รีวิวฉบับที่ 2453 จะพาไปชมโครงการ Ideo Rama 9 – Asoke (ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก ) คอนโด High Rise 36 ชั้น ใจกลางพระราม 9 ทำเลอยู่ติดถนนใหญ่ใกล้ MRT และห้างเซ็นทรัลพระราม 9 สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดที่เดินทางง่าย อยู่ใกล้แหล่ง Lifestyle และ Shopping Mall ขนาดใหญ่ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจนะคะ โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 3.49 ล้านบาท ซึ่งเร็วๆนี้โครงการก็จะมีงาน Open House ในวันที่ 19 – 20 พ.ย. นี้ด้วย หากใครสนใจ ก็สามารถเข้ามาแวะชม Highlights ที่เรารวบรวมมาให้ก่อนได้เลยค่ะ

  • ทำเล : โครงการตั้งอยู่ระหว่างแยกพระราม 9 และแยกอ.ส.ม.ท. ใกล้ MRT สถานีพระราม 9 ประมาณ 450 เมตร สามารถเชื่อมต่อไปยัง Airport Rail Link และ Bts ได้ใน 1 – 2 สถานี อยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า ทั้งเซ็นทรัล พระราม 9 และ Fortune Town เดินทางเข้า – ออกเมืองด้วยรถยนต์ก็ง่าย เพราะอยู่ใกล้กับทางพิเศษศรีรัช
  • รูปแบบห้องพักอาศัย : มีห้องแบบ Duo Space ได้เพดานสูงถึง 4.5 เมตร รูปแบบห้องหลักมีให้เลือกได้แก่ Studio , 1 Bedroom และ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 25.50 – 90.50 ตร.ม. เหมาะกับอยู่อาศัย 1 – 4 คนได้เลยค่ะ ความน่าสนใจอยู่ที่ห้อง 2 Bedroom ซึ่งมีขนาดถึง 90.50 ตร.ม. ถือว่าหาได้ยากในย่านนี้เลยนะคะ
  • การออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง : ชั้น Facilities จะอยู่บริเวณ 3 ชั้นบนสุดของอาคาร แยกออกจากส่วนพักอาศัยอย่างชัดเจน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว และสามารถ Take View มุมสูงของเมืองได้แบบรอบด้าน โดยจุดเด่นอยู่ที่พื้นที่ส่วนกลางออกแบบมาเป็น Hybrid Space หรือฝ้าเพดานสูงทั้งหมด ทำให้บรรยากาศโปร่งโล่ง ดูกว้างขวางน่าใช้งานค่ะ

ข้อมูลโครงการ

Ideo Rama 9 – Asoke (ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก) ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2565

 ชื่อโครงการ  Ideo Rama 9 – Asoke (ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก )
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
 ที่ดิน  5-2-70.5 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 36 ชั้น ห้องพักอาศัย 1,216 ยูนิต, ร้านค้า 2 ยูนิต และ Town Villa 4 ยูนิต
 จำนวนยูนิต  1,222 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   48 ยูนิต
 ที่จอดรถ  528 คัน คิดเป็น 43% ( ไม่รวมจอดซ้อนคัน )
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2562
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ปี 2565
 ประเภทห้องพัก
  • Studio ( A , A – Hybrid ) พื้นที่ใช้สอยภายใน 25.50 – 26.50 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ( B , B – Hybrid ) พื้นที่ใช้สอยภายใน 31.00 – 38.50 ตร.ม.
  • 2 Bedroom ( C , C – Hybrid ) พื้นที่ใช้สอยภายใน 52.00 – 90.50 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  2.70 เมตร ในแบบห้องปกติ และ  4.5 เมตร ในแบบห้อง Hybrid
 ราคาเริ่มต้น  3.49 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 128,000 ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  128,000 – 150,000 บาท / ตร.ม.
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  ผ่าน EIA แล้ว
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่
 Call Center  02 316 2222

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.755321, 100.567361
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการจะเห็นได้ว่า Ideo Rama 9 – Asoke (ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก ) อยู่ติดถนนพระราม 9 ระหว่างแยกพระราม 9 และแยก อ.ส.ม.ท. จัดเป็นทำเลที่อยู่ใจกลางย่านพระราม 9 เลยทีเดียวค่ะ ซึ่งในย่านนี้รายล้อมไปด้วยอาคารสูงหลายแห่ง ทั้งอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียมแหละแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ การเดินทางสะดวกสบายทั้งผู้ที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และรถขนส่งสาธารณะ เพราะโครงการอยู่ใกล้ MRT พระราม 9  เพียง 450 เมตร สามารถเชื่อมต่อไปยัง Airport Rail Link และ BTS ได้ในระยะ 1 – 2 สถานีเท่านั้น

สำหรับถนนที่ใช้เข้า –  ออกโครงการจะใช้ถนนพระราม 9 เป็นหลัก ซึ่งเป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนหลักเส้นอื่นๆได้อีกหลายสาย ทั้งถนนรัชดาภิเษก ถนนสุขุมวิท และถนนเพชรบุรี จากแยกพระราม 9 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ตัวเมืองไปฝั่งอโศก ทองหล่อ – เอกมัย ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้กับจุดขึ้น – ลงทางพิเศษศรีรัชถึง 2 ด่าน ทำให้การเดินทางสะดวกและรวดเร็วขึ้น แต่ในช่วงชัวโมงเร่งด่วน ก็ยังต้องเผื่อเวลาสักหน่อยนะคะ

ในแง่ความอุดสมบูรณ์ ย่านพระราม 9 จัดเป็นแหล่งที่มีความหลากหลายมาก มีทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน สถานศึกษาและโรงพยาบาลหลายแห่ง โดยเฉพาะแยกพระราม 9 ซึ่งถือเป็น Prime Area ของย่าน สามารถเชื่อมต่อกับแหล่ง CBD ของกรุงเทพฯอย่างอโศกและสุขุมวิทได้ มีห้างสรรพสินค้าที่เป็นแลนด์มาร์คอย่าง เซ็นทรัล พระราม 9 ซึ่งจากโครงการสามารถเดินไปใช้งานได้สะดวก และในอนาคตก็จะมี Mega Project อย่าง Bangkok Midtown และ The Gran Rama IX โครงการ Mixed Use ซึ่งจะมีความสูงเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน เรียกว่าเป็นทำเลที่มีความคึกคักและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องค่ะ

สำหรับการเดินทางเข้า – ออกโครงการ จะใช้ถนนพระราม 9 เป็นหลัก ซึ่งเป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนหลักได้อีกหลายเส้นทาง จากทางพิเศษศรีรัช สามารถใช้ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม เพื่อมุ่งหน้ายังถนนพระราม 9 ได้ ฝั่งถนนรัชดาภิเษกถ้ามาจากอโศก ถึงแยกพระราม 9 เลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนพระราม 9 หลังจากนั้นกลับรถเพื่อเข้าสู่โครงการได้ หรือหากมาจากฝั่งพหลโยธิน ถึงแยกพระราม 9 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนพระราม 9 ตรงต่อมาอีกประมาณ  500 เมตร ให้กลับรถ ขับต่อมา 200 เมตร  ถึงทางเข้าโครงการค่ะ

ซึ่งในวันนี้เราจะใช้เส้นทางจากถนนรัชดาภิเษก มุ่งหน้าจากพหลโยธินเพื่อเข้าสู่โครงการ

เส้นทางการเดินทาง

Image 1/7
บรรยากาศเส้นทางจากถนนรัชดาภิเษก

บรรยากาศเส้นทางจากถนนรัชดาภิเษก

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

โครงการ Ideo Rama 9 – Asoke (ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก) ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 9 รอบข้างมีอาคารสูงขึ้นค่อนข้างเยอะ ทั้งอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะในฝั่งทิศตะวันตก จึงจัดเป็นทำเลที่มีความคึกคักมาก แต่ด้วยการวางผังอาคาร ที่ดันทางเข้าส่วนพักอาศัยเข้ามาอยู่ด้านใน ทำให้ได้ความสงบและเป็นส่วนตัวจากภายนอกเพิ่มมากขึ้น

  • ทิศเหนือ ติดกับถนนพระราม 9 ฝั่งตรงข้ามมี Unilever โครงการ One 9 Five สูง 61 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับทางพิเศษศรีรัช
  • ทิศตะวันออก ติดกับที่พักอาศัยแนวราบ และอาคารที่พักอาศัยสูง 10 – 12 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับคอนโดมิเนียม Aspire Rama 9 สูง 25 ชั้น และที่พักอาศัยแนวราบ

Image 1/13
บรรยากาศด้านหน้าถนนพระราม 9

บรรยากาศด้านหน้าถนนพระราม 9

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Unilever ~ 100 เมตร
  • เซ็นทรัล พระราม 9 ~ 450 เมตร
  • Fortune Town ~ 450 เมตร
  • Tesco Lotus Fortune Town ~ 750 เมตร
  • ตลาดละลายทรัพย์รัชดา ~ 1.1 กิโลเมตร
  • Show DC ~ 1.1 กิโลเมตร
  • ตลาดนัดรถไฟรัชดา ~ 1.6 กิโลเมตร
  • Esplanade Cineplex ~ 1.6 กิโลเมตร
  • Big C Extra รัชดาภิเษก ~ 1.9 กิโลเมตร
  • The Street รัชดา ~ 2.3 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลพระราม 9 ~ 600 เมตร
  • โรงพยาบาลผิวหนังอโศก ~ 800 เมตร
  • โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน ~ 1.4 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลปิยะเวช ~ 1.9 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ~ 2.5 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 3.9 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ~ 4.3 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลคามิลเลียน ~ 4.7 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • วิทยาลัยเทคโนโลยี ดอนบอสโก ~ 1.4 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเซนต์ดอมินิก ~ 1.4 กิโลเมตร
  • โรงเรียนนานาชาติ NIST ~ 1.9 กิโลเมตร
  • มศว.ประสานมิตร ~ 2.0 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสาธิต มศว.ประสานมิตร ~ 2.0 กิโลเมตร
  • โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ~ 2.7 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ~ 3.6 กิโลเมตร
  • โรงเรียนบางกอก ทวิวิทย์ ~ 3.6 กิโลเมตร
  • โรงเรียนนานาชาติ KIS ~ 3.9 กิโลเมตร

การเดินทาง

  • MRT พระราม 9 ~ 500 เมตร
  • ARL มักกะสัน ~ 1.2 กิโลเมตร
  • ทางด่วนพิเศษศรีรัช ~ 11 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

โครงการ Ideo Rama 9 – Asoke (ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก ) เป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น  จำนวน 1,222 ยูนิต แบ่งเป็นห้องพักอาศัย 1,216 ยูนิต ร้านค้า 2 ยูนิตและ Town Villa 4 ยูนิต ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ใจกลางพระราม 9 มีที่จอดรถรองรับ 528 คัน คิดเป็น 43% ซึ่งจุดเด่นของโครงการอยู่ที่ทำเล ที่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ใกล้ MRT พระราม 9 ประมาณ 450 เมตร โดยภาพรวมโครงการ ตั้งแต่ชั้น 2 – 7 จะเป็นพื้นที่จอดรถ ชั้นพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 8 – 35 พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่บนชั้น 36 , 36M และชั้น Rooftop เป็นสวนที่สามารถขึ้นไปนั่งพักผ่อนได้ สำหรับรายละเอียดต่างๆ เราจะมาเริ่มอธิบายกันที่ Master Plan ก่อนเลยค่ะ

ทางเข้า – ออกของโครงการจะมีเพียงจุดเดียวคือจากฝั่งถนนพระราม 9 แบ่งเป็น 2 เลน ไม่มีจุดรักษาความปลอดภัย แต่มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้อยู่ค่ะ โดยเมื่อเข้ามาจะเจอกับ Town Villa จำนวน 4 ยูนิต ปรับเปลี่ยนเป็นโฮมออฟฟิศได้ ซึ่งถือว่าเหมาะมาก เพราะอยู่ใกล้ทางเข้า –  ออก และด้านในยังมีร้านค้าไว้ให้บริการอีกด้วย โดยในที่ดินจะมีสะพานข้ามคลองเล็กๆ เมื่เข้ามาจึงเจอป้อมรักษาความปลอดภัย ถนนในโครงการจะเป็นแบบ One Way สามารถควบคุมการเข้า – ออกได้ง่ายค่ะ

บริเวณชั้น 1 จะประกอบด้วยส่วน Lobby ที่อยู่ด้านหน้าอาคาร , Co – Working Space และ Meeting Room ที่ลูกบ้านสามารถลงมาใช้งานได้ โดยในโครงการมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 7 ตัว  Service Lift 1 ตัว คิดเป็นสัดส่วน 97 : 1  ถือว่ายังไม่หนาแน่นมากค่ะ และโถงลิฟต์ยังแยกออกเป็น 2 จุด ลูกบ้านจึงสามารถเลือกใช้งานได้อย่างสะดวก ไม่ต้องรอลิฟต์รวมกันจุดเดียว รอบๆอาคารมีต้นไม้คอยให้ความร่มรื่น ด้านข้างเป็นส่วน Playground มีเครื่องเล่นและแป้นบาสเก็ตบอลให้ลูกบ้านลงมายืดเส้นยืดสายกันได้แบบ Outdoor

บรรยากาศบริเวณหน้าทางเข้า – ออกโครงการ ติดกับถนนพระราม 9 มีไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่คอยให้ความร่มรื่น สำหรับคนที่เดินเข้ามา ก็มีทางเท้าให้ใช้งานได้อย่างสะดวกนะคะ

ด้านหน้าจะเจอกับ Town Villa และร้านค้า ตอนนี้ที่ชั้น 1 จะเป็น 7-11 ค่ะ ซึ่งถือว่าช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านได้มาก ไม่ต้องเดินออกไปนอกโครงการไกลเลย

ก่อนเข้าคอนโดที่เป็นส่วนพักอาศัยจะมีป้อมรักษาความปลอดภัยตั้งอยู่ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล 24 ชั่วโมง โดยระบบในการเข้า – ออกจะเป็นแบบ Easy Pass ลูกบ้านไม่ต้องลงจากรถมาเพื่อแตะบัตร

ส่วน Lobby ตกแต่งด้วยรูปแบบที่ทันสมัย เพื่อให้เข้ากับแนวความคิด Life Work Play ซึ่งเป็นพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ ที่เต็มไปด้วยพลังและความสนุกสนาน โทนสีที่ใช้จะเน้นเป็นสีเหลืองและสีน้ำเงิน ตัดด้วยโลหะหรือหินอ่อนที่มีความแวววาว เพื่อเพิ่มความสวยงาม

Image 1/4
บริเวณ Lobby

บริเวณ Lobby

นอกจากโทนสีแล้ว ยังมีการใช้เส้นสายมาร่วมด้วย เพื่อให้เกิดเป็นมุมมองที่มีมิติ ทำให้พื้นที่มีความน่าสนใจ ด้านข้างเป็นส่วน Co – Working Space มีทั้งโต๊ะที่นั่งทำงานคนเดียว และชุดโซฟาที่เอาไว้นั่งพักผ่อน หรือนัดพูดคุยธุระแบบสบายๆได้ โดยแต่ละส่วนจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นบล็อกๆ เพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ

Image 1/3
Meeting Room

Meeting Room

ถัดมาเป็นส่วน Meeting Room สำหรับคนที่มีสมาชิกเยอะ และต้องการความเป็นส่วนตัว ภายในห้องมีอุปกรณ์รองรับไว้แบบครบครัน มีหน้าจอที่สามารถใช้เพื่อประชุมหรือนำเสนองานได้ ผนังด้านข้างเป็นกระจก มองเห็นวิวสวนด้านนอก ช่วยผ่อนคลายสายตาได้ดีค่ะ

Image 1/9
ห้องนิติบุคคล

ห้องนิติบุคคล

เนื่องจากโถงลิฟต์ที่แบ่งเป็น 2 จุด ทำให้อาคารแบ่งออกเป็นด้านหน้าและด้านหลัง มีประตูอัตโนมัติกั้น ฝั่งอาคารด้านหลังถัดจาก Lobby จะมีห้องนิติบุคคล พื้นที่สำหรับรับฝากของ ห้องน้ำส่วนกลาง ห้อง Laundry และห้อง Grab Room เป็นกึ่งๆพื้นที่ Service ของส่วนกลางที่ลูกบ้านลงมาใช้งานได้

นอกจากนี้ยังมี Meeting Rooms อยู่อีก 2 ห้อง ผนังกระจกตกแต่งด้วยกราฟิกสีสันสดใส ผลงานการออกแบบจาก P7 ศิลปินกราฟฟิตี้และอาร์ตสตรีทระดับประเทศ ที่จะมาช่วยเพิ่มความสนุกสนานให้กับพื้นที่ ซึ่งต่อไปเราจะเห็นได้อีกตาม Feature Wall และ Sculpture ต่างๆค่ะ

ส่วนโถงลิฟต์และห้อง Mail Room บริเวณอาคารด้านหลัง ด้วยจำนวนยูนิตที่ค่อนข้างเยอะ การแบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็นหลายจุด ก็ถือเป็นการกระจายความหนาแน่นที่ดีค่ะ

Image 1/6
บริเวณโถงลิฟต์

บริเวณโถงลิฟต์

ส่วนโถงลิฟต์ด้านหน้า จะมีประตูอัตโนัติที่ควบคุมด้วยระบบ Face Scan อยู่ เมื่อเข้ามาก็จะเจอกับห้อง Mail Room ตกแต่งด้วยโทนสีเหลืองเช่นเดียวกัน ภายในลิฟต์จะใช้ระบบล็อกชั้น ผ่าน Face Scan อีกหนึ่งรอบ เพื่อความปลอดภัย

มากันที่ Facilities ของโครงการจะมีเพียง 3 ชั้นเท่านั้น ซึ่งจะแยกออกจากชั้นพักอาศัยอย่างชัดเจน คือชั้น 36 , 36M และชั้น Rooftop เป็น 3 ชั้นบนสุดของอาคาร ทำให้ได้วิวรอบข้างเต็มๆ โดยเฉพาะชั้น 36 เป็นพื้นที่ส่วนกลางหลัก ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ , Amphitheater และ Multi-purpose Area

สระว่ายน้ำโครงการเป็นแบบ Outdoor ความยาวถึง 40 เมตร ใกล้เคียงกับขนาดของสระโอลิมปิกเลยนะคะ โดยสระนี้เป็นระบบเกลือ แยกเป็นส่วนสระเด็กและสระผู้ใหญ่ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งาน

Image 1/6
ส่วนสระว่ายน้ำ

ส่วนสระว่ายน้ำ

ภายในสระมี Aqua Bike ให้ลองปั่นเพื่อบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้วยนะ ข้างๆมีพื้นที่ไว้สำหรับล้างตัวก่อนลงสระ และมีม้านั่งไว้สำหรับขึ้นมานั่งพัก วางของ หรือเป็นพื้นที่ให้ผู้ปกครองรอเด็กๆที่กำลังเล่นน้ำได้ด้วย

Image 1/4
พื้นที่นั่งเล่น

พื้นที่นั่งเล่น

อีกฝั่งของโถงลิฟต์จะเป็นพื้นที่สวน มีส่วนนั่งเล่นที่ออกแบบให้พื้นมีหลายระดับ คล้ายกับอัฒจรรย์ขนาดย่อมๆ มีทั้งสวน สระว่ายน้ำและวิวเมืองให้ชม สามารถมานั่งหรือนอนเล่นเพื่อผ่อนคลายได้ตลอดทั้งวัน

สำหรับทางเดินชั้น 36 จะเป็นแบบ Semi Outdoor เดินเชื่อมต่อกันได้ทั้งชั้น ด้านข้างของอีกฝั่งทางเดินจะเป็นพื้นที่สวนยาวตลอดแนว ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น น่าใช้งาน

มีชุดโต๊ะ – เก้าอี้ และโซฟาอีกหลายแบบไว้ให้เลือกใช้งานเลยค่ะ จะมานั่งเล่นสูดอากาศ หรือหามุมทำงาน Outdoor แบบชิวๆก็ได้เลยนะ

Image 1/6
Amphitheater Room

Amphitheater Room

การใช้งานจะเป็นพื้นที่นั่งแบบขั้นบันได มีปลั๊กไฟเตรียมไว้ให้ ด้านบนมีจอ Projector จะเอาไว้ฉายสไลด์ทำงาน หรือเปิดหนัง ฟังเพลงกับกลุ่มเพื่อน ก็ได้บรรยากาศสนุกสนานไปอีกแบบค่ะ

Image 1/8
พื้นที่กิจกรรมแบบ Semi Outdoor

พื้นที่กิจกรรมแบบ Semi Outdoor

บรรยากาศรอบทางเดิน จะมีเครื่องเล่นไว้ตามจุดต่างๆ จัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่วางฟังก์ชันไว้ให้ใช้งานได้ในทุกส่วน มีโซน Boxing หรือสนามมวย ให้ได้มาออกกำลัง เรียกเหงื่อกันได้ค่ะ

ห้อง Multi – Purpose Room แบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ชั้น รวมพื้นที่ทั้ง Social Club , Co – Working และ Co – Kitchen เอาไว้ด้วยกัน จึงเป็นพื้นที่ที่สามารถ กิน เล่น ทำงาน จบครบในที่เดียวเลย

Image 1/8
Multipurpose Area

Multipurpose Area

ในส่วนพื้นที่เล่น ก็จัดมาเอาใจคนชอบความสนุกสนาน มีทั้งบ่อบอลขนาดใหญ่ และสไลด์เดอร์ที่ไถลตัวลงมาจากชั้น 2 ได้ มีพื้นที่นั่งทำงานทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม เหมาะกับคนที่ชอบบรรยากาศคึกคักสักหน่อยค่ะ โดยผนังรอบข้างจะเป็นกระจกทั้งหมด จึงสามารถมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา

Image 1/4
ส่วน Co - Kitchen

ส่วน Co - Kitchen

ส่วน Co – Kitchen มีโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 10 ที่นั่ง ส่วนเตรียมอาหารและอุปกรณ์ทำครัวแบบครบครัน สามารถจัดปาร์ตี้เล็กๆทำอาหารทานกันเองได้ หรือใครมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ ก็แวะมาหาอะไรทานได้นะคะ

Image 1/5
บริเวณชั้นลอย

บริเวณชั้นลอย

บนชั้นลอยมีทั้งบอร์ดเกม โต๊ะโกล์ และโต๊ะพูล สามารถชวนเพื่อนๆขึ้นมาเล่นกันเป็นกลุ่มได้ มีทางลงสไลด์เดอร์ สำหรับคนที่อยากจะลองย้อนวัยกับเครื่องเล่นที่คุ้นเคยค่ะ

ชั้น 36M เป็นส่วนฟิตเนสหรือ Energym ที่ค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัว ภายในล้อมรอบด้วยผนังกระจกแบบเต็มบานทั้ง 3 ด้าน ทำให้บรรยากาศปลอดโปร่ง น่าใช้งาน

Image 1/8
Energym ชั้น 36M

Energym ชั้น 36M

การตกแต่งเน้นโทนสีน้ำเงิน ตัดด้วยเส้นสีขาว ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสนามกีฬา ภายในห้องประกอบด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน ทั้งแบบคาร์ดิโอ (Cardio) และเวทเทรนนิ่ง (Weight Training) จากชั้น 36M ได้วิวเปิดโล่ง มองเห็นสวนและสระว่ายน้ำด้านล่างได้

ส่วนชั้น Rooftop หรือชั้นดาดฟ้า ทางโครงการออกแบบให้เป็นพื้นที่สวน สามารถขึ้นมานั่งพักผ่อนเพื่อชมบรรยากาศได้ โดยจัดให้เป็นมุมต่างๆ วางชุดโซฟาเพื่อความเป็นส่วนตัวและสะดวกต่อการใช้งาน

Image 1/6
Ideo Rama 9 - Asoke : 8th Floor Plan

Ideo Rama 9 - Asoke : 8th Floor Plan

ชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 8 – 35 ซึ่งจะเป็น Typical Floor Plan  ผังอาคารวางขนานไปกับทิศเหนือ – ใต้ จึงจะมีอาคารด้านนึงที่หันหน้าเข้าหาทิศตะวันตกทั้งหมด โถงลิฟต์จะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งเพื่อกระจายความหนาแน่น ทางเดินเป็นแบบ Double Corridor มีช่องแสงที่ปลายโถงทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้บรรยากาศภายในไม่อึดอัด ที่ชั้น 8 จะได้พื้นที่สวนสามารถออกไปใช้งานได้

สำหรับตำแหน่งห้องจะแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ในทุกชั้นที่มุมทั้ง 4 ฝั่งของอาคารจะเป็นรูปแบบห้อง 2 Bedroom โดยห้องขนาด 90 ตร.ม. จะอยู่ที่มุมอาคารซึ่งหันหน้าออกทางทิศตะวันตก มีจำนวนเพียง 20 ยูนิตเท่านั้นค่ะ

ส่วนในชั้นที่ 14 – 21 จะเห็นได้ว่ามีช่องว่างตรงกลาง ซึ่งโครงการออกแบบมาให้เป็นช่องระบายอากาศ เพื่อให้ลมสามารถไหลผ่านไปยังอาคารข้างเคียงได้ ซึ่งอาคารนี้เป็นประเภทคอนโดมิเนียมเช่นเดียวกัน อยู่ทางฝั่งทิศตะวันตก ความสูง 25 ชั้น สำหรับคนที่อยากได้วิวเปิดโล่งในทิศนี้ จะแนะนำเป็นชั้น 26 ขึ้นไปค่ะ ส่วนฝั่งทิศตะวันออกติดกับที่พักอาศัยแนวราบเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องวิวเลยค่ะ

Image 1/3
บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์

บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น G

  • Lobby
  • Co – Working Space
  • Meeting Room
  • Garden
  • Playground
  • Juristic
  • Parking

ชั้น 36 – 36M

  • Hybrid Sky Pool
  • Multi – Purpose Room
  • Hybrid Space
  • Social Club
  • Co – Working Area
  • Co – Kitchen
  • Amphitheater
  • Energym

Rooftop

  • Garden

อื่นๆ

  • ลิฟต์โดยสาร 7 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 97 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 528 คันคิดเป็น 43%
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Face Scan

 

แบบห้อง

โครงการ Ideo Rama 9 – Asoke (ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก) มีรูปแบบห้องให้เลือกตั้งแต่ Studio ที่อาศัยอยู่คนเดียวก็ได้ ไปจนถึง 2 Bedroom ที่สามารถอาศัยอยู่ 3 – 4 คนได้แบบสบายๆ โดยความพิเศษจะอยู่ที่รูปแบบห้อง Hybrid ซึ่งเป็นห้องที่มีฝ้าเพดานสูง 4.5 เมตร เหมาะสำหรับคนที่ชอบห้องแบบ 2 ชั้น ได้บรรยากาศคล้ายกับอยู่ในบ้านนะคะ โดยรูปแบบการขายจะเป็น Fully Fitted คือได้เฟอร์นิเจอร์ Built in บางชิ้น สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เคาน์เตอร์ครัว Hod & Hood ซึ่งรายละเอียดจะแตกต่างกันไปตามรูปแบบห้องดังนี้ค่ะ

  • Studio ( A – AH ) พื้นที่ใช้สอยภายใน 25.50 – 26.50 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ( B – BH ) พื้นที่ใช้สอยภายใน 31.00 – 38.50 ตร.ม.
  • 2 Bedroom ( C – CH ) พื้นที่ใช้สอยภายใน 52.00 – 90.50 ตร.ม.

เริ่มกันที่ห้อง 1 Bedroom ขนาด 31.00 ตร.ม. ซึ่งเป็นรูปแบบห้องที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดในโครงการ โดยจุดเด่นอยู่ที่การแยกส่วนพักผ่อนและ Service ออกเป็นสัดส่วนชัดเจน ได้ห้องครัวแบบปิด ติดกับระเบียง ทำให้อากาศถ่ายเทสะดวก ส่วนห้องนอนกั้นด้วยประตูบานทึบ ได้ความเป็นส่วนตัว ห้องน้ำอยู่ติดกับบริเวณทางเข้า เวลาที่มีแขกมาก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1 – 2 คนกำลังดีค่ะ โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 4.69 ล้านบาท

ประตูทางเข้า มีการทำขอบพื้นขึ้นมาเล็กน้อย ช่วยเก็บรอยต่อของวัสดุให้ดูเรียบร้อย และยังช่วยป้องกันฝุ่นที่อยู่ภายนอกไม่ให้เข้ามาในห้อง ที่ประตูจะติดตั้ง Digital Door Lock ยี่ห้อ SAMSUNG มาให้ด้วย

เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็จะเจอส่วนนั่งเล่นก่อนเป็นอย่างแรก บรรยากาศภายในค่อนข้างปลอดโปร่ง โดยแสงจากธรรมชาติจะส่องผ่านเข้ามาทางห้องครัว ซึ่งกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก

ความสูงจากพื้นถึงฝ้าจะอยู่ที่ 2.70 เมตร รวมถึงในส่วนของห้องน้ำ วัสดุพื้นด้านนอกปูด้วยลามิเนต หนา 12 มม. ในการใช้งานอาจจะต้องระวังเรื่องความชื้นและน้ำสักหน่อยนะคะ ไม่งั้นพื้นจะบวมได้

ด้านข้างประตูจะมีตู้รองเท้าแบบ Built in มาให้ ซึ่งจะได้ตั้งแต่ในรูปแบบห้อง 1 Bedroom ขึ้นไป มีชั้นวางของและที่แขวนสำหรับห้อยกุญแจได้ด้วยค่ะ

ระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีอยู่ที่ประมาณ 3.32 เมตร วางทีวีขนาด 40″ –  42″ ได้กำลังดี วางโต๊ะด้านหน้าโซฟาแล้ว ก็ยังเหลือทางเดินรอบได้แบบสบายๆเลย

ฝ้าเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาว ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์และอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยอย่าง Smoke Detector มาให้ หรือใครจะติดตั้งโคมไฟเพิ่มเหมือนในห้องตัวอย่าง ก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจนะคะ

ตำแหน่งวางทีวีจะอยู่เยื้องมาเล็กน้อย ติดกันเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ สามารถเดินเข้า – ออกใช้งานได้อย่างสะดวกค่ะ

Image 1/4
บริเวณห้องน้ำ

บริเวณห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำแยกเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งอย่างชัดเจน อ่างล้างหน้า ก็อกน้ำและสุขภัณฑ์ต่างๆใช้ของยี่ห้อ American Standard ด้านล่างอ่างมีชั้นสำหรับวางของใช้และอุปกรณ์ในห้องน้ำได้

ในทุกรูปแบบห้องจะได้ฉากกั้นอาบน้ำยี่ห้อ CHARMER ติดตั้งมาให้ด้วยค่ะ

Image 1/5
ส่วนอาบน้ำ

ส่วนอาบน้ำ

ส่วนอาบน้ำขนาด 0.79 x 1.52 เมตร มีการทำขอบยกสูงขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลออกสู่ภายนอก ฝักบัวเป็น Hand Shower หยิบใช้งานสะดวก โดยโครงการได้ติดตั้ง Junction Box มาให้ สำหรับคนที่อยากติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นในภายหลัง ส่วนฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาว ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 จุดพร้อมพัดลมระบายอากาศค่ะ

ถัดมาเป็นส่วนห้องครัว ซึ่งเป็นแบบปิด กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกทั้ง 2 ฝั่ง ประกอบด้วยเคาน์เตอร์ครัวที่ Built in มาให้แบบเต็มผนัง ด้านข้างยังเหลือพื้นที่ไว้วางโต๊ะทานข้าว 2 ที่นั่งได้ค่ะ

Image 1/7
เคาน์เตอร์ครัว

เคาน์เตอร์ครัว

ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ มีความแข็งแรง ทนทาน ติดตั้งมาพร้อมอ่างล้างจาน Hob & Hood จาก TEKA ด้านบนมีตู้เก็บของเป็นแบบบานเปิด ส่วนด้านล่างมีลิ้นชักไว้เก็บพวกช้อน ส้อมได้ มีช่องใส่ไมโครเวฟ ทำให้ประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ ข้างๆกันมีช่องไว้สำหรับใส่ตู้เย็นกว้างประมาณ 0.80 เมตร สูง 1.71 เมตร บนฝ้าเพดานติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มา 1 จุดพร้อม Smoke Detector

Image 1/3
ห้องครัว

ห้องครัว

หลายคนน่าจะถูกใจกับห้องที่ได้ครัวปิด โดยเฉพาะที่ติดกับระเบียง เพราะว่าสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นเวลาทำอาหาร ในส่วนระเบียงทางโครงการได้ติดตั้งท่อไว้ให้ สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้ ขนาด 0.93 x 1.57 เมตร คอมเพรสเซอร์จะแขวนไว้ที่ด้านข้าง บนฝ้าเพดานติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ ช่วยเพิ่มแสงสว่าง

ในส่วนห้องนอน วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้แบบสบายๆ โดยเหลือพื้นที่ไว้สำหรับวางโต๊ะหรือตู้ข้างเตียงเล็กๆได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ด้านข้างติดตั้งหน้าต่างบาน Fix พร้อมบานเลื่อนกระจกมาให้ 1 จุด สามารถเปิดม่านเพื่อรับแสงและลมจากธรรมชาติได้ โดยในห้องนี้จะได้ตู้เสื้อผ้าแบบ Built in มาด้วยค่ะ

ตู้เสื้อผ้า Built in แบบบานเปิด ด้านในมีชั้นวาง ราวแขวนผ้าและลิ้นชักไว้สำหรับใส่เสื้อผ้าส่วนตัวได้ 1 – 2 คนกำลังดีค่ะ

Image 1/4
ส่วนแต่งตัว

ส่วนแต่งตัว

รอบเตียงเหลือพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ส่วนแต่งตัวมีพื้นที่ใช้งานประมาณ 0.94 เมตร เปิด – ปิด ประตูตู้ ยืนแต่งตัวได้สะดวก ข้างเตียงจะเหลือพื้นที่ 0.69 เมตร ปลายเตียง 0.68 เมตร หากใครอยากติดตั้งทีวี ก็มีปลั๊กเตรียมไว้ให้แล้วนะคะ ส่วนฝ้าเพดานติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 จุด อยู่ในตำแหน่งที่ไม่รบกวนสายตาเวลาพักผ่อน

สวิตช์และปลั๊กไฟใช้ของยี่ห้อ Schneider จากประเทศฝรั่งเศส

ถัดมาเป็นห้องรูปแบบ Studio Hybrid ขนาด 25.50 ตร.ม. มาพร้อมส่วนนั่งเล่นที่ได้ฝ้าเพดานสูงถึง 4.5  เมตร ส่วน Service จะอยู่ที่ด้านหน้า ประกอบด้วยห้องครัวแบบปิดและห้องน้ำ กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ทำให้ส่วนพักผ่อนด้านในได้ความเป็นส่วนตัว โดย หน้าต่างห้องจะเป็นแบบบานสูงเกือบถึงฝ้า มีพื้นที่สามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนหรือโต๊ะนั่งทำงานได้ ใต้บันไดขึ้นชั้นลอยมีห้องไว้เก็บของ ด้านบนเมื่อขึ้นมาจะเป็นส่วนของห้องนอน วางตู้เสื้อผ้า จัดเป็นมุมแต่งตัวได้ สำหรับราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 5.89 ล้านบาทค่ะ

ด้านหน้าจะเจอส่วนห้องครัวก่อน เมื่อซื้อของหรืออาหารกลับมา ก็สามารถนำมาจัดเตรียมได้เลย ไม่ต้องหิ้วผ่านเข้าไปด้านในห้อง ติดกันเป็นห้องน้ำ เดินใช้งานได้อย่างสะดวก วัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ มีความทนทาน ทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

ประตูที่กั้นส่วน Service และพักผ่อนออกจากกันเป็นประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ทำให้ในส่วนห้องครัวได้รับแสงสว่างจากภายนอกไปด้วย บรรยากาศจึงค่อนข้างปลอดโปร่ง

Image 1/5
เคาน์เตอร์ครัว

เคาน์เตอร์ครัว

เคาน์เตอร์ครัวเป็นแบบ Built in เต็มผนัง แบ่งพื้นที่วางตู้เย็นไปไว้อีกฝั่ง ทำให้ได้ส่วนเตรียมอาหารแบบเต็มที่ ด้านบนเป็นตู้เก็บของแบบบานเปิดและชั้นวาง ด้านล่างก็มีตู้เก็บของเช่นกันพร้อมลิ้นชัก ใช้งานได้อย่างสะดวก มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้าที่ด้านล่าง ไม่ต้องนำออกไปวางไว้ที่ระเบียงค่ะ

Image 1/4
พื้นที่บริเวณครัว

พื้นที่บริเวณครัว

ช่องสำหรับใส่ตู้เย็นขนาด 0.83 x 1.63 เมตร ที่ตู้ไว้สำหรับเก็บของด้านบนได้ด้วย พื้นที่ตรงกลางค่อนข้างกว้าง ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้แบบสบายๆ บนฝ้าเพดานติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ พร้อม Smoke Detector และ Sprinkler

ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็นสัดส่วน อ่างล้างหน้าเป็นแบบยาวเต็มผนัง มีชั้นวางด้านล่าง ได้พื้นที่วางของค่อนข้างเยอะทีเดียวค่ะ

Image 1/6
อุปกรณ์ในห้องน้ำ

อุปกรณ์ในห้องน้ำ

สุขภัณฑ์จะได้ครบเหมือนในห้องตัวอย่างจากยี่ห้อ American Standard ในห้องนี้จะได้ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.75 x 1.20 เมตร มีการทำขอบพื้นขึ้นมาเพื่อแยกส่วนเปียกและส่วนแห้ง ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้พร้อมพัดลมระบายอากาศ

ส่วนนั่งเล่นจะเป็นแบบ Duo Space เพดานสูง 4.50 เมตร ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในบ้าน 2 ชั้น หน้าต่างห้องสูงเกือบถึงฝ้า ทำให้ห้องนอนที่อยู่ด้านบนได้วิวและแสงธรรมชาติไปด้วย

ระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีประมาณ 2.66 เมตร วางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งได้ ฝั่งนึงติดกับทางขึ้นบันได ส่วนอีกฝั่งเป็นประตูห้องเก็บของ เวลาเลือกโซฟา ก็ต้องวัดขนาดให้พอดีๆนะคะ

Image 1/7
ส่วนนั่งเล่น

ส่วนนั่งเล่น

ถัดจากส่วนนั่งเล่น มีมุมสำหรับวางโต๊ะทำงานได้ ส่วนบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีต ปิดผิวด้วยลามิเนต กว้างประมาณ 1 เมตร ลูกตั้งสูง 0.20 เมตร ลูกนอน 0.24 เมตร ด้านข้างเป็นราวจับเหล็กโปร่ง ติดกันเป็นระเบียงขนาด 0.94 x 1.25 เมตร มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้น สามารถออกไปใช้งานได้

ชั้นลอยเป็นพื้นที่ส่วนห้องนอน สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ พร้อมตู้เสื้อผ้าแบบ Built in ด้านข้าง แต่ฐานเตียงจะไม่ได้มานะคะ โดยความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ประมาณ 2.00 เมตร ถือเป็นระยะที่พอใช้งานได้ค่ะ

ตู้เสื้อผ้าแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ด้านในมีชั้นวาง ราวแขวนและลิ้นชัก ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ถ้าอยู่อาศัยแบบ 2 คน ก็สามารถแบ่งกันใช้คนละตู้ได้แบบสบายๆเลยค่ะ

Image 1/4
ห้องนอนบริเวณชั้นลอย

ห้องนอนบริเวณชั้นลอย

ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับตู้เสื้อผ้าเหลือพื้นที่ประมาณ 0.54 เมตร อีกฝั่งมีพื้นที่ 0.82 เมตร ส่วนปลายเตียงติดกับราวกันตกเหลือทางเดินกว้าง 0.78 เดินใช้งานได้อย่างปลอดภัยค่ะ

Image 1/3
ส่วนนั่งเล่นชั้นล่าง

ส่วนนั่งเล่นชั้นล่าง

มุมมองจากด้านบน สามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นด้านล่างได้ ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาว ในส่วนห้องนอนติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้พร้อมใช้งานค่ะ

รูปแบบห้อง Studio จะคล้ายกับห้องแบบ Studio Hybrid เลยค่ะ แต่ในส่วนพักผ่อน ส่วนนั่งเล่นและห้องนอนจะใช้พื้นที่ร่วมกัน ด้านหน้าจะเป็นพื้นที่ห้องน้ำและห้องครัวที่กั้นเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ข้อดีของห้องนี้ก็คือ จะได้ช่องเปิดทั้งจากหน้าต่างและประตูบานเลื่อนที่เปิดออกไปใช้งานระเบียงได้ สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศ รับแสงและลมธรรมชาติได้ค่ะ

Image 1/14
Studio 25.50 ตร.ม.

Studio 25.50 ตร.ม.

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม. ในรูปแบบห้องนี้จะแตกต่างกับห้องอื่นตรงที่ ได้ส่วนครัวแบบเปิด เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานแบบเบาๆ สามารถเปิดประตูระเบียงที่อยู่ถัดจากส่วนนั่งเล่น เพื่อระบายอากาศได้ ถัดเข้ามาเป็นห้องนอน มีพื้นที่แต่งตัวขนาดใหญ่ จัดไว้เป็นสัดส่วน น่าจะถูกใจสาวๆนะคะ ติดที่ห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอน อาจจะไม่ค่อยสะดวก เวลาที่ต้องรับแขกเท่าไรค่ะ

Image 1/17
1 Bedroom 34 ตร.ม.

1 Bedroom 34 ตร.ม.

มาที่รูปแบบห้อง 2 Bedroom ขนาด 52 ตร.ม. เหมาะสำหรับครอบครัว 2 – 3 คนกำลังดีค่ะ มีส่วนครัวแบบเปิดที่ด้านหน้า สามารถกั้นปิดด้วยฉากกั้นกระจกในภายหลังก็ได้นะ ส่วนห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับหน้าต่าง ทำให้ได้รับลมและแสงสว่างอย่างเต็มที่ ห้องนอนแยกออกเป็น 2 ฝั่ง โดยทั้ง 2 ห้องจะได้ระเบียงที่ออกไปใช้งานได้ด้วย ส่วนห้องน้ำได้เป็น 2 ห้องเช่นเดียวกัน คือห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันที่โถงกลางติดกับประตูทางเข้า และอีกห้องอยู่ในห้องนอนใหญ่ ทำให้ได้ทั้งความสะดวกและความเป็นส่วนตัวค่ะ

Image 1/17
2 Bedroom 52 ตร.ม.

2 Bedroom 52 ตร.ม.

และรูปแบบห้องสุดท้ายคือ ห้อง 2 Bedroom ขนาด 90 ตร.ม. ซึ่งค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวค่ะ เพราะในละแวกนี้ไม่มีคอนโดที่ทำห้องไซส์ใหญ่ขนาดนี้เลย สามารถอยู่ด้วยกัน 3 – 4 คนได้แบบสบายๆ และมีห้องเก็บของที่เก็บของชิ้นใหญ่ๆได้ มีระเบียงขนาดใหญ่ จัดเป็นมุมพักผ่อนเพื่อชมวิวและสูดอากาศด้านนอกได้เลย ในส่วนห้องนอน ได้พื้นที่อเนกประสงค์ที่จัดเป็นส่วนนั่งเล่น หรือวางโต๊ะทำงานแบบส่วนตัวได้ค่ะ

Image 1/14
2 Bedroom 90 ตร.ม.

2 Bedroom 90 ตร.ม.

รูปแบบห้องพักอาศัยอื่นๆ

Image 1/12
Studio (A-H) ขนาด 26.00 ตร.ม.

Studio (A-H) ขนาด 26.00 ตร.ม.

โครงการ Ideo Rama 9 – Asoke ยังมีรูปแบบห้องให้เลือกอีกหลากหลาย ซึ่งจะแตกต่างกันที่ตำแหน่งและฟังก์ชันในห้อง ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมกับทางโครงการได้เลยค่ะ

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

Ideo Rama 9 – Asoke ราคา ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2565

  • Studio A พื้นที่ใช้สอยภายใน 25.50 – 26.50 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท
  • Studio A – Hybrid พื้นที่ใช้สอยภายใน 25.50 – 26.50 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 5.89 ล้านบาท
  • 1 Bedroom B พื้นที่ใช้สอยภายใน 31.00 – 38.50 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท
  • 1 Bedroom B – Hybrid พื้นที่ใช้สอยภายใน 31.00 – 38.50 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 7.69 ล้านบาท
  • 2 Bedroom C พื้นที่ใช้สอยภายใน 52.00 – 90.50 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท
  • 2 Bedroom C – Hybrid พื้นที่ใช้สอยภายใน 52.00 – 90.50 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 19.99 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • หน้าบานเฟอร์นิเจอร์ Built – in กรุด้วย HPL High Gross และ Laminate
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร ในแบบห้องปกติ และ  4.5 เมตร ในแบบห้อง Hybrid
  • วัสดุปูพื้น ลามิเนต ความหนา 12 มิลลิเมตร
  • สุขภัณฑ์แบบครบชุด ยี่ห้อ American Standard
  • Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ TEKA
  • จอง 10,000 – 50,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

Ideo Rama 9 – Asoke (ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก) จัดอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างดี ใกล้แยกพระราม 9 ซึ่งเป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ที่หลากหลายเอาไว้ จัดเป็นอีกแหล่ง CBD ของกรุงเทพฯ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งพนักงานออฟฟิศที่ใช้ชีวิตในช่วงกลางวัน และผู้ที่อาศัยอยู่ในย่าน ซึ่งก็มีรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป สำหรับการเดินทางจัดว่าสะดวกสบายมาก เนื่องจากทำเลอยู่บนถนนเส้นหลักเข้า – เมืองได้อย่างสะดวก และมีขนส่งสาธารณะที่อยู่ใกล้ในระยะที่เดินได้สบายๆค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

จะใช้ถนนพระราม 9 เป็นหลัก ซึ่งเป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อไปสู่เส้นทางที่เข้า – ออกเมืองได้หลากหลาย ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนอย่างทางพิเศษศรีรัช เหมาะสำหรับคนที่ทำงานอยู่ในโซนตัวเมืองชั้นใน ทั้งอโศก สุขุมวิท เอกมัย แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจจะต้องเผื่อเวลาสักหน่อยนะคะ ที่จอดรถในโครงการมีประมาณ 528 คัน คิดเป็น 43% จัดอยู่ในระดับกลางๆค่ะ หรือใครที่ไม่ได้มีรถส่วนตัว ก็สามารถเรียกวินมอเตอร์ไซต์หรือรถแท็กซี่ได้ง่ายๆ เพราะโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่เลย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

โครงการ Ideo Rama 9 – Asoke อยู่ใกล้กับ MRT พระราม 9 จากหน้าโครงการสามารถเดินข้ามถนนไปได้ในระยะที่ค่อนข้างสบาย จาก MRT พระราม 9 นั่งไปเพียงสถานีเดียวก็ถึง Airport Rail Link มักกะสันแล้ว และอีก 2 สถานีก็ถึง MRT สุขุมวิท เป็นจุด Interchange ไป BTS อโศกได้ค่ะ

วัสดุ :

รูปแบบการขายเป็น Fully Fitted จะได้ Digital Door Lock เฟอร์นิเจอร์ Built in บางชิ้นเช่น ตู้รองเท้า ( ได้เฉพาะในห้อง 1 Bedroom ขึ้นไป ) เคาน์เตอร์ครัวท็อปหินสังเคราะห์  ได้ Sink , Hob&Hood ยี่ห้อ TEKA  ตู้เสื้อผ้าและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำแบบครบชุดพร้อมฉากกั้นอาบน้ำ วัสดุปูพื้นเป็นลามิเนต ความหนา 14  มม. ในราคาแพคเกจเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท ส่วนตัวมองว่าน้อยไปสักหน่อย ( ไม่ได้ฐานเตียง ) เมื่อเทียบกับโครงการละแวกเดียวกันที่ขายแบบ Fully Fitted สำหรับคนที่ไม่รีบเข้าอยู่ ก็มีโครงการที่เปิดขายในรูปแบบ Fully Furnished อีกด้วย

การออกแบบโครงการ :

การวางผังอาคาร แยกส่วนโถงลิฟต์ออกเป็น 2 จุด ช่วยกระจายความหนาแน่นได้ดี เนื่องจากโครงการมีจำนวนยูนิตค่อนข้างเยอะ พื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 36 เป็นชั้นบนสุดของอาคาร ซึ่งแยกจากชั้นพักอาศัยอย่างชัดเจน ได้ทั้งความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว การออกแบบจะเน้นพื้นที่ Semi Outdoor ส่วน Facilities ภายในเป็นห้องขนาดใหญ่ที่มีเพดานสูง สามารถรองรับลูกบ้านได้จำนวนมาก แต่ไม่อึดอัดค่ะ

การออกแบบห้องพักอาศัย :

ฟังก์ชันจัดได้เป็นสัดส่วนลงตัว เหมาะสมต่อการใช้งาน มีให้เลือกตั้งแต่ Studio ไปจนถึง 2 Bedroom มีห้องฝ้าเพดานสูง ทั้ง Studio Hybrid , 1 Bedroom Hybrid และ 2 Bedroom Hybrid สามารถเลือกได้ตามความชอบ Layout ของห้องจัดมาได้เหลือพื้นที่ค่อนข้างกว้าง เดินใช้งานได้ไม่ติดขัด

สาธารณูปโภค :

เน้นความสนุกสนานตามคอนเซปต์ Life Work Play จัดให้พื้นที่ส่วนกลางทุกจุดสามารถใช้งานได้ ทั้งเป็นส่วนเครื่องเล่น พื้นที่นั่งพักผ่อน และนั่งทำงาน ส่วนชั้น 36 เรียกว่าออกแบบมาได้ครบครัน ลูกบ้านเดินใช้งาน Facilites ได้อย่างสะดวก มีทั้งพื้นที่ Indoor และ Outdoor ขนาดใหญ่ เหมาะสมกับจำนวนยูนิตในโครงการ ส่วนตัวชอบสระว่ายน้ำที่ยาวถึง 40 เมตร สามารถ Take View มุมสูงได้ รอบๆยังจัดเป็นพื้นที่สีเขียวแทรกอยู่ตามทางเดินเอาไว้ ให้ความรู้สึกสดชื่นและร่มรื่นค่ะ


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 128,000 บาท/ตร.ม., 12 พฤศจิกายน 2565

  • ทำเล 8/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้แยกพระราม 9
  • เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – เชื่อมต่อถนนได้หลายสาย ใกล้ทางด่วน
  • ไม่ใช้รถ 8.0/10 – ใกล้ MRT พระราม 9 ในระยะเดินได้
  • วัสดุ 7.5/10 – ขายแบบ Fully Fitted วัสดุได้ตามมาตรฐาน เหมาะกับการใช้งาน
  • แบบ 7.75/10 – มีห้องแบบ Duo Space เพดานสูง
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 – จัดมาหลากหลาย ครบครันตามมาตรฐาน

  • UPPER CLASS
  • 7.91 / 10.00

Ideo Rama 9 – Asoke เหมาะกับใคร

โครงการ Ideo Rama 9 – Asoke เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดในย่านพระราม 9 เดินทางง่าย ใกล้ขนส่งสาธารณะ เป็นครอบครัวที่มีสมาชิก 3-4 คนก็ได้ อยากได้ห้องแบบเพดานสูง มีงบประมาณเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 23,609 – 119,246 บาท/เดือน


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc