Tait Sathorn 12 คอนโด High Rise เลี้ยงสัตว์ได้ในซอยสาทร 12 ใกล้รถไฟฟ้าสถานีเซนต์หลุยส์ 180 เมตร จาก Raimon Land [Walk-in รีวิว]

Tait 12 ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2564

พิกัด Google Maps : 13.722556748639063, 100.5260156423797
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการ Tait Sathorn 12 ตั้งอยู่ในซอยสาทร 12 เป็นซอยขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อถนนสีลมผ่านทางซอยสีลม 9 และมาออกยังถนนสาทรได้ ซึ่งทำเลนี้เป็นย่านธุรกิจ มีทั้งอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ โรงแรมระดับ 5 ดาว สถานทูต ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษาและโรงพยาบาลครบครัน ส่งผลให้คอนโดมิเนียมในทำเลนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดฯ Luxury ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 200,000 บาท/ตารางเมตรขึ้นไปค่ะ

ที่ตั้งโครงการสังเกตง่ายๆ จะอยู่ด้านหลังใกล้ๆกับตึกมหานครเลยค่ะ นอกจากนั้นยังมีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นใหม่อยู่ใกล้ๆกับทำเลนี้อีก 2 แห่งคือ โครงการ  One Bangkok จาก TCC และโครงการดุสิตธานี ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงการ Mixed Use มีทั้ง โรงแรม ออฟฟิศ คอนโดมิเนียมแบบ Leasehold ส่งผลให้ย่านนี้ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมากอยู่แล้ว จะมีการพัฒนามากขึ้นไปอีกส่งผลให้ราคาที่ดินในทำเลนี้สูงขึ้นได้ค่ะ

โครงการ Tait Sathorn 12 สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวกเนื่องจากอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีเซนต์หลุยส์ (เปลี่ยนชื่อมาจากสถานีศึกษาวิทยา) ระยะทาง 180 เมตร สามารถเดินได้สะดวกเพราะอยู่ด้านหน้าซอย สาทร 12 เลยค่ะ ซึ่งสถานีนี้ก่อสร้างใหม่ระหว่างสถานีช่องนนทรี และสถานีสุรศักดิ์ และเปิดให้บริการมาสักระยะหนึ่งแล้ว ทำให้ผู้อยู่อาศัยภายในโครงการมีตัวเลือกในการเดินมากขึ้นค่ะ

ในเรื่องของวิวจากโครงการ Tait Sathorn 12 สามารถมองเห็นวิวเมืองย่านสีลม – สาทรได้ ค่อนข้างโปร่ง แม้จะมีอาคารสูงอยู่บ้างอย่างคอนโด Life @Sathorn, The Address, สีลมสวีท สูง 27 – 40 ชั้น แต่ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดทำให้ห้องพักอาศัยสามารถมองเห็นวิวเป็นวิวอาคาร วิวเมืองได้ แต่ถ้าชอบวิวกว้างมองไกลๆได้แนะนำให้เลือกห้องพักอาศัยทางทิศเหนือ และทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ค่ะ

• ทิศเหนือ : มองเห็นวิวเมืองฝั่งสีลม ไม่มีอาคารสูงอยู่ในระยะประชิด
• ทิศตะวันออก : มองเห็นวิวตึกมหานครสูง 77 ชั้น และวิวเมืองโดยรอบทางถนนนราธิวาสราชนครินทร์
• ทิศใต้ : มองเห็นวิวเมือง อาคารสีลมสวีทคอนโดสูง 37 ชั้น มองเห็นรถไฟฟ้าสถานีเซนต์หลุยส์
• ทิศตะวันตก : มองเห็นวิวเมือง และอาคาร he Address สาทรสูง 41 ชั้น

___________

• สามารถอ่านรายละเอียดทำเลของโครงการ Tait Sathorn 12 ได้ที่นี่ >> พาชมทำเล TAIT 12

Highlights

• Design Concept : แนวความคิดในการออกแบบตัวอาคารให้มีความเป็น Iconic Slope ที่มีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เสมือนงาน Craft และนำเอาแนวคิดนี้ไปดีไซน์ส่วนอื่นๆของโครงการด้วย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง และวัสดุภายในห้องพักอาศัย
• Facilities : โครงการมีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมือง และเป็นโครงการ Pet Friendly มีพื้นที่สวนสำหรับน้องหมา น้องแมว พร้อม Sky Facilities เชื่อมต่อกัน 5 ชั้นด้านบนสุดของอาคาร
•  Layout Plan : การวางผังอาคารแบบ Single Corridor เผื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ความเป็นส่วนตัว พร้อมห้องขนาดใหญ่ที่มุมอาคาร และมีห้อง Special Room ระเบียงขนาดใหญ่ ทำให้แต่ละห้องมองเห็นวิวเมืองกรุงเทพฯ วิวรถไฟฟ้า หรือวิวตึกมหานครได้

โครงการ Tait Sathorn 12 (เทตต์ สาทร ทเวลฟ์) คอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่จาก ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน)และบริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ เป็นโครงการที่สองถัดจากรุ่นพี่ The Estelle Phrom Phong คอนโดมิเนียม Super Luxury ในซอยสุขุมวิท 26 ซึ่งยังคงเป็นคอนโด Luxury อยู่เช่นกันค่ะ โครงการ Tait Sathorn 12 เป็นคอนโดฯ High Rise สูง 40 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้องพักอาศัย 238 ยูนิต หลายคนคงเคยเห็นรูปทรงตัวอาคารกันมาบ้างแล้วนะคะ เนื่องจากตัวอาคารมีรูปทรงโดดเด่นด้วย Iconic Slope และเลือกใช้กรอบอาคารด้วย Curtain Wall (ผนังกระจก) จากการออกแบบของบริษัทระดับประเทศ อย่าง A49 และ Landscape (ภูมิสถาปัตยกรรม) จาก Shma บนที่ดินเกือบ 2 ไร่ ในซอยสาทร 12 ใกล้กับตึกมหานครเลยค่ะ

นอกจากสถาปัตยกรรมของอาคารที่มีความโดดเด่นเสมือนงาน Craft แล้วพื้นที่ส่วนอื่นๆ ภายในอาคารยังมีการดีไซน์รายละเอียดต่างๆ รวมไปถึงภายในห้องตัวอย่างที่มีการเลือกใช้แบรนด์ที่ได้รางวัล Reddot Design Award รางวัลที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ด้วยค่ะ

GROUND FLOOR 

โครงการ Tait Sathorn 12 เป็นคอนโดมิเนียม Pet Friendly ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ (น้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับกฎระเบียบการเลี้ยงสัตว์สามารถสอบถามจากทางโครงการเพิ่มเติมนะคะ) เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่นิยมเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนคลายเหงา และใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมากขึ้น ทางโครงการจึงมีพื้นที่รองรับสำหรับน้องหมา น้องแมว เป็น Pet Lawn ด้านหลังโครงการ ซึ่งมีพื้นที่มาให้ค่อนข้างใหญ่ค่ะ

สำหรับลิฟต์โดยสารที่ทางโครงการให้มาคือ 4 ตัว แบ่งเป็น 2 โซนคั่นด้วย Mailroom ตรงกลาง ลิฟต์โดยสารด้านหลังจะเป็นตัวที่สามารถขึ้นไปยังชั้น Facility ได้ค่ะ การที่มีลิฟต์โดยสารมาให้ถึง 4 ตัว กับจำนวนยูนิตพักอาศัย 238 ยูนิต ที่เน้นห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom ถือว่ามีความหนาแน่นในการใช้งานลิฟต์น้อยทีเดียวค่ะ อยู่ที่อัตราส่วนประมาณ 59 : 1 ทำให้ไม่ต้องรอลิฟต์นานเลย อีกทั้งยังมีลิฟต์ Service และลิฟต์เฉพาะชั้น Facilities แยกมาให้อีก 1 ตัวด้วย

สำหรับที่จอดรถภายในโครงการเป็นที่จอดรถ Conventional (แบบวนจอดปกติ) รองรับมาให้ถึง 211 คัน หรือคิดเป็น 88.6% ถือว่าให้มาเยอะพอสมควร เพราะเป็นโครงการที่มีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า และสำรองช่องจอด EV charger มาให้ค่ะ

ส่วนพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ Tait Sathorn 12 ถือว่าให้มาครบครันออกแบบมาได้น่าสนใจ สามารถเลือกใช้ Facilities ได้ที่ชั้น 1 ทั้งหมด และ 5 ชั้นด้านบนสุดเป็น Sky Facility ของอาคารค่ะ เมื่อข้ามาภายในโครงการจะเจอกับพื้นที่สีเขียวด้านหน้าที่เลือกใช้ต้นไม้ใหญ่ตกแต่งเป็นบรรยากาศสวนพักผ่อน เมื่อเข้ามาแล้วจะเป็นพื้นที่ของ Drop-off ไปยัง Lobby Lounge ซึ่งจะมีการแบ่งโซนเป็นภายในอาคาร Indoor Lobby และภายนอกอาคารล้อมรอบด้วยน้ำ Outdoor Lobby เชื่อมไปยัง Pet Lawn ทำให้สามารถเดินจูงน้องหมา น้องแมว เดินผ่านโซน Outdoor ออกจากโครงการไปยัง Cafe สัตว์เลี้ยงภายในซอยสาทร 12 ที่อยู่ใกล้ๆได้เลยค่ะ

บรรยากาศจำลองบริเวณ Outdoor Lobby และบรรยากาศที่นั่งพักผ่อนรายล้อมด้วยสระน้ำ สามารถเดินเชื่อมจากจุด Drop-off เข้าไปยังพื้นที่ Pet Lawn ด้านหลังโครงการได้ค่ะ

35 th FLOOR

ถัดจากชั้นพักอาศัยขึ้นมาที่ชั้น 35 เป็นชั้นแรกของ Sky Facility ซึ่งเป็นชั้นพื้นที่ Service สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนทำกิจกรรมต่างๆ ภายในมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำแยกหญิง – ชาย พร้อมห้อง Steam มาให้ทั้ง 2 ห้อง สำหรับพักผ่อนกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และทำให้ผิวสุขภาพดีค่ะ

36 th FLOOR

ขึ้นมาที่ชั้น 36 เป็นชั้นของสระว่ายน้ำ ซึ่งสระของที่นี่จะเป็นสระระบบน้ำกรองปราศจากคลอรีนไม่ทำให้ผิวเสีย อยู่ในร่มแบบ Semi Outdoor สามารถใช้งานได้ในเวลากลางวันค่ะ รูปทรงสระว่ายน้ำเป็นแบบ Lap Pool ขนาดประมาณ 4.00 x 2.00 เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายได้เลย ส่วนด้านข้างสระว่ายน้ำจะแบ่งเป็นสระเด็กบริเวณหมายเลข 3 และ Jacuzzi บริเวณหมายเลข 2 ทั้งหมดสามารถมองเห็นวิวเมืองเยื้องๆไปทางเส้นรถไฟฟ้าได้ค่ะ

ส่วนด้านในอาคารจะเป็นพื้นที่ Sky Deck นั่งพักผ่อน และเป็นพื้นที่เปลี่ยนผ่านจากลิฟต์โดยสารมาขึ้นลิฟต์เฉพาะส่วน Facility 5 ชั้นด้านบนสุด เพื่อความสะดวกและลดระยะเวลาในการรอลิฟต์สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น

37 th FLOOR

ชั้น 37 เป็นชั้นพื้นที่ Library และ Studio Area แยกเป็นโซนทำงานกลุ่มและพื้นที่นั่งทำงานส่วนตัวมาให้ ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิวเมืองทางฝั่งสีลมได้กว้างค่ะ ส่วนฝั่งทิศใต้จะมีพื้นที่ Highlight คือ Amphitheater เล่นระดับ(หมายเลข3) สามารถดูหนังหรือนั่งพักผ่อนได้ ส่วนด้านข้างมี Sky Lounge และระเบียงชมวิว(หมายเลข4) มองเห็นวิวสระว่ายน้ำด้านล่างและวิวฝั่งรถไฟฟ้าได้ค่ะ

38 th FLOOR

ชั้น 38 เป็นชั้น Facility สำหรับออกกำลังกายจริงจัง มีห้อง Fitness (Sky Gym) ทางทิศใต้ แบ่งเป็น 2 โซน ช่วยลดความหนาแน่นและได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพิ่มความโปร่งด้วยช่องเปิดตรงกลางที่มองลงไปเห็น Amphitheater ชั้น 37 ได้ค่ะ นอกจากนั้นจะมีห้อง Multi-Purpose Gym Studio สำหรับให้ครูมาสอนโยคะ ซ้อมเต้น หรือกิจกรรมอื่นๆให้ ซึ่งชั้นนี้จะมีห้องน้ำมาให้ใช้งานได้สะดวกด้วย

39 th FLOOR

ชั้น 39 เป็นพื้นที่ Private Dinning ที่มาพร้อมกับ Wine Cellar บรรยากาศล้อมรอบด้วยวิวเมืองสามารถเดินชมวิวได้รอบด้าน ซึ่งชั้นนี้สามารถจองใช้งานเพื่อจัด Event ส่วนตัวได้ค่ะ โดยจะมีพื้นที่ Back Stage สำหรับ Organizer ด้วยค่ะ ใครที่อยากได้พื้นที่กว้างหรือมีเวที ก็สามารถเปิดประตูเชื่อมกับพื้นที่ว่างด้านขวาของห้อง Dinning ได้เลย

ROOF FLOOR

พื้นที่ด้านบนเป็นอีกจุดชมวิวเมืองใจกลางสาทร มองเห็นวิวได้รอบด้านรวมถึงตึกมหานครได้สบายๆ มี Pavilion ให้นั่งพักผ่อนล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียวสบายตาค่ะ

การวางผังห้องพักอาศัย

ห้องพักอาศัยภายในโครงการ Tait Sathorn 12 นั้นเริ่มที่ชั้น 9 ค่ะ เนื่องจากชั้น 2 – 8 เป็นชั้นสำหรับที่จอดรถ ทำให้ชั้นพักอาศัยนั้นอยู่ในระดับที่สูงสามารถมองเห็นวิวข้ามผ่านอาคารในระยะประชิดได้ทั้งหมด เพราะอาคารที่อยู่ในระยะประชิดกับโครงการมีความสูงอยู่ประมาณ 2 – 4 ชั้นเท่านั้นค่ะ

ห้องพักอาศัยภายในโครงการจะเน้นห้อง 1 Bedroom เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะเป็นห้อง 1 Bedroom ที่มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 40 ตารางเมตร ซึ่งมีขนาดที่ค่อนข้างกว้างสบาย การวางผังโครงการเป็นแบบ Single Corridor ช่วยให้แต่ละห้องได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลางแบ่งลิฟต์โดยสารออกเป็น 2 โซน สามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้งหมดค่ะ

ชั้น 9 – 21 เป็นชั้น Typical Floor Plan จำนวน 12 ยูนิตต่อชั้น เป็นห้อง 1 Bedroom ถึง 9 ยูนิตค่ะ มีห้อง 2 Bedroom 3 ยูนิต เป็นห้องขนาดใหญ่ขึ้นมีตำแหน่งอยู่บริเวณมุมอาคารทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศใต้ มองเห็นวิวตึกมหานครและวิวเส้นทางรถไฟฟ้าได้ค่ะ

ชั้น 22 – 25 เป็นชั้นที่มีห้องขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้น ทำให้จำนวนยูนิตลดลงเหลือ 9 ยูนิตค่ะ ซึ่งชั้นนี้จะมีห้อง Special Room บริเวณทิศตะวันตกของอาคาร (บริเวณ Slope ของอาคาร) ซึ่งเป็นห้องใหญ่ 2 Bedroom บวกอีก 1 ห้องอเนกประสงค์สามารถทำเป็นห้องนอนห้องที่ 3 ได้ และจะได้ระเบียงยาวขนานไปกับความยาวของห้องเลยค่ะ ซึ่งเป็นห้องพิเศษที่จะมีเพียง 1 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น

ชั้น 26 – 28 มีจำนวน 7 ยูนิตต่อชั้นและ ชั้น 29 – 30 มีจำนวน 6 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งจะมีความพิเศษตรงที่มีห้องพักอาศัยฝั่งทิศตะวันตกของอาคาร สามารถมองเห็นวิวพื้นที่สวนได้ เหมาะกับคนที่ชอบวิวบรรยากาศสีเขียวสบายตาภายในห้องพักได้ค่ะ

ชั้น 31 – 34 เป็นชั้นห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ 4 – 5 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งจะมีห้อง Special Room ระเบียงยาวบริเวณทิศตะวันตกของอาคาร (บริเวณ Slope ของอาคาร) เช่นกันค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• ชั้น 1

• Outdoor & Indoor Lobby
• Mail Room
• Pet Friendly Zone (Pet Lawn)
• EV Charging Lots
• Garden & Sky Garden

• Steam Room

• Swimming Pool ระบบน้ำกรอง ขนาด 4.00 x 20.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• มีการแบ่งสระเด็ก และโซน Jacuzzi
• Sky Deck & Cabana

• Sky Lounge
• Library & Studio Area
• Amphitheater
• Cavern View Point

• Sky Gym & Multi-Purpose Gym Studio เครื่องออกกำลังกายประมาณ 20 ชนิด
• Functional Training Room

• Private Dinning & Pantry & Wine Cellar
• Event Space

• Pavilion & Roof Open Area

Highlights

• แบบห้องพักอาศัย : แบบห้องพักอาศัยภายในโครงการนี้มีให้เลือกกว่า 30 แบบ ที่ทางโครงการออกแบบให้มีความแตกต่างกันในแต่ละห้อง เพราะต้องการรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยที่แตกต่างกัน ให้ห้องแต่ละห้องนั้นตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไปได้ค่ะ นอกจากนั้นอีกข้อดีหนึ่งคือทำให้ห้องมีมูลค่ามากขึ้นเมื่อต้องการขายห้อง ก็จะไม่มีคู่แข่งในเหมือนกับคอนโดฯที่มีแบบห้องเหมือนๆกันทำให้เราต้องขายตัดกันที่ราคาค่ะ
• Design : นอกจากการดีไซน์รูปทรงอาคารที่เป็นเอกลักษณ์แล้วภายในห้องพักอาศัยของโครงการยังเลือกใช้วัสุดบางอย่างที่ได้รับรางวัล Reddot Design Award อย่างมือจับประตู จาก KAWAJUNG ประเทศญี่ปุ่น และสวิตช์ไฟ จาก ART DNA
• Material : เลือกใช้วัสดุคงทนอย่างกระเบื้องลายหินอ่อน บัวพื้นกระเบื้อง และกระจก Double – Glazed with Full Height Curtain Wall ที่มี Air Gap ช่วยกันความร้อน และเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี แบรนด์สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ จาก Kasch ประเทศเยอรมัน, ชุดครัว เครื่องดูดควัน เตาไฟฟ้า เตาอบ และตู้เย็น จาก Smeg ประเทศอิตาลี

ห้องพักอาศัย

ห้องพักอาศัยในโครงการ Tait Sathorn 12 จะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom ขนาด 40 – 67 ตร.ม. และ 2 Bedroom 79 – 150 ตร.ม. เป็นห้องขนาดใหญ่แต่ไม่เน้นการจัดพื้นที่เป็น 3 – 4 Bedroom เพื่อรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ เนื่องจากทำเลที่ตั้งตอบโจทย์คนทำงานมากกว่า อาจอยู่คนเดียว หรือเป็นครอบครัวขนาดเล็กมีลูก 1 คน เพื่อเดินทางไปทำงานได้สะดวก จะมีเพียงบางส่วนเป็นห้อง Special Room ขนาดใหญ่สามารถทำเป็นห้อง 3 ห้องนอนได้แต่มีจำนวนไม่เยอะค่ะ จากที่เล่าไปว่าโครงการนี้มีแบบห้องพักอาศัยให้เลือกกว่า 30 แบบเนื่องจากต้องการรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยที่แตกต่างกันได้นั่นเองค่ะ

1 Bedroom

2 Bedroom

Design & Material

ห้องพักอาศัยขายแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว Built-in อ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน, เตาอบและตู้เย็น Built-in มาให้เรียบร้อย ห้องนอนมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ พร้อมชุดสุขภัณฑ์ ทั้งหมดเหมือนกับในห้องตัวอย่างเลย เราจะพาไปชมการดีไซน์ที่น่าสนใจภายในกันค่ะ

• ฝ้าเพดานสูง และ ประตูหน้าต่างบานใหญ่

ห้องพักอาศัยภายในโครงการ Tait Sathorn 12 ออกแบบเป็นห้องฝ้าเพดานสูง 3.00 เมตร ที่ชั้น 9 – 20 และฝ้าสูง 3.15 เมตร ที่ชั้น 21 – 34 ส่วนของประตูหน้าต่างทั้งหมดถูกออกแบบให้เป็นประตูไม้จริง Full – Height Door บานสูงเต็มจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร บานจะมีขนาดใหญ่หน่อยนะคะ แต่ทำให้ดูสวยงาม และได้ความรู้สึกภายในห้องโปร่ง โล่ง สามารถมองเห็นวิวภายนอกได้อย่างเต็มที่

นอกจากนั้นกรอบบานประตูห้องพักอาศัยและห้องนอนจะมียางสีดำระหว่างช่องว่างประตูช่วยกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้มากขึ้นด้วย ด้านหน้าทางเข้ามี Digital Door Lock มาให้จาก Yale รองรับการใช้งาน Password , Key Card และกุญแจธรรมดา มาให้ดีไซน์สวยงามเข้ากับมือจับภายในตัวห้อง

• มือจับ และ สวิตช์ไฟ 

ด้านในโครงการเลือกใช้ มือจับ และ สวิตช์ไฟที่ได้รางวัลการออกแบบ Reddot Design Award จาก KAWAJUNG ประเทศญี่ปุ่น และสวิตช์ไฟ จาก ART DNA สื่อถึงตัวโครงการที่ไม่งาน Craft แค่ภายนอก ยังรวมไปถึงการเลือกผังห้องพักอาศัยหลายแบบ และงานดีไซน์ภายในห้องพักอาศัยด้วยค่ะ

• ห้องเก็บของ

ห้องตัวอย่างเป็นห้อง 2 Bedroom ที่มีเก็บของขนาดประมาณ 1.60 x 2.50 เมตร อยู่ด้านหน้า เป็นห้องที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะ สามารถจัดเป็นพื้นที่ Laundry สำหรับซักผ้า  รีดผ้า หรือจัดเป็นพื้นที่เก็บของอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ อย่างเช่น เครื่องดูดฝุ่น, ไม้กวาด ไม้ถูพื้น หรือจะเป็น Food Storage แบบในห้องตัวอย่างก็เป็นสัดส่วนดีค่ะ

• ชุดครัว 

ถัดเข้ามาภายในห้องจะพบกับส่วนครัวก่อน ซึ่งทางโครงการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวและชั้นเก็บของมาให้แบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ เป็นชั้นเก็บของหน้าบานสีขาวผิวแมทท์  ดีไซน์หน้าบานเรียบ มีแนวร่องเป็นมือจับตลอดทั้งแนว ดูเรียบหรู ฝั่งด้านขวาสุดเป็นตู้เย็น จาก SMEG จาก อิตาลี เป็นตู้เย็น Built-in เชื่อมต่อกับตู้เก็บของส่วนครัวเลย พร้อมช่องระบายความร้อนด้านบนและล่าง เป็นตู้เย็น 2 บาน สามารถเปิดใช้งานได้สะดวกไม่ชนกับส่วนเคาน์เตอร์ครัวค่ะ

ส่วนพื้นที่ตรงกลางห้องสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร 4 ที่นั่งได้สบายๆ สามารถวางได้ทั้งโต๊ะกลมและโต๊ะเหลี่ยมเลย

ส่วนเคาน์เตอร์ครัวโครงการเลือกใช้เป็นหินแกรนิตแท้สีดำ พร้อมอ่างล้างจานรูปทรงสี่เหลี่ยม จาก MEX และเตาไฟฟ้า 4 หัว เครื่องดูดควันระบบปล่อยออกด้านนอก จาก Smeg และเตาอบ Built-in เงาตัดกับหน้าบานสีขาวแมท ดูสวยงามจาก Smeg เช่นกันค่ะ

• ห้องนั่งเล่น และ ระเบียง

ห้องนั่งเล่นถูกออกแบบมาให้เชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง จุดเด่น คือฝ้าเพดานสูง และได้ประตูกระจกสูงเต็มบาน ทำให้มองเห็นวิวได้กว้าง โปร่ง และดูสวยงาม ช่วงที่ฝ้าเพดานดรอปลงมาจะเป็นส่วนที่แอบซ่อนงานระบบไว้ ระบบปรับอากาศของห้องพักอาศัยจะเป็นระบบ VRV คือช่องปล่อยลมหลายห้อง มีการใช้ Condensing Units (CDU) ตัวเดียวกัน ช่วยประหยัดพื้นที่ตั้ง CDU บริเวณส่วนกลาง ไม่นับรวมเป็นพื้นที่ขายนะคะ ทำให้ราคาห้องที่จ่ายไปเป็นพื้นที่ที่สามารถใช้งานได้ทั้งหมดเลย

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าห้องพักอาศัยจะได้พื้นที่ใช้สอยเยอะ ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะกลางและโต๊ะวาง TV ได้สบายๆ มีทางเดินไปใช้งานระเบียงได้สะดวก ส่วนระเบียงมีราวกันตกเป็นกระจกดีไซน์เรียบหรู วัสดุกระจกที่ใช้กับประตูหน้าต่างด้านนอกเป็นกระจก Double – Glazed with Full Height Curtain Wall ที่มี Air Gap (ช่องว่างอากาศ) ตรงกลางช่วยกันความร้อน และเสียงรบกวนจากภายนอกได้ค่ะ

• ห้องนอน

นอกจากห้องนั่งเล่นแล้ว ภายในห้องนอนยังได้ฝ้าเพดานสูงพร้อมผนังกระจกเต็มบานซึ่งเป็น Facade ของอาคารเลยค่ะ ทำให้สามารถชมวิวได้กว้างเลย ห้องนอนรองจะเหมาะกับการวางเตียงขนาด 3.5 – 5 ฟุต หรือถ้าใครไม่ต้องการห้องนอนอีกห้อง สามารถปรับเป็นห้องทำงานส่วนตัว หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆได้

ซึ่งภายในห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in หน้าตาแบบเดียวกับในห้องตัวอย่างมาให้เลยค่ะ เป็นตู้บานเปิด 4 บาน มีกั้นชั้นเก็บของด้านในพร้อมลิ้นชัก และไฟติดอัตโนมัติเมื่อมีการใช้งานค่ะ

ห้อง Master Bedroom เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ วางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ ห้องนี้ก็จะได้ช่องแสงกระจกกว้างเต็มผนังเลยค่ะ จะสังเกตได้ว่าภายในห้องยกฝ้าเพดานสูงถึง 3.00 – 3.15 เมตรโดยการทำฝ้าเพดานให้ใกล้กับท้องพื้นที่สุด ทำให้โคมไฟภายในห้องพักอาศัยทั้งหมดเป็นโคมไฟ Downlight แบบโชว์โคมเหมือนในห้องตัวอย่างค่ะ

• ห้องน้ำ 

มาถึงห้องน้ำภายในจะมีการตกแต่งให้ดูหรูหราด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ซึ่งมีลายบางๆทำให้ดูเรียบหรู ไม่ลายตา มีการซ่อนไฟด้านบนและด้านล่างใต้กระจกเงาพร้อมไฟ Downlight สีนวลตา ภายในห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียก – แห้งให้ชัดเจนพร้อมกั้นส่วนอาบน้ำมาให้เรียบร้อยค่ะ โดยระบบน้ำที่ใช้เป็นระบบน้ำร้อน ทางโครงการติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนมาให้เลย

ห้องน้ำภายในห้องพักอาศัยปกติจะได้แบบเดียวกับในภาพด้านบนนี้ค่ะ มีการลดระดับพื้นลงเพียงเล็กน้อยเพื่อให้เดินได้สะดวก มีกระจกเงาบานใหญ่สามารถเปิดเก็บของด้านในได้  สะดวกในการวางแปรงสีฟัน ยาสีฟัน หรือครีมบำรุงผิวต่างๆ มีอ่างล้างมือ

สุขภัณฑ์ติดตั้งแบบลอยตัวมาให้ ดีไซน์สวยเป็นชิ้นเดียว และยกสูงจากพื้นทำความสะอาดง่าย จาก Kasch นำเข้าจากประเทศเยอรมัน พร้อมก๊อกน้ำ ที่วางกระดาษชำระ Rain Shower และฝักบัวสายอ่อน สีดำด้านตัดกับพื้นหลังลายหินอ่อน ดูมีลูกเล่น

ส่วนห้องน้ำใน Master Bedroom ของห้อง Type นี้เป็น Special Bathroom ขนาดใหญ่รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 คน มีอ่างล้างหน้า His & Her แยกฟังก์ชันการใช้งานพื้นที่อาบน้ำและโถสุขภัณฑ์เป็น 2 ห้อง อีกฝั่งเป็นพื้นที่อ่างอาบน้ำ ติดตั้งมาให้แบบลอยตัว พร้อมช่องแสงขนาดใหญ่สามารถนอนแช่น้ำมองวิวเมืองภายนอกได้สบายๆค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

Tait 12 ราคา ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2564

• ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอยภายใน 40 – 67 ตร.ม.
• ห้อง 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอยภายใน 79 – 150 ตร.ม.
• ช่วงราคา 9 – 36 ล้านบาท

• รูปแบบการขาย Fully Fitted
•  3.00 เมตร ชั้น 9 – 20 และ  3.15 เมตร ชั้น 21 – 34
• Kitchen & Sink / ท็อปหินแกรนิตแท้
• Hob & Hood & Refrigerator / ของยี่ห้อ Smeg
• จอง 100,000 บาท
• ทำสัญญา 5%
• ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 22 งวด
• ค่ากองทุน 900 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 110 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมย่านสีลม – สาทร ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS ในระยะเดิน

ปัจจุบันจะมีตัวเลือกที่น่าสนใจทั้งหมด 4 โครงการ โดยแต่ละโครงการจะมีจุดเด่นที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป ดังนี้

• Tait Sathorn 12 : คอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ จาก Raimon Land ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเซนต์หลุยส์ 180 เมตร มีพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 1 และ 5 ชั้น Sky Facility รูปทรงอาคารมีความโดนเด่นเป็นเอกลักษณ์ และมีห้องพักอาศัยให้เลือกกว่า 30 แบบ ทำให้ตอบโจทย์การใช้งานได้จริงๆ และไม่มีคู่แข่งเมื่อต้องการขายต่อหรือปล่อยเช่า ราคาเริ่มต้น 9 -30 ล้านบาทหรือประมาณ 240,000 บาท/ตารางเมตร
• Anil Sathorn 12 : คอนโดมิเนียม Luxury ตัวแรกจาก Grand Unity (กำลังก่อสร้างคาดว่าแล้วเสร็จ 2565) อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าเซนต์หลุยส์ หน้าซอยสาทร 12 และมีแนวคิดในการนำเอา Well Building Standard ที่ออกแบบอาคารให้เป็นมิตรต่อสุขภาพของผู้พักอาศัยมาใช้ทั้งส่วนกลางและภายในห้องพักอาศัย ยูนิตต่อชั้นน้อย มีห้อง Duplex และ Penthouse ขายแบบ Fully Fitted แต่จะมีราคาที่สูงขึ้นมาหน่อยอยู่ที่ประมาณ 260,000 บาท/ตารางเมตร หรือ 11 – 40 ล้านบาทค่ะ
• The Ritz-Carlton Residences : คอนโดมิเนียมในตึกมหานคร ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยปัจจุบันค่ะ อาคารใช้งานแบบ Mixed-Use เหมาะกับคนที่ชอบความสะดวกสบายและมีการบริการครบครัน การออกแบบส่วนพักอาศัยเน้นห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ 125 ตารางเมตรขึ้นไป 2 – 5 Bedroom ซึ่งราคาก็สมกับแบรนด์ในเครือ Marriott อยู่ที่ 500,000 บาท/ตารางเมตรขึ้นไป หรือราคาห้องสูงถึง 100 – 200 ล้านบาท
• Ashton Silom : คอนโดมิเนียมสร้างเสร็จมาประมาณ 3 ปี พร้อมเข้าอยู่ จาก Ananda ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี ประมาณ 350 เมตร ภายในโครงการมีรายละเอียดในการออกแบบสูง มีห้องมุมได้วิวกว้างดีไซน์โดยการ  Interlock กันเป็นรูปตัว L สลับกันไปมา ทำให้ภายในมี Stack Floor พื้นต่างระดับ และได้ฝ้าเพดานสูง 3.2 – 3.5 เมตร ราคาเริ่มต้น 9.39 ล้านบาท หรือประมาณ 200,000 – 275,000 บาท/ตารางเมตร

Tait Sathorn 12 เหมาะกับใคร

Tait Sathorn 12 เหมาะกับคนที่กำลังหาคอนโดย่านสีลม – สาทร ใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดินได้สะดวก ที่จอดรถเยอะ ชอบรูปทรงอาคารและการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ และพื้นที่ส่วนกลางที่หลากหลายถึง 5 ชั้น และได้วิวสูง มีความต้องการเลี้ยงสัตว์อย่างน้องหมา น้องแมวเป็นเพื่อน ชอบห้องฝ้าเพดานสูง มีแบบห้องพักอาศัยให้เลือกเยอะ ต้องการห้องที่อยู่กัน 1 – 2 คน หรือเป็นครอบครัวเริ่มต้น มีงบประมาณระดับ 9 – 30 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 63,000 – 210,000 บาท/เดือน

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc