รีวิวโครงการ
พาชมตึกเสร็จ The Lumpini 24 คอนโดระดับ Super Luxury Class จาก LPN [รีวิวฉบับย่อ 1054]
13 เมษายน 2016
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาว Thinkofliving.com ฝนกลับมาป้วนๆเปี้ยนๆอยู่แถว ซอยสุขุมวิท 24 กันอีกรอบ คราวนี้ฝนกระเถิบลึกเข้าในซอยสุขุมวิท 24 มาอีกหน่อย ค่อนไปทางถนนพระราม 4 กับโครงการ The Lumpini 24 ค่ะ ในรีวิวเจาะลึกฉบับที่ 481 โครงการเปิดรอบ Pre-Sale กันไปเมื่อวันที่ 24 พฤษศจิกายน 2556 ที่ผ่านมาที่โรงแรม The Davis Bangkok และยอดจองไปกว่า 90 % ปัจจุบัน(27/11/2013) เหลือเฉพาะ 2-3 ห้องนอนค่ะ ตามฝนไปดูรายละเอียดโครงการกันดีกว่า
Fact @ 29 November 2013
- The Lumpini 24 (เดอะ ลุมพินี 24)
- L.P.N. Development Co.,Ltd
- LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด High Rise 46 ชั้น 1 อาคาร รวมประมาณ 402 ยูนิต
- ที่จอดรถชั้น 1-6, ของ Penthouse ชั้น 7-8
- ยูนิตต่อชั้นสุงสุด 12 ยูนิต
- ที่จอดรถ 278 คัน คิดเป็น 70% โดยประมาณ ไม่รวมจอดซ้อนคัน (เพิ่มขึ้น 5%)
- ที่ดิน 3 ไร่กว่าๆ
- 1-3 Bedroom
- Studio ไม่มี
- 1 Bedroom 26.00-99.50 ตารางเมตร
- 2 Bedroom 53.50-109.00 ตารางเมตร
- 3 Bedroom 124.00-164.00 ตารางเมตร
- Duplex 60.50-99.50 ตารางเมตร
- ราคาเริ่มต้น 3,891,000 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 160,000 – 170,000 บาท**
- http://www.lpn.co.th/TheLumpini24/index.php
- โทร 02-2607470
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วนะคะ
ทำเลที่ตั้งโครงการ
พิกัด 13.722509,100.566088
แผนที่จากโครงการ
** สำหรับการเดินทางและทำเลของสถานที่บางส่วนฝนขออนุญาติยกมาจาก Park24 ที่อยู่ห่างจากโครงการ The Lumpini 24 มาประมาณ 300 เมตรนะคะ 🙂 **
เพื่อนๆที่ติดตามข่าวสารกันอยู่น่าจะทราบกันดีกับโครงการของ LPN ที่จับตลาดขึ้นมาทำคอนโดมิเนียมแบบ Premium กับเค้าบ้าง นอกจาก ” ทำเล ” ที่ HOT มากในปัจจุบัน ” หน้าตา ” ของอาคารที่ทุกๆคนได้เห็นแล้วร้อง WOW กับรูปแบบที่ไม่ใช่แค่แท่งสี่เหลี่ยมทื่อๆเหมือนเดิม จนต้องอุทานกันว่า LPN เปลี๋ยนไป๋ ^^ ตัวทำเลของที่ตั้งโครงการ The Lumpini 24 จะค่อนมาทางฝั่งพระราม 4 ซะมากกว่าค่ะ ซึ่งอยู่บริเวณสี่แยกในซอยที่ถนนเรารักในหลวงตัดกับซอยสุขุมวิท 24 หรือเพื่อนๆจะคุ้นกับแยกโรงแรม เดอะเดวิส ซึ่งเป็นแยกที่สามารถ ทะลุไปซอยสุขุมวิท 22 และ 26 ได้ค่ะ
สำหรับหลายๆท่านที่ได้ติดตามข่าวเรื่องราคาที่ดินในซอยสุขุม 24 เมื่อต้นปีที่ผ่านมาที่กระโดดไปแตะราคาถึงตารางวาละ 2,000,000 บาท (อ่านข่าว คลิก) การหาที่ดินนำมาพัฒนาในซอยนี้ จึงเป็นโครงการที่น่าจับตาอย่างมาก “ทำเล” เป็นปัจจัยหลักในการส่งให้ราคาของที่ดินนั้นน่าจับตามอง แล้วมันน่าสนใจมากน้อยยังไงนั้น ตามฝนไปดูกันค่ะ
มาดูการใช้เส้นทางคมนาคมแถวๆย่านบีทีเอสพร้อมพงษ์กันก่อน ถนนสุขุมวิทช่วงพร้อมพงษ์นี้จะเป็นจุดที่มีการจราจรหนาแน่นทั้งฝั่งเลขคู่และเลขคี่เลย เนื่องจากเป็นจุดที่คนใช้เดินทางไป-มาระหว่างถนนสุขุมวิท ถนนพระรามสี่ และถนนเพชรบุรี ผ่านซอยน้อยใหญ่ต่างๆ ซึ่งรถติดทุกเส้น เพราะทั้งสามเส้นเป็นถนนสายหลัก บวกกับการที่โลเคชั่นอยู่ใจกลางเมือง
ข้อเสียอย่างหนึ่งของทำเลตรงนี้คือ ขึ้นทางด่วนลำบาก เพราะทางขึ้นกระจายตัวอยู่รอบๆ ทั้ง ทางด่วนเพลินจิต, พระราม 4 เอกมัย-รามอินทรา, สุขุมวิท 50 ฯลฯ ทำให้การเดินทางโดย “เลี่ยงเมือง” ทำไม่ได้ แต่โดยรวมการเดินทางก็สะดวกอยู่แล้ว เพราะว่าทำเลอยู่ในเมืองอยู่แล้ว ใกล้กับสาธารณูปโภคหลายอย่าง
ซอยสุขุมวิทฝั่งเลขคู่ที่เชื่อมพระรามสี่กับสุขุมวิทไว้ สะดวกในการเดินรถคือ มันก็มีทางลัดเลาะของมัน คือ สุขุมวิท 22,24,26 มันจะเชื่อมกันได้ค่ะ แถมสุขุมวิท 26 ที่เชื่อมกันกับ สุขุมวิท 34 อีก สามารถลัดไปออกทองหล่อได้เลยค่ะ แต่เส้นทางฝั่งเลขคู่นี้ตอนช่วงเย็นๆ รถติดมากค่ะ เพราะเป็นเเหล่งร้านอาหาร อย่างเช่น โครงการ K Village เรียกว่าโลเคชั่นสะดวก เเต่ติดอยู่ที่รถติดเนี่ยเเหละค่ะ = =; บางท่านอาจติดใจในโซน CBD สุขุมวิทตอนต้นนี่ เพราะให้ความรู้สึกที่น่าอยู่อาศัยอยู่มากนะคะ CBD ที่อื่นๆจะโดนจับจองไปด้วยอาคารสำนักงานซะส่วนใหญ่ เช่น เพลินจิต สาทร เป็นต้น แต่แถวนี้ นอกจากอาคารสำนักงานแล้ว ห้างสรรพสินค้าตั้งแต่ใหญ่บึ้มยันเล็ก คอนโดต่างๆ ยังขึ้นกันอยู่หนาแน่น ไม่ใช่แค่ชาวไทยอย่างเราซะด้วย ชาวญี่ปุ่นก็นิยมค่ะ และยังแซมๆด้วยสวนสาธารณะเอาไว้พักปอด ออกกำลังกาย หรือตกดึกใครออกตระเวนราตรี แถวนี้ก็มีครบ เรียกว่า วงจรชีวิตวันๆนึงนี่หมุนๆกันอยู่ในนี้นี่แหละค่ะ แต่อย่างที่ฝนบอกไป รถนี่ติดเป็นที่ซู๊ดดดด TvT
พูดถึงบีทีเอสพร้อมพงษ์ คงไม่ลืมที่จะพูดถึงห้างดังที่เป็นที่รู้กันว่าปากซอยสุขุมวิท 24 เป็นที่ตั้งของ Emporium ที่เน้นไปตลาด Hi-End และยังมีการสร้างโปรเจคใหม่อย่าง Emquartier ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับโครงการแรก ใครผ่านไปมา คงเห็นความคืบหน้าโครงการกันบ้างนะคะ โดยจะมีทั้งร้านแบรนด์ชั้นนำต่างๆ และอาคารสำนักงานอีกด้วย อีกทั้ง Emporium 3 ที่ได้ที่ดินชิ้นที่อยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 22 และ สวนเบญจศิริ อีก การเข้ามายึดพื้นที่สุขุมวิทของ”กลุ่มเดอะมอลล์” ต้องการปั้นทำเลตรงนี้เป็นย่านการค้าที่สมบูรณ์แบบทั้งขนาดพื้นที่ สินค้าและบริการ ตอบสนองทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้า ทราฟฟิคบริเวณนี้ต้องหนาแน่นและมีการจับจ่ายใช้สอยสูงมากอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อทั้ง 3 โครงการนี้เสร็จ คงทำให้ละแวกนี้กลายเป็น CBD อย่างสมบูรณ์
หลังจากเกริ่นๆกันมากซักพัก ขอพาไปชมทำเลโครงการกันเลยดีกว่าค่ะ การเดินทางวันนี้ ฝนจะขอพาเดินเข้าไป ทะลุออกหลายทางหน่อยละกันนะคะ ตามฝนไปกันเล๊ยยย
- เส้นทางแรกที่ฝนจะพาทุกๆท่านไปกันง่ายมากมาจากสถานีพร้อมพงษ์ ประมาณ 900 กว่าๆเกือบกิโล นั่นก็คือซอยสุขุมวิท 24 ค่ะ
สวัสดีสถานีพร้อมพงษ์
มาส่องกันดูซิว่าการจราจรภายในซอยสุขุมวิท 24 เป็นไงบ้าง
ถนนที่วิ่งคู่ขนานไปกับรางบีทีเอสก็ถนนสุขุมวิทค่ะ สภาพการจราจรช่วงเช้าๆ ในวันธรรมดาเป็นอย่างที่เห็นเลย
พอคิดถึงบีทีเอสพร้อมพงษ์ คนก็มักจะนึกถึง ห้างดิเอ็มโพเรียม ซึ่งเป็น ห้างสรรพสินค้าหรูที่เป็น Destination ของคนหลายกลุ่ม ทั้งนักท่องเที่ยว คนไทยที่อยู่ในทำเลแถวนี้ หรือคนไทยจากบริเวณอื่นที่เจาะจงมาที่ห้างนี้ ซึ่งก็เป็นหัวหอกนำพาความเจริญมาสู่พร้อมพงษ์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมี Service Apartment และอาคารสำนักงานเป็นของตัวเองอีก เป็นอสังหาริมทรัพย์แบบ Mixed-Use ที่ทำให้ทำเลตรงนี้ดูดีไปเลยทีเดียว
ติดๆกัน อุทยานเบญจสิริ สวนเขียวกลางเมือง ที่สร้างความร่มรื่นให้กับสุขุมวิทตอนต้น ล้อไปกับ อุทยานเบญจกิติ ที่อยู่ตรงศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ซึ่งเพิ่มวิวสีเขียวให้กับที่อยู่อาศัยแถวๆนี้ได้ดีทีเดียว
มองกลับไป เห็นโครงการ Emquartier ที่จะคลอดมาเป็นสีสัน ดึงดูดตังค์ในกระเป๋าเราเร็วๆนี้ = =]
หน้าปากซอยสุขุมวิท 24 นี่จะจอแจน่าดูเลยเพราะเป็นทางลงจากรถไฟฟ้า ทั้งรถและคนเข้าออกซอยเยอะ
มีทางม้าลายและสัญญาณไฟจราจรอยู่หน้าปากซอย …. Naraya ร้านกระเป๋าสัญชาติไทยที่ชาวญี่ปุ่นมาเป็นต้องซื้อฝาก ก็มีอยู่ที่หน้าปากซอย
หน้าปากซอยมีพี่วินคอยให้บริการอยู่ แอบสืบราคามา ไปถึงหน้าโครงการ 10-20 นะคะ
เดินเข้ามาซักเล็กน้อยก็เห็นทางเข้าห้างเอ็มโพเรียม ที่เข้าจากซอยนี้ได้ ป้ายร้านต่างๆนี่ นานาชาติมาก หลายภาษาจริงๆ แสดงให้เห็นผู้คนที่ผ่านไปมาและท่องเที่ยวย่านนี้ว่าเป็นชนชาติไหนกันบ้าง ในซอยนี้โรงแรม Service Apartmentและคอนโดมิเนียมจะขึ้นกับเพียบเลยนะคะ เดินๆไปก็เจอตึก นึกว่าจะไม่ร้อน แต่ร้อนเพราะต้นไม้รายทางหายหมด
เดินมาเรื่อยๆ จะเจอโรงแรม Hilton Sukhumvit
Siri Residence คอนโดมิเนียมเปิดมา 6-7 ปีแล้วค่ะ มีทั้งหมด 32 ชั้น
Oakwood Residence มีร้านอาหาร Bouchot (บูโช) อาหารสไตล์ฝรั่งเศส รสชาติดีอยู่ด้วย
โรงแรมอะริสตั้น อยู่ตรงกันข้ามกับ Siri Residence
Grandville House
ฝั่งตรงข้ามกันมีร้าน นวด ซักรีด และอื่นๆ อยู่มีทั้งภาษาไทย อังกฤษ และญี่ปุ่น
Baan Siri Twentyfour ของแสนสิริ เปิดมาซักพักแล้ว มีประมาณ 33 ชั้น อยู่ใกล้ๆกับซอยเมธีนิเวศม์
เดินมาซักหน่อยจะเจอซอยเมธีนิเวศม์ เป็นซอยที่ลัดไปออกสุขุมวิทได้ค่ะ ออกข้างเอ็มโพเรียม ซึ่งฝนจะใช้ทางนี้พาไปที่โครงการเช่นกันค่ะ
ไม่เห็นพิซซ่าเจ้านี้ตั้งนาน มีป้ายติดอยู่ในโซนสุขุมวิทตอนต้นๆเพียบเลย
7-11 ช่วงต้นถึงกลางซอยมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆนะ
ทางเข้าโครงการ Park24 จะอยู่ติดกับทางเข้าของกรุงเทพธานีและ The Grand Sethiwan
ทางเข้า Park24 คือตรงที่มีต้นไม้ใหญ่ค่ะ ตรงกันข้าม มีร้าน Seafood Market & Restaurant สโลแกนเค้าว่า ” If it swim we have it ”
เดินเลยไป ideal 24 สูง 41 ชั้น
The Emporio Place จาก TCC มีทั้งหมด 3 อาคาร North Tower 35 ชั้น East Tower 42 ชั้น และ South Tower 12 ชั้น เป็นที่ตั้งของสำนักงานขาย The Lumpini 24 นะคะ
ข้างล่างมีร้านกาแฟ True และร้านมินิมาร์ทสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Lawson ฝนชอบร้านนี้ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อที่ใกล้กับ The Lumpini 24 มากคือเดินข้ามฝั่งมาก็ถึงเลยประมาณ 100 เมตร
ข้างในร้านมีที่นั่งและปลั๊กไฟด้วย
สำนักงานขายอยู่ชั้นสองเหนือ True Coffee
ตรงกันข้ามก็เป็นที่ตั้งโครงการและ ขึ้นป้ายเห็นถนัดชัดแจ๋ว ฝนพาเดินทำเลหลายๆทางก่อนนะคะ แล้วกลับมาที่ตัวโครงการกันอีกที
ฝนยืนอยู่ตรงที่ดินของโครงการและมองไปที่แยกโรงแรมเดอะเดวิส มีถนนเรารักในหลวงมาตัด กับซอยสุขุมวิท 24 โดยจะใช้เป็นซอยลัดจากซอย 26>24>22 ได้ เดินๆอยู่ตรงนี้รู้สึกว่าบรรยากาศเปลี่ยนไปเหมือนอยู่อีกเมืองนึงเลย ซอยด้านข้างที่ทะลุมาจากซอยสุขุมวิท 26 พี่วินแถวๆนั้นเรียกซอยอู่อารีย์นะ เดินไปถามพี่แกมา
ชี้จุด มีพี่วินอยู่ตรงข้ามโครงการเลย
กระเถิบไปหน่อย The President Park เป็น Serviced Apartment และ โรงแรม ซึ่งมองจาก The Lumpini 24 จะเห็น Tower ชัดเจน
ตรงกันข้าม The President Park มี 24’Avenue ร้านอาหาร อ้อ ร้านเบอร์เกอร์ Carl’jr อร่อยนะ ฮุฮิฮุฮิ
ที่โรงแรมเดอะเดวิสนอกจากสตาร์บัคยังมี โอปองแปง อีกนะ
เเยกตรงตึก President กับโรงเเรมเดอะ เดวิส รถจะเยอะค่ะ เพราะมันเป็นทางไปสุขุมวิท 22 ด้วย
เกือบถึงถนนพระราม 4 มีทางชี้ไป A-square ซึ่งเข้าจากทาง ซอยสุขุมวิท 24 หรือ 26 ก็ได้นะคะ ช่วงนี้มีกิจกรรมน่าสนุกอย่างโต้คลื่นที่ Flow house ฝนอยากมาลองมากกกกก ใครมาลองแล้วบอกด้วยนะคะ ;]
ก่อนถึงถนนพระรามสี่จะเห็นป้ายเทสโก้ โลตัส อยู่ในปั๊มน้ำมัน
ปั๊มเอซโซ่ เเละเเมคโดนัลเด่นมากเลยค่ะ
หน้าปากซอยก็มีพี่วินคอยให้บริการอยู่ค่ะ ข้าง Showroom รถ BMW
- เส้นทางที่ 2 ที่ฝนจะพาไป ขอเริ่มจากถนนพระราม 4 และเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 26 ใช้ถนนเรารักในหลวงเพื่อออกไปซอยสุขุมวิท 22 ไปออกถนนสุขุมวิทนะคะ
เริ่มที่ถนนพระราม 4 ทางมุ่งหน้าไปพระโขนง Tesco Lotuse Express อยู่ขวามือ
เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 26 หรือซอยอารีย์กัน หน้าปากซอยเป็น Big C Extra ภายในซอยมี Asquare และ K Village บางคนชอบฝั่ง 26 แถวนี้นะ
ภายในซอยมีสองช่องจราจรสวนกัน มีทางเท้าสองข้างทาง
A square เข้าได้จากทางซอยสุขุมวิท 24 เหมือนกัน
K Village อยู่เยื้องๆกัน
เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยนี้ค่ะ ที่มีรูปกุ้งของร้าน Seafood Market & Restaurant
ทางออกของ A square อีกทางนึง
ถนนซอยนี้เป็นเดินรถทางเดียวนะคะ ตรงนี้แหละที่พี่วินเค้าเรียกกันว่า อู่อารีย์ (อู่อยู่ซ้ายมือจ้ะ)
จะมาเจอสี่แยกที่โรงแรมเดอะเดวิส ตัดกับถนนเรารักในหลวง อาคารที่สูงสีว้มแดงนั่น Aguston อยู่ที่ซอย 22 ค่ะ ซ้ายมือไปพระราม 4 ขวามือไปซอยสุขุมวิท ฝนจะตรงไปออกซอย 22 ค่ะ
ขวามือป้ายโฆษณาสีเขียวๆที่ยาวไปนี่ The Lumpini 24
เข้าสู่ซอยสุขุมวิท 22 แล้วค่ะ ซอยนี้บ้านเรือนจะเป็นลักษณะตึกแถวสูง 3-4 ชั้น บรรยากาศมีร้านขายของตามบ้าน เข้าซอยนี้มาเหมือนอยู่คนละฝั่งโลกกับซอยสุขุมวิท 24 เลย 🙂
ลองเอามาเทียบกันดู อยู่ไม่ห่างกันแท้ๆ
อัตราค่าบริการซ้อนท้ายหนุ่มๆเสื้อกั๊กของซอย 22 ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่นะคะ
สถานีดับเพลิงคลองเตยอยู่ในซอย
Aguston (อ่านรีวิวจาก Mr.Oe ได้ คลิก)
ใกล้ๆปากซอยสุขุมวิท 22 มีโรงแรมอิมพีเรียลควีนปาร์ค ส่วนอาคารดำๆนั่น ฮอลลิเดย์ อิน
มีโรงเรียนสายน้ำผึ้งอยู่ในนี้
ฝั่งตรงข้ามเยื้องนิดนึง โรงเรียนสายน้ำทิพย์ ซอยสุขุมวิท 22 หรืออีกชื่อคือซอยสายน้ำทิพย์
ออกจากซอยสุขุมวิท 22 มา จะเจอชิ้นที่ดินโล่งๆแบบนี้คือ Emporium 3 ค่ะ
- เส้นทางที่ 3 ฝนจะพาเข้าซอยข้างๆเอ็มโพเรียมหรือเรียกซอยเมธีนิเวศม์นะคะ ซึ่งสมารถทะลุไปออกกลางๆซอย 24 ได้ค่ะ
ข้างขวาเราเป็นสวนสาธารณะ สวนเบญศิริ
ตรงเข้ามาซ้ายมือมีคอนโดมิเนียมกำลังก่อสร้าง The Philo Residence ไม่ไกลจากเอ็มโพเรียม
ถนนในซอยนี้เป็นสองช่องการจราจรแต่ไม่มีเส้นแบ่งนะคะ ไปกลับก็ต้องระวังๆเบียดๆกันนิดนึง มีรถจอดตรงปากทางเยอะ ขวามือเลี้ยวเข้าไปจะเจอคอนโดมิเนียม The Crest 24
ข้างในก็เป็นที่ตั้งของคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวมีเนื้อที่กว้างอยู่หลายหลัง ซอยนี้จะค่อนข้างร่มรื่นและเงียบสงบ ที่เห็นก็ Pearl Residences Sukhumvit 24
พอมาสุดทางจะเจอทางโค้งหักศอกแบบนี้
เลี้ยวมาปุ๊ป จะเจอ Baan Siri Twentyfour ที่อยู่ที่ ซอยสุขุมวิท 24
ใกล้ปากซอยเมธีนิเวศม์ มีร้านกาแฟน่านั่งอยู่ ร้าน ไล บรา รี่
และออกมาที่ซอย 24 อีกรอบค่ะ ^^” เหนื่อยกันยังอ่ะค่ะ
เจาะลึกตัวโครงการ
The Lumpini 24 เป็นคอนโดมิเนียมจาก Dev อย่าง ลุมพินี เจ้าที่คุ้นเคยกันอยู่แล้วกับสโลแกน “สังคมคุณภาพ” คราวนี้เรียกว่า Make Over กันจนจำไม่ได้เลยทีเดียวกับหน้าตาของอาคาร มองผ่านไกลๆแว๊บแรก ใครๆอาจจะนึกไปถึง The River ที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของ Raimon Land ก็ได้นะ ถือเป็นการเปิดตัวปลายปีที่เรียกเสียงฮือฮาได้ดีทีเดียวเนื่องจากโครงการที่เพิ่งเปิดตัวไปในซอยเดียวกันอย่าง Park 24 กระแสดีทีเดียว ทีมสถาปนิกที่ออกแบบโครงการนี้ก็ A49 ค่ะ
ด้วยรูปลักษณ์ของอาคารที่ต้องการให้กลายเป็น Landmark ในย่านนี้ ซึ่งจากภาพบรรยากาศที่จำลองออกมานั้นสวยงามตามมาตรฐานดี สังเกตเห็นว่าทางฝั่งขวามือของภาพจะเห็นคุ้งน้ำบางกะเจ้า สมุทรปราการ (ที่หน้าตาเหมือนกระเพาะหมู เวลามองจาก Top view ใครเคยเห็นบ้างเอ่ย)
วิวมองเห็นคุ้งน้ำจะประมาณนี้ ซึ่งภายในเว็บไซด์ของโครงการจะมีวีดีโอพาโนรามาของชั้น 20 และ41 อยู่นะคะ
สระว่ายน้ำจะตั้งอยู่ที่ชั้น 41 โดยจะเรียกว่า Sky Pool ค่ะ หันออกมาทางทิศตะวันตก (แดดเย็น) ใครชอบว่ายน้ำหลังเลิกงานตอนเย็นๆ น้ำอุ่นๆ ดูพระอาทิตย์ตกก็ไม่เลวเหมือนกันนะคะ สาธารณูปโภคจะมีอยู่ที่ชั้นล่าง , 41 และ 42 ค่ะ
มาดูที่ผังรวมโครงการจะเห็นชัดเจนเลยว่า โครงการอยู่บริเวณหัวมุมค่ะ แต่จะมีพื้นที่ที่เป็นทางสาธารณะชิ้นยาวๆคั่นอยู่ ซึ่งจะมีการปรับปรุงทัศนียภาพให้โดยทางโครงการ การเข้าออกจะใช้ซอยสุขุมวิท 24 เป็นหลัก จากผังจะเห็นว่าอาคารจอดรถกับอาคารพักอาศัยจะแยกออกจากกัน
อาคารจอดรถจะอยู่แยกเป็นสัดส่วนข้างๆกันนะคะ สามารถจอดรถได้ตั้งแต่ชั้น 1-6 ส่วนชั้น 7-8 เป็นส่วนพักอาศัยซึ่งเป็นลักษณะ Penthouse ค่ะ
มาดูที่หน้าโครงการกันบ้าง หลังจากที่ดูรูปทำเลกันไปแล้วจะเห็นว่า โครงการอยู่บริเวณหัวมุม ซึ่งทางเข้าออกของรถจะมีทางเดียวคือซอยสุขุมวิท 24 มีทางสาธารณะที่โครงการจะปรับทัศนียภาพทางเท้าด้านซ้ายมือของภาพ
บรรยากาศจำลองบริเวณทางเข้าของรถยนต์จากซอยสุขุมวิท 24 ตอนกลางวัน เน้นสวนด้านหน้าโครงการให้มีความร่มรื่นและไม่มีรั้วกั้นที่อึดอัด
ทางเข้าโดยทางเท้าจากซอยสุขุมวิท 24 เลาะไปกับบ่อน้ำตก
Lobby ชั้นล่าง ความสูง 2 ชั้นผนังกระจกโดยรอบ
บรรยากาศจำลองภายในล็อบบี้ วัสดุหินอ่อนสีดำและขาว ตัดด้วยสีของไม้เพื่อไม่ให้ดูแข็งจนเกินไป
บรรยากาศจำลองของ Sky Pool ชั้น 41 สระว่ายน้ำที่นี่ หัว-ท้ายจะกว้างไม่เท่ากันคือหัวกว้าง 3 เมตรและท้ายกว้าง 5 เมตร ยาวตลอดแนวอาคาร จะสังเกตเห็นระแนงแนวนอนที่ยาวตลอดอาคาร แต่ไม่บังแนวห้องพัก จะอยู่เหนือหน้าต่างห้องพักแต่ละชั้นค่ะ โดยยื่นออกจากอาคารออกมาประมาณ 1 เมตร
บรรยากาศจำลองของ Sky Lounge ชั้น 41 ที่เชื่อมกับ Sky Pool
บรรยากาศจำลองของห้องออกกำลังกายชั้น 42 ที่หันหน้าออกไปทิศตะวันออก
ว่าด้วยเรื่องของ “วิว” เป็นอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันนะ แต่ต้องอย่าลืมคำนึงถึงทิศทางแดดลมเป็นส่วนประกอบด้วย ไปดูที่ผังพื้นอาคารแต่ละชั้นกันดีกว่า ซึ่งฝนจำลองออกมาให้ดูคร่าวๆนะคะ ต้องนำไปประกอบปัจจัยตามสภาพจริงด้านอื่นๆในการพิจารณาค่ะ 🙂
อย่างที่ฝนแจ้งไปตอนต้นว่าภายในเว็บไซด์มีภาพพาโนรามาของชั้น 20 และ 41 เอาไว้ให้เราหมุนดูมุมกันอยู่ ใครหาไม่เจอก็กด ที่นี่
ชั้นหนึ่งหรือชั้น G จะเป็นส่วนของ Facilities ค่ะ โดยจะสูง 2 ชั้น Lobby , Mail room , Reception , Back office ซึ่งหลังจากจอดรถกันแล้วต้องเข้ามาที่โซนนี้เพื่อขึ้นไปยังที่พักของตัวเอง
ผังพื้นชั้นสอง จะเป็นลักษณะเหมือนชั้นลอยค่ะ ชั้นนี้จะประกอบด้วย Business Center และ Rental Space
ผังพื้นชั้น 3-33 จะหน้าตาเหมือนกัน ( ชั้น 7 จะเป็น Mechanical floor ) ลักษณะผังจะคล้ายๆกับตัว L สองตัวหันหน้าประกบกันและมี Core ของ Lift และบันไดอยู่แกนกลางอาคาร มีทางเดินล้อมรอบ Core เพื่อแจกเข้าสู่ห้องพัก โดยห้องพักจะมีทั้งหมด 12 ห้องต่อชั้น ครึ่งซ้ายและขวาของอาคารจะเหมือนกันแค่กลับด้านค่ะ (เนื้อที่จะต่างกันเป็นหลักทศนิยม) โดยห้อง 1 ห้องนอนจะอยู่บริเวณฐานตัว L และ 2 ห้องนอนอยู่หัวตัว ส่วนที่ระบายสีน้ำเงินคือห้องตัวอย่างที่ฝนจะไปรีวิวค่า
- No.01-04 และ 09-12 ขนาด 1 ห้องนอน ตั้งแต่ 28.00-38.40 ตารางเมตร
- No.05-08 ขนาด 2 ห้องนอน ตั้งแต่ 54.00-55.40 ตารางเมตร
ผังพื้นชั้น 34-39 ห้องพักจะมีทั้งหมด 4 ห้องต่อชั้น ครึ่งซ้ายและขวาของอาคารจะเหมือนกันแค่กลับด้าน (ชั้น 40 เป็น Mechanical floor เช่นกัน)
- No.02 และ 03 ขนาด 2 ห้องนอน 109 ตารางเมตร
- No.01 และ 04 ขนาด 3 ห้องนอน 124 ตารางเมตร
ชั้น 41 เป็นส่วนของ Facilities โดยสระว่ายน้ำจะค่อนไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ
ชั้น 42 เป็น Facilities ทั้งชั้นเช่นกัน ฟิตเนส หันไปทางตะวันออกเฉียงใต้
ผังพื้นชั้น 43 ห้องพักจะมีทั้งหมด 1 ห้องต่อชั้น อยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ห้องนี้ซื้อความเป็นส่วนตัวได้สุดๆ
- No.01 ขนาด 3 ห้องนอน 164 ตารางเมตร
ผังพื้นชั้น 44 ห้องพักจะมีทั้งหมด 2 ห้องต่อชั้น อยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ผังจะเหมือนครึ่งหนึ่งของชั้น 34-39
- No.01 ขนาด 3 ห้องนอน 124 ตารางเมตร
- No.02 ขนาด 2 ห้องนอน 109 ตารางเมตร
ผังพื้นชั้น 45 ห้องพักจะมีทั้งหมด 4 ห้องต่อชั้น โดยจะมี Duplex เพิ่มเติมเข้ามา
- No.01 ขนาด 3 ห้องนอน 124 ตารางเมตร
- No.02 ขนาด 2 ห้องนอน 95.50 ตารางเมตร
- No.03 ขนาด Duplex 1 ห้องนอน 99.50 ตารางเมตร
- No.04 ขนาด Duplex 1 ห้องนอน 60.50 ตารางเมตร
ผังพื้นชั้น 44 ห้องพักจะมีทั้งหมด 4 ห้องต่อชั้น นับรวม Duplex เข้าไปด้วยนะ
- No.01 ขนาด 3 ห้องนอน 124 ตารางเมตร
- No.02 ขนาด 2 ห้องนอน 95.50 ตารางเมตร
สำหรับบันไดหนีไฟของโครงการนี้ ใครดูผังดีๆ จะเอะ แปลกจัง ค่อนข้างไม่คุ้นสำหรับหลายๆคน ซึ่งเป็นแบบบันไดที่เรียกว่า Scissor เป็นบันได 2 ชุดที่แยกจากกันเลย ข้อดีคือประหยัดพื้นที่ แต่ข้อเสียคือเป็นบันไดหนีไฟแบบปิดต้องมีระบบอัดอากาศ หารูปประกอบจากในอินเตอร์เนทมาเพิ่มเติมให้ด้วยค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ
- ห้องออกกำลังกาย
- ห้องสมุด
- ห้องคาราโอเกะ
- สวนส่วนกลาง
- Sky Lounge
- Kid-Club
- อาคารจอดรถ
- ลิฟท์โดยสาร 4ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว
- CCTV / เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.
Product Walkthrough
สำหรับห้องของโครงการ The Lumpini 24 โดยทั้งหมดแล้วจะมีแค่ 1-3 ห้องนอนแต่ Type จะจำนวนมากเนื่องจากชั้นด้านบนรูปร่างของห้องจะไม่เหมือนกัน โดยที่จัดเป็นห้องตัวอย่างมีทั้งหมด 2 ห้องคือแบบ 1 ห้องนอน 28 ตารางเมตร ตำแหน่งห้อง No. 01,12 และ 2 ห้องนอน 53.50-54.00 ตารางเมตร ตำแหน่งห้อง No. 06,07
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 28.00 ตร.ม. ตำแหน่ง 01,12
- ลักษณะของห้องแบ่งพื้นที่ครัวอยู่ด้านหน้าและถัดเข้าไปเป็นส่วนรับแขกติดระเบียง ด้านในเป็นห้องนอนและห้องน้ำ
ห้องครัวจะอยู่ด้านหลังประตูเวลาเปิดเข้ามา ชุดครัวมีมาให้นะคะ ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้านบนตู้จะเป็นตำแหน่ง Cut-out
ซ่อนไฟส่อง เคาน์เตอร์ครัว ผนังด้านในเป็นแบบ Glossy ทำความสะอาดง่าย
ชุดอ่างล้างจาน Camar Tac. ชั้นเก็บของด้านล่างเป็นหลุมตามขนาดอ่าง
อีกด้านจัดโต๊ะทานข้าวได้ 1 ชุด นั่งสองคนได้ ทำเก้าอี้เป็นแบบ Bench ยาวไม่มีพนักและด้านล่างเก็บของจุกจิก มุมนี้ก็ติดหน้าต่าง บานด้านบนเป็นบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศได้ ฝ้าเพดานในส่วนครัวจะสูง 2.4 เมตร
ถัดเข้ามาส่วนนั่งเล่น วางโซฟา 2 ที่นั่งได้ ระยะดูทีวีไม่อึดอัดจนเกินไป ใส่ทีวี 40 นิ้วได้นะ สำหรับคนชอบทีวีใหญ่ๆ พื้นเป็น Engineering wood สีโอ๊คเข้มๆ ฝ้าเพดานในส่วนนี้จะสูง 2.7 เมตร
ส่วนระเบียงลดระดับลง พื้นกระเบื้องสีครีม ขวามือติดกับ หน้าต่างเข้ามุมบริเวณห้องนอน
ด้านหลังหลังเป็นที่เก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ ระเบียงกระจก Tempered
เข้ามาที่ห้องนอนค่ะ ห้องนอนก็จะมีหน้าต่างสูงทั้งแถบ วางเตียงขนาด Queen size
ระยะหน้าเตียงเหลือประมาณ 50 เซนติเมตร ทีวีต้องแขวนผนัง
มีมุมแบบ Window bay ที่หันไปเจอกับส่วนระเบียงเมื่อกี้
พื้นที่ส่วนข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างเหลือ ประมาณ 20-30 เซนติเมตร
ส่วนฝั่งที่ใกล้ตู้เสื้อผ้าจะกว้างหน่อย ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อนสูงปิดฝ้าเพดาน
ซึ่งตู้เสื้อผ้าจะอยู่หน้าห้องน้ำ
ชุดสุขภัณซ์ จาก American Standard มีบ่าไว้วางของยาวตลอดกำแพง
ด้านข้างของตู้เก็บของใต้อ่าง มีที่วางของสองชั้นเล็กๆแบบนี้ด้วย (เหมาะกับขนาดการ์ตูนเลยฮะ)
โถสุขภัณฑ์ชิ้นเดียว
ขยับเข้าไปในส่วนอาบน้ำ ห้องน้ำมีฉากกระจกกั้นให้ มี ฝักบัวอาบนำ้และ Rain Shower
ที่วางสบู่ติดผนังอันไม่ใหญ่มาก มีรูระบายน้ำในตัว
Floor Drain แบบปิดด้วยกระเบื้อง
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 53.50-54.00 ตร.ม. ตำแหน่ง 06,07
- ครัวของห้องนี้จะอยู่ด้านหน้าทางเข้าเช่นกันและถัดเข้ามาจะเป็นส่วนนั่งเล่นและทานข้าวซึ่งจะติดระเบียงยาว มีห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันกับห้องนอน 1 เข้าจากบริเวณโถงได้ และห้องนอน Master มีห้องน้ำในตัว
ชุดครัวของห้องนี้จะเป็นสีอ่อนค่ะ Top ก็เป็นหินสังเคราะห์สีขาว ซึ่งจะสัมพันธ์กับสีพื้นจะอ่อนลงนะ สามารถเลือกได้ค่ะ
ครัวห้องนี้มีสองฝั่ง ซ้าย ขวา โดยสามารถกั้นพื้นที่บริเวณนี้ออกจากส่วนด้านในด้วยบานเลื่อนนะคะ (ทางโครงการไม่มีให้เน้อ) ส่วนนี้ผ้าเพดานสูง 2.4 เมตร พื้นเป็น Engineering wood เหมือนกันคะ
ชุดอ่างล้างจานของ Camar Tac พร้อมเซาะร่องเคาน์เตอร์เพื่อระบายน้ำ
เข้ามาที่ส่วนห้องนั่งเล่นและทานข้าว จัดให้ใช้งานด้วยกันเลยไม่มีอะไรกั้น ปรับเปลี่ยนพื้นที่เอาเองตามสะดวก
ส่วนทานอาหารจัดไว้ 4 ที่นั่ง แต่ระยะถอยเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปจะแคบ
ด้านข้างโซฟาจะเหลือระยะประมาณ 50-60 เซนติเมตร
มือจับประตูบานเลื่อนไปสู่ระเบียง
ด้านซ้ายเป็นที่เก็บคอมเพรสเซอร์แอร์
มือจับแบบง้าว
ด้านในมี Fkoor Drain
จากตรงนี้มองเข้าไปเห็นห้องนอน
ระเบียงกระจก Tempered
ฝ้าเพดานจะมีสองระดับอย่างที่บอกไปตอนต้น ช่วงด้านหน้าห้องจะ 2.4 และด้านใน 2.7 เมตร
บริเวณนี้จะเป็นโถงเล็กๆแยกไปห้องน้ำ ห้องนอน 1 ด้านขวา และ ห้องนอน Master ด้านซ้าย
สวิตช์ปลั๊กของ Panasonic หน้ากากสีเทาเมทาลิค มี Dimmer ด้วยจ้ะ
มาดูที่ห้องนอน 1 วางเตียงเดี่ยวได้ไม่คับแคบ ติดหน้าต่างสูงพื้นถึงฝ้า
โคมไฟจะเป็นแบบ Downlight แบบ Halogen ซึ่ง Dimable ได้
ระยะข้างเตียงด้านติดหน้าต่างประมาณ 30 เซนติเมตร
อีกด้านจะเหลือเผื่อเอาไว้แต่งตัวได้ บานตู้ก็เป็นสีอ่อนค่ะ
เปิดดูตู้ละกัน มีราวแขวนยาวและมีลิ้นชัก 3 ชั้นด้านล่าง
อีกฝั่งก็เป็นสิ้นชั้น 2 ชั้น และช่องโล่ง 2 ชั้น
ส่วนด้านบนสุดจะเป็นช่องเก็บของพวกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปู
ในห้องนอนแอร์จะเป็น Wall type
มาที่ห้องน้ำ ตัวสุขภัณฑ์จะเหมือนกันมาตรฐานคือของ American Standard
ห้องนี้ที่แขวนกระดาษชำระจะอยู่ด้านผนัง
มีที่เก็บของที่ข้างอ่างล้างมือ
มีชั้นเก็บของ 3 ชั้น
ส่วนอาบน้ำจะเหมือนกัน
พัดลมดูดอากาศด้านบน
เข้ามาที่ห้องนอน Master เข้ามาจะเจอห้องน้ำก่อนเลยที่ห้องน้ำจะเป็นกระจกฝ้าเข้ามุมอยู่ในห้องนอน
เตียงแบบขนาด Queen size
ระยะข้างเตียงสองข้างประมาณ 20-30 เซนติเมตร (โคมไฟที่โครงการตกแต่งมี Reading light)
หน้าต่างแบบเต็มๆทั้งผืน คำนึงถึงเรื่องแดดและความร้อนที่จะตามมาด้วยนะคะ
มีหน้าต่างเข้ามุมเช่นกัน
มองที่ที่มุมห้องน้ำ กระจกจะฝ้าๆแบบน้ คือเวลาคนอยู่ก็จะเห็นเป็นเงาๆ ลุ้นกันไปว่าทำอะไรอยู่
ประตูห้องน้ำเป็นแบบเปิดเข้าด้านในนะคะ ระยะทางเดินตรงนี้ประมาณ 1 เมตร
บานเลื่อนมีที่จับแบบนี้
เปิดตู้ออกมาดูกันดีกว่าลิ้นชัก 2 ชั้น
อีกด้านเป็น ลิ้นชัก 2 ชั้นและช่องโล่ง 2 ชั้น เป็นตู้มาตรฐานของโครงการ
กระจกฝ้านิรภัยจะเข้ามุมแบบนี้เลย
มือจับแนวนอน
คิ้วแสตนเลส แยกพื้นส่วนห้องน้ำออกจากห้องนอน
บานพับของประตูห้องน้ำ ยึดทั้งบนและล่าง
มือจับด้านในเป็นแบบแนวตั้ง จะบอกว่าประตูเปิดยาก หนักมาก
ชุดอ่างล้างมือมาตรฐานของโครงการ
โถสุขภัณฑ์ของห้องน้ำในห้องนอน Master เป็นแบบ ไฟฟ้าของ American Standard
มีแผงควบคุมอยู่ด้านข้าง
เข้าไปที่ส่วนอาบน้ำ
พื้นมีลดระดับนิดหน่อย
ชุดฝักบัวมาตรฐาน
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 29/11/2013
- No. A-3302 : 1 ห้องนอน ชั้น 33 ขนาด 31.00 ตารางเมตร 5,433,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร 175,258 บาท
- No. A-3304 : 1 ห้องนอน ชั้น 33 ขนาด 38.40 ตารางเมตร 6,730,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร 175,260 บาท
- No. A-3306 : 2 ห้องนอน ชั้น 54 ขนาด 54.00 ตารางเมตร 9,491,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร 175,759 บาท
- ฝ้าเพดานสูงด้านหน้าห้อง 2.4 เมตรและ ด้านในห้อง 2.7 เมตร0
- 1 ห้องนอน 31 ,38.40 ตารางเมตร จอง 50,000 บาท ทำสัญญา 100,000 บาท
- 2 ห้องนอน 54 ตารางเมตร จอง 100,000 บาท ทำสัญญา 100,000 บาท
- ผ่อนดาวน์ 24 งวด
- Fully Fitted
- ค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ (เบื้องต้น)
- ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 2% ของราคาประเมิน ผู้ขายและผู้ซื้อชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่ากองทุน 1,000 บาท/ตร.ม. ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
- ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม./เดือน ชำระล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
- ค่าจดจำนองร้อยละ 1 ของวงเงินสินเชื่อ (กรณีขอสินเชื่อ)
เจาะลึกรวบยอด
ตัวทำเลของโครงการ The Lumpini 24 ถ้าตามชื่อคือตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 ที่ปัจจุบันอยู่ในทำเลที่มีการเปิดตัวอาคารพักอาศัยทั้งอยู่เองและปล่อยเช่าในอัตราที่สูงและค่อนข้างหนาแน่น แล้วยังมีโครงการที่เอื้อทำให้ทำเลแถวนี้ดูน่าจับตามองเข้าไปคือ Emporium 1,2,3 การแข่งขันตลาดในซอยสุขุมวิท 24 จึงดุเดือดพอดูเลย ตัวที่ตั้งของโครงการจะอยู่เรียกว่าค่อนไปทางท้ายซอยของสุขุมวิท 24 ซะและไม่ได้อยู่ในตอนต้นๆ เป็นชิ้นหัวมุมพอที่ซอยสุขุมวิท 24 ตัดกับถนนเรารักในหลวง จึงสะดวกถ้าใช้รถเพราะสามารถเลือกใช้ได้หลายซอยเข้าออก
ในแง่ของความอุดมสมบูรณ์และสภาพแวดล้อมรายรอบโครงการ ทางด้าน สุขุมวิท 24 เป็น Prime Location ของฝั่งสุขุมวิทซอยเลขคู่ ความสะดวกและอุดมสมบูรณ์เชื่อมต่อกัน (ถึงแม้ว่าสุขุมวิทเลขคี่จะมีภาษีกว่า) เดินมาสุขุมวิท 24 นี่ต้องมี 140-200 เมตร แล้วแต่ว่าเดินมาจากตึกไหน ซึ่ง แถวๆใกล้ๆหน้าโครงการฝั่งนี้ ในระยะเดินสบายๆ ก็พอจะมีร้านอาหาร และมินิมาร์ทนะที่ตรงข้ามใกล้ๆ ก็ Lawson ที่ Emporio ออกไป K-Viilage , Big C, Lotus,A Square ทางฝั่งพระราม 4 เป็นระยะเดินสบาย
การเดินทางด้วยรถค่อนข้างสะดวกเพราะสามารถออกไปได้หลายเส้นทาง โดยเส้นทางหลักคือน่าจะไปทางพระราม 4 มากกว่านะเพราะใกล้กับโครงการมากแค่ 280 เมตรเองแต่ในทางกลับกันไปออกสุขุมวิทต้องใช้ระยะทางเกือบกิโล ทางด่วนระแวกนี้มีให้เลือกเยอะนะคะ การทะลุทะลวงเข้าออกทำเลตรงนี้สามารถไปได้ทั้ง 22-24-26 แต่ทำเลตรงนี้รถติดมากๆ ต้องทำใจเลยถ้าใช้รถ ยิ่งช่วงงานเลิก ศุกร์สิ้นเดือน สบาย…..
การเดินทางโดยไม่ใช้รถจะไม่สะดวกเหมือนกับโครงการที่อยู่ต้นๆซอยนะเพราะเดินไป Bts ไกลค่ะ ถึงสถานีพร้อมพงษ์ก็เหงื่อแตกเอาได้ คนไทยฝนไม่ค่อยเห็นเดินนะ จะเป็นคนต่างชาติที่อ่ศัยแถวๆนี้และเดินทีไกลๆมากกว่า แต่ถ้าเลือกใช้พี่วิน แท๊กซี่ หรือปั่นจักรยานก็นับว่าได้อยู่
วัสดุอุปกรณ์ที่ให้มาก็ถือว่าโอเคนะค่ะ ก็ถือว่าให้ของดี Fully Fitted มีเลือกของที่ให้มาเช่นชุดครัว ตู้เสื้อผ้า วัสดุในห้องน้ำ ตัวสุขภัณฑ์ของ American Standard และมีโถสุขภัณฑ์แบบไฟฟ้า ทำออกมาได้สวยดีค่ะ
แบบตัวอาคารทำออกมาได้ Wow ดีสำหรับแบรนด์จาก LPN นะ เป็นการจับตลาดใหม่แบบ Premium วัสดุของ Facade ก็เลือกเป็นกระจกซะหมดเพื่อเปิดให้เห็นมุมมองสู่ภายนอก มีระแนงแนวนอนที่ยื่นออกมาบังแดดเหนือหน้าต่างแต่ละชั้น เป็นการลดทอนเส้นแนวตั้งของอาคาร ตัวยอดของตึกจากรูปจำลองจะมีการไฮไลท์ด้วยแต่ของจริงจะออกมาเป็นยังไงนั้น ต้องรอดูกันว่าจะกลายเป็น Landmark ได้จริงไหม แต่เรื่องของ Surrounding นี่เรียกว่าต้องไปเล็งเอาว่าข้างไหนมีอะไรเป็นเพื่อนบ้านเนื่องจากรอบๆที่ดินของโครงการมีอาคารที่ขึ้นมาก่อนหน้าอยู่แล้วล้อมอยู่ บล็อควิวไปหลายจุด ในส่วนของ Facilities มีอาคารจอดรถแยก สระว่ายน้ำวิวสวยแบบเปิดโล่ง พื้นที่สีเขียวไม่เยอะเท่าไหร่
รูปแบบของห้องพักมีหลากหลายมากเมื่อเทียบกับ 400 นิดๆยูนิตคละกัน ตั้งแต่ชั้น 33 ขึ้นไปขนาดห้องจะไม่มีขนาดเล็กแล้ว ครัวจะเป็นครัวเปิด ห้องที่ออกแบบมาพยายามเปิดหน้าให้กว้าง รูปแบบห้องขนาด 26 ตารางเมตร หน้ากว้างประมาณ 5 ลึก 5.2 เมตร เมื่อเทียบกับตลาดคอนโดมิเนียมในปัจจุบันจะเน้นลึกคือ หน้ากว้างประมาณ 4 ลึก 6 เมตร ในขนาด 2 ห้องนอนสามารถทำครัวปิดได้(กั้นเพิ่มเอง) มีส่วนกระจกเข้ามุมในห้องนอน อย่างชั้น 43 ที่มี 1 ยูนิต 1 ชั้นนี่สบายไปเลยนะ Pricvate มาก ส่วน Duplex เป็นห้องที่อยู่ชั้นบนๆ คือ 45-46 แต่ต้องคำนึงถึงเรื่องทิศทางแดดที่จะมากับหน้าต่างเปิดโล่งให้ดี เพราะจะรับความร้อนเต็มๆ ส่วนเรื่องวิวนี่ไปเล็งกันเลยเพราะโครงการมีมุมโดนบล็อคอยู่เยอะ แต่ถ้าสำหรับคนที่อาศัยไม่สนใจเรื่องวิวมากก็ไม่เท่าไหร่
สาธารณูปโภคจัดมาแบบกำลังดี ไม่ได้ Wow อย่างเนื้อที่กว้าง แต่สระว่ายน้ำที่ยื่นลอยออกมาจากอาคารเรียกว่าเป็นทีเด็ด เลย ว่ายน้ำชมพระอาทิตย์ตก ในส่วนของ Lift ถือว่าเพียงพอมากต่อการใช้งานเพราะเมื่อเฉลี่ยไป อัตราจะอยู่ที่ 100:1 แต่ยูนิตมากสุดต่อชั้นเพียง 12 จนถึง 1 ยูนิต ที่จอดรถที่นี่ไม่ได้นับจากห้องนอนแต่นับจากตารางเมตร คือ ขนาดห้องต่ำกว่า 100 ตารางเมตรจะได้ 1 สิทธิ์และ 2 สิทธิ์สำหรับเนื้อที่ใหญ่กว่า 100 ตารางเมตร ซึ่งเป็นการเฉลี่ยนะ เพราะห้อง 2 ห้องนอน 109 ตร.ม. ได้ 2 สิทธิ์ ส่วน 2 ห้องนอน 95.50 ตร.ม. ได้ 1 สิทธิ์ ค่าส่วนกลางและกองทุนที่ค่อนข้างสูงในเรื่องการบริหารจัดการของโครงการก็ได้ทีมจาก LPN ที่ดูแลโครงการนี้อยู่แล้วคะ โครงการนี้ทำสัญญาเบาแต่ผ่อนหนัก (24 งวด) ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปีโดยประมาณ ทำให้ไม่ต้องรอนานมาก
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 170,000 บาทต่อตารางเมตร, 29/11/2013
- ทำเล 8/10 – ทำเลดีอยู่ตรงถนนเรารักในหลวงซึ่งเป็นถนนที่ทะลุไปออกซอยสุขุมวิท 22 ได้
- เดินทางด้วยรถ 8.2/10 – สะดวกเลยแหละถ้าใช้รถและไม่หวั่นเรื่องรถติด ซึ่งทำเลตรงนี้สามารถไปได้ทั้ง 22-24-26
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – เดินไปหน้าปากซอยฝั่งพร้อมพงษ์ ไกลมาก แต่ถ้าเดินไปจับจ่ายฝั่งพระราม 4 เรียกว่าอุดมสมบรูณ์ดี
- วัสดุ 7.8/10 – วัสดุสมราคา แต่น่าเสียดายที่ในระดับราคานี้ น่าจะไม่ให้เยอะกว่านี้
- แบบ 8.5/10 – ห้องหน้ากว้างดีค่ะ แบบหลากหลาย แต่วิวต้องไปเล็งเอากันเองว่าโดนบล็อคหรือเปล่า
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – ไม่มาก ไม่น้อยค่ะ วิวสระด้านบนสวยดี
- LUXURY CLASS
- 8.025 / 10.00
BOTTOM LINE
The Lumpini 24 โครงการสไตล์ Modern Luxury แห่งแรกของ LPN อยู่ในทำเลสุขุมวิท 24 ชอบทำเลบริเวณนี้ ทำงานแถวสุขุมวิท ปล่อยเช่าหรืออาศัยเอง ติดใจการดูแลโครงการจาก LPN รู้จักซอยลัดเลาะของสุขุมวิทช่วงรถติดดี รอประมาณ 2 ปีโครงการเสร็จ ราคาต่อห้องเริ่มที่ 4 ล้านโดยประมาณ
ชอบกด Like ใช่ กด Share นะคะ 🙂