รีวิวฉบับที่ 2517 กับ Niche MONO Mega Space Bangna คอนโด High Rise 40 ชั้น ติดถนนบางนา – ตราด ได้ห้อง 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้นถึง 30 ตร.ม. ในราคา 2.29 ล้านบาท* มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบ เข้าอยู่ได้เลย โดยโครงการจัดว่าอยู่ในย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ใกล้ห้างสรรพสินค้าที่เป็นแลนด์มาร์คของย่านอย่าง Mega บางนา เพียง 3.5 กิโลเมตร ส่วน Highlights อื่นๆที่น่าสนใจ จะมีอะไรอีกบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ

  • ทำเล : โครงการอยู่ติดถนนบางนา – ตราด (ฝั่งขาเข้า) ซึ่งจุดเด่นในย่านนี้คือเป็นทำเลที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จัดเป็น New Central Business District ที่ขยับขยายมาจากตัวเมือง ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์สูง รอบๆมีทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถานศึกษาชื่อดัง สามารถเดินทางเข้า – ออกเมืองได้อย่างสะดวก เพราะใกล้ทางด่วนถึง 3 สาย
  • พื้นที่ใช้สอย : รูปแบบห้องภายในโครงการมีให้เลือกถึง 3 แบบด้วยกัน ตั้งแต่ 1 Bedroom , 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 30.00 – 50.00 ตร.ม. ซึ่งก็ถือว่าได้พื้นที่มาค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับโครงการบนทำเลเดียวกัน หากใครชอบคอนโด High Rise ได้ฟังก์ชันใหญ่ เฟอร์ครบ ในราคาไม่เกิน 3 ล้าน โครงการนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยค่ะ
  • การออกแบบ : เน้นฟังก์ชันที่คำนึงถึงผู้พักอาศัย เพื่อให้ Product สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้สูงสุด ภายใต้แนวคิด Geo Fit+ ยกตัวอย่าง การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ที่เก็บของได้เยอะ เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เป็นต้น

ข้อมูลโครงการ

Niche MONO Mega Space Bangna (นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา) ณ วันที่ 13 มีนาคม 2566

 ชื่อโครงการ Niche MONO Mega Space Bangna (นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา)
 ชื่อผู้ประกอบการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนบางนา – ตราด อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
 ที่ดิน  3-3-46.6 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 40 ชั้น ห้องพักอาศัย 795 ยูนิต และอาคารจอดรถ 8 ชั้น
 จำนวนยูนิต  795 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   24 ยูนิต
 ที่จอดรถ  559 คัน คิดเป็น 70% (รวมจอดซ้อนคัน)
 เริ่มก่อสร้าง  n/a
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  สร้างเสร็จพร้อมอยู่
 ประเภทห้องพัก
  • ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 30.00 ตร.ม.
  • ห้อง 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 34.90 ตร.ม.
  • ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 50.00 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  2.70 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  2.29 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 89,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่
 Call Center  1775#65

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.657952 , 100.659908
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการแสดงที่ตั้งของ Niche MONO Mega Space Bangna ซึ่งตั้งอยู่ติดถนนบางนา – ตราด (ฝั่งขาเข้าเมือง) ทำให้ได้จุดเด่นในเรื่องการเดินทางที่สะดวกสบาย เหมาะสำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลัก อยู่ใกล้กับทางด่วนถึง 3 สาย เข้า – ออกเมืองง่าย คือทางพิเศษบูรพาวิถี วงแหวนกาญจนาภิเษก และทางพิเศษเฉลิมมหานคร โดยถนนบางนา –  ตราดถือเป็นถนนเส้นหลักที่วิ่งไปตัดกับถนนได้หลายสาย ทั้งถนนตำหรุ – บางพลี ถนนกิ่งแก้วเชื่อมต่อลาดกระบัง ถนนศรีนครินทร์เชื่อมต่อไปเทพารักษ์วิ่งเข้าสุขุมวิทถึงอโศกได้เลย

สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ เนื่องจากหน้าโครงการเป็นถนนใหญ่ จึงมีรถสาธารณะให้เลือกใช้บริการได้อย่างหลากหลาย รวมถึงวินมอเตอร์ไซต์ที่จะตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าเลยค่ะ ซึ่งหากใครไม่อยากเดินผ่านถนนภาระจำยอมด้านหน้า ทางโครงการก็มีรถตู้ไฟฟ้าคอยให้บริการนะคะ โดยจะมีรอบรับ – ส่งไปทั้งด้านหน้าโครงการ BTS บางนา , Central บางนา และ Mega บางนา เลย

โดยในอนาคตยังมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว วิ่งผ่านช่วงบางนา – สุวรรณภูมิ สถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นบางนา กม.6 ซึ่งตัวสถานีจะอยู่หน้าโครงการพอดีเลย จัดว่ามาช่วยเพิ่มความคึกคักให้กับย่านนี้ได้อีกมากทีเดียว ส่วนในปัจจุบันก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและ Airport Rail Link ให้เลือกใช้บริการ เหมาะกับคนที่อยากอยากหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรในเวลาที่ต้องการเข้าเมือง

โซนบางนา บนถนนบางนา-ตราดดียังไง?

สำหรับบางนาเป็นอีกพื้นที่รองรับการขยายตัวของเมือง ที่เริ่มมีความเจริญต่างๆทั้งแหล่งงาน ห้างสรรพสินค้า Mega project ต่างๆ และที่อยู่อาศัยก็เริ่มขยายตัวมายังชานเมืองกันมากขึ้น โดยต้องบอกว่าถนนบางนา-ตราดเป็นถนนใหญ่ ซึ่งด้านบนมีทางพิเศษบูรพาวิถี ที่พาคนกรุงเทพเชื่อมต่อกับภาคตะวันออก อย่างสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี เป็นต้น ซึ่งโซนนี้มีความน่าสนใจ ได้แก่

  • สะดวกเรื่องการเดินทาง
    พื้นที่โซนกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก เป็นอีกโซนที่มีการพัฒนาเรื่องระบบขนส่งเยอะทีเดียวนะคะ ทั้งความหลากหลายของรถไฟฟ้าสายต่างๆ อีกทั้งการพัฒนาทางด้านการสร้างถนนหนทางเพื่อเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯและจังหวัดอื่นๆทางภาคตะวันออกของไทย
  • การเจริญเติบโตของแหล่งงาน
    ทำเลบางนาเป็นอีกหนึ่งโซนที่กำลังมาแรงของอาคารสำนักงาน เนื่องจากเป็นประตูภาคตะวันออก ที่มีนิคมอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก เช่น นิคมบางปู นิคมบางพลี นิคมเวลโกรว์ นิคมอมตะนคร เป็นต้น การทำอาคารสำนักงานบริเวณนี้ ทำให้เดินทางได้สะดวกมากขึ้น
  • การรวมตัวของ Mega Project
    อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ โซนบางนาเป็นอีกโซนที่มี Mega Project เกิดขึ้นเยอะ เนื่องจากที่ห้าง Mega Bangna ทำแล้วประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม อีกทั้งยังเป็นทำเลใกล้สนามบินสุวรรณภูมิที่มีชาวต่างชาติในย่านเป็นจำนวนมาก ทำให้มีหลายๆโปรเจกต์ผุดขึ้นในอย่างนี้หลายตัว

ความอุดมสมบูรณ์ในปัจจุบันหลักๆบนทำเลนี้ก็จะมีอยู่ทั้งเส้นบางนา-ตราด และศรีนครินทร์ สำหรับถนนบางนา – ตราดก็จะมีคอมมูนิตี้กระจายตัวอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ต่างๆครบเกือบทุกแบรนด์ทั้ง IKEA , SB Furniture , Chic Republic , Index เป็นต้น ถือเป็นอีกโซนสำหรับคนรักการแต่งห้องพักอาศัย นอกจากนี้เราสังเกตว่าปั๊มน้ำมันบริเวณนี้ ภายในมีร้าน Fast Food เเบบ Drive Thru ซะเป็นส่วนใหญ่ จึงสะดวกในการใช้งานไม่ต้องเดินลงรถ ส่วนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่จะมีด้วยกัน 2 จุด จัดเป็นแลนด์มาร์คเลยก็คือ

  • เซ็นทรัลบางนา ห้างเก่าเเก่ อยู่คู่กับคนเเถวนี้มานาน ตรงนั้นจะมีทางเชื่อมต่อไปยังถนนศรีนครินทร์ได้อีกด้วย ทำให้บริเวณนั้นจะมีร้านรวงแบบ Stand Alone เเละ Community Mall อยู่ภายในซอย
  • Mega Bangna ห้างใหญ่ เเบรนด์ครบ จบในที่เดียว (แต่อาจจะเดินไม่ครบภายในวันเดียวนะคะ) ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ขยายพื้นที่การใช้งานให้มากขึ้น โดยตั้งอยู่บริเวณสี่แยกจุดตัดระหว่างบางนา-ตราด เเละทางด่วนกาญจนาฯ ซึ่งตรงข้ามกันก็จะมี Tesco Lotus อยู่ด้วย
    ส่วนถนนศรีนครินทร์ก็มีห้างใหญ่อย่างซีคอนแสควร์ ตลาดนัดรถไฟทางด้านหลัง พาราไดซ์ปาร์ค (ตลาดเสรี) หรือจะข้ามไปยังฝั่งลาซาลเเบริ่งก็มีทั้ง Makro , Big-C , Foodland , The JAS Urban เลือกเดินทางได้ตามความสะดวกเลยค่ะ นี่ไม่นับร้านอาหารภายในซอยบางนา ลาซาล แบริ่ง ที่เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงอยู่หลายๆร้าน

 

แผนพัฒนาระบบขนส่งในอนาคต

ปัจจุบันสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้กับโครงการเรามากที่สุดจะเป็น รถไฟฟ้าสายสีเขียว BTS สถานีบางนา ซึ่งนับว่าเป็นสายหลักของคนกรุงในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ สามารถใช้เดินทางไปยังในเมืองได้สะดวกรวดเร็ว เดินทางไปใจกลางเมืองก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรือเหลือบ่ากว่าเเรงอีกต่อไป

และอีกเส้นทางที่เพิ่งเปิดใช้งานไปก็คือ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง Monorail ลาดพร้าว-สำโรง โดยเส้นนี้จะเน้นการพาคนรอบนอกเข้าเมืองได้ง่าย โดยจะวางอยู่บนถนนศรีนครินทร์ และลาดพร้าวเป็นหลัก เป็นสายที่เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายหลัก เชื่อมทั้ง BTS MRT และ Airport Rail Link

สุดท้ายเป็นรถไฟฟ้า Light Rail บางนา-สุวรรณภูมิ บนถนนบางนา-ตราด ซึ่งลิงค์ระหว่างบางนากับสนามบินสุวรรณภูมิ คือจากเดิมการเดินทางไปสนามบินนั้น ถ้าเราไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็จะต้องเรียกรถเเท็กซี่ หรือใช้ Airport Rail Link เท่านั้น ซึ่งรถไฟฟ้าตรงนี้จะเอื้อประโยชน์ให้คนแถบสมุทรปราการตรงเข้าสนามบินได้เลย และเป็นการพาคนต่างชาติมาเที่ยวโซนนี้มากขึ้น

 

Mega Project บนถนนบางนา-ตราด

มาดูแผนการในอนาคตอื่นๆกันบ้างค่ะ บนทำเลนี้นับเป็นรอยต่อของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC – Eastern Economic Corridor) ที่มีการสร้างระบบสาธารณูโภคต่างๆเพื่อส่งเสริม รองรับการลงทุน และการพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยเริ่มต้นจาก 3 จังหวัดเเรกคือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ซึ่งทำให้พื้นที่ตรงนี้ที่เป็นรอยต่อระหว่างกรุงเทพไปสู่ภาคตะวันออกมีศักยภาพในเชิงเศรษฐกิจค่อนข้างสูง ทำให้ในแง่การลงทุนก็เริ่มมีการลงทุนยังพื้นที่เเถวนี้มากยิ่งขึ้น

อย่างโครงการที่น่าสนใจก็เช่น การสร้างสุวรรณภูมิเฟสใหม่ เพื่อรองรับและขยาย Capacity ในการใช้งานมากขึ้น ทั้งในเชิงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมอื่นๆ หรือจะเป็นโครงการของ The Mall อย่าง Bangkok Mall ที่เคยมีข่าวว่าตั้งใจจะทำศูนย์การค้าขนาดใหญ่บริเวณต้นถนนบางนา-ตราด และอีกโครงการของเครือ Central คือ Central Village เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่จะมี Outlet อยู่ภายในโครงการ ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิด้วย เอาใจนักเดินทางขาช้อปกันเต็มที่ ไปดูรายละเอียดกันค่ะ

  • Bitec Bangna เฟส 2 >> ขยายพื้นที่การจัดงาน รวมทั้งหมด 70,000 ตร.ม. ทำให้สามารถรองรับการจัดงานและกิจกรรมได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 6,000 ลบ.
  • Bangkok Mall >> โครงการมิกซ์ยูสในเครือของเดอะมอลล์กรุ๊ป ภายในมีศูนย์การแสดงสินค้า, ที่อยู่อาศัย, ออฟฟิศ, Hall แสดงคอนเสิร์ตแบบครบวงจร บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 20,000 ลบ.
  • Central Plaza บางนา >> ปรับโฉมใหม่ให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น โดยมีการคัดสรรแบรนด์แฟชั่นระดับ Hi-end มาไว้ในจุดเดียว เรียกได้ว่าเป็นการปรับโฉมเพื่อรองรับกลุ่มคนหลากหลายมากขึ้น ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 4,500 ลบ.
    Mega City >> เป็นเฟสใหม่ที่เปลี่ยน “เมกาบางนา” จากศูนย์การค้า ให้เป็นศูนย์รวมที่อยู่อาศัย, สำนักงาน, โรงเรียน และโรงแรม บนพื้นที่ 400 ไร่
  • The Forestias >> โครงการ Mixed Use จาก MQDC บริษัทในเครือกลุ่มซีพี ภายใต้คอนเซ็ปที่ต้องการผสมผสานเมืองเข้ากับผืนป่าบนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 398 ไร่ ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 125,000 ลบ.
  • Central Village >> คอมมูนิตี้มอลล์ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีทั้งแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และแบรนด์ไทย ทั้งหมด 235 ร้านค้า มุ่งเน้นให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งของภูมิภาคเอเชียตะวันออก
    Suvarnabhumi Airport เฟส 2 >> เพิ่มเติมพื้นที่อาคารผู้โดยสารเฟส 2 เพื่อรองรับการขยายตัวของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 6,000 ลบ.

สำหรับการเดินทางเข้าสู่โครงการจะใช้ถนนบางนา – ตราดเป็นหลัก โดยวันนี้เรามุ่งหน้ามาจากถนนบางนา – ตราดฝั่งขาออก เพื่อจะเข้าโครงการ จึงต้องใช้สะพานกลับรถ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโครงการเลยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

โครงการ Niche MONO Mega Space Bangna เป็นคอนโด High Rise บนถนนบางนา – ตราด จากหน้าทางเข้าต้องผ่านถนนภาระจำยอมเข้ามาประมาณ 350 เมตร ปัจจุบันสภาพแวดล้อมรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่า ที่พักอาศัยแนวราบ และอาคารพาณิชย์ มีตึกสูงอยู่บ้างแต่ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด ทำให้ไม่รบกวนสายตามากค่ะ โดยในอนาคตเรามองว่าด้วยศักยภาพของทำเล อาจทำให้มีโครงการใหม่เกิดขึ้นเพิ่มค่อนข้างเยอะ และอาจทำให้ย่านนี้มีความคึกคักมากขึ้นไปด้วย

  • ทิศเหนือ ติดกับ ซอยวัดคลองปลัดเปรียง
  • ทิศใต้ ติดกับ อาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินพัฒนาโครงการในอนาคต
  • ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย สูง 1 – 2 ชั้น

Image 1/4
บรรยากาศจากถนนบางนา - ตราด เป็นถนนใหญ่ถึง 8 เลน มีรถผ่านตลอดเวลา

บรรยากาศจากถนนบางนา - ตราด เป็นถนนใหญ่ถึง 8 เลน มีรถผ่านตลอดเวลา

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Mega Bangna ~ 3.4 กิโลเมตร
  • Chic Republic Bangna Store ~ 6.8 กิโลเมตร
  • Index Living Mall Bangna ~ 7.1 กิโลเมตร
  • Central Bangna ~ 8.4 กิโลเมตร
  • Paradise Park ~ 9.7 กิโลเมตร
  • Seacon Square ศรีนครินทร์ ~ 10.4 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ~ 1.2 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลศิครินทร์ ~ 10.3 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาล WIH ~ 10.4 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ~ 7.9 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • Concordian International School ~ 5.7 กิโลเมตร
  • ICS International School ~ 5.6 กิโลเมตร
  • Bangkok Patana School ~ 6.4 กิโลเมตร
  • RAS American School ~ 6.5 กิโลเมตร
  • Berkeley International School ~ 7.1 กิโลเมตร
  • St.Andrews International School ~ 8.2 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

โครงการ Niche MONO Mega Space Bangna เป็นคอนโด High Rise 40 ชั้น 1 อาคาร บนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ แบ่งเป็นส่วนพักอาศัย 795 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต จาก SENA โดยโครงการให้พื้นที่จอดรถถึง 70% ตอบโจทย์คนใช้งานย่านบางนาที่ใช้รถส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลัก โดยรูปแบบห้องมีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบหลักๆ รองรับผู้อยู่อาศัย 2 -3 คนขึ้นไปได้แบบสบายๆ

สำหรับแนวคิดการออกแบบ Geo Fit+ เกิดจากความร่วมมือในการพัฒนาโครงการระหว่าง บริษัท เสนา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ บริษัทอสังหาฯที่มีชื่อเสียง0kdประเทศญี่ปุ่น โดย Geo เป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมที่มีมาตรฐานสูง เน้นความสวยงาม สะดวก และปลอดภัย ด้วยการนำความเห็นและคำแนะนำของผู้อยู่อาศัยมาพัฒนา Product จนเกิดเป็น Geo Fit+ การออกแบบฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากที่สุด เช่น การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ Built in ภายในห้อง เป็นต้น ซึ่งเราจะพาไปชมกันในส่วนต่อไปค่ะ

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับโครงการ โดยเริ่มจาก Master Plan กันก่อน โดย โครงการ Niche MONO Mega Space Bangna เป็นคอนโดที่ตั้งอยู่ติดกับถนนบางนา – ตราด ซึ่งจัดเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง ทำให้รอบโครงการค่อนข้างมีความคึกคัก และรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จากถนนเส้นหลัก ส่วนทางเข้าอยู่ถัดเข้ามาประมาณ 350 เมตร โดยเป็นถนนภาระจำยอม ซึ่งในอนาคตที่บริเวณด้านหน้า จะเป็นส่วนต่อขยายสำหรับพื้นที่เฟส 2 ได้ ข้อดีก็คือช่วยลดความพลุกพล่าน และเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดีค่ะ

โดยพื้นที่ชั้น 1 จะเป็นส่วนของงานระบบ ห้องเก็บของ ห้องแม่บ้าน และส่วนจอดรถใต้อาคาร ส่วนทางเข้า และโถงอย่าง Lobby จะเริ่มที่ชั้น 2 ซึ่งจะมีระดับพื้นแตกต่างจากถนนด้านหน้าโครงการไม่มาก ทำให้แทบไม่เห็นความต่างของทั้ง 2 ชั้นเลย จากทางเข้าจะมีป้อมรปภ.อยู่คอยควบคุมการเข้า – ออก และมีส่วน Drop off อยู่ด้านหน้า สำหรับพื้นที่จอดรถจะแยกเป็นอาคารจอดความสูง 8 ชั้น ซึ่งรองรับได้ถึง 70% หรือ 559 คัน จัดว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับโครงการข้างเคียง

สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง จัดมาให้ถึง 26 ฟังก์ชัน ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 3 ชั้น โดยจะเริ่มที่ชั้น 2 ประกอบด้วย  Lobby , Vending & Washing Machine Area , Renting Storages , Co – Meeting Room , Green Park Co – Working Space เป็นต้น ซึ่งลูกบ้านลงมาใช้งานได้อย่างสะดวก ลิฟต์โดยสารในอาคารมีทั้งหมด 4 ตัว และลิฟต์ Service 1 ตัว คิดเป็นสัดส่วน 199 : 1 ในช่วงเวลาเร่งด่วน อาจจะต้องใช้เวลารอสักนิดนะคะ

จากถนนภาระจำยอมด้านหน้าโครงการ ระยะทางประมาณ 350 เมตร เป็นถนน 4 เลน ที่รถสามารถขับสวนกันได้อย่างสะดวก โดยด้านข้างยังมีต้นไม้คอยให้ความร่มรื่น

ส่วนทางเข้าอาคารจะมี Drop off อยู่ด้านหน้า ให้รถสามารถวนเพื่อส่งคนก่อนได้ สำหรับคนที่จะเข้าไปจอดด้านใน ก็ต้องผ่านป้อมรักษาความปลอดภัยก่อนค่ะ

Image 1/6
ส่วนบริเวณทางเข้า - ออกโครงการ

ส่วนบริเวณทางเข้า - ออกโครงการ

การเข้า – ออกโครงการควบคุมด้วยระบบ Bluetooth ระยะใกล้ คล้ายกับระบบ Easy Pass ที่ใช้บนทางด่วน จึงค่อนข้างสะดวกกับลูกบ้านทีเดียวค่ะ เมื่อเข้ามาด้านในจะเจอกับที่จอดรถใต้อาคาร ซึ่งมีช่องจอดสำหรับ EV Charger รองรับมาให้ถึง 2 Slot

ถัดมาเป็นโซน Lady Parking ไว้รองรับสำหรับลูกบ้านผู้หญิง ซึ่งจะไม่มีการจอดซ้อนคัน เพื่อความสะดวกและปลอดภัย ตามแนวคิด ” Made From Her” ค่ะ

Image 1/6
อาคารจอดรถความสูง 8 ชั้น

อาคารจอดรถความสูง 8 ชั้น

ถนนภายในโครงการจะเป็นแบบ two – ways ทางเข้าส่วนจอดรถจะอยู่ด้านหลัง โดยจะเป็นอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น โดยที่ชั้น 9 จะเป็นส่วน Facilities หลักที่สามารถเดินมาใช้งานเชื่อมต่อกันได้

Image 1/7
บรรยากาศสวนภายในโครงการ

บรรยากาศสวนภายในโครงการ

บรรยากาศรอบโครงการตกแต่งด้วยสวนสไตล์ Urban Courtyard ดูร่มรื่น ส่วนอาคารจอดรถมีทางเชื่อมที่สามารถเดินเข้าสู่ส่วนอาคารพักอาศัยได้ แต่ก็ต้องใช้ Key Card ในการผ่านเข้า – ออกอีกชั้น เพื่อความปลอดภัยค่ะ

Lobby แบ่งเป็น Entrance Lobby อยู่บริเวณด้านหน้า โดยได้ฝ้าเพดานสูงถึง 6.60 เมตร ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง ในการตกแต่งมีการนำไม้กระถางแบบแขวนเข้ามา เพื่อช่วยดึงพื้นที่สีเขียวเข้ามาในอาคาร โดย Lobby นี้ สามารถทำหน้าที่เป็นส่วนต้อนรับ เวลาลูกบ้านมีแขกมาจากภายนอกได้ค่ะ

ถัดเข้ามาเป็น Garden Lobby จากอาคารที่จอดรถ จะมีทางเดินเชื่อมผ่านสวนเข้ามาที่โซนนี้ได้เลย โดยการออกแบบจะเน้นผนังกระจกที่ทำให้สามารถมองเห็น Courtyard ด้านนอกได้

พื้นที่ส่วนกลางในชั้นนี้ จะเน้นเป็นพื้นที่สำหรับนั่งทำงานได้ ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายใกล้ชิดธรรมชาติ มี Green Park Co – Working Space ซึ่งสามารถจัดเป็นโซนนั่งทำงาน ใช้ร่วมกันได้ สำหรับใครที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวหน่อย ก็มีห้อง Co – meeting ไว้ประชุมหรือคุยงานแยกออกมาได้ค่ะ

Image 1/3
พื้นที่ใช้งานบริเวณโถงลิฟต์ชั้น 2

พื้นที่ใช้งานบริเวณโถงลิฟต์ชั้น 2

ก่อนเข้าโถงลิฟต์เพื่อขึ้นสู่ส่วนพักอาศัย จะต้องใช้ Key Card สแกนก่อน 1 รอบ และเมื่อใช้ลิฟต์ก็ต้องใช้ Key Card อีกรอบ เพราะเป็นระบบแบบล็อคชั้น ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเลยค่ะ

ชั้น 9 เป็นชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถ จัดเป็น Active Facilities Zone ของโครงการ มีทางเดินที่เชื่อมออกมาจากส่วนอาคารหลัก โดยชั้นนี้จะประกอบด้วย Sky Infinity Edge Pool ,  Sky Fitness , Playground , Sliding Hill และ Greenery Area

Image 1/4
ส่วนโถงลิฟต์บริเวณชั้น 9

ส่วนโถงลิฟต์บริเวณชั้น 9

จากอาคารพักอาศัย บริเวณโถงลิฟต์จะมีทางเดินเชื่อมต่อมายังชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถ

สำหรับชั้นนี้จะเน้นพื้นที่การใช้งานแบบ outdoor ที่สามารถรองรับผู้ใช้งานได้หลากหลาย นอกจากสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ยังมีโซน Play Ground ให้เด็กๆมาปลดปล่อยพลังงานกันได้

Image 1/3
พื้นที่ใช้งานส่วน Playground

พื้นที่ใช้งานส่วน Playground

ส่วนพื้นปูด้วยแผ่นยาง EPDM สีสันสดใส ช่วยกันกระแทก ทำให้เด็กๆไม่เจ็บตัวเวลาหกล้ม ด้านข้างมีที่นั่ง จัดเป็นมุมไว้ให้สำหรับผู้ปกครอง มานั่งดูลูกๆเล่นด้วยกันได้

Image 1/4
ส่วน Sky Infinity Edge Pool

ส่วน Sky Infinity Edge Pool

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ได้ความยาวมาถึง 40 เมตร สามารถใช้เพื่อออกกำลังกายแบบจริงจังได้เลย โดยลักษณะเป็น Infinity Edge Pool ให้ความรู้สึกที่เชื่อมต่อกับภายนอกได้ สามารถมองเห็นวิวเมืองแบบเปิดโล่งได้โดยรอบจากชั้น 9

Sky Fitness เป็นห้องออกกำลังกายที่สามารถ Take View ได้แบบ 180 องศา ด้วยผนังกระจกที่ล้อมรอบถึง 3 ด้าน ภายในมีทั้งเครื่องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ และเวทเทรนนิ่งให้สายออกกำลังกายเลือกใช้กันได้ตามใจชอบเลย

Image 1/6
พื้นที่ใช้งานบริเวณห้องน้ำส่วนกลาง

พื้นที่ใช้งานบริเวณห้องน้ำส่วนกลาง

ในชั้นนี้จะมีห้องน้ำส่วนกลางเอาไว้รองรับ มีทั้งห้องน้ำคนพิการและห้องน้ำแยกชาย – หญิง พร้อมสุขภัณฑ์และอุปกรณ์มาให้แบบครบครัน

Image 1/7
บรรยากาศส่วน Sliding Hill

บรรยากาศส่วน Sliding Hill

จากอาคาร Fitness จะมีบันไดทางขึ้นไปส่วน Greenery Area บนชั้นดาดฟ้า ซึ่งจะผ่านส่วน Sliding Hill จากส่วนห้องพักอาศัยมองออกมา จะได้บรรยากาศคล้ายห้องพักติดเนินเขาเลยค่ะ

ชั้น 41 จัดเป็นชั้นดาดฟ้าของอาคารพักอาศัย ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบยกชั้น ประกอบด้วยฟังก์ชันทั้งแบบ Indoor และ Outdoor คือ Co – Party & Co – Kitchen Space , Cinema Space , Reading Lounge , Sunrise & Sunset Court และ Moon Terrace

จากโถงลิฟต์จะเจอพื้นที่นั่งเล่น หรือ Sunset Deck สามารถมานั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดินในช่วงเย็นได้ โดยผนังด้านข้างเป็นกระจก Full Height ด้วยฝ้าเพดานที่สูง จึงทำให้บรรยากาศภายในยิ่งดูโปร่งโล่ง เพราะได้แสงธรรมชาติแบบเต็มที่ โดยส่วนโถงนี้จะทำหน้าที่แจกไปยังห้องต่างๆดังนี้ค่ะ

Image 1/5
ส่วน Co - Party and Co - Kitchen Space

ส่วน Co - Party and Co - Kitchen Space

Co – Party & Co-Kitchen เป็นพื้นที่ที่สามารถขึ้นมานั่งทานอาหารหรือจัดปาร์ตี้เล็กๆไว้สำหรับรองรับกลุ่มเพื่อนได้ โดยจะมีเคาน์เตอร์ไว้สำหรับเตรียมอาหาร เก็บล้าง และชุดโต๊ะ – เก้าอี้ไว้รองรับได้หลายที่ทีเดียวค่ะ

Cinema Space เป็นห้องที่ติดตั้งจอโปรเจคเตอร์มาให้ขนาดใหญ่ เอาใจคอหนังหรือซีรี่ส์ที่อยากชวนเพื่อนมานั่งชิลในบรรยากาศสบายๆ เหมือนนอนเล่นอยู่ในบ้าน

Image 1/5
ส่วน Reading Lounge

ส่วน Reading Lounge

Reading Lounge เป็นห้องสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศในการอ่านหนังสือ แต่ก็ยังอยากได้ความเป็นส่วนตัว มี Partition กั้นแบ่งพื้นที่โซฟาออกเป็นหลายจุด เพื่อรองรับการใช้งานร่วมกันได้

Image 1/3
พื้นที่สวนด้านนอกบนชั้นดาดฟ้า

พื้นที่สวนด้านนอกบนชั้นดาดฟ้า

บรรยากาศส่วน Outdoor ด้านนอก จัดเป็นพื้นที่สวนให้ออกมานั่งเล่น หรือยืนสูดอากาศได้ โดยบนชั้นดาดฟ้ายังเป็นพื้นที่วางแผง Solar Cell เพื่อเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้แจกจ่ายไปยังพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดอีกด้วย

ส่วนพักอาศัยจะจะเริ่มตั้งแต่ที่ชั้น 7 ไปจนถึงชั้น 40 โดยชั้น 1 ชั้น 3 – 6 จะเป็นส่วน Service และงานระบบ สำหรับชั้น 7 – 8 จะมีการจัดผังโดยเว้นฝั่งที่ใกล้กับอาคารจอดรถเอาไว้ เพื่อให้ลูกบ้านได้วิวที่เปิดโล่งมากที่สุด ส่วน Plan แบบ Typical จะเริ่มตั้งแต่ที่ชั้น 10 – 40 เลย สำหรับการวางผัง ตัวอาคารจะวางขนานในแนวทิศตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้ห้องพักไม่โดนแดดแบบตรงๆ

ในทุกชั้นจะมีห้องพักให้เลือกทั้ง 3 Type โดยตำแหน่งของโถงลิฟต์จะอยู่บริเวณกลางอาคาร ทำให้ห้องพักทั้ง 2 ฝั่ง เดินใช้งานได้สะดวก ส่วนพื้นที่ Corridor จะมีช่องแสงมาให้ทั้ง 2 ด้าน ทำให้ทางเดินดูไม่ปิดทึบ โดยจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นจะอยู่ที่ 24 ยูนิต สำหรับคนที่อยากได้ห้องขนาดใหญ่อย่าง 2 Bedroom (กรอบสีแดง) จะได้เป็นห้องมุมทุกชั้น แต่ก็จะมีเพียงชั้นละ 4 ยูนิตเท่านั้นนะคะ สำหรับใครที่อยากได้วิวส่วนกลางหรือวิวแบบเปิดโล่ง จะแนะนำเป็นห้องฝั่งที่หันหน้าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะมี Type 1 Bedroom มากที่สุด

ส่วนอาคารอีกฝั่งจะอยู่ใกล้กับตึกสูง แต่ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด ทำให้ไม่รบกวนวิวมากนัก และข้อดีคือระเบียงห้องจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ทำให้ตัวห้องไม่ร้อน จัดเป็นทิศยอดนิยมในการเลือกห้องเลยทีเดียวค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น 2

  • Entrance Lobby
  • Garden Lobby
  • Outdoor Terrace
  • Urban Step
  • Urban Courtyard
  • Lady – Drop
  • Juristic Office
  • Mail Box
  • Guardhouse & Security Service 24 hrs.
  • First – Aid Room
  • Vending & Washing Machine Area
  • Renting Storages
  • Co – Meeting Room
  • Green Park Co – Working Space
  • EV – Charger
  • Lady Parking
  • Visitor Parking

ชั้น 9

  • Sky Infinity Edge Pool
  • Sky Fitness
  • Playground
  • Sliding Hill
  • Greenery Area

Rooftop

  • Co – Party & Co – Kitchen Space
  • Cinema Space
  • Reading Lounge
  • Sunrise & Sunset Court
  • Moon Terrace
  • Wifi ฟรีที่บริเวณส่วนกลาง
  • บริการรถตู้ไฟฟ้ารับ – ส่ง (BTS บางนา , Central บางนา , Mega บางนา)
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 199 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 559 คันคิดเป็น 70% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบ Bluetooth ใช้เข้า – ออกโครงการ
  • ระบบ Key Card แบบล็อคชั้น เข้า – ออกอาคาร

แบบห้อง

โครงการ Niche MONO Mega Space Bangna มีรูปแบบห้องพักอาศัยให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ ขายในรูปแบบ Fully Furnished ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท* โดยจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ค่ะ

  • ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 30.00 ตร.ม.
  • ห้อง 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 34.90 ตร.ม.
  • ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 50.00 ตร.ม.

หากใครกำลังมองหาคอนโดในย่านบางนา สามารถอยู่อาศัยคนเดียวได้แบบสบายๆ หรือจะมาเป็นครอบครัว 2 – 3 คนก็ได้ Niche MONO Mega Space Bangna ก็ถือว่าตอบโจทย์เลยนะคะ โดยรูปแบบห้องที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้จะเน้นที่ห้อง 1 Bedroom เป็นหลัก ซึ่งบรรยากาศภายใน จะเป็นยังไงบ้าง ไปชมกันเลย

เริ่มที่ห้อง 1 Bedroom ซึ่งเป็น Type ขนาดเริ่มต้นของโครงการ ได้พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท* โดยจุดเด่นของรูปแบบห้องนี้อยู่ที่การจัดฟังก์ชันเป็นสัดส่วน สำหรับคนชอบทำอาหาร น่าจะถูกใจห้องครัวที่ได้เป็นแบบปิด ติดกับส่วนระเบียง สามารถเปิดเพื่อช่วยระบายกลิ่นได้ดี ส่วนห้องนอนจะอยู่ด้านในสุด นอกจากมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าได้แล้ว ตรงหน้าต่างยังได้กระจกแบบเข้ามุม มีส่วนผนังที่ยื่นออกไป วางโต๊ะเขียนหนังสือ จัดเป็นพื้นที่ไว้นั่งทำงานได้ด้วย

บริเวณทางเข้า ประตูติดตั้ง Digital Door Lock และตาแมวด้านบนมาให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน ส่วนพื้นทำเป็นขอบขึ้นมาเล็กน้อย ช่วยป้องกันฝุ่นผงที่จะกระเด็นเข้าห้องได้ค่ะ

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนนั่งเล่นเป็นอันดับแรก โดยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและ Built – in ส่วนใหญ่ในห้อง จะได้เหมือนในห้องตัวอย่างเลยนะคะ

ติดกับประตูจะเป็นตู้รองเท้าแบบ Built – in จากโครงการ สามารถวางรองเท้าได้ประมาณ 10 คู่เลย โดยด้านบนยังมีช่องไว้ให้วางกุญแจรถหรือคีย์การ์ดห้องได้ ด้านข้างมีที่ให้สำหรับเก็บร่มหรืออุปกรณ์ทำความสะอาดได้ด้วย สะดวกทีเดียวค่ะ

ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ประมาณ 2.70 เมตร ทำให้บรรยากาศภายในดูโปร่งโล่ง ความกว้างจากโซฟาถึงหน้าทีวี 2.60 เมตร ติดตั้งทีวีขนาด 40″- 42″ ได้แบบสบายๆ ส่วนวัสดุปูพื้นเป็นลามิเนตลายไม้ โทนสีอ่อน ดูสบายตาค่ะ

Image 1/3
เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ได้จากโครงการ

เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ได้จากโครงการ

โดยในส่วนนั่งเล่นนี้ ทางโครงการได้แถมเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมาให้หลายจุดทีเดียวค่ะ ทั้งโซฟาขนาด 2 ที่นั่งบริเวณด้านหน้า ตู้วางทีวีที่ได้ช่องเก็บของและลิ้นชักขนาดใหญ่มาด้วย ส่วนโต๊ะรับประทานอาหาร ได้เป็นแบบ 2 ที่นั่ง จัดเข้ามุมได้ ประหยัดพื้นที่ได้ดีเลย

Image 1/3
พื้นที่ใช้งานส่วนรับประทานอาหาร

พื้นที่ใช้งานส่วนรับประทานอาหาร

ส่วนนั่งเล่นและห้องนอนแยกออกจากกันด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน มีส่วนที่เป็นบาน Fix แบบเข้ามุมมาด้วย ช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น

ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาว ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 จุด พร้อมอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยอย่าง Smoke Detector และหัวดับเพลิง Sprinkler ค่ะ

ห้องนอนได้ฐานเตียงขนาด 6 ฟุตมาให้จากโครงการ พร้อมตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in หน้าต่างจะได้บานกระทุ้งติดตั้งมาให้ 1 จุด พร้อมบาน Fix แบบเข้ามุม ทำให้มองเห็นวิวได้กว้างมากขึ้น

Image 1/3
พื้นที่ใช้งานภายในห้องนอน

พื้นที่ใช้งานภายในห้องนอน

ส่วนหน้าต่างแบบ Bay Window วางโต๊ะเขียนหนังสือ จัดเป็นพื้นที่ไว้นั่งทำงานได้ หรือจะซื้อเป็น Daybed มานอนเล่นชิลๆ ก็ถือว่าได้มุมพักผ่อนเพิ่มขึ้นอีกจุดนะคะ

Image 1/4
ตู้เสื้อผ้าแบบ Built - in จากทางโครงการ

ตู้เสื้อผ้าแบบ Built - in จากทางโครงการ

ตู้เสื้อผ้า Built – in จากโครงการ ได้พื้นที่เก็บของมาค่อนข้างเยอะ ในลิ้นชักเพิ่ม Detail เป็นช่องไว้ใส่ของชิ้นเล็กๆ อย่างเครื่องประดับได้ ด้านข้างติดราวแขวนเพิ่มมาให้ ใช้งานร่วมกัน 2 คนได้สะดวก ส่วนฐานเตียงได้ช่องเก็บของมาให้ทั้ง 2 ฝั่ง ใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่าทุกจุดจริงๆค่ะ

ฝ้าเพดานเป็นฉาบเรียบทาสีขาว ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 จุด ส่วนอีกจุดที่หัวเตียง จะเป็นแบบ Dimmer Light สามารถปรับความสว่างได้

Image 1/3
ตู้เสื้อผ้าแบบ Built - in อีกชิ้นจากโครงการ

ตู้เสื้อผ้าแบบ Built - in อีกชิ้นจากโครงการ

นอกจากตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องนอน โถงด้านนอกยังมีตู้ไว้สำหรับพักผ้า ใช้แขวนชุดที่ใส่บ่อยๆหรือที่จะใช้ในวันพรุ่งนี้ได้ ส่วนตู้ด้านล่างเปิดออกมาเป็นตะกร้า พออาบน้ำเสร็จ ก็เอาชุดที่ใช้แล้วมาใส่ได้เพื่อเตรียมซัก

ส่วนตู้ด้านข้างเป็นแบบ Transformer หรือคือโต๊ะที่ปรับเปลี่ยนได้นั่นเอง จะใช้เป็นตู้สำหรับเก็บของก็ได้ โดยส่วนกระจกสามารถปรับขึ้นลงเปลี่ยนเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้

ห้องน้ำแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้ชัดเจน ใช้งานและทำความสะอาดได้ง่าย โดยทางโครงการได้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้แบบนี้เลยค่ะ

Image 1/3
อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ

อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ

อ่างล้างมือเป็นแขวนติดตั้งกับผนัง ซึ่งด้านหลังจะเป็น Low Wall ทำให้มีพื้นที่ไว้วางของใช้เล็กๆได้ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำติดตั้งมาให้พร้อมอุปกรณ์แบบครบชุดจากยี่ห้อ KOHLER

Image 1/6
พื้นที่ใช้งานส่วนอาบน้ำ

พื้นที่ใช้งานส่วนอาบน้ำ

ส่วนอาบน้ำได้ขนาด 0.86×0.87 เมตร ฝักบัวติดตั้งมาให้ทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower เลือกใช้งานได้สะดวก ฝ้าเพดานเป็นฉาบเรียบทาสีขาว ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 จุด พร้อมพัดลมระบายอากาศ ช่วยระบายกลิ่นและความชื้นได้ดี

ห้องครัวได้เป็นแบบครัวปิด มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้น ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นเวลาทำอาหารเลยค่ะ ส่วนระเบียงมีประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนติดตั้งมาให้อีกชั้น นอกจากจะช่วยระบายกลิ่นแล้ว ยังเปิดเพื่อรับลมและแสงธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศในครัวดูโปร่งโล่ง น่าใช้งาน

Image 1/5
เคาน์เตอร์ครัว Built - in จากโครงการ

เคาน์เตอร์ครัว Built - in จากโครงการ

เคาน์เตอร์ครัวได้ท็อปเป็นหินสังเคราะห์สีดำ ติดตั้งมาให้พร้อมเตาไฟฟ้า , เครื่องดูดควันและอ่างล้างจานยี่ห้อ FRANKE ด้านล่างเป็นตู้เก็บของได้ ติดตั้งบานเปิดมาเรียบร้อย มีลิ้นชักไว้ใส่ช้อนส้อมและช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟ ตู้ด้านบนเป็นชั้นวางของ ติดตั้งตะแกรงไว้เก็บจานหลังล้างเสร็จได้ เอื้อมหยิบใช้งานสะดวกค่ะ

Image 1/6
พื้นที่ใช้งานภายในห้องครัว

พื้นที่ใช้งานภายในห้องครัว

ติดกับเคาน์เตอร์ จะมีช่องสำหรับวางตู้เย็นได้ กว้าง 0.80 สูง 1.70 เมตร โดยพื้นห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ทำความสะอาดได้ง่าย โดยเหลือพื้นที่ไว้ยืนทำครัวได้ 0.85 เมตร ส่วนระเบียงกว้าง 0.79×2.19 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ โดยทางโครงการเตรียมท่อไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

สวิตช์ไฟใช้ดีไซน์เรียบ ขอบมนสีขาวจากยี่ห้อ schneider

ต่อมาเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ซึ่งค่อนข้างเป็นที่นิยมในปัจจุบันเลยทีเดียว เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีงานอดิเรกหลากหลาย หรือชาว WFH ที่อยากได้พื้นที่ทำงานแบบส่วนตัว โดยในห้องนี้จะมีลักษณะเป็นแบบหน้ากว้าง แบ่งฟังก์ชันเป็น 2 ฝั่งชัดเจน ได้พื้นที่ใช้สอย 34.90 ตร.ม. โดยใน Type นี้ส่วนครัวจะอยู่ด้านหน้า ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนเลย โดยภายในจะมีฉากกั้นส่วนอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ ทำให้สามารถใช้งานพร้อมกันได้ ในเวลาที่เร่งรีบค่ะ

ส่วนครัวด้านหน้าจะแยกเคาน์เตอร์ออกเป็น 2 ฝั่ง สามารถจัดเป็นมุมสำหรับทำอาหาร และยังเหลือพื้นที่ไว้วางเครื่องซักผ้าและเก็บของเพิ่มได้

Image 1/4
เคาน์เตอร์ครัวแบบ Built - in จากทางโครงการ

เคาน์เตอร์ครัวแบบ Built - in จากทางโครงการ

เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นแบบ Built – in จากโครงการโดยใช้วัสดุเหมือนในห้องก่อนหน้า ฝั่งนึงเป็นพื้นที่สำหรับเตรียมและทำอาหาร มีเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันและอ่างล้างจานติดตั้งมาให้ ส่วนอีกฝั่งสามารถวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้าได้ ไม่ต้องออกไปใช้งานด้านนอก

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนนั่งเล่น ซึ่งใช้พื้นที่ร่วมกันกับส่วนรับประทานอาหาร ด้านในสุดจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ติดกันทางฝั่งซ้ายเป็นห้องนอน กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกทั้งหมด ทำให้ได้ความโปร่งโล่ง

Image 1/5
พื้นที่ใช้งานส่วนรับประทานอาหาร

พื้นที่ใช้งานส่วนรับประทานอาหาร

ส่วนครัวกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ติดกับประตูวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งได้ พอทำเสร็จก็ยกมาเสิร์ฟได้เลย อีกฝั่งมีตู้เก็บของ Built – in ติดตั้งมาให้ สามารถเปิดใช้งานได้ 2 ฝั่ง ส่วนที่ติดกับทางเข้าจะเป็นชั้นวางรองเท้า ส่วนอีกฝั่งเป็นตู้พักผ้าค่ะ

ส่วนนั่งเล่นจะได้โซฟาแบบ L Shape มาเหมือนในห้องตัวอย่างเลย จะใช้นั่งเล่นหรือใช้เป็นที่นอนสำรองก็ได้ โดยระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีกว้างประมาณ 2.50 เมตร สามารถวางโต๊ะกลางด้านหน้าได้อีก ส่วนตู้วางทีวีจะได้มาแบบนี้เช่นเดียวกัน

Image 1/3
พื้นที่ใช้งานภายในห้องอเนกประสงค์

พื้นที่ใช้งานภายในห้องอเนกประสงค์

ส่วนห้องอเนกประสงค์ ทางโครงการได้แถม Daybed มาให้ สำหรับใครที่อยากได้ห้องนอนเพิ่มสำหรับรับแขก ก็ถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ โดยห้องนี้จะมีขนาดประมาณ 1.78×2.40 เมตร

ส่วนห้องนอนจะได้เป็นแบบหน้ากว้าง ฝั่งซ้ายจะเป็นห้องน้ำอยู่ภายในติดกับส่วนแต่งตัว อีกฝั่งเป็นระเบียง ออกไปใช้งานได้

Image 1/8
พื้นที่ใช้งานภายในห้องนอน

พื้นที่ใช้งานภายในห้องนอน

พื้นที่รอบเตียงกว้างขวาง เดินได้โดยรอบอย่างสะดวก จากในห้องนอน สามารถมองออกไปเห็นทีวีจากส่วนนั่งเล่นได้ ติดกับห้องน้ำเป็นส่วนแต่งตัว มีตู้เสื้อผ้า Built – in และตู้ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้

ห้องน้ำแยกพื้นที่เป็น 2 ฝั่ง คือส่วนพื้นที่อาบน้ำและส่วนวางโถสุขภัณฑ์ โดยมีฉากกั้นกระจกขุ่น ช่วยพรางสายตา สามารถใช้งานพร้อมกันได้ในเวลาเร่งรีบ

Image 1/5
พื้นที่ใช้งานส่วนวางโถสุขภัณฑ์

พื้นที่ใช้งานส่วนวางโถสุขภัณฑ์

พื้นที่วางโถสุขภัณฑ์ได้ขนาด 0.77×1.47 เมตร บริเวณพื้นมีการทำขอบขึ้นมาเพื่อแยกพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง ส่วนอาบน้ำได้ขนาด 0.89×0.97 เมตร มีมุมให้สำหรับวางของใช้หรือเป็นที่นั่งสำหรับอาบน้ำได้

Image 1/3
ระเบียงขนาด 0.88x2.80 เมตร

ระเบียงขนาด 0.88x2.80 เมตร

ส่วนระเบียงที่อยู่ติดกับห้องนอนได้ขนาด 0.88×2.80 เมตร ซึ่งถือว่าได้ขนาดมาค่อนข้างกว้าง สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่น หรือสวนเล็กๆช่วยเพิ่มความสดชื่นได้

รูปแบบห้องสุดท้ายคือห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 50 ตร.ม. มี Common Area ตรงกลาง ใช้งานร่วมกันได้ โดยครัวจะแยกเป็นห้องอยู่ด้านหน้า สามารถวางเคาน์เตอร์แบบ L Shape ได้ ส่วนห้องน้ำจะอยู่บริเวณโถงกลางใช้งานด้วยกันสะดวก ส่วนนั่งเล่นใช้พื้นที่ร่วมกับส่วนรับประทานอาหาร วางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งกำลังดี ติดกันเป็นระเบียงออกไปใช้งานได้ ส่วนห้องนอนแบ่งเป็นห้องนอนรองและ Master Bedroom ได้ Walk – in Closet แยกใช้งานในตัว เหมาะกับครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย อยู่กันได้ 3 – 4 คนสบายๆเลยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

Niche MONO Mega Space Bangna ราคา ณ วันที่ 13 มีนาคม 2566

  • ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 30.00 ตร.ม.
  • ห้อง 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 34.90 ตร.ม.
  • ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 50.00 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท*
  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร
  • ท็อปหินสังเคราะห์ / Zink ของยี่ห้อ FRANKE
  • Hob & Hood ของยี่ห้อ FRANKE
  • จอง 2,999 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลางปีแรก 50 บาท/ตร.ม./เดือน ปีต่อไป 54 บาท
  • Promotion : ฟรีเฟอร์ฯ ทั้งห้อง* / ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอนฯ* / ฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปี * / ผ่อนล้านละ 2,500 บ.*

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

โครงการ Niche MONO Mega Space Bangna ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด (ฝั่งขาเข้า) ช่วงระหว่างถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกกับถนนศรีนครินทร์ (บางนากม. 6) โดยตัวโครงการจะติดกับถนนใหญ่อย่างถนนบางนา-ตราดเลย ซึ่งจัดเป็นทำเลที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีความอุดมสมบูรณ์สูง รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล สถานศึกษาชื่อดังต่างๆ

เหมาะกับคนที่เดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นหลัก เพราะเป็นจุดที่เดินเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ใกล้ทางด่วนถึง 3 สาย และใกล้สนามบินหลักของประเทศอย่างสนามบินสุวรรณภูมิ โดยอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวเปิดให้บริการ ซึ่งสถานีจะตั้งอยู่หน้าโครงการเลย ทำให้ศักยภาพของทำเลนี้พุ่งสูงขึ้นไปอีกค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

จากตำแหน่งของโครงการที่อยู่ติดถนนบางนา – ตราด จัดว่าได้เปรียบกว่าโครงการอื่นๆที่จะอยู่ถัดเข้าไปในซอย ทำให้ได้จุดเด่นในเรื่องการเดินทางที่สะดวกสบายมาก โดยถนนบางนา – ตราด เป็นถนนเส้นหลักในย่านบางนาที่สามารถวิ่งไปตัดกับถนนได้อีกหลายสาย ทั้งถนนตำหรุ – บางพลี ถนนกิ่งแก้ว ถนนเทพารักษ์ และถนนศรีนครินทร์ ขับไปใช้งานทางด่วนก็ง่ายในระยะทางไม่เกิน 10 กิโลเมตร จากหน้าโครงการ โดยพื้นที่จอดรถก็ได้มาถึง 70% จัดว่าได้มามากกว่าโครงการอื่นๆบนทำเลเดียวกันเลย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

โครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่ จึงทำให้เรียกใช้บริการรถสาธารณะได้ง่าย โดยหน้าโครงการมีป้ายรถประจำทางตั้งอยู่ และยังมีพี่ๆวินมอเตอร์ไซต์สำหรับใครที่อยากเดินทางไปในระยะที่ไม่ไกลมาก ซึ่งจากส่วนพักอาศัยต้องผ่านถนนภาระจำยอมระยะทาง350 เมตร แต่หากใครที่ไม่อยากเดิน ก็สามารถใช้รถตู้ไฟฟ้าของโครงการ ที่จะมีรอบรับ – ส่ง ทั้งหน้าโครงการ BTS บางนา , ห้าง Central บางนา และ Mega บางนา ค่ะ

วัสดุ :

รูปแบบการขายเป็น Fully Furnished ให้มาทั้งเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in และลอยตัว เรียกได้ว่าซื้อแค่ฟูกที่นอน ชุดเครื่องนอนและเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เข้าอยู่ได้ โดยวัสดุส่วนใหญ่จะได้มาตามมาตรฐานราคา ส่วนตัวเรามองว่าค่อนข้างคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคอนโด High Rise บนทำเลเดียวกัน ที่มักจะได้เป็น Fully Fitted ในราคาที่ไม่ต่างกันมากค่ะ

การออกแบบโครงการ :

จากบริเวณถนนทางเข้าหลัก ส่วนพักอาศัยจะอยู่ถ้ดเข้ามาด้านในประมาณ350 เมตร ข้อดีคือช่วยลดความพลุกพล่าน และทำให้อาคารได้ความเป็นส่วนตัว มีการแยกอาคารจอดรถออกมาทำให้สะดวกต่อการใช้งาน บรรยากาศโดยรอบโครงการร่มรื่น ด้วยการจัดพื้นที่สีเขียว ทำให้ดูน่าใช้งาน การจัดผังมีการวางโถงลิฟต์ไว้ตรงกลาง ทำให้ห้องพักทั้ง 2 ฝั่งเดินมาใช้งานได้สะดวก พื้นที่ส่วนกลางแยกออกมาชัดเจน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว ทั้งที่ชั้น 2 ซึ่งไม่มีส่วนพักอาศัย ชั้น 9 ใช้พื้นที่ดาดฟ้าของอาคารจอดรถ และชั้น 41 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้า ทำให้ได้วิวมุมสูงแบบเปิดโล่งอีกด้วย

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย :

รูปแบบห้องพัก มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบหลักๆ รองรับกลุ่มผู้ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งคนที่อาศัยอยู่คนเดียวหรือมองหาห้องพักฟังก์ชันใหญ่สำหรับครอบครัว โดยพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นตั้งแต่ 30 – 50 ตร.ม. ซึ่งจัดว่าค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับโครงการใกล้เคียงกัน ฟังก์ชันในห้องออกแบบมาได้ดูลงตัว เและป็นสัดส่วนเหมาะสมกับการใช้งาน

ส่วนตัวเราชอบห้อง 1 Bedroom ที่ในห้องนอนจะได้บาน Fix แบบเข้ามุมมาด้วย ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus ห้องนอนได้แบบหน้ากว้าง ห้องน้ำกั้นฉากเป็นสัดส่วน สามารถใช้งานพร้อมกันได้ โดยทุกยูนิตจะได้ส่วนครัวแบบปิด เวลาทำอาหารก็จะช่วยลดกลิ่นรบกวนภายในห้องได้

สาธารณูปโภค :

พื้นที่ส่วนกลางจัดมาให้ถึง 26 ฟังก์ชัน รองรับการใช้งานได้ทั้ง Indoor และ Outdoor ส่วนตัวเรามองว่าจัดมาให้ครบครันตามมาตรฐาน การใช้งานดูเป็นสัดส่วน โดย Facilities ที่ชั้น 2 จะมีความกึ่ง Public ใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงานและรับรองแขกจากภายนอกได้ ชั้น 9 จะเป็นชั้นดาดฟ้า ทำให้ได้วิวแบบเปิดโล่ง เน้นการทำกิจกรรมที่ค่อนข้าง Active มีสระว่ายน้ำได้ความยาวถึง 40 เมตร และชั้น 41 ที่สามารถใช้เป็นส่วนพักผ่อน ทำกิจกรรม หรือสังสรรค์กันได้ในวันหยุดสบายๆค่ะ


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 89,000 บาท/ตร.ม., 13 มีนาคม 2566

  • ทำเล 8.0/10 – ติดถนนบางนา – ตราด ใกล้ความอุดมสมบูรณ์
  • เดินทางด้วยรถ 8.0/10 – ใช้ถนนหลักเชื่อมต่อไปหลายสาย
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีรถตู้ไฟฟ้ารับ – ส่งไป BTS และห้างสรรพสินค้า
  • วัสดุ 8.0/10 – ขายแบบ Fully Furnished เฟอร์ครบ
  • แบบ 7.75/10 – ฟังก์ชันออกแบบเป็นสัดส่วน เหมาะสมกับการใช้งาน
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 – อยู่ชั้นดาดฟ้า ได้วิวมุมสูงแบบเปิดโล่ง

  • MAIN CLASS
  • 7.83 / 10.00

Niche MONO Mega Space Bangna เหมาะกับใคร

โครงการ Niche MONO Mega Space Bangna เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดในย่านบางนา ชอบทำเลติดถนนใหญ่ ใกล้ความอุดมสมบูรณ์สูง เดินทางง่ายสามารถไปใช้ทางด่วนได้ถึง 3 สาย ชอบโครงการที่มี Facilities ให้ใช้งานได้หลายจุด มีที่จอดรถเยอะ ชอบห้องที่ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ พร้อมเข้าอยู่ รองรับครอบครัวขนาด 3 – 4 คนได้ มีงบประมาณเริ่มต้นที่ 2.29 ล้านบาท*


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc