รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.218 – รีวิวห้อง Penthouse The Sukhothai Residences
26 มิถุนายน 2016
รีวิวฉบับที่ 421 สวัสดีค่ะ วันนี้ฝน (ที่พยายามจะไม่มากับ”ฝน” ^^ ) ขอพาไปชมโครงการที่เป็นระดับ The Ultimate อีกโครงการที่ตั้งอยู่ในย่าน Central Business District หรือ CBD อย่าง “สาทร” กับโครงการ The Sukhothai Residences คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ของโรงแรมสุโขทัย โรงแรมที่ได้รับการการันตีระดับ 5 ดาว เปิดให้บริการมาถึง 20 ปี ยังคงบรรยากาศรีสอร์ทใจกลางเมือง โดยได้สถาปนิกทีมเดียวกันดูแลรับผิดชอบออกแบบทั้งสองโครงการ อย่าง Kerry Hill และ Ed Tuttle (สองคนนี้ชั่วโมงบินสูงมากกกก จับมาหลายโครงการ และได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย) และ การบริหารจัดการเช่นเดียวกับโรงแรมสุโขทัยค่ะ ไปดูข้อมูลของโครงการกัน
Fact @ 4 August 2013
- The Sukhothai Residences (เดอะ สุโขทัย เรซิเด้นท์เซส)
- Grace Ivory CO. LTD. (A Member of HRK International Ltd.)
- ULTIMATE (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด High Rise 41 ชั้น 196 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 6 ยูนิต
- ที่จอดรถมากกว่า 100 %
- ที่ดินประมาณ 6 ไร่ เนื้อที่ 9,600 ตารางเมตร พื้นที่ห้องทั้งหมดประมาณ 6,000 ตารางเมตร
- คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2555
- Studio ไม่มี
- 1 Bedroom 88-123 ตารางเมตร 12 ยูนิต
- 2 Bedrooms 113-163 ตารางเมตร 81 ยูนิต
- 3 Bedrooms 196-286 ตารางเมตร 63 ยูนิต
- 4 Bedrooms 321-337 ตารางเมตร 31 ยูนิต
- Penthouse 429-1,183 ตารางเมตร 9 ยูนิต
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 28 ล้านบาท
- ห้องชุด 1-4 ห้องนอน ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 220,000-310,000 บาท และ Penthouse ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 403,000 บาท
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ MRT ลุมพินี : มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟใต้ดิน ลุมพินี
- http://www.sukhothairesidences.com/index.php
- 023442888
กด LIKE สนับสนุนผลงานพวกเรานะคะ 🙂
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
13.721798,100.541537
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลของตัวสุโขทัยทั้งโรงแรมและคอนโดมิเนียมอยู่ในจุดที่เป็นศูนย์กลางย่านธุรกิจในกรุงเทพมหานคร ณ ปัจจุบัน ( กันยายน 2556 ) การเติบโตในย่านนี้ถูกจับจองด้วยพื้นที่ของอาคารสำนักงานสูงมากมายและสถานฑูตประเทศต่างๆค่ะ แต่พอจะมีโครงการคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยมาผุดขึ้นที ทั้งราคาต่อตารางเมตรก็แพงลิบลิ่ว ตัวของ สุโขทัยเอง ได้เปรียบตรงที่ทำเลการเข้าออก มีถึง 3 ทางทำให้การเดินทางช่วง Office Hours อันทรหดบนถนนเส้นนี้ ได้หายใจหายคอโล่งขึ้นมากเลยค่ะ ในบริเวณนี้จะสามารถเดินทางไปจุดสำคัญต่างๆ ของกรุงเทพได้อย่างสะดวกมาก ต้องการไปเซ็นทรัลเวิลด์ วิ่งพระราม 4 เลี้ยวเข้าราชดำริ เดี๋ยวเดียวก็ถึง หรือจะไปสยามก็เลี้ยวเข้าทางอังรีดูนังต์จากพระราม 4 ต้องการไปฝั่งธนบุรีก็เพียงวิ่งไปขึ้นสะพานสาทร นอกจากนี้บริเวณนี้ยังใกล้กับทางขึ้นทางด่วนทั้งสองทิศทาง ทั้งทางดินแดง-พระราม 9 หรือจะไปเที่ยวชลบุรีก็ขึ้นทางด่วนบางนา-ดาวคะนอง เพื่อต่อบูรพาวิถีได้เลย เรียกได้ว่าสะดวกมากๆ ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งอื่นๆ ที่ใกล้ที่สุดคือสถานีรถไฟใต้ดิน ลุมพินี ที่สามารถเดินได้ระยะทางไม่เกิน 500 เมตร ไปต่อ BTS ที่ศาลาแดงได้ค่ะ หรือถ้าจะไป BTS ช่องนนทรี ซึ่งเป็นจุดไปต่อยัง BRT ได้ค่ะ
ตัวถนนสาทรเองแบ่งได้เป็น 2 ฝั่งคือ “ถนนสาทรเหนือ” อยู่ในแขวงสีลม เขตตบางรัก คือฝั่งที่มีโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน AIA สถานฑูตพม่า โรงแรม De Sathorn เป็นต้น เลขซอยฝั่งนี้จะเป็นเลขคู่ค่ะ และ “ถนนสาทรใต้” อยู่ในแขวงยานนาวาและแขวงทุ่งมหาเมฆ คือฝั่งที่มีโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ โรงเรียนอัสสัมชันประถม อาคาร Thai CC ห้องอาหาร Blue Elephant เลขซอยจะเป็นเลขคี่ ตัวโครงการตั้งอยู่ที่ถนนสาทรใต้ฝั่งใกล้ถนนพระราม 4 หรือสวนลุมพินี
มาดูที่มุมมอง ในเรื่องของอาคารที่อยู่รายล้อมย่านนี้ ฝนทำออกมาให้ดูโดยคร่าวๆ บริเวณที่เป็นสีเหลืองเข้มคือมีความหนาแน่นของอาคารสูงมากค่ะ โดยมากจะไปอยู่เกาะเส้นถนนสาทร สีลม ช่องนนทรีและใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา มีทั้งออฟฟิศและคอนโดมิเนียมค่ะ จากที่ตั้งโครงการประมาณ 1 กิโลเมตร บริเวณด้านหลังของโครงการสามารถเห็นโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยาได้ บ้านเรือนละแวกนั้นส่วนมากจะสูงไม่เกิน 2-3 ชั้นและเป็น ชุมชน อาคารแบบ Low Rise สวนสาธารณะ ส่วนด้านที่ได้รับวิวแบบ City View ก็มองไปเส้นถนนสาทรที่มีอาคารสูงหน้าตาสวยงามดีค่ะ
การเดินทางของฝนวันนี้ เริ่มที่เส้นถนนสาทร ไปสุดตรงแยกที่ตัดถนนพระราม 4 กลับรถเพื่อเข้าโรงแรมสุโขทัยจากด้านหน้าถนนสาทร ดูตามเส้นสีแดงก่อนนะคะ และฝนจะพาวนเข้าทางเข้าหลักจริงๆของโครงการที่อยู่ด้านหลังนะคะ ซึ่งรวมแล้ว ทางเข้าของ The Sukhothai Residences มีทั้งหมด 3 ทาง ฝนจะพาไปชมทั้ง 3 เส้นทางเลย 🙂
ยินดีต้อนรับสู่ถนนสาทรเหนือช่วง 8 โมงเช้าค่ะ เราอยู่ใต้สถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ เพิ่งลงจากสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินเลยแยกฮอนด้ามาค่ะ และมุ่งหน้าสู่ถนนพระราม 4 ค่ะ
ขวามือคือโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์
ตึกธนาคารหุ่นยนต์ ใครเรียกเหมือนฝนบ้าง ^^
หน้าปากซอย สาทร 12 มี Health Land เอาไว้ให้บริการชาวเมืองที่ติดนวด และ Double A อยู่ที่ปากซอยเดียวกันนี้ เข้าซอยนี้ทะลุไปสีลมได้ค่ะ
บรรยากาศถนนสาทรในยามเช้าประมาณ 8 โมงค่ะ การจราจรก็หนาแน่นประมาณนี้แต่สามารถขยับได้ที่ติดจะเป็นช่วงก่อนขึ้นสะพานสมาเด็จพระเจ้าตากสินแหละ ลงมาก็พอขยับได้
แยกนราธิวาสค่ะ ตรงไปเข้าแยกสะพานไทย เบลเยี่ยม ถนนวิทยุ ซ้ายไปถนนสีลม ขวาไปเข้าถนนนราธิวาส เราข้ามสี่แยกตึกเอ็มไพร์ ตรงไปค่ะ เดี๋ยวจะมาซูมดูบริเวณแยกนี้ซักหน่อย ข้อมูลบางส่วนนำมาจาก มองหาทำเลน่าอยู่สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี ค่ะ
จากแผนที่สังเกตได้บริเวณสี่แยกตรงนี้สามารถไปได้สะดวกหลายเส้นทาง และอาคารที่อยู่รอบแยกนี้รวมทั้งสะพาน ถือเป็น Landmark ของถนนละแวกนี้เลย ค่ะ
อาคารสาทรสแควร์ มีทางเดิน Sky Walk เชื่อมเข้าได้เลย ส่วนด้านหลัง W Hotel เลยไปฝั่งบีทีเอสช่องนนทรีจะเป็นที่ตั้งของโครงการ Ultimate อย่าง มหานคร
อาคารเอ็มไพร์ซึ่งปัจจุบันกำลังปรับปรุงทางเข้าให้มีทางเชืื่อมจาก Skywalk ด้วย
สะพานข้ามแยกสาทร-นราธิวาส หรือสี่แยกเอ็มไพร์บริเวณนี้ ถือว่าเป็นจุดลองกล้องสำหรับตากล้องหลายๆท่าน กลายเป็น Landmark ของถนนเส้นนี้ไปเลยค่ะ
อาคารสาธรธานี ที่มีธนาคาร Standard Chartered สาขาใหญ่ตั้งอยู่ ด้านล่างมีร้าน McDonalds ที่เปิด 24 ชั่วโมงด้วยนะ นอกจากนั้นก็จะมีโซนที่เป็นศูนย์การค้าด้วย
อาคารบางกอกซิตี้ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานอีกหนึ่งแห่ง ข้างในก็มีบริษัทชื่อดังหลายแห่ง อาทิ Pricewaterhouse Coopers, Bank of China, Royal Bank of Scotland (RBS) เป็นต้น
ด้านซ้ายคือถนนสาทรเหนือค่ะ ซ้ายมือคือสาทรใต้ เราจะมุ่งหน้าไปถนนพระราม 4 สุดถนนนี้กัน เพื่อเข้าจากทางเข้าที่ 1,2 และ 3 ค่ะ
เลี้ยวกลับรถมาปุ๊ปมองกลับไป โรงแรมโซฟิเทล โซ แบ็งค็อก (Sofitel So Bangkok)
ตรงไปในถนนสาทรใต้ ฝนพาไปทางเข้าที่ 1 ก่อน
ทางเข้าที่ 1
ทางเข้าที่ 1 เข้ามาจากถนนสาทรใต้และตรงเข้ามาในโรงแรมสุโขทัย ผ่านโรงแรมเพื่อเข้ามาหรือเข้าที่จอดรถใต้ดินเข้าสู่ส่วนคอนโดก็ได้ค่ะ แต่คราวนี้ฝนจอดรถจากที่โณงแรมและเดินเข้าไปค่ะ
เข้ามาจากทางโรงแรมจะพบผนังทางเข้าแบบนี้โลโก้เดียวกันกับคอนโดค่ะ
เดินผ่าน Lobby โรงแรม เข้าสู่โซนห้องพัก เงียบสงบมากมีบ่อบัวล้อมรอบ
เดินตรงไป ผ่านต้นไม้ใหญ่จะเข้าสู่ประตูส่วนของ The Sukhothai Residences แล้วค่ะ อาคารสูงๆที่เราเห็นนั่นแหละค่ะ 🙂
ทางเข้าที่ 2
ทางเข้าที่ 2 เข้ามาจากทางซอยสาทร 1 ข้างตึกคิวเฮาส์ “ลุมพินี” เป็นอาคารสำนักงานที่มีร้านค้าอยู่ชั้นล่าง ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลุมพินีมากๆ
สถานีรถไฟใต้ดิน ลุมพินี อยู่ตรงหัวมุมของแยกค่ะ
สะพานไทยเบลเยี่ยมกับโลโก้ที่ได้รับการออกแบบใหม่เมื่อสองปีที่แล้ว ข้ามฝั่งไปถนนวิทยุ และฟอกปอดที่สวนลุมกันได้
ก่อนเข้าซอยสาทร 1 อาคารที่อยู่ด้านหน้าปากซอย Q.house ค่ะ โดดเด่นเป็นสง่า
เลี้ยวซ้ายเข้าทางซอย สาทร 1 ซอยในนี้ทะลุกันไปออกงามดูพลี สวนพลู เย็นอากาศ นางลิ้นจี่ เชื้อเพลิง พระราม4 ฯลฯได้เลย เลี้ยวไปเลี้ยวมายุ่บยั่บ (หลงมาแล้วค่ะ T T) ขับรถส่วนตัวก็ควรรู้ทางในนี้นิดนึง ไม่งั้นเข้าไปหลงแน่นอน ตามป้ายที่ปักไว้ข้างหน้า สาทร 1 ป้ายชี้ว่าข้างในมีสถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก สถาบันเกอเธ่ โรงเรียนอนุบาลเธียรประสิทธิ์ศาสตร์ สมาคมธรรมศาสตร์ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ และกรมการขนส่งทางอากาศ เลี้ยวเข้าซอยโลดค่ะ
สถานเอกอัครราชฑูตเดนมาร์ค
ตอนเช้ามีผู้ปกครองมาส่งน้องๆเข้าเรียน บริเวณนี้ก็จะติดขัดจากการจราจรเล็กน้อยค่ะ
บรรยากาศภายในซอย ติดขัดในช่วงเช้า ซอยนี้มันทะลุไปหลายที่
เข้าซอยนันทา หรือซอยสาทร 1 แยก 1
เลี้ยวเข้าจะไม่วุนวายแล้วเพราะเป็นซอยตัน มาจะพบอาคาร เดอะ เซอร์เพนไทน์ อาคารประมาณ 3 ชั้น อายุอาคารดูแล้วค่อนข้างมากอยู่แต่ สวยงามค่ะ ประทับใจ มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น
รายละเอียดเล็กๆน้อยๆของอาคารสมัยเก่า โคมไฟค่ะ (ปลาบปลื้ม ชอบ)
บ้านนันทสิริ ของแสนสิริ
ทำเนียบเอกอัครราชฑูตออสเตรีย กรุงเทพ อยู่ในซอยนี้เช่นกัน
ถนนเป็นถนนส่วนบุคคลค่ะ สภาพเรียบร้อย และสงบมาก อาคารข้างเคียงจะเป็นบ้านเดี่ยวมีเนื้อที่กว้าง เก่าแก่ และต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น ทำให้ The Sukhothai Residence ได้ประโยชน์จากตรงนี้ด้วยค่ะ
ทางเข้าจากซอยนันทา ถึงแล้ว
มีวินมอเตอร์ไซด์อยู่หน้าทางออกเลยค่ะ แอบเห็นชาวต่างชาติหัวทองจมูกโด่งใช้บริการเพียบ
มาถึงทางเข้าทางสุดท้าย เข้าจากซอยสวนพลูค่ะ เลี้ยวจากสาทรใต้เข้ามา
มากันที่ทางที่ 3 กันค่ะ เราเลี้ยวซ้ายจากสาทรใต้เข้าสวนพลู ตรงเข้าไปเรื่อยๆเลย พอเจอซอยสวนพลู 8 เลี้ยวเข้าได้เลยค่ะ ซอยนี้ติดกับปั๊มเชลล์ถนนเชื่อมต่อมหัศจรรย์กับซอยแถวนี้อีกแล้วค่ะ จะไปสาทร 1 งามดูพลี นราธิวาส นางลิ้นจี่ ไปทางนี้ได้เช่นกัน
จากสวนพลู เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพระพินิจจะไปออกที่ซอยนราธิวาส 7 เข้าถนนนราธิวาส
บริเวณสวนพลูนี่คึกคัก เป็นสเกลแบบชุมชน ตึกแถว มีตลาดสวนพลูอยู่ด้วยเป็นตลาดสด คนเลยจะค่อนข้างเยอะ
ซอยสวนพลู 8 ปากทางเข้ามี 7-11 ด้วยค่ะ ลึกเข้าไปจากปากซอยประมาณ 370 เมตร ค่ะ ถึงโครงการ
ภายในซอยเป็นลักษณะถนนสองเลนไม่มีทางเท้า เห็นอาคารที่สูงอยู่ตรงหน้า นั่นแหละค่ะ จุดหมายของเรา
ก่อนถึงทางเข้า The Sukhothai Residences คอนโดมิเนียม The Seed Mingle อยู่ในซอยสวนพลู 8 มีโอกาสน่าจะได้มารีวิวกันแน่นอนค่ะ อยู่ห่างจากปากซอยประมาณ 120 เมตร
ฝนเข้าโครงการมาแล้วค่ะ มองกลับไปเห็น The Seed Mingle อาคารสูงสีดำเทาค่ะ
The Sukhothai Residences เป็นโครงการที่ต่อยอดมาจาก The Sukhothai hotel Bangkok ที่ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้บริการในบ้านเราและต่างประเทศอย่างดีมีรางวัลการันตีมากมาย ใครเคยได้ไปใช้บริการห้องพักและห้องอาหาร Celadon Restaurant (โดยเฉพาะอย่างหลัง) คงติดใจกันทุกท่าน อาหารรสชาติดีเลยนะคะ ราคาก็พอฟัดพอเหวี่ยงเลย = = ” ทีมผู้บริหารของโรงแรมและคอนโดใช้ทีมเดียวกันค่ะเพื่อให้เกิดความสะดวกสบายจากการบริการและแตกต่างจากคอนโดมิเนียมทั่วไปที่ใช้นิติบุคคลเข้ามาบริหารภายหลังจากโครงการเปิดไปได้ระยะหนึ่ง ซึ่งเห็นว่าทางส่วนของโรงแรมได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 500 โรงแรมที่ดีที่สุดในโลกจากการประกาศผลรางวัลประจำปีของนิตยสาร ทราเวล แอนด์ เลเซอร์ (Travel+Leisure) ประเทศสหรัฐอเมริกา ฉบับเดือนมกราคม 2556
http://www.youtube.com/watch?v=SXs3FQKVsfI#t=30
ตัวของโรงแรมตั้งอยู่ในย่านธุรกิจ แต่กลับให้ความรู้สึกหลุดออกจากความวุ่นวาย พอเข้าไปถึงคอนโดมิเนียม จะเงียบสงบมากเลยค่ะ บรรยากาศโดยรอบๆตอนกลางคืน แสงไฟ ต้นไม้ ความร่มรื่น ก็เหมือนรีสอร์ทที่มาพักผ่อนเลย เพียงแต่เป็นคอนโดมิเนียม
การออกแบบและตกแต่ง ทางสถาปนิกได้เน้นไปถึง คำว่า ” สุโขทัย ” ผสานองค์ประกอบเล็กๆน้อยๆ เช่น เจดีย์ที่เป็นเอกลักษณ์ของอุทยานประวัติศาสาตร์สุโขทัย นำมาใช้เป็นกิมมิก เล็กๆน้อยๆตั้งแต่โลโก้ไปถึงของตกแต่ง และยังสระบัวที่มีรายล้อมตัวอาคาร ซึ่งดอกบัวเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนิกชนมายาวนาน การดึงบ่อน้ำและดอกบัวเข้าที่ถูกนำมาใช้ตั้งสมัยขเมรนู่นแหนะ เกี่ยวกับบาราย(บ่อน้ำ)และปราสาท สืบทอดกันมายาวนานและลดทอนจนเหลือบางสิ่งบางอย่างในเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งทำให้ผู้อาศัยและผู้มาเยือนสัมผัสถึงความสงบและร่มเย็น นำมาสวมอยู่ในรูปแบบอาคารที่หน้าตาทันสมัย พร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานในปัจจุบัน
ทางเข้าออกของโรงแรมนั้น สามารถเข้าได้ทั้งหมด 3 ทางค่ะ อย่างที่เกริ่นกันไว้ในตอนต้นซึ่งฝนจะเดินเข้ามาจากทางโรงแรมสุโขทัยค่ะ ในส่วนของ Facilities ของโครงการจะมีอยู่ที่ชั้น 1 และ ชั้น 34 ค่ะ ส่วนใหญ่อยู่ในชั้น 1 ทั้งสระว่ายน้ำ Floating Pavilion ที่ภายในมี Poolside Juice Bar , ห้องออกกำลังกาย ค่ะ เมื่อเข้ามาจากบริเวณ บริเวณทางเข้าจากโรงแรม จะเดินผ่านบ่อน้ำที่ยาวต่อเนื่องและระเบียงยาวค่ะ เพื่อเข้าสู่บริเวณโถงต้อนรับจะพบกับ Concierge ที่มีบริการตลอด 24 ชั่วโมงและแจกเข้าลิฟท์ส่วนต่างๆ ซึ่งลิฟท์ที่นี่จะตรงเข้าหน้าห้องเลย
จากซอยนันทาเมื่อเข้าสู่ส่วนของคอนโด เขตเริ่มตรงที่วัสดุปูพื้นที่ต่างกันค่ะ ป้อมยามคือบริเวณด้านซ้ายมือ กล้อง CCTV มีทั้งซ้ายและขวามือ
กล้อง CCTV อีกด้านของทางเข้า
เข้าสู่โครงการ จะพบ Drop Off เข้าจากทางซอยสวนพลู 8 หรือซอยนันทา ก็เข้ามาใช้ทางเข้าหลักตรงนี้
ที่ติดกันเป็นบ้านค่ะ ซึ่งต้องอาศัยทางเข้าออกของทางโครงการ จะมีการ List ชื่อและทะเบียนรถที่เข้าออกไว้
ศาลพระภูมิตั้งอยู่บริเวณทางเข้า อาคารคิวเฮ้าส์ใส่มงกุฎอยู่ด้านหลัง
เมื่อจอดบริเวณ Drop Off เรียบร้อยวนลงที่จอดรถได้เลย
ทางออกไปซอยสวนพลู 8 ขวามือคือป้อมยามค่ะ ปัจจุบันทางออกนี้ใช้ค่อนข้างน้อยค่ะ ถนนด้านนอกกำลังมีการปรับปรุง เลี้ยวซ้ายออกไปไปชุมชนบ้านเอื้อาทร ชุมชนสวนพลู ซึ่งทั้งทางเข้าสองทางจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ตลอดเวลาค่ะ
เข้าสู่โครงการค่ะ ผนังกรุด้วยหินสีเทา พร้อมโลโก้ของคอนโด
ประตูทางเข้าจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก Tempered ไม่มีเฟรมแบบนี้ การเข้าถึงโครงการใช้ Key Card Access ซึ่งตัวระบบสามารถตรวจจับ Card ตัวนี้โดยที่เราไม่ต้องหยิบออกมาเพื่อสัมผัสในระยะใกล้ เช่น ถ้าเรามีของถือมาเยอะแยะ ตัว Card อยู่ในกระเป๋า ประตูจะเปิดให้ เราไม่ต้องวางคุ้ยหาค่ะ 🙂
ทางเข้าถ้าหากลืมเอาบัตร หรือเป็น Visitor สามารถติดต่อเข้าไปยัง Concierge ด้านในได้
เมื่อเข้ามาเราจะพบทางเดินล้อมเสายาวตรง สุดทางคือทางเข้าโรงแรม ซ้ายมือคือทางเข้าคอนโดค่ะ ฝนขอพาชมภายนอกก่อนนะคะ
สิ่งที่ขนาบทางเดินด้านนอกคือสระบัวที่ยาวตลอดแนวค่ะ
บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่อาบแดด
Lap Pool ที่ยาว 50 เมตรค่ะ ทั้งหัวและท้ายสระมีสระบัวคั่นจบ อาคารสองชั้นแนวตั้งที่เห็นปลายสระ คือ Floating Pavilion
Floating Pavilion ในตอนกลางคืนจะเห็นคล้ายอาคารลอยออกบนน้ำด้วยแสงไฟ ในนี้จะมี Poolside Juice Bar ห้องฟิตเนส ห้องอาบน้ำ ซาวน่า สตีม ห้องโยคะ
เข้ามาด้านใน Facade ที่กระจกที่กั้นให้เห็นแสงและเงาที่เกิดขึ้น
Poolside Juice Bar มีให้บริการด้านล่าง
มองออกไปด้านสระว่ายน้ำ
พามาดูที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ
Locker room
Counter ล้างมือ Top หินสีขาว
ห้องน้ำมี 3 ห้องค่ะ
ห้องอาบน้ำ ผนังหินอ่อนสีขาวเช่นเดียวกับสุขา
ด้านบนเป็น Rain Shower ด้วย เพดานสูงมาก ประมาณ 4 เมตรกว่าน่าจะได้มีหลืบไฟซ่อนอยู่
ด้านข้างเป็นห้องซาวน่าและสตีม ผนังหินสีดำเซาะร่อง
ห้องซาวน่า
ห้องสตีม
ส่วนฟิตเนสอยู่ชั้นบนค่ะ
ไฟฝังผนังตามขั้นบันได้ พื้นสีเดียวกันกับชั้นล่าง
ห้องฟิตเนสมีพื้นที่กว้างมาก กกกกกก
ออกกำลังกายได้วิวสระว่ายน้ำ
ออกมาจาก Floating Pavilion มีสนามเทนนิสอยู่ใกล้ทางไปโรงแรมค่ะ
มองจากทางเข้าจากโรงแรมค่ะ เห็นตัวคอนโดอยู่ขวามือ เดินกลับเข้าสู่ในคอนโดกันค่ะ
อีกฝั่งของทางเดินที่ติดกับคอนโดมี Water Feature ที่ใช้เป็นเจดีย์เหมือนกันกับในโรงแรม วางลอยอยู่บนน้ำค่ะ ทั้งเจดีย์และอิฐมอญสีแดง เป็นสัญลักษณ์ของเจดีย์ที่สุโขทัย บริเวณที่มีคลุมผ้าใบที่สุดทาง กำลังมีการปรับปรุงอยู่ค่ะ ส่วนด้านล่างที่เป็นระแนงไม้เป็นที่จอดรถใต้ดิน 3 ชั้น ซึ่งที่จอดรถแบ่งออกเป็น 1-2 ห้องนอนจอดได้ 1 คัน ห้อง 3-4 ห้องนอน จอดได้ 2 คัน และ Penthouse 3 คันค่ะ
บริเวณทางเข้าค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการอยู่
พอเข้ามาจะพบบริเวณ Concierge บริการ 24 ชั่วโมง แต่ไม่ได้มี Lobby ค่ะ
ในส่วนของลิฟท์โดยสารในโครงการจะมีทั้งหมด 6 คู่ หรือ 12 ตัวค่ะ แบ่งเป็นโซน A,B,C,D,E,F ชึ่งจะขึ้นตรงไปหน้าห้องได้เลย โดยใช้ระบบ Key Card access เช่นเดียวกัน โดย Zone ใครโซนมันค่ะไม่ปะปน ถือว่าเป็นส่วนตัวมาก และลิฟท์เซอร์วิสจะมี 2 ตัวค่ะ ซึ่งจำนวนลิฟท์เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอนเพราะยูนิตต่อชั้นที่มากสุดแค่ 6 ยูนิตค่ะ โดยตรงกลางของตึกจะถูกจัดเป็น Service Corridor ค่ะ ดังนั้นทุกห้องจะหันหน้าออกไปเจอวิวทุกห้องค่ะ
ด้านหลังจะเป็นส่วนของ Mail Room ค่ะ ซ้ายมือคือลิฟท์
ทางเดินที่แจกไปยังลิฟท์โซนต่างๆ สูงประมาณ 10 เมตรค่ะ วัสดุใช้พื้นหินสีดำและไม้วีเนียร์กรุผนัง ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวโดยทำให้ผนังไม่เรียบเสมอกัน ใช้เส้นแนวตั้งเข้ามาตัดกับแสงที่ผ่านม่านเค้ามา สวยงามมากค่ะ ภาพสวยๆแบบนี้ต้องขอบคุณคุณบูมนะคะ ในชั้น 1 จะมีห้องเด็กเล่นด้วยจะพาไปชมกัน
มาที่ห้องเด็กเล่นค่ะ
อาณาจักรชัดๆ เมื่อก่อนเด็กๆจะชอบไปเล่นทะเลลูกบอล
เครื่องเล่นก็นำเข้ามา จัดให้เข้ากับพื้นที่ห้อง ในห้องนี้มีห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ
มีโต๊ะเอาไว้เล่นด้วยค่ะ
บริเวณโถงลิฟท์ของแต่ละโซนค่ะ
ขึ้นไปดูที่ชั้น 34 กันค่ะ นิมมาน เล้านจ์
ภายในลิฟท์มีที่นั่งเบาะบุหนังด้วย
ปุ่มภายในลิฟท์ค่ะ พอเราเข้ามาไม่ต้องแตะ Card ระบบจะจัดการค้นหาข้อมูลใน Card เองว่าเราอยู่ชั้นไหน
ยินดีต้อนรับสู่ นิมมาน เล้านจ์ค่ะ
ภายในห้องมีพื้นที่ให้นั่งอ่านหนังสือทั้งโต๊ะและโซฟา
บริเวณโซฟาค่ะ
มองออกไปเห็นวิวด้านนอก ติดระเบียงค่ะ
ปลั๊กไฟซ่อนอยู่ที่พื้น
โซฟาชุดนี้นั่งแล้วมองออกไปด้านนอกเลย
เห็นวิวแบบนี้ค่ะ ขวาสุดเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย (คลิกที่รูปเพื่อดูดรูปใหญ่เต็มๆค่ะ)
มี Pantry เล็กๆ บริการตัวเองค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำยาว 50 เมตร
- สระว่ายน้ำเด็กยาว 12 เมตา
- ห้องออกกำลังกาย พร้อมห้องยึกโยคะหรือพิลาทีส
- ห้องเด็กเล่น
- ฝ่ายต้อนรับ 24 ชั่วโมง
- สระบัว และพื้นที่เดินรอบสระบัว
- นิมมานเล้าน์จ
- โฟลทติ้งพาวินเลี่ยน
- บาร์เครื่องดื่มริมสระน้ำ
- สนามเทสนิส
- สวนพักผ่อน
- กำแพงน้ำตก โถงไม้ไผ่
- ลิฟท์โดยสาร 12 ตัว อัตราส่วน ประมาณ 16:1
- Service Lift 2 ตัว
- ที่จอดรถเกิน 100%
- ระบบ CCTV / Access Card
Product Walkthrough
ในโครงการมีทั้งหมด 5 แบบค่ะแบ่งออกเป็น ปัจจุบันโครงการขายเหลืออยู่ 20% ยังมีเหลืออยู่ทุกขนาดห้องค่ะ
1 ห้องนอน มี 3 Type
Type A1 ขนาด 88-89 ตารางเมตร
Type A2 ขนาด 123 ตารางเมตร
Type A3 ขนาด 119-123 ตารางเมตร
2 ห้องนอน มี 4 Type
Type B1 ขนาด 113-120 ตารางเมตร
Type B2 ขนาด 122-128 ตารางเมตร
Type B3 ขนาด 139-144 ตารางเมตร
Type B4 ขนาด 155-163 ตารางเมตร
3 ห้องนอน มี 4 Type
Type C1 ขนาด 196-206 ตารางเมตร
Type C2 ขนาด 222-223 ตารางเมตร
Type C3 ขนาด 232-242 ตารางเมตร
Type C4 ขนาด 286 ตารางเมตร
4 ห้องนอน มี 2 Type
Type D1 ขนาด 321-337 ตารางเมตร
Type D2 ขนาด 321-327 ตารางเมตร
Penthouse มี 5 Type
Type PH1 ขนาด 435 ตารางเมตร
Type PH2 ขนาด 429 ตารางเมตร
Type PH3 ขนาด 848 ตารางเมตร
Type PH4 ขนาด 1,103 ตารางเมตร
Type PH5 ขนาด 1,183 ตารางเมตร
สำหรับตัวห้องที่ฝนจะพามารีวิวชมกันคือ 2 ห้องนอน ขนาด 162 ตารางเมตร Type B4 ค่ะ
อธิบายจากแปลนห้องก่อนนะคะ เมื่อขึ้นมาจากลิฟท์จะเจอประตูเข้าห้องและประตูออกไปด้านหลังที่เป็น Service Corridor เข้ามาที่ห้อง จะพบส่วนทานข้าว รับแขก และระเบียงค่ะ และครัวจะเป็น Show Kitchen ถัดเข้าไปเป็นครัวไทย แยกซ้ายขวาเป็นห้องน้ำ ห้องนอนเล็กมีห้องน้ำในตัวและห้องนอนใหญ่ พร้อม Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว
เปิดลิฟท์ออกมาก็เป็นพื้นที่หน้าบ้านด้วยค่ะ แต่ละห้องสมารถเลือกใช้ลิฟท์เป็นคู่ค่ะ ผนังลิฟท์กรุด้วยหินสีดำ
ประตูด้านนี้เปิดออกไปเป็น Service Corridor บานประตูไม้ค่ะ
เข้ามาที่ Service Corridor ซึ่งทางโครงการจะมีจัดห้องเก็บของไว้ให้แต่ละยูนิต เข้าได้จากทางห้องและทางเดินด้านหลัง ตัวงานระบบต่างๆถูกดึงมาไว้ที่นี่เช่นกัน เรียบร้อยในการจัดการมากเพราะจะไม่วุ่นวายเวลาการส่งของใช้ลิฟท์เซอร์วิสตรงนี้แล้วเข้าจากด้านหลังได้เช่นกัน
มือจับประตูแบบง้าวและบานประตูไม้
พื้นระหว่างส่วนหน้าบ้าน(หน้าลิฟท์) เป็นพื้นหินสีดำค่ะ พอเข้ามาจะเป็นอีกวัสดุ ซึ่งห้องตัวอย่างจะเป็นพื้นหินสีขาว แต่ที่มากับโครงการคือพื้นไม้ทั้งห้องค่ะ
เข้ามาจะพบส่วนทานอาหาร ห้องนี้ฝ้าเพดานสูง 4.50 เมตรค่ะ (เฉพาะชั้น 34 นะคะ)
ด้านขวาเป็นครัวค่ะ และส่วนรับแขกติดระเบียงด้านนอก
มีเตรียมระบบต่างๆไว้ให้ ผนังที่มากับโครงการจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีค่ะ
ระเบียงภายนอก
บานประตูบานเลื่อน
พื้นด้านนอกเป็นพ้นไม้ค่ะ
ระเบียงกว้างประมาณ 2 เมตรกว่าๆค่ะ สถาปนิกคำนึงถึงเรื่องแดดของบ้านเรามีการออกแบบแผงระแนงบังแดด เพื่อลดความร้อนและแสงแดดที่เข้ามาสู่ตัวอาคารได้
ด้านนอกมีไฟติดผนังส่องลงที่ระเบียง
มองออกไปเห็นวิวแบบนี้ค่ะ โยนสายตาไปฝั่งสาทร (คลิกที่รูปเพื่อดูดรูปใหญ่เต็มๆค่ะ)
มองลงมาจะเห็นสระว่ายน้ำค่ะ
มาที่ส่วนครัวค่ะ
ชุดครัว Built-in ของ Poggenpohl
เตาอบ Hob และ Hood ของ GAGGENAU
ตู้เย็น Built-in
Sink ล้างจานอยู่อีกฝั่งนึงค่ะ วางผังครัวเป็นรูปสามเหลี่ยม
ตู้บานข้างล่างมีถังขยะติดอยู่เลย
เขยิบไปดูส่วนครัวไทยกันค่ะ
ด้านในมีอ่างล้าง หัวเตาแบบเตาแก๊สและ Hood ซึ่งถังแก๊สจะตั้งอยู่ด้านนอก มีหน้าต่างระบายอากาศบานเลื่อนด้านบน
เตาแก๊ส 2 หัวและ Hood ภายในครัวไทยของ SIMENS ค่ะ
อ่างล้าง
ตู้ในสุดด้านล่างเป็นเครื่องซักผ้า
มาที่ห้องน้ำค่ะ จะอยู่ใกล้กับทางเข้าห้องนอนเล็ก
สวิตช์ที่ห้องน้ำจะแยกพัดลมไว้ขวาสุด
ภายในห้องน้ำพื้นเป็นพื้นหินสีครีม ผนังหินอ่อนสีครีมค่ะ
สุขภัณฑ์อยู่ด้านใน
อ่างล้างมือฝังเคาน์เตอร์ครึ่งหนึ่ง
หลังกระจกมีชั้นเก็บของกระจุกกระจิก
มาที่ห้องนอนเล็ก ขวามือเข้ามาจะเจอตู้เสื้อผ้า 2 ตู้ ภายในมีไฟติดไว้ให้แบบนี้
เลี้ยวเข้าห้องน้ำค่ะ เคาน์เตอร์ยาวเต็มผนังเช่นเดียวกับกระจก
อีกฝั่งเป็นสุขภัณฑ์แขวนผนัง
ห้องอาบน้ำกระจก Tempered ใสเข้ามุม
ที่ระบายน้ำ
หัวฝักบัว
มาที่ห้องนอนค่ะ เพดานสูงโปร่งและติดหน้าต่างสูงประมาณ 2 เมตรค่ะอีกด้านแต่งเป็นโต๊ะทำงานยาวตลอดผนัง
มาที่ห้องนอนใหญ่กันค่ะ
ด้านหลังประตูมี Door Stopper ค่ะ พื้นห้องเป็นไม้
ภายในห้อง Walk-in Closet จัดเป็นรูปต้ว U
เข้ามาที่ห้องนอนค่ะ เตียงหันหน้าออกไปดูวิว ระบบแอร์ด้านบน VRV แบบ Split type ค่ะ
มองปลายเตียงออกไปมีหน้าต่างสูง 2 เมตรเห็นวิวข้างนอน
อีกมุมในห้องตกแต่งเป็นโต๊ะทำงาน
มาที่ห้องน้ำกันบ้าง ห้องนี้มีเคาน์เตอร์ล้างมือยาวแบบ His&Her อ่างอาบน้ำด้วยค่ะ
ส่วนอาบน้ำจะกั้นอยู่บริเวณเดียวกัน อาบเสร็จลงอ่าง
อ่างอาบน้ำได้วิวเมืองด้วย วู้ว
ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องสุขา
โถสุขภัณฑ์ติดผนังค่ะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 04/09/2556
- 1 ห้องนอน Type A1 88.16 ตารางเมตร ราคา 29,367,000 ล้านบาท หรือ 333,102 บาทต่อตารางเมตร
- 2 ห้องนอน Type B4 162 ตารางเมตร ราคา 58 ล้านบาท หรือ 374,193 บาทต่อตารางเมตร (ห้องตัวอย่างที่พาไปรีวิว ราคานี้ Fully Furnished)
- รายละเอียดโปรโมชั่นช่วงเดือนกันยายน 2556
- 1 หรือ 2 ห้องนอน รับรถยนต์ Abarth 695 เป็นรุ่น Limited Edition
- 3 ห้องนอน รับรถยนต์ Maserati รุุ่น Ghibli
- 4 ห้องนอน รับรถยนต์ Maserati รุ่น Ghibli S
- Penthouse รับรถยนต์ Maserati รุ่น Quattroporte GTS พร้อมทริปพิเศษชั้นธุรกิจเพื่อบินไปชมโรงงานผลิต และพิพิธภัณฑ์ของ Maserati ที่เมืองโมดีน่า ประเทศอิตาลี มูลค่ารวมกว่า 15.1 ล้าน
- Fully Fitted
- เพดานมาตรฐานสูง 3.0 เมตร (แล้วแต่ Type)
- จอง 300,000 บาท
- ทำสัญญา 10 % ของราคาห้อง
- ค่ากองทุน 800 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 80 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน (จ่ายล่วงหน้า 24 เดือน)
เจาะลึกรวบยอด
The Sukhothai Residences เป็นอีกโครงการหนึ่งที่จัดได้ว่าตัวทำเลและการออกแบบนั้นเอื้อต่อการให้โครงการเป็นระดับ Ultimate แบบเพียวๆได้อย่างไม่ยากเย็นเลยค่ะ ในเรื่องของตัวทำเลที่ตั้ง นอกจากไปอยู่ในศูนย์กลางย่านธุรกิจอย่างสาทรแล้ว การเดินทางเข้า ออกโครงการมีหลากหลายเส้นทาง ทำให้ถนนสาทรที่ว่าติดขัดแต่ถ้ารู้จักทางเข้าออก สามารถเลือกเข้ามาจากเส้นทางพระราม 4 หรือ ทางนราธิวาสก็ได้ ถึงจะติดแต่ก็ยังลัดได้อยู่ ใกล้ๆกันมีทางขึ้นทางด่วน แตกออกไปทั้งบางนา แจ้งวัฒนะ พระราม 3 ดาวคะนอง ทำให้การเดินทางจากใจกลางเมืองออกไปชานเมืองไม่ยากเท่าไหร่ค่ะ ส่วนระบบขนส่งอย่างอื่นที่ใกล้ๆก็มี สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ลุมพินี ซึ่งก็ไม่ไกลเป็นระยะเดินได้เช่นกันค่ะ ตัวทำเลไปอยู่ในปลายของถนนสาทร ช่วงนี้ตึกสูงๆจะน้อยลง ทำให้วิวด้านถนนวิทยุเป็นวิวที่เขียวชอุ่มมากและ ไม่ค่อยมีอาคารอื่นมาบดบังทัศนียภาพเท่าไหร่
การเลือกทำเลที่ตั้งอยู่ในจุดที่วุ่นวายแต่กลับไม่วุ่นวายทำให้โครงการนี้มีเสน่ห์มากค่ะ เมื่อเข้าโครงการแล้ว บรรยากาศคำว่า รีสอร์ทใจกลางเมือง ใช้คำนี้ได้เลย ดึงความสงบเข้าโครงการได้มากทีเดียว เพราะตำแหน่งที่ตั้ง ถึงจะบอกว่าติดถนนสาทรแต่กลับลึกเข้ามาจากถนนมาก และด้านที่เหลือเป็นซอยที่มีการอาศัยแบบสเกลบ้านมากกว่าทำให้บรรยากาศร่มรื่นและเงียบสงบ
การออกแบบสำหรับอาคารนี้ฝนคิดว่าทำออกมาได้ดีเลย สร้างพื้นที่ให้การถ่ายเทความรู้สึกให้เกิดความผ่อนคลายก่อนเข้าสู่ห้อง ทำให้ไม่รู้สึกเหมือนอยู่ในเมืองใหญ่เท่าไหร่ ตัวอาคารอาจดูเรียบไม่มีเอกลักษณ์มาก แต่การออกแบบพื้นที่ภายใน และผังพื้น นำทริคการออกแบบมาใช้ เช่น การดึงเอาน้ำ บ่อบัว มาใช้ในโครงการ เป็นสัญลักษณ์ของบารายของขเมรซึ่งเรารับตรงนี้ต่อมาจากเค้า ทางผู้ออกแบบพยายามนำมาถ่ายทอด ให้ตรงกับแนวความคิดหลัก การมีน้ำในโครงการ ทำให้ผ่อนคลาย และให้ความรู้สึกเย็นแก่ผู้อาศัย ได้ด้วย และส่วนของระแนงที่ติดอยู่ที่ตัว Facade อาคารที่มีการคิดถึงเรื่องแดด และความร้อน ในเรื่องวัสดุที่ใช้ ก็ใช้ของดีเหมาะกับราคาที่แพงหูดับ ให้ความสำคัญในส่วนที่อยู่อาศัย ส่วนกลางและส่วน เซอร์วิสได้ดี ส่วนภายในห้องนั้น พื้นที่ที่แบ่งออกมา ก็ใช้งานได้เต็มที่ คือเป็นห้องที่เนื้อที่เยอะค่ะ ไม่ค่อยมี Dead Space เท่าไหร่
เรื่องสาธารณูปโภคเพียงพอแบบเหลือแน่ สำหรับโครงการ ผู้ใช้งานไม่เบียดเสียดกันใช้ค่ะ เพราะจำนวนยูนิตค่อนข้างน้อย ลิฟท์โดยสารค่อนข้างส่วนตัวมากคือแบ่งเป็นโซนซึ่งในแต่ละชั้นก็มียูนิตพักอาศัยไม่เกิน 6 ยูนิต อัตราส่วนลิฟท์กับที่จอดรถ เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน การดึง Service Corridor ไว้ตรงแกนกลางของอาคารทำให้การจัดการเรื่องเส้นทางบริการง่ายค่ะ งานระบบต่างๆก็มีห้องแยกไว้อยู่ทางด้านหลังและมีห้องเก็บของแยกแต่ละยูนิตด้วย เหมือนเป็นด้านหลังบ้านของแต่ละห้อง เวลาห้องไหนมีตกแต่งหรือปรับปรุงเราไม่ต้องเห็นผู้รับเหมาและช่างผ่านทางลิฟท์โดยสารเลยเพราะแยกส่วนกันชัดเจนมาก
การใช้ทีมบริหารเดียวกันกับทางโรงแรมเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของโครงการเลย เพราะตัวโรงแรมโดดเด่นทางด้านนี้อยู่แล้ว กลุ่มลูกค้าส่วนนึงของโรงแรมวางใจเรื่องนี้จึงมีการมาจับจองเป็นเจ้าของ The Sukhothai Residences จำนวนนึงเลย ซึ่งมากกว่าซื้อคอนโดอยู่อาศัยคือการบริการ ที่ทำให้ลุกค้าประทับใจ และการออกแบบตัวอาคาร ประกอบกัน
Judgement
ราคาขนาดนี้ และคอนโดระดับ ULTIMATE ความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยในการตัดสินใจซื้อหรือไม่ ความคุ้มค่าด้านอารมณ์คือปัจจัยหลัก ซึ่งตราบเท่าที่ทางเรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ จึงมิอาจให้คะแนนได้นะคะ
BOTTOM LINE
The Sukhothai Residences คอนโดมิเนียมกลางใจเมืองที่นอกจากไม่วุ่นวาย แต่ยังรู้สึกสงบเงียบจากโลกภายนอก ผ่อนคลาย ไร้กรอบความเครียด ภายในรีสอร์ทใจกลางเมือง
LIKE เพื่อให้กำลังใจกันนะคะ