Curator รามอินทรา 117 ทาวน์โฮม 2 ชั้น บนถนนรามอินทรา ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู จาก URBAN Property [รีวิวฉบับที่ 2371]

 CURATOR รามอินทรา 117 ณ วันที่ 22 เมษายน 2565

พิกัด Google Maps : 13.824648563017202, 100.71241365548399
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Curator รามอินทรา 117 ตั้งอยู่บนทำเล รามอินทรา – บางชัน สเตชัน เป็นย่านที่มีโครงการบ้านพักอาศัยขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากที่ตั้งโครงการที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนหลักได้ 2 เส้นทางแล้ว สภาพแวดล้อมยังค่อนข้างเงียบสงบไม่วุ่นวาย ออกมาเล็กน้อยก็จะเป็นโซนชุมชนที่มีความคึกคัก และความอุดมสมบูรณ์สูง เดินทางไปศูนย์การค้าขนาดใหญ่ได้ง่าย อีกทั้งยังมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูเป็นตัวเลือกในการเดินทางในอนาคตอีกด้วยค่ะ ถือว่าทำเลนี้ค่อนข้างน่าสนใจในการอยู่อาศัยเลยทีเดียว

โครงการ Curator รามอินทรา 117 อยู่ในซอยเจริญพัฒนา สามารถเชื่อมต่อกับซอยรามอินทรา 117 และซอยหทัยราษฎร์ 15 ได้ ไปออกสู่ถนนหลักได้ 2 เส้นทาง ดังนี้

• ถนนรามอินทรา : เข้าซอยรามอินทรา 117 ไปประมาณ 2.1 กิโลเมตร เป็นถนนเส้นหลักที่ใช้เดินทางไปยังคู้บอน หรือทางดอนเมือง หรือเชื่อมถนนสีหบุรานุกิจไปทางมีนบุรีได้สะดวก นอกจากนั้นปัจจุบันกำลังสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู อาจทำให้รถติดอยู่บ้าง แต่เมื่อเปิดใช้งานรถไฟฟ้าแล้ว ก็ทำให้เชื่อมต่อฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ย่านสะพานใหม่ ไปต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว และฝั่งตะวันออกย่านมีนบุรี ไปต่อรถไฟฟ้าสายสีส้มได้ เป็นตัวเลือกการเดินทางที่น่าสนใจค่ะ
• ถนนสุวินทวงศ์ : เป็นถนนเส้นที่มีความคึกคักสูงมี Hyper Market หลายแห่ง เดินทางเข้าโครงการผ่านซอยหทัยราษฎร์ ซึ่งเป็นถนนอีกเส้นที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด หาซื้อของกินได้สะดวก

สำหรับทางด่วนในทำเลนี้คือ ถนนกาญจนาภิเษก ห่างจากโครงการประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เดินทางไปเชื่อมกับ มอเตอร์เวย์เพื่อไปออกชลบุรี, เข้าสู่ถนนพระราม 9 ได้ หรือจะตรงไปยังบางนา – ตราด, ขึ้นไปยังบางปะอิน อยุธยาก็ง่ายค่ะ

จุดที่ทำเลนี้น่าสนใจอีกเหตุผลหนึ่งคือความอุดมสมบูรณ์นั่นเองค่ะ เนื่องจากไม่ว่าจะระยะใกล้ หรือไกลก็จะมีร้านค้า ร้านอาหารให้ได้จับจ่ายใช้สอยกันได้สะดวก เราจะขอแบ่งออกเป็น 2 โซนนะคะ

• ความอุดมสมบูรณ์ระยะใกล้ : ใครที่ต้องการจับจ่ายซื้อของใกล้ๆ บนถนนหทัยราษฎร์เต็มไปด้านร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดสด และร้านสะดวกซื้อ ไม่ว่าจะขับรถไปเองหรือสั่ง Delivery ก็ทำได้สะดวก ไม่เสียค่าส่งแพง ออกจากซอยมาก็เจอ Big C สุวินทวงศ์, Lotus’s ได้เลย นอกจากนั้นยังเป็นทำเลที่ไม่ไกลจากโรงเรียนหลายแห่ง เช่น โรงเรียนเอกบูรพา (2 ภาษา), โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ, โรงเรียนสุดใจวิทยา, โรงเรียนบางชันปลื้มวิทยานุสรณ์ เป็นต้น
• ความอุดมสมบูรณ์ระยะไกล : ใครชอบไปศูนย์การค้าใหญ่ๆ ในทำเลนี้คงหนีไม่พ้น Fashion Island และ The Promenade ที่อยู่ห่างจากโครงการเพียง 7 กิโลเมตรเท่านั้นเองค่ะ เต็มไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ ทั้งร้านอาหารชื่อดัง, Fitness, ธนาคาร, คลินิกความงาม, โรงภาพยนตร์, และโรงเรียนสอนพิเศษต่างๆ นอกจากนั้นยังมีโรงพยาบาลชื่อดังอีกหลายแห่ง เช่น โรงพยาบาลเสรีรักษ์, โรงพยาบาลนวมินทร์ 9, โรงพยาบาลนพรัตน์, โรงพยาบาลสินแพทย์ เป็นต้น

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ Curator รามอินทรา 117 ส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่า และโครงการบ้านพักอาศัย 2 ชั้น เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ทำเลนี้ค่อนข้างเงียบสงบ มีรถผ่านไป-มา อยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก โดยที่ติดกับโครงการจริงๆ จะเป็นที่ดินเปล่าเป็นส่วนใหญ่ ด้านท้ายโครงการติดกับคลองกับหมู ซึ่งเป็นคลองเส้นเล็กๆ ค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัย 2 ชั้น และที่ดินเปล่า
• ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่า
• ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยเจริญพัฒนา
• ทิศตะวันตก ติดกับ คลองกีบหมู

บรรยากาศด้านหน้าโครงการติดกับถนนเจริญพัฒนา เป็นซอยที่เงียบสงบ ส่วนใหญ่ติดกับที่ดินเปล่า

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Big C สุวินทวงศ์ – 3.9 กิโลเมตร
• ตลาดมีนบุรี – 4.9 กิโลเมตร
• Lotus’s สุวินทวงศ์ – 5.2 กิโลเมตร
• Makro รามอินทรา  – 5.6 กิโลเมตร
• Amorini – 6.3 กิโลเมตร
• Big C สุขาภิบาล 3 – 6.7 กิโลเมตร
• The Promenade 6.8 กิโลเมตร
• Fashion Island 7.0 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลเสรีรักษ์ – 3.5 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลนวมินทร์ – 3.8 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 – 4.1 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี – 7.8 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลสินแพทย์ – 9.7 กิโลเมตร

โรงเรียน

• โรงเรียนเอกบูรพา วิเทศศึกษา – 6 กิโลเมตร
• โรงเรียนพณิชยการ มีนบุรี – 4 กิโลเมตร
• โรงเรียนสุดใจวิทยา – 4 กิโลเมตร
• โรงเรียนบางชันปลื้มวิทยานุสรณ์ – 4.7 กิโลเมตร
• โรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ – 5.1 กิโลเมตร
• ม.เกษมบัณฑิต – 8.6 กิโลเมตร

สถานที่อื่นๆ 

• ปัญญาอินทรากอล์ฟคลับ – 6.6 กิโลเมตร
• ซาฟารีเวิล์ด – 7.3 กิโลเมตร
• สวนสยาม – 7.5 กิโลเมตร

โครงการ Curator รามอินทรา 117 เป็นโครงการแนวราบใหม่ จาก Urban Property ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมให้เป็นที่รู้จักมาก่อนค่ะ เช่น โครงการ SAVVI Ari 4,  SAVVI Phahol 2, ATTITUDE BU , AERAS พัทยา เป็นต้น

การมาทำโครงการแนวราบครั้งนี้จึงมีแนวคิดโครงการที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ โดยมีแบบบ้านทาวน์โฮมภายในโครงการให้เลือกถึง 3 แบบ แต่ละแบบมีจุดเด่นและตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น ฝ้าเพดานที่สูงถึง 3.40 เมตร มี Double Volume และ Skylight ภายในบ้าน และสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันในการใช้งานอยู่อาศัยได้จริง

ตัวโครงการตั้งอยู่บนที่ดิน 13-3-68.5 ไร่ มีจำนวน 151 ยูนิต ถือว่าไม่เยอะเลยค่ะ เมื่อเทียบกับโครงการทาวน์โฮมทั่วไปในทำเลนี้
– แบบบ้าน MOMA (A) 50 ยูนิต
– แบบบ้าน MORI (B) 73 ยูนิต
– แบบบ้าน MOCA (C) 28 ยูนิต

ทางเข้า – ออกอยู่ติดกับซอยเจริญพัฒนา เป็นซอยที่เชื่อมต่อไปออกยังรามอินทรา 117 และหทัยราษฎร์ 15 ได้ค่ะ ผังโครงการจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย

ลักษณะที่ดินของโครงการเป็นที่ดินแนวยาวนะคะ จึงมีถนนหลักเส้นเดียวตลอดทั้งโครงการเลย ซึ่งจะมีการจัดวางแบบบ้าน Type A (MOMA) แบบใหญ่ไว้ที่โซนด้านหน้า ถนนกว้าง 12 เมตร ทำให้เข้าถึงได้สะดวก อีกทั้งเมื่อมองมาจากด้านหน้าโครงการก็จะไม่เห็นเป็นซอยยาวๆ ไปจนถึงท้ายโครงการด้วยค่ะ ส่วนบ้าน Type B และ C จะอยู่โซนด้านหลัง ถนนกว้าง 9 เมตร รถสามารถวิ่งสวนกันได้ง่าย

แบบบ้านทุกแบบจะหันหน้าไปทางทิศเหนือ – ใต้ เป็นทิศที่ไม่ได้รับแสงแดดร้อนตอนบ่ายเข้าตรงๆ ที่ด้านบ้านและรับลมได้ดี สำหรับใครที่ชอบนั่งเล่นโซนหน้าบ้านในเวลากลางวันและไม่ชอบแดดร้อนให้เลือกบ้านที่หันทางทิศเหนือค่ะ ส่วนใครที่ใช้งานครัว หรือพื้นที่ด้านหลังเป็นหลัก แนะนำให้เลือกบ้านที่หันทางทิศใต้นะคะ

พื้นที่ส่วนกลางจะตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการเลยค่ะ เข้ามาแล้วจะเจอกับ Clubhouse ที่อยู่ติดกับซุ้มประตูทางเข้า ภายในมีสระว่ายน้ำ แยกสระเด็กและผู้ใหญ่, Fitness , ห้อง Co-Working Space พร้อมพื้นที่สีเขียวและสนามเด็กเล่น เป็นเหมือนส่วนต้อนรับอยู่ด้านหน้าโครงการ แต่ก็จะแลกกับลูกบ้านที่อยู่ด้านหลังเดินไกลสักหน่อยนะคะ อาจจะต้องปั่นจักรยานหรือขับรถมาใช้งานค่ะ

บรรยากาศภายในโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ

ป้ายโครงการ Curator รามอินทรา 117 มองเห็นได้ชัดเจนจากซอยเจริญพัฒนา

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการแบ่งทางเข้า – ออกเป็น 2 ฝั่งชัดเจนโดยมีป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ตรงกลาง ภายในโครงการมี CCTV ทั้งโครงการ 14 จุด รั้วรอบโครงการทำมาให้สูง 2.70 เมตร

ทางเข้า – ออกเป็นไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ ใช้ Key Card Access ระยะไกล (Bluetooth) ลูกบ้านสามารถขับรถเข้าได้เลย ส่วนแขกที่มาติดต่อจะต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ก่อนค่ะ

หันกลับไปที่ทางเข้าโครงการจะเจอกับอาคาร Clubhouse ทางด้านขวามือ เชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวที่เป็นส่วนกลางของโครงการเลยค่ะ

เรามาดูพื้นที่สวนกันก่อนนะคะ บริเวณนี้จะมีทางเดินล้อมรอบพื้นที่สีเขียว ขนาด 650 ตารางเมตร ให้ลูกบ้านออกมาเดินเล่นยามเย็น หรือพาเด็กๆ มาวิ่งเล่นออกกำลังกายกันได้

ที่พื้นทางเดินบางส่วนทำเป็นหินนวดเท้าให้ด้วยค่ะ เวลาถอดรองเท้าเดินจะได้ความรู้สึกแตกต่างกันไปในแต่ละ Texture ของหิน

ด้านหลังจะเป็นพื้นที่เด็กเล่น มีเครื่องเล่นสไลด์เดอร์พร้อมที่นั่งกระจายอยู่ภายในสวน ให้ผู้ปกครองนั่งดูเด็กๆ ได้

อาคาร Clubhouse สูง 2 ชั้น ออกแบบในสไตล์โมเดิร์นเข้ากันกับซุ้มประตูและตัวบ้าน ภายในประกอบด้วย สระว่ายน้ำแยกสระเด็กและผู้ใหญ่, Fitness และ ห้อง Co-Working Space

ทางเข้า Clubhouse จะอยู่ด้านข้างเข้ามาแล้วเห็นห้องนิติบุคคลทางด้านซ้ายมือ ซึ่งออกแบบมาให้สามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงาน นั่งพักคอย หรือเป็น Co-Working Space ได้

สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ ขนาด 4.00 x 13.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายได้ ด้านข้างมีแนวต้นไม้บังสายตาในส่วนของถนนหลักโครงการเอาไว้ค่ะ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นสักหน่อยแต่ก็ยังเปิดมุมมองทางสวนให้เห็นวิวสวยๆ ได้

ด้านข้างมีสระเด็กขนาดประมาณ 3.00 x 4.00 เมตร ลึก 0.60 เมตร สำหรับน้องๆ หนูๆ ที่ยังเล็กค่ะ

ด้านข้างจะมีพื้นที่ในร่มสำหรับนั่งเล่นชมวิวข้างสระว่ายน้ำ มีชุดเก้าอี้มาให้ 3 ตัว ส่วนด้านบนที่เราเห็นเป็นห้อง Fitness นั่นเองค่ะ

ด้านในอาคารทางโครงการแจ้งว่าเป็นห้องนิติบุคคล ซึ่งเปิดให้ลูกบ้านสามารถเข้ามานั่งทำงาน เป็น Co-Working Space หรือนัดแขกมาพูดคุยธุระกันได้ที่นี่ค่ะ ซึ่งจะมีทั้งโต๊ะทำงานแยก และโซฟาโค้งอีก 2 ชุด บรรยากาศดี มองออกไปเห็นสระว่ายน้ำและสวนได้

ส่วนห้องน้ำส่วนกลางจะอยู่บริเวณใต้บันไดทางขึ้นชั้น 2 ค่ะ

ห้องน้ำส่วนกลางจะอยู่บริเวณชั้น 1 ของอาคาร แบ่งเป็นห้องน้ำชาย-หญิงชัดเจน มีพื้นที่อาบน้ำมาให้เรียบร้อย ใครที่มาว่ายน้ำหรือออกกำลังกายก็อาบน้ำแต่งตัวที่นี่ได้เลยค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของ Clubhouse จะเจอกับโถงทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้อง Co-Working Space และ Fitness

ห้องนี้เป็น Co-Working Space ที่อยู่บริเวณชั้น 2 ของ Clubhouse ค่ะ ภายในมีโต๊ะใหญ่สำหรับนั่งประชุม พร้อม TV และที่นั่งแยกสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวด้านหลัง

ห้องสุดท้ายเป็น Fitness ค่ะ โดยประตูทางเข้า – ออกห้องต่างๆ ของพื้นที่สวนกลางจะเป็นแบบอัตโนมัติไร้การสัมผัสทั้งหมดเลยค่ะ

ภายใน Fitness มีเครื่องเล่นมาให้ 6 ตัวนะคะ แบ่งเป็น ลู่วิ่ง 2 เครื่อง, จักรยาน 1 เครื่อง, Elliptical 1 ตัว , Station gym 1 ตัว, Dumbbell Rack 1 ตัว และ Bench 2 ตัว ภายในมีผนังกระจก 3 ด้านทำให้ดูโปร่งสบาย มองเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำชั้นล่างได้

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 4.00 x 13.00  เมตร ลึก 1.20 เมตร
• แบ่งสระเด็กลึกขนาด 3.00 x 4.00 เมตร ลึก0.60 เมตร
• ห้องออกกำลังกาย  ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง (ลู่วิ่ง 2 เครื่อง, จักรยาน 1 เครื่อง, Elliptical 1, Station gym 1, Dumbbell Rack 1)
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 14 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 2.70 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12.00 เมตร และถนนภายในกว้าง 9.00 เมตร
• Key Card Access : Bluetooth ระยะไกล
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
• สัญญาณกันขโมย, Home Automation : Door Window Sensor, Smart Switch , IP Camera / Wi-fi Camera 1 ตัว ทุกหลัง

โครงการ Curator รามอินทรา 117 เป็นโครงการทาวน์โฮมแนวคิด Co-Created Boutique Townhome มีแบบบ้านให้เลือกถึง 3 แบบ ตอบโจทย์ได้หลากหลายไลฟ์สไตล์ เราไม่ค่อยเห็นแบบบ้านทาวน์โฮมที่ให้ลูกบ้านสามารถเลือกแบบได้เยอะถึง 3 แบบสักเท่าไรนะคะ นอกจากนั้นภายในบ้านยังสามารถปรับพื้นที่การใช้งานได้หลากหลาย พร้อมทั้งยังมีระบบ Home Automation ภายในบ้าน ช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัย และความสะดวกสบายให้มากขึ้นด้วย

• Home Automation
• Station hub
• Door window sensor
• IP Camera
• Smart Switch

โครงสร้างและวัสดุภายในบ้าน

• โครงสร้างบ้าน Pre-Cast มีผนัง Solid Wall บางจุดให้สามารถปรับฟังก์ชันภายในบ้านได้ยืดหยุ่นมากขึ้น
• มีปลั๊กไฟที่จอดรถ รองรับการติดตั้ง EV Charger ได้
• ลานซักล้างลงเสาเข็มให้เท่าตัวบ้าน ไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัว
• พื้นปูด้วย กระเบื้อง SPC ลายไม้* ทั้งชั้น 1 และชั้น 2 ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นเป็นธรรมชาติ
• ประตูหน้าต่างกรอบบานอะลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสงหนา 5 mm.
• สุขภัณฑ์ จาก Hafele

* อ่านเกร็ดความรู้เรื่องพื้นลายไม้ได้ที่นี่ >> เปรียบเทียบ 7 วัสดุพื้นลายไม้ภายในบ้าน

โดยบ้านแต่ละแบบจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

• MOMA (A) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 25 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. (นับพื้นที่เทปูนทั้งหมด) ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

แบบบ้านหลังนี้เหมาะกับคนที่ชอบความโปร่งสบาย พื้นที่ภายในบ้านกว้าง ชอบความเป็นส่วนตัว เป็นบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะที่สุดในโครงการ จุดเด่นคือเป็นบานตอนลึกที่ยาวถึงประมาณ 20 เมตร ทำให้แบ่งพื้นที่ด้านหลังได้มากขึ้นบ้านถึง 4 เมตร ทุกยูนิต สามารถทำสวน หรือลานนั่งเล่น หรือต่อเติมครัวด้านหลังเพิ่มเติมได้ค่ะ* นอกจากนั้นชั้น 1 ยังได้ฝ้าเพดานสูงพร้อม Double Volume มี Skylight ทำให้บ้านดูโปร่งมากขึ้นด้วย

• MORI (B) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

แบบบ้านหลังนี้เหมาะกับคนเน้นฟังก์ชัน การใช้งานลงตัว คุ้มค่า ภายในบ้านสามารถกั้นห้องครัวปิดพื้นที่กว้างได้ พร้อมกับมี 3 ห้องนอน สามารถปรับทุบผนังตรงกลางห้องนอนรองออกเพื่อเชื่อมต่อเป็นห้องนอนใหญ่ได้ ด้านหน้าจอดรถได้ 2 คัน และมีห้องน้ำที่ชั้น 2 รองรับการใช้งานพร้อมกันได้

• MOCA (C) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 17 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 101 ตร.ม. ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ

แบบบ้านหลังนี้เหมาะกับ คู่รัก คู่พี่น้อง หรือเพื่อนกัน อาศัยอยู่กัน 2 คน กับรถ 1 คัน ที่ต้องการพื้นที่การใช้งานกว้าง ฟังก์ชันลงตัว ภายในบ้านมีพื้นที่กั้นห้องครัวปิดเพิ่มเติมได้ ส่วนชั้น 2 จะได้ Master Bedroom 2 ห้องขนาดเท่าๆ กัน พร้อมห้องน้ำแบบ His & Her ใช้งานพร้อมกันได้

* อ่านบทความต่อเติมบ้านได้ที่ >> ต่อเติมบ้านอย่างไรดี ? ไม่ให้มีปัญหาตามมา

โครงการนี้จึงน่าจะถูกใจคนที่ชอบดีไซน์ ชอบคิด อยากปรับพื้นที่ ตกแต่งบ้านเองตามความชอบ และชอบพื้นที่การใช้งานที่ลงตัว ไม่เหมือนทาวน์โฮมแบบเดิมๆ โดยบ้านในโครงการนี้มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.79 ล้านบาท ใกล้เคียงกับโครงการ Segment เดียวกันในทำเลนี้ค่ะ

MOMA

มาดูบ้านหลังแรกที่มีพื้นที่มากที่สุดกันก่อนค่ะ ชื่อบ้าน MOMA (A) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 25 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

แบบบ้าน MOMA มีจุด Highlight ที่น่าสนใจ ดังนี้

• หน้ากว้าง 5.00 เมตร จอดรถได้ 2 คัน
• ได้ความเป็นส่วนตัวสูง จากประตูบ้านบานเปิด ทำให้คนมองจากภายนอกเข้าไปเห็นในบ้านไม่ได้
• ที่ดินลึกประมาณ 20 เมตร ทำให้มีพื้นที่ด้านหลังลึก 4 เมตร ทำสวน หรือพื้นที่นั่งเล่นเพิ่มเติมได้
• ฝ้าเพดานชั้น 1 สูง 3.40 เมตร ชั้น 2 สูง 2.80 เมตร ทำให้ดูกว้าง โปร่งมากกว่าบ้านทั่วไป
• มี Double Volume พร้อมช่องแสง Skylight ขนาดใหญ่ ทำให้ภายในบ้านสว่าง และดูโปร่งสบาย
• พื้นที่ Common Area ภายในสามารถแบ่งได้ 3 ส่วน พร้อมกั้นครัวปิดได้
• ชั้น 2 มี 2 ห้องนอน พร้อมห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเป็นห้องนอนที่ 3 ได้
• Master Bedroom ได้ช่องแสง 2 ฝั่ง พร้อมห้องน้ำในตัวเข้าใช้งานได้สะดวก และสามารถกั้น Walk-in Closet ได้

บ้านในโครงการนี้ออกแบบมาในสไตล์ Organic Modern นะคะ โดยเป็นแนวทางการออกแบบที่ใช้เส้นสายที่เรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น ใช้โทนสีธรรมชาติอย่างสีน้ำตาลของไม้ และสีโทนเทา ออกแบบโดยการคำนึงถึงธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนร่วม ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดในตัวบ้านที่มีความโปร่ง สว่างมากกว่าทาวน์โฮมทั่วไปค่ะ

ใครที่อยู่ทาวน์โฮมอาจจะกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวกับเพื่อนบ้าน ในโครงการนี้เขาแก้ปัญหาโดยการทำรั้วบ้านระหว่างแปลงสูงกว่าระดับสายตาค่ะ สามารถเดินออกมาล้างรถ ทิ้งขยะ ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเจอกับเพื่อนบ้าน ส่วนรั้วด้านหน้าบ้านเป็นบานเฟี้ยมเปิดออกด้านนอก ค่อนข้างเบา ใช้งานสะดวกค่ะ

ตัวบ้านกว้าง 5.00 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คันพอดีๆ ค่ะ ส่วนที่จอดรถด้านหน้านั้นจะเป็นพื้นคอนกรีต On ground เว้นช่องว่างจากตัวบ้านมาให้เรียบร้อย

ประตูทางเข้าของบ้าน Type A นี้จะเป็นประตูบานเปิด พร้อมช่องแสงสูงด้านข้าง แตกต่างจากประตูทางเข้าแบบบานเลื่อนกระจกใน Type อื่นๆ ซึ่งแบบนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่อยากให้ใครมองเข้ามาภายในบ้านได้ และพื้นที่ด้านข้างก็สามารถ Built-in ชั้นวางรองเท้า หรือตู้เก็บของเพิ่มเติมได้นะ

ทางโครงการติดตั้งกล้อง IP Camera มาให้ที่ลานจอดรถทุกหลังเลย ช่วยดูแลความปลอดภัยให้ลูกบ้านสบายใจมากขึ้นค่ะ

เข้ามาภายในบ้านแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าภายในดูโปร่งกว้างมากๆ แม้ว่าจะหน้ากว้าง 5 เมตร แต่เพราะฝ้าเพดานที่สูงถึง 3.40 เมตร และ Double Volume ทำให้ดูโล่งสบาย แก้ไขเรื่องข้อจำกัดของช่องแสงในทาวน์โฮมไปได้เลย ข้อดีของการได้ฝ้าเพดานสูงอีกอย่างหนึ่งก็คือเราสามารถตกแต่งฝ้าเพดานโดยการทำฝ้าหลุม หรือห้อยโคมไฟ, พัดลมสวยๆ ได้โดยไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ

ตัวบ้านมีความลึกประมาณ 9.50 เมตร ทำให้แบ่งฟังก์ชันได้ถึง 3 ส่วน คือ ส่วนต้อนรับ ส่วนห้องนั่งเล่น และส่วนรับประทานอาหารด้านหลังบ้าน

ส่วนแรกด้านหน้าบ้านเป็นส่วนที่มีโถงสูง Double Volume สูงถึง 6.90 เมตร พร้อมช่องแสง Skylight ด้านบน ตรงนี้จะลดระดับพื้นมาให้ด้วยนะคะ (ทางโครงการแจ้งว่าสามารถเลือกลดระดับหรือไม่ก็ได้ค่ะ) ในบ้านตัวอย่างทำเป็นโซนเด็กเล่น แต่ถ้าใครที่ Work From Home หรือทำร้านค้าออนไลน์ สามารถจัดพื้นที่ด้านหน้าเป็นโซนทำงาน Stock ของได้เลย

บรรยากาศภายในบ้านเมื่อมองออกไปยังด้านหน้า ซึ่งเราจะเห็นคนเดินผ่านไป-มา เพียงเล็กน้อย ได้ความเป็นส่วนตัวสูง

ตรงกลางเหมาะกับการจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น เชื่อมต่อไปยังโซนรับประทานอาหารด้านหลังบ้าน ยาวประมาณ 6.40 เมตร ซึ่งเขาออกแบบตัวบ้านให้มีช่องแสงขนาดใหญ่ทางด้านหลังบ้านแทนด้านหน้า เราสามารถมองออกไปเห็นวิวสวนหลังบ้านได้แบบส่วนตัว

พื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟาตัวใหญ่แบบในบ้านตัวอย่างได้สบายๆ เลยค่ะ มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 3.1 เมตร เป็นระยะที่พอดีๆ วาง TV ขนาดใหญ่ 55 นิ้วขึ้นไปได้เลย

ผนังด้านหลัง TV เป็นส่วนของห้องน้ำค่ะ ซึ่งประตูจะถูกซ่อนไว้ด้านหลังทำให้ไม่รบกวนสายตา คนที่อยู่บริเวณพื้นที่นั่งเล่น

ถัดจากห้องนั่งเล่นด้านหลังเป็นพื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อกับส่วนครัว ตรงนี้จะค่อนข้างโปร่งสบายเลยค่ะ เพราะได้ช่องแสงขนาดใหญ่เกือบเต็มผนังเลย มีประตูทางออกไปยังลานซักล้างด้านหลังบ้านอยู่ข้างๆ

พื้นที่ตรงนี้สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ 4 – 6 ที่นั่ง และใครที่ชอบทำอาหารจริงจัง แต่ไม่ชอบต่อเติมด้านหลังบ้าน ก็สามารถกั้นครัวปิดเพิ่มได้นะคะ *

* อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ >> ทำอาหารได้เต็มที่ กับพื้นที่ครัวปิด ในงบไม่เกิน 1-2 หมื่นบาท

ผนังครัวกว้างประมาณ 2.80 เมตร ในห้องตัวอย่าง Built-in เคาน์เตอร์ครัวพร้อมวางตู้เย็นมาให้ดูค่ะ

ในบ้านมาตรฐานด้านหลังบ้านจะเป็นลานเทคอนกรีตมาให้นะคะ ส่วนซักล้างที่ในบ้านตัวอย่างต่อเติมเป็นห้องครัวไทย จะลงเสาเข็มมาให้ยาวเท่าตัวบ้าน รองรับการต่อเติมได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัว

ส่วนหลังบ้านของ Type นี้ในบ้านมาตรฐานจะเป็นลานคอนกรีตนะคะ มีความกว้างถึง 4 เมตร ทุกยูนิตเลยค่ะ ทำให้เราสามารถทำเป็นสวน ปลูกต้นไม้ หรือทำลานนั่งเล่นไว้ทำ ปิ้งย่าง บาร์บีคิวชวนเพื่อนมาปาร์ตี้ที่บ้านได้เลยค่ะ

ส่วนห้องน้ำและห้องเก็บของชั้นล่างนั้นจะอยู่บริเวณใต้บันได ทำให้ประตูไม่รบกวนสายตาจากส่วน Common Area เลย

ห้องน้ำชั้น 1 แบ่งส่วนเปียก – แห้งมาให้ชัดเจนค่ะ มีพื้นที่อาบน้ำรองรับการใช้งานเพิ่ม โดยมีขอบยกระดับกั้นตรงส่วนอาบน้ำมาให้ด้วย (แต่ต้องติดตั้งฉากกั้นกระจกเพิ่มเติมเองนะคะ)

อ่างล้างหน้ามีชั้นวางของด้านล่าง พร้อมกระจกเงาแบบโค้งดูสวยงาม และสุขภัณฑ์จาก Hafele ส่วนอาบน้ำจะมีผนังเว้าสามารถวางสบู่ แชมพูได้ ในบ้านมาตรฐานก็จะได้กระเบื้องตกแต่งผนังสีเขียวละมุนๆ แบบในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งใต้บันไดเป็นห้องเก็บของนะคะ ซึ่งประตูก็จะเหมือนกับประตูห้องอื่นๆ ทุกบานจะไม่ได้ลูกบิดแต่เป็นมือจับสีดำ ใช้งานได้สะดวกและดูสวย เรียบๆ แบบโมเดิร์น

บันไดทางขึ้นชั้น 2 กว้างประมาณ 1 เมตร เดินขึ้น-ลงได้สบาย มีราวจับด้านข้าง บันไดอาจจะยาวสักหน่อยนะคะ เพราะความสูงระหว่างชั้นสูงกว่าบ้านทั่วไป

ขึ้นมาด้านบนแล้วจะเจอกับห้องน้ำที่ใช้งานร่วมกันของชั้น 2 และห้องนอนรองทางด้านหลังบ้านค่ะ

มาดูห้องน้ำกันก่อนนะคะ ภายในห้องน้ำจะเหมือนกับห้องน้ำของชั้น 1 เลยค่ะ มีการแบ่งส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน พื้นห้องน้ำลดระดับลงเล็กน้อย มีช่องระบายอากาศช่วยลดความอับชื้น และมีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องน้ำจากด้านหลังบ้าน

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่มีช่องเก็บของด้านใต้  พร้อมกระจกเงาบ้านโค้ง และสุขภัณฑ์จาก Hafele

ส่วนพื้นที่อาบน้ำยืนอาบได้สบายๆ มีการเล่นความแตกต่างของสีกระเบื้องแยกส่วนอาบน้ำดูสวยงาม ติดตั้งฝักบัวสายอ่อน พร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย แต่จะไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะคะ แนะนำให้ติดเพิ่มเติมค่ะ

ภายในห้องนอนรองจะมีขนาด 3.30 x 3.40 เมตร สามารถวางเตียง King Size ได้เลยค่ะ ห้องนี้จะได้ช่องแสงด้านหลังบ้านมองลงไปเห็นวิวสวนด้านหลังได้ ปลายเตียงสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าหรือโต๊ะทำงานเพิ่มเติมได้

ถักจากห้องนอนรองเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งในบ้านมาตรฐานจะไม่ได้ให้ประตูกั้นมานะคะ ใครที่อยากทำห้องนอนที่ 3 เพิ่ม ก็สามารถกั้นได้อีกห้องหนึ่งค่ะ ตรงนี้ยังสามารถมองลงไปยังโถง Double Volume เห็นส่วนนั่งเล่นด้านล่างได้

พื้นที่อเนกประสงค์กว้างประมาณ 2.90 x 3.00 เมตร เป็นพื้นที่ยืดหยุ่นสำหรับการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ อาจจะทำเป็นห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย ห้องหนังสือ หรือเปลี่ยนเป็นห้องของลูกน้อยในอนาคตก็รองรับได้ค่ะ

ถัดจากห้องอเนกประสงค์จะเป็นโถงทางเดินก่อนถึง Master Bedroom ด้านหน้าบ้าน ทำให้ห้องนอนได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

บริเวณนี้จะได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาเต็มที่ จากช่อง Skylight ขนาดใหญ่ด้านบนค่ะ นอกจากนั้นบ้านยังดูโปร่งขึ้นจากผนังกระจกเต็มบานทั้ง 2 ฝั่งด้วย

มองลงไปเห็นพื้นที่นั่งเล่นที่ชั้น 1

ส่วนห้อง Master Bedroom เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ ส่วนพักผ่อนมีขนาดประมาณ 3.80 x 4.90 เมตร และมีห้องน้ำในตัว สามารถวางเตียงนอน King Size พร้อมกับเหลือพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนด้านข้าง ทำเป็นมุมอ่านหนังสือ หรือทำงานเล็กๆ น้อยๆ ชมวิวด้านหน้าบ้านได้อีกด้วยค่ะ

ห้องนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Highlight เลยนะคะ ที่ห้อง Master Bedroom ในทาวน์โฮม Segment นี้มีช่องแสงธรรมชาติ และเห็นวิวทั้ง 2 ฝั่งแบบ คงจะถูกใจคนที่ชอบความโปร่งสบายมากๆ เลย

ส่วนปลายเตียงสามารถกั้นเป็นส่วน Walk-in Closet แบบในบ้านตัวอย่างได้ค่ะ (บ้านมาตรฐานเป็นห้องเปล่า ไม่ได้กั้นให้นะคะ)

ถ้าทำเป็น Walk-in Closet ก็จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำได้เลย ใช้งานสะดวก

ห้องน้ำในห้อง Master Bedroom ก็มีการแบ่งส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน พื้นห้องน้ำลดระดับลงเล็กน้อย มีช่องระบายอากาศช่วยลดความอับชื้น และมีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องน้ำได้

นอกจากนั้นที่ไม่เหมือนกับห้องอื่นๆ คือกระจกแบบ Smart Mirror สามารถแตะเพื่อเปิด – ปิดไฟ แต่งหน้า และเปิดความอุ่นลดไอน้ำที่เกาะกระจกเป็นฝ้าได้ค่ะ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำยืนอาบได้สบายๆ ตกแต่งเหมือนกับห้องน้ำอื่นๆ มีฝักบัวสายอ่อน พร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย มีขอบกันน้ำไหลออกมาให้แล้ว เหลือติดตั้งฉากกั้นเพิ่มเติมก็ใช้งานได้เลยค่ะ

MORI

แบบที่ 2 เป็นแบบกลาง ชื่อว่า MORI (B) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

แบบบ้าน MORI มีจุด Highlight ที่น่าสนใจ ดังนี้

• หน้ากว้าง 5.70 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน โดยจอดรถคันใหญ่ เช่น รถกระบะ ได้ 1 คัน
• ภายในบ้านสามารถกั้นครัวปิดเป็นสัดส่วนได้
• ฝ้าเพดานชั้น 1 สูง 2.70 เมตร ชั้น 2 สูง 2.60 – 2.70 เมตร
• ห้องน้ำชั้น 1 มีพื้นที่อาบน้ำในตัว
• ชั้น 2 มี 3 ห้องนอน คือ Master Bedroom ด้านหน้าบ้าน และ ห้องนอนรองด้านหลังบ้าน 2 ห้อง
• ห้องนอนรองสามารถทุบผนังออกเพื่อเชื่อมต่อกันเป็นห้องใหญ่ได้ ทำให้ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ยืดหยุ่นมากขึ้น
• ห้องน้ำชั้น 2 แบบ Triple Function แยกโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ ทำให้สามารถใช้งานพร้อมกันได้ถึง 3 คน ลดปัญหาการใช้ห้องน้ำพร้อมกันในเวลาเร่งด่วนได้ค่ะ

แบบบ้าน Type นี้ หน้าตาตัวบ้านจะคล้ายกันกับแบบแรกเลยค่ะ มีการเลือกใช้วัสดุลายไม้ โทนสีเทาและโทนสีขาวให้บ้านดูสว่างมากขึ้น

บ้าน Type B เป็นบ้านหน้ากว้าง 5.70 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คันสบายๆ มีพื้นที่เหลือด้านข้างวางของได้อีก ซึ่งทางโครงการออกแบบมาให้รองรับรถคันใหญ่อย่างเช่น รถกระบะได้ 1 คัน และรถคันเล็กอีก 1 คันค่ะ

ที่จอดรถมีช่องเก็บของใต้บันได ให้สามารถเก็บของใช้ภายนอกอย่างเครื่องไม้เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดได้ มีปลั๊กไฟรองรับการติดตั้ง EV Charger และเดินท่อปลวกไว้ให้เรียบร้อย

ทางเข้าด้านหน้าจะยกระดับพื้นขึ้นมาเป็นทางเข้า ประตูทางเข้าเป็นบานเลื่อน 2 ตอน ทำให้แสงธรรมชาติเข้าจากทางด้านหน้าบ้านได้กว้าง และมีกล้อง CCTV ติดตั้งไว้ให้ด้วยค่ะ

เข้ามาภายในบ้านเป็นส่วน Common Area มีความลึกประมาณ 5.70 เมตร สามารถแบ่งได้เป็น 2 ฟังก์ชัน ทั้งห้องนั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหาร

ห้องนั่งเล่นกว้างประมาณ 2.80 เมตร สามารถวางชุดโซฟา 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้สบายๆ ค่ะ มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.50 เมตร เหมาะกับการวาง TV ได้ถึง 52 นิ้ว บริเวณนี้จะได้รับแสงสว่างมาจากด้านหน้าบ้านทั่วถึงทั้งห้องค่ะ

ด้วยความลึกตัวบ้าน 5.70 เมตร จึงทำให้สามารถวางชั้นวางของ ตู้โชว์ หรือทำเป็นมุมทำงานตรงกลางเพิ่มเติมได้นะคะ

ด้านหลังเป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่สามารถวางโต๊ะ 4 ที่นั่งได้สบายๆ เชื่อมต่อกับพื้นที่ลานด้านหลังบ้าน มองเห็นวิวด้านหลังได้เต็มที่ ถ้าใครทำเป็นสวนก็จะได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากด้านหลังบ้านด้วยค่ะ

ตรงนี้ในบ้านมาตรฐานสามารถจัดเป็นห้องครัวปิดได้เลยนะคะ มีขนาดประมาณ 2.00 x 2.80 เมตร Built-in เคาน์เตอร์รูปตัว L ได้ ช่วยประหยัดงบต่อเติมด้านหลังบ้านไปได้เยอะเลย แต่ในบ้านทำเป็นพื้นที่ออกกำลังกายอเนกประสงค์ ใครที่มีผู้สูงอายุในบ้านก็สามารถกั้นเป็นห้องนอนที่ 4 เพิ่มได้เช่นกันค่ะ

ในบ้านมาตรฐานพื้นที่หลังบ้านจะเป็นลานคอนกรีต ลงเสาเข็มมาให้เรียบร้อย ส่วนบ้านตัวอย่างเขาต่อเติมเป็นห้องครัวไทย และซักล้างให้ดูเป็นไอเดียค่ะ

ส่วนห้องน้ำจะอยู่บริเวณโถงหน้าบันไดนะคะ บริเวณนี้ในบ้านมาตรฐานจะเป็นโล่งๆ ไม่ได้มีผนังฝั่งซ้ายมือมาให้ แต่ลูกบ้านสามารถต่อเติมเพิ่มได้ เอาไว้ทำชั้นวางของ หรือกั้นเป็นสัดส่วนตามความชอบได้เลยค่ะ

ห้องน้ำชั้น 1 มีพื้นที่อาบน้ำมาให้เรียบร้อยเลยค่ะ เผื่อเวลาที่อาบน้ำตรงกันห้องข้างบนไม่ว่างก็สามารถลงมาใช้ห้องข้างล่างได้

บันไดกว้างประมาณ 1 เมตร ปูลูกนอนด้วยไม้ประสาน มีช่องแสงด้านหน้าบ้านช่วยส่องให้โถงบันไดดูสว่างมากขึ้นด้วย

ขึ้นมาชั้น 2 ในแบบบ้าน Type นี้จะได้ห้องนอนทั้งหมด 3 ห้องเลยค่ะ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีลูก 1 – 2 คน โดยจะแบ่งเป็น Master Bedroom ด้านหน้าบ้าน (ซ้ายมือ) ห้องนอนรอง 2 ห้องด้านหลังบ้าน (ขวามือ) และมีห้องน้ำใช้ร่วมกันตรงกลาง

ห้องแรกจะอยู่ติดกับบันไดเลยค่ะ มีขนาดประมาณ 2.70 x 2.70 เมตร ถ้านับตารางเมตรดูแล้วก็ถือว่าเป็นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถทำเป็นห้องนอนได้ค่ะ (ตามกฎหมายแล้วห้องนอนจะต้องมีพื้นที่ 8 ตารางเมตรเป็นต้นไปค่ะ) โดยเหมาะกับการวางเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุต และตู้เสื้อผ้า

Highlight ของบ้านหลังนี้อยู่ที่ห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องสามารถทุบเชื่อมต่อกันเป็นห้องใหญ่ได้ หรือใครจะเอาผนังฝั่งบันไดออกเป็นพื้นที่ Family Area โล่งๆ ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ

ห้องนอนรองที่ 2 มีพื้นที่ประมาณ 2.70 x 2.80 เมตร ขนาดพอๆ กันกับห้องแรก ถือว่าเป็นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถทำเป็นห้องนอนได้เช่นกันค่ะ ในบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องแต่งตัว สำหรับคู่รักที่ยังไม่มีลูก ชอบพื้นที่แต่งตัวเยอะๆ เป็นต้น

ส่วน Master Bedroom จะอยู่ด้านหน้าบ้านเลยค่ะ ได้ช่องแสงขนาดใหญ่มองเห็นวิวด้านหน้าบ้านได้กว้าง และทำให้ภายในห้องดูโปร่งสบายมากขึ้น

ขนาดห้องนอนกว้าง 2.60 เมตร สามารถวางเตียง King Size 6 ฟุตได้ แต่ถ้าจะให้เหลือพื้นที่วางโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง แนะนำเป็นเตียง Queen Size 5 ฟุตจะดูสบายมากกว่าค่ะ

ส่วนปลายเตียงนั้นสามารถทำผนังเพิ่มเติมเพื่อติดตั้ง TV หรือกั้น Walk-in Closet เป็นสัดส่วนได้ค่ะ (ในบ้านมาตรฐาน ไม่มีผนังส่วนปลายเตียงมาให้นะ)

ในบ้านตัวอย่างตกแต่งพื้นที่ด้านหลังเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัว ซึ่งมีขนาดประมาณ 2.00 x 2.00 เมตร ซึ่งสามารถปรับเป็น Walk-in Closet ได้ค่ะ

ที่น่าสนใจอีกอย่างของแบบบ้านหลังนี้คือห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำจะแบ่งเป็น Triple Function แบ่งโซนกันทั้งโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า และพื้นที่อาบน้ำ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน เนื่องจากมี 3 ห้องนอน มีโอกาสใช้ห้องน้ำพร้อมกันได้ง่าย เมื่อแยกฟังก์ชันแบบนี้ก็ทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้นนั่นเองค่ะ

โถสุขภัณฑ์จะแยกห้องอยู่ทางด้านซ้ายมือ มีทางเข้า 2 ทางจากตรงกลาง และจาก Master Bedroom เพื่อให้สามารถเข้าห้องน้ำในเวลากลางคืนได้สะดวกค่ะ

ส่วนอ่างล้างมือเป็นอ่างดีไซน์สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง จาก Hafele พร้อมกระจกเงาแบบ Smart Mirror

กระจก Smart Mirror สามารถกดเปิดไฟรอบๆ ได้ คุณผู้หญิงแต่งหน้าได้ง่ายเลย ส่วนอีกอันหนึ่งเป็นการเปิดเพื่อลดไอน้ำที่ขึ้นเป็นฝ้าบนกระจกนั่นเองค่ะ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำแยกออกมาเป็นอีกห้องหนึ่งค่ะ เวลาที่มีคนอาบน้ำอยู่ คนอื่นๆ ก็จะสามารถเข้าห้องน้ำ หรือมาล้างหน้าแปรงฟันได้โดยไม่รบกวนกัน พื้นที่ภายในห้องอาบน้ำสามารถยืนอาบได้สบายๆ มีฝักบัวสายอ่อน พร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

MOCA

แบบบ้านสุดท้ายไซส์เล็กที่สุด แต่พื้นที่ภายในไม่เล็กนะคะ เพราะเขาออกแบบมาเพื่อการอยู่อาศัยที่เน้นพื้นที่ใช้งานกว้าง ของคน 2 คน ไม่ว่าจะเป็นคู่รักที่ไม่มีลูก หรือคู่พี่น้อง แบ่งพื้นที่การใช้งานได้เท่าๆ กัน หลังนี้ชื่อว่า MOCA (C) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 17 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 101 ตร.ม. ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ  1 ที่จอดรถ

แบบบ้าน MOCA มีจุด Highlight ที่น่าสนใจ ดังนี้

• หน้ากว้าง 5.70 เมตร จอดรถได้ 1 คัน พร้อมพื้นที่สวนด้านหน้า สำหรับคนที่ต้องการปลูกต้นไม้ภายในบ้าน
• ภายในบ้านสามารถกั้นครัวปิดเป็นสัดส่วนได้
• ฝ้าเพดานชั้น 1 สูง 2.70 เมตร ชั้น 2 สูง 2.60 – 2.70 เมตร
• ห้องน้ำชั้น 1 มีพื้นที่อาบน้ำในตัว
• ชั้น 2 มี 2 ห้องนอน เป็น Double Master Bedroom ขนาดเท่าๆ กัน ใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงกลาง
• ห้องน้ำชั้น 2 แบบ Triple Function แยกโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ พร้อมอ่างล้างหน้าแบบ His & Her ใช้งานได้พร้อมกัน 2 คน

แบบบ้าน Type นี้หน้ากว้าง 5.70 เมตร เหมือนกับบ้านหลังที่ 2 นะคะ แต่ว่าทางโครงการออกแบบมาให้มีที่จอดรถ 1 คัน (คันใหญ่) และมีพื้นที่สีเขียวอยู่ด้านหน้าสำหรับคนที่มีรถคันเดียว อยากปลูกต้นไม้ในทาวน์โฮมก็สามารถทำได้

ด้านในพื้นที่ Common Area ของชั้น 1 จะมีการจัดผังเหมือนกับแบบ MORI เลยค่ะ มีความลึก 5.20 เมตร บ้านตัวอย่างหลังนี้เป็นแปลงมุมทำให้ได้ช่องแสงพิเศษด้านข้างด้วย ส่วนในบ้านมาตรฐานจะได้ช่องแสงบริเวณหลักด้านหน้าและด้านหลังค่ะ

ห้องนั่งเล่นกว้างประมาณ 2.80 เมตร สามารถวางชุดโซฟา 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลาง เดินผ่านได้สบายๆ  มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.50 เมตร เหมาะกับการวาง TV ได้ถึง 52 นิ้ว

ด้านหลังเป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่สามารถวางโต๊ะ 4 ที่นั่งได้ ตรงนี้จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ลานด้านหลังบ้าน มองเห็นวิวด้านหลังได้ แต่ในบ้านตัวอย่างต่อเติมเป็นห้องครัวให้ดูค่ะ ถ้าใครทำเป็นสวนก็จะได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากด้านหลังบ้านด้วย

ส่วนพื้นที่ใต้บันไดจะแบ่งเป็นห้องน้ำและพื้นที่ครัว

ภายในห้องน้ำมีพื้นที่อาบน้ำมาให้แล้วค่ะ เผื่อเวลาที่อาบน้ำตรงกันห้องข้างบนไม่ว่างก็สามารถลงมาใช้ห้องข้างล่างได้ ซึ่งเป็นห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่ใช้ได้สะดวกเลยค่ะ

ด้านหลังเป็นพื้นที่ครัว กว้างประมาณ 2.00 เมตร สามารถ Built-in เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L ได้ โดยไม่ต้องต่อเติมครัวหลังบ้าน แต่ถ้าใครอยากต่อเติมด้านหลังอยู่แล้ว บริเวณนี้ก็สามารถใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ หรือกั้นเป็นห้องนอนที่ 3 ได้ค่ะ

ในบ้านมาตรฐานพื้นที่หลังบ้านจะเป็นลานซักล้างคอนกรีตนะคะ ลงเสาเข็มมาให้เท่าตัวบ้าน ในบ้านตัวอย่างเขาต่อเติมเป็นห้องครัวไทย และซักล้างให้ดูเป็นไอเดียค่ะ

บันไดจะอยู่บริเวณกลางบ้าน เดินขึ้น-ลงใช้งานได้สะดวกไม่ต้องเดินผ่านหน้า TV ค่ะ

บันไดกว้างประมาณ 1 เมตร ปูลูกนอนด้วยไม้ประสาน มีช่องแสงด้านหน้าบ้านช่วยส่องให้โถงบันไดดูสว่างมากขึ้น

เมื่อขึ้นมาแล้วจะเจอกับห้องนอนแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งเลยค่ะ โดยทั้ง 2 ห้องจะมีขนาดเท่าๆ กัน มีห้องน้ำตรงกลางที่เชื่อมต่อกันได้ อย่างที่ได้เล่าว่าแบบบ้าน Type นี้จะเหมาะกับคนที่ชอบห้องขนาดใหญ่ แต่เป็นส่วนตัวอยู่กัน 2 คน ซึ่งการจัดฟังก์ชันค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวค่ะ

มาดูห้องทางด้านหลังบ้านกันก่อนค่ะ ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 2.60 x 5.60 เมตร วางเตียง King Size 6 ฟุตได้ แต่ถ้าอยากให้ดูสบายๆ แนะนำให้วางเตียง Queen Size 5 ฟุตจะเหลือพื้นที่เดินได้ด้านข้างเตียงค่ะ ส่วนปลายเตียงเนื่องจากห้องลึก 5.60 เมตร จึงสามารถกั้นโซนเป็น Walk-in Closet ส่วนตัวได้

ห้อง Master Bedroom จะอยู่ทางด้านหน้าบ้านค่ะ มีช่องแสงกว้างสักหน่อย แต่พื้นที่ใช้สอยด้านในพอๆ กันเลยค่ะ วางเตียง 5 – 6 ฟุตได้พอดี ส่วนปลายเตียงลึก 5.60 เมตร สามารถกั้นผนังเพื่อติดตั้ง TV หรือกั้นโซน Walk-in Closet แบบในบ้านตัวอย่างก็ได้

ตัวอย่างภายในห้อง Master Bedroom ที่กั้นโซน Walk-in Closet แยกเป็นสัดส่วน เชื่อมต่อกับห้องน้ำ

ห้องน้ำชั้น 2 เป็น Highlight ของบ้าน Type นี้เลยค่ะ เพราะเป็นห้องน้ำที่เข้าพร้อมกันได้ 2 คน พร้อมอ่างล้างหน้าแบบ His & Her พร้อมกระจก Smart Mirror 2 ตัว ไม่ต้องแย่งกันใช้เลย อีกทั้งยังเข้าได้จากห้องนอนทั้ง 2 ห้อง สะดวกมากๆ

ห้องอาบน้ำก็จะแยกส่วนกับห้องสุขภัณฑ์ ทำให้เวลาอาบน้ำอยู่อีกคนก็สามารถเดินมาเข้าห้องน้ำได้ไม่กวนกันค่ะ

ห้องสุขภัณฑ์แยกส่วนออกมาชัดเจน ใช้งานสะดวก ในห้องแปลงมุมจะมีหน้าต่างเปิดระบายอากาศได้อีกด้วยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 CURATOR รามอินทรา 117  ราคา ณ วันที่ 22 เมษายน 2565

• MOMA (A) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 25.00 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
• MORI (B) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 17.81 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
• MOCA (C) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 17.10 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 101 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ / 1 สวน*
  – ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
• จอง 5,000 บาท
• ทำสัญญา 5,000 บาท
• ดาวน์ 12% ผ่อนดาวน์ 18 งวด
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 50,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 48 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

โปรโมชันถึงสิ้นเดือนเมษายน 2565

• ฟรี All
• ฟรี Home Automation
• ฟรี ค่าส่วนกลาง 2 ปี

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

โครงการ Curator รามอินทรา 117 อยู่ในซอยเจริญพัฒนา ซึ่งเป็นทำเลที่มีค่อนข้างเงียบสงบ มีโครงการบ้านพักอาศัยต่างๆ ขึ้นมาในละแวกใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก ออกมาเล็กน้อยก็จะเป็นโซนชุมชนที่มีความคึกคัก และความอุดมสมบูรณ์สูง เดินทางไปศูนย์การค้าขนาดใหญ่ได้ง่าย พร้อมทั้งมีสาธารณูปโภคอย่างสถานพยาบาล สถานศึกษาอยู่ในระยะ 5 – 10 กิโลเมตร

ในแง่ของการเดินทางถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ เพราะจากโครงการ สามารถเชื่อมต่อกับซอยรามอินทรา 117 และซอยหทัยราษฎร์ 15 ได้ ไปออกสู่ถนนหลักได้ 2 เส้นทาง ทั้งเส้นรามอินทรา และถนนสุวินทวงศ์ และเข้าสู่ทางด่วนได้ในระยะทาง 8 กิโลเมตร นอกจากนั้นในอนาคตยังมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูเป็นตัวเลือกในการเดินทางเพิ่มขึ้นด้วย

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ภายในโครงการมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เข้า-ออกทางเดียว ด้วยระบบ Bluetooth มีกล้อง CCTV ที่บริเวณทางเข้า – ออก ภายในโครงการ 14 จุด พร้อมรั้วโครงการที่สูง 2.70 เมตร ตัวบ้านมีกล้อง CCTV ติดตั้งให้บริเวณที่จอดรถทุกหลังค่ะ นอกจากนั้นยังมีระบบรักษาความปลอดภัยมาให้เป็น Door Window Sensor ค่อนข้างปลอดภัยค่ะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

การออกแบบโครงการจัดวางบ้านตามแนวยาวของที่ดินทำให้บ้านทุกแบบจะหันหน้าไปทางทิศเหนือ – ใต้ เป็นทิศที่ไม่ได้รับแสงแดดร้อนตอนบ่ายเข้าตรงๆ ที่ด้านบ้านและรับลมได้ดี มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้านหน้าโครงการ ทำให้บรรยากาศดีตั้งแต่ทางเข้าเลยค่ะ ตัวอาคาร Clubhouse ดีไซน์แบบโมเดิร์น ด้านในตกแต่งน่าใช้งาน

การออกแบบตัวบ้านเป็นจุดเด่นของโครงการนี้ค่ะ โดยมีแบบบ้านทาวน์โฮมภายในโครงการให้เลือกถึง 3 แบบ ในขณะที่โครงการทั่วไปมักมีเพียง 1 – 2 แบบ แต่ละแบบมีจุดเด่นและตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น ฝ้าเพดานที่สูงถึง 3.40 เมตร มี Double Volume และ Skylight ภายในบ้าน และสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันในการใช้งานอยู่อาศัยได้จริง

วัสดุ :

โครงสร้างบ้านเป็นผนัง Pre-Cast แต่ภายในบ้านบริเวณผนังกั้นห้องนอนรอง เป็นผนังที่สามารถทุบได้ ทำให้ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ยืดหยุ่น ลานซักล้างด้านหลังบ้านลงเสาเข็มมาให้เท่าตัวบ้าน* ลดปัญหาการทรุดตัวในการต่อเติม (*สอบถามจากทางโครงการอีกครั้ง) พื้นชั้น 1 และชั้น 2 ปูด้วยกระเบื้องยาง SPC ลายไม้สำหรับคนชอบบรรยากาศอบอุ่นธรรมชาติ ซึ่งหาได้ค่อนข้างยากค่ะ เพราะส่วนใหญ่จะปูพื้นชั้น 1 ด้วยกระเบื้อง ถ้าต้องการพื้นลายไม้ก็ต้องปรับเปลี่ยนเอง ได้สุขภัณฑ์จาก Hafele และประตูหน้าต่างกรอบอะลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสงหนา 5 mm. พร้อมระบบ Smart Switch และกระจกอ่างล้างหน้าแบบ Smart Mirror

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

สภาพโครงการดูเรียบร้อยสวยงาม มีพื้นที่สีเขียวอยู่ด้านหน้าโครงการพื้นที่กว่า 650 ตารางเมตร ภายในมีถนนใหญ่เส้นเดียวตลอดทั้งโครงการ แต่มีการเบี่ยงถนนเล็กน้อยบริเวณตรงกลาง ช่วยให้มองแล้วไม่เป็นทางยาวเชื่อมไปจนสุดโครงการค่ะ

สาธารณูปโภค :

Facility ของโครงการให้มาถือว่าให้มาพอสมควรค่ะ มีอาคาร Clubhouse ประกอบไปด้วย Co-Working Space, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่, ห้องออกกำลังกาย เชื่อมต่อกับ สวน สนามเด็กเล่น มีถนนภายในโครงการกว้าง 9.00 – 12.00 เมตร สามารถขับรถสวนกันได้

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพ็กเกจ 2.5 – 4 ล้านบาท, วันที่ 22 เมษายน 2565

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – เข้า-ออกได้ 2 เส้นทาง มีความอุดมสมบูรณ์ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู
• ความปลอดภัย 7.75/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ. 24 ชม. พร้อมกล้อง CCTV ทุกหลัง
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.75/10 – ออกแบบน่าสนใจแตกต่างจากโครงการทั่วไป
• วัสดุ 7.75/10 – มาตรฐานและเพิ่มเติม Home Automation และพื้นไม้ SPC
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีสวนหย่อมด้านหน้าโครงการ 
• สาธารณูปโภค 8/10 – มีอาคาร Clubhouse สระว่ายน้ำ และฟิตเนส
• 8.00 / 10.00

Curator รามอินทรา 117 เหมาะกับใคร

โครงการ Curator รามอินทรา 117 เหมาะกับคนที่ต้องการหาบ้านเพื่ออยู่ 1 – 2 คน ไปจนถึงครอบครัวที่มีสมาชิกภายในบ้าน 3 – 4 คน ที่ชอบแบบบ้านที่ออกแบบมาลงตัวกับความต้องการ เน้นฟังก์ชันการใช้งาน ในขณะที่มีการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร เช่น ชอบฝ้าเพดานสูง ชอบบ้านที่มี Skylight เป็นต้น ชอบโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางมาให้ใช้งาน ในทำเลเดินทางสะดวก มีรถไฟฟ้าเป็นตัวเลือก มีงบประมาณ 2.79 – 5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 16,750 – 35,000 บาท

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc