รีวิวโครงการ
The Saint Residences คอนโด High Rise 3 อาคาร ห่างจาก MRT พหลโยธิน 350 เมตร จาก Salan Development [Think’s Walk-in]
12 กุมภาพันธ์ 2020
สวัสดีค่ะมิตรรักแฟนเพจ รีวิวฉบับที่ 789 ฝนพามาเจาะลึกอีกหนึ่งโครงการที่เพิ่งเปิด Pre-Sale กันสดๆร้อนๆ ไปเมื่อวันที่ 14-15 ที่ผ่านมากับโครงการ The Saint Residences ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว บนถนนวิภาวดีรังสิต โดย ซาแลน ดีเวลลอปเมนท์ ที่หันจากโครงการด้านสถาบันการศึกษามาจับโครงการอสังหาฯ ไม่ใช่โครงการแรกนะคะ แต่นานๆมีที นับว่าเป็นโครงการที่มีคนจำนวนมากพูดถึงตั้งแต่ปีที่ผ่านมาก่อนจะล้อมรั้วโครงการซะอีกที่มีการนำพื้นที่ของเซนต์จอห์นส่วนหนึ่งมาทำโครงการพักอาศัยและอื่นๆ (ในเบื้องต้นยังไม่สรุปแต่อาจจะเป็น Community Mall ค่ะ) ซึ่งอาคารที่เปิดขายไปนั้นเมื่อปีที่แล้วคืออาคาร C ตอนนี้ก็เปิดอาคาร B พร้อมห้องตัวอย่างให้เข้าชมด้วยนะคะ เอาเป็นว่าไม่รอช้าไปอ่านเจาะลึกกับฝนดีกว่าค่ะ
Fact @ 13 March 2015
- The Saint Residences ( เดอะ เซนต์ เรสสิเด้นเซส )
- Salan Development Co., LTD
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : จตุจักร
- คอนโด High Rise 41 ชั้น 3 อาคาร 1,537 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต (A : 409 ยูนิต , B : 407 ยูนิต , C : 721 ยูนิต)
- อาคารจอดรถ 6 ชั้น บริเวณโพเดียมของโครงการ
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 21 ยูนิตที่อาคาร C
- ที่จอดรถประมาณ 737 คันคิดเป็น 48% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น xx%
- ที่ดินประมาณ 7-0-51.40 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 3 ปีหลังจากได้รับ EIA
- 1 Bedroom 1 Bathroom 30-43 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท (ราคาที่อาคาร C)
- 2 Bedrooms 2 Bathrooms 55-70 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น xxx ล้านบาท (รอข้อมูลเพิ่มเติม)
- 3 Bedrooms 3 Bathrooms 84-134 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น xxx ล้านบาท (รอข้อมูลเพิ่มเติม)
- ฝ้าเพดานสูง 2.6 และ 2.9 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.8 ล้านบาทหรือประมาณ 126,666 บาทต่อตารางเมตร (ราคาที่อาคาร C)
- EIA : ระหว่างดำเนินการ
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบ MRT : มองหาทำเลน่าอยู่ : สถานีพหลโยธิน
- http://www.thesaint-residences.com/th/
- 081-554-7575 , 081-554-3030
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะจ้ะ
พิกัด : 13.811736, 100.560085
แผนที่บริเวณสถานีพหลโยธิน สามารถไปอ่านมองหาทำเลน่าอยู่ สถานีพหลโยธินได้นะคะ
อันนี้จะป็นแผนที่จากทางโครงการค่ะ ที่จะทำให้ดูภาพวงกว้างๆว่าโครงการสามารถไปไหนได้บ้าง ซึ่งจากตำแหน่งที่ตั้งของโครงการอยู่บริเวณ 5 แยกลาดพร้าวโดยฝั่งทางเข้าออกจะอยู่บนถนนวิภาวดี-รังสิตมุ่งหน้ามาทางดินแดงค่ะ
อันดับแรกขอพูดถึงสภาพแวดล้อมในรัศมีประมาณ 3 กม. ของทำเลนี้ก่อน ด้วยความที่อยู่ใกล้ห้าแยกลาดพร้าวมาก ซึ่งเป็นแยกใหญ่ เป็นแหล่งชุมชน เป็น Hub ของ กรุงเทพตอนบนก่อนที่จะเข้าไปสู่ตัวเมือง ก็จะมีความสะดวกสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบ เช่น ห้างสรรพสินค้า อย่างเซ็นทรัลลาดพร้าว หรือ โลตัสพหลโยธิน, มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ คือสวนจตุจักร (พร้อมตลาดนัด), สวนรถไฟ ที่อยู่ไม่ไกลนัก อยู่ในระยะที่สามารถไปใช้พักผ่อนได้, อยู่ใกล้สถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2), มีตลาดสด อตก., มีโรงเรียนเซนต์จอห์น, โรงเรียนหอวัง และบริเวณนี้ก็อยู่ในจุดที่เป็นกึ่ง Commercial เพราะเป็นบริเวณที่มีอาคารสำนักงานใหญ่ๆมาตั้งอยู่ใกล้ๆเป็นจำนวนมากทำให้เป็นทำเลที่มีศักยภาพที่จะเติบโตต่อไปได้อีกแน่นอน
ส่วนสภาพแวดล้อมในบริเวณใกล้ๆกับโครงการนั้นแบบระยะเดินได้ ก็ต้องไปเกาะเส้นลาดพร้าวมากกว่าฝั่งวิภาวดี แต่ถึงตัวริมถนนหลักอย่างวิภาวดีเนี่ยจะดูเน้นการสัญจรเสียมาก แต่บริเวณซอยหลังการบินไทย ก็มีตลาดนัดให้เลือกจับจ่ายเพียบค่ะ ข้ามมาฝั่งยูเนียนมอลล์เส้นลาดพร้าวก็ไม่ได้ขี้เหร่ แหล่งจับจ่ายก็มีให้เลือกมากมายเช่นกัน ถึงแม้ว่าติดกับโครงการ 300-500 เมตรจะไม่ค่อยมีอะไร แต่ตีวงกว้างออกไปไม่ลำบากแน่ๆ อุดมสมบูรณ์ทีเดียว
สำหรับคนที่รู้จักย่านนี้ดีอยู่แล้วจะทราบว่าการเดินทางด้วยรถยนต์นั้นช่วงเวลา Office hour นั้นติดกันสุดเป็นที่ขึ้นชื่อเลยแหละ เพราะเป็นจุดตัดของถนนเส้นหลักๆ 2 สายอย่างถนนวิภาวดีรังสิตกับถนนพหลโยธินและเป็นต้นทางของถนนลาดพร้าวด้วยอีก ทำให้เวลาเร่งด่วนนั้นไม่สามารถเร่งได้อย่างที่คิด การที่ลักษณะทางกายภาพของถนนมาตัดกันเป็น 5 แยกนอกจากรถติดแล้วแต่ทำให้มีความสะดวกในการขับรถไปยังสถานที่ต่างๆเป็นอย่างมาก ส่วนระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆเช่น ระบบราง ปัจจุบันนั้นก็มีให้ใช้บริการอยู่แล้วคือรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพหลโยธิน ที่ห่างจากโครงการประมาณ 300-370 เมตร (แล้วแต่เส้นทางท่ีเลือกเดินนะ) ส่วนใครที่ต้องเดินทางเกาะ BTS ก็สามารถไปเปลี่ยนรถได้ที่สถานีหมอชิตและต่อมาอีก 1 สถานีมาได้ โดยในอนาคตก็จะมีการต่อรถไฟฟ้าเกาะเส้นพหลโยธินออกไป เป็นสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่ ทำให้มีทางเลือกในการเดินทางไปโซนเหนือของกรุงเทพมากขึ้นค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกในระยะประมาณ 1 กิโลเมตร +/- ก็คงหนีไม่พ้นห้างสรรพสินค้าที่เป็น Landmark ของห้าแยกก็คือ Central ลาดพร้าวและยูเนี่ยนมอลล์
มาดูระยะเดินกันค่ะ จากสถานีพหลโยธินมีทางออก 1,2 ให้เลือกออก ใช้ทางซอยลาดพร้าว 2 เดินเข้ามา 370 เมตรโดยประมาณจะเห็นว่าไกลกว่าเดินริมถนนลาดพร้าว แต่สภาพการเดินในซอยกลับง่ายและร่มรื่นกว่าค่ะ
มาดูที่เส้นทางการเดินรถบ้างนะคะ หากมาจากทางถนนวิภาวดีขาออกเดินรถ(คู่ขนาน) ขึ้นสะพานด้านซ้ายมือ ไปทางรัชโยธินเมื่อลงสะพาน ออกถนนพหลโยธิน ผ่านหน้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ให้ชิด ขวาเพื่อกลับรถตรงโลตัสตรงมายังห้าแยกลาดพร้าวตรงผ่านไฟแดง (ป้ายดินแดง) แล้วจึงชิดซ้าย ไปทาง “ดินแดง” แล้ว The Saint อยู่ทางซ้ายมือค่ะ หรือใครจะใช้สะพานวนลงวาดพร้าวผ่านยูเนี่ยนมอลล์แล้วกลับรถค่อยเข้าโครงการก็ได้เหมือนกัน (เส้นสีน้ำเงิน)
จากถนนลาดพร้าวมาง่ายๆคือใช้ถนนลาดพร้าวเลี้ยวซ้ายเข้าวิภาวดีอยู่ในคู่ขนานนะคะ หรือจะใช้ซอยลาดพร้าว 2 เพื่อลัดออกมาหน้าโครงการ
มาจากถนนพหลโยธินใช้ช่องขวาสุด จาก BTS หมอชิต เมื่อถึงห้าแยกลาดพร้าว ให้เข้าช่องทางที่ 2 จากทางขวาดู “ป้าย“ดินแดง” ตรงลอดใต้สะพานลาดพร้าวมาจนสุด แล้วเลี้ยวขวา ออกสู่ถนนวิภาวดีฯ ตรงไปดินแดง (อย่าเลี้ยวขวาแรก เพราะจะเลี้ยวกลับไปยังสะพานควาย) เมื่อออกสู่ถนนวิภาวดีฯ จะพบ ทางเข้าโครงการ อยู่ทางซ้ายมือ
สำหรับคนที่มาจากทางวิภาวดีขาเข้าเมืองก่อนถึงห้าแยกลาดพร้าวอันนี้จะเป็นจุดที่ต้องวนเล็กน้อยเพราะทางลงสะพานข้ามแยกจะเลยทางเข้าโครงการมาแล้วค่ะ ให้เลือกใช้ซอยวิภาวดี 22 เลาะออกมาที่ซอยลาดพร้าว 4,6 หรือ 8 ทะลุลาดพร้าววนเข้า ห้าแยกได้ แต่แนะนำซอย 8 จะสะดวกที่สุด ถนนซอยจะกว้างขับสะดวก ที่ควรเลี่ยงคือช่วงเวลาเลิกเรียนเพราะจะแออัดคับคั่งสุดๆตามซอยหลังโรงเรียนเซนต์จอห์น
ส่วนคนที่มาจากวิภาวดีขาออกถ้าไม่ไปกลับรถตรงหอวังก็สามารถใช้เส้นทางตามภาพได้เช่นกัน
จากภาพที่ถ่ายบนสะพานลอยจะเห็นว่าถ้าคนที่มาจากถนนวิภาวดีแล้วข้ามแยกมาจะไม่สามารถเข้าโครงการได้นะคะ เพราะติดเชิงสะพาน โดยทางเข้าหลักโครงการจะเป็นทางท่ีใช้ก่อสร้างค่ะ ไม่ใช่ทางเข้าสำนักงานขาย ก็ต้องอ้อมเข้าทางซอยวิภาวดี 22 ตามที่บอกไปทะลุลาดพร้าว
มองย้อนกลับไปที่ถนนวิภาวดีฝั่งมุ่งหน้าไปสุทธิสาร อ้อ ที่รถโล่งแบบนี้คือช่วงสายๆแล้วค่ะ
หน้าตาของสำนักงานขายก็ถ้ามาจากถนนลาดพร้าวเลี้ยวขวาเข้าถนนวิภาวดีตรงคู่ขนานก่อนเลยเชิงสะพานก็จะเห็นสำนักงานขายตั้งอยู่ ฝนจะพาไปดูบรรยากาศของซอยลาดพร้าว 2 กันก่อนนะคะ
ซอยวิภาวดี 26 จะทะลุไปทางลาดพร้าว ซึ่งเป็นซอยเดียวกับลาดพร้าว 2 นี่แหละ แค่อยู่คนละฝั่งถนน ขวามือคือพื้นที่ส่วนหนึ่งที่ว่าจะนำมาพัฒนาต่อในอนาคต
ร้านอาหารลองดู อยู่บริเวณปากซอย อ้อ เดินรถทางเดียวนะคะ
บริเวณสำนักงานขายที่ติดกับซอยลาดพร้าว 2 ก็จัดสวนซะร่มรื่นเลย น้องเหมียวกำลังเกามันส์มาก
สถานที่สำคัญในซอยนี้ก็คือ วัดเซนต์จอห์น ค่ะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ทำให้บรรยากาศตรงนี้น่าเดิน
ฝั่งตรงกันข้ามกับวัดเซนต์จอห์น จะมีอาคารสีฟ้า เป็นอาคารเรียนเก่าของเซนต์จอห์นค่ะสูงประมาณ 12 ชั้น ปัจจุบันยังไม่ได้ทำอะไร ไม่มีการใช้งาน ถัดมาเป็นส่วนอาคารสูง 9 อยู่ในระยะ 300 เมตรจากโครงการแน่นอนว่าจะเป็นวิวที่มองเห็นได้ใกล้
กูเตนเบิร์ค เป็นออฟฟิศค่ะ แต่ไม่ได้มีผู้คนติดต่อผลุกพล่าน
จะเห็นว่าตามข้างทางมีรถจอดแปะอยู่ เนื่องจากลักษณะห้องแถวที่ไม่มีที่จอดรถ แต่ก็เดินไม่ยากเท่าไหร่นะเพราะทางค่อนข้างร่มรื่นอย่างที่บอก สุดทางอาคารเหลืองๆนั่น ยูเนี่ยนมอลล์และ
เห็นทางขึ้นลงสถานีไม่ไกลค่ะ รวมๆ 370 เมตรจากทางเข้าโครงการ
มาดูอีกเส้นทางค่ะ ไว้ลัดได้เช่นกัน คือซอยวิภาวดี 22 เริ่มต้นจากด้านหน้าทางเข้าโครงการค่ะ
ฝั่งที่ใกล้กับซอยวิภาวดี 24 มีร้านกินดื่ม V24
อีกฝั่งนึงนี่เป็นดงออฟฟิศเลยแหละ ไล่มาจากคอนโดลูกผสมออฟฟิศ Equinox ถัดมาเป็นตึกซัน , ธนาคารทหารไทย , เล่าเป้งง้วน ซึ่งฝั่งนั้นมีทั้งของกินของขาย ละลายตังค์ได้เพียบ ก็เรียกว่าอุดมสมบูรณ์เลยหล่ะ แต่ข้อเสียคือ คนจรจัดค่ะ พี่แกเยอะอยู่ ซึ่งหากช่วงเลิกงานค่ำมืดหรือเสาร์อาทิตย์ก็ สาวๆเดินลำบากแน่
จุดสังเกตคือ โชว์รูม Ducati ค่ะอยู่ปากซอยวิภาวดี 22 เป็นซอยที่มีประโยชน์มากเพราะใช้เลาะไปยังลาดพร้าวได้ตั้งแต่ 4-10 ซอกแซกสุดๆค่ะ แต่ที่แนะนำคือออกไปทางลาดพร้าว 8 จะสะดวก บรรยากาศดีกว่าเยอะ ในซอยนี้นอกจากคนพื้นที่ใช้แล้ว เด็กๆนักเรียน ผู้ปกครองที่มารับส่งในช่วงเช้าเย็นก็ใช้เส้นทางนี้เช่นกัน
จะเห็นป้ายประชาสัมพันธ์หลักสูตรโรงเรียนเซนต์จอห์นตามทางเป็นระยะๆ
ภายในซอยนั้นก็เน้นเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้นหน้าตาเรโทรๆหน่อย และมีพื้นที่รอบๆบ้านพอสมควร จะมี Low rise ป่ะปนบ้าง โดยนอกจากรถยนต์แล้ว พี่วินก็ใช้ซอยนี้ซะเยอะ รวมทั้งน้องๆนักเรียนก็ด้วย
จุดด้อยอย่างนึงของซอยแบบนี้ก็คือคนไม่ชินทำเลนี่ เลี้ยวกันอ้วก เป็นซอยเล็ก ออกผิดเวลาก็ติดแหง็ก แต่ถ้าเป็นคนพื้นที่ก็สบายเลยหล่ะ
เข้ามาภายในซอยเจอโรงเรียนนานาชาติเซนต์จอห์น ช่วงเข้าและเลิกเรียนก็เด็กๆเพียบจ้ะ รวมทั้งผู้ปกครองและรถรา
มุ่งหน้าไปซอยลาดพร้าว 8 จะเห็นว่ามีรถจอด 2 ข้างฝั่งเลย ต้องหลบไปมา
ปากซอยลาดพร้าว 8 มีของขายข้างทางประปรายพร้อมพี่วิน
เดินตามถนนลาดพร้าวมาไม่ไกลก็จะเจอยูเนี่ยนมอลล์ล่ะ
แอบส่องซอยลาดพร้าว 4 ให้ดูซักหน่อย คือใช้ได้เหมือนกันนะคะ หากมาจากวิภาวดี 22
แต่ซอยเล็ก แคบกว่าและมีชุมชนแออัดอยู่เยอะ ทางซอย 8 จะสะดวกกว่าเยอะ แค่ไกลกว่านิดหน่อยค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- สถานีรถไฟใต้ดินพหลโยธิน
- ยูเนี่ยนมอลล์
- สวนสมเด็จย่า
- เซนทรัลลาดพร้าว
- ตึกซัน
- ธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่
- การบินไทย
เริ่มต้นด้วยรูปสวยๆของอาคารทั้งหมดจากโครงการก่อนเลย ฟริ้งงงง
สำนักงานขายของ The Saint ตั้งอยู่บนที่ดินของโครงการเลยนะคะ หน้าตาเป็นอาคารสีขาวเรียบ จะเห็นได้ชัดเมื่อมาจากทางถนนลาดพร้าวเข้าวิภาวดี
บรรยากาศด้านในค่ะ ก็สูงโปร่ง มีการล้อเส้นสายจากตัวอาคารสำนักงานขายภายนอกเข้ามา
อีกด้านจะเป็นจุดตั้งโมเดลของโครงการค่ะ เดี๋ยวเดินไปดูซูมๆดีกว่า
ลายพื้นของสำนักงานขายเป็นกระเบื้องหินที่วางลายได้สวยดี
โครงการนี้มีทั้งหมด 3 อาคารนะคะ คือ A,B และ C สูงเท่ากันหมด 3 พี่น้องที่แตกต่างเป็นการแบ่งห้องและความหนาแน่นค่ะ ซึ่งตอนนี้ทางโครงการเปิดขายทั้งตึก B และ C ส่วนตึก A นั้นยังไม่เปิดค่ะ โดยตั้งใจเปิดเมื่อตึกใกล้เสร็จค่อยขายอีก พื้นที่ด้านหน้าเป็นของโครงการเช่นกันแต่จะมีการนำไปให้ทางผู้ประกอบการเช่าระยะยาว (ไม่ได้จัดการบริหารเอง) อาจจะเป็นรูปแบบออฟฟิศหรือ Community mall ยังไม่สรุปค่ะ
จากโมเดลจะเห็นว่าการวาง Tower ล้อมกันเป็นรูปตัว U ดังนั้นจะต้องมีมุมที่เห็นกันเองแน่ๆคือหันมองตากันในโครงการ ระยะห่างระหว่าง A และ B อยู่ที่ 65.5 เมตร ซึ่งก็ไม่ถึงกับอึดอัดมากแต่ก็มองเห็นกันได้ ส่วนมุมที่หันออกนอกโครงการนั้นจะโล่งส่วนมากค่ะ นับจากชั้น 10 ขึ้นไป ชั้น 1 ถึง 7 จะเป็นส่วนของ Facilities ค่ะ ที่จอดรถนอกจากจอดได้ชั้น 1 และรอบอาคารแล้ว บนอาคารชั้น 2-6 เป็นส่วนจอดรถเช่นกันค่ะ ซึ่งให้มาประมาณ 48% ตามช่องจอด จะเห็นว่าไม่ได้เยอะเท่าไหร่ เนื่องจากทำเลนี้ผู้อาศัยส่วนใหญ่น่าจะใช้รถควบคู่กับการใช้รถไฟฟ้าด้วยกัน ชั้นบนสุดของอาคารจะเป็นส่วนของ Roof top ซึ่งเป็นสวนด้านบน แต่รูปแบบนั้นยังไม่ได้สรุปชัดเจนค่ะ จะเห็นว่าโมเดลนั้นทำออกมาสีออกฟ้าๆ ซึ่งจะไม่ตรงกับภาพ render ของโครงการเท่าไหร่ที่ทำออกมาสีคุมโทนไม่จัดเท่าไหร่
เทียบให้ดูกับตัวภาพ render ค่ะ ซึ่งทางทีมงานที่ทำภาพออกมาได้เหมือนดีแหละ อันนี้ชมเชยๆ จากภาพจะเห็นภาพโดยรวมของห้าแยกและโครงการได้เกือบครบแล้ว แต่ว่าอาคารจริงกับภาพ render จะออกมาเหมือนกันไหมนั่นอีกเรื่องนะ
เมื่อนำมาดูกับผังที่ฝนจัดทำเพิ่มขึ้นมาประกอบนะคะ ดูอาคารโดยรอบ ส่วนมากจะเป็นอาคารเรียนของเซนต์จอห์นและบ้านพักอาศัยค่ะ พื้นที่ดินของโครงการ The Saint เอง มี 7 ไร่ที่แบ่งออกมาจาก 10 ไร่ ด้านหน้าโครงการที่ยังเว้นว่างรวมๆประมาณ 3 ไร่ค่ะ โดยพื้นที่จริงๆแล้วมีกว่า 50 ไร่ที่จะถูกนำมาพัฒนานะคะเพียงแต่ยังไม่ได้มีการรื้อถอน ตีกรอบ หรือฟันธงชัดเจน โดยทิศเหนือและทิศตะวันออกจะมีอาคารขึ้นมาในระยะประชิดอยู่ วิวที่โล่งๆต้องชั้น 10 กว่าขึ้นไปเดี๋ยวจะมีภาพวิวประกอบด้วยจ้ะ ไม่ลืมเก็บมาฝาก
เพิ่มเติมข้อมูลนะคะ (20/03/2015) ในส่วนคอนโดมิเนียม The Saint เข้าออกได้ทางถนนวิภาวดีหลักค่ะ แต่ในอนาคตส่วน commercial จะเปิดเชื่อมซอย2 และวิภา22 ซึ่งลูกบ้านสามารถเดินผ่านได้เพื่อให้ใกล้กับ MRT มากขึ้น ข้อมูลนี้เพิ่งจะสรุปกันได้ค่ะ unofficial อยู่เลย
พื้นที่ส่วนของโครงการ The Saint นั้นคือส่วนของมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์นนะคะ ในส่วนของโรงเรียนก็อยู่ที่เดิม มีการเรียนการสอนตามปกติ แปะรูปเว็บโรงเรียนเซนต์จอห์นให้ดูค่ะ
มาดูที่ Facilities ของโครงการที่จัดมาให้ซักหน่อย ด้วยความที่แบ่งออกเป็น 3 Tower แต่ส่วน Podium ที่เป็น Facilities นั้นสามารถใช้ร่วมกันได้ค่ะ เริ่มจากชั้น 1 ก่อนเลยค่ะ จากทางเข้ามาจะมี Drop-off ขนาดใหญ่ที่สามารถแวะส่งเพื่อมายังอาคารต่างๆโดยแต่ละอาคารจะมี Lobby , Lounge , Mail room และ Lift แยกค่ะ แต่ในเบื้องต้นคือสามารถใช้ส่วนกลางของอาคารไหนก็ได้นะคะ คือ Key Card สามารถเข้าถึงส่วนกลางของทุกตึกและชั้นที่ตัวเองพักอาศัยค่ะ ข้อแตกต่างระหว่างตึกต่างๆคือ ชั้น 1 ตึก A,B นั้นมี ร้านค้าฝั่งละ 2 ร้านค่ะ และขนาดพื้นที่ Lobby , Lounge , Mail room ของอาคาร C จะมีขนาดเล็กที่สุดเมื่อเทียบกับ 3 ตึกด้วยกัน
ชั้น 2-6 จะเป็นที่จอดรถนะคะ มี XX คัน (รอข้อมูลเพิ่มเติม) หรือ 48% ค่ะ ซึ่งสำหรับคอนโดแบบนี้ที่มีทำเลห้าแยกยังนับว่าน้อยไปนิ๊ดค่ะ ขยับมาที่ชั้น 7 จะเป็นชั้นที่เริ่มมีห้องพักอาศัยและ Facilities จะอยู่ที่ชั้นนี้เช่นกันค่ะ สระว่ายน้ำที่อยู่เชื่อมระหว่างตึก A และ B จะยาว 50 เมตร มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า , Locker , Sauna , Steam , Fitness และ Muti-purpose ฝั่ง C ก็มีเช่นกันแต่เล็กกว่าค่ะ เช่น สระว่ายน้ำ 25 เมตร แต่ที่ชั้น 7 ระหว่าง C กับ AและB ไม่สามรถเดินเชื่อมกันได้นะคะ ต้องลงมาขึ้นลิฟท์ที่ Lobby ข้างล่างใหม่ก่อน ในเบื้องต้นคือใช้พื้นที่แชร์กันได้ทุกตึกคือซื้อตึกไหนก็ใช้ Facilities ไดเเท่ากันหมด แต่ถ้าคิดถึงความเป็นส่วนตัวหากแยกตึก C ก้เหมือนได้สระว่ายน้ำและ Facilities ของตัวเองไปเลยแค่ไม่ใหญ่เท่ากับ 2 ตึกหน้า
จากโมเดลจะเห็นว่ามีผนังแบ่งกั้นนะคะ ไม่สามารถเดินเชื่อมหากันได้
อาคารที่ยังไม่มีเปิดเผยข้อมูลคือ A ค่ะ แต่ดูจากผังคร่าวๆแล้วจะใกล้เคียงกับ B และมีห้องหัวมุมที่มีกระจกเข้ามุมด้วยค่ะ ซึ่งต้องรอกันต่อไปว่าตึกนี้จะเป็นแบบไหน….และราคาเท่าไหร่
ดูที่ผังทีละตึกค่ะ ตึก B ก่อนเลย ตึกนี้ชั้น 7 มีห้องพัก 5 ห้องค่ะ เป็นแบบ 1 ห้องนอนอย่างเดียว และเป็นส่วนของ Facilities จะเห็นว่าจากโถงลิฟท์ออกมาเข้าโซนพักอาศัยมีประตูกั้นแยกค่ะ ไม่วุ่นวายเท่าไหร่
ชั้น 8-40 ผังจะเหมือนกัน มีทั้งหมด 12 ห้องก็ไม่หนาแน่น มี 2 ห้องนอนอยู่บริเวณหัวมุมค่ะ แต่มีห้องฝั่งทิศตะวันตกที่จะได้วิวสวนด้วย
ผังของ อาคาร C ค่ะ เป็นรูปตัว L ห้องขนาด 2 ห้องนอนจะอยู่บริเวณหัวมุมมี 2 ห้อง โดย ชั้นนี้มีทั้งหมด 13 ห้องต่อชั้น ทิศห้องที่หันไปทางทิศตะวันตกจะมีข้อดีและข้อเสียชัดเจนคือได้มุมสวนแต่ก็ได้มุมขนาบของทั้ง 2 ตึกไปด้วย ส่วนทางทิศตะวันออกจะได้วิวฝั่งลาดพร้าวและสระว่ายน้ำของฝั่งตึก C ค่ะ
ผังชั้น 8-40 จะเหมือนกันโดยชั้นนี้มีทั้งหมด 21 ห้อง แบ่งเป็น 2 ห้องนอน 3 ห้องค่ะ อยู่บริเวณหัวมุมของตึก 3 ด้าน
ชั้น 41 จะมียูนิตที่เป็น 3 ห้องนอนด้วยค่ะ คือตำแหน่งเดียวกับ 2 ห้องนอนแต่รวมพื้นที่ 1 ห้องนอนเข้าไปด้วย ทำให้ชั้นนี้มีอยู่ 15 ห้องค่ะ
มาดูภาพจำลองของ Facilities กันค่ะ สวนและ Drop off ชั้นล่าง
Lobby
สระว่ายน้ำที่อยู่ระหว่างตึก A B
ส่วนสระว่ายน้ำของตึก C
Fitness
Clubhouse
Roof top
วิวทั้งหมดจะแบ่งออกเป็น 4 ด้านแบ่งออกเป็นเหนือ ใต้ ออก ตก ซึ่งทิศที่วิวโล่งๆ ณ ปัจจุบันคือทิศตะวันตก อาคาร C จะเป็นอาคารที่ได้วิว Park แบบบีบๆค่ะเพราะโดนขนาบด้วย A,B สองด้าน ส่วนที่จะได้วิวสวนเต็มๆคือมุม A,B ที่เป็นห้องมุมค่ะ ในอนาคตที่จะมีการสร้าง community ด้านหน้าต้องมาลุ้นความสูงกันนะคะ ว่าจะบังวิวสวนกันไหม แต่ใครจะชอบแบบ City ก็มีอีกหลายด้านให้เลือก แล้วแต่รสนิยมนะจ้ะ ต่อเป็นเป็นภาพแต่ละมุมที่ฝนเก็บมาฝากกัน
ทิศเหนือชั้น 10 อาคารสีฟ้าๆเป็นอาคารเรียนเก่าของทางเซนต์จอห์น
ทิศเหนือชั้น 20
ทิศเหนือชั้น 30
ทิศเหนือชั้น roof top
ทิศตะวันออกชั้น 10
ทิศตะวันออกชั้น 20
ทิศตะวันออกชั้น 30
ทิศตะวันออกชั้น roof top
ทิศใต้ชั้น 10
ทิศใต้ชั้น 20
ทิศใต้ชั้น 30
ทิศใต้ชั้น roof top
ทิศตะวันตกชั้น 10
ทิศตะวันตกชั้น 20
ทิศตะวันตกชั้น 30
ทิศตะวันตกชั้น roof top ต่อไปดูเนื้อโครงการที่ภาพ interior ค่ะ
มองจากทางสวนรถไฟ จำลองภาพให้เห็นแบบนี้นะคะ
ผนังส่วนของที่จอดรถจะมี vertical wall ไหมนะของจริง
ทางเดินไปดูห้องตัวอย่างค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบเกลือ ขนาด 25 เมตรพร้อมสระเด็ก ที่ อาคาร C และสระว่ายน้ำที่ podium ชั้น 7 ขนาด 50 เมตร พร้อมสระเด็ก เป็นระบบน้ำเกลือ
- Jacuzzi
- ห้องออกกำลังกาย 2 ห้อง ที่อาคาร C และ A+B
- Club house 2 ห้อง ที่อาคาร C และ A+B
- ห้อง Sauna & Steam แยกชาย หญิง พร้อม Locker
- ห้องอเนประสงค์
- สนามเด็กเล่นบนพื้นที่ Safety zone
- Roof top ที่อาคาร A,B และ C
- ห้องพักพนักงานขับรถ
- ร้านค้า 4 ร้าน
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 139 : 1
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 102:1 ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 135:1 ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก C 180:1 ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว
- Service Lift 3 ตัว อาคารละ 1 ตัว
- ที่จอดรถ XXX คัน (รอข้อมูลเพิ่มเติม) รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น XX %
- ระบบ CCTV / Access Card
สำหรับห้องตัวอย่างที่สำนักงานขาย The Saint มีทั้งหมด 4 ห้องค่ะ แต่ห้องที่เราจะไปรีวิวกันจะมีเพียง 2 ห้องนะ เพราะอีก 2 ห้องเป็นของตึก A ที่ยังไม่มีผังอาคารประกอบด้วย แต่จะแชะมุมในห้องมาฝากค่ะ
ห้องขนาด 30 ตารางเมตรตึก C ค่ะ อย่างที่บอกไปคือตึก B,C จะมีผังห้องที่เหมือนกันแต่ต่างกันที่รูปทรงอาคาร ห้อง Type นี้คือ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ(ในห้องนอน) ครัวแยกและมีระเบียงซักล้างภายนอก โดยนำส่วนของ Common Area เป็นส่วนแรกที่เข้าถึงและดันห้องนอนให้ได้รับวิว พร้อมกับเอาระเบียงซักล้างเพื่อให้ระบายอากาศและกลิ่น ตากผ้าได้ ครัวที่ให้มาเป็นครัวปิดค่ะ ซึ่งจากขนาดแล้วไม่อึดอัดและสามารถจัดหนัก ต้ม ตุ๋น อุ่น ทอดสบาย โครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted นะคะ เดี๋ยวไปดูภาพประกอบค่ะ
พื้นห้องที่โครงการให้มาเป็น Engineering wood สีอ่อนค่ะ หนา 14 ซ.ม. หนากว่าในตลาด 2 ม.ม. และมี Digital door lock ให้ด้วยแต่ยังไม่มีตัวอย่างให้ดูนะคะ
สวิตช์ ปลั๊ก มาตรฐานของ bticino
ห้องรับแขกด้านหน้าค่ะ บริเวณนี้ฝ้าเพดานจะสูง 2 ระดับคือ 2.60 และ 2.90 เมตร มีซ่อนไฟหลืบให้ด้วยก็ยิ่งทำให้ห้องดูสูงขึ้นไปอีก แอร์ส่วนนี้จะเป็น Conceal ให้นะคะ
ห้องที่จัดผังออกมาลักษณะนี้จะทำให้พื้นที่ทานอาหารโดนลดความสำคัญไป จึงต้องหาที่เป็นลักษณะแอบหรือเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถพับเก็บได้เพื่อประหยัดพื้นที่
อีกฝั่งนึงของห้องก็เป็นฝั่งติดทีวีค่ะ ใครชอบดูที่วีเลือกใหญ่กว่านี้ได้เลยค่ะ 42 นิ้วอัพก็ยังได้เพราะห้องหน้ากว้างอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าใครไม่ชอบดูทีวีละก็นะ แนะนำให้จัดเป็นมุมทานอาหารแทนก็ได้ค่ะ ผนังมาตรฐานจะติด Wall paper สีอ่อนให้ค่ะ ผนังกระจกเป็นแบบตกแต่ง
ชุดเก็บของข้างประตูชุดนี้ ทางโครงการก็แถมให้มาด้วยค่ะ
เปิดให้ดูซักหน่อย เก็บรองเท้า ร่ม หนังสือ ของใช้จุกจิกพอสมควร
ที่จับเปิดปาดมุมเล็กน้อย ให้จับเปิดง่าย
ขยับมาที่ห้องครัวค่ะ ครัวที่นี่ให้แบบครัวปิดมีบานเลื่อนพร้อมกระจกใส่กั้นเรียบร้อย เฟรมอลูมิเนียมสีธรรมชาติ
ลักษณะมือจับบานประตูค่ะ จะไม่มีตัวล็อคค่ะ
เปิดชั้นด้านล่างให้ดู ไมโครเวฟที่ให้มาเป็นของ Franke
บานตู้เป็น Soft close
อ่างล้างจานของ Franke ค่ะและ Top เป็นหินสังเคราะห์สีขาว มีเซาะระบายน้ำลงอ่างให้ด้วย ผนังด้านหลังเป็นพื้นผิวที่เช็ดทำความสะอาดได้ค่ะ
ห้องขนาด 30 ตารางเมตร มีเตาไฟฟ้า 2 หัวและที่ดูดควันของ Franke มาให้ด้วย ก็สามารถปรุงอาหารได้ค่ะ
ชั้นด้านบนก็แบ่งช่องไว้เก็บข้าวของในครัวได้พอสมควร
ส่วนตู้เย็นเป็นชิ้นเดียวที่ไม่ได้ให้มาในห้องนี้นะคะ วัดขนาดแล้วเอามาจัดใส่เอง ลองดูดีๆ
ห้องครัวนอกจากเป็นครัวปิดแล้ว ติดระเบียงซักล้างสามารถระบายอากาศได้ดี
บานประตูเป็นบานเลื่อน 3 ตอนค่ะ
พื้นระเบียงซักล้างภายนอก กว้างประมาณ 1.1×1.7 เมตร
ปลั๊กสำหรับเครื่องซักผ้าอยู่ใต้คอมเพรสเซอร์แอร์
ห้องต่อไปคือห้องนอนค่ะ วางเตียงขนาด Quenn size ตามตัวอย่างนี่ก็พอดี กระจกสูงไม่เต็มผนังนะคะ แต่ก็กว้างเกือบเต็ม แบ่งเป็น 2 บาน
ปลายเตียงจะมีชุดตู้เสื้อผ้าให้ค่ะ และจะติดตั้งที่แขวนทีวีไว้ให้ด้วย ก็จะได้ไม่ลำบากไปติดเอาเอง หน้าบานเป็น high pressure ลามิเนท
ด้วยความที่พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างจำกัดเป็นบานเลื่อนก็ไม่เกะกะพื้นที่เดินค่ะ ตรงนี้มีกว้างประมาณ 40-50 เซนติเมตร
ฝั่งด้านหน้าต่างจะแคบหน่อย 30 เซนติเมตร
สำหรับ type นี้ห้องน้ำมีห้องเดียวค่ะ คืออยู่ในห้องนอน ก็เหมาะสำหรับอยู่กัน 2 คนแหละ ไม่เน้นรับแขกเท่าไหร่จะได้ไม่ต้องวุ่นวายเข้าออกห้องนอน
ภายในห้องน้ำจะวางสุขภัณฑ์ไว้มาตรฐานเกือบทุก type ค่ะ ต่างกันที่ขนาดเล็กน้อย มีผนัง low wall ยาวและติดตั้งไฟซ่อนแบบนี้ (ห้องนี้ขาดไฟหลืบในห้องอาบน้ำนะคะ ตอนไปยังไม่ติด) พื้นห้องน้ำสีนี้เลยครีมอ่อนๆขนาด 60×60 เซนติเมตร
อ่างล้างหน้า Kasch ค่ะ มีตู้เก็บของข้างล่าง
มือจับบานเปิดตู้ข้างล่างค่ะ มาเป็นชุดกัน
โถสุขภัณฑ์แบบแขวนผนัวของ American standard ตัว Tank น้ำจะอยู่ซ่อนบริเวณ low wall ค่ะ ทำให้ดูหรูหราขึ้น แต่เวลา Service จะลำบากกว่ารุ่นปกติทั่วไปที่เข้าถึงได้ง่าย
ห้องอาบน้ำมีฉากกั้น Tempered Glass ให้และลดระดับพื้นห้องน้ำลงประมาณ 5 เซนติเมตร
ตัวฝักบัวจะมีเป็นแบบไมโครโฟนของ kasch
และ Rain shower ติดฝ้าของ kasch เช่นกันค่ะ จะเห็นว่ามีหลืบฝ้าตรงนั้นจะมีไฟด้วยนะคะ
พื้นที่เก็บของอยู่ด้านหลังของกระจกเงาค่ะ
แบ่งออกเป็นชุดตู้ 2 บานแบบนี้ กระจกเงาสองด้าน
ที่จับจะไม่มีแต่บานจะยาวออกมานิดนึง แต่บานกระจกเงาบางไปนิด เวลาจับก็มีบางคนเสียวๆได้เหมือนกัน
อีกห้องตัวอย่างนึงเป็นขนาด 2 ห้องนอนค่ะ เป็น Type หัวมุมขนาด 55 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำค่ะ ห้องนี้วัสดุต่างๆจะเหมือนกันกับห้องแรกที่ฝนรีวิวไปนะคะดังนั้นเรื่องวัสดุที่ห้องให้ก็จะเหมือนกันค่ะ ในเรื่องการวางผังของห้องนี้ดูเหมือนด้วยความที่ห้องลึกและหน้าไม่กว้างทำให้ Common area ดูไม่ค่อยลงตัวต่อการใช้ เฟอร์นิเจร์ดูจัดวางยากค่ะ ทำให้เป็น 55 ตารางเมตรที่หากจัดสรรพื้นที่ไม่ดีแล้วจะเสียเปล่ามากๆ
เริ่มจากเดินเข้าไปในห้อง จะมีเหมือนผนังซ้ายขวา ขนาบเป็นโถงเล็กๆ และก่อนซ้ายมือจะเป็นชุดชั้นเก็บของ เก็บรองเท้าที่โครงการจัดมาให้
หน้าตาชุดตู้แบบใกล้ๆค่ะ ชุดเดียวกัน มาตรฐาน
เดินเข้ามาในห้องมองย้อนกลับที่ทางเข้าจะเห็นว่า ครัวจะอยู่เป็น function แรก โดยต้องหาพื้นที่ในการจัดโต๊ะทานอาหารให้ดีเพราะไม่งั้นก็จะเกะกะคนทำครัวหรือไม่มีที่เดินผ่าน ได้นะคะ อย่างที่จัดมาฝนว่ายังใช้งานจริงไม่ดีเพราะเวลามีคนนั่งทานอาหาร ที่เหลือรอบๆก็จะลดลง ไม่สามารถทำ 2 กิจกรรมพร้อมกันได้ค่ะ และถ้าห้องนี้มีคนอาศัยมากกว่า 2 คนขึ้น ขนาดโต๊ะทานข้าวก็จะเป็นปัญหาเช่นกัน
ชุดครัวเหมือนมาตรฐานของโครงการเพียงแต่ขนาดกว้างกว่า และหัวเตา 4 หัว
ส่วนด้านในถัดมาก็เป็นมุมห้องนั่งเล่นดูทีวี อันนี้ก็จัดได้แปลกๆ คือดูทีวีเอียงๆ? และไม่ได้วางที่นั่งมองออกระเบียง
ระเบียงด้านนอกพื้นที่กว้าง ค่ะ จะทำเป็นซักล้างหรือจะมานั่งรับลมเก๋ๆตอนเช้าก็ได้อยู่นะ ระเบียงทิศตะวันตกจ้ะ
กั้นห้องเก็บคอมเพรสเซอร์แอร์เรียบร้อย
เข้าไปดูห้องอื่นๆกันค่ะ ฝ้าเพดาน 2 ระดับนะคือ 2.6 และ 2.9 ค่ะ
ห้องน้ำห้องแรก มี Shower ด้วย วัสดุเหมือนกัน มาตรฐานทุกอย่าง
ห้องนอน 1 ค่ะ เตียง Queen size กำลังดีมีที่เหลือเดินไม่เตะ และวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆได้
ที่ข้างเตียง 60 เซนติเมตรค่ะ
อีกด้านเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in
ระยะด้านนี้ก็ประมาณ 60 เซนติเมตรค่ะ
ส่วนปลายเตียงนั้นสามารถวางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานเล็กๆได้
ห้องนอนจะมีห้องน้ำภายในตัวนะคะ ภายในห้องน้ำก็มาตรฐานค่ะ
อีกห้องนึงสามารถปรับเป็นห้องนอนก็ได้แต่จะเล็กไปนิด ห้องนอนน้องๆหนูๆก็โอเค หรือจะปรับเป็นห้องอเนกประสงค์ ทำงาน แล้วแต่การใช้งานค่ะ
ด้านนึงก็มีหน้าต่าง ไม่ทึบตัน
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 13 March 2015
- 1bed/1bath A ชั้น 10 ห้อง 1018 เนื้อที่ 29.46 ตร.ม. ราคา 3,834,517 ล้านบาท หรือ 130,160 บาท/ตร.ม.
- 1bed/1bath A ชั้น 30 ห้อง 3018 เนื้อที่ 29.46 ตร.ม. ราคา 4,453,177 ล้านบาท หรือ 151,160 บาท/ตร.ม.
- Fully Fitted
- เพดานสูง 2.6 เมตร และ 2.9 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง 30,000 บาท
- ทำสัญญา 5 %
- ดาวน์ 20% ผ่อนดาวน์ 40งวด
- ค่ากองทุน 600 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการ The Saint เป็นโครงการที่อยู่ในจุดที่เรียกว่าอนาคต CBD ค่ะ ปัจจุบันสิ่งอำนวยความสะดวกที่แยกนี้ก็นับว่าอุดมสมบูรณ์ค่ะ มีครบทุกด้านทั้งอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ ตลาด และระบบขนส่งสาธารณะ ในอนาคตมีโอกาสที่จะเติบโตไปอีกมากค่ะ แต่ต้องใช้ระยะเวลาซักหน่อย ตัวที่ตั้งของโครงการอยู่บนถนนวิภาวดี-รังสิต ช่วงมุ่งหน้าเข้าเมือง ใกล้ห้าแยกลาดพร้าวมาก คือไปไหนใช้เดินก็เจอหมด ทั้งห้าง สวน แต่จุดที่เห็นจะด้อยก็เป็นเรื่องการเข้าถึงโครงการด้วยรถนี่แหละค่ะ เพราะตำแหน่งเข้า-ออกหลักนั้นดั๊นนนนอยู่ติดเชิงสะพาน ทำให้กลายเป็น “เงื่อนไข” ของการเข้าออกขึ้นมา ต้องลัดเลาะเข้าซอยวิภาวดี 22 หรือไปกลับรถที่แยกสุทธิสารเพื่อกลับรถอีกทีเข้าโครงการ
สภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์รายรอบโครงการ จัดอยู่ในระดับ สมบูรณ์แบบระยะเดินค่ะ คือไม่ใช่ออกมาปุ๊ป เจอปั๊ป ต้องเดินซักหน่อย 300-600 เมตรจากโครงการนี่ไม่มีอด ร้านค้าร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆโครงการ มีบ้างแบบฝากปิ่นโตไว้ หากชอบชอปปิ้ง ก็เดินไปซอยเฉยพ่วงอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Ducati เป็นสถานที่ละลายทรัพย์ จะคึกคักกลางวันเพราะตรงนี้เป็นแหล่งอาคารสำนักงาน ที่มีกันอยู่หลายตึก แต่จุดเสียจังๆของฝั่งกระนู้น คือมืดค่ำปุ๊ป พี่อินดี้นอนริมฟุตบาทนี่ เพ่นพ่านเพียบ กลางวันก็มีนะเพียงแต่มืดมันน่ากลัว ส่วนพวกห้างที่อยู่ใกล้ๆ อย่าง ยูเนี่ยนมอลล์ก็มีร้านติดแอร์ให้เลือกเยอะแถมวัยรุ่นก็ชอบเดิน ข้ามไปอีกหน่อยก็เซ็นทรัลลาดพร้าว มีครบ หรือพวกตลาดอ.ต.ก ตลาดลุงเพิ่มอะไรพวกนี้ ถ้าอยู่แถวนี้ได้ไปใช้แน่นอน
การเดินทางโดยรถส่วนตัว ไม่สะดวกเท่าที่ควรสำหรับคน”ไม่เคย”กับทำเลแบบนี้ ที่จะติดซอกแซกเข้าซอยบ้างเป็นเงื่อนไขพิเศษ แต่หากจะออกจากโครงการไปสถานที่อื่นๆนั้นถือว่าสะดวกเป็นอย่างมาก เพราะใช้ถนนหลักหลายเส้น ในช่วงที่รถติดสามารถหลบหลีกเข้าออกอีกทางได้ … คนใช้รถสามารถใช้ทางด่วน ขึ้นลงได้สามจุดหลักเพื่อหนีรถติด คือ ด่านดินแดง ด่านกำแพงเพชร และด่านประชาชื่น … อีกเรื่องที่เห็นจะน้อยไปหน่อยก็คือ % ของที่จอดรถแหละ เมื่อเทียบกับ Equinox ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้ว ….น้อยไปหลาย
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ เลือกได้แทบทุกอย่าง พี่วิน, พี่ตู้, พี่แท็กซี่, น้องรถเมล์ ครบ อยู่ทั้งฝั่ง ลาดพร้าว วิภาวดี และฝั่งพหลโยธิน เดินมาข้ามสะพานลอยไปลงฝั่งเฉยพ่วงได้ มีสะพานลอยที่มีหลังคาคลุมเดินไม่ยาก แล้วจะต่อไป BTS ก็อีก 1 กิโลเมตร ส่วนเดินไป MRT พหลโยธินนับว่าไปง่ายสุดและ เดินจากซอยลาดพร้าว 2 ก็ไปทะลุขึ้นได้ ระยะแบบเดินไม่เหนื่อย 300 นิดๆเมตรค่ะ ส่วนอนาคตเรื่องส่วนต่อขยายนั้น ขอยกไปไว้ในอนาคตแล้วกันมีโครงการแต่ยังไม่เห็นเค้าโครงความจริงในเร็ววัน
วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มา ถือว่าคุ้มค่าค่ะ โดยเฉพาะคนที่ได้ซื้อไปรอบปีที่แล้ว เป็นโครงการในย่านห้าแยกลาดพร้าวที่ให้ของดี ตัวห้องไม่ได้ให้ของมาแบบ Fully Furnished ก็จริง แต่ครัว ห้องน้ำ และงานฝ้า งานแอร์ ก็ทำมาให้ใน Spec ที่ค่อนข้างดีค่ะ วัสดุและของที่ให้มามีตามนี้ : พื้นไม้ Engineering wood 14 มม. , กระเบื้องห้องน้ำ Conglomerate Marble 60×60 เซนติเมตร , ผนัง Wallpaper , Digital door lock , บานประตูปิดผิวลามิเนต , ตู้เสื้อผ้า Built-in , ตู้เก็บรองเท้า Built-in , ชุดครัว modern form หน้าบานบน Hi-gross บานล่างลามิเนต , เคาน์เตอร์หินสังเคราะห์สีขาว , Hob&Hood ของ Franke , บาน soft-close , โถสุขภัณฑ์ American standard แบบแขวนผนังซ่อน tank , สุขภัณฑ์อื่นๆของ Kasch , ฉาก Tempered glass กั้นอาบน้ำ , เครื่องทำน้ำร้อนติดตั้งใต้อ่างล้างมือ 6,000 วัตต์ , สำหรับห้องที่มี Bathtub ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน 12,000 วัตต์ ,แอร์ Concealed Type ส่วน Common , แอร์ Split Type ห้องนอน
อย่างที่หลายๆท่านทราบคือ ผู้ประกอบการมีที่ดินเยอะค่ะ แต่ทะยอยแบ่งออกมาจัดสรร อย่าง The Saint เองก็ใช้พื้นที่ประมาณ 7 ไร่ สำหรับคอนโด พันกลางๆยูนิต ยังไม่อึดอัดนะคะ แต่ด้วยความที่มีพื้นที่เหลือรอบๆ และมีโอกาสที่สามารถเกิดโครงการอื่นๆได้เพราะยังไม่มีแม่บทที่ชัดเจน ดังนั้นแล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้ค่ะ การออกแบบของตัวโครงการนั้นจะจัดกลุ่มตัวอาคารเรียงกันเป็นตัว U ค่ะทำให้จะมีด้านในที่เห็นวิวกันเอง มีระยะระหว่างตึกอยู่ที่ประมาณ 65.5 เมตร ก็ประมาณสระว่ายน้ำค่ะ และอีกด้านจะได้วิวเมืองกับสวน อันนี้ก็อยู่ที่ตอนเลือกนะคะว่าชอบแบบไหนกัน จะเห็นว่าการออกแบบอาคารไม่ได้มีลุกเล่นพิเศษ การจัดวางของ Facilities พยายามให้ทั้ง 3 ตึกได้ใช้ร่วมกัน แต่ก็มีตึก C ที่มีความหนาแน่นเยอะสุด มี Facilities แยกกะเค้าไปเลย ในเบื้องต้นทางโครงการบอกใช้ร่วมกันได้ทุกคนแต่ก็ยังดูส่วนตัวกว่าอยู่ดี บน Roof top นั้นน่าจะเป็นจุดที่มองเห็นได้วิวสวยๆแต่ยังไม่มีแบบออกมา Final พูดถึงตัวห้องกันดีกว่าห้องจัดมาให้เพดานสูงโปร่งทำให้ดูแกรนด์ขึ้นมา มีแบบทั้งแบ่งครัวปิดและเปิดค่ะ อันนี้ก็แล้วแต่การใช้งาน ของแต่ละคน แบบขนาด 55 ตารางเมตรของห้องตัวอย่างเป็นแบบที่ไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ทั้งการจัดวางโต๊ะอาหารและส่วนห้องนั่งเล่น เรียกว่าใช้พื้นที่ไม่คุ้ม เช่น มีครัวให้มาขนาดใหญ่เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 2-4 คนแต่กลับไม่มีพื้นที่มากเพียงพอสำหรับตั้งโต๊ะทานข้าว เป็นต้นนะคะ ส่วนเรื่องสีสันของตัวอาคารนั้นเป็นรสนิยมของแต่ละบุคคลค่ะ แต่ถ้าสีออกฟ้าๆเหมือนโมเดล ฝนว่าชอบแบบที่ Render มากกว่า
สาธารณูปโภคส่วนกลางจัดมาวางไว้ที่ชั้น 1 , 7 และดาดฟ้า ค่ะ แน่นอนว่าโครงการนี้ให้สาธารณูปโภคมาใหญ่ไม่อึดอัดค่ะ ทุกอย่างแทบจะมีแบบคูณ 2 เช่น สระ ฟิตเนส เป็นต้น ค่าส่วนกลางก็ไม่สูงอยู่ที่ 50 บาทต่อตารางเมตร ที่จะติดอย่างเดียวเห็นจะเป็นที่จอดรถนี่แหละที่น้อยไปหน่อย
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 130,000 บาทต่อตารางเมตร, 13 March 2014
- ทำเล 8/10 -ติดถนนวิภาวิดี-รังสิต ใกล้ห้าแยก สะดวกเดินทางเข้าออก รอบๆจัดว่าอุดมสมบูรณ์
- เดินทางด้วยรถ 7.8/10 – ติดขัดตรงเชิงสะพานทำให้ไม่สะดวกเท่าที่ควรและต้องรู้จักซอยลัดเลาะ
- ไม่ใช้รถ 8/10 – สะดวกค่ะ ใกล้ MRT พหลโยธิน
- วัสดุ 8.5/10 – ให้มาดี คุ้มค่า
- แบบ 7.5/10 – ผังบางแบบยังไม่ลงตัว
- สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาเยอะค่ะ
- HIGH CLASS
- 7.9 / 10.00
BOTTOM LINE
The Saint Residences เหมาะสำหรับคนที่ทำงานอยู่แถวห้าแยกลาดพร้าว เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกแต่ควรรู้จักทางเข้าซอยลัดเลาะ เพราะติดเชิงสะพาน ส่วนใครชอบใช้ระบบขนส่งสาธารณะไม่มีปัญหาเดินได้ไม่เหนื่อย ใกล้แหล่งชอปปิ้งทั้งไม่มีแบรนด์และแบรนด์เนม ชอบวิวสวนและเมือง วัสดุของที่ให้มาดีคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาในย่านนี้
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ