วันนี้เราพาไปรีวิวคอนโดสร้างเสร็จหมาดๆ กับ RHYTHM Charoenkrung Pavillion (ริทึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน) โครงการนี้มี Highlight เป็นวิวแม่น้ำแบบเต็มตา บนทำเลตรงข้ามโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury ในราคาเริ่มต้น 7.29 ล้านไปจนถึง 27 ล้านบาท เราสรุปความน่าสนใจออกเป็น 5 หัวข้อได้ ดังนี้
- คอนโดวิวแม่น้ำ มือ 1 ย่านเจริญกรุง : ที่แม้ว่าจะไม่ได้มีพื้นที่ติดริมน้ำ แต่ก็ยังสามารถ Take View ได้จริง ไม่ได้โดนบล็อควิวด้วยอาคารสูงทั้งหมด ปีใหม่ดูพลุจากคอนโดได้เลยค่ะ ซึ่งหากลองเช็คหลายๆ โครงการที่ราคาพอๆ กันในโซนนี้จะได้วิวไม่ดีเท่านี้นะคะ
- คอนโดเยื้องโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury : โครงการได้เปรียบในเรื่องทำเลที่เรียกว่าแทบจะใกล้โรงเรียนมากที่สุด (เดินได้ 150 เมตร) แค่ข้ามถนนเจริญกรุงไปก็ถึงโรงเรียนแล้ว ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง
- Facility ขนาดใหญ่ รองรับการใช้งานของเด็กและวัยทำงาน : โครงการมีพื้นที่ส่วนกลางรวมๆ แล้วกว่า 3.5 ไร่ เป็นพื้นที่สีเขียวแนวราบมากกว่า 1 ไร่ มี Pavillion ในสวนให้เด็กๆ มานัดติว, ทำงานกลุ่ม, จัด Private Party กันได้ และสระว่ายน้ำก็ไม่ธรรมดาเป็นสระในร่มแบบ Infinity Edge Pool ยาวเกือบ 50 เมตร ว่ายออกกำลังกายพร้อมชมวิวแม่น้ำได้เลย ซึ่งหาไม่ได้จากโครงการขนาดเล็กแน่นอน
- ห้องไซส์ใหญ่/ห้องเล็กสามารถ Combine ได้ : ปัจจุบันนี้ทางโครงการมี Type ห้องให้เลือกตั้งแต่แบบ 1 Bedroom 35 ตร.ม. ไปจนถึง 3 Bedroom 145.5 ตร.ม. แม้ว่าห้องพักส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ห้องแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus สำหรับอยู่อาศัย 1-2 คนเป็นหลักแต่ก็สามารถ Combine กันได้ และที่นี่ก็มีห้องไซส์ใหญ่ให้เลือกใหญ่ราวๆ 40% เลยค่ะ จึงตอบโจทย์คนที่ซื้ออยู่แบบเป็นครอบครัวด้วยเช่นกัน
- ที่จอดรถ 100% : ซึ่งในย่านนี้ก็มีโครงการให้ที่จอด 100% เช่นกัน แต่ที่จอดของ Rhythm จะเป็นแบบ Conventional ที่ต้องขับวนขึ้นตึกไปจอด ส่วนตัวมองว่าใช้งานง่ายกว่าและในชั่วโมงเร่งด่วนไม่ต้องต่อคิวรอนานค่ะ
- Luxury Gated Community : ใช้แนวคิดในการดีไซน์แบบรั้วรอบขอบชิด ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด เพื่อรองรับการเล่นสนุกของเด็กๆ แต่ยังคงอยู่ในสายตาของผู้ปกครองได้ตลอด อีกทั้งยังแยกอาคาร Pavillion สำหรับเด็กๆ ออกจากอาคารพักอาศัยอย่างชัดเจน เพื่อความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย
ข้อมูลโครงการ
RHYTHM Charoenkrung Pavillion (ริทึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน) ณ วันที่ 22 February 2023
ชื่อโครงการ | RHYTHM Charoenkrung Pavillion (ริทึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนเจริญกรุง เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร |
ที่ดิน | 4-2-76.6 ไร่ |
ประเภทคอนโด | High Rise 2 อาคาร อาคารหลัก 44 ชั้น + 1 ชั้นใต้ดิน อาคาร Pavillion 1 ชั้น + 2 ชั้นใต้ดิน |
จำนวนยูนิต | 421 ยูนิต 1 ร้านค้า |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 15 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 421 คัน คิดเป็น 100%, ที่จอดรถร้านค้า 1 คัน, EV Charger 4 คัน |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2020 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | เดือนมกราคม ปี 2023 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 3 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 7.29 – 27 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | n/a |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | n/a |
เว็บไซต์โครงการ | https://bit.ly/3vYNqGq |
Call Center | 1623 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.709797, 100.511776
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ RHYTHM Charoenkrung Pavillion (ริทึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน) ตั้งอยู่บนทำเลย่านเจริญกรุง ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ย่านเมืองเก่าที่มีถนนสายแรกที่สร้างตามแบบตะวันตกเท่านั้น แต่ทำเลนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นโซนที่บริษัทห้างร้านของชาวต่างชาติฝั่งตะวันตกที่เริ่มเข้ามาทำการค้ากับประเทศไทย มีสถานที่ราชการหลายแห่ง มีจุดเชื่อมเรือจากฝั่งธนบุรีไปยังฝั่งพระนคร เต็มไปด้วยโรงแรมหรูริมแม่น้ำ และโรงเรียนชื่อดังจำนวนมาก
โดยตัวโครงการตั้งอยู่เยื้องๆ กับรร.นานาชาติ Shrewsbury ใกล้ทางด่วน และย่านธุรกิจอย่างสีลม-สาทร ซึ่งต้องปรบมือให้ความสามารถของ AP ในการรวมที่ดินได้ใหญ่ถึง 4 ไร่ครึ่ง ทำให้นอกจากส่วนของคอนโด 44 ชั้นแล้ว ยังมีส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 3.5 ไร่และพื้นที่สีเขียวอีก 1 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายของโครงการนี้เลยนะ
โครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน ตั้งอยู่บริเวณแยกตรอกจันทน์ ซึ่งเป็นจุดตัดของถนน 2 เส้น ทั้งถนนเจริญกรุงและถนนจันทน์ หรือถ้าใครนึกไม่ออกโครงการอยู่ใกล้ กับรร.นานาชาติ Shrewsbury ซึ่งเป็นโรงเรียนอินเตอร์ที่คนในย่านนี้รู้จักกันดี แถมย่านนี้ยังเต็มไปด้วยโรงเรียนดังๆอีกหลายแห่งด้วยนะ ซึ่งปกติเด็กในวัยเรียน ผู้ปกครองค่อนข้างเป็นห่วง ไม่อยากให้เรียนไกลบ้าน เพื่อความปลอดภัย และความสะดวกในการเดินทางของเด็กๆ โครงการจึงออกแบบห้องขนาดใหญ่ถึง 40% เพื่อตอบสนองให้ครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่อยู่ได้ค่ะ
บริเวณรอบๆ โครงการส่วนใหญ่เป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยดั้งเดิม มีคนเก่าแก่ในพื้นที่อยู่เยอะพอสมควร จึงเป็นทำเลที่ค่อนข้างมีความอุดมสมบูรณ์ มีร้านค้าร้านอาหารเก่าแก่อยู่ไม่ไกลสามารถเดินออกมาหาของกินได้เลย ในส่วนของสถานศึกษานอกจาก Shrewsbury ที่ใกล้โครงการสุดๆ แล้ว ยังมีโรงเรียนเก่าที่มีชื่อเสียงอย่าง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน, โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีวัดวาอารามมากมาย สามารถหาซื้อของกิน ช้อปปิ้งได้อย่างตลาดแสงจันทร์ , ตลาดแก่นจันทร์, Tops Maket , Vanilla Moon ที่เป็น Community Mall ในย่านนี้ และยังใกล้กับสถานที่เที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าง Asiatique The Riverfront อีกด้วย นอกจากนั้นก็ยังมีสถานพยาบาล สวนสาธารณะ,ลานกีฬา อยู่ในระยะไม่เกิน 3 กิโลเมตรจากโครงการ ถือว่าค่อนข้างครบครันค่ะ
นอกจากนี้ยังมีไลฟ์สไตล์มอลล์ที่กำลังเตรียมจะเปิดใหม่อย่าง Cove Hill Mall ที่อยู่ตรงข้ามคอนโด ติดกับโรงเรียน Shrewsbury เลยค่ะ มีข่าวออกมาว่าจะประกอบไปด้วยร้านอาหาร โซนการศึกษา โซนส่งเสริมและดูแลสุขภาพ
อีกจุดนึงที่น่าสนใจคือ หากทำงานในย่านสีลม-สาทร ก็สามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวก ไม่ต้องขับข้ามสะพานตากสิน ที่มีปริมาณรถหนาแน่นในช่วงเร่งด่วน ซึ่งย่านสีลม-สาทรนั้นก็เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานต่างๆ มากมายเช่น Chartered Square, TPIPL, JTC, Sathorn Square, Empire Tower, สาทรธานี คอมเพล็กซ์ และ Bangkok City Tower เป็นตัวเลือกหนึ่งของคนที่ทำงานในย่านเหล่านี้เพราะปัจจุบันคอนโดในย่านสีลมและสาทรแท้ๆ เองก็มีราคาสูงมากจนหยิบจับได้ค่อนข้างยากค่ะ
เนื่องจากโครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน ตั้งอยู่ใกล้แยกตรอกจันทน์ จึงสามารถเดินทางได้สะดวกทั้งถนนจันทน์และถนนเจริญกรุงเลยค่ะ การเดินทางโดยใช้รถถือว่าสะดวกดีเพราะถนนจันทน์เป็นถนนที่เชื่อมต่อไปยังถนนหลักได้หลายทาง สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเจริญราษฎร์ เพื่อขึ้นเหนือไปถนนสาทร หรือลงใต้ไปยังถนนพระราม 3 ได้ หรือถ้าวิ่งตามถนนจันทน์ไปเรื่อยๆก็จะเชื่อมกับถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ทางตะวันตกเชื่อมกับถนนเจริญกรุง สามารถวิ่งต่อไปยังวงเวียนใหญ่ได้ค่ะ และสำหรับใครที่เร่งรีบทำเลนี้ก็มีทางพิเศษศรีรัชให้ใช้ในระยะ 1-2 กิโลเมตรด้วยค่ะ
หากเป็นในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ต้องการใช้งานรถสาธารณะก็ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ทั้ง 2 ฝั่ง จะออกไปเรียกรถ Taxi บนถนนจันทน์หรือถนนเจริญกรุงก็ได้ค่ะ ส่วนเรื่องของรถไฟฟ้านั้น ใกล้ที่สุดคือสถานีสะพานตากสินในระยะประมาณ 1.1 กิโลเมตร เกินระยะเดินสบาย 500 เมตรไปแล้วนะคะ จึงต้องเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ หรือต่อรถไปอีกที แต่หากใครที่อยากแวะซื้อของกินก่อนเข้าคอนโด ก็แนะนำว่าลองเดินช้อปปิ้งที่ถนนเจริญกรุงดูค่ะ เพราะมีร้านอาหารหลากหลายและมีทางเท้าให้เดินได้สะดวกพอสมควร
ซึ่งหากดูจากจำนวนที่จอดรถ 100% แล้ว เราคิดว่าโครงการเตรียมไว้รองรับการใช้งานของรถยนต์ส่วนตัวอยู่แล้วนะ สำหรับรถสาธารณะคงเป็นทางเลือกเสริมในกรณีที่การจราจรเป็นอัมพาตมากกว่าค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
เรามองว่าโครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน ได้ตำแหน่งแปลงที่ดินที่หลบหลีกการบังวิวจากอาคารอื่นๆ ได้ดีพอสมควรเลยนะคะ เพราะคงต้องยอมรับว่าวิวเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่เลือกอยู่คอนโด High Rise ใกล้แม่น้ำ แต่ด้วยแปลงที่ดินที่ไม่ได้อยู่ติดแม่น้ำโดยตรงก็ทำให้ยังมีอาคารที่บังวิวอยู่บ้าง เดชะบุญที่ตัวอาคารตรงกับแปลงที่ดินของโรงเรียน Shrewsbury พอดีจึงช่วยการันตีได้ระดับนึงเลยว่าจะไม่มีอาคารสูงขึ้นมาบังนะ ยกเว้นว่าจะเป็นโปรเจคของทางโรงเรียนเองค่ะ
ส่วนอาคารที่อยู่ในระยะประชิดก็เป็นที่อยู่อาศัย 2-4 ชั้น เป็นบ้านเรือนบ้าง อาคารพาณิชย์บ้าง ซึ่งห้องพักของโครงการก็เริ่มต้นที่ชั้น 9 แล้ว จึงยังไม่มีอะไรให้น่ากังวล เว้นเสียแต่ว่ามีการรวมแปลงของที่ดินรอบๆ เพื่อขึ้นตึกสูง ซึ่งพอเป็นแปลงที่อยู่อาศัยยิบย่อยแล้วจะรวมยากทีเดียวค่ะ
มาดูวิวในทิศต่างๆ กันนะคะ
- ทิศใต้ – ทิศนี้ก็ค่อนข้างดีค่ะ หันออกไปทาง Asiatique ที่มองเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ในระยะไกล ซึ่งฝั่งนี้จะยังไม่ค่อยมีตึกสูงเลย เนื่องจากเป็นย่านชุมชนแนวราบ
- ทิศตะวันตก – ส่วนตัวถ้าเป็นคนชอบวิวแม่น้ำเจ้าพระยาเต็มๆ ทิศนี้น่าจะดีที่สุด แต่ห้องฝั่งนี้เป็นห้องขนาดใหญ่ทั้งหมด เริ่มต้นที่ 2 Bedrooms ขึ้นไปนะคะ
- ทิศเหนือ – มองเห็นแม่น้ำเช่นกันแต่จะไม่ได้เต็มตาเหมือนทิศตะวันตก ฝั่งนี้เป็นย่านชุนชนแนวราบ ซึ่งบริเวณริมแม่น้ำจะมีตึกบังวิวอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้บังทั้งหมด เพียงบางตำแหน่งนะคะ ซึ่งเราสามารถมองเห็นพลุที่มักจุดขึ้นจาก ICONSIAM ได้ด้วย
- ทิศตะวันออก – ฝั่งนี้มองไม่เห็นแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เราจะได้วิวเมืองที่ใกล้ๆเป็นชุมชนแนวราบ แล้วมีตึกสูงเป็นพื้นด้านหลังแทนค่ะ
วิวทางทิศตะวันตกที่เห็นแม่น้ำแบบเต็มตา
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Asiatique Riverfront ~ 1.1 กิโลเมตร
- Makro Food Service ~ 1.1 กิโลเมตร
- Robinson บางรัก ~ 1.2 กิโลเมตร
- Vanilla Moon ~ 1.2 กิโลเมตร
- Terminal 21 พระราม 3 ~ 3.5 กิโลเมตร
- เยาวราช ~ 3.5 กิโลเมตร
- Central พระราม 3 ~ 3.6 กิโลเมตร
- ICON SIAM ~ 5.1 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ~ 2.9 กิโลเมตร
- โรงพยาบาล BNH ~ 3.6 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลเมดพาร์ค ~ 5.8 กิโลเมตร
โรงเรียน
- โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury ~ 210 เมตร
- โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก ~ 1.7 กิโลเมตร
- โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ~ 2 กิโลเมตร
- โรงเรียนอัสสัมชัญ คอนแวนต์ ~ 2.2 กิโลเมตร
- โรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถม ~ 2.8 กิโลเมตร
- โรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์ ~ 4.8 กิโลเมตร
โรงแรม
- โรงแรม Capella ~ 270 เมตร
- โรงแรม Chatrium Riverside ~ 290 เมตร
- โรงแรม Four Seasons ~ 450 เมตร
ตัวช่วยในการเดินทาง
- ทางพิเศษศรีรัช ด่านจันทน์ ~ 1 กิโลเมตร
- BTS สถานีสะพานตากสิน ~ 1.1 กิโลเมตร
- BTS สถานีสุรศักดิ์ ~ 2.2 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
เกริ่นก่อนว่า…แบรนด์ Rhythm นั้นเป็นคอนโดระดับกลางค่อนไปทางบนของ AP ที่มักจะมีทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้าแบบที่เดินได้สบายๆ แต่ที่นี่จะแตกต่างจากเดิมสักหน่อย เพราะทาง AP เลือก Rhythm มาลงในย่านเจริญกรุงที่ห่างจาก BTS สถานีสะพานตากสินมาประมาณ 1.1 กิโลเมตร โดยดึงเอาจุดขายของทำเลที่อยู่ตรงข้ามโรงเรียน Shrewsbury มาใช้ และทำที่จอดรถ 100% มาเพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ส่วนตัวแทนการใช้รถไฟฟ้าค่ะ
เราเดาว่าสาเหตุที่เลือกแบรนด์นี้เพราะต้องการให้คอนโดนี้ทำราคาออกมาในระดับที่คนทั่วไปยังเอื้อมถึงได้ ย้อนไปเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว โครงการเปิดตัวมาในราคาประมาณ 6 ล้านบาท เฉลี่ยทั้งโครงการราวๆ 160,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งถือว่าราคาดีเมื่อเทียบกับทำเลที่รายล้อมด้วยคอนโด Luxury , โรงแรมหรูริมน้ำ และในอนาคตก็คงหาไม่ได้แล้วกับทำเลที่จะเดินถึงโรงเรียน Shrewbury ใกล้ขนาดนี้ (150 เมตร เท่านั้น) จึงต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ที่จับจองเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ
ตอนนี้คอนโดสร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ราคาก็มีการขยับขึ้นด้วยเช่นกัน ปัจจุบันเริ่ม 7.29 ล้านบาท ซึ่งเป็นห้อง 43.5 ตร.ม. ลองหารดูราคาเฉลี่ยจะอยู่ราวๆ 167,xxx บาท/ตร.ม. เราเองคาดการณ์ว่าราคาเฉลี่ยทั้งโครงการน่าจะอยู่ราวๆ 18x,xxx บาท/ตร.ม. แม้ว่าราคาจะขยับขึ้นแล้วเราก็ยังมองว่า Rhythm ยังได้เปรียบในเรื่องทำเลที่เรียกว่าแทบจะใกล้โรงเรียนมากที่สุด (เดินได้ 150 เมตร) ซึ่งคอนโดมือหนึ่งบนทำเลที่เดินถึงโรงเรียนได้สะดวกแบบนี้จะเป็นกลุ่ม Luxury ที่ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 3 แสนขึ้นไปเลยค่ะ ส่วนโครงการอื่นๆ อาจมีราคาต่อตางรางเมตรหยิบจับง่ายกว่านี้แต่ก็มีระยะที่ไกลจากโรงเรียนมากขึ้นไม่ได้อยู่ในระยะเดินสบายเท่านี้นะ …หลังจากที่ชมตึกเสร็จไปแล้วเรารู้สึกว่าส่วนกลางที่นี่สวยมาก สมราคาก็ว่าได้ ตามไปชมแบบจัดเต็มครบทั้งตึกกันเลย
RHYTHM Charoenkrung Pavillion (ริทึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน) เป็นคอนโด High Rise สูง 44 ชั้น จำนวน 421 ยูนิต บนที่ดินขนาดประมาณ 4 ไร่ครึ่ง แต่ก็ไม่ได้สร้างเต็มพื้นที่นะคะ ยังคงจัดพื้นที่สีเขียวกว่า 1 ไร่ และเนื่องจากทำเลที่อยู่เยื้องๆ กับโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury เลย ทางโครงการจึงออกแบบโดยใช้แนวคิด Luxury Gated Community หรืออธิบายง่ายๆ ก็คือรั้วรอบขอบชิด คำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด และคำนึงถึงการอยู่อาศัยร่วมกันของทุก Generations ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทั้งเด็กและผู้ปกครอง ซึ่งรองรับทั้งกิจกรรมแบบครอบครัวและกิจกรรมที่เป็นส่วนตัว เช่น มีอาคาร Pavillion ส่วนกลาง ใช้รองรับติวเตอร์ / การทำกลุ่มของเด็กๆ การจัดปาร์ตี้ของแกงค์เพื่อน ซึ่งแยกออกจากอาคารพักอาศัยหลักอย่างเป็นสัดส่วน เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย
โครงการออกแบบโดยคำนึงถึงลูกหลานเข้ามาอยู่อาศัยด้วย ทำให้การเลือกใช้วัสดุก็พิถีพิถันขึ้นด้วยเช่นกัน อย่างการติดตั้งเครื่อง ERV ในพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคาร เพื่อช่วยกรองอากาศและ PM 2.5 ทำให้ได้อากาศบริสุทธิ์ รวมถึงเลือกใช้พรรณไม้ที่ใช้ฟอกอากาศได้ และในพื้นที่ส่วนกลางก็เลือกใช้สีของ TOA Duraclean เกรดเดียวกับที่ใช้ในห้องผ่าตัด เพราะมีนวัตกรรมที่ช่วยกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียค่ะ
ชั้น 1 – โครงการมีประตู 2 ฝั่งคือ ทางถนนจันทน์ที่เป็นทางเข้าหลัก หากขับรถยนต์มาให้เข้าทางนี้ ส่วนประตูที่ 2 อยู่ทางถนนเจริญกรุง ซึ่งเป็นประตูสำหรับคนเดินเข้า-ออกเท่านั้น ซึ่งเป็น Value พิเศษสำหรับบุตรหลานที่เรียนอยู่ Shrewsbury เลยนะคะ เพราะแค่เดินข้ามถนนไปก็ถึงโรงเรียนแล้ว
เข้ามาด้านในจะเจอกับสวนขนาดใหญ่เป็นลำดับแรก โดยโครงการจัดฟังก์ชันไว้หลากหลาย เด็กๆ น่าจะชอบ เช่น Free Climb ให้เด็กๆ ได้ยืดเส้นยืดสาย เสริมพัฒนาการกล้ามเนื้อ, Tree Deck และ Gated Courtyard ให้คุณหนูๆ ได้วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ซึ่งที่อยู่ติดกับ Lobby เลย ผู้ปกครองจึงนั่งสังเกตการณ์อยู่ในห้องแอร์เย็นสบายได้
สำหรับ Highlight เราคิดว่าเป็นเจ้า Pavillion เป็นโซนที่ตอบโจทย์นักเรียนมากๆ มีทั้ง Study Pavillion, Social Pavillion และ Reading Pavillion ซึ่งสาเหตุที่ Facility เน้นวัยเรียน เนื่องจากเป็นทำเลที่ใกล้โรงเรียน และมากกว่า 40% เป็นห้องขนาดใหญ่ ที่อยู่กันเป็นครอบครัว ซึ่งผู้ปกครองคงคาดหวังการใช้งานในจุดนี้ เพื่อให้ดูแลเด็กได้ง่ายขึ้นค่ะ
ด้านหน้าโครงการจะมีแผงกั้นล้อเลื่อนเป็นลำดับแรก สำหรับสกรีนรถเข้าออก ถ้าแค่มาวนรถรับ-ส่งเฉยๆ ก็ไม่ต้องแลกบัตรค่ะ
ความรู้สึกแรกที่เข้ามาคือมีบรรยากาศของสวน 2 ข้างทาง และถนนทรงโค้งช่วยเปลี่ยนอารมณ์จากความจอแจบนถนนจันทน์ มาสู่บรรยากาศที่ดูผ่อนคลายขึ้น
บริเวณหน้าอาคารจะมีที่จอดรถ 4 คัน รองรับรถ Visitor ให้เข้าออกสะดวกและยังรองรับรถที่มีความสูงพิเศษด้วยนะคะ
อาคารแรกจะเป็นอาคาร Pavillion ที่จัดเตรียมชั้น 1 และชั้นใต้ดินไว้เป็นที่จอดรถ ซึ่งจากอาคารนี้เราสามารถเดินผ่านสวนไปยังอาคารพักอาศัยได้ หรือเราจะไปจอดที่อาคารพักอาศัยเลยก็ได้ รวมสัดส่วนที่จอดรถของโครงการนี้ 100% ซึ่งในย่านนี้ก็มีโครงการให้ที่จอด 100% เช่นกัน แต่ที่จอดของ Rhythm จะเป็นแบบ Conventional ที่ต้องขับวนขึ้นตึกไปจอด ส่วนตัวมองว่าใช้งานง่ายกว่าและในชั่วโมงเร่งด่วนไม่ต้องต่อคิวรอนานค่ะ
ที่จอดรถหลักๆ ของลูกบ้านจะต้องขับตามทางเข้ามาอีกหน่อยนะคะ จะเห็นทางให้เข้าไปจอดด้านในอาคารพักอาศัย
ทางขึ้นที่จอดรถ
ช่องจอดรถมีขนาดมาตรฐาน ได้แสงธรรมชาติรอบข้าง ในช่วงกลางวันจึงไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลย ช่วยประหยัดค่าส่วนกลางได้อีกด้วย จากที่จอดรถจะมีทางเข้าอาคารในแต่ละชั้นอยู่นะคะ ซึ่งต้องใช้ Face Scan เช่นเดียวกับทางเข้า Lobby ค่ะ
สำหรับช่อง EV Charger ของโครงการนี้จัดมาให้ 4 ช่อง เพื่อรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มนิยมกันมากขึ้นเรื่อยๆ
Gated Courtyard
Highlight ของพื้นที่รอบๆ อาคารคือ Gated Courtyard พื้นที่สนามหญ้าบริเวณนี้มีขนาดใหญ่ราวๆ 1 ไร่และมีฟังก์ชันซ่อนไว้ในบริเวณนี้เพียบเลย
Amphitheater
Amphitheater
เริ่มจาก Amphitheater เป็นอัฒจันทร์กลางแจ้ง เป็นฟังก์ชันที่คล้ายกับโรงเรียนเลย และไม่ใช่ว่า Rhythm โครงการอื่นจะมีฟังก์ชันนี้นะคะ เราคิดว่าเค้าทำออกมาเอาใจเด็กๆ วัยเรียน ให้มาทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ ได้ รองรับการใช้งานเป็นกลุ่มใหญ่ได้ รวมถึงมีม้าลื่นให้วิ่งเล่นออกกำลังกายกันหลังเลิกเรียนได้อีกด้วย
จุดชมวิวด้านบนสุดของ Amphitheater (สูงประมาณชั้น 3) ออกแบบให้พื้นบางส่วนเป็นกระจกแบบ See Through มองเห็นพื้นด้านล่าง ดูเก๋ๆ น่าตื่นเต้นสำหรับเด็กๆ และเพื่อประโยชน์ในการเปิดรับแสงให้กับพืชพรรณที่อยู่ด้านล่างค่ะ
อีกฟังก์ชันหนึ่งตรงข้าม Amphitheater ก็คือเจ้า Tree Deck
Tree Deck
Tree Deck
Tree Deck เป็นจุดนั่งรับลม ชมวิวอีกเช่นกัน แต่ Tree Deck จะดูเหมาะกับการใช้งานของเด็กวัยรุ่นขึ้นมาหน่อย ไม่ใช่วัยปีนป่ายแล้ว หรือเป็นมุมดีๆ สำหรับผู้ปกครองที่มานั่งรอลูกๆ วิ่งเล่นได้ และยังคอยสังเกตการณ์อยู่ใกล้ๆ ได้ เพราะบนนี้จะมองเห็นทั้งสนามหญ้าและ Amphitheater นะคะ
Cover Way
จากสวนข้างอาคารจะมีทางเดิน Cover Way ไว้กันแดดกันฝนต่อเนื่องจากสวนไปจนถึงอาคาร Pavillion และยาวไปจนถึงประตูทางออกฝั่งถนนเจริญกรุงที่แค่ข้ามถนนไปก็ถึงโรงเรียน Shrewsbury แล้วค่ะ
Pavillion
อีกฟังก์ชันหนึ่งที่ตอบโจทย์นักเรียนมากๆ ก็คืออาคาร Pavillion ที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้ทั้ง Study Pavillion, Social Pavillion และ Reading Pavillion รองรับทั้งการอ่านหนังสือแบบมุมส่วนตัว, การนัดติวกับอาจารย์พิเศษ และสามารถจองห้องสำหรับจัด Private Party ได้ด้วย
Pavillion ทั้ง 3 จะเชื่อมต่อกันด้วยบันไดยาว อารมณ์คล้ายบริเวณหน้าหอประชุมของโรงเรียน ที่จะมีบันไดขนาดใหญ่ไว้ให้เป็นมุมถ่ายรูปหมู่ หรือนั่งคุยกันตามมุมต่างๆ ซึ่งก็จะสามารถ Take วิวสวนได้พอดีเลยค่ะ
Reading Pavillion
Reading Pavillion
Reading Pavillion เป็นห้องใช้เสียงน้อย เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ก็จะมีพนักพิงสูง เพื่อแบ่งเป็นโซนย่อยๆ ให้มีสมาธิอ่านหนังสือ
Social Pavillion
Social Pavillion
Social Pavillion สำหรับผู้ปกครองใช้นั่งรอเด็กๆ เพื่อให้ลูกหลานอยู่ในสายตา และยังสามารถจองใช้งานทั้งห้อง เพื่อจัด Private Party ได้ อย่างเช่นงานวันเกิดของคุณหนูๆ ก็สามารถชวนเพื่อนๆ มาร่วมงานได้ ใกล้โรงเรียนดีด้วยค่ะ
Study Pavillion
Study Pavillion
Study Pavillion เป็นห้องที่เตรียมไว้สำหรับนั่งติวหนังสือโดยเฉพาะ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถจ้างติวเตอร์ข้างนอกเข้าสอนที่ห้องนี้ได้ ไม่ต้องไปนั่งติวตามคาเฟ่ ซึ่งจะมีทั้งแบบที่เป็นโต๊ะใหญ่นั่งหลายคน และแบบโต๊ะเดี่ยวที่มีปลั๊กไฟเตรียมไว้ให้ครบทุกที่นั่ง สามารถเอา Notebook มาใช้งานได้สะดวก
ด้านหลังของ Pavillion จะมีห้องน้ำแยกหญิงชายไว้บริการ
บริเวณด้านข้าง Pavillion จะมีทางเดินในร่มเชื่อมต่อไปยังประตูทางออกฝั่งถนนจันทน์ค่ะ หรือถ้าเดินต่อไปจะเชื่อมไปยังประตูทางออกฝั่งถนนเจริญกรุง ซึ่งจะเดินผ่านสวนอีกจุดหนึ่งค่ะ
Private Lawn & Free Climb
Private Lawn and Free Climb
เส้นทางที่โครงการออกแบบไว้สำหรับสวนจุดนี้ เป็นทางเดินเล่นระดับที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และมีบริเวณ Free Climb ให้เด็กๆ ใช้วิ่งเล่น ปีนป่ายได้อีกจุดหนึ่ง ซึ่งเหมาะกับการพาเด็กๆ มาออกกำลังกายในช่วงเย็นค่ะ
สุดเส้นทางในสวนเป็นประตูทางออกถนนจันทน์ ซึ่งการเข้าออกจะใช้ Face Scan เพื่อความปลอดภัยนะคะ
ชั้น 1 ด้านในอาคาร – โซนต้อนรับส่วนแรกจะเจอกับ Lobby ขนาดใหญ่ ที่เปิดวิวให้เห็นสวน รักษาความปลอดภัยด้วยระบบ Face Scan เข้ากับยุคโควิดที่ลดการสัมผัสให้น้อยที่สุด สำหรับลิฟต์ของโครงการมีทั้งหมด 5 ตัว แบ่งเป็นลิฟต์โดยสาร 4 ตัวและลิฟต์ Service 1 ตัว จึงมีสัดส่วนลิฟต์เพียง 105 : 1 ถือว่าไม่เยอะนักเมื่อเทียบกับคอนโดในยุคปัจจุบันค่ะ
Drop-off ของที่นี่จะมีพื้นที่กว้างให้จอดรถบริเวณหน้าประตูได้ ส่วนซุ้มประตูมีความสูงกว่าชั้นอื่นๆ ให้บรรยากาศที่หรูหรา ซึ่งประตูนี้ Visitor จะสามารถผ่านเข้ามานั่งรอในอาคารได้นะคะ
Lobby
เข้ามาในอาคารจะเจอ Reception เป็นพื้นที่รับรองส่วนแรก ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกับ Lobby ซึ่งเป็นโถงต้อนรับขนาดใหญ่
Lobby
Lobby ส่วนกลางถูกตกแต่งด้วยโทนสีสว่าง ดูหรูหรา โดยจะจัดชุดโซฟารับแขกไว้หลายชุดมาก ใช้รับแขกได้พร้อมกันหลายครอบครัวเลยค่ะ
อีกฝั่งหนึ่งของ Reception จะเป็นส่วนของ Welcome Foyer ซึ่งจะใช้ Face Scan ในการเข้าออกชั้นหนึ่งเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน
Welcome Foyer
Welcome Foyer
Welcome Foyer จึงเป็นพื้นที่นั่งพักคอยสำหรับลูกบ้านโดยเฉพาะ สามารถแบ่งการใช้งานกันได้ประมาณ 3-4 กลุ่มย่อยๆ และเพื่อรองรับการใช้งานของเด็กจึงมีเก้าอี้เล็กๆ ลายแกะ ลายกวาง มาเพิ่มสีสัน ซึ่งน่าจะถูกใจเด็กๆ นะคะ
ตู้จดหมายและห้องนิติฯ ของที่นี่จะอยู่บริเวณทางเดินผ่านเข้าโถงลิฟต์พอดี จึงสามารถแวะรับจดหมายและพัสดุได้สะดวก
ลิฟต์พักอาศัย
Lift ของโซนพักอาศัยมีการเลือกใช้ Finishing , การตกแต่ง และ Lighting ที่ทำให้บรรยากาศดูหรูหรา ภายในลิฟต์จะมีเลขบอกชั้นชัดเจนว่ากำลังขึ้นไปชั้นไหนบ้าง
ชั้น 9 – พื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้มีลักษณะเป็น Sky Garden โดยมีประตูกั้นแยกโซนจากห้องพักชัดเจน ความเก๋คือมุมนั่งพักจะเป็น Sunken ลงไป เพื่อลดระดับลงไม่ให้รบกวนความเป็นส่วนตัวของห้องพักอาศัยบนชั้นนี้ค่ะ
โซนพักอาศัยจะวางโถงลิฟต์ไว้ช่วงกลางตึกเพื่อง่ายต่อการใช้งาน ทางเดินในแต่ละชั้นจะเป็น Double Corridor คือจะใช้โถงทางเดินในการแจกจ่ายทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งห้องที่มีจำนวนมากที่สุดคือ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus รวม 11 ห้อง และห้อง 2-3 Bedroom อีก 4 ห้อง จัดวาง Layout เป็นรูปตัว L ทำให้ทุกห้องสามารถเห็นวิวได้อย่างเต็มที่ไม่บังวิวซึ่งกันและกันแบบตรงๆ
ห้องพักส่วนใหญ่จะใช้ Concept Interlocked Layout เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง และเพิ่มพื้นที่การใช้งานให้ลงตัวมากขึ้นตามแนวเส้นสีน้ำเงินที่เราร่างไว้ให้เห็นชัดๆ นะคะ
ชั้น 11 – 25 เป็นชั้นพักอาศัยเต็มชั้น ซึ่งมีจำนวน 15 ยูนิตต่อชั้น
สีเขียว – ตำแหน่งห้อง A1-01 เป็น 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. ที่ได้ห้องนอนยื่นออกมาทำให้เกิดมุม Bay Window ที่มองวิวได้กว้างมากยิ่งขึ้น ส่วนห้อง A2-02 เป็นห้องที่ได้ครัวปิด เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารนะคะ
ตำแหน่งห้อง B1-11 และ B2-10 เป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม. ที่ฟังก์ชันภายในคล้ายกัน แตกต่างที่ห้องครัว ที่ชิดด้านใน และผลักออกมาด้านนอก อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบ ส่วนตัวชอบห้องครัวที่ติดด้านนอก เพราะระบายอากาศได้ดีกว่า
สีเหลือง – ตำแหน่งห้อง 1 Bedroom ที่บังคับหันไปทาง City View มองวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ในระยะไกลหน่อย เราว่าตำแหน่งนี้ชั้น 12 กำลังดีเลยเพราะสามารถเห็นยอดไม้เขียวๆ จากสวนชั้น 9 ได้นะ
สีชมพู – ตำแหน่งห้องมุมทั้งหมดเป็นห้องขนาดใหญ่ตั้งแต่ 2 Bedrooms ขึ้นไป ซึ่งโครงการนี้มีห้องใหญ่ตั้งแต่ชั้นแรกเลย ทำให้มีปริมาณห้องใหญ่เยอะ ที่พิเศษสุดก็คือตำแหน่ง H1-12 กับ H2-13 ที่รับวิวแม่น้ำตรงๆ เป็น Rare Item ที่น่าสนใจค่ะ
ภายในโซนพักอาศัยก็จะเป็นทางเดินตามรูปแบบของคอนโดปกติ
เนื่องจากทางโถงทางเดินในแต่ละโซนค่อนข้างยาว ทำให้ต้องอาศัยแสงไฟช่วยบ้าง อีกเรื่องที่น่าสังเกตคือมีท่อระบายน้ำตามทางเดินด้วย ซึ่งดีมากเลยเพราะหากเกิดน้ำรั่วออกมาจากพัก น้ำจะสามารถระบายลงท่อได้ ไม่ท่วมห้องพักอาศัยทั้งชั้นค่ะ
ชั้นที่ 26-35 คล้ายชั้น 11-25 เลยแต่มีจำนวนยูนิตน้อยลงเหลือ 12 ยูนิต เพราะมีห้องไซส์ใหญ่เพิ่มขึ้น โดยห้องพักอาศัยฝั่งทิศใต้จะลดจำนวนห้องแบบ 1 Bedroom ลง และเพิ่มห้อง 2 Bedroom ขึ้นมาอีก 2 ห้อง และห้องพักอาศัยทางทิศตะวันออกจะกลายเป็นแบบ 2 Bedroom ทั้งหมดค่ะ
ขยับขึ้นมาที่ชั้น 42-44 เป็น Main Facilities ของโครงการที่ถูกยกขึ้นไปไว้ที่ 3 ชั้นบนสุด จัด Layout แบบเปิดให้เห็นวิวรอบทิศทาง ข้อดีเลยคือถึงแม้เราจะไม่ได้เห็นวิวแม่น้ำเต็มๆ จากในห้อง แต่ก็ขึ้นมาชมวิวบนพื้นที่ส่วนกลางด้านบนได้ ซึ่งถ้าเทียบกับคอนโดระดับเดียวกันในละแวกแล้วเราถือว่าได้ Facilities ค่อนข้างเยอะเลยนะคะ
ชั้นที่ 42 จัดฟังก์ชันไว้สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวสบายๆ ซึ่งทางโครงการก็ออกแบบไว้ให้แต่ละมุมมีความแตกต่างกัน เช่นเป็น Indoor บ้าง Outdoor บ้าง และ Semi-Outdoor บ้าง และรองรับกิจกรรมของทั้งคุณพ่อคุณแม่และคุณลูกเลยค่ะ
Play Space
ส่วนที่เป็น Highlight บนชั้นนี้เรายกให้กับ Play Space ซึ่งโครงการออกแบบมาให้มีทั้งโซน Kids Room for Children และ Kids Room for Younger เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของเด็กทั้ง 2 ช่วงวัยค่ะ
Kids Room for Younger
Kids Room for Younger จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ดูชิลๆ กว่าชุดโซฟาทั่วไป โดยโครงการเลือกใช้ Bean Bag ทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายกว่า สามารถนั่งยืดขาเล่นกับกลุ่มเพื่อนได้
Kids Room for Children
ถัดมาที่โซน Kids Room for Children ออกแบบมาให้เหมาะกับเด็กเล็ดโดยเฉพาะเลย เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเบาะนุ่มนิ่ม ใช้เฟอร์ฯ ขนาดเล็กสำหรับเด็กโดยเฉพาะ และจากผนังกระจกโดยรอบทำให้ห้องนี้ดูโปร่งโล่ง น่าใช้งานมากเลย
สำหรับคุณพ่อคุณแม่มีพื้นที่พักคอยจัดไว้ให้อีกมุมหนึ่งค่ะ
Semi-Outdoor Lounge
Semi-Outdoor Lounge
เป็นจุดชมวิวที่จะได้เห็นโค้งน้ำทางฝั่งทิศใต้ แม้ว่าไม่ใช่มุมที่เห็นวิวแม่น้ำสวยสุด แต่ก็เป็นจุดที่มีหลังคาคลุมบังแดดบังฝนทำให้ใช้งานได้ตลอดวัน
ห้องน้ำส่วนกลาง
ห้องน้ำส่วนกลางจะมีแยกไว้ทั้งชาย/หญิง และผู้สูงอายุนะคะ เราพาเข้ามาดูบรรยากาศในห้องน้ำหญิงดูหรูหราดี ด้วยสุขภัณฑ์ทรงโค้ง
Sky Lounge
Sky Lounge
อย่างแรกที่สะดุดตามากเมื่อเข้ามาคือ ฝ้าเพดานจัดแสงมาสวยมาก (อันนี้คือไม่ได้แต่งรูปเลยนะคะ ><) ภายในมีโต๊ะ bar ขนาดใหญ่และชุดโซฟาหลาย วางชิดหน้าต่างให้ชมวิวกันได้แบบเต็มที่
มุมนั่งเล่นใน Sky Lounge รับวิวแม่น้ำ
จุดที่น่าจะฮอตฮิตที่สุดที่คนนิยมมานั่งเรายกให้กับมุมที่ได้วิวแม่น้ำแบบเต็มตานี่เลยค่ะ ซึ่งโครงการก็เตรียมไว้ทั้งชุดโซฟาขนาดใหญ่ และมุมโซฟาคู่ โซฟาเดี่ยว ให้เลือกใช้งานตามความชอบเลย
Meeting Room
Meeting Room
อีกฟังก์ชันหนึ่งใน Sky Lounge คือมี Meeting Room ให้จองใช้งานกันแบบเป็นส่วนตัวได้ รองรับการใช้งานประมาณ 8-10 คน ซึ่งในห้องจะมีจอทีวีเตรียมไว้ให้ใช้พรีเซนต์งานได้สะดวก
Sky Terrace
Sky Terrace
จาก Sky Lounge เราจะสามารถเดินเชื่อมออกไป Sky Terrace ได้ เป็นพื้นที่ Outdoor ที่ได้วิวแม่น้ำแบบเต็มตามาก ซึ่งเหมาะจะมาใช้งานในช่วงเย็นที่แดดร่มหน่อยนะคะ
จาก Terrace ก็จะมีบันไดวนขึ้นไปชั้น 43 กันต่อ หรือจะขึ้นลิฟต์ในอาคารไปก็ได้ค่ะ สิ่งที่น่าสังเกตคือความสวยของบันไดที่ทำออกมาคล้ายกับเป็น Sculpture เลย ด้วยวัสดุที่เป็นงานโมเสกทำให้ตัวบันไดดูระยิบระยับเมื่อโดนแสงค่ะ
สำหรับสระว่ายน้ำจะขึ้นมาอยู่ที่ ชั้น 43 นะคะ เป็นสระยาว 47 ใช้ออกกำลังกายได้จริง แต่จะไม่ได้กว้างมากนักเพียง 5.7 เมตร ลึก 1.2 เมตร ซึ่งจะได้วิวแม่น้ำแบบตรงๆ ทางทิศตะวันตกและเห็นแม่น้ำแบบไกลๆ ทางทิศใต้ สำหรับ Highlight ของสระว่ายน้ำเรายกให้กับการออกแบบที่มีหลังคาคลุมสระเป็นบางส่วน ทำให้สามารถใช้งานได้ตลอดวัน
นอกจากนั้นจะมี Jacuzzi และ Kids Pool แยกไว้เป็นสัดส่วน สำหรับพื้นที่ทางทิศเหนือจัดเป็นพื้นที่รับลม ชมวิว มีชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า Cloud Pavillion และ River Scenic ค่ะ
River Scenic
ขึ้นมาจากบันไดวนจะเชื่อมมาที่ชั้นสระว่ายน้ำ บริเวณนี้เรียกว่า River Scenic เป็นจุดชมวิวแบบ Outdoor ที่ได้วิวดีมากๆ เชื่อว่าในช่วงปีใหม่ที่นี่จะเป็นจุดชมพลุที่สวยมากจุดหนึ่ง เพราะจะเห็นพลุทั้งฝั่งของ Icon Siam และ Asiatique เลยค่ะ
Swimming Pool
Highlight อย่างหนึ่งของสระว่ายน้ำโครงการนี้คือ ได้วิวแม่น้ำแบบตรงๆ ทางทิศตะวันตก ซึ่งช่วงเย็นๆ ที่แสงกระทบน้ำจะได้ Effect แสงระยิบระยับสวยมากทีเดียว
Lap Pool
สำหรับสระว่ายน้ำของโครงการมีความยาว 47 เมตร ใช้ออกกำลังกายได้จริง แต่จะไม่ได้กว้างมากนักเพียง 5.7 เมตร ลึก 1.2 เมตร ซึ่งจะได้วิวแม่น้ำแบบ 270 องศาตั้งแต่วิวแม่น้ำแบบเต็มตาทางทิศตะวันตก – วิวแม่น้ำแบบไกลๆ ทางทิศใต้ – วิวเมืองทางทิศตะวันออก และข้อดีของสระว่ายน้ำเราที่นี่อีกอย่างหนึ่งคือ การออกแบบที่มีหลังคาคลุมสระเป็นบางส่วน ทำให้สามารถใช้งานได้ตลอดวัน
Jacuzzi
Jacuzzi
Jucuzzi ของโครงการจะแบ่งออกเป็น 2 บ่อ คือเป็นบ่อแบบนั่ง และ บ่อแบบนอนชมวิวชิลๆ
Kid Pool
Kids Pool ที่แยกออกจากสระผู้ใหญ่ไว้เป็นสัดส่วน มีขอบกันตกชัดเจนเพื่อความปลอดภัยของลูกหลาน และมีทางเดินให้คุณพ่อคุณแม่เข้าถึงตัวลูกๆ หลานๆ ได้ง่ายขึ้นค่ะ
ก่อนลงสระก็จะมี Shower Box ให้ล้างตัวกันอยู่ 2 ห้องค่ะ ซึ่งเราว่าที่นี่เค้าทำออกมาเป็นสัดส่วนดีนะคะ
Cloud Pavillion
Cloud Pavillion
มุมนั่งเล่นชมวิวอีกจุดหนึ่งมีชื่อว่า Cloud Pavillion ซึ่งจะรับวิวแม่น้ำทางทิศเหนือ และใช้เป็นพื้นที่พักคอยเด็กๆ ว่ายน้ำได้ค่ะ
ห้องน้ำส่วนกลางบนชั้นนี้จะมีห้องอาบน้ำเพิ่มมาด้วย ใช้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังลงสระได้สะดวกดี แต่จำนวนห้องจะไม่เยอะนักนะคะ
ชั้น 44 เป็น fitness ขนาดใหญ่ที่เปิดรับวิวแม่น้ำแบบเต็มที่ และโครงการยังแบ่งห้องออกเป็นฟังก์ชันย่อยๆ อย่าง Private Gym และ Yoga รวมถึงมี Steam ในห้องน้ำฝั่งหญิงและมี Sauna ในห้องน้ำฝั่งชายให้ใช้งานกันด้วยนะคะ
Gym
Gym
ห้องฟิตเนสถูกล้อมด้วยผนังกระจกทั้ง 3 ด้าน ให้บรรยากาศที่ดูโปร่ง เราสามารถชมวิวแม่น้ำและมองเห็นสระที่ชั้น 43 ได้ด้วยค่ะ ภายในห้องจัดอุปกรณ์ไว้ครบทั้งการออกกำลังกายแบบ Cardio และ Weight Training
มีโซน Pantry ให้สามารถมาเติมน้ำดื่มได้
ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ โครงการใส่เครื่องออกกำลังกาย Technogym kinesis ซึ่งใช้ออกกำลังกายได้ถึง 200 ท่า ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยค่ะ
Private Gym
Private Gym
สำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถจองใช้ห้อง Private Gym ได้ ซึ่งอุปกรณ์กีฬาในนี้จะเป็นพวกดัมเบลยกน้ำหนัก และเตรียมลวดลายพื้นให้เหมาะกับการฝึกร่างกายค่ะ
Personal Training
Personal Training
อีกห้องหนึ่งคือ Personal Training รองรับการใช้งานได้ประมาณ 2-3 คน ซึ่งลูกบ้านสามารถพาครูสอน Yoga มาฝึกแบบส่วนตัวได้ที่ห้องนี้เลยค่ะ
Rest Room
ห้องน้ำส่วนกลาง
ห้องน้ำบนชั้นนี้มีขนาดใหญ่กว่าชั้นอื่นๆ นะคะ ซึ่งภายในมีทั้งห้องอาบน้ำ ห้องน้ำและ Locker ไว้ให้ใช้งานได้ครบ
Steam
Steam ในห้องฝั่งหญิงดูโปร่งทีเดียวจากกระจกบานใหญ่ ช่วยลดความอึดอัดจากอุณหภูมิห้อง Steam ลงได้ค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
ชั้น 1
- Gated Courtyard
- Free Play
- Tree Deck
- Pathway
- Amphitheater
- Study Pavillion
- Social Pavillion
- Reading Pavillion
- Privated Lawn
- Isolated Pods
- Free Climb
- Lobby Reception
- Welcome Foyer
- Mailroom
- Juristic
- Shop
ชั้น 2
- Driver Room
ชั้น 9
- Terrace Garden
ชั้น 42
- Sky Lounge
- Sky Terrace
- Chill Out Terrace
- Meeting Room
- Play Space (Kid Room for Children & Kid Room for Younger)
ชั้น 43
- Infinity Edge Pool ระบบเกลือ ขนาด 5.7 x 47 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- Kid’s Pool ขนาดประมาณ 4.8 x 8 เมตร ลึก 0.5 เมตร
- Jacuzzi
- River Scenic
- Cloud Pavillion
ชั้น 44
- Gym
- Private Gym
- Personal Training
- Steam
- Sauna
อื่นๆ
- ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 105 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถ 421 คันคิดเป็น 100%, ที่จอดรถร้านค้า 1 คัน, EV Charger 4 คัน
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Face Scan
- ระบบกรองอากาศ ERV ในพื้นที่ส่วนกลาง
แบบห้อง
แบบห้องของโครงการ RHYTHM Charoenkrung Pavillion (ริทึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน) มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่แบบ 1 Bedroom 35 ตร.ม. ไปจนถึง 4 Bedroom ที่ใหญ่ถึง 225 ตร.ม. ซึ่งห้องบางแบบ Sold Out ไปแล้วนะคะ ตอนนี้จะมีให้เลือกตั้งแต่ 1 Bedroom 35 ตร.ม. ไปจนถึง 3 Bedroom 145.5 ตร.ม.
แม้ว่าห้องพักส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ห้องแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus สำหรับอยู่อาศัย 1-2 คนเป็นหลัก แต่ที่นี่ก็มีห้องไซส์ใหญ่ 2-4 Bedroom รวมกันประมาณ 40% เรียกได้ว่าเยอะทีเดียวนะคะ และแน่นอนว่าหมดไวหน่อย เพราะโซนนี้เค้านิยมห้องใหญ่อยู่เป็นครอบครัวกัน ทางโครงการจึงมี Option ในการ Combine ห้องไซส์เล็กให้ใหญ่ขึ้นได้ โดยมีห้องที่น่าสนใจให้เลือกจับจองกันได้อยู่ ดังนี้
1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม.
โครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน มีการใช้เทคนิคจัดห้องแบบ Interlocked Layout ตามแบบฉบับ AP โดยวางผังห้องให้มีส่วนที่ยืดออกไปและยุบเข้ามาขัดล็อคกันเป็นคู่ๆ เพื่อให้ตัวห้องดูกว้างมากขึ้น ทำให้ฟังก์ชันในแต่ละห้องไม่เหมือนกัน จึงมีแบบห้องในโครงการค่อนข้างเยอะทีเดียว ซึ่งเป็นอีกจุดที่น่าสนใจเช่นกัน
รูปแบบการขายสำหรับโครงการนี้จะเป็นแบบ Fully Fitted พร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in บางส่วน สำหรับวัสดุหลักๆ ในห้องจะให้มาตามนี้ค่ะ
- พื้น Hybrid Engineering
- ผนังฉาบเรียบทาสี
- เคาน์เตอร์ครัวและตู้เก็บของ
- Top เคาน์เตอร์ครัวหินสังเคราะห์
- Hob&Hood, ไมโครเวฟ และ Sink จาก Franke
- สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ TOTO, Grohe, Kasch
- แอร์ฝังฝ้าใน Living Room (เฉพาะห้อง 2 Bedroom ขึ้นไป)
- ประตู Digital Door Lock
- ระบบ Home Automation ผ่าน Apps SMART WORLD เช่น สามารถเซตได้ว่าเมื่อเปิด Door Lock เข้ามาไฟบริเวณประตูหน้าห้องจะติด แอร์จะทำงานโดยอัตโนมัติ
2 Bedroom 102 ตร.ม.
ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ เป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 102 ตร.ม. เริ่ม 17.5 ล้านบาท โดยมีจุดเด่นที่เป็นห้องหน้ากว้างเข้ามุม และจากห้องนอนสามารถมองออกไปเห็นแม่น้ำไกลๆ ได้ อีกทั้งยังได้ระเบียงกว้างรับลมได้ดี
พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็นสัดส่วนโดยมี Foyer บริเวณหน้าห้อง เป็นพื้นที่ต้อนรับด้านหน้า ไว้สำหรับถอดรองเท้า, วางของต่างๆ ก่อนเข้าสู่ Common Area ที่เป็นพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่รวมห้องนั่งเล่น+ทานอาหาร+Pantry ครัว เข้าไว้ด้วยกัน และมีครัวปิดแยกเอาไว้อีกห้องหนึ่ง ส่วนโซนแม่บ้านจะมีห้องน้ำในตัวเป็นสัดส่วน มีห้องนอน 2 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 3-4 คน แบบพ่อแม่ลูก พร้อมแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงเด็กก็อยู่ในห้องนี้ด้วยกันได้ค่ะ
ในส่วนของห้องน้ำนั้นจะค่อนข้างแตกต่างกว่าโครงการทั่วไป เนื่องจากเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป (สร้างและประกอบที่โรงงาน ค่อยมาติดตั้งหน้างาน) ข้อดีของห้องน้ำประเภทนี้คือ คุณภาพค่อนข้างดีเพราะประกอบจากโรงงาน มีการ QC ไม่เหมือนห้องน้ำทั่วไปที่ต้องแล้วแต่โชคว่าช่างที่ทำให้ห้องเรานั้นทำเก่งรึเปล่า การซ่อมแซมง่าย ไม่รั่วซึม ทำความสะอาดง่าย
แต่ข้อเสียก็มีนะคะ คือเรื่องราคาที่สูงกว่าห้องน้ำธรรมดา และขนาดที่ไม่มีให้เลือกได้มากนัก พื้นห้องน้ำจะยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้อง ออกแบบมากะทัดรัด เพื่อประหยัดเนื้อที่ใช้สอยส่วนอื่นๆ ซึ่งยากที่จะต่อเติมหรือขยับขยายแน่นอน สำหรับใครที่สนใจในการศึกษาห้องน้ำสำเร็จรูปเพิ่มเติมสามารถ (คลิกที่นี่) ได้เลยค่ะ
ประตูหน้าห้องเป็นไม้สำเร็จรูป พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock ของ Yale มาให้ ผ่านเข้าออกด้วยลายนิ้วมือ, รหัส PIN, บัตร, RFID, Apps ก็ได้ค่ะ
เข้ามาจะเจอ Foyer เป็นโถงต้อนรับบริเวณหน้าห้องก่อนจะแยกไปยังส่วนต่างๆ ทำให้มีพื้นที่สำหรับตกแต่งผนังหรือทำชั้นวางรองเท้าที่แยกเป็นสัดส่วนจากพื้นที่อยู่อาศัยส่วนอื่น ส่วนห้องทางขวาคือ Zone Service สำหรับแม่บ้านค่ะ
พื้นที่ข้างประตูมีขนาดประมาณ 1.4 x 0.8 m. สามารถวางม้านั่งสำหรับนั่งใส่รองเท้าและ Built-in ตู้ใส่รองเท้าได้แบบในห้องตัวอย่าง
Zone Service เป็นห้องที่มีประตูปิดมิชิดภายในแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนหลักๆ คือ 1. พื้นที่ซักรีด 2. พื้นที่พักผ่อนของแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงเด็ก และมีห้องน้ำขนาดกระทัดรัด แม้ว่าพื้นที่ไม่ใหญ่นักแต่ก็สามารถใช้ทำธุระหนักเบา อาบน้ำได้ครบค่ะ
พื้นที่พักผ่อนของแม่บ้านสามารถวางเตียงเดี่ยวขนาด 3 ฟุตได้ค่ะ
เข้ามาในห้องจะเจอกับ Common Area โล่งๆ รวม Living+Dining+Pantry ครัว ไว้ด้วยกัน เปิดห้องเข้ามาจึงดูโปร่งไม่อึดอัด และยังได้แสงธรรมชาติผ่านระเบียงและหน้าต่างเข้ามาแบบเต็มๆ ซึ่งฝั่งนี้จะรับแดดทางทิศตะวันออกได้เป็นแดดเช้าจะไม่ร้อนมาก อีกประเด็นที่ทำให้ห้องดูโปร่งคือ ฝ้าเพดานที่สูงถึง 3 เมตร ซึ่งสูงเป็นพิเศษกว่าโครงการทั่วไปนะคะ
Pantry ครัว
Pantry ครัวขนาดใหญ่เป็นครัวขนานที่มี Island ตรงกลางมาให้ด้วย พื้นโซนนี้จะเป็นพื้นกระเบื้องให้เช็ดทำความสะอาดง่าย แต่เนื่องจากเป็นครัวเปิดจึงเหมาะที่จะใช้ทำอาหารฝรั่งที่กลิ่นไม่ฉุนนัก ใช้อุ่นอาหาร ต้มซุปก็พอตอบโจทย์ได้ แต่หากใครที่ชอบทำอาหารไทยกลิ่นฉุนก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะห้องนี้มีครัวไทยแยกไว้ให้ต่างหาก
ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวจะเว้นพื้นที่ไว้ให้วางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้ อย่างในห้องตัวอย่างก็เลือกใช้เป็นตู้เย็น 2 บานเปิด ขนาด 23.1 คิวค่ะ
ตู้เก็บของใต้เคาน์เตอร์
เคาน์เตอร์ครัวทั้งด้านล่างและด้านบนมีตู้เก็บของเป็นตู้บานเปิดปิดและลิ้นชัก ไว้ใช้เก็บช้อนส้อม เก็บจาน ซึ่งบานพับจะเป็นแบบ Soft Close และให้ไมโครเวฟของ Franke มาด้วย
ถัดมาที่เคาน์เตอร์ครัวจะได้มาพร้อม Backsplash ด้านหลัง เวลาปรุงอาหารแล้วกระเด็นก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ให้มาพร้อมกับ Hob 4 หลุม พร้อม Hood โดยเจ้าเครื่องดูดควันจะต่อท่อออกไปด้านนอก ซึ่งช่วยระบายกลิ่นและควันได้ดีกว่าระบบหมุนเวียนนะคะ
สำหรับซิงค์ล้างจานให้ของ Franke มีขนาดพอจะใส่จานใส่แก้วได้ และมีความลึกพอสมควร
จากตำแหน่งของ Pantry ครัวก็สามารถดูทีวีและพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวได้
ความพิเศษของเคาน์เตอร์นี้ก็คือ มีโต๊ะซ่อนอยู่ด้วย หากต้องการใช้งานก็สามารถเลื่อนโต๊ะออกมาจะได้โต๊ะทานอาหารติด Pantry ขนาด 2 ที่นั่ง เป็นที่นั่งทานข้าวอีกมุมให้มาเปลี่ยนบรรยากาศได้
Dining Area
ถัดมาที่ Dining Area จัดโต๊ะทานอาหารขนาด 5 ที่นั่งไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง หากคุณปู่คุณย่ามาเยี่ยมหลานๆ ก็กินข้าวแบบพร้อมหน้าตาได้แบบสบายๆ ส่วนตัวเราชอบการจัดแปลนแบบนี้มาเลย เพราะทั้งมุมนั่งเล่นและโต๊ะทานอาหารจะสามารถมองเห็นทีวีได้หมด เราเห็นถึงบรรยากาศที่คุณพ่อคุณแม่นั่งดูทีวียามเช้า คุณลูกก็สามารถนั่งทานอาหารเตรียมไปโรงเรียนอยู่ใกล้ๆ พูดคุยกันได้ กลายเป็นมุมที่สมาชิกในครอบครัวมาใช้เวลาร่วมกัน
มุมดูทีวีของห้องนี้สามารถจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ 4-5 ที่นั่งได้เลยนะคะ มีระยะดูทีวีประมาณ 3.2 เมตร จึงเลือกใช้ทีวีขนาดใหญ่แบบ 60-70 นิ้วได้
มุมโซฟาจะได้พื้นที่ติดระเบียงยาว 2.4 เมตร ทำให้เราสามารถชมวิวและดูทีวีไปพร้อมๆ กันได้และสามารถเปิดลมแบบเต็มที่ …สำหรับประตูระเบียงเป็นบานเลื่อน 3 ตอนจึงเปิดได้กว้างเดินผ่านเข้า-ออกสะดวกดี
ระเบียง
แม้ว่าตัวระเบียงจะกว้างราวๆ 1 เมตร แต่ก็พอสำหรับวางชุดโต๊ะเก้าอี้สนาม เพื่อมานั่งรับลม ชมวิวได้ และพื้นระเบียงจะลดระดับพื้นลงจากตัวห้องเล็กน้อย เพื่อกันไม่ให้น้ำไหลย้อนเข้าตัวห้องค่ะ
ในส่วนของ Condensing Unit นั้นไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะโครงการจัดตำแหน่งสำหรับแขวน Condensing Unit ไว้เป็นสัดส่วน และมีประตูปิดไว้เรียบร้อย โดยวางด้านที่เป่าลมร้อนออกด้านนอกห้อง เราจึงสามารถใช้งานพื้นที่ระเบียงได้เต็มที่
แอร์ใน Living Area จะให้แบบฝังฝ้ามาเลยจึงดูสวยงามไม่กินพื้นที่ในห้อง แต่ก็มีเสียงการทำงานที่ดังกว่าแอร์แบบแขวน จึงเหมาะกับห้องที่ฝ้าเพดานสูงพิเศษเพื่อลดเสียงการทำงาน จึงเหมาะกับโครงการนี้ที่ให้ฝ้าเพดานสูงพิเศษถึง 3 เมตร ทว่าค่าบำรุงรักษาจะราคาสูงกว่าแอร์แขวนปกติค่ะ
ถัดเข้ามาที่โซนด้านในสุดจะมีทางเดินกว้าง 1 เมตร เพื่อแจกไปยังครัวไทย, ห้องน้ำส่วนกลางและห้องนอนทั้ง 2 ห้อง
ครัวไทยมีขนาด 2.1×1.3 เมตร ซึ่งโครงการเดินงานระบบรอไว้ทั้งระบบน้ำและระบบไฟ ติดตั้งเครื่องดูดควันมาให้เรียบร้อย แต่หากไม่ได้ต้องการห้องครัวปิดก็สามารถปรับเป็นห้องเก็บของ หรือ Laundry Room ก็ได้นะคะ
ถัดมาที่ห้องน้ำส่วนกลางจะมีประตู 2 ฝั่ง สามารถเข้าได้จากโถงทางเดินและจากห้องนอนรองค่ะ
ในส่วนของห้องน้ำค่อนข้างพิเศษจากโครงการอื่นคือ เป็นห้องน้ำสำเร็จรูป มีข้อดีข้อเสียตามที่ได้อธิบายไว้ก่อนหน้าแล้ว และเนื่องจากพื้นห้องน้ำสำเร็จรูปต้องวางซ้อนทับลงบนพื้นห้องอีกที ทำให้พื้นห้องน้ำจะสูงกว่าพื้นห้องขึ้นไปอีกประมาณ 15 cm. นะคะ
ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนเปียกแห้งไว้ด้วยฉากกั้นอาบน้ำ และได้กระจกบานใหญ่เต็มผนัง ทำให้บรรยากาศภายในห้องน้ำดูโปร่งขึ้น
สุขภัณฑ์ต่างๆ ของ TOTO
สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ครบตามอย่างห้องตัวอย่างโดยใช้ของ TOTO ค่ะ
เราชอบห้องน้ำที่นี่นะเพราะจะมี Low Wall ด้านหลังอ่างล้างมือเพิ่มขึ้นมา ทำให้เรามีพื้นที่วางของได้เพิ่มอีกเยอะเลย ซึ่งจริงๆ พื้นที่ส่วนนี้คืองานระบบท่อในห้องน้ำนี่แหละค่ะ
พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นไว้เป็นสัดส่วน ช่วยกันไม่ให้น้ำจากพื้นที่อาบน้ำกระเด็นออกมาในพื้นที่ส่วนแห้ง ภายในติดตั้งฝักบัวและ Rain Shower ของ Grohe พร้อมเดินระบบก๊อกหัวผสม ซึ่งลูกบ้านแค่ติดเครื่องทำน้ำร้อนเพิ่มเติมก็ใช้งานได้แล้ว ข้อดีอีกเรื่องของห้องน้ำนี้คือ มีการเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้เสร็จ พร้อมใช้งานเลยค่ะ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกระทัดรัดประมาณ 1.3 × 0.9 เมตร เด็กๆ ใช้งานได้สะดวกค่ะ
ห้องนอนรอง
ภายในห้องนอนรองมีพื้นที่กว้างพอสมควรเลยนะคะ จะวางเตียงขนาด 5 ฟุตหรือวางเตียงเดี่ยว 2 เตียงก็ได้ หน้าต่างของห้องนอนมีขนาดใหญ่และมีบานกระทุ้ง 1 บาน เอาไว้เปิดระบายอากาศได้ ซึ่งเราสามารถนอนมองวิวได้จากเตียงนอนเลย
อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้า และวางโต๊ะเขียนหนังสือได้
ห้องนอนรองจะมีระเบียงในตัวด้วยนะคะ แต่ฟังก์ชันหลักๆ จะใช้แขวน Condensing Unit เท่านั้นและมีพื้นที่ด้านล่างพอให้วางราวตากผ้าเล็กๆ ใช้ตากผ้าเช็ดตัวได้นิดหน่อย
ห้องนอนใหญ่
ถัดมาที่ห้องนอนใหญ่มีขนาดกว้างมากทีเดียวสามารถวางเตียง 6 ฟุต พร้อมเฟอร์ฯ อื่นๆ ได้ครบ ทั้งชั้นวางทีวี, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้งและห้องน้ำในตัว จุดที่เป็น Highlight สำหรับห้องนี้เรามองว่าเป็น เจ้าหน้าต่างบานใหญ่ที่เกือบจรดพื้นถึงฝ้า ทำให้รับวิวได้กว้างขึ้น
พื้นที่ปลายเตียงขนาดใหญ่
ปลายเตียงเหลือพื้นที่กว้างมากเลย จริงๆ จะวางม้านั่งที่ปลายเตียงเพิ่มก็ได้อีกนะคะ
สำหรับตู้เสื้อผ้าจะอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องน้ำ จึงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้สะดวก
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่
ห้องน้ำเป็นแบบสำเร็จรูปเช่นเดียวกัน ภายในจัดฟังก์ชันแยกโซนเปียกแห้ง และให้สุขภัณฑ์พร้อมวัสดุอุปกรณ์ไว้เป็นของ TOTO, Grohe เหมือนกัน
ฟังก์ชันพิเศษของห้องนี้คือ อ่างอาบน้ำขนาด 1.3×0.5 เมตร ของ Kasch เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพจากยุโรป
ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1 x 1 เมตร ให้ใช้งานได้พอสมควรค่ะ
1 Bedroom Plus 43.5 ตร.ม.
ห้องแบบ 1 Bedroom plus ขนาด 43.5 ตร.ม. เริ่ม 7.29 ล้านบาท จุดเด่นของห้องนี้คือ ออกแบบให้โซนนั่งเล่นและพื้นที่เตียงนอนติดหน้าต่าง จึงได้วิวและแสงจากภายนอก เหมาะกับคนที่เน้นใช้พื้นที่นั่งเล่น พื้นที่เตียงนอนเป็นหลัก ที่น่าสังเกตคือแต่ละฟังก์ชันจะมีประตูกั้นห้องทั้งหมด ข้อดีคือทำให้การใช้งานของแต่ละฟังก์ชันได้ความเป็นสัดส่วน เช่นได้ครัวปิด, ห้องนั่งเล่นมีประตูกั้นช่วยประหยัดแอร์ได้ แต่ก็ทำให้บรรยากาศในห้องดูไม่กว้างเท่ากับการจัดห้องแบบ Open Plan ที่ทุกฟังก์ชันรวมอยู่ในพื้นที่เดียวกันนะคะ
ซึ่งการจัดมุมนั่งเล่นไว้ในห้องอเนกประสงค์ตามในแปลนก็ต้องแลกกับ พื้นที่ทานข้าวที่ต้องขยับออกมาอยู่อีกห้องหนึ่ง แต่เราก็สามารถเปิดประตูเพื่อดูทีวีไปในเวลาทานข้าวได้ ในส่วนของห้องน้ำจะสามารถเข้าได้ทั้งจากโถงส่วนกลางและห้องนอนนะคะ เวลามีแขกมาเยี่ยมก็สามารถเข้าห้องน้ำได้สะดวก ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนค่ะ
เข้ามาในห้องจะเจอกับ Common Area ตรงกลาง เป็นเหมือน Center ของห้องที่จะแจกจ่ายไปตามห้องต่างๆ
ข้างประตูมีพื้นที่ประมาณ 1.2 x 0.6 เมตร ให้ใช้วางตู้เก็บของ เก็บรองเท้าหรือวางของตกแต่งได้
และใน Common Area ยังเป็นพื้นที่สำหรับมีวางโต๊ะทานอาหาร ซึ่งรองรับขนาดประมาณ 3 – 4 ที่นั่งได้
ติดกับโต๊ะทานอาหารจะมีครัวปิด โดยโครงการจะให้ประตูมาเป็นกระจก ทำให้ห้องดูไม่ทึบ ไม่อึดอัด ประตูห้องครัวเป็นบานเลื่อน 3 ตอนจึงเปิดใช้งานได้กว้าง เดินผ่านเข้า-ออกได้สะดวก
Pantry ครัวให้มาเหมือนในแบบห้องแรก ฟังก์ชันครบ และเครื่องดูดควันก็เป็นแบบต่อท่อออกด้านนอก จึงช่วยระบายอากาศได้ดีกว่าแบบหมุนเวียนนะคะ
ภายในมีพื้นที่สำหรับยืนทำครัวประมาณ 1.8 x 1 เมตร
สำหรับประตูห้องอเนกประสงค์ทางโครงการจะติดตั้งมาให้เป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอนเช่นกัน
รางประตูจะทำเรียบไปกับพื้นเลย จึงเดินผ่านได้ไม่ต้องกลัวสะดุด
ห้องอเนกประสงค์
ภายในห้องอเนกประสงค์จัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน วางชุดโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้ ระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.4 เมตร และมีมุมโต๊ะทำงานที่ติดกับระเบียง จึงดูน่าใช้งาน สำหรับห้องจริงจะได้เป็นห้องเปล่าๆไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งให้ ซึ่งเราสามารถเลือกฟังก์ชันที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์เราได้ค่ะ
ในส่วนของระเบียงมีขนาด 0.8 x 1.9 เมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้องจึงทำความสะอาดง่าย ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ไม่จำเป็นต้องใช้วางเครื่องซักผ้านะคะ เพราะโครงการเดินงานระบบให้ติดตั้งใต้เคาน์เตอร์ครัวแล้วค่ะ จะวางราวตากผ้าหรือกระถางต้นไม้ก็ได้เลย
เมื่อโครงการได้แขวน Condensing Unit 2 เครื่องไว้ด้านข้าง ทำให้สามารถมองเห็นวิวได้อย่างเต็มที่ด้วยไม่มีอะไรมารบกวนสายตา
สำหรับห้องนอนจะได้ประตูบานทึบ ซึ่งให้ความเป็นส่วนตัวได้ดีกว่าประตูกระจกค่ะ
ห้องนอน
ภายในห้องนอนมีพื้นที่กว้างพอสมควรเลยนะคะ ทำให้สำหรับวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต พร้อมโต๊ะหัวเตียงและตู้เสื้อผ้าได้เพียงพอ และเหลือพื้นที่ให้เดินได้รอบเตียง สำหรับหน้าต่างยังคงได้มาเป็นบานใหญ่เกือบจรดพื้นถึงฝ้า ซึ่งเราสามารถนอนมองวิวได้จากเตียงนอนเลย
อีกฝั่งนึงของห้องจะมีพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้า ซึ่งอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องน้ำพอดีจึงใช้งานต่อเนื่องกันได้สะดวก
ห้องนอนนี้จะได้ห้องน้ำในตัวด้วยเพราะ มีประตูเข้าได้ 2 ทางตามที่เคยอธิบายไว้นะคะ
Rhythm-เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน-LR-220
ห้องน้ำเป็นแบบสำเร็จรูปเช่นเดียวกับห้องแรก ภายในแยกส่วนเปียกแห้งออกเป็นสัดส่วน และให้วัสดุอุปกรณ์ไว้เป็นของ TOTO และ Grohe เหมือนกัน
ได้ Shower Box และชั้นวางของมาครบเหมือนในห้องตัวอย่าง
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1 x 1 เมตร กระทัดรัดหน่อยแต่ใช้งานพอสมควรค่ะ
2 Bedroom 96 ตร.ม.
สำหรับห้อง 2 Bedroom ขนาด 96 ตร.ม. ห้องนี้มีจุดเด่นที่เป็นห้องหน้ากว้าง ได้ระเบียงขนาดใหญ่ พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็นสัดส่วนทั้งโซนครัว, ห้องนั่งเล่น+ทานอาหาร, โซนแม่บ้านที่มีห้องน้ำในตัวเป็นสัดส่วน, ห้องนอน 2 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 3-4 คน แบบพ่อแม่ลูก และรองรับแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงเด็กให้อยู่ในห้องนี้ด้วยกันได้ค่ะ
2 Bedroom 96 ตร.ม.
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
RHYTHM Charoenkrung Pavillion (ริทึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน) ณ วันที่ 22 February 2023
- 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 43.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.29 ล้านบาท*
- 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 102 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 17.5 ล้านบาท*
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 3 เมตร
- จอง 50,000-100,000 บาท
- ทำสัญญา 5% บาท
- ดาวน์ 5%
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
จุดเด่นของทำเลโครงการ RHYTHM เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน มีอยู่ 2 ข้อหลักๆ เรื่องแรกคือ ” ความใกล้” ทั้งในเรื่องของโรงเรียนอย่าง Shrewsbury ที่แค่ข้ามถนนก็ถึงแล้ว และยังมีโรงเรียนดังอย่าง กรุงเทพคริสเตียน, อัสสัมชัญบางรัก ที่อยู่ในระยะไม่เกิน 2 กิโลเมตรอีกด้วย หรือจะเป็นแหล่งงานก็ใกล้กับย่านสีลม-สาทร ที่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานต่างๆ มากมายเช่น Chartered Square, TPIPL, JTC, Sathorn Square, Empire Tower, สาทรธานี คอมเพล็กซ์ และ Bangkok City Tower เป็นตัวเลือกหนึ่งของคนที่ทำงานในย่านเหล่านี้เพราะปัจจุบันคอนโดในย่านสีลมและสาทรแท้ๆ เองก็มีราคาสูงมากจนหยิบจับได้ค่อนข้างยากค่ะ
เรื่องที่ 2 คือ เป็นทำเลที่ได้วิวแม่น้ำในย่านเจริญกรุง ที่แม้ว่าจะไม่ได้มีพื้นที่ติดริมน้ำ แต่ก็ยังสามารถ Take View ได้จริง ไม่ได้โดนบล็อควิวด้วยอาคารสูงทั้งหมด ซึ่งหากลองเช็คหลายๆ โครงการที่ราคาพอๆ กันในโซนนี้จะได้วิวไม่ดีเท่านี้นะคะ
การเดินทางโดยใช้รถ :
ถือว่าสะดวกดีเพราะถนนจันทน์เป็นถนนที่เชื่อมต่อไปยังถนนหลักได้หลายทาง สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเจริญราษฎร์เพื่อขึ้นเหนือไปถนนสาทร หรือลงใต้ไปยังถนนพระราม 3 ได้ หรือถ้าวิ่งตามถนนจันทน์ไปเรื่อยๆก็จะเชื่อมกับถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ทางตะวันตกเชื่อมกับถนนเจริญกรุง สามารถวิ่งต่อไปยังวงเวียนใหญ่ได้ค่ะ และสำหรับใครที่เร่งรีบทำเลนี้ก็มีทางพิเศษศรีรัชให้ใช้ในระยะ 1-2 กิโลเมตรเท่านั้น อีกประเด็นคือทางโครงการให้ที่จอดรถ 100% ซึ่งในย่านนี้ก็มีโครงการให้ที่จอด 100% เช่นกัน แต่ที่จอดของ Rhythm จะเป็นแบบ Conventional ที่ต้องขับวนขึ้นตึกไปจอด ส่วนตัวมองว่าใช้งานง่ายกว่าและในชั่วโมงเร่งด่วนไม่ต้องต่อคิวรอนานค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
เนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ทั้ง 2 ฝั่ง จะออกไปเรียกรถ Taxi บนถนนจันทน์หรือถนนเจริญกรุงก็ได้ค่ะ ส่วนเรื่องของรถไฟฟ้านั้น ใกล้ที่สุดคือสถานีสะพานตากสินในระยะประมาณ 1.1 กิโลเมตร เกินระยะเดินสบาย 500 เมตรไปแล้วนะคะ จึงต้องเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ หรือต่อรถไปอีกที เรียกง่ายค่ะ พี่วินมอเตอร์ไซค์เยอะเลย ส่วนตัวมองว่าโครงการให้ความสำคัญกับการใช้รถส่วนตัวแต่ก็มีรถสาธารณะเป็นทางเลือกในช่วงเวลาเร่งด่วนค่ะ
วัสดุ :
ส่วนกลาง – มีความพิถีพิถันขึ้น เช่น การติดเครื่อง ERV ในพื้นที่ส่วนกลางเพื่อช่วยกรองอากาศและ PM 2.5 ทำให้ได้อากาศบริสุทธิ์ รวมถึงเลือกใช้สีของ TOA Duraclean เกรดเดียวกับที่ใช้ในห้องผ่าตัด เพราะมีนวัตกรรมที่ช่วยกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียค่ะ
ห้องพัก – Fully Fitted ให้ชุดครัวและวัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำ ถือว่ามีการอัพเกรดสเปคให้ดูดีกว่า Rhythm ตัวอื่นๆ เช่น แบรนด์สุขภัณฑ์และวัสดุในห้องน้ำจะใช้ของ TOTO, Grohe และ Kasch ส่วนที่ชอบคือติดให้ Home Automation ทำให้สามารถควบคุมดวงไฟ, แอร์, Digital Door Lock ผ่านมือถือได้ และอีกเรื่องหนึ่งที่คอนโดแบรนด์อื่นไม่ค่อยได้ทำกันคือห้องน้ำสำเร็จรูป ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำรั่ว ห้องน้ำไม่ได้มาตรฐานไปได้ค่ะ
การออกแบบ :
การออกแบบโครงการ – เป็นคอนโดตรงข้ามโรงเรียนจึงมีการออกแบบเผื่อเด็กๆ โดยใช้แนวคิด Luxury Gated Community หรืออธิบายง่ายๆ ก็คือรั้วรอบขอบชิด เพราะให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยสำหรับลูกหลาน แต่ก็ยังแยกอาคาร Pavillion ที่เรียกได้ว่าเป็นฐานทัพสำหรับทำกิจกรรมของเด็กๆ ออกมาให้ห่างจากอาคารพักอาศัยสักหน่อย เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยของลูกบ้านท่านอื่นๆ และชั้นพักอาศัยจัดวาง Layout เป็นรูปตัว L ทำให้ทุกห้องสามารถเห็นวิวได้อย่างเต็มที่ไม่บังวิวซึ่งกันและกัน
การออกแบบตัวห้อง – มีแบบห้องให้เลือกเยอะมากรวมๆ แล้ว 20 แบบ โดยห้องส่วนใหญ่ในโครงการใช้แนวคิด Interlocked Layout Plan ทำให้การจัดวางผังห้องที่ลงตัวกว่าห้องทั่วไปที่เป็นสี่เหลี่ยมตามปกติ และเน้นห้องไซส์ใหญ่โดยมี 2-4 Bedroom รวมกันประมาณ 40% ซึ่งถือว่าเยอะทีเดียวและเน้นออกแบบให้เป็นหน้ากว้าง ระเบียงยาว สำหรับรับลมชมวิวโดยเฉพาะ ส่วนห้องแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ก็มีให้เลือกเช่นกัน และสามารถ Combine ห้องได้เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มที่อยู่อาศัยเป็นครอบครัวมากขึ้น
สาธารณูปโภค :
Facilities ส่วนกลางทำออกมาได้ดี สวย น่าใช้งานมากๆ และมีให้เลือกใช้หลากหลายตอบโจทย์ทั้งเด็กๆ และผู้ปกครอง โดยพื้นที่ใช้งานหลักๆ คือที่ชั้น 1 ให้พื้นที่สีเขียวแนวราบมากกว่า 1 ไร่ ซึ่งหาไม่ได้จากโครงการขนาดเล็กแน่นอน และที่ชั้น 1 มี Highlight เป็น Pavillion ทั้ง 3 ส่วน ตอบโจทย์เด็กๆ วัยเรียน รองรับการกิจกรรมกลุ่มร่วมกับเพื่อนๆ ค่ะ
อีกส่วนหนึ่งคือ Sky Facility 3 ชั้น คือ 42-44 ที่จัดมาครบทั้งฟังก์ชันแบบนั่งชิลๆ ชมวิว, Play Room สำหรับเด็ก และการออกกำลังกายทั้งว่ายน้ำและฟิตเนส ส่วนที่คิดว่าเป็น Benefit ของส่วนกลางโครงการนี้คือ “วิวแม่น้ำ” เพราะเค้าออกแบบให้ส่วนกลางเปิดรับวิวในทุกๆ จุดเลย แลกกับค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม. ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวนะคะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
ราคา AVG ของโครงการเราไม่ได้ข้อมูลมานะคะ แต่เราจะให้คะแนนจากราคา AVG ที่เราคาดการณ์เอง ซึ่งคิดว่าน่าจะประมาณ 18x,xxx/ตร.ม. ซึ่งเราจะใช้เป็นเกณฑ์ในการให้คะแนนนะคะ แต่ถ้าราคาที่เพื่อนๆ ได้มาเพิ่มลดมากกว่านี้ก็สามารถปรับคะแนนได้ตามความเหมาะสมเลยค่ะ, วันที่ 22 February 2023
- ทำเล 8/10 – ตรงข้าม Shrewsbury, ติดถนนใหญ่ , วิวแม่น้ำ
- เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – ที่จอดรถ 100%, เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วน
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – เรียก Taxi/วินมอเตอร์ไซค์หน้าโครงการได้, ห่างจาก BTS ตากสิน 1.1 กิโลเมตร
- วัสดุ 8/10 – Fully Fitted วัสดุสมราคา
- แบบ 8/10 – คอนเซปต์ดี, พิถีพิถัน, มีแบบห้องให้เลือกเยอะ
- สาธารณูปโภค 9/10 – ให้ส่วนกลางมาเยอะ ตอบโจทย์ทั้งเด็กและผู้ปกครอง
HIGH CLASS
8.06 / 10.00
RHYTHM เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน เหมาะกับใคร
เรามองว่าโครงการ RHYTHM เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน เหมาะกับคน 2 กลุ่มนะคะ กลุ่มแรกคือ ครอบครัวที่มีลูกๆ เรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury หรือโรงเรียนชื่อดังในย่านนี้ ซึ่งต้องการประหยัดเวลาเดินทางให้เด็กๆ และต้องการคอนโดที่มี Facility ส่วนกลางขนาดใหญ่รองรับกิจกรรมของเด็กๆ เช่น ติวหนังสือ, จัดปาร์ตี้ส่วนตัว, วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ มองหาห้องพักขนาดใหญ่หน่อยอยู่เป็นคอรบครัวได้
อีกกลุ่มหนึ่งคือ คนที่ต้องการคอนโดมือ 1 วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ในทำเลที่เดินทางไปทำงานย่านสีลม-สาทรได้ง่าย อยากได้คอนโดใหม่ที่ให้พื้นที่ส่วนกลางเยอะและหลากหลาย ในงบประมาณ 7.29 – 27 ล้านบาท หรือผ่อนเริ่มต้นประมาณ 51,000 บาทค่ะ