สำหรับใครที่มองหาคอนโดตึกเสร็จพร้อมอยู่ย่านอโศก วันนี้เรามีคอนโดภายใต้แบรนด์ วาลเด้น กับโครงการ Walden Asoke จาก Habitat Group โดยเป็นลักษณะคอนโด Low Rise ภายในซอยสุขุมวิท 23 ห่างรถไฟฟ้า BTS อโศก 600 เมตร ยูนิตน้อย บรรยากาศเงียบสงบ รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว ส่วน Highlight อื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่

• ทำเล : โครงการตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 23 ที่เชื่อมต่อทั้งอโศก สุขุมวิท พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย และเพชรบุรีได้ โดยไม่ต้องออกไปใช้ถนนใหญ่ รวมถึงเดินไปสี่แยกอโศกที่เป็นจุด Interchange ระหว่าง BTS อโศก & MRT สุขุมวิท
• Concept : มีแนวคิดการออกแบบให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบ ทำเลใจกลางอโศก ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มชาวไทยและชาวญี่ปุ่นในพื้นที่
• จำนวนยูนิต : โครงการมีเพียง 83 ยูนิต เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ลูกบ้านในโครงการไม่เยอะมากนัก
• ห้องพักอาศัย : มีหลากหลายรูปแบบทั้ง Simplex, Loft(ฝ้าเพดานสูง) โดยเน้นเป็นห้อง 1 Bedroom Simplex ขนาด 30.77-38.38 ตร.ม. เหมาะอยู่อาศัย 2-3 คนกำลังดี ขายแบบ Fully Furnished พร้อมอ่างอาบน้ำทุกห้อง เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการแช่ตัว รวมถึงมีแบบห้อง Combine ที่สามารถปรับเป็น 2 Bedrooms ได้ด้วยนะคะ
• ราคา : สำหรับใครที่มองหาคอนโดตึกเสร็จพร้อมอยู่ ใกล้สี่แยกอโศก ในงบประมาณเริ่มต้นไม่เกิน 6 ล้านบาท ที่ถือเป็น Rare Item โดยปัจจุบันโครงการมีโปรโมชันราคาเริ่มต้นเพียง 5.9 ล้านบาท

ข้อมูลโครงการ

Walden Asoke (วาลเด้น อโศก) ณ วันที่ 6 มกราคม 2565

ทำเลที่ตั้ง

แผนที่จากโครงการค่ะ

ทำเลโครงการ Walden Asoke โดดเด่นอย่างไร?

โครงการตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 23 บรรยากาศเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย แถมยังลัดเลาะออกได้หลากหลายเส้นทาง ที่ไม่ต้องขับผ่านถนนใหญ่ รวมถึงเป็นย่านที่มีเสน่ห์ในตัวเองทีเดียว มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร คอมมูนิตี้มอลล์ ตลาด โรงเรียน มหาลัย ออฟฟิศ ที่เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้สมบูรณ์แบบในย่านเดียวเลย

โครงการ Walden Asoke ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองย่านอโศก ถือว่าเป็นทำเลใจกลางเมืองย่านธุรกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพ โดยที่ดินในละแวกนี้มีราคาค่อนข้างสูงและมีที่ว่างให้พัฒนาเหลือน้อยเต็มที โครงการที่อยู่อาศัยในปัจจุบันที่เกิดขึ้นใหม่ในย่านนี้จึงเป็นรูปแบบคอนโดมิเนียมซะเป็นส่วนใหญ่ และเป็นทำเลในซอยย่อยที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ย่านสุขุมวิทเป็นทำเลที่มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาทำงานในไทย (Expat) โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่มากกว่า 100,000 ครอบครัว หรือประมาณ 250,000 คน โดยโครงการ Walden Asoke จะอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 เป็นซอยฝั่งเลขคี่ ที่จะอยู่ฝากเดียวกันกับย่านอโศก สุขุมวิท พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย และเพชรบุรีนั่นเอง

ความน่าสนใจของสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ คือมีเส้นทางลัดเลาะต่างๆมากมาย ที่ทำให้เราไม่ต้องออกไปใช้ถนนใหญ่เลย ก็ยังสามารถเดินทางผ่านเส้นทางเล็กๆเหล่านี้ตั้งแต่อโศกไปยังเอกมัยเลยก็ได้ ถือว่าเป็นเส้นทางตัวเลือกที่เราสามารถเลือกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดบนถนนในช่วงเวลาเร่งด่วนเลยก็ได้

เรื่องการเดินทางโดยไม่ใช้รถสำหรับทำเลแถวนี้จะมีรถไฟฟ้า BTS วิ่งผ่าน โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ MRT สุขุมวิท ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับ BTS อโศก มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 600 ม. ส่วนรถสาธารณะอื่นๆก็มีผ่านหน้าโครงการตลอดเวลา ทั้งพี่วินมอเตอร์ไซค์ และแท็กซี่ หรือจะเรียกผ่าน Application ก็ได้ น่าจะใช้เวลาเรียกไม่นาน เพราะทำเลนี้อยู่ในใจกลางเมืองจริงๆค่ะ

โครงการ Walden Asoke ตั้งอยู่ในย่านอโศก ที่เรียกว่ามีไลฟ์สไตล์โดดเด่น และเต็มไปด้วยชาวต่างชาติโดยเฉพาะ Expat หรือคนต่างชาติที่มาทำงานในไทยอาศัยกันอยู่หนาแน่น ดังนั้นจึงไม่ต้องเเปลกใจไปเลยว่าทำไมแถวนี้จะมีคนที่หลากหลายเชื้อชาติอยู่ และมีการค้าขายที่อำนวยความสะดวกให้กับคนกลุ่มนี้มากเช่นกันค่ะ

อย่างในย่านอโศก-พร้อมพงษ์จริงๆ เลยก็เป็นย่านที่มีชาวญี่ปุ่นมาอาศัยกันเป็นส่วนมาก ดังนั้น บรรยากาศภายในซอยเรื่อยไปจนถึงทองหล่อก็จะมีที่พักประเภท Apartment or Service Apartment ให้เช่าระยะยาวอยู่เยอะมาก และก็มีร้านรวงต่างๆ ตามตรอกซอกซอยที่ขายอาหารอย่างอาหารญี่ปุ่น, อาหารไทย, Fine dining หรือแม้กระทั่งคาเฟ่เเทรกตัวอยู่ตามตรอกซอกซอยกันเยอะเลย

แหล่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะกับโครงการเราหลักๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น Terminal 21 ที่ติดกับรถไฟฟ้าอโศก และ Em District ที่แค่ก้าวออกมาจากรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ ก็จะเจอกับห้างใหญ่ถึง 2 ห้าง EmQuatier กับ Emporium ที่เเม้ว่าจะดูหรูหราแต่ก็ไม่น่าจะเกินกว่าฐานะของคนที่อาศัยอยู่แถวนี้ใช้จ่ายกันนะคะ รวมถึงเป็นโซนที่มีรร.นานาชาติเป็นจำนวนมาก รองรับการอยู่อาศัยของลูกๆ และที่น่าสนใจคือตอนนี้กำลังจะมีสวนเบญจสิริ ขนาด 300 ไร่ ที่เพิ่งเปิดใหม่ ซึ่งเราก็เดินไปใช้งานได้ไม่ยากนะคะ

ในส่วนของการบริการทางด้านสุขภาพ ย่านนี้ถือว่ามีตัวเลือกทั้งโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงอย่างโรงพยาบาลสมิติเวช และมีสถานที่ออกกำลังกายเช่นสตูดิโอต่างๆ กับ Fitness Center เปิดให้บริการหนาแน่นที่สุดในกรุงเทพเลยก็ว่าได้ ดังนั้นภาพรวมของทางด้านความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการนี้จัดว่าดีเลยนะคะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ : แปลงที่ดินของโครงการเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยตัวอาคารอยู่ติดถนนสุขุมวิท 23 สำหรับห้องพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 1-8 โดยส่วนใหญ่หันออกไปทางทิศเหนือ-ใต้ ที่ไม่มีตึกสูงบังวิวในระยะประชิด แต่สำหรับทิศตะวันตกในอนาคตจะมีตึก High Rise ของโครงการด้านข้าง บังวิวในระยะประชิดนะคะ

• ทิศเหนือ ติดกับ พื้นที่โครงการ CLOUD Residences – SKV23 แต่เป็นตำแหน่งสวนหย่อมของโครงการ
• ทิศตะวันออก ติดกับ ฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถวสูง 3 ชั้น
• ทิศใต้ ติดกับ ตึกสูง 2 ชั้น ที่ไม่บังวิวห้องพักอาศัยในระยะประชิด
• ทิศตะวันตก ติดกับตัวคอนโดของโครงการ CLOUD Residences – SKV23 สูง 43 ชั้น ที่จะบดบังวิวในระยะประชิดนะคะ

ทิศตะวันออก : ถนนสุขุมวิท 23 เป็นทางเข้า-ออกหลักโครงการ ลักษณะถนนกว้าง 2 เลน พร้อมทางเท้ากว้าง เดินใช้งานได้สบายๆ

สำหรับฝั่งตรงข้ามโครงการมีร้านล้างรถยนต์ ซึ่งเป็นสวรรค์ของคนรักรถเลยนะ เราเดินเอารถไปฝากแล้วก็กลับมารอที่ห้องพักได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งรอที่ร้านนานๆนะคะ

ทิศเหนือ : เป็นตำแหน่งคอนโด CLOUD Residences – SKV23 คอนโด High Rise 43 ชั้น โดยวางตัวอาคารเข้าไปด้านใน ที่ไม่ได้บังวิวห้องพักอาศัยในทิศนี้นะคะ

สำหรับบรรยากาศภายในซอยสุขุมวิท 23 มีร้านค้า ร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งตอบโจทย์ชาวต่างชาติที่รองรับคนทำงานในไทย

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Soi Cowboy ~ 500 m.
• Terminal 21 ~ 1.4 km.
• EmQuartier ~ 1.5 km.
• EmPorium ~ 1.7 km.
• J-Avenue ~ 3.4 km.
• The Commons ~ 3.6 km.
• Donki Mall ~ 4 km.

สำนักงาน (Business District)

• Sino Thai Tower ~ 600 m.
• Jasmine Tower ~ 600 m.
• PS Tower ~ 700 m.
• Sermmit Tower ~ 1.2 km.
• Interchange Tower ~ 1.2 km.
• Exchange Tower ~ 1.2 km.
• Ocean Tower2 ~ 1.5 km.
• GMM Tower ~ 1.5 km.
• Singha Complex ~ 2.7 km.

โรงพยาบาล

• Bumrungrad International Hospital ~ 2.9 km.
• Samitivej Sukhumvit Hospital ~ 2.9 km.
• MedPark Hospital ~ 3.5 km.

โรงเรียน

• Srinakarinviroj University ~ 800 m.
• Satid Prasarnmid Primary School ~ 300 m.
• NIST International School ~ 2.2 km.
• Anglo Singapore International School ~ 1 km
• Australian International School ~ 900 m.

อื่นๆ

• MRT Asoke/ BTS Asoke ~ 1.1 km. (600 m. by foot)
• ARL Makkasan ~ 2.6 km. (2.2 km. by foot)

การออกแบบโครงการ Walden Asoke แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร ?

คอนโด “Walden” เป็นแบรนด์คอนโดระดับ HIGH CLASS ที่ปัจจุบันเปิดตัวโครงการมาทั้งหมด 3 โครงการ ได้แก่ ทองหล่อ 8, สุขุมวิท 39 และ อโศก ที่ทำเป็นคอนโด Low Rise สไตล์ Japanese ทั้งหมด เน้นยูนิตไม่เยอะ บรรยากาศเงียบสงบ และพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ โดยออกแบบมาเพื่อรองรับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาทำงานในย่านสุขุมวิท รวมถึงกลุ่มนักลงทุนก็มักจับจองมาปล่อยเช่าด้วยเช่นกัน

สำหรับตัวโครงการ Walden Asoke เป็นคอนโดตึกเสร็จพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบครัน ในราคาเริ่มต้นของ 5.9 ล้านบาท เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.77 ตร.ม ที่ในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำทุกแบบห้อง ตามสไตล์คนญี่ปุ่น ซึ่งต้องบอกว่าคอนโดตึกเสร็จในงบไม่เกิน 6 ล้านบาท ถือว่าเป็น Rare item ทีเดียวนะคะ

มาดูภาพรวมโครงการกันบ้างค่ะ Walden Asoke เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 83 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 0-2-20 ไร่ ที่ตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท 23 มีทางเข้า-ออกทางเดียว มีแนวความคิดในการออกแบบสไตล์ญี่ปุ่น โดยได้แรงบันไดมาจากไม้ไผ่ ที่มีเส้นสายเรียบง่าย ทำให้ตัวอาคารมีมิติ และดูสูงโปร่งมากขึ้น รวมถึงเป็นระแนงที่ช่วงพรางตาเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องพักอาศัยได้

ซึ่งหากมองในระยะไกลจะดูคล้ายกับอาคารที่ทำมาจากวัสดุประเภทไม้ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบ โดยได้นำมาดัดแปลงให้กลายเป็นแบบร่วมสมัยมากขึ้นและสามารถอยู่ได้ด้วยความคงทนถาวรโดยใช้วัสดุประเภทเหล็กและอลูมิเนียมมาทดแทน โดยชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1-8 และมีชั้น Main Facilities อยู่บนชั้นดาดฟ้า

มาดู Master Plan กันต่อนะคะ ทางเข้าโครงการชั้นที่ 1 จะดรอปลงไปใต้ดินเล็กน้อย ที่ทำให้พื้นที่ต่ำกว่าระดับถนน ที่ได้ความเงียบสงบมากขึ้น รวมถึงการปลูกต้นไม้รายล้อมตัวโครงการ ที่ทำให้บรรยากาศภายในดูร่มรื่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งชั้นที่ 1 จะมีห้องพักอาศัยวิวสวนอยู่ 2 ยูนิต ที่ได้ความเป็นส่วนตัวทีเดียว

ทางเข้า-ออกมีทางเดียวจึงทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษาความปลอดภัย พร้อมรปภ.ช่วยดูแลการจราจรให้ลูกบ้านขับรถเข้าออกได้สะดวก โดยที่จอดรถเป็นแบบ Automatic parking ทั้งหมด ที่เอารถเก็บไว้ชั้นใต้ดิน ซึ่งหากลูกบ้านมีเพื่อนหรือแขกมาเยี่ยมกันหลายคน ก็อาจต้องหาที่จอดภายในซอยเอานะคะ เพราะทางโครงการไม่ได้เตรียมพื้นที่ในส่วนนี้ไว้ให้ ส่วนที่จอดรถลูกบ้านในโครงการจะมีให้ 40 คัน หรือคิดเป็น 40%

สำหรับ Main Entrance ต้องเดินลงไปด้านล่างเล็กน้อย เพื่อเข้าไปยังส่วน Lobby โดยต้องใช้ Key card เพื่อเข้าไปยังส่วน Lobby โดยมีประตูอีกจุดหนึ่งจากทางที่จอดรถใต้อาคาร เนื่องจาก Lobby นี้เป็นที่ที่จะเอาไว้ใช้นั่งคอยเวลาเรียกรถได้ จะได้เดินไปรับรถหรือเก็บรถแล้วจะเดินเข้าอาคารได้สะดวก (ซึ่งจะใช้เวลาเรียกประมาณ 2 – 3 นาทีต่อคัน) และมีประตูอีกจุดหนึ่ง เพื่อเดินไปใช้งาน Fitness ที่ออกแบบผนังเป็นกระจกให้สามารถมองเห็นสวนรอบโครงการได้

โถงลิฟต์+ห้องงานระบบวางค่อนไปทางขวาของอาคาร และมีห้องพักอาศัยรายล้อมทั้งหมด โดยมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนของลิฟต์อยู่ที่ 42:1 ที่ถือว่ามีความหนาแน่นน้อยมาก ได้ความเป็นส่วนตัว และรวดเร็วในการใช้งานค่ะ

ทางเข้าโครงการติดถนนสุขุมวิท 23 ตกแต่งด้วยผนังสีเทาเรียบง่าย + ป้ายชื่อโครงการมองเห็นชัดเจน โดยด้านหลังป้ายจะเป็นตำแหน่งห้องของรปภ.ค่ะ ส่วนทางเข้าหลักของโครงการต้องเดินลงไปด้านล่างนะคะ

เดินเข้ามาเจอโถงลิฟต์ + พื้นที่ Mailbox ซึ่งด้านในจะเป็นประตูที่เข้าจากโรงจอดรถ ที่ทำให้เวลาจอดรถเสร็จ สามารถเดินขึ้นลิฟต์ได้เลยค่ะ

พื้นที่บริเวณ Lobby รายล้อมด้วยกระจก ที่ทำให้มองเห็นพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ และมีช่องแสงธรรมชาติที่ส่งเข้ามาได้เต็มที่ โดยโครงการเตรียมโซฟาสำหรับนั่งเล่นสบายๆ ชิวๆ

ถัดเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่ฝ้าเพดานสูง หรือ High Ceiling รายล้อมด้วยกระจกแบบ Full Height ที่ติด ทำให้ภายในโปร่งโล่งมากขึ้น ส่วนรูปแบบการจัด Interior มีการผสมผสานของไม้ ที่ได้บรรยากาศอบอุ่น โดยมีการเพิ่มความหรูด้วยโคมระย้าด้านบนเพดาน

ชั้นบนเป็นพื้นที่ Business Lounge โดยโครงการเตรียมโซฟามาให้ใช้งาน 4-5 คนกำลังดี โดยมีช่องแสงธรรมชาติขนาดใหญ่

ด้านข้างมีประตูเดินเข้าไปด้านในเป็นห้องออกกำลังกาย และห้องพักอาศัยของชั้นล่าง โดยเป็นตำแหน่งห้อง 1 Bedroom Garden View ที่มีเพียง 2 ยูนิตเท่านั้น

บริเวณห้องออกกำลังกาย (Fitness) มีขนาดไม่ใหญ่มาก ใช้งาน 3-4 คนกำลังดี ภายในมีอุปกรณ์ครบครันทั้งเครื่อง Cardio และ Weight Training โดยภายในได้กระจกแบบ Full Height ที่ทำให้ตัวห้องดูกว้าง ไม่อึดอัดค่ะ

ชั้นดาดฟ้าเป็นชั้น Main Facilities หลักของโครงการ ที่เป็นลักษณะ Outdoor โดยมีความน่าสนใจอยู่ 1 จุด นั้นก็คือชั้นดาดฟ้าของโครงการมีลิฟต์ที่ขึ้นมาถึงชั้นบนได้เลย ทำให้เราไม่ต้องเดินขึ้นบันไดให้เหนื่อยนะคะ นอกจากนี้ยังรายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวบรรยากาศร่มรื่น โดยโครงการแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 4 โซนหลักๆด้วยกันคือ

• โซนแรก : สระว่ายน้ำซึ่งมีทั้งสระเด็ก สระผู้ใหญ่ + Jacuzzi พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อนรอบๆสระ
• โซนสอง : เป็นพื้นที่ Private Hot& Cold Spa ที่ได้ความเป็นส่วนตัว
• โซนสาม : เป็น Family area ที่มีสนามเด็กเล่น และศาลานั่งพักผ่อนสำหรับผู้ปกครองที่มานั่งดูแลลูกหลานอยู่ใกล้ๆได้
• โซนสุดท้าย : พื้นที่ Roof Pavilion ที่ยกระดับขึ้นไปเล็กน้อย เอาไว้นั่งเล่นชมวิว ที่ได้ความเป็นส่วนตัว รวมถึงมีลาน BBQ สำหรับปาร์ตี้เล็กๆได้นะคะ

สำหรับชั้น Rooftop จะมีลิฟต์โดยสารขึ้นมาให้ใช้บริการได้ง่ายๆเลยนะคะ

สระว่ายน้ำ Lap Pool ระบบเกลือ ขนาด 14.4 เมตร โดยบริเวณนี้ในอนาคตจะมีตึกสูงของโครงการด้านข้างบดบังวิวบางส่วนนะคะ

บริเวณริมสระมีพื้นที่ Jacuzzi เล็กๆให้นั่งแช่ตัวได้กำลังดี

ถัดมาเราจะเจอ Kid’sPool ขนาด 8.3 x 1.35 เมตร ลึก 40 ซม. รายล้อมด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ บรรยากาศร่มรื่นดี

อีกฝั่งของโครงการบรรยากาศเงียบสงบ โดยบริเวณนี้จะเป็นสระ Hot & Cold Spa ที่นั่งใช้งานได้ 1-2 คนกำลังดีค่ะ

ปิดท้ายด้วยพื้นที่นั่งเล่น ด้านบนมี Roof Pavilion เอาไว้นั่งเล่นชิวๆ ส่วนด้านล่างเป็นลาน BBQ สำหรับปาร์ตี้เล็กๆได้ด้วย

ทิศตะวันตก : ในอนาคตจะมีตึกสูงของโครงการ CLOUD Residences – SKV23 สูง 43 ชั้น ที่อาจจะบดบังวิวของตัวอาคาร

ทิศเหนือ : ติดกับพื้นที่สวนของโครงการข้างๆ บรรยากาศค่อนข้างโปร่งโล่งทีเดียว ส่วนตัวมองว่าเป็นทิศที่เหมาะกับการซื้อห้องพักอาศัย

ทิศตะวันออก : ติดซอยสุขุมวิท 23 (ทางเข้าหลักของโครงการ) ทำให้มีระยะห่างกับเพื่อนบ้านพอสมควร

ทิศใต้ : ติดกับตึกสูง 2 ชั้น ที่ไม่บังวิวห้องพักอาศัยในระยะประชิด

แปลนชั้น 2 เป็นห้องพักอาศัยฝ้าเพดานสูงทั้งหมด (LOFT) ​ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 11 ยูนิต โดยมีทั้งแบบ 1-2 Bedrooms ขนาด 38.38 – 78.86 ตร.ม. โดยภายในมีฝ้าเพดานสูง 4.3 เมตร พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ บรรยากาศโปร่งโล่งดี

สำหรับแบบห้อง Loft จะไม่มีประตูเปิดออกไปภายนอกอีกชั้นหนึ่งได้เหมือนห้อง Duplex นะคะ โดยเส้นกากบาทลางๆที่เห็นนั่นคือเป็นช่อง Void ที่เป็นพื้นที่เปิดโล่งหรือแสดงว่าตรงนั้นจะไม่มีพื้นของชั้นนี้นะคะ แต่มันจะทะลุไปที่พื้นชั้นล่าง

แปลนชั้น 3-7 เป็นชั้นพักอาศัยแบบ Tropical Floor Plan คือจะเหมือนกันหมดทุกชั้น วางโถงลิฟต์กับห้องงานระบบเอาไว้ค่อนไปทางขวาของอาคาร มีลิฟต์ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์ทั้งโครงการ 48 : 1 ซึ่งถือว่าหนาแน่นน้อย พร้อมบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่ง และโถงทางเดินแม้จะเป็นแบบ Double corridor แต่ก็ออกแบบให้ประตูอยู่ไม่ตรงกัน ที่ยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่ ภายในจะไม่มีช่องแสงธรรมชาติส่องเข้ามาด้านใน จึงต้องอาศัยการเปิดไฟตามทางเดินตลอดเวลา โดยห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 12 ยูนิต/ชั้น สำหรับห้องพักอาศัยส่วนใหญ่หันไปทางทิศเหนือ-ใต้

• ทิศเหนือ : เป็นห้อง 1 Bedroom ทั้งหมด ซึ่งเป็นฝั่งที่วิวดีที่สุดภายในโครงการ เพราะเราจะได้วิวสวนของโครงการด้านข้าง บรรยากาศโปร่งโล่งทีเดียว
• ทิศใต้ : ติดกับตึกสูง 2 ชั้น ซึ่งจะไม่บดบังวิวในระยะประชิดนะคะ
• ทิศตะวันตก : ห้องพักอาศัยมีเพียง 2 ยูนิต ซึ่งเป็นตำแหน่งที่จะมีตึกสูงบดบังวิวในอนาคต โดยเป็นลักษณะห้อง 1 Bedroom Plus ทั้งหมด ทำให้เราได้วิว 2 มุมนะคะ
• ทิศตะวันออก : ห้องพักอาศัยอยู่ติดกับถนนสุขุมวิท 23 ที่ทำให้มีระยะห่างกับเพื่อนบ้าน ซึ่งซอยนี้เวลากลางคืน ค่อนข้างเงียบสงบดีค่ะ

แปลนชั้น 8 ปรับห้องพักอาศัยให้เหลือ 10 ยูนิต/ชั้น สำหรับห้องพักอาศัยส่วนใหญ่หันไปทางทิศเหนือ-ใต้ ที่จะไม่โดนแดดแรงโดยตรงนะคะ

พื้นที่โถงทางเดิน Corridor ของโครงการ จะไม่มีช่องแสงธรรมชาติ แต่โครงการจะเปิดไฟตลอดทั้งวัน ที่ทำให้ทางเดินไม่มืดทึบนะคะ

ปิดท้ายสำหรับนักลงทุน โครงการมีบริการของ L’axe ไว้ให้ลูกค้าเลือกได้ตามความต้องการโดยจะมีบริการพิเศษเพิ่มเติม รวมถึงใครที่ซื้อห้องเพื่อปล่อยเช่า ทางโครงการมีการการันตี yield ให้ 6% ในช่วง 2 ปีแรกนะคะ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)

**รายละเอียดที่เอามาลงในบทความเป็นข้อมูล ณ วันที่ลงรีวิว ดังนั้นข้อมูลต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามมติของคณะกรรมการได้ค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

Basement 1^st Floor 

• Main Entrance
• Lobby Lounge
• Business Lounge
• Mailbox
• Fitness Room
• Juristic Person’s Office

Roof floor 

• Lap Pool ขนาด 14.4 x 4 เมตร ลึก 1.2 เมตร
• Kid’s Pool ขนาด 1.35 x 8.30 เมตร ลึก 0.4 เมตร
• Roof Pavilion
• Dining Space & BBQ
• Relaxation Lawn
• Sunken Jacuzzi
• Hot and Cold Spa
• Playground
• Sunken Party Space

• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 42 : 1
• ที่จอดรถประมาณ 40คัน คิดเป็น 40% แบบ Auto Parking ทั้งหมด
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ Key Card Access

แบบห้อง Walden Asoke มีความน่าสนใจอย่างไร

• มีแบบห้องพักอาศัยทั้งแบบ Simplex และ Duplex(Loft) รวมถึงสำหรับคนที่มีสมาชิกเยอะทางโครงการมีรูปแบบห้อง Combine ที่ปรับห้อง 2 Bedrooms ที่สามารถอยู่กันเป็นครอบครัวเล็กๆได้เลย
• ห้องพักอาศัยขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบครัน ภายในห้องน้ำออกแบบให้มีอ่างอาบน้ำทุกแบบ เหมาะกับคนที่ชอบนั่งแช่ตัว ผ่อนคลาย หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน
• ภายในห้องพักอาศัยปูด้วยกระเบื้อง Porcelain Marble Tile ขนาด 60 x 60 ซม. ทั้งหมด ป้องกันความชื้นได้ดี เวลาเดินจะเย็นๆสบายเท้า ส่วนแบบห้องฝ้าเพดานสูง  (Loft) บริเวณพื้นชั้นลอยจะปูด้วย Engineer Wood Floor ที่ได้บรรยากาศอบอุ่นมากขึ้น

เริ่มจากห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 38.26 ตร.ม. ห้องจะเป็นทางเดินแคบก่อนเข้าไปเปิดกว้างด้านใน โดยความน่าสนใจ คือออกแบบให้มีห้องน้ำถึง 2 ตำแหน่ง ที่ทำให้ห้องนอนพลัสด้านนอก เดินใช้งานได้สะดวก รวมถึงเวลาแขกไปใครมาก็ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน ได้ความเป็นส่วนตัวดี แต่ก็ต้องแลกกับพื้นที่ห้องนอนที่มีขนาดเล็กลงมานิดหน่อยนะคะ / ส่วนห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งถ้าเราปรับเป็นห้องนอนเล็กอาจจะไม่ได้ส่วนตัวมากนะคะ

ประตูทางเข้าเป็นประตูบานไม้ขนาดใหญ่ พร้อมมือจับเป็น Digital Door Lock ของ YALE ที่ใช้งานได้ทั้ง Keycard, กุญแจ และ Password / ความสูงพื้นถึงฝ้า 2.45 เมตร

สำหรับพื้นที่ครัวของห้องนี้จะได้มาเป็นลักษณะครัวเปิดค่ะ มีชุด Built-in ที่วางเป็นแนวยาว โดยโครงการติดตั้งไมโครเวฟ Built-in มาให้เรียบร้อย ซึ่งบริเวณนี้เราสามารถกั้นเป็นพื้นที่ครัวปิดเพิ่มเติมเองได้นะคะ

ท็อปครัวเป็นหินสังเคราะห์ + Backsplash ที่เช็ดทำความสะอาดง่าย โครงการติดตั้งซิงค์ล้างจานแบบหลุมเดี่ยว ส่วนเตาไฟฟ้า 2 หัว + Hood หมุนเวียนออกภายนอกโครงการค่ะ

ติดกับพื้นที่ครัว เราสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งได้กำลังดีค่ะ / พื้นปูด้วยกระเบื้อง Porcelain Marble Tile ขนาด 60 x 60 ซม. เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

เปิดประตูเข้ามาเป็นพื้นที่ Common Area ก่อนนะคะ โดยรวมพื้นที่ Living + Dining ไว้ด้วยกันได้ โดยพื้นที่จะต่อเนื่องกับห้องอเนกประสงค์ยาวจนถึงระเบียง ที่แสงส่องเข้ามาได้เต็มที่ ส่วนพื้นภายในห้องพักอาศัยปูด้วยกระเบื้อง Porcelain Marble Tile ขนาด 60 x 60 ซม. ทั้งหมด / เฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้เป็นตัวอย่างเท่านั้น ส่วนหน้าตาเฟอร์นิเจอร์ของจริง เดี๋ยวเราพาไปดูกันในห้องถัดไปค่ะ

บริเวณพื้นที่ Common Area จะมีทางเข้าห้องน้ำด้านนอก

สำหรับห้องน้ำมีส่วนอาบน้ำที่ทำให้แขกที่มาหา หรือคนที่ทำห้องอเนกประสงค์เป็นห้องนอนนั้น สามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น ไม่รบกวนคนภายในห้องนอนหลัก โดยภายในแยกโซนเปียก-แห้งชัดเจน ด้วยฉากกั้นกระจก Tempered Glass พร้อมมือจับที่เอาไว้แขวนผ้าเช็ดตัวด้านหน้าได้

กระจกเงาบานใหญ่ที่ภายในสามารถเปิดออกมาเพื่อใส่ของได้พอสมควร ซึ่งของจริงจะมีชั้นสำหรับวางของได้ / ภายในอุปกรณ์ครบครันเป็นมาตรฐาน

ถัดมาบริเวณห้องอเนกประสงค์กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ที่สามารถเปิดเชื่อมต่อกันได้ โดยบริเวณนี้ติดกับพื้นที่ระเบียงที่สามารถดึงแสงธรรมชาติจากหน้าต่างเข้ามาภายในได้อีกด้วย / กรอบประตูเป็นอลูมิเนียมสีทอง กระจกใส ที่ไม่มีที่เปิดหรือตัวล็อค

ทางโครงการจัดเป็นห้องทำงานและห้องนั่งเล่นได้ โดยขนาดห้องนั้นเราวางเตียงขนาดเล็กได้อีกห้องหนึ่งได้ด้วยค่ะ

พื้นที่ระเบียงขนาดกำลังดี โครงการซ่อน Condensing Unit มาให้เรียบร้อย พร้อมราวกั้นตกเป็นแบบ Frameless มาให้เรียบร้อย

หันกลับมาภายในเปิดเวลาเปิดหน้าต่าง แสงธรรมชาติส่องเข้าภายในได้เต็มที่ค่ะ

ภายในห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้แบบฟิตๆ ที่จะไม่สามารถเดินรอบเตียงได้บางจุด โดยห้องนอนติดกับหน้าต่างบานใหญ่ ที่รับแสงได้เต็มที่

บริเวณห้องนอนมีหน้าต่างบานใหญ่ โดยออกแบบให้เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง เปิดระบายอากาศได้ โดยบริเวณนี้จะมีระแนงไม้บริเวณ Facade ที่ช่วยบดบังวิว

พื้นที่ด้านข้างเป็นตำแหน่งตู้เสื้อผ้า + โต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ โดยตู้เสื้อผ้าสูงเต็มผนัง ลักษณะบานเลื่อน เปิดใช้งานได้สะดวก ภายในมีรางให้แขวนเสื้อผ้า + ชั้นวางของเพิ่มเติม

ภายในห้องน้ำมีอุปกรณ์ครบครันเป็นมาตรฐาน โดยทุกห้องพักอาศัยโครงการออกแบบให้มีอ่างอาบน้ำแบบนั่งได้ พร้อมติดตั้งฝักบัว Hand & Rain Shower ใช้งานได้หลากหลายดี

ปิดท้ายด้วยห้อง 1 Bedroom ขนาด 34.79 ตร.ม. เมื่อเข้ามาภายในจะพบกับพื้นที่ครัวเปิดก่อน ซึ่งมีพื้นที่เชื่อมต่อกับส่วนทานอาหารและห้องนั่งเล่น ส่วนอีกฝั่งเป็นตำแหน่งห้องนอน ที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เพื่อความโปร่งโล่งและช่วยดึงแสงธรรมชาติภายนอกให้เข้ามาสู่ภายในได้ดี สำหรับห้องนอนจะมีขนาดพื้นที่ค่อนข้างใหญ่กว่าแบบที่แล้ว แต่สำหรับคนที่มีแขกมาบ้าน อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวเล็กน้อย เพราะตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอน และบริเวณด้านหน้าห้องน้ำทำเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ได้ค่ะ

เมื่อเข้ามาภายในห้องพักอาศัยจะยาวไปจนถึงพื้นที่ระเบียงด้านนอก ทำให้แสงส่องเข้ามาได้เต็มที่ โดยบริเวณนี้จะเปิดโล่งยาวๆ ซึ่งสำหรับคนชอบทำอาหารสามารถกั้นเป็นครัวปิดเพิ่มเติมได้นะคะ

สำหรับชุดครัว Built-in จะหน้าตาเหมือนกับห้องที่แล้วเลยนะคะ

ส่วนต่อมาเป็นพื้นที่ Common Area โดยเราสามารถวางโซฟาขนาด 3 คนได้กำลังดี ด้านหลังโซฟา เป็นตำแหน่งประตูบานเลื่อน ที่ทำให้ต้องวางโซฟาใกล้กับชุดทีวี เราแนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบเขวนที่ใช้งานสะดวกมากกว่านะคะ

ถัดเข้าไปด้านในเป็นตำแหน่งห้องนอน ที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน โดยแยกพื้นที่ใช้งานได้เป็นสัดส่วนดีค่ะ

ภายในห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ พร้อมพื้นที่เหลือด้านข้างเดินใช้งานได้สะดวก พร้อมตำแหน่งโต๊ะที่วางไว้ติดริมหน้าต่างได้ค่ะ

ด้านหน้าห้องน้ำเป็นตำแหน่งพื้นที่ Walk-in Closet โดยตู้เสื้อผ้าจะสูงเต็มผนัง 2 ฝั่ง ที่แบ่งใช้งาน 2 คนได้กำลังดี ภายในติดตั้งรางแขวนผ้า + ชั้นวางของมาให้เรียบร้อย

ภายในห้องน้ำมีอุปกรณ์ครบครันเป็นมาตรฐานแบบเดียวกับห้องที่แล้ว แต่จะได้เป็นอ่างล้างหน้าบนเคาน์เตอร์ยาว ที่สามารถวางของได้เต็มที่

เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องพักอาศัย

ราคา

Walden Asoke (วาลเด้น อโศก) ณ วันที่ 6 มกราคม 2565

• 1 Bedroom ชั้นที่ 5 ห้องพัก A3-510 พื้นที่ใช้สอย 30.86 ตร.ม.
  – ราคา 6,732,800 บาท
• 1 Bedroom Plus ชั้นที่ 3 ห้องพัก B4-311 พื้นที่ใช้สอย 48.68 ตร.ม.
  – ราคา 9,868,800 บาท
• 1 Bedroom Plus ชั้นที่ 4 ห้องพัก B2-407 พื้นที่ใช้สอย 37.32 ตร.ม.
  – ราคา 8,188,800 บาท
• 1 Bedroom Plus ชั้นที่ 4 ห้องพัก B4-411 พื้นที่ใช้สอย 48.68 ตร.ม.
  – ราคา 9,420,800 บาท
• 1 Bedroom Plus ชั้นที่ 5 ห้องพัก B4-5117 พื้นที่ใช้สอย 48.68 ตร.ม.
  – ราคา 9,532,800 บาท

• จอง 50,000 บาท
• ทำสัญญา 100,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• กองทุน 700 บาท/ตร.ม.

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

เปรียบเทียบโครงการ Walden Asoke กับโครงการรอบๆ

สำหรับโครงการติดถนนอโศกมนตรีส่วนใหญ่เป็นคอนโดระดับ LUXURY CLASS ไปแล้วที่ช่วงราคาเริ่มต้น 7-10 ล้านบาทขึ้นไปแล้ว แต่สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด อาจจะต้องขยับเข้ามาในซอยย่อย ที่มีราคาลดลงมาเล็กน้อย ซึ่งส่วนตัวเรามองว่าเป็นของดีเพราะภายในซอยย่อย จะได้บรรยากาศที่เงียบสงบมากกว่า และมีเส้นทางลัดเลาะได้หลากหลายเส้นทาง ส่วนอาหารการกินอยู่ในระยะที่เดินออกมาใช้งานได้สะดวก แต่ก็ยังใช้รถไฟฟ้า&รถสาธารณะได้สะดวกเช่นกันนะคะ

สำหรับโครงการที่เข้าจากภายในซอยสุขุมวิท 23 ที่ปัจจุบันยังเปิดขายอยู่นั้น มีด้วยกันทั้งหมด 4 โครงการ โดยเป็นรูปแบบ Low Rise 2 โครงการ และ High Rise 2 โครงการ โดยปัจจุบันในบันดาลโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ โครงการ Walden Asoke มีงบประมาณที่ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับโครงการในละแวก แถมยังเป็นโครงการเดียวที่ขายแบบ Fully Furnished ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เรามองว่าโครงการเราโดดเด่นด้วยกันทั้งหมด 4 เรื่อง

1. Concept : มีแนวคิดการออกแบบให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบ ทำเลใจกลางอโศก ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มชาวไทยและชาวญี่ปุ่นในพื้นที่ รวมถึงการออกแบบ Facade เป็นระแนงที่ช่วยบดบังสายตาของคนภายนอกได้
2. จำนวนยูนิตน้อย : ห้องพักอาศัยมีเพียง 83 ยูนิต ที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูง
3. แบบห้อง : มีหลากหลายแบบทั้งห้อง Simplex และ Duplex(Loft) ฝ้าเพดานสูง รวมถึงปัจจุบันยัง Combine ห้องได้ด้วย รวมถึงห้องพักอาศัยทุกแบบมีอ่างอาบน้ำมาให้ใช้งานเรียบร้อย
4. ราคาประหยัด : ห้องพักอาศัย 1 Bedroom 30.77 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท (ราคาโปรโมชัน) ที่ขายแบบ Fully Furnished เรียกว่าซื้อนิดหน่อยก็พร้อมอยู่ได้เลย

Walden Asoke เหมาะกับใคร

เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดตึกเสร็จพร้อมอยู่ย่านอโศก ที่มีงบประมาณจำกัด โดยโครงการตั้งอยู่ภายในซอยย่อย บรรยากาศเงียบสงบ ที่ยังเดินทางไปแหล่งความอุดมสมบูรณ์ของย่านได้สะดวก ชอบโครงการยูนิตน้อย เน้นความเป็นส่วนตัว มีแนวคิดสไตล์ญี่ปุ่น มีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย ขายแบบ Fully Furnished แต่งครบพร้อมอยู่ มีงบประมาณเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 41,000 บาท/เดือน

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc