพราะเป็นย่านที่มีร้านอาหาร local ชื่อดังอร่อยๆอยู่เยอะเหมือนกันนะ
ส่วนถ้าใครชอบร้านอาหารชั้นนำ เราก็แนะนำให้ไปคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง Paseo Town รามคำแหง ที่ด้านในมี Makro ให้ช้อปปิ้งของใช้เข้าบ้านด้วย หรือไปห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ The Mall บางกะปิ, Tesco Lotus บางกะปิ, Makro และตลาดตะวันนา เรียกว่าครบครันทุกรูปแบบที่ต้องการเลย ขยับออกไปไกลหน่อยก็มี The Mall รามคำแหง และ The Nine ที่ไปใช้งานได้สะดวก
นอกจากเรื่องของกินแล้วแถวนี้ยังมีสถานศึกษาหลายแห่ง ได้แก่ รร.นวมินทราชินูทิศ, รร. เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า, รร.นานาชาติ Montessori Center, รร.นานาชาติ Brighton College และรร.นานาชาติ Heathfield School แถมยังรายล้อมด้วยโรงพยาบาลชื่อดังทั้ง รพ.รามคำแหง, รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์, รพ.เวชธานี และรพ.ลาดพร้าว เป็นต้น
ทำเลนี้นอกจากรถยนต์แล้วในอนาคตยังรายล้อมด้วยรถไฟฟ้าหลากหลายสาย ซึ่งปัจจุบันที่เปิดใช้งานแล้วคือ Airport Rail Link ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง) และรถไฟฟ้าสีส้ม(ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) โดยตำแหน่งที่ใกล้โครงการที่สุดคือรถไฟฟ้าสายสีส้ม “สถานีสัมมาการ” ที่ห่างจากโครงการไป 1.5 กม. ซึ่งด้วยความที่ตำแหน่งโครงการอยู่บนถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ทำให้ไม่มีรถประจำทาง หรือแท็กซี่ขับผ่าน แนะนำให้เรียกรถผ่าน Application สะดวกที่สุดค่ะ
การเดินทางวันนี้เริ่มจากบนถนนศรีนครินทร์ > ขึ้นสะพานเข้าถนนกรุงเทพกรีฑา > หลังจากนั้นให้ลอดอุโมงค์เข้าถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า > ขับตามทางมาเรื่อยๆข้ามสะพาน 1 จุด > หลังจากนั้นให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก > ขับตรงมาอีกประมาณ 2.8 กม. เราจะเห็นโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ
เริ่มจากถนนศรีนครินทร์ ขึ้นสะพานไปกรุงเทพกรีฑา
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
มาดูพื้นที่ดินของโครงการ The City พระราม 9 – รามคำแหง กันต่อค่ะ แปลงที่ดินของโครงการจะอยู่ช่วงใกล้ถนนรามคำแหง โดยเป็นลักษณะแปลงยาวทางเข้าติดถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกที่มีคลองคั่นก่อนเข้าโครงการ ทำให้มีสะพานก่อนถึงซุ้มประตู ที่ทำให้ดูเป็นส่วนตัวมากขึ้น รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่า และบ้านพักอาศัยแนวราบ
- ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่ารอการพัฒนา
- ทิศตะวันออก ติดกับ ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก + บ้านพักอาศัยแนวราบ
- ทิศใต้ ติดกับ คลองสาธารณะ
- ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินเปล่ารอการพัฒนา + หมู่บ้านจัดสรรโครงการอื่น
ด้านหน้าโครงการเป็นถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ที่อยู่ติดกับทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งถนนช่วงด้านหน้าโครงการจะเป็นแบบเดินรถทางเดียว หรือ Oneway ที่มุ่งหน้าถนนรามคำแหง
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Heathfield International School – 1.9 km.
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า – 4.0 km.
- International Montessori Center– 4.9 km.
- โรงพยาบาลรามคำแหง – 6.6 km.
- The Promenade – 7.6 km.
- Fashion Island – 7.6 km.
- โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ – 9.4 km.
- The Nine – 11.4 km.
- Brighton College International School– 12.5 km.
- สนามบินสุวรรณภูมิ – 15.5 km.
รายละเอียดโครงการ
The City พระราม 9 – รามคำแหง ลักษณะที่ดินของโครงการจะเป็นแนวยาวเข้าไปข้างใน โดยจะแบ่งขายออกเป็นหลายเฟส ทางเข้าติดถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก มีทางเข้า-ออกเดียวที่ด้านหน้า เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน ส่วนพื้นที่ส่วนกลางจะเชื่อมเป็นจุดเดียวกับ Main Gate ที่ทำให้ซุ้มดูอลังการมากขึ้น บริเวณซุ้มประตูมีรปภ.ดูแลตลอด 24 ชม. พร้อมระบบ KATSAN ที่เอาไว้ช่วยดูแลความปลอดภัยของลูกบ้านของทาง AP
เข้ามาภายในฝั่งซ้ายมือเป็นพื้นที่สวนหย่อม+สนามเด็กเล่น ส่วนถนนหลักกว้าง 12 m. ที่วิ่งยาวจนถึงด้านหลัง(ประมาณ 450 m.) ซึ่งทำให้บ้านที่อยู่โซนด้านหลังไกลจากทางเข้า-ออกและอาคาร Clubhouse แต่ก็จะได้บรรยากาศเงียบสงบมากขึ้น ส่วนการวางผังบ้านพักอาศัย แบ่งเป็นซอยย่อยๆถนนรองกว้าง 9 m. มีบ้านทั้งหมด 131 หลัง บนที่ดิน 36 ไร่ ที่หันหน้าบ้านออกแนวทิศเหนือใต้ทั้งหมด ทำให้ไม่โดนแดดแรง และเป็นตำแหน่งที่อากาศถ่ายเทได้ดี นอกจากนี้แต่ละซอยมียูนิตเพียง 4-6 หลัง ที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น พร้อมติดกล้อง CCTV มาให้ทุกซอย รวมทั้งหมด 32 ตัวรอบโครงการค่ะ
ระบบ KATSAN (คัดสรร) ผู้คุ้มกันส่วนตัวอัจฉริยะ ตลอด 24 ชม. จาก Claymore หนึ่งในบริษัทย่อยในเครือ AP ที่ต้องการยกระดับความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงยังช่วย Support ลูกบ้านเมื่อต้องการความช่วยเหลือ ที่จะเชื่อมต่อทุกส่วนเข้าด้วยกัน โดยมี Features หลากหลาย ดังนี้ (หรือคลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่)
- Pre-Register : แจ้งการเข้าพบล่วงหน้าของแขกคนสำคัญ เมื่อมีแขกมาพบก็สามารถเข้ามาภายในโครงการได้เลย
- Security Matrix : ระบบจดจำป้ายทะเบียนรถ คัดกรองรถยนต์ลูกบ้านกับรถยนต์ Visitor พร้อมเฝ้าสังเกตรถยนต์ที่อยู่เกินเวลา
- Do not Disturb: ปฏิเสธไม่ให้ใครเข้าเยี่ยมถ้าต้องการความเป็นส่วนตัว
- Car Directory : ตรวจสอบทะเบียนรถ ภายในโครงการว่าใครเป็นเจ้าของ
- Notifications : แจ้งข้อมูลข่าวสาร และประกาศต่างๆจากโครงการ
- Security Alert: แจ้งเหตุฉุกเฉินหรือต้องการความช่วยเหลือพิเศษ
- E-Stamp : ประทับตรายางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านโทรศัพท์มือถือ
เริ่มจากด้านหน้าโครงการกันก่อนเลยค่ะ เราจะเจอกับซุ้มทางเข้าเชื่อมต่อกับ Clubhouse เลย ทำให้ดูโอ่อ่า อลังการทีเดียว แต่จะไม่ได้อยู่ติดกับถนนใหญ่นะ ต้องขึ้นสะพานข้ามคลองมาก่อน ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากยังมีป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่ เห็นชัดเจน
ทางเข้า-ออกแยกใช้งานกัน มีป้อมรปภ.กั้นกลาง ที่มีรปภ.ดูแลตลอด 24 ชม. เอาไว้อำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านและผู้มาติดต่อ พื้นปูด้วยคอนกรีตแสตมป์สวยงามดี โดยโครงการนี้ใช้ระบบ KATSAN พร้อมกล้อง CCTV ที่เห็นใบหน้าและทะเบียนรถชัดเจน
ทางเข้ามีทั้งไม้กั้นกระดก และประตูบานเลื่อนอัตโนมัติสูง 2.5 m. ที่เอาไว้ปิดในตอนกลางคืนให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น / ส่วนด้านข้างมีประตูทางเข้าแยกสำหรับคนเดินโดยเฉพาะ
เราลองไปดูพื้นที่ Clubhouse กันต่อนะคะ ดีไซน์ของตัวอาคารเน้นความเรียบง่าย รูปทรงอาคารสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมเลือกใช้โทนสีขาวเทาเรียบร้อยดี
เริ่มที่ห้องนั่งเล่นหรือ Lobby กันก่อน โดยตัวห้องรายล้อมด้วยหน้าต่างถึง 3 ด้าน ที่นอกจากรับแสงธรรมชาติแล้ว ภายในยังดูโปร่งโล่ง น่าใช้งานดี ซึ่งโครงการเตรียมชุดโซฟามาให้ 2 จุด ที่เหมาะมานั่งคุยเล่นกับเพื่อนเปลี่ยนบรรยากาศ
สำหรับฟังก์ชันอื่นๆจะมี Step เดินขึ้นไปหน่อย ซึ่งทางเดินจะเป็นกึ่ง Semi-Outdoor ที่เวลาเดินอาจจะโดนแดดร้อนในช่วงบ่ายๆนะ
ภายในคลับเฮ้าส์มีแยกห้องน้ำชาย-หญิงมาให้ เวลาว่ายน้ำเสร็จจะได้อาบน้ำจากที่นี่ไปเลย ไม่ต้องตัวเปียกกลับไปที่บ้าน นอกจากนี้ยังมี Sauna ให้ใช้ในห้องน้ำชายและหญิงแยกกัน โดยเป็นขนานที่ใช้งานได้ 2-3 คนกำลังดี
เข้ามาด้านในเป็นสระว่ายน้ำที่ดูเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะถูกซ่อนอยู่ด้านในอาคาร ตัวสระว่ายน้ำระบบเกลือ Outdoor ขนาด 18 x 6 m. ตัวสระยาวที่ว่ายน้ำจริงจังได้เลยนะ
แยกสระเด็กมาให้ขนาด 5.9 x 3 m. ลึกอยู่ที่ 60 cm. ขนาดใช้งานได้กำลังดี พร้อมโซน Jacuzzi ให้มานั่งแช่ผ่อนคลาย เวลาทำงานมาเหนื่อยๆน่าจะสบายใจดีนะ
ด้านข้างมีจุดให้ชำระตัวก่อนลงสระว่ายน้ำ ที่มีฝักบัวมาให้ 2 อัน ที่สามารถใช้งานหลายคนพร้อมกันได้เลยนะคะ
ด้านข้างมีสวนหย่อมขนาดใหญ่ พื้นปูหญ้ามาให้สลับต้นไม้สูง พร้อมรั้วต้นไม้บดบังสายตาจากคนภายนอก ซึ่งเป็นลักษณะพื้นที่ปิดเหมาะมานั่งเล่น Picnic ชิลล์ๆ หรือพาเด็กมาวิ่งเล่น ส่วนตัวคิดว่าปลอดภัยมากกว่าสวนหย่อมริมถนน
เราพาเดินบันไดขึ้นไปดูฟังก์ชันพื้นที่ชั้น 2 กันต่อค่ะ
บริเวณห้อง Fitness จะเป็นห้องขนาดใหญ่ ที่มีหน้าต่างรับแสงและกระจกขนาดใหญ่ ไว้ดูหุ่นตัวเองขณะออกกำลังกายไปด้วย ภายในมีเครื่องเล่นครบครันทั้งเครื่องเล่นแบบ Cardio และ Weight Training รวมทั้งหมดประมาณ 9 ชิ้น ถือว่าเพียงพอต่อจำนวนยูนิตนะคะ
บริเวณลู่วิ่งมีหน้าต่างสูงเต็มผนัง ที่ Take View บรรยากาศภายในหมู่บ้านบริเวณสวนหย่อม หรือมองออกไปด้านนอกโครงการค่ะ
ถัดมาเป็น Theater Room ภายในยกพื้นมาให้พร้อมวางเก้าอี้แบบนอนดูหนังชิลล์ๆ ส่วนฝั่งตรงข้ามมี Projector มาให้สำหรับเปิดหนังดูได้ค่ะ
ห้อง Kid’s Room ตกแต่งบรรยากาศมาด้วยสีสันสดใส ภายในมีที่นั่งเล่น ของเล่น และบ่อบอลสี Pastel ซึ่งออกแบบให้เด็กใช้งานได้จริงๆ > <
บริเวณ Co-Working Space และพื้นที่สันทนาการ เริ่มจากวางโต๊ะยาวมาให้สำหรับนั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือได้สะดวก
ข้อดีคือพื้นที่ตรงนี้มองเห็น Kid’s room ที่ผู้ปกครองสามารถนั่งทำงาน และดูลูกหลานไปด้วยพร้อมๆกันได้เลยค่ะ
ถัดเข้ามาด้านในเป็นโซนโต๊ะพูล ที่รายล้อมด้วยที่นั่งหลากหลายรูปแบบ ส่วนที่น่าสนใจคือ มีที่นั่งแบบ Bean Bag เหมาะนั่งสบายๆชิลล์ๆ ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้เราสามารถ Take View ได้ 2 ฝั่งเลย ทั้งทางด้านหน้าโครงการเเละในโครงการค่ะ
กลับมาที่บริเวณซุ้มประตู เปิดเข้ามาเป็นถนนหลักกว้าง 12 m. ที่ช่วงแรกปูคอนกรีตแสตมป์มาให้ สวยงามดี ด้านข้างปลูกต้นไม้สูงที่ทำให้บรรยากาศภายในดูร่มรื่นมากขึ้น
ตรงมามีวงเวียนที่ตรงกลางมีต้นไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งข้อดีของถนนที่เป็นวงเวียนจะช่วยให้กลับรถได้ง่ายขึ้นนะ
ภายในตั้งศาลพระภูมิมาให้ พร้อมดีไซน์สวยงามกลมกลืนกับรูปแบบโครงการ ดูทันสมัยดี
ลงมาดูพื้นที่สวนหย่อมอีกจุด พื้นที่สีเขียวภายในโครงการจะเป็นสนามหญ้าให้ลูกบ้านพาเด็กๆมาวิ่งเล่น หรือพาผู้สูงอายุมาเดินออกกำลังกายกันได้
ซึ่งบริเวณนี้จะมี Sculpture สวยงามที่ดูเป็นลักษณะโอบล้อม ที่ดูโดดเด่นชัดเจนดี
ทางเดินปูพื้นคอนกรีตมาให้ เราสามารถ Jogging รอบๆสวนหย่อมได้
สนามเด็กเล่นปูพื้น Absorption Floor รองรับแรงกระแทกช่วยลดอาการบาดเจ็บ ในการหกล้มของเด็กๆ ที่ขึ้นไปเหยียบแล้วรู้สึกนุ่มเท้ามากกว่าปกติ โดยมีทั้งบ่อทราย และเครื่องเล่นมาให้ เพื่อเสริมการเรียนรู้ของเด็กๆค่ะ
ภายในซอยย่อยกว้าง 9 m. โดยหน้าบ้านมีปลูกต้นไม้และปูพื้นหญ้ามาให้เรียบร้อย ที่ช่วยให้บรรยากาศภายในโครงการดูร่มรื่น นอกจากนี้ทุกซอยย่อยจะมี CCTV ที่มองเห็นหน้าบ้านทุกหลังได้เลย เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น
มาดูพื้นที่ Sales Gallery กันต่อ ซึ่งที่นี่มีรถกอล์ฟบริการด้วย
บรรยากาศภายใน Sales Gallery ของ The City พระราม9-รามคำแหง ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหราดี ภายในมีชุดเก้าอี้มีให้หลายตัว นั่งคุยกันได้สบายๆ ซึ่งแนะนำให้ลอง Walk-in เข้าไปดูบรรยากาศของจริงกันนะคะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการ ประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 18 x 6 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- แบ่งสระเด็กลึกขนาด 5.90 x 3 เมตร ลึก 60 ซม. / พร้อมโซน Jacuzzi
- ห้องออกกำลังกาย (Fitness) จำนวนเครื่องเล่น 9 เครื่อง
- Suana 2 จุด แยกชาย-หญิง
- Kid’s club
- Co-working Space
- Entertainment Space
- Theater room
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด รวมประมาณ 474.3 ตร.ม.
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 32 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
- Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
- ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และ รั้วเหล็กเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
แบบบ้าน
โครงการ The City พระราม 9 – รามคำแหง เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น รวมทั้งสิ้น 131 ยูนิต โดยจะมีแบบบ้านทั้งหมดให้เลือก 4 แบบ ซึ่งในในรีวิวนี้มีบ้านตัวอย่างให้ดูกัน 1 แบบคือแบบที่ใหญ่ที่สุดคือ Vespertine ก่อนที่จะเข้าไปดูแปลนบ้าน เราขออธิบายเกี่ยวกับโครงสร้างบ้านกันก่อนนะคะ
- โครงสร้างบ้าน : ก่ออิฐมวลเบา ที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยภายในได้ง่าย
- พื้นที่จอดรถเเละพื้นที่ซักล้าง : เป็นโครงสร้าง Slab on Ground ไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้
- พื้นชั้นที่ 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. (ยกเว้นห้องนอนใหญ่ และห้องครัว)
- พื้นที่ชั้น 2 + ห้องนอนชั้นล่าง : เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.
- ผนัง + หน้าต่าง : ติด Wallpaper + หน้าต่างอลูมิเนียม พร้อมกระจกสีเขียวตัดแสง
- ห้องครัว : ก่อเคาน์เตอร์มาพร้อมหน้าบาน + ซิงค์ล้างจาน + Hood ตามบ้านตัวอย่าง
- บันได : โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก
โดยบ้านทุกหลังจะมีระบบ Home Automation เปิด-ปิดไฟแสงสว่าง, เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติผ่านโทรศัพท์มือถือ และกล้อง CCTV 2 จุดภายในบ้านและโรงรถ Live Stream ผ่าน Application มาให้ นอกจากนั้นยังมี Digital Door Lock มีฟังก์ชันสร้าง Pin Code ชั่วคราวสำหรับแม่บ้าน และรักษาความปลอดภัยด้วย Magnetic+Shock Sensor บนประตูหน้าต่างรอบบ้าน
แบบบ้าน Serein ที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ ราคาเริ่มต้น 11 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีบ้านตัวอย่างให้ดู แต่เราจะวิเคราะห์แปลนเบื้องต้นกันก่อนนะคะ
Serein : ที่ดิน 52.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 233 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ครัวไทย / 2 ที่จอดรถ
ชั้นที่ 1 – ทางเข้าหลักมีที่หน้าบ้าน 1 จุด เปิดเข้ามาภายในเป็นพื้นที่ Common Area ที่เป็นแบ่งสัดส่วน โดยกั้นกลางด้วยบันไดและห้องน้ำแบบ Powder Room โดยโซนหน้าเป็นตำแหน่งห้องนั่งเล่น และด้านหลังเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ที่เชื่อมกับครัวปิดใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังมีห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว
ชั้นที่ 2 – เป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งหมด โดยมีพื้นที่ Private Living Area มาให้สำหรับลูกบ้าน ใช้งานแยกกับแขก ที่ได้ความเป็นส่วนตัวดี ส่วนห้องนอนมี 3 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว ที่ขนาดค่อยข้างใหญ่ วางเตียงขนาดใหญ่ได้สบายๆ ที่น่าสนใจคือห้อง Master Bedroom มีพื้นที่จัด Walk in Closet หน้าห้องน้ำ ได้เป็นสัดส่วนดี
ส่วนบ้านแบบที่เราจะพาไปดูบ้านตัวอย่างนั้นมีชื่อว่า Vespertine : ที่ดิน 100 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน + Double Volume / 1 ห้องแม่บ้าน / 1 ครัวไทย / 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท
ชั้นที่ 1 – ทางเข้าบ้านหลัก 2 ทาง คือจากทางหน้าบ้าน และที่จอดรถ ส่วนแม่บ้านมีทางเข้าแยกด้านข้าง พร้อมห้องนอน+ห้องน้ำส่วนตัวที่เข้าได้จากด้านนอกเลย เปิดเข้ามาเป็นโซน Common Area ที่เชื่อมต่อพื้นที่รับประทานอาหารและห้องนั่งเล่นไว้ด้วยกัน และมีห้องครัวปิดแยกใช้งาน ส่วนบริเวณนี้มีห้อง Powder Room มาให้สำหรับแขกด้วย ที่พิเศษคือมีโซน Private Living บริเวณห้องนอนชั้นล่าง ที่ได้ความสูงแบบ Double Volume 6.5 m. ส่วนห้องนอนชั้นล่าง+ห้องน้ำในตัว ออกแบบมาให้ผู้สูงอายุที่เดินใช้งานได้ปกติ แต่ไม่เหมาะกับคนที่ใช้รถเข็นนะ
ชั้นที่ 2 –เป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งหมด ประกอบด้วย พื้นที่อเนกประสงค์ที่เชื่อมต่อกับ Double Volume ชั้นล่าง และที่พิเศษเลย คือบริเวณโถงบันไดจะมีชั้นลอยขึ้นไปอีกหน่อย เหมาะทำเป็นห้องพระเล็ก ส่วนห้องพักอาศัยมี 3 ห้องนอนเล็ก+ห้องน้ำในตัว ที่หันออกหลังบ้านทั้งหมด ส่วนห้องนอนใหญ่จะหันออกหน้าบ้าน ที่ภายในมี Walk in Closet และห้องน้ำขนาดใหญ่ พร้อมอ่างอาบน้ำให้นอนแช่ตัวได้ รวมไปถึงได้ระเบียงขนาดใหญ่ที่ใช้งานได้เต็มที่
ตัวบ้านเป็นบ้านหน้ากว้าง ออกแบบมาในสไตล์ Modern ฝั่งซ้ายมือมีกระจกสูงแบบ Double Volume ที่รับแสงได้เต็มที่ ประตูทางเข้ามีทางคนเดินแยกใช้งาน บริเวณหน้าบ้านมีรั้วต้นไม้สูง ที่ช่วยบดบังสายตาจากคนภายนอก เพิ่มความเป็นส่วนตัว ประตูทางเข้า-ออกพื้นที่จอดรถเป็นบานเลื่อนเหล็กโปร่งยาว 2 ตอน
ส่วนพื้นที่จอดรถจะเป็นโครงสร้างแบบ Slab on ground พื้นคอนกรีตแสตมป์มาให้แบบในรูปเลยค่ะ โดยพื้น บริเวณนี้ไม่ได้ลงเสาเข็มไว้ แต่จะเว้นระยะจากตัวบ้านหลักและโรยหินตกแต่งมาให้ ที่จอดกว้างประมาณ 7.50 m. สามารถจอดรถได้ 3 คันไม่ใหญ่มาก และมีกล้องวงจรปิดมาให้ 1 จุดค่ะ
บริเวณพื้นที่จอดรถมีประตูทางเข้าบ้านมาให้ โดยตัวบ้านยกสูงขึ้นมาจากลานจอดรถประมาณ 50 cm. พร้อมทางขึ้นแบบ Slope มาให้สำหรับรถเข็นใช้งานได้ง่าย
ด้านข้างบ้านมีการโรยหินกรวดตกแต่ง พร้อมแผ่นทางเดินไว้ให้แบบในภาพเลยนะคะ
เดินเข้ามาด้านในสุดเป็นพื้นที่ซักล้าง เทคอนกรีตมาให้ไม่มีเสาเข็ม สำหรับตากผ้า หรือทำความสะอาดสิ่งต่างๆ พร้อมวางปั๊มขนาด 2,000 ลิตร และแทงค์น้ำ 400 w. ข้อดีของการวางบนดิน คืออนาคตจะได้ซ่อมแซมได้ง่ายค่ะ
บริเวณนี้มีห้องนอนแม่บ้าน+ห้องน้ำในตัว ที่เข้าจากทางด้านข้างได้เลย แยกใช้งานกับลูกบ้านชัดเจนค่ะ
รอบๆบ้านอีกฝั่งมีรั้วต้นไม้ช่วยบดบังสายตา พร้อมปลูกต้นไม้และจัดสวนหย่อมรอบบ้านมาให้เรียบร้อย โดยพื้นที่รอบบ้านกว้าง 2 m. เดินใช้งานได้สบายๆ
ทางเข้าหลักของบ้านจะมีพื้นที่ชายคายื่นไว้บังแสงแดด โดยมี Foyer ด้านหน้าประตูขนาด 1.96 x 1.67 m. ที่วางที่นั่งเปลี่ยนรองเท้าหน้าบ้านได้
ส่วนประตูบ้านได้เป็นบานไม้สักแท้ พร้อมช่องแสงที่รับแสงธรรมชาติได้มากขึ้น โดยเป็นลักษณะบานเปิดคู่ที่เวลาเปิดพร้อมกันจะกว้างมากกว่าปกติ
มือจับแบบ Digital Door Lock ยี่ห้อ Life Smart ซึ่งรองรับการใช้งานทั้ง 4 แบบ รหัส PIN, กุญแจ, สแกนลายนิ้วมือ และ Keycard Access
เข้ามามี Foyer อีกจุดขนาด 1.8 x 1.77 m. ที่เหมาะทำเป็นตู้วางรองเท้าได้ค่ะ
เมื่อเข้ามาจะเป็นพื้นที่ Common Area ที่เป็นลักษณะหน้ากว้างวางพื้นที่นั่งเล่นต่อเนื่องกับพื้นที่รับประทานอาหาร พร้อมหน้าต่างเยอะที่ภายในดูโปร่งโล่ง ของจริงไม่มีการดรอปฝ้ามาให้ เป็นฉาบเรียบทาสีขาวค่ะ
บ้านของจริงได้เป็นห้องโล่งๆ ที่จัดพื้นที่การใช้งานได้ตามใจผู้อยู่อาศัยเลยค่ะ โดยพื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 cm. ผนังติด Wallpaper มาให้ตามบ้านตัวอย่าง พร้อมความสูงพื้นถึงฝ้า 2.80 m. ฝ้าเพดานติดไฟ LED Downlight มาให้แบบนี้เลย
พื้นที่รับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 6-8 ที่นั่ง พร้อมพื้นที่เหลือเดินรอบโต๊ะได้สบายๆ
ด้านข้างเชื่อมต่อกับส่วน Pantry สำหรับจัดเตรียมอาหาร และเครื่องดื่มแบบง่ายๆได้
ห้องครัวปิดแยกการใช้งานเป็นสัดส่วน ภายในปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 cm. พร้อม Backsplash กระเบื้อง ที่เช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย สำหรับชุดครัวให้แบบนี้เลย หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์มีพื้นที่ใช้งาน 1.6 m. ที่ยืนใช้งาน 2-3 คนสบายๆเลย
ชุดครัวแบบก่อปูนที่มีความแข็งแรง Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีดำ พร้อมหน้าบานตู้สีดำ Hi-gloss สวยงามดี พร้อมหน้าต่างบานเลื่อนเปิดระบายกลิ่นได้ดีมากยิ่งขึ้น ซิงค์ล้างจานเป็นแบบหลุมเดี่ยวขนาด 40 x 40 cm. พร้อมติด Hood มาให้แบบหมุนเวียนออกนอกบ้าน ส่วนที่วางเตาขนาด 90 x 60 cm. ซึ่งเราต้องซื้อมาเพิ่มเองนะ
กลับมาพื้นที่ Common Area ด้านนอก มีทางเข้าห้องน้ำมาให้สำหรับแขกแยกใช้งาน
ห้องน้ำชั้นล่างแบบ Powder room คือไม่มีส่วนอาบน้ำมาให้ ภายในมีอ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ พร้อมกระจกเงาขนาดใหญ่เป็นมาตรฐาน ด้านหลังมี Low Wall กว้าง 10 cm. ที่เหมาะวางอุปกรณ์ใช้งานค่ะ
อ่างล้างหน้าแบบแขวนพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง ส่วนด้านข้างมีโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ American standard พร้อมที่ใส่กระดาษชำระ และสายฉีดชำระเรียบร้อย
กลับมาที่บริเวณพื้นที่นั่งเล่น เราจะเดินไปดูห้องนอนชั้นล่างกันต่อ โดยด้านหน้ามีพื้นที่นั่งเล่นอีก 1 จุด แยกใช้งานเป็นส่วนตัวมากขึ้น
พื้นที่นั่งเล่นบริเวณนี้อยู่มุมของบ้านที่ Take View สวนหย่อมรอบบ้านได้เต็มที่ พร้อมหน้าต่างบานใหญ่รับแสง และยิ่งทำให้บรรยากาศภายในดูโปร่งโล่ง ส่วนระยะดูทีวีกว้างประมาณ 3.3 m. เราสามารถเลือกทีวีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 45″- 50″ ได้
พื้นที่นั่งเล่นได้ความสูงแบบ Double Volume 6.50 m. มองขึ้นไปเห็นพื้นที่อเนกประสงค์ด้านบน และยังสามารถตกแต่งด้วย Chandelier เพิ่มเติมได้
หันหลังกลับมาดูพื้นที่ห้องนอนชั้นล่าง ที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ โดยทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อนกว้าง 1 m.
ภายในห้องนอนชั้นล่างเป็นพื้นไม้ลามิเนต ที่เป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 4.5 x 2.9 m. ที่วางประตูทางเข้า และประตูห้องน้ำไว้ตรงกลางอยู่เยื้องๆกัน ซึ่งทำให้จัดเฟอร์นิเจอร์ภายในค่อนข้างยาก / สำหรับบ้านของจริงประตูห้องน้ำเป็นบานเลื่อนออกด้านนอก ทำให้ต้องเว้นระยะให้ประตูเปิดปิดได้สะดวกด้วยนะ
สำหรับห้องตัวอย่างวางเตียง5 ฟุตมาให้ดูระยะใช้งาน ด้านข้างเหลือฝั่งละประมาณ 60-70 cm. เป็นระยะที่ไม่เหมาะสำหรับการใช้รถเข็นนะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นหน้าต่างบานเลื่อน รับแสงและมองวิวภายนอกจากบนเตียงได้เลย พร้อมพื้นที่เหลือวางตู้เสื้อผ้าและที่นั่งเล่นชิลล์ๆ
ห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่าง ไม่มีการแบ่งส่วนเปียก-แห้ง วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด พร้อมหน้าต่างระบายความชื้นได้ดี
พื้นทางเข้าและส่วนอาบน้ำมีการลดระดับจึงไม่เหมาะสำหรับการผู้ที่ใช้รถเข็น นอกจากนี้ยังไม่มีฉากกั้นมาให้ต้องติดตั้งเพิ่มเติม ป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาส่วนแห้ง
ภายในมีอ่างล่างหน้าและโถสุขภัณฑ์เป็นมาตรฐานค่ะ
พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.2 x 1.1 m. พร้อมที่นั่งกว้าง 1 x 0.45 m. มาให้ด้วย นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างบานกระทุ้งไว้ระบายความชื้นได้ดี / บริเวณผนังมี Junction ไว้ติดเครื่องทำน้ำอุ่น
ฝักบัวแบบ Hand Shower ขนาดพอดีมือ ที่สามารถปรับระดับการไหลของน้ำได้ บริเวณผนังมีจุด Junction ไว้ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มเติมเองได้
บันไดของที่นี่เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำให้เวลาเดินไม่มีการสั่นสะเทือนรบกวน พื้นบันได และมือจับจะเป็นไม้ยางพาราประสาน มีความกว้างของบันได 1.1 m. ที่เดินสวนทางกันได้กำลังดี ลูกตั้ง 18 cm. ลูกนอน 25 cm. เหยียบได้เต็มๆเท้าเลย
นอกจากนี้บริเวณใต้บันไดยังมีห้องเก็บของขนาด 2.1 x 1.57 m. พร้อมความสูง 1.5 m. ที่เก็บของได้เยอะดี ภายในมีงานระบบ และติดตั้งไฟมาให้บริเวณผนัง
ด้านบนมีชานพักกว้างขนาด 2.16 x 1.52 m. พร้อมหน้าต่างไว้รับแสงจากภายนอกได้ดี ทำให้พื้นที่บริเวณนี้สว่างมากขึ้นโดยไม่ต้องเปิดไฟ
ขึ้นมาชั้นที่ 2 ยังมีพื้นที่ชั้นลอย ที่เป็นมุมเล็กๆพร้อมหน้าต่างไว้มองวิวด้านนอกได้ด้วย / ส่วนพื้นถึงฝ้าบริเวณชั้นลอยสูง 2.1 m. ที่ยืนใช้งานได้สบายๆ
พื้นที่ชั้นลอยขนาน 2.1 x 1.3 ม. เหมาะทำเป็นมุมนั่งเล่นเล็กๆ หรือวางหิ้งพระได้นะ
เดินมาดูพื้นที่อเนกประสงค์กันต่อ ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้
พื้นที่อเนกประสงค์ขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะทำเป็นพื้นที่ทำงาน หรือ Family room เชื่อมต่อกับ Double Volume ด้านล่าง ทำให้เห็นว่าใครมาบ้าน โดยไม่ต้องลงไปด้านล่างนะคะ
สำหรับบ้านของจริงเป็นห้องนอนเล็ก + ห้องน้ำในตัว ซึ่งบ้านตัวอย่างทำแยกทางเข้า-ออกมาให้ เพื่อให้ดูเป็นไอเดียว่า พื้นที่ภายในสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ เนื่องจากโครงสร้างบ้านเป็นก่ออิฐฉาบปูน
สำหรับห้องนอนเล็กโครงการจัด Home Theater Room มาให้ดูเป็นไอเดีย
ห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งด้วยการลดระดับพื้น แนะนำให้ติดฉากกั้น Tempered Glass เพิ่มเติม / พื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ตามนี้เลย
เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบแขวนขนาด 43 x 30 cm. พร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง ด้านหลังมี Low Wall กว้างประมาณ 10 cm. เอาไว้ว่างอุปกรณ์เพิ่มเติมได้ / ด้านข้างมีโถสุขภัณฑ์ American Standard แบบมาตรฐานค่ะ
ฝักบัวแบบ Hand Shower ที่ปรับระดับการไหลของน้ำได้ ด้านข้างมีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้หยิบใช้งานง่าย / พื้นที่อาบน้ำขนาด 1 x 1.3 m. เป็นระยะที่ยืนใช้งานได้กำลังดี โดยลดระดับลงไปเล็กน้อย ป้องกันน้ำไหลออกด้านนอก
เดินเข้าไปดูพื้นที่ส่วนห้องนอนกันต่อค่ะ
ห้องนอนเล็กวางหันออกหลังบ้าน พร้อมหน้าต่างรับแสงได้เต็มที่ ภายในวางเตียง 5 ฟุตได้ พร้อมพื้นที่เหลือเดินรอบเตียงได้สบายๆ โดยห้องตัวอย่างตกแต่งหัวเตียงให้วางของได้เพิ่มเติม ซึ่งเราสามารถดูเป็นไอเดียได้
บริเวณด้านหน้าห้องน้ำวางตู้เสื้อผ้า พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้กำลังดี ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะใช้งาน ไม่ต้องเดินผ่านฟังก์ชันอื่นก่อน
ห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งด้วยการลดระดับพื้นเหมือนห้องที่แล้ว / พื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีโทนอ่อนตามนี้เลย
ฝักบัวแบบ Hand Shower ที่ปรับระดับการไหลของน้ำได้ ด้านข้างมีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้หยิบใช้งานง่าย / พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.35 x 0.90 m. เป็นระยะที่ยืนใช้งานได้กำลังดี
มาดูห้องนอนเล็กอีกห้อง เราจะเจอห้องน้ำก่อนแล้วค่อยเข้าไปพื้นที่ห้องนอน ซึ่งทางโครงการจัดเป็น Walk in closet มาให้ดูเป็นไอเดีย
ห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งด้วยการลดระดับพื้นเหมือนห้องที่แล้ว / พื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีโทนอ่อนตามนี้เลย
ฝักบัวแบบ Hand Shower ที่ปรับระดับการไหลของน้ำได้ ด้านข้างมีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้หยิบใช้งานง่าย / พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.35 x 0.98 m. เป็นระยะที่ยืนใช้งานได้กำลังดี
ถัดมาห้องนอนเล็กห้องสุดท้าย ตกแต่งมาหวานแววดี ที่เหมาะวางเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมพื้นที่เหลือเดินรอบเตียงได้สบายๆ พร้อมหน้าต่าง 2 ฝั่งที่รับแสงได้เต็มที่
ด้านข้างมีพื้นที่เหลือ 2 m. ที่บ้านตัวอย่างโครงการ Built-in ตู้เก็บของ มุมนั่งอ่านหนังสือ และพื้นที่นั่งเล่นมาให้ดูเป็นไอเดีย ^^
ห้องนอนใหญ่เป็นแนวยาวที่จัดเป็นสัดส่วนดี ที่วางเตียง King Size ได้สบายๆ พร้อมหน้าต่างบานเลื่อน 2 จุด ที่รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่
ระเบียงยาวที่ใช้งานได้เต็มที่ ส่วนที่กว้างสุด 2.2 x 2.2 m. ที่เอาชุดเก้าอี้ออกมานั่งเล่นชมวิว พร้อมรับลมเย็นๆได้เลย
พร้อมราวกั้นตกกระจกสีเขียวตัดแสง ทำให้มองเห็นวิวได้กว้างมากยิ่งขึ้น และดูสวยงามดี แต่ควรหมั่นเช็ดทำความสะอาด ไม่งั้นอาจจะขุ่นได้นะคะ
กลับเข้ามาภายในห้อง Master Bedroom สามารถจัด Walk-in Closet ขนาดใหญ่ด้านหน้าห้องน้ำได้เลย
ห้องน้ำแยกใช้โซนเปียก-แห้งเป็นสัดส่วน พื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 cm. ภายในมีอ่างล้างหน้า His&Her, อ่างอาบน้ำ, พื้นที่ยืนอาบน้ำ พร้อมโถสุขภัณฑ์ครบครัน
ภายในห้องน้ำกว้างใช้งานพร้อมกัน 2 คนสบายๆเลย
ชุดอ่างล้างหน้าแบบ His & Her พร้อมท็อปเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์สีขาว พร้อมพื้นที่ Low Wall และตู้ด้านหลังให้เก็บอุปกรณ์ได้เพิ่มเติม
โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ American Standard เป็นมาตรฐาน
พื้นที่อ่างอาบน้ำยกสูง 50 cm. โดยตัวอ่างกว้าง 1.4 x 0.56 m. ที่นั่งแช่ตัวได้กำลังดี ถ้าใครตัวสูงหน่อยอาจจะยืดตัวได้ไม่สุดนะ ส่วนฝักบัวมีแบบ Hand Shower มาให้ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
พื้นที่ยืนอาบน้ำประมาณ 1.15 x 1.28 m. พร้อมฝักบัวแบบ Hand Shower ของ American Standard ที่ปรับความแรงของน้ำได้เช่นกัน
ปลั๊กไฟแบบ Touch Screen โดยสีแดง=ปิดไฟ และสีฟ้า=เปิดไฟค่ะ
บริเวณชั้นที่ 2 มีตัวควบคุม Magnetic+Shock Sensor มาให้ด้วย
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
แบบห้อง
หน้าตาบ้านจริงของแบบ Inscape ขนาดกลาง เป็นลักษณะบ้านหน้ากว้าง
Inscape : ที่ดิน 59.35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน + Double Volume / 1 ครัวไทย / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
หน้าตาบ้านจริงของแบบ Brivet ขนาดรองใหญ่ เป็นลักษณะบ้านหน้ากว้าง เช่นกัน
Brivet : ที่ดิน 67.12 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน /1 ห้องแม่บ้าน / 1 ครัวไทย / 3 ที่จอดรถ
ราคา
27 August 2020
- Serein : ที่ดิน 52.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 233 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ครัวไทย / 2 ที่จอดรถ
- Inscape : ที่ดิน 59.35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน + Double Volume / 1 ครัวไทย / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
- Brivet : ที่ดิน 67.12 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน /1 ห้องแม่บ้าน / 1 ครัวไทย / 3 ที่จอดรถ
- Vespertine : ที่ดิน 105 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน + Double Volume / 1 ห้องแม่บ้าน / 1 ครัวไทย / 3 ที่จอดรถ
- ช่วงราคาเริ่มต้น 11-25 ล้านบาท
- จอง 100,000 บาท
- ทำสัญญา 200,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 32 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
The City พระราม 9-รามคำแหง ตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ฝั่งมุ่งหน้าถนนรามคำแหง โดยตรงนี้จะเป็นทางเดินรถทางเดียว(Oneway) เน้นใช้งานถนนรามคำแหงเป็นหลัก ตัวโครงการนอกจากอิงถนนรามคำแหงเป็นหลักแล้ว ยังเดินทางไปละแวกใกล้เคียงได้ทั้งลาดพร้าว, ศรีนครินทร์, พัฒนาการ, พระราม9 เป็นต้น และยังเป็นทำเลที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ เหมาะกับคนที่เดินทางบ่อยๆ โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ใช้รถยนต์เป็นหลัก บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างเงียบสงบ พวกร้านค้า ร้านอาหารต้องขับรถออกไปหน่อย แต่ก็ไม่ไกลกันมาก ใกล้สุดคือโซนสัมมากรที่มีของอร่อยค่อนข้างเยอะ ส่วนรถสาธารณะใกล้ๆมีรฟฟ.สายสีส้ม “สถานีสัมมาการ” ห่างโครงการ 1.5 km. ที่จะเปิดใช้งานช่วงปี 2566 นอกนั้นแนะนำให้เรียกรถแท็กซี่ผ่าน App แทนนะคะ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
ความปลอดภัยของโครงการนี้ถือว่ามีครบถ้วน มีกล้อง CCTV ทั้งหมด 32 ตัว พร้อมระบบ KATSAN บันทึกการเข้า-ออกของบุคคลภายนอก พร้อมลูกบ้านสามารถอนุญาตผู้มาติดต่อผ่านมือถือได้เลย ภายในตัวบ้านมีกล้อง CCTV มาให้ 2 จุด บริเวณที่จอดรถ และพื้นที่ Common Area 1 จุด ที่สามารถดูผ่าน App แบบ Real Time ได้เลย ภายในบ้านมี Home Automation เปิด-ปิดไฟแสงสว่าง, เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติได้ ส่วนประตูบ้านมือจับเป็น Digital Door Lock สามารถสร้าง Pin Code ชั่วคราวสำหรับแขกได้ด้วย นอกจากนี้ประตูหน้าต่างมี Magnetic+Shock Sensor ที่ประตูหน้าต่างทุกบาน
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
การออกแบบโครงการบนที่ดิน 36 ไร่ จำนวน 131 ยูนิต โดยวางผังเป็นแนวยาวตอนลึกเข้าไป ถนนหลักของโครงการกว้าง 12 m. ถนนรอง 9 m. มีทางเข้า-ออกจุดเดียว เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่บริเวณโซนด้านหน้าทั้งหมด ทำให้บ้านที่อยู่โซนด้านหลังสุดค่อนข้างห่างจากพื้นที่คลับเฮ้าส์ แต่ก็ได้บรรยากาศเงียบสงบ ซึ่งจากที่ลองวัดคร่าวๆคือจากหน้าโครงการไปสุดเขตที่ดิน ห่างไปประมาณ 450 m. เป็นระยะที่เดินได้อยู่นะ ส่วนตัวบ้านที่นี่วางแนวทิศเหนือทั้งหมด ทำให้ไม่โดนแดดแรง และเป็นตำแหน่งที่อากาศถ่ายเทดี นอกจากนี้แต่ละซอยย่อยมียูนิตเพียง 4-6 หลัง ที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ตัวบ้านมีให้เลือก 4 แบบ เป็นบ้านขนาดใหญ่ทั้งหมด มีพื้นที่ Double Volume เพิ่มความโปร่งโล่งให้กับตัวบ้าน ออกแบบให้มีห้องนอนชั้นล่างเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่ต้องเดินขึ้นลงบันไดบ่อยๆ แต่สำหรับคนที่ใช้รถเข็นเป็นหลักอาจต้องปรับห้องและการใช้งานบางจุดเพิ่มเติม ส่วนบริเวณใต้บันไดมีห้องเก็บของขนาดใหญ่เลย ถัดขึ้นมาชั้น 2 บริเวณโถงบันไดมีพื้นที่ชั้นลอยสำหรับทำเป็นห้องพระ หรือมุมนั่งเล่นเล็กๆ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่อเนกประสงค์เชื่อมต่อกับ Double Volume ชั้นล่าง ที่มองเห็นคนใช้งานได้จากด้านบนเลย ส่วนห้องนอนเล็กหันออกหลังบ้านขนาดใกล้เคียงกัน ปิดท้ายที่ห้องนอนใหญ่หันออกหน้าบ้านที่จัดพื้นที่ได้เป็นสัดส่วน พร้อมระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ใช้งานได้เต็มที่
วัสดุ :
โครงสร้างบ้านเป็นก่ออิฐฉาบปูนที่ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามใจชอบ ส่วนบ้านของจริงได้เป็นบ้านเปล่า ภายในมีชุด Built-in ครัวไทยเหมือนกับในบ้านห้องตัวอย่าง Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินแกรนิตสีดำ มีหน้าบานมาให้พร้อมใช้งาน พร้อมติดตั้งซิงค์ล้างจาน และ Hood มาให้ใช้งาน พื้นชั้นล่างปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 cm. พื้นห้องนอนชั้นล่าง และพื้นชั้นที่ 2 เป็นพื้นไม้ลามิเนตลาย ประตูหน้าต่างกรอบอลูมิเนียม Powder coat สีดำ กระจกเขียวตัดแสง บานประตูภายในเป็น HDF บันโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมสุขภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ American Standard ค่ะ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
พื้นที่สีเขียวของโครงการทำออกมาได้ร่มรื่น ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ Clubhouse และสวนหย่อมด้านหน้าโครงการ บรรยากาศร่มรื่นน่าใช้งาน เสาไฟฟ้าไม่ได้ลงใต้ดินแต่เดินสายเป็นระเบียบเรียบร้อย นอกจากนี้ด้านข้างของถนนหลัก และหน้าบ้าน มีปลูกพื้นที่สีเขียวมาให้ ทั้งพุ่มไม้ และต้นไม้สูง ที่ช่วยสร้างบรรยากาศดูร่มรื่นมากขึ้น และเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของบ้านพักอาศัยบริเวณหัวมุม
สาธารณูปโภค :
Clubhouse ถือว่าเป็น hilight ของโครงการนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะให้มาหลากหลายเหมือนกับอยู่คอนโดเลย โดยตัวอาคาร clubhouse เชื่อมกับซุ้มประตูที่ทำให้ดูโอ่อ่า อลังการมากยิ่งขึ้น ภายในมีสระว่ายน้ำ แยกสระเด็ก และ Jacuzzi มาให้เรียบร้อย ห้องน้ำแยกชาย-หญิง พร้อมห้อง Sauna แยกใช้งานกัน ส่วนชั้น 2 มีห้อง Co-Working พร้อมโต๊ะพูล และมุมอ่านหนังสือชิลล์, Theater Room พร้อมเก้าอี้แบบ Bean Bag ให้นอนดูนั่งได้สบายมากขึ้น, Kid’s Room มีบ่อบอลมาให้ด้วย สุดท้ายคือพื้นที่ฟิตเนสมีอุปกรณ์ครบครัน บริเวณสวนหย่อมมีการจัดพื้นที่สนามเด็กเล่นมาให้ใช้งานด้วยนะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 11 – 25 ล้านบาท, 27 August 2020
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เน้นใช้งานบนถนนรามคำแหงเป็นหลัก
- ความปลอดภัย 8.25/10 – ประตูรั้วเลื่อน รปภ.หน้าหมู่บ้าน CCTV 32 จุด พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยแบบ KATSAN ภายในบ้านมี CCTV, Digital Door Lock และ Magnetic & Shock Sensor
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – แบบบ้านมีให้เลือกหลากหลาย โดยเริ่มต้นด้วยบ้านขนาดใหญ่ 4 ห้องนอนขึ้นไป
- วัสดุ 7.75/10 – เหมาะสมกับการใช้งาน ตามมาตรฐานของโครงการ AP
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – โครงการขนาดกลาง ที่มีพื้นสวนหย่อม 2 จุด พร้อมจัดพื้นที่สีเขียวหน้าบ้านมาให้ บรรยากาศร่มรื่นมากขึ้น
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – พื้นที่ Club House ให้ฟังก์ชันต่างๆมาน่าสนใจดี
- 7.94 / 10.00
BOTTOM LINE
The City พระราม 9 – รามคำแหง บ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ที่เน้นใช้ถนนรามคำแหงเป็นหลัก ภายในมีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเริ่มต้นขนาดใหญ่ 4 ห้องนอนขึ้นไป อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ มีงบประมาณ 11 – 25 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 80,000 – 175,000 บาท
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving