Mayfield Pinklao (เมย์ฟิลด์ ปิ่นเกล้า) ทาวน์โฮมพื้นที่ใช้สอยเยอะ ในซอยบรมราชชนนี 6 ใกล้ Central ปิ่นเกล้า จาก Major Development [รีวิวฉบับที่ 2598]

Mayfield Pinklao (เมย์ฟิลด์ ปิ่นเกล้า) ณ วันที่ 1 กันยายน 2566

พิกัด Google Maps : 13.785270, 100.476656
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

Mayfield Pinklao (เมย์ฟิลด์ ปิ่นเกล้า) ตั้งอยู่ในย่านปิ่นเกล้า ซึ่งส่วนใหญ่แล้วที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ จะมีความเป็นชุมชนดั้งเดิมอยู่สูง เป็นตึกแถว ทาวน์เฮ้าส์ และ อาคารพาณิชย์ ขึ้นกันอย่างหนาแน่น ทำให้โครงการแนวราบส่วนใหญ่จะอยู่ในย่านจรัญสนิทวงศ์ หรือขยับไปทางพุทธมณฑล หรือบางกรวย-ไทรน้อยแทน ซึ่งความสะดวกสบายต่างๆก็จะลดลงจากย่านปิ่นเกล้าที่ถือเป็นจุดรวมความอุดมสมบูรณ์สูงสุดในย่านนี้

ถ้าพูดถึงทาวน์โฮมทำเลใกล้เคียง ส่วนใหญ่จะอยู่ในโซนบางขุนนนท์ หรือบางพลัด บางอ้อมีขนาด 96 – 270 ตร.ม.​ ซึ่งจะน้อยกว่า Mayfield Pinklao ทั้งหมดเลย โดยทาวน์โฮม 2 ชั้นจะมีราคา 3-5 ล้านบาท ส่วนทาวน์โฮม 3-4 ชั้น จะมีราคา 7-9 ล้านบาท 

แต่ถ้าเทียบกับบ้านเดี่ยวในระดับราคาเดียวกันช่วง 10-20 ล้านบาท จะต้องขยับออกมาโซนจรัญฯ หรือ ปิ่นเกล้า – สิรินธร​ สักหน่อย ซึ่งหลายๆโครงการก็ยังได้พื้นที่ในบ้านน้อยกว่า Mayfield Pinklao ด้วย แต่แน่นอนว่าบ้านเดี่ยวเหล่านี้จะได้ที่ดินเยอะกว่า มีบริเวณบ้านให้ใช้งานได้ค่ะ

แต่สิ่งที่ทำให้ Mayfield Pinklao ได้เปรียบกว่าทุกโครงการเลยคือเรื่องของ ทำเลที่อยู่ใจกลางปิ่นเกล้า เดินทางไป Central ปิ่นเกล้า, ตลาด และห้างอื่นๆ ได้ใกล้มาก หากชอบเดินหน่อยก็เดินไปได้เลย ในรูปแบบโปรดักส์พื้นที่ใช้สอยเยอะเทียบเท่าบ้านเดี่ยว 290-327 ตร.ม. และดีไซน์ให้ทุกหลัง มีช่องลมหรือ Open space กลางบ้าน เพื่อให้ทุกห้องมีหน้าต่าง รับแสงธรรมชาติ และระบายอากาศได้ดี ต่างจากทาวน์โฮมทั่วไปเลยค่ะ แต่ก็แลกมากับราคาที่สูงเทียบเท่าบ้านเดี่ยวเลยเช่นกัน เริ่ม 14.5 ล้านบาท*

การเดินทางโดยใช้รถ ถือว่าสะดวกดีเลย เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ในซอยบรมราชชนนี 6  ซึ่งเป็นซอยที่อยู่ฝั่งขาเข้าเมือง จึงสามารถขับรถตรงข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าไปได้สะดวกเลย

แต่ถ้าจากโครงการจะขับไปเซ็นทรัลจะต้องไปกลับรถซึ่งที่กลับรถก็ไม่ได้ไกลจากโครงการเท่าไรนัก ประมาณ 2.5 กม. แต่อย่างที่รู้กันดีว่าในย่านนี้รถติดทีเดียว ในช่วงเวลาเร่งด่วน อาจจะต้องเผื่อเวลากันดีๆ แต่หากถ้าชอบเดินหน่อย จากที่ตั้งโครงการสามารถเดินไปได้ประมาณ 1.1 กม. หรือจะนั่งพี่วินมอเตอร์ไซค์ออกมาปากซอย แล้วเดินข้ามสะพานลอยไปต่อก็สะดวกไม่แพ้กันค่ะ

ทางด่วน ที่อยู่ใกล้ๆ โครงการ คือ ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ซึ่งจะอยู่คู่ขนานกับถนนบรมราชชนนี สามารถใช้เดินทางเข้าเมืองไปโซนบางซื่อ จตุจักร ลาดพร้าวได้สะดวกเลยค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ก็ถือว่าสะดวกสบาย มีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินให้ใช้งานใกล้ๆโดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ MRTบางยี่ขัน ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 2.3 กม. เท่านั้น ใช้เดินทางเข้าสู่กรุงเทพชั้นในได้สะดวกเลย นอกจากนั้นยังมี รถไฟชานเมืองสายสีแดง เส้นทาง ศิริราช – ตลิ่งชัน ให้ใช้งานอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางได้ค่ะ

ส่วนการเดินทางโดยรถสาธารณะ อื่นๆ ก็สะดวก เพราะจากโครงการเดินออกมายังถนนบรมราชชนนี ซึ่งเป็นถนนหลักได้ไม่ไกล ประมาณ 500 เมตร ออกมาใช้รถเมล์ รถ Taxi กันได้สะดวกค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์สูง เนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางปิ่นเกล้า ใกล้ห้างใหญ่สำคัญของคนในย่านนี้อย่าง Central ปิ่นเกล้า ซึ่งรอบๆ จะเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเกาะกลุ่มกันอยู่ ทั้ง The Sense, Major Cineplex, Lotus, ตลาดปิ่นเงินปิ่นทอง รวมถึงยังมีตลาด ร้านค้า ร้านอาหารอีกหลายแห่ง เป็นจุดที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของย่านปิ่นเกล้าก็ว่าได้เลย

นอกจากนั้นยังยังเป็นทำเลที่รายล้อมไปด้วยโรงพยาบาลมากมาย ทั้งโรงพยาบาลใหญ่อย่าง รพ.ศิริราช, รพ.ตา หู คอ จมูก, รพ.ผิวหนังอโศก ปิ่นเกล้า, รพ.เจ้าพระยา และ รพ.ธนบุรี ซึ่งทั้งหมดอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 5-6 กม. เท่านั้น รวมถึงยังมีโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชื่อดังต่างๆกระจายอยู่ไม่ไกลจากโครงการด้วยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมโดยรอบส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว ตึกแถว สูง 2-3 ชั้น จะมี Apartment สูง 8 ชั้น อยู่ภายในซอยบ้าง แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะที่ใกล้โครงการเกินไป ส่วนด้านหลังโครงการติดกับคลองบางบำหรุ ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านแนวราบเช่นกันค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• เมเจอร์ ปิ่นเกล้า – 2.6 กม.
• เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า – 2.7 กม.
• เดอะเซ้นต์ ปิ่นเกล้า – 2.8 กม.
• โลตัส ปิ่นเกล้า – 3.4 กม.
• ตลาดปิ่นเงินปิ่นทอง – 2.6 กม.

โรงพยาบาล

• รพ.ตา หู คอ จมูก – 1.5 กม.
• รพ.ผิวหนังอโศก ปิ่นเกล้า – 2.5 กม.
• รพ.เจ้าพระยา – 2.7 กม.
• รพ.ศิริราช – 5.0 กม.
• รพ.ธนบุรี – 5.2 กม.
• รพ.ยันฮี – 6.4 กม.
• รพ.หัวเฉียว – 6.9 กม.

โรงเรียน

• Canadian International school of Thailand – 4.3 กม.
• มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์- 5.2 กม.
• เซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ – 5.4 กม.
• มหาวิทยาลัยศิลปากร – 6.0 กม.
• โรงเรียนเซนต์คาเบรียล – 6.4 กม.
• โรงเรียนราชวินิช – 6.5 กม.

สถานที่อื่นๆ

• MRT บางยี่ขัน – 2.3 กม.
• รถไฟสายสีแดง สถานีบางบำหรุ – 3.9 กม.
• สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา – 4.4 กม.
• สวนสันติ – 5.0 กม.
• สวนสราญรมย์ – 5.1 กม.
• ทางพิเศษศรีรัช วงแหวนรอบนอกด่านบางบำหรุ – 6 กม.
• สวนบรมมณีนารถ – 6.1 กม.

Mayfield Pinklao (เมย์ฟิลด์ ปิ่นเกล้า) เป็นโครงการทาวน์โฮมหรู จาก Major Development ภายใต้แบรนด์ “MAYFIELD” ที่ได้เปิดตัวมาแล้ว 3 โครงการ 3 สไตล์ บน 3 ทำเลทองของกรุงเทพฯ อย่างทำเล รัชดา-ลาดพร้าว, รามอินทรา-คู้บอน และ ปิ่นเกล้า รวมมูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท

Mayfield Pinklao (เมย์ฟิลด์ ปิ่นเกล้า) ถือเป็นโครงการแรกของแบรนด์ ที่ได้เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ ซึ่งครั้งนี้มาในรูปแบบทาวน์โฮมหรู พื้นที่ใช้สอยเยอะเทียบเท่าบ้านเดี่ยว ในทำเลใจกลางปิ่นเกล้า ตรงข้ามห้าง Central Pinkloa เพียง 1.1 กม. เท่านั้น พร้อมทั้งมี Facilities ให้ใช้งานครบ ซึ่งโครงการทาวน์โฮมย่านปิ่นเกล้า ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการไม่จัดสรร ดังนั้นจึงไม่มีพื้นที่ส่วนกลางกัน ทำให้การเป็นโครงการปิดพร้อมมี Facilities จึงถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่ค่ะ

โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ดินประมาณ 8 ไร่ครึ่ง ในจำนวน 68 ยูนิต ไม่เยอะมากได้ความเป็นส่วนตัวดี เมื่อเข้ามาด้านหน้าจะเป็นซุ้มประตูโครงการ ซึ่งเป็นส่วนเดียวกับ Clubhouse ติดกันจะเป็นสวน และสนามเด็กเล่นภายในโครงการ เป็นการแยกโซน Public ให้อยู่ด้านหน้าทั้งหมด ทำให้ส่วนโซนพักอาศัยจะอยู่ด้านใน ได้ความเป็นส่วนตัวดีเลย

การวางถนนภายในโครงการ จะตรงยาวตรง เป็นเส้นเดียว ตั้งแต่ทางเข้าไปจนสุดที่ดิน โดยมีทาวน์โฮมขนาบข้างทั้งสองฝั่ง หันหน้าเข้าหากันตลอดแนว โดยบ้านไซส์เริ่มต้นจะอยู่ โซนด้านหน้าทั้งหมด ส่วนแบบบ้านไซส์ใหญ่จะอยู่โซนด้านใน ผู้คนผ่านหน้าบ้านน้อยกว่า ได้ความเป็นส่วนตัวดี โดยถนนกว้างประมาณ 9-11 เมตร เดินรถสวนกันได้สะดวก พร้อมทั้งมีที่จอดรถส่วนกลางเพิ่มเติม และที่กลับรถด้านในสุด กรณีมีแขกมาพบ ก็ให้มาจอดที่นี่ได้ หรือจะกลับรถเพื่อขับออกก็สะดวกค่ะ สำหรับจุดที่น่าสนใจเราขอสรุปดังนี้

• ทัศนวิสัยดูร่มรื่นเรียบร้อย : ภายในโครงการร้อยสายไฟลงใต้ดินทั้งหมดดูเรียบร้อยดีเลย รวมถึงมีการ ปลูกต้นไม้ริมถนนระหว่างบ้านแต่ละหลังยาวตลอดแนว ซึ่งการที่ไม่มีสายไฟก็ทำให้ต้นไม้เหล่านี้โตให้ร่มเงาได้เต็มที่ ไม่ต้องคอยตัดแต่งหลบสายไฟ
• บ้านวิวสวน เดินไปใช้ส่วนกลางง่าย : บ้านโซน A (สีส้ม) เป็นบ้านโซนที่ติดกับ clubhouse และ main gate เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บ้านใกล้ทางเข้าออก และเดินมาใช้ส่วนกลางได้ง่าย รวมถึงมีหลายแปลงเลยที่ได้วิวสวน เห็นต้นไม้เขียวๆ จากภายในบ้านบรรยากาศดีเลย แต่ก็แลกมากับการที่อาจจะมีผู้คนเดินผ่านหน้าบ้านเยอะสักหน่อยค่ะ
• บ้านที่ดินเยอะ : บ้านโซน L และ K (สีแดง) จะได้ที่ดินหลังบ้านค่อนข้างกว้างสูงสุดคือลึกถึง 7 เมตร เลยค่ะ เหมาะสำหรับใครที่อยากได้บ้านไซส์เริ่มต้น แต่อยากได้พื้นที่หลังบ้านเยอะหน่อย สำหรับทำสวน หรืออยากมีพื้นที่ให้น้องหมาน้องแมววิ่งเล่นได้ค่ะ

มาดูบรรยากาศภายในโครงการกันนะคะ เริ่มตั้งแต่หน้าโครงการ จะอยู่ในซอยบรมราชชนนี 6 ซึ่งบริเวณนี้จะมีซุ้มประตูโครงการขนาดใหญ่ ดูโอ่อ่า ซึ่งเป็นส่วนเดียวกับพื้นที่ Clubhouse ค่ะ

ทางเข้า-ออก จะแยกฝั่งกันชัดเจน โดยมีป้อมยามและพี่รปภ. คอยดูแลอยู่ตรงกลางตลอด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ

ประตูทางเข้า – ออกส่วนแรกจะเป็น ไม้กั้นกระดก พร้อมระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการรวมกัน 23 จุด ส่วนระบบในการเข้า-ออก เป็นแบบจำป้ายทะเบียน (Licence Plate Recognition- LPR) ใช้งานได้สะดวก ลูกบ้านขับผ่านได้เลยไม่เสียเวลา ส่วนเมื่อเข้ามาแล้วขวามือจะเป็นสำนักงานนิติบุคคล แวะติดต่อกันได้สะดวกเลยค่ะ

ซึ่งประตูรั้วโครงการที่นี่จะเป็นแบบ Double Gate คือนอกจากจะมีไม้กั้นกระดกแล้ว ยังมีประตูรั้วเหล็กเลื่อน เพิ่มความปลอดภัยอีกหนึ่งชั้น ให้ความปลอดภัยได้ดี ซึ่งประตูนี้จะเปิด-ปิดเป็นเวลา ส่วนรายละเอียดต่างๆต้องสอบถามจากทางนิติบุคคลอีกครั้งค่ะ

สำหรับถนนส่วนหน้านี้จะกว้างประมาณ 9 เมตร ด้านในจะกว้างประมาณ 11 เมตร เดินรถสวนกันได้สบาย พื้นถนนเป็น Concrete stamped ตลอดทั้งโครงการดูสวยงาม ทั้งยังร้อยสายไฟลงใต้ดินทั้งหมด ยิ่งทำให้ดูเรียบร้อยมากยิ่งขึ้นเลยค่ะ

Clubhouse อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับซุ้มประตูทางเข้า ซึ่งดีไซน์ออกมาเป็นอาคาร 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น เน้นโทนสีขาว ตัดกับสีน้ำตาล ดูสบายตา และเพิ่มเอกลักษณ์ด้วย Facade ตีเป็น Grid เล็กๆ อะลูมิเนียมสีขาว อีกทั้งมีการลงไม้ยืนต้น และไม้พุ่มต่างๆไว้โดยรอบ ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นดีทีเดียวค่ะ

ด้านหน้า Clubhouse มีที่จอดรถรองรับอยู่ด้วย กรณีจะติดต่อนิติบุคคลก่อนเข้าบ้านก็จะจอดรถได้เป็นที่เป็นทาง ทำได้สะดวกเลย

ทางเดินขึ้นอาคาร Clubhouse จะมีทั้งบันได และทางลาดเลื่อนเพื่อรองรับสำหรับผู้พิการ และผู้สูงอายุมาให้ด้วยเรียบร้อยเลยค่ะ โดยห้องกระจกห้องแรกทางซ้ายมือนี้จะเป็น ห้องรับรอง Mayfield lounge

Mayfield lounge เป็นพื้นที่ต้อนรับที่ภายในห้องมีการจัดเป็นเฟอร์นิเจอร์เป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ และโซฟาหลายจุด มองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำ ได้บรรยากาศดีเลย สามารถมานั่งเล่นพักผ่อน หรือจะใช้เป็นพื้นที่รับแขกก็เหมาะเลย พร้อมทั้งภายในมี Private meeting ห้องประชุมเป็นส่วนตัวให้ด้วย จะนัดประชุมงานหรือ Present งานต่างๆ ก็ทำได้ค่ะ

ถัดมาด้านในจะเชื่อมต่อไปยังสระว่ายน้ำได้ ด้านหลังเป็นโถงแจกไปยังห้องน้ำ และขวามือสุดเป็นบันไดเชื่อมต่อไปยังส่วนกลางชั้น 2 ค่ะ จะเห็นได้ว่าตรงนี้มีการเลือกในระแนง Grid สีน้ำตาล ซึ่งจะ Relate กับ Facade ด้านหน้า ดูเป็นเรื่องราวเดียวกันดีเลยค่ะ

มาดูโซนห้องน้ำกันก่อนค่ะ ห้องแรกขวามือจะเป็นห้องน้ำสำหรับผู้พิการ และผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีขนาดใหญ่หน่อย ส่วนด้านในเป็นห้องน้ำชาย – หญิง

ระหว่าง ห้องน้ำชาย – หญิง มีการออกแบบเป็นสวนเล็กๆ พร้อมทั้งมีช่องเปิดได้แสงธรรมชาติจากด้านบนด้วย ช่วยทำให้บรรยากาศบริเวณนี้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ภายในห้องน้ำมีอ่างล้างมือ พร้อมกระจกบานใหญ่ ที่ดีไซน์เน้นเป็นวัสดุลายไม้ และหินในโทนสีอบอุ่น พร้อมการจัดไฟซ่อนต่างๆ ดูสวยงามน่าใช้งานดีเลย

อีกฝั่งหนึ่งมีห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องอาบน้ำ 1 ห้อง พร้อมทั้งมี Locker มาให้เรียบร้อย ซึ่งในอนาคตจะมีการติดตั้งที่ Lock เพิ่มเติมให้ด้วย สะดวกเวลาจะมาออกกำลังกาย ก็เก็บของใช้ อาบน้ำอาบท่าก่อนกลับบ้านได้เรียบร้อยเลย

ขึ้นมาชั้น 2 กันบ้างค่ะ ส่วนแรกเป็นโถงทางเดินแบบ Semi Outdoor ซึ่งบริเวณนี้จะมีลมผ่านได้ตลอดเลย เป็นข้อดีของการออกแบบให้ Facade อาคารเป็นแบบโปร่ง ให้ลมผ่านเข้ามาได้ แต่ก็บังแดดได้ดีด้วยเช่นกัน โดยห้องกระจกฝั่งซ้ายมือจะเป็น Co-Working Space ซึ่งปัจจุบันยังไม่เรียบร้อยดี หากมีรายละเอียดเพิ่มเติม เราจะรีบอัพเดทให้ชมกันอีกทีนะคะ

ถัดเข้ามาด้านในบริเวณนี้ออกแบบเป็น Open space เปิดโล่ง จัดเป็นสวนตรงกลางพร้อมกับปลูกไม้ยืนต้นไว้ด้วย หากในอนาคตต้นไม้โตแล้วบริเวณนี้จะยิ่งดูร่มรื่นขึ้นอีกค่ะ

ห้องด้านในสุดเป็น Fitness ขนาดใหญ่ ที่ภายในมีเครื่องออกกำลังกายครบครันทั้งแบบ Cardio และ weight training ประมาณ 7 เครื่อง เป็นของ Reebok และ Atheletic ครบเลย

เครื่องลู่วิ่งTreadmill เป็นของ Reebok มีจอ LED รองรับเชื่อมต่อระบบ Online Entertainment ต่างๆได้ ทั้งดู youtube , Netflix, หรือเล่น Facebook กันได้เพลินๆ ระหว่างออกกำลังกายเลยค่ะ

ภายในห้องได้หน้าต่างกระจกสูงเต็มบ้านล้อมหลายด้าน ดูโปร่งสบาย เหมาะต่อการออกกำลังกายดีเลยค่ะ พร้อมทั้งมีเครื่องกดน้ำร้อน-เย็นมาให้ด้วยสะดวกดีเลยนะ

ภายในห้องออกกำลังกาย มีห้อง Yoga Room กั้นแยกอยู่ภายในด้วยเป็นห้องกระจกขนาดใหญ่ พร้อมทั้งมี Locker อีกหนึ่งจุด พากันมาเล่นโยคะกันเป็นครอบครัวได้เลยค่ะ

ออกมายังด้านนอกกันบ้างค่ะ จาก Clubhouse สามารถเดินชื่อมต่อมายังสระว่ายน้ำและสวนด้านหลังได้เลยค่ะ ซึ่งการออกแบบให้สระว่ายน้ำหลบมุมอยู่ตรงนี้ก็ช่วยให้เป็นส่วนตัวดี เวลาใครขับรถผ่านก็จะไม่เห็นพื้นที่ส่วนนี้เลย

ส่วนแรกดีไซน์ไว้เป็นโซนน้ำตื้นๆพร้อมทั้งมี Day Bed แบบลอยตัวให้มานอนพักผ่อนกันได้ มองออกไปเห็นสระว่ายน้ำ และสวนเป็นแนวยาว บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ

ด้านหลังมีจุดล้างตัวมาให้ด้วย 1 จุด หลบมุมอยู่ ดูเรียบร้อยดีค่ะ

ซึ่งโซนน้ำตื้นตรงนี้มีการออกแบบเป็นสระเด็กตื้นๆเอาไว้ด้วย ขนาด 2.50×2.80 เมตร ลึก 0.60 เมตร พาเด็กๆ มาเล่นน้ำกันได้พร้อมทั้งมีจุดนั่งเล่นนั่งเฝ้าได้ด้วยเลยสะดวกดีโดยพื้นที่สระอยู่กลางแจ้งทั้งหมดเลย อาจจะต้องพาเด็กๆ มาว่ายน้ำได้ช่วงเช้าหรือเย็นๆ ให้แดดร่มสักหน่อยค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของสระออกแบบ Gutter น้ำล้นไว้ตลอดแนว ทำให้เราจะได้ยินเสียงน้ำไหลเป็น Ambience ผ่อนคลายดีเลยค่ะ สำหรับตัวสระว่ายน้ำจะเป็นระบบเกลือ ว่ายน้ำแล้วผิวไม่แห้ง ผมไม่เสีย ตัวสระมีขนาด 4×17.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร ใช้ว่ายออกกำลังกายได้เลย

ถัดจากโซนสระว่ายน้ำจะเป็นพื้นที่สวน ซึ่งเขาออกแบบให้มี Pavilion เก๋ๆ สำหรับเด็กๆมาวิ่งเล่นกันได้

โดยตัวสวนนี้จะเชื่อมต่อได้จากทั้งฝั่ง Clubhouse และถนนหลักเลย เมื่อลูกบ้านขับรถกลับมาก็จะผ่านส่วนกลาง และสวนทั้งหมดก่อน ซึ่งทาโครงการลงต้นไม้ไว้ให้เยอะทีเดียว ดูร่มรื่น สร้างความผ่อนคลายเมื่อกลับมาถึงบ้านได้ดีเลย

ภายใน Pavilion ออกแบบเป็น Open space โดยมีต้นไม้ใหญ่อยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยทางเดิน ให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่นกันได้สนุกเลยค่ะ

พร้อมทั้งมีส่วนที่พื้นเป็นตาข่าย สร้างความตื่นเต้น น่าสนใจให้กับเด็กๆได้ดีเลย หรือใครจะมานั่งเล่นพักผ่อนกันก็ทำได้ค่ะ

สำหรับค่าส่วนกลางที่นี่อยู่ที่ 4,300 บาท / เดือน เท่ากันทุกหลัง ซึ่งมีข้อดีคือ ไม่ว่าจะเลือก แปลงที่ดินขนาดใหญ่แค่ไหนก็เสีย ค่าส่วนกลางเท่ากันค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
• Mayfield lounge
• Private meeting
• Co-Working Space ชั้น 2
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 4×17.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร
• แบ่งสระเด็กขนาด 2.50×2.80 เมตร ลึก 0.60 เมตร
• ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่อง ของ Reebok และ Atheletic โดย เครื่องลู่วิ่งTreadmill ของ Reebok มีจอ LED รองรับเชื่อมต่อระบบ Online Entertainment ต่างๆ เช่นดู youtube , Netflix, Facebook เป็นต้น
• Yoga Room
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ รวมกันกว่าครึ่งไร่
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 23 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร และรั้วโปร่งต่อเพิ่ม (ฝั่งซอยด้านข้างเพื่อความ Private)
• ถนนหลักกว้าง 9-12 ม.
• ระบบในการเข้า-ออก จำป้ายทะเบียน (Licence Plate Recognition- LPR)
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ Double Gate ประกอบด้วย ไม้กั้นแบบกระดก และประตูเลื่อนไฟฟ้า
• เดินระบบสายไฟลงใต้ดินทั้งหมด ดูเรียบร้อย

Mayfield Pinklao (เมย์ฟิลด์ ปิ่นเกล้า) เป็นโครงการทาวน์โฮมที่มีจุดเด่นในเรื่องของพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่ให้เยอะเทียบเท่าบ้านเดี่ยว ถึง 290-370 ตร.ม. ในสไตล์ Modern ที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอยในบ้าน ได้แสงธรรมชาติ เปิดระบายอากาศ Flow ลมได้ทุกส่วน มีให้เลือก 2 แบบ ดังนี้

• TERRACE ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 27 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 290 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ /  2 ที่จอดรถ
• COURTYARD ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 30 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 327 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ

การออกแบบภายนอกอาคารทั้ง 2 แบบมาในสไตล์โมเดิร์น ในโทนสี Erthtone เน้นใช้วัสดุลายไม้ และมีพื้นที่สีเขียว Pocket Garden เป็น Facade อาคารที่ช่วยเพิ่มความร่มรื่นได้เหมือนกันเลย เพียงแต่แบบ COURTYARD ไซส์ใหญ่จะมีการใช้อิฐบล็อกแก้ว เพิ่มลูกเล่น เหมือนกันกับตัว Clubhouse เพิ่มเข้ามา ยิ่งทำให้ภาพรวมดูไปในทิศทางเดียวมากยิ่งขึ้น ส่วนความสูงรวมอาคารก็จะเท่าๆ กันดูเรียบร้อยดีเลยค่ะ

TERRACE เป็นทาวน์โฮมไซส์เริ่มต้น จัดฟังก์ชันมา 3 ห้องนอน 2 ที่จอด รองรับครอบครัวขยายอยู่กันได้ 4-5 คน เป็นพ่อแม่ และลูก 2 คนได้สบายๆ ชั้น 1-2 จัดเป็นโซนพักผ่อนที่มีพื้นที่ Double Volume ดูโปร่งโล่ง ชั้น 3-4 เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด ซึ่งทุกห้องมีห้องน้ำในตัวครบใช้งานได้สะดวกเลย และที่สำคัญคือการออกแบบช่องลมภายในบ้าน ที่ช่วยเพิ่ม Ventilation ได้แสงธรรมชาติ ระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้น 

COURTYARD เป็นทาวน์โฮมไซส์ใหญ่ 4 ห้องนอน 3 ที่จอดรถ รองรับครอบครัวใหญ่หลาย Generation ได้เลย มีห้องนอนที่ชั้น 1 รองรับผู้สูงได้ พร้อมกับมีลิฟต์ในตัวเพิ่มความสะดวกสบาย ส่วนชั้น 2 จะเป็นพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่ที่ภายในมี  Double Volume ขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน ส่วนชั้นลอยและชั้น 3 จะเป็นพื้นที่ห้องนอนทั้งหมดที่ภายในมีห้องน้ำในตัวครบสำหรับการออกแบบแน่นอนว่าต้องมี ​Courtyard ตามชื่อของบ้านแน่นอน เป็นพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่กลางบ้าน ที่จะช่วยให้บ้านมี Ventilation ที่ดี ได้แสงธรรมชาติเยอะ ดูโปร่งโล่ง ระบายอากาศได้ดี อยู่สบาย

TERRACE

สำหรับบ้านตัวอย่างที่เราจะพามารีวิวเจาะลึกกันวันนี้คือ ทาวน์โฮม TERRACE ไซส์เริ่มต้นของที่นี่กันค่ะ เป็นทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 27 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 290 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์  2 ที่จอดรถ

การออกแบบภายนอกอาคารอย่าที่บอกไปว่าเน้นใช้วัสดุโทนสีสบายตา บวกกับวัสดุลายไม้หลากหลายจุดเลย อย่าง Facade ด้านหน้าจะใช้เป็นอะลูมิเนียมลายไม้ ดูเป็นธรรมชาติ และดูแลรักษาได้ง่าย พร้อมกับมีการเพิ่มความร่มรื่นด้วยสวนเล็กๆ ที่มีการลงไม้ยืนต้น และไม้เลื้อยห้อยลงมา ดูร่มรื่นสดชื่นมากยิ่งขึ้น

สำหรับระบบการก่อสร้างก่ออิฐฉาบปูน และที่จอดรถ + ลานซักล้าง มีการลงเสาเข็มบนโครงสร้างเดียวกับตัวบ้านเลยด้วย ทำให้ทุบต่อเติมปรับเปลี่ยนฟังก์ชันภายในบ้านได้สะดวกเลย ส่วนผนังระหว่างบ้านจะใช้เป็นแบบ Double wall มี Air Gap ตรงกลาง ซึ่งจะลดความร้อน ลงเสียงจากข้างบ้าน และภายนอกได้ดีเลยด้วย ส่วนรายละเอียดของวัสดุ และ เทคโนโลยีต่างๆ ภายในบ้านสรุปได้ดังนี้

สรุปโครงสร้าง และวัสดุต่างๆภายในบ้าน | TERRACE

• ระบบการก่อสร้าง ก่ออิฐฉาบปูน
• ผนังระหว่างบ้านเป็นแบบ Double wall มี Air Gap ตรงกลาง / ผนังฉาบเรียบทาสีขาว
• ที่จอดรถ และ ลานซักล้าง ลงเสาเข็ม อยู่บนโครงสร้างเดียวกับตัวบ้าน
• หลังคา คสล. ผสมหลังคา Metal Sheet พร้อมฉนวน PU ในตัว และมีฉนวนกันความร้อน
• ปูเหนือฝ้าเพดานชั้นบนสุดที่อยู่ใต้หลังคา
• ระยะฝ้าเพดาน / ชั้น 1 Living = 3 เมตร / Double Volume 6.15 เมตร / ชั้น 2 = 2.4 เมตร / ชั้น3 – 4 = 2.8 เมตร
• ฝ้าฉาบเรียบทาสีขาวเป็นมาตรฐาน
• วัสดุปูพื้นที่จอดรถ : กระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 ซม.
• วัสดุปูพื้นชั้น 1 – 2 : กระเบื้องพอร์ซเลน ลายหิน ขนาด 60×60 ซม.
• วัสดุปูพื้นชั้น 3-4 : พื้นไม้ SPC ปูลายก้างปลา
• วัสดุปูพื้นเฉลียงหลังบ้านชั้น 1, ระเบียงชั้น 2 และระเบียงซักล้างชั้น 4 : กระเบื้องพอร์ซเลน ลายไม้ ขนาด 20×120 ซม.
• พื้นและผนังในห้องน้ำ : กระเบื้องพอร์ซเลน ลายหิน ขนาด 60×60 ซม.
• พื้นดาดฟ้าเป็นพื้น คสล.ฉาบเรียบทำกันซึม
• สุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก HAFELE / ห้อง Master ได้อ่างอาบน้ำ แบบ Free standing และอ่างล้างหน้า His&Her / Powder Room ชั้น 1 / พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจกเป็นมาตรฐาน /เตรียมปลั๊กรองรับการติดตั้งฝาสุขภัณฑ์อัตโนมัติในห้อง powder ชั้น 1 และ Master bedroom
• ติดตั้ง ระบบเครื่องทำร้อน ในห้องนอน Master Bedroom / เตรียมระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นในห้องน้ำอื่นๆ (ยกเว้นห้อง Powder room)
• โครงสร้างบันได คอนกรีต ปิดผิวด้วย ไม้ประสานทำสี
• วัสดุกรอบบานหน้าต่าง อะลูมิเนียม กระจกสีเขียวตัดแสง พร้อมช่องระบายอากาศ Airflow window ในบางตำแหน่ง
• ประตูเข้า-ออก ที่จอดรถหน้าบ้าน เป็นแบบประตูบานเฟี้ยมเหล็กทำสี พร้อมช่องวางพัสดุ และช่องขยะดีไซน์ซ่อนในซุ้มประตูหน้าบ้านทำให้ผนังดูเรียบร้อย
• ประตูทางเข้าด้านหน้าบ้าน วัสดุประตู Engineering ไม้สัก
• สวนหลังบ้านปูหญ้าและปลูกต้นโมก มีต้นไม้มาตรฐานให้เฉพาะบริเวณกระบะต้นไม้ชั้น 2 หน้าบ้านและระเบียงซักล้างชั้น 4 (Terrace)
• โปรโมชันติดตั้งแอร์ยี่ห้อ Fujitusu แบบ Casset type (ฝังฝ้า) ที่ชั้น 1 และชั้น 3 (Master Bedroom ) / แบบ wall type สำหรับห้องนอนอื่นๆ (รายละเอียดโปรดสอบถามจากทางโครงการอีกครั้ง*)

Home Automation | TERRACE

• Magnetic Sensor บริเวณ ประตู หน้าต่าง ชั้น1 จำนวน 5 จุด
• Motion Sensor เปิดไฟแสงสว่างอัตโนมัติ 4 จุด บริเวณบันไดแต่ละชั้น
• Digital Door Lock จาก LumBInaire ใช้งานได้ 5 ระบบ (ลายนิ้วมือ,การ์ด,รหัส,กุญแจ,โทรศัพท์) และ เชื่อมต่อกับระบบ Home automation ควบคุมการใช้งานผ่าน Appicaltion
• IP Camera 2 จุด บริเวณ ที่จอดรถภายนอก และบริเวณห้องรับแขก ชั้น 1
• ระบบควบคุมแสงสว่าง และเครื่องปรับอากาศ ที่ชั้น 1 และชั้น 3 (Master Bedroom)
• ระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Voice control (Google home) ที่ชั้น 1
• ระบบ เครื่องตั้งเวลารดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ (Water timer) ผ่าน Application บริเวณกระบะต้นไม้ระเบียง ชั้น 2

ชั้น 1 ด้านหน้าจะเป็นที่จอดรถ 2 คัน เต็มพื้นที่ จากนั้นก่อนเข้าบ้านมีการออกแบบเป็น Foyer เล็กๆ สำหรับนั่งถอดใส่รองเท้าได้สะดวก ส่วนภายในจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนแบบ Open Plan ที่รวมเอาส่วนนั่งเล่น+พื้นที่ทานอาหาร+Pantry ในห้องเดียว ดูกว้างขวางอยู่สบาย อีกทั้งภายในห้องมี Double Volume ฝ้าเพดานสูงช่วยเพิ่มความโอ่อ่าได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมีห้องน้ำ Powder room รองรับด้วยในตัวครบครัน

ความน่าสนใจ คือการดีไซน์ให้โถงบันได Interlock กับบ้านข้างๆ เพื่อให้ฟังก์ชันในบ้านส่วนใหญ่เป็นห้องสี่เหลี่ยมลงตัว ไม่มีผนังของโถงบันไดปูดอยู่ในห้องเหมือนทาวน์โฮมทั่วๆไป ส่งผลให้แปลนบ้านทั้ง 2 ฝั่งจะไม่ได้เหมือนกันสักทีเดียว มีจุดที่ต่างกันเล็กน้อย อย่างแปลงฝั่งซ้ายจะมี 2 ห้องเก็บของ ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ส่วนบันไดหนีไฟจะอยู่หน้าบ้าน ส่วนฝั่งขวาจะได้ห้องเดียวภายในบ้าน ส่วนบันไดหนีไฟจะอยู่หลังบ้าน

มาเริ่มกันที่หน้าบ้านกันเลยค่ะในบ้านมาตรฐาน ชุดประตูจะเป็นบานเฟี้ยมเหล็กทำสี เปิดได้กว้าง ถอยรถเข้าออกได้สะดวก พร้อมกับมีช่องวางพัสดุ และช่องขยะดีไซน์ซ่อนในซุ้มประตูหน้าบ้านทำให้ผนังดูเรียบร้อย เวลามีคนมาส่ง พัสดุตอนเราไม่อยู่บ้านก็จะวางเป็นที่เป็นทางไม่ต้องกลัวตากฝนให้เสียหาย สำหรับมิเตอร์ไฟจะไม่ได้อยู่หน้าบ้านนะคะ ทางโครงการจัดให้อยู่รวมกันที่ Back of house แถว Clubhouse เพื่อให้เวลามีคนมาจดมิเตอร์ไฟฟ้าจะได้ไม่ต้องผ่านเข้า-ออกโครงให้ลูกบ้าน เสียความเป็นส่วนตัวค่ะ

ตัวบ้านหน้ากว้างประมาณ 5.7 เมตร จอดรถ 2 คันได้สบาย และด้วยความลึกประมาณ 5.2-5.7 เมตร ทำให้จอดรถไซส์ใหญ่ SUV ได้เลย ส่วนพื้นก็มีการลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านป้องกันการทรุดตัวได้ดี ซึ่งตรงนี้บ้านส่วนใหญ่ก็มักจะต่อเติมหลังคาเพื่อบังแดด บังฝนให้กับตัวรถกันนะคะ

ถัดเข้ามา ซ้ายมือเป็น Foyer เล็กๆ ก่อนเข้าตัวบ้าน ขวามือเป็นห้องเก็บของ

ซึ่งห้องเก็บของบริเวณที่จอดรถนี้จะมีเฉพาะแปลงฝั่งซ้ายเท่านั้น ส่วนบนฝ้าเพดานจะเป็นช่องของบันไดหนีไฟฉุกเฉิน แบบบันไดลิงพับเก็บได้ เวลาต้องใช้งานจริงๆ ก็จะสามารถดึงลงมาได้อีกหน่อยค่ะ

นอกจากนั้นยังติดตั้ง Junction รองรับการติดตั้ง EV Charger และปลั๊กไฟพร้อมหน้ากากกันน้ำมาให้ครบค่ะ

Foyer หน้าบ้านเป็นเหมือนพื้นที่ Semi Outdoor ให้เราวางเก้าอี้สตูลสำหรับ นั่งถอดใส่รองเท้าได้สะดวก รวมถึงที่วางร่มวางสัมภาระต่างๆ หลังจากกลับมาบ้านได้เป็นสัดส่วนดี ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะติดตั้งกล้อง IP Camera มาให้หนึ่งจุดด้วยค่ะ

ตัวประตูที่ได้ใน บ้านมาตรฐานทุกหลังจะได้เป็นประตูไซส์ใหญ่วัสดุ Engineering ไม้สัก หน้าตาแบบนี้เลยพร้อมติดตั้ง Digital door lock ที่ใช้งานได้ 5 ระบบ จาก LumBInaire และเชื่อมต่อกับระบบ Home automation ควบคุมการใช้งานผ่าน Appicaltion ได้ด้วยนะ

เข้าบ้านมาเราจะเจอกับโถงเล็กๆ ก่อน ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะลดระดับพื้นลงเล็กน้อยเพื่อป้องกันฝุ่นก่อนเข้าบ้านได้ระดับหนึ่งเลย ส่วนผนังด้านในของบ้านมาตรฐานจะมีการทำเป็นตู้เข้ามุมเก็บพวกงานระบบไฟฟ้า Breaker ต่างๆ ดูเรียบร้อยดี หรือจะ built in เป็นตู้เก็บรองเท้า เก็บของเพิ่มเติมข้างกันก็ได้ สามารถหยิบ-เก็บรองเท้าหรือขอใช้ต่างๆ ได้สะดวกดีเลย

สิ่งหนึ่งที่เราว่าดีเลยคือ ผนังหน้าบ้าน ออกแบบเป็นกระจกขนาดใหญ่มาให้ตลอดแนวเลย ทำให้บริเวณนี้ดูโปร่งสว่าง มองออกไปหน้าบ้านเห็นคนผ่านไปมา หรือเวลามีคนมาหาก็เห็นได้ง่าย ส่วนวัสดุกรอบบานหน้าต่างเป็นอะลูมิเนียม กระจกสีเขียวตัดแสงสบายตา

เวลาเข้ามาบ้านมาแล้วพวก สวิตช์ไฟต่างๆจะอยู่ข้างประตูเลย ใช้งานได้สะดวกดีเลย นอกจากนั้นยังสามารถ ใช้งานเปิดปิดไฟ และแอร์ของชั้น 1 และชั้น 3 ผ่าน Application ได้ด้วยเช่นกันค่ะ เผื่อลืมปิดไฟ ปิดแอร์ก็เปิด App.เพื่อ recheck กันได้สะดวกเลย

นอกจากนั้นที่ขั้นนี้ภายในยังได้ ระบบป้องกันขโมยอย่าง Magnetic Sensor บริเวณ ประตู หน้าต่าง ชั้น1 จำนวน 5 จุด และมี IP Camera อีกหนึ่งตัวภายในห้องนั่งเล่นด้วยค่ะ

เมื่อเข้ามาแล้วจะเป็น พื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ หน้ากว้าง 4.2 เมตร ลึก 8.9 เมตร จัดแบบ Open Plan เปิดโล่ง โดยส่วนแรกจัดเป็น ชุดโซฟานั่งเล่นขนาดใหญ่ 5-6 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้สบาย เหลือทางเดินด้านหน้าค่อนข้างกว้างเลย และจะเห็นว่าบริเวณนี้ค่อนข้างสว่างเนื่องจากได้แสงทั้งจากทางหน้าบ้าน และจากหลังบ้านเลยด้วย

ส่วนผนังอีกฝั่งนึง จะเป็นโถงบันไดเดินเชื่อมไปยังชั้น 2  ซึ่งโถงบันไดของบ้านหลังนี้จะอยู่ชิดโซนหน้าบ้าน ทำให้ผนังฝั่งตรงข้ามโซฟาจะเหลือไม่มากประมาณ 1.6 เมตร ติดตั้งทีวี 55-60 นิ้วได้ค่ะ

ถัดเข้ามาด้านใน เป็นไฮไลต์ของชั้นนี้เลย คือพื้นที่ทางอาหาร Double volume ฝ้าเพดานสูงถึง 6.15 เมตร พร้อมหน้าต่างกระจกสูง ทำให้ได้แสงธรรมชาติเต็มที่ อีกทั้งยังสามารถติด chandelier ขนาดใหญ่เพิ่มความ Luxury ให้กับบ้านเพิ่มเติมได้ เหมาะสำหรับการเป็นพื้นที่ส่วนต้อนรับเลยนะ

ซึ่งส่วน Double volume นี้จะเชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์ที่ชั้น 2 พอดี ทำให้พื้นที่ดู Connect มองเห็นกันและกันได้เลย ส่วนวัสดุต่างๆ ของชั้นนี้ พื้นปูกระเบื้องพอร์ซเลนลายหินสีขาวนวลสบายตา ดูแลทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนผนังในบ้านมาตรฐานเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาวมาให้นะคะ

โดยพื้นที่ตรงนี้จะหน้ากว้างประมาณ 5.4 เมตร สามารถจัดเป็น Pantry country ที่ผนังฝั่งหนึ่งพร้อมกับวางชุดโต๊ะทานอาหารกลางห้องแบบในบ้านตัวอย่างได้สบาย จะเห็นได้ว่าทางเดินโดยรอบเหลือค่อนข้างกว้างเลย จะเปลี่ยนเป็นโต๊ะ 8-10ที่นั่ง ก็ยังได้ค่ะ ซึ่งจากตรงนี้จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ Powder room บริเวณมุมห้องพอดี หาก Built in Pantry เต็มผนังเหมือนในบ้านตัวอย่างจะช่วยบังประตูห้องน้ำดูเรียบร้อย ไม่ประเจิดประเจ้อดีเลย

ห้อง Powder room เป็นห้องน้ำที่มีเฉพาะส่วนแห้ง ไม่ได้มีพื้นที่อาบน้ำมาให้ พร้อมกับมีหน้าต่างกระจก ให้เปิดรับแสงและระบายอากาศได้ ตอนกลางวันไม่ต้องเปิดไฟเลยค่ะ

อ่างล้างหน้าเป็นแบบวางบนเคาน์เตอร์ ดูสวยงาม พร้อมติดตั้งกระจกบานใหญ่มาให้เรียบร้อย สำหรับสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องเป็นของ HAFELE ซึ่งในบ้านมาตรฐานห้องนี้จะเตรียมปลั๊กรองรับการติดตั้งฝาสุขภัณฑ์อัตโนมัติ เหมือนในบ้านตัวอย่างมาให้ด้วยค่ะ

จากส่วนทานอาหาร จะเชื่อมต่อกับลานซักล้างหลังบ้าน ซึ่งถ้าหากเราจัดหลังบ้านไว้เป็นสวน และมุมพักผ่อน ก็จะสามารถเปิดเชื่อมต่อพื้นที่กันได้เลย อย่างในบ้านตัวอย่างนี่ดูร่มรื่นดีเลยค่ะ

สำหรับลานหลังบ้านของแปลงนี้ ลึกประมาณ 3.2 เมตร ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นสวน และพื้นที่นั่งเล่นฝั่งหนึ่ง พร้อมอีกฝั่งหนึ่งทำเป็นห้องครัวเล็กๆ ไว้ให้ดูเป็นไอเดียได้ค่ะ ซึ่งลานซักล้างของบ้านมาตรฐานจะลงหญ้า และต้นโมก มาให้เรียบร้อย พร้อมทั้งมีการลงเสาเข็มมาให้ด้วย รองรับการต่อเติมพื้นเทปูนเป็นลานเพิ่มเติมได้ ป้องกันการทรุดตัวได้ดีเลยค่ะ

ในบ้านตัวอย่างฝั่งนี้จะจัดทำเป็นพื้นที่ครัวเล็กๆ ที่ฝั่งขวา ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งวาง Tank น้ำ ซึ่งก็ได้มีการทำเป็นประตูระแนงพรางสายตาไว้ด้วย ดูเรียบร้อยดีเลยค่ะ

ในห้องครัวของบ้านตัวอย่างนี้ ทำเป็นห้องกระจกให้ดูโปร่ง และเปิดระบายอากาศได้สะดวก เป็นห้องขนาด 1.85×1.85 เมตร จะเห็นได้ว่าทำ Counter ครัวได้ครบเลย มีเตา 4 หัวพร้อม Hop&Hood และอ่างล้างจานได้สบายๆ

กลับมาที่ส่วนโถงบันไดกันบ้าง ใช้เป็นโครงสร้างคอนกรีตแข็งแรง หน้ากว้าง 1 เมตร ชานพักเป็นสี่เหลี่ยมทั้งหมดเดินได้สบาย โดยบันไดช่วงแรกฝั่งขวามือจะมีห้องเก็บของอีกหนึ่งห้อง เก็บสัมภาระชิ้นใหญ่ๆ อย่างกระเป๋าเดินทางได้หลายใบเลย

ซึ่งที่ตำแหน่งบันไดนี้จะมี Motion censor มาให้ทุกชั้น เวลาเดินผ่านไฟบันไดก็จะเปิดให้อัตโนมัติ ทั้งสะดวก และยังช่วยประหยัดไฟได้อีกด้วย

ที่ชานพักบันไดจะมี ประตูหนีไฟฉุกเฉินมาให้ ทุกชั้นเลย ซึ่งจะเปิดไปเชื่อมต่อกับบันไดหนีไฟด้านหน้าบ้านพอดีค่ะ

ชั้น 2 เป็นห้องอเนกประสงค์ ที่เหมาะสำหรับจัดเป็นห้องทำงาน หรือห้องพักผ่อน Family room ที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เป็นห้องที่ติดกับ Double volume ของชั้นล่าง มองเห็นกันและกัน ทำให้ดูเชื่อมต่อฟังก์ชันกันได้ดี อีกทั้งห้องนี้ยังเชื่อมต่อกับ Terrace ขนาดใหญ่ภายนอก ซึ่งมีการจัดเป็นพื้นที่สวนเล็กๆ เพิ่มความร่มรื่นได้ดียิ่งขึ้นเลยค่ะ

ห้องอเนกประสงค์มีขนาด 3.25×5.4 เมตร บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งทีเดียว เนื่องจากได้ช่อง หน้าต่างกระจกถึงสามด้านเลย ส่วนระยะฝ้าเพดานชั้นนี้จะอยู่ที่ 2.4 เมตร พอดีๆ พื้นและผนังแบบเดียวกันกับชั้นก่อนหน้าเลยค่ะ

ภายในบ้านตัวอย่างจัดเป็นโต๊ะทำงานฝั่งนึง และโซฟาเดี่ยวสำหรับพักผ่อนวางลอยตัวเท่ๆ อีกฝั่งหนึ่ง เป็นห้องทำงานพักผ่อนไปได้ในตัว หรือใครอยากจะจัดเป็นห้องทำงานจริงจัง ก็จะสามารถรองรับได้ 3-4 ชุดเลยค่ะ

ซึ้งประตูกระจกที่เชื่อมต่อกับ Terace นั้น ดีไซน์ไว้เป็นแบบเข้ามุม ไร้เสากลาง ดูโปร่ง และเรียบร้อยดีเลย สามารถเปิดเชื่อมต่อพื้นที่กับ Terrace ได้ต่อเนื่องกันดีเลย โดยส่วน Terrace จะเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องพอร์ซเลนลายไม้ ขนาด 20×120 ซม. ดูธรรมชาติอบอุ่น แต่ดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่ายเลยค่ะ

ตั้งแต่ชั้นนี้เป็นต้นไป ผนังจะมีการออกแบบให้มี ช่องลมระบายอากาศภายในบ้าน หรือที่ทาง โครงการเรียกว่า “VENTILATION SURFACE” ยอมเสียพื้นที่ใช้สอยบางส่วนเพื่อให้ทุกฟังก์ชันมีหน้าต่าง ได้แสงธรรมชาติหลายด้าน ดูโปร่ง ช่วยลดอุณหภูมิ และถ่ายเทอากาศทำให้บ้านเย็นสบาย

Terrace อยู่ติดกับโซนหน้าบ้าน ทางโครงการมีการดีไซน์เป็นที่นั่ง Outdoor และกระบะต้นไม้ พร้อมลงไม้ไซส์กลาง และไม้เลื้อยไว้ให้ด้วย ซึ่งนอกจากจะ เพิ่มความร่มรื่นให้กับ พื้นที่พักผ่อนชั้นนี้แล้ว ยังทำให้เวลามองจากข้างนอกมายังหน้าบ้านแล้วยิ่งดูมีชีวิตชีวา ผ่อนคลายได้อีกด้วยค่ะ

และที่สำคัญคือติดตั้ง ระบบเครื่องตั้งเวลารดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ (Water timer)ที่ใช้งานสั่งการต่างๆ ผ่าน Application บริเวณกระบะต้นไม้ระเบียงมาให้ด้วย แม้ไม่อยู่บ้านก็สามารถรดน้ำต้นไม้ได้สะดวกเลย ไม่ต้องกังวลกลัวน้องแห้งเหี่ยวตอนไม่อยู่บ้านนานหลายวันเลยค่ะ

ชั้น 3 เป็นพื้นที่ของ Master Bedroom เต็ม Floor เลยค่ะ เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่สามารถจัดเป็นส่วนพักผ่อน Walk in Closet และห้องน้ำในตัวขนาดใหญ่ได้เลย ภายในห้องได้ช่องหน้าต่างหลายจุดทั้งจากทางหน้าบ้านหลังบ้าน และจากช่องลมระบายอากาศภายใน (VENTILATION SURFACE) ทำให้ Flow ลมได้ดี และดูสว่างอีกด้วยค่ะ

เมื่อเปิดเข้าห้องมาแล้วฝั่งซ้ายมือจะเป็นส่วนพื้นที่พักผ่อน สามารถวางเตียง 6 ฟุต พร้อมโต๊ะหัวเตียงและมีทางเดินโดยรอบได้สบาย ปลายเตียงเหลือค่อนข้างกว้าง จะวางโต๊ะทีวีลอยตัวเก๋ๆ อีกสักตัวก็ยังได้

นอกจากนั้นที่หน้าต่างฝั่งหน้าบ้านยังมีการออกแบบเป็น Bay window ที่มีการก่อที่นั่งปูนเอาไว้ให้เรียบร้อยกว้างประมาณ 1 เมตร จัดเป็นมุมนั่งเล่นริมหน้าต่าง คู่กับโซฟาสตูลสวยๆ ได้แบบนี้เลยค่ะ

สำหรับห้องนี้มีขนาดหน้ากว้าง 3.2 เมตร ลึกประมาณ 7.4 เมตร ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว จะกั้นแยกโซนระหว่างห้องนอนกับห้องแต่งตัว ให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้นก็ยังได้ แนะนำให้เป็นประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อคงความโปร่งโล่งเอาไว้ค่ะ

Walk in Closet มีขนาดประมาณ 4.2×3 เมตรสามารถจัดเป็น ตู้เสื้อผ้าเข้ามุมเต็มผนังทั้งสองฝั่ง พร้อม Island กลางได้สบาย ถูกใจสาย fashionista ที่มีเสื้อผ้าเยอะแน่นอนค่ะ

สำหรับวัสดุพื้นชั้นนี้ใช้เป็น SPC ลายไม้ วาง Pattern ลายก้างปลา สวยงาม เพิ่มความ Luxury ได้ดียิ่งขึ้น ส่วนระยะฝ้าเพดานที่ 2.8 เมตร สูงทีเดียวค่ะ ทำให้ห้องดูโปร่งดีเลยนะ

ที่น่าสนใจคือภายในห้องมีหน้าต่าง กระจกหนึ่งจุด เปิดระบายอากาศได้ อีกทั้งเหมาะสำหรับจัด เป็นโต๊ะเครื่องแป้งริมหน้าต่างเลย ได้แสงเต็มที่ไม่ต้องกลัวหน้าลอยเลยค่ะ

เข้ามาดูห้องน้ำ Master กันบ้าง ภายในห้องมีหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้ดูสว่าง และเปิดระบายอากาศ ลดความชื้นได้ดีเลย และที่สำคัญภายในห้องนี้ได้ อ่างล้างหน้า His & Her และ Bathtub แบบลอยตัวริมหน้าต่าง สวยงามทีเดียว

สำหรับอ่างล้างหน้า เป็นแบบวางบนเคาน์เตอร์ มีขนาดกว้าง 1.9 เมตร ด้านล่างมีชั้นเก็บของมาให้ครบครัน และที่สำคัญห้องนี้ติดตั้งระบบเครื่องทำน้ำร้อนมาให้ด้วยค่ะ

ส่วน อ่างอาบน้ำ เป็นแบบลอยตัวจาก HAFELE มีขนาดกว้างประมาณ 1.6 เมตร นอนแช่พักผ่อนได้สบายๆ เลยค่ะ

มาดูอีกฝั่งกันบ้างจัดเป็นห้องอาบน้ำ และห้องโถสุขภัณฑ์ แยกออกจากกันเป็นสัดส่วน โดยฉากกั้นกระจก สามารถใช้งานพร้อมกันได้

ภายในห้องอาบน้ำมีขนาด 1.3×1.2 เมตร ยืนอาบหมุนตัวได้สะดวก ภายในมีการออกแบบเป็นที่นั่งคอนกรีต สำหรับนั่งขัดตัวได้สบาย ที่อาบน้ำเป็นแบบ Rain shower และ Hand shower ในตัว ที่ผนังมีการออกแบบเป็นชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำไว้ครบครัน

บริเวณโถสุขภัณฑ์ มีหน้าต่างกระจกระบายอากาศขนาดใหญ่หนึ่งจุด และสามารถเปิดเชื่อ ไปยัง ระเบียงเล็กๆด้านนอกได้ ทำให้สว่างดีเลย ตอนกลางวันใช้งานไม่ต้องเปิดไฟเลยค่ะ สำหรับโถสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆ จาก HAFELE แบบนี้เลย พร้อมเตรียมปลั๊กรองรับการติดตั้งฝาสุขภัณฑ์อัตโนมัติไว้ให้ด้วยค่ะ

ความน่าสนใจคือภายในห้องน้ำนี้มีระเบียงสำหรับตากผ้าเช็ดตัวตาก Underwear เล็กๆน้อยๆได้ในตัวเลยด้วย สะดวกดีเลยค่ะ

ชั้น 4 ประกอบไปด้วย 2 ห้องนอนรอง ที่ภายในมีห้องน้ำในตัวครบ ใช้งานได้สะดวกสบาย พร้อมกับมีพื้นที่ซักล้างตรงกลางเล็กๆ จัดเป็นห้อง Laundry ที่ซัก ตาก รีด ได้ครบจบในห้องเดียว ส่วนบรรยากาศจะเป็นอย่างไรไปชมกัน

มาดูห้องนอนรอง ห้องแรกโซนหน้าบ้านกันก่อนเลยค่ะ เป็นห้องที่โปร่งทีเดียว ได้หน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ฝั่งหน้าบ้าน และฝั่งช่องลมระบายอากาศ (VENTILATION SURFACE) ภายในห้องมีขนาด 3.2×3.95 เมตร หากจัดเป็นห้องนอนจะสามารถวางเตียง 5-6 ฟุต ตู้เสื้อผ้า และที่นั่งพักผ่อนได้สบาย  แต่ในบ้านตัวอย่าง จัดทำเป็นห้องสำหรับพักผ่อนและทำงานได้ในตัว พร้อมมี Bay window ที่นั่งพักผ่อนริมหน้าต่างเก๋ๆ ตลอดแนวได้เลยใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งบ้านได้นะคะ

ที่ผนังฝั่งนี้จะเห็นได้ว่าหากวางเตียงชิดผนังแล้ว หน้าต่างกระจกจะอยู่ด้านข้างเตียง 2 ฝั่งได้พอดีเลยค่ะ ส่วนประตูทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ด้านข้างประตูห้องเลยค่ะ สำหรับวัสดุ พื้นเป็น SPC ลายไม้ระยะฝ้าเพดานจะอยู่ที่ 2.8 เมตร เหมือนกับชั้นก่อนหน้าเลย

ภายในห้องน้ำได้ หน้าต่างกระจกบานใหญ่ทีเดียว ทำให้ดูโปร่ง สว่าง เปิดระบายอากาศได้ดีเลยค่ะ ซึ่งหน้าต่างนี้จะอยู่ติดกับกระบะต้นไม้ บริเวณลานซักล้างด้านหลัง ทำให้เห็นยอดไม้ดูร่มรื่นดี  สำหรับอ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ HAFELE เช่นกันค่ะ

Shower box ในห้องนี้จะได้ ประตูกั้นกระจกแบบเข้ามุม ภายในมีขนาด 2.75×3.6 เมตร พร้อมที่อาบน้ำแบบ Hand shower และชั้นวางของภายในผนัง ครบเลยค่ะ

มาดูห้องถัดมากันบ้าง เป็น Laundry area พื้นที่ซักล้างที่ดีไซน์ให้เป็นแบบ Semi Outdoor บางส่วนอยู่ในที่ร่ม เพื่อให้วางเครื่องซักผ้า และตู้เก็บของต่างๆได้สะดวก ซึ่งในบ้านมาตรฐานจะเป็นที่ว่างในผนังกว้างประมาณ 1 เมตร Built in ตู้ในผนังได้แบบนี้เลย ดูเรียบร้อยเป็นสัดส่วน

พื้นมีการลด step เล็กน้อย เพื่อกันน้ำย้อนไปยังส่วนอื่นๆได้ดี และจากภาพจะเห็นได้ว่า Terrace นี้ติดกับช่องลมระบายอากาศ ทำให้ได้แสงแดดธรรมชาติ ตากผ้าให้แห้งได้เร็วเลยค่ะ ส่วนด้านในมีการออกแบบเป็นกระบะสำหรับปลูกต้นไม้ได้ ซึ่งตรงนี้ได้แสงค่อนข้างดี หากเลือกต้นไม้ที่เหมาะต่อสภาพแสงปานกลางอย่าง ไทรใบสัก หรือเกล็ดกระโห้ ก็จะเจริญเติบโตได้ดีค่ะ

มาดูห้องนอนรองโซนหลังบ้านกันบ้าง เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วจะเจอกับโถงเล็กๆ หน้าห้องก่อน ซึ่งดีเพราะ ไม่ได้เปิดมาแล้วเจอเตียงตรงๆเลย จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น รวมถึงสามารถวาง ที่แขวนหมวก กระเป๋า หรือชั้นวางของเข้ามุมเพิ่มเติม สำหรับวางสัมภาระต่างๆ เมื่อเข้าห้องมาได้ก่อนเลย เป็นสัดส่วนดี

ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียกโซนแห้งชัดเจน จัดฟังก์ชันเรียงลำดับการใช้งานลงตัว วัสดุสุขภัณฑ์ต่างๆเหมือนห้องก่อนหน้าเลยค่ะ นอกจากนั้นภายในห้องได้หน้าต่างกระจกด้วยเช่นกัน แต่จะเปิดไปยังโซนหลังบ้าน แนะนำให้ติดม่านบังสายตา เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นค่ะ

ภายในห้องนี้จะได้หน้าต่างบานใหญ่ 1 จุดจากทางหลังบ้าน ดูโปร่งทีเดียว ภายในห้องมีขนาด 3.6×2.75 เมตร สามารถวางเตียง 5-6 ฟุต กลางห้องแบบมีทางเดินโดยรอบ และตู้เสื้อผ้าได้สบาย

หากมีเสื้อผ้าไม่เยอะมากจะเปลี่ยนเป็นตู้ขนาด 1.2 เมตร พร้อมโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งก็ยังได้ ส่วนผนังปลายเตียง มีการวางงานระบบสำหรับติดตั้ง ทีวีมาให้เรียบร้อย ด้วยระยะห้องนี้จะติดตั้งขนาด 50-55 นิ้วได้ค่ะ

ชั้นดาดฟ้า สามารถจัดเป็น ส่วนพักผ่อน Outdoor เพิ่มเติม สำหรับพักผ่อน หรือ Party กันเบาๆ ก็ยังได้ หรือจะจัดเป็นสวนกระถาง ปลูกพืชครัวเล็กๆ ก็สะดวกค่ะ ได้แสงแดดค่อนข้างดีเลย เป็นการแก้ปัญหาบ้านทาวน์โฮมที่มักจะไม่มีพื้นที่ปลูกต้นไม้หรือทำกิจกรรมเล็กๆน้อยๆนอกบ้านได้ และยังถือเป็นการใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าเลยด้วยค่ะ

โถงบันไดเดินขึ้นมายังชั้นดาดฟ้า ค่อนข้างสว่างเลย ทางโครงการออกแบบให้มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่หลายจุดเลย

ในบ้านมาตรฐาน พื้นชั้นดาดฟ้าจะเป็น คสล.ฉาบเรียบทำกันซึม และจะเป็นพื้นที่โล่งๆ ซึ่งเราสามารถออกแบบได้ตามใจชอบเลย จะจัดเป็นกระบะปลูกต้นไม้แบบบ้านตัวอย่างนี้ก็ได้ หรือจะปลูกพืชสวนครัวก็สะดวกค่ะ ได้แสงแดดค่อนข้างดี

บนชั้นดาดฟ้า มีพื้นที่ประมาณ 3.1×3.4  เมตร จะดวางเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ Outdoor 6-8 ที่นั่งได้เลย พร้อมมีปลั๊กไฟที่ติดตั้ง หน้ากากกันน้ำให้เรียบร้อยด้วย ใช้งานกระทะไฟฟ้า ปาร์ตี้กันได้สะดวกเลยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

Mayfield Pinklao ราคา ณ วันที่ 1 กันยายน 2566

• TERRACE ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 27 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 290 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 14.5 ล้านบาท*
• COURTYARD ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 30 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 327 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น N/A ล้านบาท*
  
• ค่าจอง 50,000 บาท
• ค่าทำสัญญา 650,000 บาท
• ราคาที่ดินเพิ่ม – ลด 120,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 4,300 บาท / เดือน (เท่ากันทุกหลัง)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการตั้งอยู่ในซอยบรมราชชนนี 6 ทำเลใจกลางปิ่นเกล้า ความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ใกล้ห้าง Central ปิ่นเกล้า ในระยะเดิน 1.1 กม. หรือจะขับรถไปก็ประมาณ 2.5 กม. เท่านั้น ซึ่งรอบๆห้างจะเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเกาะกลุ่มกันอยู่ทั้ง The Sense, Major Cineplex, Lotus , ตลาดปิ่นเงินปิ่นทอง รวมถึงยังมีตลาด ร้านค้า ร้านอาหารอีกหลายแห่ง เป็นจุดที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของย่านปิ่นเกล้าก็ว่าได้เลย

การเดินทางใช้รถใช้ถนนถือว่าสะดวกเลย ตั้งอยู่ในซอยฝั่งขาเข้าเมือง จึงสามารถขับรถตรงข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เข้าเมืองไปได้สะดวก หรือจะใช้ทางด่วน ก็มีทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกใกล้ๆ ใช้เดินทางไปโซนบางซื่อ จตุจักร ลาดพร้าวได้ง่าย พร้อมมีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินให้ใช้งาน ใกล้ที่สุดคือ MRTบางยี่ขัน ประมาณ 2.3 กม. เท่านั้น ใช้เดินทางเข้าสู่กรุงเทพชั้นในได้สะดวกเลย นอกจากนั้นยังมี รถไฟชานเมืองสายสีแดง ให้ใช้งานเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางได้ค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ให้มาครบครัน และถือเป็นจุดที่โดดเด่น แตกต่างจากทาวน์โฮมรอบข้างที่ส่วนใหญ่มาในรูปแบบโครงการเปิด ทำให้ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยส่วนกลางมาให้ โดยประตูเข้าออกโครงการแบบ Double Gate ประกอบด้วย ไม้กั้นแบบกระดก และประตูเลื่อนไฟฟ้า พร้อมมีรปภ. และCCTV คอยดูตลอด 24 ชั่วโมง ปลอดภัยดี เข้าออกด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน ลูกบ้านใช้งานได้ง่าย ขับผ่านได้เลย ภายในบ้านมีระบบ Magnetic Censor ที่ประตู หน้าต่างชั้นล่าง 5 จุด พร้อม IP Camera 2 ตัวที่หน้าบ้าน และในบ้านชั้น 1 ควบคุมสั่งงการผ่าน Application ได้สะดวกดีเลย

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : ทำออกมาได้ดี โมเดิร์นสวยงาม ต่างจากโครงการรอบข้างพอสมควรเลย ส่วนตัวบ้านถือว่าโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบที่เน้นให้มีช่องลม Open space ภายในบ้าน เพื่อให้ ทุกฟังก์ชันภายในบ้าน มีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติ เปิดระบายอากาศได้ทุกห้อง แก้ปัญหาทาวน์โฮมที่มักจะระบายอากาศได้ไม่ค่อยดี ช่องเปิดน้อยไปได้เลย

ส่วนฟังก์ชันก็ทำได้น่าสนใจ ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในครบ ใช้งานได้สะดวกดีเลย พร้อมกับมีห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ที่มี Double Volume ภายในดูโปร่งโล่ง เป็นหน้าเป็นตาได้เลย นอกจากนั้นส่วนหนึ่งที่ชอบคือออกแบบให้ส่วนซักล้างซ่อนอยู่ที่ชั้นบน ดูเรียบร้อยดี แต่ยังคงใช้งานซักผ้า ตากผ้าได้จริง พร้อมทั้งมีพื้นที่ดาดฟ้าให้ทำสวน ปลูกผักสวนครัวเล็ก หรือทำกิจกรรมนอกบ้านเล็กๆน้อยๆได้ ต่างจากทาวน์โฮมทั่วๆไปมักจะไม่มีพื้นที่ Outdoor ให้ใช้งานได้ดีเลย แถมยังรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุได้ด้วย มีแบบบ้านไซส์ใหญ่ที่มีห้องนอนชั้นล่าง และลิฟต์ในตัว ที่สำคัญคือมีห้องครัวมาครบ ไม่ต้องกั้นห้องเพิ่มเติม แต่สำหรับบ้านไซส์เริ่มต้น จะไม่มีห้องครัวมาให้ ทำให้คนส่วนใหญ่ก็มักจะต่อเติมครัว หรือกั้นห้องเพิ่มเติมกันค่ะ ซึ่งต้องเผื่องบประมาณสำหรับครัวไว้ด้วยนะคะ

วัสดุ : ถือว่าให้มาดีตามมาตรฐานบ้านระดับราคานี้เลย โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน ทุบต่อเติมได้สะดวกปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้สะดวก ที่จอดรถ ลานหลังบ้าน ลงเสาเข็มมาให้เรียบร้อย ภายนอกอาคารเน้นใช้วัสดุลายไม้ดูธรรมชาติ แต่เน้นให้ทนทานดูแลรักษาง่าย อย่าง Facade เป็นอะลูมิเนียมลายไม้ พื้น Terrace เป็นกระเบื้องลายไม้ เป็นต้น

ส่วนวัสดุในบ้าน พื้นส่วนนั่งเล่น ทำงาน ใช้กระเบื้องพอร์ซเลน ดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่าย ชั้นห้องนอนต่างๆ ใช้พื้น SPC ลายไม้ ปูลายก้างปลาสวยงาม ดูอบอุ่นเข้ากับพื้นที่ห้องนอนดีเลย สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ HAFELE พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจก ในห้อง Master ได้อ่างล้างหน้า His&Her และ Bathtub มาด้วยดูหรูหราดีเลย พร้อมทั้งติดตั้ง Home Automation มาให้หลากหลาย ทั้งช่วยในเรื่องความปลอดภัย อย่าง Magnetic Censor, Ip Camera และเรื่องความสะดวกสบาย ใช้งานเปิดไฟ และแอร์ผ่าน App. ได้ มี Motion Censors เปิดปิดไฟบันไดอัตโนมัติ และ Water timer ควบคุมการรดน้ำต้นไม้ผ่าน App. ได้ด้วยเช่นกัน

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : บรรยากาศภายในโครงการเรียบร้อย และร่มรื่นดีเลย เนื่องจากเป็นโครงการที่ร้อยสายไฟลงใต้ดินทั้งหมด พื้นถนนโครงการเป็น Concrete stamped ยาวตลอดแนว พร้อมทั้งมีการลงต้นไม้ตลอด 2 ข้างทางระหว่างบ้านแต่ละหลัง ดูร่มรื่นดีเลย ส่วนพื้นที่สีเขียวก็จะมีสวนด้านหน้าโครงการที่ภายในมี Pavilion ให้เด็กๆวิ่งเล่นก้นได้ มีการลงต้นไม้น้อยใหญ่ไว้สวยงามน่าใช้งาน นอกจากนั้นภายในบ้านทุกหลัง ทางโครงการยังมีการทำสวนภายในบ้าน หลังบ้าน รวมถึง pocket garden หน้าบ้าน เป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโครงการได้ดีเลย

สาธารณูปโภค : มีให้ใช้งานครบครัน เพียงพอต่อจำนวนยูนิตที่ไม่เยอะมาก 68 ยูนิต ซึ่งทำให้การ Sharing พื้นที่ส่วนกลางก็น้อย เวลาใช้งานผู้คนไม่พลุกพล่าน มี Clubhouse ที่เป็นส่วนเดียวกันกับ Main Gate ออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น สวยงามน่าใช้งาน มีห้องรับรองขนาดใหญ่ ภายในมีห้องประชุม ใช้งานได้จริง พร้อม Co-working space ให้ลูกบ้านมานั่งทำงานเปลี่ยนบรรยากาศกันได้ สำหรับส่วนกลางเพื่อการออกกำลังกายก็มี Fitness ที่มีเครื่องออกกำลังกายครบครัน ใช้งานพร้อมกันได้ 7-8 คน และมีห้องโยคะมาให้ด้วย ส่วนสระว่ายน้ำ จะอยู่ในตำแหน่งหลบมุม เป็นส่วนตัวดี ทั้งยังเทควิวสวนได้บรรยากาศดีด้วย ขนาดของสระใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริง พร้อมมีสระเด็กในตัว แต่จะเป็นสระกลางแจ้ง ทำให้ใช้ได้สะดวกในช่วงเวลาแดดร่มหน่อยค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 14.5 ล้านบาท, 1 กันยายน 2566

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 9/10 – ทำเลใจกลางปิ่นเกล้า อุดมสมบูรณ์สูง เยื้อง Central ปิ่นเกล้า เดินได้ 1.1 กม. ใกล้ MRTบางยี่ขัน 2.5 กม.
• ความปลอดภัย 8.25/10 – รั้วไม้กั้นกระดก และรั้วเหล็กรางเลื่อน ระบบจดจำป้ายทะเบียน ในบ้านมี Magnetic Censor และ IP Camera
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – เน้นความโปร่ง ได้แสงธรรมชาติทุกห้องมีหน้าต่างระบายอากาศดี สไตล์โมเดิร์นสวยงาม
• วัสดุ 8/10 – โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน ที่จอดรถ ลานหลังบ้าน ลงเสาเข็มมาให้เรียบร้อย วัสดุอื่นๆให้มาดีตามมาตรฐานของบ้านระดับนี้เลย
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.5/10 – ร้อยสายไฟลงใต้ดินทั้งหมด มีต้นไม้ตลอดสองข้างทางถนน สวนหย่อมรวมกันกว่าครึ่งไร่
• สาธารณูปโภค 8.25/10 – ครบครัน เหมาะสมต่อจำนวนยูนิตที่ไม่เยอะมาก สวยงาม ใช้งานได้จริง
• 8.66 / 10.00 

Mayfield Pinklao เหมาะกับใคร

โครงการ Mayfield Pinklao เหมาะสำหรับ คนที่มองหาบ้านทำเลใจกลางปิ่นเกล้า เน้นความสะดวกสบายใกล้ห้าง ใกล้ตลาด​ อยากได้บ้านพื้นที่ใช้สอยเยอะ มีรถ 2-3 คัน ไม่ได้ทำสวนรอบบ้าน หรือใช้สอยที่ดินมากนัก ​ไม่ซีเรียสที่เป็นทาวน์โฮม 3.5-4 ชั้น ต้องเดินขึ้น-ลงหน่อย แต่หากมีผู้สูงอายุอยู่ด้วย ก็มีแบบบ้านที่มีลิฟต์ในตัวให้เลือก​ ชอบบ้านโมเดิร์น บรรยากาศในบ้านโปร่ง ได้แสงธรรมชาติเยอะ มีการดีไซน์ช่องลมระบายอากาศภายในบ้าน ทำให้ทุกห้องมีหน้าต่างเปิดระบายอากาศได้สะดวก ​อยากมีส่วนกลางให้ใช้งาน และระบบรักษาความปลอดภัยครบ มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 14.5 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 101,500 บาท/เดือน ขึ้นไป