รีวิวโครงการ
รีวิวตึกเสร็จ Niche MONO Mega Space Bangna คอนโด High Rise บนถนนบางนา – ตราด ใกล้ Mega บางนา จาก SENA [รีวิวฉบับที่ 2517]
13 มีนาคม 2023
สวัสดีค่ะ หลังจากที่เราเคยพาไปชมทำเลโครงการ Niche MONO Mega Space Bangna กันมาแล้ว วันนี้ขอพาไปชมห้องตัวอย่าง ซึ่งมีความน่าสนใจตรงที่มีการออกแบบภายใต้ Concept “Good Sleep” จัดให้ห้องนอนมีพื้นที่กว้างขวาง พร้อมเพิ่ม Detail เล็กๆน้อยๆให้เรานอนหลับสบายมากขึ้นเช่น ไฟ Dimmed Light , ติดตั้งกรอบม่านไม่ให้แสงรอดผ่านมารบกวนในการนอน เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการคำนึงถึงการใช้งานของสาวๆ หรือ “Made For Her” อีกด้วย ภายในห้องจะเป็นยังไงตามไปชมกันค่ะ
Fact @ 8 November 2018
- Niche MONO Mega Space Bangna (นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา)
- บริษัท เสนา เอชเอชพี4 จำกัด
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ อำเภอ : บางพลี จังหวัด : สมุทรปราการ
- คอนโด High Rise 40 ชั้น ห้องพักอาศัยจำนวน 795 ยูนิต และ ร้านค้า 2 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 24 ยูนิตที่ชั้น 10-40
- ที่จอดรถ n/a คัน คิดเป็น 70% (รวมซ้อนคัน)
- ที่ดินประมาณ 3-3-56.07 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : n/a
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q2 2021
- 1 Bedroom 30 ตร.ม. จำนวน 360 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus 34.90 ตร.ม. จำนวน 301 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.625 ล้านบาท
- 2 Bedroom 50 ตร.ม. จำนวน 134 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.75 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.70 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 83,000 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรเริ่มต้น 68,000 บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิ๊กที่นี่
- โทร : 1775
พิกัด : 13.660788, 100.660757
ทำเลของโครงการ Niche MONO Mega Space Bangna ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด (ฝั่งขาเข้า) ช่วงระหว่างถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกกับถนนศรีนครินทร์ ตัวโครงการจะติดกับถนนใหญ่อย่างถนนบางนา-ตราดเลย ทำเลตรงนี้เป็นทำเลที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รายล้อมไปด้วยศูนย์การค้าและแหล่งช้อปปิ้ง โรงพยาบาล สถานศึกษาต่างๆ อีกทั้งเป็นจุดที่เดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่ายและใกล้สนามบินหลักของประเทศอย่างสนามบินสุวรรณภูมิ
ก่อนพาไปดูห้องตัวอย่างขอเกริ่นรายละเอียดโครงการคร่าวๆก่อนนะคะ Niche MONO Mega Space Bangna เป็นโครงการ High Rise สูง 40 ชั้น ที่มาพร้อมกับที่จอดรถ 70 % และพื้นที่ส่วนกลางแบบ Triple Facilities มีออกแบบด้วยแนวคิด “Made For Her” ที่ใส่ใจการใช้ชีวิตของผู้หญิง ซึ่งแนวคิดนี้จะอยู่ในการออกแบบโครงการ+ห้องพักและระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ สำหรับห้องพักทางโครงการขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ครบชุด พร้อมฟังก์ชั่นพิเศษ เช่น ที่เก็บตะกร้าผ้า ตู้พักผ้า โต๊ะ Transformer ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ และมีจุดติดตั้ง TV ในห้องนอน ถือเป็นการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีการออกแบบโดยใช้ Concept “Good Sleep” เพิ่มเติมเข้ามาด้วย ช่วยให้เราพักผ่อนได้เต็มที่มากขึ้น รายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น เดี๋ยวจะพาไปชมพร้อมกับห้องตัวอย่างนะคะ ^^ ไปดูกันเลย
ห้องตัวอย่างของโครงการมีทั้งหมด 3 ห้อง วันนี้เราจะพาไปดูทั้งหมดเลย โดยห้องแรกที่เราจะพาไปชมคือ 1 Bedroom 30 ตร.ม. ห้องนี้มีการออกแบบฟังก์ชั่นแยกเป็นสัดส่วนดี เข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน กลับบ้านมาเหนื่อยๆก็ทิ้งตัวลงนั่งพักผ่อนได้ ฝั่งตรงข้ามกับโซฟาเป็นตู้เก็บร้องเท้าและชั้นวางทีวี ถัดไปเป็นโต๊ะทานข้าวแบบ 2 ที่นั่ง ในเวลาที่เราไม่ได้ใช้ทานข้าวก็สามารถปรับเป็นโต๊ะทำงานได้ ด้านในสุดเป็นห้องนอนกั้นเป็นสัดส่วน มีมุมที่ผนังยื่นออกไปสามารถวาง Daybed หรือ โต๊ะทำงานได้ อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นห้องน้ำและห้องครัว ห้องน้ำวางอยู่ตำแหน่งนี้ ถ้าในกรณีที่มีแขกจะสามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแต่ถ้าเรานอนอยู่อยากเข้าห้องน้ำอาจจะต้องเดินไกลหน่อย ออกจากห้องน้ำมาจะเจอกับโถงเล็กๆที่ทางโครงการวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้พักผ้าเอาไว้ให้สำหรับเอาเสื้อผ้าที่ใส่บ่อยๆมาแขวนเตรียมไว้ค่ะ ถัดมาจะเจอกับครัวซึ่งวางผังให้เป็นครัวปิดกั้นเป็นสัดส่วนอยู่เชื่อมต่อกับระเบียง สามารถทำอาหารได้เต็มที่ค่ะ ดังนั้นห้องนี้จึงเหมาะการอยู่อาศัยไม่เกิน 1-2 คนและเหมาะกับคนที่ชอบห้องที่กั้นพื้นที่เป็นสัดส่วนค่ะ
ประตูทางเข้าห้องได้ตามนี้เลยพร้อม Digital Door Lock รุ่นที่เงียบไร้เสียงรบกวนเวลาที่เราเปิด-ปิดประตู ตาม Concept “Good Sleep” นั่นเอง
เข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่วางโต๊ะทานข้าวแบบเข้ามุมได้ด้วย ถัดไปเป็นห้องนอน ส่วนอีกฝั่งเป็นห้องน้ำ ครัวและระเบียง ถึงแม้ว่าจะเป็นห้องแนวลึกแต่เนื่องจากประตูกั้นเป็นประตูจึงทำให้แสงเข้ามาด้านในห้องน้ำ มีการเจาะช่องตรงห้องนอนเพิ่มด้วยเพื่อความโปร่ง โล่งที่มากขึ้น
หน้าห้องก็จะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นเลย ระยะดูทีวีประมาณ 2.25 เมตร มุมนี้เฟอร์นิเจอร์เราได้แบบนี้เลย ยกเว้นโต๊ะกลางค่ะ ส่วนพื้นจะเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าเพดานสูง 2.70 เมตร และสวิตช์ไฟหน้าห้องจะเป็น Master Switch ที่สามารถปิดไฟได้ทุกดวงในห้อง
บริเวณหน้าห้องเข้ามาปุ๊ป เจอตู้รองเท้าปั๊ปเลยค่ะ ตรงนี้ดีนะเพราะเข้าห้องมาก็ถอดรองเท้าเอามาเก็บได้เลย ทำให้ไม่ต้องใส่รองเท้าเดินเข้าห้องให้เลอะเทอะอีกทั้งยังช่วยให้ห้องเป็นระเบียบมากขึ้นด้วย ตู้นี้นอกจากชั้นวางรองเท้าแล้วยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆเช่นช่องเก็บเครื่องดูดฝุ่น ไม้กวาด ด้านบนเป็นชั้นเก็บของค่ะ
โซฟาตัวนี้ได้แบบนี้เลย เค้าดีไซน์มาให้มีที่วางแขนแค่ด้านเดียวเพราะเราจะได้นอนเหยียดขาได้สบายๆ ไม่มีอะไรมากั้น
ที่วางแขนดูผิวเผินไม่มีอะไร แต่จริงๆมีฟังก์ชั่นเปิดออกมาเก็บของได้ค่ะ เอาไว้ใส่หนังสือได้ ตอนนั่งเล่นนอนเล่นเราก็เอาขึ้นมาอ่านได้เพลินๆ
ตู้วางทีวีได้ตามนี้ค่ะ มีทั้งชั้นวางของและตู้ที่เปิดออกมาเก็บของได้
ชุดโต๊ะทานข้าวทางโครงการให้มาด้วยค่ะ จัดได้ 2 ที่นั่งแบบวางแบบเข้ามุม
ถัดไปเป็นห้องนอนกั้นเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก กรอบบานอลูมิเนียม ทำให้ห้องโปร่งโล่ง แสงส่องเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นได้ ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแนะนำให้หาม่านมาปิดเพิ่มเติมได้
ห้องนอนวางเตียงได้แบบ King Size เลยและยังมีพื้นที่รอบเตียงให้เดินผ่านได้สบายๆอีกด้วย
ตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการให้ ด้านในมีฟังก์ชั่นครบทั้งราวแขวนชุดสั้น-ชุดยาว ชั้นวางของ และลิ้นชักเก็บของเล็กๆน้อยๆ ด้านบนมีพื้นที่เอาไว้เก็บของชิ้นใหญ่หรือของที่ไม่ค่อยได้ใช้ได้
เตียง King Size ทีโครงการให้มา ด้านล่างมีลิ้นชักสามารถเปิดออกมาเก็บของได้
หัวเตียงมีการออกแบบให้มีการ Slope ลงเล็กน้อยเพื่อทำให้เราเอนหลังได้สบายมากขึ้น สังเกตที่มุมด้านบนหัวเตียงจะมีสวิตช์ที่สามารถปรับความสว่างของแสงไฟมาให้ด้วย (Dimmed Light)
ทางฝั่งขวามีพื้นที่ยื่นออกไปสามารถหาโต๊ะหรือDaybed มาวางเพิ่มเติมได้ จะได้มองวิวไปด้วย ส่วนทางฝั่งซ้ายของเตียงติดกับตู้เสื้อผ้าค่ะ
สำหรับห้องนี้เราได้หน้าต่างแบบเข้ามุม (Bay Window) ด้วย ทำให้เห็นวิวได้กว้างขึ้น รับแสงธรรมชาติได้มากขึ้น ทุกบานจะเป็นแบบ FIX ยกเว้นบานทางซ้ายสุดจะเป็นบานกระทุ้ง และสังเกตทางฝั่งซ้ายจะมีผนังยื่นออกมานิดนึง นั่นคือกรอบที่ทำขึ้นมาลดแสงเล็ดลอดจากม่าน ทำให้เราหลับได้สบายมากขึ้น
หน้าต่างแบบเข้ามุม (Bay Window) ช่วยเปิดให้เห็นมุมมองได้กว้างขึ้น
อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นห้องน้ำ ครัวและระเบียงค่ะ จากมุมนี้จะเห็นว่าห้องนอนมีการเจาะช่องแสงอีกจุดหนึ่งด้วย ทำให้ห้องมีความโปร่งมากขึ้น
ระหว่างห้องน้ำและครัวจะมีโถงเล็กๆวางโต๊ะ Transformer และตู้พักผ้ามาให้ ตู้นี้เป็นตู้เสื้อผ้าที่เอาไว้สำหรับเอาชุดที่ใส่บ่อยๆ หรือชุดที่เตรียมจะใส่ในวันพรุ่งนี้มาแขวนเตรียมไว้ ส่วนด้านล่างเปิดออกมาเป็นตะกร้าเอาไว้เก็บผ้าที่ใช้แล้วค่ะ ออกมาจากห้องน้ำก็เอามาวางได้เลยสะดวกดี
ส่วนโต๊ะ Transformer ก็คือโต๊ะที่ปรับเปลี่ยนได้นั่นเอง ใช้ได้ทั้งโต๊ะทำงาน พอเปิดกระจกออกมาเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ และยังมีช่องเก็บของซ่อนอยู่อีกด้วย
เรามาดูห้องน้ำกันก่อนต่อ ตำแหน่งห้องน้ำของห้องนี้อยู่นอกห้องนอน ดังนั้นถ้าเพื่อนๆมาก็สามารถใช้งานได้สะดวกค่ะ
ห้องน้ำแบ่งออกเป็นสัดส่วนทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก กั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกฝ้ามาให้ พื้นและผนังทั้งหมดจะกรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler ส่วนฝักบัวและก็อกเป็นของ Englefield
ติดๆกับห้องน้ำเป็นครัวซึ่งเชื่อมต่อกับระเบียง เวลาทำอาหารเราสามารถเปิดประตูระบายอากาศได้ พื้นบริเวณนี้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้เหมาะกับการใช้งานในครัวเพราะเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
เคาน์เตอร์ครัววัสดุเป็นโครงไม้ปิดผิวด้วยเมลามีน Topเป็นหินสังเคราะห์สีดำ ด้านล่างเป็นตู้เก็บของและมีช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟด้วย
อ่างล้างจานแบบหลุมเดียวของ Franke มาพร้อมกับถาดไม้ด้านบนที่ใช้เป็นที่วางของและเขียงได้ ถ้าไม่ใช้เราก็ยกออก
เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวของ Franke
เครื่องดูดควันได้ของ Franke เช่นเดียวกัน เป็นแบบหมุนเวียนอากาศ
ตู้ด้านบนเป็นชั้นเอาไว้เก็บของได้และมีการออกแบบด้วย Concept “Made For Her” ที่ทำถาดพักจานเพื่อให้ผู้หญิงใช้งานได้สะดวกขึ้น
ระเบียงจะมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าและCondensing Unit ของแอร์แยกเป็นสัดส่วน
พื้นที่ระเบียงขนาด 2.20 x 0.80 เมตร พอแบ่งพื้นที่ซักล้างไปแล้วก็ยังมีพื้นที่ให้ออกไปยืนสูดอากาศหรือใช้งานอื่นๆค่ะ พื้นจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคเหมาะกับการใช้งาน
Condensing Unit ติดตั้งอยู่ด้านบนหันเป่าลมร้อนออกด้านนอก ซึ่งการติดตั้งตำแหน่งนี้มีข้อดีตรงที่จะไม่ไปกินพื้นที่ของระเบียง ทำให้เราใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ อีกทั้งยังไม่บดบังวิวเวลาที่เรามองออกมาที่ระเบียงอีกด้วย
ถัดมาเป็น 1 Bedroom Plus 34.90 ตร.ม. เป็นห้องที่มีห้องอเนกประสงค์อยู่ด้วย เข้ามาในห้องจะเจอกับครัวที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนแยกส่วนออกจากห้องอื่นๆ เป็นครัวปิดอีกเช่นเดียวกันแต่ตำแหน่งอยู่หน้าห้องแทน การวางผังในลักษณะนี้ดีตรงที่เวลาซื้อของมาเตรียมทำกับข้าวก็เอามาเก็บเข้าตู้เย็นได้สะดวก ตำแหน่งของโต๊ะทานข้าวถูกจัดวางอยู่ใกล้ๆกับครัว ทำให้ยกอาหารออกมาทานได้สะดวกค่ะ ตู้รองเท้าจะเขยิบเข้ามาด้านในห้องนั่งเล่นแทน ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นที่วางโซฟาได้แบบ L-Shape สามารถนอนเล่นได้เหมาะกับ Concept “Good Sleep” ติดๆกันจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ห้องนี้สามารถเป็นได้ทั้งห้องทำงานหรือห้องนอนอีกห้อง โดยทางโครงการให้เฟอร์นิเจอร์เป็นเตียงแบบ Daybed มาให้จะได้นอนเล่นดูวิวได้ ส่วนห้องนอนนั้นอยู่ด้านหลังโซฟากั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้ห้องดูโปร่ง เราอยู่บนเตียงก็นอนดูทีวีจากห้องนั่งเล่นได้และมีพื้นที่รอบเตียงให้เดินได้รอบ ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวค่อยหาม่านมาปิดเอา ระเบียงจะอยู่ในห้องนอนค่ะ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งวางอยู่หน้าห้องน้ำที่มีการวางผังกั้นแยกเป็นสัดส่วน แยกทั้งพื้นที่อาบน้ำและโถสุขภัณฑ์เลย ผังแบบนี้สามารถรองรับการใช้งานพร้อมกันได้หลายคน คนนึงอาบน้ำอยู่อีกคนก็มาแปรงฟันได้ ด้วยการออกแบบพื้นที่ใช้สอยห้องนี้จึงสามารถรองรับคนที่ต้องการอยู่กัน 2 คนและอยากได้พื้นที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น หรือ คนที่มักจะมีเพื่อนๆมานอนค้างและต้องการพื้นที่ที่เป็นส่วนตัว สำหรับคนที่อยู่คนเดียวก็จะได้พื้นที่ใช้สอยมากขั้น มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาเอาไว้จัดตาม Lifestyle ของเราค่ะ
ห้องนี้เข้ามาเราจะเจอกับครัวปิดก่อนค่ะ เคาน์เตอร์ครัวจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งฝั่งขวาจะเป็นส่วนประกอบอาหาร+ล้างจาน ส่วนฝั่งซ้ายจะเน้นเตรียมอาหาร+เก็บของมากกว่า พื้นบริเวณนี้ปูด้วยกระเบื้องนะคะ ไม่ต้องกังวลเรื่องการซักล้างทำความสะอาด อีกทั้งยังเป็นครัวปิดเราสามารถทำอาหารได้เต็มที่ ประตูบานเลื่อนที่กั้นระหว่างครัวกับห้องอื่นๆเป็นบานกระจกทำให้แสงสว่างส่องเข้ามาถึงในห้องครัวได้ค่ะ
เคาน์เตอร์ทางฝั่งซ้ายเป็นตู้เก็บของและพื้นที่วางตู้เย็นค่ะ สามารถใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารได้ ส่วนทางฝั่งขวาจะเป็นพื้นที่สำหรับล้างจาน ล้างผักและประกอบอาหาร
ทางโครงการให้มาครบแบบนี้ทั้งชุดเลย ยกเว้นของตกแต่ง มีผนังกระจกกันเปื้อนด้านหลังมาให้ด้วย อ่างล้างจาน+เตาไฟฟ้า+เครื่องดูดควันทั้งหมดของ Franke เหมือนกันกับห้องก่อนหน้า
ถัดจากครัวจะเป็นห้องนั่งเล่นที่มีโต๊ะอาหารรวมอยู่ด้วย ด้านในสุดเป็นห้องอเนกประสงค์ ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นห้องนอน ทุกห้องแยกส่วนออกจากกันเป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน นอกจากจะได้ความเป็นส่วนตัวแล้วยังได้ความโปร่ง โล่งด้วยค่ะ
มุมที่ติดกับห้องครัวจะเป็นโต๊ะทานข้าวแบบ 2 ที่นั่งและตู้รองเท้า
ตู้รองเท้าห้องนี้อยู่ถัดเข้ามาด้านในหน่อยคือต้องเดินผ่านห้องครัวมาก่อน ในตู้มีฟังก์ชั่นครบเช่นเดิมทั้งชั้นวางรองเท้า ตู้เก็บเสื้อผ้า ตู้เก็บเครื่องดูดฝุ่นและอุปกรณ์ทำความสะอาด
ห้องนั่งเล่นมีระยะดูทีวีประมาณ 2.23 เมตร ซึ่งพอๆกับห้อง 1 Bedroom แต่ได้พื้นที่ที่มากกว่าสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ขึ้นเป็น L-Shape ได้ ถัดไปด้านหลังคือห้องอเนกประสงค์ค่ะ
โซฟาได้แบบนี้เลยเป็น L-Shape สามารถนอนเล่นได้ และใช้เป็นที่นอนสำรองได้ด้วย ในกรณีที่มีเพื่อนมาค้าง
ในห้องอเนกประสงค์ทางโครงการให้ Daybed มาแบบนี้เลยค่ะ พอวางชิดผนังก็จะสามารถนอนชมวิวได้
ส่วนห้องนอนและห้องน้ำนั้นจะอยู่ด้านหลังชุดโซฟากั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเช่นเดียวกัน
พอเรานอนอยู่จะสามารถมองเยื้องๆไปเห็นทีวีได้เนื่องจากประตูที่กั้นเป็นบานกระจก สำหรับห้องนี้ระเบียงจะอยู่ในห้องนอนค่ะ สามารถมองวิวออกไปได้โล่งเพราะวาง Condensing Unit ของแอร์ไว้ด้านบนเช่นเดียวกัน
อีกฝั่งของห้องเป็นห้องน้ำที่มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งอยู่หน้าห้อง อาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาแต่งตัวได้สะดวก
ห้องน้ำในห้องนี้มีการวางผังแยกการใช้งานให้เป็นสัดส่วนทั้ง โถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า และ พื้นที่อาบน้ำ ทำให้สามารถใช้งานพร้อมกันหลายคนได้
ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำที่กั้นเป็นสัดส่วนด้วยฉากกั้นกระจกนิรภัยค่ะ ด้านในห้องกรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้
พื้นที่อาบน้ำห้องนี้ประมาณ 90 x 100 ซม. มีธรณียกสูงขึ้นมาแยกส่วนแห้งส่วนเปียก รวมถึงมีทำที่นั่งมาให้ด้วย เราสามารถนั่งอาบน้ำได้หรือไม่ก็เอาไว้วางสบู่ แชมพูค่ะ
ห้องสุดท้ายคือ 2 Bedroom 50 ตร.ม. ห้องนี้จะเหมาะกับครอบครัวใหญ่ขึ้นมาหน่อย มีวางผังแบบตรงกลางเป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวคือห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำรวม ครัวห้องนี้เป็นครัวปิดอยู่บริเวณหน้าห้อง มีขนาดใหญ่ขึ้นมาวางเคาน์เตอร์ได้แบบตัวแอล ห้องนั่งเล่นวางโซฟาได้แบบ L-Shape เชื่อมต่อกับระเบียง ส่วนโต๊ะทานข้าวห้องนี้จะปรับมาเป็น 4 ที่นั่ง ห้องนอนจะแยกอยู่ฝั่งซ้ายและขวากั้นห้องเป็นสัดส่วน ทั้งห้องนอนเล็กและห้องนอนใหญ่จะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน โดยห้องน้ำจะมีการวางผังกั้นพื้นที่อาบน้ำและโถสุขภัณฑ์แยกส่วนออกจากกันเช่นเดียวกับห้อง 1 Bedroom Plus ซึ่งผังแบบนี้สามารถรองรับการใช้งานได้พร้อมๆกันหลายคน ในห้องนอนใหญ่จะได้หน้าต่างแบบเข้ามุม (Bay Window) และมีห้อง Walk-in Closet มาให้ด้วย
ห้องนี้ครัวปิดอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ส่วนทางฝั่งขวาเป็นเครื่องซักผ้าและตู้เก็บผ้าซึ่งถือว่าเป็นการเอาส่วน Service ไว้หน้าห้อง ด้านในจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและนอนพักผ่อน ซึ่งการวางผังแบบนี้ทำให้มีความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น เพราะเวลาคนเข้ามาในห้องจะไม่เห็นเราโดยตรง
หน้าห้องเป็นครัวและส่วนซักรีดค่ะ โดย Master Switch ที่ควบคุมการเปิด-ปิดไฟของทั้งห้องก็จะอยู่บริเวณนี้
พื้นที่ตรงนี้มุมซักรีด มีช่องให้ใส่เครื่องซักผ้าและชั้นวางน้ำยา ราวแขวนผ้า ส่วนด้านข้างเป็นตู้รองเท้า
อีกฝั่งหนึ่งของตู้จะเป็นพื้นที่เก็บเครื่องดูดฝุ่นและอุปกรณ์ทำความสะอาด ด้านล่างที่แง้มออกมาคือตู้เก็บผ้าที่ใช้แล้วเตรียมเอาไปซัก การออกแบบต่างๆนี้ถือว่ารองรับการใช้งานของสาวๆได้ดี เราแทบไม่ต้องทำเพิ่มเลยค่ะ
มาดูครัวกัน ห้องนี้เป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน มองเข้าไปด้านในเห็นครัวจะได้เห็นว่าข้าวใกล้เสร็จรึยัง ^^ ส่วนคนที่ทำครัวอยู่ด้านในก็ปิดประตูกั้นกลิ่นที่จะลอยออกไปปนกับส่วนอื่นๆของห้องได้ค่ะ
ครัวของห้องนี้ใหญ่พอสมควร วางเคาน์เตอร์แบบเป็น L-Shape ได้แบ่งพื้นที่ได้เป็นส่วนเตรียมอาหารและประกอบอาหาร
เคาน์เตอร์ด้านในห้องเป็นส่วนประกอบอาหารค่ะ ทั้งวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆได้เหมือนกับห้องก่อนหน้า
ส่วนมุมนี้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารเค้าทำให้ความสูงต่ำลงกว่าเคาน์เตอร์อีกฝั่งประมาณ 10 ซม.ซึ่งจะเป็นระยะที่เท่ากับโต๊ะทานข้าวพอดี เราสามารถนั่งทานข้าวตรงนี้ได้เลยหรือจะเอาเก้าอี้มานั่งเวลาเตรียมอาหารอยู่ก็ได้ค่ะ
ถัดมาเป็นพื้นที่ทานข้าวและนั่งเล่น ต่อเนื่องกับทางออกไปที่ระเบียง เป็นพื้นที่ที่ทุกคนในบ้านมาใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน
พื้นที่นั่งเล่นวางโซฟาได้แบบ L-Shape สามารถนั่งเล่น นอนเล่นพร้อมกับชมวิวที่ระเบียงได้
พื้นที่ระเบียงของห้องนี้ก็มีการแยกส่วนของ Condensing Unit ซึ่งจะอยู่ด้านข้างฝั่งที่มีผนึงทึบและด้านบน ไม่บดบังวิว และเนื่องจากมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าอยู่หน้าห้องแล้ว เราจึงใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มๆเลยค่ะ
ห้องนอนจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งของตัวห้อง เดี๋ยวเราไปดูห้องนอนเล็กกันก่อน ซึ่งจะอยู่ติดกับห้องครัว
ห้องนี้เข้ามาเจะเจอกับตู้เสื้อผ้าก่อนค่ะ ถัดมาจะเป็นเตียงแบบ Queen Size มีช่องแสงจากหน้าต่างให้ชมวิวได้
ฝั่งหน้าห้องจะเป็นตู้เสื้อผ้าและผนังที่สามารถแขวนอะไรได้อีกเล็กน้อย ถ้าใครอยากวางโต๊ะเพิ่มและไม่ได้เน้นขนาดของเตียงมากนักก็สามารถปรับเตียงเป็นแบบ 3.5 ฟุตได้
ส่วนห้องนอนใหญ่จะอยู่อีกฝั่งหนึ่งตรงข้ามกับห้องน้ำ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม ไม่ได้อยู่ในห้องนอนใหญ่ค่ะ
บรรยากาศภายในห้องนอนใหญ่จะค่อนข้างโปร่ง ด้วยขนาดห้องที่ใหญ่กว่าห้องนอนเล็กและมีหน้าต่างแบบเข้ามุม
ห้องนี้วางเตียงได้แบบ King Size นะคะ เตียงเป็นแบบที่หัวเตียงมี Slope เพื่อให้เอนหลังได้สบาย มีกรอบม่านและไฟแบบปรับแสงได้เช่นเดียวกับห้องก่อนหน้าให้เราหลับสบายมากขึ้น
หน้าต่างห้องนี้ได้แบบเข้ามุม (Bay Window) เวลาเรามองออกไปจะเห็นมุมมองที่กว้างมากขึ้น ทั้งหมดจะเป็นบาน FIX มีช่องทางด้านซ้ายสุดเปิดได้แบบบานกระทุ้งค่ะ
อีกฝั่งของห้องจะมี Walk-in Closet มาให้ด้วยสาวๆน่าจะชอบกัน เพราะเก็บเสื้อผ้าได้เยอะและเป็นสัดส่วน หน้าห้องเป็นตำแหน่งของโต๊ะเครื่องแป้ง และอีกจุดหนึ่งที่ถือว่าดีคือตำแหน่งแอร์ที่วางให้ลมเย็นไม่โดนหน้าของเราเวลานอนค่ะ
พื้นที่ภายใน Walk-in Closet จัดฟังก์ชั่นครบทั้งราวแขวนผ้า ลิ้นชัก และชั้นวางของ ชั้นด้านบนเอาไว้เก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้เช่นกระเป๋าได้ เราหากล่องเอาของมาใส่แยกประเภทไว้ ทำให้ดูเป็นระเบียบและกันฝุ่นได้ด้วยค่ะ
นอกจากราวแขวนผ้าแล้วยังมีลิ้นชักและชั้นเอาไว้เก็บของต่างๆ แยกตามประเภทอีกด้วย
สำหรับห้องน้ำในห้องนี้ถึงแม้ว่าจะต้องใช้รวมกันก็ตาม แต่มีการออกแบบวางผังให้ใช้งานพร้อมกันได้หลายคนด้วยการกั้นห้องค่ะ
พื้นที่อาบน้ำของห้องนี้ขนาด 1.10 x 1.38 เมตร สามารถอาบน้ำได้สบายๆ และมีเก้าอี้มาด้วยสามารถนั่งอาบได้ค่ะ
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )