รีวิวโครงการ

คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.454 – รีวิวคอนโด The Excel ลาดพร้าว – สุทธิสาร

7 กรกฎาคม 2019

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 1885 … ทุกคนคะ วันนี้เราพามาดูโครงการใหม่จาก All Inspire กันนะ เชื่อว่าใครหลายคนที่ขับผ่านเส้นลาดพร้าวน่าจะเห็น Sale Gallery ของโครงการ The Excel ลาดพร้าว-สุทธิสาร กันอยู่ ซึ่งที่ตั้งโครงการนี้จริงๆ จะอยู่ในซอยลาดพร้าว 62 มีซอยเชื่อมเข้าซอย 64 ไปทะลุออกสุทธิสารได้นะคะ ส่วนราคาทำมาเน้นหยิบจับง่ายนะ เริ่มต้น 1.39 ล้านบาท (โปรโมชั่น) 2.19 ล้านบาท ( up date 10/11/2020) พร้อม Fully Furnished จะเป็นอย่างไรไปอ่านรายละเอียดกัน

Fact @ 11 June 2019

  • The Excel Ladprao – Sutthisan (ดิ เอ็กเซล ลาดพร้าว – สุทธิสาร)
  • บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน)
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ซอยลาดพร้าว 62 ถนนลาดพร้าว เขตบางกะปิ
  • ที่ดินประมาณ 3-1-41 ไร่
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 420 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 30 ยูนิต
  • ที่จอดรถ 40% รวมซ้อนคัน
  • เริ่มก่อสร้าง : Q3/2562
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q4/2563
  • 1 Bedroom 24.5 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 26.5 – 27.15 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 28.5 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 30.1 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 34.7 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท (โปรโมชั่น) 2.19 ล้านบาท ( up date 10/11/2020)
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 74,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-029-9999

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.791727, 100.592482
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

ที่ตั้งโครงการ The Excel ลาดพร้าว – สุทธิสาร อยู่บริเวณช่วงลาดพร้าวตอนกลาง ระหว่างแยกรัชดา-ลาดพร้าวและจุดตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม โดยความน่าสนใจของโซนนี้คือเรื่องความอุดมสมบูรณ์และความคึกคักของบริบทที่มีความเป็นชุมชนสูงมาก โดยแหล่งชุมชนและของกินใกล้ๆ หลักๆ ก็จะมี โชคชัย 4 + ลาดพร้าววังหินที่อยู่โซนฝั่งตรงข้าม และบริเวณช่วงแยกสุทธิสารก็เป็นอีกโซนที่มีของกินคึกคักเช่นกัน ซึ่งต้องบอกว่าทั้ง 2 โซนเลยจัดเป็นโซนที่เราสามารถขับจากโครงการไปได้ง่ายนะ

สโคปเข้ามาอยู่ในซอยลาดพร้าว 62 ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการเอง มีพ้อยท์ให้พูดถึงอยู่ 2 เรื่องด้วยกัน 1. สภาพแวดล้อมและบรรยากาศ เนื่องจากในซอยนี้ไม่ใช่ซอยหลักในการลัดไปออกถนนข้างเคียงอื่นๆ จึงได้บรรยากาศที่ค่อนข้างสงบมากกว่า ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัย ร้านค้าร้านอาหารจะอยู่ช่วงบริเวณต้นซอยและซอยข้างเคียง ซึ่งก็จะตอบโจทย์ในแง่ของคนที่ชอบบรรยากาศเงียบสงบหน่อย 2. ซอยลาดพร้าว 62 นี้เป็นซอยที่สามารถเชื่อมเข้าซอยข้างเคียงสำคัญอย่าง ลาดพร้าว 64 ซอยหลักที่คนมักใช้เดินทางลัดไปออกรัชดาภิเษกตรงแยกสุทธิสารได้

ซูมเข้ามาอีกหน่อยนะคะ ตรงทำเลที่ตั้งโครงการนี้จะอยู่ลึกเข้าไปจากถนนลาดพร้าวประมาณ 550 ม. นะคะ ซึ่งในระยะนี้ก็ต้องบอกว่าขับรถสะดวกไม่ไกลมาก แต่จะไม่ได้เหมาะกับการเดินเท้าเท่าไหร่ ถือว่าหลุดระยะเดินไปหน่อย และช่วงกลางคืนเราก็ไม่แนะนำให้เดินเข้านะ เพราะบรรยากาศจะเงียบสงบอย่างที่บอกว่าไม่ได้คึกคักเท่ากับซอยหลัก สำหรับการเรียกรถสาธาณะที่สะดวกหลักๆ เลยคือวินมอเตอร์ไซค์ โดยจะมีทั้งจากหน้าปากซอยและบริเวณใกล้ๆ กับที่ตั้งโครงการให้เรียกเข้า-ออกได้สะดวกค่ะ

พูดถึงในแง่อนาคตอันใกล้แล้ว ตัวโครงการเองถือว่าอิงอยู่ในรัศมีของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่กำลังก่อสร้างอยู่นะคะ โดยสายนี้จะเริ่มวิ่งจากบริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว (Interchange กับสายสีน้ำเงิน) ไปทางบางกะปิและเชื่อมเข้าศรีนครินทร์ ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีโชคชัย 4 นะคะ โดยจะตั้งอยู่บริเวณหน้าทางเข้าโชคชัย 4 เลย หากลองวัดคร่าวๆ แล้วก็จะอยู่ราวๆ 650 ม. เลยระยะเดินไปหน่อย แต่เรียกวินมอเตอร์ไซค์ไปต่อสะดวกค่ะ

การเดินทางในวันนี้เราเริ่มต้นจากบริเวณหน้าห้าง Imperial World ลาดพร้าว จากนั้นขับตรงไปผ่านทางด่วนฉลองรัช และตรงมาอีกระยะนึง สังเกตป้ายซอยลาดพร้าว 62 จากนั้นเลี้ยวซ้าย พอเจอทางแยกในซอยอีกให้เบี่ยงขวาและขับตรงไปอีกประมาณ 550 ม. ก็จะเห็นที่ตั้งโครงการทางซ้ายมือค่ะ

เราเริ่มต้นกันที่บริเวณ Imperial World ลาดพร้าว ซึ่งถือเป็นห้างที่ใกล้กับโครงการอีกห้างนึงนะคะ ตัวห้างนี้จะมี Big C ภายในให้ซื้อของใช้ของกินได้ด้วย

จากนั้นเราขับตรงไปเรื่อยๆ ผ่านทางเชื่อมเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม

และก็ถึงหน้าทางเข้าซอยลาดพร้าว 62 แล้วนะคะ

เข้ามาปุ๊บตรงบริเวณหน้าปากซอยจะเห็นว่ามีร้านค้า ร้านอาหารอยู่ระดับนึงนะ และจากรูปด้านบนเราจะเห็นทางแยกฝั่งซ้ายสามารถไปทะลุเข้าซอยลาดพร้าว 64 ได้เพื่อเชื่อมไปยังถนนสุทธิสารวินิจฉัยนะคะ แต่ตัวโครงการจะต้องเบี่ยวเข้าฝั่งขวานะ

บรรยากาศในซอยนี้อย่างที่บอกว่าค่อนข้างเงียบสงบนะคะ ส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยทั้งหมด ส่วนถนนในซอยนั้นจะเป็นแบบ 2 เลนสวนกัน เวลาขับอาจจะต้องระวังรถสวนและรถที่จอดข้างทางบ้างประปรายนะคะ

ตรงจากหน้าปากซอยมา 550 ม.ก็จะเห็นที่ตั้งโครงการด้านข้างแล้วค่ะ

เรามาดูสภาพแวดล้อมกันต่อเลยนะคะ โดยรอบโครงการแล้วส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยสลับกับอพาร์ทเมนท์ สำหรับเรื่องวิวภายนอกแล้วห้องพักอาศัยที่หันไปทางทิศตะวันออกและใต้จะได้เปรียบ เพราะได้บรรยากาศค่อนข้างโปร่งโล่งนะคะ ส่วนห้องฝั่งทิศเหนือ (บางยูนิต) และตะวันตก เลือกห้องโซนบนๆ ชั้น 4-8 จะไม่โดนบล็อกวิวระยะใกล้ค่ะ

บรรยากาศหน้าโครงการตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างนะคะ มีการกั้นรั้วโครงการไว้เป็นสัดส่วนเรียบร้อย

บรรยากาศรอบโครงการโดยจะเป็นอพาร์ทเมนท์อยู่สลับกับหอพักบางส่วนนะคะ

อีกฝั่งนึงก็จะเป็นบ้านพักอาศัยค่ะ

หลังจากที่เราไปดูที่ดินโครงการกันแล้ว เดี๋ยวเราจะพาไปดูรายละเอียดโครงการและห้องพักอาศัยที่ Sale Gallery กันนะคะ โดยตำแหน่งจะตั้งอยู่หน้าปากซอยลาดพร้าว 42/1 เลยแยกภาวนามาหน่อยค่ะ

ตรงมาอีกหน่อยติดกับปั๊ม Shell เลยจะเป็นที่ตั้ง Sale Gallery โครงการค่ะ

เรามาดูภายใน Sale Gallery กัน จะสังเกตว่าบรรยากาศภายในค่อนข้างหวือหวาด้วยโทนสีฉูดฉาดทีเดียว เพราะเป็นหนึ่งในสไตล์ที่ทางโครงการวางไว้ให้ดูโดดเด่น ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งรูปแบบนี้ก็จะมีให้เห็นในโครงการจริงด้วยนะคะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ 1.2 กม.
  • ตลาดโชคชัย 4 1.4 กม.
  • บิ๊กซี ลาดพร้าว 2.7 กม.
  • บุญถาวร 3 กม.
  • ตลาดสะพาน 2 3.3 กม.
  • Central Festival Eastville 4 กม.
  • CDC 4.7 กม.
  • The Crystal 5.3 กม.
  • Central Plaza ลาดพร้าว 6.4 กม.
  • Tesco Lotus ลาดพร้าว 6.7 กม.
  • สวนลุมไนท์บาซ่าร์ 6.8 กม.
  • JJ Green 7.1 กม.
  • Union Mall 7.2 กม.
  • ตลาดนัดสวนจตุจักร 7.5 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ The Excel ลาดพร้าว – สุทธิสาร คอนโดล่าสุดจาก All Inspire ที่มาเปิดในย่านลาดพร้าวตอนกลาง โดยรูปแบบโครงการนี้จะเป็น Low Rise 2 อาคาร จำนวนยูนิต 420 ยูนิตบนเนื้อที่ดิน 3 ไร่กว่า ลักษณะโครงการนี้ตั้งใจออกแบบภายนอกให้ดู Modern เรียบง่ายด้วยโทนสีและรูปทรงนะคะ แต่ Interior ด้านในโครงการค่อนข้างฉูดฉาดทีเดียวนะคะ สังเกตจากใน Sale Gallery จะเป็นสไตล์เดียวกัน ซึ่งตั้งใจทำมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ทีเดียว ซึ่งก็รวมไปถึงราคาแพกเกจรวมที่ไม่แรง (ไม่เกิน 3 ล้านบาท)

การจัดวางอาคารจะเป็นรูปแบบตัวอาคาร 2 อาคาร ล้อม Facilities ตรงกลางนะคะ ซึ่งรูปแบบนี้เรามองว่าเป็นผังที่ดีสำหรับคอนโด Low Rise เนื่องจากจำนวนชั้นไม่ได้สูงมาก ดังนั้นเรื่องวิวภายนอกจึงไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่การสร้างวิวภายในของอาคารที่ดีจะทำให้ Low Rise ได้บรรยากาศและวิวที่ดี

เรามาดู Master Plan กันก่อนนะคะ ในชั้นนี้หลักๆ ออกแบบให้เป็นที่จอดรถใต้อาคาร ซึ่งที่นี่จัดมาให้ทั้งหมด 40% รวมซ้อนคัน โดยรวมแล้วก็ถือว่าให้มาระดับมาตรฐานกับราคาที่จ่ายนะ และอีกอย่างคือการเรียกวินมอเตอร์ไซค์ออกไปหน้าปากซอยหรือจะต่อรถสาธารณะอื่นๆ ก็ไม่ได้ยากมากค่ะ

บริเวณตรงกลางที่เราอธิบายไปก่อนหน้านี้ว่าเป็นตำแหน่ง Facilities จะประกอบด้วยสระว่ายน้ำตรงกลาง และ Club House โดยภายในจะประกอบด้วย Co-Working Space และ Fitness & Boxing Room

สำหรับ Lobby ของโครงการนี้จะแยกชัดเจนสำหรับแต่ละอาคารเลยนะคะ โดยรวมแล้ว Lobby ของอาคาร B และการเข้าถึง Facilities ของลูกบ้านอาคาร B จะได้เปรียบกว่าอาคาร A อยู่หน่อย เพราะมีขนาดใหญ่กว่าหน่อย และติดกับทางเข้า Facilities เลย

เรามา Perspective โครงการเริ่มจากหน้าทางเข้าโครงการในส่วนนี้จะติดตั้ง Gate ทั้งหมด 2 แบบก็คือ ไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ และประตูบานเลื่อน ซึ่งระบบการเข้า-ออกจะใช้ Keycard Access แบบ RFID หรือที่เราเข้าใจกันคือระบบ Easy Pass เวลาใช้จ่ายเงินบนทางด่วนนั่นเองค่ะ

เข้ามาภายในตรงกลางจะเป็นส่วน Club House โดยลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น เน้นกระจกทรงสูง ได้บรรยากาศภายในโปร่งโล่ง

สำหรับสระว่ายน้ำที่นี่เป็น On Ground กลางแจ้งที่ออกแบบมาน่าสนใจนะคะ เริ่มจากด้านข้างสระ เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยต้นไม้พุ่มบังสายตาทั้งหมด และขนาด 5 x 30 ม.ของสระสามารถออกกำลังกายได้จริงจัง เรียกว่าเป็นความยาวเกิน Half Olympic แล้วนะ (เกิน 25 ม.)

ด้านข้างสระมีการจัดพื้นที่ Day Bed ไว้นั่งเล่นชมวิวสระและสวนชิลๆ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของ Club House จะเป็นส่วน Fitness & Boxing Room โดยห้องนี้ออกแบบให้เป็นกระจกทรงสูง 3 ฝั่งด้วยกัน ทำให้ Take View บริเวณสระว่ายน้ำ และบรรยากาศโปร่งโล่งดีค่ะ

ชั้นพักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 2 และมีลักษณะการจัดวางเหมือนกันทุกชั้นไปจนถึงชั้น 8 นะคะ สังเกตว่าห้องขนาดใหญ่ (1 Bedroom Plus) จะวางตำแหน่งไว้ล้อมรอบ Facilities ทำให้ได้วิวภายในค่อนข้างดีนะคะ สำหรับห้องอื่นๆ ที่น่าสนใจก็จะเป็นห้องมุมแต่ละอาคาร (A06, A25 และ B25) ที่ไม่ได้เป็นห้องใหญ่สุดด้วยนะ แต่ได้ความเป็นส่วนตัวดีมากๆ เพราะไม่มีผนังส่วนไหนติดกับเพื่อนบ้านเลย และพิเศษสำหรับห้อง A03 ที่จะได้วิว Facilities ด้วยนะคะ

สำหรับความหนาแน่นของยูนิตที่นี่ถือว่าค่อนข้างมาตรฐานตาม Segment โครงการ ไม่ได้หนาแน่นไป อย่างจำนวนยูนิตต่อชั้นจะอยู่ที่ 30 ยูนิต และอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 105:1 (ทั้ง 2 อาคารเท่ากัน) ทั้งนี้ถ้าหากเทียบโครงการเพื่อนบ้านก็จะมีหลายโครงการที่หนาแน่นน้อยกว่านะ แต่เมื่อแชร์ริ่งน้อยกว่า เรื่องของขนาด Facilities ต่างๆ ก็จะน้อยลงตามเช่นกัน ซึ่งโครงการนี้ Facilities ที่ค่อนข้างโดดเด่นก็จะเป็นสระว่ายน้ำที่มีความยาว 30 ม. นั่นเองค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1 (On Ground)

  • Lobby แยกอาคาร A และ B
  • สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 5×30 เมตร ลึก 1.3 เมตร
  • Fitness & Boxing Room
  • Co-Working Space

  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 105 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 105 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 105 : 1
  • ที่จอดรถคิดเป็น 40% รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV และ Key Card (RFID)

  • Product Walkthrough

    ห้องพักอาศัยของโครงการ The Excel ลาดพร้าว – สุทธิสาร เน้นเป็นห้องไซส์กะทัดรัด โดยเริ่มต้นที่ 1 Bedroom ขนาด 24.5 – 1 Bedroom Plus 34.7 ตร.ม. ด้วยขนาดห้องที่ไม่ใหญ่มากทำให้แพกเกจราคาห้องของโครงการนี้ไม่สูงเท่าไหร่ หากลองคูณกับราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ (74,000 บาท/ตร.ม.) ก็จะอยู่ที่ราวๆ 1.8 – 2.57 ล้านบาทค่ะ

    สำหรับรูปแบบการขายที่นี่จะเป็น Fully Furnished เลย ดังนั้นคนซื้อจึงไม่ต้องเผื่องบประมาณสำหรับซื้อเฟอร์นิเจอร์ไว้มากก็ได้นะ ประมาณหลักหมื่นสำหรับซื้อของหลักๆ เพิ่มเติม เช่น ฟูกเตียง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ (ยกเว้นแอร์ เพราะมีมาให้เป็นมาตรฐานแล้ว)

    เรามาดูที่ห้องแรกก็คือห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.5 ตร.ม. ห้องนี้เป็นห้องที่มีจำนวนยูนิตเยอะสุดนะคะ โดยขนาดของห้องนี้และรูปแบบการวางผังเรามองว่าเหมาะกับการอยู่อาศัยได้ 1-2 คนกำลังดี ไม่เล็กจนเกินไป

    โดยผังแปลนห้องนี้ เราค่อนข้างชอบในแง่การใช้งาน (Functional) เพราะมีการแยกโซนนิ่งต่างๆ ชัดเจนเป็นสัดส่วนไปเลย เช่น ห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ข้อดีคือแยกโซนห้องนอนได้ชัดเจน โดยที่แสงธรรมชาติยังเข้าถึงบริเวณพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ด้านใน (ถ้าต้องการเป็นส่วนตัวมากขึ้นสามารถทำม่านมากั้นเพิ่มได้) และได้ครัวปิด เหมาะกับการทำอาหารดี

    ส่วนจุดอ่อนของแปลนนี้ที่เรามองว่าอาจจะไม่เหมาะกับกลุ่มคนบางคนก็จะเป็นเรื่องของวิวจากห้องนั่งเล่น เพราะตำแหน่งของห้องนั่งเล่นอยู่ด้านใน หรือจะเป็นทางเข้าห้องน้ำที่ต้องเข้าจากห้องครัว ซึ่งในแง่การวางระบบคือดีเลย แต่คิดในแง่การใช้งานตอนกลางคืนเดินจากห้องนอนไปห้องน้ำจะต้องเดินหลายต่อหน่อย ซึ่งถ้าใคร Concern ในเรื่องเหล่านี้ + มีงบมากขึ้นมาหน่อยประมาณ 5-6 แสน เราแนะนำให้ดูเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ห้องต่อไปที่จะพาไปดูค่ะ เพราะจะดีไซน์ผังมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนแบบนี้เลยค่ะ

    เข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่โซนนั่งเล่นก่อน และมองตรงไปจะเป็นส่วนของห้องนอนนะคะ สังเกตว่าบรรยากาศห้องดูโปร่งโล่งนั่นก็เพราะว่าแสงธรรมชาติจากส่วนห้องนอนเข้าผ่านมายังโซนนั่งเล่นได้ดีนะ ส่วนฝ้าเพดานของที่นี่ให้มามาตรฐานอยู่ที่ 2.4 ม. ค่ะ

    พื้นห้องใช้เป็นพื้นลามิเนตเป็นหลักนะคะ

    รูปแบบการวางเฟอร์นิเจอร์และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ของที่นี่ค่อนข้างโอเคเลย อย่างชุดโซฟาก็จะเป็นไซส์ 2 ที่นั่ง ด้านข้างมีโต๊ะรับประทานอาหารให้

    ลักษณะโต๊ะรับประทานอาหารด้านบนจะเป็นกระจกสีชา สำหรับพื้นที่นี้เรามองว่าค่อนข้างเล็กไปหน่อย เวลาใช้งานจริงอาจจะต้องขยับโต๊ะเก้าอี้ออกมาตรงทางเดินอีกหน่อยจะได้นั่งสบายมากขึ้น

    ฝั่งตรงข้ามจะได้โต๊ะวางทีวี ที่ด้านล่างปิดหน้าบานด้วยกระจกเงา และมีลิ้นชักไว้เก็บของด้านในพอสมควร

    ถัดมาก่อนเข้าสู่ห้องนอนถูกกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน ทำให้สามารถเปิดพื้นที่ได้กว้างมากขึ้นกว่าบานเลื่อนแบบ 2 ตอนนะ เพิ่มเติมนะ สำหรับเราคิดว่าจะดีมากๆ ถ้าประตูบานเลื่อนกระจกสูงถึงฝ้าเพดาน

    เข้ามาภายในห้องนอนบรรยากาศค่อนข้างโปร่งโล่งเลย เพราะได้หน้าต่างกระจกขนาดค่อนข้างใหญ่นะคะ ส่วนฐานเตียงที่ได้จะเป็นขนาด 5 ฟุต โดยรอบมีพื้นที่ข้างเตียงให้เดินได้ จะมีเฉพาะส่วนด้านข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างที่เหลือพื้นที่ทางเดินไม่มาก

    ปลายเตียงจัดให้เป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built-in มาให้เรียบร้อยเลยนะคะ

    บริเวณโต๊ะเครื่องแป้งจะได้ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ Stool นะ ส่วนด้านบนนั้นทางโครงการมีติดตั้งเครื่องปรับอากาศมาให้ด้วย โดยสำหรับห้องไซส์ 26.5 ตร.ม. นี้จะได้เครื่องปรับอากาศทั้งหมด 2 ตัว

    หลังจากดูโต๊ะเครื่องแป้งแล้วเราเลยมาลองสังเกตเก้าอี้ Stool หน่อย เลยเห็นว่าตรงที่นั่งสามารถเปิดขึ้นมาได้และภายในทำเป็นช่องเก็บของได้ด้วยนะคะ อันนี้เรามองว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับห้องไซส์เล็กนะ เพราะในการอยู่อาศัยจริง เราจะมีของจุกจิกอีกเยอะมากๆ ซึ่งบางทีพื้นที่ก็มักจะไม่ค่อยพอสำหรับเก็บของเท่าไหร่ แต่ถ้าได้เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถเก็บของได้ด้วย ก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้เราได้มากขึ้น

    ถัดมาในส่วนของห้องครัวนั้นกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกฝ้านะคะ ทำให้แยกโซนพื้นที่นั่งเล่นกับครัวได้ชัดเจนเลย ซึ่งก็ช่วยให้ห้องนี้เหมาะกับการทำครัวมากขึ้น จะทำครัวหนัก เช่น ผัด ทอด ต่างๆ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นที่จะอบอวลไปถึงพื้นที่นั่งเล่นหรือห้องนอน

    และสำหรับพื้นครัวนั้นทางโครงการจะปูเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30×30 ซม. ให้ เพื่อเหมาะกับการใช้งานในครัวมากขึ้น ทำความสะอาดง่าย และทนความชื้น คราบน้ำมันต่างๆ ดีกว่าลามิเนต

    ส่วนขนาดของครัวเรามองว่าค่อนข้างใหญ่นะ ถ้าเทียบกับไซส์ห้องนี้ บรรยากาศจึงค่อนข้างโปร่ง รวมไปถึงอยู่ติดกับระเบียงด้วยแสงจึงเข้าได้ดี ซึ่งข้อดีที่ครัวอยู่ติดกับระเบียงหลักๆ จะเป็นเรื่องการระบายความชื้น ระบานอากาศ ช่วยให้ครัวไม่อับ

    สำหรับสิ่งที่ได้เป็นมาตรฐานในห้องครัวนี้ก็จะเป็นชุดครัวพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วนนะคะ เริ่มจากเคาน์เตอร์ครัวก่อน สเป็คท็อปครัวเป็น Particle ด้านล่างมี Built-in ลิ้นชักต่างๆ มาให้พอสมควรเลย

    Sink ล้างจานหลุมเดี่ยวจาก Hafele

    พร้อมกับ Hob & Hood จาก Teka เช่นกัน โดยหัวเตาจะเป็นเซรามิก 2 หัวเตา และ Hood เป็นระบบหมุนเวียนนะคะ

    ด้านบนได้ชุด Built-in ตามในรูปเลยค่ะ มีช่องเก็บของให้พอสมควร ตรงกลางดีไซน์เป็นชั้นวางของ เหมาะกับการวางขวดน้ำจิ้ม ปรุงรสต่างๆ เพื่อจะหยิบมาใช้งานได้สะดวก

    ส่วนด้านข้างของเคาน์เตอร์เว้นพื้นที่ไว้สำหรับวางตู้เย็นนะคะ โดยขนาดของตู้เย็นนี้เราสามารถวางไซส์เล็ก-กลางได้นะ อย่างในห้องตัวอย่างจะวางเป็นไซส์ 6.4 คิวบิกฟุตค่ะ

    ระหว่างครัวและระเบียงกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 2 ตอนนะ

    พื้นที่ระเบียงนี้ขนาดถือว่าโอเคเมื่อเทียบกับไซส์ห้องนะคะ สามารถวางเครื่องซักผ้าด้านข้างได้สบายๆ แต่จะเหลือพื้นที่ไว้ใช้งานอื่นๆ เช่น ตากผ้า หรือซักล้างไม่มากนะ

    ส่วนผนังด้านข้างติดตั้ง CDU แอร์แบบหันเข้าระเบียงนะ ถ้าใครกังวลเรื่องลมร้อนก็สามารถติดตั้งกริลล์เบี่ยงทิศทางลมร้อนไปด้านนอกได้ค่ะ

    มาในส่วนสุดท้ายของห้องก็คือห้องน้ำที่อยู่ติดกับครัวนะคะ ภายในห้องน้ำนี้จะแบ่งโซนเปียกและแห้งไว้ให้เป็นสัดส่วนเลย โดยเราจะเริ่มพาไปดูในโซนแห้งกันก่อนนะ สำหรับบริเวณนี้วางชุดสุขภัณฑ์อย่าง โถ และอ่างล้างมือไว้ให้ ซึ่งทั้งหมดจะใช้ของยี่ห้อ American Standard นะ

    สิ่งที่ชอบตรงอ่างล้างมือคือทางโครงการ Built-in ชั้นเก็บของด้านล่างไว้ให้ด้วย เอาไว้วางพวกครีมแชมพูต่างๆ ที่เราเก็บไว้เป็น Stock ได้

    มาที่พื้นที่อาบน้ำนอกจากกั้นด้วยฉากกั้นกระจกแล้วยังมีการยกระดับธรณีพื้นขึ้นมาเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อนให้ด้วยนะคะ

    สำหรับฝักบัวที่ได้จะเป็นแบบ Hand Shower ของ American Standard เช่นเดียวกับสุขภัณฑ์อื่นๆ

    ห้องถัดมาก็คือห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.7 ตร.ม. อย่างที่เราบอกไปข้างต้นในเรื่องจุดเด่นกันไปแล้วเมื่อเทียบกับห้องก่อนหน้าคือ เรื่องความโปร่งโล่ง เพราะห้องนี้ออกแบบให้ Common Area เชื่อมกันยาวตั้งแต่ครัว พื้นที่รับประทานอาหาร นั่งเล่น และรวมไปถึงห้องอเนกประสงค์ที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก จึงทำให้แสงเข้าถึงส่วนนี้ได้เต็มที่ ซึ่งก็แลกมากับครัวที่เป็นลักษณะเปิดนะ จะตอบโจทย์สำหรับคนที่เน้นทำอาหารเบาๆ นะคะ

    สำหรับคนที่ชอบพื้นที่ห้องนอนใหญ่ๆ ห้องนี้ทำออกมาดีมาก ได้ขนาดใหญ่สมใจ เพราะดูจากผังแล้วเกือบครึ่งนึงของห้องทำเป็นห้องนอน สังเกตจากภายในห้องนอนนี้จะได้พื้นที่ตู้เสื้อผ้า + โต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่เลย ส่วนเตียงทางโครงการจัดแบบ 5 ฟุตมาให้นะ แต่ถ้าใครอยากได้ใหญ่กว่านี้สามารถซื้อฐานเตียงขนาด 6 ฟุตมาวางได้อยู่ค่ะ อีกหนึ่งสิ่งที่ชอบคือระเบียงขนาดใหญ่จริง ใช้งานได้ดี โดยตำแหน่งของระเบียงนี้จะอยู่ในห้องนอนนะ ซึ่งแตกต่างจากห้องที่แล้วที่อยู่ติดกับครัว เข้าใจว่าโครงการก็ตั้งใจออกแบบให้รูปแบบการใช้งานต่างกันไป อย่างห้องที่แล้วจะเน้นเรื่องงาน Service เช่น ซักล้าง ตากผ้าต่างๆ แต่ห้องนี้ระเบียงจะเน้นไปที่ออกมายืนสูดอากาศ รับลมได้มากกว่าค่ะ

    เรามาดูบรรยากาศจริงในห้องกันต่อนะคะ จากบริเวณหน้าห้องเข้ามาจะเป็นครัว พื้นที่รับประทานอาหาร พื้นที่นั่งเล่น และสุดทางคือห้องอเนกประสงค์ ตามลำดับค่ะ บรรยากาศส่วนนี้ในระดับฝ้าเพดานเท่าๆ กันกับห้องที่แล้ว ห้องนี้จะมีความโอ่โถงกว่านะ

    หันกลับมาดูฝั่งโซนครัว สำหรับชุดครัวห้องนี้ได้สเป็คเหมือนกับห้องที่แล้วนะคะ แต่ขนาดของเคาน์เตอร์จะเล็กลงหน่อยนะ

    ส่วนฝั่งตรงข้ามของชุดครัวมีให้ตู้เก็บรองเท้าไว้ด้วยค่ะ ซึ่งถือว่าดีมากๆ เพราะการใช้งานจริงเวลาเราจะเข้าห้องก็ต้องมีที่วางรองเท้าและที่วางของจุกจิกที่เราถือว่าอยู่แล้ว ก็ถือว่าทางโครงการละเอียดกับการใช้งานส่วนนี้อยู่

    ถัดมาที่พื้นที่รับประทานอาหารที่ได้จะเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้แบบเดียวกับห้องที่แล้วนะคะ สำหรับพื้นที่ตรงนี้เรามองว่าค่อนข้างน้อยอยู่นะ สำหรับใครนั่งกินข้าวกัน 2 คน เราแนะนำให้ลองไปหาชุดโต๊ะที่สามารถพับเก็บได้นะคะ เพราะจะได้ไม่เปลืองที่ และเวลาจะกินข้าวก็สามารถกางออกมาวางตรงทางเดิน โซนครัวได้ จากที่เห็นพื้นที่ทางเดินค่อนข้างกว้างอยู่ค่ะ

    เข้ามาโซนพื้นที่นั่งเล่นสิ่งที่ได้จะเป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่ขึ้นมาจากห้องที่แล้วนะ และชุดวางทีวีที่สเป็คเดียวกับห้องที่แล้วค่ะ

    ก่อนจะเข้าถึงห้องอเนกประสงค์ด้านในส่วนนี้จะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน ทำให้ได้ช่องเปิดที่กว้างมากขึ้นกว่าประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอนนะคะ

    สำหรับห้องอเนกประสงค์นี้จะได้เครื่องปรับอากาศเพิ่มมาด้วยนะคะ ทำให้ห้อง Type นี้ได้เครื่องปรับอากาศทั้งหมด 3 เครื่องด้วยกัน ส่วนขนาดภายในห้องนี้จะเหมาะกับการจัดเป็นพื้นที่สำหรับทำงาน งานอดิเรก หรือเก็บของสะสมต่างๆ ด้วยพื้นที่ในห้องตัวอย่างที่จัดมาจะเห็นว่าเราวางโต๊ะ และโซฟาอีก 1 ตัวจะกำลังพอดีๆ

    ในขณะเดียวกันถ้าคนที่ต้องการห้องรูปแบบ 2 Bedroom (ซึ่งโครงการไม่ได้ทำมา) ก็สามารถเลือกห้องนี้แทนที่ได้ เพราะห้องอเนกประสงค์นี้ถ้าเอาโต๊ะ + โซฟาออก ยังพอจะวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต (แบบติดผนังด้านนึง) ได้อยู่ค่ะ ส่วนตู้เสื้อผ้าอาจจะต้องเป็นขนาดกะทัดรัดแทน และประตูบานเลื่อนก็ติดม่านเพิ่มเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

    จากนั้นเรามาดูอีกฝั่งนึงของห้องกัน โดยจากรูปประตูฝั่งซ้ายมือคือประตูที่ใกล้กับหน้าทางเข้าห้องเลยจะเป็นห้องน้ำ และประตูฝั่งขวามือนั้นเป็นห้องนอนค่ะ

    ภายในห้องน้ำใช้วัสดุ+สเป็คของสุขภัณฑ์จาก American Standard เช่นเดียวกับห้องที่แล้วนะคะ เพิ่มเติมขึ้นมาคือได้ขนาดที่ใหญ่มากขึ้นทั้งโซนแห้งและโซนพื้นที่อาบน้ำเลย

    ในห้องนอนแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ นะคะ โดยเข้ามาฝั่งซ้ายมือจะเป็นพื้นที่แต่งตัว (ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง) และฝั่งขวาคือเตียงนอน ซึ่งถัดออกไปจะเป็นระเบียงค่ะ

    เรามาดูตรงตู้เสื้อผ้ากันก่อนเลย ขนาดตู้เสื้อผ้า Built-in ที่ได้ค่อนข้างใหญ่เลยนะ คือได้เต็มพื้นที่ผนังเลยค่ะ ส่วนพื้นที่สำหรับระยะบานเปิดก็โอเคมาก ใช้งานได้สบายๆ

    ติดกันทางโครงการจะ Built-in โต๊ะเครื่องแป้งให้พร้อมกับเก้าอี้ Stool

    สิ่งที่เราชอบคือการดีไซน์โต๊ะเครื่องแป้งให้เหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ ซึ่งถ้าเราสังเกตฝั่งซ้ายมือของโต๊ะเครื่องแป้งจะติดกับตู้เสื้อผ้า ทำเป็นลิ้นชักเหมือนฝั่งขวาไม่ได้ ทางโครงการก็ออกแบบให้เป็นแบบเปิดแทน พร้อมติดกระจกเงาไว้ให้ ทำให้เราได้ใช้งานได้เต็มที่มากขึ้น

    สำหรับโซนเตียงจะอยู่ติดกับระเบียงภายนอก นอนรับวิวได้ดีนะ ขนาดของเตียงที่ได้จะเป็น 5 ฟุต มีพื้นที่รอบเตียงระดับนึงให้เดินได้

    ส่วนระเบียงห้องนี้ที่เราบอกไปว่าได้ขนาดค่อนข้างใหญ่เลย สามารถใช้งานได้จริง

    ด้านข้างเป็นพื้นที่สำหรับวาง CDU แอร์ และด้านล่างทำช่องว่างไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 11 June 2019

    • Type A 1 Bedroom ขนาด 24.5 ตร.ม. ช่วงราคาต่ำสุด-สูงสุดประมาณ 1.79 – 1.89 ล้านบาท หรือคิดเป็น 72,895 – 76,976 บาท/ตร.ม.
    • Type B 1 Bedroom ขนาด 26.5 ตร.ม. ช่วงราคาต่ำสุด-สูงสุดประมาณ 1.9 – 2.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 72,648 – 79,441 บาท/ตร.ม.
    • Type B 1 Bedroom ขนาด 27.15 ตร.ม. ช่วงราคาต่ำสุด-สูงสุดประมาณ 1.99 – 2.17 ล้านบาท หรือคิดเป็น 73,313 – 79,943 บาท/ตร.ม.
    • Type C 1 Bedroom ขนาด 28.5 ตร.ม. ช่วงราคาต่ำสุด-สูงสุดประมาณ 2.16 – 2.19 ล้านบาท หรือคิดเป็น 75,945 – 76,998 บาท/ตร.ม.
    • Type D 1 Bedroom ขนาด 30.1 ตร.ม. ช่วงราคาต่ำสุด-สูงสุดประมาณ 2.22 – 2.32 ล้านบาท หรือคิดเป็น 73,616 – 76,938 บาท/ตร.ม.
    • Type E 1 Bedroom Plus ขนาด 34.7 ตร.ม. ช่วงราคาต่ำสุด-สูงสุดประมาณ 2.62 – 2.68 ล้านบาท หรือคิดเป็น 75,393 – 77,122 บาท/ตร.ม.

    • รูปแบบการขาย Fully Furnished
    • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.4 เมตร
    • Kitchen & Sink / ท๊อป Particle
    • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
    • จอง 5,000 – 10,000
    • ทำสัญญา 10,000 – 20,000 บาท
    • ดาวน์ประมาณ 10% ผ่อนดาวน์ 20 งวด
    • ค่ากองทุน 700 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเล : ที่ตั้งโครงการ The Excel ลาดพร้าว-สุทธิสาร จัดอยู่ในย่านลาดพร้าวตอนกลางๆ อิงทำเลโซน รัชดา-ลาดพร้าว, ช่วงจุดเชื่อมกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม ที่มี Imperial World ลาดพร้าว และโซนสุทธิสารวินิจฉัย โดยรวมแล้วเรามองว่าจุดเด่นของทำเลนี้จะเป็นเรื่องความอุดมสมบูรณ์ที่เข้าถึงได้ในระยะขับรถง่าย เพราะมี Node อาหารการกินใหญ่อยู่ใกล้ๆ อย่าง โชคชัย 4 – ลาดพร้าววังหิน (ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนลาดพร้าว) และบริเวณช่วงแยกสุทธิสารก็มีร้านค้าร้านอาหารค่อนข้างคึกคักเช่นกัน

    ในขณะที่การเข้าถึงแหล่งของกิน ความคึกคักต่างๆ สะดวกในระยะขับรถ บริเวณในซอยลาดพร้าว 62 ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการเองจะมีบรรยากาศต่างกันนะ เพราะในซอยนี้ไม่ใช่ซอยหลักที่คนใช้ลัดเลาะไปถนนอื่นๆ เหมือนลาดพร้าว 64 จึงมีความสงบพอสมควร ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยดั้งเดิมสลับกับอพาร์ทเม้นท์

    การเดินทางโดยใช้รถ : การใช้รถจัดว่าโอเคนะคะ เพราะตัวซอยลาดพร้าว 62 เองสามารถลัดเลาะไปออกถนนหลักๆ ได้ 2 เส้นด้วยกันทั้งถนนลาดพร้าว และถนนสุทธสารวินิจฉัย (ลาดพร้าว 64) ก็ถือว่ามีตัวเลือกหลากหลายเหมาะกับทั้งคนที่ทำงานแถวภาวนา, แยกรัชดา-ลาดพร้าว หรือจะเป็นแถบสุทธิสารด้วยเช่นกัน

    สำหรับเรื่องที่จอดรถที่นี่ให้มา 40% รวมซ้อนคัน ซึ่งก็ถือว่าโอเคนะ อยู่ในระดับมาตรฐานของโครงการในระดับ Segment นี้ค่ะ

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ใครที่ไม่ได้ขับรถสำหรับโครงการนี้พึ่งพาพี่วินมอเตอร์ไซค์เพื่อเข้า-ออกหน้าปากซอยจะเป็นวิธีที่สะดวกสุดนะคะ และตำแหน่งของวินมอเตอร์ไซค์ก็มีทั้งหน้าปากซอยและบริเวณใกล้ที่ดินโครงการด้วยทำให้เรียกใช้บริการได้ง่าย ส่วนระยะเดินจากโครงการมาหน้าปากซอยอยู่ราว 550 ม. จัดว่าหลุดระยะเดินสบายมาหน่อยนะ ถ้าใครฟิตๆ หน่อยก็ถือว่าเดินได้นะคะ แต่อาจจะต้องระวังรถนิดนึงเพราะขนาดความกว้างของซอยไม่ได้กว้างมากนะคะ ทางเดินก็จะน้อยลงตามไปด้วย

    และสำหรับในอนาคตอันใกล้ บริเวณถนนลาดพร้าวช่วงโชคชัย 4 จะเป็นตำแหน่งสถานี โชคชัย 4 ของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งจัดเป็นสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดนะคะ ระยะห่างวัดคร่าวๆ จะอยู่ประมาณ 650 ม. นั่งวินมาขึ้นรถไฟฟ้าได้สะดวกค่ะ ซึ่งรถไฟฟ้าสายนี้คาดว่าจะได้ใช้กันช่วงปี 64-65 นะ

    วัสดุ : โครงการนี้ยังคง Concept เดิมของแบรนด์ The Excel ที่เน้นให้ของครบพร้อมอยู่เลย รูปแบบการขายจะเป็น Fully Furnished โดยรวมแล้ววัสดุถือว่าให้มาตรฐานตามราคานะ เช่น ฝ้าเพดานสูง 2.4 ม. พื้นลามิเนตและกระเบื้องเซรามิค 30×30 ซม. สุขภัณฑ์จาก American Standard ส่วนชุดครัวได้ท็อป Particle พร้อม Hob & Hood จาก TEKA และสุดท้ายคือชุดเฟอร์นิเจอร์ทั้งลอยตัวและ Built-in ไม่รวมเพียงฟูกเตียงเท่านั้นค่ะ

    การออกแบบ : สำหรับการออกแบบโครงการนี้ซึ่งเป็นรูปแบบ Low Rise เราว่าทำมาค่อนข้างดีนะคะ โดยให้ตัวอาคารโอบล้อม Facilities ตรงกลางเพื่อห้องพักอาศัยด้านในได้วิว Facilities ภายใน ส่วนห้องพักอาศัยมีค่อนข้างหลากหลาย Type นะคะ แต่เน้นขนาดกะทัดรัดเพื่อให้ราคาแพกเกจรวมไม่แรง หยิบจับได้ง่าย ห้องที่เรามองว่า Functional เป็นสัดส่วนลงตัวคือ Type 26.5 ตร.ม. ที่พาไปดู ส่วนห้องที่บรรยากาศดีโปร่งโล่ง พื้นที่นั่งเล่นได้วิว รับแสงธรรมชาติได้ด้วย ก็จะเป็นห้อง 34.7 ตร.ม.ค่ะ ซึ่งนอกจากจุดเด่นนี้แล้วห้อง Type นี้ก็ยังมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มให้ทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนเล็กได้ค่ะ

    สาธารณูปโภค : ด้วยความที่ยูนิตโครงการถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้น้อยหลักสิบเหมือนโครงการเพื่อนบ้านหลายโครงการนะคะ ดังนั้นเมื่อที่ดินเยอะ มี Sharing เยอะก็จะแลกมากับ Facilities ขนาดใหญ่ขึ้นตาม เพื่อให้เพียงพอกับการใช้งานจริง อย่างสระว่ายน้ำที่ยาวถึง 30 ม. และ ยังมี Fitness + Boxing Room, Co-Working Space ซึ่งโดยสรุปรวมแล้ว Facilities หลักๆ จัดมาให้ครบค่ะ


    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 74,000 บาท/ตร.ม.,11 June 2019

    • ทำเล 7.25/10 – ในซอยลาดพร้าว 62 ลึก 550 ม. เชื่อมเข้าซอยสำคัญไปลัดออกถนนอื่นได้
    • เดินทางด้วยรถ 8/10 – สะดวก มาพร้อมกับที่จอดรถ 40% รวมซ้อน
    • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – เน้นเรียกวินมอเตอร์ไซค์เข้า-ออกโครงการสะดวกสุด ในอนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองให้ใช้
    • วัสดุ 7/10 – Fully Furnished เกรดวัสดุได้มามาตรฐานตามราคา
    • แบบ 7.5/10 – จัดมาลงตัว และน่าสนใจ
    • สาธารณูปโภค 7.25/10 – ได้ครบครัน และขนาดค่อนข้างใหญ่ โดยเฉพาะสระว่ายน้ำยาว 30 ม.

    • ECONOMY CLASS
    • 7.39 / 10.00

    BOTTOM LINE

    โครงการ The Excel ลาดพร้าว-สุทธิสาร เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดราคาไม่แรงหยิบจับง่าย 1-3 ล้านก็ซื้อได้แล้ว ในย่านลาดพร้าวตอนกลาง ใกล้แหล่งของกิน แต่ยังได้บรรยากาศเงียบสงบ ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ ไม่ต้องเสียเวลาและเผื่อเงินสำหรับตกแต่งเพิ่มมากนัก


    ติดตามพวกเราได้ที่
    Website : www.thinkofliving.com
    Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
    YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
    Facebook : ThinkofLiving