ถนนเอกมัยเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีโครงการประเภทคอนโดมิเนียมขึ้นเยอะมากในช่วงปีสองปีที่ผ่านมาค่ะ เรามองว่าทำเลนี้ถือว่าเป็นย่าน Lifestyle ที่ขยับขยายออกมาจากซอยทองหล่อ เป็นทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้า แหล่งของกิน ใช้ชีวิตกันแบบ All day all night แต่ว่าโครงการส่วนใหญ่ปัจจุบันก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างนะคะ ดังนั้นวันนี้เราจะพาไปดูคอนโดสร้างเสร็จแล้วอย่าง RHYTHM เอกมัย จาก AP กันค่ะ อันที่จริงแล้วโครงการนี้ขายหมดไปนานพอสมควรค่ะ แต่จากที่เราไปดูโครงการจริงมาเมื่อเดือนที่ผ่านมา ก็ยังมีห้อง Resale และปล่อยเช่าอยู่นะคะ เรียกได้ว่าบางห้องเพิ่งตกแต่งเสร็จหมาดๆ ไม่มีคนเคยอยู่ เป็นห้องใหม่จริงๆ โครงการนี้สำหรับเรามีสิ่งที่น่าสนใจดังนี้นะ

  • ทำเลโครงการ ตั้งอยู่ในช่วงต้นซอยเอกมัยและติดกับ Community Mall อย่าง Park Lane เมื่อเทียบกับโครงการที่เปิดขายใหม่ๆ ระยะทางไปรถไฟฟ้าเราใกล้กว่าค่ะ
  • โครงการสร้างเสร็จ 2018 สามารถเข้าอยู่อาศัยได้เลย ในขณะที่โครงการที่ยังขายอยู่ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง
  • Sky Facility พื้นที่ส่วนกลางหลักอยู่ 2 ชั้นบนสุด ทำให้ได้วิวรอบๆโครงการ (เห็นแนวรถไฟฟ้า)

ข้อมูลโครงการ

Fact @ 1 September 2020

  • Rhythm Ekkamai (ริธึ่ม เอกมัย)
  • บริษัท เอพี(ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : วัฒนา
  • คอนโด High Rise 32 ชั้น 1 อาคาร 326 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 14 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 177 คันคิดเป็น 54 %
  • ที่ดินประมาณ 1-3-44.4 ไร่
  • สร้างเสร็จ 2018
  • Studio 30 ตร.ม. ราคาเริ่ม Resale 5.6x ล้านบาท
  • 1 Bedroom 35-38 ตร.ม. ราคาเริ่ม Resale 5.85 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 70-80 ตร.ม.ราคาเริ่ม Resale 11.5 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4-2.75 เมตร

* ราคานี้อ้างอิงจากราคาขาย(Resale)  ณ ปัจจุบัน

ทำเลที่ตั้ง

RHYTHM เอกมัย ตั้งอยู่บนถนนเอกมัยช่วงต้นซอย ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัย 280 เมตร ที่ตั้งโครงการอยู่ติดกับ Park Lane เอกมัย ซึ่งเป็น Community Mall ที่มีร้านอาหารและ Supermarket อยู่ด้านใน

ประเด็นเกี่ยวกับทำเลที่น่าสนใจ

  • (ปี 2020) เป็นโครงการสร้างเสร็จตัวล่าสุดที่ตั้งอยู่บนถนนเอกมัยตอนต้น ระยะห่างจากรถไฟฟ้า 280 เมตร ทำให้เดินเท้าไป BTS ได้สะดวก
  • เอกมัยตอนต้นถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก จากที่ตั้งสามารถเดินไป Park Lane เอกมัย , Major เอกมัย และ Gateway เอกมัยได้สะดวก

พิกัด Google Maps : 13.7227936,100.5822674
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

ถนนเอกมัยกลายเป็นทำเลยอดนิยมอีกทำเลของ Developer หลากหลายเจ้า พากันมาเปิดโครงการบนถนนเส้นนี้กันเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมานะคะ ความน่าสนใจของถนนเอกมัยนั้นเราของสรุปเป็นข้อๆให้ฟังดังนี้ค่ะ
1) เป็นถนนที่ Access หรือเข้าไปใช้งานรถไฟฟ้าเอกมัยได้ง่าย
2) เชื่อมต่อออกนอกเมืองไปยังโซนรามอินทรา , วัชรพล ได้สะดวก เหมาะกับคนที่มีบ้านอยู่โซนนี้และต้องการคอนโดใกล้รถไฟฟ้าเป็นบ้านหลังที่ 2
3) คอนโดบนถนนทองหล่อ(ซอยข้างๆ) ล้วนเป็นคอนโดระดับ Super Luxury (ตารางเมตรละประมาณ 2-3 แสนบาทกันไปแล้ว)  ส่วนคอนโดบนเอกมัยนั้นมีราคาอยู่ที่ตารางเมตรละแสนปลายๆ – สองแสนต้นๆได้(ราคาก่อนช่วงเกิด Covid-19นะคะ) ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำลงมากว่าทองหล่อ แต่ก็ยังไปสัมผัส Lifestyle ของย่านทองหล่อได้อยู่
4) บรรยากาศบนถนนเอกมัยเองที่เปลี่ยนไป จากที่เป็นชุมชน สองข้างถนนเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์ ปัจจุบันเริ่มเป็นคอนโดมากขึ้น ตามซอยต่างๆมีคาเฟ่มาเปิดแทรกตัวเยอะขึ้น และจากเดิมที่เราจะเห็น Expat ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่อยู่ที่พร้อมพงษ์-ทองหล่อ เดี๋ยวนี้เอกมัยก็กลายเป็นตัวเลือกของ Expat เหล่านี้เช่นกันค่ะ (ส่วนหนึ่งเพราะ Product ที่เป็นคอนโดก็ออกแบบมาเพื่อเอาใจความต้องการของคนญี่ปุ่นเช่นกัน เช่น RHYTHM เอกมัยห้อง 2 Bedroom ก็จะมีอ่างอาบน้ำในห้องนอนใหญ่)

แต่อย่างไรก็ตาม บนถนนเอกมัยเองก็มีความแตกต่างของช่วงต้นซอยกับช่วงท้ายซอยอยู่เหมือนกันนะคะ ต้นซอยก็จะได้ความสะดวกเพราะใกล้กับรถไฟฟ้า และ มีห้างสรรพสินค้า , Community mall, Supermarket และ Hypermarket อยู่ แต่ว่าช่วงท้ายๆซอยนั้น จะยังมีชุมชนอยู่ และความอุดมสมบูรณ์ก็จะเป็นตลาดแทน ดังนั้นเรามองว่าคอนโดที่ตั้งอยู่ช่วงต้นซอยได้บรรยากาศและความสะดวกสบายที่ดีกว่าท้ายซอยค่ะ

เราลองมาดูโครงการที่อยู่ในช่วงต้นซอยเอกมัยกันนะคะ ซึ่งคอนโดที่เห็นขึ้นมาเยอะๆนี้ส่วนใหญ่เพิ่งเปิดขายเมื่อช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา และยังมีขายอยู่ทุกโครงการเลยค่ะ ยกเว้น Noble Reveal ที่เป็นโครงการเก่าสร้างเสร็จ 2011 และ RHYTHM เอกมัย ที่สร้างเสร็จเมื่อ 2018 ค่ะ

เราบอกไปว่าจุดเด่นของโครงการ RHYTHM เอกมัย คือโครงการที่สร้างเสร็จและใกล้รถไฟฟ้า แต่ว่าก็จะมี Noble Reveal ที่สร้างเสร็จและอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้ามากกว่านะคะ ทั้งคู่ก็ต้องซื้อแบบ Resale ราคาที่เราลอง Search หาดูก็เจอเริ่มต้นที่ 4.xx ล้านบาทค่ะ ถึงแม้ในแง่ทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้า Noble Reveal จะชนะไปแต่ RHYTHM เอกมัยก็จะมีข้อดีเรื่องที่ตั้งติดกับ Parklane เอกมัยและโครงการที่ใหม่กว่า

และถ้าเรามองโครงการที่ติดกับห้างหรือ Community mall ก็จะมีโครงการ Philo เอกมัย6 กับ The Rich เอกมัยที่อยู่ติดกับ Big-C ส่วน RHYTHM Ekkamai Estate คอนโดใหม่ของ AP จะอยู่ตรงข้ามกับเวิ้งโบราณหรือว่าเยื้องๆกับ Health Land ค่ะ ส่วน RHYTHM เอกมัย ตั้งอยู่ติดกับ Parklane แต่ก็ยังได้ข้อดีที่เดินไปยัง Major สุขุมวิท และ Gateway เอกมัย ได้อีกด้วยค่ะ

“ดังนั้นข้อดีของ RHYTHM เอกมัย คืออยู่บนทำเลที่ติดกับ Community Mall และเดินไปรถไฟฟ้าได้”

รายละเอียดโครงการ

ประเด็นที่น่าสนใจ

  • อาคาร High Rise สูง 32 ชั้น เข้า-ออกจากถนนเอกมัย จากหน้าโครงการเลี้ยวไปทั้งฝั่งสุขุมวิท และ เพชรบุรีได้
  • Sky Facility ส่วนกลางหลักถูกยกขึ้นไปอยู่ 2 ชั้นบนสุดของอาคาร
  • ปัจจุบัน รอบตัวตึกเป็นอาคารแนวราบ จึงไม่มีตึกสูงในระยะประชิด พอเห็นวิวได้อยู่ (ห้องทิศใต้เห็นแนวรถไฟฟ้า
  • โครงการที่สร้างเสร็จไปแล้วประมาณ 1-2 ปีเช่นโครงการนี้ จะมีข้อดีอีกข้อที่สำคัญคือเราจะได้เห็นสภาพจริงของโครงการว่าเป็นระเบียบ เรียบร้อยหรือไม่ ซึ่งโครงการนี้จะใช้นิติบุคคลของ SMART ค่ะ เท่าที่ลองเข้าไปดูก็ถือว่าเรียบร้อยดีนะคะ

Project Overview

โครงการ RHYTHM เอกมัย เป็นคอนโด High Rise 32 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดเกือบ 2 ไร่ แต่ละชั้นแบ่งฟังก์ชันออกดังนี้

ชั้น 1 : Lobby, Mail Room, Shop, Pavillion และ Parking
ชั้น 2-6 : ที่จอดรถประมาณ 177 คัน หรือประมาณ 54%
ชั้น 7 : ห้องพักอาศัย และ สวน
ชั้น 8-30 : ห้องพักอาศัย
ชั้น 31 : Fitness, Pocket Garden, Pool Deck, Infinity Edge Pool
ชั้น 32 : Rhythm Social Club, จุดชมวิวและ Rhythm Panoramic Theater Lounge

โครงการ RHYTHM เอกมัย นั้นมีทางเข้า-ออกจากถนนเอกมัยค่ะ อยู่ทางช่วงต้นซอย ซึ่งจากหน้าโครงการก็สามารถเลี้ยวทั้งซ้ายและขวาได้เลย ส่วนปากซอยเอกมัยที่เป็นถนนสุขุมวิทเองก็ใช้เข้าเมืองและออกเมืองได้เช่นกัน โครงการ RHYTHM เอกมัยเองรอบๆโครงการที่ติดกันเลยก็จะเป็นอาคารแนวราบค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ Parklane เอกมัยเป็น Community Mall เชื่อมต่อกับซอยสุขุมวิท 61 ได้
  • ทิศใต้ ติดกับอาคารพาณิชย์ ระดับความสูง 5-6 ชั้น เทียบเคียงกับชั้นที่จอดรถของโครงการ
  • ทิศตะวันออก ติดกับถนนเอกมัย ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น
  • ทิศตะวันตก เป็นอาคารแนวราบ ร้านอาหาร Teppen , ฉัน (ร้านนี้ดังเรื่องเนื้อมากค่ะ)

Image 1/4
ทิศตะวันออก หน้าโครงการติดกับถนนเอกมัยค่ะ ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์

ทิศตะวันออก หน้าโครงการติดกับถนนเอกมัยค่ะ ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์

Facility

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของ RHYTHM เอกมัย หลักๆจะมีอยู่ 3 ชั้นค่ะ คือชั้น 1, 31 และชั้น 32 ค่ะ

ชั้น 1

ฟังก์ชันหลักของชั้น 1 โครงการ RHYTHM เอกมัยนั้นจะเป็นส่วนต้อนรับและเป็นพื้นที่สัญจรเป็นหลักค่ะ ตัวอาคารจะถูกวางให้ห่างจากถนนใหญ่ คั่นระหว่างอาคารและถนนด้วยสวนและต้นไม้ใหญ่สร้างความเป็นส่วนตัวให้พื้นที่ภายใน รถสามารถวนรอบอาคารได้ และมีที่จอดรถชั้น 1 รองรับ Visitor อยู่รอบๆอาคารค่ะ

การเข้าออกและระบบรักษาความปลอดภัย : โครงการอยู่ติดกับถนนเอกมัย ทางเข้า-ออกจะแยกระหว่างทางเดินรถและทางเดินคน ซึ่งมีรปภ.คอยดูแลอยู่ด้านหน้า ทางเข้าโครงการจะมีทั้งไม้กั้นกระดกและประตูรั้วอัตโนมัติอยู่ วันที่เราไปโครงการ เป็นช่วงเวลากลางวันก็จะเปิดประตูรั้วเลื่อนเอาไว้นะคะ เพื่อให้สะดวกกับรถที่สัญจรไปมา จากผังเดิมเราจะเห็นว่าทางเดินรถด้วยขนาดของถนนแล้วสามารถขับสวนกันได้ แต่วันที่เราไปโครงการจะให้เดินรถทางเดียว ซึ่งส่วนตัวมองแล้วปลอดภัยกว่าค่ะ

สำหรับการเข้าถึงตัวอาคารนั้นจะมี Double Security เลย แขกที่มาหรือว่า Food Delivery ต่างๆจะเข้าถึงได้แค่บริเวณ Foyer เท่านั้นค่ะ หน้า Foyer เองก็จะมี Smart Locker อยู่ด้วย เผื่อใครสั่งของ Online แล้วไม่อยากฝากไว้ที่นิติบุคคล ก็สามารถใช้งานฟังก์ชันนี้ได้ จาก Foyer เข้าสู่ Lobby จะต้องใช้ Key card Scan ก่อนครั้งหนึ่ง และจาก Lobby เข้าไปยังโถงลิฟต์ก็ยังต้องใช้ Key Card Scan อีกครั้ง ทำให้คนที่จะได้ขึ้นอาคารจริงๆต้องเป็นเจ้าของห้องจริงๆ คนนอกใช่ว่าจะขึ้นอาคารได้ง่ายๆนะคะ

โครงการนี้มี SMART เป็นนิติบุคคลของโครงการ วันที่เราไปก็เจอกับผู้รับเหมาที่มาตกแต่งต่อเติม ซึ่งก็ต้องมีจดหมายอนุญาตจากเจ้าของห้องและต้องได้รับตราประทับจากทางนิติบุคคลก่อนจึงจะขึ้นไปชั้นพักอาศัยได้ นิติบุคคลของ SMART เองก็จะเป็นบริษัทที่มีระบบการจัดการที่มีมาตรฐาน มีการสร้าง Application ขึ้นมาเพื่อสื่อสาร แจ้งข่าวต่างๆกับลูกบ้าน ถือเป็นนิติบุคคลที่ไว้ใจได้ค่ะ

ทางเข้าโครงการและพื้นที่รอบๆอาคาร

Image 1/12
ทางเข้าโครงการจะแยกทางเข้ารถออกจากทางเดินคนค่ะ ซึ่งจุดนี้เรามองว่าดีนะคะ เพราะเป็นคอนโดที่ใกล้รถไฟฟ้าด้วย เวลาคนเดินเข้าก็จะได้ปลอดภัย ไม่เจอรถเฉี่ยวชน

ทางเข้าโครงการจะแยกทางเข้ารถออกจากทางเดินคนค่ะ ซึ่งจุดนี้เรามองว่าดีนะคะ เพราะเป็นคอนโดที่ใกล้รถไฟฟ้าด้วย เวลาคนเดินเข้าก็จะได้ปลอดภัย ไม่เจอรถเฉี่ยวชน

พื้นที่ส่วนกลางชั้น 1

Drop-off อาคารจะอยู่ใต้อาคาร ช่วยบังแดดหลบฝนได้ค่ะ คนที่จะเข้าโครงการจะไปทางซ้ายมือ ส่วนห้องที่อยู่ขวามือ เดิมที่จะเป็น Shop ค่ะ แต่วันที่เราไปดูยังไม่มีร้านอะไรเปิดนะคะ

Image 1/11
ด้านหน้าทางเข้าอาคารจะมี Smart Locker อยู่ค่ะ ตรงนี้ก็เหมาะสำหรับคนสั่งของออนไลน์ต่างๆ บางครั้งไปต่างจังหวัด หรือว่ากลับดึก ไม่สะดวกไปรับกับทางนิติบุคคล ก็มาฝากที่ Locker นี้ได้ค่ะ

ด้านหน้าทางเข้าอาคารจะมี Smart Locker อยู่ค่ะ ตรงนี้ก็เหมาะสำหรับคนสั่งของออนไลน์ต่างๆ บางครั้งไปต่างจังหวัด หรือว่ากลับดึก ไม่สะดวกไปรับกับทางนิติบุคคล ก็มาฝากที่ Locker นี้ได้ค่ะ

ชั้น 2-6 ที่จอดรถ

สำหรับเรื่องที่จอดรถจะเป็นการจอดแบบ Conventional หรือแบบขับวนจอดนี่แหละค่ะ สามารถจอดได้ประมาณ 177 คัน หรือคิดเป็น 54% ส่วนตัวมองว่าเป็นคอนโดที่เหมาะกับคนที่ใช้รถไฟฟ้าอยู่แล้ว สัดส่วนเท่านี้ถือว่าดีกว่าโครงการอื่นค่ะ และในโครงการใหม่ๆหลายโครงการมักจะทำที่จอดแบบ Autoparking ซึ่งหลายคนก็จะไม่ถนัดเท่าไร เจอคนรับรถพร้อมกันทีหลายคนก็อาจรอนาน และในระยะยาวอาจจะมีค่าบำรุงรักษาก้อนใหญ่เพิ่มเติมได้ ที่จอดรถแบบวนจอดจึงถือเป็นข้อดีเช่นกันค่ะ จากที่จอดรถก็สามารถเข้ามายังโถงลิฟต์และขึ้นไปยังห้องพักได้เลยนะคะ

Image 1/3
ผังพื้นชั้น 2

ผังพื้นชั้น 2

ชั้น7

ห้องพักอาศัยนั้นจะเริ่มต้นที่ชั้น 7 ค่ะ แต่ว่าที่ชั้นนี้ก็จะมีความพิเศษตรงที่มีสวนเล็กๆอยู่ที่ชั้นนี้ด้วย มีมุมนั่งพักผ่อนเล็กๆ ถือว่าเป็นวิวให้กับห้องพักที่หันหน้าไปทางทิศเหนือกับทิศตะวันออกได้ค่ะ

สวนที่ชั้น7

Image 1/4
จากตัวอาคารออกมาพื้นที่สวน จะเป็นทางลาดลงเล็กน้อยค่ะ

จากตัวอาคารออกมาพื้นที่สวน จะเป็นทางลาดลงเล็กน้อยค่ะ

ชั้น 31

พื้นที่ส่วนกลางหลักๆจะอยู่ที่ชั้น 31 ค่ะ ที่ชั้นนี้จะเป็นส่วนกลางแนว Active คือมีฟิตเนส และ สระว่ายน้ำ และมีสวนเล็กๆแทรกตัวอยู่ค่ะ ข้อดีของการยกเอาพื้นที่ส่วนกลางมาไว้ชั้นบนคือวิวที่ได้ค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ห้องไหนชั้นล่างหรือบน ก็สามารถขึ้นมาชมวิวที่ส่วนกลางแทนได้ค่ะ

ฟิตเนส

Image 1/2
บรรยากาศภายในฟิตเนส มีเครื่องเล่นหลายประเภทนะคะ

บรรยากาศภายในฟิตเนส มีเครื่องเล่นหลายประเภทนะคะ

Pocket garden & Pool Deck

พื้นที่สีเขียวที่สร้างไว้เป็นวิวสบายตาให้กับคนที่ใช้งานส่วนกลางในชั้นนี้ค่ะ ส่วน Pool Deck ก็เป็นส่วนในร่มที่มานั่งเล่นรับลมได้

Image 1/3
Pocket garden ข้างฟิตเนส ปูด้วยหญ้าเทียม ง่ายต่อการดูแลรักษา

Pocket garden ข้างฟิตเนส ปูด้วยหญ้าเทียม ง่ายต่อการดูแลรักษา

Infinity Edge Pool

สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ในร่ม ที่สามารถชมวิวเมืองได้เต็มที่

Image 1/4
จาก Pool Deck มองไปยังสระว่ายน้ำ และเห็นวิวเมืองค่ะ

จาก Pool Deck มองไปยังสระว่ายน้ำ และเห็นวิวเมืองค่ะ

ห้องน้ำ

ตำแหน่งของห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันบริเวณพื้นที่ส่วนกลางนั้นจะต้องเดินลงจากชั้น 31 ค่ะ ซึ่งห้องน้ำก็จะแยกชาย-หญิงให้ มี Locker และห้อง Stream & Sauna ส่วนจุดล้างตัวสำหรับคนที่จะใช้งานสระนั้น ก็จะอยู่ข้างกับตัวสระเลย ทางเดินไปห้องน้ำจึงไม่น่าจะเปียกมากค่ะ

Image 1/3
ห้องน้ำมีฟังก์ชันให้มาครบค่ะ มี Locker ไว้ให้ด้วย

ห้องน้ำมีฟังก์ชันให้มาครบค่ะ มี Locker ไว้ให้ด้วย

ชั้น 32

ถ้าชั้น 31 เป็นส่วนกลางที่เราจะต้อง Active หรือใช้แรง ชั้น 32 นี้ก็จะเป็นส่วนกลางแนว Passive หรือว่าพักผ่อน เติมพลังงานมากกว่าค่ะ ที่ชั้นนี้จะไม่มีลิฟต์นะคะ ต้องเดินขึ้นมาจากชั้น 31 นะ โดยฟังก์ชันจะแบ่งเป็น 2 ห้องใหญ่กับ 1 จุดชมวิวค่ะ

Rhythm Panoramic theater lounge

Image 1/3
ภายในห้องจะมีความสูงโปร่งกว่าระดับปกติค่ะ สามารถนั่งเล่นและชมวิวเมืองที่อยู่รอบๆได้

ภายในห้องจะมีความสูงโปร่งกว่าระดับปกติค่ะ สามารถนั่งเล่นและชมวิวเมืองที่อยู่รอบๆได้

จุดชมวิว

Image 1/3
จุดชมวิวจะอยู่ตรงกลางค่ะ อยู่ระหว่างห้องดูหนังและ Social Club

จุดชมวิวจะอยู่ตรงกลางค่ะ อยู่ระหว่างห้องดูหนังและ Social Club

Rhythm Social Club

Image 1/4
ใน Social Club จะจัดมุมนั่งเล่นไว้หลายรูปแบบค่ะ นั่งชมวิวได้ ถ้าเป็นช่วงกลางคืนไม่น่าจะร้อนนะคะ

ใน Social Club จะจัดมุมนั่งเล่นไว้หลายรูปแบบค่ะ นั่งชมวิวได้ ถ้าเป็นช่วงกลางคืนไม่น่าจะร้อนนะคะ


วิเคราะห์ห้องพักอาศัย

Image 1/3
ผังชั้นพักอาศัยโครงการ RHYTHM เอกมัย

ผังชั้นพักอาศัยโครงการ RHYTHM เอกมัย

ชั้นพักอาศัยของโครงการนี้จะเริ่มต้นที่ชั้น 7 ไปจนถึงชั้น 30 ค่ะ รูปแบบการวางตำแหน่งห้องจะคล้ายกันไปในทุกชั้นนะ แต่จะมีรายละเอียดขององศาที่เอียงแต่ละชั้นต่างกันเล็กน้อย เพื่อให้รูปลักษณ์หน้าตาอาคารภายนอกไม่เรียบแบนเกินไปค่ะ

ผังของชั้นพักอาศัยจะมีรูปร่างเป็น L-shape มีลิฟต์อยู่ตรงกลาง และมีห้องพักขนาบสองฝั่งของทางเดิน เป็นทางเดินแบบ Double Corridor ซึ่งปลายสุดของทางเดินนั้นเป็นหน้าต่างค่ะ และทางเดินไม่ยาวไปด้วย ทำให้แสงจากนอกอาคารส่องสว่างมายังทางเดินได้ ใช้งานในช่วงเวลากลางวันก็อาจจะไม่ต้องเปิดไฟนะ

รูปแบบการวางห้องพักจะให้ห้องแบบ 2 Bedroom อยู่หัวมุมของอาคาร ส่วนห้องแบบ Studio และ 1 Bedroom อยู่ตรงกลาง โดยจะเน้นห้อง 1 Bedroom ให้หันไปยังทิศใต้มากหน่อยเพราะเป็นทิศที่เห็นวิวรถไฟฟ้า และเป็นทิศที่รับลม แต่ก็อย่าลืมว่าทิศนี้เป็นทิศใต้ซึ่งในช่วงบ่ายก็จะเป็นเวลาที่แดดส่องเข้าห้องเช่นกัน จึงไม่เหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตในคอนโดช่วงกลางวันมากนักนะคะ

วิวแต่ละทิศรอบๆโครงการ

ด้วยทำเลของโครงการที่ตั้งอยู่ในเมือง แน่นอนว่าพื้นที่รอบๆต้องเป็นสิ่งก่อสร้างอยู่แล้ว และต้องภาวนาว่าขออย่าให้มีโครงการสูงมาเปิดข้างๆกันเลย ไม่งั้นก็จะบังวิว บังลม แถมไม่เป็นส่วนตัวอีก สำหรับโครงการนี้เรามองว่าในระยะที่กระชั้น โชคดีที่ไม่มีอาคารสูงมาบังวิวค่ะ ทิศที่ดีที่สุดจะเป็นห้องที่หันไปทิศใต้ เพราะได้วิวรถไฟฟ้าและไม่มีอาคารสูงบัง ส่วนทิศเหนือก็จะเป็นทิศที่วิวแย่สุด เพราะถัดจาก Parklane ไปก็จะเป็นอาคารสรชัยที่เป็น Office Building เลยค่ะ เราลองไปดูวิวรอบๆดูกันนะคะ

Image 1/5
ทิศใต้ หันไปทางถนนสุขุมวิท ตรงนี้ยังไม่มีตึกสูงใกล้ๆค่ะ เห็น Major สุขุมวิทและแนวรถไฟฟ้าชัดเจน

ทิศใต้ หันไปทางถนนสุขุมวิท ตรงนี้ยังไม่มีตึกสูงใกล้ๆค่ะ เห็น Major สุขุมวิทและแนวรถไฟฟ้าชัดเจน

แบบห้อง

เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการที่ขายหมดไปแล้วค่ะ สำหรับคนที่สนใจโครงการนี้ก็ยังมีห้องขายต่อ(Resale)หรือห้องที่ปล่อยเช่าจากเจ้าของเดิมอยู่นะคะ มีทั้งห้องใหม่มาก แบบไม่มีคนเคยอยู่ ห้องเปล่า และห้องตกแต่งเสร็จ ดังนั้นใครที่สนใจอาจจะติดต่อกับ Agent โดยตรงได้ค่ะ แล้วไปดูห้องจริงดีกว่านะ แต่ในรีวิวนี้เราขอเอาผังทั้งหมดมาให้ดูกัน แบบไม่มีห้องตัวอย่าง เผื่อใครอยากรู้ว่าห้องขนาดไหนเป็นอย่างไร แปลนออกแบบมาดีไหม? อ่านต่อเลยค่ะ

Product Overview

RHYTHM เอกมัย มีห้องให้เลือกอยู่ 3 แบบหลัก ดังนี้

  • Studio 30 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 35-38 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 70-80 ตร.ม.

คำว่า Rhythm หรือที่แปลว่าจังหวะนั้น จะปรากฏให้เห็นตั้งแต่หน้าตาตึกภายนอกที่เป็นเหลี่ยมมุมเป็นจังหวะรอบๆตัวอาคาร ซึ่งไอเดียนี้ก็จะมาเจอในผังห้องด้วยค่ะ เราจะเห็นผังที่มีมุมแหลมต่างๆบริเวณระเบียงหรือมุมห้อง จุดนี้ก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียนะคะ ข้อดีก็จะช่วยให้แต่ละห้องได้แสงเงา บรรยากาศที่แตกต่างกัน ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น(ยืนที่ระเบียงก็จะมองไม่เห็นห้องข้างๆ) ส่วนข้อเสียคือเวลาที่เราเลือกเฟอร์นิเจอร์มาวางก็อาจจะเกิดช่องว่างหรือจัดวางไม่พอดีอาจจะต้องทำ Built-in เพิ่มสำหรับคนที่ชอบความเรียบร้อย และเกิดเป็นซอกมุมที่ฝุ่นมาเกาะได้ง่ายค่ะ

เริ่มต้นตัวห้องจะขายแบบ Fully Fitted 
– ประตูทางเข้า ติดตั้ง Digital Door Lock
– ครัว ได้พื้นกระเบื้อง ชุดครัวได้เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควันและเตาอบของ Franke
– ห้องน้ำ ได้โถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างหน้าของ Kohler และฝักบัวอาบน้ำทั้ง Rain shower และ Hand shower ของ Grohe และมีฉากกั้นกระจกให้ค่ะ

*ปัจจุบันวัสดุภายในห้องต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามดีไซน์ของเจ้าของเดิมนะคะ


Studio ขนาด 30 ตร.ม. 

ห้องเริ่มต้นของ Rhythm เอกมัย เป็นห้อง Studio ค่ะ ซึ่งห้องนี้เป็นห้องเริ่มต้นก็จริง แต่ว่าขนาดห้องอยู่ที่ 30 ตร.ม. ซึ่งถือว่ามากกว่าโครงการเปิดตัวใหม่บนทำเลอื่นๆในช่วงหลังอีกนะคะ(เดี๋ยวนี้ห้องเริ่มต้นลดขนาดลงมาเหลือ 21 ตร.ม.กันแล้ว) ดังนั้นเรามองว่าด้วยขนาดของห้อง ไม่อึดอัดแน่นอนค่ะ

ภายในห้องนี้จะเป็นห้องตอนลึก เชื่อมต่อกันตั้งแต่ประตูทางเข้าไปยังด้านในสุดของห้อง ซึ่งฟังก์ชันแรกที่เราจะเจอหลังจากเข้าห้องเลยคือครัวค่ะ เดิมทีจะได้เป็นครัวเปิด แต่ก็สามารถหาประตูบานเลื่อนกระจกมาติดตั้งเพิ่มได้ถ้าต้องการครัวปิดนะคะ ครัวปิดนั้นก็จะช่วยให้เวลาทำอาหาร ควันและกลิ่นต่างๆไม่ไหลลอยเข้าไปติดยังส่วนนั่งเล่นหรือเตียงนอนค่ะ

ด้านในของตัวห้องจะเป็นพื้นที่โล่งเชื่อมต่อกัน ส่วนที่ติดกับหน้าต่างห้องจะแบ่งครึ่งหนึ่งเป็นระเบียง เอาไว้ว่างเครื่องซักผ้า ตากผ้าได้ และอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่เว้าเข้าไป วางเป็นโซฟานั่งเล่นอีกชุดหรือว่าจัดมุมทำงานตรงนี้ก็ได้ค่ะ อันที่จริงแล้วด้วยขนาดห้องเราสามารถออกแบบใหม่ได้ง่าย เช่นไม่ชอบนอนดูทีวี ก็สลับเอาตู้เสื้อผ้าไปไว้ปลายเตียงแทนก็ได้ ตำแหน่งที่เป็นโซฟาพักผ่อนก็เอาไว้ใช้นั่งดูทีวีตรงๆแทนค่ะ

ห้องนี้เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1-2 คน ไม่เน้นต้อนรับแขกมาก แต่ละคนไม่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวเท่าไรค่ะ


1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม.

สำหรับห้อง 1 Bedroom 35 ตร.ม.นี้ จะมี Layout อยู่ 2 แบบค่ะ แบบแรกเหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่โล่งต่อเนื่อง ห้องดูใหญ่ ส่วนอีกแบบจะเป็นห้องที่กั้นแยกเป็นสัดส่วน เหมาะกับการใช้งาน เราลองไปดูกันนะคะ

ห้องแรกน่าจะเหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่โล่งค่ะ เพราะว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ในห้องจะเชื่อมต่อถึงกันหมดเลย ได้ครัวที่เชื่อมต่อกับพื้นที่กินข้าวและห้องนั่งเล่น ระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนก็จะแยกพื้นที่ออกจากกันด้วยประตูบานเลื่อนกระจก แต่สิ่งที่น่าสนใจของห้องนี้คือ ภายในห้องนอนจะมี Walk-in Closet อยู่ด้านใน และตัวห้องน้ำสามารถเข้าได้ 2 ทาง จากห้องนั่งเล่น และจากห้องแต่งตัว

โดยรวมถือว่าเป็นห้องที่ฟังก์ชันครบ เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คน อาจจะเป็นคนที่ไม่ทำอาหารจริงจังเท่าไร ชอบความกว้างของห้องใช้งานไม่อึดอัดค่ะ

1 Bedroom ขนาดเท่ากันอีกห้องจะเป็นห้องที่ออกแบบมาเป็นสัดส่วนค่ะ พื้นที่ครัว ห้องนอน ห้องน้ำ และพื้นที่นั่งเล่น แยกออกจากกัน ได้ครัวปิดเหมาะกับการทำอาหาร มีห้องนอนประตูปิดทึบใช้งานแต่ละพื้นที่ได้อย่างเป็นส่วนตัวไม่รบกวนกัน พื้นที่นั่งเล่นก็ยังสามารถจัดมุมโซฟาและโต๊ะกินข้าวได้ค่ะ

ห้องนี้เรามองว่าเหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คน แต่ละคนก็สามารถมีพื้นที่ส่วนตัวได้ เช่นคนหนึ่งนอนหลับ อีกคนติดซีรีส์ ก็ใช้ชีวิตได้ไม่รบกวนกันค่ะ


1 Bedroom ขนาด 38 ตร.ม. (ห้องมุม)

ห้อง 1 Bedroom อีกแบบจะเป็นห้องที่อยู่ตำแหน่งมุมอาคาร มีขนาดใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย 38 ตร.ม. ห้องนี้จะได้ข้อดีของตำแหน่งที่ทำให้พื้นที่นั่งเล่นได้มีโอกาสใกล้หน้าต่างช่วยให้เวลาใช้งานได้บรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น อีกจุดเด่นของห้องนี้คือห้องนอนที่ได้ขนาดใหญ่มาก และได้กระจกเข้ามุมค่ะ

ห้องนี้เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คนเช่นกัน พื้นที่ห้องนอนห้องนั่งเล่นแยกจากกันเป็นสัดส่วนก็จริง แต่ว่าไม่ได้ครัวปิด จึงไม่เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารกินเองเท่าไร และพื้นที่กินข้าวของห้องนี้ยังไม่สามารถจัดเป็นโต๊ะกินข้าวที่หันหน้าชนกันได้ค่ะ


2 Bedroom ขนาด 70-80 ตร.ม.

ห้อง 2 Bedroom มีให้เลือกถึง 4 Layout ค่ะ เป็นห้องมุมทั้งหมดด้วย ที่น่าสนใจคือขนาดที่เริ่ม 70 ตร.ม. ถือว่าเป็นขนาดที่สามารถจัดให้อยู่อาศัยได้สบายเลยทีเดียว และ Master Bathroom จะได้อ่างอาบน้ำทุกห้องเลย เราลองไปดูทีละแบบกันเลยค่ะ

แบบแรกนี้มีขนาด 70 ตร.ม. เป็นแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น กินข้าว และพื้นที่ครัวเชื่อมต่อกันกับระเบียงห้อง ช่วยให้แสงสว่างเข้ามายังพื้นที่นี้และระบายอากาศได้ค่ะ ตรงนี้จัดโซฟานั่งเล่นและโต๊ะกินข้าวขนาด 4 ที่นั่งกำลังพอเหมาะเลยค่ะ ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอน โดยห้องนอนรองจะต้องมาใช้ห้องน้ำรวมกับพื้นที่ด้านนอก แต่ว่าในห้องนอนรองก็มีขนาดใหญ่นะคะ วางเตียง Queen size ได้สบาย (ถ้าใครอยากให้มาทางเดินรอบๆเหลือเยอะ) ส่วนห้องนอนใหญ่จัดว่าเป็นห้องที่ได้พื้นที่เยอะมากเลยค่ะ มีห้องน้ำที่ได้อ่างแบบ His&Her และมีอ่างอาบน้ำด้วย ส่วนในห้องนอนก็วางเตียงใหญ่ได้ และได้กระจกเข้ามุม บรรยากาศโปร่งโล่งเลยค่ะ

ห้องนี้เหมาะกับครอบครัวเริ่มต้น หรือพี่น้องอาศัยด้วยกัน 3-4 คนนะคะ ไม่เน้นทำอาหารจริงจังบ่อย ได้พื้นที่ขนาดอยู่อาศัยสบายแทนค่ะ

ห้อง 2 Bedroom ต่อมาจะมีความแตกต่างจากห้องแรกหลายจุดค่ะ
1) เป็นห้องที่ได้ครัวปิด เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารหรือว่าทำอาหารกินเองเป็นประจำ
2) อ่างอาบน้ำในห้องนอนใหญ่เป็นแบบ Sexy bath คือเป็นกระจกเชื่อมต่อไปยังส่วนห้องนอน
3) ห้องน้ำรองจะมีทางเข้า 2 ทางคือจากพื้นที่นั่งเล่นและจากห้องนอนรองค่ะ ทำให้คนที่อยู่ห้องรองนั้นใช้งานได้สะดวกขึ้น
4) ห้องนอนใหญ่ไม่ได้อ่างล้างหน้าแบบ His&Her

สำหรับห้องนี้เราก็ยังคงมองว่าอยู่กัน 3-4 คนนะคะ แต่เหมาะกับครอบครัวมากกว่า เพราะถ้าอยู่กันแบบพี่น้องและได้ Sexy bath ก็คงจะเขินอายกันไม่ได้ประโยชน์จาก Sexy bath นี้นะ

สำหรับ 2 Bedroom ห้องนี้เป็นห้องที่แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนค่ะ เราจะเห็นว่าห้องนอนใหญ่ได้พื้นที่เยอะมาก แต่จะไม่ได้กระจกเข้ามุมแล้วนะคะ ส่วนที่เข้ามุมจะเป็นห้องนั่งเล่นแทน ทำให้บรรยากาศที่ได้จะแตกต่างออกไป ห้องนอนมีความมืดมากขึ้น เหมาะกับคนที่ชอบห้องนอนมืดๆไม่ชอบความร้อนจากกระจก ส่วนห้องนั่งเล่นก็จะได้บรรยากาศที่โปร่งโล่งค่ะ ยิ่งการออกแบบที่ไม่ได้สร้างเป็นครัวปิด ทำให้ส่วนครัว ส่วนกินข้าว และส่วนนั่งเล่นเชื่อมต่อกันพื้นที่โล่ง สว่าง ระบายอากาศได้ดี ห้องนี้เหมาะสำหรับอยู่อาศัยกันเป็นครอบครัว 3-4 คนค่ะ

ห้องสุดท้ายเป็นห้องขนาดใหญ่สุดในโครงการค่ะ 80 ตร.ม. ห้องนี้มีการจัดฟังก์ชันที่น่าสนใจค่ะ ได้ห้องครัวปิด พื้นที่นั่งเล่นรูปร่างยาวต่อเนื่องไปยังระเบียง จัดเป็นมุมกินข้าวขนาดใหญ่ และมุมดูทีวี พื้นที่ทำงานได้ ส่วนห้องนอนรองก็ได้ขนาดใหญ่สามารถเข้าห้องน้ำได้โดยตรงเพราะห้องน้ำเป็นประตูเปิด 2 ทาง ส่วนห้องนอนใหญ่นั้นจะพิเศษขึ้น นอกจากจะอยู่ตำแหน่งมุมทำให้ได้กระจกเข้ามุมแล้ว ก็ยังได้พื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นค่ะ ส่วนห้องน้ำก็ออกแบบมาน่าสนใจมาก เข้าไปเจออ่างล้างหน้าแบบ His&Her มีห้องสุขาแยกกับห้องอาบน้ำคนละฝั่ง ห้องอาบน้ำก็ออกแบบมาเหมือนห้องน้ำญี่ปุ่นเลย มีอ่างอาบน้ำข้างๆพื้นที่ฝักบัวอาบน้ำ ถือว่าเป็นห้องที่มีขนาดและการออกแบบพื้นที่ส่วนต่างๆเหมือนกับบ้านเลยค่ะ อยู่กันเป็นครอบครัว 3-4 คนได้สบายมาก


และนี่ก็เป็นแปลนห้องทั้งหมดที่มีในโครงการนี้ค่ะ ส่วนตัวเราชอบห้อง 2 Bedroom ของที่นี่นะคะ เพราะได้ห้องขนาดใหญ่เลย อยู่อาศัยได้สบายๆ บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน ราคาห้องก็อาจจะหลักสิบล้านขึ้นไป แต่ก็เหมือนกับได้บ้านกลางเมือง ใกล้ห้างใกล้รถไฟฟ้าแทนค่ะ แล้วผู้อ่านชอบห้องไหนเป็นพิเศษรึเปล่าคะ?

บทสรุป

RHYTHM เอกมัย ถือว่าเป็นคอนโดบนถนนเอกมัยตอนต้นที่เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1-4 คน โครงการสร้างเสร็จใหม่ เดินใกล้รถไฟฟ้าดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่มักจะใช้งานรถไฟฟ้าเป็นประจำ และ ชอบความใกล้ห้างทำให้หาของกินสะดวก เดินไปดูหนังได้ ที่อยู่อาศัยไม่เน้นดีไซน์ที่หวือหวามาก แต่ชื่นชอบ Sky Facility ที่โปร่งโล่ง ใช้งานและชมวิว ไม่ติดเรื่องซื้อต่อแบบ Resale และมีงบประมาณอย่างต่ำ 4.xx ล้านบาท