รีวิวฉบับที่ 1380 …วันนี้จะพาไปชมตึกเสร็จพร้อมอยู่กับโครงการ Aspire สาทร-ตากสิน (Copper Zone) คอนโด High Rise 21 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีวุฒากาศประมาณ 600 ม. ในแปลงที่ดินขนาดใหญ่ที่ทาง AP ซื้อไว้ แล้วค่อยๆ ทำโครงการคอนโดฯ มาขาย โครงการมีขนาดห้อง 22.62-46.67 ตร.ม. จึงมีห้องขนาดเล็กให้เลือก ทำให้ราคา Package ของห้องไม่สูงนักเมื่อเทียบคอนโดในทำเลนี้ ซึ่งปัจจุบันมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.75 ล้านบาทค่ะ
Fact @ 5 July 2017
- Aspire Sathorn-Taksin (Copper Zone)
- บริษัท เอพี(ไทยแลนด์) จำกัด(มหาชน)
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ถนนราชพฤกษ์ เขตจอมทอง
- คอนโด High Rise 21 ชั้น 613 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
- ที่จอดรถจอดคิดเป็น 40% รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 3-2-15.4 ไร่
- โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่
- Studio : 22.62-22.77 ตร.ม. ราคา 1.75-2.01 ล้านบาท
- 1 Bedroom : 26.33-26.71 ตร.ม. ราคา 2.04 – 2.35 ล้านบาท
- 2 Bedrooms : 46.37-46.67 ตร.ม. ราคา 3.66 – 3.84 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 79,000 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด : 77,000 – 88,000 บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 1623
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด : 13.714214, 100.464504
แผนที่จากทางโครงการ Aspire สาทร-ตากสิน (Copper Zone) ตั้งอยู่ย่านฝั่งธนฯ บนถนนราชพฤกษ์ มีระยะห่างจากสถานีวุฒากาศประมาณ 600 ม. โดยตัวโครงการจะอยู่ติดกับคอนโดรุ่นพี่ในทำเลเดียวกันอย่าง Aspire สาทร-ตากสิน (Timber Zone) ค่ะ
ที่ตั้งของ โครงการ Aspire สาทร-ตากสิน (Copper Zone) อยู่บนถนนราชพฤกษ์ ใกล้ BTS วุฒากาศ จริงๆ แล้ววุฒากาศนั้นเป็นย่านชุมชนเก่าแก่ โดยถนนวุฒากาศจะเป็นเส้นที่ต่อมาจากถนนเทอดไท บริเวณนี้เป็นแหล่งชุมชน ทั้งบ้านเดี่ยว ห้องแถวไม้กึ่งปูนซะส่วนใหญ่ เราจะเริ่มพบห้องแถวแบบนี้แถวๆ วงเวียนใหญ่ บางยี่เรือ ไล่มาเทอดไท แทบจะไม่มีหมู่บ้านจัดสรรเลยค่ะ ส่วนถนนจะเป็นถนน 4 เลนส์ ไปกลับข้างละ 2 ไม่มีเกาะกลาง มีทางเท้าค่ะ ตั้งแต่วงเวียนใหญ่ขยับเข้ามา สิ่งที่ตามมากับแหล่งชุมชนคือตลาดและวัดค่ะ การจับจ่ายใช้สอยในตลาดแถวๆ นี้ ยังมีคับคั่ง โดยเฉพาะตลาดเวลาเช้า ส่วน”ตลาดพลู” จะถึงก่อนจะเข้าสู่ถนนวุฒากาศ แยกออกไปเดอะมอลล์ท่าพระ และยังเป็นที่ตั้งของ สถานีรถไฟตลาดพลู ที่ตลาดพลูไม่มีของสดขายค่ะ จะมีแต่ของกิน ซะส่วนใหญ่ พอเลยตลาดพลูแยกเข้าสู่ถนนวุฒากาศบริเวณนี้ก็จะคงสภาพถนนเช่นเดิมค่ะ โดยยังเป็นชุมชนที่ขายของในห้องแถวของตัวเอง มีของกินของใช้ตามรายทาง มีของอร่อยๆ หลายเจ้าเช่นกัน
การเข้าถึงโครงการถ้าขับรถมาจากทางฝั่งสะพานตากสินมุ่งหน้าเข้าโครงการจะต้องไปกลับรถวนมาเข้าโครงการ ค่อนข้างไกลใครไม่ชินเส้นทางหรือมาครั้งแรกๆ ก็อาจจะมีงงๆ บ้าง ถ้าใครใช้รถเป็นหลักอาจจะต้องเผื่อเวลาในการวนรถเอาไว้ด้วยนะ แต่ถ้าตัดการวนกลับรถออกไป มองเรื่องการใช้เส้นทางก็ถือว่าสามารถใช้เส้นทางไปออกได้หลายทาง โดยถนนสายหลักที่ใกล้ๆกับโครงการคือ กัลปพฤกษ์ ราชพฤกษ์ รัชดาภิเษก(ท่าพระ) เพชรเกษม และยังสามารถใช้เส้นทางเชื่อมไปยัง สาทร สีลม พระราม 2 พระราม 3 ปิ่นเกล้า พุทธมณฑลได้ โดยถ้าจะไปทางฝั่ง ราชพฤกษ์ หรือ กัลปพฤกษ์ พอออกจากโครงการ ตรงมาหน่อยก็จะมีเบี่ยงเข้าราชพฤกษ์ กับ กัลปพฤกษ์ได้เลย และจากสะพานตากสินจนถึงโครงการจะมีสะพานข้ามทุกแบกโดยไม่ติดไฟแดง การจราจรจะมีติดบางช่วงเวลาเช่นช่วงเวลาเร่งด่วน เช้ากับเย็น
ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ คงต้องพึ่งรถไฟฟ้าสถานีวุฒากาศ แต่ต้องต่อรถมอเตอร์ไซค์อีกต่อนึงนะ ไม่งั้นต้องเดินจากโครงการมาประมาณ 600 ม. ซึ่งมีทางเท้าริมถนนให้เดินได้สะดวก แต่ถ้ากลางคืนน่าจะเปลี่ยวอยู่เหมือนกันนะ โดยจากสถานีวุฒากาศถัดไปอีกสถานีหนึ่งจะเป็น สถานีตลาดพลู ซึ่งมี The Mall ท่าพระ ห้างสรรพสินค้าคู่ใจของคนย่านนี้ ซึ่งบริเวณแยกที่ถนนราชพฤกษ์ตัดกับถนนรัชดาภิเษกจะมี BRT ราชพฤกษ์อยู่ และถ้านั่งรถไฟฟ้าต่อไปอีกก็สามารถไปยังสะพานตากสิน สีลม และ สาทรได้ นอกจากนั้นในอนาคตจะสามารถนั่งไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง – บางแค สถานีบางหว้า ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ได้ สำหรับรถ Taxi คงต้องเรียก Grab หรือ Uber มารับจะง่ายกว่า เพราะโครงการติดกับถนนเลนใน ที่ส่วนใหญ่รถสาธารณะไม่ได้ผ่านเข้ามาเลนนี้นะคะ
มาดูกันดีกว่าว่ารอบๆสถานีวุฒากาศมีอะไรกันบ้าง ในระยะเดินเท้าข้างๆ โครงการฝั่งติดถนนใหญ่จะมี Family Mart และร้านอาหารเล็กๆ อยู่ พอแก้ขัดเวลาหิวได้บ้าง แต่ถ้าอยากกินร้านอาหารที่ดีขึ้นมาหน่อยต้องขับรถไปทาง BTS ตลาดพลูซึ่งมีห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุดคือ The Mall ท่าพระ ร้านอาหาร ร้านค้า ของกินแผงลอยตั้งอยู่ค่อนข้างเยอะ นอกจากเดอะมอลล์ใกล้ๆโครงการยังมีไทยช่วยไทยพลาซ่า , ตลาดซอย13 , MaxValu และ ตลาดพลู ตลาดเก่าแก่ที่มีทั้งร้านอาหาร และ ขนมขึ้นชื่อมากมาย โดยเฉพาะร้านขายกุยช่ายเจ้าดัง ที่คนซื้อต้องมายืนรอต่อแถว ส่วนโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดคือโรงพยาบาลพญาไท 3 ห่างจากโครงการประมาณ 3.2 กม. ค่ะ
การเดินทางในวันนี้ จะใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้ากันบ้างนะคะ เพราะรีวิวโครงการที่อยู่ติดกันอย่าง Aspire สาทร-ตากสิน (Timber Zone) ได้พาชมการเดินทางด้วยรถยนต์กันไปแล้ว วันนี้จึงจะพาเดินมาจากสถานีวุฒากาศกันเลย เพื่อดูบรรยากาศโดยรอบ และเส้นทางการเดินเข้าถึงโครงการกันนะ ว่าจะผ่านอะไรบ้าง รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 600 ม. ค่ะ
เริ่มต้นจากสถานีวุฒากาศ เป็นสถานีที่ถัดมาจากสถานีตลาดพลู ซึ่งเป็นสถานีที่เป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ ดังนั้นถ้าอยากเลือกสรรหาของกินเยอะๆ ก็นั่งรถไฟฟ้าจากสถานีวุฒากาศไปอีกแค่สถานีเดียวค่ะ
ออกจากสถานีให้เลือกใช้ทางออก 2 นะคะ
จะมีทางเดินยาวๆ ก็เดินไปตามออกค่ะ เรอบสถานีมีความอุดมสมบูรณ์อยู่นิดหน่อย มองจากบนนี้ก็จะมองเห็นอยู่ค่ะ
ติดกับสถานีจะเห็นมีร้านนั่งชิวที่จะเปิดในช่วงเย็น เลยไปหน่อยมี 7-11 และมีร้านค้าอยู่รอบๆ อีกนิดหน่อย
เดินลงมาจากสถานีวุฒากาศแล้วจะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์รอรับส่งอยู่เลย
ถ้าเรียกไป Aspire ก็สนน.ราคาอยู่ที่ 15-20 บาท แล้วแต่ว่าเราจะลง Aspire โครงการไหน ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่า Aspire เป็นที่ดินใหญ่ มีทั้งหมดอยู่ 3 โครงการก็ต้องบอกพี่วินให้ละเอียดนิดนึงค่า
ทางเดินไปโครงการจะมีทางเท้าอยู่ตลอดแนวทางเดิน ด้านข้างจะมีร้านขายอาหารเปิดให้พอพึ่งพาได้บ้าง
ร้านที่มีโต๊ะนั่งก็มีนะคะ เป็นร้านข้าวมันไก่ เห็นมีลูกค้านั่งทานอยู่เยอะเหมือนกัน
เดินต่อมาอีกหน่อยจะผ่านคอนโด The Key
ถัดไปอีกไม่ไกลจะมีร้านอาหารซีฟู้ดให้เลือกกันอีก 1 ร้าน
ถัดมาก็จะถึงโครงการ Aspire สาทร-ตากสิน แล้วค่ะ
มาดูรอบๆ ที่ดินของ AP กันก่อนนะ ทางเข้าออกที่ติดกับถนนราชพฤกษ์เป็นถนนที่เข้าออกได้ทางเดียว จากถนนราชพฤกษ์ เข้ามาตามทางเรื่อยๆ ประมาณ 200 ม. ก็จะมาถึงโครงการ Aspire Sathorn-Taksin (Copper Zone) สำหรับบริบทโดยรอบของตัวโครงการส่วนใหญ่จะติดกับบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น เป็นส่วนใหญ่ ทำให้พื้นที่โดยรอบแทบไม่มีอาคารสูงบังวิวเลยนะคะ จะมีเพียงห้องที่หันทางทิศตะวันตกเท่านั้น ที่จะมีอาคารสูงของ Timber Zone บังวิว ดังนี้
- ด้านทิศเหนือ จะติดกับ บ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น
- ด้านทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น
- ด้านทิศตะวันออก บ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น
- ด้านทิศตะวันตก ถนนภายในโครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโด Aspire Sathorn-Taksin (Timber Zone) สูง 25 ชั้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- 7-11 และ ร้านอาหาร ~ 400 ม.
- วัดใหม่ยายนุ้ย ~ 900 ม.
- เดอะมอลล์ ท่าพระ ~ 2.2 กม. (ระยะทางเดินรถไฟฟ้า) 4 กิโลเมตร (รวมระยะกลับรถ)
- โรงพยาบาล พญาไท 3 ~ 3.2 กม. (รวมระยะกลับรถ)
- ตลาดพลู ~ 4 กม. (รวมระยะกลับรถ)
- ไทยช่วยไทยพลาซ่า ~ 4.4 กม. (รวมระยะกลับรถ)
- Max Valu ~ 5.9 กม. (รวมระยะกลับรถ)
- วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ ~ 5.6 กม. (รวมระยะกลับรถ)
- วงเวียนใหญ่ ~ 6.4 กม. (รวมระยะกลับรถ)
- สะพานตากสิน ~ 7.4 กม. (รวมระยะกลับรถ)
มาเริ่มกันที่ด้านหน้าโครงการที่ติดกับถนนราชพฤกษ์ มีจุดสังเกตุง่ายๆ คือหน้าโครงการจะมี Family Mart อยู่ มองเข้าไปภายในโครงการจะเห็นอาคารสูงอยู่ 2 ตึก ตึกแรกทางขวาคือ คอนโด Aspire Sathorn-Taksin (Timber Zone) ส่วนอาคารทางซ้ายที่ถัดเข้าไปด้านในคือ คอนโด Aspire Sathorn-Taksin (Copper Zone) ค่ะ
เข้ามาด้านในจะเห็นอาคารส่วนกลางของโครงการทั้งหมด ซึ่งเปิดเป็น Family Mart นะคะ
ภายในก็คล้ายๆ กับ 7-11 เลย มีโซนของกินของใช้ให้เลือกช้อปปิ้งได้ก่อนเข้าโครงการ
ด้านหน้า Family Mart จะมีพี่วินคอยรับส่งลูกบ้านอยู่นะคะ ใครที่จะไปสถานีรถไฟฟ้าก็สามารถเรียกพี่วินได้ตั้งแต่ตรงนี้เลย
เดินเข้าไปด้านในโครงการอีกหน่อยฝั่งขวาจะเป็นสำนักงานขาย ใครที่สนใจจะมาชมโครงการก็ติดต่อได้ที่นี่
สำหรับโซนพักอาศัยจะหลีกหนีความพลุกพล่านเข้าไปด้านในอีกหน่อย ก็จะได้ความสงบขึ้นอีกนะ^^ นอกจากนี้จะเห็นมีทางจักรยานสีฟ้าอยู่ 2 ฝั่งเลย วนรอบโครงการยาวประมาณ 600 ม. ให้ได้ขี่ออกกำลังกายบ้างนิดหน่อย
ตามเส้นทางของโครงการเข้ามาเรื่อยๆ จะถึงทางเข้าของ Timber Zone ก่อนนะคะ ส่วน Copper Zone จะต้องตรงเข้าไปด้านในอีกนิดนึงก็ถึงแล้วค่ะ
บรรยากาศของโครงการ Aspire Sathorn-Taksin (Copper Zone) ก็จะการตกแต่งตัวตึกที่ต่างจาก Timber Zone ทางเข้าโครงการก็แยกกันชัดเจน มีรั้วรอบขอบชิดแสดงอาณาเขต สำหรับโครงการนี้เป็นตึกเสร็จล่าสุดในพื้นที่ดินตรงนี้เลย ใครชอบความสดใหม่ก็ลองพิจารณากันดูได้ค่ะ เป็นคอนโด High Rise พร้อมอยู่ สูง 21 ชั้น 1 อาคาร ห้องพักอาศัยจำนวน 613 ยูนิต บนที่ดินขนาดใหญ่ ประมาณ 3 ไร่กว่าๆ ภาพรวมของโครงการดูสวยงาม เรียบร้อยดี และด้วยความที่โครงการไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ แต่ต้องเข้ามาด้านในประมาณ 200 ม. แบบนี้ ทำให้ได้ความรู้สึกที่สงบและดูปลอดภัยกว่าโครงการทั่วๆ ไปนะคะ
ต่อไปมาดูแปลนอาคารกันนะคะ เริ่มกันที่ผังชั้น 1 ทางเข้าออกโครงการได้แยกทางเข้า-ออกรถยนต์และทางเข้า-ออกคนเดินไว้ชัดเจน ทำให้เป็นสัดส่วนดี ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเดินหลบรถค่ะ การเดินรถภายในโครงการเป็นแบบ One-Way โดยจะวนไปทางซ้ายเพื่อเข้าที่จอดรถภายในอาคาร หรือถ้าใครมาแวะส่งลูกบ้านที่ Drop-Off ก็สามารถวนขวาไปจอดส่งแล้ววนออกหน้าโครงการได้สะดวก ในชั้นนี้พื้นที่นอกอาคารจัดเป็นพื้นที่สวนส่วนกลางทั้งหมด ได้แก่ สนามแบตมินตัน และโซน BBQ สำหรับรถยนต์จะอยู่ในอาคารทั้งหมด มีที่จอดรถรวมซ้อนคันแล้วคิดเป็น 40% สำหรับความปลอดภัย ส่วนของรถจะต้องใช้ Key Card ตั้งแต่ทางเข้าโครงการ สำหรับแขกของลูกบ้านถ้าจะเข้ามาในอาคารก็ต้องบอกให้ลูกบ้านลงมารับค่ะ
- ตัวลิฟท์ —>ใช้ Key Card แขกของลูกบ้านต้องรอลูกบ้านมารับขึ้นส่วนพักอาศัยเท่านั้น
- ประตูทางเข้าฝั่งที่จอดรถ —>ใช้ Key Card จึงใช้ได้เฉพาะลูกบ้านเท่านั้น
สิ่งอำนวยความสะดวกในชั้นนี้จะมี Double Volume Lobby ที่ออกแบบฝ้าเพดานไว้ 2 ชั้น จึงได้บรรยากาศที่โปร่งโล่ง และ Mail Box ค่ะ
ซุ้มด้านหน้าโครงการตกแต่งสไตล์ Modern ภาพรวมดูร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ค่อนข้างเยอะทีเดียว
ทางเข้า-ออกสำหรับรถยนต์ แบ่งเป็นทางรถเข้า และ รถออกไว้ชัดเจน ดูแลตลอด 24 ชม. รักษาความปลอดภัยด้วยระบบ Access Card ฝั่งซ้ายเป็นป้อมยาม ก็จะมีพี่รปภ. ดูแลตลอด 24 ชม.
ผ่านซุ้มโครงการเข้ามาจะเจอกับวงเวียนด้านหน้า ซึ่งแยกทางเดินรถออกเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งซ้ายจะเป็นทางไปที่จอดรถภายในอาคาร ส่วนฝั่งขวาจะเป็นทางไปจุด Drop-Off หน้าทางเข้าอาคาร เดี๋ยวเราจะพาวนซ้ายไปตามทางวนรถรอบโครงการกันก่อน
ทางเดินรถภายในโครงการแบบ One Way ถนนกว้างได้มาตรฐานดี ที่ชอบคือบรรยากาศด้านข้างที่ทางโครงการจะจัดต้นไม้ใหญ่ไว้ให้ตลอดทางเลย ทำให้ดูร่มรื่นมาก
ตามทางมาเรื่อยๆ ก็เห็นทางเข้าที่จอดรถในอาคารอยู่ทางฝั่งขวา ซึ่งจำกัดความสูงรถไว้ที่ 2.1 ม. นะคะ
ภายในที่จอดรถเป็นพื้นคอนกรีตขัดมัน แบ่งช่องจอดไว้เรียบร้อย บรรยากาศดูโปร่งโล่งดี ด้วยแสงธรรมชาติที่ลอดเข้ามาในอาคารได้
จากที่จอดรถชั้น 1 จะมีทางเดินเชื่อมเข้าสู่ทางเข้า Lobby เป็นบรรยากาศทางเดินในสวนแบบนี้
ทางลาดขึ้นที่จอดรถบนชั้น 2 ก็มีขนาดทางที่กว้างได้มาตรฐานดี และจะแยกทางขึ้นลงไว้ชัดเจน
ที่จอดรถชั้นบนเป็นทางเดินรถแบบ One-Way ทำให้ได้ช่องทางเดินรถกว้าง และได้แสงธรรมชาติเข้ามาเยอะด้วย
ตรงไปเรื่อยๆ จะเป็นทางเข้าตัวอาคาร ทำให้สามารถเข้าอาคารได้จากส่วนที่จอดรถเลย แต่ส่วนนี้ต้องใช้ Key Card นะคะ
ออกจากที่จอดรถในอาคารจะพาวนไปตามทางวนรถรอบอาคารกันต่อนะคะ
อย่างที่ชมไปตั้งแต่ต้นว่าโครงการให้ต้นไม้ใหญ่มาค่อนข้างร่มรื่นทีเดียว ก็จะได้บรรยากาศประมาณนี้
ตรงมาเรื่อยๆ จะเจอวงเวียนอีกตำแหน่งหนึ่ง ด้านขวามือเป็นจัดเป็น Backyard BBQ ใต้ต้นไม้ใหญ่ ให้ลูกบ้านมาจัดปาร์ตี้เล็กๆ ปิ้งบาร์บีคิวกันในบริเวณนี้ได้
พื้นที่ Backyard BBQ จะมีที่นั่งโดยรอบต้นไม้ให้นั่งได้ประมาณ 10 คน และยังจัดพื้นที่สำหรับล้างมือ ล้างจานไว้ให้เรียบร้อยด้วย
ด้านข้างวงเวียนหากมองไปทางขวามือเป็นจะเป็นจุด Drop-Off สำหรับรับ-ส่งลูกบ้าน ซึ่งพอส่งลูกบ้านเสร็จแล้วก็สามารถมากลับรถที่วงเวียนนี้ แล้ววนรถกลับออกไปได้สะดวกค่ะ
ถัดไปจากวงเวียนจะมี Facilities ส่วนกลางอีกอย่างหนึ่งคือคอร์ดแบตมินตัน แต่เป็นสนามแบบกลางแจ้ง เอาไว้ออกกำลังเล่นๆ ได้ แต่ก็จะมีลมพัดมาบ้างนะคะ
วนต่อไปตามทางเดินรอบโครงการ จะมีพื้นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์แยกเป็นสัดส่วนไว้ชัดเจน
ภายในแบ่งเป็นช่องจอดย่อยๆ จอดได้เกือบ 20 คัน นะคะ
จากนั้นวนไปต่อไปตามทางเดินรถ ก็จะกลับมาที่วงเวียนบริเวณหน้าทางเข้าโครงการค่ะ
ต่อไปจะพาไปดูในตัวอาคารกันบ้างที่จะอยู่ทางขวาของวงเวียนหน้าโครงการนะคะ
ทางขึ้นอาคารมีการออกแบบทางลาดไว้ ทำให้สะดวกทั้งผู้ที่ต้องใช้ Wheelchair หรือใช้รถเข็นสำหรับขนของเข้าสู่อาคารพักอาศัยได้อย่างสะดวก
ประตูทางเข้าอาคารเป็นประตูกระจกบานใหญ่ สามารถเดินเข้าได้เลยไม่ต้อง Key Card นะคะ ทำให้แขกของลูกบ้านสามารถเข้าไปนั่งรอใน Lobby ได้
บรรยากาศภายใน Lobby โปร่งโล่ง เพราะได้เพดานสูงแบบ Double Space การตกแต่งภายในดูหรูหราเกินราคาของคอนโดระดับนี้ ส่วนหนึ่งจากการเลือกใช้วัสดุตกแต่งที่หรูหรา
ในพื้นที่ Lobby จะแบ่งเป็นโซนต่างๆ อย่างพื้นที่นั่งคอยตรงนี้จะมี Exotic Football Machine ให้ลูกบ้านมานั่งเล่นสนุกสนานกันได้
บางส่วนใน Lobby เป็นพื้นที่นั่งรอในแบบต่างๆ ทั้งแบบที่นั่งตามเคาน์เตอร์
นอกจากนี้ยังมีชุดโซฟาที่ได้วิวสวนด้านนอกอีกมุมหนึ่งด้วยค่ะ
ผ่านโซน Lobby เข้ามา ซ้ายมือเป็นห้องตู้จดหมาย ขวามือเป็นห้องน้ำส่วนกลาง ถ้าเดินไปด้านในจะเป็นทางไป Lift Lobby ค่ะ
บรรยากาศภายในห้องจดหมาย มีความสว่างดีจากแสงไฟ และกล่องจดหมายถูกแยกไว้ของแต่ละยูนิตอย่างชัดเจน
เดินเข้ามาด้านในสุดตรงกลางเป็นประตูทางเข้า-ออกไปยังลานจอดรถ ส่วนขวามือเป็นประตูทางเข้า-ออก Lift Lobby โดยทั้ง 2 ประตู จะต้องใช้ Key Card ในการเข้า-ออกเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยค่ะ
แสกน Key Card ผ่านเข้ามาภายในโถงลิฟท์ โถงลิฟท์ทุกชั้นจะมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ แบ่งเป็นแบบบานกระทุ้ง 2 บาน สำหรับเปิดระบายอากาศ และ แบบบาน Fix เปิดรับแสงในช่วงกลางวัน อาคารนี้มีลิฟท์โดยสารทั้งหมด 4 ตัว เป็นแบบไม่ล็อกชั้นนะคะ
มาต่อกันที่ชั้น 2 ยังเป็นพื้นที่ของ Facilities ได้แก่ ห้องซักรีดและห้องนิติบุคคล อีกส่วนหนึ่งคือที่จอดรถที่ติดอยู่กับ Lift Lobby ซึ่งที่จอดรถสามารถเดินเชื่อมเข้าโถงลิฟต์ และกดลิฟต์ขึ้นห้องพักอาศัยขึ้นไปได้เลย
โถงลิฟท์โดยสารบนชั้นพักอาศัย ตกแต่งเรียบง่าย โทนสีขาว-เทา-ดำ
ด้านข้างลิฟต์จะเห็นมีประตูที่เชื่อมกับพื้นที่จอดรถ
เดินมาอีกหน่อยจะมีทางเข้าห้องซักรีด ส่วนสุดปลายทางเดินจะเป็นห้องนิติบุคคลค่ะ
ภายในห้องซักรีดจะมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญไว้ให้บริการ 3 เครื่อง และเครื่องกดน้ำอีก 1 ตู้
มาต่อกันที่ชั้น 3-4 ของตึกค่ะ เป็นชั้นแรกที่เริ่มมีห้องพักอาศัยในอาคาร โดยส่วนใหญ่จะเป็นห้องที่ออกทางทิศเหนือและทิศใต้ โดยมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 18 ห้อง ดังนี้
- ห้อง Studio ขนาด 22.5 ตร.ม. 2 ห้อง
- ห้อง 1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม. อีก 14 ห้อง
- ห้อง 2 Bedroom ขนาด 46 ตร.ม. อีก 2 ห้อง
ทางเดินจัดเป็น Double Corridor วางห้องพักขนาบทางเดิน 2 ฝั่ง ลิฟต์มี 4 ตัวเป็นแบบไม่ล็อกชั้น มีอัตราส่วนลิฟท์เฉลี่ยทั้งโครงการถือว่าน้อยมากอยู่ที่ 153 : 1 จัดว่าสบายๆ ไม่แชร์กันเยอะเท่าไหร่ ส่วนบันไดหนีไฟจะมี 3 ตำแหน่งกระจายตัวอยู่ทั้งฝั่งซ้ายขวาของอาคาร ซึ่งบันไดทั้งหมดสามารถลงไปยังชั้น 1 ได้ค่ะ การจัดวางห้องในอาคารใช้วิธีการจัดวางเรียงไปตามรูปทรงอาคาร มีการจัดวางผังมาได้ดีเพราะไม่มีห้องที่ตรงกับทางเดิน หรือที่เรียกว่าห้องที่ตรงกับทางสามแพร่งเลย
ต่อไปเป็นเรื่องของวิว สำหรับห้องที่หันไปทางทิศเหนือ จะโดนบล๊อกวิวด้วยคอนโด Aspire (Timber Zone) นะคะ แต่ก็ไม่ได้บล๊อกในระยะประชิดขนาดนั้น จะมีพื้นที่ระหว่างอาคารเว้นไว้ให้พักหายใจได้พอสมควร แค่จะไม่ได้วิวโล่งๆ กว้างๆ ตลอดทั้งแนว ส่วนห้องที่หันไปทางทิศใต้เป็นอีกทิศหนึ่งที่ได้วิวที่ดี น่าอยู่ เพราะจะหันหน้าออกจากเมือง ทำให้ได้วิวต้นไม้ ดูโล่งๆ เลยค่ะ
มาดูแปลนอาคารชั้น 5 กันต่อ ในชั้นนี้จะมีห้องพักอาศัยแบบเต็มชั้นเลยนะคะ และ ยังมีพื้นที่ส่วนกลางหลักๆ อย่างสระว่ายน้ำและห้อง Fitness ด้วย ซึ่งการจัดวางผังบนชั้นพักอาศัยที่มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้วยนั้น ถือว่าจัดออกมาได้ดี คือจะมีประตูกั้นพื้นที่ส่วนพักอาศัยอีกทีหนึ่ง ทำให้ห้องพักอาศัยในชั้นนี้ยังคงได้รับความปลอดภัยนะคะ โดยมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 33 ห้อง ดังนี้
- ห้อง Studio ขนาด 22.5 ตร.ม. 3 ห้อง
- ห้อง 1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม. 26 ห้อง
- ห้อง 2 Bedroom ขนาด 46 ตร.ม. อีก 4 ห้อง
สำหรับวิวของห้องทางทิศเหนือและทิศใต้จะเหมือนกับห้องพักบนชั้น 3-4 เลย แต่สำหรับชั้นนี้จะมีห้องพักทางทิศตะวันออกและตะวันตกเพิ่มขึ้นมา ซึ่งวิวทางทิศตะวันออกจะได้คล้ายๆ กับทิศใต้คือไม่มีอาคารบังวิว แต่ทางทิศตะวันออกนี้จะได้วิวอาคารสูงในระยะไกล เพราะเป็นฝั่งที่หันหน้าเข้าเมืองนะคะ ส่วนห้องทางทิศตะวันตกจะได้วิวสระว่ายน้ำ แลกมากับการบล๊อกวิวด้วยอาคารสูงอย่างคอนโด Aspire (Timber Zone) 25 ชั้น
ออกจากลิฟต์มาที่โถงลิฟ์ของชั้น 5 กัน เป็นชั้นที่มีพื้นที่ส่วนกลางหลักอย่าง สระว่ายน้ำ และห้อง Fitness ก็เดินเลี้ยวขวาไปตามป้าย Facility ของโครงการค่ะ
เดินมาตามทางซ้ายมือเป็นประตูทางเข้าสระว่ายน้ำ ส่วนทางขวาจะมีประตูแยกโซนห้องพักอาศัย ซึ่งต้องใช้ Key Card อีกทีหนึ่ง เพื่อความปลอดภัย และเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยค่ะ
ผ่านประตูออกมาก็จะเข้าสู่พื้นที่สระว่ายน้ำส่วนกลางแล้ว จะพาไปดูกันทีละส่วนนะคะ
จากทางเข้าจะเจอจุดอาบน้ำล้างตัวก่อนลงสระ ถัดไปเป็นทางเดินยาวที่เชื่อมระหว่างห้อง Fitness กับสระว่ายน้ำ
บรรยากาศบริเวณตัวสระ เป็นสระที่ยกตัวขึ้นจากทางเดินทำให้สระดูน่าใช้งานยิ่งขึ้น ด้านข้างมีต้นไม้ตลอดแนวดูร่มรื่นดีค่ะ
สระว่ายน้ำเป็นแบบน้ำล้น ระบบเกลือ ขนาด 26 x 6 ม. ทำให้มีพื้นที่ว่ายน้ำเป็นทางยาวให้พอว่ายออกกำลังกายได้จริง
ด้านข้างมีพื้นที่นั่งเล่นริมสระ สำหรับใครที่ไม่ชอบว่ายน้ำหนักๆ ก็สามารถมานั่งแช่น้ำเล่นอยู่ตรงนี้ได้
สำหรับพื้นที่พักผ่อนริมสระว่ายน้ำจะปูพื้นกระเบื้องลายไม้เอาไว้ และจัดวาง Sunbed ไว้ให้นั่งเล่นค่ะ
นอกจากนี้อีกฝั่งหนึ่งของสระ จะจัดเป็นโซนนั่งเล่นแบบม้านั่งยาว ที่สามารถใช้นั่งชมวิวสระหรือวิวมุมสูงภายนอกอาคารได้ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามสระว่ายน้ำจัดไว้เป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง และติดกันเป็นห้อง Fitness ค่ะ
จะพาเข้าดูภายในห้องน้ำหญิงนะคะ ซ้ายมือมี Locker สำหรับเก็บของจัดเตรียมไว้ให้ ในห้องน้ำจะมีห้องสุขา 3 ห้อง และ ห้องอาบน้ำอีก 2 ห้องค่ะ
เข้ามาด้านในห้องน้ำมีพื้นที่ให้ใช้งานพร้อมกันได้หลายๆ คน และมีอ่างล้างหน้าไว้ให้ทั้งหมด 3 ชุด พร้อมกระจกเงาบานใหญ่
บรรยากาศในส่วนของห้องสุขาและห้องอาบน้ำ ก็ดูสะอาดเรียบร้อยดีค่ะ
ต่อไปมาดูบรรยากาศภายในห้อง Fitness กันบ้าง จะรู้สึกว่าห้องนี้ดูโปร่งโล่งมาก ด้วยฝ้าเพดานสูงและกระจกที่ล้อมรอบถึง 3 ด้าน ภายในห้องมีเครื่องออกกำลังกาย และ อุปกรณ์การออกกำลังกาย แบรนด์ Johnson ประมาณ 10 เครื่อง
ฝั่งหนึ่งของห้อง Fitness จะได้วิวทางทิศตะวันตก เห็นอาคาร Aspire Timber zone และพื้นที่สีเขียวด้านนอกอาคาร
ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะได้วิวสระว่ายน้ำ ทำให้ดูน่าใช้งานดีค่ะ
มาต่อกันที่ ชั้น 6-21 ของตึกค่ะ ในชั้นนี้จะจัดแปลนจะเหมือนกับชั้น 5 เลย ต่างกันคือในชั้นนี้จะไม่มีพื้นที่ส่วนกลางเท่านั้นค่ะ เรื่องของวิวก็จะคล้ายกับที่ชั้น 5 นะคะ แต่จะมีมุมมองของวิวที่สูงขึ้น กว้างขึ้น ตามความสูงของชั้นพักอาศัยนั้นๆ
สำหรับชั้นดาดฟ้า จะต้องเดินผ่านบันไดหนีไฟขึ้นมานะคะ ไม่ได้มีลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นนี้ค่ะ โดยพื้นที่ส่วนกลางในชั้นนี้จะมีสวนส่วนกลางให้นั่งชมวิว เปลี่ยนบรรยากาศ และ ลานพัตต์กอล์ฟเล็กๆ ค่ะ
จากโถงลิฟต์บนชั้น 21 แล้วเดินเลี้ยวซ้ายไปยังทางขึ้นบันไดหนีไฟ
ขึ้นบันไดไปชั้นดาดฟ้า จะมีป้ายติดไว้ว่าพื้นที่หนีไฟทางอากาศ
บรรยากาศบนชั้นดาดฟ้าจะเป็นพื้นที่สวนเปิดโล่ง จึงเหมาะที่จะขึ้นมาใช้งานในเวลาเย็นที่แดดร่มลมตกแล้วเท่านั้นนะคะ
ภาพรวมจะมีม้านั่งริมพุ่มไม้ ให้ขึ้นมานั่งเล่น
บางส่วนบนสนามหญ้าจะเป็นลานพัตต์กอล์ฟ ให้มาฝึกซ้อมกันได้นิดหน่อยค่ะ
มาดูวิวกันบ้างว่าในแต่ละทิศของอาคารจะได้วิวอย่างไรกันบ้าง ทางทิศเหนือ ภาพรวมดูโล่งๆ มองเห็นวิวของถนนราชพฤกษ์ ด้านข้างทางขวาเห็นคอนโดสูง IDEO วุฒากาศ อยู่ในระยะไกลค่ะ
ทางทิศตะวันออก จะได้วิวโล่งๆ แบบเห็นวิวอาคารสูงในระยะไกลแบบนี้ค่ะ
ส่วนทางทิศใต้บริเวณด้านหลังโครงการ เป็นที่ดินบุคคลอื่น ใครที่ชอบวิวเขียวๆ ของต้นไม้ เลือกฝั่งนี้ก็น่าจะถูกใจ
สุดท้ายทางทิศตะวันตก บางส่วนของอาคารจะถูกบล็อกวิวด้วยคอนโด Aspire (Tmber Zone) 25 ชั้น แต่บางมุมก็สามารถมองผ่านออกไปรับวิวได้ แต่วิวมันจะไม่โล่งๆ เท่าทิศอื่นๆ นะคะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 26 x 6 เมตร ลึก 1.3 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- Backyard BBQ
- Badminton Yard
- Golf putt on rooftop garden
- ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 153 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถคิดเป็น 46 % รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
- พนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
สำหรับโครงการ แอสปาย สาทร-ตากสิน Copper Zone มีห้องพักให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้
- Studio : 22.50 ตร.ม.
- 1 Bedroom : 26.00 ตร.ม.
- 2 Bedrooms : 46.00 ตร.ม.
Type แรกที่จะพาชมคือห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม. รูปทรงสี่เหลี่ยมเกือบจัตตุรัสทำให้การวางฟังก์ชันห้องค่อนข้างลงตัว เริ่มจากโซนนั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารที่มีพื้นที่ให้ใช้งานได้เหมาะสม แต่อาจจะใช้พื้นที่ใช้สอยได้ไม่เต็มที่เพราะส่วนใหญ่ของห้องเป็นพื้นที่ทางเดินด้วย ในส่วนของห้องนอนนั้นมีฉากกระจกกั้นสัดส่วนให้เรียบร้อย สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าได้ลงตัวพอดี ส่วนห้องครัวเป็นแบบทางยาว ตำแหน่งและการจัดวางห้องครัวสามารถทำอาหารหนักได้ เพราะเป็นครัวปิดและติดกับพื้นที่ระเบียงทำให้สามารถเปิดระเบียงระบายอากาศได้สบายค่ะ
ถัดมาในส่วนของห้องน้ำนั้นจะค่อนข้างแตกต่างกว่าโครงการทั่วไปเนื่องจากเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป (สร้างและประกอบที่โรงงาน ค่อยมาติดตั้งหน้างาน) ข้อดีของห้องน้ำประเภทนี้คือคุณภาพค่อนข้างดีเพราะประกอบจากโรงงานมีการ QC ไม่เหมือนห้องน้ำทั่วไปที่ต้องแล้วแต่โชคว่าช่างที่ทำให้ห้องเรานั้นทำเก่งรึเปล่า การซ่อมแซมง่าย ไม่รั่วซึม ทำความสะอาดง่าย แต่ข้อเสียก็มีนะคะ คือเรื่องราคาที่สูงกว่าห้องน้ำธรรมดา และขนาดที่ไม่มีให้เลือกได้มากนัก พื้นห้องน้ำจะยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้อง ออกแบบมากะทัดรัด เพื่อประหยัดเนื้อที่ใช้สอยส่วนอื่นๆ ซึ่งยากที่จะต่อเติมหรือขยับขยายแน่นอน สำหรับใครที่สนใจในการศึกษาห้องน้ำสำเร็จรูปเพิ่มเติม (คลิกที่นี่)
รูปแบบการขายของโครงการเป็นแบบ Fully Fitted จะได้เฟอร์นิเจอร์เฉพาะ Pantry ครัว, สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำ เท่านั้น ยกเว้นห้องพักในชั้น 3 -11 ที่ทางโครงการจัดขายแบบ Fully Furnished จะได้ของตามนี้ค่ะ
- เตียง (ไม่รวมฟูก) ขนาด 5 ฟุต
- โต๊ะเครื่องแป้ง
- ตู้เสื้อผ้าแบบลอยตัว
- Pantry ครัว
- ชั้นวางทีวี
- โซฟา
- โต๊ะรับประทานอาหาร
- สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำ
ประตูหน้าห้องเป็นบานประตูไม้ HDF ที่มีคุณสมบัติในการกันความชื้นได้ดีกว่าบานประตูไม้อัด มือจับรูปตัวแอลแบบทั่วไป ส่วนด้านหลังบานประตูจะมี Stopper ติดให้เรียบร้อย
เข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นเป็นส่วนแรก ถัดไปเป็นห้องนอน ซึ่งห้องนั่งเล่นนี้ใช้เป็นที่นั่งดูทีวีและพื้นที่รับประทานอาหาร
สำหรับบางห้องที่ได้แบบ Fully Furnished จะได้ชุดที่นั่งโซฟาที่ค่อนข้างตอบโจทย์ห้องที่ไม่มีพื้นที่มากนัก พร้อมโต๊ะอาหารข้างๆ แบบ 2 ที่นั่ง พอโครงการทำมาให้พอดีแบบนี้ลูกบ้านสบายหน่อยเพราะไม่ต้องไปวิ่งหาซื้อโซฟาหาให้มีขนาดพอดีกับระยะกำแพง แต่เรื่องแบบถ้าใครไม่ชอบก็ต้องทำใจหน่อยนะคะ
ชั้นวางทีวีสำหรับห้องที่ได้แบบ Fully Furnished ก็จะได้เหมือนห้องตัวอย่างเลยนะ ซึ่งด้านล่างเป็นตู้เก็บของที่สามารถทำเป็นชั้นวางรองเท้าได้นะเออ สำหรับห้องที่เป็นแบบ Fully Fitted ก็จะไม่มีชั้นวางตรงนี้ให้นะคะ แต่ระยะค่อนข้างมาตรฐาน สามารถหาแบบที่ชอบมาติดตั้งเองได้เลย ระยะทางของทีวีอยู่ที่ 2.4 เมตร เป็นระยะที่สามารถวางทีวี 40 – 42 นิ้วได้สบายๆ เลยค่ะ
เดินเข้ามาอีกหน่อยจะเห็นห้องครัวอยู่ตรงกลาง ทางขวาเป็นห้องนอน ส่วนทางซ้ายเป็นห้องน้ำค่ะ
ในส่วนของห้องน้ำค่อนข้างพิเศษจากโครงการอื่นคือ เป็นห้องน้ำสำเร็จรูป จากที่ได้อธิบายข้อดีข้อเสียไว้ก่อนหน้าแล้ว เราไปดูกันค่ะว่าห้องน้ำสำเร็จรูปจะแตกต่างจากห้องน้ำปกติอย่างไร
เริ่มจากธรณีที่สูงขึ้นกว่าปกติ เนื่องจากพื้นห้องน้ำสำเร็จรูปที่ต้องซ้อนทับลงบนพื้นห้องอีกที ทำให้พื้นห้องน้ำสูงกว่าพื้นห้องขึ้นไปอีก
อ่างล่างมือจาก Mogen ขนาดประมาณนี้ ด้านข้างอ่างมีพื้นที่วางของได้นิดหน่อย
โถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำจาก Mogen เช่นกัน
ด้านในสุดของห้องน้ำเป็นพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งจะติดตั้งอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำไว้เรียบร้อย แต่ไม่ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะ คงจะต้องติดเพิ่มเองค่ะ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1 x 0.75 ม. โดยพื้นอาบน้ำจะถูกยกพื้นขึ้นมาจากพื้นที่ส่วนแห้งอีกทีนึง ซึ่งเวลาอาบน้ำ น้ำก็คงจะกระเด็นออกมาได้นะ คงต้องติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มอย่างที่แนะนำไว้ค่ะ
หน้าตาของฝักบัวอาบน้ำที่ได้ มีขนาดฝักบัวพอใช้งานได้ดีและแข็งแรงพอสมควร
มาต่อกันที่ห้องครัว จะได้เป็นครัวปิดนะคะ ภายในห้องปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดได้ดีเหมาะกับการใช้งาน ภายห้องครัวมีพื้นที่ให้สามารถวาง Pantry ครัวและตู้เย็นได้
พื้นที่ทางเดินในครัวเหลือประมาณ 90 ซม. ซึ่งก็ถือว่าเดินได้สะดวกดีค่ะ
ขนาดที่เหลือสำหรับวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้สบายๆ เลย
เคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง ได้ตู้มีหน้าบานปิดผสมกับตู้ช่องโล่งไว้ใส่ของ และมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟด้วย
ในส่วนของ Pantry ครัวนั้น จะได้ Top เป็นไม้ Particle ถึงแม้ตัววัสดุจะทนน้ำได้ดีในระดับนึงแต่ก็ไม่ควรให้มีน้ำหยดหรือแช่บนเคาน์เตอร์นานๆ นะคะ
อ่างล้างมือได้ของ MEX ไม่มีที่พักจานด้านข้างให้ ตัวอ่างมีความลึกพอสมควร ที่จะทำให้เวลาล้างจานแล้วน้ำจะไม่กระเด็นออกมาเลอะเทอะง่าย
ส่วนตู้ลอยด้านบนจะได้ตามแบบในห้องตัวอย่างนี้ พร้อมกับปูกระเบื้องติดผนังให้ด้วยช่วยให้ง่ายต่อการทำความสะอาดได้ดีเลยค่ะ
ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงด้านนอก โดยกรอบประตูจะอยู่บนขอบธรณีที่ยกสูงขึ้นอีกทีนึง ซึ่งขอบธรณีนี้จะช่วยกันน้ำจากภายนอกไม่ให้ไหลเข้าสู่ภายในตัวห้อง
พื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.9 x 1.4 เมตร ไม่ใหญ่มากนัก พอให้วางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าเล็กๆ ได้อีกนิดหน่อย
ต่อไปมาดูส่วนของห้องนอนกันค่ะ ประตูห้องนอนเป็นประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 2 ตอน เป็นบานค่อนข้างใหญ่จึงเปิดออกมาได้กว้าง แต่ด้วยความที่เป็นบานกระจกก็จะทำให้เสียความเป็นส่วนตัวภายในห้องนอนไปได้ ก็สามารถติดม่านบังสายตาเพิ่มเติมได้ พื้นที่ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงได้ 5 ฟุตสบายๆ และเหลือพื้นที่ด้านข้างให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ 2 ข้างด้วยนะคะ
เนื่องจากตัวรางประตูนั้นถูกเซาะร่องให้รางอยู่ในระนาบเดียวกับพื้น ทำให้พื้นห้องปูพื้นได้ต่อเนื่องเดินสบายไม่สะดุดเท้าค่ะ
พื้นที่รอบเตียงสามารถเดินได้โดยรอบ กำลังดีไม่แคบมากไปนัก ทางเดินปลายเตียงมีพื้นที่ให้พอยืนเลือกเสื้อผ้าในตู้ได้สะดวกด้วยค่ะ
ในส่วนของปลายเตียงนั้นเป็นตำแหน่งของโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า สำหรับห้องที่ขายแบบ Fully Furnished จะได้โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า ซึ่งจะได้เป็น Built-in มาใแบบนี้เลย โต๊ะเครื่องแป้งมีขนาดใหญ่พอสมควรให้สามารถวางของใช้ได้ ด้านข้างมีพื้นที่ว่างเหลือให้สามารถวางของเพิ่มเติมได้อีกค่ะ
ในส่วนของตู้เสื้อผ้าจะได้เป็นแบบ Built-in มาแบบนี้เช่นกัน ภายในมีชั้นวางของด้านล่างเป็นช่องโล่งไว้ให้ และมีชั้นวางของด้านบนไว้สำหรับเก็บผ้าห่มด้วย
มือจับตู้เสื้อผ้าจะติดเป็นชิ้นเดียวมากับบานตู้เลย ด้านข้างจะติดเส้นกำมะหยี่ไว้ให้ เพื่อช่วยกันฝุ่นอีกทีหนึ่ง
ภายในห้องนอนนั้นได้กระจกบานใหญ่พอสมควร เป็นบาน Fix ผสมบานกระทุ้ง ทำให้สามารถเปิดรับลมหรือระบายอากาศได้ดี ซึ่งจากห้องนอนสามารถมองวิวได้สบายๆ แต่อยู่ในระดับที่นอนมองวิวจากเตียงนอนไม่ชัดนะคะ
ต่อไปมาดูห้องขนาด 46 ตร.ม. เป็นห้อง 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ โดยมีห้องครัวอยู่ตรงกลางติดกับพื้นที่ระเบียงที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าห้องแบบแรก เข้ามาในห้องจะเจอโซนนั่งเล่นและพื้นที่ทานอาหารก่อนเป็นอันดับแรก ทุกห้องถูกกั้นเป็นสัดส่วนทำให้โดยรวมดูดี ห้องนี้เป็นห้องหัวมุมหน้ากว้างทำให้ได้ช่องแสงเยอะกว่าห้องทั่วไป แต่ตำแหน่งของห้องน้ำจะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศ ทำให้ต้องพึ่งพาระบบของอาคารล้วนๆ สำหรับห้องน้ำจะมีประตูทางเข้าได้ 2 ทาง ทำให้ห้องนอนใหญ่เป็นห้องที่มีห้องน้ำในตัว
จากประตูห้องเปิดเข้ามาจะเจอพื้นที่ทานอาหารและนั่งเล่นนะคะ พื้นที่ส่วนนี้จะมีโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่ง ถัดเข้าไปเป็นชุดโซฟา สำหรับนั่งเล่น ดูทีวีค่ะ
มองกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง สำหรับห้องที่ขายแบบ Fully Furnished จะมีตู้ใส่รองเท้า Built-in ให้อยู่ด้านหลังประตู ติดกันกับตู้รองเท้าเป็นทางเข้าห้องน้ำ ซึ่งเป็นห้องน้ำที่ทุกคนในบ้านต้องแชร์ร่วมกัน ถัดไปจากห้องน้ำคือห้องนอนใหญ่ และถัดไปที่เป็นประตูกระจกคือทางเข้าห้องครัวค่ะ
ตู้รองเท้าที่ทางโครงการ Built-in ไว้ให้ ด้านในแบ่งเป็นชั้นวางรองเท้าและช่องใส่ของเล็กๆ น้อยๆ หน้าห้อง
มาดูบรรยากาศภายในห้องน้ำของแบบ 2 ห้องนอน มีขนาดไม่เล็กจนเกินไปและจัดแบ่งพื้นที่ภายในเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้ชัดเจน
สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำที่ได้รับจะเหมือนกับห้องแบบแรก แต่พื้นที่ใช้สอยภายในห้องน้ำจะได้พื้นที่ที่กว้างขึ้น
ประตูเข้าห้องน้ำสามารถเข้าได้ 2 ทางนะคะ ทางหนึ่งคือทางเข้าจากพื้นที่ทานอาหาร และอีกทางหนึ่งคือทางเข้าจากห้องนอนใหญ่
สำหรับพื้นที่อาบน้ำจะถูกยะระดับขึ้นไปจากพื้นส่วนแห้งอีกทีหนึ่ง ภายในติดอุปกรณ์อาบน้ำไว้ให้เรียบร้อย แต่ในพื้นที่อาบน้ำควรต้องติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มขึ้นอีกหน่อยนะคะ
ต่อไปจะพามาชมห้องนอนใหญ่ ภายในมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้างและได้หน้าต่างบานใหญ่ ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งดี
พื้นที่รอบเตียงมีระยะให้สามารถเดินขึ้นเตียงได้โดยรอบ ส่วนพื้นที่ข้างเตียงด้านที่ติดกับตู้เสื้อผ้าจะมีพื้นที่ให้สามารถยืนเลือกเสื้อผ้าได้สะดวก
ส่วนหน้าต่างห้องนอนจะได้เป็นบาน Fix ผสมบานกระทุ้งให้สามารถเปิดระบายอากาศได้สะดวก บานหน้าต่างค่อนข้างใหญ่ทำให้มีช่องให้ดูวิวทิวทัศน์ได้กว้างพอสมควร
ตู้เสื้อผ้าเหมือนในห้องนอนแบบแรกเลย ส่วนด้านข้างเตียงจะมีพื้นที่ให้สามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วย
ติดกับห้องนอนใหญ่เป็นประตูทางเข้าห้องครัว ซึ่งเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ก็มีข้อดีที่ทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านห้องครัวเข้ามาในห้องนั่งเล่นได้อีกด้วย
พื้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องครัวถูกกั้นชัดเจนด้วยรางประตูบานเลื่อน ซึ่งประตูนี้เปิดได้ฝั่งเดียว พอเปิดก็จะมีทางเดินกว้างประมาณ 80 ซม. ไม่ได้กว้างมากแต่ก็เดินผ่านแบบปกติได้สบายๆ แต่ถ้าถือหม้อ ยกจานชามออกมาก็ต้องเดินระวังหน่อยค่ะ
ครัวของห้อง Type นี้จะได้พื้นที่ใช้สอยในห้องครัวที่เพิ่มขึ้น ทำให้เคาน์เตอร์ครัวเป็นแบบขนาน มีทางเดินอยู่ตรงกลาง ซึ่งมีระยะทางเดินประมาณ 1 ม. สามารถยืนทำครัวได้สบายๆ นะคะ
เคาน์เตอร์ที่ให้จะได้ตามแบบในห้องตัวอย่าง คือจะมีตู้ช่องโล่งให้ใส่ของ ใส่เครื่องไมโครเวฟและมีลิ้นชักให้เก็บอุปกรณ์ทานอาหารได้อีกด้วย
สำหรับ Top ของเคาน์เตอร์จะได้เป็นไม้ Particle เช่นเดียวกับห้องครัวในแบบแรก ไม่ได้เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันนะ ใครชอบแบบไหนก็สามารถเลือกติดกันเองได้เลย ส่วนตู้ลอยด้านบนได้เหมือนในห้องตัวอย่างเช่นกันค่ะ
เคาน์เตอร์อีกฝั่งหนึ่งจะมีช่องโล่งด้านล่างเคาน์เตอร์สำหรับวางเครื่องซักผ้า ติดกันเป็นซิงค์ล้างจานของ Mex
พื้นที่ทำครัวของโครงการนี้มีข้อดีที่ให้ Backsplash มาด้วย ทำให้เวลาที่ทำอาหารแล้วเกิดมีคราบกระเด็นขึ้นมาก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย แต่สำหรับ Top ที่เป็นไม้ Particle นั้นต้องดูแลรักษาให้ดีหน่อยนะคะ เพราะไม้แบบนี้จะแช่น้ำนานๆ ไม่ได้ ต้องคอยเช็ดออกให้แห้งนะคะ
ติดกันกับเคาน์เตอร์ครัวเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ถ้าใครจะซื้อตู้เย็นมาวางก็ลองวัดพื้นที่ดีๆ นะ
ด้านในสุดของห้องครัวเป็นประตูกระจกบานเลื่อนสำหรับเปิดออกไประเบียงด้านนอก
พื้นที่ระเบียงที่ได้มีขนาดกว้างขึ้นกว่าห้องแบบแรก สามารถวางราวตากผ้าขนาดใหญ่ขึ้นได้ และไม่ต้องเผื่อพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าด้วย เพราะทางโครงการเตรียมตำแหน่งของเครื่องซักผ้าให้อยู่ใต้เคาน์เตอร์ครัวแล้วค่ะ
ออกจากห้องครัวมายังโถงส่วนกลาง เป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารและชุดโซฟานั่งเล่น
สำหรับห้องที่ขายแบบ Fully Furnished จะได้โต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่ง พื้นที่ตรงนี้มีขนาดค่อนข้างมาตรฐาน ห้องไหนที่ขายแบบ Fully Fitted ก็สามารถเลือกซื้อโต๊ะทานข้าวในแบบที่ชอบได้เลย ข้างโต๊ะทานข้าวมีพื้นพอสมควรให้สามารถดึงเก้าอี้ออกมานั่งทานข้าวได้
ติดกับโต๊ะทานข้าวเป็นโซนนั่งเล่น พื้นที่ตรงนี้มีข้อดีที่ได้ช่องแสงอยู่ติดกับโซฟานั่งเล่นเลย ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งและยังสามารถมองวิวออกไปด้านนอกได้ด้วย มีระยะดูทีวีประมาณ 2.5 เมตร ใส่ทีวีขนาดพอเหมาะที่ 52 นิ้ว ผนังฝั่งชั้นวางทีวีมีพื้นที่ให้สามารถ Built-in ได้ค่อนข้างใหญ่ สามารถเลือกรูปแบบและ function ตามที่ถูกใจได้หลากหลาย สำหรับห้องที่ขายแบบ Fully Furnished จะได้ชั้นวางทีวีและชุดโซฟาตามแบบในห้องตัวอย่าง เป็นโซฟาผ้าหนานุ่มดีค่ะ
สำหรับห้องสุดท้ายคือห้องนอนเล็ก แต่พื้นที่ภายในห้องไม่ได้เล็กเท่าไหร่นะ เพราะมีพื้นที่ให้พอวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้ครบเลยทีเดียว ทั้งเตียงขนาด 5 ฟุตและตู้เสื้อผ้า แต่ถ้าใครใส่เตียงเดี่ยวในห้องนี้ก็จะมีพื้นที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานได้อีก อีกทั้งภายในห้องก็มีช่องแสงเป็นของตัวเองทำให้ห้องดูโปร่ง และได้วิวจากภายในห้องด้วย
สำหรับพื้นที่ทางเดินโดยรอบเตียง ก็มีพื้นที่ให้สามารถเดินขึ้นเตียงได้โดยรอบค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่งมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า มีขนาดตู้ที่ใหญ่พอสมควรให้สามารถเก็บเสื้อผ้า เก็บของใช้ได้
สวิชต์เปิด – ปิดและปลั๊กไฟจะได้ของ Bticino ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 5 July 2017
- Studio ขนาด 22.62 -22.77 ตร.ม. ราคา 1.75-2.01 ล้านบาท หรือ
- 1 Bedroom ขนาด 26.33 -26.71 ตร.ม. ราคา 2.04-2.35 ล้านบาท หรือ
- 2 Bedrooms ขนาด 46.37 – 46.67 ตร.ม. ราคา 3.66-3.84 ล้านบาท หรือ
- Fully Fitted
- ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา 10,000-20,000 บาท
- ค่ากองทุน 350 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
- Promotion ฟรีเฟอร์นิเจอร์ ชั้น 3-11, ฟรีค่าส่วนกลางล่วงหน้า 1 ปี, ฟรีค่าธรรมเนียมการโอน, ฟรีค่ากองทุนแรกเข้า
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเล – Aspire สาทร-ตากสิน (Copper Zone) ตัวทำเลโครงการจัดอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างเหมาะกับ Local Demand ของคนฝั่งธน ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการในระยะเดินเท้า 400 เมตร จัดอยู่ในระดับพอมีที่ให้พึ่งพาได้เล็กน้อย จาก Family Mart หน้าทางเข้าโครงการและร้านรวงริมถนน แต่หลักๆต้องอาศัยใช้รถส่วนตัว หรือนั่งรถไป
การเดินทางโดยใช้รถ – ไม่ค่อยสะดวกในการเข้าออกโครงการ ต้องไปวนไปยูเทิร์นไกล ลำบากหน่อย แต่การเดินทางเข้าสาทร สีลม ไม่ไกลเท่าไหร่ เป็นทำเลส่วนต่อขยายของสาทร-ธนบุรี-วงเวียนใหญ่ และตากสิน ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถต้องใช้รถไฟฟ้าสถานเดียว ก็ยังดีที่โครงการให้พี่วินมานั่งคอยรับส่งแถวหน้า Family Mart ได้ จึงเดินออกมาจากโครงการประมาณ 100 ม. เท่านั้นพี่วิน ถ้าจะเรียก Taxi ยากลำบากแน่นอน เพราะพี่ Taxi เขาจะขับเลยโครงการไปเลย มันเบียดเข้ามาเลนในไม่ได้ ติดเกาะกลาง คงต้องพึ่ง Grab หรือ Uber จะแน่นอนกว่า
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – การเดินมาขึ้นรถไฟฟ้าก็มีข้อจำกัด ระยะทางจากหน้าโครงการไปรถไฟฟ้าร่วม 600 เมตร แม้ว่าจะมีเกาะกลางให้เดินได้ตลอดทาง แต่อยากแนะนำให้ท่านที่สนใจแวะไปดูทำเลด้วยตัวเอง และลองเดินจากหน้าโครงการไปว่าที่สถานีรถไฟฟ้า ตามแผนที่ที่ทำไว้ให้ ลองดูนะคะว่าสภาพแถวนั้นมันพอจะรับได้หรือไม่ได้ เพราะถ้าใครที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว รับรองว่าได้พึ่งพารถไฟฟ้าเป็นหลักแน่ๆ ค่ะ
การออกแบบ – เนื่องจากตัวโครงการอยู่ในที่ดินใหญ่ของ AP ทำให้ได้บรรยากาศของความเงียบสงบแบบโซนที่อยู่อาศัยที่มากขึ้น เป็นคอนโด High Rise สูง 21 ชั้น 1 อาคาร ที่ถูกออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ใช้โทนสีเทาตัดกับสี Copper ออกส้มๆ ดูไม่เก่าเร็ว แปลนอาคารเป็นรูปตัว V แบ่งปีกซ้าย-ขวา มีโถงลิฟท์ตรงกลาง ทำให้สามารถเดินเข้าถึงห้องพักทั้ง 2 ฝั่งได้สะดวก
สำหรับการออกแบบห้อง ถือเป็นรูปแบบค่อนข้างมาตรฐานที่เห็นกันบ่อยๆ จึงเป็นฟังก์ชันที่ค่อนข้างลงตัวอยู่แล้ว ส่วนที่ชอบคือทั้งแบบ 1และ 2 ห้องนอนจะได้เป็นครัวปิด และห้องน้ำเป็นแบบสำเร็จรูป ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นจากโครงการในยุคนี้กันแล้วนะคะ
วัสดุ – ระดับมาตรฐานตามราคาห้อง ไม่ได้ใช้เกรดพรีเมี่ยม สำหรับห้องที่ทางโครงการขายให้ มีทั้งแบบ Fully Fitted และ แบบ Fully Furnished (เฉพาะห้องในชั้น 3-11) สำหรับห้องที่ขายแบบ Fully Furnished นั้นจะได้เฟอร์นิเจอร์เหมือนตามห้องตัวอย่าง ขาดแค่ของตกแต่ง ได้ห้องน้ำสำเร็จรูปของ Mogen ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ไฟดาวน์ไลท์ ให้พร้อมแอร์แบบ Wall Type ของ Panasonic ห้องละ 2-3 ตัว (แล้วแต่ขนาดห้องพัก)
สิ่งอำนวยความสะดวก – จัดพื้นที่ส่วนกลางหลักๆ ไว้บนชั้น 5 ทำให้สระว่ายน้ำและห้อง Fitness ได้วิวมุมสูง จึงดูน่าใช้งานดี ส่วนชั้นล่างก็จะมี Lobby แบบ Double Volume ที่ได้รับการตกแต่งมาให้ดูหรูหรา เหมาะจะเป็นหน้าเป็นตา ใช้รับแขกได้ดี รวมถึงมีพื้นที่ส่วนกลางภายนอกอาคารได้แก่พื้นที่จัดปาร์ตี้ BBQ และคอร์ตแบตมินตัน ให้มาเป็นพื้นที่สันทนาการแก่ลูกบ้านด้วย หรือขึ้นไปบน Rooftop จะเป็นสวนพักผ่อน และ ลานพัตต์กอล์ฟ ขนาดไม่ใหญ่นักแต่ก็ดีที่มีพื้นที่ให้ขึ้นมาชมวิว เปลี่ยนบรรยากาศได้
ในส่วนของลิฟท์โดยสารมีให้ 4 ตัว และแยก Service Lift อีก 1 ตัว มีอัตราส่วนลิฟต์ที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 153 : 1 ก็ถือว่าไม่เยอะเท่าไหร่ พอแบ่งกันใช้ได้ไม่ต้องรอคิวนานนัก สำหรับที่จอดรถรวมซ้อนคันได้มา 40% คิดว่าน้อยไปหน่อยสำหรับโครงการที่มีระยะห่างรถไฟฟ้า 600 ม. ซึ่งต้องเรียกพี่วินต่อไปรถไฟฟ้าอีกที สำหรับระบบรักษาความปลอดภัย เข้าออก-โครงการต้องใช้ Key Card Access ทำได้ดีนะคะ มีการดูแลที่เข้มงวด เรียบร้อยดีทีเดียวค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 79,000 บาท/ตร.ม., 5 July 2017
- ทำเล 7/10 –ทำเลเดินทางมาสาทรสีลมไม่ไกลก็จริง แต่ตำแหน่งที่ตั้งไม่สะดวก และมีความอุดมสมบูรณ์น้อย ต้องรอเวลาให้มีชุมชนขึ้นมากกว่านี้ แม้จะพึ่งพารถไฟฟ้าได้ แต่ต้องนั่งพี่วินไปอีกต่อหนึ่ง หรือเดินประมาณ 600 ม.
- เดินทางด้วยรถ 6.75/10 – เข้าเมืองไม่ไกล ออกเมืองไม่ไกล แต่ต้องกลับรถไกลหน่อย ที่จอดรถน้อยไปนิด
- ไม่ใช้รถ 7/10 – ใกล้รถไฟฟ้าในระยะ 600 ม. แต่ก็มีพี่วินคอยรับส่งอยู่หน้าโครงการ
- วัสดุ 7.5/10 – ให้ตามมาตรฐานทั่วไป บางห้องที่ขายแบบ Fully – Furnished ก็สามารถบวกคะแนนให้เพิ่มมากว่านี้ได้
- แบบ 8.5/10 – ออกแบบได้สวย น่าอยู่ การวางผังห้องลงตัว
- สาธารณูปโภค 8/10 – มีมาให้ครบและดูน่าใช้งาน
- MAIN CLASS
- 7.29 / 10.00
BOTTOM LINE
Aspire สาทร-ตากสิน (Copper Zone) เป็นโครงการที่เหมาะกับคนย่านฝั่งธน หรือคนทำงานย่านสีลม สาทร ชอบโครงการที่สงบ ไม่วุ่นวาย อยู่กับธรรมชาติ ใช้รถบ้างใช้ รถไฟฟ้าบ้าง ไม่ค่อยนั่งรถเมล์ ชอบโครงการที่มี Brand Name มีให้เลือกทั้งห้องเล็กที่ราคาต่อ Package หยิบจับง่ายและห้องใหญ่แบบ 2 ห้องนอน มีงบประมาณ ระดับ 1.75 – 3.84 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนเดือนละ 12,000 – 27,000 บาท