The Niche Mono รัชวิภา คอนโดตึกคู่ 27 ชั้น ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน จาก Sena Development [รีวิวฉบับที่ 497]

รีวิวฉบับที่ 497  นี้ ถึงคิวของโครงการเปิดใหม่ของ เสนา บ้างค่ะ โครงการ The Niche Mono รัชวิภา เป็นคอนโดมิเนียม High Rise ตึกคู่สูง 27 ชั้น ติดถนนรัชดาภิเษกช่วงหัวมุมแยกประชานุกูลตรงข้าม รพ.เกษมราษฎร์ ซึ่งคนแถวนั้นคงจะขับรถผ่านกันบ้างแล้วนะคะ โครงการที่มีบอลลูนสีเหลืองๆ ที่สร้างความเข้าใจผิดให้กับหลายคนหลงคิดว่าเป็นพระจันทร์นั่นล่ะค่ะ 🙂

Fact @ 11 December 2013

• The Niche Mono Ratchavipha (เดอะ นีช โมโน รัชวิภา)
• Developer: Sena Development, Plc.
• MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• คอนโด Hight Rise 27 ชั้น 2 อาคาร  ยูนิตรวม 840 ยูนิต  อาคาร A 528 ยูนิต อาคาร B 312 ยูนิต
• ยูนิตต่อชั้นสุงสุด 22 ยูนิต 
• ที่จอดรถประมาณ 55% รวมจอดซ้อนคัน
• ที่ดินประมาณ  6 ไร่
• 1 – 2 Bedrooms
• 1 Bedroom ขนาดประมาณ 30 -39 ตารางเมตร
• 2 Bedroom ขนาดประมาณ 53 -58 ตารางเมตร
• ราคาเริ่มต้นประมาณ  1.95 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 75,000 บาท
• คาดว่าเเล้วเสร็จปี  2016
• http://www.thenichecondo.com
• โทร  1775 กด 22

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาคอนโดหน่อยนะคะ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด 13.830892,100.540084

เเผนที่จากโครงการค่ะ ที่ตั้งโครงการด้านหน้าติดถนนรัชดาภิเษก ถ้าหันหน้าเข้าหาโครงการ ด้านซ้ายติดคลองประปา ด้านขวาติดทางด่วนศรีรัชตรงจุดลงทางด่วนที่ข้ามมาจากด่านประชาชื่นนะคะ ส่วนถ้าจะขึ้นทางด่วนเข้าเมือง ต้องไปฝั่งตรงข้ามถนนซึ่งต้องวิ่งไปยูเทิร์นที่ใต้สะพานรัชวิภาค่ะ … โครงการนี้ จะอยู่เยื้องๆกับโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และพอจะนั่งรถไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ไม่ไกลจนเกินไปนัก

เเผนที่จาก Google ค่ะจะเห็นระยะและสถานที่ชัดเจนขึ้น ตำแหน่งที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ตรงมุมแยกประชานุกูลพอดีเลยค่ะ ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย … ข้อดีคือ เดินทางค่อนข้างสะดวกมากโดยเฉพาะรถส่วนตัว เข้าเมืองง่าย ใกล้ทางด่วน และมีห้างที่สำคัญของย่านนี้ อยู่ใกล้ๆเดินทางไม่ไกล ทั้ง Central ลาดพร้าว, Union Mall, เมเจอร์ รัชโยธิน, Big C และ Lotus… ส่วนถ้าจะไปตลาดบองมาเช่ หรือตลาดประชานิเวศ ก็วิ่งย้อนเลียบคลองประปาเข้าไปที่ซอยวัดเสมียนนารีค่ะ… นอกจากนี้ยังพอจะไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ไม่ไกล แถมได้หลายสายเช่น สายสีม่วง ข้ามแยกไปขึ้นที่วงศ์สว่าง หรือกรุงเทพนนท์ ได้, สายสีแดง ตรงวัดเสมียนนารี หรือ MRT สุดสายที่บางซื่อ ส่วน BTSก็สถานีจตุจักรค่ะ แต่จะไกลหน่อย

ข้อเสียของทำเลตรงนี้ คือ รถติดในช่วงเย็นๆถึงสองทุ่ม ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ และช่วงเช้าก็ติดเช่นกัน และการอยู่ใกล้แยกที่มีการจราจรหนาแน่น ก็คงต้องเจอเรื่องเสียงและมลภาวะด้านการจราจรเป็นเรื่องปกตินะคะ

แผนที่การเดินทางไปโครงการ ซึ่งการเดินทางวันนี้จะเดินทางจาก MRT บางซื่อ มุ่งหน้าประชาชื่น ตรงมาโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ แล้วเลี้ยวขวาตรงแยกประชานุกูล เข้าโครงการค่ะ

ออกมาจาก MRT บางซื่อ มาตามทางซอยปูนซีเมนต์ไทยค่ะ พอข้ามคลองจะเป็นถนนประชาราษฎ์สาย 2 แล้วเลี้ยวขวาตรงเเยกเตาปูนเข้าถนนประชาชื่นค่ะ

เมื่อเลี้ยวเข้ามาถนนประชาชื่นขับตรงไปเรื่อย ๆ เลียบคลองประปา

จะเห็นสภาพเเวดล้อมตามถนนประชาชื่น ด้านขวาจะดูโล่ง ๆ ต้นไม้เยอะเพราะเป็นถนนเลียบคลองประปา ด้านซ้ายจะมีอาคารบ้านเรื่อน ตึกสูงช่วงนี้ยังมีไม่มากค่ะ

ขับมาจะผ่านโครงการคอนโดที่กำลังขายกันอยู่นั่นคือ ศุภาลัย เวอเรนด้า และคอนโดที่สร้างเสร็จแล้วคือโครงการ U Delight 2 ค่ะ

ขับมาเรื่อยๆ จะเห็นเส้นทางวิ่งของรถไฟฟ้าโดยตัวสถานีบางซ่อนอยู่ทางด้านซ้ายมือ เดินเข้าไปประมาณ 150 เมตรค่ะ

ขับผ่านมาตามถนนประชาชื่น ซึ่งจะผ่านโครงการ U Delight 3

เมื่อถึงเเยกประชานุกูลที่ตัดกับถนนรัชดาภิเษก จะเห็นตึกสีเหลือง ๆ ด้านหน้านั่นคือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ให้เลี้ยวขวานะคะ ปกติแยกนี้ ช่วงเช้าเย็นจะรถค่อนข้างเยอะค่ะ แต่ถ้ามาช่วงกลางวัน ก็จะโล่งๆแบบนี้บ่อยๆ

เมื่อเลี้ยวมาเเล้วจะเห็นบอลลูนสีส้ม ๆ ของโครงการ โดยโครงการจะตั้งอยู่ทางด้านซ้ามมือ สังเกตไม่ยากค่ะ

ทางเข้าของโครงการมีให้เห็นเเล้ว และตอนนี้ตั้งสำนักงานขายอยุ่ที่นี้ค่ะ ถนนมีรถพลุกพล่านทีเดียวค่ะ ฟุตบาทเดินสะดวก สาธารณูปโภครอบ ๆ นี่พอมีบ้าง ถ้าดูจากเเผนที่กูเกิ้ลก็เหมือนเกาะขนาดย่อม ๆ ค่ะ ดังนั้นรอบ ๆ จะรายล้อมด้วยถนน… ซึ่งถ้าขยันเดินหน่อย ก็พอจะมีร้านอาหาร มินิมาร์ทให้พึ่งพิง อยู่บ้างตรงปั๊มน้ำมันเลยโครงการไปประมาณ 200 เมตร ส่วนที่พึ่งอีกแห่งคือตรงโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ เดินไปประมาณ 300 เมตรนะคะ

หันกลับไปตรงแยกที่เราผ่านมาเมื่อกี้ จะมีจุดกลับรถตรงนี้นะคะ

ทีนี้เรามาดูตำเเหน่งที่ตั้งกันดีกว่าค่ะ รูปนี้คือวิวทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ มองเห็นสะพานข้ามแยก ซึ่งไม่ได้สูงมากนะคะ จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องบังวิว

มองไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะเห็นโรงพยาบาลเกษมราษฎร์

ทิศตะวันออกนี้จะติดทางด่วนศรีรัชและมีป้ายป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ โดยด้านนี้จะมีทางลงจากทางด่วนด้วยค่ะ

 

 

เจาะลึกตัวโครงการ

แปลนผังรวมโครงการบริเวณชั้น G จะเห็นว่ามีพื้นที่จอดรถทั้งนอกเเละในโครงการค่ะ

แปลนผังชั้นที่ 2-3 อาคาร A และ B เชื่อมติดกัน เป็นที่จอดรถ

ชั้นที่ 4 เป็นชั้น Facility และเริ่มเป็นชั้นห้องพักอาศัยอาคาร A มีห้องพักอาศัย 22 ยูนิต อาคาร B มี 13 ยูนิต ชั้นนี้จะมีสระว่ายน้ำ, สระเด็ก, Spa และ Fitness โดยจัดวาง Facility ไว้ตรงกลางเชื่อมตึก A-B ลิฟท์โดยสารอาคาร A มี 3 ตัว + service lift อีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์โดยสารตึก A คือ 176 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว ถือว่าหนาแน่นเกินค่ามาตรฐาน รอลิฟท์นานช่วงชั่วโมงเร่งด่วน … ส่วนตึก B มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว + service lift อีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์โดยสารตึก B คือ 104 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว ตรงตามมาตรฐาน ถือว่าดีกว่าตึก A ในแง่ ไม่ต้องรอลิฟท์นาน ใช้งานสบายๆค่ะ

ตึก A เป็นตึกใหญ่กว่า อยู่ด้านหลังโครงการ วางผังเป็นตัว L ทิศตะวันตกเฉียงเหนือค่อนข้างโล่ง แต่มีตึกโรงพยาบาลเกษมราษฎร์บังในระยะไกลแบบเอียงๆบ้าง ส่วนทิศตะวันตกเฉียงใต้วิวเปิดโล่ง และเริ่มสวยตั้งแต่ชั้น 8 เป็นต้นไป เพราะพ้นระยะทางด่วนและตึกแถวนั้นหมดแล้ว ส่วนทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันออกเฉียงใต้ ชั้นล่างๆ 4-7 พอจะได้วิวสระสวนในอาคาร ส่วนชั้น 8 ขึ้นไป จะมองไม่เห็นสระสวน และโดน Block วิวระยะไกลจากตึก B ค่ะ ยังดีที่ระยะห่างระหว่างตึกค่อนข้างมาก

ตึก B เป็นตึกเล็ก อยู่ด้านหน้าโครงการ วางผังตัว I มีแค่สองทิศคือ ตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ ทิศตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นด้านหน้าโครงการ ชั้นล่างๆ 4-6 จะอยู่ใกล้ถนนไปหน่อย เพราะตรงนั้นเป็นสะพานข้ามแยก แม้ว่าชั้น 4 จะสูงพ้นระยะสะพานแล้ว แต่พวกฝุ่นเสียง และวิวมุมก้ม ก็คงจะสู้ชั้นสูงๆไม่ได้แน่นอน ดีที่วิวด้านนี้ค่อนข้างเปิดโล่งนะคะ… ทิศตะวันตกเฉียงเหนือได้วิวสระสวน ชั้นล่างๆ 4-7 ส่วนชั้น8 ขึ้นไป จะมองไม่เห็นสระสวน และโดน Block วิวระยะไกลจากตึก A ค่ะ Block กันเอง 🙂

ชั้นที่ 5 เป็นชั้นที่ ตึก A-B แยกกันแล้วนะคะ ยูนิตพักอาศัยทั้ง 2 อาคารจะเหมือนชั้นที่ 4 ชั้นนี้มี Library และ Meeting Room ซึ่งต้องขึ้นมาจากพื้นที่ตรง Fitness ชั้น 4

ผังอาคาร A ชั้น 6-27 จัดเป็นรูปตัว L ความหนาแน่นทุกชั้นเท่ากันคือ 22 ยูนิต/ชั้น ยิ่งสูงวิวยิ่งเห็นได้ไกล วิวนอกเมืองคือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (ด้านบน) และทิศตะวันตกเฉียงใต้ (ด้านซ้าย)  ส่วนทิศตะวันออกเฉียงใต้ จะ Block วิวกันเอง

ผังอาคาร B จัดเป็นรูปตัว I ชั้น 6-27 ความหนาแน่นทุกชั้น เท่ากันคือ 13 ยูนิต/ชั้น วิวที่สวยคือทิศตะวันออกเฉียงใต้ (ด้านล่าง) จะเป็น City View ยิ่งสูงยิ่งเห็นไกลค่ะ ส่วนทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (ด้านบน) จะโดน Block วิวโดยตึก A

ภาพจำลองจากโครงการ The Niche Mono รัชวิภา ซึ่งจะเห็นเป็นสองอาคารโดยมีส่วนกลางเชื่อมกันค่ะ อาคารด้านขวาคืออาคาร B ที่มียูนิตน้อยกว่าและจะเปิดขายทีหลัง ดังนั้นราคาก็จะสูงกว่าอาคาร A นะคะ

ภาพจำลองทางเข้าโครงการค่ะ สามารถจอดรถรอบ ๆ โครงการได้โดยมีพื้นที่สีเขียวล้อมรอบ

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น Ground ของโครงการค่ะ

ภาพจำลองLobby ของโครงการค่ะโดยการตกเเต่งจะไปในเเนวเดียวกับสำนักงานขายตอนนี้ ถ้าใครอยากเห็นบรรยากาศเล็กน้อยก็ไม่ยากค่ะ ไปเช้าชมสำนักงานขายได้เลย

Lobby เพดานสูง 6 เมตร แยกเป็นส่วนตัวของแต่ละอาคาร

ภาพจำลองสระว่ายน้ำโดยส่วนนี้จะอยู่ที่ชั้น 4 ใช้ร่วมกันระหว่าง 2 อาคาร

ห้องออกกำลังกาย ห้องนี้จะได้วิวตรงสระว่ายน้ำค่ะ

ภาพจำลอง Library, Meeting Room ซึ่งอยู่ชั้น 5

ภาพจำลอง Mail Box ค่ะ

ต่อไปเรามาดูแบบจำลองของโครงการกันบ้างดีกว่า ภาพมุมนี้มองจากทางด้านถนนวิภาวดี จะได้เห็นว่าโครงการตั้งอาคารเเบบเอียง ๆ นะคะโดยด้านหน้า(ซ้ายมือ) ติดถนนรัชดาภิเษก

มุมมองจากด้านหน้าตรง ติดกับถนนรัชดาค่ะ

มุมมองจากทางด้านคลองประปา หรือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์

มุมมองจากทางด้านหลังโครงการด้านทิศเหนือค่ะ อาคารที่เห็นหน้าคืออาคาร B  อาคาร A จะเป็นอาคารที่หันวิวไปทางถนนรัชดาภิเษก

ทางเข้าออกของโครงการตอนนี้เป็นตำเเหน่งเดียวกันทางเข้าออกตรงสำนักงานขายค่ะ จากแบบจำลองจะเห็นว่าทางโครงการมีการให้จอดรถรอบ ๆ โครงการได้

ทางโครงการจัดเตียมพื้นที่จอดรถไว้ที่ชั้น 1-3 ของอาคาร A และอาคาร B จะเป็นชั้นพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 4 เลยค่ะ

 

สิ่งอำนวยความสะดวก

• สระว่ายน้ำ สระผู้ใหญ่ขนาด 22 x 12.60 ม.  สระเด็กขนาด 6.2 x 3.4 ม.
• ห้องออกกำลังกาย ,Library, Meeting Room
• สวนส่วนกลาง ชั้น Ground และชั้น4
• ระบบเข้า-ออกด้วย Key Card
• โครงการมี 2 อาคารโดยแต่ละอาคารมีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และลิฟต์ขนของ 1 ตัว
• อัตราส่วนลิฟต์ ตึก A คือ 176:1 ตึก B คือ 104:1
• CCTV / เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.
• ที่จอดรถ ชั้น 1-3 และภายนอกอาคาร รวมประมาณ 55%
• Shuttle Van ไปส่งรถไฟฟ้า

 

 

Product Walkthrough

ห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายมีให้เข้าชม  3 แบบนะคะนั่นคือ A1 ,A3และ B2 โดยแบบA1 ,A3เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน โดยทางThink of living ขอเลือกห้อง A1 ที่มีเยอะที่สุดในโครงการมาให้ชมสำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอนนะคะ ส่วนแบบ 2 ห้องนอนจะเป็นเเบบ B2 ค่ะ

One Bedroom แบบ A1 ขนาด 30.08 ตร.ม.ห้องออกแบบให้ห้องนอนและครัวอยู่ติดกับภายนอกเพื่อให้ระบายอากาศได้ดี เข้ามาในห้องเป็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่นค่ะ ถือว่ามีขนาดกำลังอยู่สบาย โดยติดกันเป็นห้องน้ำค่ะ ห้องนี้ได้ครัวปิดที่สามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับนั่งทานในครัวได้ ความที่เป็นครัวปิดเชื่อมกับระเบียง เวลาทำอาหารจึงพอจะกันกลิ่นไม่ให้ฟุ้งทั่วห้องได้ แต่น่าเสียดายที่เคาน์เตอร์ครัวขนาดเล็กไปหน่อย และด้านข้างตู้เย็นจะมีพื้นที่เหลือเล็กน้อยเนื่องจากติดเสาอาคารค่ะ ระเบียงถือว่ามีพื้นที่ให้ตากผ้าได้สบาย ๆ แต่ทางเข้าออกต้องดูตำเเหน่งการวางโต๊ะทานอาหารดี ๆ ไม่งั้นจะเกะกะกันได้ค่ะ ห้องนอนไม่ใหญ่เท่าไหร่นัก ไม่สามารถวางโต๊ะเครื่องเเป้งหรือโต๊ะทำงานได้ค่ะ

ประตูห้องเป็นประตูไม้สีขาว ลูกบิดประตูเข้าห้องเป็นแบบก้านโยก ค่ะ

พื้นห้องเป็นลามิเนตโทนสีน้ำตาลอ่อน วงกบประตูเป็นไม้สีขาวค่ะ

เข้าห้องไปนี่คือภาพเเรกที่เห็นนะคะ ซึ่งจะเห็นว่าความสว่างในห้องนั่งเล่นที่ได้ จะได้มาจากประตูการะจกตรงระเบียง ซึ่งห้องนี้ส่วนที่ติดภายนอกคือห้องนอนเเละห้องครัวค่ะ

ซึ่งด้านขวามือเมื่อเข้าห้องมาจะเป็นตำเเหน่งที่วางโซฟา จริงๆสามารถวางโซฟาขนาด ใหญ่กว่านี้ได้

แต่ดูระยะด้านขวามือนิดนึงนะคะ มีระยะห่างจากผนังหน่อยก็ดีเพราะด้านนี้จะมีปลั๊กไฟ

มองกลับไปตรงประตูทางเข้า จะเห็นระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีชัดเจนขึ้นค่ะ ซึ่งระยะห่างสามารถเดินผ่านและดูทีวีได้สบาย ๆ

หันมาอีกด้านกันดีกว่าค่ะ ด้านนี้จะเป็นตำเเหน่งวางทีวี โดยด้านนี้มีห้องน้ำด้วยค่ะ พื้นที่ระหว่างประตูห้องนอนกับห้องน้ำเหลือนิดหน่อยสามารถทำเป็นชั้นวางของได้ โดยด้านนี้ตู้ต่างๆ  ที่เห็นทางโครงการไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้นะคะ

ห้องน้ำขอบธรณีต่างจากพื้นห้องนั่งเล่นเล็กน้อยค่ะ ส่วนพื้นในห้องน้ำระดับเดียวกับห้องนั่งเล่น พื้นเป็นกระเบื้องสีเทาขนาด 30×30 ซม. ประตูห้องน้ำเป็นลูกบิด

ภาพโดยรวของห้องน้ำ ส่วนแรกที่เจอคืออ่างล้างมือที่เห็นนิด ๆ ทางด้านขวา ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์ และในสุดคือส่วนอาบน้ำ

อ่างล้างหน้าพื้นที่วางของไม่เยอะค่ะ แต่ตู้เก็บของที่บานเปิด-ปิดเป็นกระจก ทำให้เก็บของส่วนนั้นได้ ตรงส่วนนี้ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้นะคะ

ตำเเหน่งโถสุขภัณฑ์ค่ะ

ถัดมาเป็น Shower Box ซึ่งตรงนี้ทางโครงการกั้นไว้ให้นะคะ อาบน้ำก็ไม่เลอะเทอะออกมาด้านนอกค่ะ

โดยตรงพื้นกั้นขอบขึ้นมาในระดับหนึ่ง ซึ่งกั้นส่วนเเห้งกับเปียกชัดเจนดีค่ะ ขนาดพื้นที่ในส่วนนี้ก็อาบน้ำได้สบาย ๆ

ต่อไปมาดูส่วนที่ติดภายนอกกันดีกว่าค่ะ ด้านขวาเป็นห้องครัวและทานอาหาร ด้านซ้ายเป็นห้องนอน

มาดูห้องครัวกันค่ะ ห้องครัวประตูเป็นกระจกบานใหญ่ โดยเป็นบานเลื่อน 3 บานทำให้เปิดได้กว้างขึ้นค่ะเพราะเปิดมาจะเจอกับโต๊ะทานอาหารดังนั้นต้องเปิดกว้างๆ ไม่งั้นจะเกะกะเก้าอี้ได้

เข้ามาห้องครัวดูกว้างและสว่างมากทีเดียว เพราะได้เเสงประตูกระจกตรงระเบียง ระยะห่างระหว่างเคาน์เตอร์กับโต๊ะมีพื้นที่เดินผ่านเละก้มหยิบของได้สบาย ๆ ค่ะ

ด้านขวาเป็นตำเเหน่งครัวค่ะ จะมีพื้นที่ข้างตู้เย็นเล็กน้อยเพราะติดเสา โดยถ้าใครจะวางตู้เก็บของตรงนี้ก็ได้นะคะ

เคาน์เตอร์มีพื้นที่ไม่ใหญ่มาก คือถ้ามีเตาก็แทบไม่เหลือพื้นที่เตรียมอาหารเลยค่ะ top เป็นลามิเนตลายหินอ่อน

ตู้ด้านล่างเคาน์เตอร์ทำเป็นช่องวางไมโครเวฟและตู้มีพื้นที่เก็บของให้เล็กน้อยค่ะเพราะจะติดกับอ่างและท่อระบายน้ำ ลิ้นชักมีช่องเก็บช้อน-ส้อมให้ด้วย

ตู้เก็บของด้านบนมีพื้นที่ให้ไม่เยอะมากแต่พอวางพวกซอส เครื่องปรุงได้ค่ะ ส่วนนี้ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้นะคะ

โต๊ะทานอาหารจะจัดวางในครัวเลยค่ะสามารถวางโต๊ะสำหรับ 2 ที่นั่งได้

แต่จะวางต้องดูระยะนิดนึงนะคะ เพราะไม่งั้นเก้าอี้ที่อยู่ติดระเบียงจะเกะกะทางเข้า เนื่องจากประตูทางเข้าออกจะอยู่ด้านหลังเก้าอี้พอดี ถ้าโต๊ะใหญ่กว่านี้หรือเวลาไม่มีใครนั่งคงต้องเอาเก้าอี้ชิด ๆ โต๊ะหน่อยไม่งั้นเข้าออกลำบากค่ะ

ประตูกระจกระเบียง ด้านนี้จะเห็นเลยนะคะว่าบานด้านซ้ายที่เข้าออกจะตำเเหน่งเดียวกับเก้าอี้พอดี ส่วนด้านขวาเข้าออกไม่ได้เพราะจะติดคอมเพลสเซอร์เเอร์และเครื่องซักผ้าค่ะ

ประตูที่จะเข้าออกไปส่วนระเบียง ธรณีประตูจะกั้นขอบขึ้นมาในระดับหนึ่ง ฝนตกน้ำก็ไม่ไหลเข้ามาง่ายๆ  ค่ะ

พื้นที่ระเบียงมีขนาดพอสมควร เมื่อเทียบกับขนาดห้องนี้ค่ะ

ด้านขวามือเป็นตำเเหน่งเเขวนคอมเพลสเซอร์เเอร์ และด้านล่างคอมเพลสเซอร์เป็นตำเเหน่งวางเครื่องซักผ้า ซึ่งจากระดับนี้สามารถเป็นฝาบนได้ค่ะ โดยทางโครงการจะติดตั้งท่อน้ำดี-น้ำทิ้งและปลั๊กไฟเตรียมไว้ให้

ต่อไปมาดูห้องสุดท้ายในห้องนี้กันดีกว่านั่นก็คือห้องนอนค่ะ พื้นเป็นลามิเนตเหมือนกับห้องนั่งเล่น

ภาพเเรกที่เห็นเมื่อเข้ามาในห้องค่ะ ดูสว่างทีเดียวเพราะหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ห้องไม่กว้างมากมีพื้นที่เพียงพอเเค่เตียง ตู้เสื้อผ้าและทีวี ไม่สามารถวางโต๊ะทำงานได้ค่ะ

เตียงสามารถวางได้ขนาด 5 ฟุตนะคะเเละจะมีพื้นที่เหลือข้างเตียงเล็กน้อย

ข้างเตียงด้านติดหน้าต่างเหลือพื้นที่ให้เดินเข้าไปปูเตียงหรือทำความสะอาดเล็กน้อยค่ะ แต่ถ้าจะวางติดขอบก็จะปิดตำเเหน่งปลั๊กไฟนะคะ

ด้านข้างเตียงที่ติดกับประตูจะมีพืนที่ให้ทำเป็นตู้เสื้อผ้า โดยตรงนี้โครงการไม่ได้เตรียมไว้ให้นะคะ ดังนั้นห้องจริงที่ได้จะเป็นช่องว่างของผนังเฉย ๆ ค่ะ

หน้าต่างห้องนอนบานใหญ่ทำให้เเสงเข้ามาได้เยอะ โดยด้านล่างเป็นบานปิดส่วนด้านบนเป็นหน้าต่างบานเลื่อนค่ะ

ส่วนปลายเตียงถ้ามีชั้นวางทีวีก็ยังพอมีพื้นที่ได้เดินผ่านได้ค่ะ

Two Bedroom แบบ B2 ขนาด 58.09 ตร.ม. ห้องนี้ออกเเบบให้พื้นที่ห้อง Master Bedroom มีขนาดใหญ่มากทีเดียวค่ะ โดยห้องนั่งเล่นและพืนที่ทานอาหารกว้างไม่อึดอัดส่วนห้องครัวเล็กค่ะ โดยเข้ามาในห้องส่วนแรกที่เจอคือพื้นที่ทานอาหารและนั่งเล่นเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกัน ทำให้ดูโล่งและกว้างทีเดียว โดยส่วนด้านขวาของPlan เป็นครัว ระเบียงและห้องน้ำ ด้านซ้ายของ Plan เป็นห้องนอนค่ะโดยทั้งสองห้องมีหน้าต่างที่รับลมและเเดดจากภายนอกได้ ห้องนอนเล็กวางได้แต่เตียงขนาด 3.5 ฟุตและมีพื้นที่วางโต๊ะอ่านหนังสือเล็ก ๆ ได้นะคะ ส่วนห้องนอนใหญ่พื้นที่เหลือเฟือทีเดียวค่ะ โดยส่วนแรกที่เข้ามาเป็นพื้นที่ว่างสามารถวางโต๊ะเครื่องเเป้งและตู้เสื้อผ้าได้เยอะมากเลยค่ะ เข้ามาจะเป็นห้องน้ำ และค่อยเข้าไปในส่วนที่นอน ซึ่งมีพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงานได้สบาย ๆ เลยค่ะ

พื้นห้องเป็นลามิเนตโทนสีน้ำตาลเหมือนกันค่ะ หนา8 มม.

ก้าวเข้ามาในห้องจะเห็นส่วนทานอาหารเเละนั่งเล่นทั้งหมดค่ะ เนื่องจากสองพื้นที่นี้ต่อเนื่องกันเป็นห้องสี่เหลี่ยมทำให้ดูกว้างขึ้นค่ะ เเถมยังได้เเสงจากหน้าต่างกระจกเลยยิ่งทำให้ดูกว้างไม่อึดอัด

ด้านซ้ายของห้องจะเป็นส่วนห้องนอนโดยประตูเเรกที่เห็นคือ Master Bedroom ถัดไปเป็นห้องนอนเล็กค่ะ

ส่วนด้านขวาคือส่วนทานอาหาร ถัดไปเป็นประตูไปห้องครัวและห้องน้ำ ในสุดคือพื้นที่นั่งเล่น

พื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร สามารถวางโต๊ะสำหรับ 4 คนได้ค่ะ อีกทั้งด้านข้างยังพอมีพื้นที่วางตู้เก็บของได้ อาจทำเป็นตู้เก็บรองเท้า โดยระยะด้านหลังเก้าอี้กับตู้มีให้เดินผ่านเข้าออกได้สบาย ๆค่ะ

ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาสำหรับ 2-3 ที่นั่งได้ค่ะ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีมีให้เดินผ่านได้สบาย ๆ

ขนาดโซฟาในห้องตัวอย่างค่ะ ถ้านั่ง 2 คนจะสบายๆ  สามารถวางโซฟาตัว L ได้ด้วย

หันมาอีกด้านเป็นตำเเหน่งที่จะวางทีวี สามารถทำเป็นชั้นวางของเพิ่มตรงผนังได้ด้วยค่ะ โดยชั้นวางของส่วนนี้ทางโครงการไม่ได้เตรียมไว้ให้นะคะ

หน้าต่างตรงส่วนนี้ก็ยังใหญ่เช่นเคย โดยบานล่างเป็นบานปิดส่วนบานบนเป็นบานเปิดแบบเลื่อนค่ะ

ต่อไปมาดูห้องฝั่งนี้กันบ้างดีกว่า ประตูส่วนนี้จะเป็นประตูเเบบบานเลื่อนนะคะ โดยประตูอยู่ระหว่างโต๊ะทานอาหารกับโซฟานั่งเล่นค่ะ

พื้นส่วนนี้เป็นกระเบื้องสีเทาขนาด 30×30 ซม.มีขอบจบแบบกันลื่นด้วย

โดยถ้าเข้าไปที่เห็นอันดับแรกคือที่วางตู้เย็นค่ะ ห้องขวามือที่เห็นจะเป็นห้องน้ำค่ะ ซึ่งห้องนอนเล็กก็จะใช้ห้องน้ำนี้ด้วย

เคาน์เตอร์ครัวก็จะอยู่ติดๆ กันกับตู้เย็นเลย ส่วนถัดไปคือระเบียง

เคาน์เตอร์มีพื้นที่ให้ไม่มากนักโดยยาวกว่าเเบบ 1 ห้องนอนนิดเดียวค่ะ ดังนั้นถ้าวางเตาเเละอ่างล้างจานไปแล้วก็จะมีพื่นที่เหลือแบบที่เห็นเลย ซึ่งเหลือน้อยมาก

โดยตู้เก็บของด้านล่างที่โครงการจัดเตรียมไว้ให้จะมีหน้าตาเเบบนี้ค่ะ ลิ้นชักจะเป็นที่เก็บช้อน-ส้อม

ส่วนตู้เเละชั้นวางของด้านบนก็มีให้เก็บพวกเครื่องปรุงได้เยอะพอควร ถ้าจะวางจานชามต้องดูขนาดดี ๆ นะคะ

ระเบียงห้องติดกับเคาน์เตอร์ครัวเลย โดยเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ธรณีประตูก็กั้นเป็นขอบขึ้นมาให้เห็นชัดเจน ดังนั้นเวลาฝนตกน้ำจะได้ไม่ไหลเข้ามาได้ง่าย ๆ แต่เดินเข้าออกต้องระวังสะดุดด้วยนะคะ

ขนาดระเบียงค่ะ ขนาดจะสั้นกว่าแบบ1 ห้องนอนแต่กว้างกว่า คือถ้าวางเครื่องซักผ้าก็ยังพอมีที่ตากผ้าได้อยู่ค่ะ

ต่ำเเหน่งวางเครื่องซักผ้า โดยทางโครงการจะเตรียมปลั๊กไฟ ท่อน้ำดีและท่อน้ำทิ้งไว้ให้ตรงนี้ค่ะ

คราวนี้หันกลับไปดูอีกฝากกันบ้างดีกว่า ซึ่งเป็นห้องน้ำค่ะ

ห้องน้ำกั้นขอบมาเล็กน้อย โดยระดับพื้นในห้องน้ำกับพื้นห้องครัวเท่ากันนะคะ

ห้องน้ำเข้าไปก็เป็นอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และShower Box ตามลำดับ

อ่างล้างหน้าและตู้เก็บของจะหน้าตาเหมือนกันทุกห้องค่ะ โดยบานปิดเป็นกระจกไปในตัว

ตำเเหน่งโถสุขภัณฑ์ค่ะ

Shower Box ห้องนี้กว้างทีเดียวค่ะโดยพื้นก็คงกั้นของระว่างส่วนอาบน้ำกับส่วนเเห้งเช่นเคย ทำให้น้ำไม่ไหลเลอะเทอะออกมา

หน้าตาฝักบัวที่โครงการจัดเตรียมไว้ให้ค่ะ

คราวนี้มาดูอีกฝั่งห้องห้องกันบ้านค่ะ ฝั่งนี้จะเป็นห้องนอน โดยประตูที่เห็นด้านซ้ายมือคือ Master Bedroom ส่วนขวามือที่ติดกับทีวีเป็นประตูห้องนอนเล็กค่ะ

เรามาเริ่มกันที่ห้องนอนเล็กนะคะ ห้องนี้พื้นเป็นลามิเนตแบบเดียวกันห้องนั่งเล่นแต่มีตัวจบกันขอบไว้ค่ะ

เข้ามาจะเป็นตำเเหน่งที่วางตู้เสื้อผ้า โดยตู้ตรงนี้โีครงการไม่ได้เตรียมไว้ให้ดังนั้นจะเป็นผนังโล่ง ๆ นะคะตรงนี้

เข้าไปข้างตู้ถ้าเว้นที่ไว้หน่อยก็จะวางโต๊ะอ่านหนังสือเล็ก ๆ ได้ เเละถัดไปเป็นเตียงนอนค่ะ

โดยเตียงนอนสามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้เท่านั้นนะคะไม่งั้นอึดอัดเเย่

โดยพื้นที่เตียงสามารถเว้นระยะด้านข้างให้เข้าไปทำความสะอาดได้ แต่ถ้าต้องการทำด้านข้างเป็นโต๊ะทำงานคงต้องเอาเตียงชิดหน้าต่าง แต่ข้อเสียคือเข้าไปปูเตียงได้ยาก

ส่วนปลายเตียงมีพื้นที่ให้เดินผ่านได้ค่ะ แต่ถ้าจะวางโต๊ะหรือชั้นคงไม่ได้เพราะเกะกะทางเดินแน่

โดยช่องว่างระห่างเสากับผนังตรงปลายเตียง สามารถติดตั้งทีวีได้ แต่ขนาดทีวีต้องวัดกันดี ๆ นะคะไม่งั้นอยากได้ใหญ่ ๆ เดี๋ยวจะวางไม่ได้เอา

ห้องเล็กแต่หน้าต่างกว้างเกือบเต็มผนังด้านนี้ เลยทำให้ห้องดูไม่อึดอัดค่ะ

ภาพด้านนี้จะเห็นความลึกของตู้ชัดเจนขึ้นซึ่งห้องจริงที่ได้จะเป็นผนังโล่ง ๆ ถ้าใครอยากทำตู้เสื้อผ้ายาวมาจนถึงขอบคงเสียดายไม่น้อยเพราะจะทับตำเเหน่งสวิตซ์ตรงนี้ค่ะ

ห้องสุดท้ายที่จะพาชมกันแล้ว นั่นคือ Master Bedroom ค่ะ ห้องนี้พื้นเป็นลามิเนตเเบบเดียวกันกับห้องนั่งเล่นและห้องนอนเล็ก

เข้ามาด้านซ้ายเป็นพื้นที่ว่างสามารถวางตู้เสื้อผ้าตามเเนวยาวแบบนี้ได้เลยค่ะ สาวๆ  เสื้อผ้าเยอะคงดีใจปลาบปลื้มกันไม่น้อย  ส่วนด้านขวาก็มีพื้นที่ว่างให้ทำเป็นโต๊ะเครืิ่องเเป้งแบบพื้นที่เเสนจะเหลือเฟือ ถ้าเดินตรงไปห้องที่เห็นคือห้องน้ำส่วนที่นอนจะต้องเข้าไปทางขวามือค่ะ

เข้ามาดูส่วนนอนกันก่อนดีกว่า เมื่อเข้ามาความกว้างทางเดินระหว่างปลายเตียงกับชั้นวางทีวีมีให้เดินได้สะดวกค่ะ

เตียงสามารถวางขนาด 5-6 ฟุตได้เลย โดยข้างเตียงด้านซ้ายเว้นพื้นที่ให้เข้าไปได้เล็กน้อย ด้านขวามีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะทำงานได้ค่ะ

พื้นที่ด้านนี้สามารถวางโต๊ะทำงานกว้าง ๆได้สบายๆ เลยค่ะ

หันมาให้ดูชัด ๆ กันดีกว่าว่าถ้านั่งทำงานก็ยังไม่เกะกะทางเดินเข้าออกประตูระเบียง

ปลายเตียงก็วางทีวีได้ค่ะ และพื้นที่ก็มีให้ทำชั้นวางของได้

ต่อไปมาดูห้องน้ำใน Master Bedroom กันค่ะ พื้นห้องเป็นเหมือนห้องน้ำห้องอื่น คือกระเบื้องสีเทาขนาด 30×30 ซม. ขอบกั้นเล็กน้อย แต่รับดับพื้นเท่ากับด้านนอก

 

เข้ามาก็จะเห็นเป็นเเบบนี้ค่ะ

อ่างล้างหน้าเหมือนกับห้องอื่น ๆ ตู้ด้านบนเปิดเก็บของได้ ซึ่งมีประโยชน์มากเพราะตรงอ่างวางของได้ไม่เยอะนัก

ตำเเหน่งโถสุขภัณฑ์ค่ะ

Shower Box อาจจะดูเล็กกว่าห้องด้านนอกไปหน่อยเพราะติดช่อง Shaft พอดี

แต่ขนาดก็พออาบคนเดียวได้สบาย ๆ ค่ะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 11/12/2013

• One Bedroom แบบA1 ชั้น 5 ขนาด 30.08 ตร.ม.ราคา 2.257 ล้านบาท หรือราคาประมาณ 75,000  บาทต่อตารางเมตร (ส่วนลด 147,700 บาท )
• One Bedroom แบบA1 ชั้น 15 ขนาด 30.08 ตร.ม.ราคา 2.396 ล้านบาท หรือราคาประมาณ 79,600  บาทต่อตารางเมตร (ส่วนลด 156,800 บาท )
•  จอง 5,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท

• Two Bedroom แบบB2 ชั้น 5 ขนาด 58.09 ตร.ม.ราคา 4.451 ล้านบาท หรือราคาประมาณ 76,600  บาทต่อตารางเมตร (ส่วนลด 291,200 บาท )
• Two Bedroom แบบB2 ชั้น 15 ขนาด 58.09 ตร.ม.ราคา 4.515ล้านบาท หรือราคาประมาณ 77,700  บาทต่อตารางเมตร (ส่วนลด 295,400 บาท )
•  จอง 10,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท

• Fully Fitted ไม่มีเฟอร์  มีเฉพาะ Built-in ห้องครัว และตู้เก็บของในห้องน้ำ พร้อมรับส่วนลด(ที่กล่างข้างต้น)
• โปรโมชั่นที่มีตอนนี้จะได้รับเครื่องปรับอากาศและชุดครัวพร้อมเตาและเครื่องดูดควัน
• ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
• ค่าส่วนกลาง 39 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน จ่ายล่วงหน้า 1 ปี

 

เจาะลึกรวบยอด

The Niche Mono รัชวิภา เป็นโครงการตั้งอยู่ในทำเลมุมสี่เเยกประชานุกูลและข้างทางด่วนศรีรัช ซึ่งอยู่ตรงหัวมุมสี่แยกพอดี โครงการค่อนข้างอยู่ในทำเลสะดวกในการเดินทางเข้าออกเมือง และมีห้างและสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ในระยะเดินทางไม่ไกลมากพอสมควร … ความอุดมสมบูรณ์รายรอบโครงการ มีไม่มากแต่มีให้ใช้ 24 ชั่วโมง คือร้านอาหารและมินิมาร์ทที่ปั๊มใกล้ๆ รวมไปถึงที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ด้วย … อย่างไรก็ดีความที่โครงการอยู่ติดแยกที่มีการจราจรค่อนข้างจะพลุกพล่านมาก ดังนั้นคงหลีกเลี่ยงปัญหามลภาวะทางการจราจรไม่ได้นะคะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ สะดวกมาก เพราะไปมาได้หลายทาง สามารถวิ่งเส้นรัชดาหรือวิภาวดีรังสิต รวมไปถึงประชาชื่น ลัดเลาะเข้าออกเมืองได้หลากหลายเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีทางขึ้นลงทางด่วนอยู่เยื้องๆตรงหน้าโครงการด้วยค่ะ แต่แน่นอนก็มีข้อเสียคือเส้นนี้รถติดพอสมควรเลยค่ะ อีกทั้งถ้าจะไปทางเส้นประชาชื่นก็ต้องกลับรถไกลพอควร

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีเเดงมี่กำลังจะมีในอนาคตแต่เนื่องจากโครงการคาดว่าจะสร้างเสร็จปลายปี 59 โครงการจึงจัดเส้นทางของรถ Shuttle Van ให้สองเส้นทางคือไป MRT บางซื่อ เเละ BTS หมอชิตซึ่งใครที่ใช้บริการรถไฟฟ้าสองเส้นนี้คงสะดวกไม่น้อยเลยค่ะ สำหรับการปรับเปลี่ยนเส้นทางของ Shuttle Van เพื่อให้สอดคล้องกับสถานีรถไฟฟ้าที่จะมีในอนาคตก็สามารถทำได้โดยตกลงกับนิติบุคคลค่ะ ส่วนใครที่อาศัยการเดินทางด้วยรถเมล์อาจจะต้องเดินไกลหน่อยเพราะหน้าโครงการไม่มีป้ายรถเมล์เลยค่ะด้วยความที่อยู่ใกล้แยก ต้องเดินไปพอสมควร

ส่วนการออกแบบอาคารเรื่องความสวยงามคงข้อข้ามไปละกันนะคะเพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ส่วนตัวโครงการ ด้วยทรงที่ดิน ทำให้ออกแบบตึกมาเป็นตึกคู่ ซึ่งมีข้อเสียตรงบังวิวกันเอง แต่โครงการดันตึกออกห่างกันพอสมควร สำหรับคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องวิวระยะไกล ระยะห่างระหว่างตึกขนาดนี้ น่าจะพอรับได้ …แบบห้องของเดอะนีช โมโน รัชวิภานั้นออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้อยู่สบายค่ะ แต่ก็มีติดขัดบ้างอย่างห้องขนาดที่เล็กสุดนั่นคือห้อง A1 ซึ่งจัดเเบบห้องลงตัวดูไม่อึดอัด แต่ข้อเสียคือไม่สามารถวางโต๊ะทำงานได้ เคาน์เตอร์ครัวก็เล็กไปหน่อยค่ะ อีกทั้งพื้นที่เก็บของถือว่าน้อยทีเดียว ส่วนห้องแบบ B2 จัดห้องได้ดูโปร่งมากค่ะห้อง Master Bedroom ก็กว้างมากทีเดียวมีทั้งพื้นที่เก็บของ โต๊ะทำงาน เหลือเฟือแต่พื้นที่ครัวเล็กไปหน่อยค่ะ ใครที่ชอบทำอาหารคงเสียดายไม่น้อย ส่วนห้องอื่น ๆ ก็ออกแบบอยู่ได้สบายค่ะแต่ขนาดเคาน์เตอร์ครัวนั้นไม่ต่างกันมาก…

วัสดุอุปกรณ์ที่ให้มานั้นให้มาไม่เยอะค่ะ แต่ก็อยู่ในระดับมาตรฐานที่คอนโดจะให้นั่นคือในห้องน้ำที่ให้ตู้เก็บของด้วย ห้องครัวตู้ล่างและตู้บน พื้นลามิเนตหนา 8 มม.

สาธารณูปโภคจัดมาน่าใช้ในขนาดที่โอเค สระว่ายน้ำมีเเยกสระเด็กกับสระผู้ใหญ่ มีสวนที่ชั้น 4 และชั้น Ground และห้องต่าง ๆ ให้ลูกบ้านได้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นห้องออกกำลังกาย,ห้องอ่านหนังสือ และMeeting Room แต่การแชร์ 2 ตึกและมีคนใช้ร่วม 840 ห้อง ก็อาจจะต้องบริหารจัดการหน่อย

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคาเฉลี่ยเมื่อหักส่วนลดแล้วที่  75,000 บาทต่อตารางเมตร, 11/12/2013 (ถ้าซื้อในราคาที่ถูกกว่านี้ ก็สามารถเพิ่มคะแนนได้เองนะคะ)

• ทำเล 7.5/10 – ทำเลติดถนนใหญ่รัชดาภิเษกใกล้ทางด่วน ทำเลใกล้แยก และสภาพแวดล้อมรอบโครงการยังไม่สวย
• เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – สะดวกมาก เสียแต่รถติดพอสมควรเลย
• ไม่ใช้รถ 8.0/10 – ติดถนนใหญ่เรียกรถง่ายแต่ใครใช้รถเมล์ไกลหน่อยเพราะหน้าโครงการไม่มีป้าย รถไฟฟ้าสะดวกมี Shuttle Van
• วัสดุ 7.5/10 – ค่อนข้างตามมาตรฐาน
• แบบ 7.5/10 – มีทั้งข้อดีและข้อด้อยปนกัน เเละมีให้เลือกหลายเเบบ
• สาธารณูปโภค 7.75/10 – ครบและขนาดน่าใช้ แต่ต้องแชร์ร่วม 2 ตึก 840 units ลิฟท์ตึก A ค่อนข้างแน่น

• MAIN CLASS
• 7.61 / 10.00

BOTTOM LINE

The Niche Mono รัชวิภา เหมาะกับคนมองหาโครงการย่านประชาชื่น ที่เดินทางด้วยทางด่วน หรือคนไม่ใช้รถที่มองหาบ้านที่เดินทางเรียกรถง่ายตลอด 24 ชั่วโมง และพอจะไปรถไฟฟ้าได้ไม่ไกลนัก มีงบประมาณระดับ 2-5 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือน 13,000 – 25,000 บาท

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ด้วยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ