สวัสดีครับ รีวิวฉบับที่ 202 เป็นคอนโดมิเนียมอีกตึกหนึ่งของ AP ที่เปิดตัวกันมาได้พักหนึ่งแล้ว The Rhythm สาทร-นราธิวาสฯ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานครช่วงสี่แยกสาทร-นราธิวาส ตรงข้ามกับ City Viva ซึ่งเป็นทำเลย่านธุรกิจสำคัญที่มีการจราจรคับคั่งเช้าเย็นเลยก็ว่าได้ ซึ่งปกติแล้วคอนโดของ AP จะเป็นแบบแต่งครบ แต่ The Rhythm สาทร-นราธิวาสฯ ตึกนี้ทาง AP ไม่ให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished อย่างที่เคยเป็น จึงทำให้ราคาขายต่ำลงมาได้เล็กน้อย แต่ก็ยังไม่พ้นแสนกว่าบาทต่อตารางเมตรครับ

Fact @ 24 July 2012

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

ทำเลของโครงการ The Rhythm สาทร-นราธิวาส ตั้งอยู่บนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ บริเวณปากซอย 9

นี่เป็นภาพของคอนโดมิเนียมตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เปิดตัว เป็นป้ายล้อมรั้วที่ดินกันอยู่ ปัจจุบันกลายเป็นสำนักงานขายไปแล้วนะครับ

ทำเลอยู่บริเวณแยกสาทร-นราธิวาส ห่างจากสถานี BTS ช่องนนทรีประมาณ 400 กว่าเมตร (นับจากที่ดินถึงปลายทางขึ้นบันได)

มองไปไกลๆหน้าตาแบบนี้ แต่ฝั่งตรงข้ามเด๊ะๆเลยคือ City Viva ที่มี Villa Market อยู่ด้วย สามารถเดินข้ามสะพานเพื่อไป City Viva ได้

The City Viva เดินมาจากตึก Empire ประมาณ 200 เมตร ตอนแรกๆก็ไม่ค่อยมีอะไรขาย เงียบเหงาสิ้นดี ปัจจุบันพอมี Villa Market เปิดตัวสมบูรณ์แบบ ก็คึกคักขึ้นมาบ้าง

ตำแหน่งแปลงที่ดินอยู่ที่หมุดสีแดงครับ แถวๆซอยนราธิวาส 9

ว่ากันด้วยทำเลสาทรตัดกับแยกนราธิวาส ที่เป็นหนึ่งในสี่แยกที่มีปัญหาเรื่องการจราจรมากที่สุดของประเทศไทย ซึ่งเป็นเพราะว่าสี่แยกนี้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางธุรกิจของประเทศไทย ที่มีพนักงานออฟฟิศนับพันนับหมื่นขับรถจากนอกเมืองเข้ามาทำงานกันทุกเช้า และขับรถจากในเมืองกลับบ้านกันทุกเย็น รวมไปถึงโรงเรียนชื่อดังอีกอย่างน้อย 3 แห่ง อัสสัมชัญ, กรุงเทพคริสเตียน และเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ ที่ต้องมีรถยนต์ของผู้ปกครองบางส่วนขับรถผ่านสี่แยกนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

จากภาพด้านบน เส้นสีแดงนั้นเป็นแนวที่ “พอยอมรับได้” ของการใช้ชีวิตบนเส้นสาทร-นราธิวาส เป็นตำแหน่งที่การจราจรยังไม่รุนแรงถึงขั้นสาหัส  ตรงนี้ผมลากเส้นจากประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆ ซึ่งจะบรรยายเหตุผลตามความเห็นส่วนตัวด้านล่างนะครับ

สำหรับถนนสาทรใต้ช่วงที่เลยสี่แยกนราธิวาสข้ามไปทางแยกสุรศักดิ์ในตอนเย็นๆนั้น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องรถติด บางวัน 1 ชั่วโมงวิ่งได้ 100 เมตร

หากวิ่งมาจากทางพระราม 4 แล้วบ้านอยู่บนเส้นนราธิวาสฝั่งตึก Mahanakorn นั้น ก็ยิ่งแย่ใหญ่ เพราะไม่สามารถเลี้ยวขวาเข้าตึกได้ ต้องวิ่งตรงไปแล้วกลับรถหน้าซอยสาทร 12 จากนั้นค่อยเลี้ยวซ้ายอีกที ตรงนี้อาจจะกินเวลาได้ตั้งแต่ 30 นาที – 1 ชั่วโมงสำหรับวันสาหัส

วิ่งมาจากพระราม 4 เช่นกัน หากบ้านอยู่บนเส้นนราธิวาสฝั่ง City Viva เช่น Empire Place, Quad สาทร นั้น เวลาจะกลับบ้านต้องเลี้ยวซ้ายเข้าถนนนราธิวาสฯ แล้วกลับรถเข้าตึก ซึ่งจุดกลับรถไม่ได้ใกล้ๆ และถนนนราธิวาสฝั่ง City Viva จะติดมากกว่าฝั่งตรงข้ามเสมอ

แต่จากโซนบนเส้นสีแดงด้านบนนั้นเป็นโซนที่รถติดน้อยกว่าเพื่อน หากตอนเย็นมาจากพระราม 4 พอวิ่งตรงมาถึงแยกสาทร-นราธิวาสก็ไม่ต้องรอไฟแดงเพราะเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด … ตรงนี้จึงเป็นจุดขายเรื่องทำเลของตึกอย่าง The Met เพราะถึงก่อนแยกสาทร-นราธิวาสอีก ส่วน The Rhythm นั้นจ่ายน้อยกว่าก็ต้องถัดออกมาเป็นธรรมดา

ลองนึกถึงภาพของตอนเช้ากันบ้าง บนโซนเส้นสีแดงจะมีทางหนีทีไล่เพิ่มเติมอย่าง ซ.นราธิวาส 9, 17, ถนนจันทน์, เย็นอากาศ, รัชดา, พระราม 3 เพื่อไปออกพระราม 4 หรือขึ้นทางด่วนไปลงในที่ๆเราต้องการได้โดยเลี่ยงไม่ต้องเข้าเส้นสาทร (แต่ถ้าวิ่งเข้าสวนพลูถนนแคบและรถติดนะ เพราะขับๆจอดๆกันทั้งถนน) ทำให้มี “ทางเลือก” ที่เราจะเลือกใช้ได้ แม้ว่าทางเลือกเหล่านั้นจะมีรถหนาแน่นก็ตาม

อีกโซนหนึ่งที่ค่อนข้างโอเคก็คือเส้นซอยคอนแวนต์ ที่สามารถเลี้ยวขวาล็อคหลบจากสาทรได้โดยไม่ต้องไปทุรนทุรายกับสี่แยกมหาโหด แต่ว่าทำเลนี้จะค่อนข้างไปทางศาลาแดง ราคาที่ดินพุ่งไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เลยไม่ขอยกมากล่าวถึงนะครับ

หากให้ผมมองในแง่การจราจรด้วยรถยนต์ ตำแหน่งของ The Rhythm สาทร-นราธิวาสฯ แม้ว่ารถจะติดมากแต่ก็ถือว่าพอยอมรับได้ครับ

เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ The Rhythm สาทร-นราธิวาสฯ เป็นตึกสูง 27 ชั้นตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ มีด้วยกันทั้งสิ้น 301 ยูนิต เป็นห้องพักอาศัย 300 ยูนิตและเพื่อการพาณิชย์ 1 ยูนิต

นี่เป็นผังชั้นล่างสุดของโครงการที่มีส่วนเชื่อมติดถนนใหญ่ จากหน้าโครงการทำเป็นทางเข้าเอาไว้เฉยๆ ตัวที่ดินแปลงใหญ่อยู่ด้านหลัง ดังนั้นจะมีระยะร่นเข้าไปประมาณ 25-30 เมตร ประมาณด้วยสายตาคร่าวๆเอานะครับ

เครดิตภาพจาก Sky Scraper City

ทิศที่หันเข้าถนนนราธิวาสฯคือทิศตะวันตก เป็นทิศโดนแดดเยอะที่สุด แต่จะได้วิว Clear มองข้ามไปทาง City Viva

ทิศที่หันไปทางเหนือจะหันเข้าถนนสาทร ซึ่งกำลังจะมีอาคารขึ้นอยู่ก่อนถึงของโครงการ เป็นอาคารสูง 22 ชั้น ซึ่งจะถูกบังวิวไปตามลำดับ ต้องดูว่าความสูงระหว่างชั้นเท่ากันหรือไม่ ถ้าเท่ากันก็จะถูกบังที่ชั้นประมาณเดียวกัน

ทิศที่หันไปทางใต้จะหันเข้าถนนรัชดา-พระราม 3 ซึ่งกำลังจะมีคอนโดมิเนียมของ Eastern Star ขึ้นสูงราวๆ 50 ชั้น ข่าวล่าสุดบอกว่ากำลังจะเปิดตัวช่วงปลายไตรมาส 3 ต้นไตรมาส 4 ของปี 2012 ซึ่งจะถูกบังวิวเช่นกัน

ทิศที่หันไปทางตะวันออกจะเซฟเรื่องวิวมากที่สุด เพราะเป็นทิศที่หันเข้าซอยสวนพลู

ชั้น 2 – 6 เป็นที่จอดรถ ลองนับด้วยมือรวมกับที่จอดรถชั้น G ด้วย เอานิ้วจิ้มๆดูจะได้ที่จอดรถทั้งสิ้น 146 คันแบบเข้าซอง หากจะจอดซ้อนคันพนักงานขายบอกว่าได้ 177 คัน คิดเป็น 48.6% กับการจอดเข้าซอง หรือ 59% กับการจอดซ้อนคัน

เป็นจำนวนที่พอรับได้กับคอนโด High Class ที่ใกล้รถไฟฟ้า BTS ในสถานีกลางเมือง

สำหรับชั้น 7 เป็นชั้นของ Facility รอง เป็นสวนและสระน้ำขนาดเล็ก ส่วนสระว่ายน้ำจริงจังและฟิตเนสนั้นอยู่บนชั้น 27

ลิฟท์ทั้งหมดมีด้วยกัน 4 ตัว เป็น 3 ลิฟท์โดยสารและ 1 ลิฟท์บริการ ซึ่งผังห้องของทุกชั้นหน้าตาเหมือนกันหมด มีห้องทั้งหมด 15 ห้อง แบ่งเป็น

  • 1 Bedroom ทั้งสิ้น 8 ห้อง (35 – 38 ตารางเมตร)
  • 2 Bedroom ขนาดเล็ก 1 ห้อง (46.5 ตารางเมตร)
  • 2 Bedrooms ขนาดใหญ่จำนวน 6 ห้อง (54.5 – 60.5 ตารางเมตร)

ตำแหน่งที่ผมคิดว่าดีที่สุดของโครงการคือ B15 ที่ไม่มีผนังห้องติดห้องไหน (แต่ติดบันไดหนีไฟหลัก) อยู่ใกล้ลิฟท์ ได้ทิศหันไปทางซอยสวนพลู และได้วิวสระว่ายน้ำพร้อมสวนที่ชั้น 7 รองลงมาเป็น C4 ที่ได้วิวห้องหัวมุมทั้งสระว่ายน้ำและวิวเปิดทางซอยสวนพลู แต่ผนังจะไม่ติดใครแค่ 3 ด้าน มีด้านหนึ่งติดห้อง A3

ตำแหน่งอื่นอาจจะต้องไปลุ้นเรื่องวิวโดนบังหรือเปล่า ยกเว้นว่าจะเล็งชั้นเตี้ยๆเอาวิวสวนวิวสระว่ายน้ำ หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องเลือกแผงล่าง C14, A13, A12, A11, C10 ที่จะมองข้ามไปทางฝั่ง City Viva แต่ก็ต้องแลกกับแดดทิศตะวันตกกันไป

ชั้น 27 เป็นส่วนของ Facility ทั้งหมด ซึ่งจะประกอบด้วย สระว่ายน้ำและฟิตเนส

หน้าตาของห้อง Fintess

หน้าตาของ Lobby ชั้นล่าง

หน้าตาของสระว่ายน้ำชั้น 27

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำชั้น 27
  • ห้องฟิตเนสชั้น 27
  • ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว มี 1 ลิฟท์บริการ
  • สวนสาธารณะและสระน้ำเล็กๆชั้น 7
  • ที่จอดรถเข้าช่องจอด 48.6% รวมจอดขวางได้ 59%
  • ระบบ CCTV / Access Card

Product Walkthrough

ห้อง 1 Bedroom ของที่นี่แบ่งเป็น 2 Layout ใหญ่ๆ แบบแรกหน้าตาจะคล้ายๆกับแบบ A2 ซึ่งจะคล้ายกับแบบห้อง 35 ตารางเมตรด้วย

เปิดเข้ามาจากประตูเจอห้องรับแขกและโต๊ะทานข้าว ด้านในแบ่งเป็นห้องนอนประตูบาน Slide และห้องครัวด้วยบาน Slide เป็นแบบครัวปิด มีทางระบายอากาศไปยัง Compressor Air ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในห้องรับแขก แบ่งเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้ง

แปลนของแบบแรกจะคล้ายๆกับห้อง Studio มากกว่าห้อง 1 Bedroom ที่ต้องใช้บาน Slide มากั้นระหว่างห้องนอนและห้องรับแขก เป็นดีไซน์เก่าหรือดีไซน์ห้องเล็กที่ยังใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้ไม่เต็มที่เหมือนแปลนแบบที่ 2

แปลนแบบที่ 2 เห็นได้ชัดว่าพัฒนามาจากแบบแรก แต่ก็ต้องวางที่ห้องขนาด 38 ตารางเมตรขึ้นไป

ห้องนอนได้แยกเป็นสัดส่วน มีประตูบาน Swing เปิดชัดเจน มีห้องน้ำที่เข้าได้จากทั้งสองทาง ห้องนอนและห้องนั่งเล่น แยกส่วนเปียกส่วนแห้งเหมือนกัน ครัวและโต๊ะอาหารถูกกั้นด้วยบาน Slide แยกเป็นสัดส่วน นั่งกินข้าวดูวิวไป ใช้พื้นที่อย่างประหยัดและมีประโยชน์ใช้สอยมากกว่าเดิม

ห้องต่อมาเป็นขนาด 46.5 ตารางเมตร มีชนิดเดียวคือ B15 ซึ่ง Layout ของห้องจัดมาได้ดีทีเดียว

ห้องน้ำแยก 3 ส่วน เป็นห้องสุขา ซิงก์ล้างมือ และห้องอาบน้ำ เข้าได้จากทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน มีประตูกั้นสามารถใช้งานห้องสุขาและห้องอาบน้ำได้พร้อมกัน 2 คนโดยไม่ต้องแย่งห้องน้ำกัน

ครัวและ Pantry วางเอาไว้ติด CDU มีบาน Slide เปิดจากห้องนั่งเล่น และบาน Slide เปิดไประเบียงเพื่อระบายอากาศ ซึ่งถ้าจุดนี้แขวนคอมฯแอร์ 3 ตัวได้ในแนวดิ่ง จะทำให้มีพื้นที่ระเบียงนิดหน่อยออกไปยืนดูได้ ซึ่งในจุดนี้ระเบียงเข้ามุม จะทำให้มองเห็นวิวได้ 2 ทิศ คือสาทรและสวนพลู

ห้องนอนใหญ่เช่นกันได้ระเบียงเข้ามุมมองวิวได้สองทิศ มีขนาดพอประมาณไม่ใหญ่มาก และมีห้องอเนกประสงค์ที่ปรับเป็นห้องนอนได้ (ในผังไม่เขียน BEDROOM แต่ขายแบบ TWO BEDROOM) ใครจะเอาเป็นห้องทำงาน ห้องสมุด ห้องนอนเด็ก หรือทุบผนังทิ้งเปิดให้ห้องนั่งเล่นโล่งมีวิวมีหน้าต่างก็ตามสบายนะครับ

ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 60 ตารางเมตรก็น่าจะไม่มีปัญหาเรื่องการดีไซน์แล้ว คิดว่าควรจะได้อะไรที่ควรจะได้และลงตัวทุกจุด เลยหยิบห้อง C14 มาให้ดูกันห้องนึงนะครับ

จะเห็นว่าห้องนอนใหญ่ได้ Semi-Walkin Closet เป็นมุมแต่งตัวเพิ่มเข้ามา ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำ

ห้องนั่งเล่นและครัวทำเป็นแบบ Open Plan มี Island เป็นโต๊ะทานข้าว ซึ่งจะทำให้ Sense of Dimension ของห้องโถงกลางใหญ่ขึ้น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยครัวเปิดนะครับ ซึ่งจะระบายอากาศผ่านทางระเบียงใหญ่ที่ติดโซฟาห้องรับแขกแทน และระเบียงก็เป็นระเบียงเข้ามุมได้วิว 2 ทิศครับ

ห้องน้ำสองจะใกล้กับห้องนอนเล็กและเข้าจากห้องนั่งเล่นได้ ซึ่งดูแล้วโอเคเลย

ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 38 ตารางเมตร เปิดประตูมองเข้าไปจะเห็นหน้าต่างจากห้องครัว/โต๊ะกินข้าว ที่ทาง AP เรียกว่า Sky Kitchen (นั่งกินข้าวติดหน้าต่างชมวิวได้ ถ้าไม่โดนบล็อค) มีบานเลื่อนใสกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับครัวแยกเป็นสัดส่วนอย่างที่บอกไป

โซฟาวางได้แบบนี้ (ที่นี่ไม่ใช่ Fully Furnished นะครับ วางของตกแต่งให้ดูเฉยๆ) ปูพื้นด้วยลามิเนต

ห้องนั่งเล่นเหลือพื้นที่วางโต๊ะทำงานได้ 1 ตัว เพราะเอาพื้นที่วางโต๊ะกินข้าวหันเข้าหากระจก มองออกไปนอกตึกเรียบร้อย

เข้าไปดูในครัวกันบ้าง กระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม. มีครัวให้เป็นแบบ Fully Fitted

ขนาดเตียงห้องนอน

ปลายห้องนอนมีห้องน้ำอยู่ สามารถเปิดเข้าได้สองทางจากห้องรับแขกก็ได้

มีแยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน กั้นด้วยกระจก Tempered Glass

มีมุมแต่งตัวและโต๊ะเครื่องแป้งวางไว้ด้านหลังประตูที่เปิดเข้าห้องนอน

ห้องใหญ่ C4 ขนาด 60.5 ตารางเมตร เปิดเข้าไปก็จะมองเห็นทะลุไปที่หน้าต่างห้อง

ห้องน้ำแขกสามารถอาบได้ เหมาะกับสองห้องนอนที่อาบได้ทั้งคู่

ห้องนอนเล็ก ขนาดก็สมชื่อไม่ได้ใหญ่นะครับ ดีที่ได้หน้าต่าง ในผังไม่ได้ระบุว่าเป็น “ห้องนอน” ดังนั้นมันคือห้องอเนกประสงค์ที่เอามาทำห้องนอนได้นะครับ

ห้องนั่งเล่น โต๊ะกินข้าว ครัว สามารถวางรวมกันได้ทำให้ห้องรู้สึกใหญ่ขึ้น และได้วิวสองด้าน

ครัวและโต๊ะทานอาหาร มองย้อนกลับไป

ซูมไปที่ขนาดห้องนั่งเล่นหน่อย ด้านหลังพอให้ Built-in วางได้ 1 แผง มีโซฟา โต๊ะกลาง Stool และยังเหลือที่เดินระหว่างห้องรับแขกและชั้นวางทีวี

ห้องนอนใหญ่ได้กระจกบานใหญ่เกือบถึง Ceiling

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ซิงก์มีการ Built-in ตู้ด้านล่างไว้ให้แล้ว โถสุขภัณฑ์แบบ SCG ECO

มี Rain Shower/Hand Shower พร้อมการตกแต่งโมเสกด้านหลัง

มุมที่เดินเข้าไปห้องน้ำเป็น Semi Walk-in Closet

พื้นที่ปลายเตียง ถ้าทำชั้นจะเหลือประมาณนี้

ภาพรวมห้องนอน

ภาพรวมห้องรับแขกอีกรอบ

สุขภัณฑ์ชิ้นที่ไม่เหมือนกันก็คือซิงก์ด้านนอก

กับซิงก์ด้านในห้องนอนใหญ่ครับ ขนาดเล็กไปนิดนึงนะ น้ำคงกระฉอกน่าดู

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 06/07/2012

  • 35 ตรม. ราคาเริ่ม 3.72 ล้านบาท ( 1 bedroom)
    ชั้น 12 ราคาห้อง 3,809,500 บาท
  • 38 ตรม. ราคาเริ่ม 4.08 ล้านบาท ( 1 bedroom)
    ชั้น 9 ราคาห้อง 4,083,600 บาท
  • 46.5 ตรม. ราคาเริ่ม 5.07 ล้านบาท ( 2 bedroom)
    ชั้น 15 ราคาห้อง 5,483,450 บาท
  • 54.5 ตรม. ราคาเริ่ม 5.78 ล้านบาท ( 2 bedroom)
  • 60.5 ตรม. ราคาเริ่ม 6.49 ล้านบาท ( 2 bedroom)
    ชั้น 8 หันเข้าหาสระ ราคาห้อง 6.67 ล้านบาท

  • Fully Fitted พร้อมครัว
  • จอง+ทำสัญญา 140,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 55 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของ The Rhythm สาทร-นราธิวาสฯ อยู่ใกล้ดังๆใกล้สี่แยกอย่าง The Empire Place, The Met, Mahanakorn, Infinity อยู่พอควร ซึ่งชื่อชั้นจริงๆแล้วจะเอา The Rhythm ยกไปเทียบก็คงจะเทียบไม่ไหว แต่ถ้าเอาทำเลไปเทียบก็ต้องพอว่าพอสู้ได้ คือถอยมาจากทำเลสุด Hot สุด Prime ประมาณ 400-500 เมตร เข้ามาในถนนนราธิวาสฯหน่อย อยู่ในละแวกเดียวกันแต่ถัดออกมานิดนึง ราคาก็จ่ายน้อยลงนิดนึง

อาหารการกินของ The Rhythm อาจจะต้องพึ่งในซอยสวนพลูเป็นหลัก เข้าจากนราธิวาสซอย 9 ไปโผล่ที่สวนพลูได้ หรือถ้าอยากจ่ายแพงหน่อยก็สามารถใช้งาน City Viva ที่เป็น Community Mall และ Supermarket ได้โดยการเดินข้ามสะพานลอยหน้าตึกไป

การจราจรวิเคราะห์ไปเกือบหมดแล้วในส่วนของเจาะลึกทำเลคงไม่ขอกล่าวซ้ำ บอกได้ว่าใครจะใช้รถบนถนนเส้นสาทรก็ต้องทำใจไว้เลยนะครับว่าต้องมีเรื่องปัญหารถติดแน่ๆ แต่ทำเลของ The Rhythm สาทร-นราธิวาสฯ เป็นทำเลที่ยอมรับได้หากจะขับรถ ส่วนอัตราส่วนที่จอดรถของตึกนี้มีให้ 59% พอรับได้สำหรับทำเลคอนโดใกล้รถไฟฟ้า

การจราจรโดยไม่ใช้รถยนต์อันนี้มีทางเลือก 2 ทาง คือ BTS หรือ BRT แน่นอนว่า BTS ต้องมีผลมากกว่าอยู่แล้ว กินระยะทาง 400-500 เมตรในการเดินไป BTS ซึ่งอยู่ในรัศมีพอเดินได้ ซึ่งการที่มี BRT เป็นไลน์สำรองก็ดี เผื่อว่าใครทำงานแถวพระราม 3 จะได้ใช้ประโยชน์ได้

วัสดุอุปกรณ์ของ The Rhythm สาทร-นราธิวาสฯ ให้มาน้อยกว่าปกติ ต่ำกว่ามาตรฐานของ The Rhythm ทั่วไปที่จะมี Fully Furnished มาด้วย แต่ก็ต้องบอกว่าเหรียญมีสองด้าน มองในทางกลับกันผมเชื่อว่าคนอีกหลายต่อหลายคนไม่ชอบเฟอร์นิเจอร์ที่แต่งให้มาแบบมาตรฐานของโครงการ

แบบห้องทำออกมาดีบางห้อง สำหรับห้อง 35 ตารางเมตรและ 38 ตารางเมตรแบบที่ห้องน้ำเข้าได้ทางเดียวจะไม่ครบเครื่องเท่าอีกแบบหนึ่ง และแบบห้องที่เป็น 2 Bedrooms ของคอนโดมิเนียมตึกนี้ทั้งหมด ทำเป็นห้องอเนกประสงค์ ไม่ใช่ห้องนอนที่ 2 แต่สามารถเอาห้องอเนกประสงค์นั้นมาเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้ (ตามกฎหมายกำหนดว่าห้องนอนต้องมีพื้นที่มากกว่า 8 ตารางเมตรและมีความกว้างของด้านที่มีขนาดแคบที่สุดไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร เนื่องจากไม่มี Dimension ผมเลยไม่ทราบว่า Rhythm ขาดตกอันไหนเลยไม่เขียนในแบบว่าห้องเล็กเป็นห้องนอน)

จบกันด้วยส่วนกลางที่ต้องบอกว่าไม่ค่อยมีอะไรมาก มีสวนนิดหน่อยที่ชั้น 7, สระว่ายน้ำชั้น 27, ฟิตเนสชั้น 27 และ Lobby ซึ่งถือเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานสำหรับคอนโดมิเนียมเกรด 100,000+ ต่อตารางเมตร ไม่มีห้องสมุด ไม่มีห้องนั่งเล่น ไม่มีซาวน่า ไม่มีสตีม แต่เก็บค่าส่วนกลาง 55 บาทต่อตารางเมตร

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 110,000 บาทต่อตารางเมตร, 06/07/2012

  • ทำเล 9.25/10 – ทำเลนี้ในราคานี้ เป็นจุดขายหลักของโครงการ
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – รถติด แต่ทางเลี่ยงและลัดเยอะ
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – ระยะทางไกล แต่มีทั้ง BTS, BRT และมี Skywalk จาก BTS มา BRT ทำให้เดินสะดวกขึ้น
  • วัสดุ 7/10 –  มาตรฐาน
  • แบบ 7.75/10 – ยังไม่ลงตัวในห้องบางแบบ
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – พอมีให้ใช้ ไม่ได้โดดเด่น

  • HIGH CLASS
  • 8.29 / 10.00

BOTTOM LINE

The Rhythm สาทร-นราธิวาสฯ ขายทำเลเป็นหลัก เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคอนโดมิเนียม High Rise ที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรีย์ สำหรับผู้ที่มีงบ 4 ล้านขึ้นไปครับ

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ