รีวิวฉบับที่ 1665 … SAVVI อารีย์ 4 จาก The Urban Property คอนโด Low Rise ระดับ Luxury ในซอยอารีย์ 4 (ฝั่งเหนือ) ห่างจาก BTS อารีย์ 800 เมตร โครงการออกแบบแนวคิด Luxury Boutique Residence เน้นความความ Privacy เป็นส่วนตัวเพียง 39 ยูนิต พร้อมส่วนกลางและที่จอดรถ 82% ในราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยครับ

Fact @ 21 August 2018

  • Savvi Ari 4 (แซฟวี่ อารีย์ 4)
  • The Urban Property
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : พญาไท
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 39 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 7 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 82% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบจอดรถมีทั้งช่องจอด และ Automatic Parking
  • ที่ดินประมาณ 0-1-88 ไร่
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q4/2563
  • 1 Bedroom 35.31-39 ตร.ม. จำนวน 18 ยูนิต
  • 2 Bedrooms 62-76.9 ตร.ม. จำนวน 17 ยูนิต 
  • 3 Bedrooms 98.5-125 ตร.ม. จำนวน 3 ยูนิต
  • Duplex 99.5 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิต
  • ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 160,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 098-524-5444

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.785573, 100.543504

ทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ภายในซอยชำนาญอักษร อยู่ภายในซอยอารีย์ 4 (ฝั่งเหนือ)อีกที ตำแหน่งที่ตั้งโครงการจะถูกล้อมรอบด้วยถนนใหญ่สายสำคัญหลายสาย เช่น ถนนพหลโยธิน ที่สามารถแยกออกไปยังถนนสุทธิสารเพื่อเชื่อมต่อไปยังโซนถนนรัชดาภิเษก หรือไปยังถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นโทลล์เวย์เข้าเมืองไปทางดินแดง-อโศก หรือว่าจะออกนอกเมืองไปยังแถบรังสิตก็ได้ ถนนสายใหญ่อีกเส้นใกล้ตัวโครงการคือ ถนนพระราม 6 โดยสามารถใช้ซอยเสนาร่วมทะลุไปได้ ความสำคัญคือเป็นที่ตั้งของทางขึ้น-ลงทางด่วนทั้งฝั่งเข้าเมืองที่ฝั่งคลองประปา และฝั่งออกนอกเมืองที่ข้างๆโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย และสามารถไปฝั่งธนได้จากถนนเทอดดำริ ซึ่งทั้งสองเส้นนี้

หากมองภาพรวม การเดินทางในทำเลย่านอารีย์ถือว่าค่อนข้างสะดวกโดย ตัวโครงการตั้งอยู่ภายในซอย ไม่ติดถนนใหญ่ หากใช้รถส่วนตัวในการเดินทางอยู่แล้วนั้น ก็ถือว่าสะดวกเนื่องจากการอยู่ภายในซอยนั้นสามารถเข้าออกได้หลายทาง มีทางเลือกในการเดินทาง และช่วยเลี่ยงปัญหารถติดได้ ส่วนการเดินทางแบบไม่ใช่รถยนต์ส่วนตัวนั้น ก็จะมีรถไฟฟ้าสถานี BTS อารีย์ซึ่งระยะทางจากตัวโครงการถึง BTS ทางออก 3 ประมาณ 800 เมตร ภายในซอยค่อนข้างห่างตำแหน่งประจำของพี่วินมอเตอร์ไซต์ ซึ่งจะมีอยู่ที่ปากซอย พหลโยธิน 7 และ พหลโยธิน 9 ห่างจากตัวโครงการประมาณ 400 เมตร แต่ภายในซอยอารีย์จะมีพี่วิน รถตุ๊กตุ๊ก และแท็กซี่ขับผ่านไปมาตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ยืนรอไม่นานก็เรียกรถได้แล้วครับ

จุดเด่นของทำเลย่านพหลโยธิน – อารีย์ คือมีความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ค่อนข้างสูง พื้นที่รอบโครงการในระยะใกล้ ภายในซอยอารีย์อุดมไปด้วยตลาด ร้านค้า คาเฟ่ ร้านอาหาร ดูดีมีสไตล์เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คึกคักชั้นนำของวัยรุ่นและคนทำงานอีกย่านหนึ่งในกรุงเทพ อีกทั้งยังมี Community Mall ขวัญใจชาวอารีย์ La Villa ที่มี Supermarket อย่าง Villa Market อยู่ชั้นล่าง ด้านบนเป็นร้านอาหารชั้นนำและบริการต่างๆ อยู่ค่อนข้างครบครัน ถัดไปฝั่งสะพานความมี Aqua Ari และ Big C สะพานควาย นอกจากนั้นแล้วยังไม่ไกลกับ ตลาด อตก. และตลาดนัดจตุจักร ซึ่งเป็นตลาดนัดขนาดใหญ่ในทำเลนี้ มีอาคารสำคัญประเภทอื่นรายล้อมอยู่โดยรอบ เช่น โรงพยาบาล วิชัยยุทธตรงพระรามหก โรงพยาบาลเปาโลที่อยู่แถวสะพานควาย และโรงพยาบาลพญาไท 2 แถวสนามเป้า โรงเรียนมัธยมสามเสนวิทยาลัย โรงเรียนประถมฝั่งตรงข้ามซอยโครงการอย่างโรงเรียนสวนบัว นอกจากนั้นก็จะมีสถานที่ราชการ กระทรวงการคลัง กรมประชาสัมพันธ์ ตึกอาคารสำนักงานอย่างธนาคารออมสิน ททบ5 Pearl อาคารทิปโก้ อาคารชินวัตร เป็นต้นครับ

ทำเลที่ตั้งของพื้นที่อยู่ภายในซอยเสนาร่วม (ซอยตัน) ซึ่งเข้าจากซอยอารีย์4 (ฝั่งเหนือ) ตำแหน่งที่ตั้งของตัวโครงการอยู่ภายในซอยก็จริง แต่ข้อดีของการอยู่ในซอยทำให้สามารถทะลุ ลัดเลาะออกได้หลายเส้นทาง มีทางเลือกในการเดินทางและช่วยหลีกเลี่ยงปัญหารถติดได้ มาดูกันนะครับว่าตำแหน่งโครงการเราสามารถทะลุออกเส้นไหนได้บ้าง

  • เส้นสีฟ้า : ทะลุออกถนนพระรามที่ 6 โดยออกจากหน้าโครงการมา ขับตรงขึ้นทะลุเข้าซอยพหลโยธิน 9 จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าพหลโยธิน 11 (ซอยเสนาร่วม) ตรงไปเรื่อยๆจนสุดทางจะทะลุออกถนนพระรามที่ 6 เส้นทางนี้สามารถไปขึ้นทางพิเศษศรีรัชได้ที่ด่านเก็บเงินคลองประปา 1 หรือจะทะลุต่อไปเข้ากับถนนเทอดดำริ เพื่อเดินทางไปโซนฝั่งธนบุรีก็ได้ครับ ระยะทางรวมจากโครงการถึงถนนพระราม 6 ประมาณ 1.3 กิโลเมตร
  • เส้นสีชมพู : เชื่อมต่อกับถนนประดิพัทธ์ โดยออกจากหน้าโครงการมา ขับตรงขึ้นทะลุเข้าซอยพหลโยธิน 9 จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าพหลโยธิน 11 (ซอยเสนาร่วม) ตรงไปอีกนิดเลี้ยวขวาเพื่อเข้าซอยประดิพัทธ์ 10 จากนั้นตรงเข้าสู่ถนนประดิพัทธ์ ไปเชื่อมต่อไปบางซื่อ เตาปูน สะพานพระราม 7 หรือจะไปทางถนนพระรามที่ 5 มีระยะทางรวมจากโครงการถึงถนนประดิพัทธ์ประมาณ 1.2 กิโลเมตร
  • เส้นสีม่วง : เชื่อมต่อไปยังถนนพหลโยธิน โดยออกทางซอยพหลโยธิน 7 (ซอยอารีย์) ภายในซอยมีการจราจรค่อนข้างคับคั่ง เนื่องจากมีร้านค้า ร้านอาหารเรียงรายตามข้างทาง ซึ่งจากทางนี้ เมื่ออกมาหน้าปากซอยพหลโยธิน วิ่งออกไปอีกประมาณ 350 เมตร จะพบจุดกลับรถไปบนถนนพหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิครับ โดยจะมีระยะทางรวมจากโครงการถึงถนนหพลโยธินประมาณ 750 เมตร
  • เส้นสีส้ม : เชื่อมต่อไปยังถนนพหลโยธิน โดยออกทางซอยพหลโยธิน 9 ปากซอยมีวินมอเตอร์ไซต์ เป็นตัวเลือกในการเดินทางครับ เนื่องจากทางออกไปถนนพหลโยธินอีกทาง (จากซอยพหลโยธิน 7) ภายในมีการจราจรค่อนข้างหนาแน่นตลอดทั้งวัน มีระยะทางรวมจากโครงการถึงถนนหพลโยธินประมาณ 500 เมตร
  • เส้นสีน้ำเงิน : ทะลุออกถนนพระรามที่ 6 โดยออกจากหน้าโครงการมาเลี้ยวขวาเข้าซอยอารีย์ 4 (ฝั่งเหนือ) แล้วมาเลี้ยวซ้ายเชื่อมต่อเข้าซอยพหลโยธิน 7 (ซอยอารีย์) จากนั้นเข้าซอยอารีย์ 3 (หรือ 1 ก็ได้ แต่จะไกลกว่านิดหน่อย) ตรงจุดสุดทางเชื่อมเข้าถนนพระราม 6 ซอย 30 จากนั้นเลี้ยวขวา และตรงต่อไปจนสุดทางเพื่อเข้าถนนพระราม 6 เส้นทางนี้สามารถขึ้นทางพิเศษศรีรัชได้ที่ด่านคลองประปา 2 ครับ ระยะทางรวมจากโครงการถึงถนนพระราม 6 ประมาณ 2 กิโลเมตร

แผนที่แสดงเส้นทางขึ้นลงทางด่วนโดยรอบโครงการครับ

  • เส้นสีฟ้า : เส้นทางขึ้นทางพิเศษศรีรัชที่ด่านคลองประปา 1 โดยออกจากหน้าโครงการมา ขับตรงขึ้นทะลุเข้าซอยพหลโยธิน 9 จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าพหลโยธิน 11 (ซอยเสนาร่วม) ตรงไปเรื่อยๆจนสุดทางจะทะลุออกถนนพระรามที่ 6 ตรงต่อมาอีกประมาณ 500 เมตร จะพบด่านเก็บเงินคลองประปา 1  เพื่อขึ้นทางพิเศษศรีรัช รวมระยะทางรวมจากโครงการถึงด่านคลองประปา 1 ประมาณ 1.9 กิโลเมตร
  • เส้นสีเหลือง : เส้นทางลงจากทางพิเศษศรีรัชเข้าสู่โครงการ ฝั่งเส้นทางขับมาจากฝั่งดินแดง ลงจากจุดลงทางด่วนในแผนที่ วนวงเวียนเกือกม้าลงมาเข้าสู่ถนนพระราม 6 ตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 500 เมตร เบื่องขวา เข้าสู่ถนนเสนาร่วม จากนั้นตรงต่อไปเรื่อยๆ เลี้ยวขวาเข้าซอยพหลโยธิน 9 เชื่อมต่อเข้าซอยชำนาญอักษร และเข้าสู่ตัวโครงการ รวมระยะทางรวมจากจุดลงทางด่วนถึงโครงการประมาณ 2.2 กิโลเมตร
  • เส้นสีน้ำเงิน : เส้นทางขึ้นทางพิเศษศรีรัชที่ด่านคลองประปา 2 โดยออกจากหน้าโครงการมาเลี้ยวขวาเข้าซอยอารีย์ 4 (ฝั่งเหนือ) แล้วมาเลี้ยวซ้ายเชื่อมต่อเข้าซอยพหลโยธิน 7 (ซอยอารีย์) จากนั้นเข้าซอยอารีย์ 3 (หรือ1ก็ได้ แต่จะไกลกว่านิดหน่อย) ตรงจุดสุดทางเชื่อมเข้าถนนพระราม 6 ซอย 30 จากนั้นเลี้ยวขวา และตรงต่อไปจนสุดทางเพื่อเข้าถนนพระราม 6 เลี้ยวซ้ายตรงต่อมาอีกนิดเดียว แล้วเบี่ยงเข้าซ้ายต่อเข้าด่านคลองประปา 2 เพื่อขึ้นทางพิเศษศรีรัช รวมระยะทางรวมจากโครงการถึงด่านคลองประปา 2 ประมาณ 2 กิโลเมตร

จะพามาชมเส้นทางไปโครงการ พร้อมกับดูบริบทโดยรอบพื้นที่ระหว่างทางไปโครงการครับ โดยเส้นทางที่เราจะไปกันวันนี้คือจากสถานีรถไฟฟ้า BTS อารีย์ รถไฟฟ้าสายสีเขียว มีเส้นทางมาได้จากจุดสำคัญๆ ของกรุงเทพ สามารถไปทางฝั่งหมอชิต (สถานีปลายทาง สามารถเชื่อมต่อไป รถไฟฟ้ามหานคร MRT ได้) ผ่าน สะพานควาย หรือจะไป  อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  สยาม (เชื่อมไปต่อกับ BTS สายสีลม)  อโศก  ทองหล่อ-เอกมัย ยาวไปจนถึงบางนา แบริ่ง สำโรง จะเห็นได้ว่าตำแหน่งของโครงการนั้นสะดวกต่อการเข้าออกจากพื้นที่สำคัญต่างๆภายในกรุงเทพ

เมื่อลงมาที่สถานีรถไฟฟ้าอารีย์ ให้ออกมาที่ประตูทางออกหมายเลข 3 ลงมายังฝั่งถนนพหลโยธิน ซอยเลขคี่ เพื่อที่จะเข้าซอยพหลโยธิน 7 จากนั้นเดินเข้ามาภายในซอยพหลโยธิน 7 ประมาณ 350 เมตร เลี้ยวขวาเข้าซอยอารีย์4 (ฝั่งเหนือ) ตรงเข้ามาอีกประมาณ 300 เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าซอยชำนาญอักษร  ตรงเข้าไป อีกประมาณ 100 เมตร จะพบโครงการ Savvi Ari4 อยู่ทางซ้ายมือครับ

วันนี้เรามาเริ่มกันที่สถานีรถไฟฟ้า BTS อารีย์กันนะครับ สถานีอารีย์อยู่ห่างจากปลายทางหมอชิตเพียง 2 สถานี สามารถไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานครที่สถานีหมอชิตได้สะดวกครับ

ภายในสถานีอารีย์ถือว่าเป็นสถานีที่ค่อนข้างคึกคัก มีผู้คนเดินพลุกพล่านตลอดเวลาทำการตั้งแต่เช้าถึงเย็นเลยทีเดียวครับ ดังนั้นภายในสถานีจึงดูอุดมสมบูรณ์พอสมควร มีร้านค้า ร้านขนม หลากหลาย

ให้เราเลือกออกทางออกหมายเลข 3 นะครับ ซึ่งจะลงไป ลงทางถนนพหลโยธินฝั่งซอยเลขคี่ เนื่องจากเราต้องเข้าทางซอยพหลโยธิน 7 ครับ

เมื่อลงจะด้านล่าง จะสังเกตุได้ว่าความอุดมสมบูรณ์บริเวณนี้มีค่อนข้างมาก มีร้านค้าขนาบข้างตามแนวรถไฟฟ้าตลอด ให้เราเดินไปทางฝั่งมุ่งหน้าไปสะพานควายครับ เพื่อเข้าซอยพหลโยธิน 7 (ซอยอารีย์)

ตำแหน่งของพี่วินอยู่ถัดมาจากประตูทางขึ้นลงสถานีอารีย์หมายเลข 3 ที่เราพึ่งลงมาเมื่อสักครู่ เพียงแค่ประมาณ  10 เมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าลงมาก็สามารถเรียกได้เลยครับ

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสถานี BTS อารีย์ ประกอบไปด้วย Comunity Mall หลักของอารีย์ La Villa Ari ซึ่งจะตั้งอยู่ฝั่งพหลโยธินซอยเลขคู่ ภายในมี Villa Market แหล่งจับจ่ายใช้สอยที่รวมสินค้าคุณภาพจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศมาให้เลือกสรรค์กันมากมาย อีกทั้งในฝั่งซอยพหลโยธินเลขคี่ที่เราอยู่นี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร 24 ชั่วโมง 7-eleven และแผงลอยต่างๆ ยาวตลอดแนวเลยครับ

เดินถัดมาจากตัวสถานีประมาน 20 เมตร จะพบสะพานลอยข้ามแยกอารีย์ เป็นสะพานลอยแบบ 3 ทาง สามารถข้ามไปลงฝั่งตรงข้ามของถนนพหลโยธิน และ ฝั่งตรงข้ามซอยพหลโยธิน7 (ซอยอารีย์) ได้

เดินตรงต่อมาจากบีทีเอสเพียงประมาณ 50 เมตรก็จะพบ ปากซอย พหลโยธิน 7 หรือ ซอยอารีย์ นั่นเองครับ ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าไปภายในซอยเลยครับ

ภายในซอยค่อนข้างคึกคักคับ มีแผงลอยตลอดแนวทำให้ทางเดินเหลือค่อนข้างแคบและไม่มีชายคาให้เดินมากนัก หากใช้การสัญจรโดยการใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักต้องเดินเข้าออกซอยเป็นประจำ แนะนำให้พกร่มด้วยครับ

เดินเข้ามาประมาณไม่ถึง 50 เมตร ก็จะพบ ซอยอารีย์ 1 ซึ่งภายในจะประกอบด้วยอาคารพาณิชย์เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟต่างๆมากมาย ปากซอยมีแก๊งพี่ๆตุ๊กๆคอยให้บริการ ซึ่งซอยนี้เป็นซอยบังคับเดินรถทางเดียวคือเข้าไปภายในซอยอย่างเดียว สามารถเชื่อมต่อกับซอยราชครูได้ อีกทั้งยังสามารถทะลุออกถนนพระราม 6 ได้อีกด้วยครับ

ฝั่งตรงข้ามมีโครงการ Noble Form ครับ เป็นคอนโด High Rise ขนาดใหญ่พอสมควร ใต้อาคารมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สามารเข้าไปใช้บริการได้ครับ

เดินตรงต่อเข้าไปในซอยพหลโยธิน 7 ครับ ภายในซอยยังคงมีร้านค้าแผงลอยขนาบข้างยาวมาต่อเนื่องครับ

เดินถัดมาจะพบอพาร์ทเม้นท์ บ้านยศวดีอยู่ทางขวามือครับ เป็นอาคารสูง 18 ชั้น มีทั้งหมด 55 ห้อง

ยังคงเดินตรงต่อเข้ามาภายในซอยพหลโยธิน 7 (อารีย์) เลยมาอีกนิดจะพบโครงการ Noble Reflex เป็นอาคารพักอาศัย 20 ชั้น เยื้องๆด้านหน้ามี 7 eleven ให้บริการครับ ซึ่งเป็นสาขาที่ใกล้กับโครงการเรามากที่สุดเช่นกัน

เมื่อเข้ามาภายในซอยบริเวณข้างทางก็จะมีร้านอาหาร ร้านขนม คาเฟ่ ที่มีขนาดพื้นที่มากยิ่งขึ้น กระจายตัวอยู่โดยรอบครับ แต่เนื่องว่าค่าพื้นที่บริเวณโซนอารีย์ค่อนข้างสูงมาก ทำให้ร้านเหล่านี้เปลี่ยนหน้าตาเปลี่ยนมือกันไปค่อนข้างบ่อยครับ

หลังจากที่เดินเข้ามาจากปากซอยพหลโยธิน 7 (ซอยอารีย์) ได้ประมาณ 350 เมตร ก็จะพบกับซอยอารีย์ 4 (ฝั่งเหนือ) อยู่ทางขวามือ เลี้ยวเข้าไปกันเลยครับ จุดสังเกตง่ายๆปากซอยจะอยู่ตรงข้ามกับร้านอาหาร Salt ครับ

เข้ามาภายในซอยอารีย์ 4 (ฝั่งเหนือ) จะสังเกตได้ว่า ถนนค่อนข้างกว้าง มีทางเท้าสำหรับเดินได้อย่างสะดวก มีแนวต้นไม้ให้ร่มเงาตลอดทั้งแนวทางเดิน ห้อมล้อมด้วยอาคารพักอาศัยแนวราบ 1-3 ชั้น ไปดูข้างในกันต่อเลยครับ

ภายในซอยมีร้านอาหารแทรกบ้างเป็นหย่อมๆ จากที่เดินเข้ามาก็พบร้านอาหารญี่ปุ่น 2 ร้าน ตำแหน่งไม่ห่างกันมาก ตกแต่งสวยงามมีความเป็นญี่ปุ่นชัดเจน ไปลิ้มลองกันได้นะครับ โดยจะมี

  • Rokukyo69 : ร้านอิซากายะ ที่มีความเก๋ไก๋ ตั้งแต่ผนังกราฟิตี้หน้าร้าน ไปจนถึงเมนูภายในร้าน ที่มีทั้งเมนูทั้งเสียบไม้ยากิโทริ ข้าวหน้าหมูบลูโกกิ ราเมงน้ำข้น ไปจนถึงเมนูชาบูหม้อไฟ เป็นต้น
  • Yuzawa Izakaya : เป็นร้านอิซากายะก็จริง แต่ก็มีเมนูอาหารญี่ปุ่นเกือบทุกเมนูที่เราเคยเห็นกัน ตั้งแต่ ซูชิ ปิ้งย่าง นาเบะหม้อไฟ อูด้ง ข้าวหน้าต่าง ๆ ไปจนถึงเบียร์เย็น ๆ และสาเกแน่นตู้

ถัดมาอีกนิดหน่อย จะพบร้านกาแฟ Bar Storia Del Cafe’ ร้านกาแฟสไตล์เรโทรวินเทจ ภายในมีสปาให้บริการอีกด้วยครับ เหมาะแก่การนั่งทำงานในวันหยุด หรือจะมาทานอาหารก็ได้ ซึ่งอาหารที่ร้านจะเป็น All-Day Dining สามารถสั่งเบรคฟาสต์หรือจานหลักได้ตลอดวัน

ติดกันกับคาเฟ่เมื่อสักครู่คือคอนโด Centric Place คอนโด Low Rise 8 ชั้น 77 ยูนิต ครับ

เดินมาจนสุดทาง จะพบสามแยก เข้าสู่ซอยชำนาญอักษรครับ ให้เราเลี้ยวซ้ายนะครับ หากเลี้ยวขวาตามทางไปเรื่อยๆจะไปโผล่ที่ซอยพหลโยธิน 9 ครับ

ภายในซอยชำนาญอักษร เป็นถนนแบบเดินรถสองทางครับ แต่ภายในเป็นซอยตัน มีรถจอดริมข้างทางประปรายภายในซอย ซึ่งสำหรับผู้ที่ใช้รถส่วนตัวอาจจะต้องระวังนิดนึงครับ

หลังจากตรงเข้ามาภายในซอยประมาณ 100 เมตร เราก็มาถึงที่ตั้งโครงการกันแล้วนะครับ ปัจจุบันที่ตั้งโครงการยังเป็นพื้นที่เดิมอยู่ ซึ่งมีบ้านพักอาศัย 2 ชั้นตั้งอยู่ภายใน

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

ที่ตั้งโครงการอยู่ภายในซอยชำนาญอักษร ซึ่งเป็นซอยตัน สามารถเข้าได้ 2 ทาง จากซอยพหลโยธิน 7 และ พหลโยธิน 9 รอบข้างถูกรายล้อมด้วยอาคารที่พักอาศัยแนวราบ พื้นที่รอบข้างที่ติดตัวโครงการประกอบไปด้วย

  • ทิศเหนือ : ติดถนนซอยชำนาญอักษร ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าออกเดียวของโครงการ ฝั่งตรงข้ามถนนคือบ้านพักอาศัย 4 ชั้น
  • ทิศตะวันออก : ติดอาคารบ้านพักอาศัย 4 ชั้น
  • ทิศใต้ : พื้นที่ว่างโล่ง เยื้องๆ กับ บ้านพักอาศัยภายในซอยอารีย์พันธ์ 7 ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
  • ทิศตะวันตก : ติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น และพื้นที่ว่างทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

พื้นที่ด้านข้างโครงการทางด้านทิศตะวันออกของพื้นที่ คืออาคารพักอาศัย 4 ชั้น มีรถจอดหน้าอาคารเป็นประจำ

ด้านข้างอีกฝั่งทิศตะวันตกเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ครับ

ฝั่งตรงข้ามโครงการมีบ้านพักอาศัยส่วนตัว 4 ชั้น

ส่วนสำนักงานขายของโครงการนั้นอยู่อีกฝั่งของซอยชำนาญอักษรครับ โดยต้องเดินย้อนกลับไปทางซอยอารีย์ 4 ฝั่งเหนือ เลยไปอีกหน่อยฝั่งทางมุ่งหน้าไปซอยพหลโยธิน 9 ประมาณ 400 เมตร  

อยู่ภายในซอยชำนาญอักษณฝั่งมุ่งหน้าไปซอยพหลโยธิน 9 จะพบโรงพยาบาลสัตว์พญาไท 7 อยู่ทางขวามือครับ ซึ่งจะตั้งอยู่ตรงข้ามกับตัวสำนักงานขายโครงการ Savvi Ari 4 ครับ

ตัวสำนักงานขายโครงการ Savvi Ari4 มีการออกแบบดูทันสมัย ตกแต่งด้วยสีเอิร์ทโทน มีแนวกรอบอาคารแนวตั้งบังสายตาและดูทันสมัย บ่งบอกถึง Concept โครงการมีการตกแต่งโดยใช้ Layer ของกรอบอาคารและตัวอาคาร ด้วยโทนสี Copper ดูเป็นมิตรและอบอุ่นครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น 

  • โรงพยาบาลสัตว์พญาไท 7 ~ 200 ม.
  • อาคารชินวัตร ~ 450 ม.
  • สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ~ 650 ม.
  • โรงพยาบาลประสานมิตร ~ 650 ม.
  • Aqua Ari ~ 800 ม.
  • BTS อารีย์  ~ 800 ม.
  • La Villa Ari ~ 850 ม.
  • พหลโยธินเพลส ~ 1 กม.
  • Big C Supercenter สะพานควาย ~ 1.1 กม.
  • ตึก Pearl ~ 1.1 กม.
  • รพ.เปาโล ~ 1.2 กม.
  • BTS สะพานควาย ~ 1.4 กม.
  • ด่านคลองประปา 1 (ด่านขึ้นทางพิเศษศรีรัช) ~ 1.9 กม.
  • กระทรวงการคลัง ~ 1.8 กม.
  • รพ.วิชัยยุทธ ~ 2 กม.
  • กรมขนส่งทางบก ~ 2 กม.
  • กระทรวงทรัพยากร ~ 2.1 กม.
  • ตลาดนัดจตุจักร ~ 2.1 กม.
  • ตลาด อตก. ~  2.1 กม.
  • ด่านคลองประปา 2 (ด่านขึ้นทางพิเศษศรีรัช) ~ 2.2 กม.
  • สโมสรทหารบก ~ 3 กม.
  • ม.หอการค้าไทย ~ 3.9 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

ภาพจำลองตัวโครงการ ตัวโครงการ Savvi Ari 4  เป็นอาคาร Low Rise 8 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ 188 ตร.วา 1 อาคาร มีทั้งหมด 39 ยูนิต ลักษณะตัวอาคารเป็นสี่เหลี่ยม ตัวอาคารออกแบบตามแนวคิด Luxury Boutique Residence เน้นความเป็นส่วนตัว รูปด้านอาคารจะใช้การออกแบบโดยเล่นกับ Layer ของอาคารให้อาคารดูมีมิติและช่วยบังสายตาให้รู้สึกเป็นส่วนตัว ด้วยกรอบอาคารแนวตั้งสี Copper ตัดกับตัวอาคารที่เป็นกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว ดูเรียบง่ายและหรูหรา โครงการมีทางเข้าออกทางเดียว ภายในสามารถจอดรถได้ที่ชั้น 1 ใช้ระบบการจอดรถทั้งแบบปกติ และที่ชั้นใต้ดินเป็นที่จอดแบบ Automatic Parking รวมทั้งหมด 82 %

ภายในมีห้องทั้งหมด 4 แบบ คือ 1 Bedroom, 2 Bedrooms, 3 Bedrooms, Deplex โดยที่ชั้น 1 ภายนอกอาคารถูกจัดเป็นส่วนจอดรถใต้อาคาร ภายในอาคารจัดเป็นส่วน Lobby พื้นที่ต้อนรับที่สามารถเชื่อมต่อไปยังส่วนของห้องนิติบุคคล และมีห้องพัก 1 ห้องในชั้นนี้คือห้อง Duplex โดยชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2-8 ชั้น 2 จะมีห้องออกกำลังกาย ด้านบนมีชั้นดาดฟ้าที่ถูกจัดเป็นสวนและสระว่ายน้ำ

ทางเข้าออกของโครงการมีทางเดียวที่บริเวณหน้าโครงการเข้าจากซอยชำนาญอักษร ภายในเดินรถได้สองทาง วนรถเข้าออกได้ง่าย มีที่จอดรถภายนอกอาคารทั้งหมด 13 คัน ที่ชั้น 1 และ Automatic Parking อีก 15 คัน โดยเป็นระบบ Puzzle โดยเป็นใต้ดิน 2 ชั้น และบนดิน 2 ชั้น (บริเวณชั้น1,2) สามารถนำรถเข้าออกได้ทีละ 3 คัน ช่วยประหยัดเวลาในการรอคอยรถครับ

ส่วนต้อนรับ Lobby ของโครงการตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน เพื่อความต่อเนื่องและกลมกลืนของการออกแบบ ภายในยังมีส่วนที่เป็นเส้นแนวตั้งสี copper คล้ายกับกรอบอาคาร พื้นที่ต้อนรับมีระดับฝ้าเพดานแบบ Double Volume และพร้อมทั้งกระจก Full Height สามารถรับแสงธรรมชาติ ทำให้ห้องดูสว่าง กว้าง โล่ง อีกทั้งยังสามารถรับชมบรรยากาศรอบข้างภายในโครงการได้อีกด้วย พื้นที่ด้านบนมีส่วนของ Fitness ที่สามารถออกกำลังกายไปพร้อมกับได้มุมมองของส่วนต้อนรับและบรรยากาศภายนอกอาคารด้วยครับ

ชั้นดาดฟ้าของโครงการเป็นส่วนที่ถูกจัดไว้เป็นพื้นที่ส่วนสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 16.6 x 5.5 เมตร แต่จะไม่ส่วนห้องน้ำและอาบน้ำให้นะครับ ด้านบนดาดฟ้าสามารถรับบรรยากาศพื้นที่โดยรอบโครงการได้

ผังพื้นที่โดรงการชั้น 1 ครับ เนื่องจากตัวอาคารตั้งอยู่บนพื้นที่ไม่ถึง 1 ไร่ จึงจำเป็นต้องจัดส่วนพื้นที่ในแต่ละส่วนให้คุ้มค่าและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด มีส่วนเข้า-ออกโครงการอยู่ทางด้านหน้าเพียงทางเดียว ใต้อาคารบริเวณชั้น 1 มีที่จอดรถเตรียมไว้ให้ 13 คัน หรือเลือกใช้งานพื้นที่จอดรถแบบ Automatic Parking สามารถจอดได้อีก 15 คัน (ในชั้นใต้ดิน) รวมทั้งหมด 82% รวมจอดซ้อนคัน

ส่วนพื้นที่ภายในอาคารในชั้น 1 จะประกอบด้วย ส่วน Lobby ต้อนรับที่ตกแต่งด้วยผนังกระจก Full Height ทำให้ดูโปร่งโล่ง รับแสงธรรมชาติ และยังเห็นบรรยากาศภายนอกอาคารได้ด้วยครับ มีส่วนเชื่อมต่อไปยังห้องนิติบุคคล โดยมีโถงลิฟต์อยู่ถัดเข้ามาด้านในส่วน Lobby การวางตำแหน่งลิฟต์ตรงนี้จะทำให้สามารถเข้าถึงห้องพักส่วนต่างๆได้ง่าย ไม่มีห้องที่ต้องเดินจากลิฟต์ไกลเกินไป โดยชั้น 1 นี้มีห้องพัก 1 ห้องคือห้อง Deplex  ขนาด 99.5 ตร.ม. อยู่ในตำแหน่งที่แยกเข้ามาด้านในของตัวอาคาร แต่จะมีทางเข้าห้องอยู่ที่ชั้น 2 ครับ

ชั้น 2 เริ่มเป็นส่วนของห้องพักอาศัย โดยมีทางเดินแบบ Single Corridor เชื่อมต่อไปสู่ห้องพักอาศัยในชั้นนี้ ซึ่งชั้นนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้วยคือ Fitness ตั้งอยู่บริเวณโถงลิฟต์ทำให้ไม่ต้องเดินเข้าไปถึงส่วนที่เป็นห้องพัก ภายในห้องออกกำลังกายสามารถมองลงมาเห็นบรรยากาศของพื้นที่ต้อนรับที่เป็น Double Volume ได้ อีกทั้งยังสามารถมองตรงออกไปเห็นบรรยากาศภายนอกอาคาร เนื่องจาก Lobby ตกแต่งด้วยกระจก Full Height สูงยาวจากพื้นจรดฝ้าชั้นสอง ส่วนห้องพักของชั้นนี้ ประกอบไปด้วย ห้องทั้งแบบ 1 Bedroom 3 ห้อง และ 2 Bedrooms 1 ห้อง ที่บริเวณมุมด้านหน้าของอาคาร  และห้อง Deplex  1 ห้อง อยู่ทางด้านในสุดของตัวอาคาร ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ไม่ต้องใช้ผนังร่วมกับห้องอื่นๆ

ชั้น 3 – 5 จัดแบบ Typical plan เป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมดทั้งชั้น โดยประกอบไปด้วย ห้องพักแบบ 1 Bedroom 4 ห้อง และ 2 Bedrooms 3 ห้อง ส่วนด้านหน้าของอาคารและมุมด้านหลังอีก 1 มุม จะเป็นห้อง 2 Bedrooms ซึ่งห้อง 2 Bedrooms ในส่วนที่มีพื้นที่ติดภายนอกอาคาร จะมีส่วนกระจกเข้ามุม ที่ทำให้สามารถรับวิวได้มากกว่า

ชั้น 6 ของโครงการ จะมีห้อง 2 Bedrooms 4 ห้อง ทั้ง 4 มุมของอาคาร และ 1 Bedroom 2 ห้อง แทรกอยู่ตรงกลาง โดยแต่ละห้องมุมที่เป็นห้อง 2 Bedrooms จะได้รับวิวจากกระจกเข้ามุม ที่สามารถรับวิวได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนพื้นที่ด้านหน้าอาคาร จะอยู่บริเวณหน้าลิฟต์เข้าถึงได้ง่าย ส่วนด้านหลังก็จะได้ข้อดีเรื่องความสงบและได้วิวที่เปิดโล่งเนื่องจากหันหน้าเข้าสู่พื้นที่ว่างด้านหลังโครงการ

ส่วนชั้น 7 จะเริ่มมีห้อง 3 Bedrooms 1 ห้องแทรกเข้ามาด้านหลังอาคาร ประกอบกับ ห้อง 2 Bedrooms 3 ห้อง ที่มุมทั้ง 3 ของอาคาร และมีห้อง 1 Bedroom 1 ห้อง แทรกอยู่ตรงกลาง ห้องบริเวณด้านหน้าโครงการเป็นห้อง 2 Bedrooms ก็จะได้รับวิวหน้าโครงการ เข้าถึงได้ง่าย ส่วนห้องด้านในก็จะได้เรื่องความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นครับ

 

ชั้น 8 ของอาคาร ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของห้องพักอาศัย โดยชั้นนี้จะมีเพียงสองห้อง ซึ่งใครเลือกชั้นนี้ก็จะได้ความ Privacy เป็นส่วนตัว มีเพื่อนบ้านในชั้นนี้แค่ 2 ห้องเท่านั้น ซึ่งในชั้นนี้จะเป็นห้อง 3 Bedrooms ทั้งหมด ที่บริเวณด้านหลังอาคาร โดยทางบริเวณด้านหน้าอาคารจะเป็นส่วนของพื้นที่ใต้สระของสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า

ชั้นดาดฟ้าของโครงการจัดพื้นที่เป็นชั้นสระว่ายน้ำ โดยสระจะเป็นลักษณะรูปทรง 4 เหลี่ยมผืนผ้า เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 16.6 x 5.5 เมตร พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อน ใช้นั่งชมวิวมุมสูงจากดาดฟ้าอาคารได้ แต่จะไม่ส่วนห้องน้ำและอาบน้ำให้นะครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 16.6 x 5.5 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว แบบล็อคชั้น
  • อัตราส่วนลิฟต์ 20 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัว
  • ที่จอดรถ คันคิดเป็น 82% รวมจอดซ้อนคัน
  • Automatic Parking System 
  • ระบบ CCTV / Access Card
  • รปภ. รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
  • รถรับส่ง BTS อารีย์
  • Home Automation

Product Walkthrough

ห้องแบบแรกที่เราจะมาดูกันในวันนี้คือห้อง 1 Bedroom ขนาด 36.38 ตารางเมตร จัดมาให้แบบ Fully Fitted ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.6 m. รูปร่างของห้องเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า จัดพื้นที่การใช้งานภายในห้องหลัก เป็น 5 ส่วน ได้แก่ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำและระเบียงซักล้าง จัดพื้นที่การใช้งานในส่วนต่างๆไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน ประตูเข้าห้องเป็นประตู HDF ขนาด Oversize ประมาณ 2.3 เมตร ตัวเข้าห้องเป็นระบบ Digital Door Lock เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ส่วนห้องครัว เป็นครัวแบบเปิด ไม่มีฉากกั้นให้ ครัวแบบนี้จะต้องระมัดระวังเรื่องการประกอบอาหารที่มีกลิ่นและควัน กรณีนี้เราสามารถติดประตูหรือฉากบานเลื่อนเพิ่มเติมเองได้ครับ พื้นครัวเป็นกระเบื้อง มีเคาน์เตอร์ครัวมาให้ ฝั่งตรงข้ามห้องครัวมีห้องน้ำ ที่สามรถเข้าได้ 2 ฝั่ง จากทางด้านนี้และฝั่งห้องนอน

ถัดเข้าไปยังส่วนอื่นของห้อง พื้นที่นั่งเล่นที่รวมถึงพื้นที่รับประทานอาหารด้วย มีพื้นที่เชื่อมต่อไปยังระเบียงที่สามารถรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ จัดพื้นที่ห้องนั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาขนาดกลาง 2-3 ที่นั่งได้ มีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.3 เมตร เลยเข้าไปในตัวห้องจะเป็นพื้นที่ห้องนอน โดยจะมีแนวฉากบานเลื่อนไม้มาให้ ทำให้สามารถแบ่งสัดส่วนห้องได้อย่างชัดเจน ภายในห้องนอนมีกระจกบานกระทุ้ง สามารถระบายอากาศภายในห้องได้ อีกทั้งยังมีส่วน Walk-in Closet บริเวณหน้าประตูห้องน้ำ อีกด้วย ภายในห้องน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วยครับ

ประตูเข้าห้องเป็นประตู HDF ขนาด Oversize ประมาณ 2.3 เมตร ตัวเข้าห้องเป็นระบบ Digital Door Lock Alpha ป้องกันการสะเดาะกุญแจ และป้องกันน้ำได้

บริเวณพื้นด้านล่างมีธรณีประตูที่เป็นหินแกรนิตสำหรับส่วนทางเข้าห้องครับ

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 36.38 ตารางเมตร จัดมาให้แบบ Fully Fitted ส่วนแรกที่จะพบก่อนเลยคือส่วนพื้นที่ครัว ฝั่งตรงข้ามทางซ้ายจะเป็นห้องน้ำที่สามารถเข้าได้ 2 ทาง ส่วนด้านในจะเป็นห้องนั่งเล่นและระเบียง และส่วนในสุดของห้องคือส่วนห้องนอน พื้นภายในห้องส่วนใหญ่เป็นกระเบื้องยางไวนิลลายไม้ ส่วนพื้นครัวและห้องน้ำจะเป็นกระเบื้อง porcelain ในส่วนของผนังห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี โดยมีระยะพื้นถึงฝ้า 2.6 m.แต่ห้องน้ำและห้องครัวจะมีระดับพื้นถึงฝ้าเพียง 2.35 เมตร เนื่องจากภายในห้องเป็นระบบปรับอากาศแบบ ฝังภายในฝ้า ทำให้ต้องมีพื้นที่ฝ้าลดลงเพื่อฝังตัวเครื่องปรับอากาศ

บานประตูเข้าห้อง HDF สูงจากพื้นจรดฝ้าส่วนครัว ประมาณ 2.35 เมตร จะเห็นว่ามีอุปกรณ์ Stoper ติดตั้งมาให้ครับ ช่วยให้ประตูไม่ชนผนังให้ ไม่เกิดเสียงดังและไม่เกิดร่องรายที่ประตูและผนัง

ส่วนแรกที่เราจะพบหลังจากเปิดประตูห้องเข้ามาคือส่วนครัว พื้นปูด้วยกระเบื้อง porcelain มีระยะพื้นถึงฝ้า 2.35 เมตร ซึ่งจะได้เคาน์เตอร์ครัวและตู้ต่างๆ รวมถึง Hood Hob และ  Sink ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของ Franke มาให้ด้วยเลย ตัวเคาน์เตอร์มีการเว้นที่ว่างไว้สำหรับวางตู้เย็นให้ และตู้ริมผนังคือตู้เก็บรองเท้าครับ  ซึ่งในส่วนครัวนี้จะไม่มีฉากกั้นมาให้หากใครที่ชอบประกอบอาหารแบบจริงจัง แนะนำว่าควรติดตั้งฉากกั้นเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้ควันและกลิ่นไปรบกวนส่วนอื่นๆภายในห้องครับ

พื้นส่วนครัวเป็นกระเบื้อง porcelain ทำความสะอาดง่าย มีขนาดพื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีพื้นที่ประมาณ 2 x 2.3 เมตร แม้จะมีคนยืนทำครัวอยู่ก็สามารถเดินเข้าออก รวมถึงเข้าห้องน้ำได้แบบสะดวกสบาย

ส่วนตู้ต่างๆ ที่ทางโครงการ Build-in มาให้ เป็นหน้าบานเรียบไม้เมลามีนสี Beech ชิดผนังทางขวามือมีตู้เก็บรองเท้าไว้ให้ ถัดมาเป็นช่องวางตู้เย็นขนาดประมาณ 70 cm. ด้านบนเป็นแนวตู้เก็บของ มีช่องสำหรับใส่ ไมโครเวฟ ส่วนช่วงตรงกลางประกอบด้วย เตาไฟฟ้า เครื่องดูดอากาศ และอ่างล้างจาน ทั้งหมดนี้เป็นของ Franke ครับ ส่วนด้านล่างมีช่องใต้อ่างล้างจานและลิ้นชักสำหรับเก็บช้อนส้อม จานชามครับ

บานพับตู้ทั้งหมดจะติด Soft close เพื่อเวลาเปิด-ปิดใช้งานไม่เกิดเสียงดังลดการกระแทก สามารถกดเปิดหน้าบานได้สะดวกไม่ต้องมีที่จับ ดูเรียบเสมอกัน สวยงามและง่ายต่อการใช้งานครับ

Top เคาน์เตอร์เป็นหินเทียม ชุกครัวประกอบด้วยเตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมที่ดูดควัน และอ่างล้างจาน ของ Franke ทั้งหมด ผนังด้านหลังของจริงจะได้เป็นกระจกเงานะครับ

เคาน์เตอร์ Top จะเป็นหินเทียมและได้อ่างล้างจาน ตัวอ่างล่างจานออกแบบให้มีแผ่นปิดด้านบนได้สามารถช่วยเพิ่มพื้นที่ทำครัวใช้เป็นเขียงหั่นผักหันเนื้อได้ครับ

 

ด้านล่าง ส่วนด้านขวาคือช่องใต้อ่างล้างจาน ส่วนด้านซ้ายคือลิ้นชักสำหรับเก็บอุปกรณ์รับประทานอาหาร พวกช้อนส้อมต่างๆ รวมถึงด้านล่างเป็นตู้แบบไม่มีบานปิด สำหรับวางของได้ครับ

ถัดมาเป็นส่วนพื้นที่รับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง โดยจะอยู่ภายในพื้นที่ของห้องนั่งเล่น พื้นรอยต่อระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องครัวจะเปลี่ยนจากกระเบื้อง porcelain เป็นกระเบื้องยางไวนิลลายไม้แทน โดยมีคิ้วอลูมิเนียมคาดแบ่งส่วนชัดเจนและเก็บรอยต่อความเรียบร้อยของพื้นไว้

ด้านข้างโต๊ะทานข้าวสามารถเดินได้สะดวกครับ มีแนวทางเดินประมาณ 1 เมตร สังเกตด้านบนจะเห็นแนวฝ้าที่ถูกลดระดับลงนะครับ เพื่อเป็นพื้นที่ของครื่องปรับอากาศแบบฝังภายในฝ้า ทำให้พื้นที่ส่วนทางเข้าห้องครัวและ ส่วน walk-in closet ในห้องนอน รวมถึงภายในห้องน้ำจะมีระยะจากพื้นถึงฝ้าที่ 2.35 เมตร

ส่วนต่อมาคือส่วนห้องนั่งเล่น มีการจัดพื้นที่ภายในห้องสำหรับห้องนั่งเล่นไว้ค่อนข้างเป็นสัดส่วน เหมาะกับผู้ใช้ประมาณ 1-2 คน วางชุดโซฟาแบบ 2-3 ที่นั้ง ได้พอดีกับการใช่งาน

ส่วนผนังฝั่งที่เป็นส่วนวางทีวีครับ ซึ่งควรจะเป็นทีวีติดผนัง เพื่อประหยัดพื้นที่การวางทีวี ด้านข้างอาจจะตกแต่งเป็นกระจกเพื่อให้ห้องดูกว้างยิ่งขึ้นได้ เป็นไอเดียในการออกแบบนะครับ ส่วนห้องจริงเราจะไ้ด้เป็นผนังฉาบเรียบทาสี

ระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.3 เมตร ในระยะประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาด 45″- 50″ ได้ครับ แต่ถ้าใครจะอยากนอนดูทีวีก็อาจจะเพิ่มขนาดของทีวีได้ครับ

ด้านบนเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสี มีไฟ Downlight มาให้ 4 ดวงในส่วนของห้องนั่งเล่น และ 2 ดวงในส่วนของห้องครัวครับ

ด้านในสุดของห้องเป็นส่วนเปิดออกไประเบียงครับ เนื่องจากห้องครัว ห้องนั่งเล่น และส่วนรับประทานอาหารจะเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกัน การมีระเบียงในตำแหน่งนี้ช่วยทำให้รับแสงธรรมชาติได้ดี ตัวห้องภายในทั้งหมดจะมีความโปร่งโล่งมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศภายในห้องได้ง่าย

ตัวประตูออกไประเบียงเป็นประตูวงกบอลูมิเนียม Powercoat กระจกใสหนา 6 มม. เป็นบานเลื่อนสองฝั่ง สามารถออกได้ทั้งซ้ายและขวา มีรางอลูมิเนียมและตัวล็อคประตูบานเลื่อนให้เรียบร้อยครับ

ภายนอกมีระเบียงลักษณะเป็นรูปตัว L พื้นที่ประมาณ 2 x 1 เมตร และส่วนที่ยื่นออกไปอีกประมาณ 50 เซนติเมตร มีตำแหน่งสำหรับวางเครื่องซักผ้า ซึ่งเครื่องซักผ้าทางโครงการไม่ให้ได้มานะครับ แต่จะมีการติดตั้งท่อน้ำและปลั้กไฟไว้ให้สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าครับ

มีการติดตั้ง Condensing Unit แบบแขวน ทำให้มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ซึ่งจะเหลือพื้นที่ด้านในของส่วนที่ยื่นออกไปอยู่ประมาณ 50 x 100 เซนติเมตร ที่ใช้งานค่อนข้างยาก เนื่องอยู่ตรงมุมระเบียงพอดีเข้าออกยาก อาจจะเอาไว้ใช้สำหรับวางอุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้เป็นประจำได้แต่ต้องระวังเรื่องแดดและฝนด้วยครับ

ด้านบนเป็นฝ้าแบบฉาบเรียบทาสี มีไฟ Downlight ให้ 1 ดวงครับ

ภายในส่วนเชื่อมต่อไปยังห้องนอน มีแนวฉากกั้นสามตอนขนาดประมาณ 3 เมตร รางแขวนด้านบน ทำให้พื้นที่ด้านล่างเป็นพื้นเรียบเดินแล้วไม่สะดุดรางด้านล่าง แต่ห้องจริงที่เราจะได้ จะได้เป็นบานไม้ทึบนะครับ ไม่โปร่งแบบในห้องตัวอย่าง

ซึ่งฉากกั้นบานนี้มีแนวรางอยู่ที่ด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นพื้นเรียบเดินแล้วไม่สะดุดรางด้านล่าง ถือว่าสะดวกครับ ส่วนฝ้าเพดานฝั่งหน้าต่างและประตูบานเลื่อน ทางโครงการได้ทำการเว้นร่องสำหรับรางผ้าม่านไว้ให้แล้ว ดูเรียบร้อยสวยงามครับ

บริเวณแนวฉากกั้นอยู่ระหว่างปลายเตียงกับหลังโซฟาครับ ซึ่งมีพื้นที่เหลือไม่เยอะเท่าไหร่ครับ ระยะจากปลายเตียงถึงฉากก้ันประมาณ 25 ซม. และจากฉากกั้นถึงโซฟาอีกประมาณ 25 ซม. เช่นกันครับ ทำให้เมื่อฉากนี้ปิดอยู่นั้น เราจะเดินผ่านพื้นที่ปลายเตียงอาจจะต้องเบี่ยงตัวหน่อยเพราะเหลือพื้นที่ไม่มากครับ

เข้ามาดูในส่วนห้องนอนกันครับ เนื่องจากห้อง 1 Bedroom นี้ เป็นห้องที่ไม่เน้นพื้นที่ระเบียง ทำให้ได้พื้นที่ส่วนห้องนอนใหญ่ได้เต็มพื้นที่ ภายในห้องนอนพื้นที่ที่จัดให้มาถือว่าใช้งานแบบสบายๆไม่อึดอัด สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 6 ฟุต เดินรอบเตียงได้รอบสะดวก ตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง มีบานกระทุ้งทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี ภายในห้องปูพื้นกระเบื้องยางไวนิลลายไม้ เหมือนกับห้องนั่งเล่น ส่วนผนังเป็นแบบฉาบเรียบทาสี มีส่วนของพื้นที่แต่งตัว โดยห้องน้ำสามารถเข้าได้จากทางห้องนอนเช่นกันครับ

พื้นที่ข้างเตียงค่อนข้างกว้างครับ เนื่องจากส่วนนี้เป็นส่วนของพื้นที่แต่งตัวด้วย ระยะจากห้องน้ำถึงเตียงประมาณ  2.4 เมตร จากขอบตู้ถึงเตียงประมาณ 1.2 เมตรครับ

อีกฝั่งหนึ่งของเตียงก็ถือว่ากว้างพอสมควร ทางห้องตัวอย่างทำเป็นโต๊ะหันหน้าเข้าผนัง สำหรับพื้นที่ทำงาน เป็นไอเดียในการตกแต่งห้องนะครับ แล้วยังมีพื้นที่เหลือเดินไปมาได้สะดวก ซึ่งพื้นที่จากขอบเตียงถึงขอบกระจกอยู่ที่ 1.6 เมตร

ซึ้งพื้นที่บริเวณนี้จะได้เป็นกระจก Full Height จึงทำให้ได้รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีบานกระทุ้งขนาด 50 x 155 ซม. ให้เปิดรับลมภายนอกอีกด้วย

อีกฝั่งของห้องคือส่วนพื้นที่ Walk in Closet จะอยู่บริเวณทางเข้าหน้าห้องน้ำครับ ซึ่งระดับฝ้าของพื้นที่บริเวณ Walk in Closet  นี้จะถูกลดลงมาเช่นเดียวกันกับห้องครัว เนื่องจากเป็นพื้นที่ของงานระบบเครื่องปรับอากาศแบบฝังภายในฝ้าครับ

ส่วน Walk in Closet จะมีตู้เสื้อผ้าให้ 2 ฝั่ง โดยตู้เสื้อผ้าหน้าบานจะเป็นบานกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าครับ ภายในประกอบไปด้วยพื้นที่เก็บของ 3 ระดับ 3 แบบ เริ่มที่สุดบนสุดเป็นช่องว่างๆ สามารถเก็บกระเป๋า ของที่มีขนาดใหญ่ได้ ลงมาในระดับกลาง เป็นราวแขวนเสื้อ ด้านล่างสามารถวางของได้ ส่วนพื้นที่ส่วนล่างสุดคือลิ้นชักสำหรับใส่ของขนาดเล็ก เช่นกางเกง ถุงเท้า ชุดชั้นในต่างๆ

ตู้อีกฝั่งมีลักษณะคล้ายกันกับตู้เมื่อสักครู่ ขนาดเท่ากันครับ แต่ด้านล่างไม่มีลิ้นชักสำหรับใส่ของ แต่เป็นพื้นที่โล่ง ไว้สำหรับวางของขนาดใหญ่ เช่นกระเป๋าเดินทาง

หน้าบานมีที่จับ และช่วงลิ้นชักก็มีการทำมุมให้จับได้ง่าย สะดวกครับ

พื้นที่แต่งตัวบริเวณหน้าห้องน้ำ มีขนาดประมาณ 1 x 1.2 ม. มีพื้นที่เพียงพอให้ยืนแต่งตัวหน้าตู้ผ้าได้

ในส่วนพื้นที่ห้องนอน ฝ้าเป็นแบบฉาบเรียบทาสี มีไฟ Downlight ให้ 4 ดวงครับ

ส่วนของพื้นที่แต่งตัวมีระดับพื้นถึงฝ้า 2.35 เมตร ลดระดับฝ้าลงเนื่องจาก ต้องมีพื้นที่ให้เครื่องปรับอากาศแบบฝังภายในฝ้า

เข้ามาส่วนห้องน้ำครับ ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง ตกแต่งด้วยโทนสว่าง ใช้ลายหินอ่อนและลายไม้ในการตกแต่ง วัสดุปูพื้นคือกระเบื้อง porcelain แต่พื้นในส่วนอาบน้ำเป็นลายไม้ โดยปกติเราจะไม่ค่อยจะได้เห็นการตกแต่งลักษณะนี้กันเท่าไหร่นัก แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจ เป็นการแบ่งพื้นที่การใช้งานด้วยสีของวัสดุ และดูสวยน่าใช้งานเลยครับ โดยทางโครงการให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงายาวตลอดแนว และสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำ รวมไปถึงฉากกั้นอาบน้ำ ที่ช่วยป้องกันการกระเด็นของน้ำ และยังเป็นการแบ่งส่วนอย่างชัดเจนอีกด้วยครับ

ภายในห้องน้ำจัดมาสามารถใช้งานได้สะดวกไม่อึดอัด มีการแบ่งพื้นที่ภายในเป็นสัดส่วน มีการลดระดับพื้นลงจากพื้นภายนอกห้องน้ำ 5 ซม. ส่วนเปียกมีฉากอาบน้ำและยกขอบพื้นขึ้นมา 5 ซม. เพื่อแบ่งโซนให้ชัดเจน

กระจกเงาติดผนังยาวบริเวณอ่างล้างหน้า ไปจนถึงหลังโถสุขภัณฑ์ มีชั้นสำหรับวางเครื่องอาบน้ำ หรืออุปกรณ์ต่างๆให้ด้วย

อ่างล้างมือของ American Standard ขนาด 60 x 47 ซม. มีก็อกน้ำของ Hafele สีดำ ตัดกับสีของพื้น ผนัง และอ่างล้างหน้า มีตำแหน่งของปลั้กไฟด้านข้างให้ใช้งานด้วยครับ โดยจะมีกรอบป้องกันน้ำครอบไว้ให้

ตู้ใต้อ่างสามารถเปิดได้ครับ และยกลอยสูงจากพื้นเพื่อป้องกันน้ำและง่ายต่อการทำความสะอาด

โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ตั้งอยู่ที่มุม ขนาดพอเหมาะใช้งานได้สะดวก มีอุปกรณ์สายชำระและที่ใส่กระดาษชำระติดตั้งไว้ให้ในตำแหน่งที่เหมาะสมพร้อมใช้งาน

อุปกรณ์สายชำระขนาดพอดีใช้งานง่ายและที่ใส่กระดาษชำระสีดำ มีการเลือกใช้สีของวัสดุที่เข้ากับการตกแต่งห้องน้ำ

พื้นที่อาบน้ำมีพื้นเป็นลายไม้ ขนาดพื้นที่ประมาณ 0.9 x 1.25 เมตร มีฉากกั้นบานกระจกกั้นให้ ที่ผนังภายในมีการเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ มีรูระบายน้ำอยู่ที่มุมครับ

อุปกรณ์อาบน้ำสีดำด้านอีกเช่นเคยครับ มีทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower ให้เลือก โดยที่ผนังมีการเจาะรูสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำได้ด้วย

Hand Shower ขนาดกำลังดีครับ กระทัดรัด ผิวสัมผัสเป็นผิวด้านทำให้อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่นักแต่ให้ความรู้สึกปลอดภัย ไม่ลื่น ส่วนตัวผมชอบครับ

ที่บริเวณฝ้าของห้องน้ำเป็นแบบฉาบเรียบทาสี มีเครื่องระบายอากาศ และให้ไฟ Downlight มา 2 ดวงครับ

สวิทช์ไฟภายในห้องเป็นของ Panasonic ทั้งหมดครับ

ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 76.90 ตร.ม. จัดมาให้แบบ Fully Fitted เช่นเดียวกัน พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องยางไวนิลลายไม้มีเพียงห้องครัวและห้องน้ำที่ปูพื้นด้วยกระเบื้อง porcelain ภายในห้องความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.6 m. รูปร่างของห้องเป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส จัดพื้นที่การใช้งานภายในห้องหลักๆ เป็น 6 ส่วน ได้แก่ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว, ห้องนอน Master Bedroom, ห้องนอน Second Bedroom, ห้องน้ำและระเบียงซักล้าง มีการจัดพื้นที่การใช้งานในส่วนต่างๆไว้เป็นสัดส่วน แยกพื้นที่ส่วนกลางและส่วนพักผ่อนออกจากกันอย่างชัดเจน เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่รับประทานอาหารซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของห้องนั่งเล่น เดินผ่านเข้ามาจะพบพื้นที่ห้องนั่งเล่นขนาดค่อนข้างกว้าง ที่สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้ รวมถึงยังเชื่อมต่อกับส่วนครัวเปิดได้ง่าย พื้นที่ครัวมีขนาดใหญ่ โดยมี Island เป็นตัวคั่นระหว่างครัวและพื้นที่นั่งเล่น จากบริเวณครัวสามารถเปิดออกไปที่ระเบียงของห้องได้ ซึ่งโครงการนี้ออกแบบห้องโดยเน้นแนวคิดความเป็นส่วนตัว ทำให้ลักษณะของห้องพักจะไม่เน้นพื้นที่ระเบียงมากนั้น เน้นพื้นที่ส่วนภายในห้อง ทำให้พื้นที่ภายในห้องค่อนข้างเยอะ

ส่วนต่อมาเป็นทางเข้าสู่ส่วนพักผ่อน มีประตูเพื่อนำเข้าสู่พื้นที่ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง โดยแยกออกเป็นซ้ายและขวา โดยมีห้องน้ำหลักของห้องอยู่ตรงกลาง ซ้ายมือเป็นส่วนของห้องนอนใหญ่ติดริมอาคารพร้อมกระจก Full Height ภายในมีพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่พอสมควร อีกฝั่งด้านขวาคือห้องนอนรองของห้องนี้ซึ่งมีขนาดส่วนพักผ่อนถือว่าให้พื้นที่มาค่อนข้างใหญ่ไม่น้อยไปกว่าห้องนอนใหญ่เลยครับ เพียงแค่ไม่มีส่วนแต่งตัวและห้องน้ำภายในห้องเท่าน้ัน โดยห้องนี้มีจุดเด่นอยู่ที่มีกระจก Full Height เข้ามุมเช่นกัน ทำให้สามารถรับวิวภายนอกได้มากกว่า 180 องศา ไปดูรายละเอียดภายในห้องกันเลยครับ

.

ประตูเข้าห้องเป็นประตู HDF ขนาด Oversize ประมาณ 2.3 เมตร ตัวเข้าห้องเป็นระบบ Digital Door Lock Alpha ป้องกันการสะเดาะกุญแจ และป้องกันน้ำ บริเวณพื้นด้านล่างมีธรณีประตูที่เป็นหินแกรนิตสำหรับส่วนทางเข้าห้องครับ

ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 76.9 ตารางเมตร ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.6 m. พื้นภายในห้องจะเป็นพื้นกระเบื้องยางไวนิลลายไม้ มีเพียงห้องครัวและห้องน้ำ จะเป็นกระเบื้อง porcelain ในส่วนของผนังห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี โดยมีระยะพื้นถึงฝ้า 2.6 m. แต่ห้องครัวและห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่จะมีระดับพื้นถึงฝ้าเพียง 2.35 เมตร เนื่องจากภายในห้องเป็นระบบปรับอากาศแบบ ฝังภายในฝ้า ทำให้ต้องมีพื้นที่ฝ้าลดลงเพื่อฝังตัวเครื่องปรับอากาศ โดยส่วนแรกที่จะพบหลังจากเข้าห้องมาแล้วนั้นคือส่วนรับประทานอาหาร ที่ติดกับพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งจะมีกระจก Full Height ให้แสงสว่างอย่างเต็มที่ต่อตัวห้อง ด้านหลังพื้นที่นั่งเล่นเป็นส่วนครัว มี Island เป็นตัวกั้น ส่วนประตูหลังจากส่วนรับประทานอาหารในรูปนั้น จะนำเราไปสู่พื้นที่พักผ่อนของห้องครับ คือจะแยกซ้ายและขวาไปยังห้องนอนทั้งสอง โดยมีห้องน้ำคั่นอยู่ตรงกลาง

ห้องนี้ส่วนประตูทางเข้ามีระดับฝ้าอยู่ที่ 2.6 ม. มีการทำกรอบบานถึงฝ้า แต่ตัวบานมีความสูงไม่ถึงฝ้า แต่ขนาดก็ยังถือว่า Oversize กว่าประตูปกติอยู่ครับ ซึ่งจะมีตัว Stopper มาให้เช่นเดียวกันกับห้อง 1 Bedroom แนวผนังด้านข้างจะมีระยะมากกว่าในรูปของห้องตัวอย่างนะครับ แต่ในของห้องตัวอย่างเขา Build-in ตกแต่งเป็นตู้เก็บรองเท้าตลอดแนวมาชนกับตู้หนังสือต่อ ซึ่งเราสามารถนำไอเดียนี้ไปใช้ในการออกแบบได้ครับ  

ส่วนพื้นที่รับประทานอาหาร ในห้องตัวอย่างจัดมาให้ดูโดยวางโต๊ะสำหรับ 4 ที่นั่ง สังเกตุได้ว่าเหลือพื้นที่โดยรอบค่อนข้างเยอะ จริงๆแล้วสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งก็ยังได้ครับ 

มาที่ส่วนห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถวางโซฟาตัว L หรือจะวาง 3 ด้านเลยก็ยังได้ครับ โดยมีส่วนติดกับพื้นที่ครัว ซึ่งเป็นครัวเปิดไม่ได้มีฉากกั้นให้มีเพียง Island เป็นตัวแบ่งส่วนห้องนั่งเล่นและห้องครัว อีกทั้งยังได้กระจก Full Height แนวยาวพร้อมบานกระทุ้งมาให้อีก ทำให้พื้นที่ภายในห้องยิ่งดูโล่งโปร่ง และได้รับแสงธรรมชาติแบบเต็มๆ ในเวลากลางอาจไม่ต้องเปิดไฟภายในห้องได้เลยครับ 

โดยมีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.6 เมตร ในระยะประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาด 45″- 50″ ได้ครับ 

ผนังด้านหลังทีวี ทางห้องตัวอย่างได้ตกแต่งเพิ่มขึ้นมา เป็นชั้นวางของแบบซ่อนไฟตกแตก อาจจะเป็นไอเดียในการออกแบบได้นะครับ

ผนังด้านติดแนวอาคารของห้องแบบ 2 Bedrooms นี้ จะได้เป็นกระจก Full Height ยาวตลอดแนวพื้นถึงฝ้า มีบานกระทุ้งให้ด้วยครับ สามารถระบายอากาศภายในห้อง อีกทั้งยังทำให้ทั้งห้องดูสว่างจากแสงธรรมชาติอีกด้วยครับ

ห้องนั่งเล่นส่วนนี้ฝ้าเป็นแบบฉาบเรียบทาสี ให้ไฟ Downlight มา 6 จุดครับ

ส่วนด้านหลังพื้นที่นั่งเล่น เป็นส่วนของพื้นที่ครัว ซึ่งจะเป็นครัวเปิดขนาดค่อนข้างใหญ่ จะมีตัว Island หินเทียม เป็นตัวกั้นระหว่างพื้นที่ ซึ่งในส่วนนี้ไม่มีฉากกั้นมาให้ครับ เนื่องจากพื้นที่ครัวหน้าเปิดกว้าง ทำให้ห้องดูกว้าง แต่อาจจะเกิดปัญหาเรื่องควันและกลิ่นในกรณีที่มีการทำครัวแบบจริงจัง อาจจะต้องเปิดประตูระเบียง หรือบานกระทุ้งของส่วนห้องนั่งเล่นเพื่อช่วยระบายอากาศครับ พื้นที่ส่วนนี้จะใช้ระบบปรับอากาศเป็นแบบฝังภายในฝ้า ทำให้ฝ้าในส่วนพื้นที่ครัวถูกลดลงเหลือระยะจากพื้นถึงฝ้าเพียง 2.35 เมตร

 

มาดูในส่วนครัวกันบ้างครับ ซึ่งครัวของห้องนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว พื้นจะมีการเปลี่ยนส่วนจากกระเบื้องยางไวนิลลายไม้เป็นกระเบื้อง Porcelain ครับ โดยมีตัว Island ที่ปิดผิวด้วยหินเทียม ขนาดประมาณ 170 x 85 เซนติเมตร เป็นตัวแบ่งพื้นที่ สามารถเดินได้รอบระยะเหลือค่อนข้างกว้างสะดวกครับ

ระยะเดินเข้าส่วนครัวระหว่าง Island ถึง ขอบอีกด้าน มีระยะประมาณ 80 เซนติเมตร

ระยะเดินเข้าส่วนครัวระหว่าง Island ถึง ขอบเคาน์เตอร์ มีระยะประมาณ 80 เซนติเมตร ซึ่ง Island นี้มีส่วนของเก้าอี้ สอดเก็บได้ สามารถนั่งรับประทานอาหาร พร้อมดู TV ไปด้วยได้ครับ

ส่วนเคาน์เตอร์มีแนวตู้ยาวตลอดทั้งช่วง ด้านบนสามารถเปิดได้หมด สามารถเก็บวัตถุดิบหรืออุปกรณ์ในการทำครัวได้หลากหาย

บานพับตู้ทั้งหมดจะติด Soft close เพื่อเวลาเปิด-ปิดใช้งานไม่เกิดเสียงดังลดการกระแทก สามารถกดเปิดหน้าบานได้สะดวกไม่ต้องมีที่จับ ดูเรียบเสมอกัน สวยงามและง่ายต่อการใช้งานครับ

Top เคาน์เตอร์เป็นหินเทียม ชุกครัวประกอบด้วยเตาไฟฟ้า 4 หัว พร้อมที่ดูดควันและอ่างล้างจาน ของ Franke ทั้งหมด ผนังด้านหลังของจริงจะได้เป็นกระจกเงานะครับ พร้อมพื้นที่ทำครัวอีกค่อนข้างเยอะ

เคาน์เตอร์ Top จะเป็นหินเทียมและได้อ่างล้างจาน ตัวอ่างล่างจานออกแบบให้มีแผ่นปิดด้านบนได้สามารถช่วยเพิ่มพื้นที่ทำครัวใช้เป็นเขียงหั่นผักหันเนื้อได้ครับ

เตาไฟฟ้าติดตั้งมาให้ 4 หัว พร้อมเครื่องดูดควันของ Franke ที่ริมผนังมีสวิทช์ไฟให้ด้วยครับ

ด้านล่างเป็นแนวตู้พร้อมเว้นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้ามาให้ แต่ทางโครงการไม่ให้ตัวเครื่องซักผ้ามาด้วยนะครับ อีกทั้งยังมีเตาอบและแนวตู้ทั้งลิ้นชักและบานเปิดยาวตลอดจนสุดแนวผนังครับ

บานเปิดด้านล่างสามารถเปิดได้ทุกบาน มีทั้งช่องใต้อ่างล้างจาน และช่องขนาดใหญ่ รวมไปถึงลิ้นชักเก็บช้อนส้อมและจานชาม

นอกจากนี้ยังมีการเว้นช่องวางตู้เย็นมาให้ ซึ่งถือว่าในส่วนครัวนี้ ทางโครงการจัดมาครบทุกส่วน พร้อมใช้งานกันเลยครับ

ฝ้าเพดานส่วนครัวเป็นแบบฉาบเรียบทาสี มีระยะจากพื้นถึงฝ้า 2.35 เมตร พร้อมไฟ Downlight 2 ดวงครับ

จากส่วนตัวจะมีประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อไปยังระเบียงห้อง ซึ่งการมีระเบียงในตำแหน่งนี้ช่วยทำให้รับแสงธรรมชาติได้ดี ตัวห้องภายในจะมีความโปร่งโล่งมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศภายในห้องได้ง่าย ในกรณีทำครัว การเปิดบานเลื่อนระเบียงจุดนี้จะช่วยระบายอากาศได้ดีทีเดียวครับ

ตัวประตูออกไประเบียงเป็นประตูวงกบอลูมิเนียม Powercoat กระจกใสหนา 6 มม. เป็นบานเลื่อนสองฝั่ง สามารถออกได้ทั้งซ้ายและขวา มีรางอลูมิเนียมและตัวล็อคประตูบานเลื่อนให้เรียบร้อยครับ

พื้นที่ระเบียงมีขนาดไม่ใหญ่มาก ใช้เป็นส่วนซักล้าง ตากผ้าเล็กๆได้ โดยระดับพื้นจะถูกลดลงจากตัวห้องประมาณ 5 เซนติเมตร

มีการติดตั้ง Condensing Unit แบบแขวน ทำให้มีพื้นที่ด้านล่างสามารถวางของ เก็บของได้ครับ

ด้านบนเป็นฝ้าแบบฉาบเรียบทาสี มีไฟ Downlight ให้ 1 ดวงครับ

กลับเข้ามาในตัวห้อง ห้องถูกออกแบบมาโดยการแบ่งส่วนกลาง และส่วนพักผ่อนอย่างชัดเจน ซึ่งส่วนพักผ่อนจะจะมีประตูบานเปิดกั้นสแบ่งการใช้งานไว้เป็นสัดส่วน

พื้นที่แบ่งเข้าส่วนพักผ่อนมีขนาดที่เดินได้สบายครับ โดยแนวทางเดินขนาด 1 เมตร โดยจะพบกับห้องน้ำในส่วนด้านหน้า ฝั่งซ้ายมือคือส่วนห้องนอนใหญ่ และห้องนอนรองอยู่ทางขวามือครับ

มาดูกันที่ส่วนห้องน้ำกันก่อนนะครับ ภายในมีการจัดพื้นที่ภายในไว้เป็นสัดส่วนไว้ชัดเจน แยกโซนเปียกโซนแห้ง โดยพื้นห้องน้ำจะใช้เป็นกระเบื้อง Porcelain ห้องน้ำในส่วนนี้มีกระจก Full Height ที่ติดภายนอกอาคาร ทำให้มีแสงสว่างตลอดทั้งวัน แต่อาจจะต้องทำแนวบังสายตาสักหน่อยเช่น ติดม่านมู่ลี่ หรือกระจกฝ้า เพื่อความเป็นส่วนตัวนะครับ

ภายในห้องน้ำจัดมาสามารถใช้งานได้สะดวกไม่อึดอัด มีการแบ่งพื้นที่ภายในเป็นสัดส่วน มีการลดระดับพื้นลงจากพื้นภายนอกห้องน้ำ 5 ซม. ส่วนเปียกมีฉากอาบน้ำและยกขอบพื้นขึ้นมา 5 ซม. เพื่อแบ่งโซนให้ชัดเจน

ส่วนแรกที่จะพบคือส่วนอ่างล้างหน้า ซึ่งจะมีชั้นตู้ใต้อ่างมาให้ เช่นเดียวกันกับห้อง 1 Bedroom ด้านบนมีตู้กระจกแขวนผนังสามารถเปิดเพื่อเก็บอุปกรณ์ต่างๆได้ด้านข้างก็มีชั้นวางไว้ให้ สะดวกมากครับ

อ่างล้างมือของ American Standard ขนาด 60 x 47 ซม. มีก็อกน้ำของ Hafele สีดำ ตัดกับสีของพื้น ผนัง และอ่างล้างหน้า มีตำแหน่งของปลั้กไฟด้านข้างให้ใช้งานด้วยครับ โดยจะมีกรอบป้องกันน้ำครอบไว้ให้

โถสุขภัณฑ์ของ American Standard  ขนาดพอเหมาะใช้งานได้สะดวก มีอุปกรณ์สายชำระและที่ใส่กระดาษชำระติดตั้งไว้ให้ในตำแหน่งที่เหมาะสมพร้อมใช้งาน

ด้านในสุดจะเป็นส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นมาให้ มีราวแสตนเลสแขวนผ้าเช็ดตัวอยู่ที่ด้านบนของโถสุขภัณฑ์ ภายในส่วนอาบน้ำมีให้เลือกทั้งแบบ Habd Shower และ Rain Shower

พื้นที่อาบน้ำมีการยกขอบขึ้น 5 เซนติเมตร ภายในขนาด 0.9 x 1.3 เมตร มีฉากกั้นบานกระจกกั้นให้ ที่ผนังภายในมีการเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ มีรูระบายน้ำอยู่ที่มุมครับ

ผนังกระจกด้านข้างเป็นกระจก Full Height สูง 2.6 เมตร เลยครับ โดยจะมีบานกระทุ้งขนาด 150 x 50 เซนติเมตร เปิดระบายอากาศและความชื้นได้ครับ

ฝ้าเป็นแบบฉาบเรียบทาสี มีพัดลมดูดอากาศพร้อมกับไฟ  Downlight ให้ 2 ดวงครับ

ก่อนที่จะไปส่วนห้องนอนใหญ่ มาดูกันที่ห้องนอนรองกันก่อนนะครับ ซึ่งห้องนี้มีขนาดส่วนพักผ่อนถือว่าให้พื้นที่มาค่อนข้างใหญ่ไม่น้อยไปกว่าห้องนอนใหญ่เลยครับ เพียงแค่ไม่มีส่วนแต่งตัวและห้องน้ำภายในห้องเท่าน้ัน พื้นที่ที่จัดให้มาถือว่าใช้งานแบบสบายๆไม่อึดอัด สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 6 ฟุต เดินรอบเตียงได้รอบสะดวก ตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง มีบานกระทุ้งทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี ภายในห้องปูพื้นกระเบื้องยางไวนิลลายไม้ เหมือนกับห้องนั่งเล่น

ผนังอีกฝั่งเป็นส่วนพื้นที่ของทีวี มีระยะค่อนข้างกว้าง ประมาณ 3 เมตรอาจจะต้องใช้ทีวีขนาดใหญ่หน่อย สิ่งที่เราจะได้มาคือตู้เสื้อผ้าสูงจากพื้นถึงฝ้าชิดผนังครับ ซึ่งส่วนพื้นที่บริเวณทีวีทางห้องตัวอย่างก็ตกแต่งมาให้เป็นไอเดียครับ

พื้นที่ด้านข้างด้านนี้มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะครับ เนื่องจากเป็นทางเข้าห้องนี้ด้วย มีขนาดประมาณ 1.30 เมตร สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้ครับ

บริเวณปลายเตียงมีพื้นที่ประมาณ 1 เมตร จากขอบเตียงถึงชั้นวางทีวี มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะครับ เดินได้สะดวก

พื้นที่ด้านข้างติดขอบแนวอาคารมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ ประมาณ 85 เซนติเมตร สามารถวางชั้นข้างเตียงได้ มีพื้นที่สำหรับเดินเข้าออกสะดวกครับ

จุดเด่นของห้องนี้คือแนวกระจก Full Height ที่ยาวตลอดทั้งแนว อีกทั้งยังมีหน้าต่างที่เข้ามุม ทำให้ได้รับวิวมากกว่า 180 องศา อีกทั้งยังทำให้ห้องสว่างตลอดทั้งวันด้วยครับ นอกจากนั้นแล้วยังมีกระจกบานกระทุ้ง ขนาด 150×50 เซนติเมตร ที่สามารถเปิดระบายอากาศได้ครับ

ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight 4 ดวง ภายในห้องนี้จะใช้ระบบปรับอากาศแบบ Split type ครับ

มาถึงห้องนอนใหญ่กันครับ ภายในห้องนอนมีส่วนเตียงที่มีขนาดเท่าๆกันกับห้องเมื่อสักครู่เพียงแต่จะมีพื้นที่มากกว่าในส่วนแต่งตัวและมีห้องน้ำส่วนตัวครับ พื้นที่พักผ่อนสามารถตั้งเตียงนอนขนาด 6 ฟุต เดินรอบเตียงได้รอบสะดวก ตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่างมีกระจก Full Height ยาวตลอดทั้งแนวแต่ไม่ได้มีส่วนกระจกเข้ามุมเหมือนห้องนอนรองนะครับ

ฝั่งปลายเตียงมีแต่แหน่งใกล้กับประตูทางเข้าห้อง ทางห้องตัวอย่างตกแต่งชั้นวางทีวีมาให้ ถ้าใช้ทีวีแบบแขวนจะสามารถเพิ่มพื้นที่ชั้นวางทีวีได้อีกนะครับ เราดูไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งได้ครับ

พื้นที่ด้านข้างติดขอบแนวอาคารมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ ประมาณ 90 เซนติเมตร สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้ มีพื้นที่สำหรับเดินเข้าออกสะดวกครับ

พื้นที่ปลายเตียงค่อนข้างกว้าง จากปลายเตียงถึงผนังมีระยะประมาณ 2 เมตร สามารถวางที่นั่ง หรือจะ Build-in เป็นตู้ขึ้นมาทีฝั่งผนังก็ยังได้ครับ

พื้นที่ด้านข้างเตียงเป็นส่วนเชื่อมต่อไปยังส่วนแต่งตัวครับ ซึ่งก็มีพื้นที่พอสมควร สามารถเข้าออกเตียงได้สะดวกสบาย มีระยะข้างเตียงถึงขอบตู้เสื้อผ้า ประมาณ 80 เซนติเมตร

ห้องนอนหลักนี้มีพื้นที่ติดริมอาคาร จึงมีแนวกระจก Full Height สูงจากพื้นจรดฝ้า ยาวตลอดแนว อีกทั้งยังมีบานกระทุ้งขนาด 150 x 50 เซนติเมตร สามารถระบายอากาศได้ครับ

ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี มีไฟ Downlight ให้ 4 ดวงครับ

ส่วนต่อไปของห้องคือส่วนแต่งตัวซึ่งมีฉากกั้นมาให้ ภายในมีพื้นที่สำหรับแต่งตัว ขนาบข้างด้วยตู้เสื้อผ้า 2 ตู้

พื้นที่ภายใน 2 x 1.4 เมตร ถือว่ามีขนาดใหญ่พอสมควรเลยครับ สามารถแต่งตัวหรือหมุนตัวได้สะดวก

ภายในประกอบด้วยตู้เสื้อผ้า 2 ตู้ โดยตู้เสื้อผ้าหน้าบานจะเป็นบานกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าครับ ภายในประกอบไปด้วยพื้นที่เก็บของ 3 ระดับ 3 แบบ เริ่มที่สุดบนสุดเป็นช่องว่างๆ สามารถเก็บกระเป๋า ของที่มีขนาดใหญ่ได้ ลงมาในระดับกลาง เป็นราวแขวนเสื้อ ด้านล่างสามารถวางของได้ ส่วนพื้นที่ส่วนล่างสุดคือลิ้นชักสำหรับใส่ของขนาดเล็ก เช่นกางเกง ถุงเท้า ชุดชั้นในต่างๆ

ตู้อีกฝั่งมีลักษณะคล้ายกันกับตู้เมื่อสักครู่ ขนาดเท่ากันครับ แต่ด้านล่างไม่มีลิ้นชักสำหรับใส่ของ แต่เป็นพื้นที่โล่ง ไว้สำหรับวางของขนาดใหญ่ เช่น กระเป๋าเดินทาง

หน้าบานมีที่จับ และช่วงลิ้นชักก็มีการทำมุมให้จับได้ง่าย สะดวกครับ

ส่วนของพื้นที่แต่งตัวมีระดับพื้นถึงฝ้า 2.35 เมตร ลดระดับฝ้าลงเนื่องจาก ต้องมีพื้นที่ให้เครื่องปรับอากาศแบบฝังภายในฝ้า

มาในส่วนสุดท้ายคือห้องน้ำส่วนตัวของห้องนอนใหญ่ครับ ซึ่งจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ โดยมีประตูบานสไลด์เปิดออกได้ทั้งซ้ายและขวาโดยมีรางด้านบนทำให้พื้นเรียบเสมอกัน ประตูทำจากไม้ลามิเนตอาจจะต้องระวังเรื่องความชื้น ไม่ควรให้บานประตูโดนน้ำโดยตรงครับ เมื่อประตูเปิดกว้างสุดมีระยะอยู่ที่ 1.35 เมตร สามารถเดินเข้าออกได้สบายครับ

ที่บริเวณประตูมีตัวจับและตัวล็อคติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานเลยครับ

ภายในมีขนาดห้องข้างใหญ่ครับ ประกอบไปด้วยอ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้า ส่วนอาบน้ำ และโถสุขภัณฑ์ พื้นเป็นกระเบื้อง Porcelain ลดระดับลงจากพื้นภายในห้อง 5 เซนติเมตร ระดับพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.35 เมตร

พื้นที่ภายในค่อนข้างกว้างสามารถเดินเข้าออกได้สะดวกสบาย ใช้งานพร้อมกันได้ 2 คนเลยทีเดียว มีขนาดประมาณ 2 x 1.5 เมตร

บริเวณด้านหน้ามีกระจกติดผนังขนาด 90 x 50 เซนติเมตร บนอ่างล้างหน้า โดยสามารถเปิดออกได้ 2 ด้านสามารถแยกฝั่งได้ เนื่องจากอ่างล้างหน้าเป็นแบบ His & Her มีสองอ่าง สะดวกแก่การใช้งานครับ

เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าขนาด 135 x 60 เซนติเมตร อ่างล้างหน้าแบบ His & Her ขนาดอ่างละ 35 x 50 เซนติเมตร ของ American Standard พร้อมก็อกน้ำ Hafele สีดำ เหมือนในห้อง 1 Bedroom

ความพิเศษห้องของน้ำห้องนี้อีกอย่างนอกจะจากอ่างล้างหน้า His & Her แล้วนั้น คืออ่างอาบน้ำสีขาว ขนาด 170 x 85 เซนติเมตร ซึ่งมี Hand Shower พร้อมสาย สามารถดึงออกมาใช้ได้ด้วยครับ

บริเวณอีกฝั่งของห้องน้ำ มีส่วนอาบน้ำพร้อมฉากกั้นติดตั้งมาให้ และโถสุขภัณฑ์ที่อยู่ในมุม อีกทั้งยังมีสายชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่ติดตั้งไว้ให้เรียบร้อยครับ

โถสุขภัณฑ์ American Standard มีระยะพื้นที่ใช้งานวัดจากผนังทางขวาถึงฉากกั้นอาบน้ำ 80 เซนติเมตร สามารถนั่งได้สะดวก ลุก-นั่งเข้าออกได้ถนัดครับ

พื้นที่อาบน้ำมีการก่อขอบขึ้นมา 5 เซนติเมตร พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำไว้ให้ด้วย พื้นที่ภายในขนาด 150 x 100 เซนติเมตร ถือว่าให้พื้นที่มาค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวกเลยครับ

อุปกรณ์อาบน้ำสีดำด้านอีกเช่นเคยครับ มีทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower ให้เลือก โดยที่ผนังมีการเจาะรูสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำได้ด้วย

ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี มีไฟ Downlight ให้ 2 ดวงครับ โดยมีพัดลมดูดอากาศให้ด้วยครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ xx August 2015 

  • 1 Bedroom 35.31 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท
  • เนื่องจากโครงการยังไม่เปิด Pre-Sale จึงทำให้ยังไม่ทราบราคาในห้องประเภท
  • Fully Fitted
  • ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • ระบบปรับอากาศ
  • Shuttle Bus ไปกลับ BTS อารีย์
  • จอง n/a บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล –โครงการ Savvi Ari 4 ตั้งอยู่ภายในซอยชำนาญอักษร ซึ่งอยู่ภายในซอยอารีย์ 4 (ฝั่งเหนือ)อีกที ตำแหน่งที่ตั้งโครงการจะถูกล้อมรอบด้วยถนนใหญ่สายสำคัญหลายสาย เช่น ถนนพหลโยธิน และถนนพระราม 6 สามารถทะลุลัดเลาะออกได้หลายทาง เนื่องจากที่ตั้งโครงการจะอยู่ภายในซอยย่อยแยกออกมา ซึ่งมีสภาพแวดล้อมและบรรยากาศจะเป็นโซนที่อยู่อาศัยมากกว่า ทำให้มีความเงียบสงบไม่พลุกพล่านและมีความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยมากกว่าซอยด้านนอก ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ทำเลนี้ถือว่าค่อนข้างคึกคัก รายล้อมไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า และร้านนั่งชิลต่างๆมีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย อีกทั้งมีสถานที่ราชการอย่างกระทรวงต่างๆ รวมถึงสถานที่ของทหาร อาคารสำนักงานใหญ่ รวมถึงโรงพยาบาล สถานีตำรวจ โดยรอบ

การเดินทางโดยใช้รถ – การเดินทางใช้รถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวกครับ เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่ภายในซอยจึงทำให้สามารถลัดเลาะเข้าออกตัวโครงการได้หลายทาง เป็นตัวเลือกในการเดินทางและเลี่ยงปัญหารถติดได้เป็นอย่างดี โดยตำแหน่งโครงการถูกขนาบข้างด้วยถนนใหญ่สายสำคัญหลายสาย เช่น ถนนพหลโยธิน ที่สามารถแยกออกไปยังถนนสุทธิสารเพื่อเชื่อมต่อไปยังโซนถนนรัชดาภิเษก หรือไปยังถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นโทลล์เวย์เข้าเมืองไปทางดินแดง-อโศก หรือว่าจะออกนอกเมืองไปยังแถบรังสิตก็ได้ ถนนสายใหญ่อีกเส้นใกล้ตัวโครงการคือ ถนนพระราม 6 โดยสามารถใช้ซอยเสนาร่วมทะลุไปได้ ความสำคัญคือเป็นที่ตั้งของทางขึ้น-ลงทางด่วนทั้งฝั่งเข้าเมืองที่ฝั่งคลองประปา และฝั่งออกนอกเมืองที่ข้างๆโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย และสามารถไปฝั่งธนได้จากถนนเทอดดำริ ซึ่งทั้งสองเส้นนี้ โครงการจัดที่จอดรถไว้ 82% รวมจอดซ้อนคัน เป็นระบบ Automatic Parking System และจอดแบบปกติได้ 13 คัน 

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – ตำแหน่งโครงการใกล้กับรถไฟฟ้าสถานี BTS อารีย์ ซึ่งระยะทางจากโครงการถึง BTS ประมาณ 800 เมตร แต่ทางโครงการมีรถ Shuttle Bus ให้บริการช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง หรือหากจะเดินทางเองภายในซอยจะห่างจากตำแหน่งประจำของพี่วินมอเตอร์ไซต์ ที่ปากซอยพหลโยธิน 7 และพหลโยธิน 9 ห่างจากโครงการประมาณ 400 เมตร แต่ภายในซอยอารีย์จะมีพี่วิน รถตุ๊กตุ๊ก และแท็กซี่ขับผ่านไปมาตลอดยืนรอไม่นานก็เรียกรถได้แล้วครับ

การออกแบบโครงการ – โครงการออกแบบภายใต้แนวคิด Luxury Boutique Residence ซึ่งเน้นความเป็นส่วนตัว หรูหราและเรียบง่าย โดยตัวอาคารออกแบบรูปด้านอาคารให้เล่นกับ Layer ของอาคาร ใช้กรอบอาคารเป็นเส้นแนวตั้งสี Copper มาตกแต่งตัดกับตัวอาคารกระเบื้องลายหินอ่อน ทำให้กรอบอาคารดูมีความหรูหรามากขึ้นจากวัสดุอย่างหินอ่อนและสี Copper การจัดผังมีการแบ่งพื้นที่ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากพื้นที่ดินของโครงการมีขนาดค่อนข้างเล็ก จึงถูกจัดสรรค์การใช้พื้นที่อย่างละเอียดและให้มีประสิทธิภาพที่สุด ทางเข้าออกง่ายไม่ซับซ้อน เน้นพื้นที่ตัวอาคารเป็นหลัก อีกทั้งยังมี Automatic Parking ช่วยทำให้มีพื้นที่จอดรถภายในโครงการได้มากขึ้น จัดพื้นที่ส่วน Facilities ไว้ชัดเจนและคำนึงถึงบรรยากาศในพื้นที่ต่างๆ ทั้งส่วน Lobby แบบ Double Volume เป็นกระจก Full Height ทั้งหมด ส่วนห้องออกกำลังกายที่ชั้น 2 และสระว่ายน้ำที่ชั้นดาดฟ้า ช่วยเพิ่มมุมมองวิวมุมสูงและเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากขึ้น เพื่อนบ้านมองไม่เห็นเราว่ายน้ำแน่นอน มีการวางโถงลิฟต์ไว้ในจุดที่เข้าถึงได้ไม่ยากจากทุกตำแหน่งห้อง

การออกแบบห้อง – พื้นที่ห้องเริ่มต้นที่ 35.31 – 125  ตร.ม. ถือว่าให้พื้นที่มาเยอะเหมาะกับโครงการราคาระดับนี้ ภายในห้องพักอาศัยเน้นการจัดพื้นที่ภายในไว้เป็นสัดส่วน แบ่งส่วนการใช้งานและให้พื้นที่ในแต่ละส่วนไว้ค่อนข้างดี ใช้งานได้สะดวก ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.6 m. ห้องมีความโปร่งโล่ง ในส่วนของห้องนอนและส่วนพักผ่อนจะได้วิวจากกระจก Full Height แบบเต็มๆ ห้องนอนใหญ่เน้นความเป็นส่วนตัวมีห้องน้ำและส่วน Walk in closet ในตัว แต่ห้องครัวของห้องตัวอย่างทั้ง 2 แบบเป็นแบบครัวเปิด ไม่เน้นทำอาหารหนักๆ ถ้าจะทำครัวต้องระมัดระวังเรื่องกลิ่นควันหน่อยครับ จัดส่วนห้องน้ำออกมาได้ดี แบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน ส่วนระเบียงที่ให้มามีขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่แต่ก็สามารถใช้งานเป็นส่วนซักล้าง ตากผ้าเล็กๆได้ครับ

วัสดุ – วัสดุที่ให้มาถือว่าเหมาะสมกับการใช้งาน พื้นภายในห้องเป็นกระเบื้องยางไวนิลลายไม้ ซึ่งมีคุณสมบัติเรื่องกันน้ำและทนต่อความชื้นได้ดี  ในส่วนครัวและห้องน้ำเป็นกระเบื้อง Porcelain ผนังภายในห้องทาสีฉาบเรียบ เครื่องครัวใช้ผลิตภัณฑ์ของ Franke ทั้งหมดทั้งเตา เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน วัสดุปิดผิวเคาน์เตอร์ครัวใช้หินเทียม ผนังหลังเคาน์เตอร์เป็นกระจก หน้าบานตู้ต่างๆเป็นเมลามีนผิวเรียบ ในส่วนของห้องน้ำใช้อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ของ American Standard ส่วนก๊อกน้ำเป็นของ Hafele อีกทั้งในส่วนของห้องนอนยังมี ตู้เสื้อผ้าหน้าบานเป็นกระจกมาให้ด้วยและมีระบบ Digital Door Lock ของ Alpha ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน

สาธารณูปโภค – สำหรับ Facilities ที่มีให้มานั้นค่อนข้างมาตรฐาน ถือว่ามีมาให้ครบที่ต้องใช้งานหลักๆ ส่วนห้องออกกำลังกายที่ชั้น 2 สามารถมองเห็น Lobby ได้ ส่วนสระว่ายน้ำที่ชั้นดาดฟ้า ใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนชมวิวมุมสูงได้ แต่ไม่มีห้องอาบน้ำให้ มีการวางโถงลิฟต์ไว้ในจุดที่เข้าถึงได้ไม่ยากจากทุกตำแหน่งห้อง มีลิฟต์อยู่ทั้งหมด 2 ตัว เป็นลิฟต์โดยสารทั้งคู่แบบล็อกชั้น อัตราส่วนลิฟต์ 20 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าใช้งานได้สะดวกไม่หนาแน่นครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 160,000 บาท/ตร.ม., 21 August 2018

  • ทำเล 7.75/10 – ย่านอารีย์มีความอุดมสมบูรณ์สูง อยู่ซอยย่อยเงียบสงบไม่พลุกพล่าน เข้าออกง่าย
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – สะดวก มีเส้นทางลัดหลายทางและจัดที่จอดรถให้เยอะ ระบบ Automatic Parking 
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ห่าง BTS อารีย์ 800 m. มี Shuttle Bus หรือเรียกแท็กซี่ พี่วินได้ไม่ยาก แต่ต้องเดินออกมาหน่อยเพราะอยู่ในซอย
  • วัสดุ 7.5/10 – ให้ตามมาตรฐานเหมาะกับการใช้งาน
  • แบบ 8/10 – ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว ออกแบบได้ดีทั้งตัวอาคารและห้องพัก จัดพื้นที่ใช้สอยได้ลงตัว
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 –  มีให้ครบทั้ง Lobby ฟิตเนส สระว่ายน้ำอยู่บนชั้นดาดฟ้า
  • LUXURY CLASS
  • 7.75 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ SAVVI อารีย์ 4 เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดในเมืองย่านอารีย์ ความอุดมสมบูรณ์สูง สามารถเข้าออกได้ง่ายทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถไฟฟ้า BTS มีตัวเลือกในการเดินทาง แต่เน้นความเป็นส่วนตัวเพื่อนบ้านน้อยๆ ได้พื้นที่ห้องเยอะอยู่สบายๆ มีส่วนกลางหลักๆให้ใช้ครบ มีงบประมาณระดับ 5.5 – 8 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 35,000 – 50,000 ต่อเดือน