
สร้างเสร็จแล้วนะคะกับคอนโดย่านพระราม 4 อย่าง Aspire Sukhumvit-Rama 4 (แอสปาย สุขุมวิท-พระราม 4) จาก AP Thailand ใครที่มองหาคอนโดใกล้ที่ทำงานเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ช่วงสถานีไม่เกินอ่อนนุช หรือไปทำงานสีลม-สาทรสะดวก ที่มีราคาเริ่มต้นไม่ถึง 120,000 บาท/ตร.ม. ต้องแวะเข้ามาดูที่นี่เลยค่ะ
- ทำเล : ทางเข้า-ออกติดถนนพระราม 4 ใกล้แยกพระโขนง และทางด่วน 2 สายในระยะไม่เกิน 2 กิโลเมตร พร้อมรถรับ-ส่งไปยัง BTS พระโขนง ระยะทางเดินประมาณ 700 – 800 เมตร
- พื้นที่ส่วนกลางครบครัน : เน้นพื้นที่นั่งทำงาน Co-Working Space ห้องประชุม และพื้นที่สีเขียว Outdoor สำหรับออกมานั่งเล่นพักผ่อน หรือชมวิวชั้นดาดฟ้ามองเห็นโค้งน้ำเจ้าพระยา
- การออกแบบ : Layout ห้อง 1 Bedroom แบบใหม่ ของแบรนด์ Aspire ที่โครงการนี้โครงการแรก และมีห้องให้เลือกทั้ง Simplex และ Vertiplex (ฝ้าเพดานสูง) เหมาะกับคนทำงาน รองรับได้ตั้งแต่อยู่คนเดียวไปจนถึงครอบครัวเริ่มต้นค่ะ
- ราคา : คอนโดเปิดใหม่ใกล้เมืองที่เน้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท* (มีส่วนลดอีก 3 แสนบาท) ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่มองหาคอนโดในย่านสุขุมวิทไม่เกินอ่อนนุชค่ะ
ข้อมูลโครงการ
Aspire Sukhumvit-Rama 4 (แอสปาย สุขุมวิท-พระราม 4) ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2568
ชื่อโครงการ | Aspire Sukhumvit – Rama 4 (แอสปาย สุขุมวิท – พระราม 4) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ |
ที่ดิน | 4-3-55.8 ไร่ |
ประเภทคอนโด | High Rise 38 ชั้น 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 1,323 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต |
ที่จอดรถ | ประมาณ 450 คัน คิดเป็น 34% (ที่จอดรถแบบปกติ) |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2565 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2568 |
ประเภทห้องพัก |
|
ราคาเริ่มต้น | 2.89 ล้านบาท* (มีโปรโมชันลดสูงสุด 300,000 บาท) |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 115,000 บาท/ตร.ม. |
สถานะโครงการ | สร้างเสร็จพร้อมโอน |
เว็บไซต์โครงการ | https://apth.ly/wkwt |
Call Center | 1623 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.710891758287374, 100.58922611002772
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
Highlight
- ทำเลติดถนนพระราม 4 ใกล้แยกพระโขนง สามารถเดินทางไปโซนธุรกิจทั้งสีลม, สาทร, ชิดลม และเอกมัย-ทองหล่อได้ง่าย
- ใกล้ทางด่วน 2 สายในระยะไม่เกิน 2 กิโลเมตร ทั้งทางพิเศษฉลองรัชและเฉลิมมหานคร ใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงรถติดเดินทางไปนอกเมืองได้
- มีรถรับ-ส่งไปยัง BTS พระโขนง หรือใครชอบเดินก็สามารถเดินเท้าได้ระยะทางประมาณ 700-800 เมตร (มีทางเท้าตลอดเส้นทาง)
- ใกล้ความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นย่านพระราม 4 , สีลม-สาทร หรือย่านสุขุมวิทเอกมัย-ทองหล่อ, ชิดลม-อโศกก็สามารถชอปปิ้ง ซื้อของกินของใช้ได้หลากหลาย Lifestyle ทั้งในระยะเดิน ใช้รถสาธารณะ หรือใช้รถยนต์ส่วนตัวก็สะดวก
แผนที่จากทางโครงการค่ะ/ครับ
Aspire Sukhumvit-Rama 4 (แอสปาย สุขุมวิท-พระราม 4) มีทางเข้า-ออกติดถนนพระราม 4 ในช่วงใกล้กับแยกพระโขนงประมาณ 500 เมตร แม้ตัวอาคารจะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าประมาณ 700-800 เมตร แต่ที่นี่มีรถรับ-ส่ง (Shuttle Service) ไปสถานีพระโขนงให้บริการด้วยค่ะ
โครงการอยู่บนถนนพระราม 4 ทางฝั่งเข้าเมืองจึงไปยังโซนสีลม สาทรได้ง่าย รวมถึงมีจุดกลับรถห่างจากโครงการประมาณ 200 เมตร เราจึงกลับรถเพื่อไปยังเส้นถนนสุขุมวิทขับไปทางสยาม ชิดลม เอกมัยหรือออกเมืองไปทางอ่อนนุช บางนาได้สบาย
สำหรับทำเลพระราม 4 ถือเป็นทำเลเก่าแก่ที่มีผู้คนอยู่อาศัยมายาวนาน และมีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการพัฒนาโปรเจคขนาดใหญ่อย่าง One Bangkok (วัน แบงค็อก) และ Dusit Central Park (ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค) ทำให้ความคึกคักรวมถึงมูลค่าที่ดินในทำเลพระราม 4 เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ทำเลนี้จึงเหมาะกับคนอยากอาศัยอยู่ใกล้ๆ ตัวเมือง เพราะสามารถเดินทางไปทำงานในเมืองอย่างโซนสีลม, สาทร, ชิดลม, เอกมัยและทองหล่อได้สะดวก แต่ราคาเข้าถึงได้ง่ายกว่าคอนโดติดถนนสุขุมวิท หรือคอนโดในย่านพระราม 4 ช่วงสีลม-จุฬาค่ะ
ทางพิเศษฉลองรัช
หากเราจะขึ้นทางด่วนก็ใช้ได้ 2 เส้นทาง คือ ทางพิเศษฉลองรัช ห่างจากโครงการประมาณ 2 กิโลเมตร ทางขึ้นอยู่ตรงสะพานข้ามคลองพระโขนง ต้องขับเลยสุขุมวิท 71 ไปเล็กน้อย ใช้เดินทางไปยังโซนพระราม 9, ลาดพร้าว และรามอินทราได้
อีกเส้นทางคือทางพิเศษเฉลิมมหานคร ออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายเข้าแยกกล้วยน้ำไทและจะเจอกับจุดขึ้นทางด่วน มีระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร ใช้เดินทางไปโซนพญาไทหรือจตุจักรได้
สำหรับใครที่สงสัยว่าอยู่โครงการนี้จะเดินไปสถานีรถไฟฟ้า BTS พระโขนงได้ไหม จริงๆ แล้วในเวลาช่วงเช้าที่ยังไม่มีแดดหรือตอนเย็นๆ ก็สามารถเดินได้นะคะสำหรับคนที่ชอบเดิน เพราะมีทางเท้าตลอดทั้งเส้นทาง ข้ามถนนตรงทางม้าลายบริเวณแยกพระโขนงที่มีคนข้ามเยอะตลอดทั้งวัน แต่ถ้าวันไหนฝนตกแดดร้อนหรือไม่ชอบเดินก็สามารถนั่งรถ Shuttle Service ของโครงการได้ค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ Aspire สุขุมวิท – พระราม 4 ไม่ติดกับอาคารสูงเลยค่ะ ทำให้เปิดมุมมองได้กว้างรอบด้าน และที่ดินของโครงการที่อยู่ด้านในทำให้ลดเสียงรบกวนและฝุ่นควันจากท้องถนนลง ส่วนด้านหน้าโครงการเป็นที่ดินเปล่าของ AP Thailand เองที่อาจมีการพัฒนาในอนาคต ซึ่งเราคิดว่าโครงการคงไม่ออกแบบอาคารมาบังวิวกันเองค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า มีทางเข้า-ออกเชื่อมต่อกับถนนพระราม 4
- ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารพักอาศัยสูงไม่เกิน 4 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันตก ติดกับ อาคารพักอาศัยสูงไม่เกิน 4 ชั้น
บรรยากาศถนนพระราม 4 ด้านหน้าทางเข้าโครงการ Aspire สุขุมวิท – พระราม 4
บรรยากาศบนถนนพระราม 4 มองไปทางฝั่งแยกพระโขนง (ถนนสุขุมวิท)
บรรยากาศบนถนนพระราม 4 มองไปทางฝั่งแยกโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ซัมเมอร์ฮิลล์ ~ 600 เมตร
- ดับเบิ้ลยูดิสทริค ~ 600 เมตร
- เกตเวย์ เอกมัย ~ 1 กิโลเมตร
- เค วิลเลจ ~ 2.5 กิโลเมตร
- ดิเอ็มดิสทริค ~ 3.3 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- รพ.กล้วยน้ำไท ~ 130 เมตร
- รพ.เทพธารินทร์ ~ 1.3 กิโลเมตร
- รพ.สุขุมวิท ~ 1.4 กิโลเมตร
- รพ.สมิติเวช สุขุมวิท ~ 3.4 กิโลเมตร
- รพ.เมดพาร์ค ~ 3.7 กิโลเมตร
สถานศึกษา
- รร.เซนต์แอนดรูส์อินเตอร์เนชันแนล กรุงเทพฯ ~ 1 กิโลเมตร
- รร.นานาชาติบางกอกเพรพ สุขุมวิท 77 ~ 3.3 กิโลเมตร
- รร.พระหฤทัยคอนแวนต์ ~ 3.7 กิโลเมตร
- ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ~ 3.7 กิโลเมตร
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ~ 7.9 กิโลเมตร
การเดินทาง
- BTS พระโขนง ~ 600 เมตร
- BTS เอกมัย ~ 1.2 กิโลเมตร
- ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ~ 1.6 กิโลเมตร
- ทางพิเศษฉลองรัช ~ 1.9 กิโลเมตร
- BTS อ่อนนุช ~ 1.9 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- Aspire สุขุมวิท – พระราม 4 เป็นคอนโด High Rise สูง 38 ชั้น บนถนนพระราม 4 ปัจจุบันไม่มีอาคารสูงมาบังทัศนียภาพในระยะประชิดเลย ทำให้ลูกบ้านมองเห็นวิวเมืองได้โดยรอบ
- พื้นที่ส่วนกลางฟังก์ชันการใช้งานครบครัน แบ่งเป็น 3 ช่วง คือชั้น 1 ชั้น 8 และชั้นดาดฟ้า (ที่สามารถขึ้นลิฟต์ไปใช้งานได้เลย) เน้นพื้นที่นั่งทำงาน Co-Working Space ห้องประชุม และพื้นที่สีเขียว Outdoor สำหรับออกมานั่งเล่นพักผ่อน หรือชมวิวชั้นดาดฟ้ามองเห็นโค้งน้ำเจ้าพระยา ไว้ชมพลุระยะไกลตอนเทศกาลต่างๆได้
- โครงการอยู่ด้านในเข้ามาจากถนนพระราม 4 ประมาณ 200 เมตร ช่วยลดเสียงและมลพิษทางอากาศจากถนนใหญ่ได้
Aspire Sukhumvit-Rama 4 (แอสปาย สุขุมวิท-พระราม 4) เป็นคอนโด High Rise สูง 38 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้องพักอาศัย 1,323 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 4-3-55.8 ไร่ จาก AP Thailand เป็นคอนโดที่รวมทั้งห้องพักอาศัยแบบปกติ และห้องฝ้าเพดานสูง (Vertiplex) ไว้ด้วยกัน มีที่จอดรถประมาณ 450 คันคิดเป็น 34% ไม่ถือว่าเยอะแต่ทางโครงการก็มีตัวเลือกให้เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนงได้ โดยมีรถรับ-ส่งให้ค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางจะแบ่งเป็น 3 ช่วง คือชั้น 1 ชั้น 8 และชั้นดาดฟ้า โดยจะแบ่งเป็นฟังก์ชันหลักๆ ดังนี้
- ชั้น 1 : พื้นที่ Lobby และนั่งทำงาน สามารถเปลี่ยนบรรยากาศจากการทำงานในห้องลงมานั่งประชุม หรือทำงานชั้นล่างได้ โดยจะมีห้องทำงานให้เลือกถึง 4 ห้องด้วยกันค่ะ
- ชั้น 8 : พื้นที่ออกกำลังกาย มีสระว่ายน้ำและห้อง Fitness ใช้งานได้สะดวก มีพื้นที่นั่งเล่น Semi- Outdoor หลายจุด
- Rooftop : พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เหมาะกับคนชอบนั่งเล่นในบรรยากาศธรรมชาติ ชอบชมวิวเมืองในมุมสูง
บรรยากาศภายในโครงการจะเป็นอย่างไรเราจะพาไปชมกันค่ะ..
ก่อนจะดูภาพบรรยากาศภายในโครงการ เรามาดูผังโครงการชั้น 1 กันก่อนค่ะ
สำหรับคนที่ขับรถเข้ามาจะเจอกับ Drop off ที่ด้านหน้าอาคารเลย สามารถรับ-ส่งคนเดินเข้าสู่ Lobby ได้โดยไม่โดนแดดและฝน ส่วนที่จอดรถจะอยู่รอบๆ อาคาร และบริเวณชั้น 1B – 7 จอดรถได้ทั้งหมดประมาณ 450 คัน คันคิดเป็น 34% เป็นที่จอดรถแบบปกติทั้งหมด
พื้นที่ส่วนกลางชั้น 1 จะประกอบไปด้วยโถงต้อนรับ Lobby, The Aspire Common สำหรับนั่งพักคอย มีห้อง Mail Box และห้องประชุม, ทำงานหลายห้อง ไม่ว่าจะเป็น The Co-op Society ใช้ทำงานหรือจัดปาร์ตี้เล็กๆได้, The Meeting สำหรับประชุมงาน, The Work Loft, The Chat Room สำหรับนั่งทำงานเงียบๆ แบบเป็นส่วนตัว เป็นต้น
โถงลิฟต์แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ทางทิศตะวันออก 2 ตัว และทิศตะวันตก 3 ตัว กระจายการใช้งานทำให้ลูกบ้านเดินเข้าสู่ห้องพักอาศัยได้สะดวกไม่ต้องเดินไกล และไม่ต้องรอลิฟต์นาน สัดส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 265 : 1 ค่อนข้างหนาแน่นแต่ลิฟต์ค่อนข้างเร็วทีเดียวค่ะ มีลิฟต์ Service อีก 1 ตัวสำหรับขนของ
บรรยากาศด้านหน้าโครงการ Aspire สุขุมวิท – พระราม 4 มีทางเท้าเดินได้สะดวกไปจนถึงแยกพระโขนงค่ะ
ถนนทางเข้าโครงการมีไม้กระดก 1 จุด เข้า – ออกด้วยระบบกล้องอ่านป้ายทะเบียนรถผ่าน Application และป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทางซ้ายมือค่ะ ถนนทางเข้า 2 ฝั่งปลูกต้นไม้ใหญ่ได้บรรยากาศสดชื่น มีทางเท้าด้านข้างสำหรับเดินเท้าโดยเฉพาะ
บริเวณ Drop off
สำหรับคนที่ขับรถจะเจอกับ Drop off ด้านหน้าค่ะ ถ้าไม่รับ-ส่งใครก็สามารถขับเข้าไปจอดบริเวณที่จอดรถรอบอาคาร หรือที่จอดรถชั้น 1B – 7 ได้เลย
ผังที่จอดรถชั้นลอย
ที่จอดรถจะอยู่บริเวณชั้น 1B – 7 จอดรถได้ทั้งหมดประมาณ 450 คัน คันคิดเป็น 34% เป็นที่จอดรถแบบปกติทั้งหมดค่ะ
ก่อนเข้าอาคารแวะมาดูสวนด้านหน้ากันก่อนค่ะ บริเวณนี้ชื่อว่า The Oasis เป็นลานน้ำพุ และพื้นที่สีเขียวที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา เป็นส่วนต้อนรับก่อนเข้าสู่อาคารค่ะ
บรรยากาศบริเวณ The Oasis
ภายใน The Oasis มีพื้นที่นั่งเล่น 3 จุด ให้ออกมานั่งรอรถ หรือมาทำคอนเทนต์ในสวนได้
ด้านหน้าทางเข้ามีที่จอดรถพิเศษ 2 คันค่ะ ด้านหลังผนัง Logo โครงการจะเป็นส่วน The Pick-up ให้ Delivery มาส่งของบริเวณนี้ ซึ่งจะแยกเป็นสัดส่วนทำให้ดูเรียบร้อยสวยงามค่ะ
ประตูทางเข้า-ออกของโครงการนี้ และส่วนกลางทั้งหมดจะใช้ระบบสแกนใบหน้า (Face Scan) หรือ Key Card Access ทั้งหมด ช่วยคัดกรองคนนอก ให้ผู้อยู่อาศัยมีความปลอดภัยมากขึ้น
เข้ามาภายในอาคารแล้วจะเจอกับ Lobby ที่มีชื่อว่า The Aspire Common ออกแบบคล้ายกับม้าหมุนในสวนสนุกดูมีลูกเล่นน่าใช้งานดีค่ะ
The Aspire Common
บริเวณนี้มีที่นั่งมาให้ค่อนข้างเยอะเลย สามารถเลือกนั่งเป็นม้านั่งเดี่ยว โซฟาเดี่ยว หรือโซฟากลุ่มได้ตามการใช้งาน ซึ่งทั้งหมดจะมองเห็นวิวสวน The Oasis ด้านนอกได้ บรรยากาศค่อนข้างร่มรื่นทีเดียวค่ะ
ถัดมาทางฝั่งขวามือจะเป็นห้อง Mail Room และฝั่งซ้ายเป็นห้อง The Co-op Society
Mail Room
ภายใน Mail Room บรรยากาศเรียบหรู เข้ามาหยิบจดหมายได้สะดวกก่อนเข้าสู่ห้องพักอาศัยค่ะ
ระหว่างทางเดินไปยังโถงลิฟต์ทางฝั่งทิศตะวันออกจะผ่านพื้นที่ส่วนกลางสำหรับนั่งทำงานหลายโซนเลย
บรรยากาศภายในห้อง The Co-op Society
ห้องแรกเป็นห้อง The Co-op Society ใช้ได้ทั้งนั่งทำงานเป็นกลุ่ม หรือจะจัดปาร์ตี้ทานอาหารเบาๆ ร่วมกับเพื่อนๆ ก็ได้ รองรับได้ประมาณ 10 คน เป็นห้องที่ได้ความ Private มากขึ้นจาก The Aspire Common แต่ยังมองเห็นวิวสวนภายนอกได้เต็มตาเช่นกันค่ะ
สำหรับห้องที่ต้องจองใช้งานจะขึ้นหน้าจอแบบนี้บอกสถานะว่าห้องว่างอยู่หรือไม่ค่ะ ลูกบ้านสามารถจองได้ผ่าน Application
ห้องนี้เป็น The Meeting Room สำหรับนั่งคุยงานหรือประชุมจริงจัง รองรับได้สูงสุด 8 ที่นั่ง เหมาะกับการนั่งทำงานเป็นกลุ่มที่ต้องการสมาธิสูง
เดินเข้ามาด้านในจะเจอกับโถงลิฟต์ทิศตะวันออก มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัวค่ะ ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องทำงานแยกมาให้ 2 ห้องค่ะ
ห้องนี้ชื่อว่า The Workloft เป็นห้องทำงานบรรยากาศสบายๆ ใช้นั่งเรียนพิเศษ ทำงาน หรือนั่งเล่นเกมก็ได้
ส่วนห้องนี้ชื่อว่า The Chatroom เป็นห้องพูดคุยธุระและนั่งเล่นพักผ่อนที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ
กลับมาดูที่โถงลิฟต์ทางทิศตะวันตกกันค่ะ บริเวณนี้จะเข้าถึงง่ายกว่าและมีขนาดใหญ่กว่าโถงลิฟต์อีกด้านหนึ่ง ฝั่งซ้ายเชื่อมต่อกับห้อง Mail Room และฝั่งขวาเชื่อมต่อกับห้องน้ำส่วนกลาง
บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์
ภายในลิฟต์จะต้องใช้การสแกนใบหน้าหรือ Key Card ในการกดหมายเลขชั้นค่ะ ลูกบ้านจะเข้าได้เฉพาะชั้นของตัวเองและชั้นส่วนกลางเท่านั้น ถ้าเป็นชั้นส่วนกลางก็จะมีประตูอีกชั้นหนึ่งกั้นระหว่างโถงทางเดินหน้าห้องพักอาศัยและส่วนกลางด้วยค่ะ (ภาพที่3)
ชั้น 8 เป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัย และเป็นชั้นส่วนกลางด้วยค่ะ
พื้นที่ส่วนกลาง จะแบ่งเป็นโซนสระว่ายน้ำ The Plunge Pool โซนสระว่ายน้ำส่วนตัวที่มองเห็นวิวถนนพระราม 4 ทางทิศใต้ เป็นวิวเมือง เชื่อมต่อกับสระขนาดใหญ่ The Aqua ขนาดประมาณ 12 x 40 เมตร ลึก 1.20 เมตร มีเกาะตรงกลางสามารถขึ้นมานั่งเล่นชมวิวฝั่งตะวันตกได้ ข้างๆสระว่ายน้ำจะมีพื้นที่นั่งเล่นมาให้เยอะถึง 3 ชุดเลยค่ะ
นอกจากสระว่ายน้ำจะมีห้องออกกำลังกายแบ่งมาให้ถึง 3 ห้องด้วยกัน The Workout เป็นห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ที่สุด มีเครื่องออกกำลังกายประเภท Cardio อยู่ทางทิศตะวันออกมองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ , The Gym ห้องออกกำลังกายขนาดรองลงมาที่เน้นเครื่องออกกำลังกายแบบ Weight Trainning และ The Ride ห้องปั่นจักรยาน พอแยกส่วนกันแบบนี้ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ
ส่วนห้องพักอาศัยจะอยู่รอบๆ ส่วนกลางมีโถงทางเดินที่แยกส่วนกับพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้คนที่อยู่ชั้นนี้ยังได้ความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยค่ะ ชั้น 8 มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 27 ยูนิต โดยห้องเกือบทั้งหมดในชั้นนี้จะได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor เหมาะกับคนที่ชอบใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง แต่ยังได้ความสงบและเป็นส่วนตัว
ที่นั่งริมสระว่ายน้ำจะเป็นพื้นที่ Semi-Outdoor ค่ะ บริเวณนี้เป็นส่วน The Beachfront มีที่นั่งชมวิวมองเห็นบรรยากาศสระว่ายน้ำได้แบบมุมกว้าง
ที่นั่งตรงกลางสระว่ายน้ำ (The Island) เป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็น Highlight ของชั้นนี้เพราะมองเห็นวิวด้านนอกและที่นั่งริมสระว่ายน้ำได้ตลอดทั้งแนว
มุมมองจาก The Island
สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือมีขนาดประมาณ 12 x 40 เมตร ลึก 1.20 เมตร ว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริง และถึงแม้จะอยู่ชั้น 8 ก็มองเห็นวิวภายนอกไปยังถนนพระราม 4 ได้ค่ะ
The Water Lounge
ที่นั่งริมสระว่ายน้ำจะแบ่งเป็น 2 โซน คือ The Water Lounge บรรยากาศเหมือนที่นั่งเล่นสบายๆ ริมชายหาด และ The Club โต๊ะเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่ เหมาะกับการมานั่งเล่นอ่านหนังสือ หรือทำงานชิลๆ
ด้านในเป็นสระว่ายน้ำโซน The Plunge Pool เป็นมุมแช่น้ำที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ
ถัดจากสระว่ายน้ำเรามาดูห้องออกกำลังกายกันบ้างค่ะ ห้องออกกำลังกายแบ่งเป็น 3 ห้อง อยู่ริมสระว่ายน้ำทั้งหมด ตรงไปจะเป็นห้อง The Workout ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ฝั่งขวามือคือ The Gym และ The Ride
The Ride
The Gym เป็นห้องออกกำลังกายที่เน้นเครื่องออกกำลังกายแบบ Weight Trainning มีเครื่องออกกำลังกายมาให้หลายแบบเลยค่ะ ส่วนด้านข้างเป็นห้อง The Ride แยกออกมาเป็นห้องจักรยาน ได้ความเป็นส่วนตัวดีค่ะ
ห้องน้ำส่วนกลางชั้น 8
ใกล้ๆ กับห้องออกกำลังกายมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง และห้องน้ำผู้สูงอายุ ภายในมี Locker สำหรับเก็บของเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไปว่ายน้ำหรือออกกำลังกายได้ และมีห้องอาบน้ำมาให้ 1 ห้องค่ะ
บรรยากาศโถงลิฟต์ชั้นพักอาศัย
มาดูผังชั้นพักอาศัยกันบ้างค่ะ
ชั้น 9 – 31 เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือห้อง Simplex และ Vertiplex ค่ะ แต่ชั้น 9 นั้นจะมีห้องพักอาศัยไม่เต็มชั้น เพราะมีบางส่วนเป็นพื้นที่ Double Space ของชั้น 8 ที่สูงขึ้นมา ทำให้มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 36 ยูนิต เราคิดว่าไม่หนาแน่นมากนักเพราะแบ่งโถงลิฟต์ออกเป็น 2 ฝั่ง จากผังห้องพักอาศัยมีโอกาสที่ลิฟต์ทางทิศตะวันตกจะมีความหนาแน่นน้อยกว่าค่ะ
- ชั้น 10 – 30 : ห้องพักอาศัยแบบ Simplex
ชั้น 10 – 30 เป็นชั้นพักอาศัยเต็มชั้น ผังอาคารเป็นรูปตัว C มีทั้งหมด 45 ยูนิตต่อชั้น
– ห้อง Studio ทั้งหมดจะหันเข้าสู่ด้านในของตัว C ในชั้น 9 – 11 จะมองเห็นวิวสระว่ายน้ำส่วนกลางได้ชัดเจนค่ะ ส่วนในชั้นสูงๆ ขึ้นไป แนะนำให้เลือกห้องทางทิศเหนือ จะได้วิวโล่ง (ในปัจจุบัน) ไปทางถนนฝั่งพระราม 4
– ห้อง 1 Bedroom จะอยู่รอบนอกของอาคาร ทางทิศตะวันออกจะมองเห็นวิวฝั่งถนนสุขุมวิทและเส้นทางรถไฟฟ้า, ทิศใต้มองเห็นวิวเมืองฝั่งพระโขนง, ทิศตะวันตกมองเห็นวิวฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในชั้นสูงๆ ได้ค่ะ
– ห้อง 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom เป็นห้องขนาดใหญ่ที่อยู่มุมอาคาร มีให้เลือกไม่เยอะ จึง Sold out ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
- ชั้น 31 – 37 : ห้องพักอาศัยแบบ Vertiplex
ชั้น 31 – 37 วางผังห้องพักอาศัยเหมือนกับชั้น 10 – 30 เลยค่ะ แต่ในห้อง Studio จะเปลี่ยนเป็นห้อง 1 Bedroom แบบ Vertiplex แทน ใครที่ชอบห้องฝ้าเพดานสูง และต้องการวิวสวยๆด้วย คงจะต้องเลือกเป็นห้องใหญ่ 1 Bedroom Vertiplex ที่ขนาด 30 ตร.ม. ขึ้นไปเลยค่ะ
ปัจจุบันที่เราเข้าไปเก็บภาพรีวิวทางโครงการยังไม่เปิดชั้นดาดฟ้าเป็นสาธารณะนะคะ คาดว่าเราจะได้เห็นพร้อมๆ กันในช่วงปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้าค่ะ
เราเลยเอาภาพ Perspective มาให้ชมกันก่อน ซึ่งชั้นดาดฟ้าจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนและพื้นที่สีเขียว มี Highlight เป็นสะพานสีแดงขนาดใหญ่ที่มองเห็นวิวได้เกือบ 360 องศา มีสวนเล่นระดับ ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติเลยค่ะ
ผังชั้นดาดฟ้า (Rooftop)
ชั้นดาดฟ้า เป็นพื้นที่สีเขียวที่แบ่งที่นั่งออกเป็นหลายโซน ไม่ว่าจะเป็น The Deck, The Cloud, The Peak, The Flyover เหมาะกับการมานั่งกินลมชมวิว ในวันที่อากาศดีๆ มองเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ และอาจจะเห็นพลุในงานปีใหม่ บนถนนพระราม 4 และโค้งน้ำเจ้าพระยาได้ในระยะไกลด้วยค่ะ
วิวทางทิศใต้ มองเห็นวิวเมืองฝั่งคลองพระโขนง และทางด่วนบริเวณสุขุมวิท 50 ค่ะ
วิวทางทิศตะวันตก มองเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งบางกระเจ้าได้
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
ชั้น 1
- พื้นที่โถงต้อนรับ Lobby, The Aspire Common
- สวนส่วนกลาง The Linear Park, The Oasis
- Shop
- The Drop off
- The Pick-up,
- The Mail Room
- ห้องประชุมและทำงาน The Co-op Society, The Meeting, The Work Loft, The Chat Room, Private Meeting Room
- ห้องน้ำชาย-หญิง, ห้องน้ำพิการ
- Service Zone ห้องเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง (Generator), ห้อง MDB, ห้องรปภ., ห้องแม่บ้าน, สำนักงานนิติบุคคลฯ, Pump room และห้องพักขยะ
ชั้น 8
- พื้นที่สีเขียว
- สระว่ายน้ำ The Island, The Aqua, The Plunge Pool ระบบเกลือ ขนาด 12 x 40 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย The Workout, The Gym, The Ride ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ n/a เครื่อง
- พื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน The Beachfront, The Club, The Water Lounge
Rooftop
- พื้นที่สีเขียว
- The Deck
- The Cloud
- The Peak
- The Flyover
ระบบรักษาความปลอดภัยและอื่นๆ
- ลิฟต์โดยสาร 5 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 265 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 450 คัน คิดเป็น 34% (ที่จอดรถแบบปกติ)
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ : Face Scan, Key Card
- ประตูไม้กั้นกระดก ระบบ KATSAN : กล้องอ่านป้ายทะเบียนรถผ่านแอพพลิเคชั่น
- CCTV จำนวน 520 จุด
- รั้วโครงการทึบสูง 3.00 เมตร / อีกฝั่งถนนโครงการรั้วโปร่งสูง 3.20 เมตร มีปลูกต้นไม้ไทรเกาหลีบดบังสายตา
- ระบบ Booking 3 จุด (Meeting , Treadmill , Private Bicycle)
แบบห้อง
Highlight
- ห้องพักอาศัยมีให้เลือกทั้ง Simplex และ Vertiplex (Loft) Studio – 1 Bedroom มีพื้นที่ใช้สอย 26.5 – 45 ตร.ม. เหมาะกับคนชอบห้องบรรยากาศโปร่งสบาย มองเห็นวิวมุมสูง (ส่วนห้องใหญ่ 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ได้ Sold out ไปเรียบร้อย)
- Layout ห้อง 1 Bedroom แบบใหม่ ของแบรนด์ Aspire ที่โครงการนี้โครงการแรก ซึ่งเป็นห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันค่ะ
- ห้อง Studio ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท* พร้อมโปรโมชันส่วนลด 300,000 บาท เหลือ 2.59 ล้านบาท* เหมาะกับคนอยากอยู่คอนโดในเมือง เดินทางไปทำงานสะดวก ในราคาเข้าถึงง่าย ห้องนี้เราเก็บบรรยากาศในห้องตัวอย่างมาให้ชมกันด้วยค่ะ
สรุปวัสดุภายในห้อง
- ห้อง Simplex ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
- ห้อง Vertiplex ฝ้าเพดานสูง 4.45 เมตร
- วัสดุปูพื้นห้อง : ไม้สำเร็จรูปลามิเนต หนา 8 มม.
- วัสดุปูพื้นห้องน้ำ, ระเบียง : กระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 ซม.
- Top เคาน์เตอร์ครัว : หินสังเคราะห์
- อุปกรณ์ที่ได้ในครัว : เครื่องดูดควัน ชนิดหมุนเวียนอากาศ, อ่างล้างจาน จากแบรนด์ Teka
- Backsplash ครัว : กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.
- วัสดุในห้องน้ำ : ฝักบัวและก๊อกน้ำ จาก LUKE ,โถส้วมและอ่างล้างมือ จาก COTTO และตู้ใต้อ่างล้างมือ งาน Design by AP
- ระบบน้ำ : จุดสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ 1 จุดขนาดไม่เกิน 3500 วัตต์
- วัสดุกรอบบานหน้าต่าง : กรอบบานกระจกอลูมิเนียมสีดำ กระจกสีชาเทา
- กระจก : กระจกหน้าต่างภายนอกเป็นกระจกลามิเนต ความหนา 8.38 มม.
- เครื่องปรับอากาศ : ขนาด 9,000 – 21,000 BTU (ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง)
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
รูปแบบการขาย Fully Fitted มีชุดครัว, Hood, เตาไฟฟ้า, อ่างล้างจาน, แอร์ Wall Type และชุดสุขภัณฑ์ สามารถแต่งห้องเองได้ตามความชอบ แต่อาจจะต้องเผื่องบไว้ตกแต่งเพิ่มเติม แลกมากับค่าห้องที่ราคาไม่แรงค่ะ
ห้องแรกเราพามาชม Layout แบบใหม่ของแบรนด์ Aspire เลยค่ะ เป็นห้อง 1 Bedroom Type D1M ขนาด 34 ตร.ม. ห้องนี้จะมีจุดเด่นที่แบ่งพื้นที่การใช้งานแต่ละฟังก์ชันชัดเจน โดยมีส่วน Service อย่างครัวและห้องน้ำอยู่ด้านหน้า ตรงกลางเป็นห้องนอนที่เป็นห้องกระจกกั้นเป็นส่วนตัวได้ และเน้นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน นั่งทำงานริมหน้าต่างให้มองเห็นวิวข้างนอกค่ะ
เหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ภายในห้อง เพราะมีพื้นที่นั่งเล่น นั่งทำงานขนาดใหญ่อยู่ริมหน้าต่าง มีแสงส่องเข้าถึงชัดเจน และชอบห้องนอนเล็กแต่เป็นส่วนตัวสามารถกั้นปิดได้ประหยัดค่าไฟของแอร์ในตอนกลางคืน โอเคกับห้องน้ำที่อยู่ติดกับครัวซึ่งเป็นโซนทำความสะอาดอยู่ใกล้ๆ กัน บรรยากาศภายในห้องจริงจะเป็นอย่างไรเลื่อนไปชมกันเลยค่ะ..
ห้องพักอาศัยในโครงการนี้จะเน้นที่ราคาเข้าถึงง่ายค่ะ เหมาะกับคนที่เริ่มทำงานใหม่ๆ หรือว่าต้องการประหยัดงบประมาณ จึงอาจจะมีหลายๆ อย่างต้องซื้อเพิ่มเติมก่อนเข้าอยู่อาศัย เช่น ประตูห้องเป็นแบบมือจับธรรมดา ใครชอบ Digital Door Lock ก็สามารถติดเพิ่มได้นะคะ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 – 10,000 บาทขึ้นอยู่กับแบรนด์และรูปแบบการใช้งาน
ด้านหน้าห้องจะเป็นฟังก์ชันส่วนครัว ซึ่งทางโครงการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้ ทั้งตู้ข้างบนและด้านล่าง ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่วางตู้เย็น สามารถวางชั้นวางรองเท้าหรือตู้เก็บของเพิ่มเติมได้
ส่วนครัวจะอยู่ติดกับห้องน้ำ เป็นส่วน Service เหมือนกันค่ะ เวลาทำอะไรหกเลอะเทอะก็ทำความสะอาดได้ง่าย แยกจากส่วนพักผ่อน มดแมลงต่างๆ ก็จะไม่รบกวนในส่วนของพื้นที่นอนและนั่งเล่น
ครัวในห้อง 1 Bedroom
เคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์สีขาว มีฝาปิดอ่างล้างจาน (เปิด-ปิดได้) เพื่อเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหาร หั่นผักต่างๆ มากขึ้น มีเครื่องดูดควันชนิดหมุนเวียนอากาศ , เตาไฟฟ้า 2 หัว และอ่างล้างจาน จากแบรนด์ Teka ใช้งานได้ครบครัน ด้านหลังมี Backsplash กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ติดตั้งมาให้แล้ว ทำความสะอาดได้ง่าย
ใต้เคาน์เตอร์มีช่องเดินระบบท่อน้ำสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้ามาให้ค่ะ ข้างๆ เป็นช่องเก็บของที่ทางโครงการใส่ลิ้นชักวางของ และลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ครัวต่างๆ ใช้งานได้สะดวก ส่วนชั้นบนมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟและช่องเก็บของ ห้องครัวใน Type นี้อาจจะไม่ได้เหมาะกับคนชอบทำอาหารมากนัก แต่ก็เอาไว้อุ่นอาหาร หรือทำอาหารเบาๆ แบบ American Breakfast ทานได้
ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน ภายในห้องขนาดกะทัดรัดพอเหมาะกับการใช้งานคนเดียว อุปกรณ์ที่ได้ภายในห้องน้ำจะเหมือนกับในห้องตัวอย่าง (ยกเว้นของตกแต่ง) ค่ะ
อ่างล้างหน้า COTTO พร้อมตู้เก็บของเป็นแบบสั่งทำ Design by AP กระจกเงาสามารถเปิดเก็บของด้านในได้ ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์จาก จาก COTTO พร้อมก๊อกน้ำ จาก LUKE
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นติดตั้งมาให้เรียบร้อย ทำให้เวลาอาบน้ำไม่กระเด็นมาโดนส่วนแห้งค่ะ ภายในติดฝักบัวสายอ่อนจาก LUKE และเดินระบบไฟฟ้ารองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้ว พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.88 x 0.95 เมตร ยืนอาบหมุนตัวได้พอดีๆ
ส่วนพื้นที่วางเตียงจะอยู่ตรงกลางห้องเลยค่ะ ล้อมรอบด้วยกระจกบานเลื่อนทำให้ภายในห้องดูโปร่ง เหมาะกับคนที่ชอบห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน เอาไว้ใช้นอนพักผ่อน เน้นใช้ชีวิตตรงพื้นที่นั่งเล่นมากกว่า
Aspire_SKV-Rama4-1Bed_10-
ห้องนอนสามารถเปิด-ปิดได้ด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเข้ามุม ใครที่ชอบพื้นที่โล่งก็สามารถเปิดค้างไว้เลยก็ได้ค่ะ ภายในห้องนอนมีขนาดประมาณ 2.65 x 3.10 เมตร วางเตียงนอน 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าได้พอดีๆ ใครที่ชอบเตียงใหญ่จะปรับเป็นเตียง 6 ฟุต และตู้เสื้อผ้าวางด้านนอกก็ได้นะคะ ข้อดีของห้องนอนขนาดพอดีก็คือ จะช่วยประหยัดค่าไฟตอนกลางคืนที่เปิดเฉพาะในห้องนอนได้ค่ะ
ถัดจากห้องนอนจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นซึ่งจะอยู่ริมหน้าต่าง เหมาะกับคนที่ชอบใช้ชีวิตตอนกลางวัน มองเห็นวิวด้านนอกได้
ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ประมาณ 2.20 x 3.80 เมตร เหมาะกับวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง เพิ่มโต๊ะรับประทานอาหารได้
บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่นจะโปร่งสบาย เพราะมีช่องแสงขนาดใหญ่กว้างเต็มผนัง สามารถจัดเป็นโซนโซฟา โต๊ะรับประทานอาหาร เก้าอี้นั่งเล่นริมหน้าต่างและโต๊ะทำงานเพิ่มเติมได้
พื้นที่ทำงานและนั่งเล่นอเนกประสงค์
ในห้องมาตรฐานจะเป็นห้องเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์มาให้นะคะ เจ้าของห้องสามารถเลือกตกแต่งได้ตามสไตล์และความชอบของตัวเองได้เลย
ส่วนระเบียงด้านนอกเป็นพื้นที่วาง Condensing Unit ขนาดประมาณ 1 x 1.3 เมตรค่ะ ซึ่งห้อง Type นี้จะไม่ได้เน้นระเบียงมากนัก เหมาะสำหรับตากผ้า วางกระถางต้นไม้ตกแต่ง หรือเปิดระบายอากาศค่ะ
ห้องถัดมาเป็นห้อง Studio Type B2 เป็นห้องราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท* (ลดสูงสุด 3 แสนบาท) พื้นที่ใช้สอย 26.5 ตร.ม. บรรยากาศภายในห้องจะเป็นพื้นที่โปร่งเชื่อมต่อกันทุกฟังก์ชัน เหมาะกับคนทำงาน ต้องการห้องที่กลับมาพักผ่อนได้สบายๆ ชอบห้องกว้างฟังก์ชันเชื่อมต่อกัน มีพื้นที่นั่งทำงานพื้นที่นั่งเล่นแยกส่วนกัน และต้องการห้องราคาจับต้องได้ง่ายที่สุดในโครงการนี้ค่ะ เราไปดูบรรยากาศภายในห้องกันเลย..
ห้อง Type นี้จะมีฟังก์ชันคล้ายกับ 1 Bedroom ห้องแรกค่ะ พอเข้ามาแล้วจะเจอกับส่วนครัว ทางฝั่งขวามือทางโครงการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้ และมีพื้นที่วางตู้เย็นด้านข้าง
ส่วนฝั่งตรงข้ามสามารถ Built-in หรือวางชั้นวางรองเท้าเพิ่มเติมเองได้ และเป็นทางเข้าห้องน้ำค่ะ
บรรยากาศภายในห้อง Studio จะค่อนข้างโปร่งสบาย เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียว ต้องการห้องพักอาศัยโล่งกว้าง ฟังก์ชันเชื่อมต่อกันทุกส่วน เน้นเอาไว้พักผ่อนหลังกลับจากที่ทำงาน
ครัวในห้อง Studio
เคาน์เตอร์ครัวจะเหมือนกับห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ ได้ Top หินสังเคราะห์สีขาว มีฝาปิดอ่างล้างจาน (เปิด-ปิดได้) มาให้ พร้อมเครื่องดูดควันชนิดหมุนเวียนอากาศ , เตาไฟฟ้า 2 หัว และอ่างล้างจาน จากแบรนด์ Teka ด้านหลังมี Backsplash กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ทำความสะอาดได้ง่าย
ใต้เคาน์เตอร์มีช่องเดินระบบท่อน้ำสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้าค่ะ ข้างๆ เป็นช่องเก็บของที่ทางโครงการใส่ลิ้นชักวางของ และลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ครัวต่างๆ ใช้งานได้สะดวก ส่วนชั้นบนมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟและช่องเก็บของมาให้ ห้องครัวใน Type นี้อาจจะไม่ได้เหมาะกับคนชอบทำอาหารมากนัก แต่ก็เอาไว้อุ่นอาหาร หรือทำอาหารเบาๆ แบบ American Breakfast ทานได้
ห้องน้ำในห้อง Studio
ส่วนห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน ภายในห้องขนาดกะทัดรัดพอเหมาะกับการใช้งานคนเดียว ได้อ่างล้างหน้า COTTO พร้อมตู้เก็บของเป็นแบบสั่งทำ Design by AP กระจกเงาสามารถเปิดเก็บของด้านในได้ ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์จาก จาก COTTO พร้อมก๊อกน้ำ จาก LUKE
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นติดตั้งมาให้เรียบร้อย ทำให้เวลาอาบน้ำไม่กระเด็นมาโดนส่วนแห้งค่ะ ภายในติดฝักบัวสายอ่อนจาก LUKE พร้อมเดินระบบไฟฟ้ารองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้ว
พื้นที่ในห้องสามารถจัดฟังก์ชันได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นส่วนเตียงนอน โซฟานั่งเล่น และโต๊ะทำงานริมหน้าต่าง มีช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้ได้แสงธรรมชาติเข้ามาทั่วถึงทั้งห้อง
ภายในห้องมีขนาดประมาณ 3.60 x 3.70 เมตร เหมาะกับวางเตียง 5 ฟุต โต๊ะข้างเตียงเล็กๆด้านข้าง และโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้พอดีค่ะ
บรรยากาศภายในห้อง Studio ที่ฟังก์ชันทุกส่วนจะเชื่อมต่อกัน ทำให้รู้สึกว่าโปร่งกว้างสำหรับห้อง 26.5 ตร.ม.ค่ะ
ปลายเตียงเหมาะกับวางตู้เสื้อผ้าและชั้นวางทีวีค่ะ แต่ในห้องมาตรฐานจะไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์มาให้นะคะ เจ้าของเลือกตกแต่งเองได้ตามความชอบเลย
จุดเด่นของห้อง Studio ที่นี่คือมีพื้นที่ริมหน้าต่างมีแสงสว่างกำลังดี สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารหรือโต๊ะทำงานที่แยกจากโซฟาออกมาเป็นสัดส่วนได้ ซึ่งตรงนี้จะมีความยาว 2.5 เมตร ลึก 1.1 เมตรค่ะ
ส่วนระเบียงด้านนอกเป็นพื้นที่วาง Condensing Unit ขนาดประมาณ 1 x 1.3 เมตร เหมาะสำหรับตากผ้า วางกระถางต้นไม้ตกแต่ง หรือเปิดระบายอากาศค่ะ (ส่วนเครื่องซักผ้าวางไว้ใต้เคาน์เตอร์ครัวได้ค่ะ)
ห้อง Vertiplex Type G3 เป็นห้อง 1 Bedroom แบบมีชั้นลอย ฝ้าเพดานสูง 4.45 เมตร พื้นที่ใช้สอยในโฉนด 25 ตร.ม. และชั้นลอยอีก 10 ตร.ม.(รวม 35 ตร.ม.) แบ่งฟังก์ชันเป็นพื้นที่นั่งเล่น ส่วนครัวและห้องน้ำที่ชั้นล่าง ห้องนอนอยู่ด้านบน บรรยากาศภายในห้องจะโปร่งสบาย เพราะมีช่องแสงสูง เหมาะกับคนที่อยากได้ห้องแบบ Loft ซึ่งที่นี่ราคาเริ่มต้น 3.89 ล้านบาท*
บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom แบบ Vertiplex
ถัดมาห้องนี้เป็นห้องที่เหมาะกับคนชอบห้อง Loft แต่อยากได้พื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้น เป็นห้อง 1 Bedroom Plus แบบ Vertiplex (Loft) พื้นที่ใช้สอยในโฉนด 33 ตร.ม. และชั้นลอยอีก 12 ตร.ม.(รวม 45 ตร.ม.) สามารถทำเป็น 2 ห้องนอน หรือเป็นห้องทำงานขนาดใหญ่สำหรับคนที่ต้องการ Work from Home ได้ ห้องนี้ราคาเริ่มต้น 5.89 ล้านบาท*ค่ะ
บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom Plus แบบ Vertiplex
แบบแปลน
แบบห้อง Studio
แบบห้อง 1 Bedroom
แบบห้อง 1 Bedroom Plus
แบบห้อง 2 Bedroom
ราคา
Aspire สุขุมวิท – พระราม 4 ราคา ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2568
- Studio Simplex พื้นที่ใช้สอย 26.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท*
- 1 Bedroom Simplex พื้นที่ใช้สอย 34 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.79 ล้านบาท*
- 1 Bedroom Vertiplex พื้นที่โฉนด 25 ตร.ม.และชั้นลอย 10 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.89 ล้านบาท*
- 1 Bedroom Vertiplex พื้นที่โฉนด 30 ตร.ม. และชั้นลอย 11 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 41 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.29 ล้านบาท*
- 1 Bedroom Vertiplex พื้นที่โฉนด 33 ตร.ม. และชั้นลอย 12 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 45 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.89 ล้านบาท*
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 115,000 บาท
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- มีรถ Shuttle Service ไปกลับ BTS พระโขนง
- จอง n/a บาท
- ทำสัญญา n/a บาท
- ค่ากองทุน 450 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
โครงการ Aspire สุขุมวิท – พระราม 4 มีทางเข้า-ออกติดถนนพระราม 4 ช่วงใกล้แยกพระโขนง สามารถเดินทางไปโซนธุรกิจทั้งสีลม, สาทร, ชิดลม และเอกมัย-ทองหล่อได้ง่าย ใกล้ความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นย่านพระราม 4 เอง, สีลม-สาทร หรือย่านสุขุมวิทเอกมัย-ทองหล่อ, ชิดลม-อโศกก็มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ สามารถชอปปิ้ง ซื้อของกินของใช้ได้หลากหลาย Lifestyle ทั้งในระยะเดิน ใช้รถสาธารณะ หรือใช้รถยนต์ส่วนตัวก็สะดวก
การเดินทางโดยใช้รถ :
สำหรับใครที่มีรถยนต์ส่วนตัวก็ถือว่าเดินทางสะดวกเลย เพราะว่าถนนพระราม 4 ถ้าขับตรงไปจะถึงย่านสีลม-สาทรได้เลย แต่อาจจะต้องเผื่อเวลาเดินทางสักหน่อย ส่วนใครที่เดินทางไปไกลหน่อย ก็มีทางด่วนให้เลือก 2 สายในระยะไม่เกิน 2 กิโลเมตร ทั้งทางพิเศษฉลองรัชและเฉลิมมหานคร ในโครงการมีที่จอดรถมาให้ประมาณ 450 คันคิดเป็น 34% อาจจะดูน้อยไปนิดนึงแต่โครงการก็มีตัวเลือกในการเดินทางด้วยรถสาธารณะอย่างอื่นค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
โครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าพระโขนงประมาณ 700-800 เมตร มีรถ Shuttle Service รับ-ส่งที่สถานีมาให้ด้วย ถ้าจะเดินก็จะไกลหน่อยค่ะ แต่ก็มีทางเท้าตลอดทั้งเส้นทาง ด้านหน้าโครงการสามารถนั่งรถเมล์ เรียกรถ Taxi หรือ Grab ได้ง่ายเพราะอยู่ติดถนนใหญ่เลย
วัสดุ :
โครงการให้วัสดุมาเหมาะสมกับระดับราคาค่ะ ด้วยความที่ทำราคาออกมาเข้าถึงง่าย ภายในห้องจึงมีรูปแบบการขายแบบ Fully Fitted ให้ผู้อยู่อาศัยตกแต่งห้องและเลือกเฟอร์นิเจอร์ได้เองตามชอบ โครงการให้มาแค่เคาน์เตอร์ครัวและห้องน้ำ ซึ่งอุปกรณ์ภายในครัวทางโครงการก็ใส่มาให้ครบทั้งลิ้นชัก ชั้นวางของภายในตู้ ให้หยิบใช้งานได้สะดวก และ Backsplash ทำความสะอาดง่าย
การออกแบบ :
การออกแบบโครงการและพื้นที่ส่วนกลางทำออกมาสวยงามน่าใช้งานทีเดียวค่ะ ตั้งแต่สวนต้อนรับด้านหน้า Lobby และพื้นที่นั่งทำงานที่หลากหลายชั้น 1 รองรับผู้ใช้งานได้เยอะ เหมาะสมกับจำนวนยูนิตและราคา สระว่ายน้ำและห้องออกกำลังกายอยู่ชั้น 8 ไม่เน้นวิวมากนัก แต่มีฟังก์ชันการใช้งานให้ครบครัน ส่วนชั้นดาดฟ้าเป็นพื้นที่ชมวิวเมืองเกือบ 360 องศา และนั่งเล่นพักผ่อนหลายโซน เป็น Highlight ของโครงการ
ห้องพักอาศัยมีให้เลือกหลายแบบทั้ง Simplex และ Vertiplex (Loft) เหมาะกับคนชอบห้องบรรยากาศโปร่งสบาย มองเห็นวิวมุมสูง มีห้อง Layout ใหม่ 1 Bedroom ที่ไม่เคยมีในโครงการของ AP ที่อื่น แบ่งฟังก์ชันได้ชัดเจน เน้นพื้นที่นั่งเล่นริมหน้าต่าง ฯลฯ
สาธารณูปโภค :
พื้นที่ส่วนกลางมีให้ครบครันเหมาะสมกับจำนวนยูนิตและราคา แบ่งเป็น 3 ช่วง คือชั้น 1 เน้นพื้นที่นั่งทำงาน ประชุม และพักผ่อน, ชั้น 8 มีห้องออกกำลังกาย และสระว่ายน้ำ และชั้นดาดฟ้า พื้นที่สีเขียวที่เหมาะกับการพักผ่อนชมวิวมุมสูง
โถงลิฟต์ออกแบบมาเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งเราว่าเป็นข้อดีของโครงการนี้ค่ะ เพราะว่าสามารถกระจายการใช้งานได้ไม่หนาแน่นจนเกินไป และไม่ไกลจากห้องพักอาศัยอีกด้วย
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 115,000 – 190,000 บาท/ตร.ม., 30 พฤษภาคม 2568
- ทำเล 8/10 – ติดถนนพระราม 4 ใกล้แยกพระโขนง หาของกินง่าย
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – ใกล้ทางด่วน 2 สาย เข้าเมืองสะดวก
- ไม่ใช้รถ 8.25/10 – มีรถรับ-ส่ง BTS พระโขนง เรียกรถง่าย
- วัสดุ 7.5/10 – ขายแบบ Fully Fitted และวัสดุมาตรฐานของระดับราคานี้
- แบบ 8.5/10 – ส่วนกลางน่าใช้งาน / ห้องพักอาศัยมีให้เลือกหลายแบบ
- สาธารณูปโภค 8.25/10 – ฟังก์ชันส่วนกลางครบ เหมาะสมกับการใช้งาน
- MAIN CLASS
- 8/ 10.00
Aspire Sukhumvit-Rama 4 (แอสปาย สุขุมวิท-พระราม 4) เหมาะกับใคร
Aspire Sukhumvit-Rama 4 (แอสปาย สุขุมวิท-พระราม 4) เหมาะกับคนทำงานที่มองหาคอนโดใกล้เมือง เดินทางสะดวกทั้งเส้นสุขุมวิทและสีลม-สาทร มีรถรับส่งสถานีรถไฟฟ้า BTS โซนไม่เกินอ่อนนุช ในราคาที่เข้าถึงง่าย 2.59 ล้านบาท* (รวมส่วนลด) มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานครบ มีงบประมาณเริ่มต้นที่ 2.6 – 6 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 16,000 – 36,000 บาท
ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่