รีวิวฉบับย่อที่ 1876 … MGallery Residences, MontAzure Lakeside เป็นคอนโด Low Rise ระดับ Luxury โครงการที่ 2 ที่เปิดตัวภายใน Mix-used Project บนหาดกมลาอย่าง “MontAzure” โดยมี Mgallery : Boutique Hotel ชื่อดังในเครือ Accor มาช่วยบริหารจัดการดูแลห้องพักให้ จุดเด่นของโครงการคือการออกแบบทะเลสาบกลางโครงการกลายเป็นวิวธรรมชาติที่พิเศษนอกเหนือจากทำเลที่ใกล้กับหาดกมลา รวมไปถึงห้องพักที่ดีไซน์สไตล์ Boutique Hotel เก๋ไก๋ ขายเป็นแบบ Fully Furnished เราลองไปดูรายละเอียดโครงการกันค่ะ

Fact @ 25 MAY 2019

  • MGallery Residences, MontAzure Lakeside
  • บริษัท กมลา บีช รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล แมเนจเม้นท์ จำกัด

  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: กมลา อ.กะทู้ จังหวัดภูเก็ต
  • ที่ดินประมาณ 21-1-60.8 ไร่
  • คอนโด Low Rise 2 – 5 ชั้น 39 อาคาร 236 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 4 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 60 คัน คิดเป็น 25.4%
  • เริ่มก่อสร้าง :  2019
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 2021
  • Studio 47 – 54 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.2 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 56 – 70 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.2 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง n/a เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 7.2 ล้านบาท / หรือตร.ม.ละ 15x,xxx บาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ n/a บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ/ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 02-026-2373

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


จาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 7.961976, 98.288331
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

MGallery Residences, MontAzure Lakeside จะตั้งอยู่ใกล้กับหาดกมลาตอนเหนือค่ะ จุดเด่นของหาดกมลานี้คือจะเป็นหาดที่มีชายหาด สามารถเดินเล่นริมทะเล หรือลงไปเล่นน้ำได้ และจะยังได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าหาดป่าตองที่เป็นแหล่งนักท่องเที่ยวหนาแน่นที่อยู่ทางใต้ลงไป พื้นที่บริเวณนี้จะยังไม่ได้ถูกพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมากนัก แต่จะมีภูเก็ตแฟนตาซีที่เป็นสถานที่ชื่อดังอยู่ไม่ไกลค่ะ พื้นที่บริเวณนี้จะมีสภาพภูมิประเทศทั้งภูเขาเเละชายทะเลที่กำลังจะถูกพัฒนาเป็น Mega Project ที่มีชื่อว่า MontAzure

ถ้าเราลองมาดูภาพรวมของจังหวัดภูเก็ต เราขอแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 Zone ที่มีเสน่ห์แตกต่างกันออกไป

  • Zone 1 : North Beaches
    จุดเด่นของโซนนี้คือชายหาดบริเวณนี้จะมีความเงียบสงบมากกว่าหาดทางตอนใต้ เป็นชายหาดส่วนตัวหรือที่พักตากอากาศระดับหรู นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาโซนนี้จะค่อนข้างมีงบประมาณที่สูงหน่อย เดินทางมาพักผ่อน ชมท้องทะเลกันจริงจัง อสังหาริมทรัพย์ในโซนนี้จะมีทั้งวิลล่าและคอนโดตากอากาศ โดยชายหาดและสถานที่สำคัญของโซนนี้มีเช่น หาดไม้ขาว, หาดในยาง, หาดในทอน, หาดบางเทา, หาดสุรินทร์, หาดกมลา โครงการMGallery Residences, MontAzure Lakeside จะตั้งอยู่ในโซนนี้เองค่ะ

  • Zone 2 : South West Beaches
    เป็นหาดทางตอนใต้ลงมาหน่อยนี้จะมีความคึกคักมากขึ้นมาหน่อย มีร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า แหล่งท่องเที่ยว Night Life เรียกได้ว่ายิ่งดึกยิ่งคึกคักเลยค่ะ ซึ่งบริเวณโซนนี้มีชายหาดที่มีชื่อเสียงและสถานที่เเนะนำ เช่น หาดป่าตอง, หาดกะรน, หาดกะตะ, หาดในหา, จุดชมวิวสามอ่าว แหลมพรหมเทพ ซึ่งเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่โด่งดังมากค่ะ

  • Zone 3 : Phuket Town
    สุดท้ายเลยคือโซน Phuket Town หรือตัวเมืองภูเก็ตนั่นเองค่ะ โซนนี้ที่โดดเด่นจะเป็นย่านเมืองเก่าซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส ซึ่งมีที่มาจากการผสมผสานวัฒนธรรมของทั้งทางฝั่งตกวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกันในช่วงที่เหมืองแร่ดีบุกเติบโต ทำให้ทั้งชาวตะวันตกเเละชาวจีนเข้ามาอยู่อาศัยที่ภูเก็ตกันมาก นับว่าสถาปัตยกรรมบริเวณนี้สามารถเล่าถึงประวัติศาสตร์ของเมืองภูเก็ตได้เลย ในตัวเมืองภูเก็ตนี้คนที่อยู่อาศัยจะเป็นชาวภูเก็ตดั้งเดิมที่ออกไปทำงานกันตามหาดต่างๆแล้วกลับมาพักผ่อนในตัวเมือง ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในโซนนี้ส่วนใหญ่ราคาไม่สูงเท่าโซนตากอากาศ ถ้าเป็นคอนโดมิเนียมก็สามารถหยิบจับในราคาล้านต้นๆ เราจะได้ความสะดวกสบายในด้านการเดินทางและอาหารการกินแบบ Street Food เข้ามาแทน 

การเดินทางไปยังโครงการ

ในกรณีที่มาจากสนามบินภูเก็ตนะคะ จะใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชม.จะออกมาจากทางถนน 4031 ตัดเข้าถนนเทพกระษัตรีมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ต จากตรงนี้ขับตรงมาประมาณ 10 กม. แล้วให้เลี้ยวขวาเข้ามายังถนนหมายเลข 4030 หรือถนนดอมจอมเฒ่า จากนั้นก็ขับตามทางมาประมาณ 5-6 กม. จะมาเจอกับถนนศรีสุนทรให้เราเลี้ยวขวาอีกครั้งค่ะ เส้นทางต่อจากนี้ก็จะเป็นทางหลักอย่างเดียวเเล้ว ขับมาเรื่อยๆผ่านหาดสุรินทร์ตรงมาอีกนิดก็จะเป็นโซนหาดกมลาเเล้วค่ะ โครงการเราจะอยู่ทางซ้ายมือหลังโรงแรม InterContinental Phuket Resort

อีกเส้นทางในกรณีที่มาจากตัวเมืองภูเก็ตจะมี 2 เส้นทางให้เลือกนะคะ คือขับมาทางใต้ เป็นถนนเลียบหาด เส้นนี้จะผ่านหาดป่าตองที่มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างหนาแน่น และถนนหนทางจะเป็นเส้นทางเลาะรอบภูเขาค่อนข้างเยอะ ซึ่งถ้าจะใช้เดินทางช่วงเย็นๆก็อาจจะเจอรถติดหน่อยค่ะ ส่วนอีกเส้นทางที่แนะนำคือ ในกรณีที่เราตั้งต้นอยู่ที่เซ็นทรัลภูเก็ต ให้เราวิ่งขึ้นเหนือมาตามถนนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 ตรงมาเรื่อยๆลอดอุโมงได้เลยจนถึงสามแยกบางคูให้เลี้ยวซ้าย (เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ใช้เดินทางจากตัวเมืองไปยังสนามบินเช่นกันค่ะ) หลังจากที่เราเลี้ยวมาเราจะอยู่ที่ถนนเทพกระษัตรีแล้วค่ะ ให้ขับมาเรื่อยๆจนเจอกับอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ตรงนี้ให้เราเลี้ยวซ้ายอีกครั้งค่ะเพื่อเข้าไปยังถนนท้าวศรีสุนทร จากนั้นก็ตรงตามทางมาเรื่อยๆเลยจนเจอกับหาดสุรินทร์ และเป็นหาดกมลาค่ะ โครงการของเราจะอยู่ทางซ้ายมือหลังโรงแรม InterContinental Phuket Resort

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

เนื่องจากโครงการอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง จึงไม่สามารถทราบขอบเขตที่ดินที่แน่ชัดค่ะ ส่วนตำแหน่งที่ตั้งโครงการ MGallery Residences, MontAzure Lakeside นี้จะอยู่ถัดเข้าไปจากถนนหลักที่ใช้เชื่อมต่อหาดต่างๆทางทิศตะวันตก โดยทางเข้าโครงการจะเป็นถนนตัดใหม่ที่ใช้เข้าถึงโครงการอื่นๆในโปรเจค MontAzure เช่นกัน ถนนเส้นนี้ปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยโครงการเรานี้จะอยู่ด้านหลังโรงเเรม InterContinental Phuket Resort

  • ทิศเหนือ – ที่ดินเปล่าของโปรเจค MontAzure รอการพัฒนาในอนาคต
  • ทิศใต้ – ที่ดินเปล่าของโปรเจค MontAzure รอการพัฒนาในอนาคต
  • ทิศตะวันออก – ที่ดินเปล่าของโปรเจค MontAzure รอการพัฒนาในอนาคต
  • ทิศตะวันตก – โรงเเรม InterContinental Phuket Resort

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • HQ Beach Lounge
  • หาดสุรินทร์
  • โรงแรม Twinpalms Phuket
  • หาดป่าตอง
  • Red Mountain Golf Course
  • Phuket International Airport
  • Phuket Old Town (markets and dining)
  • Central Floresta Department Store

MONTAZURE PROJECT

ก่อนจะไปดูภายในโครงการเรามาทำความรู้จักกับโปรเจค MONTAZURE กันซักหน่อยนะคะ โครงการ MGallery Residences, MontAzure Lakeside ถือว่าเป็นโครงการคอนโดมิเนียมโครงการที่ 2 ภายใน MONTAZURE Project เปิดตัวหลังจากที่ Twinpalms Residences MontAzure สร้างเสร็จหมาดๆ 

MontAzure นี้จัดว่าเป็น Mega Project ที่เกิดจากการร่วมทุนของ 3 Developer จากไทย (Asia-Narai Group) ฮ่องกง (Arch Capital) และสิงคโปร์ (Philean Capital) บนที่ดินขนาด 454 ไร่ ริมหาดกมลา ลักษณะทางกายภาพของทำเลนี้ก็จะมีทั้งที่ดินริมหาด ไปจนถึงบนภูเขา โดยพื้นที่บริเวณนี้มีเป้าหมายในการพัฒนาให้เป็น Mix-used project ที่ประกอบไปด้วย

  • Ultra-Luxury estates
  • Luxury Low rise resort condominiums
  • A world-class internationally-branded anchor resort
  • 3 private beach club facilitirs
  • Lifestyle retail centre
  • Retirement Village
  • Medical wellness resort

ในปัจจุบันก็ได้เริ่มพัฒนาพื้นที่บริเวณนี้ไปแล้ว รวมทุก Project ที่ launch ออกมาก็มีมากกว่า 50% ของที่ดินทั้งหมด  เราลองไปดู Master Plan ของทั้งโครงการกันดีกว่าค่ะ

  1. Cafe Del Mar Beach Club
  2. HQ Phuket (Beach lounge restaurant) ( Sale Office ของ Mgallery MontAzure Lakeside)
  3. InterContinental Phuket & Resort (ฝั่งหน้าหาด)
  4. Twinpalms Residences MontAzure
  5. InterContinental Phuket & Resort (ฝั่งด้านใน)
  6. Boutique Retail
  7. The Estates Villas
  8. Mgallery Residences MontAzure Lakeside
  9. Kamala Senior Living
  10. Hillside Land
  11. Exclusive Villa
  12. Nature Reserve

หลายๆโครงการเริ่มเปิดให้บริการเเล้ว และมีอีกหลายโครงการที่กำลังก่อสร้างกันอยู่ เราไปดูโครงการต่างๆที่สร้างเสร็จและปล่อยภาพออกมากันบ้างแล้วดีกว่าค่ะ

Beach Club

A. Cafe Del Mar

Beach Club แรกเลยที่พาไปชมมีชื่อว่า Cafe Del Mar ที่นี่จะมีหลายโซนให้เลือกนั่งเลยค่ะ ทั้งนั่งชมหาด นั่งริมสระว่ายน้ำ นั่งในร่ม รวมถึงมีการจัดกิจกรรมต่างๆให้คนที่มาที่นี่ได้สนุกสนานกัน เช่น Pool Party มี DJ มาเปิดเพลงให้สนุกกันริมหาด รวมไปถึงอาหาร เครื่องดื่มที่รสชาติโอเคเลยค่ะเหมาะกับใครที่อยากมาเล่นน้ำ ปาร์ตี้ สนุกๆก็มาที่นี่ได้เลย

B. HQ Phuket 

HQ Phuket นี้จะมีบรรยากาศที่เรียบขึ้นมาหน่อย มีขายอาหารที่เป็นกิจลักษณะมากกว่า อีกทั้งที่นี่ยังเป็นตำแหน่ง Sale Office ของ M gallery Residences, MontAzure Lakeside ที่เราจะรีวิวให้ชมกันนี้เองค่ะ

Hotel 

ขอบคุณภาพจาก https://www.ihg.com/intercontinental/hotels/th/th/phuket/phukb/hoteldetail

InterContinental Phuket & Resort เป็นโรงแรม 5 ดาวภายในโปรเจค MontAzure นี้ค่ะ ปัจจุบันกำลังก่อนสร้างอยู่โค้งสุดท้ายแล้ว คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการอีกไม่นานนี้ค่ะ

Condominium

Twinpalms Residences MontAzure ถือเป็น Condominium โครงการแรกในโปรเจค MontAzure นี้ค่ะ เรามีรีวิวไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ > คลิกที่นี่

Mgallery Residences, MontAzure lakeside เป็นคอนโดมิเนียมโครงการน้องที่เพิ่ง Launch ออกมาไม่นาน เดี๋ยวเราจะมีรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมให้อ่านกันข้างล่างนี้ค่ะ

ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าโครงการแทบทั้งหมดจะเน้น Target Segment ในระดับ Luxury ขึ้นไปแทบทั้งสิ้นเลย อย่างโรงแรมก็จะเน้น Chain ที่เป็นโรงแรม 5 ดาว ทำให้คนที่จะมาใช้ชีวิตอยู่ภายในโซนนี้ก็จะเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังทรัพย์ในการใช้จ่ายในระดับเดียวกัน เป็นการสร้างความเป็นส่วนตัวและสไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เหมือนกันได้ในระดับนึง และนอกจากที่เล่ามาก็จะมีอีกหลายโปรเจคที่กำลังจะอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาอยู่ค่ะ ทั้งส่วนที่เป็น Wellness living, Senoir Living และ โรงแรมอื่นๆอีก

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ MontAzure ให้กับผู้ที่มาใช้งานโปรเจคนี้คือไม่ว่าใครที่จะมาพักที่โรงแรมหรือคอนโดมิเนียมไหนภายใน MontAzure ก็จะสามารถ Share Facility ได้ เช่น เราพักที่ Mgallery Residences, MontAzure lakeside ก็สามารถเข้าไปใช้สระว่ายน้ำของโรงแรม InterContinental Phuket Resort ได้เช่นกันค่ะ


เจาะลึกตัวโครงการ

MGallery Residences, MontAzure Lakeside เป็นโครงการระดับ High Class ตั้งอยู่บนที่ดินใกล้หาดกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต บนเนื้อที่ขนาด 21 ไร่ครึ่งโดยประมาณ ตัวอาคารเป็นคอนโด Low Rise สไตล์ กึ่งรีสอร์ทบนภูเขา คือจะวางตัวอาคารเป็นหลังเล็กๆ หลังละไม่กี่ยูนิต สูง 2-5 ชั้น ทำให้ถ้านับจำนวนอาคาร โครงการนี้จะมีจำนวนอาคารถึง 39 อาคารเลยทีเดียว วางตัวอยู่ตามระดับบนภูเขาที่ไม่เท่ากัน เปิดมุมมองไปยังฝั่งทะเลอันดามัน อีกทั้งยังได้วิวทะเลสาบที่เป็นวิวส่วนตัวภายในโครงการด้วยค่ะ เมื่อดูที่จำนวนยูนิต รวมเเล้วจะมีอยู่ที่ 236 ยูนิต จัดว่าไม่สูงมากเพราะตั้งอยู่บนที่ดินขนาดใหญ่ค่ะ และยังมีความเป็นส่วนตัวอยู่เนื่องจากในแต่ละอาคารมีจำนวนยูนิตไม่มากเลย ใครที่อยากได้เป็นหลังเลยก็สามารถซื้อหลายห้องเป็น Combine ยูนิตได้ หรือจะกลายเป็น Villa ทั้งหลังก็ได้ค่ะ ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง โครงการนี้จะมีทะเลสาบอยู่ 2 จุดใหญ่กลางโครงการ โดยมี Villa ล้อมรอบไว้ กลายเป็นพื้นที่ธรรมชาติที่เป็นวิวและพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจในโครงการขนาดใหญ่เลย นอกจากนั้นส่วนกลางอื่นๆที่มีก็เข่น อาคาร Club house ที่เป็น Lobby ของโครงการ มีร้านอาหาร, Fitness, Yoga และ Sauna มี Pavillion, walk way รอบทะเลสาบ มี Lap pool อยู่ที่ Lake ที่ติดกับ Clubhouse และมีสระว่ายน้ำอีกสระเป็นสระว่ายน้ำ Free Form ที่มี kid’s pool และ พื้นที่เล่นอยู่บริเวณนั้นอีกด้วยค่ะ

MGallery Residences, MontAzure Lakeside เป็นโครงการตัวที่ 2 ในโปรเจค MontAzure ที่มีรูปแบบการขายเหมือนกันกับ Twinpalms Residences MontAzure ค่ะ คือเป็น Residences Hotel นั่นเอง ความเป็น Residences Hotel คือคอนโดที่ผู้ซื้อสามารถซื้อเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองได้ แต่การเข้าพักอาศัยต่างๆจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ตกลงกับทาง Mgallery ไว้ตั้งแต่ตอนซื้อ ก่อนอื่นเราลองมาดูที่มาที่ไปของ Residences Hotel กันก่อนดีกว่าค่ะ ในสมัยก่อนนั้นคอนโดตากอากาศตามเมืองท่องเที่ยวต่างๆก็มักจะเป็นที่นิยมในหมู่คนมีฐานะที่ต้องการที่พักผ่อนช่วงวันหยุด เป็น Vacation Home หรือ Second Home ที่เหมาะกับการมาพักผ่อนกับครอบครัวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหมค่ะ? ส่วนในวันธรรมดาที่ไม่มีใครมาพักก็มักจะจ้างแม่บ้านมาช่วยดูแลหรือทำความสะอาด หรือว่าจะให้เพื่อน และคนรู้จักผลัดเปลี่ยนมาพักได้ แต่ในช่วงหลังเริ่มมีการปล่อยให้คนภายนอกเช่า และกลายเป็นอีกหนึ่งรายรับของตัวเองได้ด้วย แต่ปัญหาคือห้องพักพวกนี้ในการขออนุญาตก่อสร้างนั้น จะขออนุญาตสร้างเป็นอาคารประเภทพักอาศัยเท่านั้น ไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างไว้เป็นโรงแรม หรือใช้เพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์แต่อย่างใด แต่ถ้าเราดูในปัจจุบันนี้ก็มักจะเห็นคอนโดมิเนียมหลายๆโครงการที่มีนักลงทุนซื้อคอนโดไว้ แล้วปล่อยเช่าในระยะสั้นหรือปล่อยเช่ารายวันตาม AirBNB จนรบกวนผู้อยู่อาศัยที่ต้องการความสงบความเป็นส่วนตัวและมีปัญหากันให้เห็นเป็นประจำเลยค่ะ แต่ในกรณีของห้องพักตากอากาศนั้นก็เริ่มจะมีปัญหาตามมาเช่นกัน ทั้งที่จุดประสงค์ของการซื้อที่พักอาศัยนี้นั้นไม่ใช่เพื่ออยู่อาศัยถาวร แต่เป็นเพื่อนการพักผ่อนบางช่วงเท่านั้น แต่กฎหมายก็เริ่มที่จะเข้มงวดมากขึ้นกับคนที่ซื้อคอนโดตากอากาศเช่นกันค่ะ

แล้วสำหรับ Model แบบ Residences Hotel นี้จะเป็นการขออนุญาตเปิดใช้เป็นโรงแรมตั้งแต่ต้นค่ะ แต่ว่ากรรมสิทธิ์ต่างๆจะเป็นของผู้ซื้อ คือเราจะมีสิทธิ์เป็นเจ้าของห้องเหมือนกับการซื้อคอนโดทั่วไปเลย แต่จะมีทีมที่มาดูแล บริหาร และจัดการการปล่อยเช่าห้องให้ ตามแต่ตกลงในสัญญา เช่น ผู้ซื้อสามารถมาอยู่อาศัยได้ 30-45 วันต่อปี บริษัทที่มาดูแลก็จะคอยดูแลห้อง ทำความสะอาด Maintenance ภายในห้องพักของเราให้และแบ่งค่าเช่าที่ได้ตามแต่อัตราส่วนที่ตกลงกัน 60:40 อะไรก็ว่ากันไปค่ะ ซึ่ง Business Model สำหรับโครงการนี้นั้นทุกห้องที่ถูกซื้อไปจะต้องเข้าร่วมใน Rental Program ที่ดูแลโดย Mgallery ค่ะ โดย Mgallery นี้จะเป็นอีกหนึ่ง Boutique Hotel ภายใต้แบรนด์ Accor ซึ่งเป็น Hotel Business ระดับโลก มีโรงแรมในประเทศไทยหลายจังหวัดเลย ลองเสิร์ชดูได้ค่ะ ทำให้เราที่เป็นคนซื้อสามารถวางใจได้ในระดับนึงว่า ห้องพักที่เราซื้อไปจะได้รับการดูแลรักษา และจัดการเหมือนกับโรงแรม 5 ดาวเลย

มาดูที่ Master Plan กันก่อนค่ะ โครงการนี้ที่บอกไปคือจะมีที่ดินขนาดใหญ่ประมาณ 21 ไร่ครึ่ง สภาพภูมิประเทศของไซต์นี้จะมีทั้งที่ราบริมทะเลสาบ 2 ทะเลสาบ และมีส่วนที่เป็นเนินเขา ทำให้การออกแบบอาคารและห้องพักนั้นตำแหน่งที่อยู่บนที่ราบจะพยายามเปิดมุมมองมาทางทะเลสาบเป็นหลัก ส่วนอาคารที่อยู่บนเนินเขาจะเปิดมุมมองไปยังทะเลอันดามันซึ่งเป็นทิศตะวันตก ในแง่การใช้งานอาจร้อนบ้างในช่วงบ่าย แต่ก็จะได้วิวพระอาทิตย์ตกลงบนทะเลอันดามันด้วย สวยงามไปอีกแบบค่ะ

ทางเข้าโครงการหลักๆจะเข้า-ออกทางเดียวกัน โดยเข้ามาจะเจอกับอาคาร Clubhouse ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการนี้กันก่อน อาคารนี้จะมี Lobby ,ร้านอาหาร , ฟิตเนส, โยคะ, Sauna และสระว่ายน้ำ ก่อนจะเเจกไปยัง Lake ที่อยู่ทางทิศเหนือกับ Lake ที่อยู่ทางทิศใต้ โดย Lake ที่อยู่ทางทิศใต้นี้เราจะขอเรียกว่า Lake 1 นะคะ เป็นส่วนที่มีอาคาร 3-4 ชั้น ห้องพักจะถูกจัดเป็นห้องแบบ Studio ทั้งหมดค่ะ (ส่วนนี้จะเป็นการซื้อ-ขายที่ต้องเข้าร่วม Rental Program อัตโนมัติ ให้ Mgallery มาดูแล บริหาร จัดการ) ส่วนอาคารอื่นๆจะขายเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ที่คนซื้อสามารถเลือกได้ว่าจะให้เข้าร่วม Rental Program หรือไม่ หรือจะซื้อเพื่อการอยู่อาศัยเองก็ได้ค่ะ

ในส่วนของห้องพักอาศัยที่ชั้น 1 นี้จะมีห้องพักเต็มชั้น ส่วนที่อยู่ Lake 1 (ห้อง Studio) จะได้วิวของทะเลสาบและสระว่ายน้ำแบบ Free Form คนที่มาพักอาศัยส่วนนี้ก็จะสามารถเดินไปเล่นสระว่ายน้ำบริเวณนี้ได้สะดวก ส่วนตัวห้องทั้งหมดที่หันหน้ามายังทะเลสาบนั้น ห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกก็จะสามารถเห็นวิวพระอาทิตย์ตกได้ด้วย ในขณะที่ห้องที่หันไปทางทิศตะวันออกจะได้เเนวภูเขาบังเเดด ทำให้ใช้งานพื้นที่ภายในห้องได้สบายมากขึ้น ในส่วนอื่นๆจะถูกจัดเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ค่ะ โดยจะมีอาคารที่ถูกวางล้อมทะเลสาบ กับอาคารที่วางบนเนินเขา ส่วนนี้จะมีความสูงไม่มากอยู่ที่ 2-3 ชั้นค่ะ โดยอาคารที่วางล้อมทะเลสาบนั้นจะได้ข้อดีที่ได้รับวิวทะเลสาบเต็มๆ อีกทั้งยังเดินไปใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ง่ายด้วยค่ะ

พอมาที่ชั้น 2 รูปแบบห้องพักต่างๆจะเหมือนกันกับชั้น 1 ค่ะ จะมีความแตกต่างเล็กน้อยที่ระเบียงชั้นนี้อาจจะสั้นลงเท่านั้น

ผังชั้น 3 นั้นจำนวนห้องพักจะลดลง ห้องที่อยู่รอบทะเลสาบที่เรียกว่า Lake 2,3 , Lake hill และ Hill1 ,3 จะไม่มีห้องพักที่ชั้นนี้ค่ะ เนื่องจากเป็นอาคาร 2 ชั้น

ส่วนชั้นที่ 4 ก็จะเหลือแต่ส่วนที่เป็นห้อง Studio แล้วค่ะ

เช่นเดียวกันกับชั้นที่ 5 ที่เป็นชั้นสุดท้าย จะเหลือแต่ห้องแบบ Studio ค่ะ

ลองมาดูภาพจำลองบรรยากาศของโครงการนี้กันซักหน่อย ส่วนนี้จะเป็นจุด Drop-off และอาคาร Clubhouse ของโครงการค่ะ จากมุมนี้เรายังจะไม่เห็นทะเลสาบที่อยู่ด้านใน

จาก Lobby มาจะติดกับส่วนที่เป็น Lap Pool จะมี Deck ไม้อยู่ข้างสระว่ายน้ำ เล่นน้ำไปพร้อมชมทะเลสาบได้ด้วย

ตัวห้องพักจะเป็นสไตล์รีสอร์ทเลย อาคารแยกเป็นหลังๆวางตามระดับเน้นเขาที่แตกต่างกันออกไป

ห้องที่อยู่บนเนินเขา หันหน้าไปยังทะเลอันดามันจะได้วิวทั้งทะเลสาบและทะเลอันดามันเลย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการนี้เลยนะคะ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งทะเลสาบ ภูเขา และทะเล

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Tranquil Lake (ทะเลสาบ)
  • Leisure and Lap pool (สระว่ายน้ำ)
  • Kid’s Pool and Play Area (สระว่ายน้ำเด็ก)
  • Pool Bar
  • Clubhouse
  • Lobby Lounge
  • Fitness and Yoga Platform
  • All day Dining Restaurant
  • Green Deck , Starlight Deck
  • Relaxation Pavillion
  • Nature Trail & Jogging Track
  • ที่จอดรถประมาณ 60 คันคิดเป็น
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV , พนักงานรักษาความปลอดภัย
  • รถรับส่งสถานที่ใกล้เคียง (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากทางโครงการอีกทีนะคะ)


Product Walkthrough

สำหรับโครงการนี้จะมีห้องตัวอย่างอยู่ 2 แบบหลักๆให้เลือกนะคะ คือแบบ studio กับห้องแบบ 1 bedroom ซึ่งห้องแบบ studio จะต้องเข้า rental program โดยอัตโนมัติ เหมาะกับคนที่หาห้องพักตากอากาศใกล้ทะเล ส่วนห้องแบบ 1 bedroom นี้จะสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อไว้อยู่อาศัยเอง หรือว่าจะเข้า rental program แล้วให้ทาง Mgallery จัดการดูแล บริหาร ก็ได้เช่นกันค่ะ ในวันนึ้เรามีห้องตัวอย่างมาให้ดู ทั้ง 2 แบบเลย เราขอเริ่มจากห้อง studio ก่อนละกันค่ะ

ห้อง Studio นี้จะอยู่ล้อมรอบ Lake ที่อยู่ทางใต้ โดยจะมีอยู่ 7 อาคาร อาคารละ 4-5 ชั้น และมีชั้นละ 4 ยูนิตเท่านั้นค่ะ สำหรับแบบนี้ ห้องตัวอย่างที่เราเอามาให้ดูจะเป็นห้องซ้ายสุดหรือแบบ L2-A นะคะ โดยเมื่อเข้ามาในห้อง เราจะเจอกับส่วนที่เป็น ห้องนอนเลย มีชุดโซฟาอยู่ปลายเตียง ฝั่งตรงข้ามเตียงเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ และตำแหน่งติดตั้ง TV ห้องนี้จะได้ระเบียงเต็มความกว้างของห้อง ตัวระเบียงก็มีขนาดใหญ่ สามารถมีมุมนั่งพักผ่อนชมวิวได้เต็มที่ อีกฝั่งนึงของห้องจะเป็นห้องน้ำ หน้าห้องน้ำจะถูก Built-in ทั้งสองฝั่งเป็นชั้นวางของและตู้เสื้อผ้าค่ะ ตรงชั้นวางของสามารถจัดเป็น Pantry เล็กๆได้ เอาไว้วางกาต้มน้ำเป็นต้น เพราะว่าห้องนี้จะมีมีครัวค่ะ เหมาะกับคนที่มาพักผ่อน และหาร้านอาหารเด็ดๆรอบภูเก็ตทานกันมากกว่า ส่วนในห้องน้ำของที่นี่ก็จะถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เลย เข้าไปจะเจอกับอ่างล้างหน้า เเยกซ้ายขวาจะเป็นห้องสุขาและห้องอาบน้ำ พื้นที่ต่างๆถูกแยกส่วนกันโดยกระจกใสกั้นค่ะ เราลองไปดูห้องจริงกันดีกว่า

สำหรับโทนการตกแต่งนั้น เนื่องจากห้องแบบนี้จะต้องเข้าร่วม Rental Program กับทาง Mgallery โดยอัตโนมัติ ทำให้ทั้งสไตล์การตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆจะเป็นแบบในห้องตัวอย่างทั้งหมด คือจะขายมาเป็นแบบ Fully Furnished เลยค่ะ พร้อมของตกแต่งบางอย่างด้วย เช่นภาพที่อยู่บนผนังหลังเตียงนี้ก็จะได้เหมือนกัน แต่จะได้ในรูปที่แตกต่างจากนี้ค่ะ  ภายในห้องนี้จะได้เเอร์เป็นแบบ Conceal Type ที่เราชอบคือของตกแต่งที่มีพัดลมบนเพดาน โคมไฟตกแต่งที่เป็น Boutique Hotel

ตัวห้องนี้จะมีขนาดอยู่ที่ 47 ตร.ม. แต่พอถูกจัดเป็นห้อง Studio แล้วถือว่าห้องขนาดดูกว้างเลยค่ะ การออกแบบ lighting เวลากลางคืนก็ดูน่าสนใจ สร้างบรรยากาศเป็นคอนโดสำหรับพักผ่อนจริงๆ

ภายในห้องจะจัดวางเตียงไว้อยู่ตรงกลาง ปลายเตียงมีโซฟาวางอยู่ 1 ตัว สามารถนั่งเล่นนอนอ่านหนังสือดูทีวีตรงนี้ได้

ส่วนปลายเตียงจะเป็นตำแหน่งวางทีวี ซึ่งที่นี่จะจัดทีวีให้แบบเเขวนผนัง และจะมีโต๊ะยาววางไว้พร้อมเก้าอี้ สามารถทำเป็นมุมทำงาน นั่งเเต่งหน้าบริเวณนี้ได้ค่ะ โดยระยะห่างจากโซฟามายังโต๊ะยาวตัวนี้ถือว่าห่างพอสมควร ในกรณีที่เลื่อนเก้าอี้ออกมาแล้ว ก็ยังเดินเข้า-ออกใช้งานได้สะดวก

ส่วนข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งก็จะมีระยะค่อนข้างกว้าง เดินได้โดยรอบเตียงค่ะ มีโต๊ะหัวเตียงให้ไว้ทั้งสองฝั่งเลย

พื้นที่ส่วนที่อยู่ติดระเบียงจะมีโซฟาให้มา 1 ตัว พร้อมโต๊ะเล็กๆ เหมาะกับการนั่งอ่านหนังสือ จิบกาแฟพร้อมๆไปกับดูทีวีได้

ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ต่างๆก็เก๋ไก๋ไม่เบา ดูเป็น Boutique hotel ดีค่ะ

หันหน้าจากระเบียงเข้าไปในห้อง จะเจอกับตู้สองข้างขนาบไว้กับประตู

ฝั่งซ้ายมือจะเป็นชั้นวางของ เป็นบานสวิงเปิด มีช่องให้ใส่ของได้หลากหลายขนาด

ตรงกลางมีช่องโล่งขนาดใหญ่ สามารถวางของได้หลากหลาย เป็นมุมวางกาต้มน้ำร้อนหรือชุดเครื่องดื่มอะไรได้

ส่วนตู้ทางขวามือจะเป็นตู้เสื้อผ้าค่ะ

หน้าบานเป็นบานเปิดสวิงเช่นกัน ระยะหน้าตู้ค่อนข้างกว้าง เปิดได้สบาย ภายในมีทั้งชั้นวางของ ราวเเขวนผ้า ลิ้นชักต่างๆ

ตรงกลางก่อนไปห้องน้ำจะมีชั้นวางของขนาบไว้ เป็นด้านข้างของตู้ทั้งสองฝั่งพอดี สามารถวางของตกแต่งได้ สร้างบรรยากาศทางเดินเข้าห้องน้ำอีกแบบ แทนที่จะเหมือนเป็นผนังทึบเดินเข้าไป ส่วนประตูทางเข้านั้นจะเป็นบานสไลด์ค่ะ เลื่อนไปทางขวา สีไม้เข้ม สีเดียวกันกับชั้นวางของข้างๆ

เข้ามาภายในห้องน้ำ ตรงนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของห้องเลยค่ะ เพราะห้องน้ำจะได้ขนาดใหญ่ แบ่งฟังก์ชันออกแบบสัดส่วนชัดเจน เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับอ่างล้างมือตรงกลาง ทางซ้ายเป็นห้องสุขา ส่วนขวามือจะเป็นส่วนอาบน้ำ พื้นที่แต่ละส่วนจะมีฉากกั้นกระจกแยกพื้นที่ออกจากกัน

อ่างล้างหน้าจะเป็นแบบวางบนเคาน์เตอร์ ทำให้มีพื้นที่บนเคาน์เตอร์ค่อนข้างเยอะเลย วางอุปกรณ์แปรงฟัน ล้างมือ หรือปรับเป็นพื้นที่แต่งหน้าได้ ส่วนด้านล่างก็จะมีชั้นวางของวางผ้าเช็ดตัว หรือของอื่นๆได้อีกค่ะ

มาดูฝั่งห้องสุขากันต่อค่ะ ห้องนี้จะเป็นห้องที่ค่อนข้างกว้างเลย กั้นส่วนโดยฉากกั้นกระจกนะคะ ไม่มีประตูเปิด-ปิด

สุขภัณฑ์เป็นแบบโถชิ้นเดียว มีที่ใส่กระดาษชำระกับสายฉีดชำระให้มา

ส่วนอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่ส่วนเปียกที่เป็นโซนอาบน้ำ ห้องนี้จะมีทั้งแบบแช่อ่างอาบน้ำกับฝักบัวสายอ่อน + Rain Shower

อ่างอาบน้ำจะเป็นแบบอ่างเดียว Stand Alone ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของ Mgallery ค่ะ

มองจากห้องน้ำออกไปจะเห็นว่าระเบียงได้เต็มความกว้างหน้าห้องพักเลยค่ะ รวมไปถึงชุดประตูหน้าต่างที่เปิดเต็มทั้งความกว้างและความสูงเลย ทำให้เปิดมุมมองไปภายนอกได้เต็มที่ รวมไปถึงแสงสว่างด้วย และด้วยขนาดของระเบียงที่ให้ค่อนข้างกว้าง ทำให้แดดภายนอกไม่แยงตาเข้ามามากเกินไป ทำให้การใช้งานภายในห้องยังสามารถใช้งานได้สะดวกอยู่ค่ะ

มาดูห้องตัวอย่างกันอีกซักแบบนะคะ แบบนี้เป็นแบบ 1 bedroom ขนาด 56 ตร.ม. ห้องตัวอย่างที่ทำมาจะเป็นแปลนแบบขวาสุดคะ โดยห้องนี้จะเป็นห้องหน้ากว้างที่สามารถเเบ่งฟังก์ชันส่วนใช้งานกับส่วนพักผ่อนแยกออกจากกัน แต่จะมีระเบียงห้องที่จะกว้างเต็มความกว้างเชื่อมต่อทั้งสองส่วนเข้าด้วยกันค่ะ เรามาดูที่ส่วนแรกกันก่อน สำหรับห้องนอนแบบ 1 Bedroom จะมีพื้นที่ครัวให้มาด้วยเป็นครัวเปิดค่ะ ถือว่าเป็นพื้นที่ส่วนแรกเมื่อเข้ามาในห้องเลย ต่อเนื่องมาเจอกับส่วนรับประทานอาหารที่สามารถจัดให้ได้เเบบ 2 ที่นั่งเเละเป็นมุมพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ด้านในสุดชิดกับระเบียงของห้องค่ะ ถือว่ามีฟังก์ชันต่างๆให้มาครบนะคะ ส่วนในห้องนอนก็จะสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้เลย พร้อมกับพื้นที่นั่งพักผ่อนที่อยู่ข้างเตียง ใกล้กับระเบียงห้อง ส่วนห้องน้ำที่อยู่ด้านในก็จะเป็นห้องน้ำใหญ่ ซึ่งฟังก์ชันการใช้งาน การวาง Lay-out ของพื้นที่ส่วนนี้จะเหมือนกันกับห้อง Studio ค่ะ เราลองไปดูบรรยากาศภายในห้องจริงกันดีกว่าค่ะ

เข้ามาในห้องเราจะเจอกับพื้นที่ส่วนครัวก่อนนะคะ โดยประตูห้องจะให้มาเป็นมือจับแบบก้านโยกค่ะ เคาน์เตอร์ครัวจะวางชิดผนังด้านนึงไปเลย ส่วนอีกด้านมีระยะทางเดินจัดว่ากว้างอยู่ค่ะ คนนึงทำอาหาร อีกคนเดินเข้า-ออกห้องได้สบาย

เคาน์เตอร์ครัวชุดนี้จะมี Built-in มาให้ค่ะ ยาวไปถึงช่องสำหรับวางตู้เย็นเลย โดยพื้นที่ครัวก็จะมีทั้งฟังก์ชันเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน ช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟ รวมไปถึงเครื่องซักผ้า โดยที่ด้านบนของเคาน์เตอร์ยังมีพื้นที่เหลือที่สามารถเป็นพื้นที่เตรียมอาหารได้

ชุดเตาพร้อมกับเครื่องดูดควันนี้จะได้เป็นของ Teka ค่ะ

อ่างล้างจานเป็นแบบสเตนเลสฝังใต้เคาน์เตอร์ คือถ้ามีน้ำกระเด็ดออกนอกอ่างเราก็เช็ด ทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนเคาน์เตอร์ลงมาที่อ่างได้เลย

ถัดจากครัวเข้ามาจะเจอกับส่วนที่รับประทานอาหาร ส่วนด้านหน้าทางเข้าห้องนอนจะมี Built-in ดูให้อีก 1 ชุด ถือว่ามีพื้นที่เก็บของให้มาค่อนข้างเยอะอยู่นะคะ

โต๊ะทานอาหารที่ได้จะเป็นดีไซน์นี้เลยค่ะ ทรงกลม แต่ถือว่ามีพื้นที่บนโต๊ะพอสมควรที่สามารถอาหารจานหลักพร้อมกับข้าวได้อีก 2-3 อย่าง เราสามารถเลื่อนเก้าอี้ออกมาขณะใช้งานได้ และเลื่อนเก้าอี้เก็บเข้าไปเมื่อไม่ใช้งานก็จะช่วยทำให้ห้องเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น

ส่วนชั้นวางของที่อยู่หน้าห้องจะคล้ายกันกับชุดที่อยู่ในห้อง Studio ค่ะ พื้นที่ตรงนี้เราสามารถปรับเป็นที่เก็บรองเท้าได้นะคะ

ถัดเข้ามาอีกจะเป็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่นเเล้วค่ะ พื้นที่ตรงนี้จะกว้างขึ้นเยอะเลยค่ะ มีการออกแบบให้ดูผ่อนคลายมากขึ้นโดยใช้ lighting ช่วย คือจะมีไฟแบบ indirect light ซ่อนอยู่ใต้ฝ้าเพดาน ทำให้เเสงสว่างภายในห้องดูนุ่มละมุนมากยิ่งขึ้น

การจัดวางเฟอร์นิเจอร์สามารถจัดชุดโซฟาได้ถึง 3 ที่นั่งเลย พร้อมกับโต๊ะกลางขนาดใหญ่ วางข้าวของได้เต็มที่ สามารถเดินได้รอบโต๊ะ เเละฝั่งตรงข้ามกับโซฟาสามารถวางทีวีได้ มีชั้นวางทีวีที่สามารถเก็บของได้อีก

พื้นที่ส่วนนี้จะอยู่ติดกับระเบียง มีประตูกระจกบานเลื่อนที่เต็มหน้ากว้างของห้อง สามารถเปิดรับลมธรรมชาติภายนอกห้องได้เต็มที่ ในห้องด้านบนมีติดตั้งพัดลมบนเพดานไว้ให้ด้วย เหมาะกับการใช้งานตากอากาศจริงๆค่ะ คือไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศก็ได้บรรยากาศแบบสบาย

มาดูที่ห้องนอนกันบ้างค่ะ สำหรับแบบ 1 Bedroom นี้มักจะเป็นยูนิตมุมทั้งหมด ทำให้ส่วนที่เป็นห้องนอนสามารถเจาะหน้าต่างได้สองด้านเลย โดยมีการออกแบบช่องเเสงตรงกับตำแหน่งการวางเตียงเรียบร้อยทางฝั่งหัวเตียง ส่วนทางด้านข้างจะเป็นประตูออกไปยังระเบียงที่กว้างเต็มหน้ากว้างของห้องนอนเช่นกัน ภายในห้องของโครงการนี้จะขายเป็นแบบ Fully Furnished ที่มีภาพตกแต่งบนหัวเตียงให้ด้วย (รูปแบบของภาพอาจไม่ใช้แบบนี้นะคะ)

ดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆภายในห้องก็จะได้แบบนี้เลยค่ะ เน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้ และมีการเล่นสีตัดกับสีเข้มอย่างสีดำ

ที่หัวเตียงทั้งสองฝั่งจะมีชั้นวางข้างเตียงมาให้ด้วย เป็นดีไซน์กลม มีลิ้นชักเปิดออก

ส่วนอีกฝั่งที่ชิดกับระเบียงจะมีชุดโซฟากับโต๊ะเล็กๆที่สามารถวางหนังสือหรือวางของได้

เดินออกมายังระเบียง พื้นที่ระเบียงจะเป็นจุดที่ทั้งสองส่วนของห้องสามารถเชื่อมต่อกันได้ค่ะ

ส่วนปลายเตียงจะไม่มีเฟอร์นิเจอร์ให้มาทำให้เดินได้สบายขึ้นค่ะ แต่จะมีติดทีวีไว้ให้บนผนังห้องแทน

อีกฝั่งนึงจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ โดยหน้าห้องน้ำจะเป็นตู้เสื้อผ้าที่ Built-in มาให้

ตัวตู้เป็นบานเปิด มีระยะเปิดตู้และยืนเลือกชุดสบายเลย ภายในมีช่องใส่ของหลากหลาย

ส่วนประตูเข้าห้องน้ำจะอยู่ด้านข้างนะคะ เป็นบานเลื่อน

เข้ามาภายในห้องน้ำจะเหมือนกันกับห้อง Studio เลยค่ะ คือแบ่งพื้นที่ใช้งานต่างๆเป็นสัดส่วน ฝั่งซ้ายเป็นสุขา ตรงกลางเป็นอ่างล้างมือ และทางขวา

อ่างล้างมือเป็นแบบวางบนเคาน์เตอร์ มีพื้นที่บนเคาน์เตอร์และชั้นวางของด้านใต้ ทำให้มีพื้นที่วางของใช้งานค่อนข้างเยอะ

ทางขวามือจะมีห้องอาบน้ำ ภายในมีทั้งส่วนที่เป็นฝักบัวสายอ่อนกับ Rain Shower และอ่างอาบน้ำ

ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องสุขา เหมือนกันกับแบบ Studio ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 25 MAY 2019

  • ห้อง Studio LAKE 1 ตึก A3 ขนาด 54 ตร.ม.ราคา 8.2 ล้านบาท หรือ 151,852 บาทต่อตร.ม.
  • ห้อง Studio LAKE 1 ตึก A3 ขนาด 47 ตร.ม. ราคา 7.2 ล้านบาท หรือ 153,192 บาทต่อตร.ม.
  • ห้อง 1 Bedroom LAKE HILL ตึก D1 ขนาด 56 ตร.ม. ราคา 8.3 ล้านบาท หรือ 158,215 บาทต่อตร.ม.
  • ห้อง 1 Bedroom HILL VILLA ตึก E10 ขนาด 65 ตร.ม. ราคา 10.2 ล้านบาท หรือ 156,923 บาทต่อตร.ม.

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน n/a เมตร
  • Kitchen & Sink (เฉพาะห้อง 1 Bedroom)
  • Hob & Hood ของยี่ห้อ Teka (เฉพาะห้อง 1 Bedroom)
  • จอง 100,000 บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 700 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 80 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล : ตั้งอยู่ที่หาดกมลาตอนเหนือ ซึ่งเป็นหาดที่มีความสงบเหมาะกับการพักผ่อนมากกว่าหาดทางตอนใต้ของเกาะภูเก็ต ตัวโครงการจะห่างจากหาดกมลาประมาณ 300 เมตร แต่จะมีสภาพภูมิประเทศที่ค่อนข้างพิเศษคือมีทั้งภูเขาเเละทะเลสาบอยู่ภายในโครงการ ส่วนในแง่อาหารการกินนั้น ภายใน Residences Hotel จะมีห้องอาหารที่ให้บริการอยู่ และภายใน Project ของ MontAzure เองก็จะมี Beach Club เปิดให้บริการอยู่ ในกรณีที่อยากหาร้านอาหารที่ดู Local หรือท้องถิ่นหน่อย อาจจะต้องขับรถออกมายังโซนหาดป่าตอง หรือจะเข้าไปยังตัวเมืองภูเก็ตที่จะมีร้านอาหารชื่อดังอีกมากบริเวณนั้นค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ : เส้นทางการขับรถไม่ยากโครงการจะอยู่บริเวณหาดกมลาทางตอนเหนือและอยู่ใน Mega Project ของจังหวัดภูเก็ตอย่าง MontAzure จากโครงการออกมายังถนนใหญ่ ถนนเส้นนี้จะสามารถวิ่งไปทางหาดตอนเหนือ หรือจะลงใต้ไปยังโซนป่าตองหรือขับไปยังโซนตัวเมืองได้ง่าย แต่ต้องระมัดระวังในการขับอยู่บ้าง เนื่องจากถนนหนทางจะเป็นถนนที่ตัดผ่านภูเขาบ้าง ทำให้เส้นทางจะคดโค้งเยอะ มีทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวขับรถมอเตอร์ไซค์ผ่านถนนเส้นหน้าโครงการนี้บ่อยๆ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ต้องมีสติในการขับหน่อยนะคะ

การออกแบบ : ถึงแม้ว่าโครงการนี้จะขายเป็นห้องเหมือนกับคอนโดมิเนียม แต่การวางอาคารจะถูกจัดวางในรูปแบบสไตล์รีสอร์ทริมภูเขา คือจะแบ่งอาคารเป็นอาคารเล็กๆ หลายๆอาคาร วางอยู่ในระดับที่แตกต่างและหันหน้าไปยังทิศทางที่แตกต่างกันเพื่อรับวิวธรรมชาติด้วย ซึ่งจัดว่าเป็นการออกแบบที่ต้องออกแบบทั้งตัวอาคารและ Landscape ไปพร้อมๆกันเลย ทำให้แต่ละอาคารนั้นมีจำนวนยูนิตไม่มาก สูงเพียง 2-5 ชั้นเท่านั้น ค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัว ส่วนรูปแบบห้องจะมีขนาดที่เล็กลงมาเมื่อเทียบกับโครงการพี่อย่าง Twinpalms Residences Montazure มีรูปแบบห้องพักให้เลือกหลักๆอยู่ 2 แบบคือ Studio กับ 1 Bedroom เป็นห้องพักที่เปิดหน้าห้องรับวิวเต็มที่รวมไปถึงระเบียงใช้งานที่ใหญ่ และมีตัวเลือกที่สามารถมาอยู่อาศัยได้เองด้วยค่ะ

สาธารณูปโภค : อาจจะต้องบอกก่อนว่าโครงการนี้เน้นสภาพเเวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ ส่วนที่เป็นทะเลสาบ เนินเขา และวิวภูเขาจึงถือว่าเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของโครงการนี้เลย โดยการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆก็จะมีสระว่ายน้ำที่ให้มาถึง 2 สระ อยู่ที่ทะเลสาบ 1 และทะเลสาบ 2 ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ห้องพักที่อยู่ตำแหน่งต่างกัน ส่วนพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆจะอยู่แยกไปอยู่ที่ Clubhouse ตรงนั้นจะมีทั้ง Lobby , Fitness ร้านอาหาร บาร์ต่างๆอยู่ตรงนั้นค่ะ ซึ่งจะเป็นส่วนที่คนถึงเป็นอันดับเเรกเมื่อเข้ามาสู่ภายในโครงการ เเละเมื่อเทียบกับจำนวนสัดส่วนห้องพักแล้วถือว่าดีนะคะ เพราะว่าพื้นที่ทะเลสาบต่างๆก็จะเป็นส่วนที่สามารถมองเห็นได้จากในห้องพักเกือบทุกยูนิตเลยค่ะ

Judgement

โครงการนี้เนื่องจากเป็นคอนโดตากอากาศและมีเงื่อนไขในเชิง Residences Hotel ที่ไม่มีตัวเปรียบเทียบเท่าไหร่นัก อีกทั้งยังเป็นทำเลทที่ทางเราไม่ได้ทำรีวิวกันบ่อยด้วย จึงขอไม่ให้คะแนนในรีวิวนี้ค่ะ

BOTTOM LINE

MGallery Residences, MontAzure Lakeside เป็นคอนโดตากอากาศที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาห้องพักตากอากาศใกล้ทะเลในจังหวัดภูเก็ต ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติทั้งทะเล ทะเลสาบและภูเขา ชอบความสะดวกในการมี Partner ที่น่าไว้วางใจ มาช่วยดูแลทั้งตัวห้องและโครงการ มีงบประมาณ 7-10 ล้านบาท