รีวิวโครงการ
UNio สุขุมวิท 72 เฟส 2 คอนโด Low Rise ห่างจาก BTS แบริ่งประมาณ 600 เมตร จาก Helix ในเครือ Ananda [รีวิวฉบับที่ 1905]
25 กรกฎาคม 2019
รีวิวฉบับที่ 1576 … UNiO สุขุมวิท 72 เฟส 2 หลังจากที่เปิดเฟสแรกไปเมื่อปี 2016 มาปีนี้เตรียมเปิดขายเฟส 2 แบบต่อเนื่อง ซึ่งเฟส 2 นี้ยังมีราคาน่าคบหาอยู่ในช่วงราคาหนึ่งล้านต้นๆ ห้องยังคงใช้แบบเดิม แต่ที่พิเศษกว่าเฟสแรกคือขายแบบมีเฟอร์นิเจอร์มาให้ด้วย เนื้อที่โครงการได้มาน้อยกว่าเฟส 1 นิดหน่อย แต่ยังให้ส่วนกลางเยอะพอสมควร ในตอนนี้เฟส 1 สร้างเสร็จมีลูกบ้านอยู่แล้วผมเลยไปเก็บภาพจริงมาฝากด้วยครับ จะได้เห็นภาพบรรยากาศของโครงการได้ชัดเจนมากขึ้น
Fact @ 2 May 2018
- UNiO Sukhumvit 72 Phase 2 (ยูนิโอ สุขุมวิท 72 เฟส 2)
- บริษัท เฮลิกซ์ จำกัด ในเครือ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ซอยสุขุมวิท 72 ถนนสุขุมวิท จังหวัดสมุทรปราการ
- เนื้อที่โครงการ 10-0-33.9 ไร่
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 5 อาคาร จำนวนทั้งหมด 992 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต
- อาคาร A 231 ยูนิต / อาคาร B 217 ยูนิต / อาคาร C 176 ยูนิต
- อาคาร D 162 ยูนิต / อาคาร E 206 ยูนิต
- Studio 22 และ 27 ตร.ม.
- 1 Bedroom 31.5 – 36 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus 40.50 – 50 ตร.ม.
- Duplex 1 Bedroom 69 ตร.ม.
- จำนวนที่จอดรถช่องจอด ประมาณ 303 คัน คิดเป็น 30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- จำนวนที่จอดรถจักรยานยนต์ ประมาณ 50 คัน
- จำนวนที่จอดจักรยาน ประมาณ 90 คัน
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
- ราคาเริ่มต้น Promotion 999,900 บาท
- ราคาเริ่มต้น: 1.39 – 4.89 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 70,769 บาท/ตร.ม.
- โครงการเริ่มก่อสร้าง : พฤศจิกายน ปี 2560
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : สิงหาคม 2562
- Presale : ช่วงเดือน มิ.ย. – ก.ค. 61
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 02-316-2222
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ
ในช่วงของทำเลโครงการ UNiO สุขุมวิท 72 เฟส 2 ผมขอนำส่วนที่เป็นของเฟส 1 มาให้ดูกันนะครับ เพราะตัวโครงการอยู่ติดกันเลย แล้วผมจะอธิบายเพิ่มในส่วนของเฟส 2 ตอนท้ายครับ
พิกัด : 13.658622, 100.597855
แผนที่จากทางโครงการครับ จะเห็นว่าตัวโครงการ UNiO สุขุมวิท 72 เฟส 2 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 72 ตามชื่อโครงการ ห่างจาก BTS แบริ่ง 600 เมตร ถนนหลักในละแวกนี้นอกจากสุขุมวิทก็ยังมี ถนนบางนา-ตราด, ถนนศรีนครินทร์ และถนนกาญจนาภิเษกเป็นต้น ในแผนที่แสดงถึงทางเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักได้หลายเส้นทาง รวมถึงทางด่วน ห้าง โรงพยาบาล โรงเรียนเป็นต้น และยังมีส่วนของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองในอนาคตมาให้ดูด้วย
มาดูความเจริญโดยรอบโครงการในรัศมี 2-3 กิโลเมตรกัน ส่วนใหญ่จะเกาะกลุ่มกันอยู่บนถนนสุขุมวิทโดยจะเป็นตลาด Hypermarket และโรงเรียนนานาชาติ ส่วนสถานที่ช้อปปิ้ง กินเที่ยวที่ใกล้ๆหน่อยก็จะมี อิมพีเรียล สำโรง, BigC Jumbo ถัดไปบริเวณใกล้เคียงจะอยู่บนถนนบางนาคือ ห้างใหญ่อย่าง เซ็นทรัลบางนา, บิ๊กซี และ Mega บางนา โดยอีกไม่นานจะมีการลงทุนศูนย์การค้าขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ บริเวณตรงข้าม ไบเทค บางนา นั่นก็คือ Bangkok mall ของกลุ่ม The mall ซึ่งถ้าเปิดตัวจะทำให้ย่านนี้มีความคึกคักและมีสีสันขึ้นไปอีก แต่ก็ต้องทำใจแลกมากับการจราจรที่จะต้องติดขัดเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน ห่างไปอีกหน่อยบนถนนศรีนครินทร์จะมีศูนย์การค้า Seacon Square และ Paradise Park
จากที่ตั้งโครงการสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายมากโดยใช้ถนนหลักอย่างสุขุมวิทนี่ละ แต่การจราจรอาจจะค่อนข้างติดขัดโดยเฉพาะเวลาเร่งรีบ สามารถเลี่ยงมาใช้รถไฟฟ้าสถานีแบริ่งเข้าตัวเมืองได้ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที เส้นสุขุมวิทยังสามารถใช้วิ่งไปจังหวัดสมุทรปราการหรือใช้ลัดออกเส้นศรีนครินทร์โดยใช้ซอยแบริ่งเชื่อมออก และไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ชลบุรีได้ครับ
สำหรับทางด่วนบริเวณใกล้ๆโครงการมีอยู่ทั้งหมด 3 จุด คือ ทางด่วนบางนาอยู่บริเวณ แยกบางนาห่างจากโครงการประมาณ 2.2 กิโลเมตร ทางด่วนบริเวณซอยสุขุมวิท 62 ห่างจากโครงการ 4.5 กิโลเมตร และทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก อยู่บริเวณพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณห่างจากโครงการประมาณ 3.5 กิโลเมตร ถือว่าเป็นระยะที่ใช้ทางด่วนโอเคสะดวกพอสมควร
สำหรับรถไฟฟ้า สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีแบริ่ง ระยะทางประมาณ 600 เมตร ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง ณ ปัจจุบัน แต่ตอนนี้ทางรถไฟฟ้ากำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการคาดว่าในอีก 2-3 ปีจะได้เปิดใช้กัน (แต่มีข่าวเพิ่มเติมว่าอาจจะเปิดให้ใช้ส่วนของสถานีสำโรงให้ใช้กันก่อน โดยไม่ต้องรอให้ครบทั้งสาย) และในอนาคตยังมีแผนจะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองโดยจะมาเชื่อมกับสถานีสำโรงของสายสีเขียวเป็นสถานี Interchange ซึ่งจะทำให้พื้นที่บริเวณนี้ในอนาคตจะเจริญมากขึ้นไปอีก
ถึงแม้จะมีระยะที่ห่าง 600 เมตร ซึ่งพอเดินเอาเหนื่อยอยู่ แต่โครงการก็ทดแทนมาให้โดยการมี Shuttle Service มาช่วยรับส่ง เหมือนเฟส 1 เลยครับ การบริหารจัดการก็แยกส่วนกับเฟส 1 อย่างชัดเจน แยกนิติด้วยนะครบ ส่วนการเดินทางอื่นๆ บริเวณปากซอยสุขุมวิท 70 ใกล้ๆถัดไปก็มีพี่วินและป้ายรถเมล์อยู่ และก็มีรถ Taxi ผ่านไปมาอยู่ตลอด
การเดินทางวันนี้ที่ผมจะพาไป ผมเริ่มจาก BTS สถานีแบริ่ง นะครับ แล้วก็เดินตามทางฟุตบาทริมถนนสุขุมวิท ไปจนถึงซอยสุขุมวิท 72 (ซอยศิริคาม) เป็นระยะทางประมาณ 310 เมตร และก็เข้าไปซอยจนถึงโครงการอีก 290 เมตร รวมทั้งหมดเป็นระยะ 600 เมตร พอดีครับ
แผนที่สถานีแบริ่ง ลงที่ทางออกที่ใกล้ที่สุดต้องเป็นทางลงที่ 4 นะครับ แต่ว่าผมลงที่ทางลงที่ 5 นะครับเพราะเห็นว่าจะมีของกินให้แวะซื้อติดมือก่อนกลับเข้าคอนโดได้นิดหน่อย
พอลงมาที่ทางออก 5 แล้วจะเจอกับรวงร้านตั้งโต๊ะขายของกินมากมายริมทาง ก็แวะซื้อเวลาก่อนกลับบ้านได้
และก็จะเจอกับ 7-11 ขนาดใหญ่อยู่ติดกัน
หลังจากนั้นจะเป็นปากซอยสุขุมวิท 70/5 ซึ่งเป็นซอยเชื่อมไปยังถนนรางรถไฟสายเก่าได้ จุดนี้มีพี่วินประจำการอยู่ด้วยนะครับ ด้านหลังถัดไปเป็นปั๊ม Esso
ข้างในปั๊มมีทั้งร้านอาหารตามสั่ง ร้านกาแฟ Rabika Coffee และก็ Tesco Lotus Express
หลังจากพ้นปั๊มจะเป็นส่วนของทางขึ้นรถไฟฟ้า เป็นบันไดเลื่อน นับจากจุดนี้เดินไปโครงการ ระยะทาง 600 เมตร
เดินต่อไปเป็นโชว์รูมรถเบนซ์และรถมือสองอยู่ติดกันครับ ฟุตบาทช่วงนี้ยังร่มรื่นอยู่เพราะมีต้นไม้ริมทาง
หลังจากนั้นจะเจอสามแยกใหญ่ ฝั่งตรงข้ามซึ่งก็คือซอยสุขุมวิท 107 (ซอยแบริ่ง) นั่นเอง
ตรงนี้จะเป็นสะพานลอยที่ใกล้กับปากซอยโครงการที่สุดนะครับ อยู่บริเวณสามแยกเลย
ถ้าลงมาจากสะพานลอยเดินต่อไป จะเจอกับป้ายรถเมล์และก็มีพวกร้านอาหารริมทาง แต่จะเห็นว่าพวกตึกแถวๆนี้ไม่ได้เปิดหน้าร้านกันเยอะเท่าไร อาจเป็นเพราะจอดรถไม่ได้ด้วย
หลังจากนั้นก็จะเจอซอยสุขุมวิท 70
ซอยสุขุมวิท 70 นี่ถ้าเข้าไปก็จะเป็นซอยสุขุมวิท 70/1 ที่เชื่อมกับทางเข้าออกอีกทางของโครงการ UNiO ได้ ตรงจุดนี้มีพี่วินประจำอยู่ด้วย(หลบแดดกันอยู่)
ถึงปากซอยสุขุมวิท 72 แล้ว เห็นทางซ้ายบนถนนสุขุมวิทการจราจรค่อนข้างหนาแน่นพอสมควรช่วงเย็นหน่อย มีรถพวกรถเมล์ Taxi ผ่านเยอะและตลอดเวลาเลย
ซึ่งในตอนนี้ทางโครงการได้ย้ายสำนักงานขายมาไว้ที่ปากซอยนี้แล้ว และเปลียนโทนสีเป็นสีเขียวแล้ว
ตอนนี้ถ้าใครจะมาดูห้องตัวอย่างก็เข้ามาที่สนง.ขายได้เลยนะครับ เค้ามีห้องตัวอย่างให้ดู 2 ขนาด คือแบบ 22 ตร.ม. และ 27 ตร.ม. โดยติดป้ายราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 999,900 ซึ่งเป็นราคาโปรโมชั่น ส่วนราคาจริงคงขยับไปที่ล้านต้นๆขึ้นไปนะครับ
สภาพถนนในซอยสุขุมวิท 72 เป็นถนนคอนกรีตที่มีความกว้างประมาณ 6 เมตร ตรงต่อมาประมาณ 100 เมตร ซ้ายมือเป็นบริษัท อลูคอน จำกัด(มหาชน) ส่วนขวามือเป็นตึกแถว 3 ชั้นครึ่ง ที่เห็นเป็นร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งในซอยนี้จะมีอยู่แค่ 2 ร้านเท่านั้น
ถัดมาอีกประมาณ 100 เมตร ซ้ายมือเป็นบริษัท เอ็บโบรวาวส์เทรดดิ้ง จำกัด ส่วนทางขวามือเป็นซอยศิริคาม 4 ข้างในเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยเป็นซอยตัน มีทั้งคอนโด LowRise สลับกับบ้านและที่ดินเปล่า
ตอนนี้เฟส 1 ได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และมีลูกบ้านเข้าอยู่กันเยอะพอสมควร โดยทางเข้าเฟส 1 จะอยู่ด้านขวามือ และทางเข้าเฟส 2 อยู่ตรงกลางที่ตอนนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ครับ (ถ้าใครงงเดี๋ยวไปดู Master Plan จะเข้าใจง่ายขึ้นครับ)
ขอบเขตที่ดินของโครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 72 โดยเฟส 2 จะอยู่ด้านหลังของเฟส 1 ซึ่งมีระยะจากถนนลึกมาอีกหน่อย สภาพแวดล้อมรอบๆ ภายในซอยส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยที่เงียบสงบ ไม่มีสาธารณูปโภคในระยะใกล้มากนัก เวลาเข้า-ออกโครงการในตอนกลางคืนจะเงียบหน่อย รอบๆโครงการไม่มีตึกสูงในระยะประชิด ยกเว้นอาคาร B ฝั่งที่ติดกับเฟส 1 จะมีะระยะใกล้กับเฟส 1 มากที่สุด
- ทิศเหนือ อยู่ติดกับแนวบ้านพักอาศัยในซอย 70/1 และมีบางส่วนที่ติดกับอาคารพักอาศัยของเฟส 1
- ทิศตะวันออก จะติดกับอาคารพักอาศัยของเฟส 1 และบางส่วนติดพื้นที่สวนของเฟส 1 ทำให้ได้วิวโล่งกว่า
- ทิศใต้ อยู่ติดซอยศิริคาม 6 ตรงข้ามกันเป็นที่ดินเปล่าของบุคคลอื่น
- ทิศตะวันตก ติดกับ ม.ศิริคาม และโรงเรียนซิกข์วิทยาลัย
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- อิมพีเรียลสำโรง / BigC สำโรง
- BigC Jumbo
- BITEC บางนา
- Central บางนา
- Bangkok Mall (อนาคต)
- Mega บางนา
- โรงพยาบาลมนารมย์
- โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2
- โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพฯ
- โรงพยาบาลจุฬาเวช
- โรงเรียนบางกอกพัฒนา
- โรงเรียนลาซาล
- โรงเรียนเซนต์โยเซฟบางนา
- โรงเรียน ไทยซิกข์นานาชาติ
- St Andrews International School
ที่ดินของเฟส 2 มีขนาดประมาณ 10 ไร่ เล็กกว่าเฟส 1 นิดหน่อย การออกแบบโครงการในภาพรวมแล้วจะคล้ายๆ กับเฟส 1 แต่สิ่งที่ต่างกันออกไปคือ ในส่วนของ Facility เฟสนี้จะได้พื้นที่น้อยกว่าเฟส 1 อยู่นิดหน่อย ซึ่งก็แปรผันไปตามขนาดของที่ดิน แต่จำนวนยูนิตยังคงใกล้เคียงกันนะครับ แต่ถ้าเทียบกับราคาขายแล้ว ก็ถือว่าให้ส่วนกลางมาเยอะ และมีขนาดใหญ่ น่าใช้งาน เพราะถ้าเทียบกับคอนโด Low Rise ที่อยู่ฝั่งเลขคี่ ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการขนาดเล็กและไม่ค่อยมีใครจัดเต็มให้ขนาดนี้
อาคารพักอาศัยยังคงมี 5 อาคาร เหมือนเดิม แบ่งเป็นอาคาร A, B, C, D และ E โดยมีจำนวนยูนิต อาคาร A 231 ยูนิต, อาคาร B 217 ยูนิต, อาคาร C 176 ยูนิต, อาคาร D 162 ยูนิต และอาคาร E 206 ยูนิต รวมทั้งหมด 995 ยูนิต(ร้านค้า 3 ยูนิต) ทุกอาคารจะมีลิฟท์โดยสารให้อาคารละ 2 ตัว
- จำนวนที่จอดรถช่องจอด ประมาณ 303 คัน คิดเป็น 30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- จำนวนที่จอดรถจักรยานยนต์ ประมาณ 50 คัน
- จำนวนที่จอดจักรยาน ประมาณ 90 คัน
มาดูส่วนของโมเดลโครงการกันบ้างครับ ถ้านับจากรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดอย่างสถานีแบริ่ง เดินมาจนถึงปากซอยสุขุมวิท 72 ระยะทางประมาณ 310 เมตร และเดินต่อเข้ามาในซอยจนถึงทางเข้าโครงการระยะอีก 290 เมตร รวมแล้วทั้งหมดระยะ 600 เมตร ระยะขนาดนี้เอาจริงๆมันก็พอเดินได้นะ แต่ว่าไม่ถือว่าเป็นระยะที่ใกล้เสียเท่าไร ตรงจุดนี้โครงการเลยเสริมการเดินทางด้วย Shuttle Service มาบริการให้แก่ลูกบ้านหมือนเฟส 1 เลย
สำหรับโครงการ UNiO จะแบ่งออกเป็น 2 เฟส โดยแต่ละเฟสจะมี 5 อาคารด้วยกัน จำนวนยูนิตก็ใกล้ๆกันที่ระดับเกือบๆพันยูนิต มีทางเข้าออกที่ใช้ร่วมกันทั้งทางออกที่ไปซอยสุขุมวิท 72 และ ซอยสุขุมวิท 70 2 เฟสนี้แม้จะอยู่ติดกันแต่ก็แยกการบริหารกันอย่างชัดเจน แยกนิติบุคคล ไม่ได้เกี่ยวข้องกันนะครับ
พื้นที่ของโคงรการนี้จะใกล้เคียงกับเฟส 1 แต่จะน้อยกว่านิดหน่อย และด้วยรูปร่างของที่ดินทำให้ไม่สามารถจัดพื้นที่ส่วนกลางเป็นคอร์ท 2 คอร์ท ได้เหมือนกับเฟส 1 ทำให้ในภาพรวมพื้นที่ส่วนกลางของเฟส 2 จะดูน้อยกว่าหน่อย แต่ตรงอาคาร A กับ อาคาร B ยังคงมีพื้นที่สวยหย่อมใกล้ๆมาให้อยู่เหมือนกันนะ
สวนหย่อมของอาคาร B จะอยู่ติดกับพื้นที่จอดรถของเฟส 1
ส่วน Facilities หลักของโครงการจะอยู่ที่อาคาร C D และ E ที่ล้อมคอร์ทตรงกลางไว้ ซึ่งตอนนี้ตึก C และ E ได้มี Agency เอาไปขายชาวจีนแผ่นดินใหญ่ไปบ้างแล้ว ส่วนคนไทยที่สนใจเตรียมรอซื้อช่วง Pre Sale ใกล้ๆนี้ครับ
ภายในคอร์ทตรงกลางจะมีอาคาร Clubhouse ติดกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่แบบ Freeform ที่มีส่วนที่ยาวที่สุด 43 ม. และกว้างที่สุด 15 ม. เป็นระบบเกลือ และภายในมีห้องสมุด ห้องออกกำลังกาย และพื้นที่พักผ่อนบนดาดฟ้า
สำหรับบรรยากาศในโครงการ ไหนๆ เฟส 1 ก็ทำเสร็จแล้วผมเลยขอเข้าไปถ่ายรูปบางส่วนมาให้ดูว่าพอทำเสร็จแล้วจะออกมาสวยแค่ไหน ซึ่งบรรยากาศภายในเฟส 1 จะช่วยให้พอคาดการณ์ได้ว่า เฟส 2 ทำออกแล้วจะเป็นยังไง
จะเห็นว่าตัวโครงการทำสภาพแวดล้อมออกมาได้ค่อนข้างดีเลยครับสำหรับคอนโดในระดับราคานี้ สำหรับตัวอาคารจะดูมีมิติมากขึ้นจากการวางตำแหน่งยูนิตที่มี Bay Window อยู่ตลอดแนวอาคาร ช่วยให้ตัวอาคารไม่ดูทึบตันเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมทั่วๆไป
สำหรับผังอาคารผมขออธิบายพร้อมๆ กันทุกตึกเลยนะครับ เพราะแต่ละอาคารไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก ยูนิตห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ที่ชั้น 1 ที่เป็นห้องแบบ Duplex ในอาคาร B C D และ E ส่วนอาคาร A ชั้น 1 จะเป็นที่จอดรถทั้งหมด ส่วนชั้น 2 – 8 จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด โดยตำแหน่งห้องที่หันออกไปเห็นวิวนอกโครงการจะเป็นยูนิตขนาด 22 ตร.ม. และห้องที่หันมาเห็นวิวในโครงการ และวิวเฟส 1 จะเป็นห้องขนาด 27 กับ 36 ตร.ม. ส่วนห้องมุมจะมีให้เลือก 2 ขนาดคือ 31.5 และ 40.5 ตร.ม. จำนวนความหนาแน่นต่อชั้นไม่ได้ต่างกันเยอะ 22 – 33 ยูนิตต่อชั้น แต่ละตึกจะได้ลิฟต์มา 2 ตัวต่ออาคาร อัตราส่วนลิฟต์ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ แบบ Freeform มีส่วนที่ยาวที่สุด 43 ม. และกว้างที่สุด 15 ม.ระบบเกลือ
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
- พื้นที่สีเขียวภายในโครงการทั้งหมดเกือบ 2 ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการจุด
- รั้วรอบโครงการสูงประมาณ 2.5 ม.
- จำนวนที่จอดรถช่องจอด ประมาณ 303 คัน คิดเป็น 30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- จำนวนที่จอดรถจักรยานยนต์ ประมาณ 50 คัน
- จำนวนที่จอดจักรยาน ประมาณ 90 คัน
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร มีอัตราส่วนลิฟท์ตึก A 116 : 1, ตึก B 109: 1, ตึก C 88 : 1, ตึก D 81 : 1, ตึก E 103 : 1
- Shuttle Service รับส่งที่ BTS แบริ่ง
- ระบบ CCTV / Access Card
โครงสร้าง
ห้องตัวอย่างของเฟส 2 จะคล้ายๆกับเฟส 1 เลยครับ สิ่งที่แตกต่างกันก็คือมีเฟอร์นิเจอร์แถมมาให้
ห้องตัวอย่างแบบแรกที่จะพาไปดูคือห้องแบบ Studio ขนาด 22 ตร.ม. ความสูงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร โดยโครงการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ตามที่ระบุในผังเลย ได้มาทั้งหมด 8 ชิ้น ได้ชุดครัว ผนังกรุกระเบื้องให้ Top ครัวเป็นหินแกรนิต, โซฟาแบบ 2 ที่นั้ง, โต๊ะกลาง, ชั้นวางทีวีพร้อมตู้เก็บรองเท้า, ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง พื้นเป็นลามิเนต 8 mm. ไม่มีฉากกั้นห้องมาให้นะครับ
ห้องนี้เป็นห้องแบบ Studio ที่มีขนาด 22 ตร.ม. ถือว่าเป็นห้องขนาดเล็กสุดในตลาดทำให้พื้นที่ในแต่ละฟังก์ชันจะมีไม่เยอะ แต่ห้องนี้ก็ถือว่าจัดวางฟังก์ชันหลักๆมาครบ ส่วนพื้นที่ทานอาหารที่เป็นจุดอ่อนของห้องแบบนี้ถูกแก้ด้วยการให้เฟอร์นิเจอร์โต๊ะกลางที่ปรับยกสูงขึ้นได้ เพื่อให้สะดวกในกรณีอยากนั่งกินข้าวบนโซฟา ส่วนห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้แบบต้องชิดไปที่ผนังฝั่งใดฝั่งนึง ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ถัดมาจะเป็นครัวเปิดซึ่งเป็นพื้นที่แยกสัดส่วนออกไป ตรงนี้สามารถต่อเติมประตูเองเพื่อกั้นให้เป็นครัวปิดได้ครับ โดยห้องครัวจะประกอบด้วยเคาน์เตอร์ครัวและพื้นที่ว่างให้วางตู้เย็น ถัดไปเป็นระเบียงซึ่งมีพื้นที่วางเครื่องผ้าได้นะ ส่วนตำแหน่งคอมเพลสเซอร์แอร์ต้องแขวนด้านบนเอา และส่วนที่เชื่อมต่อกับครัวอีกส่วนคือห้องน้ำซึ่งแยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ให้ชัดเจน
เปิดเข้าห้องมาสิ่งแรกที่เจอคือห้องนั่งเล่นขนาด ความสูงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร ระยะนั่งดูทีวีประมาณ 2.2 เมตร โดยห้องนั่งเล่นนี้จะเสมือนโถงกลาง ที่เชื่อมต่อกับห้องนอน ห้องครัว และห้องน้ำ
สิ่งที่ได้คือตู้เก็บรองเท้าขนาดใหญ่ท่ติดกับชั้นวางทีวี พื้นที่ตรงนี้จะวางโซฟาได้ขนาด 2 ที่นั่งและมีพื้นที่วางโต๊ะข้างโซฟาได้นิดหน่อย
ชุดเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาถือว่าใหญ่นะครับ ถ้าเทียบกับขนาดห้อง 22 ตร.ม. ตู้ Built-in ชุดนี้ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้ลูกบ้านได้เยอะพอสมควรเลย
ตัวโต๊ะกลางที่แถมมาให้เป็น Smart Furniture นะครับ สามารถปรับให้ยกสูงเผื่อเอาไว้ให้นั่งกินข้าวจากโซฟาได้เลย ถ้าใครไม่ชินอาจหาโต๊ะทานอาหารแบบไม่ใหญ่มากมาไว้ที่มุมนี้ก็ได้นะครับ
ถัดไปเป็นห้องนอน ซึ่งตัวประตูกระจกบานเลื่อนเราไม่ได้นะครับ โครงการทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เราก็ไปหาติดเพิ่มเอาเองนะ ถ้าจะกั้นฉากกั้นก็แนะนำให้ทำเป็นบานเลื่อน 3 ตอนแบบห้องตัวอย่างนะครับ เพราะจะได้พื้นที่เชื่อมต่อเวลาเปิดออกใช้ง่ายได้มากกว่าแบบ 2 ตอน
ภายในห้องนอนขนาดพอวางเตียงไซส์ 5 ฟุตได้โดยชิดกับฝั่งใดฝั่งนึง และจะเหลือระยะอีกฝั่งประมาณ 40 ซม. ช่องแสงจะมีมาให้ 2 จุดแบบนี้
ระยะทางเดินปลายเตียงยังเดินได้สบายๆอยู่ ถึงแม้จะติดตั้งตู้เสื้อผ้าไปแล้วก็ยังเหลือระยะประมาณ 50 ซม. แต่ตอนเปิดประตูตู้ออกมาแล้วจะเดินผ่านไม่ได้นะ
ถ้าอยากได้ทางเดินด้านข้างเตียงทั้ง 2 ด้านยังพอขยับได้นิดหน่อย อย่างในห้องตัวอย่างก็วางเตียงไม่ได้ชิดผนังเว้นทางเดินไว้หน่อยแต่ก็ได้พื้นที่มาไม่เยอะนะ
ปลายเตียงจะเป็นพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งที่โครงการทำ Built-in มาให้เรียบร้อย ตัวตู้ด้านนึงได้บานกระจกเงามาด้วย
สำหรับตู้เสื้อผ้าที่ให้มาก็ไม่ใช่ตู้เสื้อผ้าธรรมดาไก่กาอาราเล่นะครับ แต่เป็น Smart Furniture ที่มีลูกเล่นในการใช้งานมาให้ด้วย โดยตัวราวแขวนเสื้อด้านบนเราสามารถดึงลงมาใช้งานได้เลย ที่เค้ายกตัวราวแขวนไว้สูงแบบนี้เพราะจะได้ใช้พื้นที่ตู้ได้อย่างเต็มที่ครับ
บานจับของตัวตู้จับได้ถนัดมือครับไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนพื้นที่บริเวณโต๊ะเครื่องแป้งถึงแม้จะมีมาให้ไม่เยอะเพราะพื้นที่มีจำกัด แต่ก็ถือว่ามีมาให้ใช้งานได้นะ
ไปต่อกันที่ห้องครัว เป็นห้องที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นและห้องนอน ตรงจุดนี้สามารถกั้นเพื่อทำเป็นครัวปิดได้นะครับ สำหรับใครที่ชอบประกอบอาหารทานกินเองที่บ้าน **ให้สังเกตเพดานด้านบนส่วนของครัวหน่อยครับ จะลดระดับลงมาประมาณ 20 ซม. เป็นส่วนของงานระบบที่เชื่อมมาจากห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นกับห้องนอนจะได้ฝ้าสูง 2.6 เมตร ส่วนห้องน้ำและห้องครัวจะได้ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
ห้องน้ำใช้โทนสีขาวสะอาด ด้านในจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาและ Low wall ท็อปได้หินแกรนิตดำอินเดียหนา 20 มม. เหนือโถสุขภัณฑ์, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ และได้ฉากกั้นอาบน้ำด้วย
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคไซส์ 20 cm. มีธรณีก่อเล็กน้อยเป็นหินแกรนิตดำจีน
พวกอ่างล้างมือก๊อกน้ำ หัวฉีด จะได้ของ American Standard ส่วนชุดโถสุขภัณฑ์ได้ของ Cotto หรือเทียบเท่านะครับ ห้องน้ำเฟส 2 มีการพัฒนาให้มีพื้นที่วางของมากขึ้นด้วย Low Wall ช่วยให้ลูกบ้านใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
พื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียกเอาไว้โดยพื้นเป็นสเต็ปลดระดับลงประมาณ 2 ซม. ขนาดพื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.80 x 0.85 เมตร ทางโครงการให้ฉากกั้นอาบน้ำมาด้วย
ส่วนอาบน้ำติดตั้งชุดฝักบัวของ American Standard เช่นกัน และติดที่วางสบู่มาให้ ด้านบนเป็นโคมไฟดาวน์ไลท์และพัดลมดูดอากาศความชื้นครับ
ชุดครัวที่ได้จะได้ครบทั้งชุดบนและชุดล่างเลย ขนาดเคาน์เตอร์ครัวจะไม่เน้นทำให้ทำอาหารแต่จะเป็นเหมือน Pantry ไว้เตรียมอาหารเตรียมกับข้าวมากกว่า และไม่ได้มีเตาและเครื่องดูดควันมาให้ด้วยนะ
ในส่วนของครัวชุดบนก็ได้ Smart Furniture เช่นกัน ซึ่งคอนโดเรทราคานี้เราจะไม่ค่อยเห็นของแบบนี้กันนะ ชั้นที่ได้เป็นชั้นวางแก้วและของใช้ในครัวที่สามารถดึงลงมาใช้งานได้สะดวกมากมาย สาวๆหลายคนน่าจะถูกใจนะ
ผนังเค้ากรุกระเบื้องไซส์เล็กสีดำเอาไว้ให้ เพื่อที่เวลาทำอาหารมีคราบกระเด็นไปจะได้ทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนของ Top ครัวนั้นเป็นหินแกรนิตสีดำครับ
ตู้ชัดล่างได้บ้านเปิดและลิ้นชักเอาไว้วางช้อมซ่อม
ด้านข้าง Pantry ครัวเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ระยะประมาณ 75 ซม ในห้องตัวอย่างทางโครงการเลือกตู้เย็นมาใหญ่ไปหน่อยนะ เลยทำให้พื้นที่ดูแคบ ห้องขนาดนี้ส่วนใหญ่จะนิยมวางตู้เย็นเล็กๆหน่อยเพราะอยู่กันแค่ 1 – 2 กันไม่ได้เก็บของกินอะไรมากมาย
ดกันเป็นเพื่อนที่เชื่อมออกไปยังระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งก่อธรณีสูงจากพื้นขึ้นมาประมาณ 10 ซม. เอาไว้กันในส่วนเวลาใช้งานซักล้างด้านนอก หรือฝนตกหนักๆ พื้นที่ระเบียง ถ้าใครจะซักผ้าเอง ก็สามารถวางเครื่องซักผ้าได้นะ แต่ก็ต้องทำใจแลกกับพื้นที่ยืน และตากผ้าที่ลดลงไปด้วย
ห้องตัวอย่างอีกแบบคือ Studio ขนาด 27 ตร.ม. จะเห็นว่าตำแหน่งจะใกล้ๆเคียงกับแบบแรก แต่จะความยาวจะลดลง ความกว้างเพิ่มมากขึ้น มีระยะดูทีวีในห้องนั่งเล่นมากกว่าเดิม ห้องน้ำเปลื่อนเป็นแนวตั้ง และมีจุดที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นมาคือการออกแบบหน้าต่างเข้ามุม Bay Window ในห้องนอน ที่โครงการแถมโต๊ะทำงานมาให้ด้วย ห้องนี้จะได้เฟอร์นิเจอร์มากกว่าแบบแรกนะได้เพิ่มมาอีก 2 ชิ้นเป็น 10 ชิ้น (สิ่งที่ได้เพิ่มคือเก้าอี้ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง และโต๊ะทำงานข้างเตียง
เข้ามาในห้องจะเห็นได้ชัดเลยว่าความกว้างของ Living Area ค่อนข้างกว้าง สบาย ไม่อึดอัด ซึ่งมีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร ของจริงจะมีกำแพงกั้นอยู่นะครับให้ห้องตัวอย่างเค้าเอากำแพงหน้าห้องออกหมดเลย
ผนังฝั่งพื้นที่ชั้นวางทีวีก็กว้างพอสมควร โครงการได้แถมตู้ Built-In มาให้ซึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่าห้องแรกอยู่นิดหน่อย ด้วยระยะดูทีวีขนาดนี้ควรเลือกไซส์ของทีวีประมาณที่ 50 นิ้วนะครับ กำลังดี
พื้นที่วางโซฟาค่อนข้างกว้าง โครงการเลยให้โซฟาแบบ 3 ที่นั่งมาให้เลย
และแน่นอนว่าโซฟานี้เป็น Smart Furniture สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงนอนชั่วคราวได้
พื้นที่ห้องนอนจะมีขนาดกว้างกว่าห้องที่แล้ว ห้องนี้สามารถวางเตียง King Size ได้เลย
พื้นที่ทางเดินปลายเตียงระยะเหลือประมาณ 60 ซม. (รวมทำตู้เสื้อผ้าแล้ว)
ตัวหน้าต่างจะได้มา 2 ตำแหน่งเหมือนห้องแรก แต่หน้าต่างด้านซ้ายมือจะเป็นแบบ Bay Window
โดยเจ้ามุมนี้ทางโครงการวางโต๊ะทำงานมาให้ แต่ถ้าใครไม่ชอบสามารถเปลี่ยงเป็นพื้นที่นั่งเล่นอ่านหนังสือโดยวาง Day Bed ลงไปแทนก็ได้ครับ เพราะว่าห้อง Type นี้มีตำแหน่งที่หันเข้าหา Facility ด้านในอาคาร เวลาทำงานอ่านหนังสือ ก็ได้แสงที่สบายตาหรือมองออกไปก็จะเห็นพวกสวนหย่อม หรือสระว่ายน้ำภายในโครงการ
ออกจากห้องนอนถัดไปเป็นส่วนของทางไปครัว ซึ่งเหมือนกับห้องแรก สามารถกั้นฉากได้ถ้าชอบทำอาหาร
ชุดครัวได้เหมือนกับห้องที่แล้วทุกประการ และพื้นที่วางตู้เย็นด้านข้างเหมือนกัน ด้านซ้ายมือจะเป็นทางออกไประเบียง ส่วนด้านขวามือเป็นทางเข้าไปห้องน้ำ
ภายในห้องครัวจะเห็นได้ว่าทางเดินจะกว้างกว่า
ระเบียงในส่วนของห้องนี้ถึงแม้ว่าจะวางเครื่องซักผ้าแล้ว ก็ยังออกไปยืนตากผ้าได้ดีกว่า แบบหมุนตัว ย่อตัว เอื้อมมือไปแขวนผ้าได้สะดวกกว่าครับ
ห้องน้ำของแบบนี้มีการจัดวางฟังก์ชันใช้งานเหมือนกับห้องแรก เพียงแค่เปลี่ยนทิศทางในการเปิดประตูเข้ามาใช้งานเท่านั้นครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 2 May 2018
เนื่องจากวันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิวทางโครงการยังไม่เปิดขาย เลยได้มาแค่ราคาเปิดตัว 999,900 บาทเท่านั้น ส่วนราคาขายห้องปกติจะเริ่มต้นที่ 1.39 – 4.89 ล้านบาท
เปิดขายรอบ VIP วันที่ 19/5/61 พิเศษในงาน จับฉลากยูนิตราคาพิเศษ 999,900 บาท* แต่งครบ Smart Furniture ดีไซน์โดยโครงการ สำหรับรอบ Pre-Sales จะอยู่ที่ช่วงเดือน มิ.ย. – ก.ค. 61 ครับ
- Fully Furnished ได้ 8 – 10 ชิ้น
- ชุดครัว Kitchen & Sink ผนังกรุกระเบื้อง
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน (จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี)
- เงินกองทุนส่วนกลาง 400บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
โครงการ UNiO สุขุมวิท 72 เฟส 2 ยังคงเน้นจุดเด่นของโครงการด้วยการจัด Facility ที่ให้มาเยอะและดูอลังการเพราะมีพื้นที่โครงการเยอะ ซึ่งในละแวกนี้ด้วยทำเลนี้มีคู่แข่งของคอนโด Low Rise ที่มาเปิดก่อนหน้ากันก่อนหน้า ถึงแม้ว่าตัวทำเลที่ตั้งของโครงการจะอยู่ฝั่งสุขุมวิทเลขคู่ ซึ่งหลายๆคนอาจจะชอบฝั่งเลขคี่มากกว่าเพราะมันสะดวกในการเดินทางลัดเลาะไปถนนหลักอื่น แต่ว่าโครงการก็ตั้งราคาที่เหมาะสมให้อยู่ในช่วงที่ต่ำกว่าฝั่งเลขคี่นิดหน่อยและเน้นไปที่ส่วนกลางแทนครับ
มาดูความเจริญโดยรอบโครงการในรัศมี 2-3 กิโลเมตรกัน ส่วนใหญ่จะเกาะกลุ่มกันอยู่บนถนนสุขุมวิทโดยจะเป็นตลาด Hypermarket และโรงเรียนนานาชาติ ส่วนสถานที่ช้อปปิ้ง กินเที่ยวที่ใกล้ๆหน่อยก็จะมี อิมพีเรียล สำโรง, BigC Jumbo ถัดไปบริเวณใกล้เคียงจะอยู่บนถนนบางนาคือ ห้างใหญ่อย่าง เซ็นทรัลบางนา, บิ๊กซี และ Mega บางนา โดยอีกไม่นานจะมีการลงทุนศูนย์การค้าขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ บริเวณตรงข้าม ไบเทค บางนา นั่นก็คือ Bangkok mall ของกลุ่ม The mall ซึ่งถ้าเปิดตัวจะทำให้ย่านนี้มีความคึกคักและมีสีสันขึ้นไปอีก แต่ก็ต้องทำใจแลกมากับการจราจรที่จะต้องติดขัดเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน ห่างไปอีกหน่อยบนถนนศรีนครินทร์จะมีศูนย์การค้า Seacon Square และ Paradise Park
จากที่ตั้งโครงการสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายมากโดยใช้ถนนหลักอย่างสุขุมวิทนี่ละ แต่การจราจรอาจจะค่อนข้างติดขัดโดยเฉพาะเวลาเร่งรีบ สามารถเลี่ยงมาใช้รถไฟฟ้าสถานีแบริ่งเข้าตัวเมืองได้ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที เส้นสุขุมวิทยังสามารถใช้วิ่งไปจังหวัดสมุทรปราการหรือใช้ลัดออกเส้นศรีนครินทร์โดยใช้ซอยแบริ่งเชื่อมออก และไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ชลบุรีได้ครับ
ทางด่วนบริเวณใกล้ๆโครงการมีอยู่ทั้งหมด 3 จุด คือ ทางด่วนบางนาอยู่บริเวณ แยกบางนาห่างจากโครงการประมาณ 2.2 กิโลเมตร ทางด่วนบริเวณซอยสุขุมวิท 62 ห่างจากโครงการ 4.5 กิโลเมตร และทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก อยู่บริเวณพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณห่างจากโครงการประมาณ 3.5 กิโลเมตร ถือว่าเป็นระยะที่ใช้ทางด่วนโอเคสะดวกพอสมควร เอาจริงๆก็ถือว่าเป็นทำเลที่ใช้เดินทางด้วยรถสะดวกนะครับ จะติดก็ตรงที่ถ้าใช้รถยนต์ที่จอดรถน้อยไปหน่อยแค่ 30%(ไม่รวมซ้อนคัน)
สำหรับรถไฟฟ้า สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีแบริ่ง ระยะทางประมาณ 600 เมตร ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง ณ ปัจจุบัน แต่ตอนนี้ทางรถไฟฟ้ากำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการคาดว่าในอีก 2-3 ปีจะได้เปิดใช้กัน (แต่มีข่าวเพิ่มเติมว่าอาจจะเปิดให้ใช้ส่วนของสถานีสำโรงให้ใช้กันก่อน โดยไม่ต้องรอให้ครบทั้งสาย) และในอนาคตยังมีแผนจะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองโดยจะมาเชื่อมกับสถานีสำโรงของสายสีเขียวเป็นสถานี Interchange ซึ่งจะทำให้พื้นที่บริเวณนี้ในอนาคตจะเจริญมากขึ้นไปอีก ถึงแม้จะมีระยะที่ห่าง 600 เมตร ซึ่งพอเดินเอาเหนื่อยอยู่ แต่โครงการก็ทดแทนมาให้โดยการมี Shuttle Service วิ่งรับส่งที่ BTS แบริ่งมาให้ ส่วนการเดินทางอื่นๆ บริเวณปากซอยสุขุมวิท 70 ใกล้ๆถัดไปก็มีพี่วินและป้ายรถเมล์อยู่ และก็มีรถ Taxi ผ่านไปมาอยู่ตลอด
การออกแบบตำแหน่งผังของอาคารจัดวางมาค่อนข้างเต็มพื้นที่โดยมีจำนวนยูนิตเยอะกว่าเฟส 1 และมีพื้นที่ส่วนกลางมาให้พอสมควร โดยพื้นที่ส่วนกลางจะไม่ได้อยู่ตรงกลางระหว่างอาคารทั้งหมด เพราะมีอาคารที่ล้อมกันเป็นคอร์ทแค่จุดเดียวที่อาคาร C D และ E ส่วนอาคาร A และ B จะได้พื้นที่ส่วนกลางที่ด้านข้างอาคารแทน ห้องขนาด 22 ตร.ม. จะเป็นห้องที่ได้วิวด้านนอกโครงการทั้งหมด ส่วนห้องที่มีขนาดตั้งแต่ 27 ตร.ม.ขึ้นไปจะได้วิวของส่วนกลางสวยๆไปเต็มๆ
โทนสีและรูปแบบของอาคารถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีถ้าลองดูจากเฟส 1 แล้วเรียกว่าทำออกมาสวยสำหรับระดับราคานี้ หน้าตาของอาคารจะดูไม่เรียบเป็นก้อนๆเพราะมีส่วนที่เป็นหน้าต่างแบบ Bay window ยื่นออกมา ทำให้ตัวอาคารดูมีมิติมากขึ้น ส่วนห้องแบ Duplex ขนาด 69.48 ตร.ม. ก็ยังคงมีให้เลือกอยู่เหมือนกัน โดยจะมีตำแหน่งอยู่ที่ชั้น 1-2 ทั้งหมดเป็นห้องที่หันเข้าหาสวนส่วนกลาง และมีทางเดินหน้าห้องแยกมาให้ด้วย ส่วนอัตรส่วนลิฟต์ถือว่าให้มาแบบกลางๆค่อนไปทางดีนะครับเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยต้นๆ
วัสดุในห้อง สำหรับเฟส 2 ถือว่าเป็นจุดเด่นของโครงการเลยก็ว่าได้ เพราะเฟสนี้ขายแบบ Fully Furnished ได้ของใช้ที่จำเป็นมาครบ ถ้าเทียบกับช่วงราคาของที่นี่ซึ่งอยู่ประมาณ 50,000 – 69,000 บาท/ตร.ม.ถือว่าให้ของมาเยอะเลยครับ ได้มาทั้งหมด 8 ชิ้น ได้ชุดครัว ผนังกรุกระเบื้องให้ Top ครัวเป็นหินแกรนิต, โซฟาแบบ 2 ที่นั้ง, โต๊ะกลาง, ชั้นวางทีวีพร้อมตู้เก็บรองเท้า, ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง
Facilities ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาดใหญ่ มีพื้นที่สีเขียวทั้งโครงการรวมเกือบๆ 2 ไร่ซึ่งน้อยกว่าเฟส 1 อยู่นิดหน่อย ส่วน Facilities อื่นๆก็มีมาให้ครบตามมาตรฐานของคอนโดในยุคนี้ มีห้อง Fitness อยู่ติดกับสระและดาดฟ้าขึ้นไปนั่งเล่นเป็นพื้นที่พักผ่อนได้ / ทางเดินหรือวิ่ง Jogging Track ภายในโครงการ / ห้อง Common Area พื้นที่อเนกประสงค์ / Shop Unit ร้านค้า 3 ยูนิต ส่วน Shuttle Service รับ-ส่ง ไปยังรถไฟฟ้า BTS แบริ่งยังคงมีมาให้เหมือนกับเฟส 1
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 1.39 – 4.89 ล้านบาท (ราคาต่อตร.ม.อยู่ประมาณ 70,769 บาท) , 2 May 2018
- ทำเล 7.75/10 – อยู่ในซอยสุขุมวิท 72 ห่างจากปากซอย 290 ม. บรรยากาศในซอยไม่คึกคักมาก บริษัท สลับกับชุมชนอยู่อาศัยแต่ไม่หนาแน่นมาก
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เดินทางสะดวก อยู่ใกล้ถนนหลักอย่างสุขุมวิท ใช้ทางด่วนง่ายและหลากหลาย เสียตรงให้ที่จอดรถน้อยไปหน่อย
- ไม่ใช้รถ 8/10 – 600 เมตร BTS แบริ่ง มี Shuttle Service ให้ มีพี่วินและป้ายรถเมล์อยู่ปากซอย Taxi วิ่งผ่านถนนสุขุมวิทบ่อยผ่านทั้งวัน
- วัสดุ 8.5/10 – ให้เฟอร์นิเจอร์มาเยอะสำหรับคอนโดระดับราคานี้และครัวได้ Top หินแกรนิต
- แบบ 8/10 – รูปแบบอาคารจัดแบบไม่หนาแน่นมาก อาคารใช้โทนสีอ่อนเน้น ให้พื้นที่สีเขียวมีต้นไม้เยอะ
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – อลังการงานสร้างไม่แพ้คอนโด High Rise เลย มีครบทุกอย่างและให้มาเยอะ
- 7.96 / 10.00
BOTTOM LINE
Unio สุขุมวิท 72 เฟส 2 เหมาะกับคนที่ ทำงานหรืออยู่อาศัยในย่านแบริ่ง ลาซาล สุขุมวิทตอนปลาย ขับรถไปมาสะดวกใช้ทางด่วนง่าย อยากอยู่คอนโดที่ให้ของในห้องมาครบแบบพร้อมอยู่ ชอบ Facilities ใหญ่ๆให้มาเยอะๆ สวยๆ ใช้รถไฟฟ้าได้สะดวกแบบต้องนั่งรถตู้ 1 ต่อ ซื้อของตามความต้องการและเน้นคุ้มค่า มีงบประมาณ 990,000 บาทขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 7,000 บาท/เดือนขึ้นไป