รีวิวโครงการ
รีวิว RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน คอนโดวิวแม่น้ำ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ตรงข้ามโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury จาก AP [รีวิวฉบับที่ 2504]
22 กุมภาพันธ์ 2023
พามาดูโครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน จาก AP ทำเลย่านเจริญกรุง ไม่ใช่แค่เป็นย่านเมืองเก่า ที่มีถนนสายแรกของกรุงเทพ แต่ทำเลนี้มีหลายอย่างที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย โดยโครงการตั้งอยู่เยื้องๆกับรร.นานาชาติ Shrewsbury ใกล้ทางด่วน และย่านธุรกิจอย่างสีลม-สาทร ซึ่งที่ดินมาจากการที่ AP รวมพื้นที่แต่ละแปลงจนได้ประมาณ 4 ไร่กว่า ทำให้นอกจากส่วนคอนโด 44 ชั้น ยังมีอาคาร Pavillion และพื้นที่สีเขียวอีกกว่า 1 ไร่ ที่ถือเป็นจุดขายของโครงการนี้เลยนะ ส่วนโปรดักซ์ขนาดตั้งแต่ 35 – 228 ตร.ม. ที่เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คน หรืออยู่กันเป็นครอบครัว
สำหรับWalk-in รีวิวโครงการนี้ เราพามาวิเคราะห์จุดที่น่าสนใจ และจุดด้อย ในโครงการ พร้อมเปรียบเทียบคู่แข่งในละแวกใกล้เคียงให้ดูกัน โดยอิงตามข้อมูลที่เราได้จากการไปที่ Sale Gallery เสมือนคุณผู้อ่านไปโครงการเองเลยนะคะ > <
ทำไมต้องแบรนด์ Rhythm ??
ขอเกริ่นก่อนว่าปกติแบรนด์ Rhythm เกือบทุกตัวจะอยู่ในแนวรถไฟฟ้า ที่เดินได้สบายๆ แต่วันนี้ทาง AP เลือกมาลงในย่านเจริญกรุงที่ห่างจาก BTS ตากสินมาประมาณ 1.1 กม. โดยสาเหตุที่เอาแบรนด์นี้มาลง เพราะต้องการคอนโดระดับบน ในราคาที่คนทั่วไปยังเอื้อมถึงได้ โดยห้องพักอาศัยเริ่มต้นที่ 35 ตร.ม. ขึ้นไป ในราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 155,000 บาท/ตร.ม.
ทำเลย่านเจริญกรุง ใกล้โรงเรียนดังในกรุงเทพ
โครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน ตั้งอยู่บริเวณแยกตรอกจันทน์ ซึ่งเป็นจุดตัดของถนน 2 เส้น ทั้งถนนเจริญกรุงและถนนจันทน์ หรือถ้าใครนึกไม่ออกโครงการอยู่ใกล้ กับรร.นานาชาติ Shrewsbury ซึ่งเป็นโรงเรียนอินเตอร์ที่คนในย่านนี้รู้จักกันดี แถมย่านนี้ยังเต็มไปด้วยโรงเรียนดังๆอีกหลายแห่งด้วยนะ ซึ่งปกติเด็กในวัยเรียน ผู้ปกครองค่อนข้างเป็นห่วง ไม่อยากให้เรียนไกลบ้าน เพื่อความปลอดภัย และความสะดวกในการเดินทางของเด็กๆ โครงการจึงออกแบบห้องขนาดใหญ่ถึง 40% เพื่อตอบสนองให้ครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่อยู่ได้ค่ะ ^^
อีกจุดนึงที่น่าสนใจคือคนทำงานในย่านสีลม-สาทร นี้ก็เป็นคอนโดที่เดินทางไปทำงานได้สะดวก ไม่ต้องขับข้ามสะพานตากสิน ที่มีปริมาณรถหนาแน่นในช่วงเร่งด่วน แถมยังมีเส้นทางให้เลือกใช้งานได้มากกว่า ทั้งถนนเจริญกรุง ถนนจันทน์ ถนนนราธิวาส นอกจากนี้สังเกตดูจากแผนที่ด้านบน คอนโดวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในโซนเจริญกรุง มีไม่มากเหมือนโซนอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็เกาะกลุ่มในละแวกโครงการเรานี้แหละ
วิวของโครงการ มุมไหนเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา ??
มาดูวิวตัวโครงการกัน สำหรับตัวอาคารที่พักอาศัยจะขยับเข้ามาด้านในหน่อยค่ะ โดยบรรยากาศรอบๆจะไม่มีตึกสูงในระยะประชิด ได้แก่
- ทิศตะวันตก – ส่วนตัวถ้าเป็นคนชอบวิวแม่น้ำเจ้าพระยาเต็มๆ ทิศนี้น่าจะดีที่สุด แต่ห้องฝั่งนี้เป็นห้องขนาดใหญ่ทั้งหมด เริ่มต้นที่ 2 Bedrooms เป็นต้นไปนะคะ
- ทิศใต้ – ทิศนี้ก็ค่อนข้างดีค่ะ หันออกไปทาง Asiatique ที่มองเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ซึ่งถัดลงมาฝั่งนี้จะไม่มีตึกสูงเลย เนื่องจากเป็นย่านชุมชนแนวราบ
- ทิศตะวันออก – ฝั่งนี้มองไม่เห็นแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เราจะได้วิวเมืองที่ใกล้ๆเป็นชุมชนแนวราบ แล้วมีตึกสูงเป็นพื้นด้านหลังแทน
- ทิศเหนือ – มองไปเป็นย่านชุนชนแนวราบ ซึ่งฝั่งนี้บริเวณริมแม่น้ำจะมีตึกบังวิวอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้บังทั้งหมด บางตำแหน่ง เรามองเห็น ICONSIAM ได้นะคะ
ภาพบรรยากาศวิวในย่านเจริญกรุง ซึ่งไม่มีตึกสูงในระยะประชิด และแม้บางทิศจะโดนตึกบังวิวไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้บังทั้งหมดนะคะ เรียกว่าบรรยากาศค่อนข้างโล่งทีเดียว ส่วนใครจะเลือกทิศไหน อันนี้ก็แล้วแต่ชอบเพราะดีทั้ง River View และ City View ค่ะ > <
โครงการมีพื้นที่สีเขียวแนวราบมากกว่า 1 ไร่
ส่วนตัวที่ชอบน่าจะเป็นพื้นที่ชั้นล่าง เนื่องจากโครงการมีพื้นที่ดินประมาณ 4-2-76.6 ไร่ แต่ก็ไม่ได้เป็นลักษณะสี่เหลี่ยมเต็มพื้นที่ ที่มีพื้นที่ยื่นออกมาติดถนน โดยฝั่งถนนจันทน์ก็เป็นทางเดินรถ+ทางเดินเท้า ส่วนฝั่งถนนเจริญกรุงเป็นทางเดินเท้าเท่านั้น ส่วนตัวอาคารจะขยับเข้ามาด้านใน แต่ก็ไม่ได้สร้างเต็มพื้นที่นะคะ เว้นให้มีพื้นที่สีเขียวกว่า 1 ไร่ ซึ่งโครงการก็ใส่ฟังก์ชันต่างๆให้มีลูกเล่นมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์คนหลากหลายวัย ทั้งโซนนั่งเรียนหนังสือ, โซนนั่งทำงานกลุ่ม, โซนพักผ่อน และโซนวิ่งเล่น ซึ่งพอมีแบบนี้แล้วบรรยากาศเหมือนพื้นที่คลับเฮ้าส์ของหมู่บ้านเลยนะ > <
สำหรับอาคาร Pavillion นั่น เป็นโซนสำหรับนักเรียน เพราะมีทั้ง Study Area , Social Lounge และ Reading Area ซึ่งสาเหตุที่เน้นวัยเรียน เนื่องจากเป็นทำเลที่ใกล้โรงเรียน และมากกว่า 40% เป็นห้องขนาดใหญ่ ที่อยู่กันเป็นครอบครัว ซึ่งผู้ปกครองคาดหวังการใช้งานในจุดนี้ เพื่อให้ดูแลเด็กได้ง่ายขึ้นค่ะ
ส่วน Main Facilities หลักๆถูกยกขึ้นไปไว้ที่ชั้นบนสุดของโครงการ โดยเริ่มที่ชั้น 42-44 เลย ซึ่งเป็นแบบรอบทิศทาง ทำให้เรามองเห็นวิวได้ครบทั้ง 4 ทิศ ข้อดีเลยคือถึงแม้เราจะไม่ได้เห็นวิวจากในห้อง แต่ก็ขึ้นมาใช้พื้นที่ส่วนกลางด้านบนได้ ซึ่งถ้าเทียบกับคอนโดในละแวก เราถือว่าได้ Facilities ค่อนข้างเยอะเลย มีทั้ง Sky Lounge, Play Zone, Multi-purpose, Swimming Pool และ Fitness แต่โครงการเราก็มียูนิตเยอะกว่าชาวบ้านนะคะ
การวางผังห้องแบบ Interlocked Layout ตามแบบฉบับ AP
เรารู้จักกันดีว่าตอนนี้ทาง AP มีแปลนแบบใหม่ที่จัดเป็น Interlocked Layout โดยการวางผังห้องให้มีส่วนที่ยืดออกไปและยุบเข้ามาขัดล็อคกันเป็นคู่ๆ เพื่อให้ตัวห้องดูกว้างมากขึ้น และมีฟังก์ชันในแต่ละห้องไม่เหมือนกัน ทำให้มีแบบห้องในโครงการค่อนข้างเยอะทีเดียว ก็เป็นอีกจุดที่น่าสนใจเช่นกัน ถัดมาของพูดถึงห้องที่น่าสนใจนะคะ
- สีเขียว
- ตำแหน่งห้อง A1-01 เป็น 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. ที่ได้ห้องนอนยื่นออกมาทำให้เกิดมุม Bay Window ที่มองวิวได้กว้างมากยิ่งขึ้น ส่วนห้อง A2-02 เป็นห้องที่ได้ครัวปิด เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารนะคะ
- ตำแหน่งห้อง B1-11 และ B2-10 เป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม. ที่ฟังก์ชันภายในคล้ายกัน แตกต่างที่ห้องครัว ที่ชิดด้านใน และผลักออกมาด้านนอก อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบ ส่วนตัวชอบห้องครัวที่ติดด้านนอก เพราะระบายอากาศได้ดีกว่า
แบบห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม.
แปลนห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม. เป็นห้องที่มีครัวปิดยื่นออกไปจากตัวห้อง ทำให้ได้พื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่มากขึ้น โดยวางยาวออกไปถึงระเบียงด้านนอก ที่รับแสงธรรมชาติ + ระบายอากาศได้ดี ส่วนห้องน้ำก็เข้า-ออกได้ 2 ฝั่ง ซึ่งทำให้แขกไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนก่อน และคนที่อยู่อาศัยก็ใช้งานจากภายในห้องได้เลยนะคะ ถัดไปเป็นห้องนอน ที่ลักษณะเป็นแนวยาวพร้อมมีพื้นที่ทำ Walk-in Closet ได้ด้วย
Common Area
ภาพบรรยากาศห้องตัวอย่างภายใน Sale Gallery
แบบห้อง 2 Bedrooms ขนาด 135 ตร.ม.
แปลนห้อง 3 Bedroom ขนาด 135 ตร.ม. เป็นแบบห้องครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ เหมาะอยู่อาศัย 3-6 คน กำลังดี โดยมี Common Area วางอยู่ตรงกลาง เพื่อไว้แจกจ่ายฟังก์ชันไปยังห้องต่างๆ พร้อมห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง ที่วางเตียง King Size ได้ทุกห้องเลย แถมมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง ใช้งานได้สะดวกนะ นอกจากนี้ยังมีห้องแม่บ้าน + ห้องน้ำ มาให้อีก 1 จุด สำหรับคนที่มีแม่บ้านประจำ แถมยังมีห้องอเนกประสงค์ ที่ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามใจชอบเลยนะคะ > <
ทางเดินเข้าห้อง
ภาพบรรยากาศห้องตัวอย่างภายใน Sale Gallery
เปรียบเทียบคู่แข่งในละแวก
สำหรับคู่แข่งที่เราหามาในวันนี้จะเป็นเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงกันนี้เอง ด้วยทำเลที่ไม่แตกต่างกันมาก แต่แตกต่างกันที่รูปแบบโครงการ โดยวันนี้ขอเลือกตัว Chatrium Residence ซึ่งเป็นโครงการมือ 1 และ Altitude Symphony เจริญกรุง-สาทร ซึ่งเป็นโครงการมือ 1 เช่นกัน ซึ่งเราจะค่อยๆดูไปทีละจุดว่าโครงการเรา มีเด่น/ด้อยอะไรบ้าง
- จำนวนยูนิต
- โครงการ Rhythm มีจำนวน 421 ยูนิต มีจำนวนยูนิตมากกว่า Altitude มีจำนวนเพียง 99 ยูนิต เนื่องจากขนาดที่ดินเรามากกว่าหลายเท่า ทำให้บรรยากาศในโครงการก็จะพลุกพล่านมากกว่าไปด้วย ส่วน Chatrium เป็นรูปแบบ Mixed Use ที่มีทั้งโรงแรม, คอนโด และร้านอาหารชั้นล่าง ซึ่งจะเหมาะกับคนที่เน้นความหลากหลาย มีความอุดมสมบูรณ์สูง แต่ก็จะเสียความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยไปบ้าง
- ถ้าเทียบ Rhythm จอด 100% ที่จอดแบบ Conventional (ปกติ) กับ Altitude จอด 83% ที่จอดแบบ Auto Parking ก็ต้องบอกว่าส่วนตัวชอบที่จอดรถแบบปกติ เพราะเป็นแบบที่ใช้งานง่ายกว่า Auto Parking แถมประหยัดเรื่องการซ่อมบำรุงตัวเครื่องในอนาคตได้อีกด้วย แต่ก็ต้องบอกตรงนี้ ว่าแม้โครงการเราจะได้ที่จอดถึง 100% แต่ด้วยรูปแบบห้องที่มีห้องใหญ่เยอะ ซึ่งเป็นไปได้ว่า น่าจะมีรถมากกว่าห้องละ 1 คัน ก็อาจจะทำให้ที่จอดรถไม่เพียงพอนะคะ
- ส่วนตัวมองว่าโครงการ Rhythm ให้มาจัดเต็มทีเดียว แม้จะไม่ได้มีพื้นที่ส่วนกลางติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา แบบ Chatrium แต่เราก็ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะคนนอกไม่สามารถ เดินเข้ามาภายในโครงการได้ แถมฟังก์ชันก็มีหลากหลายมากกว่า หรือถ้าเทียบกับ Altitude ก็ต้องบอกว่าเราให้มากกว่าแน่นอน เพราะขนาดที่ดิน + ยูนิตที่มากกว่า ซึ่งถ้าใครมีซีเรียสเรื่องปริมาณที่มากกว่าชาวบ้านก็ค่อนข้างตอบโจทย์นะ
- ขอเริ่มจากตัว Chatrium ก่อน เนื่องจากเปิดขายมาสักพักแล้ว ที่ปัจจุบันเหลือแต่มือ 2 แถมสภาพห้องก็ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละคน ส่วนถ้าใครมองหาโครงการมือ 1 ปัจจุบันในละแวกก็มีด้วยกัน 2 ตัวคือ Rhythm กับ Altitude ที่เรามองว่า Target ต่างกัน อย่าง Altitude ก็จะมีห้องพิเศษอย่าง Loft และ Duplex ให้เลือก ส่วน Rhythm ก็มีห้องขนาด 4 Bedrooms ที่ใหญ่ถึง 228 ตร.ม. เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่
- สำหรับโครงการ Chatrium แม้ที่ดินจะติดแม่น้ำเจ้าพระยา แต่คอนโดก็อยู่ติดถนนเจริญกรุง แถมตัวอาคารก็บังวิวกันเองทำให้มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไม่เต็มที่ รวมถึงด้านข้างฝั่งเหนือก็มีตึก Four Season Residence บังวิวบางห้องไปด้วย ส่วนโครงการ Altitude ห้องที่มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา ก็จะเป็นห้องขนาดใหญ่หมดเลย ส่วนห้องเล็กจะหันไปทางทิศตะวันออกซึ่งเป็นวิวเมือง (แต่ก็ไม่มีตึกสูงในระยะประชิดนะ) สุดท้าย Rhythm โครงการวางตัวอาคารแนวยาวไปทางทิศเหนือ-ใต้ ทำให้มีห้องพักอาศัยที่เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้มากกว่า โดยตำแหน่งที่ดีสุดจะเป็นทิศตะวันตก ที่มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาเต็มๆ แถมการันตีว่าไม่มีโครงการบังในอนาคตอีกด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่ของรร. นานาชาติ Shrewsbury ที่เปิดมาอย่างยาวนาน
ความคิดเห็นของผู้เขียน
ส่วนตัวมองว่าโครงการนี้ เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดมือ 1 ในย่านเจริญกรุง ที่เน้นใช้พื้นที่ส่วนกลางที่หลากหลาย แล้วออกแบบมาได้ดีตามแบบฉบับของ AP ส่วนโปรดักซ์ห้องมีให้เลือกเยอะในแบบ Type เดียวกัน โดยมีตั้งแต่ 1 Bedroom ขนาด 35-43.5 ตร.ม. ที่เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คน ที่น่าจะตอบโจทย์คนทำงานในย่านสีลม-สาทร และอยากได้คอนโดวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ในทำเลที่เดินทางไปทำงานได้ง่าย แถมถูกรายล้อม ด้วยความอุดมสมบูรณ์ครบครัน หรืออีกกลุ่มคือ ครอบครัวที่ต้องการอยู่อาศัยมากกว่า 3 คนขึ้นไป โครงการก็มีห้องแบบ 2 – 4 Bedrooms ให้เลือกค่อนข้างเยอะ เทียบสัดส่วนห้องพักก็ประมาณ 40% แถมทำเลใกล้โรงเรียนดังๆหลายแห่ง ทำให้ผู้ปกครองที่วางแผนอนาคตระยะยาว ก็ช่วยประหยัดค่าเดินทาง + คุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กๆในระยะยาว เพราะเราเรียนจนถึงอายุ 18 ปีก็เลยทีเดียว ซึ่งค่อนข้างนานเลยแหละ โดยทำให้โครงการนี้เป็นอีกตัวที่น่าสนใจค่ะ
สำหรับรายละเอียดโครงการ RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน ถ้าทีมงาน Thinkofliving ได้มีข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่านี้ หรือได้เข้าไปทำรีวิวฉบับเต็ม ทางเราจะรีบมาอัพเดทให้ รอติดตามอ่านกันนะคะ 😀